พี่โหดครับ มารักกับผมไหม?
ตอนที่31 นี่หรือคือของขวัญวันเกิด?
"ทำไมไม่อยู่ฉลองวันเกิดก่อนวะ"
เฮียวาดถามพลางยกกระเป๋าเสื้อผ้าผมยัดใส่ท้ายรถ
"ไม่ล่ะ ไม่ชอบบรรยากาศวันเกิดเท่าไหร่ แล้วก็เบื่อแล้วด้วย ไม่มีอะไรทำ"
ผมตอบทีเล่นทีจริง
"เมื่อก่อนล่ะอยู่แบบไหนก็อยู่ได้ พอไม่มีไอ้ซุสคนเดียวทำเหมือนโลกจะมืด"
"เลิกเหน็บกูเหอะเฮีย มึงไม่มีความรักจะไปรู้อะไร เอาน่า ยังไงก็ไม่มีใครแทนที่มึงอยู่แล้ว รักเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือขอตังค์"
ผมฉีกยิ้มกว้างพร้อมแบมือขอตังค์ไอ้เฮียอย่างปากว่าจริงๆ
"เอ้านี่ พอไหม? กลับบ้านดีๆ ถึงแล้วโทรมานะ น่าเสียดาย วันนี้วันเกิดมึงแท้ๆ"
อีเฮียบ่นอุบ ผมยิ้มกว้างโชว์เขี้ยวก่อนจะชูสองนิ้วกวนตีนมันไป
"ก็มันช่วยไม่ได้ มะรืนก็เปิดเทอมแล้วนี่ เอาน่า ยังไงมันก็แค่วันเกิด คนคลอดกูเขายังไม่สนใจเลย"
"มึงก็พูดซะน่าสงสาร แล้วถ้าจะตัดผม ก็บอกกูนะ เดี๋ยวตัดให้"
มันพูดแล้วลูบผมยาวๆของผมอย่างเบามือ
"รู้แล้ว อยากตัดอยู่อะ แม่งตุ๊ดโคตร แต่เหมือนพี่ซุสไม่อยากให้ตัด ยังไงเดี๋ยวบอกละกัน"
ผมพูดก่อนจะเขย่งเท้าเพื่อหอมแก้มเฮีย มันกลอกตาบนอย่างหมันไส้แต่ก็ยิ้มออกมา
"รักกันนานๆนะมึง ใครรับไม่ได้ กูรับได้"
มันลูบหัวผมเบาๆพร้อมกับรอยยิ้มบางๆ แม่งเอ๊ย อีเฮียของกูหล่อชนะเลิศ แดกขาดทุกคน
"เฮีย มึงมีไรก็บอกกูนะเว้ย มึงรักมึงเป็นห่วงกูมากเท่าไหร่ อยากให้มึงรู้ ว่ากูไม่ได้รู้สึกน้อยไปกว่ามึงเลย รักมึงโคตร ไปละ"
ผมพูดจบก็รีบขึ้นรถตู้มาทันที คิดถึงเฮียก็ส่วนหนึ่ง แต่คิดถึงอีกคนมากกว่าเนี้ยดิเรื่องใหญ่ กอดเจ้าพุดซ่าไว้เพื่อเป็นตัวแทนของอีกคนที่ผมกำลังเดินทางไปหา พุดซ่าคือใคร? เอ้า ลูกน้อยหอยสังข์ ตุ๊กตากากๆราคาเกือบ600ที่พี่ซุสเพียรพยายามปาลูกโป่งให้ผมแต่ไม่สำเร็จไง(จะพูดซ้ำเติมกูเพื่อ?:เทพซุส) ชื่อมันไม่ได้เพี้ยนมาจากคำว่าพุทรานะ มันมาจากชื่อผมกับชื่อพี่ซุสรวมกันไง พุดซ่า ออกจะน่ารัก
ความทรมาณที่ทนนั่งรถตั้งหลายชั่วโมง ในที่สุดก็ถึงสักที (กูเหนื่อยโว้ยยยยยยย) ผมขอบคุณคุณลุงขับรถแล้วให้เงินไว้พักที่โรงแรมใกล้ๆและเติมน้ำมันกลับ อยากจะให้พักด้วยกันอยู่หรอก แต่ผมต้องมาที่คอนโดพี่ซุสนี่นา
ผมกดโทรหาพี่ซุสเมื่อยืนอยู่หน้าคอนโดที่คุ้นเคย และยามคนเดิมที่คุ้นตา(ด้วยมือถือของเขาเอง ทำไมกูหน้าด้านจัง ใช้มือถือคนอื่นเฉย)
ทำไมไม่รับโทรศัพท์วะ! อย่างน่าเซ็งเพราะพี่ซุสแม่งไม่รับโทรศัพท์ คงกำลังอาบน้ำ......
