EP.1
ผมค่อยๆหย่อนไส้กรอกใกล้หมดอายุที่ซื้อมาจากร้านสะดวกซื้อที่ผมทำงานอยู่ ลงไปในรูระบายน้ำ
น่าแปลกดีที่ผมไม่รู้สึกกลัวมากไปกว่านี้ ทั้งที่ควรจะกรีดร้องหรือไม่ก็หัวใจวายไปเสียให้มันรู้แล้วรู้รอดไป
“แหวะ......ไม่อร่อยเลย....พี่ชาย.....ไส้กรอกนี่เย็นชืดชะมัด.....หาของที่อร่อยกว่านี้มาให้ผมกินได้ไหม”
“อย่าเรื่องมากนักเลยน่ะ....กูไม่มีเงินมากมายขนาดนั้นหรอก”
“ชิส์....จะทนกระเดือกไปก่อนก็ได้ฟะ...ทำไมถึงต้องมาเจอคนเช่าห้องฐานะยากจนแบบนี้ด้วยเนี่ย”
“ให้มันน้อยๆหน่อยเถอะน่ะ”
ไม่อยากจะเชื่อเลยให้ตาย....นี่ผมคุยโต้ตอบกับอะไรอยู่เนี่ย
.
.
.
.
.
เจ็ดโมงเช้า
ผมสะดุ้งตื่นจากเสียงนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์มือถือ ฝันร้ายเมื่อคืนนี่มันหลอนติดตาดีแท้ กลิ่นคาวเลือดของโสเภณีข้างถนนคนนั้นยังติดอยู่ที่ปลายจมูกของผมอยู่เลย
ผมเปลี่ยนผ้าเพื่อที่จะอาบน้ำ ทันทีที่เหยียบย่างเข้าไปในห้องน้ำ ผมอดที่จะมองอย่างสำรวจไม่ได้ โล่งอกที่ทุกอย่างปกติดี ไม่มีคราบเลือดสีแดงฉานที่สาดกระเซ็นไปทั่วอย่างน่าสะอิดสะเอียนเหมือนเช่นในฝันร้ายนั้น ทุกอย่างสะอาดเอี่ยม
ซ่าส์....ซ่าส์
สายน้ำเย็นฉ่ำจากฝักบัวช่วยเรียกคืนความสดชื่นให้กลับคืนมาอีกครั้ง ชำระล้างเอาความกังวลทั้งหลายออกไปจากหัวจนสิ้น สมองรู้สึกปลอดโปร่ง ในขณะที่ความเย็นของน้ำทำเอาร่างกายนั้นตื่นตัวไปทุกสัดส่วน วันนี้เข้างานกะบ่าย เพราะฉะนั้นช่วงเช้านี่ผมจะใช้เวลาพักผ่อนอยู่ในห้องซอมซ่อนี่ เปิดดูหนังโป๊แจ่มๆที่โหลดมาหลายเรื่องแล้วก็จะบรรเลงกิจกรรมหรรษาด้วยสองมือ.....ตามประสาหนุ่มโสดกลัดมันผู้ตกยาก แค่คิดมันก็สยิวซาบซ่านจนอยากจะช่วยตัวเองมันเสียเดี๋ยวนี้....
“พี่ชาย......หยุดอาบน้ำทีได้ไหม......น้ำมันไหลโดนผม.....แสบตาไปหมดแล้วพี่ชาย”
“เฮ้ยยยย.......มึง......นี่มึงยัง.....”
“ก็ผมน่ะสิพี่ชาย....อะไรกัน เมื่อคืนเรายังคุยกันตั้งนานสองนาน ลืมไปแล้วหรือยังไง”
อารมณ์คึกของผมหดหายไปจนสิ้น ผมปิดฝักบัวและชะโงกดูตรงท่อระบายน้ำที่ถูกปิดฝาเอาไว้ ผมเอาเท้าเขี่ยฝาปิดออกและมองดูข้างในนั้น มันมืดสนิทจนไม่อาจมองเห็นสิ่งใดได้ แต่ผมจดจำดวงตาข้างนั้นได้เป็นอย่างดี
ดวงตาที่สวยงามและเศร้าสร้อยแบบนั้น ยากที่จะลืมมันได้ลง มันถูกบันทึกเอาไว้ในสมองของผมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
สรุปว่าผมไม่ได้ฝันไป และภารกิจยามเช้าทุกอย่างเป็นอันต้องล้มเลิก รวมไปถึงการอาบน้ำนี่ก็ด้วย ผมจึงตัดสินใจที่จะนั่งคุยกับมันให้เป็นเรื่องเป็นราว
“มึงเป็นใคร....แล้วเป็นตัวอะไรกันแน่”
“พี่ชาย....อย่าพูดจาหยาบคายกับผมนักซี่.....ไม่สงสารผมหรือไง.....พูดกับผมดีดีเถอะน่า” น้ำเสียงมันออดอ้อนเสียจนน่าหมั่นไส้ไม่ใช่น้อย
“ก็ได้.....น้องเป็นใคร แล้วทำไมถึงไปอยู่ในนั้นได้.....ห่าเอ๊ย....กูต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ”
“ใจเย็นๆ.....พี่ชายไม่ได้บ้า แล้วก็ไม่ได้เห็นภาพหลอนด้วย ผมมีอยู่จริง....อยู่ในนี้ ผู้ชายใจร้ายคนหนึ่งฆ่าผม เขาสับผมเป็นชิ้น ๆ แล้วทิ้งลงท่อนี่......สับจนละเอียดเลย”
“งั้นน้องก็เป็นผี”
“ถ้าผมเป็นผี ผมคงไม่มาจมอยู่ในท่อเหม็นๆแบบนี้หรอกพี่ชาย.....ป่านนี้วิญญาณคงลอยไปทั่วห้องนี้ ไม่ก็ทั้งตึกนี้แล้ว....แบบนั้นสบายกว่ากันเยอะเลย”
ก็จริงของมัน....แต่ถึงกระนั้น พวกผีที่สิงสถิตอยู่ในที่แปลก ๆอย่างในช่องแอร์ หรือไม่ก็ในตู้ไม้ ก็มีอยู่ถมไป....ผมหมายถึงที่เคยได้ยินมาน่ะ ผมเคยเชื่อเรื่องพวกนี้เสียที่ไหน
“โดนสับเละแล้วไม่ตายเนี่ยนะ”
“ใช่ผมยังไม่ตาย.....ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน....แต่เชื่อเถอะว่าผมไม่ใช่ผีหรอก.....”
“โอเค.....น้องไม่ใช่ผี....ไม่ใช่ภาพหลอน....เป็นห่าอะไรก็ไม่รู้ที่แดกผู้หญิงเข้าไปทั้งตัว....แล้วน้องจะกินพี่ด้วยมั้ยเนี่ย”
“ไม่หรอกพี่ชาย....ผู้หญิงคนนั้นน่ะ....ผมไม่ได้ตั้งใจจะกินหรอกนะ....แต่เค้าน่ะคิดจะฆ่าพี่ชายต่างหาก....ผมได้ยินสิ่งที่เค้าพูดออกมา....เค้าโกรธที่พี่ชายหยามเค้า....พี่ชายหยามเขาจริงไหมล่ะ....???” มันย้อนถามผม สิ่งที่มันพูดทำเอาผมสะอึก ผมหยามอีตัวนั่นจริงๆ และอาจถูกมันปาดคอตอนหลับเอาก็ได้ ใครเล่าจะรู้
ผมควรจะเชื่อมันดีไหม....มีเหตุผลอะไรที่ทำให้ผมต้องไว้ใจมันด้วย บางทีที่ผมไม่ถูกกินอาจเพราะ.....
ไม่รู้สิ....ถ้ามันคิดจะกินผม ตอนที่หย่อนไส้กรอกลงไปในท่อ มันจะกินผมเสียก็ได้.....
“พี่ชายชื่ออะไรหรือ.....เราคุยกันมาก็ต้องแยะ ยังไม่รู้จักกันเลย”
“ภพธร.....พี่ชื่อภพธร”
“หึหึหึ.....เป็นชื่อที่เท่ห์ดีนี่นา.....”
“แล้วน้องล่ะ.....ชื่ออะไร”
“เรียกผมว่า เดรนบอย(Drain Boy) ก็แล้วกัน”
“เอาอย่างนั้นเลยเหรอวะ”
แล้วเรา....ผมหมายถึงผมกับเจ้าเด็กท่อ....เราสองคนก็เริ่มผูกมิตรกันนับแต่นั้น
.
.
.
.
.
“พี่ภพ.....”
“เออ....รบกวนเหมือนเคยว่ะ”
หลายวันมานี่ผมไม่ได้แตะต้องห้องน้ำเลย ไม่ว่าจะอาบน้ำหรือปลดทุกข์ เนื่องจากน้ำล้างสบู่และแชมพูพวกนั้นจะไหลลงไปโดนเขา ที่พอจะทำได้ก็มีแค่ล้างหน้าแปรงฟันเท่านั้น อันที่จริงท่อที่ต่อจากอ่างล้างหน้ากับท่อที่ต่อจากชักโครกนั้น เป็นคนละเส้นกันกับรูระบายน้ำบนพื้นอยู่แล้ว แต่ถึงกระนั้นผมก็เกรงว่ากลิ่นเหม็นจากการขับถ่ายพวกนั้นมันจะไปรบกวนเขาอยู่ดี
ผมจึงต้องอาศัยห้องน้ำของไอ้ธีร์ รุ่นน้องที่ทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อกะเดียวกัน
“ห้องน้ำพี่เสียทำไมไม่แจ้งเขาวะ....” มันถามผมอย่างสงสัย เป็นเพราะผมมาขออาบน้ำห้องมันหลายวันติดๆกัน หากไม่มาที่ห้องมัน ผมก็อาบมันเสียที่ร้านนั่นแหละ หากเกิดอยากจะปลดทุกข์ขึ้นมา ผมก็ลงไปเข้าห้องน้ำของคนดูแลหอข้างล่าง โชคดีที่ลุงแกเป็นคนเฉื่อยๆ เบลอๆ แกก็เลยไม่ว่าอะไรผม
“เออน่ะ....กูไม่ได้มาขอใช้ฟรีๆนะเว้ย แล้วกูจะจ่ายเงินให้”
“เฮ้ย....ไม่ต้องพี่ ผมแค่ถามเฉยๆ ว่าแต่....พี่มาห้องผมบ่อยๆแบบนี้ ผมคิดนะพี่”
“คิดเหี้ยอะไรวะ”
“ก็คิดว่าพี่หาเรื่องมาหาผมทุกวันน่ะสิ.....ชอบผมก็บอกมา”
“เออ....คิดแล้วสบายใจก็คิดไปนะไอ้น้อง”
ดูปราดเดียวก็รู้ ว่าไอ้นี่มันเป็นเกย์ หน้าขาวปากแดงแบบนี้ เสียงพูดก็ดูนุ่มนิ่มไม่เป็นแมนเอาเสียเลย แต่ช่างเถอะ ให้มันคิดแบบนี้ ดีกว่าให้มันสงสัยแล้วถามซักไซ้ให้มากเรื่อง
แต่ก็เสียวๆประตูหลังอยู่ไม่ใช่น้อย
.
.
.
.
.
ผมกับเจ้าเด็กท่อ....เราคุยกันมากขึ้นทุกวัน บทสนทนาระหว่างผมกับมันเป็นไปอย่างไหลลื่น ถูกคอ ราวกับเป็นเพื่อนรู้ใจที่คบหากันมานาน
“มึงว่ากูเหี้ยไหม....ที่กูแม่งยักยอกเงินจนถูกไล่ออกเนี่ย” ผมเมานิด ๆ ก็เลยเผลอปรับทุกข์กับมันด้วยเรื่องส่วนตัว
“ไม่หรอกพี่.....ถ้าเป็นคนอื่น.....ถ้าเขามีโอกาสแบบพี่.....เขาก็คงจะทำเหมือนพี่นั่นแหละ.....”
“จริงเหรอว๊า”
“มนุษย์กับความโลภเป็นของคู่กัน....พี่ไม่ได้เลวไปกว่าใครหรอกน่ะ....แค่เพราะว่าพี่มีช่องที่จะโกงเท่านั้นเอง.....ถ้าพี่ไม่ทำ คนอื่นก็ทำ.....ถ้าเขาไม่ทำ ก็ไม่ใช่ว่าเขาเป็นคนดีหรอก....แต่เป็นคนโง่ไม่ก็ขี้ขลาดเสียมากกว่า”
เออ....ไอ้นี้มันพูดดีแฮะ....จะว่ามันประจบหรือก็เปล่า แต่ที่มันพูดมันก็ถูก เงินน่ะ ลองได้มีโอกาสฉกฉวยมาเป็นเจ้าของอยู่ตรงหน้า ใครมันจะไม่คว้าเอาไว้ แล้วอีกอย่างไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว เราทำกันเป็นทีม.....จะสงสารก็ไอ้เด็กหน้าอ่อนอีกคนหนึ่งที่ต้องติดคุกเพราะไม่มีเงินมาใช้หนี้เขา...
“แล้วทำไมมึงไม่ออกมาจากท่อวะ....ไอ้เด็กท่อ” ความเมาทำให้ผมพูดในสิ่งที่คาใจออกมา....ใช่ ผมอยากเห็นมัน อยากรู้ว่ามันเป็นตัวอะไร อยากหายสงสัยว่าตัวเองไม่ได้บ้าโดยที่ไม่รู้ตัว
“พี่ไม่อยากเห็นผมในสภาพนี้หรอกน่า”
“เฮอะ....มาถึงขนาดนี้แล้ว ยังจะมีอะไรให้กูกลัวอีกวะ....น้องชาย.....”
เราคุยกันอีกพักใหญ่ ก่อนจะผมจะหลับไปในห้องน้ำพร้อมขวดเบียร์เปล่าๆประมาณหกขวด
.
.
.
.
.
.
“ว๊าย...ช่วยด้วยคนวิ่งราว”
กลางดึกคืนหนึ่ง ผมวิ่งราวกระเป๋าจากอีซิ้มแก่ท่าทางเงอะงะที่เพิ่งลงมาจากแท็กซี่ ในกระเป๋าของมันมีเงินหลายหมื่นอยู่ รวมถึงถุงสร้อยคอทองคำด้วย เส้นโตแบบนี้น่าจะหลายบาท ช่วงนี้ราคาทองลง เดาว่ายัยซิ้มคงจะเพิ่งไปซื้อมาจากร้าน....
“เดรนบอย.......วันนี้มีของดีเว้ย”
“อะไรหรือพี่ชาย”
“ก็วันนี้มึงไม่ต้องกินไส้กรอกใกล้หมดอายุอีกแล้วน่ะสิ”
ผมคีบติ่มซำที่เพิ่งไปเหมามาจากร้านชื่อดังราคาแพงหูฉี่ หย่อนลงไปในรูระบายน้ำ
“เป่าให้ผมด้วยซี่....มันร้อนนะพี่”
“เรื่องมากจริงเว้ย”
“นะครับพี่.....ถือว่าเมตตาน้องชายคนนี้ด้วยเถอะ”
ผมเป่าขนมจีบปูชิ้นโตจนมันหายร้อน และหย่อนลงไปอีกครั้ง ไอ้เด็กท่อเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย
ผมชักอยากจะเห็นมันเสียแล้วสิ
อยากรู้ว่ามันจะมีสภาพ....มีรูปร่างแบบไหนกัน
จะน่ากลัวมากไหมนะ....เห็นมันแล้วจะหัวใจวายไหม
มันจะแดกผมหรือเปล่า....แต่คงไม่ เพราะผมอยู่กับมันมาจะสองอาทิตย์แล้ว และยังปลอดภัยดี
แต่ผมคิดว่า....ผมชอบมันเข้าให้แล้ว....หมายถึงถูกชะตาน่ะ
“เราน่ะ.....อยากจะขึ้นมาบนนี้ไหม”
“แน่ใจเหรอพี่ชาย ว่าอยากให้ผมขึ้นไปน่ะ”
“เออ....กูจะได้ไม่ต้องไปใช้ห้องน้ำคนอื่นยังไงล่ะวะ”
“ถ้าอย่างนั้น....พี่ช่วยหาโหล....หรือว่าแจกันทรงสูงสักใบได้ไหมล่ะ”
“เอาใหญ่แค่ไหนล่ะ”
“ก็ใหญ่พอสำหรับเด็กหนึ่งคน......มีฝาปิดด้วยยิ่งดี.....”
แล้ววันรุ่งขึ้นผมก็โทรไปลางานหนึ่งวัน ไอ้ธีร์อาสาควบกะให้ผม....ผมว่ามันชอบผมแน่ๆ เพราะรูปร่างหน้าตาผม แม้ว่าจะดูโทรมลงไปเยอะ แต่ก็ยังดูหล่อเหลาอยู่ ที่สำคัญผมตัวใหญ่....หุ่นแบบนักกีฬา...ผมตั้งใจจะไปเดินดูแจกันใบใหญ่ๆสักใบ ซึ่งราคามันเอาเรื่องไม่ใช่น้อยเลย
“เอ้า.....ได้มาแล้ว.....คิดว่าคงจะใช้ได้อยู่หรอก....ออกมาเสียสิ”
“พี่ชายหันหลังไปได้ไหม สัญญาว่าจะไม่แอบดูผมน่ะ”
“โอ้ย.....มึงนี่....อย่าลีลานักเลย....กูบอกแล้วไง ว่ากูไม่กลัว”
“แต่ผมไม่อยากให้ใครเห็นผมในสภาพนี้นี่นา”
“เหอะน่า.....อย่าอายไปเลย.....จะแบบไหนกูก็รับได้ทั้งนั้นแหละ”
กรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรรร์
“ห่า.....แค่นี้ก็ต้องดุกูด้วย....เด็กเปตร”
พอผมเซ้าซี้มันหนักขึ้น มันก็ตอบกลับผมด้วยเสียงคำรามที่ฟังขนลุกดีเหลือเกิน ตกลงมันเป็นตัวอะไรกันแน่.....หรือว่าผมจะเปลี่ยนใจ หาโซดาไฟมาเทลงท่อระบายน้ำดี ฆ่าแม่งให้สิ้นซาก....
แต่พอนึกย้อนกลับไปแล้ว การที่ผมได้พบกับมัน มีคนที่เข้าอกเข้าใจผมแบบนี้ มันก็คงจะน่าเสียดายไม่น้อยเลย มันทำให้ชีวิตที่อับเฉาของผมมีสีสันขึ้น
ไม่แน่ว่าผมอาจจะเอามันไปโชว์.....หรือออกทีวี....ไม่ก็ขายมันเสียให้กับคนที่สะสมของแปลก คงได้เงินพอที่จะตั้งตัวได้อยู่หรอก......
“โอเค.....กูจะไม่มอง.....สัญญาด้วยเกียรติของพนักงานจัดซื้อที่ถูกไล่ออกเลย”
“พี่ชายตั้งแจกันไว้ใกล้ๆนั่นแหละ เดี๋ยวผมจะขึ้นไปเอง......ห้ามแอบดูเด็ดขาดเลยนะ.....ผมเตือนแล้ว”
ผมยืนหันหลังให้ห้องน้ำที่เปิดไฟเอาไว้จนสว่าง ขณะที่ไฟในห้องถูกปิดจนมืดมิด ทำให้ผมสามารถมองเห็นเงาสะท้อนได้อย่างชัดเจน.....
เสียงของเหลวและหนืดข้นดังคลอกคลั่กขณะที่บางอย่างใต้พื้นห้องน้ำนั้นเริ่มเคลื่อนไหว เพียงอึดใจเดียว เจ้าของเหลวรูปร่างประหลาดนั้นก็พุ่งขึ้นมาจากท่อ เงาดำที่สะท้อนบนกำแพง เผยให้เห็นถึงเจ้าสิ่งนั้นที่ถ่ายโอนตัวเองลงไปอยู่ในแจกันทรงสูงใบโต รูปร่างของมันเหมือนกับน้ำพุที่พวยพุ่ง....หรือไม่ก็สัตว์เลื้อยคลานที่มีหัวหลายแฉก
“พี่....เอ่อ....หันไปได้แล้วใช่ไหม”
“หันมาได้แล้วพี่ชาย......อย่าลืมปิดฝาให้ผมด้วยล่ะ”
ขณะที่ปิดฝา....ผมอดไม่ได้ที่จะชะโงกหน้ามองลงไปในแจกัน แต่ก็ไม่เห็นอะไรนอกเสียจากความมืดมิด....หรือว่าสีของเจ้าเด็กท่อนั้นเป็นสีดำ ก็สุดแล้วแต่จะคิดได้ในยามนี้ มีเพียงสิ่งเดียวที่ยังเหมือนเดิม คือดวงตาข้างหนึ่งที่ยังคงดึงดูดผมได้เสมอ...
“ต่อไปนี้พี่ชายต้องเรียกผมว่าเด็กแจกันแล้วล่ะ.....หึหึหึ”
.
.
.
.
.
To be con
ว๊าย....แกเป็นตัวอะไรคะเนี่ย....น่ากัวววว