[4]
PART 1
“เสื้อตัวใหญ่ฉิบหาย ยังดีที่กางเกงไม่หลวม” ผมบ่นกับตัวเองเบาๆ ขณะที่กำลังแต่งตัวในห้องน้ำ เสื้อที่ไอ้คีนหามาให้ผมเป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีขาวตัวโคร่งที่ยาวมาถึงขาอ่อนจนปิดกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลจนมิด
“แต่งแบบนี้มันเหมือนนายเอกนิยายวายเลยว่ะ” พอแต่งตัวเสร็จแล้วก็อดขำกับตัวเองไม่ได้ เมื่อผมตอนนี้เหมือนกับนายเอกนิยายวายที่เคยอ่านบ่อยๆ เสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ๆ กางเกงขาสั้น ฮ่าๆ เอ็กซ์ฉิบหาย
“หวังว่าไอ้คีนมันจะไม่มีจุดประสงค์หรอกนะ ให้กูแต่งตัวแบบนี้เนี่ย” อดจะคิดไม่ได้แฮะ เหมือนจะตั้งใจยังไงชอบกล แต่แล้วก็ต้องสลัดความคิดบ้าๆ ของตัวเองออก กูคงคิดมากไปเองมั้ง
“ให้กูนอนไหนล่ะ” พอออกจากห้องน้ำก็เจอไอ้คีนนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะข้างเตียง มันหันมาหาผมดูเหมือนว่ามันจะชะงักน้อยๆ หูแดงๆ นั่นทำให้ผมขมวดคิ้วนิดหน่อย อะไรของมัน อยู่ๆ ก็มาหูแดงใส่
“นอนบนเตียงนั่นแหละ” มันบอกเสียงอ้อมแอ้ม แล้วกระแอมเบาๆ ก่อนจะเบนสายตากลับไปอ่านหนังสือเหมือนเดิม หูนั่นแดงกว่าเดิมอีก อะไรของมันวะ? ร้อน?
“อืม. . .ใส่แว่นด้วยหรอ” ผมนั่งลงบนเตียงมันง่ายๆ ไม่เห็นต้องเล่นตัวอะไรมากมาย ก่อนจะถามมันเพราะเพิ่งสังเกตว่ามันใส่แว่นด้วย
“อืม. . .เฉพาะเวลาที่ต้องอ่านหนังสือหนักๆ” มันบอกผมแต่ไม่ได้หันมามองผม ผมตอบรับในลำคอเบาๆ แล้วห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง มันอ่านหนังสือ ผมก็นั่งดูมันเรื่อยๆ ตอนนี้มันดูตั้งใจ จริงจัง แต่ก็ไม่ได้เครียด ยอมรับตรงๆ ว่าตอนนี้มันดูมีเสน่ห์ น่าดึงดูดมาก จากปกติก็มากอยู่แล้ว กูไม่แปลกใจเลยว่าทำไมได้เป็นเดือนมหาลัย
“มองมากๆ กูคิดตังค์นะ” ผมสะดุ้งเฮือกเพราะอยู่ๆ มันก็พูดทำลายความเงียบขึ้นมา
“มะ. . .มึงรู้ได้ไง มีตาหลังหรอ กูเปล่ามองมึงเหอะ” มันจะรู้ได้ไงว่าผมมอง ในเมื่อมันไม่ได้หันมาทางผมด้วยซ้ำ
“หึหึ” กูเกลียดจริงๆ ไอ้เสียงหัวเราะสองหึแบบนี้
“กูจะนอนแล้ว เชิญอ่านหนังสือให้ตายไปเถอะ!!” ในเมื่อไม่รู้จะเถียงอะไร ผมก็บอกเสียงดัง แล้วล้มตัวลงนอนคลุมโปงทันที
“ฝันดีนะ อีกแป็บจะไปนอนกอด หึหึ”
“กอดพ่อง!!” ด่าเสร็จผมก็หลับตาทันที แปลกที่วันนี้ผมสามารถนอนหลับได้อย่างสนิทใจ ผมเป็นคนไม่ชอบนอนแปลกที่ เพราะจะนอนไม่หลับ แต่วันนี้ผมกลับหลับตาแป็บเดียวก็รู้สึกเคลิ้มๆ จะหลับ จนวูบหนึ่งผมรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนที่หน้าผาก และความอบอุ่นที่โอบรอบทั้งตัวไว้ และผมก็หลับสนิทในเวลาไม่นาน
>>>>><<<<<
“อืมมมม. . .” ผมครางในลำคออย่างรำคาญ เมื่อมีอะไรมายุกยิกๆ อยู่ที่ซอกคอรบกวนการนอน พยายามเอามือปัดออกแต่กลับโดนรวบไว้ เชี่ยไรวะ!! คนกำลังหลับกำลังนอน
“เฮ้ย!!”
พลั่ก!!!
“โอ๊ยยยย!! . . .อะไรของมึงเนี่ย ถีบมาได้ เจ็บฉิบหาย” ไอ้คีนที่นอนกุมท้องอยู่ปลายเตียงร้องโอดครวญ หน้าเน่อนี่บิดเบี้ยวไปหมด แสดงให้เห็นว่าแม่งเจ็บจริงๆ แต่ผมไม่สนใจ ลอยหน้าลอยตาตอบมัน
“ก็ใครใช้ให้มึงลวนลามตอนกูหลับล่ะ” คิดดู เป็นใคร ใครจะไม่ตกใจบ้าง นอนหลับอยู่ดีๆ พอลืมตาขึ้นมาก็เห็นกลุ่มผมสีดำของใครก็ไม่รู้มาวุ่นวายอยู่ตรงซอกคอ กูถีบแค่นั้นถือว่าเบาแล้วเหอะ
“อ๋อ ที่โกรธนี่เพราะกูลวนลามตอนหลับ อยากให้ทำตอนตื่นก็ไม่บอก กลัวไม่มีอารมณ์ร่วมหรอจ๊ะ”
“เฮ้ย!!” ว่าจบมันก็กระโดดขึ้นเตียงคร่อมผมไว้ทั้งตัว ปากกับจมูกก็มาวุ่นวายอยู่แถวใบหน้า จนผมต้องกระเถิบตัวหนีจนชิดหัวเตียง แต่มันก็ยังตามมาจนได้
“อะ. . .ออกไปนะ อะไรของมึงเนี่ย!!” ผมโวยวาย มือทั้งสองข้างก็ผลักมันไปด้วย แต่ดูเหมือนแรงของผมมันจะมีไม่มากพอ ในเมื่อมันไม่ขยับเลยแม้แต่นิดเดียว
“อย่าดิ้นน่า ตัวมึงหอม กูชอบ” มันรวบข้อมือทั้งสองข้างของผมด้วยมือข้างเดียวของมัน แล้วก้มมาหอมแก้มฟอดใหญ่ ทั้งการกระทำและคำพูดของมันทำให้ผมอดที่จะใจเต้นแรงไม่ได้ ตะ. . .แต่แบบนี้มันคุกคามทางเพศชัดๆ!! (ถึงจะแอบชอบก็เหอะ)
“ออกไปนะ” เสียงอ่อยได้อีกกู แล้วแบบนี้ใครจะทำตามวะ
“ขอนิดเดียว”
“นิดเดียวอะ. . .อื้อ!!” ยังไม่ทันที่ผมจะถามจบมันก็ประกบปากลงมาทันที ผมดิ้นขลุกขลักไม่ยอมเปิดปากให้มันส่งลิ้นเข้ามา มือทั้งสองข้างก็ยังถูกรวบไว้เหมือนเดิม
“เปิดปากหน่อยสิ” มันกระซิบเสียงพร่าชิดริมฝีปาก แต่ผมก็ยังเม้มไว้แน่น ไม่ยอมทำตาม มันก็เลยกดปากย้ำๆ ลิ้นเลียตามรอยแยกของริมฝีปาก ยอมรับตามตรงว่ารู้สึกสยิวไม่น้อย ตาของมันตอนเช้าๆ แบบนี้โคตรหวาน มองทีแทบละลาย
“อื้อ. . .” ผมครางออกมาเสียงเบาเมื่อมันละจากริมฝีปากมาเลียที่หลังหู ผมขนลุกซู่ทันที เพราะว่ามันเป็น. . .
จุดอ่อนของกู. . .แอบได้ยินเสียงมันหัวเราะในลำคอเบาๆ คงจะรู้แล้วสินะ วิธีทำให้กูระทวยน่ะ
ไอ้คีนไล้ ริมฝีปากจากหูมาตามแก้มและมาหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก “เปิดปากสิ แล้วกูสัญญาว่ามันจะแค่จูบ” ผมมองตามันอย่างจริงจัง ตอนนี้มันปล่อยมือผมออกแล้ว ผมกัดปากชั่งใจ และตัดสินใจได้ในที่สุด ผมสูดหายใจเข้าปอดแล้วเอื้อมมือทั้งสองข้างโอบรอบคอของมันและดึงมาประกบปากซะเอง
มันกดย้ำเบาๆ ก่อนจะแทรกลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากนุ่ม ผมหลับตาลงเพื่อซึมซับแค่รสชาติริมฝีปากของคนบนร่าง มือมันข้างหนึ่งลูบสีข้างผมเบาๆ ส่วนอีกข้างก็จับคางผมเพื่อให้องศาการจูบของเราแนบแน่น
“อือ. . .อืม” ไอ้คีนจูบเก่ง. . .มันทำให้ผมไม่สามารถที่จะกลั้นเสียงครางได้ สุดท้ายก็ต้องครางออกมาแผ่วๆ มันผละออกเมื่อผมเริ่มหายใจไม่ทัน ก่อนที่จะประกบลงมาอีกครั้ง ลิ้นร้อนๆ ควานไปทั่วปาก ไม่มีมุมไหนซอกไหนที่มันไม่สำรวจ ทั้งตามไรฝัน เพดานปาก กระพุ้งแก้มทั้งสองข้าง เสียงครางต่ำๆ ของมันดังออกมาอย่างพึงพอใจ ความเสียวซ่านรุกคืบเข้ามาจนผมต้องขยุ้มหัวมัน
“พะ. . .พอ” ผมร้องบอกเมื่อเริ่มรู้สึกขาดอากาศหายใจอีกครั้ง อีกอย่างถ้าไม่หยุดตอนนี้มันอาจจะเตลิดจนไม่สามารถหยุดได้ มันก็ทำตามอย่างว่าง่ายแต่ก็ไม่วายย้ำเบาๆ อีกสองสามที
“หึ. . .ปากเจ่อ”
“เพราะใครล่ะ!!” ผมแหวใส่ แม่งยังมีหน้ามาล้อ
“มึงนี่หวานกว่าผู้หญิงอีกนะ”
“พะ. . .พูดอะไรของมึง” ผมถามเสียงอ้อมแอ้มเมื่ออยู่ๆ มันก็พูดขึ้นมา
“พูดความจริง ทั้ง
หวาน. . .ทั้ง
หอม”
“ไอ้บ้า” -/ / /-
“ด่าแล้วทำไมหน้าแดงล่ะ”
“อะ. . .ลุกออกไปเลยนะ กูร้อนจะอาบน้ำ!!” ผมผลักมันออกจากตัว คราวนี้มันยอมออกไปง่ายๆ ไม่อิดออดเหมือนตอนแรก ผมรีบลุกขึ้นแล้ววิ่งเข้าห้องน้ำทันที
“หึหึ” กูเกลียดเสียงหัวเราะแบบนี้!!!!!!!
>>>>><<<<<
“กว่าจะออกมานะพวกมึง กูนึกว่าได้เสียกันไปซะแล้ว ข้าวต้มอยู่ในห้องครัวน่ะ กูทำเผื่อไว้แล้ว” ออกมาจากห้องปุ๊บก็เจอกับพี่แบงค์นั่งกินข้าวต้มดูทีวีอยู่ที่โซฟาพูดแซวทันที จะไม่ให้แซวได้ไงในเมื่อผมออกมาจากห้องพร้อมไอ้คีน อันที่จริงผมน่ะอาบน้ำแต่งตัวเสร็จนานแล้วเหอะ แต่มันไม่ยอมให้ออกมาก่อน บอกว่าให้รอออกพร้อมมัน เพื่อ?
“ก็เกือบแล้ว”
“สัด!!” คำตอบของไอ้คีนทำให้ผมที่หยิบหมอนอิงที่ตั้งอยู่บนโซฟาปาใส่มันทันที แต่มันไม่สะเทือนไง เสือกรับได้แล้วยังจะมีหน้ามายิ้มล้อเลียนกูอีก
“อย่าไปยอมมันง่ายๆ นะฟ่า พวกชายแท้น่ะไว้ใจไม่ได้”
“อ้าวไอ้แบงค์ ตอนแรกมึงสนับสนุนกู แล้วทำไมตอนนี้พูดงี้วะ” ไอ้คีนโวยวายทันทีที่เพื่อนรักมันพูดจบ
“หึ กูแค่เตือนน้องมันเว้ย”
“ไม่ต้องเตือนเว้ย กูรักจริงหวังแต่ง” ฉ่า -/ / /- ทำไมอยู่ๆ ก็รู้สึกร้อนๆ ที่หน้ากับประโยคบ้าๆ นี้วะ ใจก็เต้นแรงด้วย สงบไว้ฟีฟ่า สงบไว้
“หึ ทำปากดี แล้วกูจะรอดู” กูนี่แหละปากดี ไอ้ห่า ใจเต้นแรงจะตายอยู่แล้ว ทำปากเก่ง
“แหมแค่นี้ทำหน้าแดงนะครับฟีฟ่า เขินกูก็บอกเหอะ”
“พ่องมึงสิ ไปเอาข้าวมาสิ กูหิวแล้ว!!” ผมพูดเสียงดัง อันที่จริงกลบเกลื่อน
“หึ เสียงดังกลบเกลื่อนนะมึงน่ะ” มันพูดเสร็จก็วิ่งไปที่ห้องครัวทันทีเพราะผมยกหมอนอิงอีกใบหนึ่งทำท่าจะปาใส่มัน
. . .ไอ้ห่า เสือกรู้ทันกูอีก“หึหึ รู้มั้ยว่าฟ่าคนแรกเลยนะที่ไอ้คีนมันเป็นแบบนี้” อยู่ๆ พี่แบงค์ก็พูดออกมาเมื่อผมนั่งข้างพี่แก
“แบบนี้? แบบไหนครับ” ผมถาม ผมก็เห็นว่ามันปฏิบัติกับผมปกติดีนะ ไม่ได้มีอะไรพิเศษ
“ก็. . .หัวเราะ แกล้ง หยอกอะไรแบบนี้น่ะ ปกติไอ้คีนมันไม่ใช่คนที่จะเล่นอะไรแบบนี้หรอกนะ มันจะอยู่เงียบตามประสามันมากกว่า ถ้ามันไม่อยากคุยกับใครนะ ต่อให้คนๆ นั้นทักมันคอแทบแตกมันก็ไม่ตอบ”
“อ่า. . .” นิสัยเสียชะมัด คิดในใจครับ ไม่กล้าพูด
“อีกอย่างนะ ที่ฟ่าพิเศษกว่าคนอื่นก็คือ. . .”
“คือ. . .” ทำไมต้องพูดเว้นๆ ครับพี่ ต่อเนื่องหน่อยดิ (ในใจอีกเช่นเคย)
“ก็ไอ้คีนน่ะ. . .”
“นินทาอะไรกู” ไอ้ห่าาาาา เกือบรู้อยู่แล้วเชียว รีบออกมาทำไมวะ
“พี่แบงค์กำลังสาธยายนิสัยเสียของมึงให้กูฟังอยู่” ผมยักคิ้วตอบแบบกวนตีน
“หรอ? งั้นมึงก็คงไม่ได้คุยกับไอ้แบงค์แน่ๆ” มันว่า
“ทำไมวะ กูก็คุยอยู่”
“เพราะถ้าคุยเรื่องนิสัยเสียของกูมึงคงไม่ได้คุย เพราะกูหล่อและนิสัยดีมาก” มันว่าพร้อมกับวางชามข้าวต้มข้างหน้าผม เพิ่งสังเกตว่ามันถือมาด้วย หึ ใช้ได้นี่หว่า
“ชิ หลงตัวเอง” ผมเบ้ปากแล้วเอาข้าวต้มเข้าปาก อร่อยชะมัด
“พี่แบงค์ทำเองหรอครับ. . .มึงอย่าเบียดได้มั้ย” ผมหันไปถามพี่แบงค์ที่นั่งอยู่ทางซ้าย ก่อนจะหันไปแว้ดไอ้คีนที่นั่งอยู่ทางขวา ไอ้ห่า ที่ตั้งกว้างเบียดกูทำไมวะ
“บ้านกู”
“เออ ไอ้ห่า ตกลงว่าไงครับพี่แบงค์ ถ้าทำเองนี่เก่งมากเลยนะ อร่อยมาก” ผมละอ่อนใจกับมัน ก็เลยเลิกสนใจมันแล้วหันมาสนใจฝีมือทำข้าวต้มชามนี้แทน
“อืม ทำเอง ชอบหรอ?” พี่แบงค์ตอบ
“ชอบครับ อร่อย” ผมพยักหน้าหงึกหงัก พร้อมกับตักข้าวต้มเข้าปากแล้วยิ้มแฉ่งให้พี่แกเพื่อยืนยัน
“กูก็ทำเป็นเหอะ” อยู่ๆ ไอ้คนที่นั่งอยู่ด้านขวาก็พูดขัดขึ้นมา
“ใครถามไม่ทราบ” ผมกวนตีน
“เออ!! แม่ง”
ตึก!!
ปัง!!
ผมอ้าปากค้าง เอ๋อแดกกับท่าทางของไอ้คีนที่อยู่ๆ มันก็กระแทกชามข้าวต้มที่เหลืออีกครึ่งชามบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาเสียงดัง แล้วเดินกระแทกเท้าเข้าห้องนอนไป ที่สำคัญปิดประตูดังจนพื้นห้องสะเทือน (เว่อร์)
ผมหันไปหาพี่แบงค์เพื่อขอความเห็น ก็เห็นพี่แบงค์นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ละเลียดข้าวต้มที่ไม่ยอมหมดจานอย่างอารมณ์ดี
“พี่แบงค์. . .คือมัน. . .อะไร?”
“หึหึ มันอิจฉาน่ะ”
“อิจฉา?”
“อือ. . .ที่ฟ่าเอาแต่คุยกับพี่ ไม่สนใจมันน่ะ”
“ไอ้คีน? อิจฉา?”
“อืม ไอ้คีนน่ะ มันมีนิสัยอีกอย่างคือไม่ชอบให้คนที่สำคัญกับมันให้ความสนใจกับคนอื่นหรือสิ่งอื่นมากกว่ามันน่ะ. . .พี่ว่า. . .ง้อหน่อยก็ดีนะ หึหึ” โอ้ว พระเจ้า!! นี่หรอเดือนมหาลัยที่สาวๆ ทั้งมหาลัยหมายปอง นิสัยแต่ละอย่าง เด็กชะมัด
แต่ว่า. . .ถ้าแบบนี้ก็เท่ากับว่ากูสำคัญกับมันดิ. . .ไอ้ห่า ทำไมกูต้องเขินด้วยวะ“ง้อหรอพี่ จะดีอ่อ” ผมถามอย่างไม่ค่อยมั่นใจ แต่พอมันเดินเข้าห้องไปแบบนั้น ข้าวต้มอร่อยๆ ก็รู้สึกไม่อร่อยเลยแฮะ
“ดีสิ ไอ้คีนง้อง่าย อ้อนๆ หน่อยมันก็หายงอนแล้ว”
“เฮ้อ. . .” ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ประตูห้องนอนที่เพิ่งออกมาเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน ลองบิดลูกบิดดูปรากฏว่าประตูไม่ได้ล็อก ผมสูดหายใจเข้าปอดอีกเฮือก ก่อนจะบิดลูกบิดแล้วเปิดประตู
“คีน. . .”
TBC.
TALK :
นิสัยไม่เด็กจริงทำแบบพี่คีนไม่ได้นะ