ไม่รู้จะยาวพอรึป่าว ตอนที่แล้วคนอ่าน13200 ตอนนี้ 15100 เพิ่มมา 1900คนแน่ะ ฟินคร่าาา
ตอนแรกๆอาจจะอึมครึมหน่อยนะค่ะ เปิดเพลงผิด พอรุ้ตัวก็ปาเอาไปเกือบกลางตอนพึงจะเปลี่ยนเพลง ปกติฟังเพลงสนุกๆแรพนิดๆ ดันกดเป็นเพลงเศร้าซะงั้น ตอนนี้อาจจะเปลี่ยนอารมณ์กระทันหันนิดนึง ขออภัยด้วยนะคร้าคนอ่าน
เมื่อคืนว่าจะมาต่อ เห็นสามีหลับเลยเปิดโน๊ตบุ๊คกะลังเข้าเล้าเพื่อต่อตอนต่อไป
ท่านดันตื่นซะงั้น ปิดประตูเล้าแทบมิทันคร่าาา ก็เลยต้องรอท่านไปทำงานก่อน
เพราะพี่ท่านตามติดชีวิตคนเขียนแบบถึงเนื้อถึงตัวตลอดเลยคร่า

ตอนที่ 11 หลังคาเดียวกัน
หลังจากกลับมาจากบ้านพ่อแม่ของมาติน มาตินเลี้ยวรถเข้ามาในบ้านพอรถจอดสนิทกุ้ยช่ายก็ลงไปเปิดประตูหลังอุ้มตั้งโอ๋ออกมา
“คุณผมเอาตั้งโอ๋ไปนอนก่อนนะ”กุ้ยช่ายบอกแล้วเอาตั้งโอ๋ขึ้นไปนอนห้องนอนรับแขกชั้นบน พอลงมาก็เห็นมาตินปิดประตูบ้านพลางอันเดรสที่อยู่ในชุดกระต่ายอย่างทุลักทุเล
“มานี่ผมช่วยอุ้ม”กุ้ยช่ารับอันเดรสมาอุ้มเอง
“ขอบคุณ”มาตินหันไปปิดประตูบ้านเสร็จสรรพ
“คุณจะขึ้นไปอาบน้ำก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวผมเช็ดตัวให้อันเดรสเอง”กุ้ยช่ายบอก
“จะดีเหรอคุณ คุณก็เหนื่อยๆมาเหมือนกัน”มาตินหันมาทำหน้าเจ้าเล่ห์
“งั้นคุณก็เช็ดตัวให้อันเดรส เดี๋ยวผมไปอาบน้ำเอง เอามัยล่ะ”กุ้ยช่ายเลิกคิ้วถาม
“ไม่เอาอ่ะ ผมกลัวทำลูกตก”มาตินสายหัวพรืด
“แล้วคุณจะเอายังไง”กุ้ยช่ายถาม สายตาเริ่มมองหน้ามาตินอย่างหาเรื่องเพราะมันเลยเวลามาดึกมากแล้ว
“อาบน้ำพร้อมกันเป็นไง”มาตินยิ้มกริ่มกับคำตอบกวนประสาทของตัวเอง
“ประสาท”กุ้ยช่ายพูดสั้นๆแล้วอุ้มอันเดรสน้อยเข้าไปวางในบนโต๊ะทำงานในห้องนอนมาตินเตรียมเช็ดตัว ทิ้งให้คนที่เดินตามมาบ่นอยู่คนเดียว
“นี่”มาตินเดินตามมาดึงเก้าอี้แล้วนั่งข้างๆ
“อะไร”กุ้ยช่ายถามพลางก้มหน้าก้มตาชุดกระต่ายอย่างเบามือกลัวอันเดรสตื่น
“ดาวบ้านพ่อแม่ผมสวยมั้ย”มาตินนั่งยกขาไขว้กระดิกเท้าถาม
“อืม สวยดี”กุ้ยช่ายตอบพลางนึกถึงภาพดาวที่ยังติดอยู่ในใจ แล้วแน่นอนมันมาพร้อมกับเสียงกระซิบข้างหูที่ยังคงไม่ลืมเช่นกัน แค่คิดใบหน้าขาวก็เริ่มขึ้นสีชมพูระเรื่อ
“ใช่มั้ยล่ะ ผมก็ว่างั้น สมัยผมเป็นวัยรุ่นผมขึ้นไปดูประจำแหละ เวลาเบื่อๆ ไว้คราวหลังผมพาไปดูอีก เอามั้ย”มาตินฉีกยิ้มกว้างหันมาถาม
“พูดมาก ไปเอาผ้าชุบน้ำมาไป”กุ้ยช่ายโยนผ้าขนหนุผืนเล็กใส้หน้ามาติน
“โห คุณก็คุยกับผมหน่อยเหอะ ผมเหงานะ ไม่รู้จะคุยกับใคร ออกไปหาสาวๆก็ไม่ได้”มาตินบ่นแต่ก็ยอมเอาผ้าเช็ดตัวไปชุบน้ำมาให้แต่โดยดี
“ไปปิดมาใหม่ยังเปียกอยู่เลย”กุ้ยช่ายส่งผ้าขนหนูคืนมาติน เพราะมันยังมีน้ำหยดอยู่เลย
“เหมือนกันแหละคุณ เดี๋ยวเช็ดๆไปมันก็แห้ง”มาตินบ่นแต่ก็ยอมเอาไปบิดน้ำออก ขืนไม่ยอมดูสิมีหวังอีกคนได้ดุเขาแน่
“อะ พอใจยัง”มาตินเอาผ้ามาส่งให้ ไม่ส่งปล่าวยังพูดกวนประสาท ทำเอาเรียกค้อนวงเบ้อเริ่มจากกุ้ยช่ายได้เป็นอย่างดี
“แล้วคุณล่ะ ไม่ไปอาบนน้ำรึไง”กุ้ยช่ายถามพลางเช็ดตัวอันเดรส
“อืม เดี๋ยวค่อยไป”มาตินพูดเบาคราวนี้นั่งลงเอามือเท้าคางกับโต๊ะมองกุ้ยช่ายเช็ดตัวให้อันเดรส
“คุณว่ามั้ยถ้าผมไม่มีอันเดรส คุณก็คงไม่มายืนอยู่ข้างหน้าผมตอนนี้ ผมก็คงอยู่คนเดียวไปอีนาน ไม่รู้ว่านานแค่ไหน”
“อืม”กุ้ยช่ายตอบรับ ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่อยากจะคุยอะไรมาก เพราะกลัวจะปิดท้ายด้วยการกวนประสาทของอีกฝ่ายเหมือนเดิม
“คุณรู้มั้ยถ้าไม่มีคุณผมต้องแย่แน่แน่ เมื่อไม่กี่วันก่อนผมยังอยู่คนเดียว ยังเที่ยวกับดึกดื่นทุกคืนโดยที่ไม่ได้กังวลว่าจะมีอะไรให้คอยห่วงอยู่ข้างหลัง”
“อืม เหตุการณ์บางอย่างมักเกิดขึ้นกับคนเราโดยไม่ทันตั้งตัว”กุ้ยช่ายพูดแผ่วเบานึกถึงแม่ของตั้งโอ๋ขึ้นมาทันที
“นั่นสิ บางทีผมก็คิดว่ามันเป็นฝัน แต่เวลามองหน้าลูกแล้วมันเตือนให้ผมรู้ว่านั่นคือความจริง บางทีผมก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมผมต้องมาเจอกับเรื่องราวแบบนี้ แต่คุณรู้มั้ย พอผมมองคุณที่เลี้ยงลูกคนเดียวตั้งแต่อายุสิบเก้า ผมรู้สึกมีกำลังใจขึ้นเยอะเลยล่ะ”มาตินหันมามองหน้ากุ้ยช่ายที่ก้มหน้านิ่งเหมือนคิดอะไรอยู่
“บางที ผมก็อยากให้นี่เป็นความฝันเหมือนกัน ผมอยากให้เขายังอยู่ ยืนอยู่ข้างๆผมกับลูก”
“ในบางครั้งผมก็ลองคิด ถ้าผมไม่มีคุณ ผมจะเลี้ยงอันเดรสคนเดียวไหวมั้ย ผมบอกเลยคำตอบคือไม่ มันเป็นอะไรที่คนอย่างผมไม่เคยคิดวางแผนมาก่อนในชีวิต ผมตั้งรับเรื่องราวแบบนี้ไม่ทัน แต่ก็ใช่ว่าผมจะดูแลเขาไม่ได้ บางเรื่องผมคิดว่าคนเราก็ต้องการเวลาเพื่อที่จะยอมรับในสิ่งที่เราจะต้องเจอ คุณว่ามั้ย”มาตินหันมาถามกุ้ยช่าย
“อืม ผมก็ว่างั้น”กุ้ยช่ายตอบรับเสียงแผ่ว ความรู้สึกของมาตินเขาเองก็เข้าใจ เข้าใจดีเสียด้วย
ความรู้สึกของการที่ต้องเจอเรื่องราวที่ไม่เคยคิดว่าจะเกิดขึ้นกับตัวเองถาโถมเข้ามาใส่อย่างไม่ทันได้ตั้งตัวจนทำให้เสียหลัก มีก็เพียงแต่เวลาที่จะพยุงเอาไว้ให้ไม่ล้มลง
“ผมไปอาบน้ำนะ”มาตินผุดลุกขึ้น กุ้ยช่ายพยักหน้าตอบรับ มาตินหายเข้าไปในห้องน้ำปล่อยให้กุ้ยช่ายคิดอะไรกับตัวเองคนเดียว
“นี่คุณ แน่ใจนะว่าจะไม่อาบน้ำพร้อมผมจริงๆ”มาตินชะโงกหน้าพ้นประตูห้องน้ำออกมาถาม
ผล๊วะ!!
กุ้ยช่ายโยนผ้าเช็ดตัวหมาดน้ำโยนใส่หน้ามาติน พลางมองประตูห้องน้ำที่ปิดสนิทพร้อมกับเจ้าตัวที่หลบเข้าห้องน้ำไปเสียแล้ว
กุ้ยช่ายยืนคิ้วกระตุกด้วยความโมโห คนอย่างมาติน สาระคงมีได้แค่0.01เปอร์เซ็นต์แค่นั้น บอกแล้วไม่น่าไปคุยด้วยเลย พอเป็นเรื่องเป็นราว ก็เอาเรื่องปวดประสาทมาขัดซะงั้น
กว่ากุ้ยช่ายจะจัดการเอาอันเดรสนอนแล้วกลับห้องนอนของตนไปเช็ดตัวให้ตั้งโอ๋แล้วอาบน้ำให้ตนเองก็ดึกมากแล้ว ลำคอรู้สึกแห้งผากจึงลงไปข้างล่างเพื่อหาน้ำดับกระหาย
กุ้ยช่ายรินน้ำใส่แล้วแล้วนั่งลงที่โต๊ะทางข้าง มือขาวยกขึ้นเท้าคางพลางคิดถึงเรื่องที่มาตินพูด
หลายวันมานี้ชีวิตกับเขาและตั้งโอ๋เองก็เปลี่ยนไปมาก จากที่อยู่กันตามลำพังสองพ่อลูก จู่ๆก็มีมีมาตินกับอันเดรสเข้ามา ทำให้ชีวิตที่ดำเนินไปอย่างราบเรียบเริ่มมีอะไรแปลกใหม่เข้ามา ทั้งมาตินเจ้านายที่กวนประสาท แต่ไม่รู้ทำไมความรู้สึกของเขาไม่ค่อยจะยกย่องมาตินที่อายุมากกว่าตั้งหกปีเป็นเจ้านายสักเท่าไร อาจเพราะอีกฝ่ายไม่ถือตัวแล้วทำตัวไม่น่าเป็นผู้ใหญ่มั้ง คิดแล้วก็ยิ้มกับตัวเอง
ใครจุรู้ว่าดึกดื่นป่านนี้จะมีอะไรเกิดขึ้น ความมืดที่มีเพียงแสงสลัวจากไฟด้านนอกส่องเข้ามาให้แสงสว่างให้พอได้มองเห็นทาง กุ้ยช่ายกับลังนั่งขึ้นอะไรเรื่อยเปื่อยโดยไม่รู้สึกถึงเงากำมืดจากเบื้องหลัง
ฟู่ว
ลมหายใจร้อนเป่ารดหูมาจากข้างหลัง กุ้ยช่ายสะดุ้งหันหน้าไปดูข้างหลังแต่ก็ไม่มีใคร มีเพียงความว่าปล่าว หัวใจเริ่มเต้นแรง เพราะตัวเองแปลกที่แปลกถิ่น แล้วที่สำคัญนี่ก็ดึกมาก ใบหน้าขาวค่อยๆหันกลับตัวเริ่มแข็งที่ ไม่น่าออกมาจากห้องกลางดึกเลย บ้านตัวเองก็ไม่ใช่ แค่คิดก็ใจเต้นจนแทบจะหลุดออกมาจากอก
ฟู่ว
เหมือนเดิม ลมร้อนพัดพัดใบหู หันไปก็เจอแต่ความว่างปล่าว ไม่มีใคร มีเพียงเสียงคิกคักเบาๆดังแว่วมาจากข้างล่างด้านหลัง
กุ้ยช่ายก้มลงไปมอง แทบเอาแก้วน้ำทุ่มหัวคนที่เอามือปิดปากกลั้นขำก้มหลอบตัวใหญ่ๆเท่าหมีควายอยู่กับพื้น แต่ก็ได้แค่คิดแค้นเข่นเขี้ยวเขี้ยวฟันอยู่ในใจ
“เล่นอะไรไม่เขาท่า”กุ้ยช่ายกระแทกเสียงแล้วหันกลับไปนั่งเหมือนเดิมอย่างเคืองๆ มือขาวยกขึ้นปาดเหงื่อที่ผุดบนหน้าผาก
“ฮ่า ฮ่า ก็เห็นคิดอะไรเพลินๆ”มาตินพูดพลางหัวเราะอย่างน่าหมั่นไส้แล้วหยิบนมเทใส่แก้วเข้าไมโครเวฟสองแก้ว
“แก่ป่านนี้ ไม่รู้จักโต”กุ้ยช่ายบ่นอุบ
“โห ผมไม่แก่นะ กำลังฟิต คุณต่างหากขี้กลัวเป็นเด็กไปได้”มาตินพูดแหย่หันหลังพิงเค้าเตอร์ครัว
“ผมก็ไม่ได้เด็กเหมือนกันนั้นแหละ”กุ้ยช่ายเชิดหน้ายกน้ำขึ้นดื่ม
“นอนไม่หลับรึไง อ่ะ นมร้อน จะได้นอนหลับสบาย”มาตินยกนมที่อุ่นจนร้อนยื่นให้กุ้ยช่ายแล้วนั่งลงข้างๆ
“ปล่าวนอนไม่หลับ แค่ยังไม่ได้นอน เพิ่งจะอาบน้ำเสร็จ เช็ดตัวให้ตั้งโอ๋อยู่”
“อืม พรุ่งนี้ทำตัวให้ว่างนะ เก้าโมงผมจะเข้าไปเซ็นต์เอกสาร คุณเองก็เข้าไปเซ็นต์สัญญาจ้างด้วย ผมโทรบอกให้ชมพูดร่างไว้แล้ว วันถัดไปเป็นวันอาทิตย์บริษัทหยุด ผมไม่อยากให้ทิ้งระยะ เดี๋ยวจะยาวเกินไป”มาตินบอก
“ครับ งั้นวันอาทิตย์วันหยุดผมขอกลับไปห้องนะ”กุ้ยช่ายบอกเชิงขออนุญาต
“ทำไมต้องกลับล่ะ”มาตินถาม
“ไม่กลับได้ไงล่ะ ผมก็ต้องไปทำความสะอาด อีกอย่าง ถ้าขโมยเห็นว่าไม่มีใครอยู่แล้วขึ้นห้องผมจะทำไงล่ะ ถึงจะไม่มีอะไรให้ขโมยก็เถอะ”
“แต่ผมไม่อยากให้กลับเลย”มาตินบ่น แล้วเอาคางวางบนโต๊ะทานข้าว แล้วเลื้อยอย่างขี้เกียจ
“ยังไงก็ต้องกลับ จะให้ผมอยู่แต่บ้านคุณ ผมเองก็เกรงใจ”กุ้ยช่ายตัดพ้อยกนมที่เริ่มอุ่นขึ้นดื่ม
“เกรงใจเหรอ ไม่เห็นต้องเกรงใจเลย ผมไม่ถือ”มาตินหันมาบอก แต่หน้ายังไม่ยกจากโต๊ะทานข้าว
“ใครจะไปเหมือนคุณล่ะ”กุ้ยช่ายบ่นแต่ยิ้มเบาๆ
“โห โยนเรื่องไม่ดีมาให้ผมอีกละ”มาบ่นบุ้ยปาก
“ใครบอกว่าผมโยน ผมแค่พูดความจริง”กุ้ยช่ายยิ้ม ชวนให้มาตินจ้องมองอย่างเงียบๆ
“เคยมีใครบอกคุณมั้ยว่าคุณยิ้มสวย”มาตินถาม
“มีสิ ตั้งโอ๋ไง”
“ไม่เอาตั้งโอ๋สิคุณ เอาคนอื่นอ่ะ”มาตินถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“ก็มีนะ หลายคน แต่นานแล้วล่ะ”กุ้ยช่ายพูด ถึงใบหน้าจะยิ้มเล็กๆแต่ดวงตากลมโตกลับฉายแววเศร้าออกมา ไม่มากนักแต่เช้าชู้ตัวพ่อก็สังเกตเห็น
“งั้นเหรอ ผมนึกออกแล้ว เอางี้ คุณย้ายมาอยู่บ้านผมเลยเป็นไง ค่าเช่าห้องก็ไม่ต้องจ่าย ย้ายมาเลย ผมไม่คิดค่ากินค่าอยู่”มาตินเปลี่ยนเรื่อง ดูเหมือนผลประโยชน์จะเข้าหากุ้ยช่ายที่ไม่ต้องตื่นกลางดึกเทียวไปเทียวมา แต่ใครจะรู้ว่าผลประโยชน์ตกเป็นของมาตินที่ไม่ต้องมาเหตุผลแอบอ้างเพื่อที่จะไม่ต้องอยู่กับอันเดรสตามลำพัง เพราะยังไม่มั่นใจว่าตนจะดูแลลูกตามลำพังได้รึปล่าว
“ไม่เอาหรอก ถ้าเป็นอย่างนั้นผมก็ไม่มีวันหยุด ไม่มีเวลาพาตั้งโอ๋ไปเที่ยว”กุ้ยช่ายที่นั่งคิดอยู่พักใหญ่ค้านออกมา ที่คิดนานไม่ใช่คิดเรื่องผลประโยชน์ตนเอง แต่คิดเรื่องผมประโยชน์ของตั้งโอ๋ที่ต้องเสียไปมากกว่า
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง เดี๋ยวผมขึ้นเงินเดือนให้เป็น สี่หมื่น ส่วนเรื่องเที่ยวเดี๋ยวยังไงผมก็ต้องพาอันเดรสเที่ยวอยู่ดี ส่วนคุณเป็นพี่เลี้ยงอันเดรสคุณก็ต้องไป ตั้งโอ๋ก็ได้เที่ยวด้วย ตกลงโอเคมั้ย แฟร์ดี”มาตินนั่งกอดอกพูดเสร็จสรรพ กับเรื่องร่างสัญญาหรือตกลงอะไร พระธารหนุ่มคนนี้ไม่เคยพลาดอยู่แล้ว
“อืม มันจะดีเหรอ”กุ้ยช่ายถามย้ำ เหลือบมองไม่แน่ใจว่าอีกคนจะกวนประสาทเอารึป่าว เพราะปกติคุยกันได้ไม่นานก็ล่มเป็นเรือจมปากอ่าว
“ก็ดีสิ แฟร์ออกผมว่า ไม่มีใครเสีย มีแต่ได้กับได้ ไปนอนกันดีกว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ให้ชมพู่ร่างสัญญาจ้างใหม่”มาตินฉุดกุ้ยช่ายที่กำลังทวนข้อตกลงอย่างมึนๆ เดินตามไปนอนอย่างไม่คัดค้าน
************************************
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอกนะคร้าาาา

อย่าได้ทอดทิ้งกันไปไหนเลยนะคร้าาา

ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำติชม
ให้เวลามาตินกันหน่อยนะคร้า กำลังอยู่ในช่วงปรับปรุงตัว
ยังไงก็ขอคำแนะนำด้วยนะคร้า ถูกผิดยังไงจะนำไปแก้ไขออกมาให้คนอ่านได้อ่านอย่างมีความสุข
ร๊ากกกกคนอ่านทุกคนเรยคร่าาาาาา

ขอคำแนะนำด้วยนะค้าาาา