แล้วใครจะมาเปิดประตูให้กูล่ะนี่ ผมกดโทรหาพี่ซุสอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
[อือ]
"พี่ซุส ทำไรอยู่วะไม่รับสาย ผมโทรหาพี่เป็นสิบครั้งแล้วมั้ง"
[มึงโทรมาได้ยังไง?]
"โทรได้ดิครับ เห็นผมใช้โทรศัพท์เครื่องแพงของพี่ไม่เป็นหรือไง"
[ที่บ้านมึงมีสัญญาณตั้งแต่เมื่อไหร่]
"ยังไม่มีเลย"
ที่บ้านผมเวลาจะโทรศัพท์แม่งต้องต่อสายห่าอะไรไม่รู้เยอะแยะเลยครับ ไม่งั้นก็ต้องเข้าตัวเมืองถึงจะโทรศัพท์ได้
[แล้วมึงโทรมาได้ยังไง?]
"ก็ตอนนี้ผมไม่ได้อยู่ที่บ้าน.....ผมอยู่หน้าคอนโดพี่อะ"
['เคร้ง!' มึง......อยู่ไหนนะ?]
"ผมอยู่หน้าคอนโดพี่ พี่เป็นไรอะ ผมได้ยินเสียงของหล่น"
[ใครสั่งให้มึงมา!!!]
ผมชะงักกับน้ำเสียงไม่พอใจของพี่ซุส
"พี่ซุสเป็นไร"
ผมถามเสียงหวิว รู้สึกใจหายทั้งๆที่มั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
[เปล่า เอ่อ......ไปกินข้าวนอกบ้านกันไหม?]
"ก็แล้วแต่ แต่ผมต้องเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าก่อนอะ เดี๋ยวผมขึ้นไป"
[ผ้า! มึงอย่าขึ้นมาตอนนี้]
ผมเริ่มหน้าบึ้งแล้วครับ ใจคอไม่ดี ไอ้พี่ซุสแม่งหมกใครไว้บนคอนโดหรือเปล่า ไหนบอกกลับมาทำธุระ ห่า ที่แท้มาหาแฟนตัวจริงหรือไง บอกกันตรงๆก็ได้ปะวะ
"ไม่เป็นไรพี่ ถ้าไม่สะดวก ผมกลับหอก็ได้"
พูดแค่นั้นก็กดวางสายไป หันหลังกลับเพื่อไปรอแท็กซี่ แต่แถวนี้แท็กซี่ไม่ค่อยว่างเลยแฮะ
"ผ้า! ไปไหน"
มือของผมโดนกระตุกอย่างแรง ผมหันไปมองพี่ซุสแล้วอยู่ๆก็ร้องไห้ออกมา
"ฮึก ผมขอโทษ"
ไม่รู้ว่าผิดอะไร ไม่รู้ว่าทำไมต้องขอโทษ แต่ผมไม่อยากให้เราสองคนทะเลาะกัน
"ขอโทษอะไร?"
พี่ซุสถาม ผมส่ายหัวไปมากับอกพี่เขา
"ไม่รู้อะ"
"โอ๋ๆ"
มือใหญ่ตบหลังผมปุๆ เหมือนพ่อกับลูกมากกว่าแฟนกันอีก
"ก็พี่เหมือนมีความลับนี่ ซ่อนใครไว้หรือเปล่า"
ถ้าซ่อนไว้ก็บอกเลยว่า เป็นเมียน้อยไม่เอา เป็นเมียหลวงไม่เอา มีเมียแล้วไม่เอา(โจ๊ะๆ) พี่ซุสทำหน้าแบบ แม่งเอ๊ยยยย ก่อนจะมองหน้าผมตรงๆ
"ไม่มีอะไร"
"ไม่มีอะไรก็ให้ผมขึ้นไปสิ"
พี่ซุสมองหน้าผมนิ่งๆอีกครั้ง ก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดหน้าแล้วถอนหายใจยาว.........และเงียบอีกครั้ง
"โอเค โอเค"
พี่เขายกมือยอมแพ้ หน้าตาแกดูหนักใจยังไงชอบกล ซ่อนอะไรไว้แน่ๆ ชัวร์เลยอีหรอบนี้
"ไม่มีอะไรแน่นะ"
ผมถามย้ำเพื่อความแน่ใจ พี่ซุสหันหน้าหนีไม่สบตากับผม แถมยังเอามือปิดหน้าด้วย
"ก็ไม่มีไง"
พิรุธมาเต็มเลยทีนี้ พี่ซุสโกหกไม่เก่งเลยจริงๆ หรือไม่ก็ไม่เคยโกหก เราเข้ามาในลิฟต์ กดชั้น22เรียบร้อย ผมยืนจ้องหน้าพี่ซุสที่มีเหงื่อไหลประปราย
"เหงื่อออกทำไม?"
"ก็มันร้อน"
ครับ พี่ซุสขี้ร้อนมันไม่แปลกหรอก แต่แปลกตรงที่พี่แกรีบตอบผมนี่สิ ปกติเป็นไหมล่ะ?
ติ๊ง......
พอลิฟต์เปิด เจ้าของห้องก็รีบเดินนำออกไปอย่างเร่งรีบ เขายืนอยู่หน้าประตูห้อง2201 ทำท่ายึกๆยักๆเหมือนจะเปิดประตูก็ไม่เปิด หันมามองหน้าผมพักนึง สุดท้ายเขาก็ไขประตู กดระหัสแล้วดันบานประตูออก
ผมก้าวเท้าเข้าห้องพี่ซุสอย่างถือวิสาสะ มองรอบห้องนั่งเล่นก็ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่พอเดินเข้ามาในห้องครัวนี่สิ ขุนพระ!!! นี่มันเกิดสงครามอะไรอย่างนั้นหรอ? เละยิ่งกว่าเละ
"นี่อะไรเนี้ยพี่"
ผมหันไปถามเจ้าของห้อง พี่แกทำเป็นยืนเม้มปาก ขมวดคิ้วทำหน้าเครียด
"ขโมยมั้ง"
ครับ เป็นการโกหกที่กวนส้นตีนคนฟังอย่างแรงกล้า
"เอาดีๆ ขโมยที่ไหนมันจะปีนมาชั้น22 แล้วนั่นอะไร"
ผมชี้ไปที่อะไรสักอย่างที่รูปร่างหน้าตาคล้ายคลึงกับเค้ก แต่ไม่แน่ใจว่ามันคือเค้กหรือไม่ หันมองหน้าพี่ซุสเพื่อเอาคำตอบ ปรากฎพี่ท่านหน้าแดงไปถึงหู แต่ยังรักษาความนิ่งเอาไว้ได้เป็นอย่างดี นี่เขินหรือเปล่าวะ?
"อะไรเนี้ยพี่ซุส"
ผมถามเหมือนจะขำ แต่กลั้นเอาไว้ เจ้าของชื่อยังยืนแดกจุดไม่ยอมตอบ จนผมต้องจ้องหน้ากดดันจนในที่สุดเขาก็เผยคำตอบออกมา
"เค้ก"
คำเดียวสั้นๆและแผ่วมาก ผมขมวดคิ้วหันกลับไปดูไอ้สิ่งนั้นอีกที อ่อ นั่นเค้กสินะ แอ็บสแตร็กส์มากครับ
"ของผมหรอ"
ผมชี้หน้าตัวเอง พี่ซุสขมวดคิ้วแถมหันหน้าหนี ไม่รู้จะเขินหรือจะขำดีว่ะ
"พี่ซุสแม่งน่ารักว่ะ"
ผมพูดพลางหัวเราะ พี่ซุสแม่งกระฟัดกระเฟียดฟึดฟัดเดินตึงๆกลับไปนั่งที่โซฟาอย่างเสียเซลฟ์ หึหึ กูขำ ผมเดินเข้าไปดูเค้กเละๆใกล้ๆ มองไปรอบๆห้องครัวก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมาทันใด ถ้าแป้งมันจะตลบไปทั้งห้องแบบนี้ ไข่นี่แตกกระจัดกระจายปนกันทั้งเปลือกทั้งเนื้อ และครีมที่เละเต็มเคาน์เตอร์
อยากจะบ่นคนทำอยู่หรอก แต่ร่องรอยทุกอย่างมันบ่งบอกถึงความตั้งใจของเขาขนาดไหนก็รู้สึกขำขึ้นมา
ผมหยิบเค้กหน้าตาพิลึกนั่นขึ้น ก่อนจะเดินออกไปหาคนทำ พี่ซุสมองหน้าผมแป๊บนึง ก่อนจะหันหน้ากลับไปมองทีวี แอบเห็นนะว่าหูแดง
"ไหนล่ะเทียน?"
ผมถามหาเทียน วางเค้กไว้บนโต๊ะหน้าทีวี ก่อนจะนั่งลงข้างๆคนตัวใหญ่
"เทียนอะไร"
"ก็เค้กวันเกิด ต้องมีเทียนสิ"
พี่ซุสหันกลับมามองหน้าผมแล้วแสร้งเลิกคิ้วแปลกใจ
"ใครเกิด?"
เป็นการโกหกที่ไม่เนียนแต่ผมไม่คัดค้านครับ ไม่ใช่ไม่เนียนธรรมดานะครับ โคตรไม่เนียนเลย ดูก็รู้ว่าพี่เขาทำเค้กนี่เพราะวันนี้วันเกิดผม
"อ่าว ไม่ใช่วันเกิดพี่หรอ?"
ผมตีหน้าซื่อ พี่ซุสทำหน้าบึ้งทันที แอบขำครับ หึหึ
"เอาไปทิ้งไป"
พี่เขาตวัดเสียง
"จริงสิ วันนี้วันเกิดผมนี่นา มีเค้กพอดีเลย ถ้ามีเทียนก็คงจะเจ๋งเนอะ"
ผมแกล้งกระเซ้า พี่ซุสจิ๊ปากทำรำคาญ ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องนอนพักนึงก็เดินออกมาพร้อมเทียนหนึ่งกล่อง เขาโยนให้ผมแล้วนั่งลงกอดอกท่าเดิม
"เอ้า กูเห็นมันวางในห้อง"
ครับ ผมเชื่อครับพี่ซุส เป็นเทียนไร้เจ้าของที่บังเอิญมากๆเพราะมันเป็นเลข2และเลข0 20อายุผมเอง
"โห พอดี๊ พอดีอะ จุดเทียนดีกว่า พี่ซุสร้องเพลงให้หน่อย"
ทันทีที่พูดจบพี่ซุสก็มองผมตาขวาง อุย! ลืมไปว่าพี่ซุสไม่ชอบร้องเพลง
"แฮปปี้เบิร์ธเดย์"
พี่แกพูดสั้นๆก่อนจะเป่าเทียนทีเดียวดับ..............คือ........วันเกิดผม?
แล้ว.............
"พี่เป่าเทียนของผมทำไมอะ"
ผมโวย ตัวต้นเหตุนั่งยิ้มอย่างสะใจที่แกล้งผมได้ ผมหน้างอเป็นปลาทูแม่กลองเลยครับ ยังไม่ได้อธิฐานเลย อะไรวะ!!
"พี่ซุสแม่งขี้แกล้งว่ะ ยังไม่ได้ขอพรเลย"
"ขอทำไม"
"เอ้า ไม่รู้อะดิ วันเกิดเราเราจะขออะไรก็ได้1อย่าง"
ถึงแม้ว่ามันจะไม่เป็นความจริง แต่ถ้าทำแล้วสบายใจก็ทำไปเหอะนะ
"ขอกูก็ได้"
นี่ก็ใจป๋าซะจริง หมันไส้
"ขอบ้าน"
"ได้"
"ขอรถ"
"ได้"
"ขอเงินสด50ล้าน"
"ได้"
"ขอเป็นพระเอกในหัวใจเธอ"
"............"
"ได้ไหมเล่าเออ หากเธอหัวใจยังว่าง~~~~~"
พี่ซุสทำหน้าแบบ เฮ้อ ทำเอาผมขำก๊ากอย่างอดใจไม่ไหว ขนาดทำหน้าเซ็งยังน่ารัก ก๊ากกกกกกก
"เป็นนางเอกไม่ได้หรอ?"
เอิ่ป ผมชะงักเมื่ออีกฝ่ายหันกลับมาทำหน้าหน่อมแน่มใส่ เป็นครั้งแรกจริงๆครับที่เห็นพี่แกทำหน้าแบบนี้ ผมนี่แพ้ใจเลย ~เก่งมาจากไหน ก็แพ้หัวใจอย่างเธออออ~~~
ชาบูเทพซุส ชาบู ชาบู
"พี่ซุส"
ผมเรียกพี่เขาเบาๆ อีกคนไม่ได้ขานรับแต่ยักคิ้วหนึ่งทีเป็นสัญญาณว่าได้ยินจ้า
"อย่าทำแบบนี้กับคนอื่นนะ ผมหวง"
ฮิ้ววววววว เล่นเองตบเอง มีความสุขโว้ยยยยยยย
"แดกกูเข้าไปได้ กูอนุญาต"
ครับ พี่ซุสแม่งเดี๋ยวหัดเล่นมุก เกลียดนัก เกลียดตัวเองแม่งเสือกภูมิต้านทานต่ำ
"งั้นขอกินหน่อย"
ผมพูดพลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ แถมพิงพี่เขาจนแทบฝังตัว เอาสิ วันนี้ต้องมีคนเสียตัวแหละวะ
"ไม่"
เงิบ! พี่ซุสแม่งเบี่ยงตัวหนีผ้าเฉยเลย ผมนี่ถอยกลับมาตั้งหลักแทบไม่ทัน อายยันเล็บอะกู ปวดใจจจ
"โห่ ไรวะ"
ผมบ่นแก้เขิน เกาหัวกิ๊กๆ
"หึ บอกรักกูก่อน"
คนตัวใหญ่ก้มลงมากระซิบข้างหูผมเบาๆ เรียกเลือดไปรวมบนหน้าผมอีกแล้วครับ ถึงผมจะหน้าด้าน แต่ก็เขินเป็นนะเออ จะให้บอกรักพี่ซุสเนี้ยนะ โถ่ ใครจะไปกล้า
"ผ้ารักเทพซุสนะครับ รักมากกกกกกก"
อุ๊ย เขินจังเลย คิคิ ขอบิดแป๊บ บรืนนนน บรืน!! (นั่นมันบิดมอเตอร์ไซค์ โว๊ะ!)
"รักมากแค่ไหน"
โห่ มีต่อปากต่อคำอีก เทพซุสเป็นผู้ชายฟรุ้งฟริ้งนะบอกเลย
"รักมากเท่าดาวพฤหัสเลย"
มีวงแหวนด้วย 555...
"มึงรู้ไหมจักรวาลใหญ่แค่ไหน"
พี่ซุสพูดจริงจัง
"แค่ไหนอะ"
"ไม่รู้"
"โห่วววว"
"แต่กูว่าใหญ่พอๆกับความรักของเราเลยว่ะ"
อ้วกกกกกกกก!!!! กูอยากจะวิ่งออกจากห้องไปต่อยพี่ยามที่ยอมปล่อยให้กูเข้ามาที่นี่เพียงเพราะกระทิงแดง กูเขินเลยทำร้ายคนอื่น จบ!!
แต่คำว่าเรา ฟังแล้วอบอุ๊น อบอุ่น อยากอยู่ด้วยกันไปนานๆเลย อยากเป็นเราแบบนี้ไปนานๆ เคยรักใครมากๆจนแปลกใจไหมครับ แบบว่า ทำไมกูถึงรักเขาวะ มันเริ่มจากตรงไหนที่กูมีความรู้สึกแบบนี้ ผมก็เคยสงสัยนะ แต่พอมาคิดๆดู ทำไมต้องไปอยากรู้จุดเริ่มต้นล่ะครับ ทำไมเราถึงไม่คิดถึงวันพรุ่งนี้
พรุ่งนี้เราจะอยู่ด้วยกันอย่างนี้อีก พรุ่งนี้เราจะกอดกันอีก วันต่อๆไปเราก็จะบอกรักกันแบบนี้ กว่าจะได้รักกันเราผ่านอะไรมาบ้าง วันต่อๆไปเราก็จะอยู่ข้างกันแบบนี้ โถ่ กูซึ้ง ซบอกพี่ซุสร้องไห้แป๊บ คึคึ(เนียนสัดๆ)
"รักจัง"
ผมพูดเบาๆ
"จังไหน?"
ดูพี่แกยอกย้อน บอกแล้วถ้าคบกับผ้า ผ้าจะพาพี่ไปในทางที่ดีกว่า
"จังไรคนนี้ไง"
ผั๊วะ
แอ่ก โดนฝ่ามือพิฆาตซัดเต็มหลัง โคตรคุ้มค่า!! พี่ซุสดันผมมานั่งดีๆ(สงสัยหนักรึเปล่า)จ้องหน้าผมนิ่งๆ ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนหน้ามาใกล้ๆกับหน้าผม
"กูก็รักเหี้ยตัวนี้เหมือนกัน"
ครับ เป็นคำบอกรักที่สุดจะหวานมากมาย ขอความกรุณาจากทุกคนโปรดอย่าอ้วกและอย่าอิจฉาผมด้วย หึหึ(T T)
"อื้อ ไหนของขวัญวันเกิดผมล่ะ"
ผมพูดทวงไปงั้นๆ เพราะไม่ต้องการอะไรจากพี่เขาอยู่แล้ว พี่ซุสไล่จูบไปตามปลายคาง ก่อนจะวกมาจูบปากผมอีกทีแล้วถอนออก
"ตัวกูไง"
ป๊าดดดดดด ป๊าด ป๊าด ป๊าด ฆ่าฉันให้ตายซะยังดีกว่า โอ้ยแม่งอย่างเขินอะครับ คิดดูดิ ผมสามารถทำให้ฉลามกลายเป็นโลมาได้นะเว้ย น่ารักง่า พี่ซุสละมุนจนผ้านี่ละลาย
"ก็ได้ จะรับไว้แล้วกัน"
"จะรับไว้หรอ? นี่รุ่นลิมิเต็ดนะ มีคนเดียวบนโลก"
"หึหึ พี่ซุสแม่งเป็นของขวัญวันเกิดที่โคตรจะมีค่าเลยครับ จะดูแลรักษาอย่างดีไม่แบ่งใครเล่นด้วย"
พี่ซุสยิ้มพอใจกับคำตอบ ก่อนจะขยับมาจูบต้นคอผมเบาๆแล้วกระซิบข้างหูว่า
"กูไม่เล่นกับใครอยู่แล้ว"
ผ้าเขินมากครับตอนนี้ บอกเลยโคตรคุ้มค่าชีวิตที่ผ่านเลยมาจนอายุอานามปาไป20เต็มๆ
ฝ่ามือใหญ่อันแสนอบอุ่นแนบลงที่แก้มผมเบาๆ ก่อนใบหน้าหล่อเหล่าจะซุกลงตรงซอกคอ ไล่เล็มตั้งหูยันไหปลาร้า แทะจนผมเองก็ไม่แน่ใจว่าเนื้อหายเกลี้ยงไปหมดหรือยัง
อะๆ โอเค ผมจะไม่เล่าแบบกวนเท้าในช่วงสำคัญแบบนี้แล้วกัน ริมฝีปากสีซีดยังคงแทะเล็มบริเวณคอ คาง และปากผมเป็นพักๆ ผมก็ยอมนอนนิ่งๆให้พี่มันแทะเนอะ เอาเลยพี่ซุส ถ้าพี่หิว จะกินผ้าก็ได้
"อึก....เดี๋ยวๆ ถ้าพี่กินคอผม ผมก็ตายสิครับ กินแขนผมแทนได้ไหม?"
ผมพูดพลางยื่นแขนออกไปให้พี่เขา เชิญกินครับพี่
"หึ..."
พี่ซุสหัวเราะขำ แต่ผมคนที่จะโดนกินนี่สิ หัวเราะไม่ออก กลัวเจ็บอะ
"งือ แต่พี่ซุสกินผมเบาๆนะ ผมกลัวเจ็บ"
"ฮ่าๆๆๆ มึงพูดนี่รู้ความหมายของคำว่า 'กิน' หรือเปล่า"
"อ่าวพี่ ถามแบบนี้คิดว่าผมโง่หรอ กินก็คือกินสิ กินแบบ งั่มๆ แดกอะ ใช่ปะ?"
"หึหึ ใช่ มึงไม่โง่หรอก"
พี่เขากระซิบชิดหูของผม ก่อนงับลงที่ติ่งหูของผม ผมสะดุ้งเพราะความรู้สึกแปลกๆ มันเหมือนจั๊กจี๋ก็ไม่ใช่ เอาเป็นว่าไม่ได้รู้สึกแย่แล้วกัน