ตอนที่ 15.2ยามใกล้รุ่ง ครอบครัวของหลวงอินทรทินกรลงมาร่วมกันใส่บาตรอย่างพร้อมเพรียง พ่วงกับคุณหญิงพัชรา สามี และคุณอิ่มด้วยอีกครอบครัว ดูเหมือนว่าวันนี้ครอบครัวคุณหญิงจะเดินทางกลับเมืองจันท์ จึงมาร่วมทำบุญส่งท้าย
รัตติกาลเป็นคนช่วยตั้งโต๊ะ จัดอาหารและดอกไม้ ที่จริงเขาเป็นคนปลุกคุณหลวงผู้เป็นนายที่นอนหลับอยู่ในอ้อมอกเขาให้กลับห้องก่อนใกล้รุ่งด้วยซ้ำ
แม้ชายหนุ่มในวัยเด็กไปโบสถ์เข้าวัดตามพ่อแม่ แต่โตมาก็ไม่ได้นับถือสิ่งใดเป็นพิเศษ แต่เขาก็ไม่ดูถูกความเชื่อใคร ทุกเช้าก็มาช่วยหลวงอินทรทินกรเตรียมของใส่บาตรพระทุกวัน ทว่าวันนี้ เมื่อเห็นว่าทั้งสองครอบครัวพยายามผลักดันให้ลูกชายลูกสาวจะทำบุญตักบาตรร่วมกัน ก็เกิดอาการอยากจะขัดขวางขึ้นมาตะหงิดๆ
“คุณหลวงครับ ผมช่วยถือโถข้าวให้”
แล้วก็จัดการยืนแทรกกลางระหว่างหญิงชาย หยิบจับนู่นให้แทนนายทุกอย่าง จนสุดท้ายก็บอกไม่ได้ว่าหลวงอินทรทินกรได้ตักบาตรร่วมกับใครกันแน่
หลังจากที่ฝ่ายคุณหญิงกลับไป ครอบครัวหลวงอินทรทินกรก็ยังอยู่ต่ออีกสักพัก สำหรับรัตติกาลแล้ว ต่อให้พ่อแม่คุณหลวงจะอยู่หรือกลับก็ไม่มีปัญหา เพราะตกดึกเมื่อไหร่ หากไม่ไปฉุดคุณหลวงเข้าห้องเองก็ต้องข่มขู่ให้อีกฝ่ายเข้ามาหา ไม่ทุกข์ไม่ร้อนว่าจะมีผู้ใหญ่อยู่ในบ้าน เขาก็ยังสามารถทำหน้าด้านหน้าทนเอารัดเอาเปรียบผู้เป็นนายได้เสมอ
จูบบ้าง กอดบ้าง บางครั้งก็มากกว่านั้น และบอกกับอีกฝ่ายทุกคืนทุกวันว่าทำขนาดนี้แล้วยังกล้าแต่งงานกับคนอื่นอีกก็ให้มันรู้ไป
ดังนั้นคนที่ดูเหมือนจะลำบากใจที่สุด คงจะมีแค่คุณหลวงผู้เป็นนายเท่านั้น ยิ่งเวลาที่หลวงอินทรทินกรลอบมองผู้ให้กำเนิด ก็มักแสดงแต่สีหน้าอมทุกข์ แม้รัตติกาลจะเข้าข้างตัวเองว่าไม่ใช่เพราะเขา แต่สุดท้ายก็ชักจะรู้สึกหวั่นที่ทำให้คุณหลวงทุกข์ใจขนาดนี้
นี่เขาผิดจริงๆ งั้นหรือ ฝืนใจอีกฝ่ายจริงๆ งั้นหรือ?
สีหน้าอมทุกข์ของผู้เป็นนายก็ยิ่งตอกย้ำความสงสัยให้เพิ่มขึ้นทุกวัน คนที่มีความมั่นใจเกินเหตุอย่างรัตติกาลก็ถึงกับเป๋ไปได้เหมือนกัน
.
.
หลังจากบ้านคุณหญิงพัชราและคุณอิ่มกลับไปไม่นาน เมื่อหลวงอินทรทินกรว่างจากงานก็พาพ่อแม่ไปซื้อผ้าใหม่ แล้วยังได้บอกให้รัตติกาลเตรียมอ่างน้ำและหาดอกไม้หอมมาให้ เพื่อที่คุณหลวงจะเป็นคนนำดอกไม้มาใช้ทำบางอย่าง แม้จะแปลกใจมากแค่ไหนแต่ชายหนุ่มก็ไม่ขัด แล้วคอยนั่งดูคุณหลวงผู้เป็นนายร้อยมาลัยสองพวงด้วยดอกไม้งามๆ อยู่ห่างๆ แบบห่วงๆ
หลังจากที่ร้อยมาลัยเสร็จสิ้น และเตรียมอ่างน้ำที่ลอยดอกไม้หอมเอาไว้ หลวงอินทรทินกรก็เป็นคนช่วยยกอ่างน้ำนำไปหาพ่อแม่ของคุณหลวงที่นั่งอยู่ในห้องรับแขก
“ว่าอย่างไรพ่อดวง”
แม่ของคุณหลวงเป็นคนเอ่ยทักก่อน ส่วนตัวรัตติกาลหลบไปนั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล คอยสังเกตว่าคุณหลวงผู้เป็นนายตั้งใจจะทำสิ่งใดกันแน่
“ลูกขออนุญาตล้างเท้าให้พ่อแม่”
รัตติกาลขมวดคิ้วมุ่นอย่างไม่เข้าใจในสิ่งที่ผู้เป็นนายกำลังจะกระทำ หากแต่พ่อแม่ของหลวงอินทรทินกรดูไม่ได้มีท่าทีแปลกใจอะไรนัก
“ขอบใจจ้ะพ่อดวง”
คุณหลวงบรรจงวักน้ำจากอ่างขึ้นล้างให้พ่อของตน หลังจากนั้นก็ล้างให้แม่
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะบรรยากาศหรือเพราะอะไร ภาพตรงหน้าของชายหนุ่มจึงชวนให้เต็มตื้นไปด้วยความรู้สึก ฝ่ายผู้เป็นแม่เริ่มรื้นไปด้วยน้ำตา ส่วนพ่อนั้นยังคงเก็บอารมณ์ความรู้สึกไว้ได้
หลังจากที่ล้างเท้าให้เสร็จสิ้น หลวงอินทรทินกรก็ก้มลงไปกราบที่เท้าของบิดามารดา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพลางพนมมือ
“ลูกอยากขออโหสิกรรม หากลูกทำให้พ่อกับแม่ต้องทุกข์ใจหรือผิดหวัง”
“...”
จู่ๆ น้ำตาไหลจากดวงตาผู้เป็นแม่อย่างไม่อาจกลั้น
“พ่อดวงไม่เคยทำพ่อแม่ผิดหวังหรอกลูก”
มารดาเอ่ยด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น
“ถึงไม่เคย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีวันทำให้คุณพ่อคุณแม่ผิดหวังในตัวลูกไม่ได้”
ครั้งนี้ดวงตาของคนร่างเล็กเป็นฝ่ายรื้นไปด้วยหยาดน้ำ
“ลูก...” หลวงอินทรทินกรเว้นช่วงอยู่นาน กว่าจะเอ่ยต่อ โดยที่พ่อแม่ไม่ได้ขัด “ลูกแต่งงานกับคุณอิ่มไม่ได้”
ผู้เป็นพ่อเมื่อได้ยิน ก็เริ่มขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ แม้กระทั่งรัตติกาลเองก็ไม่คาดคิดเหมือนกันว่าคุณหลวงผู้เป็นนายจะเอ่ยเรื่องนี้ออกมา
“พ่อดวงหมายความว่าอย่างไร...”
“ลูกแต่งงานกับใครไม่ได้ ให้กำเนิดบุตรกับใครไม่ได้”
สำหรับคนในสมัยนี้ การมีลูกหลานสืบทอดสกุลย่อมเป็นสิ่งสำคัญ หากหัวหน้าตระกูลไม่สารมารถมีบุตรได้แล้วไซร้ คนในตระกูลย่อมมีความกังวลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ที่คุณหลวงกับคุณวาดไม่มีลูกด้วยกันก็น่าจะยืนยันกับฝ่ายผู้เป็นพ่อแม่ว่ามีความเป็นไปได้อยู่เหมือนกัน แต่อย่างไรคนเป็นพ่อแม่ที่ย่อมอยากเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝา มีลูกมีหลานให้ปู่ย่าได้อุ้ม ดังนั้นจึงคิดว่าทางฝ่ายหญิงที่เจ็บออดๆ แอดๆ ก็อาจเป็นผู้ที่ไม่สามารถให้กำเนิดบุตรได้เช่นกัน
พ่อของหลวงอินทรทินกรเหมือนจะเอ่ยค้านบางอย่าง ทว่าคุณหลวงก็เอ่ยต่อออกมาก่อน
“อีกอย่างนึง ลูกไม่ได้มีใจให้คุณอิ่ม”
“...”
บรรยากาศนิ่งเงียบไปนาน จนกระทั่งพ่อของหลวงอินทรทินกรเอ่ยออกมา
“อยู่กันไปก็รักกันเองแหละพ่อดวง เหมือนพ่อกับแม่ไง”
“ในชีวิตนี้ลูกไม่ขอสิ่งใดพ่อกับแม่นัก...ขอแค่เรื่องนี้...”
หลวงอินทรทินกรก้มลงกราบเท้าพ่อแม่อีกครั้ง และครั้งนี้ทั้งพ่อแม่ลูกไม่สามารถสกัดกลั้นน้ำตาไว้ได้
“ลูกไม่ต้องการให้คุณอิ่ม...หรือใครก็ตามต้องเผชิญชะตากรรมเดียวกับคุณวาด”
“...”
“พวกเธอยังสาว ยังเป็นดอกไม้สวยสดงดงาม หากอยู่กับลูก ก็รังแต่จะเหี่ยวเฉารอวันโรยราไปเท่านั้น ลูกไม่ใช่คนที่เหมาะสมจะดูแลรดน้ำให้ดอกไม้ดอกนั้นสวยงามบานสะพรั่งอย่างที่เหมาะที่ควรได้”
ผู้เป็นแม่ยกผ้าขึ้นซับน้ำตาพลางส่งเสียงสะอื้นเมื่อผู้เป็นบุตรชายยังคงไม่เงยหน้าขึ้น ไม่นานนักก็เอียงซบไปกับบ่าของสามี
“คุณพ่อ...คุณแม่...ก็เห็นว่าคุณวาดเป็นอย่างไร”
ครานี้คุณหลวงเงยหน้าขึ้น ดวงหน้าหวานปรากฏแววโศกศัลย์
“ขอคุณพ่อคุณแม่ โปรดยกโทษให้ลูกด้วย”
ฝ่ายพ่อกับแม่ไม่ได้ตอบอะไร ไม่แม้แต่จะต่อว่า ต่างฝ่ายต่างมีน้ำตาไหลริน และดึงลูกชายเข้ามากอดราวกับเข้าใจในความอัดอั้นของบุตรชาย
ภาพตรงหน้าที่รัตติกาลเห็น จะว่าบีบคั้นอารมณ์ก็ไม่ใช่ สำหรับชายหนุ่ม เขารู้สึกว่ามันออกจะเป็นความทรมานที่พูดไม่ออก สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่ ย่อมคาดคั้นหรือบีบบังคับให้ลูกทำตามต้องการได้อยู่แล้ว ยิ่งคนในสมัยที่ผู้เป็นลูกต้องเชื่อฟังผู้ใหญ่ทุกอย่าง หากพ่อแม่ยื่นคำขาด คุณหลวงย่อมไม่อาจฝืนคำสั่ง
ทว่าเพราะเป็นคุณหลวง เพราะหลวงอินทรทินกรหรือคุณดวง เป็นคนคนเดียวที่พาวงศ์ตระกูลให้ก้าวหน้า เป็นคนที่ทำให้พ่อแม่ภูมิใจได้ตลอด คนที่ไม่เคยเอ่ยความต้องการของตัวเอง เมื่อเอ่ยปากขอออกมาเช่นนี้ ผู้เป็นพ่อแม่จะไม่ให้ได้หรือ?
หลวงอินทรทินกรก้มลงกราบเท้าบิดามารดาของตนอีกครั้ง ต่างฝ่ายต่างปราศจากคำพูด หากแต่ราวกับรับรู้ถึงคำตอบของกันและกัน
บรรยากาศให้ห้วงเวลานั้น น่าแปลกที่ระคนไปด้วยหยาดน้ำตาและความเศร้า ความรู้สึกตีตื้นเอ่อล้นจนพูดไม่ออก ทว่ากลับคงไว้ด้วยความงดงาม
เป็นความงดงามที่รัตติกาลเองก็ยังไม่เข้าใจแจ่มแจ้งนักว่าเพราะอะไร
.
.
TBC
___
TALK: มาต่อจบตอนแล้วค่า พอดียุ่งๆ เลยไม่ได้เข้ามาอัพเลย ;_; ยังรอคุณหลวงกับรัตกันอยู่มั้ยคะ ยังไงขอเสียงกันหน่อยน้า
ขอบคุณมากๆ ค่ะที่ติดตาม
เจอกันใหม่ตอนหน้าค่ะ
Yo.