เมื่อวานไม่ได้มาลงไม่รู้จะมีใครคิดถึงรึปล่าว
เมื่อวานคนเขียนเจ็บหัวใจ สามีบอกจะพาไปช็อปปิ้ง อุตส่าดีใจ ที่ไหนได้โดนนางหลอกไปขึ้นเขียงให้หมอทำฟัน เจ็บใจนักแล
พรุ่งนี้คนเขียนก็ขอหยุดอีหนึ่งวัน สามีบอกจะพาไปช็อปปิ้งอีกแหละพรุ่งนี้นางหยุดอีกล่ะคร้าา แต่วันนี้นางทำโอเลยมีโอกาสเอาตอนนี้มาลง ไม่รุ้ว่าพรุ่งนี้นางจะหลอกไปขึ้นเขียงอีกรึป่าว เจ็บใจมาก
แต่ก็ขอกรี๊ดแปร๊บ ตอนที่แล้วคนดู 16900 ตอนนนี้ 20300 เป็น3400คนเลยนะคร้าาาาา แทบเป็นลมเลยคร่าา
ตอนที่ 13 นิสัยไม่ไดี(รึป่าว)
“คุณอย่าลืมเอารถเข็นขึ้นรถไปด้วยล่ะ”กุ้ยช่ายสั่ง มือก็กำลังสารวนล็อกเข็มขัดให้กับอันเดรสและตั้งโอ๋ที่นั่งเบาะเสริมสำหรับเด็กอยู่เบาะหลัง
พอเสร็จกับเด็กๆกุ้ยช่ายจึงหันไปหาคนขับกิติมาศักดิ์ ถึงได้รู้ว่าพ่อตัวดีกำลังทำปากขมุมขมิบบ่นอยู่เบาๆ แต่ทำไงได้ กุ้ยช่ายได้แต่ส่ายหัวแล้วไปนั่งประจำอยู่ข้างคนขับ
มาถึงบริษัท กุ้ยช่ายก็รู้สึกว่ามีแต่คนจับจ้องมองมาทางตัวเอง แต่พิจารณาแล้วคงเป็นจ้องมองพ่อตัวดีที่กำลังเข็นรถเข็นเด็กอยู่รึป่าว กุ้ยช่ายได้แต่มองตามเจ้าของแผ่นหลังกว้าง แล้วเดินตามเข้าไปในลิฟอย่างเงียบๆ
ปกติก็ถูกมองบ่อยอยู่แล้วในถานะเป็นประธานบริษัทแถมยังหล่อเหลาเอาการ แต่วันนี้แปลกออกไปเมื่อท่านประทานของบรรดาพนักงานเข็นรถเข็นเด็กมาด้วย
“ทำอย่างกับไม่เคยเห็นคนหล่อ”มาตินพูดยักคิ้วให้กุ้ยช่ายที่ยืนข้างๆในลิฟ
“ประสาท”กุ้ยช่ายบ่นเบาๆ
“คุณยุงฮับ ออฟฟิตคุณยุงมีขนมยึป่าว”ตั้งโอ๋ถามอย่างอยากรู้อยากเห็นมาจากข้างหลังกุ้ยช่ายที่แบกเจ้าตัวหนักอยู่
“ไม่มีครับ แต่ถ้าตั้งโอ๋อยากกินเดี๋ยวคุณลุงให้คนไปซื้อมาให้นะครับ”มาตินหันมาบอกตั้งโอ๋ที่จะเง้อหน้าโผล่พ้นไหล่กุ้ยช่ายมาแค่ตากลมๆ
“เอาไอจิมด้วยฮับ”ตั้งโอ๋บอกเสียงตื่นเต้น
“ไม่เอาครับตั้งโอ๋ อย่าไปรบกวรคุณลุงเขา”กุ้ยช่ายปรามลูกชาย
“ไม่เห็นรบกวนเลย”มาตินยักไหลไม่ใส่ใจ
“ให้ท้ายกันอยู่เรื่อย”กุ้ยช่ายบ่นอุบ
“แหม ลมอะไรหอบมาล่ะเพค่ะ ”ชมพู่นั่งประจำอยู่โต๊ะเลขานั่งไขว้ขา มือข้างนึงยอกตลับแป้งขึ้นมาอีกข้างก็วาดลิปสติกลงบนปากที่แดงอยู่แล้วให้แดงกว่าเก่า
“สงสัยจะเป็นลมคิดถึงมั้งครับ”มาตินหันหลังกลับไปยักคิ้วให้เลขาสาวทีนึงก่อนเปิดประตูเข้าห้องไป
ชมพู่ถึงจะเป็นเลขาเป็นลูกจ้าง แต่ก็มีศักดิ์เป็นลูกสาวน้องชายพ่อของมาติน อีกนัยหนึ่งก็เป็นลูกพี่ลูกน้องกับมาตินนี่เอง
กุ้ยช่ายเดินตามาตินเข้ามาอย่างช่วยไม่ได้
“นี่คุณให้ผมนั่งทำงานตรงไหนล่ะ”กุ้ยช่ายถาม
“ก็นั่งตรงโซฟานั่นและ ตอนนี้ผมยังไม่มีงานอะไรให้ทำ”
“เอ้า แล้วจะให้ผมมาทำไม”
“ก็มาเลี้ยงอันเดรสไง”มาตินตอบขณะนั่งอ่านเอกสารอยู่ที่โต๊ะ
“เลี้ยงอยู่บ้านก็ได้นิ”กุ้ยช่ายบอก
“ไม่เอาอ่ะ ผมอยากเห็นหน้าลูก”ไม่ตอบปล่าวเงยหน้ามาส่งยิ้มยียวนให้อีกหนึ่งทีก่อนจะก้มลงอ่านเอกสารเหมือนเดิม ทำคนที่นั่งว่างๆไม่มีอะไรทำได้แต่แค้นเล็กแค้นน้อยอยู่ในใจ เลยเดินไปอุ้มอันเดรสเดินไปเดินมา ส่วนตั้งโอ๋ก็นั่งเขียนหนังสืออยู่กับที่ตามที่กุ้ยช่ายบอกว่าห้ามซน
“คุณยุงฮับตั้งโอ๋หิวหนม”ตั้งโอ๋บอกคุณลุง
“ตั้งโอ๋ครับคุณลุงทำงานอยู่”กุ้ยช่ายเอ็ดลูกชายเบาๆ
“ขอโทษฮับ”ตั้งโอ๋ทำหน้าผิดหวัง
“ไม่เป็นไร แค่นี้เองสบายมาก”มาตินยักคิ้วให้แล้วกดโปรศัพท์ต่อสาย
“มีไรให้รับใช้ย๊ะ”เสียงแหลมดังสวนมาทันที
“แหมใครจะกล้าใช้ล่ะครับ โทรบอกแม่บ้านให้เอาขนมกับโอวัลตินร้อนเข้ามาให้หน่อย”
“ย่ะ”เสียงโทรศัพท์กระแทกปัง กุ้ยช่ายมองหน้ามาตินที่ยิ้มกริ่มกับโทรศัพท์อย่างพึงพอใจเหมือนได้แกล้งคน
“เป็นอย่างนี้ทั้งบริษัทรึป่าว”กุ้ยช่ายพึมพำ แต่ละคน ขาดๆเกินๆ นึกถึงประชาสัมพันธ์ข้างล่าง ครั้งที่มาครั้งก่อนก็เอาแต่ขออุ้มตั้งโอ๋ แต่งวดนี้ไม่ยักกะขออุ้ม ได้แต่มองตามคุณพ่อลูกอ่อนที่เข็นรถเข็นตอนที่เดินผ่านหน้าประตูเข้ามา
ไม่นานขนมก็เข้ามาส่งโดยแม่บ้าน กุ้ชช่ายหันไปมองมาติน ที่พอได้หยิบจับเอกสารก็ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นมาหน่อย
นั่งนิ่งเงียบขมวดคิ้วพลิกเอกสารไปมาไม่ก่อกวนเหมือนก่อน กุ้ยช่ายเองก็พึ่งจะมีโอกาสสำรวจอีกฝ่ายหนึ่งในขณะอยู่ในสงบเสงี่ยมดูสุขุมกว่าที่เคยจะเป็นเช่นนี้
ตาสีน้ำตาลคมเข็มที่ปกติจะทอประกายยียวนตอนนี้ฉายแววดุดันจริงจังกับเอกสารที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่น่าเชื่อ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันอย่างใช้สมาธิ ริมฝีปากเม้นเป็นเส้นตรงไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใดๆ ดูๆแล้วคนคนนี้ที่อยู่ตรงหน้า น่ามองกว่าคนที่ยียวนกวนประสาทในเวลาปกติกว่าเป็นไหนๆ
จริงๆแล้วถ้าตัดเรื่องการกวนประสารทของอีกฝ่ายออกไป บวกกับ จริงจังกับเรื่องอื่นๆมากขึ้นในชีวิต คนคนนี้ก็จะดูน่าเชื่อถือน่าไว้ใจมากขึ้น แต่นี่เล่นไม่เอาไหนในเรื่องอะไรสักอย่างนอกจากเรื่องงานกับเรื่องผู้หญิง ไหนจะเรื่องหน้ามึนเวลาทำผิดอีก
บู่ว บู่ว
อันเดรสที่อยู่ในอ้อมแขนพ่นน้ำลายเรียกร้องความสนใจจากกุ้ยช่าย มือจ้ำม่ำกำมือย้ำๆเป็นสัญญาณว่าหิวนั่นล่ะกุ้ยช่ายจึงได้ละสายตาจากคนที่นั่งหน้านิ่วคิ้วขมวดสักที ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าเผลอจ้องมองอย่างเป็นจริงเป็นจังตอนไหน กุ้ยช่ายถอนหายใจเบาๆลุกไปชงนมให้ตั้งโอ๋กิน
“จ๋าฮับดูนี่ ตั้งโอ๋เขียนชื่อตัวเอง กับชื่อจ๋าได้แล้วฮับ ตั้งโอ๋ไม่ดูตัวอย่างด้วย”ตั้งโอ๋ยกสมุดขึ้นมาอวด
“เก่งมากเลยครับ ตั้งโอ๋อยากอะไรครับรอบนี้”กุ้ยช่ายถามถึงรางวัลที่ลูกอยากได้ ปกติเขาเองจะให้รางวัลลูกเพื่อเป็นการชักจูงเสมอ
“ตั้งโอ๋อยากกินไอจิมฉองยูก”ตั้งโอ๋ชูสองนิ้วเป็นท่าประกอบ
“ได้สิ เดี๋ยวตอนเย็นป๋าพาไปกิน”กุ้ยช่ายว่าพลางจับขวดนมให้อันเดรสน้อยกิน
จะว่าไปอันเดรสก็โตเร็วมาก ตัวเริ่มขยายใหญ่จนเสื้อผ้าบางตัวเริ่มสาไม่ได้ อาจเป็นเพราะมีเชื้อสายต่างชาติปนอยู่ด้วยทำให้โตเร็วกว่าเด็กทั่วไป กุ้ยช่ายมองตั้งโอ๋ที่นั่งวาดรูปอยู่ ตั้งโอ๋อายุสามขวบจะสี่ขวบแล้วแต่ยังตัวเล็กมากเนื่องจากเขาและแม่ของตั้งโอ๋ตัวเล็กด้วยกันทั้งคู่ ได้แต่คิดว่าอีกหน่อยอันเดรสอาจจะโตแซงตั้งโอ๋ก็เป็นได้
ตกเย็นกว่ามาตินจะจัดการกับเอกสารที่กองสุมเสร็จก็สี่โมงเย็นพอดี ขากลับจึงแวะซื้อกับข้าวซูเปอร์มาเก็ตหน้าปากซอย ตั้งโอ๋ดูจะตื่นเต้นเพราะตั้งแต่กุ้ยช่ายทำงานก็ไม่มีเวลาพาลูกออกมาข้างนอก
“จ๋าฮับตั้งโอ๋เอาอันนี้”ตั้งโอ๋หยิบนมผสมน้ำผึ้งสำหรับเด็กชูขึ้นเป็นเชิงขออนุญาต
“ได้ครับ”กุ้ยช่ายตอบตกลงเมื่อเห็นว่าเป็นของที่เคยซื้อให้ตั้งโอ๋กินอยู่เป็นประจำแล้วรับมาหยิบใส่รถเข็น พอจะหันไปตามเจ้าของบ้านว่าอยากกินอะไรก็ต้องผงะเมื่อหันหลังไม่เจอใคร ทั้งที่ก่อนหน้าเดินตามติดซะ
“ตั้งโอ๋ครับ ตั้งโอ๋เห็นคุณลุงมั้ยครับ”กุ้ยช่ายถามตั้งโอ๋ที่กำลังเลือกขนมอย่างสนุก
“เห็นฮับ เห็นอยู่กะผู้หญิงปากแดงๆอยู่ตรงนู้น”ตั้งโอ๋บอกแล้วชี้ให้พ่อดู
พอกุ้ยช่ายหันไปดูเท่านั้นล่ะ พ่อหนุ่มลูกครึ่งตัวดีกำลังคุยอยู่กับผู้หญิงอยู่ไกลๆ ปากก็คุยไปยิ้มไป ไม่พอ ผู้หญิงที่คุยด้วยยังยกมือขึ้นเอานิ้วกรีดไปบนอกของมาตินแล้วลากวนอย่างมีความหมาย ทำเอากุ้ยช่ายหงุดหงิดอย่างบอกไม่ถูกที่อีกฝ่ายมัวแต่ทำเรื่องไร้สาระ
“มาครับ เดี๋ยวป๋าอุ้มขึ้นรถเข็น”กุ้ยช่ายบอกตั้งโอ๋แล้วอุ้ยเจ้าตัวกลมขึ้นนั่งในรถเข็น แล้วก็เข็นไปทางพ่อลูกอ่อนตัวดี
พอใกล้จะถึงก็เข็นอย่างเงียบๆแล้วยืนหันหลังให้ ทำท่าเลือกผักไปมา แต่หูก็จดจ่อคอยจะฟัง
“แหม ช่วงนี้ไม่ค่อยโทรหาเชอรี่เลยนะค่ะ”เสียงหวานมีจริตออดอ้อน พลางยกนิ้วกรีดไปบนแผงอกของมาติน
“แหะ แหะ ช่วงนี้ผมไม่ค่อยมีเวลาน่ะเชอรี่ พอดีที่บริษัทเปิดเส้นทางทัวร์ใหม่ ว่าแต่เชอรี่มาทำอะไรแถวนี้ครับ”มาตินยิ้มให้ แต่คราวนี้เป็นยิ้มที่ไม่ใช่ยิ้มที่แจกสาวๆทั่วไป แต่เป็นเพียงแค่ยิ้มตามมารยาทเท่านั้น
“แหม มาตินก็ทำเป็นจำไม่ได้ ก็คอนโดของเชอรี่อยู่แถวนี้ มาตินยังเคยไปเลย ทำแบบนี้เชอรี่น้อยในแน่”เสียงหวานออดอ้อนมาติน เรียวปากเคลือบสีแดงสดยิ้มอยางยั่วยวน
“จริงเหรอครับ ว่าแต่เชอรี่มาทำอะไรเหรอครับ”มาตินถามซ้ำเพราะไม่รู้จะถามอะไร
“พอดีเชอรี่มาซื้อของใช้ทั่วไปน่ะค่ะ ไม่คิดว่าจะมาเจอมาติน แต่ดูท่ามาตินจะจำเรื่องราวระหว่างเราไม่ค่อยได้ วันนี้เชอรี่ว่าง เราไปทบทวนความจำกันที่ห้องเชอรี่ดีมั้ยค่ะ”คราวนี้เจ้าของริมฝีปากแดงสดยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหูมาติน
“แหะ แหะ ผมว่า”เจ้าตัวที่ได้ชื่อว่าเพลบอยตัวพ่อถึงกับไหลไม่ถูกเพราะไม่เคยปฏิเสธผู้หญิงที่เข้าหาเขาสีกครั้ง ถ้าเป็นแต่ก่อนเขาไม่เคยรอให้ฝ่ายผู้หญิงต้องออกปากชวนให้เสียเวลาหรอก แต่ตอนนี้จะให้ทำยังไงได้ มาตินจับรถเข็นเด็กแน่น คิดไม่ออกว่าจะปฏิเสธหญิงสาวเจ้าของทรงโตที่ตอนนี้เบียดเขาแทบจะไม่มีช่องว่าง
“นะค่ะมาติน ไปทบทวนกันหน่อย ช่วงนี่เชอรี่เหงาเหงา”เชอรี่ออดอ้อน
“ผมว่า”
“จุ๊ จุ๊ อย่าปฏิเสธเชอรี่นะค่ะ เชอรี่คิดถึงมาตินมากเลย”เชอรี่กรีดนิ้วลงบนปากมาติน
“แต่ว่า”
“ไม่มีแต่ค่ะ”เจ้าของปากแดงรวบรัด
“โอ๊ะ ขอโทษครับ พอดีมือมันลื่น”กุ้ยช่ายแกล้งทำขวดนมตกกลิ้งไประหว่างกลางของคนที่เกือบจะสิงกันกลางซูเปอร์มาเก็ต
“อ๊ะ นี่ มีมารยาทบ้างสิ”หญิงสาวโวยวายเมื่อกุ้ยช่ายแทรกตัวเขามาเก็บขวดนมที่ตก ทำให้หล่อนต้องแยกออกอย่างช่วยไม่ได้
“อันนี้ลดราคาอยู่นี่นา” กุ้ยช่ายพึมพำยืนคั่นกลางทำเป็นสนใจปลาหมึกสดที่อยู่ในถาด มือเล็กตั้งใจหยิบถุงกับที่คีบเพื่อเลือก
ปลาหมึก แต่ใครจะรู้ มือเล็กแกล้งคีบพลาดกะจะแค่ตีบให้น้ำกระเด็นใส่เพื่อไล่ให้ไปไกลๆ แต่ใครจะรู้ปลาหมึกเจ้ากำดันลอยไปตกใส่คุณเธอ ตกที่ไหนดันไม่ตก ตกใส่ร่องออกซะงั้น
“กรี๊ด แก แก อีบ้า แกทำอะไรของแกเนี่ย”เชอรี่โวยวายกระทืบเท้าชี้หน้ากุ้ยช่ายที่หน้าเหวอไม่คิดว่าปลาหมึกเป็นตัวๆจะหลุดไปซะงั้น
“เอาสิ ลองดู”กุ้ยช้ายเอาที่คีบชี้กลับเมื่อเชอรี่ยกมือหมายจะฟาดเข้าหน้า ตน
“แก อีบ้า มาตินค่ะ มาตินต้องจัดการอีบ้านี่ให้เชอรี่นะค่ะ เชอรี่ไม่ยอม”เชอรี่เดินกระทืบเท้าเข้าหามาติน มือที่แต่งแต้มด้วยน้ำยาทาเล็บคว้าแขนมาติน เตรียมจะเอาเนินเนื้อเข้าเบียด มาตินผละออกแทบไม่ทันเหมือนึกได้ว่ามีปลาหมึกเกาะอยู่บนหน้าอกอวบๆ
“เอ เชอรี่ครับ ผมว่าเชอรี่ไปล้างออกก่อนดีมั้ยครับ คนมองกันหมดแล้ว”มาตินบอก เชอรี่มองไปรอบๆใบหน้าที่แดงเพราะความโมโหเริ่มแดงกว่าเก่า ทั้งโมโหทั้งอาย ที่แต่งตัวสวยขนาดนี้แต่ดันมาเจอเรื่องน่าอายแทบแทรกแผ่นดิน
“ฝากไว้ก่อนนะแก ถ้าฉันเจอแกอีกเมื่อไรนะคอยดู แกตายแน่”เชอรี่หันไปชี้หน้าคาดโทษกุ้ยช่ายก่อนกระทืบเท้าวิ่งหนีสายตาฝูงชนอย่างอับอาย
“เห้อ เป็นไงล่ะ ทำไมไม่ปฏิเสธเขาไปดีดี ต้องให้ทำแบบนี้จนได้ มันไม่ดีนะ”กุ้ยช่ายบ่น เขาต้องมาทำเรื่องไม่ดีใส่ผู้หญิงเพียงเพราะว่าอีกฝ่ายมัวแต่อ้ำอึ้ง ฟังดูจากการสนทนาก็รู้ว่ามาตินเองไม่ได้อยากเกี่ยวข้องกับผู้หญิงคนนี้สักเท่าไร แล้วอีกอย่างเขาจะยอมให้มาตินไปยุ่งกับผู้หญิงคนอื่นทั้งที่มีอันเดรสอยู่แล้วได้ไง
“ก็ผมไม่รู้ว่าจะปฏิเสธเขายังไงดี ผมไม่เคยปฏิเสธผู้หญิง”มาตินพูดเสียงอ่อย ยังอดตรงใจที่คนนิ่งๆอย่างพี่เลี้ยงเด็กของเขาจะลงมือทำอะไรแบบนี้
“ง่ายกว่าเลี้ยงอันเดรสเยอะ”กุ้ยช่ายพูดเสียงเรียบแล้วไปเลือกของสดต่อ
“นี่คุณ”มาตินเดินตามมาหยุดข้างๆ
“ว่า”กุ้ยช่ายถามพลางเลือกผัก
“ขอบคุณนะ”มาตินบอกเบาๆแล้วเดินกลับไปเฝ้ารถเข็น
โดยที่ไม่รู้ว่าคำขอบคุณสั้นๆที่มาจากใจของมาตินจะทำให้ใครอีกคนใจเต้นรัวอยู่พักใหญ่เลยล่ะ
พอเลี้ยวรถเข้าบ้านกุ้ยช่ายอุ้มอันเดรสตามมาด้วยตั้งโอ๋เดินเข้าบ้านมาก็เจอรามิเรสนั่งกระดิกขาดูทีวีโดยที่มีเจ้าโกลเด้นตัวใหญ่เฝ้าอยู่ พอเจ้าโกลเด้นตัวใหญ่เห็นเจ้านายตัวเล็กของมันก็กระโดดตะกายขากุ้ยช่ายพลางเอาจมูกดมอันเดรสฟุตฟิต
“อ้าว กลับมาแล้วเหรอครับกุ้ยช่าย”รามิเรสลุกเดินมาหากุ้ยช่าย
“ครับ ว่าแต่คุณรามิเรสมาหาคุณมาตินเหรอครับ”กุ้ยช่ายถามสงสัยกับแขกที่ไม่ได้รับเชิญขาประจำ ไม่รู้ว่าบ้านปิดแล้วเปิดประตูเข้ามาได้ไง
“อ้อ ไม่ได้มาหามันหรอก ผมมาหากุ้ยช่าย”รามิเรสบอกพลางยิ้มให้
“อะแฮ่ม ไม่คิดจะทักเจ้าของบ้านเลยเหรอครับ คุณราขึ้น”มาตินหอบของพะรุงพะรังเข้าบ้าน
“ชั้นไม่ได้มาหาแกสักหน่อย ชั้นกะจะมาฝากท้องคุณกุ้ยช่ายแค่นั้น กุ้ยช่ายมาเหนื่อยๆนั่งให้หายเหนื่อยดีกว่าครับ”รามิเรสจับแขนให้กุ้ยช่ายนั่ง กุ้ยช่ายก็ทำตามอย่างอกที่จะงงๆไม่ได้ว่าทำไมรามิเรสต้องมาทำเอาใจเขาตั้งแต่เมื่อวานที่เจอกัน
“รับกลับประเทศไปไป๊ไอ้ต่างด้าวราขึ้น”มาตินพูดแล้วเอาของไปเก็บในครัว
“เดี๋ยวผมขอตัวไปทำกับข้าวดีกว่า เชิญคุณรามิเรสตามสบายนะครับ”กุ้ยช่ายบอกแล้วเอาอันเดรสลงเปล จังหวะเดียวกับมาตินเดินออกมาจากครัวพอดี
“งั้นเดี๋ยวผมเป็นลูกมือให้คุณกุ้ยช่ายดีกว่า”รามิเรสยักคิ้วให้เพื่อน ที่ตอนนี้ทำหน้ามุ่ย เพราะรามิเรสมายุ่งกับพี่เลี้ยงเด็กของเขาเกินกว่าที่ควรจะเป็น
“จะดีเหรอครับ คุณรามิเรสนั่งเล่นอยู่ที่นี่ดีกว่า เดี๋ยวกลิ่นอาหารจะติดเสื้อผ้าเอา”กุ้ยช่ายบอก
“ไม่เป็นไรครับ ดีว่าผมมารอกินเฉยๆ ให้ผมช่วยกุ้ยช่ายดีกว่า”รามิเรสพูดแขวะคนเพื่อนเข้าอย่างจัง เล่นเอามาตินเดินหยิบจับข้าวของกระแทกไม่พอใจ
“ถ้าคิดอย่างนั้นก็ตามใจครับ”กุ้ยช่ายหันมายิ้มรับกับความมีมารยาทของฝรั่งตัวโต พลางเหลือบหางตามามองลูกครึ่งอีกคนที่หยิบจับข้าวของกระแทกปึงปังเรียกร้องความสนใจ
แต่กว่ากุ้ยช่ายจะทำกับข้าวเสร็จก็นานอยู่เมื่อในครัวมีผู้ชายตัวใหญ่ถึงสองคนเบียดกันไปมาอย่างกวนประสาท กุ้ยช่ายจะทำอะไรได้นอกจากถอนหายใจกับพ่อลูกอ่อนที่ไม่รู้จักโต
“นี่คุณ ไปดูอันเดรสสิ เดี๋ยวกีกี้ก็คาบไปกินหรอก”กุ้ยช่ายไล่ มาตินนี่ไม่ใช่แค่รอบแรกที่ไล่เสียด้วย แต่รอบนี้กุ้ยช่ายยกอันเดรสขึ้นมาอ้าง มาตินจึงต้องหยุดป่วนแล้วออกไปนั่งรออย่างช่วยไม่ได้
**********************
พรุ่งนี้วันหยุดสามี
ก็เลยลงตอนนี้ยาวนิสนุง
พรุ่งนี้คนเขียนขอลานะคร้าาาาทุกคน
รักคนอ่านมากเลยค่ะ ขอบคุณที่ติดตามแล้วไม่ทิ้งกัน รักสุดๆเลย
ขอบคุณทุกกำลังใจค่ะ
ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ
วันนี้รีบค่ะ สามีกำลังจะถึงแล้ว ต้องรีบลงรีบไป