“แค่นิ้วซ้นเองครับ ไม่ต้องห่วง”
“ไม่ต้องห่วงอะไร! ผมเจ็บจะตายแล้วนะหมอ”
“เอ่อ..ผมเป็นเภสัชครับ” คนพูดขยับแว่น “คุณลุงอย่าขยับตัวเยอะสิครับเดี๋ยวก็อาการหนักหรอก”
หลงนั่งทำตัวลีบ ๆ อยู่ที่มุมโซฟา นึกอยากจะสลายเป็นธาตุอากาศไปเสียตอนนี้ เขามองเภสัชส่ายหัวปลง ๆ พร้อมกับขยับมือเขียนหยุกหยิกลงบนซองยา
“ผมทำได้แค่จ่ายยาแก้ปวดให้นะครับ ถ้าเจ็บมาก ๆ จนไม่แน่ใจว่ากระดูกหักหรือเปล่าแนะนำให้คุณลูกชายพาไปหาหมอ” ว่าแล้วแกก็หันมาพูดกับไอ้ ‘ลูกชาย’ บนโซฟา “เข้าใจนะครับ”
“เอ่อ...” หลงอ้าปากพะงาบ ๆ “ผมไม่ใช่...”
“ไอ้เด็กนั่นไม่ใช่ลูกผม!” คือหลงก็เข้าใจว่าไม่ใช่จริง ๆ แต่ลุงจะพูดเสียงดังด้วยอารมณ์แบบพระเอกละครตอนโดนใส่ไคล้ว่าทำตัวร้ายท้องทำไมครับ
“ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ครับ” คุณเภสัชได้ปลงตก ตั้งแต่เข้าร้านมากูพูดอะไรเข้าหูลุงแกได้บ้างวะเนี่ย “เดี๋ยวคุณลุงไปซื้อน้ำแข็งมาประคบไว้ก่อนนะครับ อย่างน้อยก็สักครึ่งชั่วโมง”
“บ้าเรอะ! นานขนาดนั้นใครมันจะไปถือได้”
“ถ้าไม่อยากใส่เฝือกอ่อนก็เอาเทปพันล็อกไว้นะครับ” ในที่สุดคุณเภสัชก็เลือกเปิดการ์ด ‘หูทวนลม’ ขึ้นมาต้านมนุษย์ลุง “แล้วก็จะจ่ายเคาเตอร์เพนให้ คุณลุงทาเบา ๆ ก็พอนะครับ ห้ามไปนวดเด็ดขาดเดี่ยวจะช้ำไปกันใหญ่”
“ผมไม่...”
“ทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดบาทครับ”
เหี้ยมเกรียม! เฉียบคม! ไร้ช่องโหว่! หลงได้แต่ประทับใจคุณเภสัชกรจนอ้าปากค้าง กว่าจะรู้ตัวว่าต้องทำอะไรก็ตอนที่มนุษย์ลุงหันมาสบตาแบบ ‘มึงจ่าย’
หา!? ชายหนุ่มชะงักก้มมองเงินในกระเป๋าสตางค์ ให้เอาเงินที่เป็นอาหารเย็นของคุณอโณไปจ่ายค่ายาให้ลุงเนี่ยนะ? แล้วภารกิจของเขาล่ะ? แล้วข้าวเย็นคุณอโณ? ใครมันจะไปยะ...
“ไอ้หนุ่ม เอ็งชนข้า”
จะ...จ่ายก็ได้ครับ... มือสั่นหงึก ๆ นับแบงค์วางตรงหน้าเคาน์เตอร์ด้วยแววตาอาลัยอาวรณ์ ค่าขนมคุณอโณไปเสียแล้ว หลงแทบยกมือปาดน้ำตา คุณลุงนิ้วซ้นไม่พูดไม่จารวบถุงยาแล้วเดินฉับ ๆ ออกร้านไปหน้าตาเฉย
คนตกกระมองตามออกไป เขาควรจะถอนหายใจโล่งอกไม่ใช่เหรอที่ลุงไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไรไปมากกว่าค่ายา แต่ว่าทำไมหลงกลับไม่สามารถทำอย่างนั้นได้เลย ชายหนุ่มหันไปบอกขอบคุณเภสัชกรก่อนจะสาวเท้าออกมานอกร้าน
คุณลุงได้รับบาดเจ็บที่มือเสียด้วย แกจะใช้ชีวิตประจำคล่องไหมนะ? แล้วแกมีลูกมีหลานคอยดูแลอยู่หรือเปล่า? ตอนนั้นหลงเองก็เจ็บมือนิดหน่อยมันทำอะไรไม่ค่อยสะดวกเลยล่ะ ถ้าตอนนั้นคุณอโณไม่เข้ามาช่วย...
‘ฉันทำเพื่อตัวฉันเองแหละ มันเครียด มันกังวล เหมือนคนทำความผิดแล้ววิ่งหนี’ วันนี้หลงเข้าใจประโยคนั้นของคุณอโณอย่างถ่องแท้ สองขาก้าวยาว ๆ วิ่งตามชายสูงวัยที่หายเข้าไปในฝูงชน เห็นหัวขาวแว้บ ๆ ก็รีบพุ่งตามเข้าไป แม้จะลำบากพอสมควรที่ต้องเกร็งนิ้วเท้าหนีบแตะพิการ โชคดีที่หลงตัวสูงกว่าบรรดาแม่บ้านถึงได้หันซ้ายหันขวาเห็นลุงหายวับเข้าไปในร้านร้านหนึ่ง คนเจ็บรีบวิ่งตามคนเจ็บเข้าไปทันที
“คุณลุงครับ!!” ไม่มีแล้วมารยงมารยาท ไอ้หลงเปิดประตูร้านผัวะเข้าไปเลย เจอเมียลุงลูกลุงด่าก็ยอมแล้วนาทีนี้ “ผมขอโทษ!"
“หือ?” มนุษย์ลุงหันขวับ “เอ็งจะตามมาทำไม”
“ผมขอโทษที่ทำให้ลุงเจ็บนะครับ” ว่าแล้วก็ยกมือไหว้ปะหลก ๆ
“เออ ขอโทษแล้วก็แล้วกัน กลับบ้านเอ็งเถอะ”
“ตะ...แต่”
“ข้าจะทำงานแล้ว” ไม่ว่าเปล่าลุงแกก้มลงไปจับขอบตะกร้าผ้าแล้วยกวืดขึ้น
“จ้ากกกกกกกกกกกกกก!”
คุณลู้งงงงงงงงงง เขาก็บอกแล้วว่าอย่าขยับ ไอ้หลงวิ่งป้าบ ๆ ไปยื้อแย่งตะกร้าผ้ามาจากมือลุงทันที “คุณลุงอยู่เฉย ๆ เถอะครับ เดี๋ยวผมทำให้เอง”
“เฮ้ย! ข้าบอกแล้วเอ็งฟังไม่รู้เรื่องเหรอวะ ก็บอกว่าให้ไป...จ้าก!” นิ้วลุงแกโดนเข้าไปอีกทีจนต้องชักมือกลับเอง
“คุณลุงรอตรงนี้แหละครับ เดี๋ยวผมไปหาน้ำแข็งมาประคบให้” ชายหนุ่มกอดตะกร้าไว้แน่นเหมือนเป็นเลือดในอก “ส่วนเรื่องซักผ้าเดี๋ยวผมซักเอง”
“เอ็งซักเป็นเหรอ?” เสียงแหบ ๆ นั่นยังซักไม่เลิก “ทำของลูกค้าเสียข้าก็ซวยสิวะ”
“ลูกค้า?” ผู้บุกรุกหันขวับไปที่หน้าร้าน มีสติ๊กเกอร์สีซีด ๆ แปะไว้บนกระจก
‘สมาน ซัก อบ รีด’ “เอ่อ...มันอ่านว่าอะไรครับลุง?”
“ฮ่วย!” ลุงยกมือเกือบตบเข่าฉาด แต่เพิ่งนึกได้ว่าแกกำลังเดี้ยงอยู่จึงค่อย ๆ ลดมือลงเอานิ้วชี้เกาหัวแทน แนบเนียนแบบไม่เสียฟอร์ม “สะ...สมาน ซัก อบ รีด”
“อ้าว! แบบนี้ลุงก็เปิดร้านซักผ้าน่ะสิครับ” ลุงมองหน้ากลับแบบ ‘มึงเห็นเป็นร้านตัดขนหมาหรือไอ้หนุ่ม?’ หลงเริ่มสอดส่องสายตาซอกแซก ด้านหลังฉากมีเครื่องซักผ้าวางเรียงกันห้าหกเครื่องได้ แถมยังตู้อบ เตารีด อุปกรณ์ครบครันขนาดนี้เชียว “โอ้โห! สุดยอดเลยครับลุง!”
เจ้าของร้านยืดตัวขึ้นเล็กน้อย “ข้าถึงปล่อยให้เด็กไร้ประสบการณ์อย่างเอ็งซักผ้าแทนไม่ได้ไง มันเสียชื่อร้านข้าหมด”
“งั้นคงต้องรอคุณป้าซักให้แทนใช่ไหมครับ? คุณป้าอยู่ไหน เดี๋ยวผมติดต่อให้ไหมครับ” หลงเดินไปชะโงกดูทั่วร้านก็ยังไม่เห็นวี่แวว ‘คุณป้า’ ที่ว่า แปลกจริง เท่าที่เห็นมาลุงมักขายแพคคู่กับป้านี่นา
“เฮ้ย ๆ! เอ็งไม่ต้องชะโงกหาแล้ว” คนบนเก้าอี้โบกมือไปมา “เมียข้าตายนานแล้ว ข้าอยู่คนเดียว”
“เอ่อ...ขอโทษที่ถามครับ”
“ขอโทษทำไมวะ” ลุงยกมือแคะหู “ฉะนั้นเอ็งวางตะกร้าลงตรงนั้นเลย เดี๋ยวข้าจัดการเอง”
“เดี๋ยวสิครับ! คุณลุงบอกว่าอยู่คนเดียว?”
“ก็เออสิวะ”
มารยงมารยาทไม่มีเลยไอ้เด็กคนนี้ คนสูงวัยฮึดฮัด ดูสิมันเดินวนไปมาในบ้านเขา ชะโงกดูนู่นนี่เหมือนคนอยากรู้อยากเห็น หรือบางทีมันจะเป็นขโมยขโจรวะเนี่ย ฉิบหายละ! ดันบอกมันไปว่าอยู่คนเดียวเสียด้วย
“คุณลุงครับ!” คนแก่สะดุ้งเฮือกเมื่อผู้ต้องสงสัยกลับมาพร้อมใบหน้ายิ้มแย้ม “ไอ้กระดาษที่หน้าร้านนี่ใช่ใบรับสมัครงานหรือเปล่าครับ? ผมเห็นมีเลขข้างล่างด้วย ใช่เลขเงินเดือนหรือเปล่า?”
“มันก็...เอ่อ...ก็ใช่”
วิ้ง~ ดวงตาเรียวยาวเป็นประกายสไตล์ลิชคาวาอี้ “รับผมเข้าทำงานนะครับ!”
“หา?”
“ก็คุณลุงตัวคนเดียวแถมยังเจ็บนิ้วแบบนั้นจะทำงานได้ยังไงล่ะครับ” อ่า...หลงแกนี่มันฉลาดจนน่าตกใจจริง ๆ แม้แต่ตัวเองก็ยังตกใจตัวเอง นอกจากได้ทำงานชดใช้ความผิดแล้วยังได้เงินไปช่วยแบ่งเบาคุณอโณอีกต่างหาก ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว! “แถมคุณลุงเองก็กำลังประกาศหาลูกจ้างอยู่แล้วด้วย ได้ผมเข้ามาทำงานเหมาะเจาะเลยนะครับ”
“แต่ว่า...”
“ผมมีโปรโมชั่นให้ด้วย ช่วงที่คุณลุงยังเจ็บนิ้วผมยังไม่เอาค่าแรงก็ได้ ถือว่าได้ชดใช้ความผิดให้นะครับ” หลงตัวซี้ตัวสั่นอยากจะโชว์สกิลซักผ้ามันซะเดี๋ยวนั้น! เห็นแบบนี้ซักผ้าเน่าให้เก๋ากี้ตลอดนะครับ! “ว่าไงครับคุณลุง?”
เจ้าของร้านกอดอกครุ่นคิด จังหวะมันเหมาะเจาะตนน่ากลัวว่าไอ้หนุ่มนี่จะเป็นมิจฉาชีพเหลือเกิน แต่หน้าตามันก็เซ่อซ่าดูไม่น่าจะหลอกตบทรัพย์ไปได้ อีกอย่างโปรโมชั่นที่มันนำเสนอมาก็น่าสนใจ คุณลุงเงียบไปชั่วอึดใจก็จะตอบ “เออ ข้าจ้างเอ็งก็ได้”
เยส! มันกำมือด้วยสาแก่ใจ ในที่สุดก็หางานทำได้แล้ว!
“เรื่องบัตรประชาชน...” หลงหลบตา “เดี๋ยวเอามาให้วันหลังนะครับ วันนี้ผมไม่ได้พกมา”
“วันไหนเอ็งติดกระเป๋ามาค่อยเอามาให้ก็ได้” ลุงไม่ติดใจเอาความเพราะเห็นมันพูดไทยชัดแจ๋ว ถึงจะอ่านหนังสือไม่ออกก็เถอะ “อะไรของข้าวะ อยู่ ๆ นิ้วเดี้ยงก็ได้ลูกจ้างมาเฉย”
หลงแสร้งหูทวนลมถามเรื่องอื่นต่อ “คุณลุงชื่อสมานใช่ไหมครับ ตามชื่อร้านเลย?”
“เออสิ” แกส่ายหัวปลง ๆ “แล้วเอ็งล่ะชื่ออะไร?”
รอคำถามนี้อยู่นานเชียว ในที่สุดชื่ออันแสนไพเราะที่คุณอโณอุตส่าห์ตั้งให้ก็จะได้เผยโฉมสู่สาธารณะชนแล้ว ชายหนุ่มยืดอกตอบอย่างภาคภูมิใจ “ผมชื่อหลงครับ”
ชื่อที่เต็มไปด้วยความหลงใหลนี่มันรู้สึกดีจริงๆเลยน้อ~ “พระเอกหนังจีนหรือไงวะ” ลุงสมานวิจารณ์ซะไอ้หลงแฟ่บเลย แต่เอาวะพระเอกหนังก็ยังดี “เอาเป็นว่าเอ็งค่อยมาเริ่มงานพรุ่งนี้ก็แล้วกัน ไอ้ผ้าตะกร้านั่นเขามาเอาวันมะรืนนู่น”
“เอ๋!?” หลงตาโต “ทำไมล่ะครับ ให้ผมซักวันนี้ก่อนเลยก็ได้นะครับ”
“ไอ้โง่” โอ้โห เงินยังไม่ทันจ่ายลุงแกจัดชุดใหญ่ให้ลูกจ้างใหม่เลยทีเดียว “ทุ่มครึ่งแล้วฟ้ามืดฟ้าหลัวขนาดนี้ผ้ามันก็อับหมดสิวะ ข้าน่ะซักผ้าตากผ้าไม่เคยมีกลิ่นเหม็นอับให้ขายสีหน้า”
“แย่แล้ว!” อยู่ ๆ ไอ้ลูกจ้างก็โพล่งขึ้นมาดังลั่นทำเอาหัวใจคนแก่แทบวายตาย “ผมลืมเรื่องนั้นไปได้ยังไง!”
ลุงถอนหายใจ
ก็ใช่น่ะสิวะ เอ็งบอกจะไปซื้อน้ำแข็งมาประคบให้ข้า“กระดาษคุณอโณหาย!” ไอ้หลงเอาเท้าเขี่ยตะกร้าที่เกะกะไปให้พ้นทาง “ผมต้องไปก่อนแล้วครับลุง พรุ่งนี้จะมาเริ่มงานนะครับ”
“ดะ...เดี๋ยว...”
ปัง! ไม่มีรีรอใด ๆ ทั้งนั้น เลือดเย็นและเหี้ยมโหดเป็นที่สุด ลุงสมานสั่นหงึก ๆ ขณะก้มมองที่เท้าแขน
แล้วนิ้วกูล่ะ.........................................................................
................................................
............................
..............
ไม่จริงน่า! ไม่มีทางหรอก! ปัง ๆ “หลง! หลงเปิดประตูหน่อย” แม้จะพยายามใช้เสียงที่เบาที่สุดก็มันก็ยังดังก้องไปทั้งชั้น “หลงได้ยินไหม?”
นี่มันไม่ปกติแล้ว! สิบนาทีแล้วนะ! สิบนาทีมันมากพอที่คนหลับกินบ้านกินเมืองจะตื่นได้แล้ว อโณชาหน้าซีดเผือด ลนลานจนทำอะไรไม่ถูก มือถือหลงก็ไม่มี ไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง หรือบางทีอาจจะล้มหัวฟาดพื้น อาการปวดหัวกำเริบจนลุกมาเปิดประตูให้ไม่ได้ ทำไมต้องมาลืมกุญแจห้องวันนี้ด้วยนะ เขาสบถด่าตัวเองเป็นรอบที่ร้อยของวัน
“เมี้ยว” เสียงแมวสาวดังอยู่ใกล้บานประตูราวกับห่างกันแค่แผ่นกระดาน ขนาดเก๋ากี้ยังได้ยินเสียงเคาะเรียกเลย ทำไมหลงถึงไม่ได้ยินล่ะ? คิดมาถึงตรงนี้อโณชาก็ตัดสินใจว่าต้องทำอะไรสักอย่าง ว่าแต่ทำอะไรล่ะ? กุญแจสำรองเขาก็ไม่ได้ฝากไว้ที่นิติบุคคลเสียด้วย
ใจเย็น ๆ อโณชา อย่าลนจนเสียเรื่อง นิ้วเรียวยาวกดมือถือต่อสายหาฝ่ายนิติบุคคลเพื่อเรียกช่างมางัดประตูอย่างด่วนที่สุด พอวางสายก็ต่อไปรถโรงพยาบาลทันที ถ้าถึงขั้นออกมาเปิดประตูไม่ได้ก็ต้องเป็นหนักแบบไม่ต้องสงสัยอยู่แล้ว
“เอ่อ...มีปัญหาอะไรหรือเปล่าคะ?” เพื่อนร่วมชั้นเดินเข้ามาถาม “ได้ยินเสียงเข้าไปในห้องเมื่อครู่น่ะค่ะ”
“ต้องขอโทษด้วยที่เสียงดังนะครับ” คนตอบก้มหัวลงเล็กน้อย
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ?” หญิงสาวขมวดคิ้ว “สีหน้าคุณไม่ค่อยดี”
“ไม่เป็นไรจริง ๆ ครับ ผมแค่ลืมกุญแจ ตอนนี้แจ้งไปทางฝ่ายนิติแล้วครับ”
“อ๋อ” หล่อนพยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ”
นี่เขาแสดงสีหน้าแบบไหนออกไปนะ? อโณชาครุ่นคิดขณะมองเงาสะท้อนบนลูกบิด จิตใจที่ร้อนรุ่มค่อย ๆ สงบลงเมื่อเห็นจุดหมายของการรอคอย ขอแค่รอทางช่างมาพังประตูเข้าไปเท่านั้นเรื่องทุกอย่างก็จะจบแล้ว ถ้าพังเองได้ด้วยสองมือนี้อโณชาคงทำไปแล้ว
แกร๊ก ๆ มือเรียวยาวพยามบิดหมุนมัน แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็ไม่ต่างจากเดิม เขาไม่อาจฝืนกลไกลของมันได้ ทว่าอโณชากลับไม่ยอมหยุด มือขวาจับมันไว้แล้วเริ่มใช้ไหล่กระแทกเข้าไปบานประตูแทน
ปัง! เสียงกระแทกแผ่นไม้ดังขึ้นแทน เขานึกขอโทษเพื่อนร่วมอาศัยในใจขณะโถมร่างเข้าใส่แผ่นไม้แข็ง ๆ ถึงจะไม่ค่อยได้ออกกำลังกายแล้ว แต่ยังไงแรงผู้ชายก็ย่อมเยอะพอจะพังประตูได้ ข้อนี้เขารู้ดี
ดวงตาโศกก้มมองบานประตูเย็นเยียบไม่ต่างจากมือของตัวเอง ความรู้สึกตีตื้นขึ้นมาจนปวดอกไปหมด กังวลจนเจ็บหน้าอก ไม่ชอบเลย ไม่อยากเป็นแบบนี้อีกแล้ว
ตอนอยู่คนเดียวยังไม่เห็นต้องรู้สึกแบบนี้เลย
ปัง!“คุณอโณครับ!”
ราวกับหูแว่วได้ยินเสียงที่คุ้นเคย อโณชาชะงักและผละออกมาหาต้นเสียง คนที่ตามหายืนอยู่ตรงนั้น หลงกลับมาแล้ว วิ่งจนหอบแฮ่ก ๆ เหงื่อเต็มใบหน้า รองเท้าก็ไม่ได้ใส่
ตอนอยู่คนเดียวยังไม่เห็นต้องรู้สึก...“หลง” เสียงเรียกชื่อนั้นแผ่วเบา
เจ้าของชื่อกลืนน้ำลาย
ดวงตาที่มองกลับมาตอนนั้นหลงยังจำได้ไม่มีวันลืม
TBC
โหลงงงงงงงงงงงง โหลงกลับมาแล้วเหรอลูกกกกกกก //โดนคนอ่านรุมตบ
หายไปเป็นเดือนเลยเนอะคะ แย่จังเลย แง้งงงงงงงง แต่ที่หายไปเรามีสาเหตุนะคะ พอดีตอนนี้จัดหน้าDNDเล่มพิเศษกับเล่มปกติอยู่ค่ะ เลยไม่มีเวลาเขียนหลงเลย ดาวเสียใจ ตบดาวสิคะ! ทำร้ายดาวเลยค่ะ! โฮรวววววว//ตบหน้าตัวเองรัวๆ
แต่ตอนนี้ใกล้เสร็จแล้วค่ะ จะสามารถกลับมาต่อหลงได้ตามปกติแล้ว รอกันอีกสักหน่อยนะคะ TvT
ไหนๆก็มาแล้วขายของค่ะขายของ เย้ๆๆ
ตอนนี้คนเขียนเปิดจอง DO NOT DISTURB ขอโทษครับห้ามรักกวน [เป็นพิเศษ] อยู่ค่ะ เป็นรวมตอนพิเศษที่โพสในเว็บตามเทศกาลต่าง ๆ 6ตอน พร้อมเขียนใหม่เพิ่มอีก 5 ตอน พิเศษรอบจองรับโดจินแก๊ก(เป็นกระดาษเอสี่สอดไปในเล่ม) ฝีมือน้อง Ichi
https://www.facebook.com/iiichi15?fref=ts ย้ำ! เฉพาะคนซื้อรอบจองเท่านั้นจ้า
นอกจากนี้ยังเปิดรีปริ้นท์ DND เล่มหลัก และใส่ รัก ป้าย สีด้วยนะคะ สนใจเข้าไปสั่งซื้อได้ที่
http://www.hermitbookshop.com/ เลยค่ะ
ขายของแล้วมีความสุขค่ะ เจอกันตอนหน้านะคะ จะเร่งปิดงานเพื่อหลงงง