***พลาดรัก*** ตอนที่ 24 (จบ) 11/02/17 หน้า 8
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 24 (จบ) 11/02/17 หน้า 8  (อ่าน 98008 ครั้ง)

ออฟไลน์ lovenadd

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 601
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +22/-11
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 20 26/7/16 หน้า 7
«ตอบ #210 เมื่อ21-08-2016 15:39:31 »

คนแต่หายอีกล่ะ

ออฟไลน์ sasithron

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 20 26/7/16 หน้า 7
«ตอบ #211 เมื่อ13-09-2016 18:50:46 »

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ

ผมยังไม่ได้หายไปไหนนะครับ แต่กำลังเค้นแต่งตอนล่าสุดอยู่ แต่เหมือนว่ามันจะตัน เพราะว่าลบทิ้งไปแล้วสามรอบ

แต่ว่าจะมาต่ออย่างแน่นอนครับ

ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ Pawaree

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 432
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-2
    • FANPAGE
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 20 26/7/16 หน้า 7
«ตอบ #212 เมื่อ13-09-2016 20:35:39 »

รอน้าาาาา

ออฟไลน์ ♠♥♦♣

  • ex-ChCh13
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1612
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-7
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 20 26/7/16 หน้า 7
«ตอบ #213 เมื่อ24-09-2016 17:21:00 »

+1 ให้กำลังใจ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 20 26/7/16 หน้า 7
«ตอบ #214 เมื่อ11-10-2016 06:11:09 »

สวัสดีผู้อ่านทุกท่านครับ

ผมยังไม่ได้หายไปไหนนะครับ แต่กำลังเค้นแต่งตอนล่าสุดอยู่ แต่เหมือนว่ามันจะตัน เพราะว่าลบทิ้งไปแล้วสามรอบ

แต่ว่าจะมาต่ออย่างแน่นอนครับ

ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

ขอบคุณครับ

รอนะคะ

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 20 26/7/16 หน้า 7
«ตอบ #215 เมื่อ14-10-2016 20:11:22 »

รอร้อรอ
รอตอนต่อไปอยู่นะคะ

ออฟไลน์ sasithron

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 21 01/11/16 หน้า 8
«ตอบ #216 เมื่อ01-11-2016 02:45:21 »

ตอนที่ 21
เฟยเทียบรถจอดที่ข้างร้านขายของชำอีกครั้งแม้ว่าลูกชายเจ้าของร้านจะเคยบอกตนไม่ให้กลับมาอีก
บรรยากาศบ้านสวนหลังฝนตกช่างเย็นสบาย ชายหนุ่มหายใจเอาอากาศเข้าไปเต็มปอดเฮือกใหญ่ก่อนจะก้าวออจากตัวรถตรงไปสวัสดีผู้เป็นแม่ของกานต์อย่างคุ้นเคย

“สวัสดีครับแม่” เฟยเอ่ยเรียกอีกฝ่ายอย่างสนิทสนม ส่วนอีกฝ่ายพอเห็นร่างหนาเดินเข้ามาก็ยิ้มตาปิด


“กินน้ำก่อนเดี๋ยวแม่ยกมาให้” พูดจบก็เดินเข้าไปในตัวบ้านแล้วเอาน้ำออกมาต้อนรับแขก


“กานต์อ่านหนังสืออยู่ข้างบนนะ อยากให้แม่ไปเรียกให้ไหม” เฟยมองตามมือแม่กานต์ขึ้นไปยังบันไดที่นำไปสู่ชั้นสอง


เขารู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังตั้งใจอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาลัยในปีหน้า แม้จะรู้ว่าจะเป็นการรบกวนที่มาหาอีกฝ่ายบ่อย แต่ก็อดใจไว้ไม่ไหวจริงๆ


“ครับ” เฟยเอ่ยแสดงการรับรู้ แต่ยังคงนั่งเล่นอยู่กับแม่ข้างล่าง


“ได้นอนบ้างหรือเปล่าลูก ทำไมใต้ตาคล้ำอย่างนี้” ไม่พูดเปล่าแต่เอามือไปลูบใต้ตาอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาสี่สิบกว่าปี เธอรับรู้ได้ว่าเฟยกับลูกชายของตนนั้นไม่ได้มีความสัมพันธ์แค่เพื่อนกันเท่านั้น แต่แค่ไม่อยากกระโตกกระตากมากไปเพราะกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่หากว่าผู้เป็นสามีรู้


“แล้วลุงเข้าสวนเหรอครับ” เฟยถามเพราะว่าไม่เห็นชายหนุ่มมีอายุอยู่ภายในบ้านเลย


“จ๊ะ” อีกฝ่ายหันมายิ้มตอบ


“งั้นเฟยขอเข้าไปหาลุงที่ในสวนได้ไหมครับ” เฟยรู้สึกได้ว่าพ่อของกานต์คงไม่ค่อยชอบใจเขานัก แม้ว่าแม่ของกานต์จะดูเอ็นดูเขาก็ตาม ดังนั้นแทนที่จะเข้าจู่โจมใส่กานต์เลย เฟยคิดว่าการพยายามชนะใจคนในบ้านน่าจะเป็นหนทางที่มาช่วยเกื้อหนุนเขาได้


หลังจากได้รับอนุญาตจากผู้เป็นเจ้าของแล้วเฟยจึงมุ่งหน้าไปยังสวนส้มโอซึ่งอยู่บริเวณหลังบ้าน บริเวณท้องร่องกว้าง 15 ไร่ เต็มไปด้วยต้นส้มโอแม้ว่าจะมีลูกติดต้นเหลือน้อยแล้วก็ตาม เพราะพอเข้าสู่เดือนตุลาคมก็เป็นช่วงสุดท้ายสำหรับการเก็บผลผลิต


ร่างหนาเดินตามท้องร่องไปเรื่อยๆ มองหาเจ้าของที่อาจจะถูกซ้อนไว้หลังกิ่งก้านของต้นส้มโอต้นใดต้นหนึ่ง


“อ้าวมาทำอะไรเนี่ย” เสียงเข้มตะโกนถามจากแถวต้นส้มโออีกฝากหนึ่ง


“สวัสดีครับ” เฟยรีบหันไปพนมมือสวัสดีให้กับชายร่างหนาแบบคนทำงานหนัก โดยที่อีกฝ่ายพยักหน้าเล็กน้อยให้ ก่อนจะหายเข้าไปหลังกิ่งส้มโออีกที


“มาช่วยเก็บส้มโอเรอะ” เสียงห้วนๆถามเฟยอีกครั้ง


“ครับ” คำตอบสั้นจากคนอายุอ่อนกว่า ทำให้ต้องมองลอดใบไม้มองดูพิจารณาอีกฝ่าย


“งั้นก็ข้ามมานี่ มาเก็บแถวนนี้ แถวนั้นไม่มีแล้ว” เพียงแค่ตะโกนเรียกไป เด็กหนุ่มชาวกรุงก็รีบวิ่งมาหา


ผู้เป็นเจ้าของสวนไม่ได้หวงวิชาความรู้ในการทำสวนส้มโอ เพียงแต่ลูกชายเพียงคนเดียวไม่ได้มีที่ท่าว่าอยากจะสืบต่อสวนที่เขาใช้ชีวิตเกือบทั้งชีวิตในการทำ พอมีเด็กหนุ่มที่นิสัยคล้ายๆตนมาสนใจก็รู้สึกดีใจ แต่เก็บอาการไว้เพราะไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มนั้นจะจริงจังแค่ไหน


เขาแทรกการสอนเล็กๆน้อยให้กับอีกฝ่ายอย่างตั้งใจ แล้วก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายก็ตั้งใจที่จะเรียนรู้เหมือนกัน


“พอแค่นี้ก่อน เดี๋ยวไปกินข้าวกลางวันแล้วค่อยกลับมาขนอีกที” มือหนาๆตบลงบนบ่าเฟย ก่อนจะเดินนำไป


เฟยเดินตามหลังไปติดๆ ตรงไปยังเพิงเล็กๆตรงด้านหน้าของสวนส้มโอ มีคนงานเกือบสิบคนกำลังเตรียมนั่งล้อมวงเพื่อจะกินข้าว โดยมีแม่ของกานต์กำลังง่วนตักแกงใส่ถ้วยส่งให้ใครคนหนึ่งจัดแจงวางลงตรงกลางของเหล่าคนงาน


เขาพยายามเดินเลียบๆเคียงๆเข้าไปใกล้ๆ แต่เหมือนว่ากานต์จะสัมผัสได้ว่าเฟยกำลังเข้ามาจากด้านหลังจึงรีบยืดตัวขึ้นตรงหันมาประจันหน้าแต่ไม่ได้พูดอะไร ก่อนจะรีบเดินกลับไปยังตัวบ้าน ไม่มีประโยชน์ที่เฟยจะเดินตามไปเขาจึงนั่งลงแล้วเริ่มต้นกินข้าวกลางวัน


สุดท้ายก็หมดไปแล้วอีกหนึ่งวันโดยที่ไม่ได้คุยกับกานต์เลยสักคำ

                                                                                *****


“แม่ถามจริงๆเถอะ กานต์กับเฟยทะเลาะอะไรกันมา” กานต์หันมามองผู้เป็นแม่ เขาไม่กล้าบอกแม่ในสิ่งที่เขาทำไป หากเขาบอกเรื่องที่เขาทำกับเฟย นั่นหมายความว่าเขาต้องยอมรับว่าเขาชอบผู้ชายด้วยกัน และนั้นคงจะทำให้ทั้งพ่อและแม่เสียใจเป็นอย่างมาก


“ไม่มีอะไรหรอกแม่ หนูแค่ไม่รู้จะคุยอะไร” กานต์ตอบเสียงค่อย


“ไม่มีอะไรแล้วทำไมถึงไม่คุย” กานต์ตกใจเล็กน้อยเพราะลืมไปว่าพ่อนั่งดูโทรทัศน์อยู่ใกล้ๆ


“ไปทำอะไรไว้ใช่ไหม เกี่ยวอะไรกับที่แกมาขอฉันเปลี่ยนมหา’ลัยหรือเปล่า” กานต์ไม่กล้าสบตาพ่อตรงๆ แต่สัมผัสได้ว่าพ่อกำลังจ้องเขาอยู่


“เปล่าครับ” เสียงค่อยกว่าตอนที่ตอบแม่เสียอีก


“หึ คิดว่าฉันไม่รู้อะไรล่ะสิ” พูดจบก็หันไปดูโทรทัศน์ ทำเป็นไม่สนใจลูกชายที่นั่งนิ่งจ้องพื้นด้วยความกลัว


กานต์นั่งเงียบอยู่สักครู่ก่อนจะค่อยๆเดินขึ้นห้องนอนไป


“พ่อทำไมไม่พูดกับกานต์ดีดีหน่อย” หลังสิ้นเสียงประตูห้องนอนลูกชายปิดลง หญิงเดียวในบ้านก็เริ่มทำหน้าที่เจ้าของบ้านที่แท้จริง


“แม่พร” จากเสียงเข้มที่ใช้พูดก่อนหน้านี้เปลี่ยนเป็นออดอ้อน เพราะรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังไม่ค่อยสบอารมณ์นัก


“ไม่ต้องเลยค่ะ คุณชาตรี” เสียงประชดประชันออกมาจากปากเรียวสวย ไม่บ่อยนักที่เธอจะเรียกอีกฝ่ายด้วยชื่อจริงอย่างนี้


“แม่มีลูกอยู่แค่คนเดียวนะ แม่ไม่อยากทำให้ลูกรู้สึกว่าพ่อแม่ไม่รักแก” เพียงแค่เอื้อมมือไปจับมืออีกคนก็ทำให้อีกฝ่ายสะดุ้งได้


“รู้จ้าแม่ พ่อรู้ พ่อเองก็ไม่ได้อยากทำให้กานต์มันรู้สึกไม่ดี แต่พ่ออยากให้มันเข้มแข็ง อดทน เลยไม่อยากจะอ่อนโยนมาก” มองเข้าไปในแววตา หวังให้อีกฝ่ายเข้าใจ


มีแต่เสียงถอนหายใจเบาๆจากหญิงวัยเลยห้าสิบปี เพราะรู้สึกหนักใจกับลูกชายของตน
 
                                                                                *****

วันเสาร์ต่อมาเฟยก็กลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้เมื่อว่าโชคดีจะเข้าข้างเขา เพราะเมื่อก้าวเข้ามาในส่วนของหน้าบ้านที่เป็นร้านขายของก็เจอกานต์นั่งเฝ้าร้านอยู่


เฟยยืนมองกานต์ที่กำลังขะมักเขม้นอ่านหนังสืออยู่โดยไม่ทันสังเกตว่าเขาได้มาอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว


“รับอะไรดีครับ” พอรู้สึกว่ามีคนอยู่ตรงด้านหน้า ก็รีบพูดต้อนรับโดยยังไม่เงยหน้าขึ้นมามอง


“งั้นเป็น หัวใจก็ได้ครับ” เฟยว่าจบ กานต์ก็เงยหน้าขึ้นมามองพร้อมสายตาเย็นเฉียบ


“พ่ออยู่ในสวน เชิญ” พูดจบก็กลับไปก้มอ่านหนังสือต่อ


“เฟยตั้งใจมาหากานต์นะ แต่เหมือนกานต์ไม่อยากเจอเฟยเท่าไหร่” เฟยยืนพูดอยู่ที่เดิม


“ก็รู้แล้วนี่ แล้วจะมาอีกทำไม” กานต์ว่า


“เฟยไม่ยอมง่ายๆหรอกนะ” เขายื่นหน้าเขาไปใกล้ๆหน้ากานต์ ก่อนจะยักคิ้วใส่


เฟยเดินตรงเขาไปในสวนส้มโอ คราวนี้ไม่มีส้มโอให้เก็บแล้ว เพราะหมดฤดูแล้วสิ่งที่ต้องทำจึงเป็นการตัดแต่งกิ่ง ให้ปุ๋ย ให้น้ำ


“วันนี้อย่างเพิ่งรีบกลับนะ อยู่กินเบียร์กันก่อน” คำชวนจากเจ้าของสวน ทำให้เฟยรู้สึกใจชื่นขึ้นมาเพราะคิดว่าตนคงได้รับการยอมรับบ้างแล้ว


เสียงพูดคุยเสียงดังจากชั้นล่าง ทำให้คนที่อ่านหนังสืออยู่ที่ชั้นสองตรงเดินลงมาดูว่าใครมาทำอะไรกันอยู่


ภาพที่เห็นคือ ข้างบ้านมีกลุ่มคนประมาณหกคนกำลังนั่งกินเบียร์กันอยู่ สองคนในนั้นมีพ่อและเฟย แม้ว่ากานต์ไม่อยากจะสนใจนักแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้เพราะว่าเฟยจะต้องขับรถกลับบ้าน


“แม่” กานต์เดินเข้าไปหาแม่ที่กำลังเดินยกกับข้าวไปให้วงเบียร์


“ว่า” แม่หยุดเดินหันมาหาเขา


“ทำไมอยู่ดีดีถึงมากินเบียร์กันหล่ะแม่” กานต์ถาม


“แม่ก็ไม่รู้เหมือนกัน” พูดจบก็เดินไป


กานต์ที่ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือจึงลงมานั่งดูโทรทัศน์อยู่ที่ชั้นล่าง พร้อมกับช่วยแม่เก็บร้าน พอหลังจากเก็บร้านไม่นานพ่อก็เลิกกินเบียร์ทั้งวงก็แยกย้ายกันไป กานต์เห็นพ่อเดินโยกเยกเข้ามาในบ้านพร้อมกับกอดคอเฟยมาด้วย แม้จะไม่เมามากเท่าพ่อแต่ตาก็ปรือเยิ้มเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์


“ถ้ามาบ่อยๆเดี๋ยวจะยกสวนให้ เพราะมีลูกชายคนเดียวมันก็เหมือนไม่อยากทำ” พูดออกไปเพราะความเมา กานต์ที่ได้ยินแม้ว่าจะรู้สึกน้อยใจแต่ก็ไม่ได้แสดงอะไรออกมา


“แต่อยากจะฝากดูแลลูกชายให้ด้วย” พูดพร้อมกับเดินมานั่งลงที่โซฟาหน้าทีวี  เฟยกับกานต์มองตากันครู่หนึ่งก่อนกานต์จะเบือนหน้าหนี เฟยที่นั่งลงพร้อมกับพ่อค่อยๆคลายท่อนแขนที่พาดไหล่ตนออก


“เฟยกลับก่อนนะ” เขาบอกลากานต์พร้อมลุกขึ้นแล้วออกเดิน


“เฟยลูก” แม่เรียกเฟยจังหวะที่เขากำลังจะเดินออกจากบ้านไป


“ขับรถกลับไม่ไหวหรอกลูกนอนที่นี่แหละ” แม่กานต์เดินเขามาจับไหล่รั้งเฟยไว้


“แต่ผม” เฟยที่แม้จะยังมึนๆอยู่กำลังพยายามจะปฏิเสธเพราะรู้สึกเกรงใจอีกฝ่าย อีกอย่างเขารู้ว่ากานต์คงไม่เต็มใจเท่าไหร่


“ไม่มีแต่จ้ะ” แม่กานต์ว่า


“เดี๋ยวนอนห้องกานต์ก็ได้ไม่เป็นไร” แม่ว่า


เฟยรู้สึกว่าวันนี้เขาโชคดีจริงๆ


“กานต์พาเฟยขึ้นไปหน่อย” แม่หันมาพูดกับกานต์ ที่ถอนหายใจนิดหนึ่งก่อนจะเดินมาจูงเฟยออกเดิน


“ไม่ต้องเดินเบียดได้ไหม รู้หรอกว่าไม่ได้เมามาก” กานต์หยุดระหว่างบันไดหันไปดันเฟยที่เดินเบียดเขาอยู่ให้ถอยออกไป


“กานต์อย่าผลักเฟยเดี๋ยวตกบันได” เฟยว่า แต่กานต์ไม่ได้ตอบว่าอะไร


ห้องนอนกานต์ไม่ได้กว้างมากนัก กำแพงเป็นสีขาวทั้งหมด มีเตียงนอนอยู่ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านหนึ่งเป็นตู้เสื้อผ้าสีน้ำตาลที่มีการะดาษสีๆติดเต็มไปหมด


“เอานี่ชุดกับผ้าขนหนู ไปอาบน้ำซะ” กานต์ยืนของทั้งหมดมาให้เฟยซึ่งรับมาไว้แต่โดยดี


“อย่าลืมโทรไปบอกที่บ้านนะเดี๋ยวพ่อกับแม่เฟยเขาจะเป็นห่วง” พูดจบกานต์ก็เดินออกจากห้องไป


เฟยโทรศัพท์หาที่บ้านตามที่กานต์บอกก่อนจะลงไปอาบน้ำที่ชั้นล่าง พอชำระร่างกายเสร็จแล้ว ความมึนก็เริ่มจางลงเพราะน้ำเย็นๆ เขาเจอกานต์ระหว่างที่กำลังเดินขึ้นไปบนห้องซึ่งในมือถือเสื้อผ้าและผ้าขนหนูอยู่


กานต์บอกไม่ถูกว่าตนรู้สึกอย่างไร อารมณ์หลากหลายผสมปนเปกันไปหมด ทั้งโกรธที่เฟยกล้ากลับมาหาเขา ทั้งรำคาญที่เฟยดื้อด้าน ทั้งน้อยใจกับสิ่งที่พ่อพูดออกมา ทั้งเป็นห่วงเฟย ทั้งดีใจที่เฟยดื้อด้านและกล้ากลับมาหาเขา


หลังจากอาบน้ำเสร็จ กานต์ดึงเวลาโดยหนังดูโทรทัศน์อยู่ข้างล่างจนห้าทุ่มเขาจึงเดินขึ้นห้องไป หวังแต่เพียงให้อีกฝ่ายหลับไปแล้ว


เฟยนอนคว่ำอยู่ด้านนอกของเตียงตอนที่กานต์เดินเข้ามา กานต์ค่อยๆคลานขึ้นไปบนเตียง เขาดึงผ้าห่มให้อีกฝ่ายที่หลับไปแล้ว ก่อนจะล้มตัวลงนอนบ้างโดยหันหลังให้


“กานต์” เสียงกระซิบดังบริเวณด้านหลังหัวของกานต์ พร้อมกับมือที่ค่อยพาดโอบตัวเขา


“ปล่อยเฟย” กานต์พยายามขยับหนีแต่อีกฝ่ายก็ขยับเข้ามาใกล้จนหลังกานต์ชิดกับอกของเฟย


“ขอเฟยกอดหน่อยนะ” เสียงอ้อนไม่ได้หยุดกานต์ที่พยายามแกะมือเฟยออก


“หรือเฟยจะลงไปนอนกับพื้น” กานต์ลุกขึ้นนั่งทำให้มือของเฟยที่พยายามกอดกานต์ไว้หลุดออก


“กานต์ไม่รักเฟยแล้วเหรอ” คำถามจากเฟยกระตุ้นทั้งความโกรธและความเสียใจของกานต์


“แล้วเฟยหล่ะเคยรักกานต์เหรอ” กานต์ถามกลับ


“เมื่อก่อนอาจจะไม่ แต่ตอนนี้เฟยคิดว่าเฟยรักกานต์แล้วนะ” เฟยที่ลุกขึ้นนั่งเหมือนกันดึงกานต์เข้ามาหาตัว กดหัวให้ซบลงที่ไหล่


“เราไม่เชื่อหรอกเฟย” กานต์ผละออกจากไหล่เฟยแล้วล้มตัวลงนอน


“เฟยจะพิสูจน์ให้เห็นเอง สัญญา” เฟยว่าก่อนจะล้มตัวลงนอนเช่นกัน







ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ beedy

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 49
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 21 01/11/16 หน้า 8
«ตอบ #217 เมื่อ01-11-2016 06:42:18 »

ขอบคุณที่มาต่อครับ :katai4: :katai4:

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 21 01/11/16 หน้า 8
«ตอบ #218 เมื่อ01-11-2016 20:05:22 »

สงสารกานต์ที่สุดเลย :sad4: แต่เฟยก็สุ้ๆนะทำให้กานต์หายโกรธให้ได้

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 21 01/11/16 หน้า 8
«ตอบ #219 เมื่อ01-11-2016 23:55:47 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 21 01/11/16 หน้า 8
« ตอบ #219 เมื่อ: 01-11-2016 23:55:47 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Mynun

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 172
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 21 01/11/16 หน้า 8
«ตอบ #220 เมื่อ02-11-2016 03:17:17 »

คือ อยากถามนะคะตกลงจะให้คนนิสัยแบบเฟยเป็นพระเอกนิยายจริงหรอคะ
นี้แค่อ่านช่วงสามสี่ตอนหลังๆยังรับไม่ได้ที่จะให้คนสันดารแบบนี้เป็นพระเอกนิยาย
เชื่อขนมกินได้เลยเดี๋ยวแปปๆแม่งก็คืนดีกัน

แล้วแบบสิ่งที่พ่อกานต์พูด นี้คือความคิดผู้ใหญ่หรอ?
แล้วสิ่งที่พ่อแม่เฟยทำนี้ก็คือความคิดผู้ใหญ่
รู้สึกโชคดีที่ตัดสินใจไม่อ่านตั้งแต่ต้น
คือถ้าสรุปจบแบบมาง้อนิดง้อหน่อยคืนดีก็ ...คะ
ขอประทานโทษที่ว่าแรงแต่บอกตรงๆรู้สึกแย่กับการกระทำของตัวละครทั้งหมดคะ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 21 01/11/16 หน้า 8
«ตอบ #221 เมื่อ02-11-2016 10:40:20 »

สงสัยว่าตอนโน้นทำไมเฟยถึงแกล้งกานต์ได้ขนาดนั้น
แล้วตอนกานต์กลับมาอีกครั้ง เฟยไม่รู้สึกอะไรเลยเหรอ

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 21 01/11/16 หน้า 8
«ตอบ #222 เมื่อ05-11-2016 16:45:48 »

ยังไงเราก็ไม่ให้อภัยเฟย กานต์ต้องใจแข็งนะ อย่าไปอ่อนข้อให้ เป็นเรื่องที่เราต้องการ Bad end มากค่ะ อยากให้เฟยเจ็บให้หนัก  :katai1:

ออฟไลน์ sasithron

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 22 15/11/16 หน้า 8
«ตอบ #223 เมื่อ15-11-2016 02:10:09 »

ตอนที่ 22
กานต์กำลังเสียพลังงานทั้งหมดให้กับสมรภูมิการสอบที่เริ่มขึ้น ตลอดหนึ่งอาทิตย์ที่เขาต้องจมอยู่กับกองหนังสือและตัวอย่างข้อสอบอีกมากมาย แต่เมื่อถึงเวลาสอบแล้วก็ไม่ได้ง่ายอย่างใจหวังเลย แม้ว่าจะเคยสอบมาแล้วครั้งหนึ่งก็ตาม เหมือนวิญญาณถูกดูดลงไปในกระดาษคำตอบและตัวหนังสือ
เฟยยังคงมาหาเหมือนเดิม แม้ว่าช่วงที่ผ่านกานต์มัวแต่อยู่ในห้องเพื่ออ่านหนังสือก็ตาม แม้ไม่ได้พูดคุยก็ตาม เขารู้สึกดีว่าอย่างน้อยก็ไม่ได้ถูกไล่ให้กลับไปแล้ว
ลมเอื่อยของต้นเดือนพฤศจิกายนหอบเอาฝนสุดท้ายมาด้วย กานต์นั่งดูสายฝนที่ตกลงมาอยู่ที่หน้าร้าน อากาศเย็นช่วยเขาได้มากในการเติมพลังชีวิต
เสียงเฟยและพ่อวิ่งเข้ามาในตัวบ้านพร้อมตัวที่เปียกโชกไปทั้งตัว กานต์แค่หันไปมองแล้วรีบเมินหน้าหนีก่อนที่อีกฝ่ายจะหันมามอง ทั้งคู่ดูเขากันได้ดีในสายตาของกานต์ จนอดเอาคำที่พ่อพูดในวันนั้นมาคิดไม่ได้ ถึงแม้จะรู้ว่าพ่อพูดไปด้วยความเมาก็เขาก็น้อยใจ ยิ่งถ้ารู้ว่าเขาเป็นอะไรแล้วทำอะไรกับเฟยไว้ นอกจากพ่อกับแม่จะเสียใจแล้ว ทั้งคู่คงจะโกรธเขาไม่น้อยเลย
“เฟยนั่งด้วยนะ” กานต์เพียงแค่หันมามองเท่านั้น เฟยจึงนั่งลงข้างๆ

“สอบเป็นยังไงบ้าง” เขารู้ดีว่าน้อยครั้งที่กานต์จะตอบเขา แต่ก็ยังไม่ยอมแพ้
เมื่อไม่มีคำตอบจากอีกฝ่าย เฟยจึงได้แต่นั่งมองโดยไม่ถามอะไรต่อ
“เฟยกำลังคิดอะไรอยู่” กานต์ถามขึ้น

“ยังไงเหรอ” เฟยถามกลับเพราะว่าไม่ได้ทันตั้งตัวเลยตามคำถามกานต์ไม่ทัน

“เรารู้ว่าเฟยไม่ได้รักเรา” กานต์พูดเสียงเบาลง ก่อนจะหันไปดูว่าพ่อกับแม่อยู่ในรัศมีที่จะได้ยินหรือไม่

“เฟยไม่ได้รู้สึกดีใจเลยนะกับเรื่องที่เกิดมาทั้งหมด” เฟยตอบ

“แต่ก็ไม่ได้เสียใจใช่ไหมล่ะ” กานต์สวน

“เฟยไม่ได้ร้องไห้นะ แต่ก็รู้สึกเสียใจนะที่กานต์ต้องลาออก” เป็นคำตอบที่ไม่ได้เรื่องเลยในความคิดของตัวเอง
กานต์นิ่งเงียบไปเพราะกำลังจมอยู่ในความคิดของตัวเอง แม้ว่าเฟยจะอธิบายยังไงเขาก็จะรู้สึกโกรธอยู่ดี จนไม่แน่ใจว่าจริงแล้วเหตุผลที่โกรธคืออะไรกันแน่ระหว่างเฟยไม่ได้รักเขาหรือสิ่งที่เฟยทำทั้งหมด แต่ไม่ว่าจะรู้สึกโกรธเฟยมากเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกรักเฟยอยู่
กานต์ยังรักเฟยไม่ว่าจะตอนนี้หรือตอนไหนก็ตาม เขาไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรหากเขาไม่กลับมาหาเฟย  เขาอาจจะไม่ต้องเจ็บอยู่อย่างนี้ มันยากมากที่จะยอมให้เฟย และมันก็ยากที่จะต้องทนเป็นอยู่อย่างนี้
“แต่ถ้ากานต์อยากจะรู้ว่าเฟยรักกานต์ไหม” เฟยเว้นวักหายใจก่อนจะพูดต่อ

“เฟยยังตอบไม่ได้” กานต์หันขวับมามองเฟยด้วยสายตาที่มีทั้งความโมโหแล้วเสียใจปนกัน

“แล้วจะกลับมาหาเราทำไม” เสียงแข็งออกมาจากปากของกานต์แต่ตาเริ่มมีน้ำใสคลออยู่

“กลับไปซะ” พูดจบกานต์ก็ปึงปังเดินขึ้นห้องไป

   ลมหนาวพัดมาพร้อมกับความประหลาดใจของเฟยเมื่อวันจันทร์ถัดมาเขาได้รับโทรศัพท์จากกานต์ น้ำเสียงสดใสที่ลอดออกมาจากโทรศัพท์ทำให้เฟยอดดีใจไม่ได้ว่ากานต์คงหายโกรธเขาแล้ว
“เฟยอยากเที่ยวงานลอยกระทงที่วัดแถวบ้านเราไหม” ถึงจะแปลกใจเล็กน้อยแต่รู้สึกดีใจมากกว่า
 
“อยากสิ” เฟยตอบโดยแทบไม่คิดเลย

“แต่มันตรงกับวันจันทร์นะ ไม่เป็นไรแน่เหรอ” เฟยรีบส่ายหัวปฏิเสธ

“ไปเที่ยวเสร็จแล้วค่อยขับรถกลับหรือไม่ก็ขอกานต์ค้าง” ยิ้มอย่างมีความหวัง

“เราก็ไม่ว่าหรอกเพราะอย่างไงพ่อเขาก็ชอบเฟยอยู่แล้ว” กานต์ว่า

“แต่อย่าลืมบอกที่บ้านนะ” เฟยพยักหน้ารับ

เย็นวันลอยกระทงเฟยมาถึงบ้านกานต์ช้าเพราะเลิกเรียนช้ากว่าปกติบวกกับรถติดด้วย เขากลัวว่าคนออกปากชวนจะโมโห แต่พอมาถึงก็สบายใจเพราะอีกฝ่ายดูยิ้มแย้มแจ่มใส
“เดี๋ยวเราพาไปลอยกระทงที่วัด” พูดจบกานต์ก็ออกเดินไปจับรถมอเตอร์ไซต์

“กานต์จะซ้อนเฟยไปเหรอ” เฟยถาม

“หรือว่าเฟยอยากจะเป็นคนขี่” กานต์ถามแต่เฟยส่ายหัว ไม่ใช่เพราะว่าไม่สามารถขี่มอเตอร์ไซต์แต่อยากให้กานต์เป็นคนพาเขาไป

บรรยากาศงานวัดครื้นเครงไปด้วยผู้คนมากมาย เฟยแวะซื้อกระทงให้ตัวเองกับกานต์ก่อนที่จะถูกอีกฝ่ายพาเดินไปที่ท่าน้ำ
“อธิฐานว่าอะไรเหรอ” เฟยหันไปหากานต์ที่เพิ่งจะปล่อยกระทงลงน้ำไป

“ก็ขอให้สมปรารถนาในทุกเรื่อง” กานต์ยักไหล่

ทั้งคู่เดินขึ้นไปไหว้พระในโบสถ์ก่อนจะเดินเตร่ชมงานวัดไปเรื่อยๆ จนมาถึงบริเวณท้ายสุดของร้านขายของ มีเสียงกลุ่มคนพูดคุยเสียงดัง เฟยหันไปมองเห็นกลุ่มวัยรุ่นที่จับกลุ่มพูดคุยกันอยู่ สัญชาติญาณในตัวเฟยบอกว่าเขาถูกพวกนั้นจับตามองอยู่
“อยากเล่นปาลูกโป่งไหม” กานต์หยุดอยู่หน้าร้านปาลูกโป่งหันมาถาม

“อยากได้ตุ๊กตาตัวไหน เดี๋ยวเฟยปาให้” เฟยหันมาคุยกับกานต์แต่ก็ยังรู้สึกได้ว่ายังคงถูกจับตามองอยู่

เขาเคยผ่านการมีเรื่องมามาก จึงคิดว่าไม่น่าจะดีเท่าไหร่หากจะหยุดอยู่ตรงนี้นานๆ แต่เมื่อรับปากคำขอของกานต์ไปแล้วเขาก็ไม่สามารถเดินหนีไปได้

“งั้นเอาตัวนี้ดีกว่า” กานต์ชี้ไปที่ตุ๊กตาหมีตัวสีน้ำตาล

“ได้ครับ” เฟยบอกกานต์แล้วเดินเข้าไปซื้อลูกดอกกับคนขาย พร้อมกับตั้งใจปา ซึ่งระหว่างนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกันกับที่กลุ่มวัยรุ่นเดินมาหยุดอยู่หน้าร้านที่ทั้งคู่ยืนอยู่

“เฮ้ย มากับแฟนเหรอ” เฟยได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้นที่ด้านหลัง เสียงนั้นไม่ได้ตั้งใจพูดกับเขาแต่กำลังพูดกับกานต์

“ทำไม” เฟยหยุดปาหันไปหากานต์ที่ยืนหันไปคุยกับหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นนั้น

“แหมไปเรียนกรุงเทพแป๊บเดียวก็พาหนุ่มกรุงเทพมาไหว้พ่อมึงเลยเหรอ” เฟยเดินเข้าไปยืนชิดหลังกานต์พลางมองหน้าคนพูดอย่างหาเรื่อง

“ตลกดี ทำไมถึงพูดเหมือนละครหลังข่าว นี่เพี้ยนใช่ไหม” กานต์หัวเราะในลำคอ

“มึง” พูดจบอีกฝ่ายก็เข้ามากระชากคอเสื้อกานต์ แม้ว่ามือจะกำเสื้อของกานต์ได้ แต่ขอมือก็ถูกเฟยบีบจับไว้เช่นเดียวกัน

“ปล่อย” เสียงเข้มถูกส่งออกมาจากริมฝีปากของเฟย

“ได้” พูดจบก็ปล่อยมือ ก่อนจะสวนหมัดเข้าใส่เฟย

    ผู้คนรอบๆต่างแตกฮือตกใจเพราะเกิดการตะลุมบอลขึ้น แม้ว่าเฟยจะโดนรุมแต่เขาก็ส่งหมัดทั้งซ้ายและขวาคืนอีกฝ่ายได้หลายหมัดเช่นกัน

   “พอได้แล้ว” เสียงกานต์ตะโกนขึ้น ทำให้กลุ่มคนที่รุมกันหยุด วัยรุ่นอีกฝ่ายยืดตัวขึ้นหันมามองหน้ากานต์ พยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

   “เฟย” กานต์จับหน้าอีกฝ่ายด้วยความเบามือ

   “มันทำอะไรกานต์หรือเปล่า” เฟยถามด้วยความเป็นห่วง แม้จะโมโหที่โดนรุมอย่างไรเหตุผลแต่เป็นห่วงคนข้างหน้ามากกว่า

   “กลับกันเถอะ” กานต์ว่า

   พอถึงบ้านพ่อกับแม่ก็รับรู้เพราะยังไม่ได้ขึ้นนอน แม่รีบกุลีกุจอหาผ้ากับน้ำแข็งมาประคบเย็นให้กับเฟย ส่วนพ่อก็พยายามเค้นถามกับกานต์ด้วยเพราะอยากรู้ว่ากลุ่มวัยรุ่นนั้นเป็นใคร

   “หนูไม่คุ้นหน้าเลย” กานต์ส่ายหัว

   “ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมคงแค่ไปอยู่ผิดที่ผิดเวลาเอง” เฟยหันมายิ้มให้กานต์

   “เฟยขับรถกลับไหวไหม หรือจะค้างที่นี่” รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฟย แทบจะลืมความเจ็บ

   “เฟยขอค้างได้ไหม” เฟยยังคงยิ้ม แต่เหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าไม่ได้อยู่กันแค่สองคนจึงรีบหันไปขออนุญาตผู้เป็นเจ้าของบ้าน

   “ผมขอค้างที่บ้าน คืนนี้นะครับ” ไม่ต้องเดาคำตอบเลย เพราะว่าทั้งสองต่างเต็มใจอยู่แล้ว

   “งั้นผมขอตัวไปโทรบอกที่บ้านก่อนนะครับ” ขออนุญาตเสร็จก็เดินออกไปหน้าบ้านเพื่อโทรศัพท์

   พอโทรบอกทางบ้านเสร็จ เฟยก็ขึ้นไปบนห้องนอนของกานต์เพื่อเตรียมตัวจะอาบน้ำ เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาก็เห็นกานต์กำลังจัดเสื้อผ้าให้เขา

   “แม่เฟยโกรธหรือเปล่า” กานต์ยื่นของที่ตนเพิ่งจัดเสร็จให้เฟยด้วยสีหน้าเป็นกังวล

   “เฟยยังไม่ได้บอก” เฟยยอมรับตามตรง เหตุผลที่ไม่บอกเพราะเขากลัวว่าถ้าบอกไปแม่จะต้องเป็นห่วงแน่ๆและเขาไม่อยากทำให้แม่เป็นกังวล

   “ถ้าแม่เฟยรู้เขาต้องโกรธกานต์แน่ๆเลย ที่พาเฟยมาโดนอะไรแบบนี้” พูดไปน้ำตาก็เริ่มคลอ

   “แม่เขาไม่โกรธกานต์หรอก เผลอๆจะโกรธเฟยนี่แหละ” เขายิ้มเพื่อให้อีกฝั่งคลายกังวล ก่อนจะถือวิสาสะดึงกานต์เข้ามากอดไว้

   เมื่อเห็นว่าไม่มีการขัดขืนแต่อย่าใด เฟยจึงจูบลงบนเรียวปากของอีกฝ่าย ลิ้มรสเอาความหวานอยู่นานจนกานต์ต้องผลักออก

   “เฟย” กานต์ก้มหน้าหนีเพราะเขินอายแต่ก็ยังทำเป็นเรียกชื่อเฟยด้วเสียงดุๆ

   “แผลเฟยจะได้หายไวๆไง” พอรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังเขินก็ยิ่งได้ใจ จึงอออดอ้อน

   “ไปอาบน้ำได้แล้ว” กานต์ผลักเฟยให้เดินออกจากห้องไป เมื่อเฟยเลิกขัดขืนแล้วเดินออกจากห้องไป กานต์จึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรออก

   “พรุ่งนี้เจอกันที่ตลาด” เสียงเรียบนิ่งบอกปลายสายก่อนจะกดวาง






ขอบคุณครับ

ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 22 15/11/16 หน้า 8
«ตอบ #224 เมื่อ15-11-2016 02:24:30 »

แผนของกานต์อีกแล้วเหรอ  กานต์ต้องการพิสูจน์ใช่มั้ย
 รออ่านตอนต่อไปคับ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 22 15/11/16 หน้า 8
«ตอบ #225 เมื่อ15-11-2016 06:59:23 »

เจ็บตัวคราวนี้คุ้มมั้ยนะ
แต่กานต์คิดอะไรอยู่
ถ้าครั้งนี้เป็นแผน
สงสัยว่ารักเฟยจริงเหรอ
ทำใจได้เหรอที่เห็นคนที่รักเจ็บ

ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 22 15/11/16 หน้า 8
«ตอบ #226 เมื่อ15-11-2016 07:40:17 »

ยังไงเนี่ยยยย :katai4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 22 15/11/16 หน้า 8
«ตอบ #227 เมื่อ15-11-2016 15:11:59 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 22 15/11/16 หน้า 8
«ตอบ #228 เมื่อ15-11-2016 20:20:29 »

ทำไมรู้สึกว่าอะไรๆมันไม่ขยับไปไหนเลยล่ะคะ? แหะๆ
พ่อแม่เฟยก็ง่ายจัง แค่ขอโทษ+เลี้ยงข้าวมื้อนึงนี่ถือก็ว่าหายกันละ?
บ้านกานต์ก็อีก สังเกตคำพูดคำจาตั้งแต่ตอนที่กานต์โทรไปขอซิ่วละ ถ้ารักลูกก็ดูแลลูกดีๆสิคะ
(อยากรู้ปฏิกริยาของพ่อกานต์ตอนที่รู้ว่าบ้านเฟยทำอะไรกับลูกชายตัวเองไปบ้างเหมือนกันนะ)
ตัวกานต์เอง ก็ถือว่าผ่านเรื่องมาเยอะพอสมควรนะ คิดเหรอว่าแผนนี้จะดีกับใจตัวเอง?
ไม่อยากบอกว่านายเอกโง่ แต่มันก็ดูเป็นการกระทำที่งี่เง่าจริงๆ ...
ส่วนเฟย ... ไม่รู้จะอธิบายยังไง แต่ก็ยังไม่รู้สึกชอบนางอยู่ดี ...
คือถึงนางจะตามมาง้อกานต์(ในส่วนนี้เราก็ขอชมว่านางมีความตั้งใจดี) แต่เราก็ไม่อาจสัมผัสได้ถึงความรัก ความสำนึกผิด ความจริงจัง ความจริงใจหรืออะไรก็ตามที่พระเอกควรรู้สึกต่อนายเอกจากเฟยได้เลย
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะภาษาของเรื่อง หรือเป็นเพราะนิสัยของเฟยจริงๆกันแน่
เฮ้อออออออออออออออออออ! //ถอนหายใจยาวๆ

ออฟไลน์ CocoaSmoothie

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 3
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 22 15/11/16 หน้า 8
«ตอบ #229 เมื่อ24-11-2016 05:08:16 »

มาต่อเถอะนะคะ / กราบบบบบ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 22 15/11/16 หน้า 8
« ตอบ #229 เมื่อ: 24-11-2016 05:08:16 »





ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 22 15/11/16 หน้า 8
«ตอบ #230 เมื่อ12-12-2016 07:31:06 »

สนุกดีค่า ติดตามเนอะะะ

ออฟไลน์ sasithron

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 23 23/12/16 หน้า 8
«ตอบ #231 เมื่อ23-12-2016 02:29:53 »

ตอนที่ 23

หากจะเรียกการที่เข้าเรียนปีหนึ่งอีกครั้งในมหาวิทยาลัยแห่งใหม่ของกานต์เป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ ก็คงจะเรียกได้ไม่เต็มปากนัก เพราะว่าเฟยยังคงมารับและส่งกานต์อยู่ทุกวันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

กานต์รับรู้ได้ถึงการพยายามเอาใจเขาของเฟย กานต์รู้ดีว่าอีกไม่นานตนเองคงจะใจอ่อน และเขากลัวว่าจะต้องเจ็บอีกครั้ง

มันแปลกมากที่เขาเลือกที่จะกลับมาเอาคืนเฟย แต่สุดท้ายกลับกลายเป็นเขาเองที่เป็นเจ็บปวด

กานต์จะหยุดคิดเรื่องเฟยได้ตอนที่ทำกิจกรรมในมหาวิทยาลัย เขาปล่อยจิตใจให้สนุกกับกิจกรรมรับน้อง แม้ว่าจะไม่ใช่คนอัธยาศัยดีนักแต่ก็เริ่มจับกลุ่มกับเพื่อนคนอื่นๆบ้างแล้ว

ตกเย็นเฟยมักจะมารอกานต์ที่ใต้ตึกคณะ นั่งรออย่างใจเย็นจนกว่ากานต์จะปรากฏตัวให้เห็น ชายหนุ่มจะรอให้อีกฝ่ายเป็นคนเห็นเขาเองเพราะคิดว่าคงจะไม่ถูกใจกานต์นักหากเข้าไปขัดระหว่างที่กำลังคุยกับเพื่อนๆ
“วันนี้กินอะไรดีกานต์” เฟยใช้เสียงสดใสเพราะหวังให้คนข้างๆสดใสขึ้นบ้าง

“อาหารตามสั่งใต้ตึกแล้วกัน”

หากเป็นเมื่อก่อนทั้งรถคงเต็มไปด้วยบรรยากาศอึมครึมไปแล้ว แต่ตอนนี้กลับไม่มีความรู้สึกกดดัน อึดอัด หรืออึมครึมใดๆ ความรู้สึกของเฟยคล้ายกับเวลาที่เรานั่งโดยสารบริการขนส่งสาธารณะ ที่ผู้คนต่างสนใจที่จะให้ไปถึงจุดหมายปลายทางของตนโดยไม่ค่อยจะสนใจคนข้าง ซึ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก

แม้ว่าเฟยจะถูกอนุญาตให้มารับและส่งกานต์ทุกวันที่กานต์มีเรียน และบางเสาร์อาทิตย์ที่กานต์ยอมให้เขารับไปเที่ยว แต่เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนหอกานต์เลย

ความสัมพันธ์ไม่คืบหน้าไปไหนเลยแม้จะผ่านไปนานแล้วสามเดือนหลังจากเปิดเทอม กิจกรรมที่มหาลัยของกานต์เริ่มลดน้อยลง แต่งานของเฟยกลับเพิ่มมากขึ้นเพราะปีนี้เป็นปีสุดท้ายแล้ว ซึ่งนั่นทำให้บ้างวันเขาไม่สามารถไปรับกานต์ที่มหาลัยได้ เฟยจะโทรไปบอกกานต์ล่วงหน้าเสมอ แต่นอกจากคำตอบที่แสดงการรับรู้จากานต์แล้ว เฟยก็ไม่ได้รับสื่ออะไรจากกานต์เลย

จนเย็นวันนี้ เฟยเสร็จการคุยงานเพื่อจะทำรายงานเสร็จเร็วจึงรีบตรงไปรับกานต์ที่มหาวิทยาลัย แต่ไม่ได้โทรไปบอกกานต์ก่อนเพราะมั่นใจว่าตนเองจะไปทันก่อนที่กานต์จะกลับบ้าน

เฟยเขามารอในตึกเป็นปกติ เป็นจังหวะเดียวกับที่กานต์เดินลงมาจากตึกเรียนพอดี แต่ที่ไม่ปกติก็คือแทนที่กานต์จะเดินตรงมาหาเขา กานต์กลับเดินไปหาใครคนหนึ่ง คนที่เฟยคิดว่าคงไม่กลับมายุ่งเกี่ยวกับกานต์อีกแล้ว

“มึงมีธุระอะไรกับกานต์หรือเปล่า” ทุกคนที่ได้ยินคำพูดของเขาต่างหันมามองเฟยกันเป็นตาเดียว แต่ไม่ได้มีความประหลาดใจบนใบหน้าของกานต์และแก็ปเลย

“เปล่า” แก็ปเป็นฝ่ายตอบ

“ก็แค่กานต์บอกให้กูมารับ กูก็มา” แก็ปหันมาพูดกับเฟย ปล่อยให้ดพื่อนกานต์บอกลากานต์แล้วเดินจากไป

“ทำไมหละกานต์”

“ก็เฟยมารับเราไม่ได้ เราก็แค่ให้แก็ปมารับก็แค่นั้น”

พูดจบกานต์ก็เดินออกจากตัวตึกไปเพราะเริ่มมีหลายคนหันมาสนใจมากขึ้น แต่ร่างบางไม่ได้เดินออกมาเพื่อจะย้ายที่ เขาเดินไปที่รถของแก็ปรอให้เจ้าของรถเดินมาซึ่งใช้เวลาหลังจากนั้นไม่นาน

*****
รุ่งขึ้นเฟยมารับกานต์ซึ่งทำตัวเป็นปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สำหรับเฟยแล้วเขาไม่สามารถปล่อยไปได้เลย
“ทำไมต้องให้ไอ้แก็ปมารับ” น้ำเสียงที่ไม่พอใจหลุดออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

“เฟยจะถามเอาอะไร”

“ก็ในเมื่อเฟยมารับเราไม่ได้” คำพูดง่ายๆแต่เสียดแทงเข้าไปในตัวของคนฟัง

“เฟยขอโทษกานต์ที่ไปรับไม่ได้ แต่เฟยติดธุระจริงๆ”

“แล้วเราไม่เข้าใจตรงไหน”

เฟยหายใจเข้าลึกๆเพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ เขาไม่อยากโมโหเพราะมันใจว่าตนกำลังโดนยั่วโมโหอยู่ ซึ่งถ้าเขาแพ้ให้กับความใจร้อนของตนแล้ว กานต์จะต้องหาช่องทางขอเลิกกับเขาเป็นแน่

“ถ้าเฟยเบื่อก็เลิกทำซะ” คำพูดเด็ดเดี่ยวแต่แววตาวูบไหวแอบแฝงด้วยความเจ็บปวด

“กานต์จะไม่ยอมให้โอกาสเฟยเลยจริงๆเหรอ” รู้สึกจนปัญญาจนต้องพูดตัดพ้อออกมา

“บอกได้ไหมว่าเฟยต้องทำยังกานต์ถึงจะยอมยกโทษให้”

“ไม่มี” น้ำตาเออคลอในแววตาเศร้า

ปัญหาเวียนวนอยู่ในหัวตลอดทั้งวัน จนเรียนแทบจะไม่รู้เรื่อง คิดจนหัวจะระเบิดเพราะเจอทางตัน เฟยรู้เพียงแต่ว่าไม่สามารถปล่อยมือกานต์ไปได้ เขาไม่อยากเป็นคนที่ไม่เอาไหนที่ไม่คิดจะแก้ปัญหาอะไรเลย ถึงแม้จะคิดได้ช้าก็ตาม
“เป็นอะไรว่ะสีหน้าเหมือนไม่ค่อยสบาย” เช่เป็นฝ่ายถามเมื่อสังเกตเห็นอาการของเพื่อนตั้งแต่เช้า

“ถ้ามึงเป็นกานต์มึงจะทำยังไงกับกูว่ะ”

“กูจะทำให้มึงเจ็บมากเท่าที่จะมากได้ ไม่ทางกายก็ต้องทางจิตใจ หรือไม่ก็ทั้งสองทาง”

“โหดไปแล้วเช่” ปลายที่นั่งฟังอยู่ด้วยพูดปรามขึ้น

“ก็จริงนี่หว่า นึกไม่ออกเลยว่าถ้าเจอกานต์จะทำหน้ายังไง โดนเกลียดแล้วแน่ๆ ขนาดที่ไปเจอเมื่อตอนนั้นยังแอบรู้สึกเจื่อนๆเลย”

“หรือบางทีมึงต้องยอมปล่อยกานต์ไป” ทั้งสามหันไปหาอัพที่นั่งเงียบอยู่นาน

“ทำไมว่ะ” เฟยหันไปถามเพราะเขาก็มีความคิดแบบนี้เช่นเดียวแม้ว่าจะเพียงเล็กน้อยก็ตาม

“มึงดูไม่มีความสุขแล้วกูก็คิดว่ากานต์เองก็คงจะไม่มีความสุข มึงลองคิดดูว่าที่มึงทำอยู่เพราะอะไรกันแน่”

ได้แต่รู้สึกเกลียดตัวเองที่พอฟังอัพพูดแล้วก็คิดไปว่าแค่รู้สึกผิดเท่านั้นจึงอยากจะแก้ไขไม่ได้มีความรู้รักใดๆเลยเข้ามาเกี่ยวข้อง

เฟยไม่คิดเลยว่าการคะนองในวัยเด็กจะทำให้เขาเจอปัญหามาได้จนเดี๋ยวนี้ แต่มันแย่กว่าตรงที่เขากลับไม่ได้รับบทเรียนหรือบทลงโทษใดๆเลย

ตกเย็นเฟยยังคงไปรับกานต์เหมือนเดิม และก็เหมือนเดิมพอกานต์ขึ้นรถก็มีแต่ความเงียบ เงียบจนเฟยต้องเปิดเพลง
“ไปกินข้าวเย็นบ้านเฟยไหม”

“ไม่”

“งั้นเสาร์อาทิตย์นี้ไปหัวหินกันไปไหม ค้างหนึ่งคืนวันอาทิตย์ค่อยกลับ”

“ถ้าเฟยอยากไป เราไปก็ได้”

ฟังเหมือนคล้ายว่าจะยอมตกลงแต่ก็ดูไม่ค่อยอยากไปเท่าไหร่

“ยังโกรธเฟยเรื่องเมื่อวานอยู่เหรอ”

“เปล่า”

“เฟยแค่กลัวว่ากานต์จะเปลี่ยนใจไปชอบไอ้แก็ป”

“เฟยรักกานต์นะ”

คำพูดออกจากปากเฟยไปไร้คำตอบใดๆกลับมา

“งั้นเสาร์นี้ไปหัวหินกันนะ”
*****
แสงแดดยามบ่ายส่องกระทบพื้นทะเลระยิบระยับจนแสบตา กานต์ยืนอยู่ริมระเบียงที่ยื่นหันออกไปสู่ทะเล
“ลงไปเล่นน้ำกันไหม”

“ไม่”

“กานต์ตอบเฟยแค่ไม่ ไม่ แล้วก็ไม่”

“ไม่เบื่อเหรอ” เฟยส่งยิ้มไปให้

“ไม่”

เฟยส่ายหัวก่อนจะเดินเข้าไปยืนข้างๆกานต์ เอาแขนสองข้างวางลงบนราวระเบียงก่อนจะวางคางลงทับมองออกไปยังทะเล
“เฟยไม่เบื่อเหรอ”

“ไม่หรอก”

กานต์ไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ยังไงว่าเขารู้สึกทั้งรักทั้งชังอีก เขารู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่อยู่ใกล้เฟยมากกว่าที่จะรู้สึกรัก ไหนจะความรู้สึกกลัวว่าวันหนึ่งเฟยจะเบื่อแล้วเดินจากเขาไป เขาจะบอกอย่างไรว่าเขาไม่มีความสุขเลยแต่ก็ไม่สามารถไล่ให้เฟยออกไปจากชีวิตเขาได้

แม้จะพยายามคิดหาวิธีต่างๆมาเพื่อทำให้เฟยเป็นคนเดินจากไป กานต์รู้แก่ใจดีว่าถ้าวันนั้นมาถึงตัวเองคงจะเสียใจไม่น้อย แต่เขาอยากจะให้มันเกิดขึ้นเร็วหน่อยเพราะมันอาจจะต้องใช้เวลานานในการทำใจ
“ป่ะลงไปเล่นน้ำกันเถอะ” เฟยพูดจบก็จูงแขนกานต์ให้เดินตามเขาลงไปยังชายหาด

เฟยพยายามจะทำให้กานต์สนุก แต่ก็ไม่กล้าทำอะไรมากแม้ว่าในใจอยากจะอุ้มกานต์แล้วโยนลงทะเลก็ตาม ตอนนี้เลยทำได้แค่เพียงเดินจูงมือกันเดินเตะน้ำทะเลไปเรื่อยๆตามความยาวของชายหาด ไม่มีคำพูดใดๆ มีเพียงแต่มือเขาที่กอบกุมมือกานต์ไว้

เป็นเวลาบ่ายสี่โมงเย็นแล้วตอนที่กานต์ทิ้งเฟยให้เดินตามลำพังส่วนเขาก็แวะไปตามแอ่งน้ำต่างๆ  ในสายตาของเฟย ร่างบางตรงหน้าเหมือนจะวางเรื่องราวต่างๆระหว่างทั้งสองไว้ชั่วคราว รอยิ้มเล็กๆปรากฏบนใบหน้ากลมตอนที่จับปูตัวเล็กขึ้นมาจากทรายได้
มาทะเลครั้งนี้เฟยไม่ได้พกกล้องมาด้วยเพราะเขาไม่อยากสนใจสิ่งอื่นนอกจากกานต์ เขากลัวที่จะทำแก้วบางๆที่เรียกว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับกานต์แตกอีกครั้ง เฟยจึงได้แต่ถ่ายรูปกานต์ไว้ด้วยกล้องจากโทรศัพท์มือถือ

“กานต์หิวหรือยังครับ”

เสียงเรียกของเฟยดึงกานต์กลับมาจากความสุขที่ได้สำรวจว่าแต่ละแอ่งน้ำมีตัวอะไรอยู่บ้าง เขาพยักหน้าน้อยๆเป็นการแสดงว่ารับรู้ ก่อนจะเดินไปหาเฟยที่เอือมมือมาจับมือกานต์แล้วพากันเดินขึ้นคอนโดเพื่อล้างมือและเท้า

“กานต์อยากกินอะไรสั่งได้เลยนะ”

เฟยเอ่ยบอกกานต์ที่เปิดดูเมนูไปเรื่อยๆ คนถูกถามสั่งอาหารไปเพียงแค่สองอย่างก็คือต้มยำน้ำข้นกับปลาหมึกนึ่งมะนาว ส่วนที่เหลือเฟยเป็นคนสั่งซึ่งไม่ได้มากมายอะไรแค่สั่งเพิ่มอีกสามอย่างเท่านั้น

ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะกลิ่นหอมชวนหิว ทำให้ลืมปัญหาไปชั่วคราว ระหว่างที่กำลังกินข้าวกันอยู่ กานต์ลอบสังเกตเฟยที่พยายามแกะปูนึ่งอยู่อย่างตั้งอกตั้งใจแต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่ จึงทำให้ได้กินแค่เนื้อบริเวณส่วนตัวปูเท่านั้นแต่ช่วงก้ามนั้นแทบจะแกะไม่ได้เลย มือเรียวเอื้อมไปหยิบปูมาหนึ่งตัวก่อนจะบรรจงแกะด้วยช้อนสั้นก่อนจะวางเนื้อที่แกะได้ลงไปที่จานของเฟย

“ขอบคุณครับ”

กานต์ไม่ได้สนใจคำขอบคุณจากเฟย เขาเพียงแค่หยิบกระดาษทิชชู่มาเช็ดมือก่อนจะกลับไปกินข้าวตามเดิม

แต่สิ่งที่กานต์ทำนั้นกลับทำให้หัวใจของเฟยรู้สึกพองโตขึ้นมา ชายหนุ่มคิดว่าในที่สุดสิ่งที่เขาทำก็เริ่มส่งผลไปในทางที่ดี
*****
กานต์นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงตอนที่เฟยเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากอาบน้ำเสร็จ บริเวณปลายเตียงยวบลงตอนที่เฟยนั่ง

“กานต์เช็ดผมให้เฟยหน่อยได้ไหม”

มุกเดิมถูกขุดกลับมาใช้อีกครั้ง

คนถูกขอก็ยอมทำตามคำขอแต่โดยดี กานต์หยิบผ้าขนหนูจากมือเฟยก่อนจะเริ่มขยี้ผมเฟยอย่างเบามือ เพลินเพลิดจนเคลิ้มไป รู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ริมฝีปากประกบกับปากของอีกฝ่าย เฟยหยุดเว้นระยะเผื่อว่ากานต์ต้องการจะห้ามเขา แต่เมื่อเห็นว่ากานต์ไม่ได้มีท่าทีขัดขืนแต่อย่างใด เขาจึงกดริมฝีปากลงไปลิ้มรสชาติอีกครั้ง

ร่างกายที่บดเบียนกันเปลี่ยนถ่ายความรู้สึกรุ่มร้อนจากอีกคนสู่อีกคน ทั้งคู่ตกลงสู่ดินแดนลึกล้ำ ริมฝีปากร้อนผ่าวกดย้ำลงแสดงความรักทุกๆการขยับร่างกาย

ร่างเปลือยเปล่าของกานต์นอนอยู่บนตัวเฟยโดยมีแขนโอบเขาไว้หลวมๆอีกที มองฝ่าไปในความมืดอย่างไม่ได้จับจ้องจุดใดเป็นพิเศษ ในใจพลางนึกตลกตัวเองที่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับความรักที่มีต่อเฟย

รุ่งเช้าเฟยตื่นขึ้นเพราะแสงแดดที่ส่องลอดเข้ามาผ่านรอยแยกของผ้าม่าน มองไปยังที่ข้างๆก็ผมว่าไม่มีใครนอนอยู่ เขาไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรเพราะคิดว่ากานต์คงอยู่ในห้องน้ำ ชายหนุ่มลุกขึ้นจากเตียงเดินตรงไปที่ห้องน้ำเพื่อจะรายงานอีกคนว่าตนตื่นแล้ว แต่ในห้องน้ำกลับไม่มีใครอยู่ และเมื่อเขาได้มองสำรวจห้องดีๆก็พบว่ากระเป๋าของกานต์ไม่อยู่แล้ว
*****
ด้วยความร้อนใจเฟยใช่เวลาเพียงแค่ชั่วโมงกว่าๆในการพาตัวเองให้มาถึงหอกานต์ เขาไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปบนหอกานต์จึงทำได้เพียงแค่รออยู่ที่ด้านล่างเท่านั้น เฟยโทรหากานต์หลายสายแต่ก็เปล่าประโยชน์เพราะกานต์ไม่รับ แต่ในขณะที่เขากำลังร้อนใจอยู่นั้นกานต์ก็เดินออกมาจากหอพักพร้อมกับแก็ป
“ทำไมกานต์กลับมาก่อนเฟยหล่ะ”

“เราต้องรีบมาทำธุระกับแก็ป เราเลยลืมบอก” คำพูดของกานต์ช่างเย็นชาสำหรับเฟย

“เราไปก่อนนะ”

หลังจากกานต์พูดจบก็เดินจากไปพร้อมแก็ปโดนไม่หันมามองคนที่ยืนมองตามโดยที่ไม่รู้จะหาวิธีอะไรมารั้งไม่ให้กานต์ไป

เป็นครั้งแรกที่เฟยรู้สึกเจ็บแปลบที่ในอก ไม่ใช่ความรู้สึกผิดต่อกานต์ที่เขารู้สึกมาตลอด แต่เป็นความรู้สึกพ่ายแพ้และหมดหวัง เขาเสียใจที่ตัวเองไม่สามารถทำให้กานต์กลับมารักตนได้อีก และเจ็บยิ่งกว่าที่ตนเองนั้นเป็นสาเหตุของเรื่องทั้งหมด

“กูว่ามึงเลิกทำเถอะว่ะ” กานต์ปาดน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมาตอนที่แก็ปพูด

“เบื่อจะช่วยแล้วหรือไง”

“เออ ก็ส่วนหนึ่ง แต่ดูมึงจะเสียใจมากเลยนะ”

“แล้วจะให้เราทำยังไง เราเลิกคิดจะเอาคืนไปแล้ว ที่ทำอยู่ตอนนี้ทั้งหมดก็เพื่อให้เขาขอเลิกกับเรา”

“แต่ก็ทำไม่ได้ ทำไม่ได้ทั้งยอมกลับไปรักเขาเหมือนเดิม หรือยอมที่เป็นฝ่ายบอกให้เขาเลิกยุ่งกับเรา”

“แล้วจะเอายังไง บวชอีกทีดีไหม”

แก็ปหัวเราะให้กับมุกของตัวเองก่อนจะขับรถออกจากหอ

ส่วนเฟยที่ถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง เขาตัดสินใจกลับบ้านหลังจากรถของแก็ปเลี้ยวออกถนนไป พยายามทำอะไรต่างเพื่อจะไม่ได้คิดมาก ต่ก็ทำไม่ได้ และสุดท้ายเขาก็กลับมากานต์ที่หออีกครั้ง

“ถึงหอแล้วหรือยังกานต์ เฟยรออยู่ใต้หอกานต์นะ” ชายหนุ่มพยายามเค้นเสียงให้ดูมีความสุขมากที่สุด

“มีอะไรหรือเปล่า”

“เฟยรอกินข้าวอยู่นะ”

“อืม เดี๋ยวเราลงไปหา”

หลังกานต์วางสายไปไม่นานเขาก็ลงมาหาเฟย รอยยิ้มจริงใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเฟย เป็นรอยยิ้มที่เก็บเอาความทุกข์ไว้

“ไปกินข้าวกับพวกเช่นะวันนี้” เฟยเกริ่นนำ เขารู้ดีว่ากานต์ยังไม่อยากจะเจอใครในตอนนี้ แต่เขาคิดว่าบรรยากาศของเพื่อนๆอาจจะช่วยทำให้กานต์ใจอ่อนลง แล้วหลังจากนั้นเขามีเรื่องอยากจะพูดกับกานต์

“อืม”

ภายใต้แสงไฟสีส้มสลัวของร้านอาหารกานต์สามารถเก็บงำสีหน้าอึดอัดที่เขารู้สึกได้เป็นอย่างดี ความรู้สึกที่ห่างเหินกับผู้คนเหล่านี้และเรื่องราวที่เกิดเมื่อครั้งนั้น แม้ว่าเขาจะไม่ได้รู้สึกโกรธใครแต่ก็ไม่ได้รู้สึกดีเท่าไหร่นักที่ต้องกลับมาเจอ
“เราไปห้องน้ำก่อนนะ” กานต์พูดเบาๆก่อนจะลุกขึ้น

“ฉันไปด้วย” เป็นเช่ที่รีบตะโกนบอกแล้วลุกเดินตามกานต์มา

หญิงสาวพอจะจับความรู้สึกบางอย่างได้จากเพื่อนที่ตนไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายยังคิดว่าเขาเป็นเพื่อนอยู่หรือไม่
“แกดูไม่ค่อยสนุกเลยนะ”

“ไม่มีอะไรหรอก เราแค่เป็นกังวลเรื่องควิซพรุ่งนี้หนะ” กานต์พูดปดอันที่จริงเขาไม่มีควิซอะไรให้กังวลหรอก แต่แค่ไม่อยากให้เช่เป็นกังวล

กานต์เองก็พอจะเข้าใจได้ว่าเช่เองก็รู้สึกไม่ดีนักที่ปล่อยให้กานต์ต้องเผชิญปัญหาเพียงลำพังแต่เขาก็ไม่ได้พาลคิดโทษเช่แต่อย่างไร

“แกโกรธฉันหรือเปล่าว่ะ”

“เราไม่ได้โกรธ”

แม้จะไม่ได้รู้สึกโกรธเช่ตามที่พูดออกไป แต่เขาก็ไม่อยากให้เช่ต้องมารื้อฟื้นความหลังอีกจึงแกล้งหันมองทางอื่น แต่เขาก็ต้องหันกลับมามองเช่ เพราะได้ยินเสียงสะอื้นเหมือนคนร้องไห้
“ฮึก”

“ฉันขอโทษที่ไม่ถามแกก่อน” น้ำตาล่วงหล่นจากดวงตา

กานต์ไม่ชอบเห็นใครร้องไห้โดยเฉพาะกับผู้หญิง เพราะมันทำให้เขาใจอ่อน

“เดี๋ยวเช่ หยุดร้องก่อน” กานต์เอื้อมมือไปแตะไหล่เช่เพื่อจะปลอบแต่กลับกลายเป็นว่าเช่ปล่อยโฮออกมาหนักกว่าเดิม

“เราไม่ได้โกรธอะไรเช่เลย ดังนั้นหยุดร้องไห้เถอะ”

ใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าที่หญิงสาวจะสงบสติอารมณ์ได้ แม้จะมีอาการสะอื้นอยู่บ้างก็ตาม

กานต์จูงเช่เดินกลับไปยังโต๊ะ พอทุกคนเห็นหน้าของเช่ที่มีคราบน้ำตาก็ตกใจกันยกใหญ่ โดยเฉพาะปลาย
“เช่เป็นอะไร”

“กลัวกานต์จะเกลียดเฉยๆ” พูดจบเช่ก็ร้องไห้ออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มีไหล่ของปลายช่วยซับน้ำตา ปลายนั่งปลอบเช่อยู่นานแต่ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้นเลย จึงตัดสินพาเช่กลับบ้านก่อน

“งั้นกูพาเช่กลับก่อนดีกว่า” ปลายว่าเมื่อผ่านไปสักพักเช่ยังคงไม่หยุดสะอื้น

ทุกคนบอกลาคนทั้งคู่ และหลังจากนั้นไม่นานทุกคนก็แยกย้ายกันกลับ เมื่อล่ำลากันเสร็จกานต์ก็เดินมุ่งหน้าไปยังลานจอดรถโดยมีเฟยเดินนำอยู่ด้านหน้า แต่ก่อนที่จะถึงตัวรถเท้าของกานต์ก็หยุดเคลื่อนไหว ปล่อยให้เฟยเดินต่อไป กว่าที่เฟยจะรู้ตัวเขาก็มาถึงประตูฝั่งคนขับเสียแล้ว เฟยตกใจเล็กน้อยก่อนจะรีบกวาดตามองหากานต์และพบว่ากานต์ยืนหยุดอยู่กลางระหว่างทาง เฟยรีบวิ่งไปหาแต่ก่อนที่เขาจะได้เอ่ยถามอะไรกานต์ก็เป็นฝ่ายเริ่มพูดก่อน
“เฟยกลับไปเถอะ เราขอกลับเอง” โดยไม่ได้รอคำตอบจากอีกฝ่าย กานต์ก็หันหลังเตรียมตัวอออกเดิน แต่โชคดีที่เฟยคว้าข้อมือไว้ได้ทัน

“ถ้ายังไม่อยากกลับไม่เป็นไร อยากไปไหนต่อเดี๋ยวเฟยพาไป”

ช่วงเวลาหยุดพักช่างแสนสั้น มวลความตรึงเครียดเริ่มก่อตัวอีกครั้ง

กานต์ไม่ได้ตอบอะไรเฟยกลับไป เขาสะบัดมือออกแล้วก็เดินออกไปยังริมถนน โดยไม่มีทางเลือกเฟยจำต้องเดินตามกานต์ไป

ถนนยามกลางคืนรถบางตาลงมากแล้ว และหลายคันก็เร่งความเร็วเพิ่มมากขึ้น ทุกครั้งที่มีรถวิ่งผ่านทั้งคู่ไปจะมีลมและเสียงพุ่งปะทะ แต่เขาทั้งคู่ต่างยังคงมุ่งหน้าเดินต่อไป เหมือนว่าเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเดิน โดยเฉพาะกานต์ที่ตั้งใจเดินโดยไม่สนใจเฟยที่เดินตามหลังเลย

เป็นเพราะความว้าวุ่นใจทั้งหมดของกานต์ทำให้เขาต้องเดินอยู่อย่างนี้ แม้จะบอกกับทุกคนไปแล้วว่าไม่ได้คิดโกรธอะไรใคร แต่ในใจลึกๆแล้วนั้นกลับมีก่อนความโกรธเล็กซ่อนอยู่ นั้นทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังจะเป็นบ้า เขาอยากที่จะตะโกนออกมาดังหรือไม่ก็หันไปไล่คนที่กำลังเดินตามแรงๆ แต่เขากลัวว่าหากได้เริ่มทำเช่นนั้นแล้ว เขาอาจจะหยุดไม่ได้ จึงทำได้เพียงแค่เดินกำมือแน่นๆเท่านั้น
“เฟยเราขอหละ เราจะกลับเอง”

“เฟยปล่อยกานต์กลับเองไม่ได้หรอก”

“ให้เฟยไปส่งนะ สัญญาว่าจะไม่ทำอะไรกวนใจ”

น้ำตาเอ่อคลออีกครั้ง

“เราไม่ไหวแล้วเฟย เราพอแล้ว เราพอแล้วจริงๆ”

น้ำตาไหลพรูออกมา ทั้งจากความกดดันที่สร้างขึ้นเองและความเศร้าที่เกาะกิน เมื่อได้เห็นดังนั้นชายหนุ่มรีบดึงร่างบางมาโอบกอดไว้ กดจูบลงบนผมแผ่วหวังที่จะปลอบใจอีกฝ่าย เสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาจากบริเวณหัวไหล่ของเขา ร่างกายที่สั่นจากการร้องสะอื้นก็กานต์ทำให้เฟยรู้สึกเศร้าใจยิ่งกว่าครั้งไหนๆ เข้าใจมากขึ้นยิ่งกว่าครั้งไหนๆว่าเขาทำร้ายคนในอ้อมกอดนี้มากเท่าไหร่ แต่แล้วกานต์กลับผลักเฟยออกเต็มแรงจนเฟยเซ่ถลาออกไป พอสบโอกาสกานต์จึงรีบวิ่งหนีไป แต่ก็ถูกเฟยวิ่งตามทัน

“กานต์” เสียงอ่อนใจที่ออกมาแค่ฟังดูก็รู้ว่าคนพูดเหนื่อยใจมากแค่ไหน

“กานต์บอกเฟยได้ไหม ว่าทำไมเฟยควรเลิกกับกานต์”

“เพราะเรารักเฟย”

“แต่เฟยไม่เคยรักเราเลย”

สิ้นคำพูสุดท้ายกานต์สะบัดมือหลุดจากการกอบกุมที่อ่อนแรง ด้วยแรงเหวี่ยงทำให้ร่างของกานต์เซถลาลงไปบนถนน มีเสียงบีบแตรยาวที่ทำให้เขารู้ว่ามีรถกำลังวิ่งเข้ามา แม้จะพยายามจะวิ่งขึ้นฟุตบาทแต่ก็รู้ดีว่าอย่างไรก็คงไม่ทัน

ในช่วงเสี้ยวเวลาที่รอให้ร่างรับแรงปะทะกลับรู้สึกเหมือนร่างถูกดึงกระชากให้กระเด็นขึ้นไปทางฟุตบาท เมื่อร่างกระแทกลงที่พื้นพร้อมกับได้ยินเสียงเหมือนฟ้าผ่าดังสนั่น เมื่อลืมตาขึ้นมาเบื้องมีรถจอดนิ่งสนิทอยู่ กับร่างของเฟยที่นอนอยู่บนพื้น

ไวเท่าความคิดสองขาพากานต์มาหยุดลงตรงข้างเฟยที่นอนอยู่ ร่างกายฝั่งขวาดูผิดรูปจนเขาไม่กล้ามอง ตัวสั่นไปด้วยความกลัว

“เฟย”

เสียงเรียกแหบพร่าทำให้คนเจ็บค่อยลืมตาขึ้นมามอง กานต์ขยังเข้าไปใกล้ๆเอื้อมือไปแตะที่ตัวเฟยเบาๆเพราะกลัวคนเจ็บจะเจ็บมากกว่าเดิม

“กานต์”

เฟยขยับปากเรียก กานต์สังเกตเห็นฟองเลือดตรงมุมปาก จึงได้แต่ส่ายหัวไม่อยากให้เฟยพูดอะไร น้ำตาไหลออกมาอีกครั้ง เขากลัว กลัวเหลือเกินว่าเฟยจะตาย

“เราขอโทษ เราขอโทษเฟย”

“เฟยต่างหากที่ต้องขอโทษ ที่ทำให้กานต์ร้องไห้ใหญ่เลยวันนี้”

“หยุดร้องไห้เถอะนะ”

มือหนาค่อยยกขึ้นมาปาดน้ำตาจากแก้มของกานต์ รอยยิ้มน้อยๆปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่ม ก่อนที่มือนั้นจะร่วงหล่นลงไปแน่นิ่งอยู่บนพื้น


ออฟไลน์ panpang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 497
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 23 23/12/16 หน้า 8
«ตอบ #232 เมื่อ23-12-2016 07:23:36 »

เฟยยยยยย :sad4:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 23 23/12/16 หน้า 8
«ตอบ #233 เมื่อ23-12-2016 10:21:12 »

 :sad4: :sad4: :sad4:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 23 23/12/16 หน้า 8
«ตอบ #234 เมื่อ23-12-2016 13:53:01 »

รักแต่ทำให้ตัวเองเชื่อใจเฟยไม่ได้
กานต์คงทรมานกับความรู้สึกแบบนี้มากๆ
หวังว่าเฟยจะไม่เป็นอะไรมากหรอกนะ

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 23 23/12/16 หน้า 8
«ตอบ #235 เมื่อ23-12-2016 15:49:52 »

 :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ ZYSQ_

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 226
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 23 23/12/16 หน้า 8
«ตอบ #236 เมื่อ23-12-2016 18:04:17 »

ในที่สุดก็มาต่ออออออออออออออออออออออ !
รอมาตลอดเลยนะจะบอกให้
 :o8: :o8: :o8:
อ่านจบแล้วแบบ... นั่นไง น่านไง! อยู่กันดีๆไม่ได้จริงๆด้วยคู่นี้ !!
จากคำบรรยายคิดว่าเฟยไม่น่าจะรอด
ไม่ใช่ว่าตอนจบ เฟยตาย กานต์กลับไปบวชอีกรอบ ไรงี้นะ
อุตส่าห์ร่วมลุ้น ร่วมอึดอัด ร่วมร้องไห้ด้วยกันมาตั้งนาน

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 23 23/12/16 หน้า 8
«ตอบ #237 เมื่อ24-12-2016 11:45:57 »

 :pig4:

ออฟไลน์ Legpptk

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 377
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ***พลาดรัก*** ตอนที่ 23 23/12/16 หน้า 8
«ตอบ #238 เมื่อ29-01-2017 02:19:22 »

 :call: :call: :call:

ออฟไลน์ sasithron

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 64
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +13/-1
ตอนที่ 24 (จบ)
ร่างบางนั่งนิ่งอยู่หน้าห้องฉุกเฉินสายตาจ้องตรงไปข้างหน้าแต่ไม่โฟกัสที่จุดใดๆเลย เพราะกำลังจมดิ่งอยู่กับความคิด สองมือกอบกุมไว้แน่น กานต์ไม่รู้เลยว่าอีกคนที่รับการรักษาภายในห้องเบื้องหน้าอาการเป็นอย่างไรบ้าง ภาพที่รถยนต์พุ่งเขาปะทะกับร่างของเฟยยังคงฉายซ้ำไปซ้ำมาในหัวกานต์อย่างหยุดไม่ได้ น้ำตาใสๆไหลออกมาเอื่อยๆ
เสียงฝีเท้าที่เดินใกล้เข้ามาดึงกานต์ให้กลับมาสู่ปัจจุบัน เขาเงยหน้าขึ้นไปยังต้นเสียงของฝีเท้าก็พบกับครอบครัวของเฟย
ผู้เป็นแม่นั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆกานต์ แม้ว่าเธออยากจะเอ่ยปากถามถึงอาการของเฟยใจจะขาด แต่พอมองเห็นเด็กหนุ่มที่มีดวงตาเจื่อไปด้วยน้ำใสๆก็ต้องกลืนคำถามที่มีลงหายไปในลำคอ
มือเรียวของผู้อาวุโสกว่าคว้ามือของอีกฝ่ายมากุมไว้ พร้อมกับบีบเบาๆ

“ผะ ผมไม่ได้ตั้งใจ  หะ ให้เป็นแบบนี้ครับ” เสียงพูดของกานต์สะดุดเป็นช่วงๆ

แม่ของเฟยไม่เข้าใจที่กานต์พูดเลยสักนิด เธอไม่ค่อยเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเด็กหนุ่มตรงหน้ากับลูกชายขอตนเท่าไหร่นัก รู้เพียงแค่ว่าทั้งคู่คบกันในฐานะแฟน และช่วงหลังดูเหมือนทั้งคู่จะมีปัญหากัน

“อยากกลับบ้านก่อนไหมเดี๋ยวแม่ให้ไหมไปส่ง”

“ยะ ยังครับ ผมอยู่รอครับ”

บริเวณด้านหน้าห้องฉุกเฉินมีแต่ความเงียบ นานๆทีก็จะมีพยาบาลวิ่งเข้าและออกห้องฉุกเฉินทีหนึ่ง แสงสว่างสีขาวจ้าจากหลอดไฟ ไม่ได้ช่วยให้คนทั้งหมดดูมีสีหน้าสดใสขึ้นตาม แต่กลับกลายเป็นเหมือนกลุ่มก้อนหมอกสีดำปกคลุมพวกเขาอยู่
การรอคอยช่างยาวนานเสียเหลือเกินในความรู้สึกของคนเป็นแม่ โดยเฉพาะในเวลานี้ ในเวลาที่ลูกชายของตนจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้างก็ไม่รู้ เธอปล่อยให้สามีไปจัดการเรื่องคดีความกับทางตำรวจ ส่วนเธอนั่งรออยู่ที่หน้าห้องโดยมีลูกสาวโอบกอดอยู่ไม่ห่าง ผู้เป็นแม่เห็นแผลบนตัวของลูกชายที่เกิดจากความคึกคะนองจนชินแต่ไม่เคยมีครั้งไหนเลยที่ถึงขั้นเข้าโรงพยาบาลอย่างนี้ เธอไม่มีความรู้สึกอยากจะไปตำหนิใครหรือทำอะไรทั้งนั้น เธอขอเพียงแค่ให้ลูกชายของเธอปลอดภัยเท่านั้น
เวลาล่วงไปเป็นเวลาตีสามของวันใหม่ ประตูห้องฉุกเฉินเปิดออกพร้อมต้อนรับให้ญาติเข้าไปเยี่ยมคนไข้ได้
เฟยที่ในตอนนี้นอนหลับสนิทอยู่บนเตียงไม่สามารถรับรู้ได้ถึงการมาของทุกคน แม่ของเขาใช้มือปัดปอยผมด้านหน้าเบาๆเหมือนกลัวว่าปอยผมนั้นจะรบกวนการนอนหลับ ที่ขาและแขนด้านขวาของเขามีเฝือกปูนสีขาวห่อหุ้ม
ทางด้านกานต์เองแม้จะใจชื้นขึ้นมาที่เห็นว่าชายหนุ่มตรงหน้ายังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ยังไม่คลายกังวลไปเสียทีเดียวเพราะเฝือกที่ขาและแขนของเฟย ร่างบางรู้ดีว่ามันจะต้องเป็นอุปสรรคให้กับคนที่นอนหลับอยู่เป็นอย่างมากแน่นอนแล้วไหนจะเรื่องเรียนอีก แค่คิดน้ำตาก็เออขึ้นมาที่ตา

“เฟยไม่เป็นไรแล้วนะกานต์”

แม่ของเฟยหันไปพูดกับกานต์ที่ทำจมูกฟุดฟิดเพราพยายามสูดจมูกไม่ให้น้ำมูกไหลออกมา

“แม่ว่ากานต์กลับก่อนดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมเฟยใหม่”

“ครับ”

กานต์อ้อยอิ่งเล็กน้อย แต่ก็ยอมบอกลาทุกคนก่อนจะเดินออกจากห้องมา มีไหมเดินออกมาส่ง

“อยากให้พี่ไปส่งหรือเปล่า”

“ขอบคุณครับ แต่ผมกลับเองดีกว่า”

หญิงสาวยิ้มให้กานต์อย่างอ่อนโยน เธอพอจะเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่ายอยู่บ้าง แต่ไม่อยากจะไปก้าวก่ายมากนัก แต่อีกใจหนึ่งเธอก็หวังว่าเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะทำให้ให้น้องชายของเธอโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นบ้าง

ไหมยืนรอเป็นเพื่อนกานต์จนมีรถแท็กซี่เข้ามารับ เธอยืนรอจนรถเลี้ยวออกไปจึงเดินกลับเข้าไปรวมตัวกับพ่อและแม่

                                                                             *****
วันต่อมาแพทย์ผู้ดูแลอาการของเฟยก็เข้ามาตรวจเฟยอีกครั้งพร้อมกับรายงานอาการของเฟยให้ทางครอบครัวฟัง ซึ่งมีเพียงกระดูกที่ขาและแขนขวาหักเท่านั้น ส่วนอาการอื่นๆไม่มีสิ่งผิดปกติแต่อย่างใด แต่จะต้องพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลอีกหนึ่งสัปดาห์
แค่เพียงรู้ว่าเฟยปลอดภัยแม่ของเขาก็รู้สึกโล่งใจเป็นปลิดทิ้ง แต่คงจะมีเพียงเรื่องเดียวที่ค้างคาใจอยู่ซึ่งก็คือความสัมพันธ์ระหว่างลูกชายของตนกับกานต์ แต่เธอคงจะไม่เข้าไปยุ่งแล้วจากบทเรียนครั้งก่อน เธอได้เรียนรู้แล้วว่าอีกฝ่ายนั้นบอบบางมากแค่ไหน จะต้องเป็นลูกชายของเธอเท่านั้นที่เธอจะต้องพูดคุยด้วย
แสงจากพระอาทิตย์ยามสิบโมงเช้าส่องเข้ามาในตัวห้องพักฟื้น ปลุกให้เฟยตื่นจากการหลับใหล อาการเจ็บที่คงค้างอยู่และความหนักทำให้เขาพอเข้าใจได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง ชายหนุ่มลืมตาขึ้นมองเพดานสีขาวสะอาด พอกวาดตามองไปทางซ้ายนอกจากจะเห็นแขนและขาที่ใส่เฝือกอยู่แล้ว ก็พบว่าแม่ของตนนั่งอ่านหนังสืออยู่ ฉับพลันความรู้สึกกระหายน้ำก็เกิดขึ้น
“แม่ เฟยหิวน้ำ”

สิ้นเสียงเฟยเธอก็ลุกขึ้นหยิบแก้วที่มีน้ำอยู่ภายในเดินตรงมาหาลูกชายของเธอ ก่อนจะช่วยปรับเตียงให้เฟยอยู่ที่ในท่าเกือบนั่งเพื่อจะดื่มน้ำ

“เป็นไงบ้าง ยังเจ็บอยู่ไหม” ผู้เป็นแม่ถามหลังจากลูกชายของเธอดื่มน้ำเสร็จแล้ว

“เจ็บอยู่นิดๆครับ”

“งั้นแม่เรียกหมอนะ”

ไม่นานหมอก็เขามาตรวจอาการ แต่ไม่ได้มีอาการใดๆน่าเป็นห่วงเพียงแต่เป็นอาการตามปกติของผู้ที่บาดเจ็บอยู่แล้ว แพทย์ผู้ดูแลเพียงแค่ให้ยาบรรเทาอาการเพิ่มเท่านั้น

“หายซ่าเลยไหมล่ะ”

“โห แม่เฟยไม่ได้ไปซ่าที่ไหนสักหน่อย”

“แล้ว  คนอื่นล่ะแม่”

แม้คำที่พูดไปจะหมายถึงทุกๆคนโดยรวมๆแต่จริงๆแล้วเฉพาะเจาะจงไปที่กานต์

“ไหมกับป๊าจะมาตอนเย็นๆ”

“ส่วนกานต์ แม่ยังไม่เห็นเลย”

เฟยเพียงแค่พยักหน้ารับรู้

“เฟยแม่ขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”

เธอรู้ดีว่าตอนนี้อาจจะไม่เหมาะนักที่จะถาม แต่ด้วยความเป็นห่วงของตนซึ่งเป็นแม่นั้น ทำให้ไม่สามารถรอให้นานกว่านี้ได้

“ระหว่างเฟยกับกานต์”

เธอหยุดเพื่อนึกคำที่จะพูดออกมาครู่หนึ่ง

“ทะเลาะกันใช่ไหม”

“ครับ” เฟยถอนหายใจเฮือกใหญ่

ชายหนุ่มเริ่มเล่าเรื่องราวต่างๆให้กับผู้เป็นแม่ฟัง แม้ว่าจะเคยเล่าให้ฟังไปแล้วก็ตาม แต่เขาก็ยินดีที่จะทำ

                                                                              *****
ภายในห้องพักสี่เหลี่ยมแสงแดดส่องแสงผ่านม่านเข้าไปกระทบร่างบางที่นอนคู้อยู่บนเตียง เหตุการณ์ของเมื่อคืนยังชัดเจนในหัวของกานต์ เขาหลับไปได้เพียงไม่กี่ชั่วโมงก็รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา แม้จะเป็นเช้าวันจันทร์แต่เขาก็ไม่ได้ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปเรียน
กานต์รู้สึกเหนื่อยมากจนรู้สึกเพียงแค่อยากจะนอนอยู่แบบนี้ไปนานๆ เขาไม่รู้เลยว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะจบลงที่ตรงไหน
เป็นเวลาบ่ายสองโมงครึ่งแล้วตอนที่กานต์ตัดสินใจลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว ก่อนจะมุ่งหน้าไปเยี่ยมคนป่วย
“ก๊อก ก๊อก” เสียงมือของกานต์กระทบกับประตูห้องพักผู้ป่วย

กานต์เดินเข้าประตูมาก็พบกับแม่ของกานต์ที่กำลังเดินตรงมาหาเขา

“สวัสดีครับ” กานต์ยกมือไหว้

“ไหว้พระเถอะลูก”

เสียงพูดที่อ่อนโยนทำให้กานต์รู้สึกโล่งใจขึ้นมาบ้าง เพราะเขารู้สึกกังวลอย่างมากว่าครอบครัวของเฟยจะโกรธเขาที่เป็นต้นเหตุให้เฟยต้องบาดเจ็บ

กานต์สบตาเฟยที่นอนอยู่บนเตียง ชายหนุ่มส่งยิ้มกว้างให้เขาแทนคำทักทายหัวใจกลับมาสดชื่นอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายมาเยี่ยม แต่กานต์เพียงส่งยิ้มน้อยกลับมาให้เท่านั้น

แต่ก่อนที่จะมีใครพูดอะไรแม่ของเฟยก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อน

“งั้นแม่ฝากกานต์ดูเฟยก่อนนะ แม่ขอกลับไปบ้านก่อนนะ”

กานต์ตกปากรับคำอย่างเสียไม่ได้ และพอสิ้นเสียงปิดประตูความเงียบก็แผ่ลงปกคลุมทั้งคู่

“ก่อนกานต์พูดอะไร เฟยขออะไรอย่างได้ไหม” แค่เพียงมองหน้าของกานต์ก็รู้ได้ว่ายังคงรู้สึกเจ็บปวดเหมือนเดิมและคงยืนยันที่จะเดินจากตนไป 

กานต์พยักหน้าเป็นคำตอบว่าตกลง แม้จะไม่รู้ว่าสิ่งที่เฟยขอนั้นจะเป็นอะไรแต่สภาพของเขาทำให้กานต์ไม่คิดจะปฏิเสธ

“อยู่กับเฟยก่อนนะ”

เหมือนเป็นแค่เพียงคำธรรมดาทั่วไปแต่สำหรับกานต์ที่เป็นผู้ฟังแล้วมันช่างมีอิทธิพลกับเขาเสียเหลือเกิน หรือในความจริงแล้วผู้พูดต่างหากที่มีอิทธิพลกับเขา

เฟยเผ้ามองสีหน้าของกานต์ที่ดูเหมือนกำลังสับสน แววตาเป็นวาวใสเมื่อมีน้ำตาเอ่อคลออยู่ภายใน  อีกครั้งที่เขาต้องทำให้กานต์เสียใจ มันอาจจะเป็นการเห็นแก่ตัวที่ขอให้กานต์ต้องทนอยู่กับเขา แต่เขาไม่อยากให้กานต์หนีเขาไป

กานต์ค่อยๆลากเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียงผู้ป่วย

“แล้วเราจะเป็นยังไงกันต่อไป”

กานต์เอ่ยถามเพราะมองไม่เห็นหนทางข้างหน้าว่าตัวเองและเฟยจะคบกันต่อไปได้ยังไงโดยที่ตัวกานต์เองจะไม่รู้สึกเจ็บปวด

“เป็นอะไรก็ได้ตามที่กานต์อยากเป็น เฟยแค่ขอให้กานต์อยู่กับเฟยก่อน”

“มันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อเฟยไม่ได้รักเรา”

“เฟยไม่มีอะไรจะเถียงหรอก แต่เพียงแค่ขอให้กานต์อยู่กับเฟยก่อน”

“แค่ช่วงที่เฟยยังรักษาตัวก็พอ”

กานต์ไม่เข้าใจว่าตอนนี้คนตรงหน้าเขากำลังคิดอะไรอยู่ เขาไม่เข้าใจว่าคนที่ไม่เคยแสดงว่ารักกันทำไมถึงอยากจะให้เขาอยู่ต่อ

กานต์ส่ายหน้าเพราะไม่เห็นด้วยกับคำขอของเฟย

“เฟยขอให้ลืมเฟยในอดีตไปก่อนได้ไหม”

เฟยยังไม่ลดความตั้งใจที่จะยื้อกานต์ไว้ เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าสิ่งที่ทำนี้คือความรักไหม เขารู้เพียงแค่ว่าตอนนี้เวลานี้เขายังไม่พร้อมจะเสียกานต์ไป

“เป็นเพียงแค่เฟยกับกานต์ในปัจจุบัน”

“ถ้ามันง่ายเราก็จะไม่มาหาเฟยตั้งแต่แรกหรอก”

กานต์ตัดพ้อ เขาเสยผมที่ปิดหน้าของตนขึ้นก่อนจะใช้มือข้างเดียวกันท้าวหัวโดยวางข้อศอกลงบนเตียงพลางใช้ความคิด

สำหรับกานต์เพราะเจ็บปวดที่โดนหลอกจึงกลับมาหาเฟยเพื่อเอาคืน แต่ในใจลึกๆแล้วอยากทำให้เฟยหันมารักเขาจริงๆ แต่เพราะความคาดหวังในเหตุผลข้อหลังเขาจึงเจ็บปวดอย่างที่เป็นอยู่ ดังนั้นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้กานต์เจ็บปวดก็คือตัวเขาเอง

“กานต์อยากให้เฟยทำอะไรให้ เฟยยอมหมด”

“สภาพอย่างนี้เนี่ยนะ”  กานต์ขำออกมาเล็กน้อย เพราะสภาพของเฟยดูไม่สามารถทำได้อย่างที่เจ้าตัวพูดเลย

“แล้วถ้ามันไม่ดีขึ้นหละ”

“เฟยก็คงได้ใส่เฝือกอีกครั้ง” พูดจบก็หัวเราะให้กับมุกของตัวเอง

“นั่นไม่ใช่เรื่องดีเลยนะเฟย”

เฟยส่งยิ้มมาให้กานต์เพราะเขารู้สึกได้ถึงความผ่อนคลายของอีกฝ่าย แต่กานต์ไม่เข้าใจเลยว่าอีกฝ่ายยิ้มเรื่องอะไร

“ยิ้มอะไรเฟย”

“ก็นี่ไง แค่เฟยกับกานต์ในปัจจุบัน” 

กานต์ทำท่านึกเพราะยังไม่เข้าใจที่เฟยพูด

“กำลังหลอกอะไรเราอยู่เนี่ย”

“เปล่า ไม่ได้หลอกอะไรทั้งนั้น”

เหมือนมีลมพัดเอาหมู่เมฆสีหม่นออกไป เหลือแต่แสงอาทิตย์สว่างส่องอยู่ กานต์แปลกใจที่รู้สึกโล่งใจ ไม่ได้เป็นกังวลหรือรู้สึกปวดใจแต่อย่างใดต่างกับเมื่อคืนหรือแม้กระทั่งเมื่อตอนที่เปิดประตูเข้ามาเยี่ยมเฟย

 “ได้สิ”

กานต์รับปากเฟยหลังจากพอจะเข้าใจสิ่งที่เฟยขอขึ้นมาเล็กน้อย

เฟยยิ้มรับ ตาวาวเป็นประกายด้วยความดีใจที่อีกฝ่ายเริ่มเข้าใจและยอมรับคำขอ แม้ว่าจะไม่มีใครบอกได้ว่ากานต์จะอยู่กับเขาไปอีกนานเท่าไหร่และวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร แต่เขาก็ดีใจที่วันนี้กานต์ไม่เดินหนีจากเขาไป







ขอบคุณครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด