รอยชัง ๑๓
"ถ้าแม่กูบังคับให้มึงอยู่ที่นี่ ตอบเขาไปว่ามึงจะไปอยู่กับกู อย่าตุกติก ทำให้มันสมจริง อย่าลืมนะว่าครอบครัวไอ้น้อยยังอยู่ในกำมือกู" จอมขวัญก้มหน้าพลางคิดถึงคำที่คนใจร้ายสั่งเอาไว้เมื่อเช้า ก่อนที่เขาจะถูกปล่อยตัวให้ลงมาด้านล่าง
"ว่าไงลูก อยู่ด้วยกันที่นี่ ไม่ต้องกลับไปหรอก แม่จะพูดกับตาวินเองถ้าหนูอยากจะอยู่" อำพรลูบหัวเล็กที่ยังตัวร้อนและดูซีดเซียวจนน่าสงสาร จอมขวัญในตอนนี้อยู่ในเสื้อเชิ้ตปิดมาถึงคอ กางเกงขายาวสีน้ำตาลและคลุมด้วยเสื้อกันหนาวทับอีกที
"ข .. ขวัญไม่เป็นไรครับ ขวัญอยู่ได้ คุณท่านกับคุณอัจไม่ต้องห่วงขวัญหรอกครับ ขวัญดูแลตัวเองได้" จอมขวัญตอบเสียงสั่นเครือ แม้ว่าในใจจะอยากตอบว่าอยากอยู่สักแค่ไหน แต่ก็ทำไม่ได้ ขวัญจะเอาครอบครัวของพี่น้อยมาเสี่ยงไม่ได้
"โธ่ลูก เขาบังคับอะไรหนูอีก บอกป้าสิ" อำพรกอดร่างเล็กแล้วหอมกระหม่อมบางหนักๆด้วยความเอ็นดู ความเป็นจริงก็คือถ้าเธอโวยวายเรื่องที่เห็นตั้งแต่เมื่อคืนนี้ ตอนนี้เธอคงไม่ต้องมานั่งคิดมากแบบนี้ แต่พอมาคิดอีกที ถ้าโวยวายแล้วอัศวินไม่ยอม จอมขวัญก็จะยิ่งแย่ลงไปกว่าเดิม
"คุณแม่ฟังน้องเถอะค่ะ อย่าทำให้เรื่องแย่ไปกว่านี้เลย" อัจฉรากระซิบกับมารดา ยิ่งเห็นจอมขวัญยอมไปง่ายดายขนาดนี้ เธอก็พอจะเดาออกว่าพี่ชายเธอจะต้องขู่บังคับอะไรจอมขวัญไว้แน่ๆ
"เห้อ ทำไมเรื่องมันถึงยิ่งแย่ลงนะ ถ้าพ่อพวกแกยังอยู่ ฉันคงไม่ต้องมานั่งปวดหัวแบบนี้หรอก" อำพรบ่น ช่วงหลังมานี้หล่อนต้องดื่มยาหอมอยู่บ่อยๆเพราะเวียนหัวเนื่องจากคิดมาก
"ลากันเสร็จหรือยัง เดี๋ยวก็ขึ้นเครื่องไม่ทันพอดี" อัศวินที่เตรียมตัวเสร็จแล้วเดินลงมาจากด้านบน เขาให้เวลาร่ำลากันมากพอแล้ว ตกลงใครกันแน่ที่เป็นลูกชายตัวจริง เขาชักเริ่มจะสับสน
"ป้าขอถามอีกที หนูอยากอยู่นี่หรือไปกับพี่เขา เอาตามที่ใจหนูต้องการ" อำพรถามร่างเล็กอีกครั้ง จอมขวัญลอบกลืนน้ำลายจ้องมองหน้าผู้ใหญ่ที่นับถือ ก่อนจะเหลือบมองผู้ชายใจร้ายที่ยืนรอคำตอบจากปากเขาอยู่ข้างๆ
ยืนกดดันกันขนาดนี้จะให้เขาตอบว่าอย่างไรได้เล่า
"ข .. ขวัญอยากไปเกาะครับ" จอมขวัญตอบก่อนจะก้มหน้าถอนหายใจ ข้างในมันเจ็บปวดรวดร้าวไปหมดที่ชีวิตไม่สามารถเลือกทางเดินเองได้ ถ้าเขาไม่ห่วงพี่น้อย ถ้าเขายอมเป็นคนเห็นแก่ตัวดูสักครั้ง ป่านนี้ก็คงจะพ้นเงื้อมมือคนใจร้ายไปแล้ว
"เห็นหรือยังครับว่าผมไม่ได้บังคับมัน รีบๆร่ำลากันให้เสร็จ เวลามีไม่มากนัก ผมไปนะครับแม่ ยัยอัจพี่ฝากดูแลแม่ด้วย" อัศวินเดินเข้ามากอดมารดาก่อนจะยื่นมือไปลูบหัวน้องสาว
"ไปดีมาดีนะลูก อยู่นู่นดูแลตัวเองด้วย อีกอย่างที่แม่อยากจะบอกก็คือ ดูแลน้องดีๆ อย่าทำร้ายกันมากไปกว่านี้เลย" อำพรเอ่ยกับลูกชาย
ก่อนจะกระซิบกับเด็กน้อย "ดูแลตัวเองดีๆนะจอมขวัญ ถ้ามันเหลือบ่ากว่าแรงให้บอกน้อย น้อยจะเป็นคนพาเรากลับมาที่นี่"
จอมขวัญพยักหน้าก่อนจะสวมกอดคุณท่านเอาไว้ อัจฉราเองก็ร่ำลากับน้องอีกสักพักจอมขวัญถึงจะได้ถูกปล่อยตัวให้ออกมาขึ้นรถ
...........
"นี่ยามึง เก็บใส่กระเป๋าไป เดี๋ยวขึ้นเครื่องกูจะสั่งข้าวมาให้" อัศวินยื่นถุงยาให้เขา ตอนนี้พวกเขาเช็คอินเข้ามานั่งรอในเกทเรียบร้อยแล้ว จอมขวัญยังคงตัวร้อนและเจ็บแผลที่ช่องทางด้านหลัง เขาใส่แพมเพิร์สผู้ใหญ่มาตามที่หมอแนะนำ แม้จะเขินอายตอนที่ต้องแก้ผ้าต่อหน้าคนใจร้าย แต่ถ้าไม่ทำ เขาจะต้องโดนยิ่งกว่านี้
รอไม่นานทั้งสองคนก็ได้ขึ้นเครื่อง อัศวินโทรสั่งลูกน้องให้มารอรับที่สนามบินแล้ว ต่อจากนี้ก็แค่นั่งรอไม่เกินหนึ่งชั่วโมงเครื่องก็คงจะถึง
"เดี๋ยวกินข้าวกินยาแล้วนอนไปเลย เวียนหัวหรือเปล่า" อัศวินถามคนด้านข้างที่ดูหวาดกลัวการขึ้นเครื่องบิน จอมขวัญไม่ตอบอะไร ทำเพียงหลับตาแน่น อัศวินต้องทำให้ทุกอย่างทั้งคาดเข็มขัด รวมถึงห่มผ้าให้ โชคดีที่เขาเลือกมา business class ถ้ามาราคาถูก ป่านนี้มันคงอึดอัดจนอ้วกออกมาแน่ๆ
แอร์โฮสเตจสาธิตวิธีการจนเรียบร้อย เครื่องกำลังจะบินขึ้นฟ้า ตอนนั้นเองที่จอมขวัญรู้สึกกลัว อาจเป็นเพราะไม่สบายตัวอยู่แล้วด้วยจึงทำให้อยากจะร้องไห้ออกมา
"ฮึ่ก" จอมขวัญสะอื้น ไม่นานก็มีมือหนาเข้ามาสวมกอดเอาไว้
"อย่าร้อง .. ไม่ต้องกลัว" อัศวินหันไปดึงร่างเล็กมากอด เขารู้ว่าตั้งแต่เกิดมามันไม่เคยนั่งเครื่องบินเลยจะกลัวก็เป็นธรรมดา ไหนจะไม่สบายอีก ถ้าเขายิ่งขู่มันจะยิ่งสติแตกเสียเปล่าๆ
"จะอ้วกหรือเปล่า" เขาถามและมันก็รีบส่ายหน้าทันที ไม่ได้จะอ้วก แค่หูอื้อและเวียนหัวเล็กน้อย
"นิ่งละ เดี๋ยวเขาจะเสิร์ฟข้าว จะไปห้องน้ำก็บอกกู" อัศวินปล่อยให้มันนั่งดีๆหลังจากสัญญาณรัดเข็มขัดถูกปลด ไม่นานแอร์ก็เอาข้าวมาเสิร์ฟ พวกเขานั่งทานข้าวกันจนอิ่ม อัศวินบังคับมันให้ทานยาจนหมดก่อนที่จะให้มันนอน เพราะอีกไม่นานเครื่องก็จะไปลงที่สุราษฎร์แล้ว พักสักนิดเพราะหลังจากนี้ยังต้องนั่งเรืออีก
.........
"นายครับ สวัสดีครับ" ลูกน้องที่มารับเดินเอากระเป๋าไปเก็บก่อนที่อัศวินจะพาจอมขวัญเดินมาขึ้นรถ
"เปิดโรงแรมใกล้ๆให้กูหน่อย เย็นๆค่อยกลับเกาะ" อัศวินสั่งลูกน้อง ดูอาการมันแล้วไม่น่าจะไหว ตัวเริ่มร้อน ไม่รู้แผลที่ตรงนั้นเป็นอย่างไรบ้าง
"ถ้าอย่างนั้นนายโทรมานะครับ ผมจะรีบมารับ" ลูกน้องขับรถพาอัศวินมาส่งที่โรงแรมหรูกลางเมือง อัศวินพยักหน้าก่อนจะลงมาเช็คอิน
"เข้าไปอาบน้ำให้สบายตัว ถ้าไม่อาบก็เช็ดตัวซะ" เขาโยนผ้าให้มันก่อนที่จะเดินไปปิดม่าน เลือกเสื้อผ้าออกมาเปลี่ยน เขาว่าจะอาบน้ำสั่งอะไรขึ้นมาดื่มสักหน่อย
จอมขวัญขี้เกียจขัดคำสั่ง เขาเดินเข้าห้องน้ำก่อนจะอาบน้ำล้างตัวให้สดชื่น เปลี่ยนชุดเสร็จถึงจะเดินออกมาด้านนอก
"เลือดออกเยอะหรือเปล่า" อัศวินไม่ได้มองหน้า แต่กำลังจ้องมองรายการในโทรทัศน์
"นิดเดียว .." จอมขวัญตอบเสียงเบาก่อนจะเดินไปเช็ดหัวตรงหน้ากระจก
"มึงไม่สบาย ใครเขาให้สระผม" อัศวินอยากจะด่ามันจริงๆ ถ้ากลับเกาะแล้วไข้ขึ้นจะทำอย่างไร
"เสร็จแล้วมานอนนี่ กูจะดูแผลให้" เขาเอ่ยกับมันที่ทำท่าทางตกตะลึงในคำพูดของเขา
"ม .. ไม่ต้อง ผมดูเองได้" จอมขวัญกัดปากก่อนจะเอ่ยตอบ แผลเขา เขาดูเองได้ ไม่ต้องมายุ่งกับเขาหรอก
"อย่าให้กูพูดซ้ำหลายรอบ บอกให้มาก็มา" อัศวินจ้องหน้ามันทันที จอมขวัญทำท่าฟึดฟัดก่อนจะยอมเดินมานั่งบนเตียงอีกฝั่ง
"มาใกล้ๆ แล้วถอดกางเกงออกด้วย" อัศวินสั่ง จอมขวัญหน้ามุ่ย ถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะค่อยๆถอดกางเกงขาสั้นออก เหลือแต่กางเกงชั้นในสีขาว
"จะให้กูอ้า หรือมึงจะอ้าเอง" อัศวินไม่ชอบพูดซ้ำๆ เขาลุกไปหยิบยาทาก่อนจะมองมันที่ทำท่าทางไม่พอใจก่อนจะใช้แขนยันไปกับเตียง คุกเข่าสะโพกเล็กกลมตึงแอ่นขึ้นตรงหน้ารอเขาอย่างประชดประชัน
อัศวินยกยิ้มก่อนจะคลานขึ้นเตียงเข้าไปใกล้ เขาค่อยๆดึงชั้นในสีขาวลงมาเผยให้เห็นบั้นท้ายขาวเนียนและกลมตึง ก่อนจะหยุดชั้นในไว้ที่ขาพับแล้วป้ายยาที่นิ้วชี้
"อะ .. อื้ออ" จอมขวัญครางอือ ก่อนจะกระถดแขนหนีนิ้วที่แทรกลึกสู่ภายใน อัศวินตรึงร่างเล็กไว้ก่อนจะป้ายยาวนรอบจีบพับ และสอดเข้าไปด้านในก่อนจะชักเข้าออกอยู่หลายทีถึงจะหยุด
"ฮ้าาาา .. แฮ่กๆ" จอมขวัญทรุดตัวลงกับเตียงเมื่อนิ้วแกร่งถูกดึงออก เขาหอบตัวโยนพยายามกัดผ้าห่มกลั้นเสียง
"อย่าครางแบบนี้ เดี๋ยวกูหยุดตัวเองไม่ได้มึงนั่นแหละที่จะเจ็บ" อัศวินเก็บยาก่อนจะคว้าผ้าขนหนูเตรียมอาบน้ำ
"อ่อ แล้วตอนกูอาบน้ำไม่ต้องคิดหนีล่ะ ลูกน้องกูเฝ้าอยู่หน้าห้อง ด้านล่างก็มี ถ้ามึงคิดหนี ก็น่าจะรู้ว่าจะต้องเจอกับอะไร" อัศวินเอ่ยก่อนจะเข้าห้องน้ำไปอย่างสบายใจ
จอมขวัญได้แต่นอนหอบตัวสั่นก่อนจะดึงชั้นในตัวเองขึ้นมาใส่ให้เรียบร้อย ใครจะไปคิดหนีกันเล่า ในเมื่อถึงหนีไปก็ไม่รอดอยู่ดี อีกอย่างเอาครอบครัวพี่น้อยมาขู่กันขนาดนี้ ถ้าเขาคิดจะหนีจริงคงไม่ยอมมาที่เกาะด้วยหรอก
แกร๊ก
อัศวินที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเปิดประตูออกมาด้านนอก เขาเดินไปปิดโทรทัศน์พลางเหลือบมองร่างเล็กบนเตียงที่หลับไปแล้ว อัศวินใส่เสื้อนั่งเช็ดหัวพลางโทรสั่งงานลูกน้องที่เกาะให้จัดการส่งของให้เสร็จก่อนเขาไปถึง มือหนาเอื้อมไปดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มเรียวขาเล็กที่ไม่ได้ใส่กางเกงเพราะเผลอหลับไป เขาเพิ่มแอร์อีกนิดก่อนจะล้มตัวลงนอนข้างๆมัน ไม่ได้อยากจะแตะต้องตัวมันเลยให้ตายสิ แต่พอเห็นมันนอนขดตัวเพราะความหนาวเขาก็รำคาญจนต้องดึงร่างมันให้มาซุกอยู่ในอ้อมอก
.....
"มึงถึงไหนแล้ว กูกำลังจะถึงเกาะ" อัศวินโทรถามลูกน้องที่ขับรถตามมาด้วย เขากับมันออกมาจากโรงแรมตอนบ่ายสาม กะว่าไปถึงเกาะเย็นๆจะได้ไม่ร้อนมาก
( เพิ่งถึงประจวบครับนาย ไอ้ขวัญเป็นไงบ้างครับ )
"สบายดี เดี๋ยวกูจะพามันไปนอนที่บ้าน ไว้มึงกลับมาเข้ามาหากูด้วยนะ"
( ได้ครับนาย )
อัศวินวางสายก่อนจะหันมามองเด็กที่นั่งซุกอยู่ตรงซอกเรือหลบลมทะเล
'ถ้าจะให้มันกลับไปอยู่เพิงไม้เก่าๆนั่น มันคงได้ตายก่อนเพราะแผลติดเชื้อ'
"ลุงครับ ผมกลับมาแล้ว เดี๋ยวจะเข้าไปหานะครับ" เขากดโทรหาลุงชัยที่ตนเคารพเสมือนพ่อแท้ๆ ฝากเรื่องให้แกมาหลายอาทิตย์แล้ว ตอนนี้เขาคงต้องกลับมาดูแลเอง
( พักก่อนก็ได้วิน ทางนี้ไม่มีอะไรแล้ว เรือขนส่งเพิ่งจะออกเมื่อครู่สองลำ อีกพักคนงานก็เลิกงาน )
"ครับ ผมขอเข้าออฟฟิศดูงานสักหน่อย ถ้าลุงจะพักผมไม่ว่านะครับ"
( ลุงก็ไม่รู้จะทำอะไร คืนนี้ดื่มสักหน่อยไหมล่ะ ไปเสียนานกลับมาขอลุงต้อนรับหน่อย )
"แล้วแต่ลุงเถอะครับ เอาไว้เจอกันนะครับ"
อัศวินวางสาย ไม่นานพวกเขาก็มาถึงเกาะ อัศวินนั่งรถลูกน้องต่อจนมาถึงบ้าน เขาให้จอมขวัญเอาของไปเก็บในห้องข้างๆที่ให้ป้านวลจัดไว้ให้ ก่อนจะกำชับป้านวลให้ดูมันทานยาให้เรียบร้อยเพราะเขาน่าจะกลับดึก ถ้าง่วงก็ให้มันนอนก่อนไม่ต้องรอ
"ไม่สบายหรือลูก ดูหน้าซีดเซียว" นวลถามคนตรงหน้า พลางคนข้าวต้มในหม้อ
"ครับ รู้สึกเวียนหัวเพิ่มตอนที่นั่งเครื่องแล้วยังต้องมาต่อเรืออีก" จอมขวัญว่า เขาอาเจียนออกไปสองรอบแล้ว กะว่าทานข้าวต้มคงจะดีขึ้น
"ถ้าอย่างนั้นพอทานข้าวต้มเสร็จก็พักเลยนะ .. แปลกแฮะ ทำไมถึงยอมให้นั่งเครื่องมาด้วยกัน ทั้งที่ก่อนไปออกจะตั้งแง่ขนาดนั้น" นวลบอกจอมขวัญ ก่อนที่คำหลังเหมือนจะบ่นกับตัวเองอย่างแปลกใจ
คืนนั้นจอมขวัญรีบทานข้าวต้มทานยาก่อนจะรีบเข้านอน ห้องที่ป้านวลจัดไว้ให้เป็นแค่ห้องเล็กๆมีเตียง ตู้เสื้อผ้า แล้วก็โต๊ะเครื่องแป้งกับโต๊ะเขียนหนังสือเล็กๆเท่านั้น ห้องนี้ป้านวลบอกว่าเคยจะเอาไว้ให้แขกมาพัก แต่เพราะไม่ค่อยมีใครมาที่เกาะจึงถูกปิดเป็นห้องเก็บของ เมื่อสองสามวันที่แล้วเพิ่งจะโทรมาสั่งให้ทำความสะอาดห้องไว้ให้ ตอนแรกนวลก็แปลกใจ พอมารู้ว่าทำให้จอมขวัญก็ยิ่งแปลกใจเข้าไปใหญ่
"ดื่มอีกๆ คุณท่านโทรมาเอ็ดลุงที่ไม่ยอมช่วยงานหลาน หูชาแทบจะไม่ได้ยินอะไรอีกเลยหลังจากนั้น ฮ่าๆๆ" เสียงโหวกเหวกดังขึ้นภายในร้านเหล้าข้างเกาะ อัศวินอยากจะปฏิเสธ แต่ไหนๆงานก็ราบรื่น อีกทั้งลุงชัยเป็นคนชวนเขาจึงปฏิเสธไม่ได้
"แม่ก็แบบนี้แหละครับ ลุงอย่าไปถือสา" เขาว่าก่อนจะกินกับแกล้มเล่น
"ว่าแต่เรื่องนั้นเป็นไงบ้าง ตกลงพวกที่อยู่เบื้องหลังเป็นใคร" ลุงชัยเอ่ยถามเรื่องที่ไร่ไม้สัก
"จับได้ก็โบ้ยไปโบ้ยมา ผมรำคาญฆ่าแม่งให้หมด" อัศวินพูดก่อนจะกระดกเหล้าแรงๆ ยิ่งคิดยิ่งเจ็บใจ
"หลานก็ไม่น่ารีบฆ่าโสภณมัน ลุงว่ามันนั่นแหละที่รู้ดีที่สุด" ลุงชัยเอ่ยปาก อัศวินกำแก้วแน่น ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น แต่ถ้าไม่ฆ่ามัน เขาคงจะเจ็บใจมากกว่านี้
"ช่างมันเถอะครับลุง เรื่องมันคงจะหาจับใครไม่ได้แล้ว ผมถือว่าผมผิดเองที่หละหลวมและไว้ใจคนมากไป" อัศวินคิดเสียว่าเขาก็จับตายพวกมันมาหลายคนแล้ว แลกกับไร่ไม้สักสองไร่ ก็ยังดีกว่าจับใครไม่ได้เลย
"เออๆ อย่าพูดเรื่องเฮงซวยเลย ว่าแต่คืนนี้จะกลับไปมือเปล่าหรือไง รู้ยังว่ามีเด็กมาใหม่ เอ๊าะๆ ซิงๆเลย สนใจไหมล่ะนายหัว" ลุงชัยเอ่ยเย้า รู้ว่าหลานไม่ค่อยสนใจพวกมีมลทิน แต่พอดีได้ยินว่ามีเด็กใหม่มายังเอ๊าะๆอยู่เลย หลานอาจจะสนใจ
"ผมไม่สนหรอกครับ" อัศวินยกแก้วขึ้นก่อนจะยกยิ้ม ของซิงๆถ้ากินไปแล้วมันถูกใจก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้ากินแล้วไม่ถูกปากเขาก็ไม่อยากจะเสียเวลา
"ลองดูมันหน่อยสิคะนาย มันชื่อสร้อย อายุเพิ่งจะสิบแปด ขบเผาะเชียวล่ะ" เจ้าของร้านรีบถวายเนื้อนางสาวให้คนที่ใหญ่ที่สุดในเกาะนี้ ครั้งหนึ่งนายเคยมาที่นี่เมื่อนานมาแล้ว แต่เพราะไม่ถูกใจนายจึงไม่มาอีก ครั้งนี้หากอิสร้อยทำให้นายติดใจได้ มันจะเป็นบุญส่งถึงกันไปเป็นทอดๆ
อัศวินส่ายหัว เขาไม่อยากได้ใครหรืออะไรตอนนี้ทั้งนั้น แต่ถึงจะปฏิเสธอย่างไร ตอนนี้เด็กที่ชื่อสร้อยก็ยกมาถวายกันถึงตักเขาแล้ว ความมึนเมายังไม่มากนัก อัศวินพยายามไม่แตะเนื้อตัวอวบอั๋นบนตัก อายุแค่สิบแปดแต่เนื้อนมมันช่างนูนออกมาล้นจนกระแทกตา เสื้อเกาะอกที่จะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ส่ายไปมาตรงหน้า สะโพกกลมมนจงใจถูไถไปมายั่วยวนเขา ยอมรับว่าตอนนี้ความเป็นชายในกางเกงที่เคยหลับไหลมันกลับตื่นขึ้นเต็มสองตาพร้อมออกรบ แต่ด้วยความที่ยังพอมีสติจึงห้ามตัวเองไม่ให้เผลอไผลไปกับสิ่งเย้ายวนตรงหน้า
"ไม่ดีกว่า .. ไว้คราวหน้าเถอะ" อัศวินยกร่างสาวอึ๋มทั้งร่างขึ้นจากตักก่อนจะวางไว้ข้างๆ เขาอยากจะกลับเสียตอนนี้หากแต่เหล้ายังเหลืออีกครึ่งขวด
"โถ่หลาน เอ็งยังหนุ่มยังแน่น ปลดปล่อยบ้างมันก็ไม่เสียหลาย ถุงยางรึก็มี ไม่ต้องกลัวโรคไปหรอก" ลุงเอ่ยติง ทำงานแบบเราๆ ไม่มีเมียมันก็ต้องปลดปล่อยด้วยวิธีนี้กันทั้งนั้น
อัศวินทำเพียงแค่ยิ้มรับ ใช่ว่าเขาจะไร้ที่ปลดปล่อยเสียเมื่อไหร่ อย่าลืมสิว่าตอนนี้เขามีคนบำเรอความใคร่อยู่ใกล้ตัวด้วยซ้ำ
"ลุงชัยตามสบายเถอะครับ ผมแค่ไม่อยาก ผมเหนื่อย ขอพักผ่อนจะดีกว่า" เอาความเหนื่อยยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างและลุงชัยเองก็ยอมยกธงขาว
"โอเคๆ ลุงยอมแพ้ละ หมดขวดนี้กลับไปพักผ่อนซะ พรุ่งนี้ยังมีงานต้องทำอีก" ลุงว่าก่อนจะไล่พวกสาวๆออกไป อัศวินค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย แม้ว่าส่วนล่างจะยังตึงเครียด แต่นั่งดื่มอีกสักพักเดี๋ยวมันก็คงหายไปเอง
....
เขาคิดผิดที่เคยบอกว่าเดี๋ยวมันคงจะดีขึ้นเอง ยิ่งเมื่อกระดกเหล้าจนหมดขวดความแข็งขืนภายใต้กางเกงยีนส์ตัวหนาก็ยิ่งดุดันขึ้นจนปวดเกร็ง เขาบังคับตัวเองให้ขับรถขึ้นมาจนถึงบ้านได้ก็นับว่าเก่งมากแล้ว
กลับมาถึงบ้านอัศวินก็ตรงเข้าไปที่ห้องเล็กๆข้างๆก่อนจะบิดลูกบิดประตูหลายๆครั้งและเริ่มขัดใจที่มันจงใจล็อคประตูทั้งๆที่นี่คือบ้านเขา
"จอมขวัญ .. เปิดประตูให้กูหน่อย"
จอมขวัญงัวเงียตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงเรียกและเสียงเคาะโหวกเหวกจากด้านนอก แต่ก็ไม่ได้สนใจเพราะเขาไม่ได้อยากให้คนใจร้ายเข้ามาในห้องถึงได้ล็อคห้องไว้ เอาไว้พรุ่งนี้ค่อยแก้ตัวว่าหลับเพราะฤทธิ์ยาก็คงไม่เป็นไรมากหรอกกระมัง
แต่จอมขวัญคงจะลืมไป ว่านี่คือบ้านของอัศวิน
และถ้าคนคนนั้นอยากได้อะไร เขาก็จะต้องได้ ..
แกร๊ก
อัศวินที่เริ่มจะโมโหบวกกับฤทธิ์ของน้ำเมาเดินไปคว้ากุญแจสำรองมาไขประตูห้องมันทันทีอย่างไม่สนใจ
จอมขวัญสะดุ้งเมื่อได้ยินเสียงไขประตู เขาจงใจแกล้งหลับตาปี๋ ขดตัวนอนจับผ้าห่มไว้แน่น ถ้าคนใจร้ายฉุกคิดได้สักหน่อยก็จะรู้ว่าเขายังป่วยอยู่ และคงไม่กล้าทำอะไร
"มึงนี่คิดลองดีกับกูได้ตลอดสิน่า!" อัศวินสบถก่อนจะขึ้นไปทาบทับร่างเล็กบนเตียงไว้ ความร้อนในร่มผ้ายังไม่หาย มีมันเพียงคนเดียวที่จะช่วยเขาได้
เขาจัดการถอดกางเกงยีนส์และชั้นในออกโยนไว้ด้านข้างก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับมัน เขารู้ว่ามันยังป่วย แต่แค่ใช้มือช่วยคงไม่ตาย
"ซี้ดส์ .. อืม" เขากุมมือเล็กให้รูดรั้งแท่งร้อนของตัวเองขึ้นลง จอมขวัญอยากจะร้องไห้ออกมากับเรื่องที่ถูกบังคับให้ทำ น่ารังเกียจอีกทั้งขยะแขยง
"อ่าส์ .. ไว .. อีกนิด .. อืมส์" อัศวินชักมือเล็กให้เร็วขึ้น จอมขวัญกลั้นเสียงไว้เอามือกุมปาก ไม่อยากจะเชื่อว่าต้องทำถึงขนาดนี้
ร่างหนากระตุกเล็กน้อยก่อนจะปลดปล่อยความเป็นชายออกมาเลอะไปทั่วมือบาง เขาเปิดไฟหัวเตียงก่อนจะคว้าทิชชู่มาเช็ดคราบที่เปื้อนออกจนหมดโยนทิ้งถังขยะ
"หายเมื่อไหร่ .. กูจะเอามึงทั้งวันทั้งคืนเลยจอมขวัญ" อัศวินกระซิบที่ริมหูก่อนจะใช้ปากงับไปทั่วใบหน้าและลำคอด้วยความเมา
จอมขวัญกลั้นน้ำตายอมให้คนใจร้ายสัมผัสไปทุกส่วนที่ต้องการ กลิ่นเหล้าบวกกับกลิ่นคราบคราวทำให้เขาอยากอาเจียนแต่ก็ไม่อยากจะตื่นมาเจอคนตรงหน้าเพราะเขารู้ว่าถ้าเขาตื่นคนตรงหน้าจะไม่หยุดแค่นี้แน่นอน
"ไม่ได้ดั่งใจเลยเว้ย!"
ปังงง!
เสียงปิดประตูดังสนั่นพร้อมกับร่างหนาที่หายออกไปแล้ว จอมขวัญสะอื้นทั้งน้ำตา เขารีบดึงกระดาษทิชขู่ออกมาเช็ดคราบคาวที่มืออย่างรังเกียจ เขาเกลียดกลิ่นกายที่อบอวลไปด้วยเหล้า เขาเกลียดที่คนคนนั้นพูดเหมือนกับว่าเขาเป็นโสเภณีชั้นต่ำที่จะร่วมรักเมื่อไหร่แค่ไหนก็ได้ เกลียดทุกสิ่งที่อัศวินทำร้ายเขาไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจ เกลียดที่จะต้องอยู่ทนเป็นนางบำเรอคอยปรนเปรอความใคร่ให้โดยที่เขาไม่ต้องการ เกลียดตัวเองที่ยอมแพ้ง่ายๆ เกลียดตัวเองที่อ่อนแอไม่เข้มแข็ง เกลียดโลกนี้ที่ไร้ความยุติธรรมกับเขา จนเขาต้องกลายมาเป็นทาสอยู่แบบนี้ เกลียดทุกสิ่งทุกอย่าง เกลียดไปหมดไม่เว้นแม้แต่ก้อนหินดินทราย เกลียดทุกสิ่งบนโลกใบนี้แม้ว่าจะไม่เคยได้สัมผัสมันมาก่อน
'ถ้ามีพรสักข้อบนโลกใบนี้ที่เขาจะขอได้ เขาขอให้ชีวิตของเขาได้มีสิทธิ์เลือกทางเดินเองบ้าง ขอแค่ได้เลือกทางเดินของตัวเอง ไม่อยากทนถูกบังคับอยู่แบบนี้ไม่รู้จักจบจักสิ้น'
กว่าจะข่มตานอนได้ก็เกือบเช้า จอมขวัญได้แต่ภาวนาว่าถ้าหากจะต้องตายอีกสักครั้ง เขาจะไม่ลังเลเลยที่จะทำ เพราะชีวิตหลังจากนี้จะต้องเจอกับนรกขุมไหนบ้าง เขาเองก็ยังไม่รู้แน่ และเขาเลือกที่จะต้องทุกข์ทรมานเพราะตัวเองเลือก ดีกว่ามาทุกข์ทรมานเพราะคนอื่นเลือกให้แบบนี้ เขายอมตายเสียยังจะดีกว่า
TBC.
Talk: ตอนหน้าจะก้าวกระโดดไปสักเดือนเลยนะคะ แล้วก็จะเริ่มอีกคู่ละ รอหน่อยเน้อ ^^