ตอนที่ 3
วันนี้ตื่นมาสดใสอย่างที่คิด คงเพราะได้นอนเต็มอิ่มอย่างที่ไม่ได้ทำมานาน
“หน้าตาดูสดใสนะไอ้นิล”
“กูหน้าตาดี กูรู้ ไม่ต้องอ้อมค้อมชม จะชมก็ชมมาตรงๆ เลย กูไม่ถือ”
“เหี้ย!”
ผมหัวเราะลั่นกับหญิงที่ตะโกนหาบรรพบุรุษแต่หัววัน ก่อนจะรับผลส้มทีชายช่วยแกะเปลือกแบ่งเป็นกลีบแล้วยัดเข้าปาก พวกผมชอบมานั่งสุมหัวที่โต๊ะคณะช่วงเช้าเพื่อหาอะไรแดกครับ ไอ้เชี่ยคิงมันไม่กินข้าวเช้า ซดแต่กาแฟอย่างกับอายุสามสิบ ไม่รู้ว่านิสัยมันแก่เกินหน้า หรือทำตัวแก่เองกันแน่
“นิลกาฬ”
จู่ๆ ก็มีคนเรียกชื่อ ผมที่กำลังหม่ำส้มอร่อยๆ เงยหน้าไปปะกับคนแปลกหน้าต่างคณะที่ไม่คุ้นเคยสักกะนิด เคยเล่นจ้ำจี้กันก็ไม่ใช่ เพราะผมคงไม่รสนิยมแย่ขนาดคว้าเอาคนหน้าเหียกเป็นสี่เหลี่ยมแบบนี้หรอก แล้วยังไม่นับลูกคู่อีกสองคนที่เดินเยื้องด้านหลังหมอนี่อย่างกับหนังนักเลงยุค 90 หวังว่าคงไม่ได้จะมาหาเรื่องกันหรอกนะ
“ลุกมานี่ดิ๊”
พูดอย่างกับเรียกหมา ใครจะไปวะ!
ผมหันหลังกลับไปกินส้มกับชายต่อ ส่วนหญิงแตะไหล่ผมสั่นๆ อย่างเป็นห่วง กลัวว่าผมจะไปก่อเรื่องอะไรเข้า
“ไม่ต้องห่วงหรอกหญิง” ชายยิ้มปลอบ หมอนี่มันรู้จักผมดี
“ไม่ได้ยินรึไง ลุกมานี่ดิ๊ หรือต้องให้ใช้กำ...แอ่ก!”
“ถ้าจะต่อยก็ต่อย ไม่ต้องพูดมากหรอก ระคายหู” ผมพูดด้วยรอยยิ้มทั้งที่เพิ่งตั้นหน้าไอ้หน้าเหลี่ยมไปเต็มแรงจนหงายหลังตึง ลูกน้องสองคนตกใจรีบหามมันยกใหญ่ ก่อนจะมองผมด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป “อ้าว สลบเลยเหรอวะ โคตรอ่อน”
“พี่...พี่เหลี่ยม ตื่นดิพี่!”
อะไรนะ มันชื่อเหลี่ยม? กร๊าก โคตรเข้ากับหน้า
“ไหนๆ ก็ลุกมาแล้ว มาเป็นเป้าซ้อมให้กูดิ๊ มามะ” ผมกระดิกนิ้วเรียกอีกสองคนที่ดูขวัญกระเจิง มันสายหน้า ก่อนจะฉุดกระชากลากลูกพี่มันไปอย่างน่าสมเพช “นึกว่าจะแน่”
ผมยักไหล่ ทิ้งตัวลงนั่งแล้วรับส้มลูกที่สองจากชายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“อะ...ไอ้นิล”
หญิงมองผมอย่างระแวง ถดตัวห่างทำหน้าเหมือนไม่รู้จัก
“อย่าตกใจเลยหญิง นิลเรียนชกมวยตั้งแต่เด็ก ก็เลยเก่งเรื่องชกต่อยน่ะ” ชายช่วยอธิบาย
“แต่ปกติกูไม่ค่อยมีคนหาเรื่องเท่าไหร่ มีแต่คนอยากซั่ม ก็เลยไม่ค่อยได้แสดงฝีมือ โทษทีแล้วกันที่ทำให้ใจเต้นกับความเท่ของกูโดยไม่บอกก่อน”
“ใจเต้นเชี่ยไรล่ะ กูตกใจแทนมึงเนี่ย!”
“ใจเย็นๆ ก่อนหญิง” ชายส่งส้มให้หญิงอีกลูก พวกมึงสลับเพศกันป่ะวะ “ว่าแต่นิล นายไปทำอะไรผิดมารึเปล่า ทำไมถึงมีคนเดินมาหาเรื่องแบบนี้ล่ะ”
“พวกไร้หัวคิดล่ะมั้ง” ผมยักไหล่ ก่อนจะเลิกคิ้วสงสัยเมื่อเห็นคนหน้าคุ้นๆ วิ่งหน้าตั้งเข้ามา ถ้าจำไม่ผิดมันเป็นรุ่นน้องของเชี่ยคิง ชื่ออะไรสักอย่าง แม่ง เรื่องนี้ตัวละครชักเยอะไปล่ะ กูจำไม่ไหว เรียกว่าไอ้รุ่นน้องเบอร์หนึ่งแล้วกัน!
“พะ...พี่นิล เห็นใครหน้าเหลี่ยมๆ มาแถวนี้รึเปล่าพี่”
“มี แต่กูต่อยมันสลบไปแล้ว ทำไม มึงมีธุระกับมันเหรอ”
ไอ้รุ่นน้องเบอร์หนึ่งลูบหน้าลูบอกเพื่อปรับลมหายใจ ชายคงสงสารเลยส่งน้ำไปให้ดื่ม เฮ้ย นั่นนมจืดของกู!
“ไม่มีกับผมหรอกครับ พี่เหลี่ยมเกลียดขี้หน้าพี่คิง แต่สู้พี่คิงไม่ได้ก็เลยมาหาเรื่องพี่นิลแทน ผมรู้เรื่องก็เลยรีบวิ่งข้ามตึกคณะมาเนี่ย”
โคตรซึ้งน้ำใจมึงเลย ขนาดผัวกูยังไม่โผล่มาให้เห็นสักนิด
“แล้วมันมาหาเรื่องกูทำไม คิดจะจับเป็นตัวประกัน ขู่บังคับให้เชี่ยคิงก้มหัวยอมแพ้รึไง มันอ่านการ์ตูนเยอะไปป่ะวะ”
“พะ...พี่นิล อย่าเรียกพี่คิงแบบนั้นเลยครับ ถ้าใครได้ยินเข้าจะไม่ดี”
คนที่สองแล้วนะที่เตือนผมแบบนี้ ฟังแล้วหงุดหงิดเป็นบ้า
“แล้วใครที่ไหนมันจะได้ยิน”
“ก็พวกคนที่นับถือพี่คิงยังไงล่ะครับ คนที่นับถือพี่คิงแต่ไม่รู้ว่าพี่นิลเป็นเมี...เป็นคนรักของพี่คิง ถ้าเข้าใจผิดพี่นิลมีหวังแย่แน่ๆ!” มึงสิจะแย่ เสือกดื่มนมกูหมดขวดเลยเนี่ย
“ไอ้คิงมันไม่เห็นว่าอะไร”
“ถือว่าผมขอแล้วกันครับ ผมเป็นห่วงพี่นะ”
มึงไม่มาเป็นผัวกูเลยล่ะไอ้เบอร์หนึ่ง
ผมชักรำคาญกับเลยโบกมือไล่มันไปไกลๆ ตั้งแต่คบกับคิงก็ชินกับท่าทางตลกๆ ของมันแล้ว เพราะเวลาไอ้รวยนั่นขับรถไปที่คณะจะมีหมอนี่เสนอหน้ามาช่วยถือของอย่างกับเป็นดาวพระศุกร์โดนจิกใช้เยี่ยงข้าทาส คงจะเป็นระบบคณะวิศวะที่ให้เคารพยำเกรงรุ่นพี่ ถึงได้เชื่อฟังและจงรักภักดีกับไอ้คิงอย่างกับเป็นเจ้าชีวิตมันอย่างนั้นล่ะ
และ...ใช่ครับ ผัวเชี่ยนั่นจอดรถคณะตัวเอง แล้วให้ผมเดินมาเองทั้งที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกัน!
ยังดีนะที่มีรถกอฟรับส่งนักศึกษา ไม่งั้นผมมีหวังหอบแฮร่กตั้งแต่เช้า เหงื่อแตกก่อนเข้าห้องเรียนกันพอดี
“พี่นิล...”
“ไปไกลๆ ก่อนกูจะโทรหาไอ้คิงว่ามึงจูบปากกู”
“ผมเปล่านะ!”
“เปล่าเชี่ยไร มึงดื่มนมจืดกู มันคือจูบทางอ้อมชัดๆ!”
ไอ้เบอร์หนึ่งทำหน้าชอกช้ำระกำทรวงเป็นหนักหนา ก่อนจะยอมเดินกลับคณะตัวเองด้วยท่าทางน่าสงสารเหมือนนางเอกโดนรังแกไร้ทางสู้
“นิล” ชายหันมามองผมท่าทางเป็นห่วง “ระวังตัวดีๆ ล่ะ”
“เออน่า คนอย่างกูมีแต่โดนฉุดไม่โดนกระทืบหรอก วางใจได้”
“มันวางใจตรงไหน!” หญิงตบโต๊ะอย่างโมโห “กูสั่งเลยนะนิล อยู่ที่มหาลัย มึงจะไปไหนต้องบอกพวกกู ส่วนจะกลับไปกกผัวที่บ้านก็ตามสบาย แต่ถ้าจะไปแร่ดที่ไหน ก็ต้องลากกูกับชายไปด้วย!”
“กูจะไปแร่ดที่ไหนได้ กูก็วนๆ แต่กับผับไอ้คิงนั่นแหละ ประหยัดดี” ผมยักไหล่ “มึงกับชายไม่ชอบดื่มเหล้า ไม่ต้องฝืนหรอกน่า กูก็ออกล่าเหยื่อเองมานาน ไม่เห็นจะเป็นอะไรสักที ที่นั่นก็เป็นถิ่นไอ้คิง คงไม่มีใครนึกหมั่นไส้หน้าหล่อโฉดๆ นั่นจนมาลงกับกูคาตามันหรอก”
“อย่าทำเป็นเล่นได้มั้ย!”
“ชีวิตกูมันเคยเลวร้ายกว่านั้นเยอะ หญิง” ผมฉีกยิ้มหวาน ขณะที่ไอ้ชายกุมมือผมอย่างให้กำลังใจ “เรื่องแค่นี้น่ะ จิ๊บจ๊อย”
“พี่นิล”
พอเลิกเรียน ผมก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่าไอ้เห้มันยืนรออยู่หน้าห้อง
“มีอะไร จะเลี้ยงเหล้ากูคืนรึไง”
เมื่อคืนมันเมามากครับ พอเห็นผมจูบกับเชี่ยคิงก็ดื่มเอาๆ ไม่ยอมพูดกับผมสักคำเหมือนงอนอย่างนั้นล่ะ แล้วมันใช่สิทธิ์กูมั้ยที่ต้องง้อ ผลคือผมปล่อยมันนอนช้ำคากองเหล้า กลิ่นเหม็นหึ่งน่ารังเกียจมาก และท้ายที่สุดก็โดนพี่ใหญ่แบกออกไปพร้อมบิลกองโตที่เห็นแล้วกลืนน้ำลายเอื๊อกว่าดีแล้วที่ผัวกูรวย
“เปล่าพี่ แต่ผม...ผมอยากคุยกับพี่ ส่วนตัว...”
ผมเหล่มองชายกับหญิง ก่อนจะพยักหน้ารับเพราะคิดว่าคงต้องบอกปฏิเสธไอ้เห้นี่ไปตรงๆ และผมก็ไม่อยากให้สายสัมพันธ์น้องรหัสต้องมาพังเพราะเรื่องพรรคนี้ด้วย
“นิล...”
“เดี๋ยวกูมา แปปเดียว” ผมทำมือแบบสบายหายห่วงแล้วเดินตามไอ้เห้ไปที่ดาดฟ้าของตึก ยามเย็นลมพัดโกรกแสนสบาย ชวนให้หนุ่มหล่อสุดเซ็กซี่อย่างผมรู้สึกอยากลงไปนอนขี้เกียจกับพื้นสักชั่วโมงซะจริงๆ “เอ้า ว่ามา มึงอยากจะสารภาพอะไรก็พูดมาตรงๆ แมนๆ หน่อย”
“ผมชอบพี่นิลนะ!”
“อืม ขอบใจ แต่กูไม่ได้ชอบมึง” ผมตอบทันที “ที่กูนอนกับมึงก็แค่นิสัยเสียๆ ของกูที่เห็นใครหน้าตาถูกใจเข้าหน่อยก็อยากจะซั่ม ถ้านั่นทำให้มึงเข้าใจผิดคิดว่ากูมีใจ ก็ต้องโทษที แต่คนส่วนใหญ่น่าจะรู้กันหมดนะว่ากูง่าย...กับคนที่อยาก ขนาดพี่แป็ปยังเกือบเสร็จกูเลย”
ไอ้เห้ทำหน้าเหวอ
“ก็แค่เกือบ ก่อนพี่มันจะรู้ว่าเป็นสายรับเหมือนกู เกือบตีฉิ่งแล้วมั้ยล่ะ” ผมยักไหล่หวังให้ไอ้เห้นี่ขำ แต่มันกลับยืนก้มหน้าก้มตาทำท่าเครียดจนชักอยากจะเดินไปตบหัวมันแรงๆ สักทีว่าจะเก๊กหน้าหาพ่อมึงเรอะ
“ทำไม...ต้องเป็นพี่คิงด้วยล่ะครับ”
“มันรวย Kใหญ่ หน้าตาดี สเปคกู” ผมตอบแบบน่าไม่อาย “มีอะไรจะถามอีกมั้ย”
“แล้วพี่ไม่กลัวเลยเหรอ”
“กลัวอะไร” ผมชักจะสงสัยจริงๆ แล้วนะ ผมเรียนมาสองปีไม่เห็นจะรู้อะไรเลย แต่ไหงกับไอ้เห้ปีหนึ่งที่ไม่รู้ว่าผมง่ายแต่ไหงกลับรู้ว่าคิงมันอันตรายวะ
“ถ้าพี่ไม่รู้ คืนนี้ เที่ยงคืน มาเจอผมที่รถไฟฟ้า” ไอ้เห้มันหันมาพูดด้วยเสียงจริงจัง “ผมจะพาพี่ไปเห็นเอง”
คืนนั้น ผมในชุดฮู้ดสีดำร่นแขนสามส่วมเดินเข้าหาไอ้เห้ที่โบกไม้โบกมือในมุมมืดที่ร้างคน
แน่ล่ะว่าผมไม่ได้โทรบอกชายกับหญิง นี่เป็นเรื่องผัวผม พวกมันไม่เกี่ยวสักหน่อย
“มึงจะล่อกูไปข่มขื่นป่ะวะ”
“มีหวังโดนต่อยน่ะสิ ตอนเช้านั่นผมเห็นนะพี่” ไอ้เห้พูดกลบเกลื่อนทั้งที่หน้าตาดูจะอยากจะเลียไหปลาร้าของผมที่วับๆ แว่บๆ จากเสื้อฮู้ดที่ลดต่ำจนเห็นอะไรต่อมิอะไรเวลาก้มตัวเต็มแก่ ผมกดหัวมันเพื่อให้เลิกหื่น ก่อนจะชี้นิ้วสั่งให้มันนำทาง
“มาทำอะไรดึกๆ ดื่นๆ วะ ผับไอ้คิงมันปิดแล้วไม่ใช่รึไง”
ผับปิดเร็ว ป้องกันเรื่องยาวคาวโลกีย์ โคตรคนดีอ่ะผัวผม
“ก็เพราะว่าปิดน่ะสิครับ มันถึงเป็นเวลาเต็มที่ของคิงส์คลับ”
“คิงส์คลับ? คิงส์ผับรึเปล่ามึง อันนั้นกูรู้อยู่แล้วนะ”
“หึ พี่ไปเห็นเองเถอะ ผัวพี่นะไม่ใช่แค่เจ้าของผับธรรมดาสักหน่อย” ไอ้เห้เอ่ยเสียงต่ำ ก่อนจะเดินอ้อมมาหลังร้านโดยส่งสัญญาณให้ผมคลุมฮู้ด แล้วค่อยเคาะประตูที่ควรจะปิดสนิท
“รหัส”
“คลาวน์082 ผมเอาเงินมาคืนครับพี่”
“แล้วไอ้ข้างหลังนั่นล่ะ”
“เพื่อนผมเอง เขาก็ติดหนี้พี่คิงอยู่เหมือนกัน”
“เข้ามา”
ศูนย์แปดสอง? งั้นกูต้องสองแปดศูนย์ด้วยมั้ย ที่นี่ขายหวยใต้ดินรึไงวะไอ้ห่า ผมนี่โคตรงงเลยตอนไอ้เห้ลากผมเข้าประตูพร้อมยื่นบัตรสมาชิกที่เหมือนจะมีลายเดียวกับรอยสักเหนืออกของไอ้คิงที่ผมเห็นทุกคืน
ไอ้เห้ยัดเงินใส่คนหน้าดุซึ่งนั่งเฝ้าประตูด้วยหน้าตาเหี้ยมโหดเกินกว่าจะเป็นเด็กมหาลัยแน่ๆ ล่ะ ผมโดนลากเข้าไปด้านในจนถึงม่านสีแดงที่มีเสียงดนตรีมันส์ๆ แต่เบากว่าในผับเล็ดลอดออกมา ดูเหมือนจะมีรสนิยมดีกว่าเพราะแลจะคลาสิกสไตล์ซะด้วยสิ
และพอเปิดเข้าไปข้างใน
ก็พบว่าแม่งคือสถานบันเทิงอีกแห่งหนึ่งชัดๆ!
“พี่ อย่าอ้าปากกว้าง เดี๋ยวคนสังเกตเห็น”
เชี่ย! กูไม่ได้อ้าปากกว้าง กูแค่ตกใจ กูตกใจไม่ได้เหรอสัด!
ผมพยายามทำหน้าให้เป็นปกติเมื่อเห็นคนหน้าโหดเดินถือไม้สนุกเดินผ่านไปแล้วลงขันเฮฮาอย่างกับรู้จักคุ้นหน้าคนไปทั่ว หากข้างนอกเป็นผับดื่มเหล้าสนุกๆ ที่นี่มันก็คือเหล่งมึนเมาชั้นเยี่ยมเพราะแม่งมีทุกอย่างตั้งแต่ไฮโล สนุ๊กเกอร์ และโต๊ะไพ่แบล็คแจ็ค เชี่ย นี่ผมหลุดเข้ามาในคาสิโนรึไง พรมแดงปูอย่างดี ห้องหับประดับตกแต่งด้วยรูปปั้นหรูหรา ด้านบนถึงขั้นมีแชนเดอเลีย แต่ไอ้คนที่เดินสวนไปสวนมาเสือกเป็นระดับชายสี่หมี่เกี๊ยวข้างทาง! ไม่สิ มันมีตั้งแต่ระดับชั้นสถุน เรื่อยไปถึงพวกใส่สูทนั่งแบะอกอยู่ตรงโต๊ะไพ่ขนาดใหญ่ที่ดูจะมีขาเล็กขาน้อยและขาเก๋าจับจองจนเต็มพ่วงด้วยกลุ่มไทยมุงที่ส่งเสียงมาเป็นระยะ
King’s Club
การตกแต่งน่ะใช่ แต่ข้างในน่ะโคตรมั่ว!
ไอ้เห้ลากผมที่ยังตะลึงขึ้นชั้นสอง คิดอยู่นานแล้วว่าผับไอ้คิงชั้นสองที่โคตรน้อยเหมือนไม่อยากรับลูกค้า ที่แท้ก็เบียดมาสร้างคลับชั้นสูงอยู่นี่เอง!
หากข้างล่างเป็นเป็นพวกมิกซ์แอนแมดส์ จะเด้นซ์ จะชิว จะนั่งเล่นตามสบายใจชอบ ชั้นบนก็คือห้องแดกเหล้าหรูที่มีขวดไวน์เรียงเกลื่อน ขนาดพนักงานยังใส่สูทผูกไทค์อย่างดี มันคงจะดูแพงหรอกน่ะหากไม่ติดว่ามีม่านสีแดงประดับในแต่ละโต๊ะ แถมไอ้โต๊ะที่ปลดลงมานี่ก็ได้ยินเสียงคราอืออ้าสะเทือนลือลั่นไปทั่วแบบไม่อายสายตาใคร ส่วนบางโต๊ะนั้นผมเหมือนจะเห็นแว่บๆ ที่ปลายหางตาว่าในม่านนั้นกำลังนั่งเสพยาอยู่...ไอ้เชี่ยคิง มึงนี่เหมาหมดเลยใช่มั้ย จะแพงจะต่ำจะทรามหรือเริดหรู มึงรวบหมดเลยสินะ!
ผมรู้แล้วว่าทำไมแม่งรวยนัก ก็มาจากเงินไม่สุจริตนี่เอง!
ลูกค้ามีตั้งแต่เด็กไม่บรรลุนิติภาวะไปถึงวัยสามสิบสี่สิบปีที่ดูหมกหมุ่นไม่มีอะไรทำเลยมาต้องมาผลาญเงินที่นี่ ผมไม่รู้จะบรรยายยังไง โดยเฉพาะเมื่อเดินเข้าไปลึกในบาร์เสิรฟ์ไวน์แล้วพบว่ามันมีขายถุงยางทุกยี่ห้อวางเรียงเป็นตับ! มันใช่อะไรที่ควรวางคู่กันเหมือนแพคเกจซื้อหนึ่งแถมหนึ่งมั้ยเนี่ย!
ให้ตาย นี่มันแหล่งซ่องสุมในคราบของคลับหรูหราชัดๆ เสี่ยมชิบหาย!
“มึงติดหนี้อะไรไอ้คิง”
ผมคิดว่าที่ไอ้เห้นี่รู้จักเพราะเป็นลูกค้ามันแน่ๆ
“พนันบอลอ่ะพี่” มันตอบเสียงเจื่อน หน้าตาบ๊องแบ๊วแต่ดวงซวยนะมึง “ติดอยู่สองแสน จนตอนนี้ยังจ่ายไม่หมดเลย”
“เชี่ย! สองแสน!”
บอกกูทีว่ามึงพนันบอลหรือพนันลูกบอลทองวะ
“พนันจริงน่ะแสนเดียว ที่เหลือคือดอกเบี้ย พี่คิงนอกจากจะเป็นเจ้าของที่นี่แล้วยังรับกู้เงินนอกระบบด้วยนะพี่ เรตของคนติดหนี้ก็เลยคิดในระดับเดียวกัน”
แหงล่ะ เงินเยอะขนาดนี้มึงคงปล่อยกู้สนุกเลยสิ แล้วกับกูแค่ห้าพันยังหวง เชี่ย!
“พี่ไม่กลัวเลยเหรอ”
“ทำไมกูต้องกลัว กูไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ กูแค่บ้าเซ็กซ์ และกูก็ไม่คิดจะก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวไอ้คิงมันด้วย”
อย่างที่บอกว่าผมน่ะผ่านช่วงแย่ๆ จนการยอมรับน่ะเกินขอบเขตสติของคนปกติไปแล้ว ถ้าไม่ทำให้ตัวเองเดือดร้อน ใครจะทำอะไรก็เรื่องของเขา ผมไม่มีสิทธิ์ไปห้ามการหาเงินของคนอื่นหรอก
“มันไม่ใช่แค่นี้น่ะสิพี่” ไอ้เห้ทำหน้ากังวล “ลูกน้องพี่คิงน่ะเยอะ แต่ลูกหนี้พี่คิงก็มาก มีทั้งโดนโกงและพวกที่ไม่พอใจกับพี่คิง ถ้าพวกนั้นรู้ว่าพี่เป็นคนรัก...พี่ต้องโดนหมายหัวแน่ๆ แล้วพี่คิดว่าจะรับมือกับพวกนี้ได้งั้นเหรอ”
มันผายมือ เผยให้ผมเห็นพวกบ้าที่หน้ามืดตามัวเสพสมทั้งกามทั้งการพนันอย่างกับพวกไร้หัวคิด มีบางคนเดินมาชนผมแล้วล้วงจะขโมยกระเป๋า เลยโดนผมถีบกระเด็นจนกระแทกโต๊ะ
“เฮ้ย อะไรวะ!”
ทุกสายตาจับจ้อง มองที่ผมกับไอ้เห้ด้วยสายตาคลุ้มคลั่งไม่เหมือนคนปกติที่ผมเคยพบเจอ คนพวกนี้ไม่เคยเข้ามาตัวต่อตัวอย่างที่ผมต่อยกับกระสอบทราย แต่ชอบการลอบกัด บ้าคลั่ง เหมือนคนเสพยาที่ไร้สติ
ไอ้บ้าที่โดนผมถีบหยิบขวดเหล้าแล้วกระแทกกำแพง จนกลายเป็นปากฉลาม
“หาเรื่องกูงั้นเหรอ!”
นี่สินะโลกอันตรายที่แป็ปเตือน
ผมมองคมขวดแหลมยึกยัก หากโดนแทงไม่วายเป็นบาดทะยัก ไอ้เห้พยายามดึงผมไปด้านหลัง แต่ผมก็สะบัดมันทิ้งแล้วเผชิญหน้ากับไอ้ขี้เมาหน้าแดงที่ดูจะไม่มีสตินัก
เชี่ย กูเดาทางมึงไม่ได้เลยสัด มึงโยกเพราะจะพุ่งเข้าหาหรือมึงเซ กูงง!
“เอาเลย! เอาเลย!”
“แทงสวยๆ หน่อย!”
เสียงเชียร์อย่างกับชมมวยวัดข้างสนามยิ่งทำให้ผมเสียสมาธิ จนกลายเป็นความรู้สึกอึดอัดอยากหนีไปให้ไกล แต่ก็ทำไม่ได้เพราะเสือกยืนปิดทางลงกันหมด มีบางคนโยนเงินอย่างพนันว่าผมจะรับมือไอ้เมานี่ได้นานกี่นาที มันใช่เรื่องที่พวกมึงจะสนุกกันมั้ย!
ผมชักรู้สึกแย่ แต่ก็ไม่อยากดึงไอ้เห้มาเจ็บตัวเปล่า อย่างน้อยผมคิดว่าน่าจะรับมือได้ดีกว่าไอ้เด็กรุ่นน้องที่ไปติดหนี้หัวโตด้วยท่าทางเอ๋อๆ แต่ก็ไม่มั่นใจนักหรอกว่านั่นเป็นความคิดที่ผิด...หรือถูกกันแน่
“เอาเลย!”
ผมขาสั่น เชี่ย นี่ผมขาสั่นเรอะ แต่ก่อนที่ไอ้เมาจะกระโจนเข้าหาหรือโดนใครแถวนั้นผลักใส่เพราะทนรอไม่ไหว พนักงานในชุดสูทก็เดินเข้ามาคุมตัวหิ้วแขนไอ้บ้านั่นจับโยนลงบันไดดังโครม! ทุกเสียงตะโกนโหวกเหวกหยุดชะงัก ก่อนจะกลายเป็นความเสียดายและพากันแยกย้ายโดยไม่สนใจผมกับไอ้เมาทั้งที่เพิ่งยืนเชียร์กันเหยงๆ
“แม่ง เซ็งว่ะ”
กูสิเซ็ง!
ทั้งเซ็งทั้งกลัวเลยไอ้พวกเชี่ย ผมถอยหลังไปสงบใจข้างๆ ไอ้เห้ ก่อนจะชะโงกหน้ามองไอ้เมาซึ่งกำลังโดนคนชุดสูทรุมล้อมรอบและทวงเงินเสียงดังด้วยถ้อยคำแสนสุภาพขัดกับการกระทำสุดๆ
“อย่าลืมจ่ายค่าขวดเหล้าและค่าทำความสะอาดมาสองหมื่นนะครับคุณลูกค้าที่เคารพ”
เชี่ย โคตรโกง!
ผมยังคงยืนนิ่งเพราะทำอะไรไม่ถูก ก่อนเสียงหัวเราะจากชั้นล่างจะดึงสติให้กลับมาสู่ความจริง ผมกวาดตามอง...มีคนได้แจ็คพอตใหญ่และกำลังถูกชื่นชมนับถือล้อมหน้าล้อมหลัง อีกด้านคือไอ้เมาที่โดนชกจนสลบเพราะไม่มีเงินจ่ายและโดนลากออกไปนอกร้าน ขณะเดียวกันข้างหลังของผมก็มีเสียงร้องอ๊าและจังหวะกระแทกของการเสพสม ตัดขาดกับเหตุการณ์สองอย่างแรกโดยสิ้นเชิง
ที่นี่น่ะเหรอ...King’s Club
“อ้าว เมียมาทำอะไรตรงนี้ล่ะครับ”
ไอ้เห้ร้องลั่นเมื่อถูกกระชากเสื้อจนล้มหงายไปด้านหลัง ก่อนที่บ่าของผมจะถูกท่อนแขนหนักๆ สักลวดลายมาถึงข้อมือพาดเข้าให้ ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นผัวเชี่ยของผมนี่เอง
“ถ้าอยากจะเป็นสมาชิกคลับต้องจ่ายมาห้าพัน แต่เพื่อเมีย กูลดให้เหลือห้าร้อยแล้วกัน”
“สมาชิกคลับเชี่ยอะไรล่ะ!” ผมสะบัดตัวหนี ก่อนจะรู้สึกไม่เข้าท่าเมื่อทุกสายตาหันมามองผมอีกครั้ง แต่มันแตกต่างจากเดิม มันคือความตื่นตะลึงที่ผมตะโกนใส่หน้าเจ้าของที่เผยยิ้มเย็นอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เชี่ยคิงในชุดเชิ้ดสบายๆ อย่างที่มันชอบใส่เผยให้เห็นรอยสักที่อกและข้อแขน ผมสีแดงเสยขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าคมโฉดอย่างร้ายกาจ มันยกมือห้ามไม่ให้ลูกน้องที่เพิ่งจับไอ้เมาเมื่อครู่จับผมโยนออกไป ก่อนจะเดินเข้ามาจูบปากผมแรงๆ หนึ่งที
“บนเตียงมึงอาจเป็นคนคุม แต่ที่นี่กูเป็นจ้าว จำไว้นะ นิลกาฬ”
ผมเข้าใจสาเหตุที่ต้องประกอบกิจกามเข้าจังหวะกับมันตอนดึกดื่นรุ่งสางแล้ว เพราะกว่ามันจะกลับมาคอนโดก็ปาไปตีหนึ่ง ฉะนั้นเวลาเยผม เลยต้องทำถึงตอนตีสามตีห้าทุกที
กูจะตายแล้วไอ้เชี่ย...
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า! เบาหน่อยเชี่ย! อื้อ!!!”
เป็นครั้งแรกที่ผมบอกให้มันเบาแรง ทั้งที่ปกติมักจะสนองตอบอย่างถึงใจ คนคนเดิม มังกรตัวเดิม และถ้ำเดิมๆ แต่วันนี้เหมือนอารมณ์จะพุ่งสูงน่ากลัวอย่างบอกไม่ถูก ผมกัดฟันเมื่อช่วงล่างถูกกระทั้นอย่างรุนแรงกว่าเดิมทั้งที่ร้องขอให้ผ่อนแรง โอย เชี่ย หลังกูจะหักแล้ว!
ใบหน้าที่มักมองผมอย่างหื่นกามกลับกลายเป็นนักล่าจ้องขย้ำเหยื่อ และนั่นทำให้ผมแทบจะทนรับไม่ได้กับบทรักอันรุนแรงซึ่งไม่ยักจะเสียวไปถึงสวรรค์เหมือนเดิม กลับกัน มันชวนให้รู้สึกเหมือนถูกระบายความใคร่เพียงฝ่ายเดียว ผมร้องลั่นเมื่อถูกกัดที่คอจนเลือดซึม โอย...เชี่ย ไม่เคยมีใครเรียกเลือดกูเลยนะ!
“วันนี้ไม่เร้าใจเลยนะครับเมีย”
มันว่าทั้งที่กระแทกโครมๆ จนผมสะเทือนไปหมด มือจิกกับเตียง ใบหน้าซุกกลั้นเสียงเพราะไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ใจ มันคงเป็นอารมณ์พยศเล็กๆ เมื่อรับรู้ว่าแท้จริงแล้วไอ้เชี่ยคิงมันแค่หยอกผมเล่นเท่านั้น ผัวเมียเชี่ยไรล่ะ! มันก็แค่ติดใจเซ็กซ์กับผม ยกให้เป็นหัวบนเตียง แต่อย่างอื่นไม่สนใจ เหมือนกับว่าคุณค่าของผมก็มีแค่ร้องครางบนเตียงเท่านั้น
แต่แม่ง...ถึงจะอยากขัดขืน แต่อารมณ์ดิบๆ แบบเจ็บๆ แบบนี้ก็ชวนให้รู้สึกเสียวจี๊ดๆ ดีเหมือนกันว่ะ
ว่ามันไปตั้งมาก เอาเข้าจริงผมก็เสพติดเซ็กซ์กับมันนั่นแหละ
เออ แล้วกูจะหวังอะไรวะ ไม่คิดอยากให้มันทำดีแต่แรก มาจี๊จ๋าขับรถไปรับไปส่งก็ไม่ใช่ หรือจะเอาเงินฟาดก็ยิ่งดูถูกไปใหญ่ แล้วนี่กูอารมณ์เสียอะไร
บรรยากาศในคลับแม่งพาเตลิด!
พอคิดได้ ผมก็รีบพลิกตัวกอดคอเชี่ยคิงที่ชะงักตัวอย่างงุนงง
“อะไรอีกครับเมีย”
“มึงสิต้องเข้ามาลึกกว่านี่อีก เชี่ย ไม่ทันใจเลย”
มันเบิกตากว้าง ก่อนจะหัวเราะหึอย่างเคย สีหน้าเย็นชากลายเป็นความหยอกล้อชอบพอ ไอ้เชี่ยนี่แม่งสองบุคลิกจริงๆ สินะ
“ถ้ากูจัดหนักเกินไปจะร้องไห้ก็ได้นะครับเมีย”
ร้องไห้บ้านมึงน่ะสิ! มึงดูถูกกูเกินปะ...เชี่ย! เชี่ย! เชี่ย!
ผมตัวบิดเกลียวเมื่อโดนมันโถมใส่อย่างรุนแรงกว่าปกติ เงยหน้าแหงนพยายามหาอากาศหายใจเพราะแม่งแทบไม่เว้นจังหวะให้กูได้โกยอากาศเข้าปอดเลย ขนาดจะครางออกมาเสียงดังยังแทบทำไม่ได้เพราะไม่ทันจะส่งเสียงแรงที่ส่งสวนเข้ามาอย่างโคตรเชี่ยก็รุกเร้าจนผมปั้นเสียงออกมาไม่ทัน
ได้ยินแต่เสียงเตียงโขยกและแรงกระทั้นที่เด้งสวนเข้าถ้ำผมดังป้าบป้าบ ผมถึงกับร้องไม่เป็นภาษา ความคิดทุกอย่างกระจุยกระจาย เสียวจนแทบวิ้ง ไอ้เชี่ย โคตรเจ็บ แต่ก็โคตรมันส์!
“เป็นอะไรล่ะเมีย สู้มั้ย”
กูก็อยากจะสู้ แต่มึงแม่งโคตรเสี้ยน!
ทั้งที่ชอบเด้งเอวสวนแต่ครั้งนี้โดนกระแทกกดจมเตียง ผมแทบจะกลายเป็นตุ๊กตาให้มันดัดท่าทางตามใจชอบเพราะเหมือนร่างกายแทบไม่ฟังคำสั่ง เรี่ยวแรงถูกสูบอย่างหนักไปพร้อมๆ กับการปลดปล่อยที่เร็วที่สุดในชีวิต
“อ๊ะ! อะ...อะ ฮะ..อะ”
ขนาดจะครางยาวๆ เพราะเสร็จแม่งยังไม่ให้กูทำ! ผมได้แต่บิดตัวด้วยความเสียวซ่านที่แล่นพล่านไปทั้งกายจนตาแทบพร่า หายใจก็ไม่ทัน ครางก็ไม่ทัน โอยแม่ง มึงไปตายอดตายอยากมาจากไหน! นี่มึงมีเซ็กซ์หรือเห็นกูเป็นตุ๊กตายาง!
“ยอมแพ้แล้วเหรอเมีย”
ป้าบ ป้าบ ป้าบ
เชี่ย! เชี่ย!
ผมจิกเล็บกับเตียงเพราะตัวมันโขยกเคลื่อนจนตามจิกไม่ไหว ลมหายใจหอบระรัวยิ่งกว่าวิ่งมาราธอนสิบกิโลเมตร สายตาแทบโฟกัสภาพไม่ได้เพราะแม่งรู้สึกแต่ช่วงล่างซึ่งถูกกระทำอย่างรุนแรงแต่เร้าใจชิบหาย ยิ่งโดนมันพูดเสียงกระส่าอย่างท้าทายก็ยิ่งทำให้รวบรวมสติสู้ศึกสุดชีวิต แม้กูจะเด้งเอวสู้มึงไม่ทัน แต่อย่างน้อยก็มาวัดกันที่ความอึดละวะว่าใครจะล้มก่อน!
กูไม่ล้มแน่ๆ ล่ะเพราะนอนให้มึงเอาอย่างเดียว เพราะงั้นก็อยู่ที่มึงแล้วโว้ยไอ้ผัวว่าแม่งจะคึกได้อีกนานแค่ไหน!
ผมมองมันกลับด้วยรอยยิ้มก่อนจะแหงนหน้าอีกครั้งเพราะเสียวชิบหาย ดูเหมือนมันจะเข้าใจความต้องการที่ผมจะสื่อถึงได้ยิ่งเร่งจังหวะจนต้องปัดป่ายมือไปทั่วเพราะแค่จิกกับเตียงมันช่วยระบายความหวาบวามที่โคตรเชี่ยนี่ไม่ไหวแล้ว
ตายเป็นตายสิวะ!
-----
น้องนิลนี่เป็นพวกลุยมาลุยตอบค่ะ จะรอดมั้ยก็อีกเรื่อง แต่ถ้าเรื่องบนเตียงนี่สู้ขาดใจ!
