~~ เออกูผิด 3...ตอนที่ 44 ~~“ ไปเที่ยวกันดีกว่า นะๆ ไปเที่ยวกัน ” ไอ้โมเดินมาเขย่าผมกับไอ้ปลาบึกที่กำลังนอนกลางวันกันอยู่
“ ไม่เอาพี่จะนอน ” ผมหันหลังให้
“ ร้อนจะตายนอนเข้าไปได้อย่างไง อากาศอย่างนี้โมว่าเราไปเดินห้างเย็นๆกันดีกว่า ”
“ ไปช่วงเย็นดิ ” ไอ้ปลาบึกออกความเห็น
“ แอร์ก็เปิดร้อนตรงไหนอีกเนี้ย ” ผมเร่งแอร์ขึ้นอีก
“ ไม่เอา ไม่ให้นอนแล้ว โมอยากไปเที่ยวววววววว ” มันงอแงเป็นเด็กๆ
“ บึกมึงไปกับมันเลย ”
“ เรื่องไรกูจะนอน มึงแหละพามันไปเลย เอาไปทิ้งไว้ในเซเวนก็ได้ ”
“ แงงงง โมไม่ใช่ลูกหมานะจะได้กระเตงไปทิ้งไว้หน้าปากซอยไหนก็ได้ ”
“ ............. ” ผมพยายามจะหลับต่อ
“ ลุกๆ ” ไอ้โมเริ่มออกแรงเขย่า
“ ไม่เอากูจะนอน ” ไอ้บึกขยับตัวหนี
“ พี่โจ๊กอ่ะ ลุกนะครับ ” มันขยับมาทางผม
“ ขออีกชั่วโมงได้ปะ ”
“ ไม่เอาอ่ะ ”
“ โมนอนลงเร็วเดี๋ยวก็หลับ ” ผมตบแปะๆข้างตัว
“ ก็โมไม่ง่วงนี่หน่า ”
“ มานี่มา ” ผมดึงแขนไอ้โมลงมานอนกอดไว้หลวมๆ
“ พี่โจ๊กครับ โมอยากไปเที่ยวจริงๆนะ ” มันเด้งตัวขึ้นนั่งแล้วทำหน้าเป็นตูด
“ อืม เดี๋ยวพี่พาไป ”
“ ไปตอนนี้ไม่ได้เหรอครับ ”
“ แดดร้อนจะตายไม่เห็นเหรอ ”
“ เดี๋ยวบ่ายมันจะยิ่งร้อนกว่านี้อีกนะ ”
“ งั้นค่อยไปช่วงเย็๋นนะ ”
“ พี่จะพาไปเที่ยวไหนครับ ”
“ สนามหลวงไหม ” ไอ้บึกขยับเข้ามานอนใกล้ผม
“ สนามหลวงไม่เห็นมีไรเลยอ่ะพี่ปลาบึก ”
“ ว่าวไง เดี๋ยวกูพามึงไปชักเอง 555+ ”
“ ทะลึงแระมึง ” ผมหันไปตบกะโหลกมันหนึ่งทีแต่เบาๆ
“ ไปว่าวไมตั้งไกล ว่าวอยู่บ้านก็ได้ ” ผมออกความเห็น
“ น่านไง ว่าแต่กู ” มันตบผมคืนมาสองที
“ งั้นไปท่าน้ำนนท์ปะ เค้าว่าที่นั่นมีของกินอร่อยๆเพียบเลย โมอยากนั่งเรือเล่น ”
“ พอเลยมึง มันไกลไปกูขี้เกียจเดินทาง ” ผมท้วง
“ พี่โจ๊กอยากไปไหนอ่ะ ”
“ พาต้าไหม ”
“ พาต้า /พาต้า ”
“ อืม ไปปะ ^.^ ”
“ ไปเยี่ยมพ่อมึงที่ถูกขังกรงอยู่ชั้น 7 อ่านะ ” มันหมายถึงคิงคอง
“ สัด เล่นถึงพ่อกูเลยเหรอ ” ผมหันไปตับมันอีกรอบ
“ 555+ ปลาบึกขอโต๊ดดดด ”
“ แต่ผมว่าเราเลยไปเซ็นปิ่นกันดีกว่า โมอยากไปเดินดูของที่นั่น ”
“ ของแพงจะตายมึงจะไปซื้ออะไรวะ ” ไอ้บึกลุกขึ้นนั่งกดมือถือตัวเองเพราะมีเสียงข้อความเข้า
“ ก็ต้องดูไปเรื่อยๆอ่ะ ”
“ ใครส่งข้อความมา ” ผมลุกขึ้นนั่งแล้วชะโงกดูทันที
“ เสียมารยาท ” มันลุกหนีไปอีกทาง
“ ใคร ” ผมเสียงเข้ม
“ เพื่อน ”
“ ก็ใครละ ”
“ เพื่อน เอ๊ะมึงนี่ ”
“ อย่ามากวนตีนกู เอามาดู เร็วๆ ” เสียงเข้มขึ้นกว่าเดิมเพราะไอ้บึกมีพิรุธ
“ พี่โจ๊กนี่ พี่ปลาบึกบอกว่าเพื่อนก็เพื่อนดิ ”
“ จะดูจริงอ่ะ ” มันตีหน้าสลด
“ ดู ส่งมา ” ผมแบบมือรอรับสินค้า
“ อ่ะ ”
“ ไหนดูดิ๊ (ผมค่อยๆกดแป้นไปด้วยใจระทึก) โหลด ฟรี เสียง เพลง รอ สาย -*- ”
“ 555+ ไอ้ควายยยย ” ไอ้บึกชอบใจที่หลอกผมได้
“ ไอ้เชี้ยย ”
“ 555+ เป็นไงล่ะ อยากดูดีนัก ” ไอ้โมขำผมใหญ่
“ 555+ ทำไม คิดว่ามีใครส่งข้อความหวานแหว๋วมาหากูเหรอไงมึง ”
“ แล้วมึงมาทำเป็นกั๊กให้กูสงสัยทำไม ”
“ ก็แค่อยากรู้ว่ามึงยังหึงกูอยู่บ้างเหรอเปล่า ”
“ แล้วรู้ผลหรือยังล่ะ อะเอาคืนไป ”
“ รู้แล้วค๊าบบบบบ ” มันขยับเข้ามาใช้สองมือบีบแก้มผมก่อนจะรับมือถือคืนไป
“ ไปอาบน้ำแต่งตัวกันดีกว่าครับ โมหิวแระ ”
“ งั้นกูว่าพวกเราไปหาไรกินข้างนอกกันดีกว่า ปะมึงไอ้โจ๊กไปอาบน้ำก่อนเลย ”
“ ทำไมต้องกูก่อนด้วย มึงแหละไปอาบก่อนเลย ”
“ ไม่ต้องเกี่ยงกัน งั้นเราอาบพร้อมกันเลย ” ไอ้โมยิ้มมีเลิศนัย
“ โนๆ กูขอผ่าน ” ไอ้บึกโบกมือ
“ .....(ตาขวาผมกระตุก)......... ”
“ พี่โจ๊ก พี่โจ๊ก ” ไอ้โมเขย่าตัวผม
“ หืม ”
“ เป็นอะไร นั่งเงียบเชียว ”
“ เปล่าๆ ไม่มีอะไร ” ผมลุกขึ้นเตรียมตัวไปอาบน้ำ
“ เดี๋ยว ” ไอ้บึกฉุดแขนผมไว้
“ อะไรอีก ”
“ พี่โจ๊กนี่ปัญหาเยอะนะ ” ไอ้โมส่ายหน้า
“ ไม่มีอะไร แค่ตาขวากระตุก ” ผมใช้มือยี้ตาตัวเอง
“ ขวาดีซ้ายร้าย คิดไรมากวะมึง ”
“ พี่ปลาบึก แต่ที่โมได้ยินมามันขวา ”
“ หยุดเลยมึง ข้างไหนกระตุกข้างนั้นกูก็ว่าดีหมดแหละ ไปๆอาบน้ำ ”
“ อืม ” ผมตรงไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอย่างว่าง่าย
พาต้า...
“ พี่โจ๊กก๋วยเตี๋ยวร้านนั้นอร่อย ” ไอ้โมชี้มือไปที่ร้านเล็กที่อยู่ติดถนน
“ แต่กูว่าร้านนี้ก็น่ากินนะ ” ไอ้บึกชี้ไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวตรงก่อนทางขึ้นสะพานลอย
“ แต่กูอยากกินสุกี้ฝั่งโน่นมากกว่าอ่ะ T^T ”
“ สุกี้อีกแระ / สุกี้อีกแระ ”
“ ก็มันอร่อยนี่ ”
“ เบื่อบ้างก็ได้นะ กูแค่คิดก็อิ่มแล้วเนี้ยมึง ”
“ เห็นด้วย พี่โจ๊กพากินแต่สุกี้ ไม่สุกี้ก็บาบีคิวดูหน้าโมดิ จะบานเป็นรูปกระทะอยู่แล้วเนี้ย ”
“ เออว่ะ กูเริ่มเห็นรูที่หน้ามึงแระ 555 ” ไอ้บึกเอานิ้วจิ้มหน้าน้องจึีกๆ
“ งั้นโอน้อยออกกัน ใครชนะได้สิทธิ์เลือก ”
“ ไอ้บึกนี่มึงกี่ขวบแล้วเนี้ยปีเนี้ย ” ผมล่ะหน่าย
“ 555+ เอาด้วยๆ โมเอาด้วย ”
“ ก็ได้ๆ ” ผมยอมเพราะเสียงข้างมาก
“ โอน้อยออก / โอน้อยออก/ โอน้อยออก ” เอากันตรงหน้าเซเว่นกันเลยครับ
“ ไอ้โมออก ” ไอ้บึกดีใจใหญ่
“ มะ มึงกับกู ” ผมพร้อมรบต่อทันที
“ พี่ปลาบึกสู้ๆ ”
“ เป่ายิ้งงงงงงงงงง ฉุบ ” ผมออกกระดาษ
“ เย้กูชนะ ”
“ เย้ๆ พี่ปลาบึกชนะ ”
“ เฮ้ย มึงอย่ามาขี้โกง แม่งออกช้ากว่ากู เอาใหม่เลย ” ก็มันออกช้าจริงๆนี่ครับ
“ อะไรวะ ” มันทำโมโหใส่
“ ถ้าแค่เรื่องเป่ายิ้งฉุบมึงยังกล้าโกงกูก็เอาดิ ”
“ เออๆ เอาใหม่นะ ไอ้โมเป็นพยาน ”
“ ลำเอียงอย่างมันจะไปเป็นพยานให้ใครเค้าได้วะ ”
“ นี่พี่โจ๊กว่าโมเหรอ ” มันฟาดฝ่ามือใส่ไหล่ผมดังเพี้ย
“ เจ็บนะ ”
“ เอาอีกซักทีไหม ห๊ะ ” มีตวาดๆ T^T
“ มาๆ อย่ามาลีลา กูเอาจริงแระ ” ไอ้บึกตั้งท่า
“ เอ้า งั้น เป่ายิ้งงงงฉุบ ” ผมออกค้อนมันเองก็ออกค้อนด้วยเหมือนกัน
“ เป่ายิ้งงงงง ฉุบ ” ผมออกค้อนอีกรอบมันก็เสือกออกเหมือนผมอีก
“ เป่ายิ้งงงงง ฉุบ ” คราวนี้ผมออกกรรไกรแต่มันออกค้อนเหมือนเดิม
“ 5555+ กูชนะ ”
“ เย้ๆ พี่ปลาบึกชนะ ”
“ เห็นปะ ไงกูก็ชนะมึงอยู่ดี ”
“ เชอะ ” ผมสะบัดป๊อบใส่ หารู้ไหมกูอ่อนให้มึงหร๊อกกก
“ 555+ ปะโม เราไปกินสุกี้ฝั่งโน้นกัน ”
“ อ้าวเฮ้ยยย ไหงงั้นอะพี่ ” ไอ้โมหน้าเอ๋อแดกทันที
“ เอาน่าสงสารหมามัน มึงทำบุญเหรอยังวันนี้ ”
“ ยังครับ ” ไอ้โมส่ายหน้า
“ งั้นปะ ” ไอ้บึกออกคำสั่ง
“ ไม่ต้องเลย ไม่ต้องมาทำบุญกับกูด้วยวิธีนี้ ” ผมออกตัวเอี๊ยดดด
“ อย่านะไอ้โจ๊ก กูชนะมึงนะ ”
“ งั้นทำไมมึงไม่กินในสิ่งที่มึงอยากกินล่ะ ”
“ งั้นถ้ามึงชนะ มึงจะพาพวกกูไปกินในสิ่งที่มึงอยากกินปะ ”
“ นี่เป็นคำถามลองใจกูเหรอ ”
“ เปล่า เป็นคำถามจากใจกู มึงเองก็ควรจะตอบสิ่งที่อยู่ในใจมึงด้วย ”
“ ................ ” สมองผมกำลังประมวลผล
“ ไม่ต้องคิดคำพูดที่มันหรูหรือดูดีหรือเอาใจพวกกู เอาเรื่องจริง ”
“ ^^ ” ไอ้โมมีแอบยิ้ม
“ ถ้าแค่เรื่องตอบคำถามให้ตรงกับสิ่งที่อยู่ในใจมึงมึงยังกล้าโกงกูก็เอาดิ ” นั่น..แม่งย้อนกูอีก
“ 555+ โมว่าคำนี้คุ้นๆนะ ”
“ เออๆ ถ้ากูชนะกูก็จะพาพวกมึงไปแดกสุกี้อยู่ดีแหละ ” ผมพูดสิ่งที่อยู่ในใจ
“ 555+ แม่งเอาจริงโว๊ย ” ไอ้บึกยืนขำกับคำตอบผม
“ ก็ไม่รู้จะโกหกไปทำไม ทำไม...กูชอบแดกสุกี้แล้วมันผิดตรงไหนวะ ”
“ หึ เฮ้ออ (ไอ้บึกยิ้มไปก็ตบบ่าผมไปด้วย) กูดีใจนะที่มึงมั่นคงในความคิดมึง กูคิดว่ามึงจะหาคำตอบมาเอาใจพวกกูซะอีก มันไม่ผิดหรอกที่มึงจะชอบกินสุกี้ขนาดกูยังชอบกินส้มตำเลย ”
“ แต่พวกมึงก็เบื่อ จริงๆ เป็นกูถ้าแดกก๋วยเตี๋ยวบ่อยๆก็คงเบื่อไม่ต่างกับพวกมึง ”
“ ชอบต่างกันก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องแตกกันนี่ครับ โมดีใจที่พี่โจ๊กรู้จักใจเค้าใจเรา ”
“ แล้วตกลงจะกินอะไร ” ผมเสียงอ่อยลงทันที
“ เอาไงมึงไอ้โม ” ไอ้บึกหันมาถามน้อง
“ ไปกินสุกี้ครับ ในเมื่อผู้ชนะเลือกมาแล้ว ”
“ แล้วถ้าเป็นมึงจะทำไง ” ไอ้บึกถามน้องก่อนจะกอดคอกันเดินข้ามสะพานลอย
“ ถ้าเป็นโมเหรอ อืมมม หนึ่งวันมันก็มีตั้งหลายมื้อ มื้อนี้ถ้าโมชนะโมก็จะกินในสิ่งที่โมเลือกครับ แต่มื้อต่อไปเราคงไม่ต้องมาโอน้อยออกกันแล้ว เพราะผมมีคำตอบอยู่ในใจแล้วว่าจะกินอะไรดี ”
“ รู้เลยว่ามื้อต่อไปมึงก็ต้องกินสุกี้ชัวร์ๆ ”
“ อืม ก็แหง๋ละครับ อิ่มท้องแล้วก็สบายใจใครจะไม่ทำ ”
“ ได้ยินยังมึงไอ้โจ๊ก ” ไอ้บึกหันหลังมาถามผม
“ ครับๆ ได้ยินแล้วครับ ”
“ เพราะงั้นมื้อนี้กูพามึงกินสุกี้ แต่ช่วงเย็นมึงต้องพาพวกกูไปกินอาหารทะเลเป็นการตอบแทนนะ โอเคปะ ^^ ”
“ -*- โอยยย เล่นของแพงซะด้วย ”
“ จ๊าบมากพี่ปลาบึก โมกำลังอยากกินกุ้งเผาตัวโตๆอยู่พอดีเลย ”
“ ปล้นกันชัดๆ T^T ”
“ ไม่ต้องมาบ่นเลย ปะๆ กูหิวแล้ว ”
ร้านสุกี้..
“ ผมอยากกินอันนี้ อันนี้ อันนี้ อันนี้ ” ไอ้โมชี้รูปรัวเลยทีเดียว
“ มึงไม่บอกเค้าไปล่ะว่าเอาหน้านี้ทั้งหน้า ” ไอ้บึกแซว
“ เยอะๆ ” ผมปาดเหงื่อ
“ กูนั่งข้างมึงได้ปะ ” ไอ้ปลาบึกส่งสายตาวิ้งๆ
“ ก็มาดิ ”
“ โมมึงนั่งคนเดียวได้ปะ ”
“ ได้ดิ ^^ ”
“ กูขอนั่งฝั่งโน้นนะ ”
“ ค๊าบบบ เชิญครับ ”
“ เอ๊ะๆ วันนี้จะมีใครนั่งร้องไห้ในร้านสุกี้ไหมน๊า ” ผมคิดถึงเรื่องเก่าคราวหลังขึ้นมาได้
“ ปากดีอีกแระ เดี๋ยวปั๊ดตบด้วยกระชอน ”
“ 555 ขอโต๊ดดดด ” ผมยกมือขึ้นไหว้มัน
“ หิวแล้วๆ เอาติ่มมาซั้มกันก่อนไหม ”
“ เชิญ ” ผมผายมือ
“ งั้นเอาไรดีมึง ” ไอ้บึกหันไปถามน้อง
“ เดี๋ยวกูมานะไปห้องน้ำแปป ”
“ ……….. ” อืมมม ให้ความสนใจกูมาก
แล้วเสียงหนึ่งก็ดังขึ้น…
“ ไอ้โจ๊ก ”
“ พ่อ ” พ่อใคร???
ครับพ่อไอ้โมครับ ตัวเป็นๆเลยกำลังนั่งทานสุกี้อยู่กับเพื่อนๆห่างจากโต๊ะเราไปไม่ไกลนัก
“ พ่อ ” ไอ้โมหันไปยกมือไหว้พ่อมันก่อนจะหันกลับมาจ้องหน้าผมสลับกับหน้าพี่ชายมัน
“ เอาแล้วไง งานเข้าแล้วมึง ” ไอ้ปลาบึกหันมากระซิบกับผมก่อนหันไปไหว้พ่อไอ้โม
“ กูว่าแล้วว่าตาแม่งกระตุก ” ผมไหว้พ่อไอ้โมก่อนจะหมุนตัวกลับเข้ามุมของตัวเอง
“ ไอ้โม มึงมารู้จักเพื่อนพ่อหน่อย ” เสียงบัญชาการดังมาจากโต๊ะด้านหลัง
“ โมมากินข้าวนะพ่อ ” มันตอบเสียงอ่อยๆ
“ กูบอกให้มึงมานี่ไง ” น้ำเสียงเริ่มขุ่น
“ ไปดิมึง ” ไอ้บึกรีบไล่
“ พี่บึกอ่ะ ”
“ มึงจะรอให้พ่อมึงมากินหัวไอ้โจ๊กก่อนเหรอไง ”
“ อะไรกันนักกันหนานะคู่นี้ ” ไอ้โมลุกเดินไปแบบหัวเสีย
“ พ่อตามึงนี่ไม่เคยลงให้ใครจริงๆ ”
“ มันไม่สำคัญหรอกมึง มันสำคัญที่พ่อไอ้โมเรียกไปรู้จักใครกันแน่ระหว่างเพื่อนพ่อกับลูกชายเพื่อนพ่อ มึงดูนั่น เห็นไหมนั่นนั่งตาตี่ดัดฟันอยู่ข้างๆนะ ”
“ โห น่าตาดีด้วยดิ มันสำคัญที่ตรงนี้ ”
“ ไอ้สาด มึงพวกใคร ” ผมเตรียมโบกมัน
“ ทำไม ช้ำใจเหรอมึง ”
“ ไม่หรอก กูเบื่อภาพจำเจอย่างนี้ต่างหาก ยกให้เค้าแล้วแต่กลับทำเหมือนกับลูกตัวเองยังโสดอยู่อย่างนั้นแหละ ”
“ มึงต้องเข้าใจไอ้โมมันลูกคนเดียว เป็นธรรมดาที่พ่อเค้าก็ต้องหวังไว้มาก อีกอย่างเค้าอยากได้ลูกสะใภ้ไม่ใช่อยากได้ลูกเขย ”
“ อืม กูเข้าใจ แต่ที่กูไม่เข้าใจคือเค้ายังทำใจไม่ได้อีกเหรอไงวะนี่มันกี่ปีแล้ว ”
“ จะกี่เดือนกี่ปีไอ้โมก็ยังเป็นลูกเค้า มึงแหละเลิกคิดมากเถอะ ไหนว่าจะไปห้องน้ำหายปวดแล้วเหรอ ”
“ อืม กูลืมเลย งั้นเดี๋ยวกูมานะมึงกินไปก่อนเลย ”
10 นาที่ผ่านไปผมกลับมาที่โต๊ะก็พบว่าโต๊ะว่างเปล่ามีแต่อาหารกับน้ำในหม้อที่เดือดปุปๆ แต่ไม่เดือดเท่าใจของผมตอนนี้หรอก
“ 5555 ” เสียงหัวเราะของไอ้ปลาบึกดังมาจากโต๊ะด้านหลัง
“ 555555 ” ยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ใจผมสั่น โกรธว่ะ
“ ฮาโหล ” ผมโทรเข้าเครื่องไอ้ปลาบึก
“ ว่าไงมึง ” ผมรับสายแล้วชะโงกหน้ามามองผม
“ ไม่แดกแล้วใช่ไหม ” รู้เลยว่าน้ำเสียงผมเริ่มคุมโทนไม่อยู่
“ แปปๆ กูยังไม่กล้าลุกไปตอนนี้เสียมารยาท มึงแดกไปก่อนเดี๋ยวกูตามไป ”
“ แล้วมึงไปทำอะไรตรงนั้น ”
“ ก็ไอ้โมอะดิมันโทรมาบอกให้กูเดินไปเรียกมันกลับ แต่พ่อดันเรียกกูนั่งแถมแนะนำกูซะรอบโต๊ะกูเลยจำใจอยู่ ” ผมกระซิบกระซาบคุย
“ อ่อ เหรอ ”
“ มึงๆ เดี๋ยวกูตามไปนะ ”
“ ได้ ” ผมกดวางสาย ก่อนจะค่อยๆกลืนสุกี้ที่ตัวเองชอบอย่างอยากลำบาก
“ 5555 ” เสียงคุย เสียงหัวเราะยังคงดังอย่างต่อเนื่อง ผมชอบนะกับการกินสุกี้ด้วยบรรยากาศอย่างนั้น แต่ผมไม่ชอบเลยที่ที่ตรงนั้นมันไม่มีที่ว่างสำหรับผม
“ น้องเช็คบิล ” ผมอยากจะร้องไห้แล้วตอนนี้
เพียงแค่อึดใจผมก็พาร่างตัวเองออกมาจากตรงนั้นได้โดยที่สองตะเภาไม่รู้ซะด้วยซ้ำ
“ ฮาโหลมึงอยู่ไหน ” ไอ้บึกเป็นคนแรกที่โทรมาหาผม
“ มึงอย่าพึ่งถาม กูขออยู่คนเดียวซักพัก ”
“ โจ๊กมึงทำเกินไป รู้ไหมพ่อไอ้โมโกรธมาก ”
“ ไว้คุยกันนะ ”
“ ไม่ เราต้องคุยกันตอนนี้ เดี๋ยวนี้มึง… ” ผมกดตัดสายก่อนจะปิดเครื่องตัวเอง