ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ  (อ่าน 35256 ครั้ง)

ออฟไลน์ himecrazy

  • Alon€ In th€ DarK
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
 :m23:  :m23: :call: :o11: o1 o1 :m5: :m5:

ขอฦโทฝา นะคะ  ที่หายไปนานไม่มาลงตอนพิเศษให้สักที  คราวนี้มาลงตอนพิเศษต่อให้จนจบเลย ค่ะ

ราตรีประดับดาว
ตอนพิเศษ : ยัยละมุดของตาก้อง ?

ทิวานอนอ่านหนังสือโดยนอนราบหนุนศีรษะกับท่อนขาของสนธยา ใบหน้ามนแย้มยิ้มน้อย ๆ เมื่ออ่านหนังสือเล่มที่มานะพยายามสั่งซื้อมาจากต่างประเทศ เป็นหนังสือเกี่ยวกับการวิเคราะห์โครงสร้างพืชแต่ละชนิดซึ่งในหนังสือนั้นเป็นข้อมูลความรู้ที่ทิวาจำเป็นต้องใช้ในแล็ปอยู่ทุกวัน ๆ

สนธยามองใบหน้าของคนอารมณ์ดีนอนอ่านหนังสือโดยหนุนตักเขาอย่างเอ็นดู มองจากด้านบน...ขนตาเป็นแพสีน้ำตาลอ่อนมองดูงามกว่าสมัยเจ้าตัวยังอายุเพียงรุ่น ๆ อีกทั้งเครื่องหน้าของคนที่โตเต็มที่นั้นหมดจดงดงามจนคนมองยังต้องเหลียวหลังจนบางทีสนธยาเองยังต้อง ‘ระงับ’ อารมณ์อย่างเต็มที่เวลาที่ทิวาไปที่โรงพยาบาลแล้วโดนทั้งหมอ ทั้งพยาบาลมองตามจนตาเยิ้ม...

“ ไม่เอา...ไม่เล่นด้วยแล้ว โกรธแล้ว...ก้องนิสัยไม่ดี ”

เสียงเด็กหญิงโวยวายพร้อม ๆ กับเสียงวิ่งตึง ๆ ตรงมาทำให้ทั้งทิวาและสนธยาต้องเหลียวไปมอง ‘ลูกสาว’ ที่วิ่งหนีเข้าไปในห้องครัว ซึ่งถ้าทำอย่างนั้นก็เป็นอันรู้กันว่า...เข้าไปร้องไห้

พอเด็กหญิงวิ่งหายเข้าไปในครัว ทิวาก็ตั้งท่าจะลุกขึ้นไปหาลูก แต่สนธยากลับยิ้มบาง ๆ รั้งไว้ไม่ให้ตามไป...ทำเอาทิวาต้องส่งสายตาเป็นเชิงถามอย่างไม่เข้าใจ จนสนธยาโบ้ยใบ้ให้หันไปดูเด็กชายที่วิ่งตามเข้ามาติด ๆ

ตาก้องวิ่งตึง ๆ ตามเข้ามาก่อนทำท่าจะเลี้ยวเข้าไปในครัว แต่ทว่าเมื่อใบหน้าของเด็กชายโผล่เข้าไปก็กลับถูกห่อขนมปังฟาร์มเฮ้าส์โยนโปะเข้าหน้าแบบพอดิบพอดี

“ อย่าร้องสิ...ละมุด ”

เด็กชายพยายามเยี่ยมหน้ามองเด็กหญิงที่ร้องไห้สะอื้นอยู่ในห้องครัวโดยไม่กล้าโผล่เข้าไปทั้งตัว โดยตาก้องได้แต่ถือห่อขนมปังฟาร์มเฮาส์ทำหน้าหมอง ๆ พลางแก้ตัวอ่อย ๆ

“ ที่ก้องเรียกตัวเองว่าละมุด...นั่นก้องไม่ได้ล้อให้อายนะ แต่ก้องเห็นว่า...เรียกแล้วน่ารักดี เอ่อ...ก้องไม่ให้คนอื่นเรียกหรอกนะ ใครเรียกนอกจากก้องนะ...ก้องจะไปไล่เตะมันให้หมดเลยดีไหม? ”

ฟังเด็ก ๆ ง้อกันเองก็น่ารักดี...สนธยายิ้มให้คนตัวเล็กกว่าก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม ๆ หวาน ๆ แต่มีแววเย้า

“ เด็ก ๆ เล่นกัน...เดี๋ยวก็ง้อกันเองละ เรากำกับดูอยู่เฉย ๆ ก็พอแล้วละนะ อีกอย่างลูกเราก็ไม่ใช่เด็กโมโหร้ายอะไร ก็แค่งอน ๆ ที่โดนล้อเอาเท่านั้นเอง ดูเอาสิ...ขนาดจะหาของปาออกมานั่นยังอุตส่าห์หาขนมปังแผ่นของชอบตาก้องมาปาใส่เจ้าตัวอีกนะดูสิ หึ หึ หึ ”

“ ถึงจะรู้ว่าทั้งลูกเราแล้วก็ทั้งตาก้องจะไม่ใช่เด็กโมโหร้าย แต่...ถ้าเราช่วยกันคุยและอธิบายกับลูกจะดีกว่าไหม ? ”

สนธยายิ้มพราย...เพราะทิวาเป็นคนอ่อนโยน บางทีการกระทบกระทั่งกันของคนรอบข้างมักมีผลกับเจ้าตัวอยู่เสมอ เพราะสังเกตได้ว่าเมื่อคนรอบตัวทะเลาะทุ่มเถียงกันทิวาจะเริ่มทำสีหน้าเหมือนไม่ค่อยสบายใจ แล้วยิ่งเกิดการขึ้นเสียงทำลายข้าวของก็จะยิ่งเพิ่มความเครียดให้กับคนตัวเล็กอีกเป็นเท่าตัว

“ ไม่เป็นไร...ก็ดูกันก่อนสิ เราเป็นพ่อเป็นแม่มีหน้าที่ปกป้องดูแลเขาก็จริง แต่บางทีก็ให้เขารู้จักแก้ปัญหากันเองบ้างน่าจะดีกว่านะวา อีกอย่างลูกเราก็15 แล้วนะ การที่แกไม่ได้ไปไหนแล้วก็เล่นแต่กับตาก้องน่ะก็ไม่ได้หมายความว่าอายุของแกจะลดลงเหลือเท่าตาก้องนะวา บางที...ยัยมุจก็ควรจะต้องคิดอะไรเป็นผู้ใหญ่แล้วก็ให้อภัยในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ บ้าง ตาก้องก็ 8 ขวบแล้ว...ไม่ใช่ว่าจะยังเล็กแล้วพูดกันไม่รู้เรื่อง ”

ถึงจะกังวล...แต่สุดท้ายทิวาก็ค่อยผ่อนลมหายใจลง สนธยาจึงยิ้มเอาใจก่อนจะโอบเอวคนตัวเล็กกอดไว้เบา ๆ ชวนกันยืนแอบฟัง...เด็ก ๆ เค้าง้อกันบ้าง

“ ทำไมต้องเรียกว่าละมุด ? มุจอายนะก้อง...ไปพูดให้น้ำหวานได้ยินทำไม ? ”

เด็กชายเริ่มหน้าเสีย...นึกได้ว่าน้ำหวานเป็นเด็กนิสัยไม่ดีเรื่องการพูดมากคนหนึ่ง เผลอ ๆ พรุ่งนี้เด็กแถวบ้านได้ล้อเรื่องนี้กันหมดซะละมั้ง

“ ก้องขอโทษ...อย่าโกรธนะ ก้องไม่ให้คนอื่นพูดเด็ดขาดเลย ถ้า...ถ้าใครเรียกละมุดนอกจากก้องนะ ก้องจะไปเตะมันเองดีไหม? ”

เด็กชายทำท่าเอาจริงเอาจัง ในขณะที่เด็กหญิงค่อยหยุดร้องไห้...หันมาพูดหน้างอ ๆ

“ น้ำหวานชอบล้อคนอื่น...เป็นคนนิสัยไม่ดี แต่ก้องที่ไปเตะคนอื่นก็คงแย่กว่าน่ะแหละ เพราะงั้นไม่ต้องหรอก...ใครจะเรียกยังงั้นก็ปล่อยเค้าไป ”

ผู้ปกครองสองคนที่แอบฟังอยู่ค่อยถอนใจอย่างโล่งอก เมื่อเด็กหญิงตอบเหมือนจะปลงได้...ว่าล้อคนอื่นกับไล่เตะคนอื่นก็เลวร้ายไม่แพ้กัน เพราะงั้นอย่าทำจะดีกว่า อย่างที่พ่อสนว่า...ลมปากไม่ทำหัวใครแตก ใครอยากพูดก็ปล่อยมันไป เดี๋ยวมันเหนื่อย...มันเก๊าะเลิกพูดเอง

“ โล่งอกไปเนาะพี่สน... ”

ทิวาทำท่าถอนใจก่อนที่คนตัวโตจะก้มลงหอมแก้มคนในอ้อมแขนทีหนึ่งด้วยความมันเขียว

“ ลูกเราน่ะงอนอาการคล้าย ๆ คนแถวนี้แหละ...งอนแบบน่ารัก ๆ ดีนะ หึ หึ หึ เห็นท่าพี่ต้องสอนวิชาง้อให้ตาก้องมั่งแล้ว...ไม่งั้นเดี๋ยวพองอนหนีกันเข้าครัวหมดเดี๋ยวจะง้อกันไม่ถูก ”

พูดจบก็ไม่รอให้โดนคนตัวเล็กออกอาการงอน สนธยาก็ก้มลงซุกหน้าลงกับไหล่บางก่อนจะพูดอ้อนเบา ๆ

“ แต่...ตอนนี้พี่อยากงอแงมั่ง ไม่รู้วาจะง้อมั่งไหม ”

“ ไม่ง้อ!! ”

ทิวาตอบทันที...ทำเอาสนธยาหน้าจ๋อย ก่อนที่ทิวาจะดึงแก้มคนตัวโตกว่าจนสนธยาร้องออกมาเบา ๆ และพอคนตัวสูงคลายวงแขนปั๊บ...ทิวาก็เดินหนีไปในบ้านเสียเฉย ทำให้สนธยาต้องตามไปง้อพร้อมกับร้องบอกเสียงอ่อน ๆ

“ วาใจร้าย... ”

// ก็เรื่องอะไรจะง้อ...ง้อทีไรก็โดนตะล่อมทุกที ขืนยอมง่าย ๆ ก็เหมือนโยนปลาย่างใส่ปากแมวตัวโตปะไรล่ะ!!//


Share This Topic To FaceBook

ออฟไลน์ himecrazy

  • Alon€ In th€ DarK
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #1 เมื่อ19-06-2008 21:11:27 »

ราตรีประดับดาว
ตอนพิเศษ : ยัยละมุดของตาก้อง ? 2 / แมวกับปลาย่างตากลม [จบ]

สนธยาพยายามนัวเนีย ง้อคนตัวบางสารพัดเพราะทิวาทำหน้างอไม่พูดไม่จาจนเขารู้สึกใจหาย มือหนา ๆ ลูบไหล่บาง ๆ ก่อนจะทำหน้าจ๋อย ๆ เมื่อเลื่อนมือขึ้นไล้ที่ต้นคอขาวก็กลับถูกมือบางตีเพียะเข้าให้เหมือนตอนจะแอบหยิบกับข้าวกินไม่มีผิด

“ วาจ๋า...อย่างอนเลย พี่ไม่ได้ตั้งใจนะ...แค่แหย่เล่นเฉย ๆ ”

“ ก็ว่าเด็กงอนแล้วน่ารักไม่ใช่เหรอ ? แล้วมาว่าวางอนเหมือนเด็ก...ชอบนักเลยจะงอนข้ามปีเลยดีไหมจ๊ะ? ”

คนตัวเล็กพูดพลางเค้นยิ้มจนหวาน หวาน...จนสนธยายังเหงื่อตก เพราะลงแบบนี้สงสัยจะต้องง้อกันนานแน่ ๆ ถ้าพูดผิดหูไปอีกทีนึงละก็ ดังนั้นคนตัวสูงเลยตัดสินใจโอบคนตัวบางกอดเบา ๆ ในขณะที่คนโดนกอดทำท่าฮึดฮัดใส่

// โธ่วา...ฮึดฮัดแต่ไหงหน้าแดงอย่างงี้ละเจ้าตัวยุ่ง //

สนธยายิ้มกริ่มเมื่อเห็นคนดิ้น...งอนป่องนั้นบัดนี้แก้มขาว ๆ เริ่มซับสีระเรื่อเจือจาง

“ เอ...หนังไทยเค้าชอบทำไงนะ เวลานางเอกงอนแบบนี้ต้องอุ้มใช่ไหม? ”

พูดจบ...คนตัวสูงก็ช้อนคนตัวบางที่เคยดิ้นขึ้นอุ้ม ก่อนจะยิ้มจนดวงตาพรายระยับอย่างคนขี้เล่น ในขณะที่ทิวาหน้าเรื่อ...โวยวายลั่น ๆ

“ ทะลึ่ง!! พี่สนวางวาลงเลยนะ....เดี๋ยวหล่นนนนน ปล่อยยยยยย วากลัวร่วงงงงง!! ”

พออุ้มพาเดินฉับ ๆ รวดเร็ว...คนโดนอุ้มก็โวยวายพลางเกาะไหล่หนาแน่นเข้า สนธยาสนุกสนานเพราะรู้มาแต่ไหนแต่ไรว่าวาไม่ชอบให้อุ้มท่าเจ้าสาว ไม่ได้อายอย่างเดียวหรอกนะ...แต่เจ้าตัวบางนี่น่ะกลัวตกมากกว่าอะไรอื่นซะอีก!!

แล้วไอ้อุ้มนางเอกเนี่ย...ทำให้ทิวายิ่งหน้าแดง เพราะเมื่อวานนั่งกินข้าวหน้าทีวี ละครหลังข่าวกำลังได้ที่...พระเอกอุ้มนางเอกเข้าห้องไป ทิวาจำได้...ว่ามุจลินทร์กลายเป็นเจ้าหนูจาไม ถามว่าพระเอกอุ้มนางเอกไปไหน? ไปทำอะไร ? เท่านั้นแหละคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องรีบแก้ตัวพัลวันจนตอนนั้นทิวาถึงกับบ่นออกมาว่า

// ละครหลังข่าวนี่ไม่เหมาะกับยัยหนูนะพี่สน เดี๋ยวนี้เนื้อหามันโจ่งแจ้งพิกล //

แต่คนตัวโตกลับหัวเราะขำ....เย้าเข้าให้

// พี่ว่าพี่หวงวา...คิด ๆ ว่าตัวเองอาการเหมือนคนหัวโบราณแล้วนา แต่พี่ว่าวาเองน่าจะหัวโบราณกว่าพี่ซะอีกนะ หึ ๆๆ //


คนตัวเล็กกอดคอคนอุ้มแน่น มือสั่นไปหมดเพราะกลัวหล่นไปก้นกระแทก ทิวาก็ไม่รู้ว่าทำไมกลัวนัก รู้แต่ว่าตัวเองไม่กลัวความสูงนะ...แต่เวลาโดนอุ้มจะกลัวหล่นเหลือเกินโดยไม่มีสาเหตุ

“ ไม่เอาแล้ว...ปล่อยวานะ เดี๋ยวหล่น ”

จากโวยวายก็ชักเสียงอ่อน เหมือนคนกลัวจนไม่มีแรงจะห้าม สนธยาที่เริ่มสงสารคนที่ทั้งตัวทั้งไหล่สะท้านจึงค่อยวางคนตัวบางลงบนเตียงนอน พยายามลูบหน้ามน ๆ เช็ดเหงื่อให้ หลังจากที่เห็นว่าทิวากลัวเสียจนเหงื่อเย็น ๆ ผุดขึ้นมาจนไรผมเปียกชื้นไปหมด

“ พี่อุ้มระวังอยู่นะวา ทำไมกลัวนักหื๊อ ? หรือว่าไม่ใว้ใจพี่ ? ”

“ ก็...วาไม่รู้ วาไม่ได้กลัวความสูงนะจ๊ะพี่สน แต่ไม่รู้ทำไมกลัวเวลาคนอุ้มนัก ”

ทิวาพยายามแก้ตัว...สนธยายิ้มอ่อน ๆ ก่อนจะโอบไหล่บางโยกเล่นเป็นการปลอบ ริมฝีปากคมปัดบาง ๆ ลงบนแก้มนิ่ม แต่ดูเหมือนปลาตากลมจะรู้ทันแมวตัวโตซะแล้วว่าจะตะล่อม...ชิมปลาย่าง

“ เอ๊ะ ๆ...ถอยเลยพี่สน วายังไม่หายงอนหรอกนะ ”

คนตัวเล็กทำท่าจะลุกหนี แต่แมวตัวเท่าตึกกลับไวกว่า...คว้าแขนปลาตัวเล็กแล้วตะปบลงกับเตียงนอนทันที

“ เฮ้อ...ทำไมดื้อนักฮื้อ ว่าง้อก็ง้อแล้วยังใจร้ายงอนต่อได้อีก คนเค้าอุตส่าห์ปลอบทั้งทีทำไมไม่เห็นจะดีใจเลย รึว่าเขิน ?...เดี๋ยวจะได้แถมให้อีกสักฟอดสองฟอด ”

แมวตัวเท่าตึกบ่น...ในขณะที่น้องปลาทองทิวานอนทำตาปริบ ๆ เกิดอาการงงขนานใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่สน...ถึงได้มาแนวใหม่เหมือนเด็กวัยรุ่นขนาดนี้

“ ไม่อ๊าววววว มาฟอดอะไรกัน วาเจ็บนะพี่สน...วันนี้ไม่โกนหนวดนี่นา เจ็บนะจะบอกให้ ”

ทิวาพยายามดันเต็มที่เมื่อสนธยาจะก้มลงหอมเข้าอีกทีหนึ่ง คนตัวเล็กค่อนข้างแปลกใจ...ไม่รู้พี่สนนึกสนุกอะไรขึ้นมา อันที่จริงสนธยาก็เป็นแบบนี้อยู่บ่อย ๆ เดี๋ยวนิ่ง...เดี๋ยวก็เกิดขี้เล่นขึ้นมาอย่างร้ายกาจ เผลอ ๆ บางทีแกล้งเข้าให้นิ่ม ๆ อีกด้วย

ยิ่งบ่น...คนตัวสูงที่อารมณ์ขี้เล่นกำเริบก็ยิ้มหวานอมกระแสกรุ่มกริ่ม ก่อนที่เจ้าตัวจะดุนปลายจมูกใส่แก้มนิ่มเบา ๆ ไล้เกลี่ยไปมาอย่างอ่อนโยน น้ำเสียงที่เอ่ยตอบมีรอยหวานละมุนเหมือนพยายามกลบเกลื่อนแววตาหยอกเย้านั้น

“ งั้นอ้อน...ไม่เอาหอมแก้มอย่างเดียว ขอมากกว่านั้นดีไหม ? ”

ทิวาทำหน้าเหวอ...ไม่รู้จะทำอย่างไรในขณะที่ใบหน้ามน ๆ เริ่มขึ้นเสีจัดขึ้นทุกขณะ จะพูดก็พูดไม่ออก...ในใจคิดอย่างจนปัญญาว่าสงสัยวันนี้ปลาเสร็จแมวอีกแล้วเป็นแน่แท้


“ วาตัวหอมนะ...เนื้อก็นุ่มจัง ตัวอุ่นด้วย บางทีพี่ก็นึกเหมือนกันว่าเราน่ะเข้าตำราเหมือนแมวพึ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ เลยนะ หึ หึ หึ ”

คนตัวสูงแตะริมฝีปากคมลงกับแก้มนิ่มแผ่วเบา ก่อนที่มือหนาจะค่อย ๆ สอดเข้าใต้เสื้อของคนตัวเล็กกว่าอย่างช้า ๆ พาสัมผัสอุ่นจากปลายนิ้วเข้าล่วงล้ำจนความรู้สึกของทิวาสั่นไหว

ริมฝีปากของสนธยาวนเวียนอยู่กับริมฝีปากบางด้วยการแตะอ่อนโยนสลับกับการเกลี่ยแก้มใสด้วยนิ้วมืออย่างช้า ๆ รอยยิ้มอ่นโยนปลอบคนตัวเล็กเสียจนอาการงอนหายไปไหนก็ไม่รู้จนหมด

“ พี่สน...นี่ยังกลางวันอยู่เลยนะ...เอ่อ ”

อาการอาย ๆ พูดไปซุกหน้าลงกับอกสนธยาไปด้วยนั่นยิ่งทำให้สนธยานึกเอ็นดู มืออุ่น ๆ ค่อย ๆ เกลี่ยเส้นผมที่ปรกลงบนหน้าผากมน ๆ อย่างช้า ๆ พร้อมรอยยิ้มอ่อนบาง...เจือจางอยู่ในใบหน้าคมนั้น

“ กลางวันก็ดี...พี่จะได้มองวาให้ชัด ๆไงล่ะ ”

“ พูดอะไรอย่างนั้นละพี่สน...ทะลึ่งใหญ่แล้วนี่พี่!! ”

สนธยาหัวเราะ...เดี๋ยวนี้โดนทิวาหาว่าทะลึ่งบ่อย ๆ เพราะแค่อยากเย้าเล่น ๆ เท่านั้นเอง แต่ถึงจะไม่อยากให้ชีวิตคู่ที่อยู่กันมานานหลายปีมันจืดชืดลงแต่บางทีก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมถึงได้ชอบแกล้งคนตัวเล็กเล่นเสียนักก็ไม่รู้

“ วา...อยู่กันมาหลายปีแล้วเคยเบื่อพี่บ้างไหม ? ”

ทิวามองสบดวงตาคมกริบอย่างไม่เข้าใจ ก่อนที่จะยกมือนุ่มขึ้นไล้ใบหน้าคมเข้มของคนที่คร่อมทับตนเองอยู่อย่างเบามือ ดวงตาคมพิจารณาใบหน้าของคนที่รักแล้วยิ้มอ่อนหวานให้...ดวงตากลมแลดูหวานเชื่อมจนใจสนธยาสั่น

“ จะให้เบื่อตรงไหนละจ๊ะ พี่สนก็ยังเป็นพี่สนคนดีของวาเหมือนเมื่อวาน...เหมือนเมื่อวันก่อน ไม่มีอะไรที่พี่สนเปลี่ยนไปเลยสักอย่างเดียว สิ่งที่ตาเห็น...ไม่มีประโยชน์โภชน์ผลใดเท่าสิ่งที่หัวใจมองเห็นหรอกจ้ะ และวาไม่เคยมองพี่สนด้วยตาสักที...พี่สนหล่อจ้ะ แต่ว่าวามองเห็นความอบอุ่นอ่อนโยนในหัวใจพี่สนมากกว่าหน้าตาหล่อ ๆ นี่ซะอีกนะ...รู้ไหมจ๊ะ ? ”

// โอ้หัวใจ...เกิดมา 2 ครั้งก็ยังได้มาเจอกัน นี่หรือที่เขาเรียก...ครึ่งหนึ่งของหัวใจ //

“ ปากหวานจริงเจ้าบัวน้อย ตอนแรกใจอ่อนว่าจะไม่แกล้งแล้วนะ...แต่พูดแบบนี้ควรปล่อยไหมเนี่ยหื้อ ? ”

สนธยาก้มลงแนบริมฝีปากลงกับริมฝีปากบางกว่าอย่างแสนรัก ปลายลิ้นล่วงล้ำชิมรสหวาน แต่ในขณะที่ปลายนิ้วทำท่าจะรั้งชายเสื้อ...เลิกขึ้นสูงนั้นเสียงวิ่งตึงตังก็ดังระรัวมาแต่ไกล พร้อม ๆ กับเสียงร้องของ 2 เถาจอมแสบที่บัดนี้อารมณ์ดีร้องตะโกนเสียงแจ๋ว

“ พ่อสน....แม่วา....ตาก้องชวนไปซื้อไอติมกันค่ะ อยู่ไหนกันเอ่ย ? ”

สนธยาทำหน้าอึ้ง...ในขณะที่ทิวาหัวเราะออกมาอย่างขำ ๆ ...หัวเราะจนน้ำตาไหล

// แม๊!! แมวจะกินปลาย่าง...แบบนี้เก๊าะอดน่ะซี //

คนเป็นพ่อเป็นแม่ค่อย ๆ ลุกขึ้นก่อนจะช่วยกันจัดเสื้อผ้าของอีกฝ่ายพร้อม ๆ กับรอยยิ้มขบขัน...ก่อนที่คนตัวสูง จะจูงมือคนตัวบางเดินออกจากห้องไปพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน และประกายตาอบอุ่น

ความรัก...อีกกี่ปีก็ยังจักยืนนาน หากรักด้วยหัวใจเกี่ยวไว้ด้วยกัน...รักนั้นจะผูกพันแน่นหนักด้วยหัวใจ

“ พี่ก็รักเราด้วยหัวใจเหมือนกัน...แต่อันที่จริงแล้วก็ปฏิเสธไม่ไหวหรอกนะว่าวาไม่น่ารักน่ะ เอาเป็นว่ารักไปหมด...ก็แล้วกัน ”

คนตัวสูงก้มลงกระซิบ...จนคนฟังอายม้วน หนาแดงขึ้นทันที สนธยาชอบเหลือเกินเวลาทิวาเขิน...เพราะมองดูน่ารักจริง ๆ เอ...หรือเพราะอย่างนี้หนอ เขาถึงได้ขยันแหย่วาหนักขึ้นทุก ๆ ที

สนธยากุมมือทิวา...กลางวันกับกลางคืนอยู่ยงร่วมกัน เย็นยามควรเย็น...อุ่นยามควรอุ่น และรัก...ด้วยหัวใจ รัก...ให้ยาวนานเหมือนที่ทุก ๆ วันก็มีกลางวันและกลางคืนอย่างละครึ่ง...ไม่เคยขาดไปเลยสักวัน

// วันนี้.................................................แสนสุดยินดีพระจันทร์วันเพ็ญ
ขอเชิญสายใจเจ้าไปนั่งเล่น.................ลมพัดเย็นเย็นหอมกลิ่นมาลี

หอมดอกราตรี...................................แม้ไม่สดสีหอมดีน่าดม
เหมือนงามน้ำใจแม้ไม่ขำคม...............กิริยาน่าชมสมใจจริงเอย

ชมแต่ดวงเดือน.................................ที่ไหนจะเหมือนได้ชมหน้าน้อง
พี่อยู่แดเดียวเปลี่ยวใจหม่นหมอง.........เจ้าอย่าขุ่นข้องจงได้เมตตา

หอมดอกชำมะนาด.............................กลิ่นไม่ฉูดฉาดแต่หอมยวนใจ
เหมือนน้ำใจดีปราณีปราศรัย...............ผูกจิตสนิทได้ให้รักจริงเอย //

เขาชอบราตรีประดับดาว...เวลาร้องแล้วรู้สึกอบอุ่นมิหนาวหัวใจ อ่อนหวานซาบซ่านในรัก มิหาญหักเอาได้โดยง่าย เหมือนดอกไม้แม้ริดมาด้วยกำลังฉันท์ใด ดอกไม้ที่ได้มาย่อมชอกช้ำแลไปไม่งามตา

โอ้รักอ่อนหวาน...จะไปหาได้จากไหนถ้าไม่ใช้จากเจ้า สนธยาค่อยข้างแน่ใจ...คนเราต่างคนต่างก็เป็นในสิ่งที่ตัวเองเป็น การที่จะหาใครมาแทนกันไม่ใช่เรื่องเป็นไปได้เลย ดังนั้นเขาจึงแน่ใจว่า...หากขาดวาไป เขาคงไม่อาจหาใครมาแทนได้อีก

// โอ้ รักเอยรักไหนจะได้เท่า...โอ้รักเราดั่งแสงเงาไม่พรากจากกัน //

[จบ]


ออฟไลน์ himecrazy

  • Alon€ In th€ DarK
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #2 เมื่อ19-06-2008 21:13:26 »

ราตรีประดับดาว
ตอนพิเศษ : ท้องฟ้าระหว่างเรา

บ้านหลังเล็ก ๆ ที่มีสวนเล็ก ๆ หน้าบ้าน รายล้อมด้วยต้นไม้มากมายที่เด็กหลายคนอาจไม่ค่อยเคยคุ้น...แต่เจ้าของบ้านทั้ง 2 ก็ค่อย ๆ พยายามหามาปลูกไว้ในบ้านมากมาย สนธยาปลูกต้นไม้เพื่อว่าให้บรรยากาศครั้งเมื่อสมัยก่อนตอนที่เคยอยู่ในฝันยังจะแหมือนเคยมีและเคยเป็นอยู่

ดอกบัวหลวงสีขาวถูกเด็ดมาวางไว้บนพานทองเหลือง พร้อมกับบางกลีบที่ถูกเด็ดออกวางไว้บนพานนั้นส่งให้กลิ่นหอมอ่อนหวานยิ่งกำจายทั่วห้องนอนกว้าง และนั่นยังไม่รวมความหอมหวานของดอกแก้วที่ออกดอกขาวไปทั่วสวนหน้าบ้านสีขาวหลังนี้

ดวงตาคมกริบแหงนมองดวงจันทร์สีนวลตาผ่านบานหน้าต่างซึ่งประดับด้วยผ้าม่านสีขาวลุลายสวยซึ่งบัดนี้สายลมอ่อนบางพาให้ผืนผ้านั้นสะบัดไหวไปมาน้อย ๆ ...มีบ้างที่เนื้อผ้านั้นไล้ลูบมาบนไหล่กว้างของสนธยา คนตัวสูงกระชับผ้าห่มสีครีมขึ้นห่มถึงกลางหลังบอบบางของใครบางคนที่นอนคว่ำซุกหน้ากับหมอนใบโตอยู่เคียงข้าง ชายหนุ่มยิ้ม...อ่อนหวานในประกายตาฉาบรอยสุขเบาบางรื่นเย็น ก่อนที่นิ้วกร้านจะค่อย ๆ ไล้ไปตามผิวเนื้ออ่อน ๆ

สนธยาไล้ปลายนิ้วลงบนแนวกระดูกสันหลังของทิวาน้อยพร้อมรอยยิ้มอ่อนหวาน...หัวใจระลึกเอ็นดูคนตัวบางคนนี้ยาวนานไม่เคยจาง และยิ่งสังเกตได้ชัดว่าแผ่นหลังของคนตัวเล็กแลบอบบางยิ่งนักยามอยู่ใต้แสงนวลของดวงจันทร์ นั่นก็ยิ่งทำให้คนตัวโตยิ่งอยากกอดไว้ตลอดไป

// ราตรีลมบางเบา ลูบไล้ผิวเนื้อเจ้า ที่เฝ้าถนอม...บางทีพี่นี้ก็ยังรู้สึกเหมือนเจ้ามิใช่สิ่งชัดเจนนัก บางคาบบางครานั้นรู้สึกเพียงว่าความสุขเหล่านี้อาจเป็นแค่ฝันไป //

ระหว่างที่สนธยาคิดอยู่ในใจเงียบ ๆ พลางลูบไล้แผ่นหลังบาง ๆ ด้วยมือหนาอันอบอุ่น ทิวาก็ค่อย ๆ ครางอือในลำคอเบา ๆ ก่อนที่จะขยับเข้าหาเจ้าของไหล่หนาพลางเจ้าตัวก็ขยับหน้าซุกเข้ากับอกสนธยาแล้วก็แนบเนื้อนิ่งอยู่เช่นนั้น

กิริยาน่าเอ็นดูนั้นทำเอาสนธยายิ่งอดไม่ได้ ชายหนุ่มโน้มตัวลงแตะริมฝีปากคมที่อุ่นจัดลงบนลำคอขาวนั้น แนบริมฝีปากคมลงแผ่วเบาตรงร่องรอยของกระตูกสันหลังที่ต้นคอ ก่อนที่เจ้าตัวจะเกลี่ยปลายนิ้วปัดเส้นผมนุ่มเพื่อเปิดใบหน้ามน ๆ ที่นอนซบอยู่เพื่อให้แสงจันทร์ได้ชม...ใบหน้าหวานของคนรักเขาเอง

“ อือ...พี่สน ไม่นอนละจ๊ะ ? เดี๋ยวพรุ่งนี้จะลุกไม่ขึ้นเอานะจ๊ะ ”

คนตัวเล็กงัวเงีย บอกเสียงอ่อน ๆ ทั้ง ๆ ที่ดวงตาแทบจะไม่ลืมขึ้นมาเลย...นิ้วมือเล็ก ๆ ค่อย ๆ คว้ามือหนาที่เกลี่ยปลายผมของตนเอามาแนบแก้มนิ่ม ๆ ของตัวเองไว้

“ วาสวย...น่ามอง บางทีพี่ก็เสียดายเวลากลางคืนเพราะอยากมองเธอด้วยแสงนวล ๆ ไปตลอดคืน เธอ...ทำให้พี่หลับไม่ลง ”

สนธยาเอ่ยเบา ๆ ทั้งรอยยิ้ม ก่อนที่จะพบว่าคนตัวเล็กบางค่อย ๆ ลืมตาขึ้นช้า ๆ แม้ยังดูหรี่ปรืออยู่บ้าง...ก่อนที่มือเล็ก ๆ จะประคองวงหน้าคมไว้ด้วยเรียวแรงน้อยนิดตามประสาคนง่วงแสนง่วง จากนั้นเจ้าวาน้อยก็ค่อยโน้มใบหน้าของสนธยาลงพอให้ตนเองแตะจูบได้ที่ริมฝีปากนั้นอย่างพอดิบพอดี

“ ชื่นชมอะไรวานักละพี่...วาก็แค่เด็กงี่เง่างอแงธรรมดา ๆ แต่พี่สนสิ...เคยเป็นเจ้าเป็นนายมาก่อนแถมนิสัยก็ดีแสนดีจนบางทีวานึกว่าตัวเองฝันไป...ที่ได้ความรักจากพี่สนมากมายยังงี้ ”



สนธยาค่อย ๆ หัวเราะเบา...ก่อนจะไล้หลังมือตนบนแก้มเนียนแล้วจึงได้เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงปนอาการกลั้วหัวเราะ แต่หวานล้ำแผ่วเบา

“ อะไรกันละเจ้า...เรื่องราวเหล่านั้นใครจะมารู้ ใครเขาจะมาสนใจ คนอื่นเขาเห็นพี่ไม่ถึงครึ่งที่พี่เป็น...และยิ่งไม่ได้เพียงส่วนเสี้ยวที่วามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างในตัวพี่เลยนะ ” ชายหนุ่มหัวเราะในลำคออีกครั้งก่อนจะเอ่ยต่อ “ ให้พี่มองเห็นตัวให้ครบทุกด้าน แค่นี้พี่ยังมองตัวเองไม่ครบเลย...แต่วาต่างหากเล่า ที่มองเห็นตัวพี่ครบถ้วนหมดสิ้นโดยไม่ต้องเอ่ยอะไรซ้ำอีก แล้วนี่...ลองเป็นขนาดนี้แล้วพี่ยังจะหาใครจะมาแทนที่วาได้เล่า ? ”

คนตัวโตยิ้มหวาน...ในขณะที่คนตัวบางเริ่มตื่นเต็มตา อายม้วนน้อย ๆ ในอ้อมแขนแข็งแรงนั้น เสียงคนเคยง่วงเอ่ยอู้อี้ทั้งที่ยังซบหน้าลงบนอกกว้างเป็นการหลบสายตาคม ๆ นั้น

“ อะไร ๆ พี่ก็ว่าตัววาดี...ตัววางามไปหมด แบบนี้ซักวันวาต้องเสียนิสัยแน่เลยพี่สน ”

“ ว้า...คนรู้ตัวคงไม่มีวันนิสัยเสียได้หรอก เสียดายจัง พี่อยากให้วางอแงใส่แยะ ๆ มั่ง...เวลาวางอนถึงจะนาน ๆ ที แต่วารู้ไหมว่าตัวเองน่ารักมาก ๆ เลยน่ะ ”

สนธยาพูดหน้าตาเฉย...ทำเอาคนที่ซุกหน้าหลบยิ่งไม่กล้าเงยหน้าออกมา ทำให้สนธยายิ่งอยากแกล้ง...พยายามกระเถิบหนีเพื่อที่จะได้ก้มลงมองใบหน้าของคนตัวเล็กให้ได้ แต่พอทิวาคว้าผ้าห่มมาคลุมโปงด้วยความอาย...เท่านั้นแหละเขาก็เลิกแกล้งแล้วเปลี่ยนมาหัวเราะเบา ๆ

“ วา...วาน้อย พี่ขอโทษ...ไม่เอานะ พี่ไม่แกล้งแล้ว...ออกมาเถอะอย่าคลุมโปงเลยเดี๋ยวหายใจไม่ออกนะ ”

คนตัวโตง้อเสียงอ้อน ก่อนจะค่อย ๆ ดึงผ้าห่มออกจากใบหน้าหวานสนิทในหัวใจนั้น ทิวา...ช้อนดวงตาขึ้นมองคนตัวโตขี้แกล้งอย่างช้า ๆ ทั้ง ๆ ที่ใบหน้ามน ๆ นั้นยังซับสีระเรื่อเจือจางแต่ก็ยังพยายามรั้งผ้าห่มพันร่างกายที่เปลือยเปล่าของตนเอาไว้อย่างมิดชิด

“ อย่างอนสิ... ” คนตัวโตพยายามปลอบ ก่อนที่จะโอบไหล่บางไว้หลวม ๆ อย่างเอาใจก่อนจะเอ่ยถาม

“ วา...ห้องฟ้า ‘ระหว่างเรา’ มันใกล้กันนิดเดียวเองนะ แต่...ท้องฟ้า ‘ของเรา’ มันสวยงามและกว้างใหญ่เสมอจริงไหม? ”

สนธยาเอ่ยเสียงอ่อนโยนในขณะที่คนตัวเล็กยิ้มรับ...เอยเบา ๆ พลางยิ้มใสใส่เจ้าของไหล่หนาแล้วมองออกไปนอกหน้าต่าง เปิดหัวใจน้อย ๆ ....ซึมซับความงามในสายลมเย็นอ่อนบาง และแสงสีนวลตานั้น ไปพร้อม ๆ กับที่หัวใจซึมซับความหมายของถ้อยคำที่คนตัวสูงเอ่ยมามาเมื่อครู่นี้

เสียงเล็ก ๆ อ่อนหวานอ่ยแผ่วเบาแค่กระซิบ...เป็นใจความให้ได้ยินพียงแค่สองคน

“ ราตรีของเรา...ท้องฟ้าของเรา ทุกอย่างล้วนนุ่มนวลอ่อนหวานทั้งสิ้น เพราะว่า...ความหมายของท้องฟ้าและความงามของคนสองคนมารวมกัน ดังนั้น...มันจึงต้องงามกว่าปรกติเสมอสิจ๊ะ ”

สนธยาซบใบหน้าลงกับไหล่เล็ก ๆ เหมือนคนหมดเรี่ยวแรง...เพราะคำรักของคนตัวเล็กนั้นพาเอาร่างกายเบาราวกับจะไปล่ปลิวไปตามสายลมได้กระนั้นทีเดียว

“ จริง...จริงแท้แน่แล้วเจ้าบัวน้อย ท้องฟ้า... ‘ ของเรา’ รวมกันจึงงามกว่าแค่เพียงตอนมันเป็น ‘ทอ้งฟ้าของฉัน’ หรือว่า ‘ท้องฟ้าของเธอ’ ”

[จบ]



ขอบคุณทุกท่านที่ตามอ่านนะค่ะ   ขอขอบคุณแทนผู้แต่ง ค่ะ

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #3 เมื่อ19-06-2008 22:41:36 »

ตอนปกติยังไม่เคยอ่านเลย ตอนพิเศษมาแหละ ไม่ทรายจะไปหาอ่านตอนแรกได้ที่ไหน :m13:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #4 เมื่อ19-06-2008 23:08:57 »

ตอนปกติ ดูในห้องนิยายโพสจนจบแล้วค่ะ ที่กระทู้นี้

http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=3022.0

ออฟไลน์ oaw_eang

  • Global Moderator
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2122/-586
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #5 เมื่อ20-06-2008 15:39:59 »

เข้ามาทักทายตามประสาจ้า  :m1:

ออฟไลน์ himecrazy

  • Alon€ In th€ DarK
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 176
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-0
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #6 เมื่อ20-06-2008 17:21:39 »

 o15 o14 o1 :m5: :pig4:
ขอบคุณ THIP นะค่ะ ที่ช่วยตอบแทนเราค่ะ
ขอบคุณ oaw_eang ที่ยังติดตามอ่านนะค่ะ   :o8: :o8: :m15:

ออฟไลน์ uknowvry

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4438
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +284/-6
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #7 เมื่อ20-06-2008 17:50:17 »

โอ้โห ขอบคุณอย่างสูงที่เอามาให้อ่านอีกครั้งครับ
เรื่องนี้นี่อ่านกี่ทีกี่ทีก็ยังหวาน ละมุน เสมอ :o8:

toeyz12

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #8 เมื่อ03-10-2008 15:08:22 »

ชอบเรื่องนี้ จัง  อยากอ่านต่อเรื่อยๆเลย ใช้คำพูดเพราะดีอ่ะ  :m1:

ออฟไลน์ kunkai

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3734
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +229/-2
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #9 เมื่อ02-04-2009 23:10:54 »

เรื่องนี้อ่านทีไร
เหมือนกลับไปอยู่ในสมัยคุณปู่ยังหนุ่ม :-[
หวานละมุน  เย็นชื่นใจบอกไม่ถูก
เป็นเรื่องที่มีภาษาสวยงาม
ถูกใจจริงๆค้าบ :impress2:
ขอบคุณคนแต่งและคนโพสค้าบ
ที่นำนิยายดีๆที่หาอ่านยากมาให้ได้อ่านกัน
:pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
« ตอบ #9 เมื่อ: 02-04-2009 23:10:54 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






thunkunn

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #10 เมื่อ02-05-2009 18:02:12 »

 :3123:ชอบมากครับ :3123:

Letm3diE

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #11 เมื่อ08-09-2009 23:48:44 »

ชอบเรื่องนี้จังสนุกดี

แต่อ่านไปบางช่วงเหมือนหนังย้อนยุคเลย

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #12 เมื่อ11-09-2009 14:49:29 »

ตอนพิเศษก็ยังงดงามทั้งการใช้ภาษาและเนื้อเรื่อง
ขอบคุณมากๆนะคะทั้งคุณคนแต่งและคนโพสค่ะ

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #13 เมื่อ11-09-2009 15:18:10 »

อ่านตอนปกติจบมาจากเวปไหนจำไม่ได้มาเจอ ตอนพิเศษในเล้า  :impress2: ยังน่าอ่านเหมือนเดิม ขอบคุณจ้า  :pig4:

poffy

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #14 เมื่อ12-09-2009 23:14:30 »

ตามมาจากตอนปกติค่ะ
ขอบคุณผู้โพสต์และผู้แต่งอีกเช่นเคยค่ะ
ยังคงงดงามทั้งทางด้านภาษาด้วยโวหาร ร้อยแก้ว ร้อยกรองอีกเช่นเคยค่ะ
แต่ว่าก็แอบมีความน่ารัก กุ๊กกิ๊กของคู่รักอยู่ด้วย
ตอนพิเศษนี่ ยอมรับค่ะ ว่าอ่านไป ยิ้มไปด้วย
น่ารักทั้งรุ่นพ่อ แม่ และ รุ่นเล็กอย่างหนูมุจ และ ตาก้อง
น่ารักมากๆเลยล่ะค่ะ เยี่ยมมากๆ  o13
ขอบคุณอีกครั้งสำหรับนิยายดีมากๆเรื่องนี้ค่ะ  :pig4:
สำหรับผู้แต่ง และ ผู้โพสต์ค่ะ  :L2: :L1: :L2:

sundaysundae

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #15 เมื่อ19-02-2010 12:25:39 »

กรี๊ดกร๊าดดดดดมากเลยอ่ะ
คนแต่งแต่งได้หวานมากเลยอ่ะ ชอบมากเลยค่ะ
ใช้ภาษาได้หวานละมุนมาก อ่านไปรู้สึกถึงความนุ่มนวลระหว่างเจ้าวาน้อย...กับพี่สนเลย
เหมือนว่าวาจะโตขึ้นด้วยอ่ะ(ในตอนพิเศษ)แอบรักน้องละมุดน่ะเนี่ย คงจะโตเป็นสาวสวยทีเดียว
เพราะสวยเหมือนแม่วา(เอิ๊ก)
ที่ชอบมากคือเพลงที่นำมาประกอบ ฟังหลายรอบแล้ว เพลงเพราะมาก
สุดท้ายก็ขอบคุณคนแต่งสำหรับเรื่องดี
และขอบคุณคนโพสที่ทำให้เราได้อ่านเรื่องนี้
.
.
.
ขอบพระคุณมากค่ะ

ออฟไลน์ hewlett

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 560
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +57/-3
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #16 เมื่อ22-03-2010 15:33:56 »

เพิ่งรู้ว่ามีตอนพิเศษด้วย ขอบคุณน้า
เรื่องนี่เป็นเรื่องอะไรที่อ่านแล้วน่ารัก ไม่ร้อนรุ่มดี
 :o8:

ออฟไลน์ honeymic

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-0
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #17 เมื่อ05-08-2010 15:47:54 »

อ่านไปฟังเพลงไทยเดิมไปเข้าบรรยากาศมากเลยค่ะ

taem2love

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #18 เมื่อ06-08-2010 05:34:44 »

มาอ่านกี่ทีก็ยังประทับใจ รักกันทุกชาติไปค่ะ

ออฟไลน์ phai

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 406
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-1
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #19 เมื่อ02-11-2010 00:59:22 »

ชอบมากค่ะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

สนุกสุดๆเรยยยยยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
« ตอบ #19 เมื่อ: 02-11-2010 00:59:22 »





Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #20 เมื่อ06-11-2010 12:03:52 »

กลับมาอ่านอีกรอบทั้งสองภาค
ซึ้งเหมือนเดิม :impress2:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 08-11-2010 01:49:10 โดย Little Devil »

ออฟไลน์ Artemis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +600/-14
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #21 เมื่อ06-11-2010 14:50:30 »

ผู้แต่งคือสุดยอดของนักประพันธ์แนวบอยเลิฟ
ขอคาราวะด้วยใจจริง เล่นเอาเราซึ้งจนน้ำตาซึม

 :o8:  :-[  :impress2:

ขอบคุณค่ะ

OhJa

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #22 เมื่อ07-11-2010 11:32:57 »

หวานจับใจ :o8:

ออฟไลน์ roseen

  • เก็บความทรงจำที่ดีๆของวันวาน เพราะมันคือกำลังใจของวันนี้
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8646
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +947/-16
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #23 เมื่อ07-11-2010 11:58:01 »

 :L1:อบอุ่นไปด้วยไอรัก

ออฟไลน์ หมวยลำเค็ญ

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 863
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-1
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #24 เมื่อ09-11-2010 11:47:14 »

คู่รักหวานเย็น แห่งปี :-[ :กอด1:

zombiepe

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #25 เมื่อ19-12-2010 00:16:06 »

เป็นนิยายที่อ่านแล้วยิ้มได้ตลอดจริงๆค่ะ
อาจจะเเปลกที่มาอ่านาตอนพิเศษก่อนตอนปกติ 555
เดี๋ยวไปอ่านตอนธรรมดาก่อนนะค่ะ
อ่านไปถึงตอนพี่สนจะไปเรียนต่อเอง

fay_13

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #26 เมื่อ20-12-2010 23:33:28 »

อ๊า......หวานนนนนนนนนนนนนนนนนนนน :-[

อ่านไปยิ้มไปจริงๆเรื่องนี้ ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆนะคะ  :กอด1:

V

  • บุคคลทั่วไป
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #27 เมื่อ21-12-2010 02:37:32 »

ภาษายังคงสวยเหมือนเดิมเลยค่ะ

 :L2:

หวานที่สุดเลยยย :o8:

ออฟไลน์ Cressent

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 35
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #28 เมื่อ04-03-2011 21:54:32 »

น่ารักกกกก  :-[

ออฟไลน์ Maprang_W

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 643
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-2
Re: ราตรีประดับดาว : ตอนพิเศษ
«ตอบ #29 เมื่อ12-05-2011 18:34:41 »

ได้อ่านตอนพิเศษแล้วดีใจจัง เย่ๆๆๆ
น่ารักเหมือนเคยนะพี่สนกับน้องวา

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด