{ _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: { _____ นิราศโชซอน ______ } {จบ}  (อ่าน 445208 ครั้ง)

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
เขียนได้ละเมียดละไม น่าติดตามไปทุกฉากทุกตอนเลย

ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 31







   ผมได้ยินเสียงงานเลี้ยงรื่นเริง งานต้อนรับทูตต้าหมิงคงกำลังเริ่มขึ้น ผมปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ว่าข้างนอกตำหนักเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืน ผมเศร้าซึมตั้งแต่ที่ทหารมาพาตัวคังยูไป ชีวิตผมเหมือนมาถึงจุดแตกสลายอีกครั้ง ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร...

   ด้านนอกผมเองก็ไม่รู้ว่าจะมีคนมายืนเฝ้าเหมือนในซีรี่ส์หรือเปล่า(กูก็นะ…คิดว่ามันจะเหมือนซีรี่ส์ตลอดหรือยังไง) ผมลองไปจับประตูดู...มันถูกล็อคมาจากด้านนอก เงียบเชียบเหมือนที่นี่เป็นตำหนักร้าง และมันก็เงียบมากพอที่จะทำให้ผมคิดทบทวนถึงเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้น และเรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องที่ยองวอนบอกผมในความฝันเมื่อคืน

   เรื่องที่ผมจะต้องเลือกว่าตัวเองจะกลับไปยุคของตัวเองหรือว่าจะอยู่ในยุคเดิมแต่ไม่มีคังยู...

   เราคนใดคนหนึ่งจะต้องตาย...

   แล้วเหตุการณ์นั้นมันจะเกิดขึ้นตอนไหนล่ะ หรือว่าใกล้ๆ นี้ เฮ้ย จริงหรือเปล่าวะ ผมยังไม่มีเวลาเตรียมตัวเตรียมหัวใจอะไรเลยนะ ยิ่งยองวอนมันมาเตือนแบบนี้แปลว่าต้องใกล้เวลานั้นมากแล้วแน่ๆ

   ผมเอามือทึ้งหัวตัวเอง ทำไมกูไม่เป็นบ้าไปเสียจะได้ลืมๆ เรื่องวุ่นวายทั้งหมดนี่ให้หมด ให้ตายเถอะ

   ระหว่างที่ผมกำลังคิดอะไรบ้าๆ อยู่นั้นประตูก็มีเสียงขยับ ผมมองอย่างตกใจเพราะไม่รู้ว่าใครที่เป็นคนมาปลดล็อกประตู ทหารอีกแล้วครับ...และก็ไม่รู้ด้วยว่าใครส่งมา

   ที่แปลกไปกว่านั้นก็คือ...ผมถูกคลุมหัวด้วยผ้าสีดำ ก่อนที่จะถูกคุมตัวออกไปด้านนอก ผมพยายามดิ้นพล่านขัดขืนแต่ทว่าคนตัวเล็กๆ อย่างผมน่ะเหรอจะไปสู้แรงทหารพวกนั้นได้

   นี่ผมเกิดมาเพื่อถูกพาตัวไปโน่นไปนี่ไปนั่นเหรอวะ สงสัยฉิบหาย

   ผมสัมผัสได้ว่าผมถูกจับมาใส่เกี้ยวเล็กๆ คันหนึ่ง หลังจากนั้นทหารพวกนั้นก็จับผมมัดมือมัดเท้า ผมดิ้นไปมาพยายามส่งเสียง พวกนั้นแม่งก็รู้อีกว่าปากของผมว่าง มันก็เลยหาอะไรไม่รู้มายัดปากผม...สรุปก็คือไม่มีทางไหนเลยที่ผมจะขัดขืนพวกมันได้
 
   มันจะพาผมไปไหน

   หรือพวกมันจะฆ่าผม...

   ผมที่รู้ตัวว่าตัวเองเวลาเหลือน้อยก็เริ่มอยากจะอาละวาด อย่างน้อยก็ช่วยให้เวลากูร่ำลากับคังยูก่อนไมไ่ด้หรือไงวะ แล้วค่อยปล่อยให้กูตาย ขอร้องเถอะ ได้โปรด พลีส T_T

   ร้องไห้หรือขอร้องในใจไปใครเล่าจะฟังผม...แม้กระทั่งตอนที่เป็นเด็กรัฐศาสตร์อยู่ดีๆ ก็เสือกถูกโยนมาที่ยุคโชซอนนี้เฉยเพราะแค่มือบอลไปหยิบสมุดบันทึกที่วังคยองบกกุง เพราะงั้นคงไม่มีใครฟังอะไรผมแล้วล่ะครับ อะไรจะเกิดแม่งก็ต้องเกิดแล้วล่ะ

   สิ่งที่ยองวอนทิ้งไว้ให้ผมคิด เชื่อมั้ยครับว่าผมเลือกได้แล้ว ที่จริงแม่งไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยด้วยซ้ำ

   ผมเลือกที่จะตาย

   เหตุผลเพราะหนึ่ง ผมทนเห็นคังยูตายต่อหน้าผมไม่ได้ สองถ้าคังยูตายและผมต้องใช้ชีวิตอยู่โดยไม่มีเขา ผมคิดว่ามันคงเป็นชีวิตที่ทรมานน่าดู ถึงแม้ว่าถ้าคังยูรู้ว่าการที่ผมเลือกแบบนี้จะดูเหมือนผมทิ้งเขาไป...แต่ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นเขาตายจริงๆ ครับ มันคงทรมานสำหรับผม ผมดูเห็นแก่ตัวเกินไปมั้ยครับ...

   เอ๊ะ...ถ้าเป็นอย่างนั้น...แสดงว่าผมจะได้เจอคังยูอย่างน้อยก็อีกหนใช่มั้ย

   การรู้อนาคตก่อนนี่มันดีจริงๆ...เพราะยองวอนมันก็บอกเองว่าชะตาของผมกับมันก็คือเสียสละชีวิตตัวเองเพื่อคังยู เพราะเป็นอย่างนั้นจากที่ผมขัดขืนดิ้นไปดิ้นมาที่ถูกจับผมกลับนอนอยู่เฉยๆ ปล่อยให้ทุกอย่างมันเป็นไปและก็รอเจอหน้าคังยูเป็นครั้งสุดท้าย แม้จะดูเศร้ามากจนอยากจะให้ช่องสามให้ถ่ายวงเวียนชีวิต แต่การที่จะได้เห็นหน้าคังยูคือเรื่องดีที่สุดเรื่องเดียวสำหรับคนใกล้ตายอย่างผม เพราะฉะนั้นโชคชะตาให้ผมแค่นี้ผมก็ดีใจมากแล้วล่ะ

   ผมทำได้เพียงแค่รอคอยเท่านั้น...







   เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว...

   เกี้ยวที่ผมนั่งอยู่นิ่งแล้ว ผมตื่นขึ้นมาก็มองไม่เห็นอะไรเพราะยังไม่ถูกปล่อย ผมได้ยินเสียงคนคุยกันอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล...

   “มันอยู่ไหน”
   “เจ้าใจเย็นๆ สินารา”
   “ข้าน้อยเย็นไม่ได้แล้วเพคะ...”
   “เจ้าบอกข้า...ว่าเจ้าจะจัดการหมดทั้งคังยูและก็ยองวอนใช่หรือไม่”
   “เพคะองค์ชาย”
   “ข้าจะเชื่อใจเจ้า...”

   “ความรักที่ข้ามีให้ต่อองค์ชายซองโจนั้นมากมายจนอธิบายไม่ได้ แต่พระองค์กลับมองไม่เห็นค่าของมัน ทำข้ารอคอยในงานแต่งงานอย่างเสื่อมเสียเกียรติ...” ยุนนาราพูดเหมือนระบายความอัดอั้นตันใจ น้ำเสียงของนางเหมือนจะสะอื้นไห้ ผมฟังและก็ถอนหายใจ การตายของผมคงจะเป็นฝีมือของยุนนาราและก็องค์ชายแทจงที่กำลังพูดอยู่กับนาง

   “อีกสักพักคังยูจะตามมา...ข้าหลอกไปว่าข้าจะพาเขาหนีไปอยู่กับชู้รักของเขา...”

   “...และข้าจะไม่ปล่อยให้ทั้งคู่ได้อยู่อย่างสงบสุขแน่นอน”

   อย่างน้อยผมก็จะได้เจอคังยูอีกครั้ง น้ำตาของผมไหลออกมาอย่างปิติยินดี คนใกล้ตายแต่ก็รู้ความสุขที่สุดกำลังจะเดินทางมาหานี่มันมีความสุขมากเลยนะครับ เหมือนชีวิตนี้ได้เกิดมาคุ้มแล้วยังไงยังงั้น

   ผมเจอคังยูอีกครั้งผมควรจะพูดอะไรกับเขาบ้าง ผมควรจะจ้องเขา มองหน้าเขาแบบไหนให้ตัวเองได้จดจำเขาให้ได้มากที่สุด ให้เขาได้จดจำใบหน้าของผมเอาไว้ให้ได้มากที่สุด ก่อนที่เราจะจากกันตลอดกาล...

   ภายนอกเกิดความเงียบขึ้นอีกครั้ง เวลาผ่านไปหลายชั่วยามในที่สุดก็มีเสียงคนมา...คนๆ นั้นกำลังขึ้นมาบนเกี้ยวที่มีผมนอนอยู่ เขาทำการปลดผ้าที่คลุมหัวผมออกอย่างรวดเร็ว และคนๆ นั้นก็คือคังยู...

   ...คังยูที่หลงคิดว่าองค์ชายแทจงผู้เป็นพี่ชายของเขาจะช่วยเขาและทำให้เขาได้อยู่กับผมสมดังที่เขาปรารถนา

   “เป็นอย่างไรบ้าง” เกี้ยวถูกขับเคลื่อนอีกครั้ง...เขาปลดทุกอย่างที่พันธนาการผมเอาไว้ออกให้หมด อย่างแรกที่ผมทันก็ถือสวมกอดเขาอย่างแนบแน่น “ข้าเป็นห่วงเจ้าเหลือเกินจูเนียร์”

   ผมไม่ยอมพูดอะไรทั้งนั้น ผมกอดเขาอยู่แบบนั้น หลับตาพริ้มโดยมีน้ำตาปริ่มอยู่ขอบตา(น้ำตาแม่งกลายเป็นเพื่อนสนิทผมแล้วล่ะตอนนี้) พยายามจดจำอ้อมกอดอุ่น จดจำอกแกร่งที่พักหลังๆ ผมมักจะได้ซบเสมอ
   ไม่อยากห่างออกไปไหนเลย...

   “ทำไมไม่พูดอะไรเลยล่ะ...”

   คังยูยื่นใบหน้าหล่อเหลาของเขามาสำรวจผม...ผมจับใบหน้าของเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำตา จ้องมองความงงงันที่ปรากฏอยู่ใบหน้าที่งดงามราวกับเทพบุตรนั้น สัมผัสไปทั่วทั้งพวงแก้มสีขาวสะอาด จมูกโด่งได่้รูป ดวงตาคมที่มักจะมีอำนาจแฝงอยู่ด้วยเสมอ และก็ริมฝีปากที่ผมเพิ่งจะสัมผัสมันเมื่อคืน...

   ผมจำได้ทั้งหมด...แต่ไม่ว่าจะยังไงผมก็ไม่อยากเสียมันไป

   “จูเนียร์ เจ้าทำตัวแปลกๆ นะ...”

   “เราไม่ได้จะได้อยู่ด้วยกันหรอกคังยู” ผมพูดอย่างเศร้าหมอง “เรากำลังจะถูกลอบสังหาร”

   “เจ้าว่าอย่างไรนะ!” คังยูตกใจ เขากำลังจะหันออกไปนอกเกี้ยวแต่แล้วผมก็จับตัวเขาให้เขานั่งอยู่ข้างในนั้นกับผม

   ชะตาของผมคงจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้อีกแล้ว...

   “อย่าไปไหน”

   “อะไร”

   “ใช้เวลาอยู่ด้วยกันก่อน”   

   “จูเนียร์...”

   “เราเปลี่ยนแปลงอะไรมันไม่ได้หรอกคังยู”

   “...”

   “ยังไงเราสองคนก็ไม่ได้อยู่ด้วยกัน...”

   ใบหน้าหล่อเหลาของคังยูก้มหน้าลงต่่ำอย่างผิดหวัง ผมจับใบหน้านั้นด้วยความรักใคร่ไม่อยากห่างไปไหน...

   “ข้าขอโทษ...” คังยูพูดน้ำเสียงเบา “...ข้าทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับเจ้าไม่ได้...”

   “แต่เจ้าทำให้ข้าได้อีกเรื่องหนึ่ง...”

   “เรื่องอะไรหรือ...”

   เกี้ยวที่บรรทุกผมกับคังยูสั่นไปมา ข้างนอกมีกลุ่มคนแปลกหน้าเข้ามาลอบโจมตี เป็นอย่างที่ผมพูดเอาไว้ไม่มีผิดเพี้ยน ผมหลับตาลงพร้อมกับทำใจว่าเวลาของผมนั้นได้มาถึงแล้ว...

   ...แม้ทุกอย่างจะดูไวไปหมด...แต่สุดท้ายแล้วมันก็ลงท้ายแบบนี้อยู่ดี

   “ข้าทนเห็นเจ้าได้ไม่ได้คังยู...” ผมพูดกับเขา “...ข้าทนเห็นเจ้าตายต่อหน้าข้าไม่ได้จริงๆ”

   ผมเตรียมตัวลงจากเกี้ยว คังยูยื่นแขนมาขวางผมเอาไว้หลังจากนั้นเขาก็ตอบผมกลับมา

   “ข้าเองก็เช่นกัน...ข้าเองก็ทนเห็นเจ้าตายต่อหน้าข้าไม่ได้เช่นเดียวกัน”

   ไม่นะ...ผมอ้าปากค้างตอนที่คังยูลงจากเกี้ยว เตรียมตัวต่อสู้กับคนที่เข้ามาลอบสังหารอย่างเต็มที่ หากเขาเป็นอะไรไป...ผมจะอยู่อย่างโดดเดี่ยวในยุคนี้ต่อไปโดยไม่มีเขา...

   ผมจะเห็นเขาตายต่อหน้าผม...

   ผมรีบลงมาจากเกี้ยวทันที กลุ่มทหารกำลังต่อสู้กับพวกที่ใส่ชุดดำและก็น่าจะเป็นพวกของยุนนารา ผมทำอะไรไม่ถูกขณะที่ตัวเองนั้นอยู่ท่ามกลางการต่อสู้อย่างนองเลือดของจริงที่มีทั้งคนถูกฆ่าและก็คนที่ถูกฟันแขน

   คังยูกำลังต่อสู้กับพวกชายชุดดำอย่างเก่งกาจ แต่คนพวกนั้นมีจำนวนมากเกินไปและก็มีเข้ามาเพิ่มเติมเสริมเรื่อยๆ เขากำลังเสียเปรียบอยู่และก็กำลังจะล้มลง...

   ผมทนเห็นภาพนั้นไม่ได้...และยิ่งไปกว่านั้นยุนนารากำลังเล็งธนูมาที่คังยูจากเนินเขาสูง สายตาของนางเต็มไปด้วยความเคีียดแค้นและก็อาฆาตพยาบาท

   นี่สินะ...สิ่งที่ยองวอนมันเคยทำ...นี่สินะ...คือสิ่งที่ผมกำลังจะทำ

   ผมรีบเอาตัวเข้าไปขวาง ลูกธนูถูกยิงมาจากยุนนาราและก็ฝังเข้ากับตัวของผมจนลูกธนูทะลุตัวของผมออกไป

   มันเจ็บนะครับ...แต่ถ้าผมเห็นคนด้านหลังผมมันเจ็บ...ผมคงจะเจ็บกว่า

   “จูเนียร์” คังยูอึ้งมาก...เขารับร่างที่เอนตัวไปหาเขา แต่ผมผลักเขาออกไปเมื่อยุนนารากำลังจะเล็งลูกที่สองมาใส่คังยู

   จึก

   ผมโดนอีกครั้งที่ลำตัว...ไม่ว่ายังไงก็ไม่น่าจะรอด ตอนนั้นนั่นเองที่ซองชิลเข้ามาช่วยพวกเรา ซองชิลพาทหารที่จงรักภักดีกับซองโจมาด้วย พวกชุดดำจึงถูกจัดการไปหลายคนด้วยคนมีฝีมืออย่างซองชิล

   “ไม่นะ จูเนียร์...” คังยูเสียงสั่นขณะที่ผมล้มลงไป เขารีบรับตัวผมด้วยมือไม้ที่สั่นระรัว น้ำตาของเขากำลังจะไหลออกมา “ไม่นะ...”

   “อย่า...ร้อง...” ผมเอื้อมมือไปแตะดวงตาของเขา ผมกำลังทำตัวเหมือนผมรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ใช่ ผมรู้อยู่แล้ว “...ยิ้ม...ให้...ดู...หน่อย...”

   “เจ้าบ้าไปแล้วหรือ ข้าจะยิ้มได้ยังไง!” คังยูหันซ้ายหันขวา พยายามคิดว่าจะช่วยผมให้รอดยังไง แต่มันไม่มีทางที่ผมจะรอดหรอก

   “ยิ้ม...” ความเจ็บปวดแล่นริ้วไปทั่วร่างกายของผม ผมกระอักเลือดสองสามครั้ง ยิ่งผมเป็นแบบนั้น คังยูก็ไม่ยอมยิ้มเหมือนอย่างที่ผมต้องการ...

   “จูเนียร์ อย่าทิ้งข้าไป อย่าทิ้งข้า...”

    “ข้า...บอก...แล้ว...ข้า...เห็น...เจ้า...ตาย...ไม่ได้” ผมพูดอย่างยากลำบาก

   “ไม่เอา...ไม่”

   “ดูแล...ตัวเอง...นะ”

   “ไม่”

   “...”   

   “ข้าขอสั่งให้เจ้าไม่ไปไหน!”

   “หึ...เจ้าสั่งข้าได้หรือ”

   คังยูมองผมอย่างเหนื่อยหน่ายหัวใจ สีหน้าของเขาเจ็บปวดมากมายเกินจะบรรยาย “เจ็บไหม เจ็บมากไหม” คังยูแตะใบหน้าของผมอย่างเป็นห่วงเป็นใย และพูดด้วยน้ำเสียงที่หัวใจแตกสลาย

   ผมส่ายหน้า... “ข้า..กำลัง...จะ...กลับไป..แล้ว...”

   “กลับหรือ”

   “กลับไป...ที่ยุคของข้า”

   “...”

   “เจ้าสัญญา...กับข้าได้ไหม...”

   “...”

   “เจ้าต้องตามหา...ข้าให้เจอ...ข้าต้องได้เจอเจ้า...”

   “จูเนียร์ ไม่นะ ไม่...” คังยูน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย “...ข้าจะอยู่ยังไง ข้าไม่ให้เจ้าไป...เจ้าไม่รักข้าแล้วหรือ...”

   “ความรักของข้า...เป็นอย่างไร...เจ้าจะรู้ได้...ตอนที่เจ้า...เปิดลิ้นชัก...อยู่ในหอพัก...”

   “...”

   “ความรักของข้า...เป็นไปตาม...สิ่งที่ป้ายหยกนั้น...บอกเจ้า”

   ผมรู้สึกว่าเท้าของผมเย็นเฉียบ...ดวงตาที่ผมมองเห็นเป็นใบหน้าที่กำลังร้องไห้ของคังยูเริ่มพร่ามัว...ความเจ็บปวดที่ผมมีเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้าๆ...กลายกับว่ามันกำลังจะสูญสลายไปยังไงยังงั้น

   เฉกเช่นเดียวกันกับตัวผม...   

   “เจ้าไม่ไป ไม่ได้หรือจูเนียร์ ได้โปรดเถอะ”

   ผมหลับตาพริ้มแทนคำตอบ...

   “จูเนียร์”

   “...”

   “ข้ารักเจ้า”

   “...”

   “ข้าสัญญาว่าเราจะได้เจอกัน”

   “...”

   “ข้าจะตามหาเจ้าให้เจอ”

   ความรักของผมที่มีให้กับคังยูเหมือนกับป้ายหยกที่ยองวอนมันให้พ่อของมันไปสั่งทำมาให้

   เป็นคำภาษาจีนที่คำแปลเหมือนชื่อของมัน...

   ความรักของผมที่มีให้กับคังยู...จะให้เขาอยู่แบบนั้น...ตราบชั่วนิรันดร์

   ผมหลับตาลง โลกทั้งโลกดับวูบ สิ่งสุดท้ายที่ผมเห็นก็คือใบหน้าของคังยูที่เศร้าโศกเสียใจมากเกินกว่าที่ผมจะบรรยายได้...













   หม่าม้าบอกผมเสมอว่าผมเป็นเด็กพิเศษ

   ไม่ใช่ดาวน์ซินโดรมอะไรเทือกๆ นั้นนะครับ แต่หม่าม้าบอกว่าผมเหมือนเป็นเด็กที่อยู่ในคราบของผู้ใหญ่ ไม่ดื้อ เชื่อฟังหม่าม้ากับพ่อเสมอ ยิ่งผมโตขึ้นหม่าม้าก็ยิ่งชอบชมผมว่าผมนั้นสอนไม่ยากไม่เย็นอะไรเลย แต่แปลกอยู่อย่างหนึ่ง...เหมือนผมมีเรื่องในใจตลอดเวลา

   ใช่ครับ...ผมมีเรื่องในใจตลอดเวลา

   ผมกลายมาเป็นจูเนียร์ ลูกของพ่อชาวอีสานและก็หม่าม้าที่เป็นทายาทร้านทองที่เยาวราช มีน้องสาวชื่อเจอาร์ ทุกอย่างเป็นไปตามสิ่งที่ผมเคยเป็นก่อนหน้าที่ผมจะถูกย้อนเวลากลับไปที่ยุคโชซอน

   ผมไม่ได้ย้อนเวลากลับมาตอนที่ผมเป็นเด็กรัฐศาสตร์การทูตที่มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล แต่ผมย้อนเวลากลับมาเกิดใหม่ เริ่มต้นใหม่ กลายเป็นจูเนียร์คนเดิมที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม และก็เฝ้าหวังว่าสักวันหนึ่งผมจะได้เจอคังยูในยุคปัจจุบันอย่างที่ผมกับคังยูให้คำสัญญาต่อกันเอาไว้

   ผมเฝ้ารอวันนั้นเสมอ...ผมกลายเป็นเด็กเงียบๆ...ชอบมองเหม่อตลอดเวลา แม้ผมจะทำหน้าที่เป็นลูกที่ดีด้วยการตั้งใจเรียน แต่ท้ายที่สุดแล้วผมก็มีเรื่องเดียวในใจของผมตลอดมา นั่นก็คือเมื่อไหร่ผมจะได้เจอคังยู...

   หารู้ไม่ว่าโชคชะตาแม่งโคตรจะเล่นตลก

   ผมจำความได้ตอนที่ผมอายุประมาณสามขวบกว่า...ตอนนั้นแม้เรื่องราวจะจางๆ ไม่ได้ปะติดปะต่ออะไรมากมาย แต่ผมรู้ว่าผมเคยเป็นใครมาก่อน

   ตอนสี่ขวบ...เรื่องราวทุกอย่างชัดเจนขึ้นทุกขณะ ผมจำได้ทั้งหมด และก็รู้ตัวว่าตัวเองต้องรอคอยใครสักคน

   ตอนห้าขวบ...ผมก็ยังรอคอยให้ความบังเอิญหรือความตั้งใจอะไรก็ตามแต่นั้นได้เกิดขึ้นกับผมสักที

   แต่จนแล้วจนรอดมันก็ยังไม่เกิดขึ้น ห้าขวบก็แล้ว หกขวบก็แล้ว เจ็ดขวบ แปดขวบ เก้าขวบ สิบขวบ...คังยูก็ไม่มาปรากฏตัวให้ผมเห็น

   จนกระทั่งวันหนึ่ง...วันที่ผมรอคอยนั้นก็มาถึง





TBC*





ออฟไลน์ Chiffon_cake

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 712
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1544/-12
ตอนที่ 32






   ผมที่กำลังเด็กอยู่กำลังเรียนเรื่องโคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน และก็นิราศ เพิ่งรู้ว่านิราศนั้นคนสมัยก่อนเขาจะแต่งเกี่ยวกับเรื่องของการเดินทาง เนื่องจากการเดินทางนั้นใช้เวลาค่อนข้างนานและก็ค่อนข้างน่าเบื่อ พวกเขาเลยแก้เบื้อด้วยการแต่งนิราศขึ้นมา ตอนที่ผมนั่งเรียนวิชาภาษาไทยอยู่ ผมก็นึกไปถึงการเดินทางไปยังยุคโชซอนของผม

   แต่ผมแต่งนิราศไม่เป็น...

   การเดินทางของผมมันไม่ได้น่าเบื่อ และก็ไม่ได้ใช้เวลานานด้วย (ลืมตาตื่นแป๊บเดียวถึง) แต่ความรู้สึกตอนที่เดินทางไปนั้นมันมีมากมายหลากหลาย อย่างที่ผมเคยบอกไปเมื่อตอนที่แล้ว หม่าม้ามักจะบอกว่าผมเป็นเด็กพิเศษ เหมือนเป็นผู้ใหญ่และมีเรื่องอะไรในใจ       

   ผมมีเรื่องตอนที่ผมอยู่โชซอนอยู่ในใจของผมตลอดเวลา ถึงแม้ว่าตอนนี้ผมเป็นเด็กประถมใส่ชุดนักเรียนกางเกงขาสั้น แต่ผมกลับคิดถึงชุดนักเรียนซองกยุนกวานที่เป็นสีขาวทับด้วยสีฟ้าและหมวกสูง คิดถึงผมยาวเหยียด คิดถึงจีซูผู้เฉลียวฉลาด คิดถึงซองชิลผู้ที่เอาแต่เงียบ คิดถึงพยองอันเพื่อนที่ชอบเป็นห่วงผม และก็คิดถึง...คังยู

   คิดถึงการเดินทางของผมที่เหมือนผ่านไปได้ไม่นาน...ทั้งๆ ที่ตอนนี้คังยูในตอนนี่น่าจะตายไปแล้ว และอาจจะไปเกิดใหม่เป็นใครไม่รู้ หรืออาจจะยังไม่เกิดก็ได้

   น้ำตาของผมหยดแหมะลงสมุดวิชาภาษาไทยของผม

   “เชี่ยยย” ไอ้กล้วยร้องอย่างตกใจเมื่อเห็นน้ำตาของผม “ครูครับ เด็กชายจารุวัฒน์ร้องไห้!”

   พ่องมึง...ผมอยากจะเอามือตีหัวมันสักป๊าบ ผมร้องไห้ก็ใช่ว่าผมอยากจะประกาศให้คนบนโลกรู้นี่หว่า ครูวิ่งมาหาผมอย่างตกใจพร้อมๆ กับถาม

   “จารุวัฒน์ เธอเป็นอะไรไปล่ะ”

   “เดี๋ยวนี้เขาเป็นแบบนี้ตลอดเลยครับ เวลาที่เขาอยู่คนเดียวเขาก็มักจะร้องไห้ตลอด”

   นักเรียนทั้งห้องมองผมเหมือนผมเป็นตัวประหลาด เหมือนผมเป็นไอ้เด็กบ้าที่ไม่ได้อยากมาโรงเรียน

   “กล้วย เอ๊ย นายศุภกานต์แกล้งผมครับครู” ผมทำท่าสะอึกสะอื้น ไอ้กล้วยอ้าปากค้างที่มันโดนใส่ร้าย ก็มึงทำให้กูต้องอับอายก่อนทำไมล่ะวะ

   “ผมไม่ได้แกล้งมันนะครับ”

   “มันแกล้งผมครับ มันเอากล่องดินสอของผมไปทิ้งถังขยะ”

   “ฮือออ ผมไม่ได้แกล้งจารุวัฒน์นะครับครู”

   “มานี่เลย นายศุภกานต์”

   “ผมไม่ได้แกล้งมัน ฮืออออ ไอ้จูเนียร์ เลิกเรียนกูจะเตะก้นมึง ฮือออออ”

   กล้วยเดินร้องไห้ตามหลังครูไปจากห้อง ผมอดขำไม่ได้จริงๆ ครับ การที่ผมเป็นผู้ใหญ่แต่อยู่ในร่างเด็กนั้นผมต้องแอ๊บว่าตัวเองเด็กและก็มักจะหาเรื่องแกล้งเด็กคนอื่นโดยเฉพาะไอ้กล้วย ตอนนี้มันเหมือนเด็กอ้วนจ้ำม่ำ แต่มันไม่รู้หรอกครับว่าชาติที่แล้วมันเท่แค่ไหนในชุดเครื่องแบบผู้ตรวจการของโชซอน...

   หลายสิ่งหลายอย่างผ่านไปเหมือนที่ผมเคยเป็นแต่มันก็ไม่ได้เป๊ะไปเสียทั้งหมด เช่น ผมเคยถูกจัดอยู่ในห้อง ป.5/5 แต่กลับถูกจัดให้อยู่ห้องป.5/3 พ่อควรจะซื้อเกมส์เพลย์สเตชั่น 2 ให้ผม แต่พ่อก็ดันไม่ซื้อไปซื้อไม้เทนนิสให้ผมแทน มันไม่เหมือนกับเหตุการณ์ที่มันเคยเป็น แต่ก็ช่างเถอะครับ ผมเองยังแก้ไขอดีตที่ลียองวอนซึ่งก็คือตัวผมทำไม่ได้ให้ทำได้เลย เพราะงั้นอะไรๆ มันก็คงจะเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนกับที่ผมเคยเจอมาก่อน

   ผมไม่มองว่ามันเสียเวลาอะไรหรอกนะครับที่ต้องมาเริ่มใหม่แบบนี้...ทั้งๆ ที่ตอนนี้ตัวเองควรจะเรียนรัฐศาสตร์การทูตเหมือนตอนก่อนหน้าเจอสมุดบันทึก...ผมกลับชอบมันเสียด้วยซ้ำ...ผมจะได้มีเวลาได้รอคังยูนานขึ้น...รอวันที่คังยูทำตามสัญญา

   อ้อ ตอนที่แล้วบอกไปแล้วนี่หว่าว่าวันนั้นจะมาถึง

   วันนี้นี่แหละครับ...แต่ว่าผมยังไม่เจอเขา ผมไม่รู้หรอกว่าผมจะเจอเขา ผมก็ใช้ชีวิตเป็นเด็กนักเรียนทั่วไป เตะบอลตอนกลางวัน ดีดลูกแก้วบ้าง เล่นไพ่ยูกิ เล่นการ์ดดราก้อนบอลบ้าง พยายามให้ตัวเองทำตัวให้สมวัยบ้าง ไม่ใช่ว่าตัวเองจะต้องรอคนรักอย่างคังยูตลอดเวลา

   ผมใช้ชีวิตให้ผ่านไปอย่างปกติอย่างไม่รู้ตัว

   “มึงมันเหี้ย” กล้วยในวัยเด็กด่าผมด้วยใบหน้าที่บูดบึ้ง “กูจะไม่ให้มึงกินไอติมบ้านกูฟรีอีกแล้ว”

   “กูร้องไห้ก็ใช่ว่ามึงควรจะบอกคนอื่นนี่” ผมด่า...ให้ตาย...เหมือนผมกำลังด่าเด็กอยู่เลยครับ ผมเป็นผู้ใหญ่ยังไงเนี่ย

   “วันนี้มึงไม่ต้องไปเตะบอลเลย กูนัดพวกไอ้บอลไว้แล้ว”

   “ได้ไง กูไปด้วย”

   “มึงทำให้กูโดนครูดุ กูไม่ให้มึงไป”

   “เชี่ยกล้วย กูไปด้วย นะๆๆๆ”

   “ไม่”

   “กูให้การ์ดบลูอายส์ 3 หัวเลย”

   กล้วยมองอย่างชั่งใจ “จริงเหรอ”

   “เออ”

   กล้วยทำหน้าดีใจ ผมหัวเราะให้กับความใสของมันที่ผมไม่ได้มีมานานแล้ว การ์ดบลูอายส์ 3 หัวที่เป็นการ์ดยูกินั้นสำหรับผู้ใหญ่อย่างผมที่เคยเป็นเด็กมาก่อนมันเป็นแค่กระดาษใบหนึ่ง แต่สำหรับเด็ก 11 ขวบที่แท้จริงไม่มีผุ้ใหญ่อยู่ในร่างแบบผมถือว่ามีค่ายิ่งกว่าเพชรยิ่งกว่าทองเลยทีเดียว

   “ได้เลย”

   “เย็นนี้เจอกันนะ” ผมบอกกับไอ้กล้วย







   “เราจะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ กัน” หม่าม้ากล่าวเมื่อผมมาถึงบ้าน “ไปรับช่วงต่อร้านทองของอาม่า”

   “ครับ” ผมตอบสั้นๆ “อั๊วขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าบนบ้านนะม้า”

   พ่อกับหม่าม้ามองหน้าผมอย่างงงงัน

   “ไม่ตกใจเหรอ”

   “ตกใจอะไรอ่ะ” ผมถามกลับ

   “ตกใจเรื่องที่เราจะย้ายไปกรุงเทพฯ ไง ลื้อต้องตกใจสิ”

   ผมสบตาพ่อกับหม่าม้า เออว่ะ...ผมต้องตกใจนี่หว่า

   “เฮ้ย จริงดิ เราจะย้ายไปจริงดิหม่าม้า แล้วโรงเรียนล่ะ แล้วไอ้กล้วยล่ะ อั๊วไม่อยากจะจากเพื่อนไปนะม้า”

   เป็นการดราม่าที่ตอแหลมากๆ พ่อกับหม่าม้าดูไม่เชื่อว่าผมตกใจที่จะย้ายไปกรุงเทพฯ จริงๆ แต่ก็เอาเถอะครับทำไงได้ล่ะ ก็ผมรู้อยู่แล้วนี่ว่าสักวันหนึ่งเราก็จะต้องย้ายไป ผมก็จะกลายเป็นลูกคนขายทองที่อยู่เยาวราช อาม่ากับอากงรักและเอ็นดูพ่อผมมากเลยครับ ก็เลยยกลูกสาวที่เป็นหัวแก้วหัวแหวนให้ ครอบครัวของพ่อเป็นคนที่มีฐานะในระดับหนึ่ง(แหม ชาติที่แล้วก็เป็นถึงเสนาบดีลีเชียวนะ) แรกเริ่มเดิมทีเรามีธุรกิจส่วนตัวของครอบครัวที่ต่างจังหวัด แต่ทว่าตอนนี้ต้องย้ายไปดูแลร้านทองที่กรุงเทพฯ แล้ว...

   ผมรู้อยู่แล้วไงว่าสักวันหนึ่งก็ตั้งไป ผมก็เลยแสดงความตกใจออกไปได้แค่นั้น ผมขึ้นบันไดไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อไปเตะบอลกับไอ้กล้วย หลังจากนั้นก็ขอพ่อกับหม่าม้าไปเล่นอยู่ที่สนามหญ้าไม่ใกล้ไม่ไกลจากหมู่บ้านที่เป็นบ้านจัดสรรของพวกเราเท่าไหร่นัก

   ตอนที่ผมไปถึง ไอ้กล้วยกับไอ้บอล และก็เพื่อนคนอื่นๆ กำลังยืนมองดูพวกเด็กห้องอื่นมันกำลังเตะบอลอยู่ที่สนามด้วยสายตาอึ้งๆ

   “มีคนมาจองสนามก่อนเหรอ...”

   “ใช่ ไอ้พวกตูด” กล้วยตอบ “กูก็บอกมันแล้วแท้ๆ ว่าวันนี้เราจะมาเตะ”

   เพราะเป็นเด็กต่างจังหวัดด้วยกัน บ้านก็เลยอยู่ละแวกเดียวกัน พวกที่กำลังเตะบอลอยู่คือพวกที่มาจากป.5 ห้องอื่น ผมมองดูคนที่เตะบอลพวกนั้น แต่แล้วก็มีใครคนหนึ่งทำให้ผมสะดุดตาตั้งแต่แรกเห็น

   มันไม่ใช่เด็กที่มาจากป.5 โรงเรียนของผมแน่ๆ

   คังยู...

   คังยูในวัยเด็ก...

   ผมอ้าปากค้างกับภาพที่ผมเห็น คังยูกำลังเตะบอลอย่างมีทักษะกับป.5ห้องอื่นด้วยความสนุกสนาน เขาในวัยเด็กนั้นทั้งหล่อเหลาและก็สดใส โดดเด่นกว่าป.5 ทุกคนที่อยู่ด้วยกันที่นั่นรวมถึงพวกผมด้วย

   รอมา 11 ปี...มันกำลังจะเกิดขึ้นจริงๆ แล้วหรือ...

   ผมขยี้ตา พยายามนึกว่าตัวเองอาจจะฝันไป แต่ไม่เลยครับ คังยูก็เป็นคังยูจริงๆ แม้จะเด็กและมีผมที่สั้นจุ๊ดจู๋ แต่นั่นก็คือคังยูจริงๆ

   น้ำตาของผมไหลออกมา...นานเท่าไหร่แล้วที่ผมไม่ได้เจอเขา ตั้ง 11 ปี 11 ปีเลยนะครับ

   “มันดราม่าอีกแล้วว่ะ” กล้วยหันไปพูดกับบอล “โดนแย่งสนามแค่นี้...”

   “ไอ้หล่อนั่นมันใครวะ หล่อฉิบหาย” บอลพยักเพยิดไปทางคังยู

   “ไอ้โกฮังไง ญาติไอ้ตี๋ห้อง 3 อ่ะ”

   “โกฮัง?” ผมหันไปหาไอ้กล้วยที่รู้ข้อมูล ชื่อในยุคนี้ของคังยูทำไมเฟี้ยวเงาะแบบนี้ล่ะครับ

   “ใช่ ตี๋บอกว่าพ่อมันชอบดราก้อนบอลมาก พี่มันยังชื่อโงกุนเลย”

   เอาจริงดิ...ผมอ้าปากค้าง คังยูหรือที่ต้องเรียกใหม่ว่าโกฮัง หยุดเตะบอลและก็หันมามองผม

   ในจังหวะที่เราสบตากันนั้น หัวใจของผมเต้นแรงไม่หยุด ผมพยายามลุ้นว่าเขาจะจำผมได้ไหม...ลองตอบดูครับว่าคังยู เอ๊ย โกฮังจะทำอย่างไรหลังจากที่เราสบตากัน

   1.   เดินเข้ามาใกล้ผมและก็กระซิบบอกผมว่า ‘ข้ารอเจ้ามานานมากแล้วจูเนียร์...ข้าดีใจที่ได้เจอกัน’
   2.   ร้องไห้อย่างปลื้มปิติและก็กอดผม
   3.   มองไปทางอื่นอย่างไม่สนใจและก็เตะบอลต่อ


   เป็นไปตามข้อที่ 3 ครับ T_T โกฮังมองผมเสร็จก็หันไปเตะบอลต่อ เขาจำผมไม่ได้ ทั้งๆ ที่เขาสัญญาว่าเขาจะมาเจอผม แต่เขาจำผมไม่ได้ครับ เขาจำผมไมไ่ด้ เขาจำผมไม่ได้...

   ...แต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกนะ ได้เจอแล้วผมจะปล่อยไปง่ายๆ ได้ยังไง...

   “ไป”
   “ไปไหน” กล้วยหันมาถาม
   “ไปแย่งสนามคืน”
   “เชี่ย มึงเห็นตัวไอ้โกฮังมั้ย ตัวสูงอย่างกับเปรต”

   ไม่มีอะไรที่จะต้องกลัวทั้งนั้นแหละ ผมย่างสามขุมเข้าไปหาพวกห้องอื่น พวกนั้นหยุดเตะบอล และก็มองพวกผมอย่่างประหลาดใจ

   “มาทำไม ไปไกลๆ เลย” เป็นเรื่องราวของเด็กที่อยู่ห้องป.5/5 กับเด็กป.5/1ที่ไม่ถูกกันครับ พวกนั้นส่งเสียงมาใส่พวกผมแบบนั้น
   “กูจะมาเตะบอล” ผมพูด โกฮังมองมาที่ผมอย่างประหลาดใจ แต่เขาก็จำผมไม่ได้อยู่ดี...

   เชอะ...   

   “กล้วยบอกว่าจองสนามไว้แล้ว” ผมพูดต่อ

   “ถ้าอย่างนั้นก็มาเตะด้วยกัน” เสียงของคังยูที่ผมไม่ได้ยินมานานออกมาจากปากของเด็กที่ชื่อว่าโกฮัง ผมพยายามกลืนก้อนสะอื้นแห่งความปลื้มปิติลงไปในคอ

   “ไม่ กูไม่เตะกับพวกมึง” กล้วยประกาศกร้าว

   “ทำไม เด็กอย่างพวกกูมันทำไม” โกฮังก้าวเข้ามาใกล้ เชี่ย...ผมพยายามจับแขนกล้วยไม่ให้ไปหาเรื่องโกฮัง ชาติที่แล้วโกฮังเกิดมาอยู่ในชนชั้นสูงเสียดฟ้า ชาตินี้ผมจึงไม่แน่ใจเท่าไหร่นักว่าเขาจะยังอยู่ในชนชั้นแบบนั้นหรือเปล่า ผมจึงปรามไอ้กล้วย

   “พวกมึงมันขี้แย่ง สนามบอลพวกมึงก็แย่ง”

   “พูดงี้ก็สวยดิ” โกฮังทำท่าจะพุ่งใส่ไอ้กล้วย ตี๋กับเพื่อนช่วยกันห้ามโกฮังเอาไว้ ในขณะที่ผมช่วยกันห้ามไอ้กล้วย

   แอบอมยิ้มไม่ได้ว่ะ...คังยูของผมเกิดเป็นคนไทย อีกทั้งยังเป็นเด็กที่ไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น ผมอดยิ้มไม่ได้จริงๆ ครับ

   “ยิ้มอะไรวะ หาเรื่องเหรอ”

   ตรรกะไหนของมึงวะ คนยิ้มให้มึงเนี่ยนะจะหาเรื่องมึง...

   ผมปล่อยกล้วย เดินไปเผชิญหน้ากับโกฮังหรือคังยูของผมที่ตัวสูงกว่าผมประมาณหนึ่งศอก (กูอยากจะร้องไห้) 

   เขาเกิดใหม่ เขาจึงจำผมไม่ได้ เรื่องนี้ผมเข้าใจ(ใครมันจะสเปเชียล จะลิมิเต็ดเท่าผมได้อีกล่ะ ไปเที่ยวโชซอนกลับมาจำทุกอย่างได้เฉยเลย) ผมยังรักเขาและก็รอเขา ตอนนี้เขาอาจจะยังเป็นเด็ก ยังไม่ประสีประสา และผมก็จะใจเย็นในเรื่องนั้น...
สิ่งเดียวที่ผมจะทำนั่นก็คือทำให้เขาจำผมให้ได้...

   “หาเรื่องหรือไงวะไอ้เตี้ยเอ๊ย”

   “เออ” ผมตอบทันควัน “มึงมันไอ้ขี้แย่ง” ไอ้ขี้ลืมด้วยไอ้สาดดดดดดดดดดดด

   “เชี่ย” โกฮังทำท่าจะชกผม ทุกคนปรี่เข้ามาห้าม แต่ว่าโกฮังกลับชะงักค้างเองแบบที่ทุกคนเองก็งงว่าทำไมไม่ต่อยผม
ผมเองก็งงเหมือนกัน ตอนแรกผมก็หลับตาปี๋เตรียมรับแรงปะทะแล้ว ไม่คิดว่าโกฮังจะไม่ต่อยผมแฮะ

   “ต่อยมันเลย ต่อยมันเลย” ไอ้คนที่ไม่ห้ามมันก็เชียร์ให้โกฮังต่อยผมเหลือเกิน

   โกฮังทำหน้าเหมือนอยากจะต่อยแต่ไม่กล้า กำปั้นของเขายังชะงักค้างอยู่กลางอากาศ ผมก็เลยได้ทีเชิดหน้าใส่มัน

   “ไม่เก่งนี่หว่า” หาเรื่องเจ็บตัวไปอีกกู...

   “พ่อกูสอนให้กูไม่รังแกคนที่อ่อนแอกว่า...”

   มันวางหมัดลง ก่อนที่หันไปเตะไอ้กล้วยแทน กล้วยที่ความซวยหล่นมาใส่ร้องจ๊าก และตอนนี้พวกเราทุกคนก็กำลังจะตะลุมบอนกันตามประสาเด็ก

   ผมไม่กล้าต่อยโกฮัง ผมจึงไปต่อยเด็กคนอื่น เหมือนจะทำร้ายเด็กแต่แรงผมเท่าขี้ตามด ไม่มีใครเจ็บหรอกครับ ผมเนี่ยสิหนัก ทั้งหมัด ทั้งศอก ทั้งเข่าจากพวกไอ้เด็กห้องหนึ่ง

   รู้สึกดีอยู่อย่าง หลายครั้งหลายคราที่โกฮังมีโอกาสจะจัดการผม แต่มันก็เลือกที่จะไม่ทำ เอาแต่ชะงัก และก็หันไปหาเตะเด็กห้องห้าคนอื่นแทนที่จะเป็นผม...

   นี่คือสิ่งที่ต้องแลกเพราะต้องการให้โกฮังมันจำคนอย่างผมได้จริงๆ น่ะเหรอครับ เจ็บฉิบหาย

   “ไอ้เด็กพวกนี้นี่!” น้ายามกับพรรคพวกวิ่งไล่ผมกับเพื่อน พวกเราแตกกระจายเหมือนวงไพ่เจอตำรวจจับ ทุกคนหนีกันไปคนละทิศคนละทาง...ผมไม่กล้าวิ่งกลับบ้านในสภาพนี้ พ่อกับหม่าม้าต้องบ่นจนหูชาแน่ๆ ผมจึงวิ่งหนีไปที่ไหนก็ได้ที่ไม่ใช่ที่บ้านของตัวเอง...

   มีคนมาดึงตัวผมให้ไปซ่อนใต้พุ่มไม้...คนๆ นั้นคือโกฮัง ผมอ้าปากค้างก่อนที่จะส่งเสียงร้อง อย่างตกใจ โกฮังเลยเอามือมาปิดปากผม

   “เดี๋ยวก็ซวยกันหมดหรอก” เขาพูดกับผม

   กลิ่นของเขาไม่ได้แตกต่างจากยุคโชซอนเลย ผมลอบมองใบหน้าวัยเด็กของเขาผ่านมือเรียวที่มาปิดปากผม อีกฝ่ายดูจะตั้งใจในการหลบยามมากๆ จนไม่รู้ว่าผมนั้นมองเขาแล้วมองเขาอีก...

   “จ้องทำไมนักหนา”

   โกฮังรำพึงแบบไม่มองหน้าผม...ผมหลุบสายตาลงต่ำทันที ถูกจับได้แล้วว่ะ...

   “ถามอะไรบางอย่างได้มั้ย” โกฮังปล่อยมือที่ปิดปากของผมออก

   ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำไมเปลี่ยนจากซองโจ คังยู มาเป็นโกฮัง ทำไมไม่เอาชื่อที่มันง่ายๆ อย่างแทน เหนือ ป่า ปอนด์ หรือมังกร ชื่ออะไรก็ได้ที่ไม่ใช่โกฮังอ่ะ เพราะแม่งเรียกยากฉิบหาย...

   ผมมัวแต่ใจลอย โกฮังก็เลยพูดขึ้นอีกครั้ง “กูถามอะไรบางอย่างได้ป่ะ”

   “อื้อ” ผมพยักหน้า

   “เราเคยเจอกันมาก่อนหรือเปล่าวะ”

   ผมมองสบตาของอีกฝ่ายที่ใกล้เพียงเอื้อมมือถึง ถ้าผมเล่าให้ฟังทั้งหมดโกฮังมันคงจะไล่เตะผมกันพอดี จะให้เล่าได้ยังไงว่าเราเคยเป็นคนรักเก่ากันเมื่อชาติที่แล้วน่ะ ใครมันจะเชื่อ

   ผมถอนหายใจเบาๆ “คิดว่าไงล่ะ...”

   “กูเพิ่งเคยมาจังหวัดนี้ครั้งแรกนะ แสดงว่าคงไม่เคยเจอกันมาก่อนหรอกใช่มั้ย”

   “...”

   “แต่ทำไมกูคุ้นหน้ามึงจังวะ”

   ผมไม่รู้จะตอบอะไร...ได้แต่นั่งอยู่นิ่งๆ อยู่แบบนั้น

   “มึงชื่ออะไร”

   “...”

   “มึง ชื่อ อะไร” พอไม่ได้ดั่งใจก็เสียงเข้มขึ้น นิสัยเหมือนกันกับชาติที่แล้วเด๊ะๆ ไอ้องค์ชายรองเอ๊ย

   “จูเนียร์”

   “ที่แปลว่าเตี้ยน่ะเหรอ”

   “ไม่ใช่เว้ย”

   “อืม”

   โกฮังกำลังจะลุกขึ้นไป ผมจับเสื้อเขาเอาไว้ เขาหันมามองหน้าผมอย่างประหลาดใจ

   “มีอะไรอีกล่ะ”   

   “มึงเป็นใครมาจากไหนวะ”

   “กูต้องตอบมึงด้วยเหรอ”

   “ตอบกูมาเถอะน่า” เพราะผมเองก็ไม่รู้ว่าจะได้เจอเขาอีกมั้ย...

   “รู้จัก ธรวัฒนกิจทรัพย์ มั้ย”

   คุ้นหูมาก...เป็นนามสกุลที่ค่อนข้างคุ้นหูผมและก็ได้ยินบ่อยมากเลยทีเดียว...

   “มึงจะไปแล้วเหรอ” ผมถามเสียงอ่อย

   “มึงเกิดอยากอยู่กับกูขึ้นมาเหรอครับ กูก็ต้องกลับบ้านสิ”

   ผมมองโกฮังที่มีเงาของคังยูอยู่เต็มตัวของเขา... “มึงต้องจำกูให้ได้นะเว้ย”

   “หา”

   “อย่าลืมกู จำชื่อกู จำหน้ากูไว้”

   “เออ กูรู้แล้ว” โกฮังลุกขึ้น “...เด็กผู้ชายที่ไหนจะสวยเหมือนมึง”

   เขารำพึงรำพันกับตัวเองก่อนที่จะเดินเลี่ยงไป ผมมองตามเขาด้วยสายตาละห้อย อย่างน้อยก็ได้รู้ชื่อ รู้นามสกุลแล้ว...   

   เราจะต้องได้เจอกันอีก...

   และเราจะต้องได้รักกันอีกครั้งหนึ่ง...


   เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ




TBC*




talk : อัพสองตอนติดเพราะกลัวคนอ่านโศกกับดราม่าจนเกินไปปปป T_T
นิราศโชซอนถูกวางพล็อตออกมาให้เป็นแบบนี้นะคะ

ยองวอนตัวจริงตายเพราะรับธนูแทนคังยู
จูเนียร์ก็เลยต้องตายแบบนั้นและก็กลับมาเกิดใหม่เป็นจูเนียร์คนเดิม...

แฟนตาซีมากมาย ไม่เคยเขียนอะไรที่แฟนตาซีแบบนี้เลยยย
พอจะเห็นแววเรื่องจบแฮปปี้หรือยังเอ่ย ^_^


ออฟไลน์ holyhilly

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 41
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
 :pighaun: กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  :ling1:

ออฟไลน์ aiyuki

  • รักแท้ไม่แบ่งแม้เพศพันธุ์
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2636
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-6
รอตอนจำกันได้อย่างมาดหมาย แต่ไม่อยากให้จบ 5555

ออฟไลน์ Mura_saki

  • แค่เรารู้จักกัน...มันก็ดีที่สุดแล้ว :)
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2054
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +179/-9
รักกันๆๆ

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
ทันใจจริงเชียว
โกฮังคังยูตามมาติดๆเลย ย้ายไปกรุงเทพด้วยกันดิ
ขอบคุณค้าบบบ

ออฟไลน์ DeadBamBoo

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 10
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
ในที่สุดดด  :jul1:

ออฟไลน์ Azitten

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 365
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-0
โหหหห ไม่คิดว่าพล็อตจะมาขนาดนี่เลยค่ะ แฟนตาซีมากๆๆๆๆๆ รอลุ้นนะคะว่าเมื่อไรจะจำกันได้
เป็นจูเนียร์คงเบื่อๆหรือป่าว กลับมาใช้ชีวิตแบบที่รู้อยู่แล้ว แต่ก็น่าสนุกไปอีกแบบเพราะเรารู้อนาคตอะ

จำกันได้เร็วๆๆนะ อย่าพรากจากกันอีก

ออฟไลน์ LovEYouOnLy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 439
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
จะจบแล้วหรอ ไม่อยากให้จบเลย :mew2: :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mi.07

  • ชัดชัดชาด่าดาดั๊ดชัด~
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 96
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-2
ดีน้าาา คนเขียนใจดีลงมา2ตอนไม่งั้นคงเศร้ารอตอนหน้า

ออฟไลน์ apisaraa

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 88
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
 :katai1: โอยยย อิโกฮังงงงงงงง สงสัยน่าจะได้เริ่มต้นใหม่แน่เลย

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
รอตอนต่อไปนะคะ :L2:

ออฟไลน์ PiSCis

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 346
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
เจอกันแล้วววววววววววววววววววววววว  :mew4:

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80
เจอกันแล้วว รักกันเร็วๆนะ  :mew1:

ออฟไลน์ me12inzy

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-2
เกลียดชื่อโกฮัง5555555555 :hao6: :hao6: ทำไมชฟค.ทำร้ายคังยูแบบนี้5555555555555555
นังจูอ่อยย

ออฟไลน์ Chattcha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 111
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
เจอกันแล้วก็รีบโตเร็วๆนะ จะได้รักกันไวๆๆ :impress2:

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
อยากอ่านๆๆๆๆๆ

ออฟไลน์ fanglest

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 813
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-0
อ่าา. คุณครูคะ มีคนแก่ ทำเด็กป. 5 เบี่ยงเบนค่ะ
\\คนเขียนตบ
โกฮัง อย่างกะชื่อ เฮียขายก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน 5555
#ไม่ได้คิดถึงดรากอนบอลจริงจริ๊ง สาบาน
รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ PAiPEiPEi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 458
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-3
เราถึงกับร้องไห้เลยค่ะตอนนั้น สงสารคังยูมาก ในมุมของคังยูแล้วต้องทรมานกว่าจูเนียร์เเน่นอน  เพราะเค้าไม่รู้อะไรเลย ต้องอยู่คนกับภาพที่จูเนียร์ตายต่อหน้าในยุคโชซอนนั้นไปตั้งกี่ปีกว่าคังยูจะตายเกิดใหม่  ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่รู้อีกว่าจะได้เจอจริงๆมั้ย   สงสารมากก   ชาตินี้จูเนียร์ก็พยายามเข้านะรีบกระตุ้นให้คังยูจำได้เร็วๆ 

อยากอ่านตอนหน้าแล้วอ่าา

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
ชื่อใหม่ของคุงยูช่างเก๋ไก๋มากจร้า
ในที่สุดก็ได้เจอกัน

ออฟไลน์ •♀NoM!_KunG♀•

  • *,*โสดสนิทศิษย์พยักหน้า*,*
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +181/-8
อ่อยยยย!! น้องปริ่ม

ออฟไลน์ Naeon

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 214
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
รอกลับมารักกันอีกครั้ง

ออฟไลน์ บูมเบส

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1740
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-4
น่าสงสารอยากรู้ว่าหลังนังจูตายแล้วเผ็นไง

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
แหละเราก็หากันจนเจอ มันนานแค่ไหนที่รอเธอมา

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ชื่อใหม่คังยูนี่... :laugh:

ออฟไลน์ MaRiTt_TCL

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1513
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +67/-6
โอ้โหวววโกฮัง ต้องจำจูเนียร์ให้ได้นะ จูเนียร์จะย้ายไปเรียนกรุงเทพละ

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ขื่อใหม่ของคังยูนี่... :laugh:

ออฟไลน์ magic-moon

  • magKapleVE
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 495
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-2
    • Freedom of meetups, no obligations
อ่าา. คุณครูคะ มีคนแก่ ทำเด็กป. 5 เบี่ยงเบนค่ะ
\\คนเขียนตบ
โกฮัง อย่างกะชื่อ เฮียขายก๋วยเตี๋ยวแถวบ้าน 5555
#ไม่ได้คิดถึงดรากอนบอลจริงจริ๊ง สาบาน
รอตอนต่อไปค่ะ
ใช่ไหมคะ ใช่ไหมๆ รู้สึกเหมือนกันค่ะ โดยเฉพาะตอนที่น้องจูบอกว่าเขายังเด็กและบริสุทธิ์นี่มันน #บิดตัวเป็นครัวซอง ให้ฟีลคนแก่กินเด็กจริงๆ กี๊สสสสสส ขอให้นิยายยังไม่จบนะคะ ถือซะว่าที่ผ่านมาเป็นการปูเรื่องของภาคอดีต รอภาคปัจจุบันค่ะ จ๊วฟฟฟฟ

ออฟไลน์ ssipra

  • นักอ่านมืออาชีพ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-2
พระเอกเรื่องมีหลายชื่อมาก555555555555
เป็นกำลังใจให้น้องจู กรี๊ดว้ายยยย

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด