ตอนที่ 31 : ควีนสำแดงอิทธิฤทธิ์
ทุกอย่างง่ายดายด้วยโทรศัพท์เครื่องเดียว
พอรู้ที่อยู่แถมยังได้เบอร์ลูกหนี้มาด้วย อะไรๆ มันก็ง่ายขึ้นผิดหูผิดตา พวกผมบุกไปร้านเปิดใหม่ซึ่งแทบจะห่างกันคนละโยด ตอนไปถึงสมรักษ์กำลังจะเปิดร้านพอดี ขนาดต่างกับไอ้ที่เพิ่งจากมาลิบลับ เพราะมีสภาพเหมือนห้องพักเล็กๆ แคบๆ มากกว่าร้านอาหารขนาดใหญ่ รายนั้นพอเจอไอ้เก่งปุ๊บก็เตรียมวิ่งร้อยเมตรปั๊บ ก่อนจะโดนจับมานั่งขอขมาคุกเข่าต่อหน้าผมเนี่ย
สมรักษ์ร้องห่มร้องไห้ หลังจากเล่าเรื่องมีเมียสามคนกิ๊กเจ็ดและลูกสี่ ก็เริ่มพร่ำพรรณาถึงความรันทดของชีวิต เปิดร้านใหญ่โตจนคุมงบไม่ได้ไม่พอ ยังเสือกติดพนัน กู้เงินทบไปทบมาเลยปาไปเป็นล้าน ทำงานแทบตายเงินก็จมไปกับการใช้หนี้ที่ไม่มีวันลด เลยตัดสินใจหนีเพื่อตั้งตัว
สมรักษ์ไม่เคยเห็นผม แต่ตอนฟังเสียงรู้สึกคุ้นเลยคิ้วกระตุก ก่อนจะเก็บความสงสัยทั้งหมดไว้เมื่อได้ยินไอ้เก่งเรียกว่า ‘ควีน’ มันแทบจะมาเกาะขาขอความเมตตา ท่ามกลางการเจรจาที่ไอ้เก่งแม่งก็เสี้ยม ไอ้สมรักษ์แม่งก็เอาแต่ร้องโฮๆ ผมปวดสมองแทบระเบิดก่อนจะยื่นคำบัญชาให้ยึดพื้นที่ร้านเก่ามาขาย ไอ้คิงพอมีเส้นสายอยู่บ้างน่าจะได้ราคาดี โดยไม่ลืมหักค่านายหน้าเพื่อไม่ให้มันคิดว่าผมทำฟรี ส่วนเงินที่ยังโปะไม่หมด ก็ให้ไอ้เก่งมาทวงทุกสิ้นเดือนตามเดิม แต่ด้วยจำนวนที่น้อยลงเพราะอย่างน้อยหนี้ก็ลดไปหน่อย ดอกเบี้ยก็ลดตามไปด้วย
“ใจอ่อนไปรึเปล่าควีน”
พอขึ้นรถไอ้เก่งก็หาเรื่องผมทันควัน เพราะมันพยายามค้านแทบตาย
“คิดมาดีต่างหาก ถ้าไปยึดที่ดินมาหมดแล้วขายไม่ออกทั้งคู่ ก็เท่ากับว่าคิงส์คลับไม่ได้เงินสักแดงนอกจากที่เน่าๆ ทำกำไรไม่ได้ แต่ถ้าเป็นแบบนี้อย่างน้อยก็กำความเสี่ยงไว้ห้าสิบห้าสิบ ได้ที่ดินและเงินสดอย่างละครึ่ง จริงมั้ยล่ะ”
“แล้วถ้ามันหนีหนี้อีกล่ะ”
“ถ้าอัศวินบางคนคิดว่าตามเองไม่ได้ ถึงตอนนั้นควีนจะลดตัวมาช่วยอีกสักครั้งก็แล้วกัน” ผมฉีกยิ้ม ส่วนไอ้เก่งทำหน้าฮึดฮัด ขณะที่เหล่าเบี้ยต่างพากันอมยิ้มนิดๆ เหมือนคุ้นชินกับนิสัยเด็กของลูกพี่ตัวเองอยู่แล้ว
“บี แวะจอดร้านข้างหน้าหน่อยสิ”
“ครับควีน”
“เอ้า ทำอะไรอยู่ ลงมาสิ” ผมโบกมือไล่พวกลูกน้องที่นั่งอัดกันในรถตู้ให้ลงไปก่อน เพราะผมนั่งอยู่หลังสุด ทำเอาแต่ละคนงุนงงสุดชีวิต
“ไม่ต้องงงน่า พอดีฉันหิวเลยให้แวะ เดี๋ยวจะซื้อฝากไอ้คิงด้วย มานั่งกินด้วยกันสิ ข้าวต้มเป็ดร้านนี้อร่อยนะ เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง”
“เอ่อ...ควีน” พวกเบี้ยสะดุ้งกันเป็นแถบเมื่อควีนชวนกินข้าวต้มข้างทาง ทำไม คิดว่าควีนไม่ใช่คนรึไง สงสัยไอ้คิงจะฝังภาพลักษณ์พระราชาไร้พ่ายจนแต่ละคนนึกภาพปุถุชนไม่ค่อยจะออกแล้วมั้ง
แต่โทษที ควีนไม่จำเป็นต้องสร้างความเว่อร์วังอะไรขนาดนั้นว่ะ นึกแล้วก็คันยุบยิบ ให้เลียนแบบไอ้คิงนี่ทำไม่ได้หรอก มันเก๊กเกินไป เห็นแล้วเมื่อยหน้าแทน
“กินสิ จะปฏิเสธน้ำใจฉันรึไง”
“คะ...ครับ!”
อย่าคิดว่าผมเป็นนางงามอะไรหรอกนะครับ เพราะถึงจะเลี้ยง แต่นี่น่ะข้าวต้มข้างทาง ฉะนั้นรวมเงินออกมาจริงๆ ไม่ถึงห้าร้อยซะด้วยซ้ำ ดีมาก ทำคะแนนแล้วยังประหยัดเงินอีก นิลกาฬนี่ฉลาดจริงๆ
หลังจากนั้นรถตู้ก็มาส่งที่คอนโดไอ้คิง ผมถือถุงข้าวต้มขึ้นไปชั้นบนสุด อันที่จริงก็มีคีย์การ์ดเปิดประตูอยู่หรอก แต่ผมเลือกที่จะกดกริ่งหน้าห้องแทน
รอไม่ถึงหนึ่งนาทีประตูก็เปิดออก ภาพของไอ้คิงในชุดเดียวกับเมื่อคืนยืนนิ่งๆ ไม่มีท่าทางงัวเงียใดๆ มันคงรอผมมาทั้งคืน
ผมโผไปกอดมันทันที
“เก่งมากนิลกาฬ”
“อือ...” ผมซุกหน้ากับไหล่แข็งแกร่ง ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมเลิกทำตัวเก่งเวลาอยู่กับมัน แล้วรู้สึกอุ่นใจเวลาถูกโอบประคองอยู่อย่างนี้
คงเพราะที่นี่ไม่ใช่ปราสาท แต่คือบ้านของคิงกับนิล ไม่ใช่พระราชาและพระราชินี
พวกเราก็แค่เป็นตัวเอง
“ได้ใช้เครื่องรางกูรึเปล่า”
“เปล่า...” ผมส่ายหน้าน้อยๆ ทั้งที่ยังกอดแน่น ส่วนไอ้คิงเอื้อมไปด้านหลัง หยิบบางสิ่งที่เหน็บและใช้ชายเสื้อปกปิดเอาไว้ออกมา
ตอนผมเข้าไปคุยกับไอ้คิงเรื่องตามไปทวงหนี้กับไอ้เก่ง มันไม่ห้าม แต่ส่งของสิ่งหนึ่งให้ผมพกติดตัว
...ปืน
ก็ดีแล้วที่ไม่ได้ใช้ เพราะผมเองก็ใช้ไม่เป็น
“มึงฝืนรึเปล่า”
“เปล่า...ก็แค่เหนื่อย กลัวพลาดต่อหน้าไอ้เก่ง” ผมรีบตอบ กลัวคุณผัวจะเข้าใจผิดคิดว่าผมเริ่มหน่ายคิงส์คลับเพราะลูกน้องหัวแข็งบางคนที่จนป่านนี้ก็ชอบจับผิดและหาเรื่องตลอดเวลา “มันไม่เห็นจะยอมกูเลย”
“มันก็แค่ไม่แสดงให้มึงเห็น”
“ทำเป็นพูดดี” ผมผละออกจากอกมัน แล้วต่อยเบาๆ หนึ่งทีด้วยความหมั่นไส้กับไอ้คนอวยเมีย “กูซื้อข้าวต้มมาฝาก ว่าแต่...ทำไมมึงไม่อาบน้ำ?”
“กูรออาบพร้อมมึง”
ผมตาวาวระยับ พอๆ กับไอ้คิงที่เริ่มคลี่ยิ้มกรุ่มกริ่ม
“งั้นก็ไปอาบกันก่อนเถอะ อาบให้สะอาดเลยนะผัวจ๋า”
แล้วกล้องก็เพนไปที่หัวเตียง...อะไรนะ นี่ไม่ใช่ห้องนอน งั้นก็เพลนไปที่ข้าวต้มเป็ดแล้วกัน ถุงละสามสิบบาท มีเนื้อเป็ดตั้งหลายชิ้น อร่อยเหาะด้วยนะ!
แต่เชื่อสิ ถ้าถามไอ้คิง มันต้องบอกว่า...นิลกาฬอร่อยกว่าเยอะ!!!
หลังจากนั้นผมจำอะไรไม่ค่อยได้ รู้แต่ว่าทำกันรอบหนึ่งในห้องน้ำ โดยที่ผมสลบคาอกเพราะง่วงนอนจัด ถ้าจำไม่ผิดก่อนหลับมังกรไอ้คิงยังเต่งตึงขยายตัวอยู่ด้วยซ้ำ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ทำอะไรเกินเลย แถมยังช่วยใส่เสื้อให้ผมและห่มผ้าอย่างดีอีกต่างหาก ผัวดีเด่นชิบหาย แต่จะดีกว่านี้มากถ้าไม่ปลุกด้วยวิธีพิศดารอย่างการเอาน้ำแข็งมาวางแปะบนหน้าผาก ล่อซะสะดุ้งเฮือกขึ้นมาเลย
ตอนแรกว่าจะด่า แต่พอลืมตาเห็นไอ้คิงยิ้มอย่างชอบอกชอบใจที่ได้แกล้งเมียก็ปล่อยเลยตามเลย ผมเอาน้ำแข็งใส่ในกางเกงของมันก่อนจะรีบเผ่นเข้าห้องน้ำ ร่างกายค่อนข้างฟิตเพราะเมื่อคืนโดนไปแค่ยกเดียว แม้จะหลับไม่ค่อยเต็มอิ่มเพราะสลบไปตอนเกือบเจ็ดโมงก็เถอะ แต่นักศึกษาที่มีเรียนคาบบ่ายอย่างผมควรจะตื่นมาตอนเที่ยงเพื่อกินข้าวกับคุณสามี และนั่งรถไปมหาลัยก่อนที่เพื่อนชายจะสงสัยเอาได้
“ห้าโมงกูมารับ”
“แล้วมึงจะไปไหน” ผมถามคุณผัวที่มีเรียนแค่พุธ กับศุกร์ เด็กใกล้จบก็เงี้ย สบายเฮ ผมเคยถามอยู่เหมือนกันว่าไม่ต้องทำโปรเจคเหรอวะ มันเลยตอบผมว่าโปรแกรมคิงของมันนั่นแหละคือโปรเจค แต่มีการดัดแปลงเล็กน้อย เป็นโปรแกรมสำหรับต้องการสำรองข้อมูลความลับ และจัดระเบียบในการทำงานโดยเฉพาะ
ตอนนี้มันเลยโคตรว่าง
“กูจะไปดูโกดัง”
“เอ่อ...งั้นก็ตามสบาย”
บอกตามตรงว่าไม่ค่อยอยากนึกถึงเรื่องโรงงานผลิตยาของมันสักเท่าไหร่ ไอ้คิงเองก็รู้ว่าผมลำบากใจ เลยคว้าท้ายทอยเข้าไปจูบปลอบขวัญหนึ่งที
“พอๆ เดี๋ยวปากกูบวม”
ผมรีบห้ามก่อนจะเลยเถิด เมื่อคืนยิ่งไม่ค่อยอิ่มอยู่ด้วย แต่ตอนนี้มีชนวนติดหลังอยู่ครับ ชนวนจริงๆ ไม่ใช่ชนัก เหมือนเวลาจุดระเบิดแล้วเชือกค่อยๆ หดสั้นลงน่ะ เพราะเมื่อวานขาดเรียนไปไอ้ชายต้องเค้นคอถามแน่ๆ นิลกาฬตอแหลกับคนอื่นได้ แต่กับไอ้ชายทีไรโกหกไม่เนียนทุกที
“ตั้งใจเรียนล่ะเมีย”
“เออน่า” ผมทำหน้าเซ็งใส่มันก่อนจะเดินลงจากรถ เพราะวันนี้ไอ้คิงไม่มีเรียนเลยมาจอดส่งถึงหน้าคณะ เฮ้อ...ผมล่ะอยากให้มันไม่มีเรียนทุกวันเลยจริงๆ
เดินเอ้อละเหยสักพักฝันอันแสนสุขก็ต้องดับลง
เพราะจู่ๆ ด้านหลังผมก็มีชายคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้ และใช้ของแข็งๆ กดเข้าตรงสะโพกจนเจ็บ
อย่าคิดอกุศลเชียว อย่างน้อยผมก็ยินดีหากมีคนโรคจิตเอาเจ้าโลกมาจิ้ม มากกว่าปากกระบอกแข็งๆ จากของอย่างเดียวกันที่ผมเพิ่งคืนไอ้คิงไปเมื่อเช้า
ครับ ผมถูกปืนจ่อหลัง เป็นปืนที่เอาผ้ามาคลุมเอาไว้ และดันให้ผมเดินไปยังรถตู้สีดำสนิทสำหรับลักพาตัวโดยเฉพาะ
“เดินไป อย่าตุกติก”
มันดูหนังเยอะไปป่ะวะ
“ไม่” แม้จะโดนปืนกดจนนิ่วหน้า แต่ผมก็ฝืนยืนนิ่งๆ ไม่ทำตามคำนั้น
“ไม่งั้นกูจะยิง”
“ยิงสิ ถ้ากล้ายิงในมหาลัย ท่ามกลางนักศึกษาเป็นร้อย ยิงแล้วคิดคำตอบดีๆ กับตำรวจด้วยล่ะ” ผมเอ่ยอย่างไม่สะทกสะท้าน เพราะพอเดาได้ว่าเป็นใคร
ถึงจะไม่เคยได้คุยกันต่อหน้า แต่จากเสียงก็พอคุ้นๆ เพราะเคยดูคลิปเซ็กซ์ที่มันแสดงนำมาก่อน
ไอ้สมศักดิ์!
“อย่าคิดว่ากูไม่กล้านะ”
“กล้าก็ลอง” ผมยักไหล่ “ยิงตรงนั้นยังไงฉันก็ไม่ตายหรอก อย่างมากก็พิการ หลังจากนั้นก็ถือว่าฟาดเคราะห์แล้วกันหากโดนตำรวจจับเข้าคุกไปก่อน เพราะถ้าเลวร้ายที่สุด...ไอ้คิงคงจับคุณมาหักเป็นท่อนๆ ให้ตายทั้งเป็น”
ปืนข้างหลังผมสั่นเล็กน้อย อย่างสั่นดิวะ มันเสียว
“เอาปืนลง ถ้ากำลังคิดอะไรบ้าๆ อย่างจับตัวฉันไปต่อรองเรื่องโรงงานกับไอ้คิง ก็ไม่ต้องเสียเวลา ฉันเป็นควีน คุณต่อรองกับฉันก็ได้”
“แต่ในสัญญาบอกว่ามึงไม่ยุ่งกับยา ห้ามเอาเรื่องนี้ไปคุยกับมึง” สมศักดิ์เอ่ยเสียงแข็ง ขณะผมนึกชมในใจว่าไอ้คิงรอบคอบดีมาก “ไม่ใช่เพรามึงเป็นแค่ควีนแต่ในนามรึไง มึงขายตัวให้ไอ้คิง กูรู้”
“รู้เหี้ยอะไรล่ะ คุณจะเชื่ออำพัน หรือจะเชื่อนิลกาฬ” ผมชักฉุน ถึงกับแอบหลุดหยาบออกมาตัวเบ้อเริ่ม “แยกแยะระหว่างกรวดกับเพชรไม่ออกรึไง”
ว่าจบผมก็หันมาเผชิญหน้ากับมันโดยไม่ทันตั้งตัว เป็นสมศักดิ์จริงๆ ซะด้วย แต่มันดูโทรมจากที่เคยเห็นไปเยอะ อารมณ์เหมือนคนกำลังล้มละลายและคิดไปกระโดดตึก
“เก็บปืนไปซะ คุณรู้ดี...ว่าตอนนี้มีแค่ฉันที่ช่วยคุณได้”
ผมยกยิ้มเจ้าเล่ห์ พยายามไม่สนใจกับปากกระบอกปืนที่กดแนบท้อง
“ก็ฉันคือควีนนี่นา”
------
ยกปอมๆ เชียร์ควีนสุดชีวิต เด็ดมาก แซ่บมากน้องนิลของเดี๊ยนนนน //จริตถึงกับหลุด
วันนี้มาสั้นๆ เลยตั้งชื่อตอนให้คล้องกันค่ะ แบบว่ามันจบตอนพอดี ตอนหน้าจะเป็นมุมเบอร์หนึ่งมาเจอควีน - -+!!!
ปล.หนังสือเปิดพรีเรียบร้อยแล้วใครสนใจดูรายละเอียดได้ที่ลิ้งเพจข้างล่างเลยนะคะ
เพจนักเขียนที่อวยน้องนิลยิ่งกว่าคิงอวยเมีย