ตอนที่ 5.2การกินไอติมถ้วยเล็กๆเสียเวลาไปน้อยกว่าที่ผมคิด ตอนนี้ไอ้กิ้งมันอารมณ์ดีแล้วแต่สายยังคงจับจ้องอยู่ที่โทรศัพท์ ผมยังมีเวลาอีกหนึ่งชั่วโมงในการรอไอ้เสือเลิกเรียน เราสองคนจึงเลือกมานั่งเล่นที่ใต้ร่มไม้เพราะไอ้กิ้งมันก็รอเมฆมารับเหมือนกัน
“ศรนารายณ์ครูวานเธอหน่อยสิ” อาจารย์คนคุ้นหน้าเดินมาทางผมในมือถือกองเอกสารอยู่กองหนึ่ง ส่วนศรนารายณ์คือชื่อจริงผมเองครับ “ช่วยเอาเอกสารนี้ไปให้อาจารย์ศักดินัยที่คณะแพทยศาสตร์หน่อย”
“ครับได้ครับ” ผมตอบรับก่อนจะยื่นมือไปรับกองเอกสารมาพลางคิดในใจว่าหนักเชี้ย หมดธุระกับผมแล้วคุณท่านก็เดินไปอย่างไม่ใยดี ไอ้กิ้งที่นั่งทำตากะพริบอยู่ตั้งนานจึงพูดขึ้น
“มึงมีรถหรือ คณะแพทยศาสตร์อยู่คนละโยดเลยนะมึง”
ผมเบิกตาโพลง “เออว่ะ”
“โง่เอ๊ย”
“แล้วกูจะไปยังไงวะ”
“เดินดิสัส”
“มึงจะไปเป็นเพื่อนกูหรือ”
“เออ”
จบคำมันก็นำลิ่วๆไป ผมเดินตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ ไกลก็ไกลหนักก็หนัก กว่าจะมาถึงคณะแพทยศาสตร์งี้กูแทบจะเป็นลม ตึกสูงใหญ่กว่าตึกคณะผมถึงสองเท่าตั้งเด่นตระง่าอยู่ตรงหน้า ตัวอักษรใหญ่สีขาวเขียนเอาไว้ตัวโตว่า ‘คณะแพทยศาสตร์’ คณะรวมคนเก่งโคตรพ่อโคตรแม่ เก่งบรรลัย ไอ้กิ้งพาผมมานั่งพักใต้ตึกมันเดินไปซื้อน้ำสองขวดแล้วเผื่อแผ่มาให้ผมขวดหนึ่ง
“ร้อนเหี้ยยยยย” ผมว่าพลางเทน้ำที่เหลือใส่หน้า
“บ่นๆ เดินแค่นี้ทำเป็นสำออยกูเป็นกระเทยกูยังไม่บ่น”
“ดูหุ่นมึงด้วยดิสัส” หุ่นไอ้กิ้งเหมือนผู้ชายทั่วไปออกจะใหญ่กว่าด้วยซ้ำ
“ย่ะ!” มันสะบัดหน้าหนีทำงอน เหอะๆ กูไม่ง้อมึงหรอก ผมนั่งพักอยู่ประมาณสิบนาทีจึงลุกขึ้น แต่ปัญหาก็เกิดอีกครั้งเพราะดันเสือกไม่รู้ว่าอาจารย์ศักดินัยอะไรนี้สอนอยู่ที่ไหน ข้อมูลที่ได้มาก็มีแค่คณะแพทยศาสตร์นี้หว่า ผมนั่งเกาหัวแกรกๆมองหน้าไอ้กิ้งมันเดิม มันกระฟัดกระเฟียดกำลังจะบ่นก็มีเสียงทุ้มขัดขึ้นมาก่อน
“อ้าวธาม…” บุรุษปริศนาผู้นี้คือเพื่อนร่วมห้องสมัยมัธยมของผมเอง “มาได้ไงวะ” ร่างสูงถาม มันชื่อธัญ ผมจำมันได้เพราะเคยอาศัยการบ้านยามเช้าของมันมาคอปปี้อยู่หลายครั้งหลายครา ประเด็นคือมันเก่งแถมหล่อด้วยแหละ
“เอาเอกสารมาให้อาจารย์ศักดินัย”
ไอ้ธัญพยักหน้ารับรู้
“แต่คือกูไม่รู้ว่าอาจารย์เขาสอนห้องไหนไง”
“อ๋อ” มันลากเสียงยาว “มาดิเดี๋ยวกูพาไป”
ผมหอบเอกสารยื่นหันอีกครั้ง หันหน้าไปมองไอ้กิ้งประมาณว่ามึงจะไปด้วยไหม แต่ไอ้กิ้งกลับส่ายหน้ารัวๆ ผมพยักหน้ารับไม่ว่าอะไรต่อ
“เป็นไงบ้างวะไม่เจอกันนาน”
“ก็ดี ปีหนึ่งมันไม่ค่อยมีอะไรมาก โคตรว่างอ่ะมึง” ไอ้ธัญตอบส่วนผมขมวดคิ้วสงสัยทันที
“อ้าว เรียนแพทยศาสตร์ไม่หนักหรือวะ”
“ก็หนักแต่ไม่มากเพราะอยู่ปีหนึ่งไง หนักสุดช่วงพี่ปี 3 ขึ้นไปนู้น”
“ทีไอ้เสือมันเรียนมันยังเหมือนชิวๆอยู่เลย” ประโยคนี้ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ แต่สงสัยไอ้คนที่เดินข้างๆมันจะหูดี ไอ้ธัญหันหน้ามามองผมแบบแปลกๆ คล้ายคนกำลังสงสัยอะไรบางอย่าง
“กูว่าจะถามมานานแล้ว…”
“หือม์”
“มึงกับพี่เสือ”
“…”
“คบกันหรือวะ ?” …
จบประโยค บริเวณนั้นก็เหมือนจะเงียบลงแบบดื้อๆ ไอ้ธัญมันหยุดเดินแล้วหันหน้ามามองผมแบบจริงจัง ผมก้มหน้าลง รู้สึกถึงแรงสั่นของไหล่ตัวเองก่อนจะ
“ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
ขำกลิ้ง ขำจนจุกที่ท้องไปหมด ไอ้ธัญหน้าเสียมันเกาหัวตัวเอง ทำหน้าไม่เข้าใจอย่างรุนแรง
“ขำเหี้ยไรวะ มึงตอบกูมาก่อนดิ”
“ป…เปล่า” ผมหายใจแรง ยกมือเบรกเพราะจุกที่ท้อง ยืนขึ้นแล้วเงยหน้าถามมันกลับ
“มึงรู้ไหมว่าวันนี้มีคนถามประโยคนี้กับกูมาหนึ่งคนแล้ว มึงเป็นคนที่สอง”
“กูจะรู้ไหม มึงตอบกูมาดิ”
“กะ… ก็เปล่ายังไม่ได้คบกันหรอก” ผมบอกไปตามความจริง “แต่ก็ไม่แน่นะ”
“สรุปยังไงวะ”
“ก็ยังไม่ได้คบกันไง”
“เฮ้ย! แต่ที่คณะกูพี่เขาทำท่าหวงมึงมากเลยนะเว้ย”
ผมขมวดคิ้วยืนงง “ยังไงอ่ะ”
“ก็แบบ…”
“ตี้” ไอ้ธัญยังพูดไม่จบเสียงมันก็โดนขัดขึ้นมาอีก สรรพนามตี้ที่ใช้เรียกผมก็คงจะมีคนเดียว ไอ้เสือนั้นแหละครับ ใบหน้าหล่อเหลานิ่งเงียบ ในมือมันถือหนังสืออยู่คาดว่าพึ่งจะเลิกพอดี มือหนามาฉุดแขนผมไปอยู่ข้างมันแล้วเอ่ยเสียงเรียบ “ทำไมมาที่นี้”
“อ๋อ เอาเอกสารมันให้อาจารย์ศักดินัย”
มันปรายตามองแล้วฉกฉวยเอาเอกสารกองใหญ่ไปใส่ไว้ในมือของไอ้ธัญที่ยังทำหน้างง “กูฝาก” มันว่า
ไอ้ธัญพยักหน้ารับบอกครับๆก่อนจะเดินหลีกออกไปทันที ผมชะโงกหน้ามองตามหลังมันจนสุดสายตาก่อนจะโดนมือหนาบีบปลายคางให้กลับมามองหน้าไอ้เสือ “เจ็บเสือเจ็บ”
“เลิกนานแล้วหรือ ทำไมไม่โทรบอก”
“นานแล้ว 2 ชั่วโมงก่อน กูกลัวมึงเรียนอยู่ไง”
“กูจะให้คนไปรับมึงแทน”
“ยุ่งยากเปล่าๆน่า” ผมเบะปากจะประคบประงมอะไรนักหนาแค่นี้ก็สบายจนไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว “หิว วันนี้กินข้าวนอกบ้านนะ ไปกินอาหารญี่ปุ่นกัน”
เสือไม่พูดแต่พยักหน้าเป็นการตอบรับ มันก้มลงจูบหน้าผากผมทีหนึ่ง
“พอมีเมียนี้อ่อนโยนขึ้นเยอะเลยนะมึง” เสียงแหลมๆดังขึ้นผมผลักไอ้เสือออกทันที เจ้าของเสียงเป็นผู้ชายรูปร่างสูง ใบหน้าหล่อเหลาแบบอันตราย ดิบๆเถื่อนๆทำให้ใจสั่นหวั่นผวาชอบกล ด้านหลังมีพี่พังค์ยืนอยู่
“สวัสดีครับ” ผมไหว้พี่เขาแทบไม่ทัน คาดว่าพี่คนนี้คงจะเป็นพี่บอลหนึ่งในแก็งของเสือ
“หวัดดีไอ้น้อง” พี่บอลรับไหว้ถือวิสาสะพาดแขนลงบนไหล่แล้วดึงตัวผมให้ไปใกล้พี่เขาด้วย ไอ้เสือทำหน้าไม่พอใจแต่ไม่พูดอะไรตามสไตล์มัน เห็นดังนั้นคราวนี้พี่เขาจึงเลื่อนมือลงไปที่เอวผมแล้วตะโกนเสียงดัง “เชี้ย! หุ่นโคตรเอ็กซ์เลยสัส”
…ไอ้เสือจับผมออกมาแทบไม่ทัน “โอ๊ะโอ ห่วงขนาดนี้เลยหรือวะ คู่ควงมันก่อนมึงยังให้กูใช้ด้วยอยู่เลย”
คราวนี้เป็นผมที่ส่งสายตาไปมองมันแบบดุๆ หมายความว่ายังไงห้ะเสือ!!!!
“พวกมึงสองคนพอเลย น้องธามกูโกรธแล้วเห็นไหม” พี่พังค์เป็นคนหยุดสถานการณ์ มือหนาลากผมออกมาจากตรงกลางไอ้เสือและพี่บอล
“นั้นแค่คู่ควง” เสือเริ่มพูดต่อ
“แล้วนี้แค่อะไร” พี่บอลชี้นิ้วมาทางผม
“อันนี้เมีย”
ไอ้เสือตอบด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง บรรยากาศเงียบไป พี่แกทำหน้าตกใจอยู่นานแล้วร้องขึ้น “เหยด ท่าจะจริงจังจริงๆวะคนนี้”
“เออ”
…เชี่ย กูเขิน ผมเม้มปากพยายามยิ้มในใจแต่เหมือนจะปกปิดเอาไว้ไม่อยู่ “ยิ้มเลยน้องกู”
“มานี้มะ” ไอ้เสือกวักมือเรียกผมเข้าไปหาแล้วรวบตัวผมเข้าไปกอดแน่นๆ มันเลียที่ติ่งหูผมเบาๆแต่เสียววาบลงไปถึงไข่ เราสองคนบอกลาพี่บอลและพี่พังค์ (เอาจริงๆผมเป็นคนพูดเสือมันเงียบ) แล้วขอแยกตัวออกมาก่อนเพราะกะเพราะน้อยๆของผมเริ่มดังโครกครากไม่หยุด คือหิวไง
เห็นดังนั้นเสือมันเลยเบิ่งรถออกจากมหา’ลัยถึงห้างสรรพค้าชื่อดังโดยใช้เวลาเพียงสิบนาที ตอนแรกผมว่าจะทานอาหารญี่ปุ่นแต่คิดไปคิดมาแล้วไม่ดีกว่า เลยเดินจูงมือมันมองหาร้านน่ากินในห้างไปเรื่อยๆก่อนจะสะดุดตาเข้ากับคาเฟ่บรรยากาศน่ารักๆร้านหนึ่ง อารมณ์อยากกินของหวานก็พุ่งพรวดขึ้นมาทันที ทั้งๆที่พึ่งกินไปหยกๆกับไอ้กิ้ง ผมจะจูงมือเสือเดินไปแต่มันมองผมตาขวางประมาณว่า ‘ห้ามไปนะมึง’
“อยากกินอ่ะ” ผมมองมันตาแป๋วหวังว่ามันจะใจอ่อนลงบ้าง
“กินข้าวก่อน แล้วค่อยกินของหวาน”
“แต่ว่า…”
กูอยากกินของหวานก่อนนี่
“ท้องร้องเสียงดังแล้ว”
ผมเบะปากพยักหน้าตกลงขี้เกียจเถียง ก่อนจะโดนลากไปยังร้านสเต็กซ์ราคาแพงหูฉี่ร้านหนึ่ง มองราคาบนรายการอาหารกูก็แดกไม่ลงแล้ว เสือเลิกคิ้วเห็นผมไม่สั่งมันเลยจัดการสั่งให้ซะเลย พออาหารมาปุ๊บผมนี้ก็รีบสวาปามให้หมดทันที (อยากไปคาเฟ่มาก) ไอ้เสือมันเหลือบมองแล้วหัวเราะเบาๆในลำคอเหมือนกลัวผมได้ยิน แต่ขอโทษเถอะ แหม… คิดว่าไม่เห็นหรือไง!!
“เสือเร็ว”
“อยากขนาดนั้น”
“มาก”
“งั้นไปก่อนไป”
ผมยังไม่ได้ตอบเท้าก็ใช้สกิลโก่ยสุดตีนมายังร้านจุดหมาย สองมือผลักประตูบ้านเล็กเสียงดังกรุ๊งกริ๊ง พี่พนักงานผู้ชายหน้าตาดีคนหนึ่งเดินมาต้อนรับ ผมชูสองนิ้วเป็นอันเข้าใจว่าสองที่นั่ง ร่างสูงผายมือไปยังมุมเล็กแต่เป็นส่วนตัว เรียบง่ายและดูคลาสสิกดี ผมยิ้มรับเดินไปวางของไว้บนโต๊ะแล้วไปสั่งเค้กที่หน้าเคาน์เตอร์แทนที่จะให้พนักงานมาบริการ สาเหตุคือกูอยากกินมากเลยตอนนี้ ผมยืนจิ้มรายการชนิดที่ว่าพนักงานเขียนไม่ทัน ไม่สนด้วยว่าราคาเท่านั้นเพราะไม่ได้จ่ายเอง (ว่ะฮะฮะ) ไม่ลืมสั่งน้ำเพื่อไอ้เสือด้วยคิดว่ามันคงไม่กินเค้กแน่ๆ
พอพี่หน้าเคาน์เตอร์ทวนรายการที่สั่ง ร่างสูงก็เปิดประตูร้านเข้ามาพอดี ออร่าความหล่อก็มันพุ่งกระจายจนคนทั้งร้านหันไปมองมันประหนึ่งเป็นจุดรวมสายตา ผมเห็นผู้หญิงหลายคนแอบกรี๊ดเบาๆส่วนผู้ชายก็ทำหน้าหมั่นไส้ใส่ เสือมันไม่สนใจตรงเดินดิ่งมาทางผม ก้มลงมองบิลแล้วเลิกคิ้วขึ้นคล้ายแปลกใจ
“กินหมด ?”
ไม่แปลกที่จะถาม เพราะผมสั่งแบบเหมาทุกเมนูของทั้งร้าน
“ไม่หมดก็ห่อไง”
“หึ!” มือหนามาขยี้ผมของผมไปมาก่อนจะรวบเอวเดินไปรอเค้กที่ที่นั่ง เสือมันให้ผมนั่งอยู่ข้างเดียวกับมันแถมยังเบียดเข้ามาจนผมจะไปนั่งเกยบนตักแกร่งนั้นอยู่ละ ผมหยิกที่แขนมันไปแรงๆทีหนึ่งแต่กลับไม่สะทกสะท้าน ผมรอเค้กอยู่นานเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรทำจึงหยิบโทรศัพท์หรูขึ้นมาเล่นเกมเพื่อฆ่าเวลา แต่โทษเกมที่มันมันส์ไปหน่อย พอเค้กมาแล้วผมก็เมินเฉยต่อมันไปทันทีเพราะติดทำภารกิจในเกมอยู่
“สั่งมาทำไมไม่กิน”
“ติดภารกิจอยู่ เสือป้อนหน่อย”
ปากว่าตาจ้องอยู่ที่โทรศัพท์ เสือมันก็ไม่ว่าอะไรมือหนายกถ้วยเค้กขึ้นมาตักพอดีคำแล้วจ่อปากผม ผมอ้าปากรับทันที รสชาติหวานละมุนติดปลายลิ้นมีกลิ่นใบเตยอ่อนๆ คาดว่าจะเป็นเค้กใบเตยละมั้ง เล่นไปกินไปจนภารกิจสำเร็จลุล่วงผมจึงกดออกจากแอพ เอนหัวซบไหล่กว้างกดเข้าแอพอื่นเล่นไปเรื่อยๆ
“อือ อิ่มแล้ว”
“เอาอันนี้ให้หมด จะหมดแล้ว”
“อือไม่ อิ่มแล้ว”
ผมส่ายหน้าตายังมองโทรศัพท์แต่ที่บอกว่าอิ่มคือเรื่องจริงนะครับ เสือละความพยายามที่จะบังคับให้ผมกินต่อ มันถามว่าอิ่มแล้วหรือยังเมื่อผมพยักหน้าไม่พูดอะไรจึงเดินไปจ่ายที่เคาน์เตอร์พร้อมบอกให้เขาห่อกลับบ้านให้หน่อย ผมชะโงกคอมองรู้สึกปวดฉี่หน่อยๆ
“เสือ ไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ”
“ครับ”
ได้รับการอนุญาตแล้วจึงเดินออกจากร้าน แต่มือยังเล่นโทรศัพท์เหมือนเดิม เหลือบมองทางกันไม่ให้ชนคนอื่นจนมาถึงห้องน้ำ แล้ว…
ตุบ!
“โอ๊ย ขอโทษครับ” ผมร้องเจ็บและก้มหัวขอโทษเล็กน้อยเมื่อดันเดินไปชนคนอื่นจนได้ ผมก้มจนรู้สึกว่าเขาเดินผ่านไปแล้วจึงค่อยผงกหน้าขึ้นมา ทันใดนั้นความรู้สึกคุ้นเหมือนเคยเจอกันที่ไหนก็ประดังเข้ามาจนผมต้องเหลียวหลังกลับไปมองดู
เขาเป็นผู้ชายร่างสูง ใส่เสื้อแจ็กเกต กางเกงยีนส์ รูปร่างดีแค่มองด้านหลังยังรู้เลยว่าด้านหน้าต้องหล่อ
แต่ว่า… แผ่นหลังแบบนั้น
เหมือนไอ้เสือชะมัดเลย “ตี้”
“…”
“ตี้”
“…”
“ตี้ครับ”
“อ๊ะ” ผมสะดุ้งเฮือกจากแรงกอด กระพริบตาแล้วหมุนหน้าไปมองใบหน้าหล่อเหลาที่ห่างกันแค่คืบ
“เหม่ออะไร”
“อ๋อ ป…เปล่า” ผมตอบด้วยรอยยิ้ม ตอนนี้เราออกจากห้างมาถึงคอนโดแล้วครับแต่ผมก็ยังไม่หายสงสัยอยู่ดีอ่ะ
“อาบน้ำได้แล้ว” เสือว่า “ดึกแล้ว”
“อือ” ผมพยักหน้า ถอนหายใจแล้วเดินเข้าไปเพื่อไปอาบน้ำแต่โดนจับตัวเอาไว้ก่อน “ปล่อยดิ”
ร่างสูงไม่ตอบ ลิ้นร้อนก้มเลียไปตามคอจนผมหน้าร้อนวูบวาบ
“วันนี้ขอนะ…”
“ไม่!”ผมปฏิเสธอย่างรู้ทัน “หลายวันแล้ว วันนี้งด ง่วงมาก”
“นิดเดียว”
“คราวก่อนก็ว่าแบบนี้” แล้วมึงก็ล่อไปห้าครั้งไง “ไม่เอา งดนะ”
เสือถอนหายใจ มันกัดปากเหมือนอดทนพูด “ครับ ก็ได้”
ผมหัวเราะหึในลำคอก่อนจะเดินจากมันมาอาบน้ำ น้ำเย็นๆช่วยคลายความขี้สงสัยของผมไปพักหนึ่ง ก่อนจะรีบอาบน้ำใส่เสื้อผ้าให้เสร็จเพราะไอ้เสือตะโกนเข้ามาว่ารีบอาบเดี๋ยวเป็นหวัด หลังจากนั้นผมก็นอนเล่นโทรศัพท์ รอเสือมันอาบน้ำเสร็จจะได้นอนพร้อมกัน จนมือนานปิดไฟแล้วผลักผมให้นอนลงไปกับเตียง
“นอนได้แล้ว ดึกแล้ว”
มันผลักผมลงแต่ตัวเองเอาหัวพิงผนังจะสูบบุหรี่อีกแล้ว
ผมบรือตาที่ว่าง่วงนะคือความจริง
“เสือ”
“หือม์”
“ที่ห้าง วันนี้มึงได้ไปเข้าห้องน้ำหรือเปล่า” ยังไงก็คงไม่ใช่แต่ขอให้กูได้ถามเถอะ
ถึงจะมืดแต่ผมเห็นคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันแบบมัวๆเพราะตากำลังจะปิดแล้ว
“ไม่นี่”
“หรือ”
“…”
“วันนี้กูเห็นคนที่เหมือนมึงมากเลย”
“…”
“แค่มองด้านหลังเองนะ แต่โคตรเหมือน”
“…”
“ไม่ใช่ก็ดีแล้ว”
ผมว่าก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราไป
ตี้หลับไปแล้ว
นัยน์ตาสีครามเข้มมองร่างเล็กในความมืด มือหนาจับผ้าห่มขึ้นมาห่มให้เข้าที่ ก่อนจะสูบบุหรี่ต่อพลางใช้ความคิดกับตนเองอย่างหนักมากกว่าทุกที
กลับมาแล้วสินะ
คนๆนั้น จบ.*****************
บทนี้ไม่มีอะไรจะพูดแฮะเอาเป็นว่าแล้วเจอกันตอนใหม่ค่ะ

แฟนคลับในเด็กดีครบ 1,000 คอมเม้นท์ในเล้าครบ 600
อยากได้ตอนพิเศษกันไหมคะ ? ช่วยตอบด้วยนะ ขอบคุณค่ะ