>.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: >.ม.ปลายอีกครั้ง.< (ตอนที่ ๓๐ ๙/๑๒/๒๕๕๘)/หน้าที่ ๑๐/โอ๊ตบีน(ตอนจบ)ย้ายได้ครับ  (อ่าน 75051 ครั้ง)

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9405
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
มาเอาใจช่วยเจ้บีนของเรา นังเด็กกี้ ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาสินะ :angry2:

ออฟไลน์ dekhip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กี้นี่น่าหมั่นใส้จริงๆ ตบเลยบีน

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
 :katai2-1:

ตอนที่ ๑๒


วันถัดมาเป็นวันเสาร์  ซึ่งไบท์ได้บอกผมไปวันก่อนว่า  กี้ชวนไปผับ  แต่ผมก็ขอบายแล้วล่ะครับ  ผมไม่ชอบหน้ากี้ขึ้นมาแล้ว  เด็กอะไรวะ   คือจะไปให้โอกาสกลับตัวกลับใจ  แต่ไม่ได้นำพา  สรุปผมจะไม่เสวนาด้วยหรอกกับคนแบบนี้  จะพูดด้วยเท่าที่จำเป็นแล้วกัน

คุณบิ๊กโทรมาหาผมในเช้าวันอาทิตย์  เรียกว่าโทรมาปลุกจะง่ายกว่ามั้ง  โทรมาเช้าเชียว ผมรีบไปอาบน้ำแต่งตัวเพราะเจ้านายจะมาติดตามผลการทำงาน

“คือคุณไปบอกเขาแล้ว  แต่ท่าทางเขาคงไม่ทำตามใช่ไหม”

“ใช่ครับ”  พอคุณเจ้านายมาถึง  ผมก็เล่าให้แกฟัง

“เออคุณ  เมื่อคืนนี้  ผมส่งลูกน้องตามไปดูสามคนนั้นไปผับด้วยนะ”

“แล้วเป็นอย่างไรครับ”

“ก็ปกติดี”  อ้าวกี้ไม่ส่งยาหรอกหรอ

“ปกตินี่คือ ไม่มีใครทำอะไรผิดใช่ไหมครับ”

“ไม่ๆ ปกติคือ  สองคนนั้นปกติ  ส่วนเด็กมิคกี้นั่นก็ส่งยาเป็นปกติ” แหม ก็บอกว่ากี้ส่งยาก็จบ

“คงไม่ลด ไม่เลิกมันแล้วล่ะมั้ง  แล้วน้องโอ๊ตนี่เขาไม่รู้หรอคุณว่าแฟนตัวเองส่งยา”

“ผมว่าไม่น่าจะรู้ เอาเป็นว่าปล่อยๆไปก่อน  ปล่อยนี่คือ ไม่ใช่ว่าปล่อยเลยตามเลยนะ  สอดส่องดูแลเหมือนเดิมนะ แต่ไม่ต้องมาก  ใกล้สอบปลายภาคแล้วนี่  เห็นทางโรงเรียนเลื่อนสอบเร็วขึ้น” รู้ละเอียดดีจริง

“ใช่ครับ  เอาเป็นว่าช่วงนี้ผมติวหนังสือกับน้องแล้วกัน  เอาน้องโอ๊ตมาห้องผมได้ไหมครับ”

“เอ้า  ได้สิ  นี่อย่าบอกนะว่าโอ๊ตยังไม่สนิทกับคุณ”

“ก็ไม่ได้ขนาดไปไหนติดหนึบนะคุณ”

“แล้วเด็กที่มาวันนั้นนี่ใคร  เอามาห้องไม่กลัวเขารู้หรอว่าปลอมตัวเป็นเด็ก”

“ไม่รู้หรอกคุณ  ผมเก็บของเป็นระเบียบเรียบร้อยดี  ไม่ใครรู้หรอก  เอาเป็นว่าถ้าโอ๊ตจะไปนอนห้องกี้หรือไปอ่านหนังสือห้องกี้นี่ผมจะชวนมาห้องผมแทนแล้วกัน”

“โอเค ตามนี้”

...


ช่วงติวหนังสือ  พวกผมห้าคนก็ติวกันอย่างตั้งใจ  มีช่วยกันทำโจทย์  แยกกันไปอ่านแต่ละหัวข้อ  แต่ละวิชา  แล้วมาสรุปให้เพื่อนฟัง  หรือแม้แต่สอนกันในกระดานไวท์บอร์ดเล็กๆ

ที่ติวส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารฟาสต์ฟู๊ด  ห้องผมบ้าง  หรือแม้กระทั่งบ้านของโอ๊ตเอง  ผมก็พึ่งรู้ว่าบ้านโอ๊ตใหญ่มาก  แต่คนอยู่กันนิดเดียว  มีแค่คุณพ่อคุณบิ๊กหรือปู่โอ๊ต คุณย่า  คุณบิ๊ก   คุณลุง คุณป้า พี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของโอ๊ตอีกหนึ่งคน และก็น้องโอ๊ต  สรุปคือ ไม่ถึงสิบ  นอกนั้นก็แม่บ้าน 

ตอนแรกผมก็คิดว่าดูอบอุ่นดีนี่นาถึงโอ๊ตจะไม่มีพ่อแม่แล้ว  แต่จากที่ไปคลุกคลีสองสามวันก็ได้ความมาว่า  ต่างคนต่างอยู่ครับ คุณบิ๊กก็ทำงาน  คุณลุงคุณป้ากับลูกสาวเขาก็อยู่ในส่วนของเขา  คือ  จะเจอกันแค่ทานอาหารเย็นของเย็นวันศุกร์  เสาร์   นอกนั้นตามสบายใครจะทำอะไรก็ทำ  จะมีแค่คุณปู่กับคุณย่าที่ดูจะใกล้ชิดน้องเขามากและดูท่าแล้วจะตามใจมากด้วย ตามประสาคนแก่รักหลาน

ส่วนเรื่องโอ๊ตกับกี้นี่  ก็ดูปกติดีครับ  แต่ไม่ดูหวานเหมือนตอนแรก  โอ๊ตดูจะไม่ติดกี้ แต่มาติดผม ติดไบท์ อ๊อฟแทน  ไม่รู้ว่าช่วงติวด้วยหรือเปล่า  แถมบางครั้งมีหงุดหงิดและดุกี้ด้วย  ผมเห็นก็จะไปทำหน้าสะใจใส่ก็ไม่ได้เพราะกี้นึกว่าผมยังไม่เห็นธาตุแท้ของเขา 

การสอบผ่านไปด้วยดีครับ  ทุกคนตั้งใจและมีเสียใจมากๆกับบางข้อที่ทำไม่ได้เพราะคิดไม่ออก  วันสุดท้ายของการสอบกลางภาคก็มาถึง  วันนี้มีสอบสามวิชาครับ ตอนเช้าสอง  ตอนบ่ายหนึ่งวิชา ขณะนักเรียนในห้องนั่งรอครูส่งข้อสอบ  ผมก็ได้รับรู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น  ผมหันหลังไปก็เจอกับเด็กบอยที่อยู่ด้านหลัง  พร้อมกับพูดแบบไม่ออกเสียงว่า “ สู้ๆนะ” พร้อมกับส่งจูบให้ เด็กน้อยเอ้ย

“ขอโทษครับ”  โอ๊ตยืนอยู่หน้าประตูห้อง

“ทำไมมาช้าล่ะคะ  นี่จวนจะสอบอยู่แล้ว  ไปนั่งที่เลยค่ะ”

อ้าวผมนึกว่าน้องโอ๊ตมานานแล้ว  ก่อนเข้าห้องสอบผมก็มัวแต่ดูหนังสือและก็งีบหลับ  ไม่ได้คุยกับเพื่อนคนอื่น เลยไม่ได้สังเกตใคร   ดูสีหน้าน้องแล้ว  ดูไม่ค่อยดีเลยครับ  เหมือนกับตื่นสาย  คิ้วขมวดกันเป็นปมเหมือนคิดอะไรอยู่  เป็นอะไรหรือเปล่า
หรือว่าจะกังวลเรื่องสอบ  หรืออาจจะเป็นเรื่องกี้ 

เราสอบกันสองวิชาตอนเช้า  พอเที่ยงก็พัก  โอ๊ตหายไปครับ  พวกผมนั่งกินข้าวกันสี่คน  ไบท์บอกว่าโอ๊ตส่งข้อความมาว่า  ไปหามุมอ่านหนังสือ  ยังไม่เข้าใจบางหัวข้อ  ในวิชาที่จะสอบตอนบ่าย

กี้ก็ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ นั่งกดมือถือเล่นไป  นี่จะไม่เป็นห่วงแฟนตัวเองเลยหรอ

“สอบเสร็จไปเจอที่ดาดฟ้าตึกห้า” เสียงที่โอ๊ตเดินมาพูดข้างๆหูกี้  ก่อนจะเข้าห้องสอบ ผมเดินผ่านกี้ไปพอดี  ซึ่งโอ๊ตน่าจะไม่ได้ระวังว่าผมจะได้ยิน

เรียกไปคุยเลยหรอ  อย่าบอกนะว่าเรื่องยาจริงๆ

สอบเสร็จวิชาสุดท้ายของภาคเรียนนี้ ทุกคนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
คงเหลือแต่  โอ๊ตที่เดินหายไปทางอาคาร ๕ และกี้ที่กำลังจะเดินตามไป

ผมรีบไปกระซิบบอย  วานให้บอยไปด้วย  ทางนั้นก็ไม่ปฏิเสธอะไร

เราเดินตามกี้ไปห่างๆ ก่อนที่กี้จะขึ้นไปถึงดาดฟ้า  เราก็ขึ้นบันไดตามไปเงียบแล้ว  ยืนแอบอยู่ที่ประตูทางออก

“ มันได้ยินเสียงไม่ชัดว่ะบอย ”

“ค่อยๆ แง้มดูสิ บอยว่าสองคนนั้นไม่อยู่แถวนี้หรอก” 

เราแง้มประตูอออกไป  ก่อนจะเห็นว่าข้างหน้าเราไม่มีใคร  โอ๊ตกับกี้คงอยู่อีกฝั่ง 

พวกผมเลยย่องไปแอบหลังแท้งค์น้ำถังใหญ่  ก่อนจะแอบส่งผ่านช่องระหว่างแท้งค์น้ำสองถัง นั่นไงโอ๊ตกับกี้กำลังยืนมองหน้ากัน

ได้ยินเสียงชัดแจ๋วครับ

“มีอะไรปิดบังกันหรือเปล่ากี้”  โอ๊ตเอ่ยปากขึ้นก่อน

“ เรื่องอะไร  กี้ปิดบังอะไรหรอ” กี้ดูเหมือนร้อนตัว  ไม่เนียนเลย

“ พูดกันตรงๆนะ  กูรู้หมดแล้วว่ามึงทำอะไรบ้างกี้”

“ เรื่องอะไรโอ๊ต  กี้ไม่ได้ทำอะไรผิดนี่นา”

“ ก็เรื่องที่มึงส่งยาไงล่ะ  กูเห็นครั้งแรกก็ไม่คิดอะไร  แต่นี่มันสี่ห้าครั้งแล้ว  ไปติวที่ห้างมึงก็แอบหนีไปส่งยา  แล้วอ้างว่าเข้าห้องน้ำ ไปผับก็อ้างว่าไปห้องน้ำ  กูเห็นกูรู้หมด  มันบ่อยไปแล้ว ”

“ใครบอก  มันต้องมีคนเอาไปบอก ไม่ได้เป็นอย่างที่โอ๊ตเห็นนะ”

“กูบังเอิญไปเห็นยาที่มึงซ่อนไว้  ในห้องมึง  กูก็รู้แล้วว่ามึงเล่นยา  ใช่แต่ก่อนกูชอบมึงแต่ไม่ได้คลุกคลีมากเพราะมึงมีแฟนอยู่  แต่พอกูได้เข้าไปรู้จักมึง  มึงก็แค่คนที่  สวยแต่รูป จูบไม่หอม”

“ไม่ใช่อย่างนั้นนะโอ๊ตกำลังเข้าใจผิดเรานะ”

“อย่าแทรกยังพูดไม่จบ  แล้วเรื่องเอาผู้ชายคนอื่นไปนอนหอก็เลิกเถอะ  เป็นแฟนกับกูแต่เสือกไปนัดคนอื่นมาเอาที่ห้องนี่ใช่เรื่องไหม  หรือถ้ามึงจะทำก็ไม่เนียนเลย  เศษถุงยางที่ใช้แล้วไม่ใช่ว่ากูไม่เห็น  กูกับมึงมีอะไรกันนับครั้งได้นะ  มึงทำไมเลวอย่างนี้ว่ะ ” 

แสดงว่าที่คบกันสองเดือนกว่านี่ โอ๊ตก็เริ่มรู้ความจริงแล้ว  กี้นี่ทำไมมันร่านผู้ชายจังนะ

“อีบีนมันบอกโอ๊ตใช่ไหม  มันกำลังใส่ร้ายกี้นะโอ๊ต  มันไปพูดกรอกหูโอ๊ตใช่ไหม  ”  นี่เรียกกันขึ้นอีเลยใช่ไหม

“กูรู้เอง  กูบอกกูรู้เอง มึงหูแตกหรือไง  ไปเอาคนอื่นมาเกี่ยวทำไมวะ  คนอย่างมึงทำเรื่องไม่ดี  ไม่ซื่อสัตย์  ทำผิดกฎหมาย  กูก็ขอไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยแล้วกัน”

โอ๊ตระเบิดอารมณ์ออกมา  พร้อมกับหันหลังให้แล้วเดินออกมา

แต่สิง่ที่กี้พูดต่อ  กลับทำให้โอ๊ตต้องหยุดชะงัก

“เออกูมันไม่ดีเอง  เล่นยา ขายยา มั่วผู้ชาย  แต่มึงมันโง่ไงโอ๊ต  มึงยังโง่ที่มาชอบกู  รู้ไหมตอนที่กูคบกันไอ้แทน  กูก็ได้กับเพื่อนมันหมด  ชีวิตกูมันก็เท่านี้แหละ  กูมีความสุขแบบนี้แล้วจะทำไม”

กี้ที่เริ่มหงุดหงิดและไม่พอใจ ก็เล่าความจริงออกมาซะหมดเปลือก  เออดีไม่ต้องแอ๊บแล้ว  ก่อนที่กี้มันจะเข้าไปใช้มือทุบตีโอ๊ตที่หันหลังให้

“สุดท้ายมึงก็ยอมบอกความจริง”  โอ๊ตหันหน้ามาแล้วรวบมือที่ไม่หยุดทุบตีไว้  “ทำไมมึงเลวอย่างนี้วะกี้”

“ก็มึงมันโง่ยังไงล่ะโอ๊ต  มึงไม่เข้าใจหรอกว่ากูต้องใช้เงิน ”

“เรื่องนั้นมึงก็ทำงานพิเศษ  เอาก็ได้”  เออจริง  ช่วงก่อนเห็นกี้มันทำงานพิเศษ

“ก็มันไม่พอให้กูซื้อยายังไงล่ะ  ป้ากูก็ทำ  ตอนคบกับพี่แทนกูก็ติดยา  จะให้กูทำยังไงวะ”

“ กูรับไม่ได้ว่ะ  กูไม่รู้จะพูดยังไงกับมึง”  โอ๊ตดูเหนื่อยใจ

“ก็มึงมันไม่มีน้ำยาไง  มึงมันให้ความสุขกูไม่ได้  กูอยากได้คนที่เอาเก่งๆ มึงมันไม่ได้เรื่อง  รู้ไหมว่าเวลาไปเที่ยวกลับมาห้องกูก็นัดให้ผู้ชายมาหากูหลังจากที่แยกกับพวกมึง” 

“ไอ้เชี่ยเฮ้ย” เพี๊ย โอ๊ตตบหน้ากี้ไปหนึ่งครั้งก่อนพูดขึ้นว่า

“ชาตินี้นะ  กูกับมึงขาดกัน  มึงไม่ต้องมาคุยด้วย  ไม่ต้องมีส่วนร่วมอะไรกับชีวิตกูอีก”

“เออ กูก็ไม่ได้อยากมีผัวห่วยๆแบบมึงหรอก” 

โอ๊ตที่เดินจากไปพร้อมกับเสียงตะโกนไล่ 

ก่อนที่กี้จะยืนอยู่สักพักแล้วค่อยเดินลงไปจากดาดฟ้า








“เฮ้อ  ปวดหัว  สงสารโอ๊ตว่ะบอย”  ผมเอามือกุมหัว  ต่อไปโอ๊ตจะเป็นอย่างไรนะ

“เออน่า  บีนก็ดูมันดีๆแล้วกัน  ดีนะว่าปิดเทอมแล้ว  ไอ้โอ๊ตมันคงมีเวลาทำใจ”

“เดี๋ยวเรากับเพื่อนจะช่วยให้โอ๊ตมันดีขึ้นเอง”

“อย่าลืมบอยนะ  บอยพร้อมช่วยเสมอ” เด็กบอยมันบอกพร้อมยื่นหน้าจะมาหอมแก้มผม  ก่อนที่ผมจะผักหน้ามันออกไป

“ลงไปได้แล้ว  อยากกลับแล้ว”

“ถ้าลงไปแล้ว  วันนี้ไปทำกับข้าวกินกันที่ห้องบีนนะ  แล้วก็ขอนอนด้วยนะ”  จะว่าไปผมก็ไม่ได้ทำกับข้าวกินกับบอยนานแล้ว

“ดีๆ แต่ต้องทำตัวดีเหมือนครั้งก่อนนะ ไม่งั้นไม่ให้นอนด้วย ”

“ครับผม”

บอยไปนอนห้องผมได้สามสี่ครั้งแล้วครับ  แต่ก็ไม่ได้เกินเลยอะไรมาก  นอกจากนอนกอด

แถมตื่นมาอีกทีผมก็นึกว่าบอยจะกอดผมตลอดคืน แต่กลายเป็นว่ามันนอนหันหลังให้ผมหรือไม่ก็นอนคอตกหมอนเสียเอง  ดูไปมันก็น่ารักดี  ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้ตกลงคบกันเป็นแฟน แต่อยู่แบบนี้ก็ดีนะ

...

วันปิดเทอมวันแรก  ผมก็ออกไปเที่ยวกับบอยครับ  แต่ก็ไม่ลืมที่จะตามดูความเคลื่อนไหวของโอ๊ตนะครับ  เปิดไปดูในไอจีก็เห็นโพสต์ภาพเศร้า  พร้อมข้อความภาษาอังกฤษลง  เพื่อนในกลุ่มก็ถามในไลน์กัน  โดยที่ไม่กลัวว่ากี้จะรู้  เพราะรายนั้นออกจากไลน์กลุ่มไปแล้ว  แถมก่อนออกทิ้งท้ายด้วยว่า  ไปเที่ยวภูเก็ต  แหมคงไปส่งยาล่ะสิ  ขอให้โดนตำรวจจับทีเถอะ

ทั้งอ๊อฟและไบท์รู้กันแล้วว่าโอ๊ตกับกี้เลิกกัน  แต่โอ๊ตไม่ได้บอกเพื่อนเรื่องยาหรอกครับ  บอกแค่ว่ากี้มันนอกใจ  สองคนนั้นดูตกใจกันมาก  เพราะไม่คิดว่าคนที่ภายนอกใสๆซื่อๆ จะเป็นไปถึงขนาดนี้

วันนี้ผมกับบอยไปวัดพระแก้วมาครับ  เพราะว่าไม่ได้ไปหลายปีแล้ว  บวกกับบอยที่ไม่เคยไปเพราะย้ายมาจากต่างจังหวัด เที่ยวเสร็จก็ไปหาอะไรกินกันแถววังหลัง  กว่าจะถึงห้องก็มืดพอดี  โดยที่บอยไม่ตามผมมา  มันขอกลับไปนอนที่ห้อง

ผมหยิบมือถือเครื่องที่คุณบิ๊กซื้อให้ออกมาพร้อมกับสายที่ไม่ได้รับห้าสาย  มีคุณบิ๊ก และก็ไบท์ ที่โทรมา  ผมติดนิสัยชอบปิดเสียงมือถือครับ  เป็นเพราะว่าสมัยเรียนมือถือเคยดังในห้องแล้วโดนครูดุ  เลยติดว่าต้องปิดเสียงตลอด  เพราะจะปิดๆเปิดๆก็กลัวว่าเข้าห้องเรียนแล้วลืมปิดเสียง  พอปิดเสียงตลอดจะมาเปิดเสียงอีกที  ก็ชอบตกใจเวลาได้ยินเสียงเรียกเข้า  ยิ่งถ้ามือถืออยู่ในกระเป๋าแล้วก็ยิ่งแล้วใหญ่  เลยไม่ค่อยได้รับสายถ้าไปไหนมาไหน

ผมเลือกโทรไปหาคุณบิ๊กก่อน ซึ่งแกก็บอกว่า  แกจะโทรมาถามว่าน้องโอ๊ตเลิกกับกี้แล้วใช่ไหมอะไรยังไง  ผมก็ตอบไป  พร้อมกับคุยอะไรนิดหน่อยๆ สุดท้ายเจ้านายก็ย้ำกับผมว่าถึงปิดเทอมแต่แกก็จะยังจ่ายค่าขนมกับเงินเดือนเหมือนเดิมนะ 

รายต่อไปคือ  ไบท์  ได้ความว่ามันโทรมาชวนไปฉลองปิดเทอม  มีสามคนโอ๊ต ไบท์ อ๊อฟ  แล้วก็ผมด้วย  ผมเลยขอบายพวกนั้นไป  เพราะเหนื่อยจากการไปเที่ยว 

หลังจากอาบน้ำเสร็จผมก็แกะบะหมี่เกี๊ยวที่ซื้อมาใส่ถ้วยแล้วเอาเข้าไปเวฟ   นั่งกินไปก็นึกไป   ว่าจริงๆตามหน้าที่แล้วผมต้องตามไปดูโอ๊ตนี่นา  แต่ก็นะ ตอนนี้เกือบสามทุ่มแล้วยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรเลย  ผมเลยทำได้แค่โทรไปบอกให้อ๊อฟกับไบท์  ช่วยดูโอ๊ตด้วย  คนพึ่งเลิกกับแฟนคงจะดื่มหนักมาก

...

ผมสะดุ้งตื่นเพราะมือถือสั่นอยู่ที่โต๊ะข้างเตียง  ผมเอื้อมมือไปหยิบมา  ภาพหน้าจอโชว์ว่าไบท์โทรมา 

“เฮ้ย บีน  นอนยังวะ” 

“อืม  ว่าไงไบท์”

“มึงช่วยมาดูโอ๊ตได้ไหม  มันเริ่มหนักแล้วมึง  ตอนนี้ซดเหล้าเพียวๆหมดไปเกือบขวดแล้ว  มันเริ่มเมาแล้วมึง”

“แล้วทำไมพวกนายไม่ดูโอ๊ตวะ  บอกให้ดูเพื่อนแล้วนะ”

“โถ่บีน  มาเถอะ  มาช่วยกัน  เดี๋ยวออกค่าแท็กซี่ให้”

“นี่กี่โมงแล้ว”  ผมรู้สึกเหมือนตัวเองนอนไปนาน

“จะเที่ยงคืนแล้วว่ะ” ไปก็ไป

“เออ  ดูโอ๊ตไว้  เดี๋ยวไป” ผมตอบไปแบบหงุดหงิด

“โอเคๆ  รีบมาๆ ผับ.......นะ”

โอย  ผมรีบลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา  เปลี่ยนเสื้อผ้า  ก่อนที่จะโทรไปบอกพี่ยามข้างล่างให้โบกแท็กซี่ไว้รอ

...

“อยู่ส่วนไหนของผับ”  ผมกรอกเสียงไปตามสาย

“อยู่ชั้นสาม  เดี๋ยวกูออกไปรับ”

“เดี๋ยวเข้าไปรอแถวๆประตู”

ผมเอาบัตรประชาชนตัวจริงให้เจ้าหน้าที่หน้าผับตรวจ  ก่อนที่เดินเข้าไปรอไบท์ข้างใน

เราขึ้นมาที่ห้องคาราโอเกะ  เป็นห้องที่หรูเลยทีเดียว  ดูเป็นส่วนตัว  เดินเข้าไปก็เจอโอ๊ตที่ดูจะยังไม่หยุดดื่มเหล้า  เพราะมือที่เอื้อมจะไปหยิบขวดเหล้าที่เหลือมาเทใส่แก้ว  โดยทั้งสองข้างของน้องโอ๊ตขนาบข้างไปด้วยสองสาว  คงเป็นเด็กนั่งดริ๊งที่มาบริการ   ผมหันไปอีกมุมก็เจอเด็กผู้หญิง ดูแล้วน่าจะอยู่ ม.ปลาย 

“นี่เพื่อนกูเองนะบีน  ชื่อฟ้า ” ไบท์แนะนำเด็กคนนั้นให้ผมรู้จัก

“อืม”  ผมตอบรับสั้นๆ  ก่อนเดินไปหาโอ๊ต

“เอ่อพี่  เดี๋ยวผมดูเพื่อนผมต่อก็ได้ครับ  ไม่รบกวนพี่สองคนแล้ว”

“ไม่เป็นไรค่ะ  เดี๋ยวพวกพี่ดูให้เอง”  แหมพวกนี้เห็นผู้ชายหล่อเป็นไม่ได้เชียว

ผมเดินไปหาไบท์อีกมุมที่นั่งสวีทกับเพื่อนหญิงอยู่

“ไบท์  อ๊อฟล่ะ  หายไปไหน ”

“มันกลับตั้งแต่ห้าทุ่มครึ่งแล้ว  แม่มันโทรมาตาม”  แล้วคู่นี้ถ้าเดาไม่ผิดก็ต้องไปกันต่อ เลยโทรมาให้ผมเอาโอ๊ตกลับใช่ไหม

“ให้ทิปพี่สองคนนั้นหรือยัง ”  ผมถามไบท์เพราะถ้ายังไม่ให้ก็คงยังไม่ไป  แล้วถ้าให้นั่งต่อโอ๊ตคงได้เมียเป็นเด็กนั่งดริ๊งแน่ๆ

“ยังเลย  จะกลับแล้วใช่ไหม”

“ใช่ โอ๊ตเมาหนักแล้วนะนั่น”

“เออจริง เงินค่าแท็กซี่ที่กูบอกว่าจะออกให้ไม่มีแบงค์ย่อยว่ะ” 

ไบท์มันยื่นค่าแท็กซี่ให้ หนึ่งพัน  รวยนักนะ  ผมรับจากมันแล้วยื่นไปให้สองสาวที่นั่งข้างโอ๊ต

“ทิปครับ  เดี๋ยวพวกผมจะกลับกันแล้ว”

สองคนนั้นรับแล้วออกไป ไบท์บอกผมว่าจะไปเคลียร์บิลกับแฟน ให้ผมกับโอ๊ตไปรอข้างนอก

ผมประคองโอ๊ตออกมาจากผับอย่างทุลักทุเล  เวลานี้ผับใกล้จะเลิกแล้ว  แต่คนก็ยังแน่นอยู่ 

น้องโอ๊ตมันตัวหนาและใหญ่ครับ  เวลาใส่ชุดนักเรียนนะเสื้อจะคับแน่น แขนขาก็ดูแน่นไปหมด  เหมือนคนมีกล้ามเนื้อที่สมส่วน ออกกำลังกายเป็นประจำ  ได้ข่าวว่าคุณปู่ของโอ๊ต  เห็นหลานอยากออกกำลังกาย ก็ทำห้องฟิตเนสให้หลานที่บ้าน  พร้อมจ้างเทรนเนอร์มาเอาใจหลาน  ทุ่มทุนจริงๆ กับเด็กคนนี้ เด็กที่ตอนนี้นับฟุบอยู่โต๊ะม้าหินอ่อน  แถวที่จอดรถ

“แล้วปกติ  โอ๊ตมันเมามากขนาดนี้มันจะอ้วกไหมไบท์   อยู่นิ่งๆโอ๊ต” 

ผมถามไบท์ขณะที่มันขับรถอยู่  ส่วนโอ๊ตก็เมาไม่รู้เรื่อง  มือไม้ปัดไปมา  เราตกลงกันว่าจะไปที่หอผมซึ่งอยู่ใกล้กว่าบ้านโอ๊ต  คืนนี้ก็คงให้โอ๊ตนอนที่ห้องผมนี่แหละ  ผมส่งข้อความไปบอกคุณบิ๊กแล้วครับว่าโอ๊ตจะค้างที่หอผม  หวังว่าเจ้านายคงเข้าใจหลานนะ

พวกเราสามคน  รวมทั้งฟ้าช่วยกันแบกโอ๊ตมาที่ห้องผม  จะพูดจริงๆคือ ผมกับไบท์ช่วยกันคนละปีก  ส่วนสาวน้อยคนนั้นเดินตามมาเป็นกำลังใจ  เราเอาโอ๊ตนอนลงบนเตียง  ไบท์ก็ขอกลับ  ผมเดินไปส่งข้างล่างก่อนกลับขึ้นมาที่ห้อง  แล้วตรงไปที่ห้องนอน
ก็เห็นว่าเด็กมัธยมตัวใหญ่นอนตกเตียง  คงเมามาก  ดิ้นไปมา  เอายังไงดี

“โอ๊ตลุก  โอ๊ตลุก  ขึ้นไปนอนบนเตียงดีๆ ลุก อึ๊บ”

ผมดึงโอ๊ตขึ้นมา  ซึ่งก็ดึงได้แค่แขนข้างเดียว

“โอ๊ต  นี่เมามากขนาดนี้เลยหรอ  ลุกขึ้นแปปเดียวนะๆ”

“อื้อ”  โอ๊ตส่งเสียงในลำคอประท้วงเชิงหงุดหงิด   แต่ก็ยอมตะกายขึ้นไปบนเตียงแล้วนอนแผ่อ้าซ่าอย่างสบายใจ

เอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้าเช็ดตาก่อนแล้วกัน  ผมคิดอยู่ในใจก่อนจะไปเอาผ้าขนหนูผืนเล็ก ไปชุบน้ำในห้องน้ำ  แล้วนั่งลงที่เตียงก่อนจะเอื้อมมือที่มีผ้าขนหนูอยู่  แตะลงไปที่แก้มข้างซ้ายของโอ๊ต  โอ๊ตสะดุ้งเล็กน้อย  แล้วปล่อยให้ผมเช็ดต่อ
โอ๊ตสะดุ้งอีกที่เมื่อผมเปลี่ยนมาเช็ดที่ลำคอ  แต่รอบนี้น้องมันลืมตาขึ้นปรือๆ แล้วเอามือมาจะแขนผมเป็นสัญญานเชิงบอกให้หยุด 

“นี่ใครวะ” น้องมันถามเสียงเมาๆ

“บีนเอง  นี่ไปรับมาจากผับเลยนะ  อย่าบอกนะว่าตลอดทางจำไม่ได้”

“ไม่รู้วะ ไม่ใช่กี้ใช่ไหมวะ”

