ตอนที่ ๔
“เป็นไงบ้างบีน ไปโรงเรียนวันแรก สนุกไหม”
เจ้านายโทรมาหาผม ขณะที่ผมกำลังจัดตารางเรียนอยู่ ตลกดีนะครับ ถึงภายนอกจะดูเนียนๆไปตามเขาก็เถอะ แต่เด็กโข่งอย่างผมนี่ยังมานั่งจัดตารางเรียน จัดสมุดหนังสืออยู่
“ก็ดีครับ แต่ผมยังไม่ได้ทำความรู้จักกับน้องโอ๊ตหรอกนะครับ แต่รู้จักกับเพื่อนในกลุ่มของน้องเขาแล้ว”
“วันแรกๆ อาจต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์ก็ได้ สู้ๆนะ”
“ครับ ขอบคุณครับ”
“ยังไงก็พักผ่อนแล้วกัน มีปัญหาอะไรโทรบอกผมได้ตลอดนะคุณบีน”
แกก็วางสายไป
วันนี้ก่อนนอนผมก็ขอโทรไปคุยกับป่านก่อนดีกว่า เม้าประสบการณ์การเข้าเรียนโรงเรียนชายล้วนแบบนี้
วันที่สองของการเรียน วันนี้ผมต้องมาเข้าแถวด้วยครับ โรงเรียนนี้เขาเข้าแถวในโรงยิม ตามประสาคนไม่เคยเรียนโรงเรียนชายล้วนอย่างผมก็มึนเหมือนกันครับ ผู้ชายเยอะแยะไปหมดอย่างกับตอนไปเข้าค่าย รด. เลย
เคารพธงชาติเสร็จพวกนักเรียนก็นั่งในแถวฟังผู้อำนวยการมาอบรม พูดนู่นนี่ก็ปล่อยเข้าห้อง ระหว่างทางเดินก็มีอีกเรื่องที่แปลกใหม่ครับ นักเรียนบางคนก็กอดคอกันอันนี้ปกติ แต่ที่ไม่ค่อยได้เห็น ผมสังเกตเห็นบางคนจับมือถือแขนกันนี่แหละ
“บีนๆ” อ้าวกี้นั่นเอง ตอนเข้าแถวผมนั่งอยู่ข้างหลังเลยไม่เห็นกี้
“หวัดดีกี้” ผมทักกี้ตอบ
“อ๊อฟ โอ๊ต นี่บีน นะ ”
“เออดีหว่ะ” น้องอ๊อฟทักผม หุ่นจะอวบๆหน่อย
“หวัดดี”
น้องโอ๊ตหันมาทักผม แล้วหันกลับ สีหน้าไม่ได้แสดงว่าเป็นมิตรหรือเป็นศัตรู ทำให้ผมเดาใจไม่ออกเลยว่าน้องเขาคิดอะไร ยังไง
“ส่วนนี่ไบท์” กี้แนะนำผมต่อ
“รู้จักกันตั้งแต่เมื่อวานแล้วกี้ เมื่อวานบีนไปช่วยเราเลือกไม้แบดหน่ะ”
“อ้าวหรอ ดีๆ รู้จักกันไว้” กี้เค้าก็อัธยาศัยดี
เราเดินกันเข้าห้องไปเรียนตอนเช้าก็ไม่ได้อะไรมาก แต่ถามว่ายากไหม ก็ยากนะเคมี ชีวะ อยากจะร้องไห้
พักเที่ยงก็ตามเดิม ผมกลัวเขาแกล้งเอาอะไรมายัดไว้ใต้โต๊ะ เลยทำทีเป็นว่าลุกช้า กลุ่มน้องโอ๊ตก็เดินลงไปแล้วทำให้ไม่ทัน
“ ช็อกโกแลต ”
อยู่ดีๆก็มีคนยื่นช็อคโกแลตให้ผม ผมหันกลับไป อ้าวนี่มันไอ้เด็กที่แอดไลน์ผมมานี่นา
“ว่าแต่นายชื่ออะไรนะ”
ผมยื่นมือรับช็อกโกแลต พร้อมกับถามชื่อน้องเขาไป
“ชื่อ บอย เมื่อคืนทักไลน์ไปทำไมไม่ตอบวะ”
บอยถามแบบหน้ายิ้มๆ เออนี่มันก็น่ารักจริงๆนะ ไม่ได้ๆ จะเขว ออกนอกลู่นอกทางไม่ได้ เรามาทำงาน ผมยิ้มตอบ
“ขอบคุณมากนะ เดี๋ยวเราไปกินข้าวก่อน”
“โอเค” บอยบอกพร้อมยิ้มให้ผมอย่างเป็นมิตร เอาเถอะวะเด็กมันชอบ ไม่อยากขัด
ผมเดินเข้าไปโรงอาหาร ซื้อข้าว น้ำ เรียบร้อย ก็สู่บรรยากาศเดิมๆครับ ไม่มีกลุ่ม ไม่มีที่นั่ง
“เฮ้ย บีน ไม่มีที่นั่งหรอวะ ”
อุ้ย ตาเถร ใครมากอดคอโดยการโฉบมาจากข้างหลัง ข้าวเกือบหก
“นั่งกับไบท์ก็ได้ ”
ไบท์บอกผมไปด้วย เดินไปด้วย แขนมันก็ลากคอผมให้ไปนั่งด้วย
เดินมาถึงโต๊ะก็เจอเพื่อนๆอีกสามคนครับ มี อ๊อฟ กี้ และก็น้องโอ๊ต ค่อยโล่งใจหน่อยวันนี้มีเพื่อนนั่งกินข้าว แถมเป็นกลุ่มน้องโอ๊ตอีก
“บีนๆ มานั่งข้างกี้มา”
น้องกี้ก็เรียกผมไปนั่งข้างตามประสาเด็กอัธยาศัยดี ส่วนอ๊อฟก็มุ่งมั่นอยู่กับอาหารเที่ยงสมกับเป็นเด็กอ้วน ส่วนโอ๊ตก็ดูช้าๆ เนิบๆ เฉยๆ จะดูมีความสุขก็ไม่ใช่ ดูทุกข์ก็ไม่เชิง
“จ้องหน้ากูมีอะไรติดหน้ากูหรอ” อุ่ย น้องโอ๊ตทักขึ้นมา
“ไม่มีอะไรหนิ เราดูรูปภาพที่ติดอยู่บนหัวนายหน่ะ”
ผมปฎิเสธไปพร้อมมอบความผิดให้กับรูปภาพผลไม้ที่ติดไว้ข้างฝาผนังโรงอาหาร
...........................................................................
“เดี๋ยวเราไปซื้อน้ำก่อน รอกี้ตรงนี้กับเพื่อนก่อนนะบีน”
กี้บอกผมให้นั่งรอกับเพื่อนๆทั้งสามไปก่อน
เด็กพวกนี้หลังกินข้าวเสร็จเขาจะไปนั่งเล่นที่ม้าหินอ่อนตรงสระน้ำข้างโรงเรียน บอกว่าร่มรื่นดี
ก็คงดีแหละ วันก่อนผมก็ไปนั่งเซ็งมา
“ป่ะ ไปกันเถอะ” กี้กลับมาพร้อมน้ำผลไม้ เพื่อนๆก็เดินตามก้นกี้ไป นี่สรุปใครหัวหน้ากลุ่ม
มาถึงที่ ผมก็นั่งฟังโอ๊ตกับกี้คุยกัน สายตาผมมองไปทางอื่นนะ แต่ก็เงี่ยหูฟังตามระเบียบ
“วันนี้ไม่ว่างเลยหรอ” โอ๊ตถาม
“กี้ไม่ว่าง จะไปหาพี่แทน”
“แต่กูอยากดูหนังเรื่องนี้มากเลยนะ”
“ไปดูกับไบท์กับอ๊อฟสิ ”
“ก็กูอยากดูกับมึงไง อยากดูกับคนอื่นกูก็คงชวนเค้าไปแล้ว ไปหาทำไมไอ้แทน มันคิดจะสนใจมึงไหมกี้ ”
“ไปห้องน้ำไหมบีน ไบท์ปวดเยี่ยว”
ไบท์ชวนผมคงปวดเยี่ยวหรือว่าขี้เกียจฟังคนทะเลาะกันก็ไม่รู้
“เออ ไปๆ” อันนี้ผมปวดจริง
“ไปไหมมึง ” ไบท์ถามอ๊อฟ
“ไม่หว่ะ กูจู๋ใหญ่ กักเก็บฉี่ได้นาน” ไอ้อ๊อฟนี่ก็สรรหาคำตอบ
“ไอ่สัด อันเท่านิ้วก้อย ฮ่าๆ” ไบท์ก็แหย่คืน
“ไอ้โอ๊ต มันกะจะเครมกี้อยู่หน่ะ กี้ช่วงนี้มันระหองระแหงกันกับแฟน เป็นนักร้องตามผับ แต่แม่งไอ้พี่แทนสาวติดเยอะไปหน่อย ไอ้กี้มันก็ขี้น้อยใจ เค้าก็คงขี้เกียจเอาใจ เลยอย่างๆห่าง ตอนนี้ก็ต้องลำบาก ตามง้อ ตามเฝ้าเค้าถึงห้องซ้อมดนตรี บางวันก็ไปรอเค้าที่ผับ กูเห็นแล้วเหนื่อยแทน”
ไบท์มันคงเห็นผมทำหน้างง สงสัยในตัวเพื่อนใหม่ที่ทะเลาะกัน แล้วมันก็อธิบายขยายความต่อ
“แล้วไอ้โอ๊ตก็ลงทุนพาเค้าไปง้อแฟน พาไปส่งบ้าน ไอ้กี้ ช่วงนี้กี้มันฐานะไม่ดีเท่าไหร่ พ่อแม่ก็พึ่งเสียไปช่วงสงกรานต์เมื่อที่
ผ่านมา มันก็อยู่บ้านคนเดียว นานๆป้ามันจากต่างจังหวัด ”
“แล้วทำไมกี้ไม่เลือกโอ๊ตหล่ะ” ผมก็ถามไปแบบใสๆ
“ไอ้กี้มันไม่ชอบคนแนว เจ้าชู้หน่ะสิ ไอ้โอ๊ตมันก็ไม่ได้เจ้าชู้ขนาดนั้น แค่ว่าคนมาจีบมันเยอะ มันเป็นคนที่ปฎิเสธคนไม่เก่งแถมเอาใจคนเก่ง แต่ว่าพี่แทนก็สาวติดเยอะ กูก็งง กี้ก็คงรักพี่แทนมากด้วยหล่ะ”
บีนก็งงนะไบท์
“เด็กสมัยนี้เนาะ” อ้าวพลั้งปาก ตายห่าละ
“พูดเหมือนผู้ใหญ่เลยอ่ะมึง ฮ่าๆ ” เออจริง ผมก็หลุดไป
“ว่าแต่ก็มึงนี่ พูดกู มึง ได้ใช่มั้ยวะ คงไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
น้องเขาคงเกรงใจรู้จักกันได้ไม่นานก็ขึ้นกูมึง
“ได้สิไม่มีปัญหา แต่เราจะเรียกไบท์ว่า ไบท์ แทนตัวเราว่า เรา แล้วกันนะ เราไม่ชิน”
ผมไม่ชินจริงๆนะครับ ที่จริงพวกนี้ผมต้องเรียกเขาน้องด้วยซ้ำ จะไปพูดกูมึงกับเขาก็ดูแปลกๆ ส่วนเขาจะกูมึงกับเราอันนี้ไม่มีปัญหา เพราะเขาไม่รู้
“โอเค ” ไบท์ตอบผมพร้อมกับเข้ามากอดคอ
“ขอบคุณมากนะ”
ขอบคุณมากนะไอ้หนู พี่มีที่พึ่งแล้ว เป็นหนุ่มน้อยรูปร่างดี หน้าตาดี แล้วยังใจดีอีกเฮ้อ ทำไม ตอนเรียนมัธยมไม่มีแบบนี้มั่งนะ
“ไปๆ ไม่ต้องมาทำซึ้ง”
กลิ่นเหงื่อจางๆของเด็กหนุ่มนี่มันหอมดีจริงๆ
ไม่ได้นะบีน จะคิดแบบนี้ไม่ได้
เวลาเริ่มใกล้บ่ายโมงครึ่งพวกผมก็เดินขึ้นมาบนชั้นเรียน
“บีนๆ มึงอยากมานั่งกับพวกกูป่าว เดี๋ยวจัดให้” อ๊อฟมันถามขึ้นก่อนจะเดินถึงห้อง
“ได้ ขอบคุณมากอ๊อฟ” ตอบไปอย่างรวดเร็ว อย่างนี้ก็ได้ใกล้เป้าหมาย
“มึงเรียนเก่งหรือเปล่า กูจะได้ลอก ”
เย้ๆ สุดท้ายโอ๊ตก็พูดด้วยแล้ว ถึงจะถามเรื่องลอกก็เถอะ อย่างน้อยก็เป็นเรื่องเรียน ฮ่
“ก็พอได้อยู่นะ”
ผมตอบไปอย่างนี้เพราะตอบว่าเก่งเดี๋ยวเจอยากๆจริงๆ แล้วจะเงิบเอา
“เฮ้ย สุวิทย์ เห็นมึงบ่นเมื่อเช้าว่ามองไม่เห็นกระดานหรอว่ะ ย้ายไปนั่งแทนไอ้บีนสิ เดี๋ยวกูจะให้บีนมานั่งแทน”
อ๊อฟมันให้สุวิทย์เด็กที่นั่งหลังห้องที่เป็นแถวข้างๆกับแถวของโอ๊ต นึกออกไหมครับ แถวติดหน้าต่างคือแถวแรก แถวที่ผมจะนั่งคือแถวที่สาม ที่นั่งสุดท้ายฝั่งทางขวา ติดกับกี้และก็โอ๊ตที่อยู่แถวที่สี่ติดประตูหลังพอดี ดีๆ ใกล้ได้อีก
“เรียบร้อยมึง เอาของมานั่งได้เลย เชิญครับ” อ๊อฟผายมือเชิญ
แต่เอ๊ะที่นั่งของสุวิทย์ตรงนี้มันนั่งคู่กับใครนะ ผมจำไม่ได้ เผอิญคนที่นั่งคู่ข้างๆยังไม่ขึ้นมา ผมก็นั่งเตรียมตัวเอาหนังสือขึ้นมาเรียน
“บีนๆ สลับที่กันไหม” กี้ที่นั่งข้างๆผมอีกแถวถามขึ้นมา
“ทำไมหล่ะ” ผมถามกลับ
“ไม่มีอะไรหรอกวันเดียวเอง”
ผมว่ากี้กับโอ๊ตคงงอนกันแน่ๆ แล้วยิ่งย้ายที่กันแบบนี้โอ๊ตยิ่งไม่งอนไปมากกว่านี้หรอ
“ได้ๆ” ยิ่งดีสิครับ ได้นั่งข้างน้องโอ๊ต
สรุปคือกี้ย้ายไปนั่งแทนผมชั่วคราว และคนที่นั่งข้างกี้ที่ที่จริงผมต้องนั่งด้วยก็คือ บอย นั่นเองครับ นี่ถ้าถึงพรุ่งนี้แล้วจะมีสมาธิเรียนไหมนี่ หวังว่าเด็กบอยจะคงไม่หยอด ไม่จีบผมเกินไปนะ
กำลังคิดๆอยู่หันหน้าไปทางกี้ ก็เจอเด็กบอยโผล่หัวออกมาจากหัวของกี้ที่บังอยู่ พร้อมยิ้มให้ผมจนปากแทบฉีก ผมก็อมยิ้มตอบ ก็ดูจริงใจดี ถือว่าหาพักหาพวกไว้เยอะๆแล้วกัน
.................................................................................................
จะว่าไปนั่งดูใกล้ๆน้องโอ๊ตนี่หล่อเอาการเลยครับ หน้าหล่อใสเนียนเชียว ดูเข้ากับผมสกินเฮดที่เริ่มยาวแล้ว ผมกำลังนั่งชมเด็กที่นอนหลับอยู่ ในคาบสุขศึกษา ชั่วโมงสุดท้ายของวันนี้
เออจริงสิ ตามหน้าที่แล้วต้องปลุก
“โอ๊ตๆ ตื่นๆ เดี๋ยวโดนครูว่านะ”
“อืม”
“โอ๊ต ตื่น” ดึง ดึ่ง ดึง ดึ่ง ดึ่ง ดึง ดึ่ง ดึง อ้าว หมดเวลาพอดี
“อ้าวหมดเวลาแล้วหรอ ขอบใจที่ปลุก ” ไม่ได้จะปลุกอย่างน้านน จะปลุกขึ้นมาเรียน
“อ้าวเดี๋ยวการบ้านครูจะให้นักเรียนวาดรูประบบสืบพันธ์ของเพศหญิงมานะคะ”
อุ้ยครูสั่งการบ้านจดก่อนๆ ผมก็ดูจริงจังกับการเรียน
“ฮ่าๆๆๆ ฮิ้ววว” คิดลึกหล่ะสิเด็กพวกนี้ ครูเค้าคงให้วาดช่องคลอด รังไข่ ไปอะไรอย่างนี้
“อะไรคะนักเรียน ครูให้วาดพวก รังไข่ ช่องคลอด มดลูกจ้า ไม่ได้ให้วาดอย่างนั้น” นั่นไงเป๊ะมั้ย คนเค้าเรียนมาก่อน
“อ้าว แล้วนี่โอ๊ตไม่จดการบ้านหรอ ” ผมถามขึ้นเมื่อเห็นโอ๊ต เก็บของเข้ากระเป๋าเรียบร้อย
“ก็มึงจดแล้วไง อังคารหน้าส่ง เดี๋ยวกูค่อยมาลอก” โอ๊ตตอบผมหน้าตาเฉย
โอยยย ตายแล้ว จะแก้ปัญหายังไงดีวะนี่
...
หลังจากกลับจากโรงเรียนผมก็กลับไปอาบน้ำพร้อมออกมากินข้าวข้างนอกครับ
ผมกินข้าวเสร็จก็ปาไปสองทุ่มแล้ว วันนี้ว่าจะเดินซื้อเสื้อผ้าให้ดูสมวัยเด็ก ม.ปลายใส่ก่อน ค่อยจะกลับ แต่เอ๊ะ
สายตาผมมองไปที่ร้านกาแฟชื่อดังที่ผมกำลังจะเดินผ่าน
อ้าวนี่กี้หนิ กี้เห็นผมก็โบกมือให้ ผมก็ยืนรอให้กี้เดินออกมากหา เผื่อได้คุยกัน
“ มาทำอะไรหรอบีน”
“พอดีเรามากินข้าว แล้วนี่กี้มากินข้าวเหมือนกันหรอ”
“ไม่หรอก เรามาทำธุระที่ที่ทำงาน ”
“อ้าวนี่ทำงานพาร์ทไทม์ด้วยหรอ เก่งจัง”
เรียนก็เรียนเอกชนนะ อ่อจำได้แล้วที่ไบท์บอกว่ากี้อยู่กับป้า
“เราอยากหาตังค์ใช้เองบ้าง อยู่กับป้าแล้วเกรงใจ” อย่างนี้นี่เอง
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วเดี๋ยวเราไปก่อนนะ เจอกันพรุ่งนี้นะบีน”
“จ้า เจอกันๆ”
คือน้องเค้าดูเคะมาก ก้มดูตัวเองแล้ว
ผมเองก็เคะตัวแม่เหมือนกันหรอกน่า ฮ่าๆ
และแล้ววันศุกร์ก็มาถึง วันนี้เพื่อนๆกลุ่มผมชวนกันไปดูหนังกันหลังเลิกเรียน มีหรอผมจะไม่ไป
รู้จักกันมาได้ สี่ห้าวัน เพื่อนๆก็โอเคดีนะ จากที่ดูว่าเจ้าชู้ หน้าม่อ แต่เห็นอีกด้านก็แมนดีเหมือนกัน อยู่กันง่ายๆสบายๆ ตามแบบผู้ชาย จะติดก็แค่โอ๊ตที่จะดูคุณหนูหน่อย โน่นไม่ได้ นี่ไม่ได้ เดินกอดคอน้องกี้ยังกะกลัวจะพลัดหลงกัน โกรธง่ายหายเร็วกันจริงๆ
แต่สองคนนี้ถึงจะหายโกรธกันแต่กี้ก็ยังไม่กลับมานั่งที่เดิมนะครับ กลายเป็นว่าผมต้องนั่งเรียนข้างๆ โอ๊ต มาได้สี่วันแล้ว พูดคุยกันบ้านนิดๆหน่อยๆ ก็ดีหน่ะสิ ตามแผนเลยทีนี้
“เป็นไรหรอมึง ทำไมมองคู่นั้นแปลกๆ”
ไบท์ถามผมขณะที่เรากำลังขึ้นบันไดเลื่อน สองคนนั้นยืนกอดคอกันห่างกับผมหลายขั้น ผมกับไบท์ยืนห่างกันขั้นหนึ่ง ส่วนไอ้อ๊อฟนี่เล่นมือถืออยู่
“หรือว่าอยากมีแบบนั้นบ้าง มาๆเดี๋ยวกูกอดคอมึงเอง”
“ไม่ๆ คือสงสัยเฉยๆ ว่าไม่อายคนอื่นหรือไง”
ผมปฏิเสธ มือไม้ปัดมือไอ้ไบท์ออก นี่จะปีนเกลียวหรอไอ้เด็กม.๕
“กูว่าสนุกนะ บู๊ทั้งเรื่อง ตื่นเต้นดี”
ไอ้อ๊อฟวิจารณ์หนังขณะที่พวกเรา ๕ คนกำลังสั่งอาหาร ในร้านอาหารซีฟู๊ดสุดหรู โดยโอ๊ต เอ่ยปากว่าจะเลี้ยง ลาภปากไอ้บีนเลยหล่ะทีนี้
“กูว่าไม่เห็นสนุกเลย ดูไม่รู้เรื่อง”
โอ๊ตนั่งบ่นน่าเหมือนพึ่งตื่น ขณะมือกำลังปิดเมนูอาหารที่พึ่งสั่งเสร็จไป
“จะสนุกได้ไงหล่ะโอ๊ต กี้เห็นโอ๊ตหลับตั้งแต่กลางเรื่อง ตื่นอีกทีก็หนังจบ แถมเอาหัวมาหนุนไหล่เราอีก หนักก็หนัก”
ฮ่าๆ นี่น้องมันหลับหรอกหรอ
“ก็ไหล่ตัวเองนุ่มนิ่มดีนี่ครับ” โอ๊ตบอกกี้ แต่คนในโต๊ะได้ยินหมด พร้อมเอาหัวไปไถไหล่กี้
“พอๆ เลยพวกมึงไม่ต้องมาหวานแถวนี้ โน่นห้องน้ำเลย ไปๆ” ไอ้อ้วนอ๊อฟ กัดเพื่อนแบบขำๆ
“แต่ก็นะโอ๊ต ทีหลังอย่าหลับในโรงแบบนั้นอีกนะ เสียดายเงิน” กี้บ่นโอ๊ตเบาๆ
“กับเงินแค่ ร้อยสองร้อย นิดเดียวเอง”
โอ๊ตตอบกี้หน้ามึนๆ แหมเงินตั้งเกือบสองร้อย ไหนๆแล้วก็ขอสั่งสอนหน่อยเถอะ
“ว่าอย่างนั้นมันไม่ถูกนะโอ๊ต เงินสองร้อยนี่คนจนๆ เค้าใช้ได้หลายวันเลยนะ มันมีค่ามากเลยนะ สำหรับคนที่ไม่มีตังค์ ไม่มีข้าวจะกิน เราว่าพวกเราใช้เงินให้รอบคอบจะดีกว่ามั้ย”
ผมพูดจบประโยคด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา คือพูดออกไปไม่รู้จะสอนพวกเด็กๆถูกรึเปล่า แต่ตอนที่พ่อผมเสียใหม่ๆ แม่ที่เป็นแม่บ้านไม่มีอาชีพอะไร ต้องไปรับจากเป็นแม่บ้าน บ้านคนอื่น กว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทลำบากแทบแย่ แถมพ่อยังเป็นหนี้คนอื่นเยอะ มาทวงทุกอาทิตย์ เงินร้อยสองร้อยนี่กินกันได้สองสามวันเลยแหละ
“แล้วมึงคนเป็นคนจนหรอวะ ทำไมรู้ดีจัง” ตายแล้วจะว่ายังไงดีล่ะ
“เอ่อคือพอดีบีนเห็นคนงานที่บ้านเขาใช้เงินกันประหยัด เลยลองเอามาคิดดู” ผมตอบไปนี่ ตรงคำถามที่มันถามไหมนี่
“แล้วมึงเป็นใครถึงมาสอนกู รู้จักกูได้กี่อาทิตย์เชียว” น้องมันถามแบบกวนตีนๆ แล้วจ้องหน้าผม
“เอ่อ คือ .....” ผมพูดไม่ออก นี่ผมกลัวน้องมันหรอ ไม่นะ ก็แค่เด็ก ม.๕ เอง
“ก็แค่อยากเตือน” ผมก็ตอบไปข้างๆคูๆ
“พอๆ อาหารมาแล้ว กินกันเถอะ”
ไอ้ไบท์คงเห็นท่าไม่ดี เลยตัดบทไปก่อน
ยอมรับว่ากินไม่อร่อยเลยครับมื้อนี้ ข้าวเค้าก็เลี้ยง ยังจะไปสอนเค้าอีก แต่คิดอีกด้านมันก็เป็นหน้าที่ผมนะ หรือว่าผมสอนน้องเค้าผิดช่วงไปเอง เฮ้อ เหนื่อย
เช้าวันเสาร์ที่แสนสบายของผม วันนี้ผมมีโอกาสได้ตื่นสายกับเขาเสียที ว่าไปแล้วก็บิดขี้เกียจสักสิบรอบดีกว่า กว่าผมจะทำนู่นทำนี่เสร็จเวลาก็เดินไปถึง สิบโมงเช้าแล้ว วันนี้ผมแต่งตัวออกจากห้องกะว่าจะไปซื้อของใช้เข้าห้องเสียหน่อย
ติ้ง
บอย - บีนๆ บอยเองทำไมไม่ตอบกันเลย”
เด็กบอยเองครับ น้องเขาทักไลน์ผมมาเป็นอาทิตย์ ผมยังไม่ตอบอะไร
บีน - ว่าไง
บอย - ทำอะไรอยู่ เพิ่งตื่นหรอ
บีน - ตื่นนานแล้ว กำลังจะไปข้างนอก
บอย - ไปทำอะไร
บีน - ไปซื้องของใช้หน่ะ
บอย - แป่ว บอยว่าจะชวนบีนไปดูหนัง
บีน - ไว้คราวหน้าแล้วกันนะ เดี๋ยวเราไปก่อน
บอย - เดี๋ยวๆ
ให้เราไปซื้อของเป็นเพื่อนเปล่า
...............................................................................................
สุดท้ายผมก็นัดกับเด็กบอยครับ เรามาเจอกันที่ซูปเปอร์มาเก็ตในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆกับคอนโดผม ผมเลือกของ เด็กบอยเข็นรถ สบายดีเหมือนกันนะ
เราคิดเงินกันเสร็จผมก็ออกปากชวนบอยไปหาอะไรกินกัน ยังไงเค้าก็อุตส่าห์ช่วยมาเป็นเพื่อน เวลาก็เกือบจะบ่ายโมงแล้ว
“แล้วจะทำอะไรต่อจากกินข้าวเสร็จหรอบีน” เด็กบอยถาม
“เราว่าจะกลับไปห้อง ยังไม่ได้ทำความสะอาดห้องเลย ” อยู่ห้องมาเกือบเดือนผมยังไม่ได้เก็บกวาดเลยครับ ตั้งแต่มาอยู่ใหม่ๆ
“ให้บอยไปช่วยนะ บีนอยู่คนเดียวหรอ” รุกหนัก พุ่งจริง ครับ
“ไม่เป็นไรดีกว่า เราเกรงใจเอาเป็นว่า วันจันทร์เจอกันที่ โรงเรียนแล้วกันนะ”
“โถ่ น่าเสียดาย” บอยทำหน้าเสียดายแบบน่ารักๆ โอย อดปลื้มไม่ได้ แต่ต้องห้ามใจไว้นะบีน
ผมกลับมาถึงห้องก็วางถุงของใช้ ของสอย ไว้กลางห้องครับ เปิดตู้เย็นรินน้ำมาดื่ม พร้อมคิด จะทำอะไรต่อดี จัดห้อง จัดของก่อน หรือทำความสะอาดก่อน
บอย - จัดของยังบีน
บีน - ยังเลย ทำไมหรอ
บอย - เปล่านึกว่าจัดแล้ว
บีน - ต้องมีอะไรแน่ๆ
บอย - เปิดดูดิ อยู่ถุงไหนไม่รู้
บีน - เอายาบ้ามายัดไว้หรือเปล่านี่
ผมค้นหาของแปลกปลอมในถุง มันมีตั้งหลายใบ กว่าจะหาเจอ
นี่ไงเจอแล้ว กล่องเฟอเรโร่ รูปหัวใจ ช่วงนี้ยังมีอยู่หรอนี่ มันไปหามาจากแผนกไหน แล้วเอามายัดตอนไหน
ติ้ง
บอยตอบมา
บอย - ให้นะ
บีน - รู้ได้ไงว่าชอบช็อกโกแลต
บอย - วันก่อนเราให้บีนไป เราแอบเห็นบีนเดินไปกินไปหน่ะ หน้าตาตอนกินดูชอบ วันนี้เราเลยซื้อให้อีก
จริงด้วยที่วันก่อนผมรับช็อกโกแลตจากเด็กบอยมาแล้ว ตอนที่เดินไปโรงอาหารเกิดหิวข้าวขึ้นมาก่อน อดใจไม่ไหวเลยกินช็อกโกแลตตอนนั้นเลย ไม่นึกว่าเด็กบอยจะเดินตามแล้วแอบดู
บีน - ขอบใจนะบอย
บอย - บอยเต็มใจ
สติ๊กเกอร์รูปหัวใจ
ไอ้เด็กนี่จีบผมแน่ๆ
ผมนั่งจัดแจงของออกจากถุง พร้อมมองไปที่กระจกที่ตั้งอยู่ตรงห้องรับแขก
นี่ผมยิ้มหรอ ยิ้มแบบเขินๆ
..........................................................................
ตอนที่๔ มาแล้วหลังจากหายไปหลายวัน เพราะติดภารกิจด่วน
สัญญาว่าตอนต่อไปจะรีบมาต่อนะครับ