ตอนที่ 21ผมถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาตอนเช้าด้วยเสียงโทรศัพท์มือถือที่ไม่รู้ว่าอยู่ส่วนไหนของห้อง ขี้เกียจรับสายมากเพราะผมง่วงสุดๆ แต่คนที่โทรมาตอนเช้าตรู่อย่างนี้ก็ไม่ลดละความพยายามเลย
“รับสายสักที หนวกหู!” พี่พ่ายพูดขึ้นด้วยเสียงหงุดหงิด เขาพลิกตัวนอนไปอีกทางแล้วยกหมอนขึ้นปิดหู
“ขอโทษน้า แต่ผมหามันไม่เจอนี่นา”
ผมเดินหาอยู่สักพัก โดนพี่พ่ายขว้างหมอนมาใส่สองสามครั้ง แล้วในที่สุดก็เจอมันซุกอยู่ซอกหลืบของโซฟา ไม่รู้ว่าเข้าไปได้ยังไง ได้มือถือมาไว้ในมือแล้วผมก็รีบกดรับสาย แต่เพราะมันเป็นเบอร์ของพี่กิ๊ฟ ผมถึงต้องเดินออกมาคุยที่ระเบียง
“สวัสดีครับพี่”
“ทำไมรับสายช้านักล่ะคะ”“ผมหามือถือไม่เจอ ว่าแต่พี่กิ๊ฟมีอะไรรึเปล่า”
“พี่อยากรู้ว่าเพี้ยนจะกลับเชียงรายวันไหน”“อีกสองสามวันครับพี่ ทำไมเหรอพี่กิ๊ฟ”
“พี่จะได้ให้คุณภัทรเขาไปรอเจอเพี้ยนที่นั่น”คุณภัทรเป็นนักสืบมือดีที่พ่อของพี่กิ๊ฟไว้วางใจ ผมเคยเจอเขาแค่ครั้งเดียว อายุคงพอๆ กับพี่พ่ายและพี่กิ๊ฟ ที่จริงเขาเป็นผู้ชายที่พ่อของพี่กิ๊ฟอยากได้มาเป็นลูกเขย แต่เพราะพี่กิ๊ฟกับคุณภัทรไม่มีท่าทีว่าจะตกหลุมรักกันได้ พ่อของพี่กิ๊ฟก็เลยถอดใจไป หรืออาจจะเป็นเพราะถูกท่านประธานทาบทามไปเป็นลูกสะใภ้ก็เป็นได้
“อ๋อ...เรื่องนี้เอง ได้เรื่องแล้วใช่ไหมครับ คือไม่ต้องให้เขาลำบากไปถึงเชียงรายก็ได้ เดี๋ยวตอนขากลับผมแวะกรุงเทพเอง จะได้ไม่ต้องเสียเวลาเขาด้วย”
“กลับเชียงรายไปพร้อมคุณไร้พ่ายดีกว่าค่ะ ตอนนี้พี่ไม่อยากให้เพี้ยนไปไหนมาไหนตามลำพัง”“ทำไมเหรอครับ”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”“ผมรู้สึกว่าพี่มีเรื่องไม่สบายใจ...มีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นรึเปล่าครับ”
“คุณภัทรจะบอกทุกอย่างกับเพี้ยนเองนะคะ ช่วงนี้พี่ค่อนข้างยุ่งอาจจะไม่ได้ติดต่อไปหาเพี้ยนบ่อยนัก แต่ถ้ามีปัญหาอะไรให้รีบโทรหาพี่ทันที ไม่ว่ายุ่งยังไงพี่ก็จะรีบรับสายเพี้ยนเสมอ”“อื้อ ขอบคุณครับพี่กิ๊ฟ พี่ก็ดูแลตัวเองด้วยนะ”
“เป็นห่วงด้วยเหรอ”“ห่วงสิครับ พี่เป็นคนสำคัญของผมนะ”
“เพี้ยนก็เป็นคนสำคัญของพี่ ตอนนี้พี่วางสายก่อนนะ มีธุระต้องไปทำนิดหน่อย”“ครับ”
พี่กิ๊ฟวางสายไปแล้ว ผมก็เลยยืนมองบรรยากาศยามเช้า รับแสงอาทิตย์อ่อนๆ และลมเย็นๆ จากท้องทะเล สูดหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วบิดขี้เกียจไปมา
“คุยกับใคร โคตรนาน” พี่พ่ายเดินมายืนอยู่ข้างๆ ผม เขาใส่แค่กางเกงผ้าขายาวเนื้อบางสีดำ อวดกล้ามท้องที่กำลังเปล่งประกายล้อแสงอาทิตย์ ผมวางข้อศอกไว้บนราวระเบียง ยกมือขึ้นเท้าคางแล้วหันไปมองเขา
“ทำไม หึงเหรอ”
ผมยิ้มเมื่อเห็นว่าใบหน้าที่เฉยชาของพี่พ่ายขึ้นสีจางๆ
“เวลาพี่ไม่ตอบคำถาม รู้ไหมว่าทำให้ผมคิดเข้าข้างตัวเองมากแค่ไหน จะใช่หรือไม่ใช่ก็ไม่ยอมบอกให้ชัด”
“ไม่ชอบหรือไง”
“ถ้าผมบอกว่าชอบ พี่ก็คงไม่เปลี่ยนแปลงอะไร และถ้าผมบอกว่าไม่ชอบ พี่ก็คงอารมณ์เสียอยู่ดี”
พี่พ่ายเหลือบตามามองผม ก่อนจะดึงตัวผมให้เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“เหมือนมาฮันนีมูนจริงๆ ด้วย” ผมพูดจบก็ยินยอมรับจูบจากพี่พ่าย “พ่าย...อืมมม เดี๋ยว...ใจเย็นๆ”
มันจะมีอะไรน่าอายไปกว่านี้ไหม ใต้ผืนฟ้าที่สว่างไสวอย่างนี้ และที่นี่ก็คือระเบียงที่ถึงแม้จะค่อนข้างส่วนตัว แต่มันก็ยังติดกับระเบียงของห้องพักห้องอื่นอยู่ดี ทำไมพี่พ่ายไม่คิดสักนิดเลยว่าจะมีใครมาเห็นบ้าง เขาเอาแต่ใจและถ้าต้องการก็ต้องได้ ซึ่งผมก็ไม่เคยปฏิเสธเขาได้เลยสักครั้ง
“ตอนแปดโมงพี่ต้องเข้าประชุมกับผู้จัดการของที่นี่นะครับ อ้ะ...ฟังผมหน่อยพี่พ่าย ฮื้อออ อ้ะ...”
มือแข็งแกร่งของเขาจับขาของผมยกขึ้นหนึ่งข้าง แล้วแทรกตัวเข้ามาใกล้ ดันให้กลางหลังของผมชิดกับราวระเบียง ผมรีบโอบรอบคอของเขาไว้เพราะกลัวหงายหลังตกลงไปข้างล่าง คงได้ตายศพไม่สวยแน่ พี่พ่ายมองมาพลางจับมือของผมให้ลูบตรงกลางลำตัวของเขา แม้จะผ่านเนื้อผ้าก็ยังรู้สึกได้ว่ามังกรของพี่พ่ายที่มักจะรังแกผมในหลายๆ คืนที่ผ่านมากำลังถูกปลุกให้ตื่น
“ให้ทำไหม” เขาตั้งคำถามทั้งๆ ที่มืออีกข้างที่ไม่ได้จับขาผมไว้ก็อยู่ไม่สุข ทั้งซุกซนและเกเรไปทั่ว ผมพยักหน้าพลางกัดริมฝีปากล่างเมื่อนิ้วของเขากำลังล่วงล้ำเข้ามาที่ช่องทางข้างหลัง แน่นอนว่ามันเคลื่อนตัวเข้ามาได้ง่ายๆ เลยเพราะช่องทางข้างหลังของผมมันไม่ได้แน่นหรือฟิตเหมือนทุกที ในเมื่อถูกนิ้วและมังกรเกเรของเขารังแกอยู่บ่อยๆ
“พ่าย...ไปข้างใน”
“ไม่”
“แต่มันน่าอาย...ถ้ามีคนอื่นมาเห็น...”
“ห้องข้างๆ ไม่มีใครอยู่แล้ว”
“ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ถ้าอยู่ที่ชายหาดก็เห็นอยู่ดี” ผมได้แต่ทักท้วง ไม่ได้ขัดขืนอะไรมากเพราะรู้ว่ายังไงเขาก็ไม่ฟัง เจ้ามังกรที่กำลังพ่นน้ำใส่ๆ นั่นก็สำรวจปากทางเข้าอยู่สักพักแล้ว เขาใช้ส่วนหัวของมันถูไปมา บางทีก็สอดเข้าข้างในเพื่อให้ผมหงุดหงิดเล่นจากนั้นก็เอาออกไปราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“เข้าง่ายว่ะ” พี่พ่ายก้มลงมากระซิบข้างหูผม น้ำเสียงแหบพร่าของเขาทำให้ใบหน้าของผมเห่อร้อน ตอนนี้หน้าของแดงไปถึงหูแล้ว
“มันเพราะใครล่ะ เวลาเสร็จก็ไม่ยอมออกไปง่ายๆ ถึงได้เป็นแบบนี้ไง”
“หลวม”
ผมอยากตบปากเสียๆ ของเขาสักร้อยทีพันที แต่ก็ติดที่ว่าทำไม่ลง
“หลวมแล้วจะทำทำไม ออกไปเลยนะ!”
“โกรธซะด้วย”
“พี่พ่าย!”
พี่พ่ายเพียงแค่ยิ้ม ไม่ได้สนใจเลยว่าผมจะโมโหแค่ไหน แต่ก็โมโหได้ไม่นานเพราะเมื่อเขาเริ่มขยับเอว อารมณ์ความรู้สึกของผมก็เปลี่ยนไป เขาขยับเอวช้าๆ อย่างไม่รีบร้อน แต่เน้นหนักและเข้ามาลึกทุกครั้ง กระแทกซ้ำที่จุดกระสันของผมจนสติที่เคยมีอยู่ดีๆ กระเจิดกระเจิงไปหมด จากที่เคยบอกว่ามันน่าอายกลับกลายเป็นเรียกร้องให้เขาเข้าหา
ผมรู้สึกว่าตัวเองน่ารังเกียจมากขึ้นทุกวัน ผมไม่เคยเป็นแบบนี้เลย ราวกับถูกจับกรอกยาปลุกเซ็กส์ให้ติดอยู่ในวังวนความต้องการที่ไม่มีวันสิ้นสุด ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วผมอยากจะออกไปเที่ยวกับพี่พ่ายบ้าง อยากมีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกันในสถานที่ที่ดี ไม่ใช่ขลุกอยู่แต่บนเตียงเหมือนเป็นเครื่องปลดปล่อยความต้องการของเขา หลังจากวันที่เขาพาไปดำน้ำ ผมก็ไม่เคยได้ออกไปไหนไกลจากบริเวณรีสอร์ทอีกเลย ...พอเป็นอย่างนี้แล้วผมก็รู้สึกว่าระหว่างเรามันห่างไกลจากคำว่าแฟนมากขึ้นทุกที...
“เป็นอะไร” น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยแรงอารมณ์ของพี่พ่ายดังขึ้นข้างๆ หู ลิ้นร้อนของเขาก็โลมเลียอยู่ที่บริเวณนั้น
“อยากไปเที่ยว”
“เบื่อเหรอครับ”
“อื้ม...อ้ะ มาทะเลทะ...ทั้งที ให้อยู่แต่บนเตียงก็คงไม่สะ...สนุก อื้อ พ่าย ลึก...”
“พี่ยังไม่เสร็จงาน อดทนหน่อย เสร็จแล้วจะพาไป”
“จริงนะ”
“ครับ”
“ดีจัง”
แค่เพียงเท่านี้ อารมณ์หดหู่เมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้าก็พลันสลายหายไปหมด ผมอยากจะใจแข็งงอแงใส่เขามากกว่านี้ แต่เพราะมันทำได้ยาก แค่คิดก็ยังรำคาญตัวเองแล้ว และคิดว่าพี่พ่ายก็คงไม่ชอบใจเป็นแน่ ฉะนั้นก็ดีๆ กันไว้ดีกว่า ทะเลาะกับพี่พ่ายแล้วปวดหัวเจ็บตัวทุกทีด้วย เลี่ยงได้ก็เลี่ยงครับ
“พ่าย...ร้อน” แดดเริ่มสาดแสงมาที่ระเบียงแล้ว และดีใจที่มันส่องหน้าพี่พ่ายโดยตรง แม้เขาจะใส่แว่นที่ทำจากเลนส์กรองแสงโดยเฉพาะแต่ก็ไม่ชอบแสงแดดอยู่ดี เขาจึงอุ้มผมแล้วเดินเข้ามาในห้อง แต่ระหว่างที่เดินเขาก็ทำให้ผมแทบขาดใจตายไปหลายครั้ง
“เอาออกก่อนก็ได้ ทำไมชอบทำอย่างนี้ทุกที”
“เพราะรู้สึกดี...ถึงได้ทำ”
“คนบ้า”
“หึ ให้ความร่วมมือหน่อย ผมมีประชุมอีกนะครับคุณ ถ้างานผมไม่เสร็จก็ไม่พาเที่ยวนะครับ”
“หาเรื่องให้ผมเหนื่อยอีกแล้ว พ่ายอปป้านิสัยไม่ดี”
“ไม่ดีแล้วจะตามใจไหม”
“รักไปแล้วนี่ มีทางเลือกอย่างอื่นด้วยเหรอ”
“ไม่มี”
ผมคงต้องเหนื่อยขึ้นขี่เจ้ามังกรเกเรตัวนี้อีกแล้ว กว่าจะปราบมันได้แต่ละครั้งผมต้องเสียเหงื่อไปเป็นลิตร ทั้งเอวทั้งสะโพกก็เกือบพัง ไม่มีครั้งไหนที่จะทำสถิติชนะเวลาที่เร็วที่สุดได้เลย เพราะยิ่งบ่อยครั้งมันก็ยิ่งดื้อ ไม่ยอมพ่นน้ำออกมาง่ายๆ เลย...
พี่พ่ายไปประชุมแล้ว เขาแต่งตัวเนี๊ยบมากแม้จะแค่ประชุมกับหัวหน้าแผนกและผู้จัดการก็ตามที เห็นแล้วอยากจะทำให้สูทยับ ดึงเนคไทเบี้ยว ขยี้ผมที่หวีเสยไปข้างหลังให้ยุ่ง หรือเป่าลมร้อนๆ ใส่แว่นให้มันขึ้นฝ้า เพราะเขาดูดีมากซะจนผมกลัวพนักงานผู้หญิงที่เขากำลังจะไปประชุมด้วยหลงเสน่ห์เข้า ผมค่อนข้างไม่ชอบใจกับสายตาที่ผู้หญิงมองเขา แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการหวงให้เขารู้สึกรำคาญ เพราะคนอย่างพี่พ่ายคงไม่ชอบใจ
ผมนอนเล่นแม็คบุ๊คของพี่พ่ายอยู่บนเตียง ออนเฟซ ดูทวิตเตอร์ เช็คอีเมลไปเรื่อยเปื่อย อีเมลฉบับล่าสุดมาจากใครที่ไหนก็ไม่รู้ ผมคลิ๊กเปิดอ่านด้วยความสงสัย เนื้อความก็มีแค่ลิ้งดาวน์โหลดไฟล์ผ่าน googledrive ผมเกือบกดลบอีกเมลทิ้งเพราะคิดว่ามันเป็นไวรัส แต่นิ้วดันไปคลิ๊กโดนลิ้งนั้นเข้า ใน drive ที่ถูกจำกัดความเป็นส่วนตัวนั้น ถูกแชร์ให้กับผมเพียงคนเดียว บนพื้นที่ drive มีไฟล์วิดีโอขนาดค่อนข้างใหญ่อยู่บนนั้นหนึ่งไฟล์
‘Gift.MP4’
ผมกดดาวน์โหลดลงเครื่อง รอจนดาวน์โหลดเสร็จถึงได้เปิดดู แต่สิ่งที่ผมกำลังเห็นอยู่นี้...ทำเอาร่างทั้งร่างสั่นเทิ้มไปด้วยความโกรธจัด
ไอ้มาวิน! ไอ้ระยำ!
ผมอยากจะฆ่ามัน สับร่างมันให้เป็นชิ้นๆ เพื่อให้ความคับแค้นใจนี้ได้หายไป แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าถ้ามันตายไปแล้ว ความแค้นใจของผมจะหายไปหรือไม่ มันกล้าดียังไงมาทำกับพี่กิ๊ฟแบบนี้!
ก๊อกๆๆๆ
เสียงเคาะประตูดังขึ้น ผมนิ่วหน้าอย่างหงุดหงิดใจ ก่อนจะลุกเดินไปที่ประตู คงเป็นพนักงานมาทำความสะอาดเหมือนทุกเช้า แต่พอเปิดประตูแล้วก็พบว่าไม่ใช่...
ผลัวะ!
ผมปล่อยหมัดออกไปอย่างไม่พูดพร่ำทำเพลง เพราะคนที่มาเคาะประตูและยืนหน้าเหี้ยอยู่ก็คือไอ้มาวิน!
ผลัวะ!
มันต่อยสวนกลับมาทันควัน ทำให้ผมเซไปเล็กน้อย ผมสะบัดหน้าไล่ความมึน เตรียมง้างหมัดตอบโต้มันกลับไป แต่ก็ต้องชะงักเมื่อปืนกระบอกดำถูกยกขึ้นมาตรงหน้า
“พอใจกับคลิปที่เมียมึงเป็นตัวเอกรึเปล่าล่ะไอ้เพี้ยน”
“มึงมันหน้าตัวเมียไอ้เหี้ยวิน มึงทำพี่กิ๊ฟทำไมวะ! เขาทำอะไรให้มึง ไม่พอใจมึงก็มาตัวๆ กับกูดิ ไปมุดกระโปรงรังแกผู้หญิงทำไม!”
ถ้าแค้นผมก็มาลงที่ผม อย่าเอาใครเข้ามาเกี่ยวข้อง แม้ผมจะลังเลใจอยู่ไม่น้อยว่ามันแค้นเรื่องที่ผมคบกับพี่พ่ายหรือมีความแค้นเคืองใจเรื่องอื่นอยู่กันแน่ แต่ผมก็มั่นใจได้ว่าไอ้เหี้ยนี่พุ่งเป้ามาที่ผมแน่นอน
“ถ้ามึงอยากรู้ว่าทำไม...กูจะสงเคราะห์บอกมึงเอง ไปกับกู!”
มันบังคับให้ผมเดินนำด้วยปืนที่มันถืออยู่ แต่เดินไปแค่ไม่กี่ก้าวก็เจอกับพี่พ่ายที่กำลังเดินมาเช่นกัน แต่ท่าทีที่เหมือนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างของเขาประกอบกับปืนที่กำลังจี้อยู่ข้างหลังทำให้ผมไม่กล้าส่งเสียงเรียกเขา แต่ในจังหวะที่กำลังจะเดินสวนกันอยู่นั้น เขาก็จับแขนผมไว้
“จะไปไหน” น้ำเสียงนิ่งๆ ที่ราวกับไม่ได้เจาะจงคนตอบคำถาม แต่ใบหน้าที่เฉยชานั้นกลับมองไปยังคนที่เดินตามหลังผมแทน
“ผมสั่งให้คุณทำหรือไง” คำถามของพี่พ่ายทำให้ปากกระบอกปืนที่แนบอยู่กลางหลังของผมถูกยกออกไป ผมหันหลังกลับแล้วขยับเข้าไปยืนอยู่ใกล้ๆ พี่พ่าย สบสายตาอาฆาตของไอ้มาวินอย่างไม่กลัว
“ไม่ได้สั่งครับ...แต่ว่า...”
“ถ้าผมไม่ได้สั่งก็อย่าทำเกินกว่าสั่ง”
ไอ้มาวินทำหน้าไม่เข้าใจ ราวกับมันเจอโจทย์ยากยิ่งกว่าถูกบังคับให้เลือกตายระหว่างโดนยิงกับโดนมีดปาดคอ มันมองหน้าพี่พ่าย ก่อนจะเลื่อนสายตาลงมาที่แขนขวาซึ่งถูกผมกอดไว้แน่น
“เข้าใจแล้วครับ”
“ดี”
เหมือนฉากที่ชเวยองโดกับคิมทันยื้อแย่งชาอึนซังเลย แต่จะดร็อปฟิลอารมณ์ก็ตรงที่ไอ้มาวินหน้าไม่เหมือนคิมทันนี่แหละ แถมมันก็ไม่ใช่พระเอกสำหรับผมด้วย ถ้าเรื่องไหนมีผมเป็นตัวเอก ไอ้ห่านี่ก็เป็นได้แค่ตัวร้ายที่แม่งต้องตายตอนจบเท่านั้นล่ะครับ
“พี่พ่าย ไปกันเถอะ” ผมพูดกับพี่พ่ายด้วยเสียงอ้อนๆ พลางเหลือบตาไปมองไอ้มาวินอย่างผู้ที่เหนือกว่า ฮึ! แค่เห็นแววตาก็รู้แล้วว่ามันคิดอะไรกับแฟนของผม แต่ขอโทษทีนะ คนอย่างมัน แม้แต่ขาอ่อนของพี่พ่ายก็คงไม่ได้เห็นหรอก!
ผมเดินตามพี่พ่ายกลับมาที่ห้อง ปล่อยไอ้มาวินให้ยืนอึ้งแดกประหนึ่งกำลังถ่ายทำมิวสิควิดีโออยู่เพียงลำพัง
“ประชุมเสร็จแล้วเหรอ”
พี่พ่ายกำลังถอดสูทแล้วคลายปมเน็คไทออก เขามองหน้าผมแล้วยกนิ้วขึ้นสัมผัสที่มุมปากของผมเบาๆ
“เจ็บไหม”
“อือ”
“แล้วมีเรื่องอะไรกับมาวิน”
“ผมเกลียดมัน”
“ทำไม”
ผมลังเลที่จะบอกเหตุผล คงเพราะมันเป็นคนสนิทของพี่พ่ายด้วยล่ะมั้ง
“มาวินเป็นลูกบุญธรรมของพ่อกู ถ้ามึงเกลียดเขาอย่างนี้ กูจะพามึงเข้าบ้านได้ยังไง”
ชิบหาย...ผมควรจะเลิกกับพี่พ่ายเพราะไม่อยากนับญาติกับไอ้เวรนั่นไหมวะ
ผมเดินกลับไปเอาแม็คบุ๊คมาส่งให้กับพี่พ่ายที่รับไปอย่างงงๆ ...ยังไงซะ...พี่พ่ายก็ต้องรู้ว่าน้องชายบุญธรรมของเขาทำระยำอะไรไว้ แล้วให้เขาตัดสินเองว่าผมควรจะเกลียดไอ้มาวินไหม
“ผมเกลียดมันมาก่อนหน้าที่จะรู้จักพี่ แต่วันนี้ผมเกลียดถึงขั้นอยากเห็นมันดิ้นตายอย่างทรมานก็เพราะคลิปที่อยู่ในนั้น มันส่งมาให้ผม แล้วก็มาเคาะประตูเรียกให้ผมออกไปหา”
“คลิปอะไร”
“พี่ดูเองเถอะ”
พี่พ่ายนั่งลงบนโซฟา ก่อนจะวางแม็คบุ๊คลงบนโต๊ะกระจก ส่วนผมนั่งลงข้างๆ เขา แล้วกอดแขนเขาไว้แน่น ...ยังไงซะ...การได้อยู่ข้างๆ พี่พ่ายอย่างนี้ก็ทำให้ผมรู้สึกอุ่นใจและอารมณ์เย็นลงได้บ้าง
คลิปวิดีโอเริ่มเล่นไปได้แค่นาทีกว่าๆ พี่พ่ายก็ตัดสินใจปิดมันลง สิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นมีแต่เพียงความเงียบ ก่อนเขาจะพูดด้วยเสียงนิ่งๆ ว่า
“เดี๋ยวกูจัดการให้”
“ผมอยากแจ้งตำรวจจับมันเข้าคุกด้วย!”
แม้ผมจะคิดว่าคุกและกฎหมายบ้านเมืองจะทำอะไรกับคนอย่างไอ้มาวินได้น้อยมากก็ตามที แต่ผมก็อยากจะทำอะไรบ้าง ผมไม่อยากปล่อยให้เรื่องนี้เงียบหายไปโดยไม่จัดการอะไรเลย ครั้นจะให้ผมไปฆ่ามัน ผมว่าผมยังไม่บรรลุถึงขั้นฆ่าคนได้...เพราะถึงมันจะเป็นศัตรูและผมอยากให้มันตาย...แต่ผมก็ไม่มีความกล้าพอที่จะเอาชีวิตของคนอื่น
“เรื่องนี้ต้องให้คุณกิ๊ฟเขาตัดสินใจเองว่าจะทำยังไง แต่กูจะจัดการคนของกูให้ตามที่สมควร”
“พี่ต้องเอาให้หนักเลยนะ! มันต่อยหน้าผมด้วย แล้วยังเอาปืนมาจี้ผมอีก ถ้าพี่ไม่มา ผมคงถูกมันพาไปฆ่าแน่ๆ”
“แล้วเราไปทำอะไรให้เขาโกรธล่ะ”
“ผมไม่รู้ ผมก็หน้าตาดีเฉยๆ อ่ะ หรือที่มันโกรธ เพราะพี่เลือกผม ไม่ได้เลือกมัน! ต้องใช่แน่ๆ เลยพี่พ่าย ไอ้มาวินมันต้องชอบพี่แหงๆ”
“ไร้สาระ อย่าคิดว่าคนทั้งโลกจะเป็นเกย์เหมือนมึงดิ”
“เกย์ด้วยกันดูกันออก! ผมแน่ใจเลยว่ามันคิดอ่ะ พี่ก็อย่าไปตกหลุมมันนะ พี่มีผมแล้ว เข้าใจไหม”
“เพ้อเจ้อ” พี่พ่ายผลักหน้าผากผม ก่อนจะยกแขนมาล็อคคอผมไว้ “จะมีมึงหรือไม่มี กูก็ไม่ได้คิดอะไรกับมาวินทั้งนั้น”
“ได้ยินอย่างนี้แล้วดีใจจัง ว่าแต่พี่ประชุมเสร็จแล้วเหรอ”
“อืม”
“งั้นก็พาไปเที่ยวได้แล้วสิ!”
ตื่นเต้นๆ ผมจะได้ไปเที่ยวหลังจากที่ได้เป็นแฟนกับพี่พ่าย! เหมือนเป็นการเดทเลย! แล้วที่ภูเก็ตนี่มีที่เที่ยวที่พอจะให้ผมกับพี่พ่ายไปสวีทกันไหมนะ...ที่ที่ไม่ใช่ทะเล ที่ที่จะทำให้รู้สึกฟินอะไรแบบนั้น
“ได้ แต่เป็นวันพรุ่งนี้”
“ทำไมอ่า” ผมเบื่อห้องเต็มทีแล้วนะ อีกอย่างวันมะรืนก็ต้องกลับเชียงรายแล้วด้วย เท่ากับว่าผมมีเวลาเที่ยวแค่วันนี้กับพรุ่งนี้เท่านั้นเอง!
“ขี้เกียจ”
“พ่ายยยยย”
ผมเขย่าตัวพี่พ่ายเพื่อให้ความขี้เกียจหลุดออกไป พี่จะมาดับฝันของผมเพราะคำว่าขี้เกียจไม่ได้นะ! ผมไม่ยอมหรอก! แต่อีตาพี่พ่ายนี่ถึกเป็นบ้า ผมออกแรงเขย่าแล้วแต่เขาก็ยังทำทีไม่สะดุ้งสะเทือนจนผมเหนื่อยหอบและหยุดไปเอง
“หึ หมดแรงแล้วไง”
“พี่พ่ายอ่า”
“ถ้ากูบอกคำไหนก็คำนั้น จะมาเปลี่ยนแปลงไปตามใจมึงไม่ได้หรอก”
“นอกจากเรื่องอย่างว่าแล้วพี่ก็ไม่เคยตามใจผมเลยอ่ะ! ทีกับคนอื่นพี่ตามใจเขาตลอดเลย”
“คนอื่น?”
“ก็น้องเดียร์อะไรนั่นของพี่ไง”
“เดียร์ไม่ใช่คนอื่น”
เป็นคำตอบที่ทำเอาผมตอบโต้อะไรออกไปไม่ได้ สิ่งที่คิดจะพูดกลืนหายลงคอไปหมด
“ตอนนี้กูให้มึงมากกว่าที่ให้เดียร์ แต่ก็ยังมีคนที่ได้มากกว่ามึง ถ้าอยากเป็นที่หนึ่งมึงก็ต้องพยายามมากกว่านี้”
รอยยิ้มของพี่พ่าย กับคำแนะนำที่ให้มา ไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลย ...จุดที่ผมอยู่ มันยังไม่ใช่จุดที่ดีที่สุดอย่างนั้นเหรอ...แล้วจะมีใครรับรองได้ว่าหากผมพยายาม...ผมจะเป็นที่หนึ่งของเขาได้ ในเมื่อเรื่องของความรัก...ไม่ใช่แค่พยายามถึงจะได้มันมา...
“ที่หนึ่งของพี่...คือแม่ของลูกพี่เหรอครับ”
เป็นคำตอบที่ผมพอจะรู้อยู่แล้วตั้งแต่ที่ได้เห็นรูปถ่ายครอบครัวในกระเป๋าตังค์ของเขา แต่ผมก็ยังถาม ไม่รู้ว่าเพื่ออะไร...ตอกย้ำจุดที่ตัวผมยืนอยู่หรืออยากจะถามเพื่ออยากให้เขาปฏิเสธกันแน่
“อืม” คำตอบสั้นๆ ของพี่พ่ายเรียกรอยยิ้มฝืนๆ จากผม ฝ่ามืออุ่นที่กำลังลูบอยู่ที่แก้มก็ขัดกับคำตอบที่ผมไม่ใช่ที่หนึ่งของเขาเหลือเกิน
“งั้นจะให้ผมพยายามไปเพื่ออะไร ถ้าที่หนึ่งของพี่ในตอนนี้ เป็นคนที่ได้หัวใจพี่ไปแล้ว”
พี่พ่ายยังคงยิ้ม เขาโน้มหน้าเข้ามาใกล้แล้วใช้ฟันงับริมฝีปากล่างของผมเบาๆ
“หัวใจกูยังเป็นของกู ไม่เคยมีใครได้ไป เขาเป็นที่หนึ่งในรูปแบบความสัมพันธ์ของผู้หญิงที่ให้กำเนิดลูกของกู ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”
แทนที่ผมจะดีใจ กลับรู้สึกสงสารผู้หญิงคนนั้นขึ้นมา ...และพอนึกถึงหน้าตาน่ารักของแฝดสามแล้วผมก็อดที่จะรู้สึกแย่ไม่ได้... ถ้าพวกเขารู้ว่าไม่ได้เกิดขึ้นมาจากความรักของพ่อ มันจะเป็นยังไง แค่เพียงความรักข้างเดียวของแม่นั้นเพียงพอแล้วเหรอ ...ทว่า ผมก็คงไปว่าใครไม่ได้ ลูกของผมในท้องของพี่ ก็เกิดขึ้นจากความรักเพียงข้างเดียวของผมเหมือนกัน
“ถ้าพี่ไม่รักเขา แล้วพี่ทำเขาท้องทำไม”
“กูอยากมีหลานให้กับพ่อ แล้วบังเอิญว่ามีคนเสนอมาพอดี”
ผมทุบไหล่เขาไปสองสามทีอย่างอดไม่ได้ “ถ้าใครเสนอพี่ก็จะสนองเขาหมดหรือไง!”
ตัดสินใจแล้ว! ถ้าแฝดสามถามว่าพวกเขาเกิดมาได้ยังไง ผมก็จะเล่าตำนานรักอมตะนิรันดรให้พวกเขาฟัง ดีกว่ามาได้ยินเหตุผลบ้าบอจากพ่อผู้มีหัวใจดุจปีศาจของพวกเขา
“มึงคิดว่ากูเป็นคนอย่างนั้นเหรอ? แน่นอนว่ากูต้องเลือกคนที่เหมาะสมที่สุด เป็นการคัดเลือกโดยธรรมชาติเพื่อขยายเผ่าพันธุ์ที่ดี กูต้องเลือกรังไข่ที่เหมาะสมเพื่อลูกของกู เพราะถ้าพวกเขาเกิดมาโง่แบบมึงคงใช้ชีวิตลำบาก”
“พูดขนาดนี้ไม่ด่าพ่อด่าแม่ผมเลยล่ะ แล้วผู้หญิงที่โชคร้ายคนนั้นเป็นใครอ่ะ”
ผมหลุดปากถาม แม้จะเห็นในรูป แต่ก็ไม่รู้ว่าเป็นใครอยู่ดี และผมก็ไม่คิดว่าพี่พ่ายจะบอกด้วย มันราวกับเป็นความลับเลย
“น้องสาวของมาวิน ก็ถือว่าเป็นน้องสาวของกูด้วย”
เฮ้ย! บอกจริงด้วย แต่เดี๋ยวนะ!
“เฮ้ยยย พี่! พี่แม่งความคิดความอ่านไปหมดแล้วนะ ผิดชอบชั่วดีไม่เคยรู้เลยเหรอ!”
ไร้พ่ายแม่งเป็นคนบ้าอะไรวะ เขาคิดว่าเขาเกิดมาพร้อมเครื่องหมายถูกเหรอ ถึงไม่เคยรู้เลยว่าการกระทำของตัวเองเป็นสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร
“ใครสน”
“อย่างน้อยพี่ก็ควรสนบ้างนะ ทำแบบนี้แล้วท่านประธานจะรู้สึกยังไงอ่ะ พี่บ้าไปแล้ว”
“ไม่รู้ก็ไม่เป็นไรนี่ อีกอย่างก็ไม่ใช่น้องสาวกูจริงๆ ซะหน่อย ถ้าสายเลือดเดียวกันกูก็ไม่ทำหรอก เพราะลูกเกิดมามีสิทธิ์บกพร่องสูง”
“คือประเด็นมันไม่ได้อยู่ตรงนั้นนะครับพี่ มันอยู่ตรงที่ว่าเขามีศักดิ์เป็นน้องสาวของพี่อ่ะ เข้าใจป่ะว่าน้องสาว คือมีผู้หญิงอีกหลายพันคนที่รอให้พี่เลือก แล้วทำไมต้องเอาคนใกล้ตัว”
“คำถามนี้ ย้อนถามตัวเองก่อนดีไหม”
คำตอบที่เหมือนคำถามของพี่พ่ายทำให้ผมเงียบลงฉับพลัน...ใช่แล้ว คนที่หลงรักพี่สาว ลูกติดของพ่อเลี้ยงน่ะเหรอที่ควรถามคำถามนี้กับเขา... ผมไม่ควรถามเลยด้วยซ้ำ แต่ว่า...
“ทำไมผมถึงต้องย้อนถามตัวเอง? พี่รู้อะไรมา”
“หึ...มึงนี่มันเด็กน้อยว่ะ”
“พี่พ่ายบอกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ!”
“บอกให้โง่ คิดจนหัวระเบิดไปก็แล้วกัน กูไปอาบน้ำก่อน”
เป็นผู้ชายที่มึน อึน อะไรอย่างนี้นะ มาจนถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่เข้าใจเขาเลย แล้วผมก็คิดว่าไม่มีใครเข้าใจเขาด้วย แม้แต่ไอ้มาวินที่เป็นคนสนิทก็ยังทำหน้างงไปแล้ว เอาเถอะ แล้วแต่เขาละกัน คงเป็นพวกสมบูรณ์แบบมากไปจนเข้าขั้นบ้า ก็เลยคิดทำอะไรแปลกแยกไปหมด อย่างเรื่องเมียเก่าเขาที่ผมคิดว่าอยากจะดราม่าให้มากกว่านี้ พอได้รู้เรื่องจริงๆ จากปากของเขาแล้วก็สงสารทั้งผู้หญิงคนนั้นทั้งตัวเองไม่ได้ นี่ยังจะลามไปสงสารแฝดสาม ท่านประธาน รวมไปถึงน้องเดียร์ด้วย แต่กรรมหนักสุดนี่คงตกที่ท่านประธาน เพราะไม่รู้ไปทำท่าไหน ลูกถึงได้ออกมามีจิตใต้สำนึกห่างไกลจากความเป็นมนุษย์อย่างนี้ ทั้งๆ ที่ท่านประธานก็เป็นคนดีแท้ๆ เชียว
“พี่พ่ายยยยย ผมอาบด้วย!”
“มาดิ เอาถุงยางเข้ามาสองสามอันละกัน”
ต่อให้จะเป็นปีศาจหรือจอมมาร ...ผมก็มาไกลเกินกว่าจะกลับใจได้แล้ว..
“เดี๋ยวเอาเข้าไปทั้งกล่องเลย!”
..............................TBC....................................
มาวินมานี่ค่ะ เดี๋ยวเราปลอบใจเอง
ตกลงแล้วพี่พ่ายมันต้องการอะไรกันแน่

ดูแลตัวเองด้วยค่ะ
