ตอนที่ ๘
“บีนตื่นๆ ” หือ บอยมาแล้วหรอ
“บอยมาแล้วหรือกี้” ผมถามไปแบบเบลอๆเพราะกำลังหลับสบายครับ
“ยังไม่มาหรอก แต่ยามเดินมาบอกว่าห้างจะปิดแล้วนะ” ผมหลับไปเกือบชั่วโมงแล้วหรือนี่
“อ้าวจริง ถ้าอย่างนั้นไปรออยู่ข้างหน้าก็ได้” แล้วบอยมันจะหาเจอไหมนะ
เราออกมานั่งรอที่ม้านั่งตรงลานหน้าห้าง
“เป็นชั่วโมงแล้วนะกี้” ผมเริ่มเซ็งครับ ห้างปิดแล้ว คนก็บางตา
“คงอีกสักครึ่งชั่วโมง ตอนกลางคืนรถไม่ติด ใจเย็นก่อนบีน” กี้ใจเย็นหรือผมใจร้อน
“ก็คือเรากลัวคนตามมาไง อีกอย่างตอนนี้โคตรเหนื่อยเลย อยากอาบน้ำ”
“เออจริงด้วย”
“แต่ถ้าคิดอีกแง่ บีนว่าที่นั่นคงเละแล้วแน่ๆ ได้ปิดกิจการก็คราวนี้แหละ ดูมีปัญหากันมาก”
ออกมานั่งรอเกือบครึ่งชั่วโมงแล้วก็ยังไม่มาครับ
“เออกี้ แกจะเอาอย่างไรกับพวกพี่แทนหรือ”
“หมายความว่าไง” กี้ถามมาใสๆ
“ก็คือ กี้จะจัดการ ไปรุมกระทืบดีไหมหรือไปแจ้งความจับ”
พูดแล้วก็เจ็บใจ ทั้งมือถือ ทั้งกระเป๋านักเรียน ไหนจะเอาผมไปขายอีก มันน่านัก
“ปล่อยไปเถอะบีน กี้ไม่อยากเห็นหน้าเขาแล้ว พอเถอะ”
หรือผมจะเอาเรื่องนี้ไปบอกคุณบิ๊กดี แต่ทำแบบกี้ก็ดีเหมือนกัน ดูไม่วุ่นวาย
“ดีแล้ว ถึงอย่างไรกี้ก็มีเพื่อนอยู่ข้างๆนะ รู้ใช่ไหมว่าโอ๊ตมันชอบกี้”
“รู้สิ แต่ตอนนั้นเรามีพี่แทนอยู่ไง” อ้าวแสดงว่าตอนนี้ไม่มีพี่แทนแล้ว ก็จะไปชอบโอ๊ตตอบสิท่า
“แสดงว่าต่อไปอาจจะให้โอกาสโอ๊ตหรือ”
“จะไปให้ได้อย่างไร โอ๊ตตัดใจจากเราแล้ว ถึงยังไม่ตัดใจโอ๊ตก็มีคนคุยด้วยอยู่ดี เด็กโรงเรียน......... ไงล่ะ สวยด้วยนะ”
ฉิบหายแล้ว ทำไมผมลืมเรื่องที่โอ๊ตเจ้าชู้ คุยกับคนอื่นไปเรื่อยได้ แล้วเรื่องเด็กผู้หญิงโรงเรียนนั้น ผมก็ตกข่าวสินะ
“แต่โอ๊ตไม่ได้อะไรมากหรอก แต่ผู้หญิงเขาตื้อ” กี้บ่นให้ฟังต่อ
“ถ้าตื้อไม่เก่งก็คงตื้อได้ไม่นานหรอกกี้”
แปะ แปะ
ยุงกัดครับ
ผมมองไปตรงพุ่มไม้ แถวลานหน้าห้าง เหมือนมีคนมาด้อมๆ มองๆ
“กี้ เหมือนคนเดินอยู่ตรงนั้น เหมือนมองมาที่เราเลย”
“เออใช่จริงด้วย บอยหรือเปล่า”
มันจะใช่ไหมนี่ ดูทรงเหมือนไม่ใช่เด็กมัธยม
“มันเดินไปอีกทางแล้ว” ตอนนี้ระแวงไปหมดแล้วครับ คงไม่ใช่บอย โอย เมื่อไหร่จะมา ง่วงแล้วนะ
“แล้วกี้เคยเห็นรถบอยหรือเปล่า”
“ไม่เลย เราไม่สนิทกับบอย บอยพึ่งย้ายมาตอน ม.๔ เทอม ๒ เอง บอยจะสนิทกับสุวิทย์ที่เราไปนั่งแทน และก็พวกกลุ่มหลังห้องมากกว่า ”
“อ๋อ” ที่แท้ก็เด็กพึ่งย้ายมาได้เทอมเดียว
“แต่บอยมันชอบบีนนะ เราดูออก”
“แหมจะไม่ให้คนอื่นดูออกได้อย่างไรกี้ ก็เล่นแสดงออกซะขนาดนั้น”
ฮ่าๆๆ ขณะที่เรากำลังพูดคุยกันเพลินอยู่นั้น
เฮ้ย บอย
เด็กบอยมาแล้ว วิ่งหน้าตื่นมาเชียว
“อยู่ตรงนี้ก็ไม่บอก” นี่คือคำทักทาย แต่ดูหน้ามันแล้วดูเป็นห่วงพวกผมอยู่นะ
“ก็บอกแล้วไงว่า จะรออยู่หน้าห้าง”
“ก็เล่นซะนั่งหลบมุม เมื่อกี้ก็เดินมาดูแล้วรอบหนึ่งก็ไม่เจอ”
อ้าว สรุปคนที่เดินมาด้อมๆมองๆนี่คือ เด็กบอยหรอกหรอ แต่วันนี้ดูมันแต่งตัวดูเป็นผู้ใหญ่กว่าวันที่ไปซื้อของกับผมเสียอีก
“เราว่ากลับกันเถอะ เดี๋ยวจะดึกไปมากกว่านี้” กี้แทรกขึ้นมาก
“ป่ะๆ ไปกัน” บอยบอกก่อนนำทางพวกเราไป
แต่เดี๋ยวนะ
ทำไมเด็กบอยต้องจับมือผมเดินไปด้วย
ผมหันหน้าไปมองกี้ กี้ก็ยิ้มให้ผมเล็กๆ
ยอมให้เขาจับมือแล้วกัน เด็กมันอุตส่าห์มารับ
......................................................................
“บ้านกี้อยู่แถวไหนบอกบอยด้วยนะ” บอยเริ่มถามกี้เมื่อเราใกล้จะถึงกรุงเทพ เวลาตอนนี้เที่ยงคืนกว่าแล้วครับรถไม่ค่อยเยอะ
“แล้วป้าอยู่บ้านไหม กี้มีกุญแจหรอ” จำได้ว่าวันก่อนๆ กี้บอกว่าป้าไปต่างจังหวัด
“ป้าไม่อยู่ แต่มีกุญแจสำรองซ่อนไว้ไม่ต้องห่วง”
เด็กบอยมาส่งกี้ถึงหน้าบ้านกี้ ซึ่งกว่าจะเข้ามาถึงก็ดูลึกเหมือนกัน อย่างว่าช่วงก่อนกี้ทำไมไปนอนห้องพี่แทน ห้องพี่แทนดูจะอยู่ใกล้โรงเรียนกว่า บ้านกี้ก็ดูดีนะ แต่ที่รู้มาคือก่อนหน้ามีปัญหาเรื่องเงิน แต่กี้ก็บอกผมว่าช่วงนี้ดีขึ้นแล้ว อาทิตย์หน้ากี้ก็บอกว่าจะไปลาออกจากงานพาร์ทไทม์แล้ว
“ไม่มานั่งเบาะหน้าหรอบีน”
“ไม่หรอก ง่วง ขอนอนก่อนนะ”
“เฮ้ย อย่านอนมานั่งบอกทางบอยก่อนสิ หรือว่าบีนอยากไปนอนห้องบอยจ้ะ” มันหันมายิ้มกรุ้มกริ่ม ไอ้เด็กนี่
“บ้า นั่งก็นั่ง แกก็ขับไป”
ผมปีนขึ้นไปนั่งเบาหน้า แคว๊ก
อุ้ย ตาย
กางเกงเป้าแตก กางเกงนี่มันฟิตไป
“ฮ่าๆ เป้าแตก ไหนดูซิ” อีบ้าบอย มันทำท่าจะเอามือจะจับดู แต่ผมตีมือมันก่อน
“บ้า มีอะไรไหม เอามาปิดก่อน” อายครับ ผมเอามือปิดเป้าไว้
“อ่ะ เสื้อคลุม ” บอยยื่นเสื้อคลุมมาให้ ผมเอาเสื้อคลุมวางปิดไว้ที่ตักแล้วนั่งบอกทางบอยไป
...............................................................................................
“ขอบคุณมากนะบอย ที่จริงจอดข้างหน้าก็ได้นะ ไม่เห็นต้องเข้ามาในโรงรถเลย” บอกให้จอดข้างหน้าก็ไม่ฟังกันครับ
“บอยง่วงอ่ะบีน” นั่นไง อยากขึ้นไปนอนห้องผมสิท่า
“อย่างนั้นก็เลื่อนกระจกลง แล้วก็งีบสักหน่อยก็ได้ แล้วค่อยไป หรือจะแวะไปนอนปั๊มก็ได้” ผมก็ทำเป็นไม่รู้เรื่อง
“โถ่บีน ไม่สงสารบอยหรอ ทั้งขับไปขับกลับ เหนื่อยแย่”
“จะขึ้นไปให้ได้ใช่ไหม” หึ ผมหงุดหงิด
“จ้ะ” บอยตอบแค่นั้นแล้วยิ้มหวานให้
“ อย่างนั้นก็ดับเครื่อง ตามมา” ดีนะเก็บห้องสะอาดแล้ว
.......................................................................
“ไปอาบน้ำก่อนเลยนะบอย”
เราเข้ามาในห้อง ผมก็ต้องบอกให้บอยเข้าห้องน้ำไปก่อนครับ เพราะว่าผมจะไปเก็บกระเป๋าอีกใบซึ่งใส่กระเป๋าตังค์กับมือถือตัวจริง กะว่าจะเอาไปซ่อนไว้ในตู้ก่อน
“ไม่หรอก บอยอาบมาแล้ว ขอนอนเลยแล้วกัน” ไอ้นี่ ไม่ได้ กระเป๋าอยู่ในห้องนอน ผมต้องเปิดดูมือถือก่อน ว่าใครโทรมาบ้าง ถ้ามากดต่อหน้าบอยก็ขี้เกียจโกหก เพราะผมบอกบอยไปว่ามือถือผมโดนไอ้พวกพี่แทนเอาไป
“ก็จะไม่ล้างหน้า แปรงฟันบ้างเลยหรือ ตามมา ” ผมเดินเข้าห้องนอนแล้วไปหยิบผ้าเช็ดตัว ผืนที่ยังไม่ได้ใช้เอามาให้บอย
“แปรงสีฟัน อันที่ยังไม่ใช้อยู่ในตู้ข้างกับอ่างล้างหน้านะ ไปรีบไป”
“ครับๆ”
พู่ ผมถอนหายใจออกทั้งทางจมูกทางปาก แล้วรีบไปหยิบกระเป๋าที่วางไว้โต๊ะทำงาน เปิดออกแล้วรีบหยิบมือถือขึ้นมาครับ ตายแล้วไม่ได้รับตั้ง ๓๐ สาย ๑๕ สายแรกของคุณบิ๊ก พวกป่าน ๑๐ อันหลัง แม่ผมอีก ๕ สาย เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ค่อยโทรไปเคลียร์แล้วกัน ผมรีบเอามือถือใส่กระเป๋า แล้วยัดเข้าไปในตู้เสื้อผ้า ในชั้นที่สูงและลึกที่สุด
“เสร็จแล้วจ้ะบีน ทำอะไรอยู่” เวรแล้ว เด็กบอยทำไมมันออกมาทางประตูห้องน้ำที่เชื่อมกับห้องแต่งตัว
“ตกใจหมด มาดูชุดนอน จะใส่เสื้อไหม” ผมมองกลับไปมันใส่แต่บ๊อกเซอร์ออกมาครับ หืม หุ่นมันซ่อนรูปเชียว ดูแน่น กว่าน้องโอ๊ตมาก
“ไม่เอาหรอก ถึงเอามาใส่ก็คงใส่ไม่ได้” แหม เด็กนี่ว่าผมตัวเล็กใช่ไหม
“เอาไปใส่เถอะ ตัวใหญ่บีนก็มี เอ้านี่”
ผมหยิบเสื้อตัวที่คิดว่าใหญ่ที่สุดให้มันใส่ บอยมันสวมก็พอดีเป๊ะ ไม่แน่นมาก ใส่แล้วค่อยดูสบายตาหน่อย ดีกว่าใส่กางเกงตัวเดียว เห็นแล้วรู้สึกกลัว ขนลุก ผมคิดมากไปหรือเปล่านี่
ผมอาบน้ำเสร็จ ออกมาใส่เสื้อผ้า แล้วเดินออกไปดื่มนม ก่อนนอนครับ รู้สึกหิว เมื่อตอนเย็นไม่ได้กินอะไรเลย
ออกมากก็เห็นบอย มันยังมานั่งดูทีวีอยู่เลย ไหนบอกว่าง่วงโกหกกันแน่ๆ
“ไหนบอกว่าง่วง รีบไปนอนเลย”
“แฮ่ๆ พอดีบอยล้างหน้าแล้วมันรู้สึกสดชื่นขึ้นมาเลยล่ะ” ไอ้เด็กบอยนี่มัน
“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวบีนไปนอนก่อนนะ จะนอนก็ปิดทีวีด้วย นอนก็ระวังตกโซฟาล่ะ” ผมกำลังจะเดินเข้าห้องนอน
“เฮ้ย บอยยังไม่ได้บอกเลยว่าจะนอนโฟซา” สมน้ำหน้า แต่ไม่ทันครับ มันรีบกดรีโมทปิดทีวีแล้ววิ่งแซงหน้า ผมเข้าห้องนอนไป ทำไมดูมันดื้อขึ้น
“แล้วนอนกลางเตียงอย่างนั้นใครมันจะไปนอนได้ ขยับไป” ผมว่าบอยที่มันนอนกินพื้นที่ พร้อมใช้มือดัน
“ก็มันมีหมอนใบเดียวนี่นา”
“เออเดี๋ยวไปเอาใบอื่นมาให้”
ผมบอกพร้อมไปเอาหมอนอีกใบมาให้ “เอานี่ แล้วก็ขยับไป เอาหมอนข้างบีนมาด้วย”
ผมล้มตัวนอนลง แล้วเอาขาคาบหมอนข้างที่บอยส่งให้ไว้
“ชอบกอดหมอนข้างหรอ”
“ใช่ ไม่กอดนอนไม่หลับ แล้วบอยล่ะ เอาไปกอดนี่ชอบกอดหรอ” ผมถามมันตอบ
“ไม่หรอก แต่ชอบกอดคนที่ชอบกอดหมอนข้างอีกทีหนึ่ง” เดี๋ยวนี้มีมุขมาจีบ มาแซะตลอด ผมต้องตั้งสติไว้ เอาล่ะ
“ บอย” ผมหันหน้าเข้าหาบอย เรียกชื่อบอยแบบจริงจัง พร้อมเอามือไปลูบหน้าบอยมัน
“ครับ” บอยมันขานตอบแบบมีความหวัง
“ไปปิดไฟเถอะ ง่วงแล้ว” ฮ่าๆ
“โถ่บีน นึกว่าจะบอกอะไร” มันว่าแบบเซ็ง
“ลุกไปปิดเร็ว ง่วง”
มันลุกไปปิดไฟแล้วล้มตัวนอนลง พร้อมกับขยับมาใกล้ๆผมครับ
“นี่ เตียงก็กว้าง จะเบียดมาทำไม” ผ้าห่มก็ผืนเดียวกัน แบบนี้มันเสี่ยงมากครับ
“ก็บอยอยากนอนใกล้บีนไง”
“ขยับออกไปอีกสิ” ผมพลิกตัวไปทางบอยอีกครั้ง ขณะที่ขาก็พาดกอดหมอนข้างไว้อยู่ พร้อมกับเอามือดันอกมันออกไป นอนใกล้กันไม่ได้ ผมหวงตัว ผมนี่ก็คิดอย่างกับตัวเองบริสุทธ์ ฮ่าๆ
“นี่ ขยับไปอีกนิด เออ เท่านี้แหละ” ว่าแต่เอามือดันอกมันออกไป ทำไมอกมันแน่นดีจังเลย ไม่เอาๆ ไม่คิดๆ
“ครับๆ นอนแล้วๆ” บอยพูดเชิงยอมผม แล้วเราก็หลับไปด้วยความเหนื่อย
...............................................................................................
ติ๊ง ติ๊ง ติ๊ง
อ้าว ใครมากดกริ่ง ผมพึ่งนอนไปได้นิดเดียวเอง
ส่วนเด็กบอยนี่นอนหลับไม่รู้เรื่องไปแล้วครับ ผมเดินออกจากห้องนอน เพื่อไปดูตรงหน้าจอข้างประตู จะเป็นกล้องติดอยู่แล้วมีจอให้ดู
อ้าวก็ไม่มีใครนี่นา
ติ๊ง ติ๊ง
อ้าว นี่ตกลงใคร ผมนึกในใจขณะที่กำลังจะเดินไปห้องนอน ก็ต้องเดินวกกลับไปดูอีก ดูในกล้องก็ไม่มีนะ
แกร๊ก ผมลองเปิดประตูออกไปดู หันซ้ายก็ไม่มี หันขวา เฮ้ย
“อ้น” ผมทักไป อ้นที่ทำงานอยู่ที่ที่ผมหนีมา ตกใจมันเข้าคอนโดมาได้อย่างไร
“บีน ป่ะ นายต้องไปกับเรา เฮียบอกให้มาตาม กี้รออยู่ข้างล่างแล้ว” อ้นพูดแบบไร้อารมณ์ แต่ดูเครียด
“บ้า ไม่ไป เราไปส่งกี้ที่บ้านแล้วจะออกมาได้ยังไง”
“ก็กูตามไปจับไงล่ะ มากับกูซะดีๆ เฮียรออยู่ ” อ้าวอยู่ดีๆ ขึ้น กู
“เฮียอะไรของนาย เราไม่รู้” ผมตอบไปมั่วๆ ไม่ไปแล้วครับ ถ้ามันจับกี้ไปจริงๆ ก็ค่อยไปช่วย จังหวะที่ผมกำลังจะปิดประตู อ้นกลับดึงไว้ ทำไมมันแรงเยอะอย่างนี้นะ
“อ้นปล่อยสิ ดึงไว้ทำไมเล่า” ผมว่าแล้วมันก็ไม่ปล่อย
“มึงต้องไปกับกูสิวะ อย่าดื้อ” วันว่าพร้อมเอามือมันมาดึงแขนผม
“ไม่ไปโว้ย บอยช่วยด้วย แกจะนอนไปถึงไหนวะ” ไม่ปล่อยใช่ไหม ผมใช้แรงที่มีถีบมันพร้อมกับจะวิ่งเข้าห้อง ไม่ทำไมผมไม่มีแรงวิ่งล่ะนี่ เป็นเพราะเหนื่อยแน่ๆ
“บอยช่วยด้วย บอย ” ทำไมมันไม่ได้ยิน
“ไปกับกูซะเถอะ” อ้นมันว่าพร้อมเอาผ้าขาว ๆ มาอุดจมูก
“อื้อ” ทำไมมันล็อคตัวผมไว้แน่นดีจัง โอย ผมเริ่มมึนๆแล้วครับ
มันประคองผมลงมาทางลิฟต์ครับ นี่ยามหายไปไหนกันหมด ตายแล้ว
“ช่วยด้วย” ผมร้องออกไปแบบเบาๆ ยาไม่ใช่ยาสลบครับ แต่มันชาๆ แรงไม่ค่อยมี
มันเอาผมเข้าไปในรถตู้ เฮ้ย มันเอากี้มาจริงๆด้วย กี้นอนสลบอยู่เบาะหลัง ไม่ๆ ผมจะไม่ยอมไปอีก ผมต้องสู้
ผมเหลือบไปเห็บปากกาที่ตกอยู่ตรงเบาะรถ ชั่วอึดใจผมตัดสินใจทำบางสิ่งที่ไม่คิดว่าตัวเองจะกล้าทำ
ผมรวบรวมพลังทั้งหมดแล้ว เอาปากกาแทงเข้าที่คออ้น ปากกาครึ่งด้ามฝังอยู่ในคอมัน
“โอ้ย ไอ้เชี่ย” มันร้องขึ้น “มึงกล้าทำกูหรอ มึงตาย”
ผมมัวแต่ตกใจ ลืมหนี มันกระโจนเข้ามาบีบคอผม บีบแรงมาก
ผมหายใจไม่ออก
“อ๊อก อ๊อก ” มือผมพยายามปัดป่ายไปเรื่อยๆ แต่แรงหมดแล้วครับ
เฮือกสุดท้ายของชีวิตเป็นอย่างนี้เองหรือ
แม่ผม น้องผม ป่าน อีก้อง อีนัท
ภาพตรงหน้าดับมืดเป็นสีดำ
........................................................................................
ไม่ๆ
ผมตายแล้วจริงๆหรือ
ทำไมมันมืด
เฮือก
เฮ้ย นี่
ผมยังอยู่บนเตียง ข้างๆเป็นบอย
ผมฝันไปหรือนี่ ทำไมมันเหมือนจริงจัง
ฮึก ไม่นะ ผมร้องไห้ครับ ฮือๆ ทำไมมันน่ากลัวจังวะ ฟืดๆ ผมสูดน้ำมูก พร้อมกับเช็ดน้ำตาออกจากหน้า
“บีน เป็นอะไรหรือเปล่า” บอยที่พึ่งสะดุ้งตื่นเพราะเสียงผมสะอึกสะอื้น ถามผม
“ฝันร้าย โคตรเหมือนจริงเลย ไอ้พวกนั้นมันตามเรามา”
“ไม่ต้องกลัวนะบีน ไม่มีอะไรแล้ว บอยอยู่ข้างนี่ไง”
มันปลอบพร้อมเอามือลูบหัวผม ทำไมรู้สึกอบอุ่นจัง ถ้าได้กอดจะดูอบอุ่นแบบนี้ไหมนะ บ้า ผมก็คิดไปโน่น ถึงยังไงก็ขอด่ามันเถอะ
“หึ แล้วในฝันนะบีนเรียกก็ไม่ได้ยินสักที ขอสักทีเถอะ” แปะ ผมเอามือตีหน้าผากมัน
“โหยนี่ บอยผิดอะไรวะ มันแค่ในฝันนะ มาๆ บอยมาให้บอยกอดจะได้หายกลัว”
บอยดึงผมเข้าไปกอด ทำไมมันแรงเยอะล่ะ ดึงผมไปนิดเดียวก็เอาผมไปไว้ในอ้อมกอดมันได้แล้ว
อุ่นจริงๆ อุ่นทั้งกายอุ่นทั้งใจครับ ไม่น่าเชื่อว่าเด็ก ม.๕ จะดูเป็นผู้ใหญ่มากถึงขนาดนี้ เรานอนหันหน้าเข้าหากัน ผมซุกหน้าเข้าที่หน้าอกแน่นๆของบอย โดยมาหมอนข้างที่ผมยังใช้ขาผมคาบไว้อยู่คั่นกลาง ฮ่าๆ หลับจริงๆแล้วล่ะที่นี้
...
อืม อ้าวนี่ใกล้เช้าแล้วหรือนี่ ผมลืมตาขึ้นเห็นแสงพระอาทิตย์ยามเช้าที่ยังไม่สว่างมากส่องเข้ามาที่ผ้าม่านห้องนอน
แล้วหมอนข้างผมหายไปไหน
“อืม ตื่นเร็วจัง”
“อย่างนั้นก็นอนต่อ” ผมบอกบอยไป มันกระชับกอดผมแน่นเข้า คือตอนนี้นอนแทบจะสิงกันแล้วครับ หมอนข้างไปไหน มันต้องแอบดึงออกแน่ๆ เรานอนกอดกัน หันหน้าเข้าหากัน แบบแนบแน่นขนาดนี้ มันเริ่มไม่ใช่ละ
“บีน” บอยมันเรียกผม
“อะไร” ผมเงยหน้าออกจากอกบอย จ้องไปที่หน้า
“มีอะไร” ผมถาม บอยพยักหน้าให้ผมเชิงขออะไรสักอย่าง กริยาแบบนี้แฟนเก่าผมเคยทำครับ นี่มันขอมีอะไรกันนี่นา ผมเหมือนโดนมนต์อะไรสักอย่างสะกดให้หยุดนิ่ง
เด็กบอยใช้ริมฝีปากมันประกบลงที่ปากผม ความชื้นของน้ำลายที่ติดอยู่ที่ลิ้นของบอย ถูกป้ายลงที่ริมฝีปากบนผม มือของบอยลูบหลังมืออย่างปลอบประโลม บอยพลิกตัวขึ้นคร่อมตัวผม ปากของบอยยังเคลียคลออยู่กับริมฝีปากผมอย่างไม่ห่าง ไม่ได้ผมจะปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปไม่ได้ บอยยังเด็กอยู่ ยังไม่ควรมาทำอะไรแบบนี้ อีกอย่างผมก็ปลอมตัวมาด้วย ทำไม่ได้
“บอย พอเถอะ” บอยกำลังใช้จมูกสูดดมที่ซอกคอผม ยอมรับว่าเสียว ปลุกอารมณ์ได้เป็นอย่างดี แต่ต้องห้ามบอยไว้ก่อน
“ให้บอยเถอะนะ ไม่ไหวแล้ว จับดูสิ ปวดไปหมดแล้ว” บอยบอกกับผม ส่งสายตาอ้อนวอน แล้วเอามือมันมาจับมือผมให้ไปจับของมัน
“บ้า พอเถอะบอย” บอกไม่ฟังแล้วครับ บอยเริ่มรุนแรง มันใช้ปากตัวเองบดขยี้ปากผม ทั้งสูด ทั้งดม เหมือนคนตายอดตายอยากมาจากไหน
“พอเถอะ บอย หยุด ” เพี๊ย ผมตีไปที่หน้ามัน ไม่หยุดครับ มันทำต่อ
เพี๊ย
เพี๊ย
“โอ้ย บีน ตบหน้าบอยทำไมนี่”
ห๊ะ ผมสะดุ้งลืมตาขึ้น อ้าวยังมืดอยู่เลย ยังไม่เช้า หมอนข้างผมก็ยังกอด
บอยก็นอนกอดผมไว้เหมือนเดิม ไม่ได้กอดแน่นอะไรมาก
“เฮ้ย บีนฝันหรอนี่ ขอโทษๆนะบอย โทษที”
ผมเอามือลูบหน้ามันเบาๆ มันจะโกรธไหมนี่ ดูหน้าบูด เหมือนผมไปรบกวนเวลานอนเขา
“โกรธบีนหรือเปล่าบอย บีนขอโทษ”
“หึ” บอยปล่อยผมจากอ้อมกอดแล้วพลิกตัวหันหน้าหนี
“เฮ้ย อย่าโกรธสิ แค่ฝัน ไม่เอานะ ทำหน้าบึ้งไม่หล่อนะบอย ”
“หอมแก้มบอยก่อนสิ ” บอยพลิกตัวกลับมาอีกครั้ง แต่ยังทำหน้าบึ้งอยู่ ข้อต่อรองเยอะจริง
เอ้า หอมก็หอม กลัวมันโกรธ
ฟอด ไป ๑ ที
“หายยัง” ผมนี่ก็ทำไปได้ เด็กบอกอะไรก็ทำตาม
“หายแล้ว ป่ะนอนกัน” บอยเปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มหน้าบานทันที นี่มันโกรธจริงไหมนี่
“นี่บอยแกล้งบีนหรือ” ผมถาม
“เปล่านี่น่า ก็บีนตีหน้าเราก่อน เราก็ให้หอมคืน ลบรอยเจ็บ ก็หายกันแล้วนี่”
หึย อีเด็กบอย
“อย่างนั้นก็นอนสักที ”
หวังว่าผมจะไม่ฝันอีกนะ
“กอดแน่นไปไหมบอย”
“ไม่เห็นแน่น กำลังพอดี”
“โอเค”
ผมเอาแขนผมกอดมันตอบแบบแน่นๆอีกทีหนึ่ง นี่ประชดนะ ไม่ได้อยากกอดหรอก
.....................................................................
บีนนี่ขวัญหนีดีฝ่อ ต้องให้เด็กช่วยปลอบซะแล้ว
มาติดตาม มาอ่านกันเยอะๆนะครับ เม้นตอบด้วยก็ยิ่งดีนะ วันนี้ฝันดีจ้า