พิมพ์หน้านี้ - [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => เรื่องสั้น => ข้อความที่เริ่มโดย: Foggy Time ที่ 18-08-2015 22:49:26

หัวข้อ: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 18-08-2015 22:49:26
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 18-08-2015 22:53:16
เคยอ่านนิยายแนวๆ เป็นสัตว์ไหมครับ ?
   
ส่วนใหญ่ก็เห็นเป็นตัวน่ารักมุ้งมิ้งกันนะครับ
   
อย่างหมาอย่างแมวเงี้ย
   
แล้วทำไมผมถึงได้เป็นปลาทองล่ะโว้ยยย

   Chapter 1

   
“ เฮ้ย ทอย พี่ฝากเอาปลาทองนี่ไปพี่กานต์หน่อยดิ ”
   
“ ทำไมพี่ไม่ให้เองล่ะ ”
   
“ เอ้า ถ้ากูว่างกูคงไม่ให้มึงเอาไปให้หรอกนะ ทอย ”
   
“ ก็ได้ๆ เดี๋ยวผมเอาไปให้เอาวางไว้บนโต๊ะนั่นแหละ ”
   
“ เออ พี่วางไว้นะ ไปละ ”

   “ ครับๆ ”

   
เรื่องข้างบนเป็นเรื่องพอสังเขปครับ คือผมมีหน้าที่เอาปลาทองตัวอ้วนนี่ไปให้พี่กานต์ที่เป็นเพื่อนพี่ชายผมครับ ผมเคยเจอพี่เขาไม่กี่ครั้งหรอกครับ โน่น อยู่ท้ายหมู่บ้านถ้าจะไปหาต้องซิ่งจักรยานไปเกือบ 5 นาทีแน่ะ แต่พี่ชายผมที่บังเอิญอยู่ห้องเดียวกับพี่กานต์พอดีเลยสนิทกันชอบแวบไปบ้านพี่กานต์บ่อยๆ จนกระทั่งตอนนี้เนี่ยแหละครับที่ทำงานกันแล้วไม่ค่อยได้เจอกันเหมือนเดิม พี่ผมออกไปอยู่หอพักใกล้ที่ทำงานส่วนผมอยู่บ้านคนเดียวครับ พ่อแม่อยู่ต่างจังหวัดกลับไปใช้ชีวิตชนบท
   ตอนนี้ผมก็ประกอบอาชีพฟรีแลนซ์วาดรูปละครับ วาดนู่นนี่นั่นไปเรื่อย เขียนบล็อกไปเที่ยวบ้าง เขียนการ์ตูนบ้างไปตามเรื่องตามราว ก็พอมีกินมีใช้นั่นแหละครับ
   
ผมก้มมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองพบว่าเป็นเวลาเย็นๆ หลังเลิกงานพอดีพี่กานต์ที่ไม่รู้ทำอาชีพอะไรน่าจะกลับมาถึงบ้านแล้ว ผมหยิบโหลแก้วใสที่มีปลาทองที่กำลังว่ายไปว่ายอย่างสบายใจดวงตาของมันเหลือบมองผมเหมือนเห็นผมเป็นสิ่งแปลกปลอมในชีวิตมันและมันก็เอาหางตีน้ำใส่ผมเหมือนกำลังสื่อว่าไม่อยากเห็นหน้าไม่อยากยุ่ง
   
เออ ! กูไม่ยุ่งกับมึงหรอกปลาทอง
   
ถ้ากูเป็นมึงกูจะทำตัวดีๆ เจ้าของจะได้รัก !
   
คิดไปก็หงุดหงิดใจครับ
   
เอามันไปให้พี่กานต์ดีกว่า
   
ผมหากระดาษห่ออาหารพลาสติกที่เป็นใสๆ มาคลุมโหลมันไว้ลวกๆ กันน้ำหกและขึ้นควบจักรยานเซอร์ๆ คู่ใจของผมครับ ดีที่มันมีตะกร้าผมจึงจัดการยัดโหลปลาทองนี่เข้าไปได้ เจ้าปลาทองมันขึ้นมาลอยเอื่อยบนน้ำเหมือนกำลังงงในชีวิตและตีครีบไปมาราวกับอยากจะหนีออกจากโหลแก้ว
   
เมื่อกี้มึงไม่อยากยุ่งกับกูใช่ไหมไอ้ปลาทอง
   
ได้ กูจัดให้ !
   
ผมจัดการเอาเท้าขึ้นเหยียบคันถีบจักรยานออกแรงปั่นสุดชีวิต

น้ำในโหลกระฉอกไปกระฉอกมาแต่ไม่กระเด็นออกมาซักเม็ดครับ เจ้าปลาทองเหมือนกำลังกรีดร้องโหยหวนว่าพ่องๆๆ ออกมาอย่างรัวและเร็ว
   
ผมหัวเราะออกมาอย่างสะใจและนึกขึ้นมาได้ว่าถ้าไอ้ปลาทองนี่ตายพี่ผมต้องมาฆ่าผมแน่ๆ ผมเลยจัดการชะลอความเร็วลงด้วยระดับความเร็วคุณป้าขี่ไปตลาดจนกระทั่งถึงบ้านพี่กานต์ ผมลงจากจักรยานเตะขาตั้งลงคว้าโหลแก้วขึ้นมาพิจารณาเจ้าปลาทองด้วยความเอ็นดูที่ล้นเหลือ
   
เป็นไงล่ะมึง
   
ผมแกะกระดาษห่อพลาสติกออกพบว่ามันว่ายน้ำตีครีบด้วยท่าทางเหนื่อยอ่อน  ผมเริ่มหน้าซีดเพราะกลัวมันตาย เอาวะ ถึงมึงเจ้าของค่อยตายเนอะไอ้ปลาทอง ผมกดกริ่งที่ดูใหม่ที่สุดดังกริ้งรอบนึง
   
“ เข้ามาเลยไม่ได้ล็อค !! ” เสียงแหบต่ำตะโกนดังลั่น
   
จนผมอดสะดุ้งไม่ได้ มันมีเหตุผลอยู่ครับว่าทำไม ผมถึงไม่ค่อยสนิทกับพี่กานต์ เพราะว่าไอ้พี่กานต์นี่ตัวโครตใหญ่เลยครับหน้าโหดๆ เหี้ยมๆ เสียงดุ แต่แปลกนะครับ สาวกรี๊ดตรึม แต่นั่นไม่รวมผมครับ ผมโครตกลัวพี่แกเลย มีครั้งนึงที่พี่ผมทะเลาะกับพี่กานต์ พี่แกเล่นตะคอกเสียงดังลั่นตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาผมก็ไม่กล้ามายุ่งกับพี่แกอีกเลยครับ กลัวว่าพี่แกจะฆ่าผมเข้าสักวัน
   
ผมเปิดประตูเหล็กเข้าไปอย่างกล้าๆ กลัวๆ สงสัยพี่ผมจะโทรมาบอกพี่กานต์ไว้แล้วว่าผมจะเอาปลาทองมาให้ล่ะมั้ง พี่กานต์ถึงได้ตะโกนบอกแบบนั้น ผมอุ้มโหลปลาทองด้วยมือข้างนึงและเดินเข้าไปในบ้าน บ้านพี่กานต์เป็นบ้านออกแนวสวนๆ หน่อยครับจากความทรงจำเมื่อนานมาแล้วของผมและตอนนี้ก็ยังคงเป็นอยู่เช่นเดิม ผมรีบก้าวขาเปิดประตูเข้าไปในบ้านของพี่กานต์
   
มีโต๊ะของห้องรับแขกอยู่พอดีผมเลยเดินเอาโหลแก้วนี้ไปวางครับ
   
วางเสร็จแล้วก็กลับดีกว่าครับ
   
ผมกลัวพี่กานต์เขาจริงๆ นะครับ
   
แต่ก่อนที่จะกลับ ไอ้ปลาทองบ้าบออยู่ดีๆ มันก็หงายท้องลอยอืดตาบวมครับ !
   
มึงเป็นอะไรรรร้ เจ้าของมึงยังไม่เห็นหน้าค่าตามึงเลย มึงชิงตายแล้วเหรออ
   
ผมลองเอานิ้วไปจิ้มดูเผื่อว่านี่คือการแกล้งตาย
   
จิ้ม...
   
   
นั่นแหละครับที่มาของปลาทองในนามว่าทอย
   
ลุ้นระทึกดีไหมล่ะครับ
   
ตอนนี้ผมเป็นปลาทองตัวอ้วนสีส้มตาโปนทำปากด่าคนอื่นครับ
   
ชั่วซะไม่มีล่ะ เฮ้อออ
   
ผมไม่เข้าใจว่าทำไมแค่การจิ้มอีปลาทองบ้านั่นแล้วผมต้องมาสิงร่างมันเนี่ย ส่วนร่างของผมเหรอครับ ? หายวับไปกับตาเหมือนกัน ไม่รู้ว่าไอ้ปลาทองบ้านั่นมันขโมยเอาไปสิงอยู่รึเปล่า ถ้าใช่ผมจะฆ่าตัวตายด้วยการกินอาหารจนท้องแตกตายแม่งเลย
   
เอาเถอะ คิดไร้สาระไปก็มากความ เพราะไอ้เรื่องที่ผมเล่ามันเกิดขึ่นไปถึง 2 นาทีด้วยซ้ำ พี่กานต์ที่แสนน่ากลัวก็ยังไม่พบปลาทองที่รักยิ่งที่พี่แกไปฝากพี่กานต์ไว้ครับ
   
ตอนนี้ผมเลยได้แต่ทำปากก่นด่าชีวิตเองว่า พอง พอง พอง พองตัวครับ
   
คือไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าต้องมาเป็นปลาทองตัวอ้วนคอยแดกอาหารและน่ารักไปวันๆ
   
โอ้ย ชีวิตกูทำไมมันเหี้ยขนาดนี้วะเนี้ยยย
   
กูจะร้องไห้เป็นภาษาพอง
   
“ ไหนน้องไอ้ฟลุ๊ควะ ? ” 
   
ผมสะดุ้งเฮือกกับเสียงของพี่กานต์ ร่างปลาทองตัวอ้วนรีบหมุนตัวมาดูหน้าเจ้านายทันทีครับ
   
เชี่ย...
   
พี่แกแม่งไม่ได้ใส่อะไรเลยครับ !

---------------------
พลอตเรื่องนี้มันฟุ้งๆ ในหัวมาหลายเดือนแล้ว แต่ไม่ได้เขียนสักที

# แอบมาลงเรื่องสั้น 555555
 
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 19-08-2015 08:20:30
น้องฟลุ๊คคคคคคคค

กลายเป็นปลาทองซะละ แถมได้เห็นของดีตลอดเวลาอีก อิอิ

ตกลงนี่พระเจ้าปลาทองลงโทษน้องสินะ (5555555+)



ปอลิง อยากฝากถึงคนเลี้ยงปลา ไม่ควรเลี้ยงปลาทองในโหลแก้วนะคะ มันแคบ ควรเลี้ยงในตู้เปล่าแล้วเดินสายอ๊อกซิเจนดีกว่า


ขอบคุณค่าาาาาา
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 19-08-2015 12:23:07
สงสัยน้องทอยถูกปลาทองลงโทษโทษฐานทำให้เจ้าตัวเขาเวียนหัวแน่เลยนะคะเนี่ย :m20: เอ็นดูน้องทอยจังค่ะ ^^ แค่จิ้มหน่อยเดียวเองน้าา~
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 19-08-2015 12:43:27
โอย เลยได้เห็นสิ่งที่(ถ้าเป็น)คนทั่วไปไม่ได้เห็นเลยสินะ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 19-08-2015 20:56:14
 :m20:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 1
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 19-08-2015 23:30:47
มีสัตว์ด้วย รักเลยยยย
ชอบแนวนี้มากๆๆๆๆๆ
รอตอนต่อไปนะค่ะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 20-08-2015 22:31:24
Chapter 2
   
มึงมันไม่ใช่คน
   
ไอ้พี่ก้านนนต์
   
อย่างที่บอกครับ ไม่ใส่คือแม่งไม่ได้ใส่อะไรจริงๆ เข้าใจนะครับว่าบ้านตัวเอง แต่ช่วยมีกรุณาต่อผู้มาเยือนหน่อยครับ ว่าเขาจะตกใจรึเปล่า
   
คือร่างเป็นหมีไม่พอนะครับไอ้นั่นยัง.. อีก
   
กูต้องเป็นตากุ้งยิงแน่ๆ
   
ฮือๆๆๆ
   
ร่างปลาทองสีส้มสวยรีบหันหลังหนีทันที
   
“ เอ้า เจอเจ้าของมึงยังหันหน้าหนีกูอีกนะ ” เสียงแหบต่ำพูดด้วยน้ำเสียงโกรธๆ
   
จะให้ผมทำหน้าแบ้วระริกระรี้เจอเจ้าของแก้ผ้ามันก็ไม่ใช่นะครับ พี่กานต์ ผมรีบใช้ครีบบ้าบอนี่พอร่างตัวเองไปอุดอู้อยู่ในกระต็อบทันที เพื่อไม่ให้พี่แกส่งสายอำมหิตใส่ผมได้
   
“ เป็นอะไรของมึง แซนด์วิชแฮม ” เสียงของพี่กานต์ดังขึ้นใกล้ๆ ตัวผมจนผมอดสะดุ้งไม่ได้
   
อะไรนะ ?
   
แซนด์วิชแฮม
   
ชื่อเหี้ยอะไรเนี่ยยยยย
   
พี่กานต์หิวเหรอครับเลยตั้งชื่อปลาทองแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเวลาไม่รู้จะกินอะไรจะจับผมโยนเข้ากระทะหรอกนะโว้ย ถ้าแบบนั้นสู้กูตายเพราะช็อคตายยังดีกว่าเลย
   
จ๋อม..

เสียงอะไรสักอย่างตกมาในน้ำ กับน้ำที่สะเทือนจนผมรู้สึกได้
   
ให้อาหารปลาเหรอวะ ทำไมน้ำมันสั่นๆ
   
“ มาหาพี่กานต์สิ ปกติชอบมาขออาหารแดกไม่ใช่เหรอ ”
   
ตอนนี้ผมไม่หิวครับพี่ ไม่ต้องมาให้อาหารผมหรอก
   
แต่ก่อนที่จะคิดอะไรก็รู้สึกว่าไอ้กระต็อบที่อยู่มันค่อยๆ ลอยขึ้นและลอยขึ้น
   
นี่ผมกำลังเล่นชิงช้าสวรรค์เหรอครับ
    
ฮืออออ
   
“ ปกติมึงเกลียดกระต็อบจะตาย กูซื้อมาตั้งนานมึงไม่เคยสนใจ วันนี้มึงจะเข้าไปซุกไม่ได้ มึงต้องมาเล่นกับพี่กานต์ก่อน แซนด์วิชแฮม ”
   
ไม่ว่าเปล่าครับพี่แกเทผมออกจากกระต็อบจนผมไหลขลุกๆ ออกจากกระต็อบและต้องจำยอมตีครีบอยู่นิ่งๆ จ้องพี่แกครับ ถึงแม้ในใจกำลังร่ำไห้ ผมกลัวพี่กานต์จริงๆ นะครับ
   
ร่างสูงใหญ่ที่มีใบหน้านิ่งเรียบติดจะดูโกรธๆ อยู่ตลอดเวลาแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าหล่อ สิ่งที่ผมกลัวจริงๆ คือดวงตาของพี่เขาครับเวลาจ้องแล้วเหมือนหมีที่จะตะปปปลาแซลม่อนกลางแม่น้ำไหลเชี่ยว ยิ่งเสียงแหบต่ำที่ดูเหมือนเสียงหมีคำรามอีก ไม่แน่ใจว่าผมคิดไปเองรึเปล่า แต่ผมคิดแบบนั้นจริงๆ
   
พี่กานต์เปลี่ยนชื่อเป็นพี่หมีเถอะครับ
   
เชื่อผม รุ่งกว่ากันเยอะ ฮือๆ
   
“ อะไรของมึง มองหน้ากูเฉยๆ ไหน ที่กูสอนอ่ะ ว่ายเป็นวงกลม 3 รอบ ได้อาหารหนึ่งเม็ด ” พี่กานต์บ่นอะไรสักอย่างด้วยสีหน้าถมึงทึง
   
หะ
   
ว่ายวนวงกลม 3 รอบ ได้อาหารหนึ่งเม็ด
   
ถ้ากูเป็นปลาทองพี่แกคงร้องไห้หนักมากเวลาหิวๆ
   
เออ แต่กูก็เป็นปลาทองอยู่แล้วนี่หว่า..
   
แต่ว่าตอนนี้ผมไม่ได้หิวสักหน่อย แต่ก็ทำๆ ไปเหอะ ผมกลัวพี่แกจะโมโหอะ
   
ผมยอมว่ายเป็นวงกลม 3 รอบตอบที่พี่แกสั่ง กว่าจะครบก็มึนหัวเหมือนกันครับ ไม่รู้ว่าอีปลาทองนั่นทนได้ไง ผมมึนหัวจนเผลอหงายท้องอืดใส่พี่กานต์
   
“ แกล้งตายอีกแล้ว กูว่าอันนี้กูไม่ได้สอนมึงนะ ”
   
อ้าว..
   
“ งั้นมึงไม่ต้องแดกโทษฐานที่มึงกวนตีนกู แซนด์วิชแฮม ”
   
ฟังกี่รอบผมก็รู้สึกขัดใจกับไอ้ชื่อง้องแง้งนี่
   
ผมพลิกตัวกลับมาว่ายดีๆ แล้วนั่งจ้องหน้าพี่แกเป็นการกดดันครับว่า ให้อาหารผมซะ เพื่อเป็นเสบียงทีดีในอนาคตครับ แต่พอมองไปมองมา ความรู้สึกเดิมก็กลับมาอีกแล้ว
   
กลัว..
   
ผมเผลอตัวสั่นออกมา ภาพที่พี่กานต์กับพี่ของผมต่อยกันตะคอกกันเสียงดังลั่นเป็นภาพติดตาของผมเลยทีเดียว กลัวว่าสักวันผมจะโดนพี่แกอัดแบบนั้นบ้างถ้าทำให้ไม่พอใจ
   
ผมเหลือบมองหน้าพี่กานต์ด้วยความอยากรู้ว่าพี่แกจะทำยังไงกับผม
   
“ กลัวกูเหรอ ? แซนด์วิชแฮม ” หน้าหงุดหงิดของพี่กานต์ค่อยๆ หายไปและเปลี่ยนเป็นยิ้มจางๆ “ อย่ากลัวกูดิวะ ทุกวันนี้แม่งก็กลัวกูกันหมดละ ” พี่กานต์นั่งยองๆ ตรงหน้าโหลแก้วโดยที่ระดับสายตาของพี่กานต์ตรงกับผมพอดี “ นี่ กูยิ้มแล้ว มึงไม่ต้องกลัวกูหรอก กูไม่กินมึงหรอก ถ้าจะกินมึง กูแดกหญ้าหน้าบ้านดีกว่า ”
   
ผมหยุดตัวสั่นตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้
   
แต่ที่รู้ๆ พี่แกตอนยิ้มเหมือนคนละคนกับตอนปกติเลยครับ
   
ถ้าจะเปรียบเทียบก็คงเป็นหมีโหดไล่ตะปปไส้คนแตกกลายเป็นหมีพูห์อะไรทำนองนั้น
   
พี่กานต์ยืนขึ้นเอื้อมมือไปหยิบอาหารที่วางข้างโต๊ะและโปรยมันลงมา “ อ่ะ กูไม่แกล้งมึงละ เห็นแก่มึงที่ไม่เจอกูหลายวัน คงคิดถึงกูละสิ ”
   
อาหารตกเปาะแปะบนผิวน้ำแต่ผมไม่ขึ้นไปกิน
   
เพราะภาพตรงหน้า..
   
“ บอกกูทีว่ามึงคิดถึงกู ”
   
พี่กานต์ยิ้มจางแต่แววตาที่กลับส่อถึงความเสียใจออกมาจนผมรู้สึกได้
   
“ หึ มึงเป็นปลาทองนี่หว่า จะบอกคิดถึงกูได้ไง ”
   
และแค่นเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ
   
“ เชี่ย เย็นว่ะ แม่งงง ”
   
พี่กานต์บ่นออกมาและหยิบผ้าเช็ดตัวที่พาดบนไหล่มาพันเอวปกปิดไอ้สิ่งที่ควรปิดแต่แรก “ ดูดิ กูรีบลงมาหามึงจนลืมพาดผ้าเนี่ย ”
   
ถึงจะพูดไปทั่วแต่แววตาของพี่กานต์ไม่ได้เปลี่ยนไปสักนิด
   
“ จะมองกูอะไรนักหนา ฮึ พอหายกลัวกูก็มองใหญ่เลยนะมึงอะ ”
   
รอยยิ้มจางปรากฎบนหน้าพี่กานต์อีกครั้ง
   
“ เออ กูไปแต่งตัวละ ”
   
พี่กานต์จุ่มมือลงไปในน้ำอีกครั้งจัดวางกระต็อบของผมให้เข้าที่และแตะตัวผมจนผมที่เหม่อๆ อยู่สะดุ้งเอาหางตีน้ำใส่ พี่แกหัวเราะเสียงเบาและพาร่างยักษ์ๆ กลับไป

-----------

TBC .  :katai5:

เป็นชื่อที่อ่านแล้วรู้สึกหิวเบาๆ 5555


   
   
   
   
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 20-08-2015 23:11:13
น้องทอยในร่างของเจ้าแซนด์วิชแฮมตัวกลมน่าเอ็นดูมากๆ เลยค่าา~ :m3: โดยเฉพาะตอนที่น้องตัวสั่นเพราะว่ากลัวพี่กานต์นี่ยิ่งน่าร๊ากกก >< พี่กานต์ก็ดีแสนดีนะคะ พอเห็นว่าน้องกลัวก็รีบเผยรอยยิ้มง้อน้องเลยทีเดียวเชียว แต่ตอนนี้แอบเห็นใจพี่กานต์อยู่เหมือนกันค่ะที่ใครๆ ต่างก็พากันกลัวพี่เขาไปเสียหมดอย่างที่เจ้าตัวเปรยๆ ออกมาให้น้องฟัง ทั้งๆที่ความจริงแล้วเราว่าพี่เขาเป็นคนที่อ่อนโยนนะคะ ^^ ดูได้จากตอนที่เจ้าตัวเขาหยอกล้อเล่นกับน้อง เพราะทุกสัมผัสล้วนแล้วแต่ทะนุถนอมน้องโดยแท้~
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-08-2015 07:38:13
พี่กานต์น่ารักดีอ่ะ ดูท่าทางจะเป็นคนขี้เหงาเพราะไม่ค่อยมีเพื่อนรึเปล่า(มีแต่คนกลัว ฮา)
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-08-2015 09:35:04
เอิ่มมมม

พี่หมีมีความสามารถดูอารมณ์น้องปลาได้ด้วยเหรอคะเนี่ย  :laugh:

แล้วพี่หมีกับพี่ฟลุ๊คต่อยกันทำไม???

ปอลอ อยากได้แบบแซนวิชแฮมซักตัว  :call:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 22-08-2015 15:38:54
หิวปลาาา แซนวิชแฮม น่ากินน (โดนพี่หมีตะบบ)
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 22-08-2015 22:05:27
ชื่อปลาน่ารักมาก 55555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 2
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 23-08-2015 15:53:09
 :pig4: เนื้อเรื่องแปลกดี อยากกินแซนวิชแฮม
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 27-08-2015 23:13:10
-- ตอนที่ 3  ---
   
หลังจากที่พี่กานต์ขึ้นไป ปลาทองอย่างผมจะทำอะไรล่ะครับ เฮ้อออ ผมไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นบ้าบอคอแตกอะไรกับร่างปลาทองนี้เลยครับ ความรู้สึกส่วนใหญ่คือกูต้องการตัวคืนมา กูไม่อยากว่ายน้ำบุ๋งๆ แบบนี้ แต่คิดไปก็มากความเพราะตอนนี้รู้สึกหิวนิดหน่อย งั้นผมหาอะไรกินดีกว่า
   
กินอะไรดีน้า ~
   
กะเพราไก่ไข่ดาวก็ดี ข้าวมันไก่ก็อร่อย หรือจะราดหน้าเบาๆ สักชาม
   
เอ้ะ
   
เดี๋ยวก่อน
   
ร่างปลาทองที่ว่ายลั้ลลาในโหลแก้วถึงกับหยุดชะงัก
   
กูเป็นปลาทองนี่หว่า !!
   
ผมชักดิ้นชักงอด้วยร่างปลาทองอย่างรับไม่ได้ นี่กูต้องแดกอาหารปลาเหรออ ไม่จริงใช่ไหมมม
   
ม่ายยย
   
แปะ..
   
ผมสะดุ้งโหยงว่ายกรูดเข้าไปในกระต็อบสุดรักทันที ปลาทองตัวอ้วนชะโงกหน้าออกมาดูนอกกระต็อบเพื่อดูว่าไอ้ที่แปะหัวเมื่อกี้มันคืออะไร
   
อาหารปลา
   
ผมแทบกลอกตาเป็นเลขแปด
   
นี่กูต้องแดกมึงจริงๆ เหรอ 
   
ผมตีครีบว่ายเอื่อยเข้าไปใกล้อาหารปลาที่แปะอยู่ต้นก้นโหลแก้วและจ้องมันนิ่งๆ พลางใช้ความคิด ถ้าผมไม่กินผมอาจจะตายเพราะหิวตายก็ได้ แต่ให้ทำใจให้กินมันผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน
   
โว้ยย
   
ในท้องปลาทองยังมีพยาธิอีกเหรอวะ เวลาไม่นานทำให้ผมโครตหิวทั้งๆ ที่เมื่อกี้ยังเฉยๆ  ผมเอาหางตีน้ำด้วยความโมโหหิว ทำไมกูต้องมากินอะไรแบบนี้เนี่ย และลงไปซบก้นโหลด้วยความอนาถใจกับชะตาชีวิตตัวเอง
   
ฮือๆ ไอ้ปลาทองกูขอโทษ
   
เอาร่างของกูกลับมาเหอะ
   
ฮือออ
   
“ แซนด์วิชแฮม  แซนด์วิชแฮม เป็นอะไร !! ”
   
ร้องไห้อยู่ไง ฮือๆ
   
ผมเหลือบมองพี่กานต์พบว่าอีกฝ่ายพูดด้วยสีหน้าซีดเผือดและยื่นมาเขย่าโหลแก้ว
   
“ เมื่อกี้มึงยังดีๆ อยู่เลย กูให้อาหารเยอะเหรอ หรือมึงเมาน้ำ แซนด์วิชแฮม ” พี่กานต์เขย่าโหลแก้วเบาๆ เหมือนจะพยายามกระตุ้นให้ผมตื่นและพูดน้ำเสียงที่แม้แต่คนไม่รู้จักพี่กานต์ดียังรู้ว่าพี่กานต์ห่วงปลาทองขนาดไหน
   
ก็ได้ครับพี่หมี ผมไม่ร้องไห้ก็ได้
   
ผมรีบตีครีบขึ้นมาว่ายดีๆ แล้วจ้องพี่แก เพื่อให้รู้ว่าผมไม่ได้เป็นอะไร โดยไม่ลืมทำปากพองตามสเต็ปการเป็นปลาทองครับ ผมอยากหุบปากนี่นะ แต่มันทำไม่ได้
   
พี่กานต์กลับมาหน้าถมึงทึง “ แซนด์วิชแฮม เดี๋ยวนี้ชอบแกล้งตายใส่พี่กานต์นะ พี่ไม่ชอบแบบนี้นะครับ ” น้ำเสียงที่พูดเย็นเยียบต่างจากเมื่อกี้โดยสิ้นเฃิง
   
ฮืออ ผมไม่ได้ตั้งใจจะแกล้งตายย
   
ความรู้สึกกลัวถาโถมเข้ามาอีกครั้ง ทั้งๆ ที่คิดว่าหายกลัวแล้ว
   
นี่ผมเป็นปลาทองที่ใจเสาะขนาดนี้เลยเหรอ
   
พี่กานต์ยังคงหน้าบึ้งอยู่ “ ไม่ตั้งทำเป็นกลัวเลยมึงอ่ะ ก็รู้ว่าพี่เป็นห่วงยังชอบแกล้งตายอีก ”
   
ใครว่าทำเป็นกลัวล่ะครับ ฮือๆ ผมกลัวจริงๆ ต่างหาก
   
พี่กานต์ขมวดคิ้วแล้วยอมคลายสีหน้าเคร่งเครียดออกไป “ เออๆ กลัวกูขนาดนั้น กูไม่โกรธมึงก็ได้วะ ”
   
พอสีหน้าเคร่งเครียดพี่แกหายผมก็รู้สึกโล่งขึ้นเยอะเลยครับ
   
เฮ้อ
   
“ งั้นไปนอนกับกูดีกว่า ไหนๆ มึงก็กลับมาละ ” พี่กานต์คว้าโหลแก้วไปถือแต่น้ำที่อยู่ในโหลแก้วนั้นนิ่งจนน่าแปลกใจ พี่กานต์เดินขึ้นห้องไปเงียบๆ โดยไม่ได้พูดอะไรปล่อยให้ผมดูนั่นดูนี่ในบ้านพีกานต์ระหว่างทาง
   
แปลกนะครับ
   
น้ำในโหลแก้วไม่ขยับเลย
   
เพราะพี่กานต์ถืออย่างระวังมากจนผมรู้สึกเหมือนไม่ได้ถูกพาทัวร์บ้านเลยทีเดียว
   
แต่แบบนี้ก็ดีไปอย่าง ผมจะได้ชมบ้านพี่แกแก้เบื่อ
   
บ้านพี่กานต์ค่อนข้างเป็นบ้านเรียบๆ ไม่ค่อยมีอะไรแปลกๆ ในบ้านเท่าไหร่นอกจากกองหนังสือที่วางอยู่ทุกซอกทุกมุมของบ้าน แม้กระทั่งข้างบันไดทางขึ้นยังมีกองหนังสือกองสูงที่วางแนบกับกำแพงไว้เหมือนกับมันเป็นราวจับบันไดที่เพิ่มขึ้นมายังไงยังงั้น ไม่ได้มีกองเดียวนะครับ สิบยี่สิบกองเลยทีเดียว
   
พี่กานต์คงเป็นหนอนหนังสือตัวยงแน่ๆ ครับ
   
“ ทำเป็นดูนั้นดูนี่นะมึงอะ ปกติเห็นแต่ว่ายเล่นในโหลแก้ว ”
   
ผมเหลือบขึ้นไปมองพี่กานต์ที่พูดเหน็บ ทั้งๆ ที่คิดว่าจะเจอสีหน้านิ่งเรียบแต่ที่เห็นกลับเป็นใบหน้าที่มีรอยยิ้มจาง
   
“ มองกูอีก กูหล่อล่ะสิ หึ ”
   
อืม หล่อมาก ผมยอมรับครับ
   
ผมหลุบตาลงเปลี่ยนไปมองอย่างอื่นทันที
   
ว้าว ในห้องพี่กานต์มีโต๊ะข้างเตียงที่ไม่มีหนังสือกองด้วยแหละ
   
น่าสนใจจริงๆ
   
และแล้วความสงบสุขที่ผมมีก็หายไป เพราะพี่กานต์เขาเอามือจุ่มเข้ามาในโหลแล้วเอามาไล่จับผมครับ !   
   
ผมว่ายหนีสุดชีวิตแต่ก็ไม่สามารถรอดพ้นอุ้งตีนหมีได้
   
“ กล้าเมินกูเหรอ ฮะ แซนด์วิชแฮม ” พูดไม่พอเอามือมาช้อนผมขึ้นไปในอากาศ
   
ผมดิ้นขลุกขลักตาเหลือกใสพี่กานต์

ห้ามจับผมใส่ปากนะโว้ยย ฮือๆ
   
“ หึ ” พี่กานต์แค่นเสียงหัวเราะออกมาทีนึงแล้วยอมปล่อยผมลงไปลั้ลลาในน้ำเหมือนเดิม “ แซนด์วิชแฮม มึงรู้ตัวไหมว่าวันนี้มึงทำตัวไม่เหมือนแซนด์วิชแฮมตัวเดิมเลยว่ะ ”
   
ถ้าผมต้องนิสัยเหมือนปลาทองบ้าบอนั่นก็ไม่ไหวเหมือนกันนั่นแหละครับ
   
พี่กานต์เอาโหลไปวางโต๊ะว่างๆ ที่ไม่มีหนังสือนั้นและจ้องผมด้วยสายตาอ่านยาก
   
ผมจ้องพี่แกคืนครับ
   
เผื่อว่าพี่แกจะเอะใจว่า ไอ้แซนด์วิชแฮมบ้าบอนี่มันเป็นคน ไม่ใช่ปลาทอง
   
พี่กานต์ขยับยิ้ม “ คิดว่ากูชมมึงงั้นสิ ? เปล่าเลย วันนี้มึงไม่เหมือนแซนด์วิชแฮมแต่เหมือนเหี้ยมากกว่า ”
   
อ้าว
   
ผมถึงกับเหวอแดกเนื่องจากการเดดแอร์
   
พี่กานต์ส่งบทผิดหรือเปล่า
   
ขออีกเทคครับ
   
“ ทำอึนอีก ” พี่กานต์เลิกคิ้ว “ เอ๋อกว่าทุกวันนะมึงอะ ”
   
ปลาทองมันเอ๋อได้ด้วยเหรอ
   
พี่กานต์ไม่ได้พูดอะไรต่อถอดเสื้อบอลที่ใส่อยู่ออกโยนไว้บนเตียงและเดินไปนั่งเก้าอี้ที่มีโต๊ะคอมที่อยู่ใกล้ๆ กับผม
   
คงจะเล่นเกมล่ะมั้ง ?
   
ผมสันนิษฐาณดูเล่นๆ
   
และต้องรู้ว่าผิดในเวลาต่อมาเมื่อพี่แกก้มหน้าก้มตาพิมพ์ดีดบนหน้าเวิร์ดพร้อมเปิดเพลงคลอเบาๆ ข้างมือที่กำลังจับเมาส์มีปกนิยายสืบสวนสอบสวนเล่มดัง
   
เอ้ะ
   
เดี๋ยวก่อนนะ
   
ผมพยายามใช้ตาเหลือกๆ มองโฟลเดอร์ที่พี่แกคลิกเข้าไปหาไฟล์เวิร์ดอะไรสักอย่างเรียงกันเป็นพรืด
   
คดีฆาตกรรมในหอนาฬิกา
   
ผมถึงกับตาเหลือกกว่าเดิม
   
นี่มันนิยายชื่อดังที่นักเขียนไม่ยอมมาแจกลายเซนต์สักครั้งเดียวทั้งๆ ที่นักอ่านเรียกร้อง
   
พี่กานต์เป็นนักแต่งนิยายครับ !
   
มิน่าละ ถึงได้คุยกับปลาทองได้เป็นตุเป็นตะขนาดนั้น
   
งั้นแปลว่าพี่กานต์ก็อาจจะช่วยผมได้ !

---------------------

 นี่คือเหตุผลที่พี่กานต์สามารถคุยกับปลาทองได้ทุกวันค่ะ 5555555  :hao6:

   
   
   
   
   
   
   
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 28-08-2015 11:32:51
โถ คุณพี่มีโลกส่วนตัวสูง งานอดิเรกคือชอบคุยกับปลาทอง อินดี้จริงๆ

 :hao7:


พอง~ พอง~


อิอิ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 28-08-2015 11:53:51
พี่กานต์เขาคุยกับหนูรู้เรื่องก็จริงนะคะน้องทอย ^^ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า หนูเองนั่นล่ะจะสื่อสารกลับไปยังไงให้พี่กานต์เขาเข้าใจหนูด้วยนี่สิ~ :o8:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 28-08-2015 13:59:32
พี่กานต์น่ารักดี น้องทอยก็ตลกอ่ะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 28-08-2015 19:31:36
เอ้าาา  แล้วจะคุยกันยังไงเนี่ยยยย
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 28-08-2015 20:19:28
 :pig4: พี่กานต์ช่วยได้จริงเหรอ คุยกับปลารู้เรื่องแต่กับคนอาจไม่น้า
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 3
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 28-08-2015 22:31:54
ไม่รู้จะขำใครดี คนรึปลา ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 02-09-2015 22:21:59
-- ตอนที่ 4 ---
   
ผมแสดงความดีใจอย่างสุดซึ้งด้วยการหางตีน้ำจนนั้นกระเด็นออกจากโหลแก้ว
   
ในอีกนัยนึงคือผมกำลังเรียกร้องความสนใจจากพี่กานต์ให้มาอยู่ที่ผมครับ
   
ผมตีน้ำจนรู้สึกเมื่อยหางพี่แกก็นั่งพิมพ์นิยายต็อกแต๊กไม่ได้ยินครับ
   
โว้ยย
   
มีหูป่ะเนี่ยพี่กานต์ เป็นหมีแล้วต้องมีหูดิ
   
ผมเริ่มรู้สึกเซ็งเพราะท้องเริ่มหิวอีกแล้ว และร่างกายของผมก็ค่อยๆ พาร่างเข้าไปใกล้อาหารปลาเรื่อยๆ
   
ไม่ !
   
กูไม่กินนน ฮืออออ
   
ผมว่ายพรวดเดียวไปอยู่ในกระต็อบพยายามดึงสติตัวเองให้อยู่กับเนื้อกับตัว ไม่เช่นนั้นสัญชาตญาณของปลาทองบ้อบอนี่ต้องทำให้ผมกินอาหารเม็ดสีแดงเปื่อยๆ นั่นแน่
   
อย่ามาเร่งสีเร่งวุ้นกูเลย ฮือๆ
   
ผมตีครีบนิ่งๆ ตั้งสติให้โฟกัสกับเรื่องเรียกพี่กานต์ไม่ใช่เรื่องแฟน
   
...
   
รู้สึกจะนอกเรื่องนิดหน่อยครับ
   
ผมว่ายไปแถวผิวๆ น้ำเอาหัววุ้นๆ นี่โผล่ขึ้นไปในอากาศ
   
พองงงงงงง
   
หายใจไม่ออกครับ !
   
ผมรีบลงมาจุ่มตัวในน้ำอย่างน่ารักเหมือนเดิม
   
แต่มันก็เป็นความคิดที่ดีนะครับ ถ้าผมกระโดดตูมออกจากโหลไปแปะบนโต๊ะและดิ้นดุ้กดิ้กน่ารักบ้องแบ้ว แต่เกรงใจว่าพี่กานต์จะไม่เห็นสิครับ อย่างงั้นผมก็อาจจะตายฟรีดิ
   
ไม่หรอกน่า !
   
ดวงผมไม่แย่ขนาดนั้นหรอก แค่กลายร่างเป็นปลาทองแค่นั้นแหละ พี่กานต์ต้องเห็นแซนด์วิชแฮมที่เป็นอาหารมื้อสำคัญของพี่กานต์สิ
   
คิดเฉยๆ มันไม่เร้าใจครับ
   
ต้องทำด้วย !
   
ผมว่ายวนโหลแก้วโชว์ท่วงท่าการว่ายอันสง่างามหนึ่งครั้งเพื่อที่จะได้ภูมิใจไว้อวดลูกอวดหลานว่ากูเคยเป็นปลาทองมาก่อนแล้วว่ายสวยมากด้วยและไปกระจุกตัวอยู่ที่ก้นโหลของริมฝั่งนึง
   
ปลาทองตัวอ้วนสีส้มดุ้กดิ้กอยู่กับที่ประมาณเกือบ 10 นาทีกว่าจะเริ่มขยับตัวอีกครั้ง

   เเนื่องมาจากการสวดมนต์แผ่เมตตาให้ตัวเองนั่นเอง
   
รอดเห้อะ ผมคิดในใจและทำการพุ่งสลาตันออกจากโหลแก้วทันที
   
ความจริงก็แอบคิดนะครับว่า ผมจะออกได้ไหม
   
แต่ตอนนี้คงคิดไม่ทันแล้วววว
   
ฮือออ
   
แปะ...
   
ร่างปลาทองดิ้นผลั่กๆ อยู่บนโต๊ะตาเหลือกค้างอย่างน่าเวทนา น้ำที่หยดซึมออกจากตัวค่อยๆ หยดไหลออกไปลากยาวไปตามโต๊ะ..
   
ผมจะกรี้ดแล้วครับ
   
พี่ก้านนนนต์
   
ทำไมมึงไม่เห็นนนน
   
ผมดิ้นผลั่กๆ อย่างควบคุมไม่ได้
   
ฮือๆๆๆ

   นี่กูต้องมาจบชีวิตที่นี้เหรอ
   
ทุเรศเกินไปแล้ว
   
ทำไมชีวิตผมถึงได้พองขนาดนี้
   
แต่ก่อนที่ผมจะวิตกจริตจนเป็นปลาทองบ้าไป คำนินทาของผมดูท่าจะไปสะกิดความรู้สึกให้พี่กานต์หันมามองพอดี “ เหี้ย !! ” พี่กานต์หลุดอุทานและลุกพรวดวิ่งมาเหมือนหมีกำลังพุ่งพลาวใส่ปลาแซลม่อนกลางแม่น้ำ มือหนาหยาบของพี่กานต์ประคองผมขึ่นในมืออย่างเร่งรีบแล้วปล่อยลงโหลแก้วดังเดิม
   
อาห์ ผมเพิ่งรู้สึกว่าน้ำประปาให้ความรู้สึกสดชื่นมาก

   “ แซนด์วิชแฮม !! มึงกระโดดออกมาทำไม ! ” พี่กานต์ตะคอกใส่ผมด้วยสีหน้าโกรธจัดร่างกายสั่นเถิ้มแววตาส่อถึงความดุร้ายออกมา
   
ความรู้สึกสดชื่นหาบไปพลัน
   
แล้วคร้าบพี่ ฮืออ

แต่ตอนนี้ผมยังกลัวไม่ได้ ผมต้องคุยกับพี่แกก่อน
   
“ ร้อยวันพันปีมึงไม่เคยกระโดดออกมา ถ้าเกิดกูไม่เห็นแล้วมึงตายล่ะ ! ” นัยน์ตาของพี่กานต์ขึ้นสีจัดขึ้น “ มึงอยู่กับกูมาหลายปีแล้วนะ กูไม่ยอมให้มึงตายง่ายๆ หรอก ”  มือพี่กานต์สั่นจนผมรู้สึกได้ “ กูรู้มึงเป็นแค่ปลาทองโง่ๆ.. แต่กูขอได้ไหมวะ อย่าทิ้งกูไปเลย แค่นี่กูก็แทบไม่มีใครแล้ว ”
   
แววตาของพี่กานต์ทำให้ผมรู้สึกเสียใจที่ตัวเองกระโดดออกมา
   
ขอโทษ..
   
ผมหลุบตาลงต่ำด้วยความรู้สึกผิด
   
แต่เดี๋ยวก่อน..
   
นั่นมันหินนี่หว่า เยอะด้วย
   
บทโศกไว้ก่อนนะพี่ ตอนนี้ผมช่วยตัวเองก่อนครับ
   
ผมว่ายพรวดไปกองหินบนพื้นพยายามเอาครีบมาดันๆ เป็นคำๆ
   
“ หึ เมื่อกี้เกือบตายยังจะไปอมหินเล่นอีกนะมึง ” เสียงหัวเราะแหบต่ำที่ดูเหมือนจิกกัดแต่ก็รู้สึกได้ถึงความเศร้าของพี่กานต์
   
พูดถึงอมหิน
   
เออ ไอเดียดีว่ะ พี่ อมหินๆ
   
อย่างน้อยมันก็ดีกว่ากินอาหารปลาล่ะวะ
   
ผมก้มหน้าก้มตาไล่อมทีละอันสองอันมาวางเรียงบนพื้นน้ำเป็นคำว่า TOY
   
“ เดี๋ยวนี้เก่งนะมึง เรียงเป็นคำได้ด้วย ” พูดไม่พอเอามือจุ่มลงมาในน้ำ
   
ไม่ อย่ามาทำลายความตั้งใจของผมนะ

ผมรีบเอาหางไปตบตีกับมือของพี่กานต์เอาครีบตีน้ำใส่จนพี่กานต์ยอมเอามือออก พี่กานต์หลุดยิ้มจางออกมา
   
“ ไอ้ห่า ไม่ให้กูแกล้งอีก ”
   
ผมอมคายหินเป็นเกือบยี่สิบรอบก็ได้ชื่อสุดไพเราะของตัวเองออกมานำเสนอให้พี่กานต์อ่านและเข้าใจว่า ผมคือทอยหาใช่แซนด์วิชแฮมบ้าบอนั่นไม่
   
พี่กานต์ขมวดคิ้วแน่น
   
ทำให้ผมรู้สึกลุ้น
   
วุ้ววว ช่วยรู้หน่อยเหอะว่าผมคือทอย
   
“ นี่ไปอยู่กับทอยแปปเดียว มึงเล่นเรียงหินเป็นชื่อเขาได้เลยเหรอวะ เหี้ยวะ ”
   
อ้าว..
   
T-T
   
พี่กานต์เอียงคอไปมาจนมีเสียงกระดูกดังกร็อบๆ “ จะว่าไปทำไมเดี๋ยวนี้มึงเก่งจังวะ ปกติโง่จะตายห่า กูสั่งทำอะไรก็ทำไม่เป็น เอาแต่ตีหางใส่กู ”
   
ใช่ๆ เดี๋ยวนี้ผมเก่งขึ้น
   
ช่วยเอะใจหน่อยเหอะ
   
พี่กานต์โน้มตัวลงมาพิจารณาผมใกล้ๆ ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
   
“ หรือว่ามึงจะช็อคน้ำแล้วได้นิสัยใหม่มาวะ ? ”
   
โอ๊ยยย
   
พี่กานต์เอ้ย
   
นี่พี่เชื่อมโยงได้ห่วยแตกมาก
   
เอาใหม่ ผมให้คิดใหม่นะครับ
   
คิดดีๆ
   
ผมตีครีบไปแปะอยู่ตรงโหลให้พี่แกเห็นหน้าปลาทองผมชัดๆ
   
“ เอ้ะ มันก็คงไม่ใช่ว่ะ ที่มึงจะฉลาดเพราะแค่ช็อคน้ำ ” พี่กานต์เอานิ้วเคาะกระจกตรงที่ผมอยู่ แต่เสียใจผมไม่ตกใจหรอกครับ หีหี
   
“ หรือมึงจะไม่ใช่ปลาทองวะ ? ”
   
ผมนี่แทบจะจูบกระต็อบด้วยความดีใจเลย
   
เอาเลย พี่กานต์ให้ผมพิสูจน์เลย
   
พี่กานต์ยังคงสีหน้าเคร่งเครียดไว้ “ เชี่ย จะบ้าเหรอวะ ปลาทองที่ไม่ใช่ปลาทอง ” และส่ายหน้ากับตัวเองเบาๆ “ ช่างแม่ง ลองดูเล่นๆ แล้วกัน ”
   
มาพี่ กระโดดลอดห่วง ขอมือ เต้นระบำชะชะช่า อะไรก็จัดมาเหอะ
   
“ ถ้ามึงไม่ใช่ปลาทอง มึงต้องว่ายน้ำเป็นรูปดาวแล้วกินอาหารที่กองอยู่ตรงโหลแก้วให้หมด ”
   
มึงจะบ้าเหรออออออออออออ
   
ว่ายเป็นวงกลมกูยังเมาเลย
   
นี่ล่อรูปดาว
   
เอาก็เอาวะ
   
ปลาทองตัวอ้วนค่อยๆ ว่ายเป็นรูปดาวทำให้ดวงตาของพี่กานต์เดิมที่ยังเจือความเคร่งเครียดแปรเปลี่ยนเป็นเบิกกว้างแทน จนกระทั่งมันทำตามสิ่งที่ตนเองสั่งครบและนอนแปะบนพื้น พี่กานต์ถึงจะได้สติขึ้นมาอีกครั้ง
   
“ เชี่ย... มึงไม่ใช่แซนด์วิชแฮมแล้วมึงใครวะ ” พี่กานต์เอามือขยี้หัวตัวเอง
   
ผมว่ายวนรอบคำว่า TOY ด้วยความรู้สึกเสียใจโครตๆ
   
กูกินซากุระไปแล้วอ่ะ ฮืออ
   
อร่อยอ่ะ..
   “
 น้องทอย ? ทอยน้องไอ้ฟลุ๊คเหรอ ” พี่กานต์ถามเสียงสูงสีหน้าโครตไม่เชื่อในสิ่งที่กำลังรับรู้
   
ผมตีน้ำแทนคำตอบ
   
พี่กานต์ถึงกับพูดอะไรไม่ออก “ แล้วน้องไปอยู่ในร่างปลาทองของพี่ได้ไง ? แล้วคนละ น้องไม่อยากเป็นคนแล้วเหรอ ” น้ำเสียงที่ถามอ่อนลงทันทีแต่กลับฟังดูเย็นชากว่าตอนที่คุยกับแซนด์วิชแฮมเป็นไหนๆ

ผมก็ไม่รู้..
   
ผมได้ส่งสายตาทำปากพองเป็นจังหวะให้พี่แกเท่านั้น
   
ผมตอบข้อนี้ไม่ได้ ที่ทำไมผมถึงกลายเป็นปลาทอง
   
“ อย่านิ่งดิ ไม่งั้นพี่ช่วยอะไรไม่ได้นะ ” พี่กานต์พูดเสียงเรียบแววตาเดิมทีที่มีความเอ็นดูหายไปเหลือเพียงพี่กานต์ในยามปกติที่เต็มไปด้วยความเย็นชา
   
ผมฟังน้ำเสียงของพี่แกก็อดเสียใจไม่ได้
   
ผมชอบพี่กานต์ที่หยอกล้อกับแซนด์วิชแฮมมากว่าพี่กานต์ตอนนี้..
   
ผมว่ายเข้าไปหลบในกระต็อบแทนตอบคำถามใดๆ เพิ่ม
   
ทั้งๆ ที่พี่กานต์อาจจะช่วยผมได้แต่ตอนนี้ผมกลับไม่มีอารมณ์อยากโดนช่วยแม้แต่น้อย
   
“ ออกมาคุยกันดีๆ.. ทอย พี่รู้ว่าเราเครียด ”
   
ผมยอมว่ายเอื่อยๆ ออกมาอีกรอบจ้องพี่กานต์
   
ตอนนี้ผมในสายตาพี่กานต์เป็นยังไงกัน ?
   
ไม่ใช่แซนด์วิชแฮมที่น่ารักของพี่กานต์อีกต่อไป
   
มีแต่น้องชายของฟลุ๊คที่ไม่สนิทด้วย..
   
ผมไม่อยากได้ความเย็นชาของพี่กานต์..
   
ผมอยากได้พี่กานต์ที่ยิ้มได้คืนมา
   
ถึงแม้ว่าผมจะไม่สิทธิในส่วนนั้นก็ตาม
   
พี่กานต์ยิ้มอ่อนให้ผมเอามือลูบตรงโหลแก้ว “ ค่อยคุยกันพรุ่งนี้เถอะ วันนี้พี่เหนื่อยๆ คงจะคุยกับเราไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ ”
   
ผมยังไม่ทันได้ตอบรับอะไรพี่กานต์ก็เดินไปปิดคอมปิดไฟล้มตัวนอนบนเตียงเงียบๆ ไม่พูดอะไรต่อ
   
ทิ้งไว้เพียงความเงียบงันในห้อง
   
ผมว่ายกลับเข้าไปกองในกระต็อบอีกครั้ง
   
ด้วยความรู้สึกแปลกไป
   
ความรู้สึกเสียดๆ ในอกที่บอกที่มาไม่ได้
   
ผมตัดสินใจปล่อยให้ร่างกายทำตามที่มันต้องการ
   
ปล่อยให้สติหลุดลอยออกไป
   
เหลือไว้เพียงร่างปลาทองกลวงๆ ที่มีชื่อว่าแซนด์วิชแฮมไว้
   
ตามที่พี่กานต์ต้องการ..

-------------

พี่กานต์รู้แล้วเฮ้  !! :katai2-1:

แต่ทำไมถึงเย็นชากับน้องเล่าา  :hao5:
   
   
   
   
   
   
   
   
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 02-09-2015 22:49:49
 o22

เกิดอะไรขึ้นกับน้อยทอยยยย น้องออกจากร่างปลาทองแล้วเหรอ??

อุตส่าห์สื่อสารกับพี่เขาได้ซํกกะที  :z3:


ขอตอนต่อไปเถอะค่าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา พลีสสสสสสสสสสสสส
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 03-09-2015 02:21:55
แซนวิชแฮมตายเหรอ เหลือร่างเปล่าๆคือตายใช่มั้ย
แล้วพี่กานต์จะเปนยังไงอ่ะ เขาดูโดดเดี่ยวนะ ทอยช่วยพี่เขานะลูก//เพ้อไปทั่ว กราบขออภัย
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 03-09-2015 15:49:57
พี่กานต์คงไม่ได้ตั้งใจทำท่าทีเย็นชาแบบนั้นใส่น้องทอยหรอกค่ะ แต่ที่ดูเงียบขรึมลงไปอาจเพราะกำลังคิดเป็นห่วงแซนด์วิชแฮม (เพื่อนและน้องคนสนิท) ที่ไม่รู้ว่าป่านนี้ไปอยู่ที่ไหนก็เป็นได้นะคะ ตอนนี้เลยเคว้งจนหลุดๆ ไปบ้าง น้องทอยอย่าได้น้อยใจพี่กานต์ไปเลยน้าา.. :hao5:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 03-09-2015 16:00:21
คุยกันรู้เรื่องสักที   แต่ น้องทอยจะกลับร่างแล้วหรออออ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 03-09-2015 21:17:09
ทำไมอ่าาา พี่กานกับทอยมีความหลังอะไรรึป่าว
แต่ที่ฟังจากทอยก็ไม่มีอะไรนี่ เอ้ะะะะ ยังไงๆๆๆ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 5 # 5.1
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 10-09-2015 22:47:24

   ผมเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว
   
ทั้งๆ ที่ลืมตานั่นแหละครับ
   
ผมได้สติตื่นขึ้นมาพร้อมกับเห็นพี่กานต์กำลังแต่งตัวพอดี
   
พี่กานต์ใส่กางเกงไปแล้วเหลือแต่เสื้อบอลที่พี่กานต์ถือเหมือนกำลังลังเลว่าจะใส่หรือไม่ใส่ดี ก่อนที่จะโยนกลับเข้าไปในตู้อีกครั้ง
   
ผมตีครีบว่ายน้ำนิ่งๆ ด้วยอารมณ์ที่ยังเจอความเศร้า
   
ถึงผมจะอยากกลับไปเป็นคน
   
แต่ใช่ว่าผมจะอยากคุยกับพี่กานต์ที่เย็นชาสักเท่าไหร่นี่
   
ผมจ้องพี่กานต์เรื่อยๆ จนกระทั่งพี่กานต์หันมาเจอผมพอดี
   
พี่กานต์ยิ้มจางให้กับผมทำเอาผมเกือบสะดุ้งตีน้ำ
   
พี่กานต์ยิ้มให้ผมทำไมกัน ?
   
แต่ยิ้มได้สักพักก็เหมือนได้สติหุบยิ้มแล้วก้าวเข้ามาใกล้ผมทันที
   
อะไรของพี่แกวะ..

“ แซนด์วิชแฮม... นี่มึงหายไปจริงๆ เหรอวะ ”
   
น้ำเสียงพี่กานต์เศร้าจนผมอดรู้สึกผิดไม่ได้
   
เพราะผมสินะที่ทำให้แซนด์วิชแฮมของพี่กานต์หายไป
   
“ บอกกูสิว่า ล้อเล่น... ”
   
พี่กานต์หลับตาลงนวดขมับเบาๆ
   
ดูเหมือนว่าพี่กานต์จะไม่รู้ว่าผมตื่นแล้ว
   
ผมตีน้ำครั้งนึงเบาๆ ให้เกิดเสียงเรียกความสนใจจากพี่กานต์
   
สีหน้าของพี่กานต์กลับมาปกติอีกครั้ง
   
พี่กานต์ผู้เย็นชา..
   
“ ตื่นแล้วเหรอ ทอย ”
   
ผมจ้องหน้าพี่กานต์นิ่งๆ
   
ยิ้มให้ผมบ้างสิ
   
พี่กานต์
   
“ แล้วจะเอายังไงดี เกิดมาพี่ยังไม่เคยเห็นคนกลายเป็นปลาทองแบบทอยเลย ”
   
ใครเจอก็แปลกแล้วครับพี่..
   
ส่วนผมจะตอบรับอะไรได้นอกจากตีน้ำล่ะครับ
   
ถ้าอ่านปากนอกจากคำว่าพองก็หาคำอื่นไม่เจอหรอกครับ
   
พี่กานต์ขมวดคิ้วจนผมรู้สึกหวั่นใจไม่ได้
   
คิดจะทำอะไรผมกัน
   
“ งั้นเดี๋ยวพี่จับออกมาแปะบนพื้นละกัน เผื่อได้สูดออกซิเจนแล้วอยากกลับร่างคน ” ถึงสิ่งที่กล่าวออกมาเป็นเรื่องที่ดูน่าขบขันแต่น้ำเสียงที่ใช้พูดกลับไร้อารมณ์โดยสิ้นเชิง
   
“ ตกลงนะ ? ”
   
ผมตีน้ำอีกจนตอนนี้รู้สึกเมื่อยหาง
   
พี่กานต์เอามือหยาบจุ่มลงมาจนเกิดระลอกคลื่นกระทบโหลแก้วดูแล้วรู้สึกเหมือนกับว่ามือของพี่กานต์เป็นอุ้งตีนหมีกำลังไล่คว้าปลาแซลม่อนมากิน
   
ผมพยายามอย่างยิ่งยวดไม่ให้ว่ายหนี   
   
พี่กานต์ช้อนผมขึ้นมาดิ้นขลุกขลักในมือและค้างในอากาศแบบนั้น
   
อึ่ก..
   
ความรู้สึกจุกๆ อดเริ่มเข้ามาครับ อาการดิ้นเริ่มพล่านมากขึ้นเรื่อยๆ
   
พี่กานต์ขมวดคิ้วเป็นปม “ สงสัยเหงือกจะไม่ทำงานเท่าไหร่ งั้นพี่ช่วยแล้วกัน เผื่อจะเป็นเหมือนในนิทานเจ้าชายกบ ”
   
เจ้าชายกบ ?
   
พี่กานต์จะจูบผมงั้นเหรอ !
   
อารมณ์เซื่องซึมของผมหายเป็นปลิดทิ้งแทนที่ด้วยความตกใจทันควัน
   
จูบกับผู้ชายเนี่ยนะครับ
   
ถึงจะในร่างปลาทองก็เถอะ
   
ผมอ้าปากค้างเมื่อรู้สึกถึงริมฝีปากของพี่กานต์ที่ตัวเองเคลื่อนเข้าไปใกล้
   
เอาดี !?
   
ผมหลับตาแน่นรู้สึกถึงอะไรหยุ่นๆ ที่สัมผัสกับปากบ้าบอคอแตกของตัวเอง
   
เฮ้ย !
   
แต่ทำไมมันถึงไม่มีอะไรเกิดขึ้นล่ะครับ
   
ทั้งๆ ที่พี่กานต์ช่วยผมถึงขนาดนี้แท้ๆ
   
ผมรู้สึกถึงเสียงหวีดหวิวในอากาศเมื่อรู้สึกว่าตัวเองถูกโยนใส่โหลวแก้วดังเดิม
   
ผมลงไปจมนอนแอ่กอยู่ตรงก้นโหล ปากขมุบขมิบอย่างรวดเร็ว
   
พอง !
   
เป็นครั้งแรกที่ภูมิใจในภาษาพองครับ
   
ผมพยายามใช้ตาเหลือกๆ ของตัวเองมองพี่กานต์
   
พี่กานต์ยังคงขมวดคิ้วเอาหลังมือถูปากตัวเอง
   
“ คาวว่ะ วันหลังกูคงต้องจับมึงอาบน้ำ ”
   
และสบถกับตัวเอง
   
สงสัยคิดว่าผมไม่ได้ยินล่ะมั้งครับ
   
แต่ประเด็นคือผมเป็นปลาทองจะอาบน้ำอีกทำอะไรครับ
   
“ เอางี้ งั้นเดี๋ยวพี่จะลองหาในเนตดูก่อนแล้วกัน เผื่อว่าจะมีวิธีแก้ ”
   
ผมไม่ตอบสนองอะไรเพราะยังรู้สึกหน่วงๆ ในหีว
   
พี่กานต์ที่ไม่ได้รอคำตอบอะไรจากผมหยิบสมาทร์โฟนใช้นิ้วรูดขึ้นรูดลงสักพักใหญ่ๆ คิ้วที่เป็นปมค่อยๆ เพิ่มมากขึ้นทีละเล็กละน้อย
   
“ พี่รู้แล้ว ทอย ว่าจะทำยังไง ”
   
ผมเด้งตัวจากก้นโหลทันที

   “ แค่ทำให้รู้สึกว่าใกล้ตาย จนถึงตอนนั้นวิญญาณจะถูกดึงไปที่เดิมทันที ” พี่กานต์ถามด้วยสีหน้าเป็นห่วง
   
แต่ผมไม่รู้ว่าพี่กานต์เป็นห่วงผมหรือแซนด์วิชแฮมกันแน่
   
การที่ต้องมาเป็นตัวแทนให้ใครสักคน ให้ความรู้สึกเจ็บจริงๆ ครับ
   
เมื่อคนที่เขาต้องการไม่อยู่แล้วเราต้องถูกมองด้วยสายตาไม่คาดหวัง
   
เอาเหอะ
   
ยังไงผมก็ไม่มีอะไรจะเสียอยู่แล้ว
   
ถึงจะกลัวตาย
   
แต่ถ้าไม่ลองผมก็คงเป็นร่างปลาทองนี่ไปจนตาย
   
ผมตัดสินใจว่ายไปตรงมุมของโหลทำให้พี่กานต์มองผมด้วยความงุนงง
   
ก่อนที่ผมจะว่ายพรวดเดียวและกระโดดออกไปจากโหลแก้ว
   
และดิ้นแด้กๆ อยู่บนโต๊ะ
   
พี่กานต์เบิกตากว้างลุกขึ้นและก้าวพรวดมาหาผมในไม่กี่ก้าว
   
มือหยาบหนาช้อนร่างของจะยัดกลับใส่โหล
   
“ เดี๋ยวจะตายเอา อย่าเสี่ยงเลย ทอย อาจจะมีวิธีอื่น ”

ผมเอาทั้งหางทั้งครีบตีมือพี่กานต์ดิ้นพล่านจนหลุดออกมาจากมือได้

   พี่กานต์จ้องผมด้วยสายตาที่ผมตีความหมายไม่ออกและยื่นมือมาสัมผัสกับตัวผมไว้
   
“ ถ้าไม่ไหว ให้เอาหางตีมือ พี่นะ ”

   ผมไม่ตอบรับอะไร

----------
เอาครึ่งแรกมาลงก่อนชิ่งไปนอน  :bye2:

ps. สงสัยตอนที่แล้วบรรยายได้กำกวมไปหน่อย ขอโทษค่ะ  :mew2: น้องทอยไม่ได้ตายน้าแค่หลับไปเฉยๆ ส่วนสติสัมปัชชัญญะที่มีก็หายไปด้วยเลยบรรยายคำว่าร่างกลวงๆ ค่ะ

 :pig4: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ
   
   
   
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 10-09-2015 23:40:08
ทำไมพี่กานต์เย็นชากับน้องทอยจังเลย??


คิดแล้วเศร้า
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 10-09-2015 23:43:24
ทำไมพี่กานดูเศร้าหนักมากกกก งื้ออออ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 11-09-2015 00:02:13
เป็นตอนที่เศร้านะ พี่หมีคงเศร้าเพราะแซนวิชแฮมที่อยู่ด้วยกันมานานจากไป(มั้ง) ทอยก็เศร้าที่พี่เย็นชาใส่
จะกลับเป็นคนได้มั้ยนะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 13-09-2015 00:10:29
ผมไม่ตอบรับอะไร
   
พยายามตั้งสติกับการหายใจของตัวเอง
   
ผมพยายามตีครีบเบาๆ เพื่อให้เลือดลมสูบฉีด
   
ผมยู่ในสภาวะไร้ออกซิเจนได้พักนึง
   
ก็รู้สึกถึงความหน่วงในหัวจนทำให้ตาพร่าเลือน
   
ครีบที่ตีไปมาเบาๆ ค่อยๆ ช้าลง
   
มันไม่ได้ให้ความรู้สึกว่าจะตายนะครับ
   
เหมือนกับว่ารู้สึกง่วงอะไรอย่างนั้น
   
ไม่ได้สิ ผมจะมาง่วงตอนนี้ไม่ได้ ...
   
เดี๋ยว...
   
ตูม !!

   “ ทอย !!! ทอย ! ” เสียงตะหวาดเรียกชื่อผมดังลั่นกระชากผมขึ้นมาจากสติที่พล่าเลือน
   
ดวงตาของกลับมากระจ่างใสเห็นภาพปกติอีกครั้ง
   
เจอกับหมีที่กำลังคลุ้มคลั่ง..
   
พี่กานต์ขบเคี้ยวฟันด้วยน้ำเสียงโกรธจัด “ ทอย !! พี่บอกให้ตีมือพี่ถ้าไม่ไหว ! ถ้าเกิดว่าพี่ไม่ได้สังเกตดีๆ เราจะตายได้ง่ายๆ เลยนะ ! ”
   
ถ้าผมอยู่ในร่างเดิมคงเผลอกลืนน้ำลายเอือกลงคอด้วยร่างที่สั่นเทาแล้ว
   
ผมกลัวแล้วพี่กานต์
   
ตอนนี้ผมเลยได้แต่กลืนน้ำแทน

“ มอง !! ใครให้มองเฉยๆ ถึงพี่จะอยากได้แซนด์วิชแฮมคืนมา แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่เป็นห่วงเรา ห่วงตัวเองบ้างดิวะ ! ” พี
กานต์ด่ากราดดวงตาขึ้นสีแดงจัด
   
ทั้งๆ ที่คำพูดของพี่กานต์ไม่ได้มีความสุภาพแม้แต่น้อย
   
แต่มันกลับทำให้ผมรู้สึกดีใจแปลกๆ
   
พี่กานต์ห่วงผมสินะ
   
พี่กานต์หลับตาแล้วสูดหายใจลึกปากขมุบขมิบเป็นคำอะไรสักอย่าง
   
ผมพยายามอ่านปากพี่กานต์
   
แต่เซนเซอร์คำไว้ดีกว่าครับ มันเป็นคำสบถรุนแรง
   
“ เอางี้ โทรบอกพี่ทอยก่อนแล้วกัน ว่าเรามีปัญหา ” พี่กานต์หยิบสมาทร์โฟนขึ้นมาจิ้มจึกๆ โดยไม่รอความคิดเห็นจากผม ซึ่งถ้าจะรอผมก็ไม่รู้จะให้ยังไงเหมือนกัน พี่กานต์เหลือบมามองผมแล้วกดเปิดลำโพง
   
อยากจะย้อนเวลากลับไป อยู่ตรงที่เก่า ~   
   
พี่กานต์ขมวดคิ้วรอจนได้ยินเสียงตอบรับมา
   
// โทรมามีไรวะ //
   
พี่กานต์จ้องผมนิ่งคิดไปสักพักแล้วจึงพูดออกมา “ กูบอกมึงแล้วมึงต้องชื่อกูแล้วกัน ”
   
// เออๆ ต่อให้มึงเป็นท่านชีคชาติก่อนกูก็จะรับฟังเว้ย //
   
พี่กานต์ขบกรามเหมือนกำลังพยายามระงับตัวเองไม่ให้ด่า “ กูไม่เล่น น้องมึงกลายเป็นแซนด์วิชแฮมไปแล้ว ”
   
// หะ !! มึงกินน้องกูแทนข้าวเช้าเหรอวะ //
   
“ กูไม่เล่น ” พี่กาตต์พูดด้วยน้ำเสียงที่ผู้ฟังอย่างผมยังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ
   
// อย่าโหดดิเพื่อน ว่าแต่ แซนด์วิชแฮมปลาทองเหี้ยนั่นน่ะนะ ! //
   
“ อย่าด่าปลาทองกู ”
   
// นี่มึงจะบอกว่าทอยกลายเป็นปลาทองไปแล้ว !? มึงจะบ้าเหรอวะไอ้กานต์ เมารึไงมึง เมาแล้วโทรหาเพื่อนแบบนี้รีบไปนอนต่อเลย //
   
“ กูพูดความจริง  ”
   
// ... เอาดี มึงจะบ้าเหรอ //
   
“ ไม่เชื่อกูแล้วแต่มึง ถ้ากลับบ้านไปไม่เจอน้องมึงแล้วอย่ามาถามกู ”
   
// เออ เชื่อก็ได้วะ แต่กูคงไปหาไม่ได้วะ ตอนนี้กูอยู่เชียงใหม่กว่าจะกลับก็สัปดาห์หน้าเลย //
   
“ ฝากไว้กับกู ? ”
   
//  หรือมึงจะฝากไว้กับคนอื่น ? อยู่กับมึงดีแล้ว มึงเป็นคนดูแลคนอื่นดีถ้ามึงให้ใจไปแล้วกูรู้นะ ฮ่าๆ //
   
หน้าโหดๆ ของพี่กานต์เหมือนขึ้นสีจางๆ แวบนึงก่อนที่จะหายไป “ หุบปากมึงไป ” และตัดสายทิ้งไปทันที พี่กานต์เก็บสมาร์ทโฟนเข้ากระเป๋าและเดินมาจ้องหน้าผมผ่านโหลแก้วใสๆ
   
“ ดูเหมือนว่าพี่กับทอยต้องช่วยกันหาวิธีแล้วล่ะ ”
   
ทั้งๆ ที่ฟังแล้วดูหนักใจ
   
แต่ผมกลับไม่รู้สึกอะไรแบบนั้นเลย
   
ถ้าเป็นผมในตอนปกติคงต้องเผลอยิ้มออกมาแน่ๆ
   
ผมตีน้ำเชิงรับรู้
   
“ เออ มึงก็ตีเป็นแต่น้ำล่ะวะ !! ” พี่กานต์ตะหวาดใส่จนผมสะดุ้ง
   
อ้าว..
   
แต่บนใบหน้าของพี่กานต์กลับมีรอยยิ้มจางอยู่

-------------

ใครว่าพี่กานต์เย็นชา ไม่จริงเลย 55555  :hao7:

พี่กานต์เขาค่อนข้างเครียดกับแซนด์วิชแฮมแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้ไม่สนใจทอยหรอกนะ 

#  :pig4: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ



      
   
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 13-09-2015 06:43:17
พี่กานต์น่ารักดีนะ...แต่บอกไม่ถูกว่าทำไม ฮา
ทอยจะได้กลับเข้าร่างเมื่อไหร่น้า...แล้วแซนด์วิชแฮมตัวจริงล่ะ(ถ้าตาย พี่กานต์ต้องเศร้ามากแน่เลย)
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 13-09-2015 07:57:17
ถ้างั้นวิธีเฉียดตายแล้ววิญญาณกลับเข้าร่างนี่ไม่ได้ผลสินะ

สงสัยต้องไปถามผีแซนวิชแฮมให้ช่วยล่ะมั้ง
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 13-09-2015 11:13:18
แสดงว่าพี่กานต์เองก็ต้องแช่มือไว้ในโหลแก้วตลอดเวลาเลยใช่ไหมคะ ถึงได้บอกกับน้องทอยว่าถ้าไม่ไหวยังไงก็ให้รีบตีมือพี่ทันที ฮื้อออออ จะน่ารักเกินไปแล้วนะคะพี่กานต์~ :m3:

รอตอนต่อไปจ้า ^^
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 13-09-2015 16:58:45
โถ่วววว พี่กานคะ น้องมันเป็นปลา ถ้าไม่ให้มันตีน้ำ จะให้มันทำอัลลัยล่ะค๊าา 55555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 13-09-2015 17:56:51
 :-[  สงสัยคำพูดพี่ของทอย หมายถึงพี่กานต์ให้ใจทอยไปแล้วเหรอ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: 205arr ที่ 13-09-2015 20:00:38
อยากให้น้องทอยคืนร่างเดิมได้เร็ว
พี่กานต์จะได้มีคนให้แคร์เพิ่มนอกจากแซนวิชแฮม
ขอบคุณคนเขียนค่ะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: Malila ที่ 13-09-2015 22:11:27
เอ๋  แอบชอบน้องทอยหรออออออออออ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 14-09-2015 23:12:19
รอว์
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 15-09-2015 23:24:36
พี่กานต์น่ารักนะเนี่ย แกล้งโหดใส่น้องทั้ง ๆ แอบชอบแน่ ๆ เลย
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 18-09-2015 22:27:10
 :ling1:


จะหนีไปไหนค้าาาาาาาาา

กลับมาหาน้องแซนวิชแฮมก่อนนนนนนน  o18
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 4 # เต็มตอน
เริ่มหัวข้อโดย: dahlia ที่ 19-09-2015 00:01:19
เพิ่งจะคิดว่า ปลาทอง น่ารัก ก็เพราะอ่านเรื่องนี้นี่แหละ แถมชื่อยังน่ากินอีกตั้งหาก 55555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 20-09-2015 23:26:19
-- ตอนที่ 5 ---
   
“ แล้วจะเอายังไงต่อดีวะ ” พี่กานต์บ่นพึมพำกับตัวเอง “ เออ งั้นมึงก็อยู่อย่างนี้ไปก่อนแล้วกัน พี่จะไปหาอะไรกินก่อน โครตหิวเลย ” พี่กานต์พูดจบก็โคจรร่างของตัวเองผลุบออกไปนอกห้องทันทีเหลือผมที่งงกับชีวิตไว้
   
ยังดีนะครับที่วันนี้ผมไม่หิวเท่าไหร่
   
ไม่งั้นต้องกินไอ้ซากุระบ้าบอคอแตกนั่นอีกแน่ๆ
   
ถึงมันจะอร่อยก็เหอะ
   
ไม่ๆ ไอ้ปลาทองบ้า มึงอย่ามาทำให้กูไขว้เขวกับการดำรงชีวิตแบบมนุษย์สิ
   
ปลาทองตัวอ้วนดิ้นพลักๆ เหมือนกำลังตบตีกับตัวเองก็ไม่ปาน
   
“ ทอย มึงเป็นอะไรอีกแล้วเนี่ย ”
   
พี่กานต์ไปเอาของกินไวมากครับ ผมหยุดดิ้นพลักๆ เจอพี่กานต์ทำหน้าเอือมระอาใส่ผมในมือถือแซนด์วิชแฮมชีสที่กำลังเคี้ยวอยู่ในปาก
   
พี่กานต์กำลังกินแซนด์วิชแฮม
   
หวังว่ามันจะไม่ใช่ลางบอกเหตุนะครับ ว่ามื้อต่อไปอาจเป็นผม
   
เอาเหอะ ผมเลิกกังวลแล้วว่าพี่กานต์จะกินผมไหม
   
พี่กานต์ลากเก้าอี้คอมมานั่งข้างหน้าโหลแก้ว แล้วยิ้มแสยะแนบแซนด์วิชแฮมไว้ข้างโหล
   
ร่างปลาทองที่ว่ายลั้ลลารอบโหลถลาไปแปะและแนบหน้าดูใกล้ๆ
   
อยากกิน อยากกิน อยากกิน
   
คำงี่เง่าฟุ้งอยู่ในหัวผมทั้งๆ ที่ท้องยังไม่หิว
   
“ อยากกินล่ะสิ ” พี่กานต์หัวเราะออกมา “ แต่พี่ไม่ให้หรอก น้ำเน่ากันพอดี ” ไม่ว่าเปล่ากัดแซนด์วิชคำโตอีกคำ
   
นี่คือดูแลดีใช่ไหมครับ พี่ฟลุ๊ค
   
ถามจริงๆ
   
ผมที่ไม่รู้ว่าจะประท้วงในร่างปลาทองยังไงดีตัดสินใจไปมุดอยู่ในกระต็อบสุดที่รักที่หมายมั่นมันเป็นบ้านหลังที่สองของตัวเองในช่วงนี้
   
“ งอนอีก แต่ยังไงพี่ก็ไม่ให้อยู่ดี  ”
   
อืม ผมหันด้านหางให้พี่กานต์ครับ อารม์เหมือนไม่อยากมองหน้า เอาจริงๆ ผมแค่ไม่อยากเห็นแซนด์วิชเฉยๆ ดูแล้วมันหิวพอหิวแล้วก็เกิดกิเลส ไม่ดีๆ
   
“ พี่ว่า เราต้องไปทำอะไรให้แซนด์วิชแฮมก่อนแน่ๆ เลย เราถึงได้โดนกลายเป็นปลาทอง ”
   
แหม ใครจะไปแกล้งปลาทองล่ะครับ
   
ไร้สาระ
   
ปลาทองตัวอ้วนผลุบหน้าออกจากกระต็อบทันที
   
พี่กานต์ขมวดคิ้วทำหน้าโหดใส่ผม “ กล้าแกล้งปลาพี่เหรอ ”
   
ผมพยายามใส่หน้าซาลาเปาบวมน้ำไปมาเพื่อความบริสุทธิ์ใจที่ตัวเองมี
   
ใครจะไปแกล้ง ปลาทอง ไม่มี้ ไร้สาระน่า พี่หมี
   
“ ทอย.. ”
   
แล้วทำไมถึงยังเรียกชื่อผมเสียงเย็นอีกละ
   
ผมเลยปล่อยเลยตามเลย
   
อะ ยอมรับก็ได้ ว่าแกล้ง
   
คิ้วของพี่กานต์ยังคงขมวดเป็นปม “ ไว้พี่จะคิดบัญชีกับเรา ”

อย่าเลยพี่หมี อย่าฆ่าผมเลย

พี่กานต์งับแซนด์วิชแฮมที่เหลือหมดในคำเดียวและเคี้ยวตุ่ยๆ เหมือนกำลังระบายอารมณ์ด้วยการกิน

“ งั้น เอางี้ไหม จุดธูปขอขมา เดี๋ยวพี่จุดธูปให้ ส่วนเราก็สวดมนต์ในใจไปแล้วกัน ”
   
เมื่อวานทั้งสวดทั้งแผ่เมตตาแล้วครับพี่
   
แต่ให้ตัวเองนะ ไม่ใช่ไอ้ปลาทองบ้านั่น
   
ผมไม่ตีน้ำเชิงรับรู้เพราะเพิ่งโดนพี่หมีบ่นเรื่องนี้ไป
   
อยู่ๆ พี่กานต์หลุดยิ้มออกมา
   
“ เออ กูขอโทษก็ได้วะ มึงตีน้ำต่อไปเหอะ ”
   
บางทีผมก็ไม่ค่อยเข้าใจอารมณ์พี่กานต์แกนะครับ
   
เป็นหมีที่เข้าใจยากจริงๆ
   
ผมคงต้องร้องโฮกฮากเวลาคุยด้วยเผื่อจะเข้าใจพี่กานต์มากยิ่งขึ้น
   
ผมลอยแบบแถวผิวน้ำจัดการตีน้ำเล่นดังเปาะแปะเกิดฟองอย่างเมามัน
   
จนกระเด็นไปโดนหน้าพี่กานต์
   
อุย เผลอตีน้ำแรงไปหน่อย
   
ผมหัวเราะในใจ
   
พี่กานต์แยกเขี้ยวเหมือนกำลังขู่ผม “ เดี๋ยวมึงจะโดนไม่ใช่น้อยนะ ทอย ติดกูสองคดีแล้ว ”
   
ใครกลัวครับ ตอนนี้หมีกานต์ไม่สามารถทำให้ผมกลัวได้แล้ว
   
พี่กานต์โยนซองใส่แซนด์วิชลงถังขยะข้างๆ และเดินไปคุ้ยอะไรสักอย่างในตู้หนังสือ
   
อย่าบอกว่ายัดธูปไว้ในนั้น
   
พี่กานต์ยกกองหนังสือออกมาตั้งข้างนอกกองใหญ่แล้วหยิบอะไรบางอย่างที่ใส่ถุงร้านสะดวกซื้อออกมาจากส่วนในตู้หนังสือ พี่กานต์ส่งเสียงพึมพำเหมือนกำลังบ่นอะไรสักอย่างในลำคอระหว่างที่หยิบของออกมาถุง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นจะเป็นพวกซองลูกอม ขนม กล่องนมอะไรทำนองนั้น หาได้สักพักพี่กานต์ก็เลิกหาปาถุงลงถังขยะอย่างแม่นยำ
   
“ ไม่ต้องใช้หรอก สวดในใจเอาแล้วกัน ”
   
อ้าว
   
แต่ก็ได้ครับ ผมขอขมาท่านแซนด์วิชแฮมอย่างสุดซึ้ง ณ ที่นี้ด้วยครับ
   
“ ขอขมาก็ขอให้มันจริงจังนะทอย ไม่ใช่ขอส่งๆ ”  พี่กานต์พูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่
   
โหดจริงๆ พี่หมี
   
ผมตีครีบอยู่นิ่งๆ สักพัก ตั้งสติพยายามจริงจังกับการขอโทษแซนด์วิชแฮม
   
แซนด์วิชแฮม
   
ขอโทษนะที่แกล้ง ถึงจะตั้งใจก็เหอะ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากให้ตาย
   
ผมขอโทษจริงๆ นะ
   
ให้อภัยผมเหอะ
   
ผมดราม่าอยู่สักพักก็รู้สึกเหมือนเงาปลาทองรางๆ อยู่ตรงหน้าซึ่งมีหน้าพิมพ์เหมือนกับผมไม่ผิดเพี้ยน
   
เฮ้ย !!
   
แซนด์วิชแฮม
   
ผมถึงกับตาเหลือกจะว่ายถลาไปหาแต่พบว่าทำอะไรไม่ได้ แซนด์วิชแฮมว่ายน้ำมาหาผมช้าๆ ปากอ้าหุบเป็นคำด่าที่ดูเหมือนเก็บกดมานาน แซนด์วิชแฮมใช้ตาเหลือกๆ มองผมเหมือนกำลังเขม่นก่อนจะพุ่งเข้ามาใข้ครีบหางตบตีผมเหมือนผมเป็นกระสอบทราย
   
ฮือออ
   
มึงตบกูทำมาย
   
กูไปทำอะไรให้มึ้งงง
   
ดูเหมือนแค่ตบตีผมจะยังไม่สาแก่ใจแซนด์วิชแฮมครับ แซนด์วิชแฮมว่ายลงไปก้นโหลเอาหินมาโปรยใส่ผมอีกเป็นกระบุง
   
นี่มันนิยายอาจชญากรรมครับ
   
ฮือออ
   
มันไม่เจ็บนะ แต่มันเจ็บที่ใจ    
   
ทำไมผมต้องมาโดนปลาทองทำอะไรแบบนี้ด้วย
   
ทีพี่กานต์แกล้งไม่เห็นจะโดนบ้าง
   
ฮือๆ
   
ผมร่ำไห้อยู่นานเพราะความสมเพชชีวิตอันบัดซบของตัวเองพลางนับจำนวนหินที่แซนด์วิชแฮมโปรยใส่ผมแก้แค้น
   
ก้อนที่ร้อยแล้วนะมึง พอเถอะ
   
ผมนับหินจนเมาตาพร่าไปเลยครับ
   
“ ทอย ”
   
เรียกผมทำไมพี่หมี ตอนนี้ผมกำลังเศร้ากับชีวิตอยู่นะ
   
“ ทอย ”
   
ฮือ ทำไมผมต้องมาโดนปลาทองแก้แค้นด้วยวะเนี่ย
   
“ ทอย !! ” เสียงตะคอกดังลั่นเรียกให้สติผมฟื้นคืนทันควัน
   
“ ครับ ! พี่หมี ” ผมเผลอรับคำออกไปอย่างเผลอตัว

---------------

TBC .  :hao6:

# หมายเหตุเล็กๆ เมาเลขตอนนิดหน่อยค่ะ 55555

   
   
   
      
   
   
   
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 21-09-2015 00:21:10
ว๊ายยยยย เป็นคนแล้วใช่ไหมทอยยย
คราวนี้เสร็จพี่หมีแน่ 55555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: oilzii ที่ 21-09-2015 01:09:30
ออกมาได้แล้ว :mc4:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: GBlk ที่ 21-09-2015 01:15:21
Nc Nc Nc Nc Nc 555+
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 21-09-2015 06:11:03
กรี้ดดดดดดดดดด


พี่กานต์อย่าคิดบัญชีหนักไปนะคะ สงสารน้องงงง
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 21-09-2015 06:50:17
ว้ายย ร่างมนุษย์คืนมาแล้ววว
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 21-09-2015 06:50:20
น้องทอยกลับมาแล้ว~~ :m11:

ปล. อยากฟังความในใจของแซนด์วิชแฮมบ้างจังเลยค่ะว่าน้องทอยไปทำให้เจ้าตัวเขาเจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย~♬♪ด้วยเรื่องอันใด :laugh:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 21-09-2015 09:30:19
ทอยกลับไปเป็นคนแล้วเหรอ ที่แท้แซนด์วิชแฮมก็ต้องการคำขอโทษสินะ ฮิฮิ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนที่ 6
เริ่มหัวข้อโดย: muiko ที่ 23-09-2015 13:30:38
เป็นคนแล้วสินะ  :mew1:
จะเป็นไงต้องน้า
รอค่าาาา :pig4:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 01-10-2015 22:09:03
ปลาทองตอนที่ 7
   
“ เรียกใครหมี ”
   
ทั้งเสียงทั้งตาของพี่กานต์วาวโรจน์พร้อมจะขย้ำอดีตปลาทอง
   
“ ไม่มีๆ  ” ผมยิ้มกว้างตอบรู้สึกดีใจเป็นล้นพ้นที่ตัวเองได้กลับมาเป็นคนดังปกติสักที แต่เนื้อตัวยังคงรู้สึกเหนียวๆ คาวๆ อยู่ สงสัยจะติดมาตอนกลับมาเป็นคนละมั้ง
   
แววตาพี่กานต์อ่อนลงแต่หูกลับแดงแทน
   
“ เป็นอะไรพี่ ” ผมถามออกไปงงๆ กับอาการเดี๋ยวหน้าโฉดเดี๋ยวหน้าแดง เลือกเอาสักอารมณ์เถอะครับ
   
หน้าพี่กานต์กลับมาขมวดคิ้วดุอีกครั้งก้าวพรวดยังตู้เสื้อผ้า หยิบเสื้อบอลกางเกงบอลผ้าเช็ดตัวโยนให้ผม “ ไปอาบน้ำไป ”
   
ผมก้มมองตัวเองก็ถึงบางอ้อ
   
เสื้อผ้าอยู่ครบครับเพียงแต่สภาพย่ำแย่เหมือนผ่านศึกทางน้ำมา
   
เสื้อขาวสกรีนสุดที่รักของผมแนบไปกับตัว
   
“ ครับพี่ ” ผมรับที่พี่แกโยนๆ ลุกขึ้นเดินก้าวอาดๆ ห้องน้ำที่อยู่ติดกันกับห้องพี่กานต์ ก่อนจะออกจากห้องผมชะงักขาที่ก้าวแอบเหลือบมองพี่กานต์ เห็นพี่กานต์เอามือข้างนึงกุมขมับหน้าขึ้นสีแดงก่ำแต่สีหน้ากลับน่ากลัวเอามากๆ เหมือนกำลังระงับอารมณ์
   
ผมเลยรีบเผ่นเข้าไปขัดสีฉวีวรรณเลยครับ

   
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำชะเง้อหน้ามองในห้องก็มีเพียงห้องว่างๆ ไร้ร่างหมียักษ์ ผมเลยเดินลงไปข้างล่างแทนก็เจอพี่กานต์กำลังนั่งหันหลังให้ผมอยู่ เสียงตีน้ำเปาะแปะกับเสียงหัวเราะเบาๆ ดังแว่วออกมา
   
ผมขมวดคิ้วเดินเข้าไปใกล้พี่กานต์ พี่กานต์ไม่รู้สึกตัวเลยว่าผมเดินมาข้างหลัง
   
แล้วต้องเบิกตากว้าง
   
เมื่อเจอคู่อริ
   
ไอ้แซนด์วิชแฮม !!!
   
มันกำลังว่ายน้ำลั้ลลาตาเหลือกๆ ของมันเหมือนประกายแวววาวคล้ายดวงดาวในตอนกลางคืน มันเห็นผมก่อนเจ้าของมันครับ แล้วมันก็เอาหางตีน้ำใส่ผมจนน้ำกระเด็นออกมากระฉอกใหญ่

“ อะไรของมึงวะ แซนด์วิชแฮม ”
   
พี่กานต์บ่นพึมพำแล้วเหลือบมามองข้างหลัง
   
สวัสดีครับพี่
   
หน้าของผมเปียกไปด้วยน้ำครับ
   
แต่ผมไม่มีทางกล่าวว่าร้ายท่านแซนด์วิชแฮมหรอกครับ เดี๋ยวจะโดนอีก
   
เข็ดแล้ว
   
พี่กานต์ไม่ได้พูดวิจารณ์อะไรกับสภาพของผม
   
“ หิวไหม ” พี่กานต์ถามสั้นๆ เลื่อนโหลแซนด์วิชแฮมออกไปริมโต๊ะกินข้าวแล้วเลื่อนจานกะเพราไข่ดาวที่ส่งกลิ่นหอมฉุยมาฝั่งผม
   
“ ทำเองเหรอครับ พี่กานต์ ” ผมดึงเก้าอี้และนั่งข้างพี่กานต์ ไหล่ของผมชนกับไหล่พี่กานต์
   
พี่กานต์สะดุ้ง สีหน้าน่ากลัว แต่ไม่ได้พูดอะไร
   
ไม่เป็นไรครับ ภูมิต้านทานของผมสูงลิ่วๆ เลยครับ
   
“ อย่าทำหน้าน่ากลัวดิ พี่กานต์ ”
   
“ ก็อย่ามอง ” พี่กานต์ตอบเสียงเรียบ
   
ผมยิ้มขณะที่เคี้ยวข้าว
   
ใครจะรู้ว่า หมีโหดจะมุมน่ารักแบบนี้ด้วย
   
งั้นผมยอมเป็นพิกเลตให้เลย
   
“ พี่กานต์เรื่องให้ใจ มันหมายความว่ายังไงเหรอครับ ”
   
ถึงผมในร่างปลาทองจะเอ๋อๆ แต่เก็บทุกเม็ดนะครับ
   
ไอ้ความนัยในโทรศัพท์น่ะ
   
ผมได้ยินนะ
   
พี่กานต์ขบกรามกรอดแต่หูกลับแดง “ ไม่ใช่เรื่อง ”
   
ผมยิ้ม
   
“ แล้วพี่เขินทำไมล่ะ ? พี่ชอบผมเหรอ ”
   
พี่กานต์จ้องผมตาแดงก่ำ
   
ไม่แน่ใจว่าเขินหรือโกรธกันแน่
   
“ เรื่องของพี่ ”
   
พี่กานต์ตอบเสียงห้วน แววตาฉายชัดว่าไม่ล้อเล่น
   
ผมจ้องตอบและยักไหล่
   
“ อย่าเขินดิ พี่หมี ผมรู้น่า ”
   
ตึง !!
   
พี่กานต์ทุบโต๊ะเสียงดังมือกำแน่นแววตาวาวโรจน์ “ อย่ามาล้อเล่นกับเรื่องนี้ พี่ไม่ชอบ ”
   
ผมสะดุ้งโหยง

เสียงทุ้มแหบต่ำพูดน้ำเสียงดุดัน
   
“ ผมแค่ถามเฉยๆ ใจเย็นๆ สิพี่กานต์ ”
   
ผมพยายามเอาน้ำเย็นเข้าลูบ
   
พี่กานต์ไม่ตอบผมจ้องผมเขม็ง

“ ตอนนี้ผมก็รู้สึกดีกับพี่อยู่นะ ถ้าพี่จะชอบผม ผมก็โอเค ไม่ขัดข้อง ”
   
“ แล้ว ? ”
   
“ ตอนนี้ผมยังว่างอยู่นะ ”
   
พี่กานต์เบิกตากว้างหน้าที่เดิมโหดๆ กลายเป็นอึ้งไปสักพัก ก่อนที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม “ งั้นพี่จีบเรานะ ? ”
   
กลายเป็นผมที่สะดุ้งแทน
   
“ เฮ้ย พี่เอาจริงดิ ”
   
ไม่คิดว่าจะง่ายอะไรขนาดนี้
   
เพราะผมแค่ลองเชิงดูเล่นๆ
   
แต่ถ้าถามว่าชอบพี่กานต์ไหม คงจะตอบได้ล่ะครับว่าชอบ
   
โหดๆ ไปหน่อย แต่ก็น่ารักดี
   
“ เออ ”
   
ตอบเสียงห้วนแล้วหันหน้าหนี
   
ผมหัวเราะ
   
เอาเหอะ
   
หมีก็หมี รักกับหมีดูสักรอบก็ไม่น่าเสียหายหรอกครับ


-- end -----------------

จบแล้ว   :hao7:

ไม่มีฉาก nc ตามที่เรียกร้องเพราะนิยายเรื่องนี้เป็นนิยายใสๆ ( ? )

แต่ตอนพิเศษหรือถ้าได้ปรับเป็นเรื่องยาวก็ไม่แน่ค่ะ

 :กอด1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ



   
   
   

   
   
   
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-10-2015 22:50:40
อะแฮ่ม


น้องทอยคืนร่าง แถมแซนวิชแฮมก็ยังอยุ่!!!! ได้เป็นแฟนกับพี่หมีด้วยยยยย
ฮิ้วววววววววววววววว  :mc4: :mc4: :mc4:

ชอบเรื่องนี้ แบบเรื่องสั้นอ่ะค่ะ ถ้าเป็นเรื่องยาวไม่รุ้ว่าจะเป็นยังไง นึกไม่ออก แต่เรื่องสั้นก็มีตอนพิเศษเยอะๆได้เหมือนกันนะคะ อิอิ


หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Wtftt ที่ 01-10-2015 23:31:03
 :-[   :-[
ตอนน้องทอยในร่างของเเซนด์วิชแฮมน่ารักอะนึกภาพออกเลย พีี่กานต์อ่อนโยนจะตายทำไมใครๆก็กลัว แล้วแอบรักน้องทอยมานานแล้วใช่ไหมคะถึงทำเย็นชาใส่ แล้วที่แววตาเศร้านี่เพราะเคยตะคอกทอยใช่ไหมคะ เลยมีเจ้าปลาทองเป็นเพื่อนปรับทุกข์ อยากได้ตอนพิเศษความมุ้งมิ้งของพี่กานต์จัง555555 เอ็นซีด้วยคะ แบมือขอตอนพิเศษ น่ารักมากค่าขอบคุณที่แต่งเรื่องน่ารักให้อ่านคะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 01-10-2015 23:53:53
น่ารักจังน้า...
อยากได้ตอนพิเศษของทอยกับพี่กานต์หลังจากเป็นแฟนกัน แล้วก็ตอนพิเศษให้แซนด์วิชแฮมด้วยอ่ะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: ♠DekDoy♠ ที่ 02-10-2015 01:36:30
น่ารักมาก
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 02-10-2015 09:29:14
จบแบบนี้ อี้ อี้ อี้ ขอตอนพิเศษได้มั้ยเอ่ยย (ทำตาวิ้งๆ)
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 02-10-2015 10:38:50
เป็นเพราะได้เปลี่ยนร่างกับแซนด์วิชแฮมแท้ๆ เลยนะคะ น้องทอยถึงได้เห็นพี่กานต์ในอีกมุมหนึ่งที่ทั้งน่ารักและแสนจะอ่อนโยน :-[

ขอบคุณค่ะ :pig4: (รอตอนพิเศษเน้อ ^^)
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-10-2015 20:00:55
ฮิ้วววววว ตั้งตารอตอนพิเศษเลยแบบนี้ 555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 09-10-2015 10:48:49
อยากเห็นหมีหื่น ขอตอนพิเศษ :pig4:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: mizue ที่ 09-10-2015 15:16:15
ขำหนักมากกกกกกกกกกกกกกกกกก
ว่าจะแว่บๆมาอ่านก่อนทำงาน ไปๆมาๆ งานการไม่ทำ โคตรตั้งใจอ่าน

อยากจะมีน้องทอยในร่างแซนวิชแฮมซักตัว
แต่ชื่อแซนวิชแฮมนี่ตอนตั้งคิดอะไรอยู่วะพี่หมี
เวลาอ่านพอง พองติดๆกันมากๆ ชอบเผลอเติมไม้เอกแถมไปให้ทุกทีเลย
(พูดพลางทำปากพองแบบแซนวิชแฮม)

แต่งมาอีกนะคะ ชอบมาก อ่านแล้วหายเครียดเลย

ป.ล.นิยายเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าให้ทุกช์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัว
เอ๊ะ? หรือว่าน้องแซนวิชแฮมจะรู้ว่าเจ้านายคิดอะไรอยู่จ๊ะ ฮันแน่!!!!
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนจบ
เริ่มหัวข้อโดย: ketekitty ที่ 17-10-2015 18:06:30
น่ารักมากๆ :mew1:  อยากกินแซนด์วิชแฮม ขึ้นมาเลย 555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 31-10-2015 21:34:04
-------- ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน -----------
   
“ พี่กานต์ๆ เอาขนมปังปิ้งด้วยไหม จะได้ปิ้งเผื่อ ” ผมตะโกนบอกพี่แกที่ยังอาบน้ำอยู่บนห้อง
   
“ 4 แผ่น ! ”
   
ได้กลับมาเป็นเสียงตะโกนดังลั่น
   
เป็นหมีที่เสียงดีจริงๆ ครับ
   
อย่างนี้ไปเป็นพวกผู้คุมฝึกรด. อะไรงี้ได้เลยจริงๆ ไม่ก็ไปหารับตำแหน่งพี่ว้ากก็ไม่เลวนะครับ
   
เอาเป็นว่าทุกคนคงกำลังจะงุนงงที่เห็นผมอยู่ที่บ้านพี่กานต์
   
ใช่ ตามที่คุณคิดนั่นแหละครับ
   
ผมย้ายมาอยู่บ้านพี่กานต์แล้ว อย่าว่าอย่างงู้นอย่างงี้เลย
   
ก็ถ้าผมไม่มา พี่แกก็มาบุกบ้านผมครับ
   
เอางี้ดีกว่าผมจะเล่าเรื่องราวถัดจากตอนที่แล้วแล้วกัน
   
คือหลังจากนั้นพี่กานต์ก็จีบผมไปอีก 3 วัน อย่าเพิ่งอุทานว่าทำไมผมใจง่าย หยุดครับ ขอให้อ่านก่อน วิธีการที่พี่กานต์จีบก็คือการมาอยู่ในบ้านผม อยู่กับผมเกือบจะตลอดเวลา ราวกับว่าผมเป็นเด็กน้อยต้องการคนดูแล ไม่พูดคำหวานเชื่อมอะไรทั้งนั้นแหละครับ หมีโหดย่อมโฉดและเถื่อน นั่นคือนิยามของพี่กานต์
   
พี่แกก็ไปๆ มาๆ บ้านพี่แกสลับกับมาบ้านผมครับ
   
ซึ่งผมก็อดรู้สึกสงสารไม่ได้ เอาจริงๆ ทั้งผมทั้งพี่กานต์ก็ชอบกันนั่นแหละครับ ผมก็แค่รอให้พี่กานต์พูดอะไรสักอย่างเพื่อเปลี่ยนความสัมพันธ์คลุมเครือนี่บ้าง
   
วันที่ 3 พี่แกก็ยอมพูดครับ
   
“ พี่ชอบทอย มาอยู่บ้านพี่เหอะ พี่ขี้เกียจเดินมาบ่อยๆ เมื่อย ”
   
เป็นประการฉะนี้แล..
   
ถึงจะรักบ้านแค่ไหน แต่ก็อยากลองเปลี่ยนอารมณ์ดูบ้างนั่นแหละครับ ไปเป็นพิกเล็ทให้หมีโฉดก็ดูน่าสนุกดี
   
ระหว่างที่คิดนู่นนี่นั่นขนมปังก็ปิ้งเสร็จพอดีแต่เครื่องปิ้งมันปิ้งได้ทีละ 2 แผ่นครับ ผมเลยต้องปิ้งอีก 2 รอบ เพราะผมกิน 2 พี่หมีล่อไป 4
   
ไม่รู้ว่าทำไมพี่แกถึงกินเยอะนัก
   
ถึงจะสัมพันธ์กับขนาดตัวก็เถอะ
   
สงสัยจะชอบใช้พลังงาน
   
พูดถึงเรื่องพลังงานก็อดรู้สึกเขินไม่ได้ ไม่.. อย่ามารบเร้าให้ผมเล่าเลย ผมโครตอาย
   
“ เอาแยมอะไร ? นูเทลล่า หรือ ส้ม ”
   
ผมสะดุ้งเฮือก “ นูเทลล่าแล้วกันครับ ” หน้าเผลอแดงไม่รู้ตัว
   
ร่างที่ถูกใหญ่พอจนสามารถเป็นญาติห่างๆ ของหมีได้ขมวดคิ้วแน่น“ เป็นอะไรหน้าแดง ไม่สบายเหรอ ไปนั่งไป เดี๋ยวพี่ทำเอง ” มือหนาดึงกระชากลากถูพิกเล็ทไปโยนไว้บนเก้าอี้ ยื่นมีดกับขวดนูเทลล่าที่ถือมาแต่แรกให้ ก่อนที่จะถือจานขนมปังมาวางไว้ข้างหน้า
   
ถ้าเกิดพี่กานต์เอาผ้ามันผูกคอผม
   
ผมเป็นเด็กอนุบาลได้เลยครับจริงๆ
   
มือลูบหัวผมเบาๆ เสียงที่ปกติมักจะแข็งกระด้างอ่อนโยนจนรู้สึกได้ “ ยังเพลียอยู่เหรอ ครั้งหน้าก็นอนบนเตียงก็ได้ไม่ต้องลงมาทำข้าวเช้าหรอก เดี๋ยวพี่ทำเอง ”
   
รู้แล้วใช่ไหม
   
ผมรู้ว่าพวกคุณรู้แล้ว ฮือๆ
   
ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรขึ้น
   
ก็ได้ๆ เห็นแก่ตอนนี้เป็นตอนพิเศษ ผมจะย้อนไปเมื่อคืนให้ก็ได้
   
ว่าพิกเล็ตน้อยโดนหมีพูห์โฉดปู้ยี้ปู้ยำอย่างไร
   
ช่างน่าเสียใจจริงๆ
   
   
มันไม่ใช่ครั้งแรกที่อยู่ๆ พี่กานต์จะมานั่งมองผมที่นอนดูทีวีไปเรื่อย
   
มองไปมองมาจนผมรู้สึกเขิน
   
“ มีอะไรหรือเปล่า พี่กานต์ ”
   
“ เปล่า ”
   
ปากตอบเปล่าแต่ยังจ้องอยู่เหมือนเดิม
   
เอาจริงๆ นะ ผมรู้ว่าพี่แกกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ แต่ก็เฉไฉไปงั้นนั่นแหละ
   
ไม่คิดว่าจะโดนลูกรักพี่แกทำเจ็บขนาดนี้นี่หว่า
   
แต่ถูกจ้องขนาดนี้ให้ผมนอนเฉยๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกันแหละ
   
ผมเลยยอมลุกขึ้นจากเตียงเดินมาหาหมียักษ์ที่ยังมองนิ่งๆ ดวงตาสีดำสนิทเหมือนกำลังซุกซ่อนไฟสุมร้อนแรงไว้ด้านหลัง
   
รอบแรก พี่กานต์รอให้ผมเริ่ม
   
รอบนี้ก็คงจะเหมือนกัน
   
“ ผมขอถามอะไรได้ไหมพี่ ? ”
   
“ ว่า ”
   
“ ทำไมพี่ถึงตั้งชื่อปลาทองว่าแซนด์วิชแฮมล่ะ ”
   
มันเป็นปัญหาคาใจผมนานละ แต่หาโอกาสถามไม่ได้สักที
   
ผิดคาด มีเลือดฝาดบนหน้าพี่กานต์
   
“ ตอนนั้นฟลุ๊คบอกว่าทอยชอบให้ซื้อแซนด์วิชแฮมมาฝาก พี่เลยตั้งชื่อนี้.. ”
   
ไม่น่าถามเลยว่ะ
   
จริงๆ
   
คำตอบชวนเขินมากครับ แต่เพื่อต่อเวลาเราเลยเล่นถามคำถามต่อ
   
“ พี่จำตอนที่พี่ทะเลาะกับพี่ฟลุ๊คตอนม. ปลายได้ปะ ”
   
พี่กานต์ทำท่าคิดไปสักพัก    
   
“ จำได้ ”
   
“ พี่ทะเลาะกันเรื่องอะไร ”
   
เพราะไอ้ที่ทะเลาะกันนี่แหละครับ ผมถึงได้กลัวเข้าไส้
   
“ ตอนนั้นพี่กับมันเกี่ยงกันแสดงบทพระเอกละครเวที พี่ไม่อยากแสดง พี่ไม่ชอบ ไอ้ฟลุ๊คก็พยายามโยนให้พี่ แต่พี่ไม่ชอบเลยตะคอกด่ามัน ”
   
“ แสดงเรื่องอะไรเหรอครับ ”
   
เมื่อก่อนผมว่าผมเห็นพี่กานต์ออกงานโรงเรียนบ่อยอยู่นะ
   
สามารถนำไปใช้เป็นพระเอกหรือกรรมกรแบกหามได้ตามต้องการ
   
“ เงาะป่า มันให้พี่แสดงเป็นเงาะตอนยังไม่ถอดรูป ”
   
พี่กานต์เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ก็มีสีหน้าโกรธอยู่กรุ่นๆ
   
“ โอเค พี่ ผมหายข้องใจแล้ว อย่าฆ่าพี่ผมเลย ”
   
พยายามใช้คำพูดแทนน้ำผึ้งยื่นให้หมีพูห์ครับ
   
“ ช่างเหอะ พี่ไม่ไหวแล้ว ”
   
หมีพูห์ยักไหล่ใส่ผม แปลกนะครับวันนี้พี่กานต์ใส่เสื้อสีแดงอีกต่างหาก เหมาะดีจริงๆ พี่แกจ้องผมตรงๆ เลิกปิดบังสิ่งที่ซ่อนในแววตา พร้อมจะแผดเผาผมเต็มที่
   
อย่างว่าแหละครับ
   
พิกเล็ทยังไงก็ต้องตามใจหมีพูห์ที่เป็นตัวเอกของเรื่อง
   
ถึงได้ต้องเป็นฝ่ายจูบพี่กานต์ก่อน..

   
“ อือ พอพี่กานต์ พอ.. ”
   
จะบอกว่าพี่กานต์นี่ไม่ทะนุถนอมผมสักนิดครั้ง ฮือๆ
   
รอบหลังๆ มาเนี่ย
   
รอบแรกอ่อนโยนเหมือนแป้งเด็กแคร์ ทำไมถึงกลายเป็นหมีโฉดในวัยเจริญพันธุ์ไปได้
   
“ ไม่ .. ”
   
ลากเสียงยาวข้างหูพร้อมกัดเข้าที่คอ
   
“ โอ๊ย เบาๆ ”
   
ไม่แน่ใจว่าผมหมายถึงข้างบนหรือข้างล่างกันแน่ครับ
   
แต่ที่แน่ๆ โครตเขินเลย
   
กลัวว่าจะรอบนี้เสร็จ พี่กานต์จะต่ออีกรอบเนี่ย
   
ถ้ามีอะไรมาขัดขวางได้
   
ผมจะดีใจมาก ฮือ
   
“ ไม่ได้ทำเกือบอาทิตย์เลยนะ ทอย ”
   
พี่กานต์ปั่นนิยายส่งกองบก. ครับช่วงนั้นที่ห่างหายจากเรื่องใต้สะดือไป เพราะอะไรที่ปั่นไม่ทัน ? ก็พี่กานต์มัวแต่คิดเรื่องแบบนี้ไงครับ ฮือๆ
   
กริ๊งๆ
   
สุขสันต์วันฮาโลวีนฮาฟฟ จะให้ลูกกวาดหรือยอมโดนหลอกคร้าบบ
   
ฮาโหลววว
   
กริ๊งๆ
   
“ ฮาโลวีนบ้าอะไร ” พี่กานต์คำรามในลำคอ สีหน้าหงุดหงิดอย่างเห็นได้ชัด
   
พี่หมีโกรธแล้ว
   
เด็กน้อย พวกนายต้องตายแน่ หนีไปซะ
   
“ ก็วันนี้วันฮาโลวีนอะพี่ เขาก็ต้องมาขอลูกกวาดกันดิ ” ผมพยายามหัวเราะแห้งๆ พยายามกดความรู้สึกพลุกพล่านของตัวเอง
   
แม่งปากบ่นแต่ก็ยังไม่เลิกขยับวะ
   
“ พี่กานต์ พอๆ เด็กมันรอนะ ”
   
คำขอของผมอุตส่าห์เป็นจริงทั้งที
   
พี่กานต์ขมวดคิ้วก่อนจะตะโกนออกไปเสียงดัง
   
ผมนี่ตกใจโครตๆ
   
กลัวว่าพี่แกจะตะโกนด่าเด็ก
   
“ ลูกอมอยู่ในตู้จดหมาย !! ”
   
ตะโกนเสร็จก็เลิกคิ้วให้ผมกวนๆ
   
ถามว่าผมรอดไหม
   
คำตอบคือ ไม่ !

   
พี่กานต์เคี้ยวขนมปังหงุบหงับนั่งตรงข้ามผม ขนมปังดูน้อยไปเลยเมื่อพี่แกกัดไปสองสามคำก็หมดแผ่นนึง
   
จนผมลังเลว่าจะสละของตัวเองให้พี่แกอีกอันดีไหม
   
แต่ถ้าให้ผมก็ไม่มีพลังงานไปทดแทนที่สูญเสียไปเมื่อวาน
   
ความคิดถูกพับเก็บไว้ ผมเลยไม่ได้ทำอะไรเพิ่มเติม
   
“ ทำไมพี่ซื้อลูกอมเก็บไว้ในตู้จดหมายล่ะ ? ”
   
อันนี้ผมงงงจริงๆ นะ
   
“ เด็กมันมาขอทุกปี รำคาญ เลยซื้อเอาไว้ ”
   
พี่กานต์ตอบอย่างขอไปที ซดนมโฮกฮาก
   
ผมหลุดหัวเราะ
   
“ พี่หน้าโหดงี้ มีเด็กกล้ามาขอด้วยเหรอ ”
   
“ ไม่รู้มัน เห็นกดทุกบ้าน ”
   
ช่างเป็นเด็กน้อยที่มีความพยายามกระตือรือร้นในเทศกาลจริงๆ
   
“ ทอยต้องให้ลูกอมพี่ด้วยนะ ”
   
“ ให้ทำไม ไม่ได้แต่งตัวผีนี่ ? ”
   
“ ก็เมื่อคืนเล่นผีผ้าห่มไง ”
   
พี่กานต์พูดเองขำเอง หัวเราะหึๆ กลั้นขำจนตัวสั่น
   
ส่วนผม
   
“ ... ”
   
สุขสันต์วันฮาโลวีนครับ
   
ขอให้มีเด็กมากดกริ่งบ้างนะครับ

--------------------------

เป็นตอนพิเศษรับฮาโลวีน  :really2:

ไม่แน่พอมีวันสำคัญอะไร ตอนพิเศษอาจจะโผล่มาเรื่อย

 :กอด1: ขอบคุณทุกคอมเมนต์ค่ะ

   
   
   

   
   
   
   
   
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: magarons ที่ 31-10-2015 21:57:20
บ้านไม่มีกริ่ง แต่ถึงมีก็ไม่จังหวะให้ขัดดเเ กรี้ดดด
รักเรื่องนี้ ชอบพี่หมีมาก
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: painture ที่ 31-10-2015 22:11:03
ถ้าปรับเป็นเรื่องยาวต้องสนุกแน่ๆเลยค่ะ น่ารักมากๆๆ พอเป็นเรื่องสั้น เลยดูรวบรัดไปหน่อย
เป็นกำลังใจให้พัฒนาต่อนะคะ ชอบๆ

ขอบคุณคุณคนเขียนค่ะ
 :pig4:
  :m1: :m1: :m1:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 01-11-2015 09:37:28
ที่มาของชื่อ 'แซนด์วิชแฮม' มาจากน้องทอยนี่เองนะคะ งื้อออออ พี่กานต์ในมุมมุ้มมิ้ง :-[ ว่าแต่แอบเก็บรายละเอียดของน้องทอยมานานแล้วล่ะสินะคะพี่กานต์~~

ขอบคุณค่ะ :pig4:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 01-11-2015 22:29:17
 :ling3:

 พี่กานต์ชอบน้องทอยมานานแล้วนะ

สมหวังแล้ว ดูแลน้องดีๆนะคะ ชุ้บๆ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: whitelavenders ที่ 01-11-2015 23:24:39
ชอบบบ น้องทอยน่ารักมากก
ตอนที่เป็นปลาทอง แล้ว พองๆ อะน่ารัก 5555
ีพี่หมีก็น่ารัก ทำโฉดแต่อ่อนโยนมาก
เราอยากอ่านเป็นเรื่องยาวเลยอ่ะ สนุก
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 02-11-2015 01:16:35
ปลาทองงงงง น่ารักอ้ะะะะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: jetken ที่ 02-11-2015 06:54:48
 :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 02-11-2015 09:06:20
 :o8: อิจฉามีเล่นผีผ้าห่มกันด้วย
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 02-11-2015 22:10:13
พี่กานนี่สุดๆ อ่ะ คู่นี้มันเหมาะกันจริงๆ 555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ฮาโลวีน
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 22-11-2015 23:55:10
ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
   
ผมว่าผมเป็นปลาทองช็อคแล้วนะ
   
ไอ้กรนคร่อกๆ ข้างผมนี้มันเหี้ยอะไรเนี่ยยยย
   
อยากกรี๊ดให้โลกแตกครับ
   
ผมตื่นขึ้นมาบนเตียงนุ่มที่เพิ่งไปถอยมาใหม่ให้เป็นคิงส์ไซส์ ได้โปรดอย่าคิดลึกว่าซื้อมาทำอะไรแบบนั้น คือพอดีว่านอนเบียดกันสองคนมันอึดอัดครับ
   
แค่นั้นแหละ
   
จริงๆ
   
พี่กานต์ไม่เคยทำอะไรๆ ต่อหรอก
   
“ เชี่ย.. ”
   
ผมอุทานออกมา เอามือจิ้มหัวหมีจริงๆ
   
หูสีน้ำตาลสะบัดขึ้นลงแล้วก็เอามือที่มีกรงเล็บไว้จับปลาปัดมือผมออก
   
ในใจนี่อุทานรัวๆ
   
มือไม้สั่นเป็นเจ้าเข้า
   
“ พี่กานต์ ”
   
ผมเรียกพี่กานต์เสียงสั่น 
   
ถึงกูจะเรียกว่าพี่หมีแต่แม่งก็ไม่ใช่ปะวะที่จะเป็นหมีจริงๆ เนี่ยยย
   
โอ้ย ชีวิตนี้ถ้ากูเจออีแซนด์วิชแฮมเป็นคนอีกกูจะไม่แปลกใจเลย
   
จะบ้าตายโว้ยยย
   
ผมเลยจัดการเอามือตบหน้าพี่แกให้ตื่นจะได้ปรึกษาหารือถึงแนวทางการแก้ไขจากหมีสู่คน
   
ฮื่อออ
   
เสียงคำรามในลำคอทำเอาผมชะงักมือที่กำลังจะตบ
   
ขอโทษครับ
   
ไม่ตบก็ได้ ฮือๆ
   
หรือผมอาจจะกำลังฝันไปอยู่ก็ได้ !
   
ผมลองหยิกตัวเอง
   
“ โอ๊ย ! เจ็บจริงวะ ”
   
ขนาดเป็นปลาทองยังเป็นเรื่องจริงเลยนับประสาอะไรกับพี่กานต์เป็นหมี
   
หรือผมควรจะเปิดพิพิธภัณฑ์หมีดีครับ
   
น่าจะเวิร์ก
   
ให้อาหารเป็นแซนด์วิชแฮมที่ว่ายเล่นในตู้ปลาเลยครับ ( พี่กานต์บอกว่าเลี้ยงแบบตู้ดีกว่าเลยไปซื้อตู้ปลาใหม่กันวันนั้นเลย )
   
ไม่ๆๆ ตอนนี้ผมควรโฟกัสที่พี่หมีกานต์
   
ซึ่งพลิกตัวหนีไปอีกทางเห็นหางสั้นๆ สะบัดไปมา
   
เอาไงดีเนี่ย
   
หรือต้องไปหาปลาแซลม่อนมาให้กินเป็นมื้อเช้า จะว่าไปก็อยากถ่ายรูปคู่เหมือนกันนะเนี่ย จะได้เป็นอนุสรณ์ว่าพี่กานต์เคยกลายเป็นหมี เสียดายไม่ได้ถ่ายตัวเองไว้ ไม่งั้นได้อัดรูปคู่กันเลยครับ
   
หมีกับปลาทอง
   
เจริญจริงๆ
   
ผมตัดสินใจดึงหางพี่แกครับ !
   
โฮกก
   
สงสัยจะเป็นคำอุทานภาษาหมีๆ พี่แกร้องออกมาดังลั่น ลุกพรวดขึ้นมานั่งบนเตียง หูสองข้างกระดิกไปมางงๆ ก่อนจะมองผมเขม็ง
   
“ หวัดดีพี่หมีกานต์ ”
   
พี่กานต์เหมือนจะไม่ชอบใจกับคำเรียกครับ ส่ายหัวไปมาอ้าปากจะพูด
   
กลายเป็นว่าโชว์เขี้ยวแหลมเรียงกันเป็นระเบียบกับเสียงฮึมฮัม
   
พี่แกตกใจมากเอามือตะครุบปากตัวเอง มองผมแตกตื่น
   
“ ไม่ต้องตกใจพี่ อารมณ์เหมือนตอนเป็นปลาทองแหละน่า ”
   
ผมพยายามปลอบพี่แก
   
แต่พี่แกกลับเอามือตะครุบผมล้มไปกับเตียง
   
“ เฮ้ย เล่นไรวะพี่ ”
   
ผมพูดไม่ได้หวังคำตอบหรอกครับ แต่พี่แกตอบด้วยการซุกไซร้หัวไปตามคอผม ขนนิ่มๆ ของหมีทำให้ผมจั๊กจี้จนหลุดหัวเราะ
   
หมีพี่กานต์ชะงักกลับมานั่งเรียบร้อยเหมือนเดิม
   
“ อ้าว ? ”
   
ผมลุกขึ้นนั่งดีๆ บ้าง
   
และงงกับพี่แกว่าจะทำอะไร
   
เตียงส่งเอี๊ยดอ๊าดเบาๆ ตอนพี่แกขยับตัวลงจากเตียง และเดินสองขาออกไปนอกห้อง
   
“ ฮะ ? ”
   
ผมส่งเสียงงงๆ
   
อะไรวะ
   
งงงกว่าตอนรู้ว่าพี่กานต์เป็นหมีอีก
   
โครกกกก
   
เสียงเหมือนเสียงคำรามดังลั่น
   
หมีพี่กานต์ชี้พุงตัวเองให้ผมดูหน้าห้องแล้วก็เดินลงบันไดดังปึงปัง
   
หิวข้าว ?
   
เลยไปหาของกิน ?
   
ทำไมพี่แกดูชินกับการเป็นหมีวะเนี่ยยย
   
กูฝันช่ายม้ายยย
   
แต่หยิกแล้วมันเจ็บนี่
   
   
“ นอนเพลินอีกละ ทอย ขนาดหยิกยังไม่ตื่นอีก ” ผมบ่นเบาๆ แต่อมยิ้มมองร่างที่ยังนอนอุตุบนเตียงใหม่ซึ่งไปถอยมาใหม่ เพื่อรองรับการนอนสองคนหรือเหตุผลพิเศษที่ทอยไม่อยากพูดถึง
   
“ เอาเหอะ อยากนอนก็นอนไป เมื่อวานกว่าจะได้นอนก็ดึกนี่เนอะ ”
   
มือหนาลูบหัวเบาๆ ก่อนจะผละไปหาอะไรกิน
   
-------------------------------
ไม่น่าดูเรื่อง Brave เลย 55555555

ดูแล้วอยากแต่งคนเป็นหมีเลย แล้วหวยก็มาลงที่พี่กานต์  :mew3:

ได้เป็นหมีจริงๆ แล้วนะพี่กานต์
   
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: PoppyPrince ที่ 23-11-2015 00:37:18
เป็นเรื่องที่น่ารักมากๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: Celestia ที่ 23-11-2015 01:56:10
น่ารักเหมือนเดิมเลยค่ะ 5555 นอนเพลินนี่เพราะทำอะไรกันหรือเปล่าน้า?
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: Mouse2U ที่ 23-11-2015 18:16:10
หยิกจังหวะเดียวกันเป๊ะๆ เลยไงคะพี่กานต์ น้องทอยถึงได้ไม่ยอมตื่นนอน :m20:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 24-11-2015 09:19:50
หมีกานต์

ไม่ตกใจเล้ยยยย ที่ตัวเองกลายเป็นหมี

แต่น้องทอยน่ารักเหมือนเดิม โฮะๆ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: lizzii ที่ 24-11-2015 13:36:22
น้องทอยจะฮาไปไหนละ 5555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: sirin_chadada ที่ 24-11-2015 13:57:15
ตลกดี
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: 28016 ที่ 06-12-2015 23:55:10
ฮืออออ เราขำ เราตลก เราน้ำตาจะไหล  5555555555555555
เกิดมาพึ่งเคยเจอนิยายคนกลายเป็นปลาทอง อ่านแล้วสตั้นมาก อีปิคยิ่งกว่าคือเจ้าของปลา ชื่อสุดสร้างสรรค์กับการเทคแคร์ปลาทองนั่นมันอะไรกัน  :m20:
นึกถาพผู้ชายหุ่นหมีแกล้งปลาแล้วขำหนักมาก พี่กานต์น่ารักมุ้งมิ้งมากค่ะ ส่วนแซนวิชแฮมก็เป็นปลาที่สตรองเหลือเกิน..
แต่สงสัยจริงๆว่าตอนทอยกลายเป็นปลาแซนวิชแฮมไปอยู่ที่ไหน เอาร่างคนไปวิ่งเล่นเปิดโลกกว้างหรือหลงในมิติที่สี่? แต่มีดารลิยมาตบหน้าด้วย แลดูจะแค้นมาก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าหือกับปลาทอง 55
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: Hang ที่ 23-01-2016 10:11:35
น้องทอยยยย  น่ารักกกกกก  พิกเล็ต  น่าจิมีพี่เสืออีกตัว  5555.  :jul3:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: lazyishappy ที่ 23-01-2016 12:05:18
น่ารักมากค่ะ กลายเป็นปลาทองซะได้ ฮ่าๆ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: Qhenan ที่ 30-03-2016 01:58:32
น่ารักจังเลยยยย เป็นเรื่องสั้นที่อยากให้เป็นเรื่องยาวมาก
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: Snowermyhae ที่ 31-03-2016 01:55:28
ชอบแซนวิชแฮมค่ะ 5555555555 :hao7:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: Honeyhoney ที่ 25-05-2016 21:30:20
 :o8: ชอบเรื่องนี้ สนุก น่ารักมากกกกกก  ชอบช่ีอปลาทองมาก ๆ อ่านละขำเลย
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: Gottomon ที่ 13-09-2016 11:22:52
อร้ายยย มันน่ารักมากกกกกๆค่ะ
สนุก ตลก 5555 แถมแอบเศร้าพี่กานต์ตอนแรกๆ
เป็นเรื่องที่น่ารักมากกกๆค่ะ อยากอ่านต่ออีกจัง><
มีความสุขมากๆ //แต่งต่อค่ะๆๆ ฮิฮิ
ขอบคุณนะคะ สำหรับนิยายน่ารักๆ รักจริงๆ><
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : ถ้าพี่กานต์กลายเป็นหมี !?
เริ่มหัวข้อโดย: mu_mam555 ที่ 13-09-2016 22:17:32
โอ้ยยยย เรื่องนี้ฮาอ่ะ ชอบๆ 5555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง : แฟนอาร์ต
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 25-09-2016 11:07:09
เพิ่งเห็นว่ามีคนวาดแฟนอาร์ตด้วย 5555 ขอบคุณนะคะ  :man1: (อันแรกในชีวิตเลย 5555)

(http://www.mx7.com/i/91a/WdF6i3.jpg) (http://www.mx7.com/view2/znCJiHoAZd7gi7Nx)
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง : แฟนอาร์ต
เริ่มหัวข้อโดย: Silver Fish ที่ 28-09-2016 12:07:29
น่ารัก คือดีงามมาก หมีกับปลาถึงจะปลาทองก็เถอะ 5555555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง : แจ้งข่าวรวมเล่ม 4 ส.ค 60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 04-08-2017 23:32:50
(https://www.uppic.org/image-AC35_5984A2CE.jpg) (https://www.uppic.org/share-AC35_5984A2CE.html)

ไม่ได้เจอกันนานมากกกกกสำหรับเรื่องนี้  :katai5: แวะมาบอกว่าได้รวมเล่มแล้วค่ะ  :hao6:

ใครสนใจตามลิงค์นี้ได้เลย  :mew1:

https://www.facebook.com/Rev.Publishing.BL/photos/a.1647741578806061.1073741828.1641772759402943/2000589070187975/?type=3&theater
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง : แจ้งข่าวรวมเล่ม 4 ส.ค 60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: MSeraph ที่ 11-08-2017 08:03:34
พี่กานต์คนซึนมากกก
น้องทอยน้ารัก แต่เอ๋อและเวิ่นเว้อมาก
เพราะปลาทองพูดกะใครไม่ได้งี้ เลยเวิ่นกะตัวเอง
วงวารรร55555555
ขอบคุณสำหรับนิยายดีๆค่ะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง : แจ้งข่าวรวมเล่ม 4 ส.ค 60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Rafael ที่ 10-09-2018 10:51:33
น่ารักมากค่ะ 55555
ชอบน้องทอยในร่างปลาทองมาก
อยากบีบ // โดนตบ

ขอบคุณคนเขียนนะคะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง : แจ้งข่าวรวมเล่ม 4 ส.ค 60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 11-09-2018 20:08:33
แงงงง น่ารักมากเลยค่า มีแต่คำว่าน่ารักๆๆๆๆ เอ้นดูพี่กานต์มาก ชอบความคุยกับปลาทองมุ้งมิ้งๆๆๆ ตลกสุดคือชื่อแซนวิชแฮมชีส พี่คิดได้เนอะ แง ชอบมากเลยค่า :hao7: :mew1:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง : แจ้งข่าวรวมเล่ม 4 ส.ค 60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: skies ที่ 12-09-2018 02:31:38
น่ารักกก ปลาทองเด๋อ ๆ กับหมีหิวข้าว 5555
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง : แจ้งข่าวรวมเล่ม 4 ส.ค 60 p.3
เริ่มหัวข้อโดย: สิงหา ที่ 03-10-2018 16:46:29
น่ารัก น่ารัก น่ารัก
ถึงพี่แกจะดูดิบเถื่อน แต่อ่านแล้วรู้สึกจริงๆเช่นนั้น
ภายในช่างมุ้งมิ้งกุ๊งกิ๊งมากมาย
ส่วนเจ้าแซนวิชแฮม
นี่ว่านางเป็นปลาทองจริตแมวอ่ะ 5555

ขอบคุณสำหรับนิยายนะคะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : แจกลายเซ็น 3 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 03-10-2018 22:51:19
ตอนพิเศษ : งานแจกลายเซ็น
   
เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ดังลั่นในตอนเช้าตรู่ ทำให้ผมกับพี่กานต์ที่เพิ่งนอนกันไปเมื่อตีไหนสักตีต้องฝืนสังขารตื่นขึ้นมารับ หยุด หยุดความคิดของคุณเดี๋ยวนี้! ผมรู้นะว่าคิดอะไรนะ ผมกับพี่กานต์ไม่ได้มีอะไรกันครับ เราแค่ เอ่อ.. ดูหนังเฉยๆ พี่กานต์ซื้อหนังแผ่นมาเปิดดูแล้วชวนผมดูด้วย
   
แค่นั้นจริงๆ นะ!
   
ผมเหลือบมองพี่กานต์ที่หน้าบูดมากขณะที่กดรับโทรศัพท์ ซึ่งหน้าเหมือนอยากฆ่าคนปลายสายมากจนผมชักไม่แน่ใจในสวัสดิภาพของคนปลายสาย
   
“ครับ”
   
โห แค่คำว่าครับมันสามารถสร้างความสะพรึงกลัวขนาดนี้ได้ด้วยเหรอวะ  ผมเผลอถอยห่างจากพี่กานต์ไปหนึ่งคืบ ในมือถือตุ๊กตาหมีกริซลีย์ที่สั่งมาทางเนตเพื่อเป็นของขวัญให้พี่กานต์แต่ตอนนี้ผมจะใช้มันเป็นอาวุธป้องกันตัวแทน ถ้าหากพี่กานต์เกิดบ้าคลั่งและหันมาทำร้ายผมแทน
   
พี่กานต์ขมวดคิ้วมองผมงงๆ ไม่พูดอะไร แต่มือจับขาผมดึงเข้าหาตัวเองจนกลายเป็นว่าผมอยู่ติดกับพี่กานต์ชนิดที่ว่าเนื้อแนบเนื้อ มือหนาๆ วางที่ต้นขาผมอย่างถือวิสาสะมาก
   
[ดีจ้ะ น้องกานต์]
   
อ้าว พี่กานต์เปิดลำโพงแฮะ สงสัยจะกลัวผมคิดว่าเป็นผู้หญิงโทรมาจีบ แต่ถ้ามีโทรมาก็ไม่แปลกเพราะหน้าตาพี่แกดีมากติดที่หุ่นเหมือนหมีไปหน่อย ที่เหลือผ่านหมด
   
[น้องกานนนนน ครั้งนี้ไปให้พี่เถอะนะ คนอ่านเขาเรียกร้องกันมาก ยิ่งช่วงนี้งานหนังสือ ยอดขายหนังสือเราจะได้พุ่งกระฉูดไง เบสต์เซลเลอร์อ่ะ น้องกานต์ เผลอๆ ดังมากได้เป็นทำหนังด้วยนะ]
   
ผมตาโตเลยครับ ลืมไปพี่หมีผมคือนักเขียนผู้ลึกลับ ว้าว ผมมีของดีอยู่กับตัว แบบนี้ถ้าผมขอลายเซนต์พี่กานต์เอาไปลงประมูลนี่คงรวยเละ ดี วาดลงวาดรูปผมไม่ทำละ
   
“ผมไม่ชอบคนเยอะ”
   
ตอบแบบไร้เยื่อไยมาก นี่ถ้าเป็นผมคงหนีไปร้องไห้อ่ะ ตอบเสียงโหดขนาดนี้
   
[น้องกานต์ คือทางเราก็ผลัดคนอ่านมาหลายรอบแล้วอ่ะ ถ้าจะให้ปฏิเสธรอบนี้อีกคงต้องมีดราม่าอีกแน่ๆ น้องกานต์มาไม่ได้จริงๆ เหรอ แค่ทักทายกับแจกลายเซ็นเอง]
   
“ถ้าพี่โทรมาคุยแค่นี้ ผมวางนะครับ”
   
“เห้ย พี่อย่าใจร้ายดิ” ผมถลาเข้าไปแย่งโทรศัพท์พี่กานต์ทันทีซึ่งพี่กานต์ก็สามารถจัดการผมได้ในสองกระบวนท่า รู้ตัวอีกทีผมนอนหมอบราบอยู่เตียงในท่าล่อแหลมมาก พี่กานต์ขึ้นคร่อมผม ขาสองข้างถูกกดแน่นด้วยเข่าจนขยับไม่ได้ เหลือแต่มือที่อิสระข้างเดียวซึ่งมันก็ไม่สามารถช่วยเหลือเจ้าของร่างให้รอดพ้นจากหมีหื่นได้
   
[เอ้ะ เสียงไรน่ะ ตึงตังๆ แฟนเหรอ น้องกานต์! น้องกานต์มีแฟนแล้ว!! กรี๊ด น้องกานต์จะพาแฟนมาด้วยก็ได้นะ งานน่ะเดี๋ยวพี่เตรียมเก้าอี้ไว้สองตัวนั่งคู่กันเลย]
   
อื้อหือ แค่ได้ยินเสียงตึงตังสามารถตีความไปได้ว่าแฟน สุดยอดมากจริงๆ ครับเธอคนนี้ ผมมองหน้าพี่กานต์จากมุมข้างล่าง ทำให้เห็นตั้งแต่คอที่มีรอยกัด คางที่มีเคราสากๆ โดนแล้วจั๊กจี้ จมูกโด่งๆ ตาที่ชอบมองดุๆ แล้วก็คิ้วหนาที่เหมือนเอาก้านพลูมาเขียนตอนเด็กๆ ทั้งไร่
   
เอ้ะ เหมือนผมอธิบายแปลกๆ นะ
   
“เมื่อคืนไม่พอเหรอ?” พี่กานต์โยนโทรศัพท์ไปข้างเตียงกระซิบถามข้างหูผมเสียงนุ่ม
   
เมื่อคืนอะไรครับ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้น ผมกับพี่กานต์แค่ดูหนังกันทั้งนั้นเอง ฮือๆ
   
[น้องกานต์? ฮัลโหล สรุปว่าไงจ๊ะ ถ้าไปพี่จะได้จัดตารางวันให้ ไปวันเดียวก็ได้ พี่ไม่ว่า]
   
“อยากไปไหม?”
   
จำเป็นต้องถามผมไหม ถามตัวเองสิ เป็นหมีมันต้องมีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ไม่เข้าใจทำไมผมถึงเผลอพยักหน้าหงึกหงักตอบ อาจจะเพราะสงสารคนอ่านด้วยล่ะมั้ง
   
“โอเคไปครับ”
   
[กรี๊ด! น้องกานต์ พี่รักน้องกานต์มากเลย ร้อยวันพันปีไม่เคยไป วันนี้ไป พี่ต้องฉลองหน่อยแล้ว! สรุปสองที่นะจ๊ะ น้องกานต์กับแฟน นี่งานเปิดตัวเหรอเนี่ย น่ารักๆ ขอบคุณมากจ๊ะ น้องกานต์ เดี๋ยวพี่ส่งวันให้ทางไลน์อีกทีนะ]
   
และสายก็ถูกตัดไปครับ ตัดมาที่ร่างของนายทอยที่กำลังจะโดนหมีกรีซลีย์ร่างยักษ์วัยฉกรรจ์มีนิสัยหื่นกระหายเหมือนโดนอดอาหารมาสิบชาติจับกิน
   
“พี่กานต์ ผมง่วงอ่ะ นอนได้ไหม”
   
ผมยิ้มแหยๆ ขอ ซึ่งผมก็รู้อยู่แล้วแหละ ว่าคำตอบมันคืออะไร
   
“หิว”
   
หิว ก็ไปหาอะไรกินครับ ไปกินแซนด์วิชแฮมก็ได้ ไม่ต้องมากินน้องทอยตัวน้อยๆ อย่างผม ฮือๆๆ

   

“เห้ยแก พี่กานต์มา! พี่กานนนน ตัวจริงหล่อกว่าในรูปท้ายเล่มอีก กรี๊ด!”
   
ผมเอามือปิดปากแสร้งทำเป็นไอทั้งๆ ที่กลั้นขำจนตัวสั่น ยิ่งเห็นสายตาเบื่อๆ ของพี่กานต์ที่เหลือบมามองผมยิ่งทำให้ผมขำหนักกว่าเดิม
   
คือที่ผมขำไม่ใช่ไร มันมีนักอ่านที่เป็นผู้หญิงอายุประมาณวัยรุ่นหน่อยมากรี๊ดๆ อยู่หน้าบูธประมาณสิบรายแล้วมั้งครับ คือกรี๊ดไม่พอชี้มาทางพี่กานต์อีก ทำให้แถวที่ขอลายเซ็นขอถ่ายรูปของพี่แกยาวยิ่งกว่าเดิมอีก จากคดเคี้ยวสามรอบตอนนี้สิบรอบแล้วมั้งครับ ฮ่าๆ
   
“แล้วข้างๆ พี่ใครเขาอ่ะ นักเขียนเหมือนกันเหรอ ทำไมไม่เห็นมีป้ายชื่อ”
   
แล้วทำไมมันถึงลามมาถึงผมได้วะ ทุกสายตาที่มองพี่กานต์อย่างชื่นชมพอเบนมาหาผมจะกลายเป็นงุนงงและมองผมเหมือนผมเสล่อมานั่งตรงนี้ทำไม แต่จะให้ผมป่าวประกาศว่าเป็นแฟนมานั่งเป็นเพื่อนนี่ก็ไม่ใช่เรื่องนะครับ ไม่งามๆ
   
“หรือว่าเป็นเพื่อนพี่เขาวะ แก”
   
กระซิบดังมากครับ ไม่แน่ใจนี่กระซิบหรือตะโกน คุยกันแบบอยู่ท้ายซ้ายหน้าซอยได้ยินอ่ะจริงๆ  จนพี่กานต์ที่เซ็นหนังสืออยู่ต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง
   
“กรี๊ด พี่เขามองเราอ่ะแก สงสัยชอบเราแน่เลย” พูดไม่พอทำท่าเขินม้วน
   
ผัวะ!
   
ผมเหวอเลยครับ เมื่อกี้ฝ่ามือน้องผู้หญิงที่ดูเหนียมอายกุลสตรีฟาดไปที่กลางหลังเพื่อนของนางจนเซ “เขามองเพราะเราเสียงดังต่างหาก โว้ย!”
   
“หึ”
   
พี่กานต์หัวเราะส่ายหน้าเบาๆ แล้วก้มลงขะมักเขม้นกับการเขียนชื่อของนักอ่านที่ส่งหนังสือมาให้กับลายเซ็นของตัวเอง
   
“พี่คะ ขอถ่ายรูปด้วยได้ไหมคะ”
   
สีหน้าของพี่กานต์เหมือนเดิมแต่ผมสังเกตเห็นถึงความเบื่อขั้นรุนแรงที่ซ่อนไว้แววตา
   
“ครับ”
   
ตอบนิ่งๆ โมโนโทน พูดด้วยเสียงนี้กับทุกคนที่ขอถ่ายรูปเลยครับ โห่ น่าดีใจจะตาย มานั่งแจกลายเซ็นให้คนที่ชอบผลงานเรา ผมก็เคยนะ แต่นานๆ ทีมาก ช่วยไม่ได้ ผมไม่ได้ดังเหมือนพี่กานต์นี่นา
   
“พี่คะ ช่วยถือกล้องให้ได้ไหมคะ”
   
“ได้ครับ” ผมยิ้มแล้วรับกล้องมาถือ นี่แหละ หน้าที่ที่แท้จริงของผม คนถ่ายรูปไง ฮือๆ “นับแล้วนะครับ 1 2 ซั่ม สวยครับ สวย อีกรูปนะครับ”
   
สวยไม่สวยไม่รู้ ผมถ่ายไปก่อน เพราะรู้สึกถึงแรงกดดันจากด้านหลังที่ยังมีแถวยาวเหยียดรอลายเซ็นอยู่
   
“นี่ครับ กล้อง”
   
“ขอบคุณมากค่ะ พี่”
   
ผมผงกหัวยิ้มรับคำขอบคุณแล้วกลับไปนั่งประจำที่ดังเดิม บางคนก็ถ่ายครับแต่บางคนก็ไม่ถ่าย
   
“เบื่อไหม? ถ้าเบื่อไปเดินเล่นก็ได้” พี่กานต์ถามผมขณะที่ตัวเองกำลังก้มหน้าก้มตาเซ็นหนังสือเล่มที่เท่าไหร่ไม่รู้
   
เบื่อสิ เบื่อมาก แต่จะให้ผมทิ้งคนเบื่อไว้คนเดียวมันก็ดูจะน่าสงสารเกินไปหน่อย
   
“ไม่เป็นไรครับ”
   
พี่กานต์เหลือบมามองผมเหมือนอยากจะพูดอะไรต่อแต่ยังติดพันกับหน้าที่อยู่ก็เลยต้องทำต่อไป
   
“เฮ้ย นี่พี่ทอยปะเนี่ย! พี่ทอยยยยย”
   
ผมยังไม่ทันหันหน้าไปมองว่าใครก็รู้สึกถึงแรงมหาศาลที่สามารถลากผมจากเก้าอี้ขึ้นไปกอดได้ (ผมนั่งริมสุด)
   
“โอ๊ยยย”
   
 ซึ่งวินาทีต่อมาก็คือผมโดนกระชากกลับมาที่เดิมครับ! หันมองหน้าคนทำนี่อื้อหือจากหน้าเบื่อกลายเป็นหน้าฆาตกรเลยครับ
   
“อ้ะ แฟนพี่เหรอ ขอโทษๆ ผมเผลอไปหน่อย พอดีผมเป็นน้องรหัสพี่ทอยฮะ แหะๆ”
   
“อ๋อออ ไอ้บอย” ผมลากเสียงยาวขณะที่ลูบต้นแขนตัวเอง ช้ำแน่เลยครับ ฮือ ดูหน้าพี่หมีดิ น่ากลัวมาก คือพี่แกน่าจะโกรธจนวางปากกาเลิกเซ็นปล่อยให้นักอ่านคนล่าสุดที่เป็นผู้หญิงยืนมองเหวอๆ
   
“เมื่อก่อนชอบกอดกัน?”
   
ผมกลืนน้ำลายเอือกๆ หวังว่านี่จะไม่ใช่งานเปิดตัวของผม “ผมเปล่า บอยมันชอบสกินชิบ มันกอดคนไปทั่วแบบนี้แหละ”
   
หมับ
   
เหี้ย พี่กานต์กอดผม!!
   
“จะกอดไปกอดคนอื่น อย่ามาไล่เที่ยวกอดแฟนคนอื่น”
   
เหี้ยมาก โอ้ย ผมจะบ้า บ้าตาย บ้าชิบหาย นี่มันอะไรกันวะเนี่ย!!
   
แชะ
   
น้องผู้หญิงจากที่ยืนเหวอตอนนี้ควักโทรศัพท์ขึ้นมาถ่าย ไม่เข้าใจว่าน่าถ่ายตรงไหน
   
กรี๊ดดดดด
   
แก้วหูผมแทบแตก ทุกคนดูตกใจมากซึ่งผมไม่แน่ใจว่ากรี๊ดเพราะตกใจหรืออะไร
   
“เห้ย พี่ผมขอโทษ ผมชินอ่ะ ก็พี่ทอยไม่เห็นตั้งสถานะอะไรบนเฟซ ผมก็ไม่รู้นี่น่าว่ามีแฟนแล้ว” บอยพูดด้วยสีหน้าหงอยๆ สี
หน้าเหมือนหมาที่ถูกห้ามไม่ให้เข้าบ้าน
   
“เออ งั้นก็รู้ตอนนี้ว่ามีแล้ว”
   
คือคนนี้จะป่าวประกาศอีกนานไหมครับ นี่งานหนังสือไม่ใช่งานแต่ง ไม่ต้องบอกคนอื่นก็ได้ครับว่ามีแฟนแล้ว เป็นผู้ชายด้วย คือที่ผมกลัวๆ นี่คือบางคนก็ไม่ได้ชอบเกย์ไง ผมเลยไม่ค่อยอยากเปิดเผยตัวสักเท่าไหร่
   
แต่น่าแปลกนะที่ทุกคนก็ยังยืนอยู่ในแถวเหมือนเดิม สีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรสักอย่าง
   
“เอ่อ.. ฮะๆ งั้นผมขอตัวแล้วกันครับ รู้สึกปวดฉี่นิดหน่อย” บอยหัวเราะเสียงแห้งมากสงสัยกลัวโดนหมีตะปปกลายเป็นศพกลางงานหนังสือ
   
“ผมรู้ว่าพวกคุณกำลังสงสัยอะไร”
   
พี่กานต์ยิ้มกริ่มก้มลงมาหอมแก้มผมต่อหน้าประชาชี
   
“ก็ทอยเดียวกับที่เป็นฆาตกรในเรื่องนั่นแหละครับ”
   
เดี๋ยวฆาตกร? นี่พี่กานต์เอาผมไปแต่งเป็นฆาตกรตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมขมวดคิ้ว คือผมไม่ค่อยชอบอ่านหนังสือแนวๆ ที่พี่กานต์แต่งไง มันน่ากลัว แล้วอีกอย่างพี่กานต์ก็ไม่เคยชวนผมให้อ่านมันด้วย
   
“เขาฆ่าผมแล้วเอาหัวใจผมไปด้วย”
   
ทุกคนจากหน้าเครียดๆ หลุดยิ้มซะอย่างงั้น แต่ทำไมคนที่ยิ้มเยอะที่สุดกลับเป็นผมก็ไม่รู้
   
“คนบ้าอะไรแต่งให้ตัวเองตายในเรื่อง”
   
พี่กานต์ยิ้มกริ่มไม่ตอบแต่ยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ นั่งเซ็นหนังสือต่อ
   
สงสัยผมต้องไปหามาอ่านบ้างแล้วล่ะ

===========

คิดถีงพี่กานต์กันม้ายยย  :katai5: ครบรอบสามปีเดือนหน้า  o22 รู้สึกเหมือนเพิ่งเขียนไปเอง เวลาผ่านไปไวมากๆ 5555

ปล มีตอนพิเศษอีกตอน  :mew1:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : แจกลายเซ็น 3 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: punchnaja ที่ 04-10-2018 15:17:11
เรื่องนี้น่ารัก55555+
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : แจกลายเซ็น 3 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 04-10-2018 17:22:45
ชอบมากเรื่องนี้...รักเลย  :m1: :m3:

เปิดเป็นเรื่องยาวเลย  :m5:

รอ..รอ..รอค่ะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: Foggy Time ที่ 04-10-2018 21:53:56
ตอนพิเศษ : พี่หมีป่วย
   
ช่วงนี้เป็นหน้าฝนทำให้ฝนตกเกือบทุกวันช่วงดึกๆ ซึ่งผมไม่รู้เป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็อยากกินเต้าหู้นมสดเลยจะปั่นจักรยานไปเซเว่นที่อยู่ปากซอยตอนประมาณห้าทุ่ม แต่ยังไม่ทันได้ออกแรงถีบคันจักรยานคู่ใจเลยครับ ก็โดนพี่กานต์มายืนขวางด้วยหน้าหงิกๆ ซะก่อน
   
“ไปไหน” พี่กานต์มองผมนิ่งๆ สภาพกึ่งแห้งกึ่งเปียกเพราะพี่แกเพิ่งอาบน้ำเสร็จ
   
“ไปเซเว่น ทอยอยากกินเต้าหู้นมสดเลยจะไปซื้อ ฝากอะไรไหม พี่กานต์”
   
เดี๋ยวนี้พัฒนาแล้วครับ เรียกแทนตัวเองว่าทอย จริงๆ ก็ไม่อยากเรียกหรอกครับ มันจั๊กจี้แปลกๆ แต่ทำไรไม่ได้ครับ โดนพี่หมีหน้าโหดบังคับ
   
ดูเหมือนคำตอบของผมจะไม่ค่อยเข้าหูพี่แกเท่าไหร่หน้าถึกได้หงิกยิ่งกว่าเดิม “ห้าทุ่มแล้ว ยังจะออกไปอีก”
   
ผมถึงได้หน้าหงิกบ้าง “ก็ทอยอยากกินนี่ อีกอย่างทอยก็ปั่นไปซื้อเอง ไม่ได้ใช้พี่กานต์ซะหน่อย” ก็คนมันอยากกินนี่หว่า จะให้ทำยังไง
   
“ฝนจะตกแล้ว”
   
“ไปแปปเดียวไม่ตกหรอก ขี่จักรยานผมก็ซิ่งได้นะ”  ทำไม ผมไม่ขี่มอเตอร์ไซต์? คำตอบคือผมชอบปั่นจักรยานมากกว่า
   
“พี่ไปเอง ทอยขึ้นไปนอนไป” ไม่ว่าเปล่าดึงตัวผมออกส่วนตัวเองก็ขึ้นคร่อมจักรยานเอง
   
ผมเลิกหน้าหงิกทันใดเมื่อมีคนอาสาไปแทน “งั้นซื้อขนมมาด้วยนะ พี่ มันจะหมดตู้แล้ว เออ ข้าวเช้ายังไม่มี พี่ซื้อไข่ลวกออนเซ็นมาด้วยสักฟองสองฟอง จะได้ไว้กินตอนเช้า”
   
พี่กานต์มองผมเซ็งมากแต่ก็ยอมตอบอือๆ ออๆ ในลำคอ
   
แบบนี้สิเขาถึงได้เรียกสุภาพบุรุษครับ ชายไทยควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง ฮ่าๆ
   
“จะแดกอะไรนักหนา แดกไปก็ไม่โต”
   
อื้อหือ สุภาพบุรุษกลายเป็นคนเถื่อนละครับ
   
“คือมันหมดตู้เย็นก็เพราะพี่ปะวะ พอผมกินพี่ก็แย่ง พอผมซื้อพี่ก็ห้าม จะให้ผมอดอาหารตายคาบ้านพี่รึไง”
   
อ้อ ลืมบอกไปอย่าง ผมย้ายข้าวของหนีตามผู้ชายแล้วครับ
   
หมับ
   
อีกละ พี่กานต์แม่งเอาอีกละ คือตอนนี้ผมเริ่มชินละกับอาการปุปปัปแบบนี้ของพี่แก ผมถูกพี่กานต์ดึงตัวเข้าหาพี่แกแล้วก็โดนเอ่อ.. จูบจนขาสองข้างยืนอยู่ไม่อยู่
   
“วันหลังอย่าทำหน้างอใส่พี่ ที่ไม่อยากให้ไปเพราะเดี๋ยวจะไปตากฝน”
   
พี่กานต์พูดเสียงนุ่มๆ ทุ้มๆ ข้างหูผม ลมหายใจที่กระทบคอทำผมจั๊กจี้มาก
   
“อือ”
   
เชื่องมากครับน้องทอย ว่านอนสอนง่ายมาก อีกสักพักคงขอมือได้
   
“ขึ้นห้องไปก่อนไป เดี๋ยวพี่มา”
   
“อือ”
   
เหี้ย นี่จูบหรือโดนมอม ทำไมผมถึงได้เบลอขนาดนี้ รู้ตัวอีกทีมานอนตากแอร์กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนเตียงละ
   
ครืนนนนนนนน
   
อื้อหือ พี่กานต์ของผมคงไม่รอดแน่ๆ
   
ผมลงมานั่งรอข้างล่างจนเกือบหลับ พี่กานต์ก็กลับมาครับ สภาพเหมือนไปเล่นสงกรานต์แล้วเขาไม่ให้กลับครับ ตัวเปียกปอน เสื้อผ้าแนบโครงร่างเผยให้เห็นมัดกล้ามแน่นๆ คุณ ต้องมาดูมันแน่นจริง ผมไม่ได้บรรยายเกินจริงเลยจริงๆ พี่กานต์เป็นคนร่างใหญ่และมีงานอดิเรกคือการออกกำลังกายทั้งนอกบ้านในบ้านแล้วก็บนเตียง(?) ครับ
   
“เอาไป”
   
พี่กานต์ยื่นถุงให้ผมแล้วสางผมเปียกๆ ของตัวเองอย่างหงุดหงิด
   
“ขอบคุณครับ พี่กานต์กินกับทอยไหม ซื้อมาตั้งเยอะ”
   
แต่ผมหาได้สนใจอารมณ์พี่แกไม่ ผมสนใจอาหารมากกว่าครับ พี่กานต์ซื้อมาเยอะมากเลยซึ่งก็น่าจะประชดผมนั่นแหละครับ
   
“กินเถอะ จะได้อ้วนกว่านี้” พี่กานต์ยีหัวผมจนยุ่งแล้วก็ก้าวอาดๆ ไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำอีกรอบ
   
เอาจริงๆ ผมก็แอบรู้สึกผิดนะเนี่ย

   

เหมือนฟ้ามีตา วันต่อมาพี่กานต์เป็นไข้ครับ นอนแอ่กอยู่บนเตียงตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เกือบเที่ยงยังไม่ตื่นเลยครับ ผมเลยทำหน้าที่เป็นแฟนที่ดีด้วยการ ปรนนิบัติรับใช้พี่กานต์ครับ ตั้งแต่เช็ดตัว ตกใจงู วัดไข้ หาผ้าบิดหมาดๆ มาแปะหัว ปรับแอร์ กระชับผ้าห่ม หรืออะไรก็ตาม ที่ควรจะปฏิบัติกับคนป่วยอ่ะครับ
   
ผมนั่งเอนหลังพิงเก้าอี้มองพี่กานต์ คือผมก็ไม่ว่างหรอกแต่ก็เป็นห่วงพี่แกอ่ะ ถึงผมจะทำสิ่งที่ควรไปแล้วก็เถอะ ว่าแต่เหมือนมีบางอย่างที่ผมลืมไป อืมม ขอผมนึกแปปนึงครับ
   
... ให้อาหารปลานรกครับ! ไม่สิ ไม่ นรกแค่แซนด์วิชแฮม ส่วนปิรันย่าไม่นรกครับ อย่าเพิ่งสงสัยว่าปิรันย่าอะไร ปิรันย่าคือปลาทองสีขาวน่ารักมากตัวเท่าฝ่ามือซึ่งผมก็เพิ่งไปสอยมาเลี้ยงครับ เอามาเลี้ยงคู่กับพี่กานต์
   
ทำไมผมถึงตั้งชื่อว่าปิรันย่า? ก็เพราะอยากให้มันแดกอีแซนด์วิชแฮมสักวันครับ คือหมั่นไส้มันอ่ะ พี่กานต์รักมันมากแต่มันเกลียดผมมาก เวลาผมเดินไปตู้ปลาในระยะไม่เกินหนึ่งเมตร อีแซนด์วิชแฮมจะแสดงอิทธิฤทธิ์ของมันด้วยการตีน้ำแรงมากจนกระเด็กใส่ผมจนตัวเปียกและคาว
   
“วันนี้แหละ กูจะแค้นมึง” ผมพูดใส่แซนด์วิชแฮมที่ใช้ตาเหลือกๆ มองผม มันว่ายส่ายไปส่ายมาเหมือนหงุดหงิดที่ผมเป็นคนให้อาหารไม่ใช่พ่อมัน “พ่อมึงหลับตายอยู่บนเตียง ตอนนี้ไม่มีใครสามารถช่วยมึงได้ ฮ่าๆๆ”
   
ผมหยิบที่ช้อนปลามาครับ เตรียมจะใช้มันไล่จับแซนด์วิชแฮมในตู้ปลา คือต้องเข้าใจว่ามันเป็นปลา ผมนึกวิธีแก้แค้นมันไม่ค่อยออก ที่นึกออกก็คือเอามาปิ้งแดกแม่งเลย จบ ซึ่งถ้าทำจริง ศพผมไม่สวยแน่นอน
   
“อุ้ย ปิรันย่า เข้ากระต็อบสิลูก จะออกมาทำไม” ผมพูดนิ่มๆ สีหน้าอ่อนโยนเมื่อปิรันย่าโผล่หน้ามาหาพ่อมันบ้างซึ่งก็คือผม มันมีนิสัยที่ผมประทับใจคือรักกระต็อบสีชมพูที่ผมให้ มันชอบไปว่ายเล่นในนั้น แค่นี้ผมก็ปลาบปลื้มละ
   
จ๋อม
   
เสียงอะไรให้ทาย เสียงอีแซนด์วิชแฮมมาตีน้ำใส่ผมไงครับ!! ผมผวาหลบ นี่ขนาดอยู่ในตู้ปลามึงยังขนาดนี้ถ้าเกิดไปอยู่ในแม่น้ำมึงไม่ไล่แดกจระเข้เลยเหรอ
   
ไม่เป็นไร วันนี้พ่อมึงหลับตาย วันนี้แหละวันของทอย
   
ฟอด
   
ผมสะดุ้งเฮือกเมื่ออยู่ดีๆ ถูกหอมแก้มดังฟอด ที่ช้อนปลาในมือถูกแย่งชิงไปอย่างรวดเร็ว
   
“จะให้อาหารปลาทำไมหยิบที่ช้อนปลา”
   
พ่อมึงนี่เหมือนมีญาณทิพย์ พอลูกมีเรื่องพ่อมาทันที แล้วดูอีแซนด์วิชแฮมตอนนี้ ว่ายดุ๊กดิ๊กๆ น่ารักหยอกล้อกับปิรันย่า ปลาตอแหล ฮือๆ นี่มันปลาสตอเบอร์รี่
   
“..เมื่อกี้เหมือนเห็นแมลงตกลงไป ทอยก็เลยจะตัก”
   
“โกหก”
   
ลมหายใจที่อุ่นร้อนผิดปกติจากพิษไข้พ่นรดต้นคอผม มือหนาๆ กอดผมจนร่างผมฝังลึกเข้าไปในร่างคนป่วย
   
“ทอยแกล้งแซนด์วิชแฮมพี่อีกแล้ว” มืออุ่นที่ค่อนไปทางร้อนสอดมือเข้ามาในเสื้อยืดของผมและลูบหน้าท้องผมไปมา ผมพยายามดึงออกแต่ก็ไม่ได้ผล แรงมนุษย์ไม่สามารถเอาชนะแรงหมีได้
   
“ก็ปลาพี่มันกวนตีนผมอ่ะ มีที่ไหนมาตีน้ำใส่ผมทุกรอบที่เห็นหน้า”
   
“ก็อย่าไปใกล้มัน” พี่กานต์เหมือนตอบส่งๆ ไม่ได้ใส่ใจนัก ดูจะสนใจกับการสำรวจหาพลังงานซิกแพ็กจากหน้าท้องของผม “ที่กินไปหายไปไหนหมด หือ?”
   
ซึ่งยิ่งลูบผมก็รู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ
   
“หิวเปล่า พี่กานต์ เดี๋ยวผมทำโจ๊กให้กิน”
   
นาทีนี้อันตรายมากครับ คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่าหมีโหดหื่นด้านหลังผมนี้จะหื่นตอนไหน ทางที่ดีที่สุดสำหรับผมคือพยายามเบี่ยงเบนความสนใจพี่แกขณะที่แกะมือออกจากตัว
   
“อยากกินทอย”
   
นั่นไง กูว่าละ คำนี้ต้องมา
   
“ไม่ได้พี่ ไม่สบาย เดี๋ยวผมติดหวัดพี่”  เอาจริงๆ แค่หวัดผมไม่กลัวหรอก เบๆ มาก
   
“อย่าแกล้งแซนด์วิชแฮมสิ”
   
น่าเสียดายที่พี่กานต์แม่งไม่ฟังผมเลย ดูเหมือนพอพี่แกป่วยแล้วจะง้องแง้งมาก พูดไม่ค่อยรู้เรื่อง
   
“ไม่ต้องอิจฉาแซนด์วิชแฮม ยังไงพี่ก็รักทอยมากกว่าอยู่แล้ว” พูดไม่พอซุกหน้ากับคอผมจนรู้สึกถึงหนวดสากๆ ที่ทิ่มคอ
   
ผมเขินว่ะ
   
“ปะๆ พี่กานต์กินโจ๊ก”
   
“..อืม”
   
อืม ก็ปล่อยผมสิครับ จะกอดไว้ทำไมเนี่ย
   
ฟอด
   
“เลียผมด้วยเลยไหมครับ พี่กานต์ ถ้าจะกอดจะหอมผมขนาดนี้”
   
คือหอมแก้มผมอีกแล้วอ่ะ ข้างเดิมด้วย
   
“หึ ไม่แกล้งละๆ ไปทำโจ๊กไป”
   
ในที่สุดพี่หมีก็ยอมปล่อยผมให้เป็นอิสระ ผมรีบหนีลงไปห้องครัวทันทีเผื่อพี่แกจะเปลี่ยนใจแกล้งผมต่อด้วยการกินผมจริงๆ
   
สักพักใหญ่ๆ ผมก็กลับมาในห้องนอนพร้อมโจ๊กสองถ้วยใส่ไข่ออนเซ็นหน้าตาน่ารับประทาน ถ้าเชฟภัตตาคารมาเห็นคงต้องกราบกรานให้ผมไปเป็นเชฟด้วย
   
เห็นไหมแค่บรรยายก็น่ากินแล้ว รอดูหน้าพี่กานต์ตอนกินได้เลย รับแรงแสงพุ่งออกจากปากเหมือนในการ์ตูนแน่นอน
   
“อ้าว” ผมเผลอร้องออกมาเบาๆ เมื่อหมีกลับไปนอนจำศีลบนเตียงอย่างสงบ หรือว่าพี่กานต์เป็นไข้สูง? ผมเริ่มรู้สึกเป็นห่วงพี่แกเลยเอาหลังมืออังหน้าผาก ก็พบว่ามันยังอุ่นๆ ร้อนๆ เหมือนเดิม เสมือนผมไม่ได้ทำหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้พี่กานต์เลย
   
ไม่ ผมทำแล้ว สาบานได้ ดูกางเกงบอลพี่กานต์ได้เลย อันนี้ผมเปลี่ยนให้เพราะอันเก่าผมเผลอทำน้ำที่จะเอามาชุบผ้าหกใส่เต็มๆ
   
ผมลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง เอื้อมมือไปเขย่าร่างพี่กานต์เตรียมป้อนโจ๊ก
   
“..อืม ทอยกินไปก่อน.. เดี๋ยวพี่ตื่นมากินเอง” พี่กานต์ตอบผมงัวเงียแล้วพลิกตัวหันหลังให้ผม
   
ผมหน้าบูด อะไรวะ คนอุตสาห์จะป้อน ผมไม่ย้อท้อเขย่าตัวพี่กานต์อีก
   
“ฮื่อออ”
   
เหี้ย หมีคำราม! ผมชะงักกึกเลยครับ เสียงพี่กานต์น่ากลัวมาก
   
“แต่พี่ยังไม่กินอะไรเลยนะ นี่จะเที่ยงแล้วด้วย” ผมตอบเสียงหงอยๆ เอาจริงๆ ก็หงอยแหละ
   
พี่กานต์นิ่งไปสักพักก็ยอมยันตัวขึ้นมานั่งเกาหัวแกรกๆ หาวหวอด “... ก็ได้วะ” ทำท่าจะหยิบโจ๊กที่วางบนโต๊ะไปกินเองแต่ช้ากว่าผมครับ ผมแย่งถ้วยมาได้ทัน
   
พี่หมีหน้างอยิ่งกว่าเดิมมองผมไม่พูดอะไร
   
“พี่ไม่สบาย เดี๋ยวผมป้อนพี่เอง”
   
สีหน้าพี่กานต์ดีขึ้นเยอะ มองผมจนผมรู้สึกเขินแปลกๆ “ไม่เป็นไร พี่ไม่ได้เป็นง่อยซะหน่อย ทอย”
   
เจอคำว่าง่อยหายเขินเลย จริงๆ แหม่ นี่หมีหรืออะไรครับ หาความโรแมนติกนุ่มนวลไม่เจอเลยจริงๆ
   
“ฟู่ๆ อ้าปากครับ อ้ำๆ” เอาดิ ผมตักแล้วเป่าแล้ว เหลือแต่งับกินแล้วครับ
   
“วันนี้จะหมดถ้วยไหม” พี่กานต์บ่นแต่ก็ยอมงับกิน
   
“หมดดิ ผมทำอร่อย”
   
พี่กานต์ไม่ชม ผมชมตัวเองก็ได้
   
“แค่เทซองใส่หม้อแล้วก็ต้มเนี่ยนะ”
   
“งั้นก็กินเองไปแล้วกันครับ ผมไม่ป้อนละ” พูดเหมือนมานั่งต้มข้างๆ ผมเลย เบื่อ ก็จริงแหละ ผมเทซองต้ม มันก็อร่อยเหมือนกันนี่
   
“ป้อนหน่อย”  พี่กานต์ยื่นหน้ามาหาผมช้อนตามองซึ่งก็ไม่ได้น่ารักตรงไหนเลย แต่ไม่รู้ทำไมมือผมมันไม่รักดีตักโจ๊กขึ้นมาเป่าแล้วไปป้อนพี่แกวะ
   
นังทอย แกมันใจง่าย
   
“ไว้พี่หายป่วย จะพาไปซื้อตำราอาหารแล้วกัน”
   
หมายความว่าไงวะ ผมถลึงตามองพี่กานต์
   
“ทอยจะได้ทำอาหารได้หลายอย่างไง”
   
จะหาผมโม้ก็ได้ แต่ผมว่าผมรู้ว่ะว่าพี่แกคิดอะไรอยู่ พี่กานต์แม่งไม่อยากเมียที่ทำได้แต่โจ๊กก็บอก “พี่กานต์ มาม่าผมก็ทำเป็นนะ พี่อย่ามาดูถูกผม”
   
ทำไมพูดไปพูดมาแล้วรู้สึกอนาถตัวเองวะ เออยอมรับก็ได้ว่า ผมทำอาหารไม่ค่อยเก่ง เวลาจะช่วยแม่ทำก็โดนแม่ไล่ออกจากครัว ชีวิตรันทดมาก
   
“..อืม โจ๊กนี่ก็อร่อยดี”
   
หน้าตอนพูดรอบนี้จริงใจครับ ให้อภัยได้ ผมเลยรู้สึกดีขึ้นมาบ้างนิดหน่อย พี่กานต์เหมือนจะรู้ตัวว่าพูดไม่เข้าหูผมก็เลยงับกินเอาๆ อย่างว่าง่ายจนหมดถ้วย
   
“พี่นอนได้ยัง” พี่กานต์ถามทั้งๆ ที่หาวหวอด ตาจะปิด
   
“เช็ดตัวก่อนไหม พี่ยังตัวร้อนอยู่เลย”
   
ทำไมคุยไปคุยมาเหมือนผมเป็นนางพยาบาลเลยวะ ผมถามพี่กานต์ซื่อๆ ซึ่งก็ได้รับคำตอบเป็นหน้ายิ้มเจ้าเล่ห์ของพี่กานต์
   
“เอาสิ”
   
“ผมเปลี่ยนใจละ พี่นอนก่อนก็ได้ เดี๋ยวผมมาเช็ดตัวให้ทีหลัง”
   
เช็ดๆ ไปงูตื่นทำไงครับ ดูหน้าหมีด้วย
   
พี่กานต์ไหวไหล่ยิ้มๆ เหมือนรู้อยู่แล้วว่าผมจะตอบแบบนี้ เสร็จแล้วก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง สลบไสลไปทันที
   
ส่วนผมน่ะเหรอ ก็ต้องยกเอาถ้วยไปล้างแล้วก็กลับมาดูแลคนป่วยสิครับ เฮ้อ รู้งี้ผมออกไปซื้อเองดีกว่า ยังไงเป็นคนป่วยก็สบายกว่าการดูแลหมีอยู่แล้ว
   
จริงไหมครับ?

===========

ตอนพิเศษหมดสต็อกแล้ว  :katai5:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: puiiz ที่ 04-10-2018 22:13:29
 :-[ :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: unicorncolour ที่ 06-10-2018 14:30:58
แหมนึกว่าจะได้ไล่จับงูของหมี :hao6:

ไม่ค่อยจะหื่นเลย  :laugh:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: ชอบอ่าน ที่ 14-10-2018 14:43:12
ปัจจุบันทอยก็ยังคงตีกันกับแซนวิชแฮมอยู่ พี่หมีน่ากอดจังเลยยย หมีพูห์กับพิกเล็ต น่ารักๆๆๆ
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: ืniyataan ที่ 14-10-2018 16:53:22
น่ารัก..กกกกกก   :L2:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: Petit.K ที่ 15-10-2018 18:12:57
 :mew1: :hao7:
น่ารักเหมือนเดิมเลย ขอบคุณนะคะ
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: Mayana ที่ 16-10-2018 18:53:15
บันเทิงมากกกก บอกเลย..อ่านไปหัวเราะไปทุกตอน  :m20:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: tasteurr ที่ 16-10-2018 20:18:49
งูย น่ารัก
น่ารักทั้งครอบครัวเลย
พี่กานต์ น้องทอย ปิรันย่า แซนวิชแฮม
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: tn ที่ 18-10-2018 11:40:25
ความครอบครัว​สุขสันต์​นี่มันอะไร เขินนนน  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: LadyYuly ที่ 21-07-2019 02:08:40
ชอบเรื่องนี้ม๊ากกกกกก  มาอ่านซ้ำแล้วยิ้มไปมา น่ารัก แง๊ -//-
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: NormalVee ที่ 23-07-2019 00:06:06
น่ารักมาก ๆ ค่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: fullfinale ที่ 23-07-2019 07:24:56
น่ารัก อ่านแล้วยิ้มตลอดเรื่องเลย
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: Ginny Jinny ที่ 23-07-2019 20:07:38
น่ารักๆ :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: lalilali ที่ 03-08-2019 19:50:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: didididia ที่ 05-08-2019 11:13:42
เนื้อเรื่องน่ารักมากเลยค่ะ :pig4: :3123: :L2:
หัวข้อ: Re: [ เรื่องสั้น ] คู่มือรักฉบับปลาทอง ตอนพิเศษ : เมื่อพี่หมีป่วย 4 ต.ค 61
เริ่มหัวข้อโดย: StarPasO ที่ 02-04-2020 17:45:11
โอ้ยน่ารักมาก เป็นแพ้พี่กานต์ที่สุด ฮื้อ ยัยหมีนุ่มนิ่ม :-[