“บีนๆ บีนเอง”

“อืม  ขอบใจมากว่ะบีน”  ดูสร่างเมาขึ้นแล้ว  คงเป็นเพราะเช็ดหน้าเช็ดหน้าให้ “ ดีแล้วที่  ฮึก กูเมาแล้วมาเจอมึง ไม่อยากเจอคนที่ทำให้กูเจ็บ”

“ไม่ต้องคิดมากนะ  เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ให้มันผ่านไปเถอะ  นอนพักก่อนเถอะ”  ผมกำลังจะลุกเอาผ้าขนหนูไปตาก

“กูเหนียวตัวว่ะ  เช็ดตัวให้หน่อยสิ  จะขอบคุณมาก” น้องขอร้องผม คือ เหมือนจะพูดรู้เรื่องนะครับ แต่เสียงที่พูดนี่ดูไม่ค่อยมีสติ เป็นลิ้นรัวๆ

“เอ่อ  ไหวไหม  เดี๋ยวไปเอาผ้ามาให้  เช็ดเองได้ไหม” ผมยืนถามน้องอยู่ข้างเตียง  เผื่อจะเปลี่ยนใจเช็ดเอง

“นะๆ มึง เช็ดตัวให้กูหน่อย  กูเหนียวตัว  แต่ลุกไม่ไหว  ปวดหัว  พอลืมตา  เพดานห้องมึงก็หมุนติ้วๆเลยว่ะ” ผมแอบขำครับ น้องมันขอร้องผม ขณะที่ตายังหลับอยู่ 

ผมเดินไปหยิบผ้าขนหนูที่ขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม  แล้วเอาน้ำอุ่นใส่กะละมังเล็กๆมาวางไว้ข้างเตียง  ใช้ผ้าชุบน้ำลง
ก่อนจะนั่งลงข้างเตียง  แล้วแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตโอ๊ตออกจนหมด  เอื้อมมือไปบิดผ้ามาเช็ดที่ลำคอโอ๊ต ไล่มาที่หน้าอก ไล่ลงมาเรื่อยๆจนถึงหน้าท้อง  ทุกอย่างดูแน่นไปหมด  สมกับที่จ้างเทรนเนอร์ไปฟิตหุ่น  แสงไฟสีทองส้มนวลๆ ส่องมายังซิกแพคของโอ๊ต  หุ่นนี่เหมือนกันนายแบบในทีวีเลย

“เช็ดต่อดิบีน”  ผมลืมตัวไป  มัวมองแต่หุ่น

“ช่วยถอดเสื้อให้หน่อยนะ” โอ๊ตพลิกตัวตะแคงก่อนจะยกแขนขึ้นอย่างทุลักทุเล  ผมดึงเสื้อเชิ้ตออกจากตัวน้อง  ก่อนที่เจ้าตัวจะพลิกตัวกลับมานอนหงายเหมือนเดิม

ผมเช็ดท่อนบนจนเสร็จ  ก็เตรียมที่จะเอาของไปเก็บ  โอ๊ตก็พูดแบบไม่ลืมตาขึ้นอีกว่า

“ช่วยถอดกางเกงให้หน่อยสิบีน  เช็ดข้างล่างให้ด้วย”  ผมถอนหายใจยาว  ก่อนนั่งลงแล้วปลดเข็มขัดราคาแพง แกะยังไงวะ  ดึงอยู่ตั้งนานก็ไม่ออก

“โอ๊ต  เข็มขัดนี่ปลดออกยังไง”

“อื้อ  ดึงตรงนี้” เอาจนปลดได้

ผมก็รูดซิบกางเกงก่อนดึงลงจุดสุดปลายเท้า  ถามว่าตื่นเต้นไหม ตื่นเต้นนะครับ  ปกติถ้าไม่ใช่แฟนหรือแฟนเก่า  ผมไม่ทำให้ขนาดนี้นะ  โอ๊ตใส่กางเกงในทรงทรังค์  คือมันจะไม่อะไรเลยครับ  ถ้ากางเกงในที่ใส่มันไม่แน่นมากจนแทบทะลุ  ทรงนี้คือดูแล้วรู้เลยว่าไอ้นั่นที่อยู่ใน กกน.คงอยากจะออกมาสูดอากาศของนอก

อ่ะ เช็ดก็เช็ด ผมก้มหน้าก้มตา เช็ดท่อนล่างของโอ๊ต  โดยพยายามเลี่ยงไม่ให้ไปใกล้ส่วนนั้นมากที่สุด

“เสร็จแล้ว  เดี๋ยวนอนนะ  จะห่มผ้าให้หรือจะใส่เสื้อไหม”

“ไม่ว่ะ  ขอบคุณนะ”  ผมดึงผ้าห่มมาคลุมตัวโอ๊ตที่ไม่ใส่อะไรเลยนอกจากกางเกงใน  ก่อนจะเอาของไปเก็บแล้วไปเปลี่ยนเสื้อผ้า  เตรียมนอน

ผมแทรกตัวลงนอนข้างๆโอ๊ต  ดีว่าเตียงใหญ่  จึงไม่ได้นอนเบียดมาก  แต่กลายเป็นว่าผมนอนไม่หลับครับ คนที่นอนข้างๆก็ดิ้นไปมา  ดิ้นมา  ก่อนจะทำตัวขยุกขยิกใต้ผ้าห่ม  คือเราห่มผ้าผืนเดียวกันเลยรู้สึกได้  อ้าวนั่นโอ๊ตดึงอะไรออกจากใต้ผ้าห่มแล้วขว้างไปที่ปลายเตียง

“ นั่นอะไรโอ๊ต ”

“ อึดอัดว่ะ ”  ผมชะโงกลงไปดูปลายเตียง 

อีบ้า  น้องมันถอดกางเกงในออก  โอย  น้องมันดิ้นไปดิ้นมาอีกแล้วครับ  พร้อมกับครั้งนี้ที่ไม่ดิ้นธรรมดา  แต่ขยับตัวมาชิดกับตัวผมซะงั้น  นี่คงลืมไปว่าตัวเองไม่ได้ใส่อะไรเลย

“ดีขึ้นหรือยังโอ๊ต”

“เหมือนจะหายเมาแล้วว่ะ  แต่ปวดหัว”  พูดได้ชัดขึ้นแล้วครับ  สงสัยหายเมาแล้วจริงๆ

“กูไม่ดีจริงๆหรอว่ะบีน  กี้ว่ากูไม่เอาไหน  ไม่มีน้ำยา” โอ๊ตถามก่อนจะขยับตัวเข้าใกล้ผมมากขึ้น  ก่อนจะลดหัวตัวเองมาซบที่ไหล่ผม

“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกโอ๊ต  ในชีวิตโอ๊ตมีใครว่าโอ๊ตแบบนี้บ้าง  มีใครว่าโอ๊ตแบบนี้กี่คน”

“ก็มีแค่มิคกี้”

“ก็แค่กี้คนเดียว   แสดงว่าคนอื่นเขาอาจจะไม่ได้คิดแบบกี้ก็ได้  ถึงโอ๊ตจะเป็นยังไงแต่โอ๊ตอย่าลืมว่าโอ๊ตยังมี คุณปู่ คุณย่า คุณอา และก็เพื่อนๆนะ  ไม่ต้องเศร้าแล้ว  เดี๋ยวคืนนี้ก็ผ่านไป”

“อย่างนั้นหรอ  บีนมึงต้องอยู่ข้างกูนะ”

“อยู่แล้ว  สัญญานะว่าพรุ่งนี้ต้องไม่เศร้า  พรุ่งนี้ตื่นมาแล้วโอ๊ตต้องยิ้มให้บีนดูนะ”

“ยิ้มตอนนี้ก็ได้นะ  นี่ไง” โอ๊ตเงยหน้าขึ้นมาแล้วยิ้มให้ผม

“นี่มันยิ้มแบบคนเมาหื่นๆว่ะ  ฮ่าๆ”

“ฮ่าๆ”  โอ๊ตหัวเราะได้แบบนี้ผมก็เบาใจขึ้นหน่อย

“เอ้า  นอนดีๆได้แล้ว   ไม่เครียดแล้วนะ”

ผมพยายามผลักโอ๊ตเบาๆให้กลับไปนอนหนุนหมอนตัวเอง

“บีน  ทำไมตัวมึงถึงอุ่นจังเลยวะ” โอ๊ตพูดขึ้น

“ก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”

“หรอ” โอ๊ตพลิกตัวแล้วหันมาทางผมก่อนที่จะดึงเอาตัวผมเข้าไปกอด

“เฮ้ย”

“นะๆ กอดหน่อยนะ  ครั้งเดียว”

“แต่นี่ลืมไปแล้วหรอว่าตัวเองไปใส่อะไรเลย” 

ผมพูดกับโอ๊ต ซึ่งตอนนี้คือหน้าแทบจะติดกัน แต่ตัวนี่นอนแนบชิดตัวกันเป็นปาท่องโก๋ไปแล้วเรียบร้อย อะไรต่อมิอะไรก็เสียดก็โดนกันไปหมด

“ไม่เป็นไรหรอก หายเมาแล้ว  ไม่มีอารมณ์แบบนั้นหรอก  เอาน่าไม่บอกบอยหรอก  กอดวันเดียวเอง กูรักมึงนะบีน นอนๆ”

โอ๊ตจับหัวผมลงให้ซุกกับอกแน่นๆของน้องมัน  ก่อนที่ผมจะเริ่มง่วงและช่วงที่ใกล้จะหลับแหล่ไม่หลับแหล่นั้นกลับได้ยินเสียงโอ๊ตพูดเบาๆ

“ขอบคุณนะบีน มึงดีกับกูมาก”



พร้อมกับริมฝีปากที่ประทับลงบนหน้าผากผม 


ก่อนกระซิบเบาๆปิดท้ายอีกว่า










“กูเริ่มชอบมึงแล้วว่ะ กูอิจฉาไอ้บอยจังเลย”





นี่ผมฝันใช่ไหมครับ








ขอให้เป็นแค่ฝันเถอะนะ

 :hao6:




..........................................................................................



นี่ตกลงใครเป็นพระเอกกันนะ ฮ่าๆ

หรือคนอ่านรู้อยู่แล้ว  บีนดูจะยุ่งขึ้นอีกหรือเปล่านะ

ช่วงนี้ขอพัก  ขอตัดเอากี้ออกไปสักพักก่อนนะ  ให้มันไปขายยาและหาผัวใหม่ก่อน

หวังว่าคงจะสนุกกันนะ

บ๊ายบาย  เจอกันตอนที่ ๑๓ ครับ :bye2:

 :pig4:
 


   







ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :mew1:   ฟินสิคะงานนี้ บีนเอ๋ยมีเด็กมาติดอีกแล้ว สองคนเลยนะทำไงดีล่ะ.   :impress2: 
ชอบโอ๊ตอะ ไม่โง่นะ เรื่องน้ำยารอพิสูจน์ในอนาคตนะ
ขอสาบส่งอีกี้ดัวยคนขอให้มันเจอตำรวจจับสักทีเถอะ ไม่เลวเฉยๆยังร่านด้วย จะจบที่เอดส์หรือคุกก็ไม่รู้

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
แล้วๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เอาไงล่ะทีนี้หนูบีนบอยก็ชอบบีนโอ๊ตก็เริ่มมีใจให้
ว่าแต่บีนระวังบอยมาเจอภาพที่ชวนเข้าใจผิดเพราะความอึดอัดของโอ๊ตนะ
กี้ก็ไปแล้วไปลับอย่ากลับมานะกลับมาเดี๋ยวมาพาบีนซวยอีก

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ p_phai

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2302
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +154/-6

ออฟไลน์ anterosz

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 807
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +112/-1
สรุป... คุณบิ๊กคือพระเอก 555

ออฟไลน์ dekhip

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 5
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เอาล่ะสิ โอ๊ตเริ่มชอบบีนแล้ว

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ตัดออกจากวงโคจรถาวรก็ดีน่ันังกี้น่ะ

เลือกไม่ถูกจะเชียร์โอ๊ตหรือบอยดี หรือคุณบิ๊กดีน่ะ

ออฟไลน์ som

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2708
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +230/-2
กี้ หลุดพ้นไปได้ก็ดีแล้วละ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ ummax

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 105
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :z1:ขอบคุณมากครับ
อยากให้บอยเป้นพระเอก
ผมว้าบอยก้อต้องปลอมตัวมาแน่เลยจริงมั่ยอ่ะ

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
 :กอด1:


ตอนที่ ๑๓


ผมตื่นมาเราก็ยังนอนอยู่ท่าเดิม  มันคงไม่ดีเท่าไหร่มั้งนอนท่านี้  ผมเลยพลิกตัวกลับไปอีกทาง  เลยกลายเป็นว่าโอ๊ตกอดผมจากทางข้างหลัง

“อื้อ”  เสียงโอ๊ตประท้วงเบาๆจากในลำคอ  พร้อมกับกระชับผมให้แน่นขึ้น สงสัยคงเพราะผมขยุกขยิกเมื่อกี้

หลับไปสักพัก  ตื่นมาอีกที  ผมก็เอื้อมไปเอามือถือที่อยู่โต๊ะเตียง  แต่ไม่ไหวครับ รู้สึกหนักๆหัว  ร้อนๆหนาวๆ ครั่นเนื้อครั่นตัว ต้องเป็นไข้แน่เลยอาการแบบนี้  เมื่อวานเดินตากแดดเยอะไปหน่อย  และอีกอย่างจะให้น้องกอดผมต่อไปก็ไม่ได้แล้วครับ  เดี๋ยวก็ได้ติดไข้กันพอดี

“อึ๊บ”  ได้มือถือมาแล้ว ดูเวลา ๑๐ โมงตรง

“โอ๊ตๆ ตื่นได้แล้ว” 

“อื้อ  นอนต่ออีกหน่อยน่า”

“ไปอาบน้ำ”

“นอนกอดอีกหน่อยนะๆกำลังอุ่นๆเลย”  อุ่นๆนี่ตัวผมร้อนเพราะเป็นไข้ต่างหากล่ะ  ไม่ฟังกันครับ อีกทั้งยังกระชับกอดให้แน่นขึ้น  พร้อมกับเอาปืนมาจี้ที่ก้นผมอีก จริงสิ  ลืมไปว่าน้องไม่ได้ใส่อะไรนอน


ผมนอนไปอีกสักพัก  ก็รู้สึกเหมือนมีคนเอาผ้าเปียกๆ มาทาบไว้บนหัว  โอยหนาว  ปวดเนื้อ  ปวดตัวไปหมด

“อ้าวโอ๊ต  ตื่นนานแล้วหรอ”  ผมค่อยลืมตาขึ้น  เห็นโอ๊ตนั่งอยู่ริมเตียงใกล้กับผม ดูท่าสงสัยอาบน้ำแล้วเรียบร้อย  น้องนั่งกดมือถือยิกๆใส่เสื้อผ้าตัวเดิมที่ใส่มาเมื่อวาน  ก่อนหันหน้ามายิ้มให้ผม 

“รู้ตัวไหม  ว่าเป็นไข้”

“รู้สิ”

“เดี๋ยววันนี้กูดูแลมึงเอง  ตอนแทนกัน”

ผมพยักหน้าตอบก่อนที่จะบอกให้โอ๊ตเดินปิดแอร์  แล้วเปิดระเบียงให้ลมเข้า  ช่วงปลายฝนต้นหนาวอากาศไม่ร้อนมาก

ผมหยิบมือถือมาเช็คดูว่ามีใครโทรมาบ้าง เด็กบอยทักแชทมาหาตั้งแต่เช้าว่าจะมาห้องผม  ผมเลยตอบกลับไปว่าไม่สบาย กลับเป็นการไปกระตุ้นให้อีกฝ่ายอยากที่จะมาห้องผมมากขึ้น  เอายังไงดี  เลยบอกไปว่าไม่ต้องมาดูแลตัวเองได้  อีกฝ่ายกลับส่งมาแค่สติ๊กเกอร์ที่มีตัวการ์ตูนและตัวหนังสือว่า  งอน  แล้วก็หายไปเลย  เฮ้อ  แล้วโอ๊ตไปไหนล่ะ

“โอ๊ต”  ผมพยายามเรียก  สงสัยดูทีวีข้างนอก  “โอ๊ต”

“ว่าไงมึงดีขึ้นยัง”  น้องเดินเข้ามาในห้องนอน

“ไปทำโจ๊กให้กินหน่อยเร็วจะได้กินยา   ยาลดไข้อยู่ในกล่องยาสามัญที่วางอยู่ตรงตู้หนังสือนะ”

“กูทำโจ๊กไม่เป็นว่ะ”  โอ๊ตตอบพร้อมกับท่าทางเขิน  เกาหัวแกรกๆ “เดี๋ยวไปเอายามาให้กินก่อนแล้วกัน”

“ไม่ได้ๆ”  ผมร้องห้ามคนที่กำลังจะเดินออกจากห้อง  “ต้องกินข้าวรองท้องก่อนกินยาสิ  ทำไม่เป็นก็ต้องเป็น  มันมีโจ๊กซองอยู่ในตู้บนซิงค์ล้างจานนะ  เสียบกาน้ำร้อน  เทผงโจ๊กลงไปในถ้วย  รอให้น้ำเดือดแล้วก็กดน้ำใส่ให้พอดี  คนๆสักสองนาทีก็ได้แล้ว”

“ง่ายขนาดนั้นหรอว่ะ กูไม่เคยทำว่ะ”  น้องมันถามอย่างประหลาดใจ

“เออ  ลองทำดู  วิธีทำก็อยู่ข้างซอง  ไปเสียบกาน้ำร้อนนะ  แล้วก็ไปเอากล่องมาสามัญมาให้เราก่อน”

ที่ให้เอามาทั้งกล่องเพราะถ้าให้ไปเอาแค่ยาลดไข้ก็คงจะไม่รู้อีกล่ะครับ  ว่าอันไหน  แผงไหน ยี่ห้อไหน  ให้เอามาทั้งกล่องนี่ล่ะ  เดี๋ยวผมเลือกเอง

“มาแล้วครับโจ๊กร้อนๆ ฝีมือกูเอง”

“ไปเอาน้ำมานะ  น้ำไม่เย็น  เอามาสองแก้ว”  ผมสั่งคนที่พึ่งเอาถ้วยโจ๊กมาวางไว้โต๊ะข้างเตียงให้ไปเอาน้ำ

ผมขยับตัวลุกขึ้นเอาหมอนพิงไว้กับหัวเตียง  ให้นั่งพิงอีกที   ก่อนจะหยิบถ้วยโจ๊กมา  ตักคำแรกกำลังจะเข้าปาก  ก็สะดุ้งขึ้นเพราะโอ๊ตมันโวยวาย

“เฮ้ย  บีนมึงทำอะไรนั่น” 

“ก็กินโจ๊กไง  มีอะไร”

“มึงไม่ให้กูป้อนหรอกหรอ”

“ไม่เป็นไร  พอมีแรง”

“แต่ว่ามันร้อนนะมึง  เอามาให้กูเป่าให้ดีกว่า  มาๆ”

“ไม่ๆ กินเองได้  เป่าเองได้  นี่ไง  พู่ พู่”  ผมเป่าโจ๊กให้โอ๊ตดู  ก่อนจะก้มหน้าก้มตารีบกินให้เสร็จ  เพราะกินอะไรตอนเป็นไข้นี่ไม่อร่อยหรอกครับ 

“ขอน้ำๆ”

“เดี๋ยวป้อนนะ”

“ป้อนยังไง  ไม่มีหลอด  เดี๋ยวก็หกเลอะหมด”

ผมแย่งแก้วน้ำที่อยู่ในมือโอ๊ตมาดื่ม  โอ๊ตมันดูแปลกๆไปนะหรือปกติก็แบบนี้

“ไม่ต้องดูแลตอบแทนขนาดนี้ก็ได้โอ๊ต”

“ไม่ได้ตอบแทนเลย นี่กูเต็มใจต่างหากล่ะ” น้องมันพูดก่อนเอาหลังมือมาแตะหน้าผากผม

“อืม  เดี๋ยวตอนเย็นก็หาย” ผมบอกโอ๊ตไป

“ยาสองเม็ดนี้ใช่ไหม  อ้าปากสิ”

“อ่ะ”  สุดท้ายก็ต้องยอมครับ  ไม่ได้ป้อนข้าว  ก็หันมาป้อนยาแทน  พอยาสองเม็ดเข้าปากผมก็รีบดื่มน้ำทันที

“เก่งจังมึง  กูเกลียดยาที่สุดเลย  ปากเลอะน้ำว่ะ”  พูดจบประโยคโอ๊ตก็เอามือมาเช็ดน้ำที่เลอะขอบปากผม “นอนๆ เดี๋ยวบ่ายๆกูปลุกอีกที”

โอ๊ตพูดพร้อมกับประคองตัวผมที่นั่งพิงอยู่ให้กลับไปอยู่ในท่านอน  ก่อนจะเอามือมาลูบหัวผมเชิงกล่อมให้นอน  สบายดีแฮะมีคนมาลูบหัว





ติ๊ง ติ๊ง   




ติ๊ง ติ๊ง



ตายแล้ว  อย่าบอกนะว่ามาจริงๆ


“ใครมาวะ  เดี๋ยวโอ๊ตไปเปิดให้”

“สงสัยบอยมา”  พอผมพูดเสร็จ  โอ๊ตที่กำลังจะเดินออกจากห้องนอนก็ชะงัก  แล้วเดินกลับมาหยิบหมอนหนุนใบที่อยู่อีกฝั่งของเตียงถือออกไปด้วย


“อ้าว   มาอยู่นี่ได้ไงวะ”


“พอดีเมื่อคืนกูเมาว่ะ  ไม่กล้ากลับบ้าน  เลยมานอนห้องบีนมัน  ดีที่มันใจดีให้นอนโซฟา”

สองคนนั้นพูดคุยกันเล็กน้อย  อ๋อที่ถือหมอนอีกใบไปนี่เอาไปวางไว้ที่โซฟาห้องรับแขกแน่เลย  สงสัยโอ๊ตกลัวบอยเข้าใจผิด  ฉลาดเหมือนกันนะ

“ไปไงบ้างเอ่ย  ที่ไม่อยากให้บอยมานี่เพราะว่ามีคนดูแลอยู่แล้วใช่ไหม”  เด็กบอยเดินมานั่งข้างเตียงพร้อมกับเอาหลังมือมาวัดไข้

“เปล่าซะหน่อย  เดี๋ยวโอ๊ตมันก็กลับแล้ว  ที่ไม่ให้มาก็เพราะกลัวติดไข้ต่างหาก”

“จะติดได้ยังไงบอยแข็งแรงขนาดนี้   มาๆเดี๋ยวนอนด้วย  เมื่อเช้าตื่นเช้าไปหน่อยเริ่มง่วงแล้ว”  พูดจบได้แปปเดียว บอยมันก็ถอดกางเกงยีนส์ที่ใส่มาออก   กระโดดขึ้นเตียงแล้วเข้ามานอนกอดผมไว้จากทางด้านหลัง

“นอนนะคนดี  หันหน้ามาหาบอยเร็ว  เดี๋ยวบอยลูบหลังให้”  ผมก็เริ่มง่วงครับเลยทำตามคำสั่งอย่างว่าง่าย  หันหน้าไปซบที่อกบอย  แล้วบอยก็เอื้อมมือมาดึงเสื้อผมขึ้นพร้อมกับลูบหลังเบาๆ

“เอ่อ  เดี๋ยวกูกลับก่อนนะ  บีน  บอย”  อุ้ย  ลืมว่าโอ๊ตยังอยู่

“เออ  กลับดีๆ”

ผมหันไปมองโอ๊ตที่มองมาทางผม  ทำไมมันดูเศร้าๆวะ   อาจจะเห็นบอยนอนกอดผมแล้วนึกถึงกี้หรือเปล่า


...


ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์สำหรับการปิดเทอมเล็ก  ผมยืนถือถุงของใช้ส่วนตัวที่พึ่งซื้อเข้ามาจากซูปเปอร์มาเก็ตกับสะพายกระเป๋าเป้ที่ใส่เสื้อผ้าสองชุดอยู่ในลิฟต์เพราะว่าเมื่อสองวันก่อน  ผมกลับไปนอนที่บ้านครับ  แม่ผมก็ปิดเทอมเช่นกัน  เพราะแกเป็นครูสอนที่โรงเรียนมัธยมแถวๆบ้านครับ  ซึ่งก็เป็นโรงเรียนเดียวกับที่น้องผมเรียนอยู่  สองคนนั้นเลยไปไหนมาไหนด้วยกันทุกวัน  ไอ้บีมน้องชายผมออกจะสนิทกับแม่มากกว่าผมด้วยซ้ำ  ปีนี้แม่ก็เน้นการเรียนลูกชายคนเล็กหนักหน่อยเพราะว่า ม.๖  แล้ว  อีกเดี๋ยวก็จะมีสอบโน่นนี่นั่นเยอะแยะไปหมด

ระหว่างที่นั่งแท็กซี่มาจากบ้าน  ผมก็โดนล็อคคิวโดยโอ๊ตทันที  เพราะทางนั้นโทรมาบอกว่าวันนี้กลุ่มเพื่อนๆจะไปนั่งชิลกันที่ร้านเหล้าบรรยากาศดีๆ จะปฏิเสธก็ไม่ได้ครับ  เพราะผมก็อยากตามไปดูเด็กๆเหมือนกัน  กลัวว่าจะเมาปลิ้นเหมือนครั้งก่อน  เพื่อให้แน่ใจผมเลยโทรไปปรึกษาเจ้านายอีกรอบ   คุณบิ๊กแกก็คิดเหมือนผมยังไงช่วงนี้ก็ปิดเทอม  ถ้าเด็กมันอยากไปนานๆครั้งก็ให้ไปได้  แต่ก็ต้องดูแลไม่ให้ดื่มมากไปเพราะวันนี้น้องคงเอารถไปเอง  พร้อมกำชับว่าถ้าดึกมากก็ให้นอนที่คอนโดผมก่อน  ไม่ต้องให้น้องกลับไปบ้านก็ได้

เวลาสามทุ่มพวกเราก็มานั่งอยู่ร้านเหล้าครับ   บรรยากาศดีจริงๆครับ  ดูไม่หรูมาก   คนไม่เยอะไม่น้อยจนเกินไป  รู้สึกดีกว่าตอนไปผับเสียอีก 

ถึงปุ๊ปพวกเด็กๆก็สั่งเครื่องดื่มปั๊ป  แหมคล่องแคล่วดีจริงๆ  เสียดายที่ผมชวนบอยมาด้วยแต่บอยไม่ได้มาด้วยเพราะว่ากลับไปบ้านที่ต่างจังหวัดอีกสองสามวันถึงกลับอีกที

“อ้าว  พวกมึงกูชงให้ครบแล้ว  ยกๆชนๆ”  ไอ้อ๊อฟที่วันนี้นานๆมาเที่ยวแบบไม่เครียดเพราะพ่อแม่มันไม่อยู่บ้าน  จะกลับบ้านหรือนอนห้องเพื่อนก็ได้ 

“บีน  มึงแดกได้นะ  อ๊อฟมึงชงให้บีนมันเข้มหรือเปล่าวะ” ไบท์มันถามอ๊อฟที่เป็นคนชงเหล้าให้

“แก้วไอ้บีนอ่อนๆ ชนๆ  โอ๊ตชนมึง” 

แกรก 

แกรก   

แกรก    เสียงชนแก้วครั้งแล้วครั้งเล่า  ผมที่ไม่ได้ดื่มบ่อย  ตอนนี้ตัวเริ่มร้อนวูบวาบแล้วครับ  เหงื่อที่ชอบออกที่รักแร้ก็ไหลหยดไล่ลงไปจนถึงสะโพกแล้ว

“บีน  หน้ามึงแดงแล้วว่ะ  เลิกกินๆ”  โอ๊ตห้ามผมขณะที่ผมกำลังจะยกหมดแก้ว  แก้วนี้น่าจะแก้วที่สิบได้แล้วมั้ง

“อืม  แก้วนี้แก้วสุดท้าย ”  ผมยกจนหมดแก้ว  แล้วตักยำเข้าปากอีกสองช้อนเข้าปากไปเป็นกับแกล้ม  เฮ้อ  สบายดีจริงๆ ผมเอนไปกับเก้าอี้ที่นั่งที่มีพนักพิง  พร้อมกับเอาแขนวางไว้กับที่ท้าวแขน    โต๊ะที่เรานั่งเป็นม้านั่งกับเก้าอี้ยาวสองข้าง    ผมกับโอ๊ตนั่งฝั่งเดียวกัน  อีกฝั่งก็ไบท์กับอ๊อฟ

ช่วงสี่ทุ่มกว่าๆก็มีวงดนตรีมาเปลี่ยนครับ  วงนี้จะเน้นสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นกว่าวงก่อนที่ดูจะเรียบๆง่ายๆ พวกเราจะได้นั่งโยกตามเพลง  ตามจังหวะที่โจ๊ะๆ มันๆ ร็อกๆบ้าง สนุกดีเหมือนกัน  บางเพลงพอถึงท่อนฮุก  เราก็นัดกันลุกขึ้นเต้น ฮ่าๆ มันดีครับ  แบบนี้สนุกกว่าในผับอีกหลายเท่า  สาวๆแถวๆโต๊ะเราก็มองไบท์กับโอ๊ตกันตาเป็นมัน  ดีนะที่ไอ้อ๊อฟมันไม่หล่อ หุ่นมันออกอวบๆระยะสุดท้ายได้  ผมเลยมีเพื่อน

“มึงไม่ต้องดึงบีนไปโอบขนาดนั้นก็ได้มั้งโอ๊ต  เกรงใจไอ้บอยมันบ้างสิวะ  ถึงมันจะไม่มาก็เถอะ”

“ไม่ได้ๆ มันไม่มากูยิ่งต้องดู  ตอนนี้ไม่กอดไม่ได้แล้วว่ะ  ดูท่าจะไม่ปลอดภัย”

โอ๊ตตอบกลับไปก่อนจะกระชับมือที่โอบอยู่ที่ไหล่ผมให้แน่นขึ้น  ไม่ปลอดภัยตรงไหนวะ  ผมคิดอยู่ในใจหรือว่าโต๊ะถัดไปนี่นะหรือ  โอ๊ตมันก็คงคิดเหมือนกับผมครับว่ามีคนมองผมอยู่  ก็คงจริง  โต๊ะข้างๆนี่สงสัยพึ่งเลิกจากทำงานเพราะเห็นยังใส่กางเกงสแล็คกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวแต่พับแขนขึ้นซึ่งหนึ่งในโต๊ะนั้นคือก็มีคนนั่งมองผมอยู่จริงๆ ตั้งแต่เรามาถึงแล้ว  โดนมองอย่างนั้นผมก็ไม่ได้ไร้เดียงสาหรอกครับว่าเขาชอบ  แต่ก็ไม่เห็นจำเป็นว่าต้องดึงผมเข้าไปโอบ

“น้องคะ  เพื่อนพี่ฝากให้มีขอไลน์ค่ะ  เฟสก็ได้หรือไอจีก็ได้”

คงไม่ใช่ผมหรอกครับที่ผู้หญิงจะมาขอเฟสขอไอจี  แต่เป็นโอ๊ตต่างหาก  ผมว่าผู้หญิงคนนี้อยากได้เองแต่เอาเพื่อนมาอ้างมากกว่า 

“บีน เขยิบไปนิดสิบีน  ให้พี่เขานั่งด้วย” 

โอ๊ตกระซิบบอกกับผม  เอาจนได้  ดูท่าเธอคนนี้คงไม่ธรรมดา  หาเรื่องนั่งคุยจนได้
ทั้งอ้างเรื่องน้องชายที่จะมาเข้าเรียนโรงเรียนเดียวกับพวกเรา  เรื่องเที่ยวตอนปิดเทอม   หล่อนก็เล่าเม้าซะเมามันอย่างกับว่ามาด้วยกัน  นี่ไม่คิดจะกลับไปที่โต๊ะเลยใช่ไหมวะ

“ไปเยี่ยวก่อนนะ”  ผมบอกกับไบท์ที่นั่งฝั่งตรงข้าม  โดยที่โอ๊ตก็ไม่ได้สนใจผมเลย  มัวแต่คุยกับพี่สาวที่หิวเด็กมัธยม

เฮ้อ  ผมทำธุระเสร็จก็ออกมาล้างหน้าล้างตาสักหน่อย

“มากับเพื่อนหรอครับตัวเล็ก” หืมไหนใครตัวเล็ก ผมสูงตั้งร้อยเจ็ดสิบนะ

ผมหันมองหน้าคนที่ทักผม  แล้วยกมือใช้นิ้วชี้ชี้เข้าตัวเองเป็นเชิงถามว่า  จะคุยกับผมหรอ

“เรานั่นแหละ  ออกมาจากโต๊ะนี่เบื่อหรอครับ” พี่โต๊ะข้างๆที่นั่งมองผมตั้งแต่เข้ามาในร้านนั่นแหละครับ

“มาฉี่ครับ”  ผมตอบแค่นั้นก็เดินไปอีกฝั่งซึ่งอยู่ตรงข้างกับห้องน้ำ  เป็นสวนเล็กเอาไว้นั่งพักครับ  กะว่าจะนั่งตรงนี้สักพักแล้วค่อยกลับไปโต๊ะ

เฮ้อ  เอายังไงดีครับ  ที่คนที่ทักผมเมื่อกี้เดินมาทางนี้แล้ว  ตรงนี้ไม่มีคนด้วยสิ 

ผมเลยตัดสินใจเดินสวนออกไป  แต่ออกไปไม่ได้ครับเพราะพี่คนนั้นเขายืนกันทางไว้อยู่

“จะไปไหนตัวเล็ก  นั่งคุยกันก่อนสิครับ”  ผมเลยหลบไปทางขวาก็มันก็ตามมา  หลบไปทางซ้ายก็ตามมากั้นไว้ “เถอะนะ  คุยเดี๋ยวเดียว  พี่ไม่ทำอะไรหรอก”  ยอมมัน  ผมเลยกลับไปนั่งที่เดิม  มันก็มานั่งข้างๆ

“เราชื่ออะไร”

“บีนครับ” ผมตอบนะแต่ไม่ได้มองหน้ามัน 

“พี่ชื่อกอล์ฟนะครับ” ใครถามวะ  “ทำไมตัวหอมจัง  ขอดมหน่อยนะ”  ไม่ทันครับ  มันรวบตัวผมเข้าไปกอดแล้วใช้จมูกไซร้คออย่างรวดเร็ว  ผมตกใจและดิ้นแรงๆให้ตัวหลุดจากมือมัน  แต่ไม่หลุดครับมันยังจับแขนผมไว้แล้วดึงตัวผมเข้าไปใกล้ๆ

นี่คือข้อเสียของผมครับ  เวลาเกิดอะไรแบบนี้ผมไม่ค่อยกล้าต่อยหรือท้าตีคนอื่นสักเท่าไหร่  จำขึ้นใจมาตั้งแต่ตอนเด็กๆเพราะเคยต่อยกับเพื่อนแล้วแพ้  เลือดกำเดาไหลเป็นทางเลย  เลยทำให้ผมกลัวไม่กล้าต่อยคนอื่น  กลัวฝ่ายตรงข้ามจะสวนกลับมา  ยกเว้นแต่ว่าจะโกรธจริงๆ 

“ปล่อยเถอะพี่  เพื่อนผมรออยู่”

“อยู่เล่นกับพี่ก่อนสิครับ ตัวเล็ก  พี่ขอนะ  เดี๋ยวพี่ให้เล่นลูกกอล์ฟหรือจะจับไม้ตีกอล์ฟก็ได้” ผมดึงมือผมไปแตะที่เป้ามัน  ไอ้ทุเรศเอ้ย  ผมเอายังไงดี

“เฮ้ยพี่อย่าดึงสิ  จะไปไหน  ปล่อยสิวะ”  มันดึงผมไปหลังต้นไม้ที่อยู่ลึกไปอีก 

“พี่ขอเถอะนะ  แปปเดียว” ว่าแล้วมันก็กอดผม  พร้อมกับใช้มือสองข้างล็อคหน้าผมเตรียมที่จะจูบ

ก่อนที่มันจะชะงักแล้วหันหลังกลับไป  เพราะมีความผิดปกติในร้าน

เสียงดนตรีหยุดลง


เพล้ง


ว้าย   


ผมได้จังหวะที่มันยังสนใจว่าในร้านมีอะไรวิ่งหนีออกมา

“เฮ้ย” มันอุทานเมื่อผมวิ่งออกจากที่นั่น

หวังว่าคงไม่ใช่โต๊ะผมนะที่มีเรื่องทะเลาะวิวาท



ผมวิ่งไปทางโต๊ะที่ผมนั่ง  พร้อมกับเห็นทั้งไทยมุง  หวังว่าเพื่อนผมจะเป็นไทยมุงนะ  อย่าให้เป็นคนที่เขามามุงอีกทีเลย



คงใช่แล้วล่ะ  โต๊ะผมจริงๆ



“จำไว้นะมึงนี่แค่สั่งสอน  เป็นแค่เด็กมัธยม   อย่าเสือกมาลองดี  นี่เมียกู  อย่าคิดมาจีบมาแตะต้อง”

ผมฝ่าวงล้อมเข้าไปก็เห็นไบท์กับอ๊อฟช่วยกันหิ้วปีกโอ๊ตลุกขึ้น  ใบหน้ามีร่องรอยของการถูกต่อยที่ตาขวาและแก้มด้านซ้าย ส่วนคางเป็นรอยข่วนมีเลือดออกนิดๆ ผมมองไปที่คู่กรณีสงสัยเป็นขาใหญ่ของแถวนี้  มีพวกเยอะเชียว  ดีนะมันไม่รุมตะลุมบอน  แต่เมียมันนี่สิ  ก็คืออีนังพี่สาวคนที่มานั่งด้วยเมื่อกี้นี่นา  แต่เมียมันมาหาพวกผมก่อนนะ

“แต่พี่สาวคนนี้มาหาเพื่อนผมก่อนนะครับ  มาขอเฟสเพื่อนผมก่อน เพื่อนผมนั่งอยู่เฉยๆ” ผมพูดออกไปขณะที่พวกมันกำลังจะหันหลังกลับ  ผมคิดว่าหล่อนต้องแหลให้ผัวตัวเองฟังแน่ๆว่าโอ๊ตไปเกาะแกะมันก่อน

“แล้วนี่มึงยุ่งอะไรด้วยอิตุ๊ด” ปึก มันขว้างขวดน้ำโค้กขนาดเล็กใส่ตัวผมแล้วเดินเชิ่ดหน้าออกจากร้านไปกับผัวตัวเองและลูกน้อง  โดนลูกหลงไปด้วยเลย  ขวดโค๊กนี่มันเป็นขวดแก้วเสียด้วยดีนะมันไม่แตก

“เป็นอะไรมากไหมโอ๊ต” โอ๊ตมันนั่งลงกับเก้าอี้  ดูสีหน้าก็รู้ว่าเจ็บหน้า

“จุกตรงท้องว่ะ  ต่อยแรงชิบหาย  นี่ขนาดกูมีกล้ามนะ” โอ๊ตตอบผมขำๆ เหมือนกับว่าเป็นเรื่องเล่นๆ

“แล้วมันเป็นมายังไงไบท์  ทำไมเขาถึงมาต่อย” 

ผมถามไบท์ไป  มันก็เล่าให้ฟังว่า  ระหว่างที่ผมไปเข้าห้องน้ำ  พวกเราก็นั่งคุยกันไปเรื่อยๆอยู่ดีๆพี่สาวคนนั้นจะบอกว่าเวียนหัวแล้วขอซบไปที่ไหล่ของโอ๊ต  ซึ่งแฟนพี่เขาเดินมาพอดี  ก็เลยเกิดทะเลาะกัน  ทางเราพยายามจะบอกว่าผู้หญิงเป็นฝ่ายเข้ามาก่อน  แต่ทางนั้นไม่เชื่อ  โอ๊ตเลยโดนต่อย

“อย่างนั้นก็กลับเถอะ  โต๊ะเละไปหมดแล้ว”  ผมบอกกับเด็กๆ

“ยังกินไม่สุดเลยว่ะ”

“ก็เก็บเหล้าที่เหลือไปด้วย  เดี๋ยวบีนไปเคลียร์กับเจ้าของร้านให้  พวกนายไปรอที่รถก่อน”

“ไม่เป็นไรบีน  เดี๋ยวกูไปจ่ายเอง ” ไบท์บอกกับผมอย่างเกรงใจ

“ไม่ได้บอกว่าจะจ่ายเอง  เดี๋ยวเราจะไปจ่ายก่อนแล้วค่อยมาหารกัน  ไปรอที่รถไป”

ผมเดินไปที่เคาเตอร์จ่ายเงินที่ร้าน  ก็เจอกับพี่ผู้หญิงที่นั่งอยู่คงเป็นผู้จัดการร้าน

“พี่ครับ  พวกผมจะกลับแล้ว  ขอคิดตังค์เลยแล้วกันครับ”

ผมจ่ายเงินเสร็จ   ก่อนกลับเลยเอ่ยปากขอโทษทางร้านสักหน่อยแล้วกัน

“พี่ขอโทษแทนเพื่อนผมด้วยนะครับที่ทำให้ร้านวุ่นวาย ”

“จ้า  ไม่เป็นไรพวกเรายังเด็กอยู่  ทีหลังระวังตัวให้ดีนะ เดี๋ยวนี้นักเลงมันเยอะเราไม่หาเรื่องก่อนมันก็มาหาเรื่องเราก่อน  ดีนะที่ไม่รุนแรงมาก”


ผมเดินกลับไปที่รถ   เด็กๆก็ติดเครื่องรถไว้รออยู่  จึงเปิดประตูเข้าไปนั่งเบาะข้างคนขับ  อ้าวรอบนี้ไบท์ขับ  ส่วนรถนั้นจริงๆเป็นของโอ๊ต


“จะกลับกันเลยหรอวะ  เหล้ายังเหลือนะเว้ย” อ๊อฟบ่นขณะรถกำลังจะออกตัวจากร้าน

“เออจริง  ไปต่อกันไหมบีน” ไบท์ถามผม

“ไปต่อร้านอื่นหรอ  ดูหน้าเพื่อนด้วย  เละแล้วตอนนี้  ไปทำแผลก่อนดีกว่า” ตอบบอกไบท์กับอ๊อฟไป

“ไม่น่ามาซวยเลยว่ะ  กูขอโทษพวกมึงด้วยแล้วกัน” โอ๊ตพูดแบบรู้สึกผิด  ซึ่งมันไม่ใช่ความผิดน้องมันเลย

“ไม่ใช่ความผิดมึงเลย  ไม่ต้องมาขอโทษ” ไบท์บอกกับโอ๊ต

“ใช่” อ๊อฟช่วยยืนยันอีกคน

“เอาอย่างนี้  ไปห้องบีนดีกว่าถ้าจะไปกินต่อ  เดี๋ยวไปซื้อโซดาน้ำแข็งแถวๆหอ  โอ๊ตจะได้ทำแผลด้วย ตกลงไหมทุกคน”

“เออความคิดดีว่ะ ไปๆ ”

“อย่างนั้นคืนนี้พวกกูขอนอนห้องมึงนะบีน” ไบท์บอกกับผม

“ตามสบายเลย”  ผมมองโอ๊ตที่เงียบไปผ่านกระจกมองหลัง  ฝ่ายนั้นได้แต่อมยิ้มเล็กๆ แล้วยักคิ้วให้ผม 

..........................................................................................


“มาทำแผลก่อนเลยโอ๊ต  เอาน้ำแข็งมาด้วยสองสามก้อน  ตามมา”

ผมบอกโอ๊ตให้ตามผมมาที่ห้องนอนก่อนจะให้น้องมันหยิบน้ำแข็งมาสองสามก้อน  แผลช้ำต้องเอาน้ำแข็งประคบไว้ก่อน   ผมเอาผ้าบางๆให้โอ๊ตห่อน้ำแข็งไว้แล้วนั่งประคบอยู่ในห้องน้ำ  ก่อนที่จะลืมว่าตัวเองยังไม่ได้หยิบกล่องยาเข้ามาด้วยเลยออกไปเอากล่องยา  ก็เห็นอ๊อฟกับไบท์นิ่งกินเหล้ากันต่อแล้ว  พร้อมดูบอลไปด้วยอย่างสบายอารมณ์

“เฮ้ย  ยาแดงหรอวะ  ไม่เอาว่ะกลัวแสบ”

“แสบนิดเดียวไม่ตายหรอกโอ๊ต”

ผมล้างมือก่อนไปหยิบยาแดงเปิดฝาออกแล้วหยดใส่สำลี  เอื้อมมือที่มีสำลีติดน้ำยาแดงไปว่าจะซับเบาๆที่คางน้องมัน  แต่โอ๊ตกลับเบี่ยงหน้าออก  ดื้อจริงๆ

“ตรงคางมันเป็นแผลต้องทา  มันมีเชื้อโรค  เร็วๆยื่นหน้ามือ”  น้องมันยื่นหน้ามาหา  ผมก็กดสำลีลงไปเบาก่อนอีกฝ่ายก็ส่งเสียงซี๊ดเกินจริงไปสักนิด

“ก็แค่นี้”

“เสร็จแล้วหรอ”

“เดี๋ยว  ทายาแก้ฟกช้ำก่อน”  ผมบีบยาออกมาจากหลอดก่อนจะแตะนิ้วมือที่มียานวดไปที่แก้มด้านซ้ายเบาๆ ก่อนจะย้ายไปทาที่ขอบตาด้านขวาอย่างระวังเพราะกลัวเข้าตา

“เสร็จแล้ว   ป่ะออกไปกัน   น้ำแข็งก็ประคบตลอดนะ  ห้ามกดแรง  ประคบแบบนี้เดี๋ยวทำให้ดู”

ผมแย่งที่ประคบมาก่อนจะสาธิตวิธีประคบไปที่แก้มด้านซ้าย 

“มึงนี่ใจดีจริงๆ  น่ารักว่ะ”

“เออรู้แล้ว  ป่ะ  ออกไปกัน” ผมลุกขึ้นเตรียมจะเดินออกไป 

“อยากได้มึงมาดูแลกูจัง”

“ก็ดูแลอยู่ทุกวันนี่ไง  ไปๆอยากกินขนมแล้ว  ซื้อขึ้นมาเยอะเชียว” ผมรู้ครับว่าน้องหมายความว่าอย่างไร  แต่ก็แกล้งเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไป

“เดี๋ยวสิ  ขอตอบแทนมึงก่อนนะ” โอ๊ตดึงผมเข้าไปกอด

“ตอบแทนด้วยการกอดนี่นะ”

“ไม่ใช่ซะหน่อย  หอมแก้มต่างหาก  มึงน่ารักจริงๆ กูรักมึงนะบีน” ฟอด พูดจบก็หอมตอนนั้นเลย  แล้วเดินออกไปจากห้องน้ำทันที

ผมยืนนิ่งมองเศษผ้าที่ห่อน้ำแข็ง  ผมตกใจกับการกระทำของโอ๊ตจนทำน้ำแข็งตกพื้นเลยหรือนี่  เด็กมันคงรักเพื่อนจริงๆมั้ง   คงไม่คิดอะไรเกินเลยหรอก  ตอนนี้คือพยายามคิดไปในมทางที่ดีก่อน

เดินออกไปที่ห้องรับแขกเด็กก็นั่งจิบเหล้ากันพร้อมกับดูบอลไปเพลินๆ

“แล้วนี่ต่อไปเราจะไปเที่ยวไหนดีวะ  ถ้าเบื่อๆ ไปตรงนั้นก็ไม่ได้  ไปอีกที่ก็มีปัญหา  กูเริ่มเบื่อแล้วว่ะ”  อ๊อฟมันพูดขึ้นแบบเบื่อๆ

“ก็เที่ยวตอนกลางวันสิวะ” ไบท์บอก

“เบื่อกรุงเทพแล้วว่ะ” โอ๊ตพูดก่อนหยิบถั่วเข้าปากไป  เคี้ยวไหวหรือนั่น

หรือว่าเอาแบบนี้ดีไหมนะ 


ผมคิดอยู่ในใจพร้อมเสนอความคิดเห็นออกไป




“ไปเที่ยวทะเลกันไหม”





ผมพูดออกไปด้วยตาที่เป็นประกาย 





....................................................................................


บีนกำลังกุ๊กกิ๊กกับบอย  อยู่ๆโอ๊ตมาจากไหนไม่รู้  กลับมารุกหนักซะงั้น

บีนปวดหัว  บีนไม่ได้พักเลย


..........................................


สวัสดีทุกๆคน  วันนี้มาดึก 
หวังว่าทุกคนจะยังสนุกสนานกับเรื่องราวของบีนและผองเพื่อนนะ ฮ่าๆ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านทุกคนนะ  และผู้ตอบกลับแสดงความคิดเห็นด้วยเด้อ o13
 
เจอกันตอนที่  ๑๔ ไปเที่ยวทะเลกันครับ 

บ๊าย บายยยยยยยยยย

 :bye2:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
เฮฮฮฮฮฮฮฮ ทะเลลลลลลลล

น่าจะมีบอยติดไปด้วย โอ๊ตจะรุกบีนต่อหน้าบอยไหมเนี่ย??

ตกลงใครพระเอกกกกกกก (ชอบบอยนะ เด็กมันน่ารัก  :-[)

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
แหม. บีนนี่น่ารักน่าฟัดตอดเวลา.
หนุ่มๆเล็กหนุ่มใหญ่มะรุมมะตุ้มนางตลอดๆ. บอยเอ๊ยช้าอดทำคะแนนนะ
รอสวีทที่ทะเลจ้า :mew1:

ออฟไลน์ ลิงน้อยสุดเอ๋อ

  • ถึงจะเหงา แต่ไม่ได้ง่าย
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1993
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-2
    • Fanpage
ตั้งแต่แอ๊บเด็ก เสน่ห์แรงเลยน่ะบีน
บอยหรือโอ๊ตดีล่ะ

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
 :confuse:  เอาล่ะสิทีนี้พี่บีนคนสวยเส่ห์แรงจนโอ๊ตมาตกหลุมรักอีกคนแล้ว  :katai2-1:
ตอนแรกก็เชียร์โอ๊ตบีน แต่พอรู้ว่าโอ๊ตชอบกี้ ก็เชียร์บอยบีนเชียร์มาจนถึงตอนนี้ :กอด1:
แล้วนี่โอ๊ตมาตกหลุมรักบีนอีกจะทำไงล่ะทีนี้  3P เลยไหม :o11:

ออฟไลน์ NuTonKaw

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 532
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-1
แอ๊บเด็กเลยจะได้กินเด็กละสิ อิอิ :hao3:

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

ออฟไลน์ jamesnaka

  • วิหคเหมันต์
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 152
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
จากใจสั้นๆ สนุกค่ะ  o13

รอตอนต่อไปจ้า  :pig4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
บีนนี้เสน่ห์แรงมั่กกก :hao7: สนุกค่ะชอบมากๆ  :impress2: อยากอ่านต่อเร็วๆ  :katai2-1:

ออฟไลน์ ♥lvl♀‘O’Deal2♥

  • หานิยายถูกใจยากจัง!
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +176/-4

ออฟไลน์ ลูกกุญแจ

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 337
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +28/-2
 :katai4:



ตอนที่ ๑๔

“ไปเที่ยวทะเลกันไหม”

ผมพูดออกไปด้วยตาที่เป็นประกาย  เด็กสามคนทำหน้าครุ่นคิดเหมือนจะไปดีไหมวะ

ก่อนที่อ๊อฟมันจะพูดขึ้นว่า

“ไปที่ไหนวะ พัทยา บางแสน เกาะล้าน เกาะเสม็ด  กูก็เคยไปมาแล้ว” 

“อืมใช่หัวหินก็ไปมาแล้ว” ไบท์พูดขึ้นอีกคน

“หรือเกาะสมุย เกาะพงันกูไปมาหมดแล้วนะบีน” อ้าวโอ๊ตก็ไปมาครบแล้วหรอ

“อ้าวจริงหรอ” เอายังไงดี  ช่วงนี้ผมอยากไปทะเลด้วยสิ ใช่แล้วถ้าไปอ่าวไทยครบแล้วก็ไปอีกฝั่งสิ “ก็ไปอีกฝั่งสิ  พวกนายเคยไปกันยัง”

ผมรีบไปเปิดคอมหาข้อมูลทะเลฝั่งอันดามัน   ส่วนใหญ่สามคนนั้นเคยไปเล่นทะเลฝั่งอันดามันมาแล้วครับแต่ยังไม่เคยไปเที่ยวเกาะกัน  เลยช่วยกันหาข้อมูลเกี่ยวกับเกาะที่น่าสนใจ  เลยได้จุดหมายที่เราจะไปกันนั่นก็คือ   เกาะตาชัยที่พึ่งเปิดได้ไม่นานกับเกาะสิมิลัน 

แต่ถ้าจะข้ามไปเที่ยวก็ต้องไปกับทางบริษัททัวร์เท่านั้น  ผมจึงได้รับหน้าที่เป็นคนติดต่อสอบถามข้อมูลกับทางบริษัททัวร์เกี่ยวกับทริปท่องเที่ยว  ที่พัก ค่าใช้จ่าย

ก่อนจะจองทัวร์ก็เป็นที่แน่นอนว่าผมต้องโทรไปชวนเด็กบอยให้ไปด้วย   ซึ่งสามคนนั้นก็อนุญาตผมแล้วว่าให้บอยไปด้วยได้   ผมคุยกับบอยเรื่องไปเที่ยว  เด็กบอยมันก็เสนอว่าให้ไอ้วิทย์เพื่อนสนิทมันไปด้วยได้ไหม  เพราะมันชอบถ่ายรูปอีกทั้งอยากพามันไปเที่ยวบ้าง  เนื่องจากเทอมที่ผ่านมาไอ้วิทย์มันดูตั้งใจเรียนเป็นพิเศษเลยอยากให้มันพักบ้าง  ผมก็เออออไป  ดีเหมือนกันจะได้มีเพื่อนเยอะๆแถมยังจะมีคนถ่ายรูปให้ด้วย

สรุปผมกับบอยเป็นคนจัดแจงจองทัวน์สำหรับเที่ยวไว้แล้วเรียบร้อย  อีกสามวันเราจะออกไปเที่ยวกัน  ผมได้จองทัวน์เป็นแบบวันเดย์ทริปไปเที่ยวเกาะแบบไปเช้าเย็นกลับ  สี่วันสามคืน  วันแรกลงเครื่องที่ภูเก็ตตอนบ่ายๆ แล้วไปพักที่เขาหลัก  ก่อนที่เช้าวันรุ่งขึ้นเราจะไปเกาะสิมิลันกัน   ส่วนอีกวันไปเกาะตาชัยแล้วกลับมาบนฝั่ง แล้ววันสุดท้ายเป็นวันเดินทางกลับ  แต่ทางเพื่อนๆ ก็มีการเกริ่นๆกันไว้ก่อนแล้วว่าอาจจะเที่ยวภูเก็ตต่ออีกสักสองสามวันแล้วค่อยกลับกัน

ผมจัดการจองทัวร์  โอนเงิน ส่งหลักฐานใบเสร็จให้ทางทัวร์เป็นที่เรียบร้อย  ขั้นตอนต่อมาก็การซื้อของใช้ส่วนตัวสำหรับการไปเที่ยว  ทั้งกางเกงเล่นน้ำ  เสื้อสวยๆสำหรับ  แว่นตา รองเท้า ครีมกันแดด สมัยก่อนถ้าจะไปกันแต่ละทีผมคงไม่ซื้อเยอะขนาดนี้หรอกครับ  แต่ช่วงนี้มีเงินใช้เองแล้วก็ขอให้ให้เต็มที่แล้วกัน  ส่วนเก็บก็เก็บส่วนใช้ก็ใช้  ถึงสัญญางานจะสองปีก็จริง  แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจว่าถ้าเผื่อมีคนจับได้ว่าปลอมตัวมาแล้วต้องออกจากงานนี้จะมีงานอื่นรองรับไหม  แล้วจะเอาอะไรกิน

..............................................................................................

พวกเราสี่คน  อ๊อฟ ไบท์ โอ๊ตและก็ผมกำลังยกกระเป๋าลงจากรถของไบท์ที่มันอาสาขับไปรับพวกผมที่บ้าน  ที่คอนโดทีละคนแล้วเอามาจอดที่สนามบิน   ตอนนี้บอยกับวิทย์ถึงสนามบินแล้วแต่ว่ามันรอให้พวกเราไปครบก่อนจึงจะเช็คอินกันทีเดียว

เราเช็คอินเรียบร้อยก็เข้ามานั่งในห้องรองรับผู้โดยสาร  ก่อนจะเดินขึ้นเครื่องที่ตามที่พนักงานสาวสวยแจ้งไว้ว่าต้องเดินไปเกตไหน  ใช้เวลานั่งบนเครื่องเกือบหนึ่งชั่วโมง  พวกเราก็มายืนรอรับกระเป๋า  บอยโทรนัดแนะกับทางรถตู้ของบริษัททัวร์ที่จะมารับเราที่สนามบินไปส่งที่โรงแรม  โดยใช้เวลาเดินทางจากสนามบินภูเก็ตไปยังเขาหลักประมาณหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็มาถึงโรงแรมที่ได้จองเข้าพัก 

ผมกับบอยได้เลือกโรงแรมที่นี่ไว้เพราะบรรยากาศดีมาก  สถานที่ตั้งโรงแรมอยู่ที่ริมหาดบางเนียง,เขาหลัก  การตกแต่งของโรงแรมอาจจะไม่หรูหรามาก แต่ดูแพง  เน้นไปทางรูปทรงเลขาคณิตแบบสี่เหลี่ยม  ห้องพักที่เป็นวิลล่าเกือบทุกห้องที่เป็นกล่องสี่เหลี่ยมสีขาวมีหญ้าสีเขียวปกคลุมอยู่ข้างบน  ประเภทห้องที่ได้จองไว้เป็น  Studio Pool Villa ครับ ผมพักกับบอย  โดยบอยขอให้วิทย์ไปพักกับอ๊อฟซึ่งทางนั้นก็ไม่มีปัญหาอะไร  จะมีก็แค่โอ๊ตที่ตอนแรกน้องมันนึกว่าจะได้นอนกับผมเพราะเห็นว่าบอยมากับวิทย์  แต่ก็ยอมตกลงนอนห้องเดียวกับไบท์ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

เย็นนี้พวกเราหกคนนัดกันว่าจะไปเล่นน้ำที่สระน้ำของทางโรงแรมกัน   ส่วนตอนนี้แต่ละคนก็เอาของไปเก็บกันที่ห้องพัก บอยเดินนำหน้าผมเดินไปเปิดประตูตามชื่อของวิลล่า(ห้อง)ที่ได้   เข้าไปสิ่งแรกที่เจอก็คือสระว่ายน้ำเล็กๆครับ  เราเดินข้ามสระน้ำเล็กๆที่สามารถลงเล่นได้  เปิดเข้าไปในห้องก็เจอกับเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่  ห้องตกแต่งแบบเรียบง่าย  ฝาผนังเป็นไม้  พื้นเป็นพื้นปาเก้  ห้องเป็นทรงแนวยาวโดยเข้ามาในห้องจะเจอเตียงก่อน   เดินลึกเข้าไปจะเป็นห้องแต่งตัว  แขวนเสื้อผ้าและถัดไปสุดท้ายเป็นห้องน้ำ  แต่ห้องน้ำไม่มีประตูปิดนะครับ  จะมีแค่แผ่นกระจกใสๆบังไว้อยู่  ซึ่งถ้าไม่สังเกตก็จะไม่โป๊หรอก

ผมนั่งลงตรงปลายเตียงแล้วหยิบเครื่องดื่มในมินิบาร์มาดื่ม  ทางพนักงานได้แจ้งไว้แล้วว่าของกินในตู้เย็นจะฟรีหมดรวมกับค่าที่พักแล้ว  ยกเว้นแค่ไวน์เท่านั้นที่จะคิดเพิ่ม  รู้สึกตัวอีกทีบอยก็มาปลุกผมซึ่งผมเองก็ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตอนไหน

“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าไปบีน  อีกชั่วโมงค่อยไปเล่นน้ำกับเพื่อน”

“อืม”

ผมเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จก็เดินกลับมาที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอน  ก่อนจะโดนคนที่นอนอยู่ก่อนดึงไปให้นอนหนุนแขนตัวเอง  ด้วยความที่เหนื่อยจากการเดินทางผมเลยไม่ได้ขัดขืนอะไรมากจึงผล็อยหลับไป

จุ๊บ


จุ๊บ จุ๊บ

อื้อ  ผมส่งเสียงครางในลำคอพร้อมเอามือดันหน้าเด็กบอยออก  ปลุกดีๆเถอะครับ  ปลุกแบบใช้ปากจุ๊บทั่วหน้าผมนี่มันจั๊กกะจี้ยังไงไม่รู้

ผมไปเปลี่ยนกางเกงเป็นกางเกงว่ายน้ำก่อนสวมกางเกงบอลทับอีกทีแล้วจึงเดินออกจากห้องไปหาเพื่อนๆที่สระว่ายน้ำกับบอย
เดินไปถึงก็เจอพวกนั้นเล่นอยู่ก่อนแล้ว  ผมจึงถอดกางเกงกับเสื้อที่ใส่ทับออกแล้วลงเล่น

ตู้ม   บอยโดดลงไปก่อนแล้วเรียกผมให้โดดลงไป  ตายแล้วน้ำลึกไหมล่ะนั่น  ผมก็ลืมไปว่าตัวเองว่ายน้ำไม่เป็น

“ไม่ลึก  กูเหยียบถึง  ลงมา”  ไบท์บอกกับผมว่ามันเหยียบถึง 

“เออ”  ผมค่อยหย่อนตัวลงไปแล้วเอาเท้าเขี่ยๆที่พื้น  เออยืนถึงพื้นจริงแต่น้ำสูงปริ่มๆคางผมเลยนะ

บรรยากาศตอนนี้ดูสวยมากๆ สระน้ำของโรงแรมอยู่ติดกับชายหาดเพราะฉะนั้นพวกเราจึงได้สัมผัสบรรยากาศตอนเย็นๆ ดูพระอาทิตย์สวย  วิทย์ที่ทำหน้าเป็นตากล้องก็ไปเรียกพนักงานมาช่วยถ่ายรูปรวมให้  บอยดึงผมที่ว่ายน้ำไม่เป็นว่ายไปทั่วสระ  ก่อนที่ผมจะขึ้นสระไปหยิบห่วงยางที่ทางโรงแรมเตรียมไว้มานอนลอยไปเรื่อยๆ ให้เพื่อนๆดึงไปทางนู้นบ้างดึงไปทางนี้บ้าง   

พวกเราเล่นน้ำกันชั่วโมงกว่าก็กลับห้องไปอาบน้ำเปลี่ยนชุด  เรานัดกันว่าจะไปทานข้าวที่เลานจ์ของโรงแรม

เช้าวันต่อมาทางรถตู้ของทางบริษัททัวร์ก็มารับพร้อมเราตามที่ได้โทรมานัดหมายไว้ตั้งแต่เมื่อวาน  วันนี้เราไปเที่ยวเกาะสิมิลันกัน  เด็กๆทุกคนดูตื่นเต้นมาก  ใช้เวลาไม่นานเราก็มาถึงที่ท่าเรือทับละมุ  บอยได้ต่อแถวทำการเช็คอินรับหน้ากากดำน้ำ  และรับสายริสแบนด์สีเหลืองมาใส่ข้อมือคนละอันก่อนที่ไกด์สาวสวยผิวแทนตัวสูงโปร่งจะประกาศว่า

“ท่านลูกทัวร์คนไหนมีสายริสแบนด์สีเหลืองที่จะไปเกาะสิมิลันวันนี้  ออกไปต่อแถวข้างนอกเลยค่ะ  ตามดิฉันมาเลยค่ะ”

เราได้นั่งเรือสปีดโบ๊ทขนาดสองเครื่องยนต์ครับ มีลูกทัวร์ทั้งคัน ๒๕ คน  อันนี้ไกด์นางอธิบายให้ฟัง  โดยทางทัวร์จะพาไปที่เกาะสี่ก่อน  ใช้เวลาเดินทางเกือบชั่วโมงก็ถึงเกาะสี่  เราลงเล่นน้ำกันพอเป็นพิธี   แต่ดูจะเน้นไปที่ถ่ายรูปมากกว่า น้ำที่นี่ใสมากครับ  มองเห็นปะการังสวยมากและอีกอย่างคือเค็มมาก  เค็มกว่าฝั่งอ่าวไทย   

หลังจากไกด์ได้ปล่อยให้ลูกทัวร์ไปพักเล่นน้ำถ่ายรูป  ก็ถึงเวลาข้าวเที่ยงเราจึงไปนั่งทานข้าวกันที่โรงอาหารของอุทยาน
ผมนั่งอยู่ระหว่างโอ๊ตกับบอย  บอยกำลังเดินไปตักข้าวให้ผมอยู่ซึ่งผมก็ทำตัวเป็นประโยชน์โดยการไปเอาน้ำผลไม้มาให้

“นี่มึงใส่สั้นๆไม่อายคนอื่นหรือไง”  พอผมเดินมาถึงโต๊ะ  โอ๊ตก็ถามผม

“ก็ไม่เห็นสั้นหนิ  คนอื่นก็ใส่กัน  ดูคนจีนสิใส่แค่กางเกงว่ายน้ำ”  ผมก็ว่าตัวเองไม่โป๊นะ  กางเกงที่ยาวได้ครึ่งหนึ่งของขาอ่อนดูยังไงก็ปกติสำหรับมาเที่ยวทะเล “ว่าแต่โอ๊ตเถอะ  เล่นน้ำเสร็จตั้งนานแล้วยังจะถอดเสื้ออยู่อีก  โชว์สาวล่ะสิ” น้องมันถอดเสื้อตั้งแต่ไปเล่นน้ำแล้วครับ

“กูใส่ก็ได้  หวงกูล่ะสิ”  ดูมันพูด

“ข้าวมาแล้วจ้าบีน” บอยถือข้าวมาสองจานพร้อมเสิร์ฟ

“ขอบคุณมากบอย” ผมขอบคุณเด็กมันไป

“ดูแลกันดีจริงโว้ย  คู่นี้  น่าอิจฉา” ไอ้อ๊อฟแซว

เรากินข้าวกันเสร็จก็แจกยากันคนละเม็ดครับ  ไม่ใช่ยาบ้านะ  ยาแก้เมาเรือเพราะว่าต้องไปอีกสามเกาะกันไว้ดีกว่า
เรือสปีดโบ๊ทพาพวกผมกับลูกทัวร์คนอื่นไปดำน้ำตื้นดูปะการังกันอีกสองเกาะ 

ช่วงนี้แหละครับเป็นช่วงที่ผมกังวลมากที่สุดเพราะผมว่ายน้ำไม่เป็นเลย  มีไอ้อ๊อฟด้วยที่ว่ายไม่แข็ง  หลังจากใส่เสื้อชูชีพกับหน้ากากดำน้ำแล้ว  เราตกลงกันว่าจะแยกกันไปเป็นสองกลุ่ม  วิทย์  ไบท์  อ๊อฟไปด้วยกัน  เพราะอ๊อฟมันว่ายน้ำไม่แข็ง 

บอยกับโอ๊ตก็ลากผมตามๆเพื่อนไป  ที่จริงมันไม่จมหรอกนะครับ  ใส่เสื้อชูชีพไว้อยู่  แต่ด้วยความที่ว่ายน้ำไม่เป็นเลยรู้สึกระแวงเหมือนจะจมอยู่ตลอดเวลา  พวกเราว่ายออกจากเรือไปดูปลากับปะการังกันไม่ไกลครับ  แรกๆผมก็ใช้ไม่เป็นหรอกนะไอ้สน็อกเกิ้ลนี่  เพราะเอาหน้าจุ่มลงไปครั้งแรกก็ลืมระวังไปว่าน้ำมันจะไหลเข้ามาทางช่องอากาศแล้วไหลเข้ามาที่ปาก   ทุลักทุเลมากกว่าจะได้ส่องดูปลากัน

เราขึ้นเรือกันมาพร้อมเดินทางไปเกาะที่แปดเกาะสุดท้ายที่มีสัญลักษณ์เป็นรูปหินเรือใบ  เรือจอดเทียบฝั่งเราก็ลงไปถ่ายรูปกันที่เห็นเรือใบโดยที่ต้องเดินขึ้นเขากันเล็กน้อย  แต่ก็คุ้มครับ  วิวสวย  บรรยากาศดีมาก  ในชีวิตนี้ไม่คิดว่าจะได้มากที่แบบนี้ครั้งหน้าผมก็คิดว่าจะชวนแม่กับน้องมาด้วยกันคงสนุกไปอีกแบบ  บอยหยิบมือถือตัวเองมาถ่ายรูปกล้องหน้าคู่ผมเสร็จแล้วยื่นมือถือมันให้ผมถ่ายรูปให้  พวกเราหกคนใช้เวลาถ่ายรูปข้างบนกันเกือบสามสิบนาทีก็ลงมาเดินเล่นชายหาดถ่ายรูปกันข้างล่าง  ก่อนที่จะเตรียมตัวขึ้นเรือกลับเข้าฝั่ง   





“โอยเหนื่อยว่ะบอย   กี่ทุ่มแล้วอ่ะ”

“สามทุ่มตรง  นั่นหัวแห้งหรือยังไปหนุนหมอนเดี๋ยวก็เปียกหรอก  มานี่” บอยเด็กผมขึ้นจากที่นอนแล้วเอาผ้าขนหนูมาเช็ดหัวที่เปียกให้  พวกเรากลับเข้ามาที่ท่าเรือ  ขึ้นรถตู้กลับโรงแรม  ทานข้าวเสร็จก็แยกย้ายกันกลับห้องใครห้องมันครับ  แต่ละคนดูแล้วเหนื่อยเอามากๆ  คงมีแต่เด็กบอยนี่แหละมั้งที่ยังดูเฉยๆไม่เหนื่อย  ไม่บ่น 

“เหนื่อยตรงไหนบีน  บอยว่าสนุกดีออก”

“เหนื่อยดิ  ปวดตรงขาว่ะบอย  สงสัยจะปวดจากตอนที่ดำน้ำตื้นนั่นแหละ”

“ไหนมาให้เค้าดูซิ ” บอยเดินมาที่เตียงแล้วลงมานั่งขัดสมาธิข้างตัวผมแล้วดึงขาข้างว้ายผมไปวางไว้บนตัก”ตรงไหน  ตรงนี้หรอ”

“อืม ใช่  จะนวดให้หรอดีจัง”

ว่าแล้วบอยก็นวดตรงต้นขาให้ผมครับ 

เฮ้อมีเด็กมาคอยดูแลมันก็ดีแบบนี้นี่เอง

“ลึกไปแล้วบอย  จะทำอะไร”  บอยมันนวดขึ้นมาเรื่อยจนกางเกงนอนขาสั้นผมเลิกขึ้นแทบจะเห็นกางเกงใน

“นี่ใส่กางเกงในนอนด้วยหรอว่ะบีน”

“ก็เออดิ  ทำไมแปลกตรงไหน”

“นึกว่าจะได้เห็นหนอนน้อยของบีนเสียอีก”

“บ้า  พอเลยๆ  ง่วงแล้วขอนอนก่อนนะ”

ผมยกขาออกจากตักบอยแล้วดึงผมห่มมาห่ม  ทางนั้นก็นอนลงตามผมแล้วก็กอดจากด้านหลัง

“อย่าพึ่งนอนสิยังไม่ดึกเลย  อยู่เล่นกับบอยก่อนนะ”

“เล่นอะไรเล่า”  ผมถามอย่างหงุดหงิดเพราะว่าเหนื่อยจริงๆ

“หันหน้ามาก่อนถึงจะบอกว่าเล่นอะไร”

พอผมหันไปเท่านั้นล่ะ

อุ๊บ

อื้อ

เด็กบอยจูบผม  จูบครั้งแรกระหว่างผมกับเด็กม.ปลาย  ครั้งนี้ไม่ใช่ฝันแน่นอน
บอยใช้ริมฝีปากทั้งบนล่างล่างขบเบาๆที่ปากผมอย่างนุ่นนวลก็ถอดจูบออกแล้วมองหน้าผมก่อนพูดว่า

“ชอบไหม”

ผมยิ้มให้บอยก่อนจะถามแทนคำตอบไปว่า “เล่นจูบกันนี่นะ”

“อืมใช่  เป็นไงชอบไหมคนดีของบอย”

เด็กบอยไม่รอให้ผมตอบ มันจูบผมอีกครั้งแต่ครั้งนี้หนักหน่วงและรุนแรงกว่าครั้งก่อน  เหมือนอัดอั้นมานาน  เหมือนตายอดตายอยากมาจากไหน

ด้านมือของเด็กมันก็ไม่อยู่นิ่ง   สองมือนั้นดึงเสื้อผม  ก่อนที่จะใช้หัวแม่มือเขี่ยหัวนมทั้งสองข้างเป็นการปลอบประโลมอย่างพร้อมเพรียงกัน   

ผมใช้มือผลักอกบอยออกเบาๆ พอเด็กมันถอนปากออกผมก็บอกว่า “อื้อ  บอยพอแล้ว”

“บอยไม่ไหวแล้วบีน  บอยอดมานานแล้ว”

“บอย  เรายังไม่ได้ตกลงกันเลยนะ  ว่าเราอยู่กันแบบไหน  สถานะระหว่างเราสองคนคืออะไรเพื่อน  เพื่อนสนิทหรือว่าแฟน”

“หืม  เสียใจจัง  บอยนึกว่าเราเป็นแฟนกันแล้วเสียอีก”

“อย่าพึ่งตัดสินใจอะไรตอนนี้เลยบอย  อนาคตมันไม่แน่นอน”  ใช่ครับ  ผมตอบไปแบบนั้นก็เพราะเผื่อไว้จริงๆมาทำงานแบบนี้มันไม่ควรจะสานสัมพันธ์กับใคร  ยอมรับเลยครับว่าผมก็ผิดเองที่เปิดโอกาสเด็กมันเข้ามาในชีวิต  แต่ถ้าจะถลำลึกไปถึงว่าเป็นแฟนกันหรือมีอะไรกันลึกซึ้งลงไปอีกอันนี้ก็ต้องขอหยุดไว้ก่อน  ขอคบกันเป็นเพื่อนคู่คิด  เป็นคนที่ดูแลกันจะดีกว่า

“เฮ้อ  ก็จริงอย่างที่บีนบอก  ถ้าเราจบมัธยมไปแล้วก็ต้องเจออะไรอีกมากมายสินะ”

“ใช่ถ้าจบไปจริงๆก็คงไม่เจอกันแล้ว”  ถ้าผมทำงานนี้เสร็จก็คงต้องหนีไปทำงานที่อื่นหรือไม่ก็ต้องตัดขาดการติดต่อกับเด็กๆพวกนี้  คิดแล้วก็น่าใจหายนะครับ

“อย่างนั้นบอยขอนอนกอดบีนเหมือนเดิมนะ”

“อืม”  ผมยิ้มให้ก่อนขยับตัวไปนอนหมอนเดียวกับบอย


แค่นี้ก็มีความสุขแล้วครับ



.....................................................................................

เช้าวันรุ่งขึ้น  วันนี้เราไปถึงท่าเรือนั่งรอไม่นานก็ได้ขึ้นเรือไปเกาะตาชัยเลย  โดยไกด์ประจำกลุ่มได้ชี้แจงว่าเราจะอยู่เกาะตาชัยตั้งแต่ไปถึง  ยาวไปถึงตอนบ่ายๆแล้วจะพาไปดำน้ำตื้นดูปลากันอีกทีก่อนกลับเข้าฝั่ง
วันนี้เต็มที่ครับวันสุดท้าย  หาดที่เกาะตาชัยน้ำใสและสวยจริงๆน้ำเค็มชนิดที่ว่าผมว่ายน้ำไม่เป็นแต่ก็พอลอยตัวได้  เราเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน  วิ่งไล่กันบ้าง  แกล้งวิ่งไปจับเพื่อนแล้วเหวี่ยงลงไปในน้ำหรือให้ไอ้อ๊อฟที่โดนเพื่อนแก้งบ่อยๆมันนอนแล้วเอาทรายถมมัน  โดยมีวิทย์เป็นตัวแทนเก็บภาพสวยๆของบรรยากาศที่เกาะนี้

“คราวนี้ต้องมั่นใจนะมึง  มันไม่จมหรอกเชื่อกู”

“เออก็รู้  แต่คนไม่ว่ายน้ำไม่เป็นไง  ถ้าใส่เสื้อชูชีพในสระว่ายน้ำก็คงตีขาไปอยู่หรอก  แต่นี่มันทะเลนะโอ๊ต  มันมีคลื่น”

ผมนั่งถกประเด็นเรื่องกลัวจมน้ำกับโอ๊ตก่อนที่เรือสปีดโบ๊ทจะจอดให้ลูกทัวร์ลงดำน้ำตื้น  ที่เรียกว่าดำน้ำตื้นนี่ไม่ใช่ว่าลึกแค่เมตรสองเมตรนะครับ  ความลึกนี่ประมาณสะพานลอยเลยล่ะ

“ตามมาๆ เฮ้ยบอยไม่ต้องลากให้บีนมัน”  โอ๊ตตะโกนบอกบอยที่ดึงผมให้ว่ายไปตาม   โอ๊ตบอกให้แต่บอยปล่อยผมแต่ตัวเองตอนที่เราส่องดูปลากันน้องมันก็แอบเอามือมาจับผมไว้นะ  ก็ไม่เข้าใจ

สรุปก็สนุกดีครับ  ถึงจะเหนื่อยก็เถอะ  แต่การได้มาเที่ยวกับเพื่อนๆแบบนี้มันทำให้ผมเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง  อารมณ์มันดูร่าเริงไปหมด  ไม่ต้องคิดมากเรื่องต่างๆที่จะเกิดขึ้นในชีวิต  ขอแค่ได้อยู่กับเพื่อนเที่ยวให้สนุกก็เป็นพอ

...

เช้าวันต่อมาเราเดินทางกลับเข้าตัวเมืองภูเก็ตกันเพราะเพื่อนๆตกลงกันว่าจะเที่ยวที่ภูเก็ตก่อนสักสองวันค่อยกลับ  วันแรกเราจึงเข้าไปเที่ยวที่ตัวเมืองภูเก็ตกันก่อน  วันถัดไปจึงจะไปเที่ยวตามชายหาดป่าตองหรือไม่ก็ชมวิวแหลมพรหมเทพ
เราเข้าพักที่เกสท์เฮ้าส์ใจกลางเมือง  บ่ายๆจึงเดินชมเมืองถ่ายรูป  หาของกินอร่อยๆ 

“คืนนี้ไปร้านเหล้ากัน  กูเห็นร้านน่านั่งตอนเรานั่งรถไปกินติ่มซำ” คำเชิญชวนของอ๊อฟ ที่เพื่อนๆก็ดูสนใจและตกลงกันว่าจะไป



เราหกคนนั่งที่ร้านเหล้าใจกลางเมืองภูเก็ต  ที่ร้านคนไม่เยอะมากเพราะเป็นวันธรรมดา  ผมสั่งเหล้าปั่นมากินก่อนที่จะปวดฉี่จึงบอกเพื่อนว่าจะไปห้องน้ำ


ทางเข้าห้องน้ำอยู่ลึกเข้าไปในร้าน 


ผมเดินไปก่อนจะเห็นหนุ่มหล่อดูมีภูมิฐานใส่เสื้อหนังกางเกงยีนส์แต่คนที่เดินมาติดๆเขานี่สิ


กี้

กี้จริงๆด้วย

กี้เห็นผมนะแต่ทำเหมือนไม่เห็นแล้วเดินผ่านไป


ผมก็เดินงงเข้าห้องน้ำไป  จริงด้วยสิตอนที่เลิกกับโอ๊ตหลังสอบจำได้ว่าไบท์บอกว่ากี้มาเที่ยวที่ภาคใต้  มาไม่นานนี่ได้แฟนใหม่แล้วหรอวะ


ผมเข้าไปฉี่  ล้างหน้าล้างตาก่อนเดินออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าคนที่เดินสวนกันไปเมื่อครู่  ยืนกอดอกกันทางไว้อยู่

“ไม่เจอกันนานนะบีน  ออกไปคุยกันข้างนอกหน่อยสิ”

“ไปคุยอะไร”

“เฮ้ย  เป็นเพื่อนกันก็อยากคุยด้วยเฉยๆ ไม่มีอะไร  ออกไปคนเดียวนะไม่ต้องบอกเพื่อนคนอื่น  ไม่อยากเจอ”

ผมเดินตามกี้ห่างๆก่อนเดินไปบอกเพื่อนๆที่โต๊ะว่าจะไปเดินเล่นข้างนอก 

ไปถึงก็เห็นกี้มันนั่งรอที่โต๊ะข้างนอกแถวๆที่จอดรถ  ตรงนี้ดูบรรยากาศเงียบๆไม่มีคน  ได้ยินแต่เสียงดนตรี

“นั่งสิบีน”

“มีอะไร”

“ไหนว่าจะไม่บอกไง”

“หืม  บอกเรื่องอะไร”

“ก็เรื่องกูขายยาไง  ไหนว่าจะไม่บอกคนอื่น  ตอแหลทำตีหน้าซื่อ”  อ้าวอีนี่มาเป็นชุดเลย  ต้องใจเย็นไว้บีน  หายใจเข้าลึกๆ

“ไม่ได้บอกนะ  ใจเย็นก่อน  โอ๊ตรู้เองหรือเปล่ากี้ ”

“โกหก” กี้อยู่ดีๆก็โมโหรุนแรง  มือดันโต๊ะเหล็กสามขาจากด้านมันให้มันกระแทกเข้ากับตัวผม  อีบ้านี่

“นี่พูดดีๆสิ  อย่าพาล  อย่าทำแบบนี้”

“แล้วกูพูดดีๆแล้วมึงตอบดีๆไหมบีน  อย่าทำเป็นคนดีหน่อยเลย  ทำไมวะ  พอมึงมาคนอื่นก็ดูสนใจมึงไปหมด  ทั้งเพื่อนๆในกลุ่ม  ทั้งไอ้บอยนั่นที่ก่อนมึงมาก็ดูไม่สุงสิงกับใคร  ไหนจะโอ๊ตที่ปกป้องมึง  ทั้งๆที่มึงเอาเรื่องกูไปบอก”

“เดี๋ยวนะ  พูดดีๆไม่เข้าใจใช่ไหมก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้เอาไปบอก  โอ๊ตมันอาจจะรู้เอง”

“ไม่ต้องมาทำตัวเป็นคนดีเลยบีน  กูรู้ว่ามึงคิดยังไง  มีบอยคนเดียวไม่พอ  มึงมันร่านอยากได้โอ๊ต  ไบท์ด้วยใช่ไหมที่มึงก็อยากได้  เสียใจด้วยนะไบท์มันเป็นผู้ชาย”  พูดไปทั่วแล้วครับ  เด็กนี่มันสติแตกไปแล้ว

“แล้วแกคิดว่าตัวเองดีพอที่จะให้คนอื่นมาสนใจไหมล่ะกี้”

“นั่นไง  สุดท้ายก็ยอมรับว่าตัวเองร่าน”  อ้าวอีเด็กนี่  ผมจะไม่ทนมันแล้ว

“นี่กูถาม  ไม่ได้ให้มายอกย้อน  มึงก็เป็นแค่เด็กที่หลงระเริงไปกับแสงสีกับเงินทอง   เลิกกันไปแล้วก็แล้วกันไปสิวะ  ไม่ต้องเอาคนอื่นมาเกี่ยวข้อง  มันจะผิดก็ผิดที่ตัวมึงเองเข้าใจไหม  ถ้ามึงไม่ทำอะไรผิดโอ๊ตมันจะไปว่าอะไรมึงได้”

“กูไม่ผิด  ยังไงกูก็ไม่ผิด” กี้มันลุกขึ้นก่อนเดินมาผลักผมที่นั่งอยู่ล้มลงไปกับเก้าอี้ “โชคดีนะมึง  กูลาออกจากโรงเรียนนั้นแล้ว  ไม่มีคนไปขัดมึงแล้ว  แดกผู้ชายได้ตามสะดวก”

ว่าเสร็จมันก็เอาเท้ามายันผมก่อนจะเดินหันหลังไป  หึ คิดว่าคนอย่างบีนจะยอมหรอไม่ทนมันแล้ว  ตบก็ตบ ต่อยก็ต่อย

“หยุดก่อน  คิดว่าคนอื่นร่านเหมือนตัวเองหรอกี้”  ผมลุกขึ้นเรียกกี้ให้หยุด  ก่อนมันจะหันมาไม่ทันระวังผมก็ตบหน้ามันไปหนึ่งครั้งดัง  เพี๊ย จนหน้ามันไปตามแรงตบที่ออกมาจากแรงโกรธ

“นี่มึงตบกูหรอบีน”  มันหันหน้ากลับมาถามผม

“เออ”  เพี๊ย  เพี๊ย  ตบตบหน้ามันอีกสองครั้ง  หน้ามันหันไปทั้งซ้ายและขวา  หึมันมือดีจริง

“อีบีน”

มันกระโจนเข้ามาจะบีบคอผม  ผมก็กระโจนเข้าไปปะทะกับมัน  กำกำปั้นต่อยไปที่หน้าอีกี้จนมันเสียหลัก  ถีบมันจนล้มแล้วตามลงไปนั่งคร่อมมัน  ก่อนออกแรงจิกหัวมันขึ้นแล้วจะกระแทกกลับไปที่พื้น  หึหัวไม่แตกก็ให้มันรู้ไป

“โอ๊ย  อีบีนกูเจ็บ”

“ก็กูทำให้มึงเจ็บไง  มึงจะได้จำ”  ผมดึงหัวมันขึ้นจากพื้นก่อนจะกระแทกกลับไปอีกครั้ง  แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็วิ่งมา

“เฮ้ยบีน  หยุดก่อนๆ ใจเย็นๆ”  ไอ้เด็กบอยมันวิ่งมาด้วยความเร็วแล้วดึงตัวผมออกจากกี้

“ปล่อยสิ  มาห้ามทำไมวะ”  ผมพยายามจะดิ้นให้หลุดจากตัวของบอย

“กูฝากไว้ก่อนนะมึง”  กี้มันลุกขึ้นมาจากพื้นก่อนชี้หน้าผม  แล้วก้มลงไปกำเศษดินปาใส่ผมก่อนจะวิ่งหนีไป

“เออฝากไว้แล้วก็มาเอาคืนด้วยแล้วกันอีกี้” ผมตะโกนตามหลังมันไม่

“ไม่เอานะบีนใจเย็นๆสิ  เด็กมันก็คือเด็ก  อย่าไปร้อนรนตามมันเลย” มีหน้ามาบอกคนอื่นเด็ก  แกมันก็เด็กเหมือนกันแหละ 

“ก็มันทำบีนก่อน  หยุดได้แล้วเลิกกอดซะที  จะไปล้างหน้าล้างแขนเปื้อนไปหมดเลย” ว่าเสร็จผมก็ดิ้นออกจากตัวบอย
“ลงไปทำซะขนาดนั้นจะไม่ให้ไม่เปื้อนได้ยังไง  จำไว้นะบีน  บางครั้งเราก็ไม่ควรเอาตัวเข้าไปยุ่งขนาดนั้นก็ได้”

“ก็มันว่าบีนก่อน  แถมมันเอาเท้ามันยันบีนอีก  จะให้ทำยังไง  จะให้ร้องไห้แล้ววิ่งไปฟ้องบอยหรอ”

“บอยไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น” ไอ้เด็กนี่ตกลงจะเอายังไง 

“พอเลย  ถ้าไม่เข้าข้างกันก็เงียบไป  แล้วนี่ข้างในกินกันเสร็จยัง”

ผมเดินไปล้างแขน  ล้างหน้าในห้องน้ำ  ก่อนที่จะกลับไปที่โต๊ะด้วยสีหน้าเฉยชา  เพื่อนในโต๊ะไม่ได้สังเกตอะไรระหว่างผมกับบอยได้หรอกครับ  จะมีก็แต่โอ๊ตที่ดูออกว่าผมคงทะเลาะกับบอยมา  คืนนั้นเลยกลายเป็นว่าผมกับบอยไม่ได้คุยกันเลย

วันต่อมาที่ไปเที่ยวผมกับบอยก็ยังไม่ได้คุยกันมาก  จนถึงช่วงตอนเย็นที่พวกเราไปถ่ายรูปดูพระอาทิตย์ตกที่แหลมพรหมเทพกัน

“บีน  มาถ่ายรูปกับบอยหน่อยสิ” บอยเดินมาทางข้างหน้าผม  ขณะที่ผมกำลังใช้มือถือถ่ายรูปอยู่

“อืม”  ก็ไม่รู้ว่าจะงอนมันนานไปมาก

เราสองคนยืนจับมือดูพระอาทิตย์ตกกันอย่างเงียบ


โดยมีเพื่อนเรายืนถ่ายรูปกันอยู่ใกล้ๆกัน

มันเป็นช่วงเวลาที่มีความสุขนะ 

ถึงจะมีเรื่องกี้มาทำให้เราสะดุดไปนิดหนึ่งก็เถอะ


ทำยังไงผมถึงจะได้อยู่กับบอยตลอดไปครับ 




งานที่ทำมันมีกำหนดเวลา 



แล้วมิตรภาพระหว่างบอยกับผมหรือกับเพื่อนๆ
มันจะหมดไปตามสัญญางานหรือเปล่านะ



...............................................................................................


นี่บีนจะรีบดราม่าไปทำไมนะ  สัญญางานได้ข่าวเหลือตั้งปีกว่าๆ


ขอโทษผู้อ่านด้วยนะที่หายไปนาน  ช่วงแรกๆของตอนนี้นี่คือ  ถ้ามีรูปภาพประกอบก็คือ  กระทู้รีวิวเที่ยวดีๆนี่เอง

ยังไงก็หวังว่าจะสนุกไปกับบีนเรื่อยๆนะครับ  วันนี้มาตอนเที่ยงของให้ทานข้าวให้อร่อยนะ



ขอบคุณที่เข้ามาอ่านเข้ามาตอบนะครับ  เจอกันใหม่ตอนที่ ๑๕  สวัสดี


 :bye2:

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
บีนชอบบอยอ่อคะนี่ ถ้าคู่กันได้ก็จะดีมากกกกกกก

(แต่สงสัยว่าบีนชอบใจเต้นกับโอ๊ต มันคืออะไรรรร  :ling1:)

ปอลิง กี้ลาออกจากโรงเรียนแล้ว ซึ่งก็ดีนิดนึง แต่กลัวมาอีกทีจะร้ายกว่าเก่า แถมตอนนี้ทำตัวเลวลงเรื่อยๆเลยนะเนี่ย

เฮ้อออ ท่าจะฉุดน้องไม่ขึ้นซะแล้ว

ออฟไลน์ wonderbe

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 754
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ว๊าาาาาาาาาาาาาาาาากำลังสนุกเลยอ่ะ  เอาอีกๆๆๆๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 o13  ดีค่ะ ปรบมือ บีนทำดีมากกกเรื่องบอยและเรื่องที่ล้างแค้นอีกี้ให้คนอื่นด้วย 555  อีนี่มันหมาบ้าจริงๆสันดานเอ๊ย เสียดายที่เพื่อนคนอื่นไมไ่ด้มาเห็นธาตุแท้ของมัน ชิ

เราก็กลัวใจเหมือนกันนะเรื่องโอ๊ตกับบอย วางตัวลำบาก กลัวว่าเรื่องจะแตกก่อนหมดสัญญาหรือไปเจอกันข้างนอกในสถานะที่บีนคนทำงานกับเพื่อนๆที่เป็นเด็กนักศึกษา ต่อให้ผิดใจกันแต่เราว่าบีนทำดีที่สุดแล้วนะ เพื่อนๆต้องเจ้าใจแน่ บีนสู้ๆ
บอยมันน่ารักนะ เด็กดี โอ๊ตก็ด้วย น่ารักน่าเลี้ยง 555

ออฟไลน์ j123

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 699
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +75/-1
บอยนี่เหมือนบีนหรือเปล่า ปลอมตัวเป็นเด็กเหมือนกันมาดูแลสุวิทย์  o8

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
อยากรู้ววววววว ว่าใครเป็นพระเอก :ling1:

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด