:Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: :Love ♥ no boundaries: ตอนพิเศษส่งท้าย บ๊ายบาย [END] 22.09.18  (อ่าน 886874 ครั้ง)

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.7 100% :18.08.60:
«ตอบ #1860 เมื่อ18-08-2017 23:57:04 »

 :L2:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.7 100% :18.08.60:
«ตอบ #1861 เมื่อ19-08-2017 00:28:57 »

เตอร์นี่แน่ใจนะว่าถนอมแมทแล้ว จัดแต่ละทีนี่รุนแรงตลอดๆ แต่แมทก็ชอบใช่มั้ยล่ะ สมกันจริงๆอิคู่นี้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.7 100% :18.08.60:
«ตอบ #1862 เมื่อ19-08-2017 00:46:03 »

ลูกแฝดของเตอร์กะแมทแน่ๆเลย ใช่ป่าวววว  :hao6: :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.7 100% :18.08.60:
«ตอบ #1863 เมื่อ19-08-2017 07:42:44 »

อุ้ยตายแล้ว austin มีแฟน ไม่น่าเชื่อเลย^^

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.7 100% :18.08.60:
«ตอบ #1864 เมื่อ19-08-2017 10:28:20 »

 :katai1: :katai1: :katai1: Topic ในตอนนี้คือ ออสตินมีแฟน!!!(คนคุย) ฮืออออ ขอให้เลิกกันไวๆนะคะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.7 100% :18.08.60:
«ตอบ #1865 เมื่อ19-08-2017 16:10:13 »

โถ่~ ออสตินมีคนคุยด้วยแล้ว  :ling1:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1866 เมื่อ26-08-2017 23:05:13 »



Yours and Mine EP.8 :: So it begins. (เริ่มแล้ว) [50%]



“They will be here at 6 and they will…”

           

 

“Matt!” ผมชะงักหน้าเหวอ หันหน้าจากทีมงานฝ่ายผู้ช่วยกองถ่ายอีกคนไปมองทางพีทที่กวักมือเรียก ผมพยักหน้าตอบอย่างเร็วและหันกลับมาหาสาวผมทองหน้าตาฝรั่งจ๋าไม่มีผิดเพี้ยน

           

 

“Okay, let me know if they are here. (โอเค บอกฉันนะถ้าพวกเขามาที่นี่แล้ว)” เธอตอบรับสั้นๆ และยิ้มให้ ผมรีบวิ่งเข้าไปหาพีท อุ้มกระดานไม้สีน้ำตาลสำหรับหนีบกระดาษราวกับอุ้มลูก อุ้มแบบนี้มาตั้งแต่ช่วงเช้าแล้ว

           

 

“Yes. (ครับ)”

 

 

“Go to supermarket. (ไปซูเปอร์มาร์เก็ต)” ไม่ใช่ประโยคคำถาม ไม่ใช่ประโยคร้องขอ แต่เป็นประโยคคำสั่ง พีทหยิบเงินออกมาจากกระเป๋า นับอยู่พักนึงแล้วยื่นแบงค์เขียวๆ มาให้ผมห้าใบ ผมยื่นมือไปรับพร้อมกับถาม

           

 

“What do you want? (ต้องการอะไรเหรอครับ)”

           

 

“The actor, he wants to eat snack. (พระเอกน่ะ เขาอยากกินขนม)”

           

 

“But we have a lot of it. (แต่เรามีขนมเพียบเลยนะ)”

           

 

“We don’t have what he want. (แต่เราไม่มีสิ่งที่เขาอยากกิน)” พีทตอบกลับแบบนิ่งๆ ท่าทีไม่สนใจว่าผมจะคิด จะรู้สึกยังไง ผมพยักหน้าหงึกๆ

           

 

“Okay, what does he want? (ครับ เขาต้องการอะไรล่ะ)” พีทบอกรายการขนมที่พระเอกของเรื่องอยากจะกิน ผมขมวดคิ้วนิดหน่อย คือบางอันผมจำได้ว่ามี แค่ไม่มีรสชาติที่เขาอยากจะกิน หรือบางอันเคยมีแต่หมดไปแล้ว เพิ่งเปิดกองมาได้สามวัน ขนมหมดไปครึ่งนึงแล้วเหรอนี่

           

 

ผมไม่อยากเถียงหรือสร้างประเด็นให้ตัวเองกับพีทไปมากกว่าที่มีอยู่ เลยเดินไปซูเปอร์มาร์เก็ตที่ใกล้เซ็นทรัลปาร์คที่สุด เข้าไปถึงก็กว้านขนมที่ออเดอร์มาใส่ตะกร้า ซื้อเสร็จก็เดินกลับเอาไปให้พระเอกที่กอง พ่อพระเอกผมหยิก หน้าตาไม่ได้หล่อเหลาแต่มีเสน่ห์มหาศาลตามความเชื่อผู้กำกับกล่าวขอบคุณผมด้วยความซึ้งใจก่อนหยิบขนมแท่งๆ ไปกิน ผมก็ยิ้มและบอกเต็มใจให้บริการเด้อจ้า

           

 

“Matt!”

           

 

“Yes!” คราวนี้เป็นผู้กำกับเรียก ผมวิ่งเข้าไปหาเขา ตั้งสติรับคำสั่งให้ผมไปจัดการเรื่องรถของตากล้องคนหนึ่งที่จอดในที่ห้ามจอดและโดนล็อคล้อไปแล้ว ผมอ้าปากค้างเล็กน้อยกับคำสั่งนั้น

           

 

คือไม่ใช่รถตูมั้ย

           

 

“He can’t go by himself so I send you to clear with the police, and then you come back here. And please come back in 30 minutes. (เขาไปด้วยตัวเองไม่ได้ ฉันเลยส่งเธอไปเคลียร์กับตำรวจ แล้วเธอก็กลับมานี่ แล้วก็กลับมาภายใน 30 นาทีล่ะ)” ว้อททท?

           

 

ผมทำหน้าเอ๋ออยู่พักหนึ่งจนผู้กำกับต้องยกมือตบไหล่พร้อมกับยื่นกุญแจรถให้และย้ำให้รีบไปรีบมา คำถามผุดขึ้นในหัวผมทันทีว่ากูจะไปพูดอะไรได้ละเหวย เจ้าของรถมั้ย ก็ไม่ใช่ เอกสารอะไรมีมั้ย ก็ไม่มี ผมพยายามเข้าใจทุกคนว่ากำลังโฟกัสหน้างาน แต่การที่ให้ผมไปจัดการธุระที่ไม่ใช่เรื่องของผมโดยตรงแบบนี้ มันยากนะ

           

 

แต่ผมก็ไป ไปแบบไม่รู้ตาสีตาสายัยมีขายหอยยายมอยขายหมีอะไรทั้งนั้น ผมเลยเลือกโทรหาออสตินให้เขาช่วยคิดหาทางออกในเรื่องนี้ เพราะเขามีเพื่อนเป็นตำรวจ น่าจะยังพอแนะนำอะไรผมได้ วิคเตอร์ไปถ่ายภาพนิ่งให้กับแบรนด์น้ำหอมที่เขากำลังจะเป็นพรีเซ็นเตอร์ ผมเลยไม่อยากรบกวนเขา

           

 

“ไปรอที่รถครับ เดี๋ยวผมจะบอกให้โจชัวไปพบคุณแมทที่นั่น คุณจำเขาได้ใช่มั้ย” ผมนึกหน้าโจชัวสักแปบ แล้วภาพเสื้อปริจะแตกขาดกับความล่ำของพี่โจชัวผิวเข้มก็พุ่งเข้ามา

           

 

“อ้า อ้อๆ จำได้ๆ”

           

 

“เดี๋ยวให้มันช่วยจัดการให้” ผมเดินไปตรงรถที่โดนล็อคล้อไว้ มีใบสั่งแปะอยู่บนหน้ากระจกรถ ผมยืนเกาหัว นึกสงสัยว่าอีตากล้องคนนั้นไม่ใช่คนนิวยอร์กหรือไม่เคยมานิวยอร์กเหรอ ถึงได้มาจอดระแวกวงเวียนโคลัมบัส ไม่ได้แวะซื้อสตาร์บัคแล้วไปนะ มาถ่ายหนังแทบทั้งวัน

           

 

ครืดดด~

           

 

“ฮัลโหล… ผมออกมาจัดการธุระให้ผู้กำกับครับ… อ้อ โอเค” ผมกดวางสายจากพีท จะโทรมาใช้อะไรอีกแน่ ดีนะว่านี่คือคำสั่งผู้กำกับ พี่แกเลยไม่วื่อวึงต่อ ผมหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกม ตอนนี้คงไม่มีใครว่าอะไรผมมั้ง ก็มันโล่งไม่มีอะไรทำ ผมยืนลากนิ้วไปบนหน้าจอกับเกมฝ่าด่านใสๆ ของตัวเอง เกมยิง เกมสู้กันผมไม่ถนัดเท่าไหร่ ยืนกดจนฝ่าด่านไปได้เกือบสิบด่าน เพื่อนของออสตินก็มาพร้อมกับตำรวจหนุ่มหุ่นดีพอๆ กัน แต่เป็นหนุ่มอเมกันผิวขาวเนื้อแน่น

           

 

ตำรวจที่นี่เขาฟิตกันจริงๆ

           

 

“จริงๆ ผมไม่สามารถทำแบบนี้ได้นะครับ” คนที่มากับโจชัวที่ผมไม่เห็นสีตาของเขาเพราะเขาใส่แว่นดำพูดเสียงแข็ง ถึงจะไม่เห็นว่ามองผมยังไง แต่หน้าตาเขาไม่พอใจมาก ผมหันไปหาโจชัวที่ยิ้มเท่แล้วยักไหล่สองข้าง คืออยากจะบอกว่านี่ไม่ใช่รถหนูจ้าพี่

           

 

“มีกุญแจรถมั้ยครับ” โจชัวถาม ผมได้สติแล้วยื่นกุญแจสีดำให้เขา เพื่อนของเขาปลดล็อคล้อทั้งสี่ออก เดินถือไอ้เหล็กล็อคล้อไปใส่รถตำรวจที่จอดอยู่ด้านหลังรถตากล้อง

           

 

“คุณขับรถเป็นมั้ย” ผมสั่นหัวแล้วยิ้มแห้ง โจชัวยิ้มตอบกลับมาอย่างใจดี

           

 

“งั้นเดี๋ยวผมพาขับไปจอดในที่จอดได้ แล้วค่อยแยกกัน โอเคมั้ยครับ”

           

 

“โอเคครับ” เพื่อนผิวสีหน้าหล่อของออสตินบอกว่าจะขับรถไปจอดตรงร้านอาหารแถวเซ็นทรัลปาร์ค เอาแบบเดินกลับมาหาง่ายๆ และเพื่อที่ผมจะได้อธิบายให้ตากล้องคนนั้นเข้าใจง่ายๆ ด้วยว่ารถเขาอยู่ตรงไหน ผมนั่งมองวงเวียนโคมลัมบัสจากในรถและนึกในใจว่ามันเหมือนวงเวียนอนุสาวรีย์ชัยฯ ที่เมืองไทยเหมือนกันนะ

           

 

“ขอบคุณมากนะครับ ถ้าไม่ได้…” ผมตัวชาวาบ สะบัดหน้าหันไปมองในฝูงชนที่เดินกันขวักไขว่ กวาดตามองเพื่อความแน่ใจว่าไม่ได้คิดหรือรู้สึกไปเองอีกที

           

 

“…มีอะไรเหรอครับ” โจชัวถามนิ่ง ใบหน้าของเขาเข้าโหมดตามอาชีพตัวเองยามสอบสวนคน ผมหันกลับมามองเขาแล้วพ่นลมหายใจเบาๆ

           

 

“ไม่มีอะไรครับ…” ผมมองหน้าเขา นึกอยากถามอะไรบางอย่างที่ในตอนแรกไม่คิดถาม เพราะเลิกกังวลไปนานแล้ว แต่ความรู้สึกเสียวสันหลัววาบเมื่อกี้ทำให้ผมอยากถาม

           

 

“…ทำไมฌอณถึงถูกปล่อยตัวเหรอครับ” โจชัวพ่นลมหายใจ

           

 

“มีคนช่วยมันออกไป จริงๆ มันจะออกตั้งแต่เดือนแรกๆ แล้วละ ผมยื้อมันไว้ แต่แบคอัพของมันก็ไม่ยอมเหมือนกัน”

           

 

“แต่ออสตินบอกเพราะคดีความของเขาไม่ใช่เรื่องร้ายแรง”

           

 

“นั่นก็ด้วยครับ คดีทำร้ายร่างกายหนักสุดก็จำคุก เสียค่าปรับ ควบคุมความประพฤติแหละครับ จริงๆ ฌอณมีประวัติทำร้ายร่างกายก่อนหน้านั้นด้วย และยังพัวพันกับยาเสพติด ผมเลยไม่อยากปล่อยมันไปง่ายๆ” ผมรู้สึกจะหมดแรง พยักหน้าแบบหงอยๆ

           

 

“มันมาป่วนคุณเหรอ” ผมส่ายหัว

           

 

“ไม่มีครับ และผมหวังว่าจะไม่มีไปตลอด” โทรศัพท์มือถือผมสั่น เรียกสติผมได้มาเกือบเต็ม ผมหยิบขึ้นมาดูหน้าจอก็เห็นว่าเป็นพีทโทรมา ผมเงยหน้าขึ้นหาหนุ่มผิวเข้มในชุดสีน้ำเงินเข้มที่คล้ายจะปริแตกเพราะกล้ามเนื้อแน่นๆ

           

 

“ขอบคุณอีกครั้งนะครับ ขอโทษด้วยที่ทำตัวใช้เส้นสายแบบนี้ แต่ผมไม่รู้จะทำยังไงจริงๆ”

           

 

“วันนี้ก่อนเลิกกองก็สอนกฎหมายให้ทุกคนก็ดีครับ บางคนอาจลืม” ผมยิ้มขำนิดหน่อย

           

 

“ไปแล้วนะครับ” โจชัวพยักหน้า ผมเผลอยกมือไหว้ขอบคุณเขา โจชัวทำหน้างง ผมยิ้มเก้อแล้วเปลี่ยนเป็นโบกมือแทน โจชัวโบกมือตอบกลับ ผมหมุนตัวเดินฉับๆ กลับไปทางเซ็นทรัลปาร์คพร้อมกับกดรับสายของพีท หางตาเห็นผมแดงๆ ก็รีบหันขวับไปมองด้วยความระแวง หูผมฟังเสียงพีทสั่งนั่นสั่งนี่ แต่สายตามองไปรอบตัวด้วยความตระหนก ผมเห็นแผ่นหลังโจชัวเดินจากไปไกลลิบๆ หัวใจผมเต้นตึกๆ ตัวสั่นเทิ้มเหมือนคนหนาวสั่น

           

 

“แมท!” ผมดึงสติกลับมาอยู่ที่การคุยกับพีท พยายามคุมตัวไม่ให้สั่น พยายามตั้งสติให้นิ่งและให้มั่นคง

           

 

“ครับ”

           

 

“กลับมาเร็วๆ!”  นี่คือสิ่งที่ผมควรโฟกัสตอนนี้







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao3:



               วันนี้มาสั้นๆ แต่เดี๋ยวรีบมาต่อนะคะ พอดีเคลียร์เรื่องจัดหนังสือ Works the magic! อยู่เลยมาช้า เพราะเดี่ยวต้องกลับไปลุยงานต่อ เลยอาจจะติดๆ ขัดๆ

               น้องแมทก็ได้ทำงานสมใจอยาก แต่ดูลำบากนะคะ กลับไปให้ผัวเลี้ยงเหมือนเดิมดีมั้ย 555555 อยู่บ้านเฉยๆ ก็ดีอยู่แล้ว สามีเปย์ให้ทุกสิ่งอย่าง แต่เนี่ยแหละค่ะ คือตัวละครนางเอก มันต้องมีนิสัยแบบนี้ ไม่มีไม่ได้ 555555 นางเอกมันต้องแบบ ดื้อๆ อยากทำงาน แม้สามีจะเลี้ยงดููปูเสื่ออย่างดี ให้ดูทระนงเล็กๆ แต่เชื่อเลยว่าถ้าใครได้อ่านขุ่นแม่เรียวจันทร์ คงรู้ใช่มั้ยคะว่าถ้าเป็นรายนั้น นางจะทำให้เรื่องกลับตาลปัตรไปหมด 5555555 แมทควรแลกที่กับขุ่นแม่ค่ะ

               ตั้งแผงหนังสือในนี้แปบ พอดีพรีออเดอร์พี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยนภาคแรกรอบล่าสุด มีหนังสือเหลืออยู่กับตอม 3 ชุดนะคะตอนนี้ คนอ่านคนไหนสนใจ ติดต่อสอบถามได้ที่เพจเฟซบุ๊คเลยค่า รายละเอียดอ่านได้ที่โพสปักหมุดของเพจนะคะ

               แล้วเดี๋ยวพบกับอีกครึ่งที่เหลือค่ะ

               ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะคะ ทุกวันนี้ได้เห็นคอมเม้นทุกครั้งที่อัพก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ จำนวนมันอาจไม่ได้ไหลหลั่ง แต่ก็ยังมีคนเม้นให้ ขอบคุณจริงๆ นะคะ มันเป็นกำลังใจดีๆ ของคนเขียนเลยละค่ะ ส่วนใครที่ซุ่มติดตามเงียบๆ อ่านแล้วจากไป ฮ่าๆๆๆ ก็ขอบคุณเช่นกันค่าาา อย่างน้อยก็มาเพิ่มวิวให้ อุๆ

ปล. ข้อมูลเรื่องกฎหมาย หากผิดพลาด บอกกล่าวกันได้นะคะ ตอมจะได้แก้ให้ถูกต้องค่าาา



แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1867 เมื่อ26-08-2017 23:37:19 »

พีทนี่ยังไงๆ ชักจะหมั่นไส้ละนะ เด๋วรอน้องแมททนไม่ไหวก่อนนนเจอดีแน่  :z6: ช่วงนี้พี่วิคเตอร์เครางามบทบาทน้อยย  ว่าแต่ที่แมทระแวงๆ ไม่ใช่ว่าชอนไชมันจะตามมาทำร้ายอะไรอีกหรอกนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1868 เมื่อ26-08-2017 23:41:21 »

แมทจะเป็นไรไหมนะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1869 เมื่อ27-08-2017 01:04:38 »

หวังว่าไอปลาช่อนนั่นจะไม่มาทำร้ายแมทนะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
« ตอบ #1869 เมื่อ: 27-08-2017 01:04:38 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1870 เมื่อ27-08-2017 01:11:03 »

 :katai1:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1871 เมื่อ27-08-2017 02:12:41 »

 :pig4:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1872 เมื่อ27-08-2017 02:30:51 »

 :mew1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1873 เมื่อ27-08-2017 06:42:36 »

ทำงานอย่างกับเป็นคนใช้เค้า ถถถถถ เอเลี่ยนน้อย
ส่วนมากฝรั่งไม่น่าใช้งานอะไรที่ไม่เกี่ยวกับหน้าที่นะ ฝึกงานก็ไม่ใช่ ยิ่งแมธขับรถไม่ได้  ยิ่งไม่ควร วิ่งซื้อขนมแบบนี้ไม่น่าใช้งานคนพร่ำเพรื่อ กองถ่ายกองนี้ไม่น่าทำงานด้สยเลย พีทเป็นคนที่นิสัยแย่มาก ผู้กำกับก็ไม่โอเคอ่ะ 

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1411
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1874 เมื่อ27-08-2017 08:31:16 »

ฌอน กลับมาอีกละ จะจองเวรแมทไปไหนนี่

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1875 เมื่อ27-08-2017 10:30:26 »

ยิ่งกว่าเบ๊ประจำกองถ่ายอีกค่ะคุณขาาา กลับไปปรนนิบัติสามีเถอะนะแมท

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1876 เมื่อ27-08-2017 12:33:13 »

ไอ้ฌอนตัวร้ายจะกลับมารังควานแมทอีกเหรอ ถ้ามีเรื่องคราวนี้สงสัยแมทคงถูกบังคับให้ออกจากงานแน่ๆ

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 50% :26.08.60:
«ตอบ #1877 เมื่อ27-08-2017 20:32:19 »

ว่ากันตามจริง กองถ่ายฝรั่งเขามีทีมงานยิบย่อย
คนนั้น คนนี้ ทำหน้าที่ต่างๆกัน แค่คนกำกับยังมีคนช่วยกำกับหลายคน

แต่ดูกองถ่ายที่แมททำ มันห่วย ไม่มีระบบ
ใช้งานฟังดูประหลาด แปลกมากกกกกกกกกกกก
ดูมันประสาทนักทั้งผู้กำกับทั้งพีท 
ยิ่งแมท ทำให้ได้มันยิ่งใช้งานบ้าๆบอๆมากขึ้นอีกนะสิ

คิดว่าวันนึงแมทคงระเบิดปั้งแน่ๆ แต่ชอบนะ
ก็มันใช้งานไม่เหมาะสมนี่หว่า :fire: :fire: :fire:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1878 เมื่อ02-09-2017 21:54:50 »



Yours and Mine EP.8 [100%]



“Be quiet. 3 2 1 action! (ขอเงียบนะ สาม สอง หนึ่ง แอคชั่น!)” นักแสดงขยับปากพูดบทของตัวเอง ทีมงานทุกคนยืนเงียบ ผมยืนมองหน้าจอมอนิเตอร์จนเกือบจะลืมกะพริบตา เพราะต้องการดูว่าภาพที่เห็นในจอมอนิเตอร์เป็นยังไง ซีนนี้เราถ่ายในเซ็นทรัลปาร์คยามค่ำคืนที่แสงไฟของเมืองนิวยอร์กส่องสว่างแบบที่แสงจันทร์ไร้ค่าไปเลย เลือกมุมที่เสียงผู้คนจะรบกวนน้อยที่สุด มันเป็นการยากมากที่จะไม่ให้สถานที่แห่งนี้ไม่มีเสียง ไม่ให้ที่แห่งนี้ไร้ผู้คนถ้างบกองถ่ายยังเบี้ยน้อยหอยน้อยแบบนี้

           

 

RRrrr!

           

 

โทรศัพท์สั่นอยู่ในกระเป๋ากางเกง ผมหยิบขึ้นมาดู เห็นเป็นชื่อ Mr.Handsome ของผมโทรมา ผมมองลาดเลาแล้วว่าน่าจะยังไม่ถ่ายเสร็จทันทีหรอก รีบพูดรีบวางก็น่าจะทัน ผมเดินออกห่างจากจอมอนิเตอร์ เพื่อไม่ให้เสียงตัวเองรบกวนคนอื่นตอนคุย

           

 

“ฮัลโหล” ผมพูดเสียงเบา

           

 

[ทำอะไรอยู่] เสียงตะโกนสั่งคัทดังอยู่ด้านหลัง ผมหันไปมองหน้าเหวอเล็กน้อย สั่งคัทเพราะถ่ายเสร็จแล้วหรือมีอะไรมารบกวนหรือเปล่า ผมมองสถานการณ์ตรงหน้าเซ็ท ผู้กำกับตัวสูงหัวสีขาวลุกขึ้นยืน หันมาคุยกับทีมงานคนอื่นที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวเองด้วยท่าทีจริงจัง

           

 

[แมท อยู่รึเปล่า] เสียงเข้มๆ ของวิคเตอร์ทำให้ผมดึงสติกลับมาอยู่กับโทรศัพท์อีกครั้ง

           

 

“อยู่ๆ ผมถ่ายอยู่ที่เซ็นทรัลปาร์ค” ผมเพิ่มระดับเสียงขึ้นมาอีกนิด กะว่าจะรีบตัดบทให้จบทันที 

           

 

[เลิกกองกี่โมง]

           

 

“ตามคิวก็เลิกสามทุ่ม แต่นี่สองทุ่มครึ่งแล้ว ยังเหลืออีกสามซีน”

           

 

[ถ้าเลิกสามทุ่ม เสร็จไม่เสร็จก็เดินออกมา] ไม่ต้องอยู่ตรงหน้าผมก็รู้ว่าตอนนี้ไอ้ยักษ์คงหงุดหงิดน่าดู น้ำเสียงเหวี่ยงอย่างไม่ต้องพิจารณาให้มากความ 

           

 

“จะบ้าเหรอ ทำงั้นได้ไง”

           

 

“แมท!!” เสียงตะโกนเรียกชื่อผมดังลั่นทำเอาผมสะดุ้งนิดหน่อย ผมหน้าเหลอกหลาด้วยความตกใจ หันไปมองก็เห็นพีทยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่ข้างผู้กำกับรุ่นพ่อผม

           

 

“แค่นี้ก่อนนะวิคเตอร์” ผมกดตัดสายจากวิคเตอร์ทันทีแล้วรีบวิ่งกลับเข้าไปหาทุกคน

           

 

“นายไม่ควรคุยโทรศัพท์ในเวลางานรึเปล่า” พีทจิกผมนิ่งๆ ผมก้มหน้าลงนิดหน่อย

           

 

“ขอโทษครับ มีอะไรให้ผมทำเหรอ”

           

 

“มีแน่ ไม่งั้นจะเรียกมาทำไม” ผมไม่อยากแสดงสีหน้าท่าทางไม่ดีถึงแม้ว่าพีทจะมีทีท่าไม่ดีกับผม ที่ทำได้คือเก็บความขุ่นเคืองไว้ข้างในให้มิดชิดที่สุด

           

 

“อย่าเพิ่งดุกันเลย ฉันแค่จะเรียกนายมาถามว่าซีนต่อไปคืออะไร” ผมรีบพลิกกระดาษตารางการถ่ายทำส่วนตัวที่ทำเอาไว้ให้เข้าใจแค่ตัวผมเองอย่างรวดเร็ว

           

 

“ซีน 10 ครับ ถ่ายฉากเดินคุยกันที่จะต่อเนื่องไปถึงตอนเช้า”

           

 

“โอเค ขอบใจมาก และที่ฉันอยากบอกคือ โทรศัพท์คุยได้ แต่คุยตอนเบรคจะดีกว่าคุยตอนที่งานกำลังเดินนะ” ผู้กำกับตัวสูงร่างผอมตาสีเทาขุ่นมองผมด้วยสายตาปรามเล็กๆ แต่ก็ไม่ถึงขั้นดุหรือขุ่มขู่แบบพีท ผมหน้าเสียไปนิดและพยักหน้ารับคำของเขา

           

 

“ขอโทษครับ ผมแค่จะบอกที่บ้านว่า เอ่อ ช่างมันเถอะครับ ผมขอโทษที่ทิ้งหน้างานไป” ผมก้มหัวลงในขณะที่โทรศัพท์สั่นอยู่ในมืออีกครั้ง ผู้กำกับยิ้มให้ผมและเดินออกไปจากตรงจอมอนิเตอร์

           

 

“ไปช่วยคนอื่นยกของสิ หวังว่าคงจะไม่หนีไปคุยโทรศัพท์หรือยืนเฉยๆ นะ” ผมอยากจะกลอกตาใส่พีทพร้อมกับเบ้ปากแรงๆ แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้ารับและหมุนตัวเดินไปช่วยคนอื่นๆ ย้ายเซ็ทไปตรงที่ใหม่ ผมมองหน้าจอโทรศัพท์ที่เห็นเป็นชื่อวิคเตอร์โทรเข้ามา ผมจำใจตัดสายทิ้งและตั้งโหมดห้ามรบกวน

           

 

เราย้ายเซ็ทมาตรงซุ้มต้นไม้ที่ผมกับวิคเตอร์เคยมาเดินฟังเพลงด้วยกันเมื่อนานมาแล้ว ตั้งแต่สมัยต้นรักเริ่มก่อตัวในหัวใจ ช่วงเวลานี้ผู้คนไม่ได้ล้นหลาม แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะห้ามไม่ให้เดินผ่านกล้อง ฉะนั้นทีมงานที่ไม่จำเป็นต้องจ้องหน้าจอมอนิเตอร์ตลอดเวลาแบบผมเลยต้องไปคอยยืนกันผู้คนให้เดินไปทางอื่นในช่วงที่ถ่ายทำอยู่

           

 

“หรือถ้าเขาจะเดินเข้ามา บอกเขาว่าอย่ามองกล้องหรือมองนักแสดง ให้เดินตามปกติได้เลย” ผู้กำกับบอกพวกเราชาวกั้นคนก่อนที่จะปล่อยให้พวกผมหกคนชายสี่หญิงสองเดินไปประจำจุดที่คนน่าจะเดินฝ่าเข้ามา พอนักแสดงเดินออกมาประจำที่ผู้คนก็เริ่มหยุดมุงดู และพอมีคนหยุดดูมันก็มีมาต่อเรื่อยๆ ใครบอกว่ามีแต่ไทยมุง นิวยอร์กก็มุงเป็นเหมือนกัน 

           

 

นักแสดงที่มาแสดงเรื่องนี้เป็นพระนางที่มีชื่อเสียงพอตัว ทั้งคู่เป็นมิตร ไม่เรื่องมาก เอ่อ จริงๆ ก็มีบ้าง แต่ก็ไม่บ่อย ทำงานด้วยไม่ยาก รู้จักวิคเตอร์ด้วย แต่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว เหมือนเคยเจอกันตามงานมากกว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่ใช่ฟอร์มยักษ์ เป็นฟอร์มขนาดกลางจนเกือบจะเล็ก งบเกินหนังอินดี้มาเฉียดฉิว แต่เนื้อหาหนังดี ส่งเสริมคนมีฝันในด้านดนตรี และแน่นอนว่าต้องมีความรักเข้ามาเกี่ยวข้อง จากการอ่านบทและได้เขียนแก้บทนิดหน่อยผมว่าเนื้อหามันดี ไม่รู้ว่าพอถ่ายทอดออกมาเป็นภาพและการตัดต่อจะเป็นยังไงบ้าง แต่ผู้กำกับคนนี้ก็ละเอียดพอสมควรเลยนะ ผมว่าหนังมันต้องดีแหละ

           

 

“Oh, sorry. Can you walk in another way please? We are shooting now.” ผมบอกหญิงวัยกลางคนรูปร่างท้วมผิวขาวคนหนึ่งที่กำลังจะเดินผ่าไปทางเซ็ทที่กำลังถ่ายทำอยู่ หน้าตาของเธอถมึงทึงไม่สนโลก ไม่สนดาวดวงไหนในกาแล็คซี่นี้ 

           

 

“I pay the tax for this city I can walk in every way. (ฉันจ่ายภาษีให้กับเมืองนี้ ฉันเดินทุกเส้นทางนั่นแหละย่ะ)” ผมเกือบจะหน้าม้าม หน้าชาแล้ว แต่ความหน้าด้านมันมีมากกว่าเลยพยายามกั้นเธอเอาไว้สุดชีวิต

           

 

“Please. (ได้โปรดเถอะครับ)” แต่เธอหาได้สนใจการอ้อนวอนของผมไม่ เธอเดินผ่านไปอย่างไม่ไยดี ไม่สนใจ แต่นับว่าเป็นโชคดีที่เธอไม่มองกล้อง ไม่สนใจนักแสดง ก็เดินไปเรื่อยของเธอ ผมลุ้นมากว่าจะมีการสั่งคัทมั้ย แต่ผู้กำกับก็เงียบ ผมเลยพ่นลมหายใจเบาๆ หันไปมองฝูงชนบางตาที่ยืนมองการถ่ายทำ หลายคนเข้าใจการทำงานเลยเลือกจะยืนมองจากตรงนี้และยกมือถือมาถ่ายรูป ผมทวนในหัวตัวเองว่ามีการห้ามถ่ายรูปมั้ย แต่ก็จำได้ว่าไม่มีการเน้นประเด็นนี้ เลยไม่ได้ห้าม

           

 

“ห้ามพวกเขาถ่ายรูป ทำไมนายไม่บอก” กำลังสบายใจๆ ก็ต้องหน้าเหวอจนจะเป็นคนเอ๋ออยู่แล้วเมื่อพีทเดินเข้ามาสะกิดหลังผมอย่างเร็วพร้อมกับทำหน้าตาอย่างกับโกรธผมมานับศตวรรษ

           

 

“ผมนึกว่าถ่ายได้ ไม่เห็นมีใครบอกผมนี่ครับ” ผมไม่ได้พูดในเชิงเถียง ก็แค่พูดตามความเป็นจริงว่าไม่มีใครบอกผมเรื่องห้ามถ่ายรูป

           

 

“คอมมอนเซ้นส์ของนายไม่มีเลยรึไง” ผมหน้าเสียไปนิด ก้มหัวลงให้พีทหนึ่งที

           

 

“ขอโทษครับ เดี๋ยวผมจะบอกพวกเขา” พีทส่ายหัว หน้าตาไม่สบอารมณ์ ผมเองก็ไม่ค่อยจะสบอารมณ์นักหรอก ก็มันไม่มีใครบอกจริงๆ อะ ถ้าต้องการปิดเป็นความลับควรบอกป้ะวะ

           

 

“Sorry. You can’t take any photos. Thank you. No. No, you can’t. And if someone already did, don’t share it please.” เออ อยากไปอีกอะ บางคนแชร์ลงโซเชียลไปแล้วมั้ง มาถ่ายกลางที่สาธารณะอย่างนี้ แม่งยากจะตายห่าที่จะไม่ให้คนถ่ายรูป นั่นดารานะโว้ย ถึงจะดังน้อยหน่อย แต่ก็มีคนรู้จักไง ผมเคยเข้าใจเมื่อช่วงสมัยมาฝึกงานกับวิคเตอร์ว่าคนต่างชาติจะไม่ค่อยเห่อดารานักแสดงสักเท่าไหร่ ผมว่าผมน่าจะเข้าใจผิด เรื่องแบบนี้พูดยาก เจอคนชอบก็คือชอบ เจอคนเฉยก็แค่มองๆ แล้วจากไป หรือไม่ได้ชอบ ไม่เฉย แต่แค่เห็นว่าเป็นดารา เป็นการถ่ายทำ ก็อยากมีส่วนร่วมในการถ่ายรูปไง

           

 

“What is the name of movie? (หนังชื่ออะไรเหรอ)” ชายหนุ่มรูปร่างอ้วนท้วมสมบูรณ์ใส่หมวกแก๊ปสีดำถามพลางทำท่าจะยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูป ผมรีบโบกมือทำท่าว่าถ่ายไม่ได้ เขาทำหน้าเก็ทและเก็บมือถือลงไป

           

 

“I want to tell you but I am not allowed to do that. (ผมอยากบอกนะครับ แต่ผมไม่ได้รับอนุญาตให้บอก)” ถึงจะไม่มีใครห้าม แต่ก็ต้องใช้คอมมอนเซ้นส์ตามที่พีทเขาบอกละน่ะ

           

 

“Oh, okay.” ชายหนุ่มคนนั้นทำหน้าเบื่อหน่ายเล็กน้อย ผมแอบกลอกตาเร็วๆ แกจะมาเบื่อหน่ายอะไรล่ะ ก็กูบอกไม่ได้จริงๆ โหวย บอกไปเดี๋ยวไอ้พีทมันก็มาด่าว่างั่งอีกอะ

           

 

ผมเริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองอยากให้ทางค่ายหนังเพิ่มงบถ่ายทำ หรือจ้างโปรดิวเซอร์คนใหม่กันแน่

           

 

การถ่ายทำดำเนินไปจนเกินคิวสามทุ่มอย่างที่ตั้งใจกันไว้ แต่ก็เหลืออีกสองซีน จริงๆ มันไม่ใช่ซีนยากมากมาย แต่ผู้กำกับเขาคงไม่ได้มุม ไม่ได้อารมณ์ที่เขาอยากได้สักทีเลยหลายเทคไปนิด (ไม่น่าจะนิด) แต่ในขณะเดียวกันผู้กำกับก็เริ่มเครียดเพราะกลัวว่ามันจะดึกเกินไปมากกว่านี้ และค่าโอทีทีมงานจะบานเบอะ อันที่จริงการทำงานของโปรดัคชั่นฝรั่งเคร่งเรื่องเวลามาก เริ่มเท่านั้น ก็ต้องจบเท่านี้ตามที่คุยกันไว้ ถ้าเกินแม้จะชั่วโมงเดียวก็ต้องจ่าย แต่ถ้าเกินสิบยี่สิบนาทียังพออลุ่มอล่วยกันได้แต่อันนี้เกินมาจะครบชั่วโมงแล้ว ซึ่งผมอยากให้เคร่งเรื่อง (เพิ่ม) เงินและเรื่องโพสิชั่นงานในกองด้วยจัง

 

 

ผมเริ่มหาววอด ตาเริ่มลายเพราะหาวบ่อยเกิน ตอนที่กำลังเดินกลับไปตรงหน้าเซ็ทหลังจากผู้กำกับสั่งคัทซีนรองสุดท้าย ผมก็เหลือบไปเห็นออสตินยืนอยู่ในหมู่ฝูงชน เขามองนิ่งสงบมาที่ผม จากที่ง่วงๆ ก็ตื่นตัวขึ้นนิดหน่อย ผมรีบเดินไปตรงหน้าจอมอนิเตอร์ ใจเต้นตุ้มต่อมกลัวว่าวิคเตอร์จะส่งเขามาอุ้มผมกลับบ้านทั้งที่งานยังไม่เสร็จ

 

 

“ถ่ายฉาก 15 ฉากนั่งเก้าอี้ มีวงดนตรีด้วยครับ” ผมบอกผู้กำกับว่าต้องทำอะไรต่อไป ซีนนี้เป็นซีนสุดท้ายก็จริง แต่เป็นซีนใหญ่ของวันนี้ ผมมองไปทางวงดนตรีที่ถูกจ้างมาเข้าฉาก พวกเขาเป็นนักดนตรีที่ร้องตามผับตามบาร์ พีทให้ผมไปตามหาทั้งที่ผมไม่ใช่คนนิวยอร์ก โชคดีว่าวิคเตอร์ช่วยเรื่องนี้ได้เพราะเขาสังสรรค์บ่อย

 

 

“คุณแมทครับ” ผมหายใจเข้าดังเฮือกด้วยความตกใจ ตกใจจริงไม่ได้แอคติ้ง เพราะกำลังยืนง่วงและแอบอู้เล็กน้อยที่ไม่ได้เข้าไปช่วยเขาจัดหน้าเซ็ท แต่เอาจริงๆ ผมจะช่วยตรงไหนในเมื่อนักดนตรีเขาจัดการโยงสายนั่นนี่อย่างคล่องแคล่ว

 

 

“คุณเรย์มอนด์ให้มารับคุณกลับบ้าน” ออสตินหาได้สนใจอาการตกใจของผมไม่ เขาพูดต่อหน้าตาเฉย ผมย่นคิ้วใส่เขา

 

 

“ไม่เห็นรึไงว่าผมทำงานอยู่ จะกลับได้ไงเนี่ย” ผมทำตาโตใส่เขา รู้ทั้งรู้แหละว่าทำไปก็เท่านั้น เพราะตอนนี้ในหัวของออสตินมีแต่คำสั่งของวิคเตอร์

 

 

“เห็นครับ แต่คุณบอกเขาว่าคุณเลิกสามทุ่ม ซึ่งตอนนี้มันเกินมาชั่วโมงนึงแล้ว” ผมทำหน้าเหลือเชื่อ ก็ไม่ได้ผิดไปจากที่คิดหรอก ไอ้ยักษ์ส่งพ่อหัวเกรียนตาสีเทาอ่อนมารับผมกลับบ้านจริงๆ ด้วย

 

 

“ไม่ได้…” ผมพูดเสียงกระซิบ แต่ก็ใช่ว่าไม่ได้ยิน “…งานผมยังไม่เสร็จจะกลับได้ไง”

 

 

“ผมเอารถมารับครับ” ผมอ้าปากหวอเล้กน้อย ก่อนจะหุบปากฉับแล้วทำหน้าเอือม

 

 

“ไม่ได้หมายความจะกลับยังไง แต่งานผมยังไม่เสร็จ ผมยังกลับไม่ได้”

 

 

“งั้นคุณต้องบอกคุณเรย์มอนด์เอง คุณปิดเครื่องหนีเขา เขาเลยให้ผมมาตามคุณที่นี่” ฮาโลววว ผัวหวงอีกแล้ววว

 

 

ผมกลอกตา กำลังจะหยิบมือถือขึ้นมากดโทรหาวิคเตอร์ แต่ก็มีเสียงเรียกให้ผมไปหน้าเซ็ท ผมหันมองออสตินด้วยท่าทีงงๆ สักแปบก่อนจะชี้ไม้ชี้มือว่าให้เขาอยู่ตรงนี้แล้ววิ่งไปหาผู้กำกับ

 

 

“พรุ่งนี้เรามีทำฉากอะไรบ้าง” ผมยกปึกกระดาษขึ้นมาเปิดดูตารางการถ่ายทำสำหรับวันพรุ่งนี้ กำลังพลิกๆ อยู่ก็มีมือถือยื่นมาตรงหน้าผม

 

 

 “คุณแมทครับ วิคเตอร์จะคุยด้วย” ผมขมวดคิ้วฉับ หันไปมองออสตินที่ยื่นมือถือมาให้ ผมคลายคิ้วอ้าปากหวอหันไปมองหน้าผู้กำกับที่เลิกคิ้วขึ้น ผมรีบดึงมือออกสตินมากดตัดสายวิคเตอร์แล้วถือยึดไว้

 

 

“อ่า… มีฉาก…”

 

 

ครืดดด ครืดดด

 

 

ผมกดปิดหน้าจอ ก้มลงมองกระดาษในมือแล้วบอกผู้กำกับว่าพรุ่งนี้มีถ่ายทำฉากไหนบ้าง พอบอกเสร็จเขาก็หันไปคุยกับพวกนักดนตรีเรื่องการถ่ายทำวันพรุ่งนี้ ผมหันไปมองออสตินที่ยืนนิ่งด้วยอาการหัวเสียนิดๆ ทั้งเจ้านายและลูกน้องปรองดองกันมึนมาก

 

 

“อีกฉากเดียวจะเสร็จแล้ว ใจเย็นได้มั้ยเนี่ย” ออสตินไหวไหล่ขวาเบาๆ สักพักมือถือเขาก็สั่นอีกรอบ ผมพ่นลมหายใจแล้วกดรับสาย

 

 

“ฮัลโหล”

 

 

[ปิดเครื่อง ตัดสายทิ้ง ไม่รับสาย นายอยากมีเรื่องกับฉันเหรอแมท] โอ๊ยยย ใครจะไปมีเรื่องกับแก๊ไอ้ยักษ์

 

 

“วิคเตอร์ ผมทำงาน คุณควรเข้าใจผมที่สุดสิเพราะคุณก็อยู่หน้าเซ็ทนะ” ผมว่าอย่างหัวเสีย สายตายังพยายามโฟกัสทุกคนหน้ากองไว้เผื่อมีใครเรียก โดยเฉพาะพีท เดี๋ยวมาจิกผมอีก

 

 

[ไม่เข้าใจ] ผมหน้าเอ๋อแดกไปละกับน้ำเสียงห้วนสั้นด้วยอารมณ์โกรธของวิคเตอร์ ผมว่าเขาเข้าใจ แต่เขากำลังหงุดหงิดที่ผมไม่รับสายเขา

 

 

“งั้นเดี๋ยวไปเคลียร์กันให้เข้าใจที่บ้าน แค่นี้ก่อนนะผมทำงาน”

 

 

[แมท!] ผมกดตัดสาย ปิดเครื่องให้ออสตินเรียบร้อยและยัดโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง หันไปหาออสิตนที่ยืนนิ่งตามเดิม

 

 

“เคลียร์เรียบร้อย ทำงานเสร็จค่อยกลับบ้าน โอเค๊”

 

 

“นิวเคลียร์พร้อมยิงใส่คุณแน่ๆ เมื่อคุณถึงบ้าน” ผมถลึงตาใส่ออสติน ชอบเป็นอย่างเงี้ย ชอบตัดกำลังใจแล้วก็ข่มผมแทนเจ้านายตัวเอง นิสัยไม่ดี

 

 

“แมท หลบ จะถ่าย!” ผมหันไปมองพีท เขาตะโกนลั่นพร้อมกวักมือเรียกผมให้เข้าไปหาตรงหลังจอมอนิเตอร์ เพราะตอนนี้ผมกับออสตินยืนจังก้าอยู่หน้าจอแบบที่แย่งซีนนักแสดงไปมากแล้ว ผมรีบดึงมือออสตินออกไปจากบริเวณนั้นทันที

 

 

 

 

กว่าจะเลิกก็เกือบห้าทุ่ม ซีนสุดท้ายแทบจะถ่ายวนแล้ววนอีก นักดนตรีก็เล่นกันสนุกสนาน นักร้องเสียงจะแหบแล้วมั้ง ผู้กำกับเขาขอหลายมุมมากจนผมคิดว่าถ้าขึ้นไปตั้งกล้องบนท้องฟ้าได้เขาอาจจะทำ เรื่องถ่ายเรื่องแสดงไม่มีปัญหา แต่มีปัญหาตอนหลังคือว่าคนที่มุงไม่ใช่คนเดิมแล้วภาพมันโดด เลยต้องจ้างเอ็กซ์ตร้ากันสดๆ ตรงนั้นอะ ถามว่าใครติดต่อล่ะ กู๊ อีแมทนี่ไง แต่หลายคนก็ทำนะ จะไม่ได้ทำได้ไงล่ะ ยืนมุงๆ มองๆ ชั่วโมงเดียวก็ได้ไปหนึ่งร้อยดอลล่าห์เก๋ๆ จ้างเอ็กซ์ตร้าแต่แรกก็จบแล้ว เลยต้องได้ถ่ายใหม่อีกหลายฉากเลย เวลาเลยยืดเยื้อ ได้ค่าโอทีก็จริง แต่ก็เหนื่อยสายตัวจะขาด ผมนั่งรถกลับบ้านอย่างสลึมสลือ ไม่หือไม่อืออะไรกับออสติน 

 

 

ฮ้าววว

 

 

“มานี่!” อะโหย เพิ่งจะเดินละล่องเข้ามาในบ้านได้แปบนึงก็มีเสียงเข้มๆ ต้อนรับแล้ว เสียงไม่เท่าไหร่ หน้าตาเหมือนยักษ์สมฉายายิ่งตอกย้ำความพิโรธของไอ้ผนุ่มผมยาวได้ดี แต่ผมแทบจะหมดพลังไฟท์ด้วยแล้ว ผมเลยเดินเข้าไปหาเขาอย่างเนือยๆ

 

 

“บ่นพรุ่งนี้ได้มั้ยอ้า…” ผมตาจะปิดแล้ว แต่พอนึกอะไรขึ้นได้ก็เปิดเปลือกตากว้างขึ้นอีกนิด

 

 

“…แต่เป็นตอนค่ำๆ นะ รอเลิกกองก่อน”

 

 

“ไม่ต้องไปทำแล้ว!” โวะ! อันนี้ตื่นแทบจะเต็มตาเลย ผมมองหน้าดำคร่ำเครียดของวิคเตอร์ด้วยความตะลึงเบาๆ

 

 

“ได้ไง?!”

 

 

“ได้สิ ไม่ต้องไปทำ แบบนี้จะเอาเวลาที่ไหนมาอยู่ด้วยกัน” วิคเตอร์เสียงแข็งพอๆ กับดวงตา ผมเดินไปนั่งลงข้างๆ เขา แต่พอนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรเพราะใกล้มือเขาไปก็เลยทำท่าจะลุก แต่วิคเตอร์ใช้แข้งดันอกผมให้หลังติดกับพนักพิงโซฟา

 

 

ขอบคุณนะที่ยังไม่ใช้ตีน

 

 

“วิคเตอร์ มันก็เป็นแค่ช่วงนี้…”

 

 

“…สามเดือนต่อจากนี้น่ะเหรอที่นายจะใช้ชีวิตแบบนี้”

 

 

“ผมก็มีวันหยุด ใช่ว่าจะถ่ายทุกวัน” ผมยกมือตีหน้าแข้งที่เต็มไปด้วยขนของเขา วิคเตอร์เอาขาออกจากคอผมไปวางบนพื้น ผมอ้าปากหาววอด มองใบหน้าถมึงทึงของไอ้ยักษ์ด้วยความเพลีย ไม่ได้เพลียที่เห็นหน้าเขานะ เพลียเพราะเหนื่อยล้วนๆ

 

 

“ไหนลองนับเดย์ออฟมาซิ” เขาพูดด้วยความหงุดหงิด ส่วนผมตาจะปิดแล้ว

 

 

“ก็…” ผมนั่งนึกในหัว ถ่ายสามเดือน หยุดวันไหนบ้างนะ เอ่อ โอย งง ง่วง

 

 

“…หยุดทุกเสาร์อาทิตย์” ผมอ้าปากหาวอีกทีจนน้ำตาเริ่มไหลออกทางหางตา

 

 

“สามเดือน นายได้หยุดยี่สิบสี่วัน และแน่ใจเหรอว่าจะหยุดจริงๆ” ผมย่นคิ้ว มองไอ้ยักษ์หนวดผมรกรุงรังหน้าตาโมโหโกรธา

 

 

“ก็ต้องหยุดสิ นี่ วิคเตอร์ ผมง่วงนอนแล้วอะ ขอไปนอนก่อนไม่ได้เหรอ พรุ่งนี้ผมต้องไปถึงกองถ่ายเจ็ดโมงเช้าเลยนะ” ผมยกมือเช็ดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วอ้าปากหาวอีกรอบ

 

 

วิคเตอร์นิ่งเงียบ ผมตาปรือมองเขาเห็นเขาขบกรามแน่นแล้วพ่นลมหายใจ ก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง เขาก้มตัวลงช้อนตัวผมขึ้น ผมยิ้มเพลีย นอนซุกเข้ากับอกเปลือยของเขา ดมกลิ่นเนื้ออุ่นเข้าเต็มปอด

 

 

“ไม่อาบน้ำได้มั้ยอะ” ผมถามเสียงแง๊วๆ เหมือนเด็กน้อย เพราะสมองเรียกร้องการนอนเต็มที่แล้วจริงๆ

 

 

“โสโครก” วิคเตอร์ว่าเสียงห้วนในขณะที่พาผมเดินขึ้นบันไดบ้านไปยังห้องนอน

 

 

“งั้นอย่ามานอนกอดผมนะ” ผมว่าเสียงละเหี่ยเพลียกาย แต่ขยับหัวซุกอกวิคเตอร์ราวกับหัวถึงหมอนแล้ว

 

 

วิคเตอร์ไม่พูดอะไร สติผมตัดแล้ว น้ำก็ไม่อาบ ฟันก็ไม่แปรง แต่ผมหมดแรงจริงๆ ยืนทั้งวันปวดเท้ามาก แล้วไหนจะวิ่งหาคนนั้นทีคนนี้ที ผมรู้สึกแน่นตัวเหมือนโดนรัดในตอนที่หลับสนิทไปแล้ว

 







เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao3:



               ครบค่าาา ครบแบบมึนๆ มั่วๆ ปวดหัวกับการงาน อยากจะแบ่งเวลาให้เป็น เดือนหน้าก็อยากจะอัพเรื่องของแซ็คแล้ว แต่ต้นฉบับยังไม่กระดึ๊บเลย โถถถถ

               มีคนมาถามหาหนังสือภาคสามของเรื่องนี้แล้ว กรีสสส ปลาบปลื้ม แต่ใจเย็นเด้อออ ยังเขียนไม่ถึงไหนเลยยย มาอ่านที่นี่ มาให้กำลังใจคนเขียนที่นี่กันไปก่อนนาาา หนังสือมาแล้วจิแจ้ง ยังไงหนังสือมาแน่ๆ ค่ะ แต่ไม่รู้จริงๆ ว่าจะเร่งสมองตัวเองได้แค่ไหน ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่ยังรอตอนจบของคู่นี้ ภาคนี้จบแท้แน่นอนค่ะ ตั้งใจว่าอยากให้จบเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นเดือนที่เริ่มเขียนนิยายเรื่องนี้เมื่อสองปีก่อน มันจะได้ครบสามปีพอดี ไม่อยากให้อายุนิยายเรื่องนี้มันมากไปกว่านี้แล้ว 55555 ขุ่นแม่เรียวจันทร์มาทีหลัง นางจับผัวแฮปปี้เอนดิ้งไปแล้ววว น้องแมทช้าไม่ได้แล้วนะลู๊กกก

               มีคนอ่านกังวลกับชื่อตอน 555555 ทำม๊ายยยย ชื่อตอนเฉยๆ เด๊หนิ ไม่มีอะไรเล้ยยย (เสียงสูงอีกละ)

               ขอบคุณคนอ่านที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ และขอต้อนรับคนอ่านหน้าใหม่ๆ ที่เพิ่งมาตามเรื่องนี้ค่ะ คนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เปิดเรื่อง ปัจจุบันก็หายหน้าหายตากันไปเยอะอยู่ 555555 สงสัยนานเกินนน แต่ที่ยังอยู่จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังจำได้แน้

               เจอกันตอนหน้านะคะ

               

               ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะคะ ทุกวันนี้ได้เห็นคอมเม้นทุกครั้งที่อัพก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ จำนวนมันอาจไม่ได้ไหลหลั่ง แต่ก็ยังมีคนเม้นให้ ขอบคุณจริงๆ นะคะ มันเป็นกำลังใจดีๆ ของคนเขียนเลยละค่ะ ส่วนใครที่ซุ่มติดตามเงียบๆ อ่านแล้วจากไป ฮ่าๆๆๆ ก็ขอบคุณเช่นกันค่าาา อย่างน้อยก็มาเพิ่มวิวให้ อุๆ

     ปล. ข้อมูลเรื่องกฎหมาย หากผิดพลาด บอกกล่าวกันได้นะคะ ตอมจะได้แก้ให้ถูกต้องค่าาา



แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries

ออฟไลน์ Maii2206

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 181
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-1
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1879 เมื่อ02-09-2017 22:09:09 »

 :sad4: โอ้ย ถ้าเจอเพื่อนร่วมงานแบบแมทนี่ลาออกละนะ ดูจะจงเกลียดจงชังละเกิ๊นนน

พี่วิคเตอร์ก้เข้าใจแมทบ้างไรบ้าง  :เฮ้อ: เนี้ยบเสมอต้นเสมอปลาย ถ้ายังขัดคำสั่งมากกว่านี้แมทโดนให้ออกแน่  :z2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
« ตอบ #1879 เมื่อ: 02-09-2017 22:09:09 »





ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1880 เมื่อ02-09-2017 22:30:35 »

ก็ว่าฝรั่งเคร่งครัดกับเวลา
ทำไม่ทำงาน เกินเวลาเป็นสองชั่วโมง

แล้วการเจรจาในกองถ่ายทำไมดูไม่ให้เกียรติ
ใช้งานนอกเหนือหน้าที่ หน้าที่ตังเองปะ นิสัยก็เลวววววว  :fire: :fire: :fire:

ห้ามคนเดินไม่บอกให้รู้ก่อน
พอไม่ห้าม ที่จริงห้ามแล้ว แต่นางบอกนางจ่ายภาษี นางมีสิทธิ์เดิน ก็จริงนะ
แต่อีนังพีทพูดว่าแมทซะ หาว่าไม่มีคอมม่อนเซนส์
มันเหมือนรังคัดรังแค เฉพาะแมท
ขนาดผู้กำกับยังไม่เท่าอีนังพีทเลย
อิจฉาแมท หรือเปล่าที่ได้วิคเตอร์เป็นแฟน

อยากให้แมท แสดงอิทธิฤทธิ์ใส่นังพีทโคตรๆ  :z6: :z6: :z6:
รอตอนใหม่  :ling1: :ling1: :ling1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1881 เมื่อ03-09-2017 03:05:37 »

อยากกระโดดถีบอีพีท ลากไปตบกลางห้าแยกลาดพร้าว.  :fire: :fire:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2628
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1882 เมื่อ03-09-2017 06:41:35 »

ทำไม แมทถึงอดทนทำงานกับฝรั่งแบบพีท
พีทสันดานเลวโดยแท้ ไม่ให้เกียรติเพื่อนร่วมงาน ดูถูกขนาดนี้ แมทไม่ลองหากองอื่นทำอ่ะ วิคเตอร์เข้ามาแสดงอิทฤทธิ์ซักที อิพีทจะหยุดกร่างมั้ย

ออฟไลน์ Yara

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2104
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-2
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1883 เมื่อ03-09-2017 09:18:39 »

พีทนี่ก็จะอะไรกับแมทนักหนา พูดกันดีๆก็ได้มั้ย ตะคอกกันอยู่ได้

ออฟไลน์ Elf_Carat

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 74
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1884 เมื่อ03-09-2017 09:45:29 »

 :m16: :m16: อิพีทนี่ใช้เเมทอย่างกับเป็นเบ๊ประจำกองแบบอเนกประสงค์เลยนะ  :z6:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1885 เมื่อ03-09-2017 10:23:49 »

 :mew1:

ออฟไลน์ titansyui

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1886 เมื่อ03-09-2017 11:13:14 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ khunchoq

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-0
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1887 เมื่อ04-09-2017 16:40:30 »

วิคเตอร์ต้องไปเคลียร์ให้แล้วละ แรงงานทาสหรอ?

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.8 100% :02.09.60:
«ตอบ #1888 เมื่อ11-09-2017 20:07:18 »

แมททำงานหนักมากเพราะโดนคนในกองเอาเปรียบเนี่ยแหล่ะ

ออฟไลน์ คุณเจ้

  • Follow your heart, but take the brain with.
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 527
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-8
Re: ::Love ♥ no boundaries ||Yours and Mine|| EP.9 50% :11.09.60:
«ตอบ #1889 เมื่อ11-09-2017 20:34:10 »



Yours and Mine EP.9 :: A little bit. (ทีละนิด) [50%]




ฉากที่จะถ่ายวันจันทร์เป็นซีนบ้านพระเอกหมดเลย ถ่ายทั้งภายนอกภายใน สิ่งที่ต้องใช้มีพวกอุปกรณ์ดนตรี รถยนต์คันเก่า รีเควสว่าต้องเป็นในยุค 90 ด้วย มีใครติดต่อไปหรือยังนะ

 

 

“ฉันว่าจะบินไปอังกฤษต้นเดือนหน้า ไปดูรอบบ้าน…” ต่อกๆๆๆ แต่กๆๆๆ เสิร์จหาข้อมูลไว้ก่อนดีกว่า

 

 

“…ระหว่างหนีบนิ้วนายให้หักกับกระทืบแม็คบุ๊คให้พัง จะเอาแบบไหน?!” พรึบ!

 

 

ผมเงยหน้าขึ้นมองวิคเตอร์ที่กำลังหงุดหงิดเต็มทีและคงกำลังจะเต็มทน แต่ผมก็คลี่ยิ้ม มันเป็นไปตามกลไกการประจบโดยอัตโนมัติ เพราะสมองมันรับรู้แว่วๆ ว่าภัยกำลังมาถึงตัว

 

 

“อะไรเหรอ” ผมถามเสียงอ่อนเสียงหวาน มือวางคาแป้นพิมพ์สีดำ พยายามไม่เหลือบสายตาไปมองหน้าจอ พยายามล็อคให้มันมองหน้าไอ้ยักษ์ไว้ แต่ก็มีแอบกดพิมพ์อักษรตัวสุดท้ายของคำที่พิมพ์ค้างไว้ให้เสร็จเพื่อจะได้ไม่ค้างคา

 

 

“ไหนบอกว่าวันหยุดจะอยู่กับฉันไง” วิคเตอร์ถามเสียงเหวี่ยง หน้าพร้อมระเบิดใส่ผมมากถ้าหากเถียงอะไรไม่เข้าหูเขา

 

 

“ก็นี่งายยย อยู่ด้วยกันตรงนี้เนี่ย ไม่ได้ไปไหนเลยนะ” วิคเตอร์ขึงตาใส่ผม สันกรามขึ้นชัดเพราะขบไว้แน่น เขาจ้องไปที่แม็คบุ๊คเป็นการสื่อความหมายพยาบาท ผมยิ้มแห้ง เลื่อนโน้ตบุ๊คไปวางข้างตัว แต่ก็ไม่ได้ห่างจากตัวมาก

 

 

“ก็มันต้องมีการเตรียมงานบ้างนี่นา” ผมแก้ตัวเสียงอ่อย ในใจพะว้าพะวงอยากพิมพ์งานของตัวเองให้เสร็จ จะได้หมดห่วงไป

 

 

“ไม่ให้เตรียม” เขาว่าหน้าตาเฉย ผมหน้าเหวอ

 

 

“เอ๊า ไม่ให้เตรียมไม่ได้ ต้องเตรียมงานสิ วันจันทร์ผมต้องกลับไปทำงานต่อนะ” วิคเตอร์ทำหน้าอดทนอดกลั้น คิดว่าคงกำลังข่มตัวเองไม่ให้เข้ามาถีบผมหน้าหงายด้วยความโมโหอยู่

 

 

“แต่นายบอกว่ามันเป็นวันหยุด นายก็ควรหยุดทำงาน แล้วอยู่กับฉัน นายอยู่กับงานไปห้าวันแล้วนะแมท” วิคเตอร์แทบจะตะโกน แต่ก็ไม่ถึงขั้นนั้น แต่เสียงของเขาก็ดุและน่ากลัวอยู่ดี

 

 

“วิคเตอร์อ้ะ คุณน่าจะรู้นี่ว่าการออกกองมันเป็นยังไง” ผมหน้ามุ่ยเล็กๆ ไม่กล้ามุ่ยใหญ่ เดี๋ยวโดนยักษ์ใหญ่ระเบิดใส่แล้วจะเละเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

 

 

“รู้ ถึงไม่อยากให้นายทำงานนี้ไง!” คราวนี้เขาตะคอกจนผมสะดุ้ง หน้าตาเขาบึ้งมาก อารมณ์เขาเสียมาก จะซ่อมยากลำบากมั้ย

 

 

“อ๊า ทำๆ ทำต่อสิ ไม่ทำไม่ได้ ให้ทำนะ นะๆ” ผมเอื้อมมือไปฉุดเขาให้ลงมานั่งด้วยกัน วิคเตอร์ทิ้งตัวลงบนโซฟาตัวยาว หน้าตายังคงบิดเบี้ยวด้วยความอารมณ์ไม่ดี ทำไมเขาเป็นคนขี้หงุดหงิดง่ายขนาดนี้นะ คนอะไรจะหัวร้อนได้แทบทุกขณะของชีวิตขนาดนี้ ผมอยู่กับเขามานานขนาดนี้ได้ไง นับถือใจตัวเอง

 

 

“วันนี้กับพรุ่งนี้ห้ามทำงาน ไม่งั้นไม่ต้องทำต่อ” ผมทำปากยื่น วิคเตอร์ยื่นมือมาดึงปากผมด้วยสีหน้าที่โมโหปนหมั่นไส้แรงๆ หนึ่งทีแล้วปล่อย

 

 

“โอ๊ย!”

 

 

“ไม่ติดว่ารักฉันจะต่อยหน้านายให้ฟันหักเลย” ผมยกมือลูบปากเบาๆ มองค้อนไอ้ยักษ์เล้กน้อย ขนาดว่ารักนะ ถ้าไม่รักผมคงได้หล่อฟันปลอมเป็นสิบๆ อัน

 

 

“ขอบคุณความรักนั้น” ผมว่าพลางจิกตาใส่ไอ้ยักษ์ผมยาวที่มองกลับมาด้วยสายตาตรงข้ามกับคำว่ารักที่เพิ่งบอกไป ผมหันไปปิดแม็คบุ๊คแล้วเอาวางไว้บนโต๊ะไม้ตัวเล็กๆ ที่ผมซื้อมาจากวอลมาร์ท เอามาไว้นั่งทำงานบนพื้น ตอนที่กำลังจะเด้งตัวกลับไปนั่ง โทรศัพท์ผมก็ส่งเสียงดังและสั่นไหวอยู่บนโต๊ะไม้สีน้ำตาลอ่อน แต่เจ้าของโทรศัพท์อย่างผมกลับไวสู้สามีตัวเองไม่ได้

 

 

“ฮัลโหล?!... แมทไม่ว่าง… ก็ไม่ว่างไง ถามทำไม เรื่องส่วนตัว วันนี้วันหยุด แกจะโทรมาสั่งงานอะไรแมทอีกไม่ได้…” ผมอ้าปากพะงาบๆ ยื่นมือไปจะดึงโทรศัพท์ตัวเองคืนมาแต่วิคเตอร์เบี่ยงตัวหนี และใช้แขนซ้ายล็อคผมไว้

 

 

“แกก็หัดจัดการเองบ้างสิวะบางเรื่องน่ะ จะใช้แมททุกเรื่องเลยรึไง… อันที่จริงฉันฝากแมทไปทำงานกับผู้กำกับนะ แต่ทำไมดูแกจะออกคำสั่งกับแมทมากกว่า… ถ้าไอ้ผู้กำกับมันอยากให้แมททำอะไร ให้มันโทรมาเอง!” ผมแทบจะช็อคและช็อตไปกับสิ่งที่วิคเตอร์พูด คือเรื่องช่วงวัยสำหรับสังคมตะวันตกมันอาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่อย่างน้อยนะไอ้เตอร์ ผู้กำกับนั่นรุ่นพ่อแกนะเหวย

 

 

“วิคเตอร์!”

 

 

“อะไร?! ฉันวางสายมันไปแล้ว และไม่ต้องถามว่ามันสั่งอะไร เพราะฉันไม่ให้นายทำ ฉันสั่งให้มันไปทำเองแล้ว” ผมยกมือตีแขนเขารัวๆ เพื่อให้เขาปล่อย วิคเตอร์ยอมปล่อยแบบนึกอยากปล่อยก็ปล่อย ผมเด้งตัวแล้วหันหน้าเข้าหาวิคเตอร์หน้าตื่น

 

 

“เขาบอกว่าไรเหรอ บอกผมหน่อย” เรื่องรถรึเปล่าหรือเรื่องอะไร ผมพะว้าพะวงไปหมดแล้วเนี่ย

 

 

“ไม่!” วิคเตอร์ว่าอย่างดื้อดึง ผมย่นคิ้วเริ่มรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมากับอาการดื้อด้านของเขา

 

 

“วิคเตอร์ คุณทำแบบนี้ไม่ถูกนะ แล้วคุณพูดกับพีทไปแบบนั้น เขาก็จะยิ่งไม่ชอบหน้าผม มองผมในแง่ร้ายกว่าเดิมสิ”

 

 

“ช่างมันสิ แคร์มันทำไม” วิคเตอร์ว่าหน้ามึนแววตาดื้อดึงเหมือนเด็ก ผมเบิกตากว้างมองหน้าเขา นึกอยากจิกผมเขาแล้วตบๆๆ

 

 

“คุณก็พูดได้สิ คุณไม่ได้โดนพีทด่าหรือไม่ชอบหน้าอะ” ผมพูดด้วยความอารมณ์ขึ้นเล็กๆ มันง่ายสำหรับเขาอยู่แล้วกับการเมินเฉยต่อสายตาหรือความคิดคนอื่น แต่กับผมไม่ใช่ไง

 

 

“กลัวไร ในกองก็มีคนไม่ชอบฉัน ฉันยังอยู่ได้เลย” โอ๊ยยย  ผมหยิบหมอนบนโซฟาตีหัววิคเตอร์ ไอ้ยักษ์จ้องตาดุกลับมา แต่ผมกำลังอารมณ์ขึ้นเลยไม่นึกกลัว

 

 

“สถานะของคุณกับผมต่างกันนะ ตำแหน่งคุณใครๆ ก็ง้อ ของผมเขาไม่ง้อ เขาหาคนอื่นมาแทนได้ เข้าใจมั้ยเนี่ย?!”

 

 

“ก็ให้คนอื่นมาแทนไปนายไปดิ นายก็ไม่ต้องทำ” ผมกัดฟันแน่น มองไอ้ยักษ์หนวดเคราครึ้มด้วยความหงุดหงิด

 

 

“ไอ้เตอร์!!!” ผมกระแทกเสียงเป็นภาษาไทยใส่หน้าเขา วิคเตอร์สะดุ้งนิดเดียว นิดเดียวจริงๆ ก่อนจะยักคิ้วให้ผมหนึ่งทีแบบไม่สะทกสะท้านกับการที่ผมจะตกงาน

 

 

“ฝองต่าแก้นั่นอีกสิ” หน็อย มันยอกย้อนท้าทายเป็นภาษาไทย

 

 

“เออ จะฟ้องแน่ ให้พ่อเอาปืนมายิงยักษ์!” ผมด่าเป็นภาษาไทยเสียงแหลม หงุดหงิดนะ แต่ก็รู้ตัวว่ายังไม่ถึงขั้นจะระเบิด แค่เหนื่อยใจกับระบบความคิดไอ้ยักษ์เรื่องตำแหน่งหน้าที่การงานของเราสองคน

 

 

“มั้ยมาหลอก งกข่าตั๊ว” โอ๊ย ห้ามขำนะอีแมท แต่ไอ้ยักษ์มันตลกอะ แอคติ้งสีหน้าคือเรียลมากว่าพ่อผมงกค่าตั๋วมานิวยอร์กจริงๆ แล้วด้วยสกิลการพูดไทยไม่ชัดแต่พยายามออกเสียงให้ชัดมันเลยตลก

 

 

“ยักษ์เลว! เลว” กลั้นขำด้วยการด่านี่แหละ

 

 

“เลว แต๊ เปน พั๊ว มึ้ง!” อีแชมป์ มึงสอนผัวกูอีกรึเปล่าประโยคนี้ หรือสกิลผัวกูอัพเกรดเองอัตโนมัติ

 

 

สุดท้ายก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่

 

 

“อะๆๆๆๆ” ผมหลุดหัวเราะดังลั่นบ้าน ไอ้ยักษ์ก็หลุดมาดเข้มมาดขรึม เสียงวิ่งกุกกักๆ ดังมาจากทางห้องนอนออสติน ไมเคิลวิ่งเข้ามากระโดดโลดเต้นตรงหน้าเราสองคนแล้วเห่าดังลั่นบ้าน ไอ้หมาตัวนี้มันได้ยินเสียงหัวเราะแล้วจะคึกตามไปด้วย

 

 

“I really hate you! (ผมเกลียดคุณจริงๆ เลย!)”

 

 

“จิงหลอ” ไอ้ยักษ์ยิ้มน่ารัก ผมเบ้ปากใส่

 

 

โฮ่ง!! โฮ่ง!!

 

 

“เออๆ ครับๆ หัวเราะๆ ด้วย” ไมคเคิลโบกหางเป็นพวงของมันและมองหน้าผมสองคนด้วยความอารมณ์ดี ผมยิ้มให้ไมเคิลแต่พอหันไปเห็นไอ้ยักษ์ก็เบ้หน้าใส่ ไอ้หนุ่มผมยาวหัวเราะเบาๆ

 

 

“แฉม บ่อก ว๊า…”

 

 

“…ไหนๆ มันบอกว่าไร ไหนพูด เลือกครูสอนภาษาไทยถูกคนด้วยนะ” สอนแต่เรื่องจัญไรไปสักครึ่งอะอีแชมป์เนี่ย

 

 

“ยิ้ง เกียด เถ่อ ยิ้ง เจอ ลัก” โอ๊ตาย อีแชมป์ อีเสี่ยว อีวิ่งเปรี้ยว มึงสอนอะไรผัวตูเนี่ย น้ำเน่ามาก ผมถึงกับรู้สึกหนักใจและเป็นกังวลใจมากเลยทีเดียว

 

 

“Stop learning Thai from him. Please. (ไม่ต้องไปเรียนภาษาไทยกับมันละนะ ผมขอเถอะ)” วิคเตอร์ขมวดคิ้วหน้างง

 

 

“Why? (ทำไมล่ะ)”

 

 

“It’s good but less than bad. (มันก็สอนดี แต่ไม่ดีมากกว่า)” สิ่งหนึ่งที่ผมแอบกลัว (มาก) คือการที่วิคเตอร์จะซึมซับพฤติกรรมบางอย่างของสังคมผู้ชายไทยเข้าไป ซึ่งไม่ได้หมายความผู้ชายตะวันตก ตะวันออก ตะวันไหนๆ จะไม่เป็นนะ ผมเชื่อเสมอว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับเชื้อชาติ ศาสนา หรือแม้กระทั่งหน้าตา มันอยู่ที่สันดานล้วนๆ แต่ด้วยความที่ผมอยู่ในสังคมไทยที่มักจะเห็นกระทู้ข่าวเรื่องผัวนอกใจเมียอยู่บ่อยครั้งเลยนึกกังวล

 

 

 ไอ้เรื่องโปรยเสน่ห์ เจ้าชู้ เหล่สาว ไม่ต้องสอนเขา อันนี้เขาเป็นอยู่แล้ว เป็นตัวพ่อด้วยมั้ง แต่ไอ้เรื่องการเลี้ยงต้อย การมีกิ๊ก หรือเลี้ยงอีหนูเนี่ยน่ากลัว ถึงนิสัยวิคเตอร์จะไม่ชอบความซับซ้อนของการคบซ้อนเพราะมันยุ่งยาก ต้องแบ่งเวลา ต้องจัดสรรเวลา มีแต่ความวุ่นวาย ไม่ใช่ทางคนทื่อๆ ตรงๆ แบบเขา แต่ใครจะรู้ล่ะ เกิดโดนสอนโดนยุเข้าบ่อยๆ เขาก็อาจเปลี่ยนใจ โชคยังดีที่เพื่อนผู้ชายไทยของวิคเตอร์มีแค่ พี่เคน อีแชมป์ ไอ้วอร์ม แล้วก็บาส ซึ่งไม่ใช่คนที่มีพฤติกรรมแบบนั้น แต่ที่อีแชมป์สอนมานี่มุกเสี่ยวเกี้ยวสาวมาก

 

 

“Okay.” วิคเตอร์ยักคิ้วด้วยท่าทีสบายๆ เขาไม่เรื่องมากหรอก เขาไม่ได้คิดจะเรียนภาษาไทยอยู่แล้ว แต่ที่ต้องเรียนเพราะพ่อผมบอกให้เรียน เพราะพ่อไม่คิดเรียนภาษาอังกฤษมาพูดกับเขานอกจากตอนเมา แล้วมันก็ใช่ว่าเขาจะได้เรียนภาษาไทยกับไอ้แชมป์เป็นจริงเป็นจัง ถ้ากลับไทยแล้วได้เจอกันนั่นแหละก็ได้เรียนรู้และพูดคุยภาษาไทยกันไป

 

 

“เดือนหน้าว่าจะไปไหนนะ” ทำเป็นสนใจเขาก่อน เดี๋ยวเขาหลับหรือเผลอค่อยแอบมาทำงานต่อให้เสร็จ แล้วค่อยโทรกลับไปหาพีท

 

 

“ไปดูบ้าน เซล่าจะจ่ายตังค์แล้วนะ”

 

 

“สรุปได้หลังนั้นจริงๆ เหรอ” วิคเตอร์หน้าเข้มขึ้นมาทันที ผมถึงกับงงว่าเข้มทำไม

 

 

“ฉันพูดไปแล้วก็ไม่สนใจ มัวแต่สนใจงาน ก็บอกอยู่ว่าหลังที่นายอยากได้เขาขายพอดี ฉันเลยสั่งให้พวกเซล่าไปดำเนินการให้แล้ว” วิคเตอร์เสียงดุมาก มีการยกมือผลักหัวผมด้วยความโมโหจนผมเกือบหงายหลังแต่ผมก็รีบเด้งตัวกลับมา ผมตาโต ดวงตาคงเปล่งประกายกับข่าวใหม่ (ที่จริงๆ ไม่ใหม่แล้ว) หัวใจเต้นตุบๆ ด้วยความดีใจ

 

 

“จริงๆ น่ะเหรอ ได้หลังนั้น หลังที่ผมชี้อะนะ” หลังที่แลห่างไกลผู้คนแต่ก็ไม่ใช่โดดเดี่ยวในดงกล้วย แต่ก็เป็นส่วนตัวและเรียบง่ายตามแบบฉบับผู้ชายวิคเตอร์ 

 

 

“จริง” ผมเด้งตัวเข้าไปกอดวิคเตอร์ด้วยความดีใจ เขานอนราบไปกับโซฟาเตียงเพื่อให้ผมนอนบนตัวเขาถนัดๆ ไอ้ยักษ์ยกแขนสองข้างกอดผมตอบ

 

 

“แต่อีกนานกว่าจะเป็นเรื่องเป็นราว ต้องขออนุญาตรีโนเวทบางจุดของบ้าน แล้วก็รั้วบ้านฉันอยากขอเขาทำให้สูงขึ้นอีกนิด” บ้านที่นั่นมีกฎว่าห้ามปรับเปลี่ยนหรือเปลี่ยนแปลง ซึ่งจริงๆ กฎหมายนี้ในอังกฤษเป็นกันทุกเมือง ไม่เหมือนเมืองไทยที่บ้านใครก็สิทธิ์คนนั้น อยากปรับอยากเปลี่ยนตรงไหนทำได้เลย ขอแค่มีเงินพร้อมทำ แต่ที่นั่นไม่ใช่ ต้องทำเรื่องขออนุญาตเป็นจริงเป็นจัง และถ้าการเปลี่ยนแปลงมากไปหรือกระทบกับพื้นที่ของเมืองหรือสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น เขาจะไม่อนุญาตและถ้าฝ่าฝืนก็คือโดนจับ แต่กับเมือง Cotswold ที่เราจะไปอยู่กัน มันเป็นเมืองอนุรักษ์ ขั้นตอนจะขอยากและวุ่นวายกว่าที่อื่น

 

 

“เขาขายให้เท่าไหร่เหรอ”

 

 

“1.75 ล้านปอนด์” ผมอ้าปากค้างด้วยความตะลึง คือคิดมาก่อนหน้านี้แล้วละว่าบ้านมันคงไม่ใช่สิบล้านยี่สิบล้าน เพราะมันอยู่ในเมืองเก่า เมืองอนุรักษ์และอยู่ในประเทศที่ค่าครองชีพสูงมหาศาล แต่พอคิดๆ เป็นเงินไทยก็ หูว!

 

 

“ประมาณแปดสิบล้าน!” วิคเตอร์พยักหน้าแบบสบายๆ สองมือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นแล้วบีบก้นผมเบาๆ เออสบายเขาสิ เขามีตังค์ แต่ผมไม่มี หมายถึงว่าก็มีตังค์ แต่มีไม่เท่าเขา ทั้งบ้านผมรวมกันยังไม่เท่าบ้านเขาที่นิวยอร์กเลย

 

 

“ยังไม่รวมค่าตกแต่ง ค่าทำบ้านใหม่บางจุด มีสนามเทนนิสด้วยนะ” ยิ่งใหญ่เกรียงไกรมากบ้านหลังนี้ มีสนามเทนนิสเป็นของตัวเอง ตอนที่ไปดูรอบที่แล้วผมไม่ได้คิดว่านั่นคือสนามเทนนิส คือเห็นกรงรั้วแหละ แต่หญ้ากับต้นไม้ขึ้นบังไว้เลยคิดว่าเป็นรั้วเหล็กเก่าๆ กั้นบ้านเฉยๆ

 

 

“ตื่นเต้นจัง” ผมทำท่าตื่นเต้นหน้าสั่น วิคเตอร์หัวเราะในลำคอ ผมแหวกเสื้อกล้ามเขาออก ก้มลงจูบรอยสักบนอกซ้ายของเขาแล้วก็เงยหน้าส่งยิ้มให้วิคเตอร์ ปฏิเสธยากนะว่าการมีสามีรวยเป็นเรื่องดี ฮิๆ

 

 

“รีบไปก่อนหนังจะเริ่มถ่าย นายก็ต้องไปด้วย” ผมทำปากจู๋ กะพริบตาปริบๆ รู้สึกอึกอักแต่ก็ต้องพูด

 

 

“ยังไม่รับปากได้มั้ยอ่า ผมก็น่าจะถ่ายไง มันยังอยู่ในช่วงถ่ายอยู่เลย” วิคเตอร์ที่กำลังอารมณ์ดี เปลี่ยนสีหน้าเป็นอารมณ์ไม่ดีทันที มือที่ลูบและบีบก้นผมเบาๆ เปลี่ยนเป็นบีบแน่น น้ำเสียงที่พูดก็เด็ดขาด

 

 

“บอกให้ไปก็ไป”

 

 

“วิคเตอร์อะ ผมทำงานนะ…” ผมพยายามดึงมือเขาออกจากก้นเพราะรู้สึกเจ็บ แต่เขากลับถลกกางเกงผมลงไปใต้ก้น และยกมือซ้ายฟาดก้นผมเต็มมือ

 

 

ป้าบ!

 

 

“…โอ้ย!”

 

 

“จะไปไม่ไป” เขาถามเสียงห้วน มือซ้ายยกขึ้นขู่จะตีอีกรอบ ผมทำหน้าระแวง ยกมือขวาจับมือซ้ายเขาไว้ ไมเคิลนอนมองเราสองคนด้วยอาการเหมือนอยากจะเล่นด้วย มันโบกพวงหางเบาๆ

 

 

“ไปวันไหนล่ะ ถ้าวันธรรมดาก็ไปไม่ได้ไง ผมทำงาน ผมช่วยคุณหาเงินจ่ายค่าบ้านนะเนี่ย ช่วยกันแชร์อะ ฮะ เข้าใจมั้ย” ผมจับมือซ้ายเขามาวางไว้บนอกเขาเองและกุมมันเอาไว้ไม่ให้มันทำร้ายก้นผมได้อีก

 

 

เพี๊ย!

 

 

“เอ้า!” แต่ลืมเก็บมือขวาไปด้วย

 

 

“งั้นแชร์มาครึ่งนึง เอาสี่สิบล้าน” วิคเตอร์พูดหน้านิ่งเสียงนิ่ง ผมหน้าช็อคแว้บหนึ่งก่อนจะยื่นจมูกไปคลอเคลียกับแก้มเขาที่ทุกวันนี้เหลือพื้นที่แก้มให้หอมน้อยมาก

 

 

“ก็นี่ไง ต้องทำงาน” ผมพูดเสียงอ้อน ยิ้มแฉ่งประจบเขา วิคเตอร์ยิ้มเหี้ยม

 

 

“ขอภายในเดือนนึง หามาให้ได้” ผมยังยิ้ม ทำเป็นยิ้มล้อเขา แต่วิคเตอร์ก็ยังหน้านิ่ง ผมเลยหุบยิ้ม

 

 

“พูดจริงอะ อำเล่นรึเปล่า”

 

 

“ไม่ พูดจริง หามาให้ได้ ถ้าไม่ได้ก็เลิกทำงาน” ผมทำหน้ามู่ทู่ จะให้ผมเลิกทำงานให้ได้เลย ทำไมนะ ทำไม วิคเตอร์อยากมีคู่ชีวิตที่นั่งกินนอนกินไปวันๆ งั้นเหรอ มันเก๋เหรอหรือยังไง ไหนลองอภิปรายซิ

 

 

“ทำไมถึงอยากให้ผมอยู่เฉยๆ จัง ทั้งๆ ที่ผมพยายามทำตัวมีประโยชน์เนี่ย” วิคเตอร์นิ่งเงียบ มองหน้าผมเหมือนกำลังคิดพิจารณาอะไรสักอย่างก่อนจะเปิดปากพูด

 

 

“เพราะฉันเลี้ยงนายได้ ฉันดูแลนายได้แมท ฉันบอกแล้วไงว่าชีวิตนายก็เหมือนชีวิตฉัน” ผมยิ้มเขินแล้วก็หัวเราะคิกคักเสียงเล็กเสียงน้อย

 

 

“ก็รู้แล้ว แต่ว่า…” งงตัวเอง ทำไมต้องเสียงสอง ปรับเสียงก่อน อะแฮ่ม “…คือว่า ผมดีใจที่คุณอยากดูแลผมอย่างเต็มที่ แต่ผมก็อยากทำงาน ผมมีความฝัน ผมอยากทำตามฝันอะวิคเตอร์ ให้โอกาสผมหน่อยนะ ถ้าไม่ไหวจริงๆ เดี๋ยวผมหยุดเอง แล้วจะมาเกาะคุณกินไปทั้งชีวิตเลย”

 

 

วิคเตอร์พ่นลมหายใจ หน้าตาเขาดูเครียดนิดหน่อยแต่ก็ไม่ถึงขั้นหน้าตึงขึงขังจริงจังมากมาย เขามองหน้าผมเหมือนอยากพูดอะไรต่อ ผมทำหน้าอ้อน จับมือขวาเขาขึ้นมาจูบตรงแหวนที่ผมเก็บตังค์ซื้อให้เพื่อตอบแทนที่เขาให้แหวนกับผม

 

 

“ความฝันกับความเป็นจริงมันไม่เหมือนกันหรอกนะแมท บางครั้งนายอาจต้องละทิ้งความฝันเพื่ออยู่กับความเป็นจริง”

 

 

“แต่ถ้าผมทำฝันให้เป็นจริง มันจะไม่ดีกว่าเหรอ” วิคเตอร์มองผมนิ่งแบบที่ผมเดาไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไร แต่ผมมีความรู้สึกว่าที่เขาพูดก่อนหน้านี้เรื่องที่เขาเลี้ยงดูผมได้ เขาไม่ได้อยากพูดแบบนนั้นแต่แรก

 



เม้าท์เม้าท์เม้าท์กะขุ่นเจ้   :hao3:



               มาค่าาา ตามสัญญาที่บอกไว้ในเพจว่าจะมาวันจันทร์ มาแว้ววว

               เมื่อวันอาทิตย์ได้มีโอกาสพบคนอ่านบางส่วน เพราะมีนัดรับหนังสือพ่อเขี้ยวแม่เรียว ได้พูดคุยกับหลายๆ คนเลยค่ะ มีความสุขมากกก เป็นการเพิ่มเติมกำลังใจให้กับคนเขียนได้เยอะมาก ได้สอบถามพูดคุยถึงเรื่องการติดตามกันมา ส่วนใหญ่ก็ตามกันต่อจากเรื่องนี้ไปเรื่องนั้น มีบางคนเพิ่งมาตามขุ่นแม่เพราะชอบความเปรี้ยวเยี่ยวราดของนาง

               แต่ทั้งหมดทั้งมวลมันคือการได้เพิ่มกำลังใจให้ตอมมากจริงๆ ค่ะ ได้พูดคุย ได้พบปะ สนุกมากๆ ดีใจที่ได้เจอนะคะ

               ได้มีโอกาสนั่งคุยกับคนอ่านที่บังเอิญติดฝนเป็นชั่วโมงๆ เราแลกเปลี่ยนความคิด มุมมองดีๆ ด้วยกันเยอะมาก รู้สึกดีที่ได้คุยกันค่ะ มันทำให้ตอมรู้เลยว่า อยู่กับที่เขารักเราและผลงานของเราจะแฮปปี้มาก โฟกัสแค่ตรงนี้ดีกว่า มีคนอ่านที่รักและหวังดีกับเราอยู่นะ อะไรที่เขาเตือนมา เพราะเขาห่วงใย ปลื้มใจมากๆ เลยค่ะ

          ยังคิดอยู่เลยว่า เดี๋ยวหนังสือภาคสุดท้ายของพี่ยักษ์กับน้องเอเลี่ยน จะมีนัดรับอีก การได้เจอกับคนอ่าน มันคือการได้เจอคนที่เขาติดตามและชื่นชอบผลงานของเราอยู่ รู้สึกดีมากจริงๆ ค่ะ ทุกคนที่มาน่ารักมาก

               ขอบคุณคนอ่านที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ และขอต้อนรับคนอ่านหน้าใหม่ๆ ที่เพิ่งมาตามเรื่องนี้ค่ะ คนที่อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เปิดเรื่อง ปัจจุบันหลายๆ คนก็รอให้จบก่อนค่อยอ่านรวดเดียว อยากจะชวนมาเรียลไทม์ด้วยกัน มันส์กว่านะ อิๆ

               เจอกันตอนหน้านะคะ

               

               ขอบคุณทุกคอมเม้นเลยนะคะ ทุกวันนี้ได้เห็นคอมเม้นทุกครั้งที่อัพก็ดีใจมากๆ แล้วค่ะ จำนวนมันอาจไม่ได้ไหลหลั่ง แต่ก็ยังมีคนเม้นให้ ขอบคุณจริงๆ นะคะ มันเป็นกำลังใจดีๆ ของคนเขียนเลยละค่ะ ส่วนใครที่ซุ่มติดตามเงียบๆ อ่านแล้วจากไป ฮ่าๆๆๆ ก็ขอบคุณเช่นกันค่าาา อย่างน้อยก็มาเพิ่มวิวให้ อุๆ

     ปล. ข้อมูลเรื่องเงินปอนด์กับเงินไทย ถ้าตอมเขียนผิด แจ้งได้นะคะ



แท็กเรื่องนี้ #LoveNoBoundaries


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด