ผมไม่รู้สาเหตุของเรื่องว่าทำไมน้องนะโดนหยิก แต่ผมรู้สึกโกรธผู้หญิงคนนั้นจริงๆ มาทำสุดหล่อของผมได้ยังไงกัน!! มันน่าเตะอัดผนังนัก ผู้หญิงก็ผู้หญิงเถอะ ไม่มีความเป็นแม่เลยสักนิดก็หลีกไป ผู้ชายอย่างผมจะเป็นแม่ให้เอง!
“นะไม่ต้องกลัวหรอก ใครจะตีนะ มาบอกพี่เพี้ยน พี่เพี้ยนจะจัดการให้เลย”
“หึ” พี่พ่ายหลุดหัวเราะแล้วผลักหน้าผากผม “ดูแลลูกให้กูด้วย ส่วนเรื่องอื่นกูจัดการเอง”
“จัดการให้ได้อย่างที่ปากพี่พูดเถอะ”
“เออน่า”
พี่พ่ายหลุดยิ้ม โน้มตัวลงมาหอมแก้มผมแล้วกระซิบเสียงนุ่ม “ถ้าหนูไม่เลือกป๋า ก็คงไม่มีใครดูแลลูกให้ป๋าได้แล้ว รบกวนด้วยละกันนะ โอเคไหม”
“เรื่องของเรากับเรื่องของเด็กๆ ไม่เกี่ยวกันสักหน่อย ผมจะดูแลลูกให้ แต่ไม่ได้บอกว่าจะคบกับพี่ต่อ”
“อย่าทิฐิได้ไหม กว่าจะคบกันได้มันยาก กว่าจะมาถึงทุกวันนี้ได้ต้องเสียใจมาตั้งเท่าไหร่ อย่าบอกว่าจะทิ้งกันไปง่ายๆ เลย ป๋าเลือกแล้วนะ แล้วคนๆ นั้นก็คือหนู มั่นใจหน่อย”
“แล้วใครมันทำให้ไม่มั่นใจล่ะ พี่น่ะผิดหลายกระทง ไม่ต้องมาทำหน้าอ้อน มันไม่เข้ากับหน้าโหดๆ อย่างพี่หรอก ไปเลย ไปทำงาน ไปสายคงเสียชื่อรักษาการประธานพอดี”
“กูขึ้นเป็นประธานแล้ว ไม่เข้าบริษัทสักวันหุ้นส่วนก็ไม่ครหาหรอก”
ผมมองเขาอย่างไม่ชอบใจ มีเรื่องสำคัญอะไรผมต้องรู้ทีหลังตลอด ไม่เคยคิดจะบอกอะไรผมบ้างเลยรึไงกันนะผู้ชายคนนี้
“แล้วพ่อพี่เป็นไงบ้าง” ถ้าพี่พ่ายขึ้นเป็นประธาน แสดงว่าอาการของพ่อของเขาคงไม่สู้ดีเท่าไหร่ ถ้าถามผมว่าผมดีใจไหมที่พ่อเขาเป็นแบบนี้ ผมก็บอกไม่ถูกนะ...สงสารก็ไม่ใช่ เวทนาก็ไม่เชิง
“ทรงๆ ทรุดๆ”
“อืม” ผมครางรับ มองน้องนะที่หัวเราะคิกคักเพราะถูกแฝดน้องทั้งสองคนจี้เอว “แล้วเมียพี่มันฟื้นเมื่อไหร่”
พี่พ่ายเงียบไปเพียงครู่ นอนลงข้างๆ น้องนะแล้วมองมาทางผม “ตอนที่กูกลับมากรุงเทพ โรงพยาบาลก็ติดต่อมาบอกว่าวิวได้สติอย่างปาฏิหาริย์ แต่กูรู้ว่ามันไม่ได้มีปาฏิหาริย์อะไรตั้งแต่แรก”
“พี่หมายความว่าไง” ผมเลิกคิ้วถาม แต่สีหน้าของพี่พ่ายทำให้เข้าใจได้ว่า “พี่อย่าบอกผมนะว่ามันไม่ได้นอนเป็นผักอย่างที่คิด”
“...”
“มันหลอกพี่มาตลอดเหรอ” ผมถามย้ำอีกครั้ง พี่พ่ายพยักหน้า แล้วถอนหายใจ “รู้อย่างนี้ วันที่ไปเยี่ยมมัน ผมตบให้มันตายไปเสียได้ก็ดี โผล่หัวมาแบบนี้ทำให้เรื่องยุ่งยากไปอีก”
ผมแค้นมันส่วนตัวอยู่แล้วนะ ไม่พูดถึงในแง่ดีหรอก ผมไม่ได้โลกสวย ไม่ใช่คนมีมโนธรรมอะไรขนาดนั้น อย่ามาใช้ตรรกะหญิงชายแบ่งแยกเลย ผู้หญิงแบบแม่ของลูกพี่พ่ายผมแบ่งแยกและให้เกียรติไม่ลง เรื่องของพี่สาวผมความจริงมันต้องร่วมรับโทษด้วย ไอ้เราก็คิดว่ามันนอนเป็นผักคงได้รับผลกรรมตามที่ควรแล้ว แต่ที่จริงมันดันไม่ใช่อย่างที่คิดก็เล่นเอาจุกไปเหมือนกัน
“หึ มีอะไรที่ยุ่งยาก”
“เรื่องผมกับพี่ไง มันจะหย่าให้พี่ไหมล่ะ”
“กำลังกล่อม”
“พี่บอกมันไปเลยว่าไม่หย่าก็ต้องหย่าแล้ว บอกมันว่าพี่เป็นเกย์ ไม่พิสวาทนอนกับผู้หญิง โอ้ย! อะไร”
“ลูกกูเล่นกันอยู่ พูดเบาๆ”
“โทษๆ”
เห็นเด็กๆ กำลังเล่นกันอย่างสนุกสนานแล้วผมก็ยอมลดเสียงลง ล้มตัวลงนอนข้างๆ พี่พ่ายแล้วขยับเข้าไปใกล้ “ต้องหย่านะ เร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แล้วก็ไม่ต้องไปอ่อนโยนกับมันให้มาก กับผมนี่ด่าเอาๆ กับมันก็ไม่ต้องไปพูดดีด้วย ดูมันหยิกลูก คลอดออกมาเองแท้ๆ แต่ไม่มีสำนึก เกลียดดด”
“เออน่า ดูลูกให้ด้วยละกัน กูก็ไม่อยากให้ถึงขั้นต้องฟ้องหย่า คิดว่าฟ้องยังไงกูก็ไม่น่าชนะ ยิ่งอยากหย่าเพื่อยกมึงเป็นเมียด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ ทนหน่อยก็แล้วกัน ต่อให้ชื่อในทะเบียนสมรสจะเป็นชื่อกูกับคนอื่น แต่กูยกมึงขึ้นที่หนึ่งแล้ว ไม่มีอะไรต้องห่วงหรอก”
“จะให้แน่ใจพี่ต้องยกทุกอย่างเป็นชื่อผมให้หมด เสร็จคดีไอ้มาวินที่ศาลไปจัดการให้ด้วย”
“ผีอะไรเข้าสิงวะ แม่งโหด”
“ผีอยากมีผัว”
“หึหึ ไอ้ติ๊งต๊อง”
“ผมพูดจริงนะ ไม่ได้ล้อเล่น”
“เออๆ รู้แล้ว”
อันที่จริงผมก็พูดเล่นนั่นแหละ แต่ถ้าได้มันก็ดีไง ถึงจะไม่คิดว่าพี่พ่ายเขาจะยอมทำตามที่ผมพูดก็เถอะ
“ผมยอมให้พี่มากแล้วนะ ถึงเวลาที่พี่ต้องยอมผมบ้างแล้ว” ผมบอกแล้วกอดพี่พ่ายไว้แน่น “คราวนี้ผมเอาจริงนะพี่ แตกหักกันอีกครั้ง ผมไม่กลับมาแล้วนะ ผมเบื่อที่ต้องมาวนเวียนอยู่กับความเจ็บจากคนเดิมๆ”
“รู้ กูถึงได้พยายามอยู่นี่ไง”
“นี่พยายามแล้วจริงง้ะ เมื่อวานตอนเช้าก็ขืนใจ เมื่อคืนที่ผ่านมาก็เล่นเซอไพรส์ให้มาเจอแม่ของลูก บอกเลยว่าถ้าไม่ใช่ผม พี่เจอดราม่าหนักกว่านี้แน่ นี่เพราะเป็นผมหรอก พี่ถึงได้ยังกอดผมได้อยู่แบบนี้ ผมสตรองใช่ไหมล่ะ อิอิ”
“มึงนี่ชมตัวเองได้ถล่มทลายจริงๆ” พี่พ่ายยิ้มแล้วกดจูบลงบนหน้าผากผม “ขอโทษละกันที่ทำเรื่องไม่ดี แต่มึงยั่วกูเอง ยั่วแล้วไม่ให้เอา กูไม่ใช่พระไม่ใช่นักบวชจะได้ทนให้มึงปั่นหัวเล่นไหว”
“หนูผิดใช่ไหม”
“เออ”
“จิ๊ ขอโทษก็ได้” หอมแก้มขอโทษเขาไปสองที พี่พ่ายก็เลยยิ้มหล่อส่งมาให้ “เออพี่ นังวิวอ่ะ มันโรคจิตป่ะ มันไม่ให้น้องยะน้องโยเรียกมันว่าแม่ ให้น้องนะเรียกคนเดียวอ่ะ ผมไม่ไว้ใจมันให้อยู่ใกล้ลูกเลย”
“ไม่รู้ ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้านก็ไม่ค่อยได้คุยกัน เห็นขลุกอยู่กับลูกกูก็นึกว่าดูแลกันดี เพิ่งมารู้นี่แหละว่าทำลูกเจ็บ”
พี่พ่ายก็คงยุ่งกับงานจริงๆ อย่างที่มันอ้างให้ผมฟังทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา แถมวันเสาร์ยังบินไปหาผมที่เชียงรายอีก มันทำให้ผมรู้สึกผิดจริงๆ ที่ทำให้เขาไม่ได้มีเวลาดูแลเด็กๆ เลย
“พี่ต้องดูแลลูกบ้างนะ ปล่อยพวกเขาอยู่กับนังวิวไม่น่าไว้ใจ ถึงมันจะเป็นแม่ แต่ผมว่ามันโรคจิตแน่ๆ อ่ะ เชื่อผมเถอะ ผมไม่ได้ใส่ร้ายหรืออคติอะไรเลยจริงๆ นะ เออ อาจจะมีนิดหนึ่งบ้างเพราะมันเป็นศัตรูหัวใจ พี่ไม่ต้องยิ้ม ชอบล่ะซีที่มีคนมาตบตีกันแย่งตัวเองเนี่ย”
“ไม่ได้ชอบ แต่ตลกมึง คำพูดคำจานี่ยิ่งกว่าสมาคมแม่บ้านจับกลุ่มนินทากันในตลาด” พี่พ่ายหัวเราะแล้วตบหัวผมเบาๆ
“พี่เคยไปตลาดรึไงเล่า ไม่ต้องมาทำรู้ดี”
“ไม่เคย แต่พอนึกภาพออก”
ผมมองค้อนแล้วกัดไหล่เขาไปหนึ่งที “ยังไงก็เถอะ ดูลูกด้วยละกัน หรือถ้าตอนปิดเทอมให้ไปอยู่กับผมที่เชียงใหม่ก็ได้อ่ะ”
“มึงไม่คิดจะย้ายมาอยู่กับกูที่นี่รึไง”
“ผมไม่อยู่ร่วมบ้านกับมัน ตราบใดที่มันยังอยู่ที่นี่ ผมก็ไม่อยู่ เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ พี่เข้าใจป่ะ”
“กูให้ไอ้เอจัดการซื้อบ้านให้วิวแล้ว อีกไม่นานก็คงย้ายออกไป ระหว่างนี้มึงก็ทนไปก่อนไง ไม่สะดวกใจจะไปอยู่อีกตึกก็ได้ ตึกทางตะวันออกเป็นตึกเก่าของแม่กู ไม่มีใครอยู่มานานแล้ว ไปอยู่ที่นั่นมึงคงชอบ”
“ทางไหนทางตะวันออกอ่ะ ผมไม่ค่อยรู้ทิศ”
พี่พ่ายตบหัวในความโง่ของผมไปหนึ่งทีแล้วชี้ทิศให้ดู ผมรีบลุกเดินไปที่ระเบียง มองออกไปก็เห็นตึกสวยท่ามกลางธรรมชาติ มีทั้งสวนดอกไม้ ศาลาสวยๆ ไว้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ ไหนจะแอ่งน้ำใสหลังตึกที่มีสะพานทอดยาวยื่นไปกลางน้ำ
“โอเครรรรรร น้องโอเค น้องจะอยู่ที่นั่นนนนน” สวยขนาดนี้ผมไม่ปฏิเสธ!!! มันต้องเป็นของผมมม ที่นั่นต้องเป็นของผม! “พี่พ่ายยย น้องไปอยู่ที่นั่นเลยนะ! ไปวันนี้เลย”
พี่พ่ายหัวเราะ เดินเข้ามากอดผมจากข้างหลัง “คืนนี้นอนตึกใหญ่กับกู ต้องให้คนเข้าไปทำความสะอาดอีกเยอะ เพราะตึกถูกปิดไว้นานแล้ว”
“อยากไปวันนี้”
“อย่าดื้อสิ กูเอามึงมาเป็นเมีย ไม่ใช่มาเป็นลูก อย่าทำให้ผัวปวดหัว มึงเขาใจไหม”
“ขอคำพูดหวานหูหน่อยเถอะพี่ ฟังแต่ละทีนี่โคตรปวดตับ อุ้ยยย แอบดูอะไรกันเด็กๆ”
ผมมองเด็กซนสามคนที่แอบหลังผ้าม่าน โผล่มาแค่หน้าแล้วแอบมองผมกับพี่พ่าย
“ลุงเอบอกยะว่า เพี๊ยงจะมาเปงแม่ของพวกเลาล่ะ”
“หา!” ผมนี่อยากจะโทรไปถามไอ้พี่เอว่ามันพูดอะไรให้เด็กๆ ฟัง ผ้าขาวบางตัวน้อยๆ ไม่ควรได้รับความคิดผิดแปลกแบบนี้ ต่อให้ผมจะเป็นเมียพ่อเขา แต่ผมเป็นผู้ชาย ผมไม่อยากให้พวกเขาอายที่ต้องเรียกผู้ชายว่าแม่เลย
“นะชอบเพี๊ยง”
“โยด้วย”
“ยะชอบเพี๊ยงม๊ากกกมากกก”
“แล้วพ่ายชอบเพี้ยนด้วยป้ะ”
“มึงนี่ลามปาม”
ทำไมพ่อของพวกเขาไม่มีคำพูดหวานๆ บ้างน้า เด็กๆ ก็ออกจะน่ารักขนาดนี้แท้ๆ
“ไม่ชอบก็ไม่ชอบดิ ไม่เห็นต้องตบหัวน้อง”
“แล้วมึงมาน้องมานุ่งอะไร พูดปกติดิ กูขนลุก”
“ไม่เอาแล้ว น้องเป็นเมียพี่แล้วต้องพูดกับสามีเพราะๆ”
“เออ เรื่องของมึงเถอะ กูปวดหัว”
ผมเบะปากมองคนปากแข็งแล้วเดินไปโอบตัวเจ้าสามแสบที่ซุกอยู่ในผ้าม่าน เด็กๆ พากันหัวเราะคิกคัก ก่อนจะชักชวนกันเล่นซ่อนหา ผมก็ไม่ขัดศรัทธา ผมอยากเล่นกับคนน่ารักอยู่แล้ว ดีกว่าคนหน้ายักษ์อย่างพี่พ่ายตั้งเยอะเลย
“อย่าพาลูกซนให้มาก กูจะดูเอกสารสักหน่อย พากันออกไปเล่นข้างนอกไป” เป็นผู้ชายที่ชอบสั่งจริงๆ สั่งได้ก็สั่งเอาไม่หยุด
“จ้า ตั้งใจทำงานนะ เพื่อเมียและลูก อ้อ เมียไม่ใช่นังวิวนะพี่ อย่าลืมล่ะ ยกน้องขึ้นแล้วอย่าให้เห็นว่าไปสวีทกับมัน ไปนะจ้ะ”
“เออๆ รีบๆ ไป คุยกับมึงแล้วกูปวดหัว”
ผมหอมแก้มพี่พ่ายก่อนจะจูงมือเด็กๆ ออกมาเล่นให้ห่างสายตาของคนขี้รำคาญ ขืนอยู่ใกล้ตอนพี่พ่ายทำงานแล้วเล่นกันเสียงดังนี่ได้โดนด่ากันถ้วนหน้าแน่ เดินลงมาชั้นล่างเจอนังวิวมันนั่งรถเข็นมองมาด้วย แต่ผมก็เลี่ยงที่จะพูดคุยทักทาย อย่างไรเสียก็ไม่ใช่คนที่รู้จักกันอยู่แล้ว
“น้องนะ มาหาแม่” ได้ยินเสียงมันตะโกนมา ไม่รู้ว่าไอ้น้ำเสียงเบาๆ นุ่มนวลหวานแหววที่มันใช้กับพี่พ่ายหายไปไหนแล้ว
“นะจะเล่งกับเพี๊ยง” น้องนะบอกเสียงเบา ซ่อนตัวหลบข้างหลังผม ที่ยังคงมองจ้องตากับศัตรูหัวใจ
“มาหาแม่!”
ผมพาเด็กๆ ออกจากบ้านมาโดยไม่สนใจเสียงเรียกของมัน ได้ยินเสียงรถเข็นเลื่อนตามมาจากข้างหลัง ผมหันมองก็เห็นแล่นมาด้วยความเร็ว ไม่รู้ว่าโง่หรือบ้ากันแน่ที่ไม่ยอมหยุดรถเลยทั้งๆ ที่เห็นว่ามีเด็กๆ อยู่กับผม มันตั้งใจจะชน แต่ผมรีบอุ้มน้องนะกับน้องยะเบี่ยงตัวหลบ ส่วนน้องโยได้พี่บอดี้การ์ดหน้าเข้มมาช่วยไว้ได้ ในขณะที่รถเข็นไฟฟ้านั้นแล่นไปจนถึงขั้นบันไดหน้าประตูก่อนจะทิ้งดิ่งลงตามแนวลาด ล้อที่กระแทกกับขั้นบันไดทำให้คนโดยสารเหวี่ยงลงกับพื้นเสียงดังพลั่ก เสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดทรมานของผู้หญิงตรงหน้าทำให้เด็กๆ ร้องไห้จ้า เลือดสีสดไหลออกจากบาดแผลตามแขนและขา
“น้องนะ...น้องนะ มาหาแม่ มาหาแม่นะลูก อย่าไปกับมันนะ มาหาแม่”
น้องนะตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขนของผม น้องร้องไห้สะอึกสะอื้น ผมได้แต่ลูบหลังปลอบ แขนอีกข้างก็โอบน้องยะไว้
“น้องโยไม่เป็นอะไรใช่ไหมครับพี่” ผมหันไปถามพี่บอดี้การ์ดที่เป็นฮีโร่สุดๆ ขอบคุณจริงๆ ที่เขามาช่วยน้องโยไว้ได้ทัน เพราะแค่สองแขนของผม ช่วยเด็กทั้งสามไว้ไม่ได้เลย
“คุณหนูไม่เป็นอะไรครับ”
ผมกับพี่บอดี้การ์ดได้แต่มองสภาพนังวิวเพราะไม่มีใครว่างพอจะไปช่วยมันเลยสักคน เด็กๆ กอดตัวพวกผมไว้แน่น จวบจนพี่พ่ายลงมาเพราะได้ยินเสียงดัง เขาหันมาทางผมอย่างขอคำอธิบาย แต่ผมแค่ยักไหล่ให้ พี่พ่ายจึงเดินผ่านผมไปช้อนตัวนังวิวขึ้นมา
“จิน ไปเรียกคนรถ พาคุณวิวไปโรงพยาบาล” พี่พ่ายสั่งพี่บอดี้การ์ดหน้าเข้ม ในขณะที่ผมแอบเบะปากหมั่นไส้
“ครับท่าน คุณหนูครับ คุณหนูอยู่กับคุณเพี้ยนนะครับ เดี๋ยวพี่จินมานะ”
น้องโยยอมพยักหน้าแล้วผละจากอ้อมกอดของพี่จินมาหาผม พี่พ่ายจัดการส่งนังวิวขึ้นรถเพื่อให้พี่จินพามันไปโรงพยาบาลแล้วจึงหันมาทางผมกับเด็กๆ
“เป็นอะไรกันไหม”
“พี่จะไม่ถามเหรอว่าเกิดอะไรขึ้น” ผมมองพี่พ่ายอย่างแปลกใจ หน้าตาอย่างเขานี่มันตามแนวพระเอกละครโง่ๆ ชัดๆ เลย แต่ทำไมถึงไม่ถาม
“ไม่ถาม กูไม่ได้โง่”
“อ๋อ รู้จักนิสัยเมียตัวเองดีว่างั้น”
“อย่าหาเรื่อง” พี่พ่ายเดินเข้ามาแล้วอุ้มน้องนะที่โผเข้าหาทันที “เจ็บตรงไหนรึเปล่า”
น้องนะส่ายหน้า แต่ก็ยังร้องไห้แล้วกอดคอพี่พ่ายไว้แน่น “นะกลัว”
“ไม่ต้องกลัว ป๋าอยู่ทั้งคน ไม่มีใครทำอะไรได้หรอก ไม่ร้องนะครับ”
นานๆ ทีจะได้เห็นพี่พ่ายอ่อนโยน เขาพูดปลอบลูกๆ แล้วจูบแก้มทีละคน ผมจึงทำเนียนเป็นเด็กโข่งเพื่อรอรับจูบจากเขาด้วย แต่โดนมะเหงกมาแทน
“ชอบไปกวนตีนกระตุ้นต่อมคนอื่น”
“เดี๋ยวๆ พี่จะหาว่าน้องผิดที่ไปกวนตีนแม่ของลูกพี่เหรอ ถามเด็กๆ ก็ได้ว่าน้องไม่ได้พูดอะไรเลยสักคำ ไม่อยากจะพูดด้วยให้เปลืองน้ำลายหรอก พี่เถอะ ไปจัดการมันเลยนะ คลั่งอย่างกะคนบ้า แล้วก็ไม่ต้องซื้อรถเข็นไฟฟ้าให้มันด้วย โคตรอันตราย เปลี่ยนไปแบบให้มันใช้มือเข็นเองนั่นแหละ จะได้ไม่มีแรงมาวิ่งชนกันอย่างนี้อีก”
“เออๆ ไว้กูคุยกับวิวเอง ดูนะให้ด้วย” พี่พ่ายพูดกับผมก่อนจะพูดกับน้องนะเบาๆ ว่า “นะ ฟังป๋านะครับ ตอนนี้แม่อาจจะป่วย อารมณ์ไม่คงที่ นะอยู่ให้ห่างแม่ก่อนนะครับ”
“นะไม่ชอบแม่ ไม่ชอบ”
พี่พ่ายถอนหายใจ เขาคงหนักใจในบางเรื่อง ซึ่งผมไม่ใช่ว่าไม่เข้าใจเขานะ แม้ผมจะเกลียดนังวิวมัน แต่ผมก็ไม่ได้อยากให้เด็กๆ เกลียดมันไปกับผมด้วยหรอก เพราะไม่ว่ายังไงนังวิวมันก็เป็นแม่ มันก็คงรักลูก กับน้องยะน้องโยผมก็ไม่รู้ว่าทำไมมันถึงทำตัวแย่ๆ ใส่ แต่กับน้องนะ ผมมองออกว่ามันทั้งรักทั้งหวง และคงเจ็บปวดไม่น้อยที่ลูกไม่ยอมเข้าใกล้
“พาลูกไปเล่นเถอะ กูจะกลับไปทำงานต่อ”
“พี่ไม่ไปโรงพยาบาลเหรอ”
“ไม่จำเป็น”
“รู้สึกสงสารศัตรูหัวใจขึ้นมาเลยจริงๆ ที่ต้องมารักคนอย่างพี่เนี่ย มาเถอะเด็กๆ ไปเล่นไล่จับกัน เช็ดน้ำตาก่อนนะ มาๆ พี่เพี้ยนเช็ดให้ หูยยย หมดหล่อเลย”
เห็นเด็กๆ หัวเราะกันแล้วผมค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย ร้องไห้ก็น่าสงสาร เห็นแล้วใจจะสลาย ...เอาจริงๆ นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ผมเสียใจที่เกิดมาเป็นผู้ชาย ถ้าผมเป็นผู้หญิง ผมคงเป็นแม่เลี้ยงให้พวกเขาได้ พวกเขาจะได้ไม่อายใคร ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าถ้าผมต้องมีแม่เลี้ยงเป็นผู้ชายจะรู้สึกแบบไหน จะถูกเพื่อนที่โรงเรียนล้อไหม จะรู้สึกอับอายกันหรือเปล่า ผมกังวลจริงๆ นะ เพราะผมรักพวกเขา ผมอยากให้พวกเขามีอนาคตที่ดี มีชีวิตที่มีความสุข อยากให้พวกเขามีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเหมือนคนทั่วๆ ไป แต่ผมก็เป็นให้พวกเขาไม่ได้... ผมรักพี่พ่ายนะ แต่ผมก็ไม่รู้ว่าจะยืนข้างพี่พ่ายต่อไปได้อีกนานเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นผมก็มั่นใจว่าผมจะไม่ปล่อยให้นังวิวมันทำร้ายลูกตัวเองหรอก ...ผมจะอยู่ปกป้องจนถึงวันที่พี่พ่ายจะหาผู้หญิงดีๆ สักคนมาเป็นแม่ของพวกเขาได้ก็แล้วกัน
ขอโทษจากใจจริงเลยนะเด็กๆ ที่พี่เพี้ยนไม่ใช่ผู้หญิง แต่พี่เพี้ยนก็รักเด็กๆ ไม่แพ้ใครเลย รักพ่อของพวกหนูด้วย....................................................TBC.........................................................
Merry X'mas
