The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: The Real Me อย่าท้าให้บ้ารัก ตอนที่ 61 - ตอนจบ [ส. 11 ธ.ค 64 หน้า 82]  (อ่าน 446367 ครั้ง)

ออฟไลน์ Nankoong

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-5
แบบนี้..เค้าเรียกอีโรติกมากค่ะไฟ.... :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Yunatsu

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3650
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-5

ออฟไลน์ entirom

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1010
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-2
ว๊ายๆๆ

เขาทำไรกันในห้อง วันฝนตก


อ๊ายยยยยยยยยยยยยย

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ bobie

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2182
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +269/-7
โอ้ยมันดีค่ะคุณณณณ
อ่านแล้วมันปลื้มปริ่มมากกกกกก
คุณไฟสำเร็จไปอีกขั้นละนะ
คราวหน้าก็ข้ามไปหลายๆขั้นเลยนะคุณไฟ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
โอ.............คุณเบบี้สุดยอดดดดดดดด   :impress2:
ถถถถถถถ......ขอความกรุณาคุณเบบี้เลย
เรื่องจะไม่ให้มีเรื่องบัดสีบัดเถ-ลิงเช่นนี้ 
คนอ่านต้องเศร้า จนขาดใจตายแน่ๆ  :hao5: :hao5: :hao5:
ถ้าครั้งหน้าจะไม่ให้มีเรื่องบัดสีบัดเถ-ลิง เกิดขึ้นอีก  :z3: :z3: :z3:

อ่านไป เขินไปด้วยเหมือนเป็นสาวน้อยซะเอง  :o8: :-[
คุณเบบี้ เก่งมากกกกกกก เขียนได้สุดยอดดดดดด ชอบมากกกกก
ช่างเข้ากับบรรยากาศ ฝนฟ้าตก เย็นฉ่ำเป็นใจ
แต่ในห้อง เร่าร้อน ระทึก ค่อยเป็นค่อยไป
คุณไฟ อ่อนโยนสุดๆไปเลย แบบมีแต่สมุทรเท่านั้นที่ได้

พอใจกับความสัมพันธ์ที่ร่นระยะห่างลงของทั้งคู่
แม้ยังไปไปสุดทาง แต่ก้าวหน้าขนาดนี้ได้ก็ยอดและ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
เพราะอย่างสมุทรที่เย็น ลึกเหมือนชื่อ ยอมลดกำแพงลงบ้าง
คุณไฟก็ระริกระรี้ในใจไปไม่น้อยแล้ว 
แต่อย่าหวังนะว่าสมุทร จะยอมเข้าหาเอง ลงสัยชาติหน้าก็ไม่ได้  :z3: :z3: :z3:

ไม่ได้หวังว่าสมุทรจะยอมจนถึงขั้นนี้
โอย......ดีใจไปกับคุณไฟ คงนอนหลับสนิททั้งคืน
พร้อมตื่นมาอย่างเบิกบาน กระชุ่มกระชวย
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ maminmeaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-1
 :mew1:โอ้ยๆๆๆๆๆๆ ชอบอ่ะ ยิ่งมีคำว่า "นะครับ" เนี่ย ละมุนไปเลยยยบยย

ออฟไลน์ pukpra

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1997
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-0
ชอบพัฒนาการของคู่นี้นะ ไม่มากไป ไม่น้อยไป มันเหมือนค่อยๆ เรียนรู้นิสัยใจคอกันไป แต่คำว่า "นะครับ" เนี่ย แม่เอ้ยยย สมุทรยอมตามใจไฟแบบเต็มสตรีมเลยมั้ย โอ้ยย ใจละลายแทน ชอบมากกกกกก

ออฟไลน์ moodyfairy

  • สวย อร่อย ย่อยง่าย :)
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 693
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-1
ที่ดีใจกว่าตามอ่านทันแล้วคือ เค้า (คล้ายๆ) ได้กันแล้ววววว กรี๊ดดดดดดดด :hao7: :hao7: :hao7:
ชอบมากๆๆๆๆเลยค่ะะ ชอบการบรรยายของคุณเบบี้มากๆๆๆ แต่อีกประเด็นที่ยังแคลงใจคือ ใครจะถูกกดกันนะ :o8:
เป็นกำลังใจให้ในการเขียนต่อๆๆไปนะคะ รออ่านตอนต่อไปอยู่น้าาาาา :mew1:

ออฟไลน์ arakanji

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-0
ฟินมาก อ่านแล้วมีอารมณ์ร่วมสุดๆประดุจอยู่ในฉากนั้นกับทั้งคู่55+
เบบี้เขียนฉากได้ถึงมากๆ เห็นภาพเลยอ่ะ ชอบบบ
ขอบคุณค่ะ รอตอนต่อไป

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ จอมจุ้น6002

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 83
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
นี่ลุ้นมาก!! จิกตาอ่านทุกคำ

กลัวใจสมุทรถีบไฟกระเด็น  :z1:

ออฟไลน์ tutu

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +132/-2

ออฟไลน์ JaaJaaJaaJaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
 :o12:แม่จาอิพี่ไฟเขาทำน้องแตกแล้วค่ะแม่ :heaven นิพพานสเต็ป 1

ขอบคุณเบบี้มากนะะที่ให้สมุทรใจ"แตก"จนได้ :katai2-1:

ออฟไลน์ NOPKAN

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-1
สมุทรรรรรรร หวั่นไหวซินะ >//////<

ออฟไลน์ t2007

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2400
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +135/-5
ชอบเรื่องบัดสี แพ้ลูกอ้อนคุณไฟ ลูบไล้กันและกัน ในที่สุด สมุทรก็แฉะ บอกถึงเยื่อใยอันดี

ออฟไลน์ MooMiew

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 326
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-0
 :hao7: :hao7:
สกรีมมมมมมมมมม เป็นตอนที่คสพ.พัฒนาไปอีกขั้น แล้วพรุ่งนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

สมุทรพูดเยอะขึ้นจริง เป็นสัญญาณบอกอะไรอีกหรือเปล่าน้าาา  :hao3:

มีครั้งแรกก็ย่อมมีครั้งที่สองสามสี่ตามมาค่ะ หยุดๆม่ได้หรอกเรื่องแบบนี้ คึคึ :laugh:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
ว้ากกกก อยากกระทืบจนพื้นพังค่ะ ดีดดิ้น กรีดร้อง โวยวาย

ไฟได้แต้มนำไปเลยค่ะ แบบสุดกู่มากด้วย
สมุทรมีเคลิ้ม และสมยอมน่ะ ถึงแม้จะขัดขืนบ้างก็เหอะ

อาการแบบนี้คือไฟมีหวัง แล้วสมุทรยอมให้เข้ามาใช่ไหม ดูเปิดทางกันแบบแปลกๆ

ลุ้นตอนเช้าค่ะ ว่าจะรอดไหม

ออฟไลน์ MyLavenderLand

  • ฉันสุขใจ เมื่อได้ Log in เล้า
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1576
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1
เช้าเช้า... ขับรถผ่าน เห็นนักมวยวิ่งกันเป็นแถว เหลือบตามองพร้อมกับความคิด ... ชิ ไม่เห็นเซะซี่เหมือนนักมวยค่ายพี่ไฟเลยสักคน ถถถถถถถ   :laugh:

คิดถึงพี่ไฟกับสมุทรนะคะ   :mew1:

ออฟไลน์ punthipha

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1478
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +200/-0

ออฟไลน์ pwaruntorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
คิดถึงไฟ เฟ้อหาสมุทร รักที่สุดก็เบบี้นะค๊า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ mamacub

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1034
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +150/-0
ละมุนไปอีกแบบ สำหรับผู้เถื่อนๆสองคน  :z1: :z1: อ้ากกกกกกกกกกอยากให้ฝนตกทุกวันนนนนนนนนนนนน

ออฟไลน์ goorooo123

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 4
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 จะลงแดงแว้ววว :z3: :z3:

ออฟไลน์ pwaruntorn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 29
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +15/-0
เธอคือ ดวงตะวัน ไฟขา เค้าคิดถึง ตัวจะกลับเข้าเมืองแล้วยังนะรอบนี้

ออฟไลน์ rosekiller

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 12
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-0
คิดถึงคุณไฟ โหยหาคุณสมุทร
คะนึงถึงคุณเบบี้
ตอนนี้คุณไฟกำลังทำอะไรอยู่นะ แล้วสมุทรกำลังคิดอย่างไร
คุณเบบี้สบายดีใช่ไหม งานคงจะยุ่งมากเลยเชียว

ดูแลรักษาสุขภาพกันถ้วนหน้านะคะ ❤

ออฟไลน์ JaaJaaJaaJaa

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-0
อ่านตอนเค้า(เหมือนจะ)ได้กันวนไปรอบที่เท่าไหร่ไม่นับ นับไม่ได้ ไม่ไหวจะมีแรงนับ  :hao6: นี่แค่(เหมือนจะ)ได้กันนะ ยังขนาดนี้  :-[ ถ้าได้รวมร่างกันสักทีจะขนาดไหน  :jul1: รอ!!!!!!!

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15
คิดถึงคุณไฟ โหยหาคุณสมุทร
คะนึงถึงคุณเบบี้
ตอนนี้คุณไฟกำลังทำอะไรอยู่นะ แล้วสมุทรกำลังคิดอย่างไร
คุณเบบี้สบายดีใช่ไหม งานคงจะยุ่งมากเลยเชียว

ดูแลรักษาสุขภาพกันถ้วนหน้านะคะ ❤

อ่านตอนเค้า(เหมือนจะ)ได้กันวนไปรอบที่เท่าไหร่ไม่นับ นับไม่ได้ ไม่ไหวจะมีแรงนับ  :hao6: นี่แค่(เหมือนจะ)ได้กันนะ ยังขนาดนี้  :-[ ถ้าได้รวมร่างกันสักทีจะขนาดไหน  :jul1: รอ!!!!!!!



รบกวนรออีกอึดใจเดียว แฮ่   :katai4: :z10:

ออฟไลน์ THiiCHA

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1840
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +212/-4
ปูเสื่อรอด้วยคนค่ะ  เบบี้สู้ๆ

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

ตอนที่ 46
..ไฟ..




07:25 น.

“วิ้ววี๊ด !”

“โฮ่ง ! โฮ่ง !”

“ไฟ ระวังหน่อยสิ ถ้าเจ็บตัวขึ้นมาไม่รักษาให้แล้วนะ !” หงส์ตะโกนต่อว่า  เธอกำลังออกกำลังกายอยู่ที่ลานออกกำลังกายหน้าบ้าน  ส่วนผมอยู่ไม่ไกลจากเธอนัก  การถูกปรามไม่สามารถหยุดความตื่นเต้นในตอนนี้ได้  ผมขว้างเชือกขนาดใหญ่พร้อมกวัดแกว่งไปมาเพื่อหลอกล่อหมาฝูงใหญ่  ความหนาของเชือกทำให้เลือดลมสูบฉีดทั้งผู้ล่อทั้งผู้ถูกล่อ  พวกมันต่างพากันเห่าระงมด้วยความตื่นตัว  วิ่งต้อนปลายเชือกอย่างบ้าคลั่ง  ขนาดบานเย็นที่มีอายุมากกว่าใครเพื่อนก็กระฉับกระเฉงขึ้นมาทันใด

“เอาเลย” ผมแลบลิ้นให้บิงโก  หมาพันธุ์ Boxer เป็นเพียงตัวเดียวที่สามารถกัดเชือกไว้ได้ทัน  อีกฝ่ายสู้แรงจากผมพร้อมคำรามในลำคอ  ดวงตาของมันจดจ้องผมเขม็งคล้ายศัตรูที่พยายามจะเอาชนะให้ได้

“ดึงไปสิวะ !” ผมขึ้นเสียง  หงุดหงิดใจที่มันไม่สู้แรงผมไปให้หมดภายในครั้งเดียว  อีกทั้งรำคาญเสียงของหงส์เมื่อครู่นี้ก็ด้วย  ผมออกแรงดึงมากขึ้นจนเชือกเกือบสุดปลาย  ขาหลังของบิงโกพยายามที่จะยื้อไปด้านหลังสู้แรงผมไม่ยอมถอย  น้ำลายของมันหยดย้อยลงพื้น  กล้ามเนื้อปูดนูนขึ้นเป็นมัด

“อู้ ~~” ผมร้องครางชอบใจที่ตนเองถูกดึงไปได้

“ไอ้ตัวนี้มีแววแฮะ” ผมยิ้มมอง  ยอมเป็นฝ่ายปล่อยเชือกออกให้ก่อน  บิงโกรีบคาบเชือกไปเล่นกับเพื่อน ๆ ในฝูงด้วยท่าทางตื่นเต้นดีใจยกใหญ่ที่ตนชนะ  ผมยืนเท้าเอวมองหมาของหงส์ทุกตัวที่ถูกปล่อยให้ออกมาวิ่งเล่นในตอนเช้า  เห็นพวกมันที่กระปรี้กระเปร่าแล้วอดนึกถึงเรื่องบางเรื่องไม่ได้...
 
“คิดถึงน้องชายอยู่เหรอ ?” หงส์เอ่ยปากแซ็วขณะที่กำลังโหนบาร์โหนสี่เหลี่ยมมาจนสุดราว  เธอนำขาขึ้นพาดไว้บนบันไดขั้นสูงสุดด้วยความรวดเร็ว  ผมหัวเราะ  เดินไปหยุดอยู่ใกล้บาร์โหน  เอนหลังพิงบันไดพร้อมถอนหายใจออกมา

“แค่คิดว่ามีเรื่องที่ต้องกลับไปสะสางก็เบื่อขึ้นมาน่ะ” ผมพูดให้ฟัง

“นั่นสินะ บางที...กูละอยากลืมไปเลยว่ามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบรออยู่” หงส์พูดติดตลก  เธอลอดตัวผ่านบาร์โหนเข้ามาโอบคอผมจากทางด้านหลังแล้วนั่งลงที่บันไดขั้นบนสุด  ความสูงที่เธอนั่งอยู่เสมอกับบ่าของผมพอดี

“กูจะออกกำลังกายได้อีกเมื่อไหร่”

“อีกสองสามวัน” หงส์ตอบ  เธอกอดผมจากด้านหลัง  นำคางเทินอยู่บนไหล่  ตามองต่ำลงไปที่แผลผมด้วย

“กล้ามมึงนี่ต้องแน่นเปรี๊ยะทุกครั้งที่กลับมาหากูแบบนี้ตลอดเลยเหรอวะ มารอบหน้ามันจะระเบิดปะ” หงส์พูดไปหัวเราะไป  ผมหลุดยิ้มที่จู่ ๆ เธอก็เอ่ยเรื่องไร้สาระไม่มีปี่มีขลุ่ย

“มึงดูเส้นเลือดสิ ห่า ! ปูดซะกูนึกว่าสายไฟ” หงส์ชี้นิ้วต่ำลงไปที่หน้าท้องล่างเหนือขอบผ้าขาวม้าที่ผมนุ่งอยู่

“จุดเสียวเลย” ผมแกล้งพร้อมปัดมือเธอออก

“ทุเรศ” หงส์ว่าเขิน ๆ

“ลูกน้องมึงก็พกสายไฟไว้ในตัวทุกคนอะ เห็นแขนพวกมันแล้วกูนึกว่าโรงงานไฟฟ้า” หงส์พูด  เธอพูดเองก็กลั้นหัวเราะให้กับความคิดทะลึ่งของตัวเอง ด้วย  ผมหัวเราะ  มองตามนกสองตัวที่ดูเหมือนกำลังจีบกันอยู่บนกิ่งไม้ของต้นไม้ต้นเล็กที่อยู่ตรงหน้า

“นกบ้านมึงนี่ไม่กลัวคนเลยนะ” ผมพูด 

“ก็ไม่มีใครไปทำร้ายมัน ต่างคนต่างอยู่” หงส์พึมพำอยู่ข้างหู  ขณะเดียวกันต้นไม้ก็ถูกพัดไปตามแรงลมที่เข้ามาเป็นละลอก  ใหญ่บ้างเล็กบ้าง  ทำให้นกสองตัวบินหนีไปพร้อมกัน

“...ไม่อยากกลับเลยว่ะ” ผมพูด  หงส์หัวเราะในลำคอ

“ถ้าอยู่ที่นี่ต่ออีกนิดนึง อาจจะได้ฝากมึงซื้อถุงยางก็ได้” ผมวิเคราะห์ติดตลก

“เลว” หงส์ว่าเสียงเข้ม

“ที่จริง มึงให้พายุกับดินมาพักที่นี่ก็ได้นี่ พอเรื่องเรียบร้อยเมื่อไหร่ค่อยกลับ เดี๋ยวกูดูแลให้เอง” หงส์พูดโต้ง ๆ

“อย่าเลย” ผมยังคงปฏิเสธคำเดิม  ผมไม่ต้องการให้ปู่หาญกับเธอมีปัญหากันทีหลัง  แค่คอยช่วยเหลือผมอยู่เบื้องหลังแบบนี้ก็เดือดร้อนกันมากพอแล้ว 

“ให้มันเดือดร้อนเท่าที่ควรก็พอ” ผมถอนหายใจ  ใจเขาใจเรา  ถึงผมไม่ถามหงส์ออกไปตรง ๆ  ลึก ๆ แล้วเธอก็คงลำบากใจและกลัวร่างแหอยู่เหมือนกัน

“เอ่อ ขอโทษนะครับ” สมุทรเข้ามาได้จังหวะพอดี  ผมกับหงส์หันไปมองอีกฝ่ายที่เพิ่งออกมาจากโรงครัวใหญ่ของไร่  เขายืนเก้ ๆ กัง ๆ มองมาที่หงส์กับผมคล้ายกับลังเลเรื่องอะไรอยู่  ในมือถือถาดเสิร์ฟอาหาร  บนนั้นมีข้าวโพดต้มส่งกลิ่นหอมฉุย  ควันร้อนปรากฏให้เห็น  ข้าง ๆ จานข้าวโพดเป็นขันน้ำเปล่าแถมโรยดอกมะลิอีกด้วย

“กำลังร้อน ๆ เลยครับ” สมุทรยิ้มบอก

“โอเค ! พาไปนั่งที่แคร่หน่อย” หงส์ออกปากสั่งพร้อมชี้นิ้วสั่งไปที่แคร่ไม้ไผ่ใกล้ ๆ  ผมใช้แขนเกี่ยวขาของเธอไว้ทั้งสองข้างแล้วพาเธอไปที่แคร่ไม้ไผ่โดยที่เจ้าตัวยังเกาะอยู่บนหลัง

“น้ำฝนครับ” สมุทรยกขันน้ำฝนยื่นให้หงส์ก่อนเป็นคนแรก

“ขอบใจนะ” หงส์ยิ้มกว้าง  เอื้อมมือจะไปรับขันมาจากสมุทร

“กูก่อน” ผมใช้มือผลักหน้าเธอออก  อีกมือก็แย่งขันน้ำมาจากสมุทรในทันที 

“ไอ้เหี้ยไฟ !” หงส์โวยวาย  หน้าแทบทิ่มลงไปบนแคร่  ทรงผมเสียทรงไปแล้ว

“มึงนี่ไม่แข็งแรงเลยนะ” ผมมองอย่างดูถูก

“ออกกำลังกายซะเปล่า มือตกเหรอ เวลากูผลักมึงต้องเด้งตัวกลับทันทีสิ” ผมยิ้มบอก  สมุทรถึงกับนั่งก้มหน้า  ดูเหมือนเขากำลังกลั้นหัวเราะอยู่  หงส์มองค้อนหน้ามุ่ย

“หยอกน่า” ผมยิ้ม  ยอมยื่นขันน้ำไปให้เธอ  หงส์รับไปงอน ๆ

“คุณหงส์ครับ ปู่หาญให้เอาโทรศัพท์ของคุณมาให้ครับ คุณพายุโทรมาครับนาย !” ไอ้เด่นส่งเสียง  แทบกระโดดโลดเต้นปรากฏตัวมาจากบ้านพักของหงส์  มันรีบนำโทรศัพท์มือถือมาให้เจ้าของ  หงส์รีบกดรับก่อนที่ปลายสายจะรอนานไปกว่านี้ 

“พายุ !” หงส์กดเปิดวิดีโอคอล  เธอชูโทรศัพท์ขึ้นสูงเพื่อให้ปลายสายสามารถเห็นผมเข้ากล้องด้วย  ผมนั่งเฉย  มองไปที่หน้าจอโทรศัพท์พบว่าน้องชายแปลกตากว่าก่อนหน้าที่จากกันมา

“หวัดดีครับ” พายุทัก  มันอมยิ้มเล็กน้อยเช่นทุกที 

“ไง ?” ผมทักตอบ

“ตื่นเช้าจังนะพายุ” หงส์พูด

“เอ่อ วันนี้ยุมีแข่งปิงปองรอบชิงตอนสาย ๆ นะครับ” พายุบอก

“จริงดิ !” หงส์อุทานด้วยสีหน้าตกใจ  เรื่องนี้ผมทราบมาจากพี่ธานแล้ว  สั่งพี่เขาเอาไว้แล้วว่าถึงสนามแข่งแล้วให้พี่เขาโทรหาผมด้วย  เป็นการออกคำสั่งไว้โดยไม่ได้บอกพายุ

“งั้นก็...ตบให้ลูกแตกไปเลยนะ” หงส์ยักคิ้วยิ้ม ๆ  สมุทรกับไอ้เด่นยิ้มกว้าง  ผมก้มหน้าลง  หัวเราะในลำคอเบา ๆ  นั่นเรียกว่าคำอวยพรไหมนะ

“เฮียใกล้จะกลับแล้วใช่ไหม ยุกับดินสอบเสร็จแล้ว พี่ธานซื้อตั๋วเครื่องบินไว้ให้แล้วด้วย”

“อืม” ผมพยักหน้า  ช้อนตามองไปที่หน้าจออีกครั้ง

“แค่แข่งปิงปองรอบชิง มึงตัดผมไปอวดใครไม่ทราบ” ผมแซ็วที่ได้เห็นว่าน้องชายมีผมทรงใหม่

“Fashion” พายุทำลอยหน้าลอยตา

“หึ กวนตีน” ผมว่า  หงส์หัวเราะ

“อวดใครที่ไหนเล่า ก็แค่อยากตัด ร้อน” พายุตอบเขิน ๆ  กลอกตาลอกแลกแบบนี้  ค่าตัดผมคงถูกรูดบัตรเครดิตไปแล้วเป็นแน่

“ถ้าเกินห้าพัน กูจะซัดมึง” ผมพูดเรียบ ๆ  พายุจ้องหน้าจอเขม็ง

“ไม่กี่พันเอง” มันขมุบขมิบปาก

“ผมก็มีอยู่แค่นี้อะนะ ตัดอะไรเป็นพัน ๆ  วันหลังให้คนขับรถพามาหาพี่นะ เดี๋ยวพี่ตัดให้ คิดห้าสิบบาทพอ” หงส์รีบเอาตัวเองช่วยเหลือพายุเช่นทุกครั้ง  ทำเอาลูกน้องผมและทั้งพายุยิ้มกว้าง

“หล่อระเบิดขนาดนี้ ตัดทรงไหนก็ได้” หงส์ยิ้มชมด้วยใบหน้าอ่อนโยน  เธอรักพายุอย่างกับคลอดออกมาเองอย่างนั้น 

“แล้ว.. เฮียจะมาทันดูไอ้ดินมันแข่ง BMX รอบชิงรึเปล่า มันถามแต่ประโยคเดิมซ้ำ ๆ มาสามวันติดแล้ว ยุรำคาญ”

“…ทัน” ผมตอบ  เหสายตามองไปทางอื่นก่อนเหลือบขึ้นสบตากับคนปลายสายอีกครั้งหนึ่ง

“พรุ่งนี้เช้าก็กลับแล้ว” ผมบอก  เป็นการให้ข้อมูลที่ตัดสินใจเดี๋ยวนี้  ตามจริงผมมีกำหนดกลับวันมะรืนเช้า  รู้อยู่ว่าไอ้ดินมีแข่งพรุ่งนี้บ่ายแต่ก็ไม่ได้รับปากกับพี่ธานออกไปว่าจะกลับพรุ่งนี้อย่างแน่นอน  ลึก ๆ แล้วแค่ยังไม่พร้อมกลับ

“งั้นเหรอ ดีเลย” พายุยิ้มกว้าง  ผมจ้องมอง  อดนึกไม่ได้ว่ามันจะรู้ตัวไหมว่าตัวเองกำลังทำหน้าบานอยู่  แต่แล้วจู่ ๆ ปลายสายก็นิ่งไป

“พายุสบายดีนะ” หงส์พูดแก้สถานการณ์

“ครับเจ้” พายุตอบ  หงส์เป็นผู้หญิงคนเดียวที่พายุเรียกว่า “เจ้”  เลยทำให้ไอ้ดินเรียกตาม  ไอ้ดินก็ทำตามพายุทุกอย่างแหละ

“ดูแลตัวเองด้วยนะ แล้วมาเที่ยวที่นี่บ้างล่ะ เจ้คิดถึง คิดถึงดินด้วย”

“ครับ” พายุยิ้มเขิน

“ทุกคนสบายดีก็ดีแล้ว งั้นยุขอวางสายก่อนนะ ต้องไปซ้อมแล้ว” พายุตัดบท

“ไปนะเฮีย” มันหันมาลาผมโดยตรง

“เออ” ผมขานรับ  หงส์จงใจหันกล้องมาทางผมโดยเฉพาะเพียงคนเดียว  อีนี่กวนตีน 

“ชนะอยู่แล้วนี่ จะห่วงอะไร” ผมปัดไปที  ปลายสายอมยิ้มหน้าทะเล้น  ผมยิ้มให้

“หวัดดีครับ” พายุโบกมือลา 

“บ๊ายบาย” หงส์โบกมือตอบเช่นกัน  เธอหันกล้องไปทางไอ้เด่นที่นั่งยอง ๆ เกาะอยู่ที่แคร่ข้าง ๆ กับผม  ไอ้เด่นนั่งชะเง้อคอมองปลายสายอย่างรักษามารยาทมาตั้งแต่แรกแล้ว  หงส์เลยสนองความต้องการของมันสักหน่อย

“โชคดีนะครับคุณพายุ” ไอ้เด่นรีบพูดคล้ายกลัวว่าพายุจะไม่เห็น  สมุทรก้มหัวทักทายปลายสายอย่างนอบน้อมก่อนที่หน้าจอจะดับสนิทไป 

“อยากดูคุณพายุแข่งจังครับ” ไอ้เด่นทำหน้าเศร้า

“ไฟ...มึงนี่นะ จะบอกคิดถึงน้องมันหน่อยก็ไม่ได้ มันอุตส่าห์โทรมา” หงส์เปลี่ยนอารมณ์โต้ง ๆ

“หน้าพายุเมื่อกี้ เหมือนตอนที่บานเย็นรอให้กูลูบหัวไม่มีผิด”

“หึ” ผมหลุดยิ้ม

“เฮ้อ ~ แต่มีน้องชายหล่อนี่ดีจังนะ หุ่นก็ดี เรียนก็เก่ง แข็งแรงปกป้องเราได้” หงส์เปลี่ยนอารมณ์อีกครั้ง  เธอกะพริบตาปริบ ๆ  เงยหน้ามองท้องฟ้าและทำหน้าเพ้อฝัน

“ก็น้องกูนี่นะ” ผมตัดฉับความฝันเพ้อเจ้อของเธอว่าไอ้ที่เพ้ออยู่นั่นมันน้องชายของผม

“ชิ !” หงส์งอน  สะบัดหน้าหนี  สมุทรกับไอ้เด่นยิ้มกว้าง

“ว่าแต่...หึ ๆ ตกกระเต็มแก้มพายุเลยอะ น่ารักดี” หงส์พูดปนหัวเราะ  ดูเหมือนสิ่งที่หงส์ชมจะเคยเป็นสิ่งที่น้องชายผมไม่ชอบมาก่อน  มันเพิ่งมาเข้าใจและสามารถยอมรับร่างกายตัวเองได้ก็ตอนโตนี่แหละ

“พูดจริงนะ หลายครั้งกูอดสงสัยไม่ได้ว่าพ่อมึงแดกอะไรเข้าไปวะ ทั้งที่คนละแม่ แต่พวกมึงกลับหน้าตา หือ...ขนาดนี้ หมั่นไส้สุด ! ไม่เห็นจะเข้าใจเลย มึงดูพี่กูดิ เวลาไปไหนด้วยกัน มีแต่คนถาม...นี่พี่ชายแท้ ๆ เลยเหรอ ทั้งที่ปู่ออกจะหล่อ แล้วกูก็สวยออกขนาดนี้” หงส์บ่น  ทำท่ามั่นใจประกอบติดตลก  ผมหัวเราะลั่น  พอจะนึกถึงสถานการณ์ออก  พี่ชายของหงส์จัดว่าหน้าตาธรรมดามาก  ไม่หล่อแต่ก็ไม่ได้น่าเกลียด  ขณะเดียวกันก็ไม่มีอะไรบนใบหน้าที่โดดเด่นว่าจะเป็นหลานของปู่หาญหรือเป็นพี่ชายของหงส์ได้เลย  แม้จะหน่วยก้านดีแต่ถือว่าเป็นพี่ชายที่ไม่มีเค้าโครงจากหงส์ที่เป็นน้องสาวแท้ ๆ สักนิด

“การที่มึงไม่ชอบใจที่ถูกถาม มึงควรสงสารพี่มึงมากกว่าไหมที่ต้องมาทนฟังคนถามอะไรแบบนั้น” ผมพูด 

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” หงส์หัวเราะ  คิดดูเถอะ  การที่มีน้องสาวหน้าตาดีแล้วคนเป็นพี่ต้องมาทนคนแปลกหน้าถามว่า “นี่พี่ชายแท้ ๆ เลยเหรอ/นี่น้องสาวแท้ ๆ เลยเหรอ ?”  คนเป็นพี่ชายจะต้องรู้สึกแบบไหน  เจ้าตัวก็ต้องรู้ตัวเองอยู่แล้วว่าหน้าตาไม่ดีน่ะนะ  ฟังดูน่าน้อยใจอยู่หรอก 

ผมกับพายุเองก็โดนบ่อย ๆ  แทบนับไม่ถ้วนเลย  ถึงแม้จะถูกทักกันคนละความหมายกับที่หงส์ถูกถาม  แต่ก็เป็นประโยคเหมือนกันเปี๊ยบ  หลายคนมักมีสีหน้าตกใจอย่างกับโลกจะแตกที่รู้ว่าเราเป็นพี่น้องกัน  แม้ใบหน้าจะมีเค้าโครงคล้ายกันอยู่บ้างแต่ลักษณะส่วนตัวให้อารมณ์คนละความรู้สึกอย่างสิ้นเชิง  และทุกครั้งที่พายุกระอักกระอ่วน  นั่นก็เพราะคนแปลกหน้าที่ถามไม่ทราบว่าแม่ของมันเป็นภรรยาคนที่สองของพ่อผม 


“มีครั้งนึงมันกลับมาไทยแล้วพากูไปงานปีใหม่กับมัน พวกเพื่อนมันอะ ไม่รู้ว่ากูเป็นน้อง กูกับมันนั่งแยกโต๊ะกัน แต่กูแอบได้ยินเพื่อนมันถามว่า นั่นน้องสาวแท้ ๆ เลยเหรอวะ มันก็ตอบว่า...เออ ! แต่เพื่อนมันไม่เชื่อ ตอนนั้นเป็นครั้งแรกที่กูได้ยินมันขึ้นเสียงอะไฟ เออ ! นั่นน้องกูแท้ ๆ  มึงจะดูบัตรประชาชนไหม พวกกูมาด้วยกันเนี้ย ปู่กูก็มา มึงไปถามปู่กูไป ! กูอะ เกือบเอาหน้ามุดโต๊ะแน่ะ ต้องแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน โคตรอาย” หงส์เล่าด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ

“ฮ่า ๆ ๆ ๆ” ผมหัวเราะท่าทางของเธอ

“ฟังดูเหมือนมันอยากให้กูเป็นน้องให้ได้” หงส์พึมพำด้วยประโยคประหลาด ๆ 

“เฮ้อ พูดแล้วก็คิดถึงมันอยู่ดีอะนะ” เธอถอนหายใจ  สมุทรกับไอ้เด่นกลับเข้าครัวไปด้วยกันเพราะสมุทรถูกลุงในโรงครัวเรียกให้เข้าไปชิมอาหาร  ทั้งคู่คงอยากให้หงส์กับผมอยู่กันเป็นส่วนตัวด้วย

“พวกมันสองคนอาจจะคิดแบบมึงอยู่ก็ได้มั้ง” ผมหมายถึงพายุและดิน

เหตุผลที่ว่าสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ถูกต้องแล้วหรือไม่  ในฐานะคนเป็นพี่ที่ตัดสินใจแบบนี้  ถ้าพ่อยังอยู่ผมจะสบายใจกว่านี้ไหม  การที่พายุกับดินต้องเกิดมาเป็นน้องผม  มันจะภูมิใจได้เต็มภาคภูมิงั้นเหรอ  ผมไม่เคยกล้าถามมันด้วยซ้ำ  ถ้ายกเลิกการพูดถึงฐานะทางการเงินและให้อยู่กินอย่างสบาย  ต้องแลกมากับการที่พวกมันต้องอยู่อย่างระมัดระวังตัว  มีระเบียบวินัย  จำเป็นต้องเรียนศิลปะป้องกันตัวตั้งแต่ยังเล็กและต้องเอาดีทางด้านนี้ให้ได้ในระดับที่พอใจได้ว่าพวกมันจะปกป้องตัวเองได้ 

โลกพัฒนาไปเร็วจนน่าเบื่อหน่าย  ขณะที่ผู้คนมีความคิดเพี้ยนลงเรื่อย ๆ  เราต้องปรับตัวให้ทันยุคสมัยแต่กลับจำเป็นต้องใช้ชีวิตเสมือนสมัยผมเป็นวัยรุ่น  ลืมเรื่อง Social Media ไปได้เลย  อนุญาตให้เล่นได้  แต่ทั้ง Facebook หรือ Instagram นอกจากมันจะต้องควบคุมทุกอย่างให้เป็นแบบส่วนตัวแล้ว   มันก็ต้องคิดทุกสิ่งทุกอย่างก่อนที่จะโพสต์ในแต่ละครั้ง  เพื่อนที่จะเข้ามาเป็นเพื่อนในสื่อสังคมออนไลน์ของพวกมันได้  จะต้องเป็นเพื่อนสนิทที่รักมากที่สุดถึงได้อนุญาตให้เข้ามาในชีวิตส่วนตัว  อารมณ์ประมาณว่าถ้าหักหลังกันขึ้นมา  ก็จะสามารถลากหัวมาหาผมได้ง่าย ๆ  โดยไม่ต้องเปลืองพลังงานมากนัก

สิ่งที่โพสต์บนสื่อสังคมจะต้องไม่เป็นสิ่งที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน  และที่สำคัญ จะต้องไม่เป็นสิ่งที่มาทำให้ครอบครัวเดือดร้อนในภายหลัง  ห้าม Check-in สถานที่  ไม่ว่าจะไปที่หรูหราหรือที่กันดารแค่ไหนก็ตาม  ถ่ายรูปได้แต่ห้าม Check-in  และอีก ฯลฯ ที่ผมไม่ได้ออกปากสั่งห้ามเด็ดขาดออกไป  แต่ในฐานะที่เป็นคนในครอบครัวก็จำเป็นต้องมีตรรกะทางความคิดที่ควรคิดได้ด้วยตัวเองว่าอะไรควรทำหรือไม่  ถึงแม้เราจะไม่ได้ทำอาชีพสีดำสนิท  แต่ผมไม่ได้เป็นบุคคลที่อยู่อย่างขาวสะอาด  ไม่ว่าจะน้องชาย  เพื่อนรักหรือลูกน้องคนสนิท  ทุกคนต่างก็รู้ว่าพวกมันไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกับผมเพียงแค่มีเจ้านายเป็นเจ้าของค่ายมวย, เล่นอสังหาริมทรัพย์  หรือเจ้าของตลาด ฯ  มันเป็นชีวิตที่เหนื่อยยากกว่านั้น

“ถ้าพายุคิดแบบกูละก็ น้องไม่ตัดสินใจปล่อยมือแม่ตัวเองเพื่ออยู่กับมึงหรอก” หงส์ถอนหายใจ  ผมไม่ได้มองเธอ  รู้เพียงว่าตัวเองถูกมองอยู่

“อยู่กับมึงอะนะ มีอะไรดีวะนอกจากอยู่กินสบาย ตื่นสายก็ไม่ได้ กินข้าวไม่ตรงเวลาก็ไม่ได้ มึงกินอะไรน้องก็ต้องกินตาม ออกไปไหนก็ต้องรายงานให้ฟัง จนป่านนี้ทั้งพายุทั้งดินยังไม่กล้าพาแฟนมาแนะนำให้มึงเลยนี่ ! ศัตรูของพี่ชายรอบตัวไปหมด แถมบางครั้งต้องมีคนคอยตามก้นต้อย ๆ อีก เรื่องเพื่อนก็ต้องระวัง แถมเงินก็จำกัดการใช้ทั้งที่อยู่กินแบบเศรษฐีบรูไนเลยก็ได้ เลี้ยงเด็กสมัยนี้นะมันเอาใจยากจะตาย เป็นคนอื่นมันไม่อยู่ให้โง่หรอก สามีใหม่ของแม่พายุก็ออกจะรวย” เธอบ่นยาวซะงั้น  ผมได้แต่อมยิ้ม  บางส่วนที่เธอพูดมาก็ถูกอยู่
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2017 19:42:06 โดย เบบี้ »

ออฟไลน์ เบบี้

  • Take up an Hobby.
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2072
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4336/-15

“ไม่จำกัดการใช้เงินเหรอ...มึงลองเอาไปเลี้ยงดูหน่อยไหมล่ะ ?” ผมเลิกคิ้ว  ผมยอมรับทั้งหมดที่เธอต่อว่ามา  แต่มีประโยคเดียวที่ฟังแล้วมันขัดหูจนรู้สึกรำคาญใจ

“มึงรู้ไหม ว่าเสื้อผ้าของใช้ของพวกมัน ปี ๆ นึงกูต้องจ่ายไปกี่ล้าน” ผมบอกเสียงเรียบ 

“หึ ๆ ๆ” หงส์กัดฟันกลั้นหัวเราะ  ดูท่าเธอจะชอบใจที่เห็นผมทำหน้าเอือมระอาเต็มทนได้

“จักรยานของไอ้ดินแต่ละตัวคันละกี่แสน รองเท้ากลุ่มเพื่อนที่เล่น BMX เต้นฮิพฮอพ เล่นสเก็ตบอร์ดอะไรของพวกมันน่ะ คู่นึงไม่ต่ำกว่าห้าพันเลยสักคู่ ไอ้เด็กห่าพวกนี้แม่งใช้ชีวิตกันยังไงวะ กูโมโหทุกครั้งที่เห็นค่ารองเท้าที่มันอยากได้ สมัยกูอายุเท่ามัน คู่ละพันกูกับพี่ธานใส่วิ่งซ้อมมวยจนขาด แทนที่จะทิ้ง กูกับพี่แกต้องเอาไปให้ช่างเย็บแล้วเอามาใส่ใหม่เพราะพ่อแม่งทำเมินใส่กูตอนที่กูบอกว่า...พ่อ ! รองเท้าขาด !  แถมรองเท้าที่กูซื้อใหม่ก็มาจากน้ำพักน้ำแรงจากที่ไปชกมวยชนะมาด้วย พ่อกูรวยแล้วไงวะ ? กูกับพี่ธานต้องแลกชีวิตวัยรุ่นมากับการตื่นตีสี่เพื่อฝึกศิลปะป้องกันตัวก่อนไปโรงเรียน หลังเลิกเรียนตรงกลับค่ายมาซ้อมมวย แลกมากับการขึ้นชกที่ช้ำไปทั้งตัวจนนั่งขี้ไม่ได้ไปเป็นอาทิตย์ กว่าจะได้มาแต่ละอย่าง” ผมกัดฟันแน่นเมื่อต้องนึกถึงอดีต

“มึง...เก็บกดเหรอไฟ” หงส์นำมือปิดปากขณะเผลอยิ้มกว้างออกมา  ผมถอนหายใจยาวพร้อมส่ายหัว  ไม่เข้าใจทั้งน้อง  ทั้งตัวกูและทั้งพ่อ

“นักมวยตัวเด่นที่ทำรายได้ให้กูต่อปีปีละหลายสิบล้าน รองเท้าที่พวกมันซื้อเองราคาแค่ไม่กี่พันเองมึงเชื่อไหม คู่แพง ๆ ที่พวกมันมีอยู่น่ะเป็นของที่สปอนเซอร์ให้มาทั้งนั้น แล้วกูจะบอกให้เลย พวกมันจบโรงเรียนวัดด้วยซ้ำ ที่มันน่าโมโหคือโรงเรียนของไอ้เหี้ยดิน ไม่ว่าจะจัดแข่งขันส้นตีนอะไรก็แล้วแต่ จดหมายขอให้เป็นสปอนเซอร์ต้องถึงมือกูตลอดทั้งที่กูไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรด้วย กล้าให้กูเป็นสปอนเซอร์...ทั้งที่กูจ่ายให้โรงเรียนแต่ละปีไม่ใช่น้อย แม่งต้องหน้าด้านแค่ไหนวะ” ผมแทบควบคุมน้ำเสียงตัวเองไว้ไม่อยู่เมื่อพูดถึงเรื่องนี้  ผมไม่เคยบ่นเรื่องทำนองนี้กับใครเลยเพราะมันเป็นเรื่องจุกจิกกวนใจ  ยิ่งถกขึ้นมาก็ยิ่งกวนใจ  ที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่ส่วนนี้ไปโดยไม่คิดบ่น  อาจมีประชดให้พี่ธานฟังบ้างแต่ก็นาน ๆ ที

“ไอ้พายุนี่ไม่ต้องพูดถึง หมามันน่ะ กินดีอยู่ดีอย่างกับราชา แดกข้าวญี่ปุ่นกับเบคอนสามมื้อต่ออาทิตย์ วันดีคืนดีไปซื้อเนื้อนำเข้ามานั่งย่างแดกกับหมาอยู่หลังบ้าน มึงดูมันทำ ไอ้ฉิบหาย กูพูดแล้วขึ้น” ผมถลึงตาใส่หงส์อย่างมีอารมณ์ 

“พรืด ! กร๊ากกกก” หงส์หัวเราะหน้าหงายไปแล้ว

“เอาน่า เงินมึงชาตินี้ก็ใช้ไม่หมดปะ” หงส์พูดปนหัวเราะ

“ก็ใช่ว่ามันเป็นเงินของกู แต่มันก็เป็นเงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรงคนของกูที่ทำงานอย่างหนักเหมือนกัน จะให้พวกมันเอาเงินกูไปถลุงเล่นเพราะใช้สิทธิ์ความเป็นน้องอย่างเดียวน่ะ มันไม่ง่ายไปเหรอวะ” ผมถอนหายใจ  บ่นไปอย่างนั้นเอง

“ก็มึงมันยิ่งกว่าพ่อของพ่อซะอีก” หงส์ว่า

“เฮ้อ แต่ก็...น้องนี่นะ !” เธอตัดบทยิ้ม ๆ  ลุกขึ้นยืนพร้อมบิดขี้เกียจ  อาจกำลังเปรียบตัวเธอเองกับพี่ชายของเธออยู่ก็ได้  เพราะเธอเองก็เอาแต่ใจเวลาที่อยู่กับพี่ชายเหมือนกัน 
 
“ก็ให้ทุกอย่างที่ให้ได้แหละ” ผมพูดประชดเธอ  หงส์ยักไหล่ยอมรับ  อมยิ้มกรุ้มกริ่มด้วยสีหน้ามีความสุขเสียอย่างนั้น  ผมคว้าข้าวโพดต้มขึ้นมาหนึ่งฝัก  หงส์เดินตรงไปกลางลานหน้าบ้านพร้อมกับส่งเสียงเรียกหมาของเธอทำให้พวกมันพากันวิ่งกรูกลับมาหาเจ้านาย  ผมหักข้าวโพดต้มออกเป็นสองฝัก  วางครึ่งหนึ่งลงบนจานก่อนนำอีกครึ่งหนึ่งขึ้นสูดกลิ่นเข้าเต็มปอด

“ฟืดดดด ~ อ้า” ผมปล่อยลมหายใจออกอย่างแรง  หอมจริง ๆ ให้ตายเถอะ  สมุทรกลับออกมาจากโรงครัวอีกครั้ง  เขาหันมาเห็นผมกำลังนั่งกินข้าวโพดพอดี

“ผมต้มเองครับ เป็นยังไงบ้าง” สมุทรยิ้มถาม  ผมจ้องมองใบหน้าของเขาที่ดูมีความคาดหวังกับรสชาติอย่างออกนอกหน้า
   
“จับแดกให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยดีไหมนะ” ผมพึมพำขณะเคี้ยวข้าวโพดไปด้วย   

“คุณจะกินอีกเท่าไหร่ก็ได้ครับ มีเหลือในหม้อนึ่งอีกเยอะเลย” สมุทรยิ้มตอบ  ผมชะงัก  ไม่คาดคิดว่าจะถูกอีกฝ่ายตีความหมายไปในแง่นั้น  ความซื่อบื้อของหมอนี่มันก็เกินพิกัดจนอดขำไม่ได้

“นายครับ ฟักทองนึ่งร้อน ๆ มาแล้วคร๊าบ” ไอ้เด่นวิ่งถือจานฟักทองออกมาจากโรงครัว  ผมเหลือบมองชิ้นฟักทองที่ถูกหั่นเป็นชิ้นเล็กพอดีคำ  คนทำคงพิถีพิถันน่าดู  ควันร้อนยังปรากฏให้เห็นว่าเพิ่งถูกนำออกมาจากหม้อนึ่งจริง ๆ  ผมหยิบฟักทองขึ้นชิมหนึ่งคำ  ทั้งหวานและหอมมากทีเดียว

“เนื้อแน่นมากเลยนะครับ ผ่าแทบไม่ลง ไว้เดี๋ยวเย็นนี้ผมจะทำน้ำฟักทองไว้เป็นอาหารเช้าสำหรับพรุ่งนี้นะครับ” สมุทรพูดให้ฟัง

“ยัยนั่นปลูกเอง” ผมบอก  ส่งสายตามองไปทางหงส์ที่กำลังเล่นอยู่กับหมา

“ทำก็ดีเลย ทำเผื่อไว้ให้หงส์พกไปกินที่โรงบาลด้วยแล้วกัน” ผมสั่ง

“ได้ครับ” สมุทรยิ้มรับ

“หงส์ !” ผมตะโกนเรียก  หยิบข้าวโพดที่ถูกแบ่งไว้ครึ่งฝักโยนขึ้นกลางอากาศโดยไม่บอกกล่าวผู้รับ  ด้วยสัญชาตญาณทำให้เพื่อนผมกระโดดขึ้นสูง  ฝูงหมาของเธอเงยหน้าขึ้นมองกลางอากาศเป็นตาเดียวกัน   

“เจ๋งเป้ง” ไอ้เด่นเอ่ยปากชมตาวาวที่เห็นว่าหงส์รับไว้ได้ทัน

“มันไม่เหมือนหมอใช่ไหมล่ะ” ผมแสยะยิ้ม  ไอ้เด่นยิ้มกว้างพยักหน้าเห็นด้วย  ผมจึงหยิบข้าวโพดอีกฝักให้ไอ้เด่นรับไปกิน  มันนั่งยองลงด้านข้างผมแทนที่จะขึ้นมานั่งเสมอบนแคร่  ส่วนสมุทรยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ยอมนั่ง

“ตอนที่เรียนมหาลัย มันถูกอาจารย์ถามว่า เธออยู่คณะวิจิตรศิลป์ใช่ไหม กูกับไอ้โปรดเกือบเอาหน้ามุดดิน แม่ง ขำฉิบหาย” ผมเล่า  สมุทรกับไอ้เด่นพากันยิ้มกว้าง

“แล้วนี่พี่ชายมึงไปไหน” ผมถามถึง  ตั้งแต่หลังอาหารเช้าไอ้เข้มมาขออนุญาตผมเพื่อออกไปกับคนงานของหงส์  แล้วผมก็ไม่เห็นหัวมันอีกเลย

“มันออกไปรีดนมวัวครับนาย ปี๊ม ๆ” ไอ้เด่นตอบ  ทำหน้าทะลึ่ง ๆ ประกอบการขยับมือของตนด้วย  ทำท่าซะเห็นภาพ  ผมหัวเราะขึ้นจมูก  เข้าใจมุกตลกไร้สาระของมัน  แต่ดูเหมือนคนที่ยืนมองอยู่จะเอือมระอามากกว่าจะขบขันไปกับเราด้วย 

“ปี๊ม ๆ” ผมยักคิ้ว  เลียนเสียงของไอ้เด่นโดยมองไปที่สมุทร  อีกฝ่ายยืนนิ่ง  ไอ้เด่นหัวเราะชอบใจที่เห็นว่าสมุทรพยายามกลั้นอมยิ้มเอาไว้


บรื่น ~~

“ตายยากจริง” ไอ้เด่นเอ่ยปาก  เสียงสามล้อพ่วงกำลังขับมาถึง  ไอ้เข้มกลับมาพร้อมคนงานของหงส์อีกสองคน  มันแทบหน้าบานเมื่อเห็นว่าหงส์อยู่กับพวกเราด้วย  ตามันเยิ้มอย่างกับมีใครเอาน้ำเชื่อมไปราดอย่างนั้น 

“ไอ้เหี้ยนี่โดนสักทีดีมั้ง” ผมพูด 

“ขอโทษครับนาย” ไอ้เด่นรีบออกตัวแทนพี่ชาย

“พี่ชายมึงไม่เห็นหัวกูเลยนะ” ผมจ้องมองไอ้เด่น  มันยิ้มเจื่อน  ผงกหัวขออนุญาตแล้วลุกไปช่วยไอ้เข้มกับคนงานเพื่อย้ายถังนม  สมุทรรีบวิ่งเข้าไปช่วยเหลือด้วยอีกแรง  ถังนมสเตนเลสขนาดค่อนข้างใหญ่ที่มีคนของผมเข้าไปช่วยจึงทำให้การเคลื่อนย้ายนมลงจากรถหมดภายในไม่กี่วินาที 

“วันนี้ได้เท่าไหร่” หงส์ตะโกนถามคนงานของเธอ

“เหลืออีกสิบตันครับ อันนี้ผมแบ่งมาก่อนตามที่คุณหงส์บอก” คนงานตอบ

“ขอบใจมาก” หงส์พยักหน้ารับทราบ

“เดี๋ยวกูจะให้คนงานเตรียมใส่ขวดแก้วไว้ให้ เอากลับบ้านไปด้วยนะ” หงส์บอกผม  คงหมายถึงนมที่เพิ่งได้มาสดใหม่  ผมพยักหน้า  อีกฝ่ายนั่งลงข้าง ๆ  พูดเสร็จก็กัดข้าวโพดกินต่อ  ส่วนผมชอบกัดเล็มทีละเม็ดเรียงไปเรื่อย ๆ ให้เป็นทางยาวในแนวตั้ง  เสร็จแล้วค่อยแทะไปตามแนวขวางเป็นคำ ๆ อีกทีหนึ่ง

“กินแบบนั้นเพื่ออะไร ?” หงส์ขมวดคิ้วมอง

“........” ผมมองตาเธอ  ไม่ได้ตอบออกไป
 
“คนของมึงนี่ ไม่ว่าจะคนใหม่คนเก่าก็เป็นงานดีนะ กูก็อยากได้แบบนี้บ้าง หาให้บ้างสิ” หงส์จ้องมองไปที่สมุทร  ไอ้เข้มและไอ้เด่นที่กำลังขนสเตนเลสเปล่าจากโรงเก็บนมกลับมาขึ้นรถ  ผมถึงกับถอนหายใจอย่างหมดแรง  มันหาง่ายซะที่ไหนวะนั่นน่ะ

“สมัยนี้กว่าจะได้คนงานผู้ชายแข็งแรงหัวไวนี่มันยากจริง ๆ  บางคนโคตรขี้เกียจ แต่อยากรวย พอไล่ออกก็หาว่าใจร้าย อยู่กับคนแบบนี้กูโคตรปวดหัว” หงส์บ่นไปกินไป  ผมยิ้ม  นั่งรับฟังเธอระบายความในใจเงียบ ๆ  แน่นอนว่าผมไม่ได้โชคดีเรื่องลูกน้องร้อยเปอร์เซ็นต์แบบที่เธอเห็นนี่นะ  พูดไปก็จะเป็นเรื่องยาวซะเปล่า

“เออ ยังไม่ได้ถามถึงเลยว่าที่ค่ายเป็นยังไงบ้าง” หงส์พูด  บานเย็นเดินกลับมานั่งขนาบข้างขาแม่มันไม่ห่าง

“ก็เรื่อย ๆ  ถือว่าไม่แย่ ปีนี้นักมวยชกชนะเยอะกว่าปีก่อน แต่ก็มีนักมวยหน้าใหม่มาให้ดูแลเพิ่มด้วย ก็...ถัวเฉลี่ยกันไป” ผมตอบ

“กลับไปคราวนี้ก็ระวังตัวให้มากล่ะ” หงส์พูด 

“มีอะไรก็โทรมา กูพร้อมช่วยเสมอ” เธอหันมายักคิ้วให้  ผมเฉย  นั่งจ้องมองหน้าเธอเงียบ ๆ

“มองอะไร” หงส์ทำหน้าระแวง 

“มึงเป็นหมอก็ดีอยู่แล้ว” ผมยิ้มมุมปาก  ไม่คิดตอบรับความช่วยเหลือโดยตรง  รู้ว่าเธอกำลังหมายถึงเรื่องอะไร

“ตามจริงหมอก็ไม่ค่อยเหมาะกับมึงหรอก แต่มึงเย็บแผลสวยดี” ผมพูด  อีกฝ่ายหัวเราะ

“เดี๋ยวกูต้องส่งนักมวยกับเทรนเนอร์ไปเก็บตัวฝึกกับค่ายมวยที่ฮ่องกงอีก ลุงฮานเขาขอมาตั้งแต่ปีที่แล้ว กูยังไม่ว่างสักที” ผมถอนหายใจ   

“ทำไม” หงส์สงสัย 

“ก็ถ้าส่งไป กูก็ต้องไปด้วย อยู่เป็นเดือน ๆ” ผมตอบ 

“อะไรคะ นี่ดิฉันหูฝาดไปรึเปล่า คุณไฟผู้บ้างานพูดแบบนี้ก็เป็น มีอะไรทำให้ไม่อยากไปต่างประเทศหรือคะ หรือว่า...มีคนที่ทำให้รู้สึกว่ามีคุณค่าที่จะมีชีวิตอยู่ต่อบนโลกนี้แล้ว คิก ๆ” หงส์แซ็ว  ได้ทีทำหน้ากรุ้มกริ่มยกใหญ่

“ฮึ” ผมหัวเราะขึ้นจมูกและไม่คิดที่จะปฏิเสธเธอ

“อยากไปเที่ยวบ้างจังนะ คิดถึงติ่มซำร้านประจำพ่อมึงด้วย” เธอพึมพำ

“ไปสิ ไบที่นั่นแม่งแจ่มสัส” ผมแสยะยิ้ม  หงส์ถลึงตาโตด้วยสีหน้าสนอกสนใจขึ้นมา

“นี่อย่าบอกนะ ว่ามึงฟาดลูกชายเจ้าของร้านติ่มซำไปแล้ว !” หงส์หันขวับมาหน้าตาตื่น  ผมว่าที่เราเป็นเพื่อนรักกันได้เพราะเธอประสาทสัมผัสไวดีน่ะนะ

“........” ผมนั่งเฉย  เหลือบตามองไปทางบานเย็นที่กำลังจ้องหน้าผมอยู่

“ไส้ฮะเก๋าแน่นมากเลย” ผมพึมพำ  กะพริบตาปริบ ๆ ให้เธอ

“มึงนี่เหลือเกินนน...” เธออ้าปากหวอ

“ว่าไป...ไม่มีใครคิดทำวิทยานิพนธ์เรื่องเสียงครางของแต่ละประเทศบ้างเหรอวะ” ผมพูดด้วยสีหน้าจริงจัง 

“มึงไม่มีเซ็กส์นี่มึงจะตายไหม” หงส์กระแทกเสียงทั้งที่กำลังกลั้นรอยยิ้มตัวเองเอาไว้

“ไต้หวัน เกาหลีนี่ของดี...เอบวกเลย” ผมทำหูทวนลมไม่ฟังเสียงบ่นจากเธอ  หงส์ถอนหายใจอีกครั้ง

“หรือว่ามึงชอบงานช่ำชอง ? งั้นต้องไปนี่เลย แดนปลาดิบ my favorite ดินแดนแห่งการใส่ใจรายละเอียด” ผมยักคิ้วทีนึง  อยู่ดี ๆ หงส์ก็อมยิ้ม  เบือนหน้าหนีผมไปอีกทาง  ผมยิ้มกว้างมอง

“กูเป็นเพื่อนมึงได้ไงนะ” เธอบ่นออกมา 

“ไหนมึงบอกว่ามึงชอบสมุทรไง นี่มึงจะหยุดนิสัยแบบนี้ของมึงได้ไหมเนี้ย” หงส์ต่อว่า 

“เอามารวมกันทำไม หัวข้อมันก็แยกกันอยู่แต่แรก” ผมไม่สน

“โชคดี !” เธอสบถใส่

“ไปด้วยกันไหมล่ะ เดี๋ยวให้คนมารับ” ผมถามจริงจัง

“กูกระดิกตัวไปไหนไม่ได้ยิ่งกว่ามึงซะอีก หมอไม่พอ ข้าวเที่ยงยังลืมเลยว่ากินไปแล้วรึยัง” เธอทำหน้าเซ็ง

“ตรวจไปแดกไปไม่ได้เหรอวะ ส่วนตัวกูไม่ถือนะ” ผมพูดติดตลก  อีกฝ่ายหัวเราะ

“หุ่นยนต์ยังต้องใส่ถ่านเลย แดกข้าวให้ตรงเวลาซะ” ผมสั่ง  หงส์ทำลอยหน้าลอยตาไม่ยอมรับปากผมโดยดี

“มึงคอยบอกให้คนอื่นรักษาสุขภาพ หัดบอกตัวเองซะบ้างเถอะ เวลาที่มึงสอนคนอื่นแต่มึงทำไม่ได้ มึงกล้าไปสอนเขาได้ไง” ผมส่ายหัวไม่เข้าใจ 

“ทีเรื่องนี้มึงนี่ขี้บ่นเป็นบ้า” หงส์หันกลับมาทำหน้ามุ่ยใส่ผมอีก

“เตือนก็หาว่าบ่น” ผมว่า

“เวลาที่มึงส่องกระจกแล้วมึงโทรมกว่าคนไข้ มึงไม่กลัวตัวเองเหรอวะ” ผมพูดปนหัวเราะ

“สัส !” หงส์ด่าเขิน ๆ

“ใจจริง...กูก็อยากลาออกอยู่หรอก” เธอถอนหายใจ  คอตกลงคล้ายคนหมดแรง

“แต่ก็คิดไม่ตก ดันรู้สึกเหมือน...เห็นแก่ตัว”

“กูอะนะ อยากเปิดคลินิกเล็ก ๆ ใกล้กับไร่ ชาวบ้านแถวนี้จะได้เดินทางไปมาสะดวก เล็ก ๆ น้อย ๆ จะได้ไม่ต้องเข้าเมือง แล้วก็...จะได้มีเวลาดูแลไร่มากขึ้นด้วย แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็ต้องแบกรับความรับผิดชอบเยอะแยะ” หงส์อมยิ้มพูดให้ฟัง

“จะเสียเวลาเรียนหมอทำไมตั้งแต่แรกเล่า” ผมกวนเธอ

“ใครมันจะไปรู้ล่ะว่าอยู่กับสวนกับไร่แล้วสบายใจกว่าอะ ! ทีมึงยังเรียนบริหารเลย” หงส์สวนผม

“ธุรกิจพ่อกูเยอะแยะ” ผมยักคิ้วกวนเธอไม่หยุด

“ชิ !” หงส์สะบัดหน้าหนีอีกครั้ง  ผมยิ้มมอง  วันนี้คอเธอจะหลุดออกมาไหมนะ  สะบัดบ่อยฉิบหาย

“แบบนั้นก็ดี” ผมเอ่ย  เห็นดีด้วยกับความคิดของเธอ  หงส์อมยิ้มได้นิดหน่อย

“...เห็นแก่ตัวเหรอ ?” ผมทิ้งเสียงลง  กัดข้าวโพดแถวสุดท้ายเข้าปาก  ครึ่งฝักแรกหมดลง  มันเกลี้ยงเกลายิ่งกว่าเอามีดปาดเสียอีก

“มึงช่วยเหลือทุกคนไม่ได้หรอก” ผมพูด

“จะมีสักกี่คนที่ยอมสละชีวิตทั้งชีวิตของตัวเองเพื่อคนอื่น ชีวิตมึงไม่ได้เกิดมามีหน้าที่แบกรับความลำบากของทุกคน ถ้ามึงเฝ้าแต่คิดแบบนี้ พอถึงจุด ๆ หนึ่งที่ร่างกายมึงแย่ คนที่จะคอยประคองมึงคือครอบครัว จะมีกี่คนที่จะหันกลับมามองสิ่งที่มึงเคยทำไว้ สุดท้าย...มึงต่างหากที่ต้องเป็นฝ่ายหันกลับมาช่วยเหลือตัวเอง” ผมวางข้าวโพดลงบนถาดก่อนหยิบน้ำเปล่าขึ้นดื่ม

“ความจริงคือเรายังต้องเผชิญกับคนคิดเอาแต่ได้ ทำไมถึงไม่ทำแบบนี้ล่ะ ? พอไม่ถูกใจ เป็นฝ่ายเสียประโยชน์ขึ้นมา มึงแหละผิด กูสิถูก มึงมันเห็นแก่ตัว” ผมพึมพำไม่จริงจังอะไรนัก  คนฟังหัวเราะไม่ปฏิเสธ

“เอาคำพูดของคนที่ไม่ได้ห่วงเราจริง ๆ มาใส่ใจ คนพูดน่ะลืมไปแล้ว มีแต่มึงต่างหากที่ยังเจ็บปวด”

“มึงนี่ ละเอียดอ่อนจังนะ” หงส์อมยิ้มเจ้าเล่ห์

“กูใสซื่อสุด ๆ” ผมยักคิ้วตอบ  หงส์หัวเราะ

“มีคนอีกเยอะแยะที่ไม่เคยปรับตัวเองเพื่อทำประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้ใครเลย ไม่เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน ไม่ว่าร้ายคนที่ไม่รู้จัก ทิ้งขยะในที่ ๆ ควรทิ้ง อยู่ยังไงไม่ให้ข้างบ้านเดือดร้อน ไม่ต่อราคาของจนแม่ค้าร้องไห้ เอาใจเขามาใส่ใจเรา ที่จริงมันคือประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ  มึงอย่าไปมองให้เรื่องมันใหญ่สิ” ผมพูด

“นั่นสิ ทำไมกูถึงลืมคิดไปได้นะ” หงส์พึมพำตาลอย

“ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะเจ้าของไร่...หรือหมอ มึงก็ทำดีที่สุดแล้วไม่ใช่เหรอ ดีที่สุดคือ...สุดที่กำลังของตัวเอง ไม่เกินไปกว่านั้น ชาวบ้านแถวนี้ได้มีงานทำ ไม่ต้องเดินทางเข้าเมือง มึงเลี้ยงดูพวกเขาอย่างดี สินค้าที่มึงส่งออกไปเป็นสินค้ามีคุณภาพ กูยังไม่เห็นว่ามึงทำเรื่องที่เรียกว่าเห็นแก่ตัว อย่าทำให้ตัวเองเดือดร้อนเพราะคิดแทนคนอื่นหงส์ เพราะอีกฝ่ายเขาอาจไม่ได้คิดถึงมึงเลยก็ได้ ทำให้มันพอดี”

“งั้น...ที่มึงถูกยิงมานี่ยังไม่เกินกำลังมึงใช่ไหม” หงส์จ้องมองตาปริบ

“ไม่กวนตีนสิครับ” ผมทำสีหน้าแบบเดียวกันกวนเธอกลับ  หงส์หัวเราะ

“มึงเองก็เหมือนกันนะ กูเป็นห่วง” หงส์พูดลอย ๆ  เราเงียบลง

“เฮ้อ ! กูก็ว่าจะปรึกษาปู่เรื่องนี้อยู่แหละ” หงส์ฉีกยิ้ม

“ถ้าจะทำก็บอกแล้วกัน” ผมพูด 

“........” หงส์เงียบไป

“ค่าก่อสร้างกูจะออกให้เอง” ผมบอก  อีกฝ่ายหันกลับมาตาเบิกโต 

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 14-10-2017 16:15:12 โดย เบบี้ »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด