ชัดเจน
“ข้าวเช้าเอาเป็นอะไรดีครับ” คำถามประจำวันถูกถามมาจากคนที่เพิ่งจะกลับมาจากออกกำลังกายในตอนเช้า
หมอนั่งเอนหลังอยู่ตรงโซฟาหันกลับมาตอบด้วยคำตอบปกติไม่ต่างกัน
“ข้าวต้มหมูสับ”
“ครับ” พายตอบรับก่อนจะเดินเข้าครัวเล็กๆ แบบฝรั่ง เป็นเคาท์เตอร์บาร์กั้นระหว่างที่กินข้าว กับห้องนั่งเล่น พายถึงมองเห็นอีกคนได้ชัด
หมอมองผู้ชายตัวใหญ่ที่ตื่นเช้าไปวิ่งหรือไม่ก็เล่นเซิร์ฟทุกเช้า มองแผ่นหลังเปลือยที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ แล้วหันกลับมามองกระดาษและหนังสือของตัวเองที่กองไว้เต็มโต๊ะหน้าทีวีต่อ โดยปล่อยให้อีกคนทำหน้าที่ของตัวเองไป
หน้าที่...โจ้ที่ไม่รู้ว่าพวกเขากลายมาเป็นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
หมอยิ้มให้กับหนังสือตรงหน้าและเริ่มทำหน้าที่ของตัวเองบ้าง
.
.
.
“หมอจะกินเลยไหม”
หลังจากที่พายพยายามเรียกชื่อหมอโจ้ก็แล้ว จิงโจ้ก็แล้ว เพิ่งนึกได้ว่าสำหรับเขาสรรพนามของ ’หมอ’ คงเหมาะที่สุดเพราะเรียกแบบนี้มาตลอด แล้วอีกอย่างคือเรียกชื่อจิงโจ้ทีไรโดนหมอแกล้งทุกที
“ไปอาบน้ำก่อน เดี๋ยวรอกินพร้อมกัน” หมอบอกพลางบิดขี้เกียจ
ได้เวลาละสายตาออกจากงานวิจัยตัวเองที่ทำมันได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว เหลือแต่เก็บรายละเอียดบางส่วน ซึ่งเป็นงานหนักพอตัวทีเดียว
“ครับ งั้นรอก่อนนะ” พ่อครัวจำเป็นตอบรับก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป
ไม่นานนักก็ออกมาพร้อมกับกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวอย่างเคย แต่อยากน้อยก็ไม่ชุ่มเหงื่อแล้ว
“ไม่เช็ดตัวเช็ดผมให้แห้งก่อนวะ” หมอลุกขึ้นหยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กที่พาดอยู่ตรงราวไม้ข้างกันมาให้
แทนที่จะรับไว้พายกลับยิ้มล้อเลียนอีกคน
“เช็ดให้ด้วยสิ”
หมอมองด้วยสายตาดุๆ อย่างเคย ก่อนจะเดินไปจัดโต๊ะอาหารรอโดยไม่ได้พูดอะไรต่อ
พายมองตามหูแดงๆ ของอีกคนแล้วก็ขำ
โจ้คิดว่า …ลงตัว… คงเป็นคำจำกัดความที่ดี่สุดของความสัมพันธ์ของพวกเขาในขณะนี้
“ช่วงนี้เป็นไงบ้าง” หมอถามขึ้นเมื่อผู้ร่วมโต๊ะอาหารเช้านั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้ามกัน
“อัดเพลงเรื่อยๆ รออัลบั้มใหม่ ไว้ว่างๆ หมอไปดูกับผมนะ”
“ถ้าว่างนะ…” โจ้ตอบพลางตักอาหารเช้าเข้าปาก
ในตอนนี้พวกเขาต่างทำงานของตนโดยที่ไม่มีจุดร่วมกันแม้แต่น้อย พายออกไปอัดเพลงที่เมืองใหญ่ใกล้ๆ กัน รับงานเบื้องหลังบ้าง หรือไม่ก็อยู่บ้านแต่งเพลงตามเรื่อง ส่วนหมอโจ้กำลังอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายของการเรียน เข้าแล็บไปด้วยทำวิจัยไปด้วย เวลาที่ได้เจอกันส่วนใหญ่จึงเป็นแค่ตอนเช้าของบางวันหรืออาจจะนานกว่านั้นหน่อยถ้าเป็นวันหยุดอย่างวันนี้
“เดือนหน้าผมมีเล่นที่ผับเมืองข้างๆ ถ้าหมอว่างผมอยากให้ไป”
คำว่าอยากให้ไปในความหมายของพายคือหมอต้องไป ดังนั้นโจ้จึงไม่ได้ตอบรับหรือปฏิเสธอะไรมากไปกว่านั้น
“ดีนะ ได้ทำอะไรที่ตัวเองชอบ” หมอบอกเมื่อเห็นท่าทางอีกคนมีความสุขกับการทำงาน
“แล้วหมอไม่ได้ชอบเป็นหมอเหรอ” พายเงยหน้าถามคนที่นั่งยิ้มอยู่ตรงข้ามกัน
“ก็ไม่ได้เกลียด อยู่กับมันได้ แต่ก็ไม่ได้รัก” โจ้ตอบตามความจริง
บนโลกใบนี้มีไม่กี่คนหรอกที่ได้ทำงานที่ตัวเองรักแล้วทำได้ดี เพราะฉะนั้นหมอถึงได้คิดว่าคนตรงหน้านี่น่าอิจฉาอยู่ไม่น้อย ส่วนตัวโจ้เองถึงจะไม่ได้ชอบการเป็นหมอมากนัก แต่ก็เชื่อว่าการเป็นหมอเหมาะกับตัวเองที่สุดแล้ว
เขาสามารถทำอาชีพนี้ได้ดี มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่ตัวเองแบบที่ไม่มีใครแย้งได้
“แค่ไม่ได้เกลียด เหมือนที่อยู่กับผมใช่ไหม”
หมอเหลือบมองผู้ชายตัวใหญ่ที่ก้มลงกลับไปจัดการกับอาหารของตัวเอง หมอรู้ว่าที่เห็นพายพูดยิ้มๆ อยู่แบบนั้น บางทีอีกคนคิดมากอยู่เหมือนกัน
ถึงหมอจะคิดว่ามันลงตัวแล้ว...แต่มันคงยังไม่มากพอ
.
.
.
พวกเขาอยู่ด้วยกันมาปีกว่า แต่ไม่เคยบอกรัก ไม่เคยมีอะไรกันเกินเลยกว่าครั้งที่ไปเที่ยวเมื่อสองเดือนที่แล้ว โจ้รู้ว่าความสัมพันธ์อันราบเรียบแบบนี้มันพัฒนาไปช้าเหลือเกิน หมอก็ยังยืนยันเหมือนเดิมว่าอยากจะอยู่กันไปเรื่อยๆ แบบนี้
แต่อีกคนคงกำลังอยากจะพยายามขยับความสัมพันธ์นี้ขึ้นไปอีก
ข้าวต้มหมูวันนี้ค่อนข้างจะจืดชืดเพราะเกลือในครัวหมด แต่ก็ไม่มีใครปริปากออกมา หมอกินข้าวต่อไปเรื่อยๆ และเริ่มคิดได้ว่าความลงตัวของพวกเขาแตกต่างกับความชัดเจนอยู่มาก
หลังจากอาหารเช้ามื้อนั้นหมอปลีกตัวไปอาบน้ำบ้างหลังจากหมกอยู่ในห้องเกือบสองวันโดยไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเข้าห้องน้ำ อ่านหนังสือ ทำงานวิจัยและกินข้าววนเวียนอยู่ซ้ำๆ
เมื่อเดินออกมาจากในห้องน้ำแล้วจึงพบว่าอีกคนกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้ว
เขามองหน้าจอคอมพิวเตอร์ที่เปิดไว้ก่อนจะมองปฏิทินข้างตัวที่บ่งบอกว่าวันนี้เป็นวันหยุด ทั้งเหลือเวลาอีกมากมายที่จะทำงานต่อ หมอจึงเลือกที่จะเดินไปปิดคอมพิวเตอร์
เขาถือวิสาสะเปิดประตูห้องชุดของอีกคนเข้ามาด้วยคีย์การ์ดสำรองที่ตัวเองมี เพราะไม่ได้เข้ามาที่นี่บ่อยนัก โทนห้องสีมืดจึงทำให้แปลกใจอยู่ทุกครั้ง
หมอพิจารณาห้องที่เป็นระเบียบ ก่อนจะเดินมาพบว่าใครอีกคนกำลังนั่งฟังเพลงอยู่บนเตียงหลังใหญ่ หันหน้าออกสู่ระเบียงมองเห็นทะเลด้านนอก
“พาย…” หมอเรียกเสียงเบา
“ครับ” อีกคนหันมาขานรับพร้อมกับถอดหูฟังที่ครอบหูไว้ออก
“ทำอะไรอยู่” ไม่บ่อยครั้งนักที่โจ้จะถามอะไรที่ตัวเองรู้คำตอบอยู่แล้ว เขาเดินเข้าไปหา
“ฟังเพลง” คนตอบบอก
"มาทำอะไร ผมนึกว่าหมอกำลังทำงาน" พายถาม แต่อีกคนอึกอัก
"เข้ามาไม่ได้เหรอวะ" คุณหมอบ่น ก่อนจะนั่งลงบนเตียงเดียวกัน
พายยิ้มน้อยๆ ก่อนจะบอก "ถ้าผมไม่ได้ออกไป อย่ามาบ่นทีหลังก็แล้วกัน"
เขาสวมหูฟังอันใหญ่ลงไปที่หูของตนตามเคย แล้วปล่อยให้ความเงียบทำหน้าที่ของมันต่อไป อาจจะเป็นเพราะเจ้าของห้องมักจะทะเล้นอยู่เสมอ เวลาทำตัวนิ่งงันและเฉยชาจึงดูแปลกไป ที่จริงแล้วศิลปินแบบพายโลกส่วนตัวสูงมาก พายอยู่ด้วยตัวคนเดียวมาตลอด เวลาอยู่กับคนอื่นเขาเลยพยายามร่าเริง พยายามพูดให้เยอะ
โดยเฉพาะกับหมอ...ที่พยายามทุกอย่างเพื่อที่จะเข้าใกล้
โจ้มองใบหน้าด้านข้างของอีกคนก่อนจะทิ้งตัวลงบนเตียง ความไม่สบายใจของพายทำให้เขาเองรู้สึกไม่สบายใจตามไปด้วย
“ครับ? ” เจ้าของเตียงหันมาหาอีกคน
หมอนอนลงบนเตียงกว้างแล้วหลับตา อย่างกับกำลังพักผ่อน
“ง่วง” โจ้บอกพร้อมกับดึงแขนของอีกคนลงมาข้างตัว หมอนอนไม่เต็มอิ่มมาหลายคืนเพราะมัวแต่ทำงาน แต่พอจะนอนกลับคิดถึงแต่ท่าทีที่แปลกไปของอีกคน
พายมองคนที่หลับตาพริ้มอยู่บนเตียงคนอื่น...หรือบางทีหมออาจจะกำลังง้อตามประสาของคนพูดไม่เก่ง และคนอย่างพายก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากถอดหูฟังออกแล้วนอนลงมาข้างกัน
เขาจ้องใบหน้าขาวของคนข้างตัวได้ไม่ทันไรตาสีเข้มจนเกือบดำสนิทก็เปิดขึ้น
“มองทำไม” โจ้ถาม
“ผมจูบได้ไหม? ” พายมักจะขออนุญาตก่อนเสมอ
.
.
.
จูบครั้งนี้คล้ายๆ กับหลายครั้งที่ผ่านมา เริ่มจากอ้อยอิ่งหวานเชื่อม ในที่สุดก็ร้อนเสียจนการนอนหันหน้าเข้าหากันไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้
พายพลิกตัวขึ้นมาคร่อมอีกคนไว้แล้วแกล้งขบริมฝีบางล่างของอีกคนเบาๆ มือที่อยู่นิ่งในตอนแรกสอดเข้าไปใต้เสื้อยืดตัวบางแล้วลูบไล้ร่างร้อนใต้ตัวเองอย่างไม่ปิดบังความต้องการ เช่นเดียวกับที่มือเรียวยาวของอีกคนนวดเฟ้นแผ่นหลังของพายอย่างตั้งใจ
“เจ็บ” หมอบอกพร้อมกับใช้เล็บจิกที่ต้นคอหนาเอาไว้เมื่อถูกงับเข้าที่ลิ้น
“ขอโทษครับ” คำขอโทษประชิดกับลมหายใจ
พายอ้าปากอมลิ้นแดงๆ ของอีกคนเข้ามาไว้ในปากตนแล้วดูดสลับกับไล้วนหยอกล้อ ทำให้น้ำใสๆ ไหลออกมาตรงมุมปาก เขาจูบซับมันไว้อย่างรักใคร่
หมอขืนใบหน้าออกพร้อมกับแลบเลียริมฝีปากตัวเองที่บวมและแดงเจ่อ
พายแม่ง...งับเป็นหมาเลย
“เจ็บมากไหม” คนที่ผละหน้าออกไปแค่ครู่ โน้มตัวลงมากดจูบซ้ำๆ ที่ริมฝีปากบวมแดง โดยไม่ได้ปล่อยให้คนที่อยู่ด้านล่างได้พูดอะไรเลย
หมอจ้องตาสีอ่อนนิ่ง...พอใจอ่อนให้หน่อยไอ้พายก็ไม่ออมแรง
พายว่าหน้าตาของหมอตอนนี้จะว่าดุก็ใช่ และยั่วก็คงจะใช่เหมือนกัน แม้คิ้วได้รูปจะขมวดเป็นปมแต่ดวงตาสีเข้มกลับฉ่ำหวานและปรือปรอย เช่นเดียวกับใบหน้าซับสีเลือด และปากที่เผยอเพียงเล็กน้อยทำเอามองแล้วแทบขาดใจ
เขาคว้านลิ้นไปตรงที่ลิ้นสีแดงของอีกคนที่ตัวเองเผลองับไว้อีกครั้ง แล้วก็เริ่มจูบใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างไม่อยากผละจากไปไหน ไม่ได้สนใจเล็บที่จิกลงบนต้นคอและแผ่นหลังตัวเองหลายต่อหลายครั้ง
“พอ…พอแล้ว” อีกคนบอกพลางทุบที่แผ่นหลังหนาหนักๆ คนที่ค้ำศอกไว้ถึงได้ถอนใบหน้าออกอย่างเสียดาย แล้วโถมตัวลงทับอีกคนอย่างมันเขี้ยว
เจ้าของเตียงกว้างไล้มือใหญ่ไปที่มือของอีกคน ก่อนจะจับประสานนิ้วมือของตนเข้าระหว่างนิ้วเรียวยาวแล้วบีบไว้แน่น
“อย่ากัดสิวะ” หมอบอกพร้อมกับเอียงคอหนี แต่ยิ่งทำให้ซอกคอขาวเด่นมากขึ้น
พายซุกหน้าลงไปกดจูบซ้ำๆ ไปทั่วซอกคอและไหปลาร้าทั้งสองข้าง ยิ่งหมอดิ้นหนีก็ยิ่งทำให้อีกคนได้ใจ คนตัวโตทั้งจูบและฝังเขี้ยวลงไปบนร่างกายขาวแต่ก็ไม่ได้ทำให้ความอยากในตอนนี้น้อยลง...กลับมากขึ้นทุกที
บางทีความหื่นของคุณพ. ตอนนี้คงเหลือแต่กินหมอเข้าไปก็เท่านั้น
“อื้อ อย่า” คำว่าอย่าของหมอคงใช้ได้ในยามปกติแต่ไม่ใช่ตอนนี้
พายละมือข้างถนัดที่ตรึงมืออีกคนไว้ออก เพื่อเปลี่ยนมานวดเฟ้นที่หน้าอกแบนราบ ด้วยเป็นเพราะปฏิกิริยาของร่างกายทำให้คนที่อยู่ด้านล่างแอ่นหน้าอกขึ้นรับสัมผัสที่อุ่นจนร้อน นิ้วโป้งของพายเขี่ยตรงยอดอก ไม่นานนักยอดอกสีอ่อนก็ตั้งชูชันราวกับกำลังเชิญชวน
คุณพ.ที่ตอนนี้ห้ามตัวเองไม่ไหวแล้ว กลืนน้ำลายอย่างยากลำบากพลางมองตาหวานเยิ้มของคนที่นอนอยู่เตียง
“ห้ามกัด” หมอบอกเสียงลอดไรฟัน เพราะรู้ว่าพายจะทำอะไรต่อ
พายยิ้มก่อนจะก้มลงไปชิมยอดอกสีสวย หมอก็ได้แต่ข่มเสียงร้องของตัวเองไว้ในลำคอ คนด้านบนครอบปากลงบนอกฝั่งขวาของคุณหมอตัวขาวที่ตอนนี้แดงเป็นจ้ำไปทั่วทั้งตัว ยอดอกแข็งเป็นไตสู้กับลิ้นที่กำลังตวัดเลีย และเมื่อไหร่ที่พายแกล้งดูดอีกคนก็จะสะท้านทุกครั้งราวกับทนไม่ไหว
แต่ก่อนพายมีเซ็กซ์อยู่บ่อยครั้งกับคนมากหน้าหลายตาทั้งผู้หญิงและผู้ชาย ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเป็นการทำเพื่อสนองความต้องการโดยไม่ได้มีความรู้สึกอื่นๆ เข้ามาปะปน ครั้งนี้กลับต่างออกไปโดยสิ้นเชิง เขาเริ่มเข้าใจแล้วว่าเซ็กซ์กับการเมคเลิฟต่างกันยังไง ถึงแม้จะทำเรื่องแบบนี้มาเยอะ แต่ไม่เคยมีครั้งไหนจะตื่นเต้นเท่าครั้งนี้เลย
คนที่ถูกตรึงมือไว้นานดึงมันออกก่อนจะพลิกตัวขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนร่างกายอีกคนอย่างเหลืออด เมื่อร่างกายของตัวเองถูกขบกัดไปทั่ว
“หน้ามึงนี่หื่นเกินไปแล้ว” หมอว่าพลางใช้มือประกบเพื่อตบที่แก้มของอีกคนอย่างนึกหมั่นไส้ ก่อนจะไล้มือลงมาตรงคอหนาและแผ่นอกกว้างของอีกคน
“ก็หมอเข้ามาในห้องผมทำไม มานอนบนเตียงผมอีก ใครจะโง่ให้ออกไป”
หมอเลิกคิ้วมองไอ้หมาตัวใหญ่ที่ดูจะไม่เชื่องแล้ว เขาทุบเข้าที่แขนอีกคนเมื่อเห็นว่าพายจะขยับมากอด
“ซนนะน้อง” คุณพ.บอกพร้อมกับยันตัวขึ้นมาจูบ ถอดเสื้อยืดเกะกะออกจากทั้งตัวเองและอีกคน
“ใครพี่ใครน้องวะ” หมอผู้นั่งทับตรงกลางลำตัวของเจ้าของห้องบ่น
โจ้โน้มตัวลงไปประกบปากของคนที่เอาจริงๆ แล้วเด็กกว่าอยู่หลายปี หมอเป็นผู้ชายธรรมดาที่พอมีอารมณ์มากๆ ...ก็หยุดตัวเองยากเหมือนกัน แต่เพราะปกติหมอทำตัวเงียบเชียบ เวลาแสดงออกมาถึงได้ดูไม่เหมือนที่เคยเป็น โจ้ถอนริมฝีปากออกจากปากของอีกคนก่อนจะไล่ต่ำลงมายังซอกคอหนาที่ผู้หญิงส่วนมากของที่นี่บอกว่าเซ็กซี่
“มาถึงตอนนี้มันต้องถามว่าใครผัวใครเม--” คุณพ.ผู้ปากดีพูดยังไม่ทันจะจบก็ถูกงับเข้าที่คออย่างแรง
“โอ้ย หมอ! ”
โจ้ตั้งใจกัดพราะหมั่นไส้ด้วยและอยากจะเอาคืนด้วย
“หยุด อย่าดึง! ” ไม่ทันไรคนที่นอนราบอยู่ด้านล่างก็ยันตัวขึ้นมานั่งพิงผนังพร้อมกับรวบมือของอีกคนขึ้นมาจับไว้ เมื่อหมอซนไม่เลิก
“ก็ขนหน้าอกมึงน่าดึง” โจ้ขำร่วน
พายผู้โดนหมอโจ้แกล้งอีกรอบแกล้งยื่นหน้าเข้าไปงับหูอีกคนไว้
“เป็นหมาหรือไงวะ” หมอบ่น
จากมุมมองของหมอพวกเขาไม่ได้หยอกล้อหรือแกล้งกันแล้วดูน่ารัก ที่ทำทั้งหมดก็แค่เป็นการเอาคืนกันแบบไม่มีใครยอมใครต่างหาก
อย่างเช่นจูบแบบดีฟคิสที่เริ่มต้นอีกครั้ง หรืออย่างเช่นมือหนาสอดเข้ามาภายใต้กางเกงขายาวยางยืดเนื้อผ้าหนาของโจ้ มือที่ทั้งร้อนทั้งชื้นเหงื่อขยำก้นของคนที่นั่งอยู่ด้านบนอย่างมันมือ ส่วนคนที่อยู่ด้านบนก็กำลังระดมจูบหน้าอกกว้างและแน่นตึงทั้งพยายามรูดกางเกงขาสั้นของอีกคนออกอย่างทุลักทุเล
ในที่สุดก็ทำได้แค่ร่นมันลงมาได้แค่เข่า หมอยืดตัวขึ้นเพื่อให้อีกคนรั้งกางเกงของตนลงมาได้บ้าง
“ถอดให้หมดก่อน” พายบอกพร้อมกับตีเบาๆ ที่มืออีกคนที่เริ่มจับนู่นนี่ตามใจทั้งๆ ที่กางเกงของพวกมันทั้งคู่ยังไม่พ้นไปจากขาด้วยซ้ำ
หมอที่บอกว่าหน้าคนอื่นหื่นคงไม่รู้ตัวว่าตอนนี้สีหน้าของตัวเองก็ไม่ได้ต่างกัน คุณพ.ยิ้มก่อนจะใช้มือหนาของตนลูบไล้ไปยังกางเกงในตัวบางของอีกคน มันห่อหุ้มร่างกายส่วนลับของเจ้าตัวไว้ ทำเอาหมอครางหนักพร้อมกับเบียดตัวเข้าหาอีกคนจนร่างกายท่อนล่างแนบชิดกัน ทั้งตั้งใจขยับสะโพกให้ส่วนที่โป่งนูนเสียดสีจนร้อน
“อืมมม” พายครางต่ำเมื่ออีกคนล้วงมือเข้ามายังบ็อกเซอร์แล้วกำส่วนที่แข็งขืนของเขาไว้แล้วรูดรั้งให้ส่วนนั้นค่อยๆ คัดตึงและแข็งในที่สุด
ในขณะเดียวกันเจ้าของห้องตัวใหญ่ที่ถูกอีกคนนั่งทับทั้งตัวก็ยันตัวขึ้นดูดกลืนยอดอกทั้งสอดมือเข้าไปขยำก้นขาวอย่างสนุกมือ
“อย่า! ” หมอร้องบอกเมื่อนิ้วมือที่ทั้งใหญ่ทั้งร้อนกำลังถูวนอยู่ที่ด้านหลังของตน กลัวแต่พายกำลังจะสอดมันเข้าไป
โจ้ยืดตัวขึ้นก่อนจะถอดปราการชิ้นสุดท้ายออกจากตัว เขาจับมือของอีกคนมาวางไว้ที่แก่นกลางลำตัวที่กำลังสั่นระริก
พายลอบกลืนน้ำลายกับร่างกายขาวจัดและสมส่วนไปเสียทุกส่วน ยอดอกสีสดกำลังชูชันและเมื่อใดที่เผลอไปโดนมันเข้าตัวอีกคนก็จะสะดุ้ง
...ไม่เคยคิดว่าหมอจะน่ารักขนาดนี้...
“เร็วสิ...” หมอออกปาก ทั้งกำรวบความต้องการของพายไว้แล้วร้องบอก พร้อมกับก้มหน้าแลบเลียกับซอกคอแกร่ง
นั่นทำให้พายเริ่มขยับมือบ้าง เสียงครางกระเส่าข้างหูทำเอาคนเจนสนามอย่างพายตื่นเต้นแบบที่ไม่เคยเป็น
...พวกเขาแลกกันใช้มือ…
พายใช้นิ้วโป้งของมืออีกข้างปาดที่ริมฝีปากนิ่มก่อนจะส่งนิ้วที่ยาวที่สุดเข้าไปให้คุณหมอดูดเล่น ซึ่งน่าตกใจตรงลิ้นของหมอทำหน้าที่ได้ดีกว่าที่คิด
“ไหนใครหื่นนะหมอ ผมหื่นคนเดียวเหรอ?” พายว่าก่อนจะปาดเอาน้ำใสๆ ในปากของอีกคนไปป้ายที่ช่องทางด้านหลัง
คนตัวใหญ่กว่าค่อยๆ กลึงจนช่องทางนุ่มและแคบคุ้นชิน ไม่นานนักก็ดันนิ้วเข้าไป มันฝืดอยู่มาก แต่ไม่นานนัก เมื่อหมอยันตัวขึ้นและแอ่นสะโพกตอบรับ นิ้วมือยาวก็ใส่เข้าไปได้สุดไม่ยากนัก
พายยกยิ้ม เห็นเขาว่าพวกคนเรียบร้อยมักจะเก็บกดนี่ท่าจะจริง
“จูบหน่อย” หมอบอกและยื่นหน้าไปแลกลิ้นกับอีกคน
พายใช้มือหนึ่งข้างปรนเปรอด้านหน้า ส่วนนิ้วมือแข็งแรงนั่นสอดเข้าออกสุดความยาว
โจ้รู้สึกได้ว่ามีสิ่งแปลกปลอมสอดแทรกเข้ามาในร่างกายของตน และยิ่งพอสิ่งแปลกปลอมนั่นเริ่มขยับเข้าออกและหมุนวน ร่างกายด้านหน้าของตนที่ถูกปนเปรอก็ยิ่งรู้สึกดีมากขึ้น
หมอผละหน้าออกจากอีกคน มองใบหน้าคมสันที่มองตรงมาด้วยความรู้สึกที่ปิดไม่มิด ก่อนที่จะก้มมองหน้าอกหนา มองกล้ามเนื้อหน้าท้องแข็งแรง และสุดท้ายก็หยุดสายตาไว้ที่สิ่งใหญ่โตในมือของตัวเอง
ไม่ได้รู้เลยว่าเสียงครางของตัวเองดังขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว
“อ๊าาาา” หมอส่งเสียงเมื่อความจุกแน่นที่ด้านหลังถูกสาวเข้าออกอย่างรวดเร็วพร้อมๆ กับการสาวรูดตรงด้านหน้า ที่สุดแล้วร่างกายก็กระตุก สมองที่เหมือนจะคิดอยู่ตลอดก็ดูเหมือนจะหยุดไปเสียดื้อๆ เช่นเดียวกับร่างกายที่ทรุดลงบนตัวของอีกคน
คงเพราะไม่ได้ทำเรื่องแบบนี้มานานหรือเป็นเพราะอ่อนเพลียไม่ได้นอนเต็มอิ่ม เมื่อปลดปล่อยมันออกไปแล้วถึงได้ง่วงจัด โจ้ถูกดันตัวให้นอนราบก่อนที่อีกคนจะนั่งคร่อมตรงหน้าอก
พายดึงมือหมอออกจากร่างกายตัวเอง ก่อนจะให้มือสาวให้เสร็จออกมาตรงนั้น…ตรงอกขาวของหมอ
โจ้เห็นภาพตุ่มไตบนหน้าอกของตัวเองเปียกแฉะไปด้วยของเหลวสีขาวหนืดที่ออกมาจากท่อนลำใหญ่ และเมื่ออีกคนเอามันมาแนบที่ริมฝีปากแล้วค่อยๆ ยัดความใหญ่โตมาไว้ข้างกระพุ้งแก้มนุ่ม ในปากคาวไปด้วยรสปะแล่ม
“พอได้แล้ว” หมอดันหน้าท้องอีกคนออก
พายจัดท่าให้อีกคนนอนหงาย ก่อนจะแทรกตัวเข้าไประหว่างขายาว เขาจับเข่าหมอแยกออก
ถึงจะเสร็จไปแล้ว...แต่พายก็ตื่นขึ้นมาใหม่เมื่อเห็นบริเวณที่ถูกนิ้วสองนิ้วบดบี้จนแดง
“พาย…”
“ผมบอกแล้ว...ว่าผมจะไม่ปล่อยไป” เขาเอื้อมมือไปหัวเตียงเพื่อหยิบถุงยาง พายปาดเจลสีใสจำนวนหนึ่งลงบนรอยจีบสีแดง บรรจงสอดนิ้วเข้าไปให้มันชุ่มเพราะกลัวอีกคนเจ็บ
“อื้อ…”
หมอพยายามดันหน้าท้องอีกคนออกแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะตัวอ่อนปวกเปียก
“ถ้าทำกูเจ็บ...มึงตาย”
พายยักคิ้วก่อนจะก้มจูบปากสีสด
“ผมยอมตาย”
.
.
.
ความแน่นตึงอึดอัดตรงท่อนล่างทำหมอขมวดคิ้วแน่น เขาขบกรามแน่น พายก้มลงจับมือที่ขยุ้มผ้าปูเตียงจนยู่ยี่มาวางบนไหล่ตัวเองแทน
“เจ็บ” หมอบอกเมื่อพายดันตัวเข้ามาจนสุด
“เดี๋ยวก็ไม่เจ็บแล้วครับ แต่อย่าเกร็ง” พายลูบแก้มอีกคน ก่อนจะค่อยๆ ขยับสวนสะโพกเข้าออก
เสียงก่นด่าในตอนแรกเปลี่ยนเป็นเสียงครางหอบ พายกระแทกตัวย้ำๆ ในจุดที่ทำให้หมอตื่นตัว ก่อนจะใช้มือช่วยคนที่ดูท่าทางทรมาณ
สิ่งที่สอดลึกในร่างกายมีเพียงยางบางๆ ขวางกั้น พายมองใบหน้าที่ตัวเองชอบ ใช้มือที่ว่างอยู่บี้ยอดอกแข็งของอีกคนจนพอใจ ก่อนจะถอนตัวออกมามองผลงานของตัวเอง
ตรงนั้นขมิบถี่เหมือนอยากให้เขาเข้าไปอีก...
พายจับอีกคนพลิกตัวคว่ำหน้า หน้าหมอซุกลงที่หมอนนุ่ม ถูกดึงสะโพกให้ลอยเด่นก่อนที่เจ้าของห้องจะซุกหน้าลงเพื่อลองชิมบางสิ่ง
“พะ...พาย” หมอเรียกอีกคนเสียงแผ่ว พยายามจะหันมาดันตัวพายออก
แต่พายตอนนี้เหมือนหมา...ที่แรงเยอะเห็นบ้า
“ผมจะตายอยู่แล้ว…” เจ้าของห้องบอกเสียงพร่า ก่อนจะหยัดตัวให้ตรง จับจ่อของตัวเองลงบนพื้นที่นุ่มและเปียกแฉะ
“อื้ม” หมอพยายามกลั้นเสียงในลำคอ พร้อมกับหลับตาเมื่อโดนคนตัวใหญ่บีบสะโพกจนติดมือ
พายก้มลงแนบอกตัวเองกับแผ่นหลังเปลือย เอื้อมมือไปช่วยคนที่แทบจะใช้เข่ายันพื้นไม่ไหว เพราะทั้งหนัก...และเสียว
“จะเสร็จแล้วบอกผมนะ” เขาจูบหลังหูขาว แล้วกดย้ำสะโพกลงตรงที่หมอรู้สึกดี ไม่นานนักร่างข้างใต้ตัวพายก็สั่นเทิ้ม
“พาย...จะเสร็จ”
“พร้อมกัน” เขายันตัวขึ้น จับเอวอีกคนให้มั่น ไม่นานนักร่างกายที่ตึงเครียดก็โล่งสบาย ตอนที่เสร็จพายเผลอสอดตัวเข้าไปลึก
นึกอยากจะดึงถุงยางออก...แล้วเสร็จข้างในให้ล้น
เขาแช่ตัวเองไว้แค่ครู่เดียวก็ดึงตัวออกมาเพื่อดึงถุงยางทิ้ง มองคนที่ดูเหมือนจะหลับเต็มทน
“ดีไหม” เจ้าของห้องก้มลงถามชิดกับริมฝีปากสีสด ได้ยินเสียงในลำคอว่าดี
พายยกยิ้ม คิดว่าหมอในตอนนี้ดูต่างจากเคยมากจนน่า..ซ้ำอีกสักรอบ
“ง่วง” โจ้ตอบก่อนจะซุกหน้าลงกับหมอแล้วปิดเปลือกตา
คุณพ. เอาแต่ยิ้มไม่หุบ เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวแล้วดึงอีกคนเข้ามากอด ก่อนจะหลับไปอีกรอบ
.
.
.
พายตื่นมาในตอนบ่ายแก่ๆ ก่อนจะพบว่าอีกคนกำลังอาบน้ำอยู่ในห้องน้ำ เขามึนหัวเล็กน้อยเพราะนอนเยอะ หรือไม่ก็เป็นเพราะดีใจมากไปจนสมองรับไม่ไหว
“มีชุดให้ยืมก่อนไหม เดี๋ยวกลับห้องไปเปลี่ยน” คำถามถูกส่งออกมาจากคนที่เพิ่งจะเดินออกมาจากห้องน้ำ
หมอสวมแค่กางเกงชั้นในแถมเดินออกมายืนข้างหน้าเจ้าของห้องแบบไม่ได้อายผิวขาวที่ตอนนี้แดงเป็นจุดเพราะรอยจูบและรอยกัด และไม่ได้สนใจว่าไอ้กางเกงรัดรูปตัวจิ๋วนั่นจะทำให้อีกคนรู้สึกยังไง
“เดี๋ยวผมไปหาให้” คุณพ.ละสายตาไปทางอื่นก่อนจะลุกออกจากเตียงไปด้วยผ้าห่มที่คลุมท่อนล่างไว้มิดชิด
ถึงพายจะชอบถอดเสื้อแต่เขาก็ไม่เคยกล้าใส่กางเกงในเดินไปมาเหมือนหมอแน่นอน
“นี่มึงเขินเหรอวะ” โจ้ถามเมื่ออีกคนส่งเสื้อผ้าให้โดยไม่แม้จะมองหน้ากัน และก็ยิ่งแหย่เมื่อคนที่เคยพูดมากๆ อย่างอีกคนก้มหน้าก้มตาลากผ้าห่มผืนหนาๆ เดินไปทางห้องน้ำ
“นี่...พาย” โจ้แกล้งเดินไปดักหน้าอีกคนแล้วลูบตรงต้นแขนอีกคนเบาๆ
“กูสิต้องเขิน! ” โจ้ฟาดแขนแข็งแรง เจ้าของห้องเลยมุ่ยหน้า เห็นแล้วอยากจะฟาดอีกรอบ...
“น่ารักตาย”
“เอาหมอคนเดิมคืนมาเลย” คนที่ถูกเขาแกล้งบอก
หมอมองท่าทางน่าหมั่นไส้ก่อนจะเดินไปสวมเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ไม่ได้เลอะ
“ไปอาบน้ำ หิว! ” หมอบ่นไปนวดสะโพกไป ใครใช้ให้ไอ้หมานี่ไม่ยั้งมือ
.
.
.
คราวนี้พายพาอีกคนมากินข้าวที่ร้านอาหารแบบครอบครัวแทนที่จะเป็นบาร์หรือร้านหรูๆ อย่างเคย บรรยากาศในร้านคลาคล่ำไปด้วยเด็กๆ ที่มากับพ่อแม่
“ผมคิดถึงร้านผัดไทยแถวบ้าน”
“เลยพามากินสปาเกตตีเหรอวะ” โจ้ถามพลางหัวเราะ
อาหารมื้อนี้ไม่ได้อร่อยมากและก็ไม่ได้แย่จนเกินมาตรฐาน พายลอบมองคนที่เมื่อเช้ายะงฟัดกันอยู่บนเตียงอยู่เลย พอยิ่งมองก็ยิ่งเขิน…
“อะไรของมึง” หมอถามก่อนจะยกมือบิดขี้เกียจ ถึงจะไม่บ่นอะไรแต่เมื่อยขบไปทั้งตัว
“ผมว่าจะให้นานแล้ว” พายหยุดมือจากการตักอาหารเข้าปาก ถอดสร้อยข้อมือเส้นบางที่เรียบจนไม่รู้ว่าพวกมันคือทองคำขาวราคาแพงสวมให้อีกคน ดีอยู่หน่อยที่สร้อยข้อมือแบบโซ่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องขนาดความกว้าง หมอจึงสวมได้พอดี
หมอมองข้อมือข้างซ้ายของตัวเองแล้วก็มองข้อมือข้างขวาของอีกคนที่มีของแบบเดียวกันสวมอยู่ เขาเห็นว่าพายมักจะสวมเครื่องประดับติดตัวอยู่เสมอ
โจ้โคลงหัวไปมา แล้วนั่งกินข้าวกันไปเรื่อยๆ อย่างเคย แต่ต่างคนก็รู้ว่ามีอะไรเปลี่ยนไปอยู่หน่อย
“รับไว้นะหมอ” พายบอกพร้อมกับตักสลัดวางในจานให้
หมอโจ้เองลูบสร้อยข้อมือ ก่อนจะตอบรับด้วยท่าทางธรรมดา
“อือ รับไว้แล้ว”
.
.
.
TBC.
____________________________________
ต้องจุดพลุตรงไหนคะเนี่ยยยยยยย เย้ๆ รอมาตั้งนาน 5555555
ตอนหน้าก็จบแล้วค่ะ หลังจากลงจนจบถึงตอนพิเศษแล้วเราจะมาเปิดฟอร์มพรีออเดอร์เดอร์หมอโจ้นะคะ
ในเล่มจะมีตอนพิเศษใหม่เฉพาะในเล่มอีก 3 ตอน รวมกับของเดิม 2 ตอน เป็น 5 ตอนคับ
ไว้เจอกันกับเล่มหมอโหด 2019 ค่ะ :]