** ต่อค่ะ * *
เรียวแขนยาวที่ปัด ป่ายไขว่คว้าไปมาอย่างไร้ทิศทางใบหน้าหวานเต็มไปด้วยเหงื่อเม็ดเล็กที่ผุด พรายทั่วใบหน้าร่างกายกระสับกระส่ายร้อนรน หยาดน้ำตาที่ไหลออกมาเป็นทางไม่ขาดสายและไม่มีทีท่าว่าจะหยุดลงง่ายๆ ทั้งที่เปลือกตาสีน้ำนมที่เริ่มบวมช้ำยังคงปิดสนิท
" ไม่นะ.. คุณวิน เอาลูกผมคืนมา..คุณวินอย่าเอาลูกผมไป! กลับมาคุณวิน!! "
" ปุณ! " เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของคนรักทำเอาร่างสูงที่ฟุบหน้าลงกับเตียงพักฟื้น คนไข้ด้วยความอ่อนเพลียหลังจากเฝ้าแม่ของลูกของเขามาข้ามคืนถึงกับสะดุ้งตื่นผวาลุกขึ้นรวบร่างที่ยังคงละเมออย่างเจ็บปวดเอาไว้
" ไม่!. .คุณวินเอาลูกผมคืนมา ฮึก. . คุณวิน!! "
" ปุณ! ปุณยวีร์!! "
เฮือก!!
" คุณวิน! .. น้องกันต์..น้องกันต์อยู่ไหน. . โอ๊ย! .. เอาลูกผมคืนมาผมขอร้อง ฮึก. . เอาน้องกันต์คืนมา ฮื้อ อ อ " ทันทีที่ตื่นขึ้นเต็มตาเมื่อเห็นใบหน้าคมคายที่เต็มไปด้วยความกังวลฝ่ามือบางที่ขยำอกเสื้อเชิ้ตเนื้อดีเอาไว้อยู่แล้วก็กระชับมือกำเอาไว้แน่นยิ่งขึ้น พลางทุบแผงอกแข็งแรงจนรู้สึกเจ็บแปลบที่บาดแผลที่ยังสดใหม่จากการผ่าตัด หยาดน้ำอุ่นใส่ไหลทะลักออกมามากมายจากนัยน์ตากลมโตที่แดงก่ำจนน่ากลัว
" เดี๋ยวก่อนปุณ..เจ็บมั้ย.. นายจะรีบลุกขึ้นมาทำไมเดี๋ยวแผลก็ฉีกหรอก. . แล้วนายพูดเรื่องอะไรปุณ. . ฉันไม่เข้าใจ " น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง แต่หากนัยน์ตาคมกลับฉายแววงุนงงและไม่เข้าใจในสิ่งที่ร่างในอ้อมกอดพูด
" คุณกับคุณหญิง ฮึก. . เอาน้องกันต์ของผมไป . . ฮึก. . เอาน้องกันต์ของผมคืนมาเถอะครับผมขอร้อง ฮึก .. คุณอยากได้อะไรผมจะหามาให้แต่ขอลูกผมคืนนะครับ ฮื้อ อ อ "
" ฉันขอโทษ.. ปุณ .. ไม่ร้องไห้นะคนดีนายแค่ฝันร้าย. . ฉันกับคุณแม่ไม่ได้จะพรากลูกไปจากนาย.. ตอนนี้น้องกันต์อยู่กับคุณพี คุณติณที่ห้องเด็กอ่อน.. อีกสักพักก็คงจะมา " วงแขนกระชับร่างที่สั่นเทาในอ้อมกอดแน่นยิ่งขึ้น ฝ่ามือหนาลูบแผ่นหลังบางอย่างปลอบประโลมพลางเอ่ยกระซิบปลอบโยนเบาๆ ที่ข้างหูเพื่อให้คนรักในคลายกังวลและดูเหมือนจะได้ผลเมื่อปุณยวีร์ดูสงบมากขึ้น
" ฮึก. . จริงหรอครับ. . คุณไม่ได้โกหกผมนะ "
" อืม.. จริงสิ. . คุณแม่กับคุณพ่อก็อยู่ด้วย แต่นายไม่ต้องห่วงหรอกคุณพีอยู่ด้วยทั้งคนไม่มีใครทำอะไรน้องกันต์ได้หรอก. . หรือถ้าจะเอาไปก็คงน่วมตายเพราะโดนคุณพีแจกขนมตุบตับให้กินก่อนจะหนีไปได้ล่ะนะ "
" น้องกันต์มาแล้วค้าบคุณแม่คนสะ. . . ปุณนายร้องไห้. . เน้! คุณกวินภพคุณทำอะไรเพื่อนผม! " น้ำเสียงที่ถูกดัดให้ฟังดูคล้ายเสียงเด็กดังแว่วขึ้นมาทันทีเมื่อประตูห้องพักฟื้นพิเศษบานใหญ่ขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่เข็นกระบะพลาสติกใส่เนื้อดีหนาพิเศษที่มีเด็กอ่อนถูกห่อหุ้มด้วยผ้าสะอาดสีขาวกลมมนเสียจนมองเผินๆ เหมือนหนอนตัวใหญ่ที่กำลังหลับสบายอยู่ . . แต่หากน้ำเสียงน่าฟังเมื่อครู่กับแข็งกร้าวอย่างฉับพลันเมื่อเห็นสภาพของเพื่อนรักที่ดูไม่สู้จะดีนัก . . ถึงแม้จะอยู่ในอ้อมกอดไอ้หมีถึกนี่ก็เถอะ
" ผมเปล่านะ. . คุณเสียงดังแบบนี้เดี๋ยวน้องกันต์ก็ตื่นหรอก "
" จะตื่นก็เพราะคุณนั่นแหละ " เลเวลความดังลดลงแทบจะติดลบแต่หากความแข็งกร้าวยังคงส่งไปถึงคนฟังได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
" พีฉันขออุ้มน้องกันต์หน่อยได้มั้ย " เสียงหวานที่แหบพร่าเอ่ยขึ้นมาทันทีที่เห็นเพื่อนรักเข็นกระบะเด็กอ่อนเดินตรงเข้ามา . . กายบางแม้จะยังเจ็บแผลอยู่มากแต่หากแทบจะผวาอุ้มลูกน้อยที่กำลังหลับพริ้มทันทีทำเอาร่างสูงที่ถูกผลักไสอย่างกลายๆ เมื่อครู่ถึงกับผวารั้งร่างบางเอาไว้เพราะอีกไม่กี่เซ็นต์กระบะสีใสก็จะชิดขอบเตียง
" ได้สิ. . เมื่อกี้น้องกันมาหานายแล้วรอบหนึ่งแล้วแต่นายยังไม่ตื่นพยาบาลเค้าเลยพาไปอาบน้ำทาแป้งซะหอมฉุยเลยนี่ไง "
ทันทีที่ช้อนร่างกลมเล็กเอาไว้แนบอก . . การพบเจอกันครั้งแรกนับตั้งแต่เจ้าตัวเล็กลืมตาดูโลกนั้นม่านน้ำนัยน์ตากลมโตแดงก่ำอีกครั้ง . . แต่หากครั้งนี้มันเอ่อล้นออกมาจากความปลื้มปิติและเปี่ยมสุขอย่างที่สุดแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน
" สวัสดีครับน้องกันต์ . . ในที่สุดเราก็ได้เจอกันแล้วนะ "
สัมผัสแรกมันเต็มไปด้วยความเต็มตื่นที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้กลีบปากแดงฉ่ำที่แม้จะแหกผากไปบ้างค่อยๆ กดจูบแผ่วเบาราวกับกลัวว่าแก้มเนียนใส่ราวกับคริสตัลเนื้อดีจะปริแตกหรือ ระคายเคืองหากลงน้ำหนักสัมผัสแรงเกินไป
เมื่อเวลาผ่านไปจนครบกำหนดเวลาที่เด็กชายน้องกันต์ต้องกลับไปห้องพักฟื้นสำหรับเด็กอ่อนและพ่อทูลหัวอย่างนายแพทย์ติณณภพมีเคสด่วนที่ต้องไปดูอาการและภูมิรพีมีธุระสำคัญต้องไปจัดการจึงขอตัวกลับก่อนบอกแต่เพียงว่าทันทีที่เสร็จธุระแล้วจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อนคุณแม่คนใหม่ . . ทำให้ตอนนี้ภายในห้องพักฟื้นพิเศษแห่งนี้ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
" เอ่อ.. ปุณ..ฉัน . . " ยังไม่ทันที่เสียงทุ้มจะเอ่ยจบประโยคประตูไม้บานใหญ่ก็เปิดออกนายท่านและคุณหญิงแห่งตระกูลก้องกฤติกรก็เดินเข้ามา และสิ่งที่ไมมีใครคาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อร่างกายเพรียวบางที่อยู่ในชุดแบรนด์เนมชื่อดังทั้งตัวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้าค่อยทรุดกายคุกเข่าลงตรงหน้าเตียงคนไข้ที่ร่างบางนั่งอยู่ ร่างบางที่กำลังค้อมศีรษะยกมือไหว้อย่างนอบน้อมถึงกับชะงักค้างด้วยความตกใจ
" สวัสดีครับนายท่าน คุณหญิง. . นั่นคุณหญิงจะทำอะไรครับ.. ลุกขึ้นเถอะครับ! "
" คุณแม่!! "
" ฉันขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา. . สำหรับเธอคำขอโทษจากฉันมันอาจจะไม่เพียงพอกับสิ่งที่เธอต้องพบเจอมาตลอด. . แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่าฉันรู้สึกอยากจะขอโทษและรู้สึกผิดกับเธอและน้องมากจริงๆ ฮึก. . ฉันขอโทษที่ทำให้เธอและหลานชายของฉัน รวมถึงลูกด้วยนะตาวิน แม่ขอโทษที่ทำให้พวกลูกต้องอยู่กันอย่างยากลำบากฮึก. . แม่ผิดไปแล้ว ปุณยวีร์หนูจะยกโทษให้ยัยแก่คนนี้สักครั้งได้มั้ยจ้ะ "
" ค. . คุณหญิงลุกขึ้นเถอะครับ. . คุณวินพยุงนายหญิงลุกขึ้นหน่อยสิครับ " เนื่องด้วยความไม่พร้อมของร่างกายปุณยวีร์จึงทำได้เพียงสะกิดร่างสูงที่ยังคงยืนตะลึงงันกับการกระทำของนายหญิงแห่งตระกูลก้องกฤติกรผู้ไม่เคยก้มหัวให้ใครแรงๆ เพื่อเรียกสติ ร่างสูงจึงทำตามคำสั่งของร่างบางอย่างว่าง่าย
" คุณแม่ลุกขึ้นเถอะครับ..ค่อย ๆ ลุกนะครับคุณแม่ "
" ตาวินแม่ขอโทษลูก. . ฮึก . . ลูกยกโทษให้แม่นะ " น้ำเสียงหวานแต่หากน่าเกรงขามนั้นเอ่ยออกมาอย่างเว้าวอนอยู่ในอ้อมกอดของลูกชาย
เพราะตั้งแต่ ณ วินาทีแรกที่ได้รู้ว่าปุณยวีร์กำลังอุ้มท้องหลานคนแรกซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชายจากนักสืบเอกชนที่นางได้จ้างวานให้สะกดรอยตามลูกชายนับตั้งแต่ได้คุยกับสามีวันนั้นทิฐิ บ้าบอที่ตัวเองแบกเอาไว้กลับเลือนหายไปเสียสิ้น ไม่แม้แต่จะสนใจหน้าตาของตัวเองในสังคมอีกต่อไป . . วินาทีนั้นไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนหรือต้องทำอย่างไรนางก็พร้อมยอมทำเพื่อครอบครัวเล็ก ๆ ของลูกชายเพียงคนเดียว
ความรู้สึกผิดและเสียใจกับการกระทำของตัวเองกำลังเล่นงานนางอย่างบ้าคลั่งอย่างที่ผู้เป็นสามีเคยปรามาสเอาไว้ . . รู้ซึ้งและเข้าใจแล้วว่าตัวเองได้สร้างความเจ็บปวดมากมายแค่ไหนให้กับลูกและหลานของตัวเอง
" ผมไม่เคยโกรธแม่เลยนะครับ. . แม่อย่าคิดมากสิผมต่างหากที่ต้องขอโทษคุณแม่ที่ทำให้คุณแม่เสียใจ ผมขอโทษนะครับ . . แต่ผมรักปุณยวีร์จริงๆ คุณแม่ให้โอกาสพวกเราสักครั้งได้มั้ยครับ "
" ค. . คุณวิน "
" โอกาสแม่มีให้ลูกเสมอ แต่ลูกต้องไปถามหนูปุณโน้นว่าจะให้โอกาสลูกหรือเปล่า " ใบหน้าที่ยังคงเปรอะเปื้อนน้ำตาระบายยิ้มอ่อนๆ ให้กับลูกชาย
" ปุณ. . นายจะให้โอกาสฉันรักและดูแลนายกับลูกตลอดไปได้รึเปล่า " น้ำเสียงทุ้มเอ่ยถามออกมาอย่างเว้าวอน
" . . .ผ..ผม . "
" ปุณยวีร์แม่รู้ว่าลูกกำลังสับสน . .แม่อยากให้หนูตัดสินใจด้วยความรู้สึกจากข้างในไม่ต้องเห็นแก่พ่อกับแม่ ไม่ต้องเห็นแก่หน้าตาทางสังคม ไม่ต้องเห็นแก่น้องกันต์ว่าแกจะมีพ่อหรือไม่แต่แม่ขอให้หนูตัดสินแค่เรื่องระหว่าง หนูกับลูกชายของแม่เท่านั้นก็พอ.. ได้มั้ยลูก "
สรรพนามและน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปฟังดูอ่อนโยนกว่าที่เคยยิ่งสร้างความสับสนให้กับร่างบางมากยิ่งขึ้นไปอีก . . ไม่อยากจะคิดเข้าข้างตัวเองเลยแม้แต่น้อยว่าน้ำเสียงที่เปล่งประโยคต่าง ๆ มากมายของนายหญิงแห่งตระกูลก้องกฤติกรผู้เย่อหยิ่งคนนี้มันออกมาจากความรู้สึกภายในจริงๆ
" ไม่ว่าคำตอบของหนูจะเป็นยังไงพ่อกับแม่ รวมทั้งตาวินพวกเราจะเคารพการตัดสินใจของหนูนะปุณยวีร์ . . ผมว่าเราออกไปกันก่อนเถอะคุณให้เด็กๆ เขาจะได้คุยกัน " น้ำเสียงทรงอำนาจแต่หากบัดนี้ฟังดูอ่อนโยนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนที่กำลังโอบ ร่างภรรยาเอาไว้ระบายยิ้มออกมาบางๆ ก่อนจะค่อยๆ ประคองกันเดินออกจากห้องไป
. . . . .
ความเงียบและไอเย็นเยียบน่าอึดอัดถูกก่อตัวขึ้นอีกครั้งเมื่อภายในห้องพักฟื้นพิเศษห้องนี้เหลือเพียงกวินภพ และปุณยวีร์
" ปุณ. .. ฉัน "
" . . . . . "
" ฉันขอโทษสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมา. . เพราะความไม่ชัดเจนของฉันทำให้นายต้องเจ็บปวดแบบนี้ " ใบหน้าหวานที่ยังคงเปรอะเปื้อนคราบน้ำตานัยน์ตากลมโตเหม่อมองออกไปราวกับภาย ในห้องมีเพียงแค่ตัวเองนั่งอยู่บนเตียงและเค้าเป็นเพียงอากาศธาตุที่มองไม่เห็น . .
" . . . . . "
แม้จะต้องพบเจอแต่ความเงียบงันที่เจ็บปวดแต่กวินภพขอเลือกที่จะพูดความในใจของตัวเองออกไป . .เพราะหากคนฟังอาจจะรับฟังแต่ไม่ยอมรับรู้
เขาก็พร้อมจะน้อมรับความเจ็บปวดที่คนที่เขารักมากที่สุดหยิบยื่นให้มา
" ฉันขอโทษที่โง่เองที่คิดเอาง่ายๆ ว่าการกระทำของฉันจะทำให้นายรับรู้ความรู้สึกที่ฉันมีต่อนาย .. ฉันยอมรับนะว่าสับสนบ้างว่าฉันอาจจะแค่หลงนาย .. แต่ฉันกลับแน่ใจในความรูสึกที่มีต่อนายมากยิ่งขึ้น..กว่าจะรู้ตัวอีกทีนายก็หนีจากฉันไปแล้ว "
" . . ฮึก. . "
" ยิ่งมารู้เอาทีหลังว่านายต้องลำบากอุ้มท้องน้องกันต์อีก. . ฉันรู้ว่าถึงฉันจะขอโทษนายสักกี่แสนกี่ล้านครั้งมันก็ไม่เทียบเท่ากับความรู้สึกที่เจ็บปวดและหวาดกลัวของนาย "
" . . ฮึก. . "
" แต่ฉันก็ยังอยากจะขอโทษ. . และอยากให้นายรู้ว่าฉันรักนายนะปุณยวีร์. . ฉันรักนาย. . รักมากจริงๆ "
" . . ฮึก ฮึก!. . "
" . . . . . "
" . . ฮึก ฮึก!. . "
" อ่า.. ความผิดของฉันมันคงร้ายแรงเกินกว่าที่นายกับลูกจะให้อภัยได้. . ต่อไปนี้ฉันสัญญาว่าจะไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายกับนายและลูกอีกอย่าคิดมาก. . อย่าร้องไห้เพราะฉันอีกเลยนะ. . คนดีของฉัน " ช่วงแขนเรียวยาวค่อยๆ รั้งร่างที่ปล่อยโฮออกมาเสียตัวโยนเข้ามาไว้ในอ้อมกอด นิ้วเรียวเกลี่ยซ้ำม่านน้ำที่เอ่อล้นออกมาอย่างไม่ขาดสายอย่างแผ่วเบา
" . . อึก. . ฮื้อ อ อ "
" ขอบคุณนะที่นายเกิดมา ขอบคุณที่นายทำให้ช่วงชีวิตหนึ่งของฉันมีค่าและมีความสุขอย่างแท้จริง ขอบคุณที่นายให้กำเนิดลูกชายที่น่ารักอย่างน้องกันต์ . . และขอบคุณที่นายทำให้ฉันได้รับรู้ว่าครั้งหนึ่ง. . เราเคยรักกัน . . ลาก่อนที่รักของฉัน " สิ้นความในใจริมฝีปากอิ่มแห้งผากกดจูบขมับบางที่ชื้นเหงื่อของร่างที่ยังคงโยกโยนอย่างแผ่วก่อนจะค่อยๆ ลากไล้ลงมาที่ปรางค์แก้มฉ่ำน้ำและหยุดเนิ่นนานอยู่ที่กลีบปากสีแดงสดอย่างไร้การลุกล้ำเพราะมันคือสัมผัสที่อยากให้ร่างบางรับรู้จากใจ . . ไม่ใช่เพียงเพราะร่างกายหรือความใคร่อย่างที่ผ่านมา
ก่อนจะค่อยๆ ผละกายออกมาเบาๆ นิ้วเรียวเกลี่ยซับหยาดน้ำตาที่รืนรินออกมาไม่ขาดสายอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากหยักคลี่ยิ้มบางๆ ออกมาหากแต่นัยน์ตาคมกลับฉายแววเจ็บปวดร้าวร้านออกมาอย่างไม่ปิดบัง
สองขายาวค่อยๆ ถอยห่างจากร่างบางทีละก้าว..ทีละก้าว.. ก่อนจะค่อยๆ หันหลังกลับแต่หากจังหวะก้าวเดินกลับชะงักงันในฉับพลัน...
" . . . ไหนคุณบอก .. ฮึก . . บอกว่าจะดูแล . . ผมกับน้องกันต์ตลอดไปไง . . ฮึก . . คนโกหก "
" . .. ปุณยวีร์ " สิ้นเสียงขาดห้วงและเบาหวิวแต่หากสัมผัสความรู้สึกตัดพ้อน้อยใจเอาไว้ได้ อย่างชัดเจนร่างสูงก็หันกลับมาผวาเข้ากอดร่างบางที่ร้องไห้ตัวโยนอยู่ที่เดิม . . ณ เวลานี้จะมีใครว่าเขาบ้ามั้ยถ้าเขาจะบอกคนทั้งโลกว่าเขาเจ็บปวดมากแค่ไหน แต่ในขณะเดียวกันก้อนเนื้อในอกมันกลับอิ่มเอมพองโตอย่างประหลาด
" ผมพูดสักคำหรือยังว่าจะ ฮึก. . ไม่ยกโทษให้คุณ. . คนงี่เง่า .. คุณมันงี่เง่าที่สุดเลย .. ฮื้อ อ อ อ "
" ฉันขอโทษ. . "
" ทั้งๆ ที่ผม ฮึก.. ทำเพื่อคุณทุกอย่าง .. ทั้งๆ ที่ผม อึก. . รักคุณมากขนาดนี้. . คุณยังคิดจะทิ้งผมกับลูกไปอีกงั้นหรอ. . แค่ผมลองใจนิดหน่อยก็ทนไม่ได้แล้วใช่มั้ย!? " กำปั้นเล็กที่ทุบลงกับแผงอกไม่ได้สร้างความเจ็บปวดให้กับกวินภพเลยแม้แต่น้อย . . ซ้ำยังปล่อยให้ร่างบางทุบเขาเท่าไหร่ก็ได้จนพอใจ และเพียงไม่นานก็เป็นคุณแม่คนใหม่ที่หมดแรงเสียเอง
" มันไม่ใช่อย่างงั้น . . ฉัน "
" คุณไม่รู้หรอกว่าที่ผ่านมาผมเจ็บปวดมากแค่ไหน .. กับไม่กี่อาทิตย์ที่ผ่านมาที่คุณต้องอดทนคุณไม่รู้หรอกว่ามันเทียบไม่ได้แม้แต่เศษเสี่ยวของความรู้สึกของผม .. ไม่เลยสักนิดเดียว ฮึก " ใบหน้าหวานซุกลงกับแผงอกอุ่นความเปียกชื้นตีแผ่เป็นวงกว้างขึ้นเรื่อยโดยที่เรียวแขนเล็กโอบรัดเอวหนาเอาไว้เสียแน่น
" ฉันรู้แล้ว.. ตอนนี้ฉันรู้แล้ว .. ฉันขอโทษ. . "
" คุณวินนั่นคุณจะทำอะไร. . ลุกขึ้นมาเถอะฮะ .. ฮึก. . ผมไม่ได้โกรธคุณ.. ไม่เคยโกรธคุณเลย "
" ในฐานะผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่ง .. ผมกวินภพ ก้องกฤติกรขออนุญาตที่จะรัก..ดูแล ปุณยวีร์ ปัญญาโชติ และด.ช กันติทัต ก้องกฤติกร ด้วยหัวใจของผมดวงนี้ตลอดไปได้มั้ยครับ "
" . . คุณวิน~ " น้ำเสียงที่อ่อนโยนแต่หากหนักแน่นพร้อมกับใบหน้าคมคายที่ระบายยิ้มแต่หากดู จริงจังทำเอาก้อนเนื้อในอกบางเต้นรัวราวกับมันจะพุ่งทะลุออกมาจากอกเมื่ออีกฝ่ายพูดประโยคที่ไม่คิดว่าจะได้ยิน
ตั้งแต่ชีวิตที่มีกวินภพ ก้องกฤติกรเดินเข้ามา . . แม้จะเคยวาดฝันแต่ไม่เคยคาดหวังว่าจะมีวันนี้
แต่วันนี้ความฝันที่เคยคิดว่าไม่อาจเอื้อมถึงบัดนี้มันกลายเป็นจริงแล้ว
" ได้มั๊ยครับ. . คุณปุณยวีร์ ปัญญาโชติ "
" . . . ครับ . . ผมยินดี "
" ขอบคุณนะปุณ. . ขอบคุณมาก. . ฉันรักนาย เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะ "
" ครับ. .เราจะเริ่มต้นกันใหม่ . .ผมก็รักคุณเหมือนกันครับคุณวิน . ." ใบหน้าสวยหวานยิ้มรับก่อนที่ใบหน้าคมคายค่อยๆ เลื่อนเข้าหาริมฝีปากอิ่มจรดกลีบปากฉ่ำอย่างนุ่มนวลและเนิ่นนาน
. . . ขอบคุณนะปุณยวีร์ที่ให้โอกาสผู้ชายที่โง่งี่เง่าอย่างฉัน. . .
. . . ขอบคุณนะครับคุณวินที่รักกับน้องกันต์และมอบครอบครัวที่แท้จริงให้กับผม . . .
the end....
.
.
.
.
ภายในห้องพักฟื้นพิเศษที่กำลังอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรักคุณพ่อคุณแม่คนใหม่คงไม่รู้ตัวว่าภายนอกห้องยังมีอีก 4 ชีวิตที่รอลุ้นตัวเกร็งตามไปด้วย
" โอ้ย ย ย หนูปุณทำเอาฉันหัวใจเกือบวายตาย. . ลุ้นแทบแย่ว่าหนูปุณจะให้โอกาสตาวินมั้ย "
" ถ้าโรคหัวใจกำเริบขึ้นมาอีกจริงๆ เดี๋ยวผมให้หมอแอดมิทเลยก็ได้นะ . . . อยู่กินกันมาสามสิบกว่าปีผมพึ่งรู้นะว่าภรรยาที่เคารพรักของผมแอคติ้งเก่ง ขนาดนกสินจัยยังอาย "
ป้าบ!
" คุณปกรณ์!. . ยังจะมาล้อเล่นอีก. . ฉันลุ้นจริงๆ นะดูสิหัวใจฉันยังเต้นแรงไม่หยุดเลย.. แล้วเมื่อกี้ฉันก็ไม่ได้แอคติ้งด้วย ฉันพูดออกมาจากใจจริงๆ เถอะค่ะ " ใบหน้าสวยหวานแม้จะไม่มีคราบน้ำตามากมายเมื่อครู่แต่หากยังคงเหลือร่องรอยแห่งความเจ็บปวดและรู้สึกผิดให้เห็นฝ่ามือเล็กแต่หากนักแน่นตีแขนสามีไปหนึ่งฉาดอย่างหมั่นไส้พร้อมแจกค้อนให้วงใหญ่ก่อนจะหันกลับไปแอบมองภาพตรงหน้าอย่างเพ้อๆ ที่เจ้าลูกชายตัวดียังคงตะกองกอดลูกสะใภ้เอาไว้แนบอกไม่ยอมห่างผ่านช่องกระจกที่บานประตูห้อง
" กลัวหลานไม่มีพ่อ แล้วไม่กลัวหลานกำพร้าย่าเหรอคุณหญิง.. คุณทำผมเกร็งแทนเลย "
" อย่าว่าแต่คุณลุงเลยครับผมก็ลุ้นตะคริวแทบกินแนะ " เสียงหวานติดแหบเอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างสุภาพเมื่อเห็นคุณปู่คุณย่ามือใหม่ดูเหมือนจะหยอกล้อกันเสียเริ่มบานปลาย
" เห็นมั้ยหนูพียังลุ้นเหมือนฉันเลย . . ฉันไม่คุยกับคุณแล้วไปดูตาหนูกันดีกว่าหนูพีแล้วเดี๋ยวเราค่อยไปชอปปิ้งให้ตาหนูกัน "
" ดีเหมือนกันครับคุณหญิงป้า.. ปล่อยให้พ่อแม่เขาคุยกันสองต่อสองเผื่อน้องกันต์จะมีน้องอีกสักคนสองคน "
" หนูพีพูดถูกใจป้ามากเลยลูก.. เราไปกันดีกว่าจ้ะ " ใบหน้าสวยหวานแจกค้อนวงใหญ่ให้กับสามีก่อนจะระบายยิ้มให้กับเพื่อนรักของลูกสะใภ้ที่กว่าจะคุยเคลียร์กันถึงเหตุผลที่ทำให้เกิดเรื่องราวมากมายจนเข้าใจกันทุกฝ่ายก็ทำเอาทั้งคุณปกรณ์เกียรติและติณณภพต้องปวดหัวในความทิฐิแรงของทั้งคู่ แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี ก่อนที่ทั้งคู่จะจูงมือกันเดินออกไปอย่างหน้าตาเฉยซ้ำยังคุยกันกระหนุงกระหนิงตลอดทางเดินจนทั้งคู่เดินหายเข้าลิฟท์ไป โดยทิ้งให้สองร่างสูงใหญ่ต่างวัยมองตากันปริบ ๆ อย่างงง ๆ
" . . เอ่อ. . คุณลุงครับไม่ทราบว่าสองคนนั่นเขาญาติดีกันตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ "
" นั่นหน่ะสิ .. สงสัยตั้งแต่จับมือกันลุ้นคู่เอกเขาง้อขอคืนดีกันนั่นแหละมั้ง .. "
" 55 นั่นสินะครับ. . ผมว่าเราตามคู่นั่นไปดีกว่าท่าทางมีของให้หิ้วให้ขนอีกบานเลย "
" ป่ะ. .งั้นก็ไปกันเถอะ " ใบหน้าคมคายกลั้วหัวเราะในลำคออย่างมีมาดก่อนจะตบบ่าสูตินารีแพทย์มือฉมังเบาๆ แล้วก้าวเดินออกไปอย่างมั่นคงและน้อมรับชะตากรรมที่ไม่ต้องเสียเวลาเดาให้ยากว่าจะต้องรับศึกหนักอะไรต่อจากนี้
THE END. . .จบแล้ววว.. อย่างที่บอกมันแปลงมาจากฟิคสั้น.. ไม่ต้องตกใจว่าทำไมเรื่องมันสั้นนะคะ.. 
แต่จะมี Special part ตามมาแน่นอนค่ะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามนะคะ 