RAJCHABUT : ตัวร้ายต้องเอาไว้รุมโทรมทีหลังครับ อิอิ
ronger : อิอิ ก็ไม่แน่ว่ารักเดียวใจเดียวนะครับ เจ้าชู้จะตายขนาดกับน้องมดมันยังทำได้เลย
christiyaturnm : ชมเกินไปแล้วครับ >,< เปิดคอร์สสอนทุกวันครับ ฮ่าๆๆ
happy_icekung69 : แบดจะรุกหนัก ๆ แน่ ๆ ครับ มันยิ่งมาโซคิสต์อยู่ คราวนี้แหละ ไอ้แทนเอ๋ย ลุกไม่ขึ้นแน่ ๆ
nana : ใจกล้าหน้าด้านคือท่านแทนครับ ฮ่าๆๆ
Donpopper : พระเอกเดี๋ยวนี้ต้องหัดทำหน้าให้ด้าน ๆ เข้าไว้ครับ เดี่ยวไม่ได้ฟันนายเอกพอดี
naumi : ก็จากคราวก่อนที่ขนาดคำว่า 'รุก' ยังไม่รู้จัก ก็ถือว่าพัฒนาขึ้นครับ
gift_deb : จะพยายามไม่สปอลย์แล้วครับผม ส่วนก็อดอายวิวก็คือ มุมมองแบบเห็นการกระทำและความคิดของตัวละครทุกตัวในแทบทุกฉาก
อ้ายวี : อิอิ นึกว่าคุณอ้ายวีจบดอกเตอร์ทางนี้แล้วซะอีก
andy_kwan : กลายเป็นสายลับสองหน้าไปซะงั้นเจ้าท็อป 3P น่ะมีครับป้าขวัญ แต่ไม่ใช่กับแบด
Hunter : แง้ว ใจเย็น ๆ ครับ แทนไม่ใจง่ายขนาดนั้นหรอก ฮ่าๆๆๆ
meawmeaw : น้องทีมมีบทเป็นระยะครับ แต่ไม่ค่อยเด่นเท่าไหร่
Manfang : กร๊าก... "เวลาเรียนตั้งใจกันแบบนี้ไม๊นะ" คำนี้โดนมากครับ ฮ่าๆๆ
Ferfa : อิอิ ผมว่าสไตล์การพูดของท็อปนี่คล้ายน้องทีมยังไงชอบกลนะครับ ไม่แน่งานนี้อาจมีพลิกล็อค ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะนะครับ
naja : ครับผม เดี๋ยวจะปรับใช้กับเรื่องหน้านะครับ
RN : ถูกต้องครับ แบดโหดกว่าอดัมแน่นอน อดัมอย่างมากสองครั้งต่อคืน แต่เจ้าแบดน่ะรึ หึหึหึ
Millet : ไอ้พี่แบดเป็นตัวร้ายนะครับ ไปเชียร์มันได้ไง
tawada_j : ฮ่าๆๆ แปลกวุ้ย มีคนเชียร์ตัวแสบเยอะ แทนก็เงี้ยล่ะครับ สะกดคำว่าอายเป็น ด.เด็ก สระอา ไม้โท น.หนู
kdds : เขียนแบบให้วาบหวิว ๆ ไม่เป็นอ่ะครับ เขียนไปแล้วมันฮาแทน - -* ขอบคุณสำหรับข้อเสนอแนะครับผม
mist : โฮะๆๆ มีคนหน้ามืดเยอะขนาดนี้ต้องตั้งแฟนคลับเจ้าแบดแล้วสิเนี่ย
sarin : เปิดได้ทุกคลาสครับ ไอ้แทนชอบ อิอิ ปล. สอนทุกคนครับ ขอให้น่ารัก ๆ สักนิด รับรองสอนเต็มที่ *0*
ranaways : ครับผม อาจจะทำอย่างทีคุณรันอเวย์ว่า คืออาจจะปล่อยให้หลุดมานิด ๆ เพื่อคลี่คลายบางจุด แต่คงไม่ให้มีมากไป
iGiG : ชั่วโมงละตอน ผมตายคาที่พอดี ฮ่าๆๆ ร้านเน็ตที่ว่ามันอยุ่ว่าอโศกสุขุมวิทอ่ะครับ มีแต่พวกฝรั่งหัวแดงไปนั่ง - -* ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
ต้นสาย : ตีความได้ดีมากครับ ผมเลือกชื่อมายังไม่ทันคิดเลยนะนี่ แต่ก็อุอุ เข้ากันพอดี ขอบคุณมากครับ *-*
ผมต้องขอโทษจริง ๆ ครับ ที่ไม่ได้อธิบายเรื่องความหมายของมุมมอง
ก็อดอายวิว หมายถึงมุมมองที่เห็นการกระทำและความคิดของตัวละครทุกตัว
จะมีที่คล้าย ๆ กันคือ มุมมองบุรุษที่สาม จะเห็นการกระทำของตัวละครต่าง ๆ แต่จะไม่สามารถล่วงรู้ความคิดของใครได้ บางครั้งอาจจะอุปโลกน์ให้บุรุษที่สามมีตัวตนจริงและเป็นผู้ที่เฝ้ามองเรื่องราวเพียงอย่างเดียว
ส่วนบุรุษที่หนึ่งก็อย่างที่คุณต้นสายเข้าใจอ่ะครับ เพียงแต่มีเน้นหนักและเบาต่างกัน ถ้าเบา ๆ คือจะไม่รู้ความคิดของ 'ผม' แต่ถ้าหนักเข้าไปก็จะมีส่วนรำพึงรำพัน และมีความคิดที่ไม่ได้พูดออกมาด้วย
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับ ผมว่าจะเลือกให้เรื่องนี้เป็นเรื่องเล่าดีกว่า
Turn_righT : "แต่ถ้าใช้ตลอดเราว่ามันไม่ค่อยได้ลุ้น" <---ส่วนนี้ล่ะครับที่ทำให้ผมคิดหนักว่าจะใช้ดีไหม คุณTurn_righTก็ช่วยให้ผมตัดสินใจได้เยอะเหมือนกันครับ
i-pex : คุณ i-pex ก็นักเลงเหมือนกันนะครับนี่ ฮ่าๆๆๆ
@PeaZa@ : ครับผม ขอบคุณที่แนะนำนะคร้าบ
Poes : แบดจะเลวขึ้นเรื่อย ๆ ครับ =_="
SE7EN_AKIRA : ความจริงอยากขยันน้อยกว่านี้สักเท่าตัวครับ จะได้มีเวลาตรวจทานเรื่องให้ดีเสียก่อน บางทีเขียนไปแบบไม่รอบคอบ มาอ่านทีหลังก็เสียใจเหมือนกัน
@BUA@ : ยอมไม่ได้แน่นอนครับ ฮ่าๆๆ โอเคครับรับทราบ
dada : และเราก็จะร้ายใส่กันต่อไป (แบด-แทน) คิคิ
AriAddne : เป็นคำแนะนำที่ดีครับ ขอบคุณมากครับ
cj : ทักทายไวและได้ผลไวเหลือเชื่อ
THIP : แง้ว ไม่มีใครเชียร์ทีมกับอดัมเลย
nana lonely : ก็ต้องคอยดูไงครับว่าจะเอาคืนยังไง มดกับอดัมเลิกกันตั้งแต่แรกแล้วครับ แต่ถ่านไฟเก่าอ่ะนะไว้ใจไม่ค่อยได้หรอก
Ken Ken : ฮ่าๆๆ แบดคงยังไม่เอาคืนแบบที่คุณ Ken Ken อยากเห็นหรอกครับ
jojoe : อดัมเรียกคะแนนเต็มที่เลยครับ แต่ไม่มีใครเชียร์ ฮ่าๆๆ น่าสงสารจริง ๆ เรื่องอาจารย์กับลูกศิษย์คงไม่เขียนให้มีอะไรกันหรอก มันผิดจรรยาบรรณเกินอ่ะครับ
wan : ฮ่าๆๆ เดาได้ถูกต้องครับ ความซวยเลยตกกับแทนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรเล้ย ถ้าเป็นอย่างนั้นไอ้แบดก็เลวได้ใจแถมเจ้าเล่ห์โคตร ๆ น่าสงสารแทนจริง ๆ
TaEnIaE_CoLi : "มันให้ควารู้สึกเหมือนกับว่าเราเป็นตัวละครตัวหนึ่ง" <---อันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมตัดสินใจดำเนินเรื่องในรูปแบบนี้ต่อครับ
yumyam : รับชนจอกครับ ฮุๆๆ
golf_zaa : ขอบคุณครับ มาต่อแย้ว
MeowY : ครับผม *-*
uknowvry : จะรับไว้ใช้ปรับปรุงในเรื่องต่อไปนะครับ
pongsj : *0* ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
yibsee2009 : แบดมีแผนชั่วไว้ร้อยแปดพันเก้าครับ ไม่ต้องห่วงเลย ฮ่าๆๆๆ
oaw_eang : โอ้ ได้ตำแหน่งนี้จากเจ๊สอง ภูมิใจมากครับผม ^ ^
เจ้ว่า นู๋เดินเรื่องมาแบบเรื่องเล่า
เจ้อ่านไปสะดุด นิดหน่อยก็ อีตรงที่นู๋เปลี่ยนวิธีการเขียนนั้นแหละ มันเลยเฉลยเรื่องหมดเลย
อดลุ้นไปตั้งแยะ
เจ้คิดว่าเรื่องนี้ เหมาะกับการเรื่องเล่าผ่านสายตาของใครสักคนก็พอ
เห็นด้วยครับ ตอนที่จะมีมุมมองพระเจ้าเพิ่ม ผมก็เลยตัดออกไปก่อนแล้วตั้งคำถามแทนเพราะรู้สึกสะกิดใจ
snowblack : ฮ่าๆๆ ก็จะพูดว่าไงดีอ่ะครับ เด็ก ๆ มันไม่ค่อยประสา ผมก็ต้องสอนอยู่บ่อย ๆ (แต่ตอนแรก ๆ ก็ต้องให้คนอื่นสอนเหมือนกันแหละว้าไอ้kiriเอ๊ย)
artday : ฮ่าๆ เหมาสองเลยครับผมแนะนำ
Tms™ : ลงตอนใหม่แล้วครับ
RN : ฮ่าๆๆ หล่อจริง ๆ ด้วย
Hunter มาต่อแล้วครับผม ช่วงนี้ช้านิดนึงนะ มาร้านเน็ตไม่ค่อยสะดวกครับ
19NT :เมเดเมเด หน่วยกู้ภัยมาด่วน ที่นี่มีผู้ป่วยเลือดกำเดาไหลหมดตัว
khunsea : คั่นเป็นไส้แซนวิชระหว่างน้องอดัมกับไอ้พี่แบดใช่มะครับ
toey4you : ฮ่าๆๆ แปลว่าน้องยังไม่เคยเหรอครับ พี่รับเปิดสอนตัวต่อตัวนะคร้าบบบ ^ ^
Tifa : โอ้ เชียร์คนเดียวกันกะผมเลย ผมก็เชียร์เจ้าทีมนะ แต่ทำไมเชียร์ไม่ขึ้นก็ไม่รู้ สงสัยคนแถวนี้เล่นของทำเสน่หืให้พี่แบดกันหมด เหอเหอ
sarin : ไปเที่ยวกันมะชวนผม หุหุหุ (แล้วแกเกี่ยวไรด้วยฟะไอ้ kiri)
cassper_W : แน่ใจนะครับว่าแบดมันอ่อนใน อย่างนี้ต้องพิสูจน์ (กลัวแต่มันจะแข็งเป๊กยังกะหินแล้วทำไอ้แทนเจ็บตัวอีก)
AriAddne : คร้าบผม
minchy : ก็เลยจะจบไวอ่ะสิครับ ผมเสียดายเหมือนกัน แต่ก็ไม่อยากยืดเรื่องมาก แหะแหะ ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ
ในเรื่องปีนเกลียวนี่ ในภาควิชาที่ผมเรียนอยู่นี่มีจริง ๆ ครับ ต่อต้านระบบโคตร ๆ มีการแจกใบปลิวโจมตี และถ้ามีโอกาสพูดในที่สาธารณะก็จะพูดเรื่องนี้ ดีที่คณะผมโซตัสไม่แรงครับ คนก็เลยมองว่าหมอนี่แค่เพี้ยน ๆ ไม่เป็นอันตรายอะไร แต่น้องผมเรียนที่เกษตรอ่ะ จะมีรับน้องหอ ถ้าใครต่อต้าน โดนดีแน่ ๆ จะแรงกว่าที่แทนเจอด้วยซ้ำ
ส่วนเรื่องแบด ก็ไม่รู้หรอกครับว่าที่จริงเขาคิดอะไรกันแน่ เขาชอบแทนจริงหรือเปล่าหรือเป็นแค่แผนการกลั่นแกล้ง แต่อย่างไรก็ตาม Love make a man a beast, a beast a man การแสดงความรู้สึกของแต่ละคนก็ต่างกันครับ บางคนหงอกไปครึ่งหัวแล้วเมื่อเจอเรื่องแบบนี้เข้าจริง ๆ อาจจะทำตัวโง่ ๆ ยิ่งกว่าแบดอีก
maxt_t : มาต่อแล้วคร้าบ
wan : ขอบคุณมากครับ ผมจะเอาไปไตร่ตรองและขบคิดดูเรื่อย ๆ ถ้ามีปัญหาอุปสรรคอีก ผมจะมาขอคำแนะนำอีกครั้งนะครับ
YO DEA : แง้บ เป็นนินจาใช่มะครับเนี่ย
iGiG : ที่ใดมีความหวังที่นั่นย่อมมีปาฏิหาริย์ครับ *0*
Millet : มาแล้วครับ มาทั้งเซ็ตเลยอะ
astral : ฮ่าๆๆ หัวใจของแทนยังมีที่ว่างอีกเยอะครับ เดี๋ยวมีโครงการสร้างคอนโดมิเนี่ยมสามร้อยสิบสองชั้นอีก จะได้เก็บใครไว้ในหัวใจได้เยอะ ๆ
AriAddne : มาแล้วคร้าบ
oaw_eang : คิดถึงเจ๊เหมือนกันครับ อัพมหารายาหรือยังเอ่ย
๐๐๐Robin๐๐ : อิอิ ต้องรอดูต่อไปครับ
chee : หุหุ สมกันราวกิ่งทองใบหยกไงครับ แทน-แบดอ่ะ
crazykung : พยาบาล ทางนี้มีคนไข้ขาดเลือดอีกคน รีบเอาเตียงมารับเร้ว *0*
Ferfa
(new reply): อุ๊ยเฉียวโดนจิ้ม พี่แบดกำลังจะมาครับ
kdds
(new reply): มาต่อแล้วครับ แหะแหะ
cj
(new reply): เก็บเอาไว้ลงพร้อมกับตอบรีไพล์ไงครับ ^ ^
nana
(new reply): ต้องหาคำตอบในตอนนี้แล้วครับ
Clear eyes
(new reply): มาต่อแล้วครับผม ^ ^
น้องกายโผล่เข้ามา เขามองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนเตียงอย่างตกตะลึง ผมพยายามจะชันตัวขึ้นแต่ขาถูกจับพาดไว้จึงลุกไม่ได้ กายยืนตะลึงอยู่ที่หน้าประตู
“ปิดประตูสิวะไอ้กาย จะให้ใครมาดูอีก”
กายดึงประตูปิดและล๊อกมันไว้ เขายังยืนพิงประตูอยู่ คงจะตกใจจนได้แต่ทำตามคำสั่ง
“กายมาทำไม” ผมกลั้นใจถามไปจนได้
“อ่า..ลืมหนังสือครับ”
“อยู่บนโต๊ะน่ะ ดำหยิบให้น้องกูหน่อย”
“ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวผมมาหยิบเอง” กายเดินก้มหน้างุดมา ใบหน้าของเขาเป็นสีแดงเรื่อ อดัมดึงผ้ามาทับช่วงกลางลำตัวของผมให้ แต่ยังคงค้างคาส่วนนั้นในร่างของผม
กายเดินเข้ามาใกล้มาก เขาหยิบหนังสือด้วยมือสั่น ผีห่าซาตานที่ไหนไม่รู้ดลใจให้ผมเอื้อมมือออกไปคว้าตรงเป้าของน้องเขา
กายตกใจปัดมือผมออก เขาคงจะสับสนจนไม่รู้ว่าจะเดินหนีไปดีหรือเปล่า แต่เท่าที่ผมสัมผัสเมื่อครู่ ส่วนนั้นของเขากำลังตื่นตัวและชี้หัวพาดขึ้นไปทางข้างบน
“กายแข็งนี่ ให้พี่ช่วยมั้ย”
อดัมพ่นหายใจแรง เขาแกล้งกระแทกส่วนนั้นเข้ามาจนผมเจ็บหลุดเสียงครางออกไป
“โอ๊ย ซี๊ด..”
น้องกายยืนนิ่ง เขาก้มหน้าไม่มองผม มือก็ตกลงไม่ปิดบังเป้าไว้ ผมได้ใจเอื้อมมือจับเป้ากางเกงของเขาอีกครั้ง เนื้อกางเกงบอลนุ่มลื่น มันทำให้สัมผัสรู้สึกดีอย่างประหลาด กายหายใจแรงเมื่อผมจับท่อนของเขาและดึงร่างเขาให้เข้ามายืนใกล้ ๆ
“ต่อเลยดำ เดี๋ยวกูช่วยไอ้กายเอง”
เมื่อผมไฟเขียว อดัมก็เลยดึงผ้าผวยออก แล้วเริ่มขยับขโยก ส่วนผมเหนี่ยวขอบกางเกงบอลและกางเกงในของหนุ่มตี๋ที่ยืนสั่นอยู่ข้างหน้าลง ท่อนเนื้อสีเดียวกับผิว ขาวละเอียด ไร้ริ้วรอย บ่งว่ายังไม่เคยใช้งานมาก่อน ผงาดอยู่ใต้เสื้อยืดจนเห็นเป็นปุ่มนูนขึ้นมา ผมถลกเสื้อของเขาออก ค่อย ๆ จับมันด้วยมืออย่างระมัดระวัง มันดูบอบบางเหลือเกิน
ผมลูบไล้มันอย่างนุ่มนวล และใช้หัวแม่โป้งไล้ตรงปลาย น้องกายหายใจติดขัดพลางขยับเข้ามาใกล้ให้ผมถนัดขึ้น
ผมมองมันใกล้ ๆ แล้วใช้ปากให้กับเขา น้องกายร้องอย่างตกใจ
“พี่จะทำอะไรครับ”
ผมไม่ตอบ เหนี่ยวเอวของเขาไว้ และบรรเลงอย่างเต็มที่ โน๊ตเสียงสูงต่ำถูกเปล่งจากคอของน้องกายราวเสียงไวโอลิน ขณะที่อดัมก็เร่งเร้ากระแทกกระทั้นราวจังหวะกลองอันหนักหน่วง
จากปลายไม้วาทยกรผู้ช่ำชองสู่จุดสิ้นสุดของซิมโฟนี่ ไวโอลินทิ้งท้ายด้วยเสียงสูงยาว ก่อนเงียบไป จากนั้นกลองก็กระหึ่มรัวเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนทิ้งจังหวะตุม ๆ อย่างเบาบางจนค่อย ๆ จางหายไปในที่สุด
กายดึงขอบกางเกงขึ้นคืนแล้วเอาชายเสื้อมาบังไว้ เขาคว้าหนังสือสามก๊กที่ลืมแล้วเดินก้มหน้าออกไปจากห้องโดยไม่ลืมล็อกประตูให้ อดัมเหนื่อยจนเอนร่างลงนอนข้าง ๆ ผม
“ทำไมพี่ต้องทำอย่างนั้นด้วย”
“ปิดปากไอ้กาย” ผมตอบ
“ข้ออ้างหรือเปล่า”
“แล้วแต่มึงจะคิด”
“รู้มั้ยว่าผมคิดอยู่นะว่าผมจะยอมให้พี่ไปมีอะไรกับคนอื่นได้หรือเปล่า” อดัมพูด ผมเงียบ “แต่เมื่อกี้ผมก็ได้คำตอบแล้ว”
“ว่ายังไงล่ะ”
“หึ ผมก็โคตรเจ็บใจเลยสิ คราวหน้าอย่าให้มีอีกล่ะกัน ผมทนไม่ได้แน่ ๆ”
“มึงอยากเลิกคบกับกูหรือเปล่า” ผมถาม
“ทำไมพี่ถึงพูดอย่างงั้น”
ผมถอนหายใจ “เพราะสันดานของกูเอง กูมันร่าน..ทำอะไรกับใครก็ได้ ไม่เหมาะกับมึงหรอก”
“พี่เปลี่ยนเพื่อผมไม่ได้หรือไง พี่อยากให้ผมทำอะไร ผมทำให้พี่หมด ขอแค่มีผมเพียงคนเดียวก็พอ”
“ทีมึงยังไปมีอะไรกับผู้หญิงได้เลย”
“พี่เอาอะไรมาพูด”
“ก็อีมดนั่นไง เห็นมึงยังคุยกันอยู่เลย วันนี้เพื่อนคณะมึงก็มาเล่าให้กูฟังว่ามันไปหามึงถึงตึกวิดวะ”
“ผมไม่ได้ยุ่งกับเขาแล้วนะ เขาพยายามตามตื๊อผมใหม่อีกรอบ แต่ผมมีพี่แล้ว ผมไม่กลับไปหาเขาหรอก”
“ให้มันจริงเถอะ กลัวแต่ว่าจะแอบไปสวมเขาให้กูลับหลัง สู้กูไม่ได้ ให้ดูต่อหน้าไปเลย มึงว่าดีมั้ย”
“พี่แทน” เขาเรียกผมเสียงหนัก แต่ผมยันตัวขึ้นแสยะยิ้ม
“เออดิ ไบอย่างมึงก็ไม่ได้ดีไปกว่ากูเท่าไหร่หรอกว้า ผู้หญิงก็ได้ผู้ชายก็ดี ขอให้คลำดูไม่มีหางมึงก็เอา”
อดัมมองหน้าผมอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“นี่พี่แทนพูดกับผมอย่างนี้เหรอ”
“ใช่ กูพูดแบบนั้น”
“อย่าหาเรื่องกันได้มั้ย ผมไม่อยากทะเลาะกับพี่นะ”
ผมนิ่งไป เราทั้งคู่ไม่พูดอะไร ผมถอนใจยาว
“คบกับมึงแล้วน่าเบื่อว่ะ”
“หมายความว่ายังไง”
“ต้องให้พูดอีกเหรอ” ผมมองหน้าเขา “เลิกกันเถอะ”
อดัมอึ้งไปครู่หนึ่ง “พี่แทนรู้ตัวมั้ยว่าพูดอะไรออกมา”
“กูรู้ตัวดี มึงถามตัวเองดูให้ดีสิ ว่ามึงจะทนได้มั้ยหากว่ากูที่เป็นแฟนมึงไปมีอะไรกับใครอื่นทั้งต่อหน้าและลับหลัง กูรู้ว่าเหตุผลนี้มันเกร่อ แต่กูคงต้องบอกมึงจริง ๆ ว่า..มึงดีเกินไปสำหรับกูว่ะ”
อดัมมองหน้าผม แววตาของเขาเข้มข้นเต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ตีกันยุ่ง
“สรุปว่าที่ผมทำมาทุกอย่างมันไม่มีค่าอะไรเลยใช่มั้ย”
“มึงก็ได้ของตอบแทนไปแล้วนี่ มึงได้ตัวกู มึงชอบไม่ใช่เหรอเย็สฟรีอ่ะ”
หนุ่มแว่นกัดกรามจนนูนเป็นสัน “ถ้าอยากเลิกกับผมขนาดนั้นก็ได้ เราเลิกกัน!”
เขาลุกขึ้นจากเตียงด้วยอารมณ์แล้วหยิบกางเกงมาใส่อย่างลวก ๆ ก่อนจะเดินกระแทกเท้าออกไปจากห้อง พร้อมกับกระแทกประตูปิดดังปังใหญ่
ผมถอนหายใจแล้วเอนตัวลงนอนทั้งที่ยังเปล่าเปลือย ตามองพัดลมติดเพดานที่ยังหมุนเนิบนาบในจังหวะเดิมอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ไม่มีใครรู้ว่าผมได้รับผลกระทบมากแค่ไหนกับการที่กายตีตัวห่างออกไป เขาไม่ได้ชิงชังรังเกียจผม แต่ที่ผมเห็นในดวงตาของเขาคือความกลัว เขาพูดกับผมเท่าที่จำเป็น และมีท่าทีระมัดระวัง ผมเข้าใจเขา และบางทีผมก็รู้สึกยินดีที่เรื่องเป็นไปเช่นนี้
ขณะเดียวกัน เรื่องระหว่างผมกับอดัม แม้จะไม่มีใครปริปากประกาศ แต่สำหรับคนที่ใกล้ชิดพวกเราอย่างไอ้ทีม จะช้าเร็วก็ต้องสังเกตเห็น
“พี่ ทีมไม่อยากพูดหรอกนะ แต่ทีมเห็นไอ้ดำไปกับอีมดอยู่บ่อย ๆ สรุปว่าพี่แทนเลิกกับมันแล้วเหรอ”
“ไม่ใช่เรื่องของมึงนิ” ผมตอบมันด้วยเสียงอ่อนล้า ผมควรจะโกรธมันตั้งแต่เรื่องเมื่อคราวที่แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมตอนนี้มันเหนื่อยเกินกว่าที่จะโกรธใครสักคน
“เออ ตามใจพี่ ไม่อยากบอกก็ช่างแม่ง” มันว่าแล้วก็ถอยไปอีกคน ผมไม่เข้าใจว่ามันจะรู้สึกหงุดหงิดไปทำไม ผมนั่งนิ่งอยู่ที่โต๊ะ และกลับสู่สภาพเด็กเรียน
คุณเคยเป็นหรือเปล่า ในยามที่ค่ำคืนมาเยือน ความมืดและความเงียบคลี่คลุมอยู่เฉพาะโลกของคุณ ขณะที่ไม่ไกลนั้นก็เต็มไปด้วยผู้คนคลาคล่ำซึ่งต่างก็พูดคุยและหัวร่อต่อกระซิกต่อกัน
ผมเดินเข้าไปในโรงอาหาร ผมไม่รู้จักใครที่นั่นแม้แต่คนเดียว ผู้คนมากมายรายล้อมรอบตัว พวกเขาใส่ใจอยู่กับคนที่เขารู้จัก สนทนากันอย่างไม่จบสิ้นถึงเรื่องไร้สาระต่าง ๆ นานา จู่ ๆ ผมก็นึกถึงเป้าหมายของชีวิต แก่นสารของมัน และสาเหตุที่มันมีขึ้นมา แต่ไม่มีคำตอบที่น่าพอใจสำหรับผมสักคำตอบ
“มาคนเดียวอีกแล้วสิมึง” ผมหันขวับ ไอ้แบดยิ้มกวนแล้วพูดต่อ “เพื่อนไม่คบ หรือแฟนทิ้งวะ ฮ่าๆๆ”
“ความนี้มึงอยากโดนสุกี้หรือต้มยำโปะหัวดีล่ะ” ผมตอบมันด้วยเสียงเรียบ ไอ้แบดขยับเข้ามาประชิดตัวแล้วขยุ้มคอเสื้อผมไว้ แววตาของมันเดือดดาล
“อะฮ้า กูเพิ่งนึกได้ว่ามึงยังติดค้างอะไรกูอยู่”
“ต่อยกูสิ กระทืบกูก็ได้ ถ้ามึงคิดว่าจะได้สาระอะไรขึ้นมา”
มันกลับผลักผมออก “เซ็งว่ะ กูไม่อยากท้าตีกับท่อนไม้หรอกนะ”
ผมยักไหล่ แล้วหันไปนั่งที่โต๊ะยาวตรงที่ว่าง ไอ้แบดก้าวเข้ามานั่งเบียดทันที ผมมองมันด้วยสายตาไม่พอใจ
“มึงจะเอาอะไรอีกวะไอ้แบด”
“ตรงนี้มันว่างกูก็นั่งดิ”
ผมส่ายหน้าอย่างระอา “เลิกหาเรื่องกันสักวันเถอะ วันนี้กูเหนื่อย”
“โดนตุ๋ยมาราธอนหรือไงถึงเหนื่อยขนาดนี้” มันปากหมาอีกแล้ว แต่ผมก็นิ่งเฉย
“แอร๊ย พี่แทนขา พี่แบดขา มาอยู่กันตรงนี้เอง”
ยัยเจสซี่กะเทยจิตป่วนมาอีกล่ะ ผมแอบทำหน้าเซ็ง
“ไงเจส ทานข้าวยังล่ะ มานั่งด้วยกันดิ” ไอ้แบดเชื้อเชิญยังกะเป็นเจ้าของโต๊ะ
“อุ๊ย จะดีหรือคะ เจสซี่ยังไม่อยากเป็นก้างขวางคอพวกพี่ ๆ นะคะ”
ไอ้แบดหัวเราะร่าอย่างถูกใจก่อนจะบอกกะเทยรุ่นน้อง
“ถ่ายรูปให้หน่อยสิ”
“นี่มาอารมณ์ไหนล่ะคะเนี่ย เจสซี่งงค่ะ พี่แบดไม่ชอบโดนถ่ายรูปไม่ใช่เหรอคะ”
“เออน่ะ”
เจสซี่ยิ้ม “ระวังนะคะ เดี๋ยวเจสซี่เอารูปพี่แบดไปใช้ประกอบการตำจิ๋มจะหาว่าคนสวยมิเตือน”
ไอ้รุ่นพี่ตัวแสบหัวเราะอีก แขนของเขายกขึ้นมาโอบบ่าผมไว้
“พี่ว่าเจสเห็นหน้าไอ้แทนในรูปก็คงรู้สึกปวดขี้จนจิ๋มไม่แข็งแล้วล่ะ”
“เอามือเน่า ๆ ของมึงออกไป!”
“อยู่นิ่ง ๆ น่า เจสเอาเลย”
ผมพยายามแกะแขนข้างนั้นของเขาออก แต่ไอ้แบดใช้หมัดอีกข้างต่อยท้องน้อยผมใต้โต๊ะจนจุก ผมร้องอ๊อก หน้าบิดเบี้ยวด้วยความเจ็บระหว่างที่ถูกรวบร่างเข้าไปแนบชิด
แชะ! แสงแฟลชสว่างวาบจากกล้องดิจิตอลของเจ้าแม่ข่าวสว่างไสวเรียกความสนใจ ไอ้แบดยิ้มโรคจิตแล้วบอกกับผมที่ยังจุกเจ็บ
“กูชอบเห็นหน้ามึงตอนเจ็บ มันได้อารมณ์ดี” มันลุกขึ้นจากโต๊ะแล้วบอกกับเจสซี่ “ล้างเสร็จแล้วอัดรูปส่งให้พี่ด้วยใบนึง”
มันหันหลังให้ ผมกลั้นใจหยิบจานข้าวขึ้นมา ไอ้แบดหันกลับมาทันที มือของมันยึดข้อมือของผมที่ถือจานข้าวอยู่ แล้วออกแรงบีบ
“ไอ้สัด! กูเจ็บ!”
“อย่านึกว่ามุกเก่าจะได้ผล” มันพูดจบก็หักข้อมือผมให้จานข้าวไปหล่นโปะหัวผมแทน “ทีหลังอย่ามาซ่ากับกูอีก จำไว้”
มันผลักอกผมให้กระแทกตัวนั่งลงกับเก้าอี้ แล้วเดินอาด ๆ ออกไปจากโรงอาหาร ผมนั่งอยู่ตรงนั้น ตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ แต่ลึก ๆ แล้วรู้สึกเหมือนชีวิตมีความหมายขึ้นมา จู่ ๆ ผมก็ยิ้ม ยิ้มแบบที่มีแต่คนบ้าเท่านั้นที่ใช้ แล้วผมก็ลุกไปจากความปั่นป่วนวุ่นวายตรงนั้น
ไอ้ทีม ไอ้กาย ไอ้เกี๊ยงโผล่เข้ามาที่ห้องผมตอนที่ผมกำลังผลัดผ้าเช็ดตัวพอดี กายสีสีหน้ากังวลร้องถามผมทันที
“พี่เป็นอะไรหรือเปล่า ผมเห็นพี่โดนไอ้รุ่นพี่นั่นแกล้ง”
“สมน้ำหน้า อยากไปหาเรื่องดีนัก” ประโยคนี้เป็นของไอ้ทีม
“แต่เขาว่าผัวเมียยิ่งตีกันลูกยิ่งดกนะเนี่ย” นี่ก็ของไอ้เกี๊ยงตัวแสบ
ผมยิ้มให้พวกมัน “ขอบใจ กูไม่เป็นไรหรอก”
กายสะอึกเข้ามาใกล้ เขาหยิบเศษข้าวที่ยังเหลืออยู่สองสามเม็ดบนหัวผมออก ผมยืนนิ่ง ตัวแข็ง ไม่นึกว่าจะได้รับความใจดีแบบนี้ของมันอีก
“คราวหน้าพี่ไปกับพวกผมสิ มันจะได้ไม่กล้ามาหาเรื่อง” หนุ่มตี๋ร่างสูงพูดกับผมระหว่างที่สำรวจหัวของผมอย่างเอาใจใส่
“เหอะเหอะ คราวนี้กูแค่ตั้งตัวไม่ทันเฉย ๆ ถ้ามีคราวหน้าอีกไอ้ห่านั่นโดนกระทืบจมดินแน่”
“ปากเก่ง” ไอ้ทีมเหน็บแนม
ผมหันไปมองสองคนที่เหลือ “กูขออยู่กับไอ้กายตามลำพังสักครู่ได้ไหม”
ไอ้เกี๊ยงเลิกคิ้ว แต่เมื่อเห็นสีหน้าผม มันก็ชวนไอ้ทีมถอยออกไป กายยืนอยู่ที่เดิม เขามองผมด้วยสายตาระแวง ผมเดินเข้าไปใกล้ เขาก็ถอยห่างออกก้าวหนึ่ง
“กาย เรื่องวันนั้นน่ะ..พี่ขอโทษ”
“ผมไม่ได้คิดอะไร”
“ไม่จริงหรอก พี่มองตากายก็รู้ กายกลัวพี่ใช่มั้ย ต่อไปพี่จะไม่ทำอย่างนั้นอีก พี่สัญญา”
“ตอนที่พี่มีอารมณ์พี่ทำได้ทุกอย่าง ผมกลัว” เขาบอกผม
“อือ” ผมยอมรับ ก่อนจะยกแขนทั้งสองข้างขึ้นเล็กน้อย “ขอกอดหน่อย..ได้ไหม”
กายส่ายหน้าน้อย ๆ ผมยิ้มแล้วพูดต่อ “ถูกแล้ว อย่าเข้าใกล้พี่มาก อย่าใจดีกับพี่มาก ถูกอย่างที่กายว่า พี่ควบคุมตัวเองไม่ได้จริง ๆ แหละ พี่น่ะเหมือนไม้เลื้อย อยู่ใกล้ใครก็ชอบคนนั้น อย่างตอนนี้พี่ก็ยอมรับว่าพี่ชอบกายมาก ไม่งั้นคงไม่เกิดเรื่องอย่างเมื่อวานหรอก”
ผมลดแขนลง
“เราเข้าใจกันแล้ว..พี่ดีใจ ตอนนี้ไปซะเถอะ อย่าเข้าใกล้พี่อีก ถ้ากายไม่อยากทำร้ายพี่และตัวกายเอง”
แต่กายกลับขยับเข้าใกล้ผม ทำในสิ่งที่เขาปฏิเสธเมื่อครู่ อ้อมแขนที่อบอุ่นกอดร่างผมไว้
“ทำไม?” ผมพยายามขยับตัวออก
“เพราะจอมยุทธไม่เคยทอดทิ้งสหาย ยิ่งในยามที่มันไม่เหลือผู้ใด”
ก้อนกล้ามเนื้อที่อกข้างซ้ายผมบีบรัดดังตุบ ๆ
แม่ง..เจ็บชิบหายเลยว่ะ