ตอนที่ 35สำหรับคนที่กำลังโดนจีบอย่างผมต้องทำตัวยังไงก็นึกไม่ค่อยออก เพราะคนที่มาจีบมันเป็นคนประเภทพฤติกรรมน่ามึนงง บางทีพูดตรงไม่ซับซ้อน แต่บางทีก็อ้อมค้อมเดาทางยาก อย่างตอนนี้ก็เช่นกัน
“เอาเสื้อผ้าไปทำไม คืนนี้ก็ไม่ได้ใส่อยู่แล้ว”
หลังจากกินข้าวเสร็จ ผมก็บอกกับแม่ว่าจะไปอยู่เป็นเพื่อนพี่พ่ายที่โรงแรมในตัวเมือง ซึ่งแม่ก็อนุญาต ไม่ได้ถามอะไรให้มากความ กลับบอกให้ผมรีบขึ้นมาเก็บเสื้อผ้าสองสามชุดเพื่อเตรียมไปเปลี่ยนอีกด้วย
“บอกแล้วไงว่าไม่ 18+ ไปนอนด้วยเฉยๆ” ผมบู้ปากใส่เขาที่นอนกระดิกขารออยู่บนเตียง
“เอาที่สบายใจ”
หมั่นไส้ท่ายักไหล่กับคิ้วเข้มๆ ที่เลิกขึ้นจนอยากจะกระโดดทับจริงๆ ถ้าไม่เกรงว่าจะโดนถีบสวนกลับมาล่ะก็ พี่พ่ายได้แบนเป็นคางคกโดนล้อรถทับไปตั้งนานแล้ว
ผมเก็บของที่จำเป็นใส่กระเป๋า ก็มีพวกเสื้อผ้าและของใช้ที่ผมจำเป็นต้องใช้ประจำ พี่พ่ายก็นอนเล่นมือถือไป ได้ยินเสียงไลน์ดังตลอดเลยด้วย ไม่รู้ว่าคุยกับใครหนักหนา...
“เสร็จแล้วครับ จะไปกันรึยังล่ะ”
“เหวี่ยงอะไร”
“เปล่า”
“น้ำเสียงกับหน้ามึงนี่โคตรเปล่า”
“จะให้ไปด้วยไหม หรือจะทะเลาะ”
พี่พ่ายขมวดคิ้วมอง “อย่างี่เง่า กูรออยู่ครึ่งชั่วโมงเพื่อให้ไปด้วย ไม่ได้เพื่อรอทะเลาะ”
“งั้นผมไม่ไปแล้ว พี่ไปคนเดียวเถอะ”
“เออ”
ผมประชดนิดประชดหน่อย ผู้ชายคนนี้ก็ไม่เคยจะง้องอนอะไรเลย นี่คือคนที่บอกว่ากำลังจีบผมเหรอ หรือเขาล้อเล่น
“พี่พ่าย...กระเป๋าหนักอ่ะ ช่วยถือหน่อยนะ”
ยังไงก็ตั้งใจไว้แล้วว่าจะไปด้วย ผมก็ไม่อยากจะเสียความตั้งใจของตัวเอง อีกอย่าง...เขามาแค่สองวัน ...เวลาสั้นๆ แบบนี้ อยู่ด้วยกันดีกว่าครับ
พี่พ่ายรับกระเป๋าของผมไปถือไว้ ก่อนจะบอกเสียงเข้มๆ ว่า “รีบๆ เดิน”
ผมไปบอกราตรีสวัสดิ์กับแม่และพ่อเลี้ยงที่กำลังคุยกันงุ้งงิ้งกันอยู่สองคนในห้องรับแขก ก่อนจะเดินตามพี่พ่ายมาที่รถ
“พี่เอารถใครมาอ่ะ”
“รถเช่า”
“แล้วรถพี่ล่ะ”
“กูนั่งเครื่องมา”
“อ๋อ มาคราวหน้าไม่ต้องเช่าแล้วนะ มาเอารถผมไปขับก็ได้ เดี๋ยวตอนพี่มา ผมจะไปรับที่สนามบิน ดีไหม”
“ก็ดี”
“อารมณ์ดีแล้วเนอะ”
“อะไรของมึง”
พี่พ่ายผลักหัวผมเบาๆ แม้จะถามว่าอะไร แต่มุมปากของเขายกขึ้นอย่างน่ามอง
“ป๋ายิ้มแล้วเท๊เท่ ยิ้มเยอะๆ น้า”
“หึ มึงก็ทำตัวดีๆ อย่าให้โมโห”
“ครับผม!”
พูดกันตามจริงแล้ว...ไม่เห็นว่าเขาจะจีบผมตรงไหนเลย ผมต่างหากที่กำลังจีบเขาอยู่เนี่ย มันผิดจุดประสงค์ผิดประเด็นไปไหม
ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึงโรงแรมที่พี่พ่ายเปิดห้องไว้ แน่นอนว่าระดับไร้พ่ายต้องอยู่โรงแรมระดับรอยัลอะไรเทือกๆ นั้นอยู่แล้ว เพราะขนาดรถที่เช่ามายังราคาแพงกว่ารถที่ผมขับซะอีก ความจริงเป็นผู้ชายติดหรูคนหนึ่งเลยนะครับ แต่เขามีตังค์อ่ะ เขาจะทำอะไรก็ได้ เขาไม่ผิดหรอก มีแต่ผมนี่แหละที่ผิดไปอิจฉาเขาแถมยังหมั่นไส้ในใจบ้างประปราย
“ห้องนี้สงสัยจะแพงอ่ะ เสียดายตังค์เนอะ ไปกลับเกาหลีได้สองรอบเลยมั้งเนี่ย”
“บ่นอะไรงุ้งงิ้ง”
“ผมบอกว่ามันแพง ถ้าพี่จะจ่ายขนาดนี้ไปอยู่บ้านผมก็ได้ แล้วเอาตังค์มาให้ผมไปเกาหลีแทน”
“อยากไปจริงจังขนาดนั้น”
“อ้าวพี่ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่นนะ พี่ไม่เคยอ่านในพันทิพที่เขาไปตามหาอปป้ากันที่เกาหลีเหรอ น่าสนุกออก”
“มึงก็มีอยู่แล้วไง จะไปตามหาทำไมอีก”
“มีอะไร”
“อปป้า”
“ใครอ่ะ”
“กู”
โอ้ยยย นอกจากจะติดหรู ติดแบรนด์ ติดใช้ของแพงแล้ว เขายังโคตรมั่นหน้ามากๆ อ่ะ แต่ผมก็เถียงไม่ได้หรอก เพราะเขาคือมายอปป้าของผมจริงๆ
“เออเนอะ มีพ่ายอปป้าอยู่แล้วนี่นา แต่ผมก็ยังอยากไปอยู่ดีอ่ะ ผมอยากมีโมเม้นได้จูบกับคนรักท่ามกลางหิมะตกเหมือนชอนซงอีงี้ แล้วก็อยาก...อุ๊บ!”
ผมทุบไหล่พี่พ่ายเบาๆ ก่อนจะพยายามผลักเขาให้ออกห่างพอเป็นพิธี
“อื้อ...พี่...พ่าย”
“อะไร” เสียงของเขานุ่มทุ้ม สายตาที่มองมาก็ทำให้ระทวยได้ง่ายๆ แต่ริมฝีปากที่ชิดจนไม่มีช่องไฟนี้กลับทำได้มากกว่า
“ยังจีบไม่ติดเลย จูบแล้วเหรอ ข้ามขั้นไปไหมพี่”
“ก็บอกว่าอยากมีโมเม้นจูบกับคนรัก”
“ผมบอกว่าอยากจูบท่ามกลางหิมะแล้วก็...เรายังไม่ได้เป็นคนรักกันซะหน่อย”
“เหรอ...โทษที กูแก่แล้ว หูไม่ค่อยดี”
“ไม่ต้องมายิ้มเลย ไปอาบน้ำได้แล้ว”
แม่เคยบอกว่าผู้ชายหน้านิ่งๆ ตอนยิ้มแล้วจะหล่อมาก พี่พ่ายเวลายิ้มก็เหมือนกันคือถ้าผู้หญิงเห็นคงกรี๊ดแทบสลบ ซึ่งนั่นทำให้ผมค่อนข้างดีใจที่เขาไม่ค่อยยิ้ม ผมดีใจที่รอยยิ้มของเขา...จะมีแค่ผมเท่านั้นที่ได้เห็น
แม้ความคิดนี้จะดูเหวอและเพ้อเจ้อไปสักหน่อย เพราะในความจริง พี่พ่ายอาจจะมีใครที่เขากำลังสนใจเลี้ยงดูไว้ก็ได้ อย่างน้องเดียร์นี่ผมก็ไม่รู้ว่าเลิกติดต่อกันไปรึยัง หรืออาจจะมีใครคนใหม่เข้ามาก็ไม่อาจรู้ได้
“พี่พ่าย ผมเล่นแม็คของพี่นะ”
พี่พ่ายเข้าไปอาบน้ำแล้ว จะได้ยินที่ผมตะโกนบอกไปรึเปล่าก็ไม่รู้แหละ แต่ผมไม่มีอะไรทำนี่นา ทักไลน์พี่เกมไปก็ไม่เห็นตอบเลย สงสัยจะนอนหลับไปแล้ว เพราะนี่มันก็ดึกมาก
ผมออนเฟซ คุยแชทไปเรื่อยเปื่อย คือผมก็มีคนคุยๆ อยู่บ้างครับ ไม่ได้จะปิดกั้นตัวเองซะทีเดียวเพราะอยู่ในสถานะโสดเต็มตัว แต่จะให้คบจริงๆ จังๆ ผมไม่คบหรอก ...ไม่ได้มีความรู้สึกอยากสร้างความผูกพันธ์กับใคร กับพี่พ่ายผมก็ไม่รู้จะไปได้ไกลแค่ไหน เขาเป็นคนมีครอบครัว...เมียเขาก็ยังอยู่ แม้จะในสภาพเป็นผัก แต่ก็ยังเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายอยู่ดี ไหนจะลูกๆ ของเขาที่ต้องการแม่มาเติมเต็มให้ครอบครัวสมบูรณ์ และที่สำคัญ...ผมไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วเขาคิดยังไงกันแน่ เขาจีบเพราะเขารัก เขากลับมาเพราะเขาขาดผมไม่ได้ หรือแค่เพราะ...มีแผนอะไรกันแน่
ผมเดาทางไม่ออก แต่ก็ยอมรับว่าดีใจจริงๆ ที่ตอนนี้ได้อยู่ด้วยกัน ผมไม่ได้คิดถึงขั้นว่าเราจะอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิต หรือคบกันได้ยาวนานเหมือนคู่อื่นๆ ผมขอแค่ช่วงเวลาหนึ่ง...เราได้มีความสุขด้วยกันก็พอแล้ว เพราะสุดท้าย เขาก็อาจจะเลือกครอบครัวของเขาอีกอยู่ดี
ความจริงเรื่องในครั้งนั้นที่เขาเลือกครอบครัวของเขา...ผมก็คิดว่าเขาทำถูกแล้วนะ แต่ในส่วนลึกๆ ผมก็อยากให้เขา...เลือกผมเหมือนกัน
ครืดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดด ครืดดดดดดดดดดดดดดดด
โทรศัพท์มือถือของพี่พ่ายสั่นอยู่บนเตียงใกล้ๆ กับที่ผมนอนเล่นอยู่พอดี และด้วยความอยากรู้อยากเห็นตามประสามนุษย์ธรรมดาทั่วไป ผมจึงคว้ามือถือของเขาขึ้นมาดูเบอร์โทรที่โทรเข้า
‘น้องเดียร์’
“ใครโทรมา” เสียงของพี่พ่ายดังขึ้นใกล้ๆ ผมหันไปมองเขาที่กำลังยืนอวดหุ่นเซ็กซี่อยู่ข้างๆ เตียงพร้อมยื่นมือถือส่งไปให้
“ของพี่ น้องเดียร์โทรมา”
พี่พ่ายรับไว้แล้วเดินไปคุยที่ระเบียง ส่วนผมก็กลับมาเล่นเฟซต่อ
เอาสิ...เรื่องของเขา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับผม เพราะเรายังไม่ได้ตกลงคบกัน เขามีสิทธิ์ที่จะคุยกับใครก็ได้อยู่แล้ว
นานเกือบสิบนาทีได้กว่าที่พี่พ่ายจะกลับเข้ามาในห้อง เขาเดินเอามือถือมาวางไว้ที่โต๊ะข้างหัวเตียงแล้วเดินไปหยิบกางเกงผ้าเนื้อบางขายาวมาใส่ ก่อนจะขึ้นมานั่งเบียดกับผม
“เล่นไร”
“เฟซ”
ผมบอกแค่นั้นก็ไม่ได้สนใจเขาต่ออีก แม้เขาจะล้มตัวลงนอนเบียดอยู่ข้างๆ หรือพยายามดึงหน้าผมให้ออกห่างจอก็ตาม
“กลับไปเล่นที่บ้านไหม” เขาถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ผมจึงหันไปมองพร้อมกับเลิกคิ้ว
“ครับ พี่ไปส่งไหมล่ะ”
“คือ?” พี่พ่ายชักสีหน้า มือก็กดพับแม็คบุ๊คลงอย่างแรง “มึงเป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไร แค่ผมจะเล่นเฟซ พี่ก็มาอารมณ์เสียใส่”
“กูไม่ได้พามึงมาเล่นคอมเล่นเฟซ เข้าใจไหม”
“อ้าว เหรอครับ ผมนึกว่าผมจะทำอะไรก็ได้ซะอีก โทษทีครับที่ไม่รู้”
“เพี้ยน!”
หลังจากเสียงตวาดของพี่พ่ายก็ไม่มีใครพูดอะไรขึ้นมาอีก ผมว่าผมชัดเจนมากแล้วนะว่าเป็นอะไร แต่เขาต่างหากที่ไม่เคยชัดเจนเลยสักทีว่ากำลังทำอะไรอยู่
ผมนอนหันหลังแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปง แต่ก็ถูกพี่พ่ายกระชากออก มือแข็งแรงของเขาจับแน่นที่ไหล่ของผม
“ผมสงสัยนะว่า กับน้องเดียร์ของพี่ กับเมียของพี่ พี่เคยตะคอกใส่เหมือนที่ทำกับผมไหม เคยโมโหใส่พวกเขาเหมือนที่ผมโดนบ้างรึเปล่า ผมเป็นคนที่พี่จะทำอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอ ผมไม่ใช่ตัวเลือกของพี่อีกแล้วนะ เพราะฉะนั้นพี่ก็ไม่มีสิทธิ์มาทำกับผมแบบนี้”
“โอเค...กูเข้าใจแล้ว มึงอยากเล่นเฟซใช่ไหม เอาเลย...เล่นได้ตาม... อึก!”
พี่พ่ายนิ่งไปทันทีเมื่อผมผุดลุกขึ้นแล้วทุบเข้าที่อกเปลือยเปล่าของเขาอย่างแรง
“ผมจะกลับไปเล่นที่บ้าน!”
ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่กับเขาต่อ ให้ทุกอย่างมันยุติลงแค่นี้ ให้เขาเข้าใจไปเลยว่าผมไม่พอใจกับแค่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่...เรื่องอื่น
“กูไม่ไปส่ง”
“เออ! ผมกลับเองได้”
ดึกขนาดนี้จะไปที่อาเขตยังไงก็ยังคิดไม่ออก แท็กซี่จะยังมีบริการอยู่ไหมก็ไม่รู้ได้ แต่ผมก็จะไป ผมทนอยู่ในห้องนี้เกินกว่าสิบนาทีไม่ได้แล้ว ว่าแต่...กระเป๋าของผม...ทำไมมันไปอยู่ที่พี่พ่ายได้ เขาเอาไปตอนไหน!
“ขอกระเป๋าคืนด้วย”
“เดินมาเอา”
“พี่โยนมาดิ”
“มึงอยากไปเองก็เดินมาเอาเอง”
ไฟลุกแทบจะท่วมตัวผมแล้วตอนนี้ มันทั้งโกรธทั้งหมั่นไส้ทั้งอยากใช้เท้าขยี้รอยยิ้มบนหน้าหล่อร้ายนั่นให้สาแก่ความเจ็บใจ
“เอาไง! พี่จะเอาไง!” พอเดินมาแล้วก็ไม่ยอมส่งมาให้ กลับยึดไว้แน่นไม่ยอมปล่อย
“ก้มลงมา”
“ไม่”
“ก้มลงมาก่อน”
“ไม่! เฮ้ย! พี่พ่าย ไอ้เหี้ย! อุ๊บ!”
ผมจิกเล็บลงบนแผงอกกำยำของเขา แต่สองแขนแข็งแรงที่โอบรั้งรอบคอของผมให้โน้มใบหน้าลงมาใกล้ใบหน้าของเขาก็ไม่ยอมปล่อยให้เป็นอิสระ และยิ่งกว่าสองแขนที่ทำหน้าที่เหนี่ยวรั้งแล้ว ริมฝีปากและปลายลิ้นของเขาก็ยังช่วงชิงเอาความโกรธของผมไปอีกด้วย...
“ไม่ให้ไป” เขากระซิบเบาๆ ก่อนจะประทับริมฝีปากลงบนริมฝีปากของผมอีกครั้ง ผมคลายเล็บที่จิกบนผิวเนื้อของเขา แล้วเปลี่ยนมาลูบมันเล่นแทน
“ไม่ใช่คำสั่ง พี่ต้องขอร้อง...” ผมยิ้มให้เขาเล็กน้อย ปล่อยร่างกายให้ตกอยู่ใต้อ้อมแขนของเขาแต่โดยดี “ถ้าพี่บอกว่า อย่าไป คืนนี้ผมจะอยู่กับพี่”
“...”
“พูดสิครับ”
การง้างปากของพี่พ่ายให้พูดในสิ่งที่ในชีวิตของเขาคงไม่เคยพูดนั้นยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก
“กูไม่อยากพูดอะไรที่มันน้ำเน่าขนาดนั้น แต่ถ้ากูบอกว่ามึงเป็นคนเดียวที่กูอยากอยู่ด้วย...มึงยังจะไปอีกไหม”
ผมว่าบางที...การงมเข็มในมหาสมุทรก็คงจะไม่ยากอย่างที่คิด ...การคาดเดาความคิดของพี่พ่ายก็เช่นกัน
“มันน้ำเน่ากว่าที่ผมบอกให้พี่พูดอีกนะเนี่ย ฮ่าๆ” ได้แต่พูดแก้เขินไปอย่างนั้น เพราะตอนนี้ผมไม่กล้าสบตากับพี่พ่ายเลย “ผมไม่ไปแล้ว พี่ปล่อยก่อนนะ อยู่อย่างนี้ร้อนอ่ะ”
“ร้อนก็ถอดเสื้อ” ไม่ว่าเปล่า มือก็ยังไวอีกด้วย แต่ดีที่ผมจับมือเขาไว้ได้ทัน
“จะเอาให้ได้เลยใช่ไหมเนี่ย”
“แล้วได้ไหม”
“ไม่ได้ ผมยังต้องไถนาอีกหลายไร่ ลำพังสะโพกดีๆ ก็เดินตามไอ้บุญทึ่งไม่ทันอยู่แล้วอ่ะ”
“ข้ออ้างเยอะ”
“อดทนหน่อย รักกันจริงต้องรอได้”
“อ้าว กูบอกรักไปแล้วเหรอ”
“ถึงจะยังไม่บอก แต่ทำแบบนี้ก็รักชัวร์ๆ แล้วแหละ ไม่ต้องมาไขสือ”
“หึหึ เหวอตลอด”
“ไม่เหวอ ไม่คิดไปเอง ไม่มโน ความจริงล้วนๆ เลย แต่คนแถวนี้ปากแข็ง ไม่ยอมบอกสักที ถ้ามีลูกจะสอนลูกว่าอย่าเป็นคนนิสัยแบบนี้ แย่มาก รักไม่บอกรัก แถมยังชอบกั๊ก ไม่ชัดเจน แผนสูง คลุมเคลือ เยอะ แล้วก็ อ่ะ...อื้อออ อื้มมมม พี่...”
“พูดมาก”
นิสัยไม่ดีเลย ผมยังพูดไม่ทันจบก็ชอบปิดปากผมด้วยวิธีที่ทำให้ฟินจนลืมตลอดเลยว่าจะพูดอะไร
พี่พ่ายจูบปิดปากผมอีกหลายครั้งที่ผมพยายามจะเปิดปากพูดกับเขา แล้วในแต่ละครั้งก็ทำเอาเคลิ้มซะจนจับต้นชนปลายอะไรไม่ถูก เสื้อนอนที่ใส่อยู่ก็ไม่รู้ว่าโดนถอดออกไปตอนไหน
“ป๋า...ป๋าเยอะไปละ เกินลิมิต”
“ก็บอกว่าจูบได้”
“ก็ได้...แต่หมายถึงแค่ปาก...ไม่ใช่...ที่อื่น”
โดนจูบไปทั้งตัวแบบนี้ใครจะต้านแรงเขาไหว แต่นี่เป็นคืนแรกหลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายเดือน นี่เป็นคืนแรกหลังจากที่เขาบอกว่าจีบได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง...
“ให้หยุด?”
“อืม”
“โอเค” พี่พ่ายยิ้มให้ ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นมาจูบแก้มผม แล้วเลื่อนไปที่หน้าผาก “เราจะไปไกลกว่านี้ถ้าหนูพร้อม”
“อื้ม”
“ป๋ารักหนูนะครับ”
“ครับ...ห้ะ!” ผมคงหูฝาด เพราะเสียงมันเบามาก อาจจะหูแว่วไปเอง เพราะพี่พ่ายก็ยังคงทำหน้านิ่ง ไม่ได้ยิ้มหรือทำหน้าเหมือนกำลังพูดเรื่องสำคัญอะไร “ป๋าพูดว่าไงนะ ขออีกรอบ”
“ไม่ได้พูดอะไร เหวอไปเอง”
“แต่เหมือนจะได้ยินนี่นา”
“เพ้อเจ้อ นอนๆ”
“ก็ได้ งั้นฝันดีน้า จุ๊บๆ”
เอาเป็นว่า...เมื่อกี้...ผมได้ยินก็แล้วกันนะ
ผมกำลังเดินตามแผ่นหลังของใครบางคน เป็นแผ่นหลังที่คุ้นเคยและน่าคิดถึง ผมร้องเรียกชื่อเขา ตะโกนบอกให้รอผม...อยากจะไปเดินอยู่ข้างๆ อยากจะก้าวเดินไปพร้อมๆ กัน แต่แผ่นหลังของเขาคนนั้นก็ยิ่งห่างไกล ผมพยายามเดินให้เร็วขึ้น พยายามวิ่งตาม แม้จะล้มลงแต่ก็ยังลุกขึ้นและเริ่มวิ่งต่อ...แต่ยิ่งความเร็วในการวิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ เวลาล้มลงก็ยิ่งเจ็บมากขึ้นเท่านั้น จนในที่สุด...ผมก็ลุกขึ้นยืนไม่ไหว
“เดินไปพร้อมๆ กับพี่...ดีกว่าไหมคะ”
“พี่กิ๊ฟ...ผม...”แค่เห็นรอยยิ้มอ่อนโยนที่ส่งมาให้...น้ำตาของผมก็เริ่มไหล ความคิดถึงที่เอ่อล้นออกมาทำให้ผมคว้าตัวเธอมากอดไว้
“เป็นอะไรไปคะ...เพี้ยนเจ็บตรงไหน บอกพี่สิคะ”
“ผมไม่เจ็บ...พี่ต่างหากที่เจ็บ ผมขอโทษ...ผมขอโทษนะครับพี่”
“ขอโทษทำไมกัน...เพี้ยนไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ร้องแล้วนะ พี่อยู่ตรงนี้แล้ว”อ้อมกอดของเธอยังคงอบอุ่นเหมือนเช่นเคย ช่างแตกต่างจากวันสุดท้ายที่ผมได้อยู่กับเธอ...เนื้อตัวที่เย็นชืด ดวงตาเบิกโพลง ผิวขาวละเอียดเต็มไปด้วยรอยช้ำ แต่ในวันนี้เธอดูเปล่งประกายเหมือนตอนที่ผมได้พบกับเธอเป็นครั้งแรก
“ทำไมทำหน้ากลุ้มใจอย่างนี้ล่ะเรา”
“ผมไม่มีเรื่องกลุ้มใจซะหน่อย”
“อย่ามาปิดพี่ คิดว่าพี่รู้จักเรามากี่ปีแล้วล่ะเจ้าเด็กดื้อ”
“อ่า...รู้ทันตลอดเลย ความจริงผมก็มีเรื่องกลุ้มใจนิดหน่อย แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว”
“ทำไมล่ะ”
“ก็พี่อยู่กับผมแล้วไง อิอิ ผมคิดถึงพี่น้า คิดถึงมากๆ เลย”
“จ้าๆ พ่อคนปากหวาน”ผมมองรอยยิ้มของเธอพลางขยับยิ้มตาม ก่อนความรู้สึกบางอย่างในใจจะผุดพรายขึ้นทีละน้อย
“เมื่อกี้กำลังวิ่งตามใครอยู่เหรอ”
“...”
“เพี้ยนบอกพี่ได้นะ”
“...”ไม่กล้าบอก...ถ้าผมบอกไปว่าคนที่ผมกำลังวิ่งตามคือคนที่ผมรัก...เธอจะเสียใจไหม เธอที่ฉุดผมให้ลุกขึ้นยืน คอยพูดปลอบใจและอยู่เคียงข้างเสมอมา จะยังคงมีรอยยิ้มอยู่อีกไหม...ถ้าผมเลือกที่จะคบกับใครสักคนแล้วทิ้งเธอไว้ข้างหลัง
“ไม่เป็นไรนะ...ถ้าเหนื่อยก็กลับมา พี่จะอยู่ข้างๆ เพี้ยนเสมอ”
“...”เธอยิ้มให้ผมทั้งน้ำตา พร้อมกับกุมมือของผมไว้
“พี่รักเพี้ยนนะ”
“ผม...ไม่ไปไหนหรอกครับพี่ พี่อย่าร้องไห้เลยนะ ผมขอโทษ”“เพี้ยน! เพี้ยน! เพี้ยน!” เสียงเรียกของพี่พ่ายปลุกผมให้ตื่นขึ้น ภายในห้องยังคงไม่มีแสงไฟ แต่แรงเขย่าที่ตัวก็ทำให้ผมต้องหันไปมองคนที่นอนข้างๆ
“เป็นอะไร”
“เปล่าครับ” ผมตอบก่อนจะขยับตัวให้นอนในท่าที่สบายขึ้น “ยังไม่เช้าเลย พี่พ่ายปลุกทำไมเนี่ย”
“ก็มึงเอาแต่พูดพึมพำ”
“อ๋อ ผมละเมอมั้งพี่ นอนเถอะๆ”
“ไม่เป็นอะไรแน่นะ”
“ไม่เป็นๆ นอนครับท่านนอน”
พี่พ่ายยังคงมีความคลางแคลงใจ แต่ก็ยอมนอนตามที่บอกแล้วก็รั้งให้ตัวผมขยับเข้าไปใกล้ ผมขืนตัวออกเล็กน้อย ในขณะที่พี่พ่ายก็กระชับอ้อมแขนของตัวเองให้แน่นขึ้น
“พี่ ผมร้อน”
“กูก็ร้อน”
“งั้นทำไมไม่ปล่อย”
“เพราะมันเป็นทางเดียวที่จะทำให้มึงรู้ว่าต่อให้ในความฝันมึงจะมีใคร แต่ความจริงมึงมีกู”
“...”
“แค่กับกิ๊ฟเท่านั้นที่กูให้มึงฝันถึงได้ กับคนอื่น ห้าม”
“ครับ”
พี่พ่าย...ไม่ได้กำลังบอกให้ผมเลือกเขา แต่กำลังบอกว่าผมยังคงมีเขาอยู่ ผมไม่รู้ว่ามันเป็นกลลวงหรือเรื่องจริง ถึงอย่างนั้นผมก็ดีใจ...และทำให้รู้สึกว่า...อาจจะเป็นไปได้...ที่ผมจะเดินไปพร้อมๆ เขาอีกสักครั้ง
........................................................................TBC...............................................................
มันอาจจะเป็นการคิดไปเองว่าคนที่จากไปเขายินดีกับคนที่เราเลือก แต่ถ้าการคิดไปเองมันเป็นความสุข...ก็คิดไปเถอะ
#ทีมบุญทึ่ง
ขอโทษที่หายไปนานค่ะ ติดอะไรหลายอย่าง ทั้งป่วย ทั้งงาน นั่นนู่นนี่ กว่าจะกระเสือกกระสนมานั่งอ่านนั่งเกลาที่เขียนไปได้ก็แทบแย่ คือถ้าอารมณ์มันมาแล้ว แป๊บเดียวก็เสร็จ แต่ถ้าไม่มาคือ...ก็ไม่มาเลย

ถ้าถามว่าตอนนี้มาได้กี่เปอร์เซ็นแล้ว...ก็คง 80% แล้วค่ะ ยังมีนั่นนิดนี่หน่อยที่ต้องเก็บ