-- ตอนที่ 4 ---
ผมแสดงความดีใจอย่างสุดซึ้งด้วยการหางตีน้ำจนนั้นกระเด็นออกจากโหลแก้ว
ในอีกนัยนึงคือผมกำลังเรียกร้องความสนใจจากพี่กานต์ให้มาอยู่ที่ผมครับ
ผมตีน้ำจนรู้สึกเมื่อยหางพี่แกก็นั่งพิมพ์นิยายต็อกแต๊กไม่ได้ยินครับ
โว้ยย
มีหูป่ะเนี่ยพี่กานต์ เป็นหมีแล้วต้องมีหูดิ
ผมเริ่มรู้สึกเซ็งเพราะท้องเริ่มหิวอีกแล้ว และร่างกายของผมก็ค่อยๆ พาร่างเข้าไปใกล้อาหารปลาเรื่อยๆ
ไม่ !
กูไม่กินนน ฮืออออ
ผมว่ายพรวดเดียวไปอยู่ในกระต็อบพยายามดึงสติตัวเองให้อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่เช่นนั้นสัญชาตญาณของปลาทองบ้อบอนี่ต้องทำให้ผมกินอาหารเม็ดสีแดงเปื่อยๆ นั่นแน่
อย่ามาเร่งสีเร่งวุ้นกูเลย ฮือๆ
ผมตีครีบนิ่งๆ ตั้งสติให้โฟกัสกับเรื่องเรียกพี่กานต์ไม่ใช่เรื่องแฟน
...
รู้สึกจะนอกเรื่องนิดหน่อยครับ
ผมว่ายไปแถวผิวๆ น้ำเอาหัววุ้นๆ นี่โผล่ขึ้นไปในอากาศ
พองงงงงงง
หายใจไม่ออกครับ !
ผมรีบลงมาจุ่มตัวในน้ำอย่างน่ารักเหมือนเดิม
แต่มันก็เป็นความคิดที่ดีนะครับ ถ้าผมกระโดดตูมออกจากโหลไปแปะบนโต๊ะและดิ้นดุ้กดิ้กน่ารักบ้องแบ้ว แต่เกรงใจว่าพี่กานต์จะไม่เห็นสิครับ อย่างงั้นผมก็อาจจะตายฟรีดิ
ไม่หรอกน่า !
ดวงผมไม่แย่ขนาดนั้นหรอก แค่กลายร่างเป็นปลาทองแค่นั้นแหละ พี่กานต์ต้องเห็นแซนด์วิชแฮมที่เป็นอาหารมื้อสำคัญของพี่กานต์สิ
คิดเฉยๆ มันไม่เร้าใจครับ
ต้องทำด้วย !
ผมว่ายวนโหลแก้วโชว์ท่วงท่าการว่ายอันสง่างามหนึ่งครั้งเพื่อที่จะได้ภูมิใจไว้อวดลูกอวดหลานว่ากูเคยเป็นปลาทองมาก่อนแล้วว่ายสวยมากด้วยและไปกระจุกตัวอยู่ที่ก้นโหลของริมฝั่งนึง
ปลาทองตัวอ้วนสีส้มดุ้กดิ้กอยู่กับที่ประมาณเกือบ 10 นาทีกว่าจะเริ่มขยับตัวอีกครั้ง
เเนื่องมาจากการสวดมนต์แผ่เมตตาให้ตัวเองนั่นเอง
รอดเห้อะ ผมคิดในใจและทำการพุ่งสลาตันออกจากโหลแก้วทันที
ความจริงก็แอบคิดนะครับว่า ผมจะออกได้ไหม
แต่ตอนนี้คงคิดไม่ทันแล้วววว
ฮือออ
แปะ...
ร่างปลาทองดิ้นผลั่กๆ อยู่บนโต๊ะตาเหลือกค้างอย่างน่าเวทนา น้ำที่หยดซึมออกจากตัวค่อยๆ หยดไหลออกไปลากยาวไปตามโต๊ะ..
ผมจะกรี้ดแล้วครับ
พี่ก้านนนนต์
ทำไมมึงไม่เห็นนนน
ผมดิ้นผลั่กๆ อย่างควบคุมไม่ได้
ฮือๆๆๆ
นี่กูต้องมาจบชีวิตที่นี้เหรอ
ทุเรศเกินไปแล้ว
ทำไมชีวิตผมถึงได้พองขนาดนี้
แต่ก่อนที่ผมจะวิตกจริตจนเป็นปลาทองบ้าไป คำนินทาของผมดูท่าจะไปสะกิดความรู้สึกให้พี่กานต์หันมามองพอดี “ เหี้ย !! ” พี่กานต์หลุดอุทานและลุกพรวดวิ่งมาเหมือนหมีกำลังพุ่งพลาวใส่ปลาแซลม่อนกลางแม่น้ำ มือหนาหยาบของพี่กานต์ประคองผมขึ่นในมืออย่างเร่งรีบแล้วปล่อยลงโหลแก้วดังเดิม
อาห์ ผมเพิ่งรู้สึกว่าน้ำประปาให้ความรู้สึกสดชื่นมาก
“ แซนด์วิชแฮม !! มึงกระโดดออกมาทำไม ! ” พี่กานต์ตะคอกใส่ผมด้วยสีหน้าโกรธจัดร่างกายสั่นเถิ้มแววตาส่อถึงความดุร้ายออกมา
ความรู้สึกสดชื่นหาบไปพลัน
แล้วคร้าบพี่ ฮืออ
แต่ตอนนี้ผมยังกลัวไม่ได้ ผมต้องคุยกับพี่แกก่อน
“ ร้อยวันพันปีมึงไม่เคยกระโดดออกมา ถ้าเกิดกูไม่เห็นแล้วมึงตายล่ะ ! ” นัยน์ตาของพี่กานต์ขึ้นสีจัดขึ้น “ มึงอยู่กับกูมาหลายปีแล้วนะ กูไม่ยอมให้มึงตายง่ายๆ หรอก ” มือพี่กานต์สั่นจนผมรู้สึกได้ “ กูรู้มึงเป็นแค่ปลาทองโง่ๆ.. แต่กูขอได้ไหมวะ อย่าทิ้งกูไปเลย แค่นี่กูก็แทบไม่มีใครแล้ว ”
แววตาของพี่กานต์ทำให้ผมรู้สึกเสียใจที่ตัวเองกระโดดออกมา
ขอโทษ..
ผมหลุบตาลงต่ำด้วยความรู้สึกผิด
แต่เดี๋ยวก่อน..
นั่นมันหินนี่หว่า เยอะด้วย
บทโศกไว้ก่อนนะพี่ ตอนนี้ผมช่วยตัวเองก่อนครับ
ผมว่ายพรวดไปกองหินบนพื้นพยายามเอาครีบมาดันๆ เป็นคำๆ
“ หึ เมื่อกี้เกือบตายยังจะไปอมหินเล่นอีกนะมึง ” เสียงหัวเราะแหบต่ำที่ดูเหมือนจิกกัดแต่ก็รู้สึกได้ถึงความเศร้าของพี่กานต์
พูดถึงอมหิน
เออ ไอเดียดีว่ะ พี่ อมหินๆ
อย่างน้อยมันก็ดีกว่ากินอาหารปลาล่ะวะ
ผมก้มหน้าก้มตาไล่อมทีละอันสองอันมาวางเรียงบนพื้นน้ำเป็นคำว่า TOY
“ เดี๋ยวนี้เก่งนะมึง เรียงเป็นคำได้ด้วย ” พูดไม่พอเอามือจุ่มลงมาในน้ำ
ไม่ อย่ามาทำลายความตั้งใจของผมนะ
ผมรีบเอาหางไปตบตีกับมือของพี่กานต์เอาครีบตีน้ำใส่จนพี่กานต์ยอมเอามือออก พี่กานต์หลุดยิ้มจางออกมา
“ ไอ้ห่า ไม่ให้กูแกล้งอีก ”
ผมอมคายหินเป็นเกือบยี่สิบรอบก็ได้ชื่อสุดไพเราะของตัวเองออกมานำเสนอให้พี่กานต์อ่านและเข้าใจว่า ผมคือทอยหาใช่แซนด์วิชแฮมบ้าบอนั่นไม่
พี่กานต์ขมวดคิ้วแน่น
ทำให้ผมรู้สึกลุ้น
วุ้ววว ช่วยรู้หน่อยเหอะว่าผมคือทอย
“ นี่ไปอยู่กับทอยแปปเดียว มึงเล่นเรียงหินเป็นชื่อเขาได้เลยเหรอวะ เหี้ยวะ ”
อ้าว..
T-T
พี่กานต์เอียงคอไปมาจนมีเสียงกระดูกดังกร็อบๆ “ จะว่าไปทำไมเดี๋ยวนี้มึงเก่งจังวะ ปกติโง่จะตายห่า กูสั่งทำอะไรก็ทำไม่เป็น เอาแต่ตีหางใส่กู ”
ใช่ๆ เดี๋ยวนี้ผมเก่งขึ้น
ช่วยเอะใจหน่อยเหอะ
พี่กานต์โน้มตัวลงมาพิจารณาผมใกล้ๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ หรือว่ามึงจะช็อคน้ำแล้วได้นิสัยใหม่มาวะ ? ”
โอ๊ยยย
พี่กานต์เอ้ย
นี่พี่เชื่อมโยงได้ห่วยแตกมาก
เอาใหม่ ผมให้คิดใหม่นะครับ
คิดดีๆ
ผมตีครีบไปแปะอยู่ตรงโหลให้พี่แกเห็นหน้าปลาทองผมชัดๆ
“ เอ้ะ มันก็คงไม่ใช่ว่ะ ที่มึงจะฉลาดเพราะแค่ช็อคน้ำ ” พี่กานต์เอานิ้วเคาะกระจกตรงที่ผมอยู่ แต่เสียใจผมไม่ตกใจหรอกครับ หีหี
“ หรือมึงจะไม่ใช่ปลาทองวะ ? ”
ผมนี่แทบจะจูบกระต็อบด้วยความดีใจเลย
เอาเลย พี่กานต์ให้ผมพิสูจน์เลย
พี่กานต์ยังคงสีหน้าเคร่งเครียดไว้ “ เชี่ย จะบ้าเหรอวะ ปลาทองที่ไม่ใช่ปลาทอง ” และส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆ “ ช่างแม่ง ลองดูเล่นๆ แล้วกัน ”
มาพี่ กระโดดลอดห่วง ขอมือ เต้นระบำชะชะช่า อะไรก็จัดมาเหอะ
“ ถ้ามึงไม่ใช่ปลาทอง มึงต้องว่ายน้ำเป็นรูปดาวแล้วกินอาหารที่กองอยู่ตรงโหลแก้วให้หมด ”
มึงจะบ้าเหรออออออออออออ
ว่ายเป็นวงกลมกูยังเมาเลย
นี่ล่อรูปดาว
เอาก็เอาวะ
ปลาทองตัวอ้วนค่อยๆ ว่ายเป็นรูปดาวทำให้ดวงตาของพี่กานต์เดิมที่ยังเจือความเคร่งเครียดแปรเปลี่ยนเป็นเบิกกว้างแทน จนกระทั่งมันทำตามสิ่งที่ตนเองสั่งครบและนอนแปะบนพื้น พี่กานต์ถึงจะได้สติขึ้นมาอีกครั้ง
“ เชี่ย... มึงไม่ใช่แซนด์วิชแฮมแล้วมึงใครวะ ” พี่กานต์เอามือขยี้หัวตัวเอง
ผมว่ายวนรอบคำว่า TOY ด้วยความรู้สึกเสียใจโครตๆ
กูกินซากุระไปแล้วอ่ะ ฮืออ
อร่อยอ่ะ..
“
น้องทอย ? ทอยน้องไอ้ฟลุ๊คเหรอ ” พี่กานต์ถามเสียงสูงสีหน้าโครตไม่เชื่อในสิ่งที่กำลังรับรู้
ผมตีน้ำแทนคำตอบ
พี่กานต์ถึงกับพูดอะไรไม่ออก “ แล้วน้องไปอยู่ในร่างปลาทองของพี่ได้ไง ? แล้วคนละ น้องไม่อยากเป็นคนแล้วเหรอ ” น้ำเสียงที่ถามอ่อนลงทันทีแต่กลับฟังดูเย็นชากว่าตอนที่คุยกับแซนด์วิชแฮมเป็นไหนๆ
ผมก็ไม่รู้..
ผมได้ส่งสายตาทำปากพองเป็นจังหวะให้พี่แกเท่านั้น
ผมตอบข้อนี้ไม่ได้ ที่ทำไมผมถึงกลายเป็นปลาทอง
“ อย่านิ่งดิ ไม่งั้นพี่ช่วยอะไรไม่ได้นะ ” พี่กานต์พูดเสียงเรียบแววตาเดิมทีที่มีความเอ็นดูหายไปเหลือเพียงพี่กานต์ในยามปกติที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
ผมฟังน้ำเสียงของพี่แกก็อดเสียใจไม่ได้
ผมชอบพี่กานต์ที่หยอกล้อกับแซนด์วิชแฮมมากว่าพี่กานต์ตอนนี้..
ผมว่ายเข้าไปหลบในกระต็อบแทนตอบคำถามใดๆ เพิ่ม
ทั้งๆ ที่พี่กานต์อาจจะช่วยผมได้แต่ตอนนี้ผมกลับไม่มีอารมณ์อยากโดนช่วยแม้แต่น้อย
“ ออกมาคุยกันดีๆ.. ทอย พี่รู้ว่าเราเครียด ”
ผมยอมว่ายเอื่อยๆ ออกมาอีกรอบจ้องพี่กานต์
ตอนนี้ผมในสายตาพี่กานต์เป็นยังไงกัน ?
ไม่ใช่แซนด์วิชแฮมที่น่ารักของพี่กานต์อีกต่อไป
มีแต่น้องชายของฟลุ๊คที่ไม่สนิทด้วย..
ผมไม่อยากได้ความเย็นชาของพี่กานต์..
ผมอยากได้พี่กานต์ที่ยิ้มได้คืนมา
ถึงแม้ว่าผมจะไม่สิทธิในส่วนนั้นก็ตาม
พี่กานต์ยิ้มอ่อนให้ผมเอามือลูบตรงโหลแก้ว “ ค่อยคุยกันพรุ่งนี้เถอะ วันนี้พี่เหนื่อยๆ คงจะคุยกับเราไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ ”
ผมยังไม่ทันได้ตอบรับอะไรพี่กานต์ก็เดินไปปิดคอมปิดไฟล้มตัวนอนบนเตียงเงียบๆ ไม่พูดอะไรต่อ
ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันในห้อง
ผมว่ายกลับเข้าไปกองในกระต็อบอีกครั้ง
ด้วยความรู้สึกแปลกไป
ความรู้สึกเสียดๆ ในอกที่บอกที่มาไม่ได้
ผมตัดสินใจปล่อยให้ร่างกายทำตามที่มันต้องการ
ปล่อยให้สติหลุดลอยออกไป
เหลือไว้เพียงร่างปลาทองกลวงๆ ที่มีชื่อว่าแซนด์วิชแฮมไว้
ตามที่พี่กานต์ต้องการ..
-------------
พี่กานต์รู้แล้วเฮ้ !!

แต่ทำไมถึงเย็นชากับน้องเล่าา