ตอนที่ 17 นะครับ
“พอๆ พอแล้วเสือกูลงโทษมึงไม่ไหวแล้ว” ผมว่าขณะผลักร่างสูงที่กำลังคร่อมผมอยู่ออก ทว่าเสือไม่ยอมใบหน้าหล่อเหลายังเข้ามาฉกริมฝีปากไปดูดเม้มแรงๆพร้อมมือหนาที่กำลังไล่แตะไปตามแผ่นหลัง ทิ้งสัมผัสร้อนชวนให้อารมณ์ร้อนวูบวาบตามไปด้วย แต่ขอโทษทีผมร้อนจนไม่คิดอยากจะร้อนเป็นครั้งต่อไปแล้ว!!
ไปว่าจะลงโทษเขาแต่สุดท้ายก็เหมือนโดนเขาลงโทษอยู่ดี!!!
แต่เอาเถอะผมถือว่ารถราคาร้อยกว่าล้านที่เสือพึ่งซื้อให้นั้นเป็นบทลงโทษสำหรับเขาก็แล้วกัน
ทว่ามันไม่ยอมหยุด ในจังหวะที่ผมเผลอ เขาก็สอดแก่นกายเข้ามาใหม่ จนในที่สุดก็โดนผมด่าไปรอบหนึ่งเสือถึงหยุดก่อนทิ้งตัวลงนอนกอดข้างๆ หลับตาใกล้จะหลับแต่นึกอะไรได้ก่อนเลยยกมือควาญหาโทรศัพท์
“ไม่นอน” เสือพูดเสียงเบา เหมือนเขาก็เหนื่อยเหมือนกัน เหนื่อยแต่ยังหื่นจะเอาต่อ “รีบนอนครับ”
ผมกดเข้าคลิปเสียงที่อัดไว้เมื่อวานแล้ว…
“ฟัง” ผมบอกเสือแล้วกดเริ่มคลิป เสียงแหลมๆดังออกมาทันที
‘โชคร้ายที่วันนั้นมีพวกวิศวะอยู่ด้วย พวกฉันเลยวางยาพี่เสือไม่ได้ผล แต่เหมือนสวรรค์เข้าข้างเพราะเพื่อนในกลุ่มที่ไม่ได้อยู่ในงานด้วยดันเจอช้อตเด็ดตอนที่แกกำลังจูบกับสิงห์น้องชายพี่เสือพอดี ก็อย่างว่าทำเลวมันก็ต้องได้รับผลกรรมโดนการถ่ายคลิปประจานความเลวของมันเอาไว้ พี่เสือจะได้เห็นสักทีว่าเมียแสนรักน่ะร่านแค่ไหน’
‘อีดอกทอง’ (อันนี้เสียงกิ้ง)
‘แต่น่าเสียดายแฮะ ที่พี่เสือสั่งลบคลิปไปก่อนไม่งั้นคงจะมีคนเกลียดแกทั้งมหา’ลัยไปแล้ว’
‘แต่ก็เอาเถอะ สักวันพี่เสือก็คงเฉดหัวแกทิ้งอยู่ดีนั้นแหละ’
ถึงตอนนั้นผมกดปิด…
“ผู้หญิงไม่กี่กลุ่มกำลังทำให้กูเกลียดผู้หญิงเกือบทั้งโลก” เสียงทุ้มว่าขณะกำลังคลอเคลียร์อยู่ที่ซอกคอผม
“อย่าไปทำร้ายเขาอีกละ วางยาไม่ค่อยเท่าไหร่ ส่วนถ่ายคลิปก็… โชคดีที่ลบทันล่ะมั้ง”
“ถ้าลบไม่ทันละ”
เขาสวนกลับ
“…”
“ถ้าลบไม่ทันจะเป็นยังไง”
“…”
“ตี้” มือหนาจับหน้าผากเข้าแนบกันจนสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากลมหายใจ “กูบอกก่อนว่ากูไม่ใช่คนดี”
“…”
“ไม่ใช่เทวดา”
“…”
“แต่เป็นปีศาจ”
“…”
“ของที่กูรัก”
“…”
“กูมักหวงมัน หวงมันจนจะบ้าตาย หึงจนอยากขังเอาไว้ในห้อง แต่ก็รักเกินกว่าจะทำลายอิสรภาพของมัน ดังนั้นพวกที่มาทำลายของที่กูรักมันจึงมักไม่เหลืออะไรเลยเหมือนกัน”
ผมกลืนน้ำลายอึก ก่อนจะถามคำถามหนึ่งออกไป ไม่รู้ทำไมผมถึงได้ถามคำถามนี้ออกไป คงแค่อยากรู้ล่ะมั้ง
“แล้วถ้าของที่รักมันมีเจ้าของอยู่แล้วล่ะ”
นัยน์ตาคมสบตาผมนิ่งงัน
“กูรักไม่ง่ายหรอก”
“…” ผมเม้มปาก
“แต่ถ้ารักสิ่งของที่มันมีเจ้าของขึ้นมา ก็จะทำทุกอย่างให้มันกลายมาเป็นของตัวเอง”
“…”
“ก็บอกแล้วไง…”
“…”
“กูไม่ใช่คนดี”
“…”
“เข้าใจไหมเมีย”
“…”
“เมีย” นัยน์ตาคมหลุบมองใบหน้าหวานก่อนจะพบว่าหลับไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เสือก้มจูบหน้าผากกอดเอวบางให้แน่นกว่าเดิมก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูกดส่งคลิปเสียงเข้าสู่เครื่องตนพอเสร็จเรียบร้อยจึงวางเอาไว้ที่เดิม
ขณะนัยน์ตาสีครามเข้มฉายแววกังวลเด่นชัดเจนเมื่อนึกย้อนไปถึงคำถาม “ถามอย่างกับว่ารู้อะไรมาเลย”
“…”
ริมฝีปากร้อนกดจูบเบาๆที่ปากของอีกฝ่าย
“รู้แค่ว่ารักก็พอ”
บอกเอาไว้แค่นั้นก่อนจะเข้าสู่ห้วงนิทราตามกันไป…
ผมฝัน
ฝันถึงเด็กผู้ชายสองคนหรือหนึ่งคนไม่แน่ใจ
แต่พอตื่นขึ้นมาก็จำเรื่องราวที่ฝันไม่ได้แล้ว และไม่มีเวลามานั่งเล่าความทรงจำน้อยนิดที่จำได้จากความฝันด้วย เพราะว่า…
กูสายแล้ว!!!!!!!!!!!!!!!!
“อ้ากกกกกกกกกกกกก!!!!!!!” ผมกรีดร้องขณะหยิบผ้าขนหนูวิ่งเข้าห้องน้ำสายตาเหล่มองนาฬิกาที่บอกเวลาแปดโมงกว่าๆ แถมวันนี้ผมยังมีสอบตอนเก้าโมงด้วย ใช้เวลาอาบน้ำไม่เกินสิบนาทีก็รีบวิ่งออกมา เหมือนผัวสุดที่รักจะรู้ใจเพราะพอวิ่งออกมาปุ๊บก็เจอชุดนักศึกษาถูกรีดวางไว้ให้บนเตียงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ผมรีบแต่งตัวพรมน้ำหอมเล็กน้อยก่อนวิ่งไปเก็บชีทที่ยังอยู่ในห้องทำงานใส่กระเป๋า พอวิ่งกลับมาอีกทีก็เจอร่างสูงที่กำลังใส่นาฬิกาเรือนหรูในชุดนักศึกษาเสื้อยังติดกระดุมไม่เสร็จ เนคไทสีดำหลุดลุ่ยกับเส้นผมชื้นเปียกน้ำที่บ่งว่าเขาพึ่งอาบน้ำมาเหมือนกัน นัยน์ตาคมมองมาทางผมแล้วบอก
“เดี๋ยวไปส่ง” ได้ยินแค่นั้นผมก็รีบวิ่งไปเก็บของที่เหลือต่อ เมื่อเรียบร้อยทุกอย่างพวกเราทั้งสองคนจึงลงมาจากลิฟต์ไปขึ้นรถ รถของวันนี้เป็นบูกัตติสีควันบุหรี่เลือกคันนี้เพราะมันเร็วสุดส่วนหน้าที่ที่เหลือผมให้เป็นของเสือแล้วกันครับ ในระหว่างที่ร่างสูงกำลังขับรถด้วยความเร็วสูง (เพื่อให้ผมทันสอบ) ผมก็อ่านชีทรอเมื่อวานอ่านแล้วหลับความรู้อะไรไม่เข้าสมองแถมวันนี้ยังตื่นสายอีก เวรกรรมจริงๆเลยกู
ผมตั้งสติก่อนรีดเค้นตัวอักษรในชีทเข้าสมอง สักพักเหมือนรู้สึกว่าโลกมันหมุนแถมได้ยินเสียงเอี๊ยดอ๊าดจากล้อรถคล้ายกำลังดริฟดังเข้ามารบกวนแต่ไม่นานนักมันก็หยุดไปพร้อมกับเสียงทุ้มที่ดังขึ้น
“ตี้ถึงแล้ว”
เอ๊ะ!! ถึง ?
ผมสะดุ้งพอมองออกไปก็พบว่าเป็นตึกคณะของผมจริงด้วย
ตั้งแต่เมื่อไหร่วะ ? ผมทำหน้างุนงงแต่พอสายตาเหลือบไปมองเวลาความงุนงงมันเลยเปลี่ยนมาเป็นคนรีบเร่งแทน ผมคว้าใบหน้าหล่อเหลาเข้ามาจูบก่อนรีบวิ่งออกไปแต่มิวายต้องหันหลังไปมองเห็นมือหนายกขึ้นทำเป็นรูปโทรศัพท์ในขณะที่ผมพยักหน้าเข้าใจ เพราะสัญลักษณ์แบบนั้นมันหมายความว่า
‘เลิกเรียนแล้วโทรมานะครับ’
“ทำได้ป่ะมึง” เสียงแหลมๆของกิ้งดังอยู่ข้างๆ ผมส่ายหน้า
“ทำไม่ได้เลยวะ กูไม่ผ่านชัวร์”
“แล้วเมื่อวานเอาเวลาไปทำอะไรอยู่ค่ะ”
“ก็อ่านหนังสือแล้วมันหลับนี้หว่า”
ผมว่าก่อนจะได้ฟังกิ้งมันบ่นเลยตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์โทรที่คุ้นตา ไม่นานนักปลายสายก็รับ
(เลิกแล้วเหรอ)
“อือ” ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเหมือนเป็นเสียงเสียดสีของรองเท้ากับพื้น “อยู่ไหน”
“โรงยิม—”
เชี่ย เสือมึงแม่งเก่งสัส!! ชูตเข้าอีกละ
ผมขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเสียงแทรกเข้ามา “เล่นบาสอยู่เหรอ”
(อือ)
“อยู่โรงยิมเดิมหรือเปล่า” โรงยิมเดิมที่ว่าคือโรงยิมที่เสือแข่งคราวก่อน
(อือ)
“งั้นรออยู่นั้นแหละเดี๋ยวไปหา”
ว่าจบผมก็กดตัดสายทันทีก่อนจะบอกลากิ้งแล้วเดินแยกออกมา เปลี่ยวใจนิดหน่อยเพราะช่วงนี้ไม่ค่อยได้อยู่กับมันเลย โรงยิมอยู่ไม่ไกลเพราะฉะนั้นผมเดินแปปเดียวก็มาถึงแล้วครับ เสียงเอี๊ยดอ๊าดจากการเสียดสีของรองเท้าดังมาให้ได้ยินเป็นอันดับแรก รองลงมาคือเมื่อสายตาเหลือบร่างสูงสองคนกำลังไล่แย่งลูกบาสกันพอดี ผมละสายตาออกแล้วมองรอบๆ คราวนี้มีผู้ชมไม่มากมีเพียงผู้หญิงสามสี่กลุ่มที่กำลังนั่งเม้าท์กันอยู่ตามมุมอัฒจันทร์ เหมือนพวกเขาจะมาเล่นๆกันมากกว่ามาแข่งจริงจัง สังเกตได้จากชุด เสือไม่ได้เปลี่ยนชุดยังอยู่ในชุดนักศึกษาเสื้อออกนอกกางเกงผิดระเบียบพร้อมด้วยเหงื่อชุ่มเต็มแผ่นหลังกว้าง
ผมนั่งเล่นโทรศัพท์รอที่อัฒจันทร์ ไม่นานนักร่างสูงของเสือก็เดินเข้ามาหาขณะกำลังเอาน้ำเทราดหัวตัวเองไปด้วย สงสัยจะร้อนเพราะปกติก็เป็นคนขี้ร้อนอยู่แล้ว ทันที่ที่เขามาถึงจุดที่มือผมยื่นเข้าหาได้ ผมก็โฉบเข้ากอดในขณะที่นั่งทันทีแนบใบหน้ากับเสื้อเชิ้ตสีขาวเปียกชื้นที่บางจนเห็นรอยสักตรงบริเวณท้องน้อย สูดกลิ่นเหงื่อที่ยังมีกลิ่นน้ำหอมกลิ่นอ่อนๆปนอยู่ มือหนาลูบศีรษะผมเบาๆ “ทำข้อสอบได้ไหม”
“ทำไม่ได้เลยอ่ะ ไม่จบแน่เลย” ผมถอนหายใจ “มันมีงานอะไรที่ไม่เอาใบปริญญา แต่ได้เงินเดือนดีๆแบบสบายๆบ้างไหมอ่ะเสือ”
“มี”
ผมเบิกตากว้างรีบเขย่าแขนแกร่งทันที “งานอะไร!!”
“หมั้นกับกูสิ”
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ผมชะงักค้างรีบถามคำถามขอทวนอีกครั้ง
“มึงว่าไงนะ”
“หมั้นกับกู” เสือยังยืนยันคำตอบเดิม “กูให้บัตรทองอยากรูดเท่าไหนก็รูดไป สินสอดพันล้าน ไม่รวมเครื่องเพชร โฉนดที่ดินและคฤหาสน์อีกหลายสิบหลัง”
“…”
“เงินพินัยกรรมที่ปู่ทิ้งไว้ให้กับค่าประกันชีวิตถ้ากูเสีย”
“…”
“เมีย” เขาดึงผมให้ยืนขึ้นแล้วกอดแน่นๆจนร่างกายแนบชิดกัน ผมสัมผัสได้ถึงลมหายใจ กลิ่นเหงื่ออ่อนๆและเสียงกระซิบแหบพร่าที่ข้างหู “หมั้นกับพี่นะครับ”
!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
[40%]
ตอนนี้สับสนอลเวงสุดๆแต่ที่แน่ๆธามโดนขอหมั้นแล้วจ้า
ระดับเสือจะขอหมั้นทั้งที นางต้องเตรียมอะไรไว้บ้างแล้วแหละ 5555555
มาดูว่าตี้จะตอบว่าอะไร