ช็อกโก้ดูจะกระตือรือร้นที่จะช่วยเหลือผมมาก ถึงกับนัดวันเสียเสร็จสรรพ และเฉลยความพิศวงสงสัยเมื่อเขามาพบผมพร้อมกับสาวอีกสองนางซึ่งหนึ่งในสองนั้นผมรู้จักดี
“เจอกันอีกแล้วนะคะ” ออโรร่าทักผมทันทีที่เข้ามาในห้อง
“เฮ้ย!” ผมร้องเสียงหลง “นี่หมายความว่ามึงเป็น..”
“เก็บความลับให้ช็อคด้วยนะครับ” เขาบอกผมด้วยเสียงต่ำ ก่อนจะหันไปแนะนำกะเทยสาวสวยอีกนางที่ดูเผิน ๆ เป็นชะนีดี ๆ นี่เอง “ไอริส ออโรร่า สองคนนี้จะช่วยจัดการบอดี้การ์ดของแฟนพี่ให้”
ผมมองพวกหล่อนอย่างดูถูก “บาง ๆ อย่างนี้เนี่ยนะ”
“ยูโดสายน้ำตาลทั้งคู่ พี่แทนจะลองมั้ยล่ะ”
ผมทำคอย่นส่ายหน้าปฏิเสธ “เฮ้ย กูล้อเล่น ว่าแต่..ยัยเจสซี่นั่นสายอะไรวะ”
“สายดำสองชั้นอ่ะพี่” ชอคโก้ตอบด้วยสีหน้าหนักใจ “แต่ไม่ต้องห่วง ช็อคจะดึงความสนใจของยัยนั่นไว้ด้วยการปล่อยข่าวเรื่องพิธีสถาปนาไททาเนียใหม่ รับรองมันต้องวิ่งแจ้นมาตามสืบหาแน่ ๆ ว่าใครกำลังเลื่อยขาเก้าอี้มันอยู่ และกว่าที่มันจะรู้ตัว..”
“..ไอ้แบดก็เสร็จกูไปแล้ว” ผมต่อประโยคของชอคโก้พร้อมกับหัวเราะหื่น ๆ
“เราจะปฏิบัติการในสิบนาทีนี้ ซึ่งเป็นเวลาที่เป้าหมายเปลี่ยนคาบเรียนพอดี” เขาพลิกนาฬิกาดูแล้วหันมาจ้องตาผม “แล้วช็อคขอทวงสัญญา ช่วยส่งตัวไอ้กายให้ช็อคด้วย”
“เดี๋ยวนี้เลยเหรอ” ผมอิดออด
“ยื่นหมูยื่นแมวไง แลกเปลี่ยนพร้อม ๆ กันจะได้ไม่มีใครหักหลังใคร”
ผมจ้องหน้ามันกลับ เราสู้สายตากันพักหนึ่ง
“ก็ได้วะ เอากระดาษมา”
ไอริสหยิบกระดาษกับปากกามาให้ ผมไปนั่งที่โต๊ะและร่างจดหมายถึงน้องกาย ช็อกโก้ชะโงกดูข้ามหลังผมตลอดเพื่อตรวจสอบว่าผมใส่อะไรที่ไม่ชอบมาพากลลงไปหรือเปล่า
“ทำไมลงชื่อแบบนี้ล่ะพี่” เขาถามเมื่อเห็นชื่อของตัวละครที่โด่งดังของกิมย้งตัวหนึ่งแทนชื่อผม
ผมยักไหล่ “นี่แหละน้องกายจะยิ่งเชื่อว่ากูเขียนจริง ๆ เพราะว่าเราเล่นเรียกกันเป็นนิยายกำลังภายในอยู่ประจำ มึงก็เคยได้ยินนี่”
ช็อคโก้พยักหน้าก่อนจะพับบรรจุซอง แล้วปิดผนึก เขาก้มหัวให้ผมนิดหนึ่ง
“เจอกันเมื่อเสร็จงาน”
ผมพยักหน้ารับ แล้วออกไปจากห้องพร้อมกับออโรร่าและไอริส
ออโรร่าและไอริส ลงมือได้อย่างรวดเร็วและฉับไวยิ่งกว่าที่เจสซี่ทำกับผมเมื่อวันก่อนอีก พวกหล่อนฟาดสันมือเข้าจุดตายด้วยท่ากึ่งคาราเต้กึ่งยูโดจนผมนึกสยองแทนคนโดน
บอดี้การ์ดรุ่นราวคราวเดียวกับไอ้แบดล้มลงพื้นราวใบไม้ร่วง ทว่าตัวคิงยังคงยืนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วยสายตาเย็นชา
“จัดการเขาด้วยมั้ยคะ” ออโรร่าถามผมพร้อมกับใบ้สายตาไปทางไอ้แบด
ผมส่ายหน้า “มัดพวกนี้ไว้ แล้วออกไปดูต้นทางให้หน่อย”
พวกหล่อนจับไอ้พวกที่ยังสลบอยู่มัดรวมกันอย่างรวดเร็วและทิ้งไว้ในห้องเรียน ไอริสรูดม่านปิดให้แล้วออกไปจากห้องพร้อมกับคู่หู ปิดประตูทิ้งไว้ให้ผมกับไอ้แบดยืนจ้องหน้ากันในแสงสลัว
“ต้องการอะไร”
เป็นประโยคแรกของเจ้าชายดอกพิกุลทอง ผมพยายามแข็งใจไว้ให้มากที่สุด อย่าได้อ่อนแอกับความเย็นชาอีกฝ่าย
“กูไม่ได้ต้องการอะไร กูแค่..แค่อยากเจอมึง ไอ้แบด มึงพูดกับกูเหมือนเดิมได้มั้ย มึงจะด่ากูก็ได้ แต่อย่าทำเป็นเหมือนคนไม่รู้จักกันแบบนี้ มึงรู้หรือเปล่าว่ากูเจ็บตรงนี้มากแค่ไหนเวลาที่เห็นสายตาของมึง”
ผมกำหมัดแน่น ทุบลงไปที่อกข้างซ้ายของตัวเอง
แบดเบือนหน้าหนี
“เราไม่รู้จักกัน อย่ามายุ่งกันดีกว่า”
ผมเดินดุ่ม ๆ เข้าไปใกล้จนสัมผัสความร้อนจากร่างกายของเขา คอเสื้อของคุณชายถูกผมกระชากให้มันหันหน้ามาหาผม
“มึงไม่รู้จักกูใช่มั้ย งั้นมึงพูดใส่หน้ากูสิ! พูดมาเลยว่า กูไม่รู้จักมึง มึงพูดมา! สามครั้งแล้วกูจะหายไปจากชีวิตมึงเดี๋ยวนี้เลย!”
“กูไม่รู้จักมึง” เขาพูดด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ตามที่ผมสั่ง “กูไม่รู้จักมึง” สายตาของเขากระตุก แต่ยังคงพูดประโยคต่อไป “กูไม่รู้จัก..”
ผมไม่ยอมแล้ว ต่อให้ใครหาว่าโกงก็ว่าไปเถอะ ปากของผมสัมผัสความร้อนอุ่นของเนื้อนุ่ม ซึ่งตอนแรกมีท่าทีขวยเขินจากการไม่ได้พบปะกันนาน แต่เมื่อเครื่องของเราร้อน ลิ้นอุ่นของเขาก็ฉกสวนกลับเข้ามาทั้งพัวพันอย่างรักใคร่
เราจูบกันนาน นานมาก แต่เหมือนยังไม่นานพอให้ผมพอใจ ผมผละปากออกมาอย่างเสียดายและจ้องมองตาสวย ๆ คม ๆ ของเขา
“ทีนี้ มึงรู้จักกูแล้วหรือยัง”
แบดจ้องหน้าผมอย่างตกตะลึง หางตาของมันมีหยาดน้ำใสไหลออกมา
“กูไม่น่ารู้จักมึงเลย..แทน ไม่น่าเลย”
ผมรวบร่างมันกอดอย่างดีใจ
“อย่าแตะต้องตัวกู” มันผลักผมออก สายตาเกรี้ยวกราดและเกลียดชัง
ผมมองมันอย่างสับสน
“มึงมันสกปรก โสโครก มึงมีอะไรกับใครมาเท่าไหร่ มึงร่านแค่ไหนกูก็รับได้ แต่...”
ไอ้แบดกัดริมฝีปากของมัน ตาแดงก่ำ เค้นเสียงออกมา “..แต่กับพ่อแท้ ๆ ของกู กูรับไม่ได้”
“ไอ้เชี่ย” ผมด่ามัน “นี่มึงคิดว่ากูมีอะไรกับพี่หฤษณ์เหรอวะ”
ดวงตาของมันเป็นประกายดังไฟ “มึงไม่เคยพลาดนี่”
“มึงต้องเชื่อกูนะแบด กับพ่อมึงอย่าว่าแต่จะมีอะไรด้วยเลย กอดหรือจูบกูก็ไม่เคยสักครั้ง”
“แล้วนี่มันอะไร”
ไอ้แบดเขวี้ยงซองสีน้ำตาลที่มันเก็บสอดไว้ในหนังสือเรียนใส่หน้าผม ผมหยิบมันมาปลดเชือกที่พันไว้ด้วยมือไม้สั่น แล้วเทออกมา
ที่เกลื่อนกลาดอยู่กับพื้นเป็นรูปถ่ายของผมกับพี่ไฮด์หลากหลายอิริยาบถ มีหลายมุมที่ดูเหมือนใกล้ชิดกันราวกับคนรัก เห็นได้ชัดว่าตากล้องจงใจเล่นมุม
“แม่งเอ๊ย”
ผมรู้ทันทีว่าใครเป็นตัวการ เมื่อแปดปีก่อนนังนี่ก็เคยทำมาแล้วกับผัวมัน คราวนี้ทำกับลูก ทำไมอีห่านี่ถึงใจไม้ไส้ระกำได้ขนาดนี้วะ
“มึงยอมรับแล้วสิ เอาสิ เอาเลย ไปเสพสุขกับพ่อกูตามสบายเลย กูจะได้ลืม ๆ สักทีว่าเคยเจอคนเหี้ย ๆ แบบมึง”
“ไอ้แบด” ผมใช้น้ำเสียงที่สงบลงพูดกับเขา “มึงใจเย็น ๆ ลงก่อนแล้วใช้สมองไตร่ตรองดูหน่อย มึงจำได้มั้ยว่ามึงฝากต้าร์มาบอกกูว่าไง ว่าให้เชื่อใจมึงให้ถึงที่สุดใช่มั้ย และกูก็ทำ ต่อให้มึงทำท่าเย็นชากับกูแค่ไหน กูก็ยังพยายามเชื่อใจมึงและตามมึงมาถึงที่นี่ แต่มึงน่ะ แค่ภาพเฮงซวยที่ใครจะเอามาอ้างก็ได้ กับลมปากเน่า ๆ อาบยาพิษ มึงก็เชื่อหัวปักหัวปำโดยไม่ลังเล มึงน่ะ...”
ผมพูดไม่ออกแล้ว ผมนั่งคุกเข่าอยู่กับพื้น ข้างหน้าคือภาพที่เกลื่อนอยู่
แบดยังเงียบอยู่ ผมค่อย ๆ เงยมองหน้าเขา และพยายามพูดความในใจออกมา
“มึงน่ะ ไม่รู้หรือไงว่ากูรักมึงมากแค่ไหน ต่อให้ไม่ใช่พ่อมึงก็เถอะแต่กูจะไปทำอย่างนั้นกับคนอื่นได้ยังไง ก็ในเมื่อหัวใจของกูทั้งดวง มันมีแต่มึงอยู่เต็มไปหมด”

ตัดจบดื้อ ๆ เจสซี่ฝากบอกว่า พี่แทนสะตอเบอแหลมากค่ะ
---------
Ryze : น่านสิครับ เคลิ้มก็อัดอีกโดสซะงั้น สู้ ๆ ครับ ผมหนักใจแทนเลยตามอ่านเรื่องนี้ อิอิ
BEta-K : ซอรี่ครับ สงสัยค้างได้อีก - -*
christiyaturnm : ใกล้จบแล้วครับ ดาวเด่นมากันครบแล้วนี่นา
tawada_j : อารมณ์ดีใกล้จบครับ จะได้ยกภูเขาอีกลูกออกไปจากอก (เหลือภูเขาซิลีโคนอีกสองลูกที่ยังไม่ได้ยกออกไป ฮี่ๆๆๆ)
Mint : เดี๋ยวมีฉากตบแล้วครับ ตอนหน้า ๆ อย่าพลาด
OHmeza019 : โค้งสุดท้ายต้องทิ้งทวนกันหน่อยครับ แต่โดยส่วนตัวผมคิดว่าจบง่ายไปนิด แต่ไม่เอาล่ะ ผมไม่อยากทรมานตัวละครมากไปกว่านี้แล้ว
MonkeYMauS : น้องมั้งกี้ที่น่ารักของพี่ มาให้พี่ปล้ำหน่อยมามะ ไม่ได้ปล้ำน้องลิงมานานมากกกกแล้ว อิอิ ชิ..จำได้แต่ไม่ทัก งอน เอาหนุ่ม ๆ แถวนั้นมาเซ่นแล้วจะหาย (ไม่เอาเฮียพีนะ อันนั้นน้ำพริกถ้วยเก่า ฮ่าๆๆ)
mist : โอ้ ผมขายทุกอย่างที่ขายได้ครับ ไม่เฉพาะแต่กับน้องหรอก ฮ่าๆๆๆ
Tifa : อันนี้ให้ชื่อภาควาา Golden Flower War ดีมะครับ ศึกชิงสุวรรณมาลี (ชิงนังแทนย่าไง ฮี่ๆๆๆ)
iamhappywood : คนแถวนี้นี่เซนส์แรงไม่แพ้น้องกายเลยวุ้ย
kit : ง่า อรรถาอธิบายมุกแรกทีครับ
คุณกิตก็เดาแม่นเหมือนกัน
พิมพ์ผิด กะจะบอกว่าคุณกิตเก็บมาคืนด้วย อิอิ พอดีมันอับ ๆ ครับ แข็งตัวได้ไม่เต็มที่เลยต้องถอดแขวนตากไว้ให้พอง ๆ
อันนั้นก็ เอ่อ... =_=" ดีนะข้าง ๆ มีคนจบชีวะ เลยเฉลยให้ฟังแล้วว่าคืออะไร
byzantines : ตอนนี้มาแล้ว ตอนต่อไปพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ครับ
muhan : หวังว่าคงจะช็อคไปแล้วครับ
เจอกันพรุ่งนี้ไม่ก็มะรืนครับ
อ๊ะ เห็นผมเป็นคนใจร้ายขนาดนั้นเลยเหรอ
ไม่หรอก ผมไม่ปล่อยให้ค้างหรอกน่า หนทางของเรายังอีกยาวไกลครับ ใครที่โดนหลอกว่าใกล้จบ ต้องบอกว่านี่เพิ่งเริ่มต้น ฮ่าๆๆๆ ชีวิตเริ่มต้นที่ 40 จริง ๆ
-----------------------------------
“มึงน่ะ ไม่รู้หรือไงว่ากูรักมึงมากแค่ไหน ต่อให้ไม่ใช่พ่อมึงก็เถอะแต่กูจะไปทำอย่างนั้นกับคนอื่นได้ยังไง ก็ในเมื่อหัวใจของกูทั้งดวง มันมีแต่มึงอยู่เต็มไปหมด”
“มึงไม่เห็นจะเคยบอกว่ารักกูเลย”
“กูก็บอกอยู่นี่ มึงหูหนวกหรือไง แสดดด”
“กูไม่ได้ยิน มึงพูดไม่ชัดเจน”
“กูรักมึงไอ้แบด มึงได้ยินมั้ย กูรักมึงว้อยยยยย!!!” ผมอุดปากตัวเองบ่นอุบอิบเบา ๆ “เชี่ย เลี่ยนชิบหาย กูพูดไปได้ไงเนี่ย”
แบดหลุดหัวเราะ “ฮะๆๆ ไม่นึกว่ามึงจะมีวันสิ้นลายนะไอ้เสือแทน”
“สิ้นลายก็เป็นสางวะ เฮี้ยนกว่าเสืออีก” ผมยักคิ้วใส่มัน ก่อนจะสำเหนียกได้ “เอ๊ะ มึงหายโกรธกูแล้วเหรอวะ”
“กูจะโกรธมึงเรื่องอะไรล่ะ”
“ก็เรื่องที่กูมีอะไรกับพ่อมึงไง”
“มึงมีจริง ๆ เหรอ” มันทำหน้าเครียด
“ไม่มีโว้ย ไอ้เชี่ยนี่ อยากยกกูให้พ่อนักก็บอกมาสิ กูจะได้ไปถวายตัวเป็นนางสนมป๋าหฤษณ์แก หลังจากนั้นมึงก็ค่อยไปชิงตัวกูหนีให้เป็นตำนานรักเลื่อนลั่นสะท้านปฐพีเลยดีมั้ยเล่า”
“มึงจะบ้าเหรอ” มับตบกะโหลกผมทีนึง “กูรู้อยู่ว่ามันไม่มีอะไรหรอก เพราะถ้ามีจริงแม่กูหาคลิปมาให้ได้อยู่แล้ว กูแค่อยากเห้นคนทุรนทุรายเป็นไส้เดือนโดนขี้เถ้าเท่านั้นเองว่ะ ฮ่าๆๆๆ”
ไอ้แบดโรคจิตมันกลับมาแล้ว ผมขบฟันอย่างมันเขี้ยวแล้วลุกขึ้นโถมฟัดหนุ่มหล่อปวดตับของผม
“เดี๋ยวกูจะทำให้มึงต้องครวญครางเรียกชื่อกูเป็นไส้เดือนโดนขี้เถ้าไปเลยไอ้เหี้ยแบด”
ห้านาทีต่อมา... “อ๊ะ แบด อย่า..มึง อูย ตรงนั้น อ๊ะ..ซี๊ดด”
มันโผล่หน้ามาจากใต้ขาของผมที่กำลังถูกปรนเปรอด้วยปลายลิ้นและแท่งนิ้ว
“เรียกชื่อกูสิครับที่รัก ไม่งั้นไม่ช่วยต่อนะเออ”
“แบด..ช่วยกูนะ อย่าทรมานกู ได้โปรด”
“น่าน เรียกอีกครับ แทนรู้มั้ยตอนนี้เสียงมึงหวานมาก ๆ เลยนะครับ”
“ไอ้สาด” ผมตบหัวมัน “กูแกล้งทำเสียวไปงั้นแหละ ฝีมือก็ไม่มีเสือกจะมาทำเก่ง โอ๊ย! เยสเข้ มึงจะจิ้มมาทำเชี่ยไรตั้งสามนิ้ว รูคนนะไม่ใช่รูควาย!”
“อ๋อ เพราะเป็นรูคนก็เลยต้องการเควาย แต่ตอนนี้เควายไม่มี เอาน้ำลายไปก่อนล่ะกัน” มันมุดหัวลงไปที่หว่างขาผมอีกครั้ง ผมนั่งอยู่บนโต๊ะและปล่อยให้ขาข้างหนึ่งถูกชันยกขึ้นมา มือของผมจับหัวแบดจิกอย่างควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
“ไม่เจอกันหลายวันซาดิสม์ขึ้นนะมึง จิกหัวกูจนจะขาด” ไอ้แบดบ่น “ไม่ต้องหล่อล่งหล่อลื่นแล้ว กูจะเยสแม่งเดี๋ยวนี้เลย”
อ๋าาาา...แค่ได้ยินว่าจะโดน แทนน้อยก็ชูตัวบวมเป่งพร้อมสู้ศึก ทรยศจริง ๆ ลูกพ่อ
ไอ้แบดขยับเข้ามาใกล้ มองผมตาเยิ้ม ท่อนเจ็ดนิ้วของมันถูไถบริเวณปากทางพร้อมกับสำลักความสุขออกมาเป็นน้ำเมือกลื่น ๆ เต็มไปหมด มือของมันส่วนนั้นของผมที่ฉ่ำไม่แพ้กันแล้วรูดขึ้นรูดลง
“อึ๊ย...ไอ้แบด กูเสียว”
มันขยับเข้ามาตระกองกอดผมไว้ ริมฝีปากส่งเสียงกระซิบที่ข้างหูผม
“เสียวก็ดี จะได้ไม่เจ็บ” ว่าแล้วมันก็สอดประสานร่างกายกับผมในจังหวะเดียว
ผมสะท้านเฮือก พยายามผลักมันออกไป ความเจ็บร้าวแล่นซ่านไปทั้งร่าง ไอ้แบดพรมจูบทั้งใบหน้าผมเหมือนปลอบ แล้วขยับส่วนของมันที่ผมเข้าใจว่าเดินทางเข้าไปจนสุดแล้วเข้าไปอีก
“อึ้ก...”
“มองตากูไว้แทน บอกกูว่าไม่เจ็บ แล้วกูจะทำต่อ”
“มะ..ไม่เจ็บ มึง..ทะ..ทำต่อเลย”
มันยิ้มเหมือนเด็กได้ของเล่น “ตามคำขอครับราชินี”
ผมสะดุ้งร่างแอ่นราวจะตายเสียให้ได้ ลมหายใจขาดห้วงทุกครั้งที่ถูกกระแทกเข้ามา ผมเบือนหน้าไปข้างหลังโดยบังเอิญและเห็นพวกลูกน้องของไอ้แบดที่ถูกมัดไว้อยู่จ้องลีลาของเราตาแป๋ว
“ไอ้แบด ๆ”
“ซี๊ด..ดีมาก เรียกชื่อกูอีก กูชอบ”
“ไอ้แบด เดี๋ยวสิวะ”
“มึงมีอะไรอีก กูกำลังเสียว”
“เพื่อนมึงน่ะจ้องแทบตาถลนแล้ว มึงไม่อายเหรอไงวะ”
ไอ้แบดยิ้มกริ่ม “ดีสิ พวกมันจะได้รู้ไงว่าใครจะเป็นมิสเทรสคนใหม่ของพวกมัน”
อะไรนะ! เฮ้ย! มึงเป็นมิสเทรสไปสิวะไอเชี่ยแบด ถึงกูจะเป็นรับแต่กูก็เป็นมาสเตอร์นะโว้ย ว่าแต่มันกล้าเยสกูโชว์ลูกน้อง แม่ง..เพิ่งรู้ว่าแฟนกูเป็นเอ็กซ์ฮิบิฌึ่นนิสม์ (มึงน่าจะรู้นานแล้วนะไอ้แทน)
เอาก็เอา..งั้นกูก็หน้าด้านบ้างก็ได้วะ
ผมหลับตาปี๋และปล่อยให้ลีลาสุดขีดดำเนินต่อไป