Love Course ! เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ. ตอนพิเศษ "Tenderella" P.74 (17.12.2016)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Love Course ! เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ. ตอนพิเศษ "Tenderella" P.74 (17.12.2016)  (อ่าน 705604 ครั้ง)

ออฟไลน์ SuSaya

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +220/-9
สนุก...เรื่องเริ่มไม่ธรรมดา
แต่ออกจะผิดหวังกับหมอแปด ถ้าไม่พลิกล็อคตอนท้ายว่าสงสัยเจ๊แมงมุมอยู่แล้วนะ
สามทหารเสือเป็นสายลับป่ะเนี่ย เทพเกินคนธรรมดาไปละ

ออฟไลน์ แฟนตาเซีย

  • หืมม...?
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 554
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
เอื้ออังกูรรึเปล่าาทำชั่วได้อย่างมีความสุข?? :hao6: :hao6:

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
คาดว่าจะเป็นเอื้อ หนุ่มเดียวที่เรายังหาความดีมันไม่เจอ รึมันหลบในวะ

ออฟไลน์ April❤

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 456
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
อยากอ่านต่อแว้ววว

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4

ออฟไลน์ natt lUcky

  • อะโย่ อะเย่
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
มาอ่านอีกรอบ รอตอนต่อไป 555
หนุกมากเลยจ้า

ออฟไลน์ maii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 222
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-2
คิดถึงแล้ว รีบมาต่อนะคะ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ The_Beggar

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 128
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
เบ่ะปากใส่แปปนึง ชะนีออกไปไป๊ ที่นี่ป่าเดียวกันโว้ย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6

ออฟไลน์ Whatever it is

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3959
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +380/-8
เท็นฮาดีอะ สเตฟาน ไมเคิล แจคสัน

ออฟไลน์ NONSENSE

  • เพ้อฝัน ไปวันวัน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 644
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +66/-2
ที่พูดนี่หมายถึงเอื้อปะ5555

ออฟไลน์ natt lUcky

  • อะโย่ อะเย่
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
มารอเท็นกะเปรมนะจ๊ะ
จะทำยังไงกันต่อไปเน้อ

ออฟไลน์ inspirer_bear

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-5
อ๊ากกกกกก หมอแปดไม่รู้เรื่องนางงูพิษนี่จริงๆดิ
ร้ายกาจเกินไปแล้วววว

ให้เจมินายช่วยสินะ งืมมมมมม

ออฟไลน์ เก้าแต้ม

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1290
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +88/-3
ครูคณิตเสร็จแน่ ถ้าคนๆนั้นยอมช่วย  :mew4:

ออฟไลน์ Mouse2U

  • บังเอิญ'โลกกลม'..
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3531
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +223/-10
อยากอ่านต่อแล้วค่าา.. :ling1:

ออฟไลน์ nsai.ss

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 412
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-2
เอื้อแน่ๆ...เพราะคนคนนี้เขาเป็นแบบที่ทุกคนตามหา ถึงจะไม่ฉลาดคณิตก็เถ๊อะ พ่อเท็นกับออกัสนี่มีซัมติงแน่ๆ

ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
สิบเอ็ดโมงเช้าวันเสาร์ เอื้ออังกูรในชุดลำลองสะพายกระเป๋าลงบันไดวนของคฤหาสน์มา เขามีเรียนกวดวิชาคณิตศาสตร์ตอนบ่ายสองถึงหกโมงเย็น เด็กหนุ่มเดินตัดผ่านห้องนั่งเล่นไปยังประตูหน้า


“ไปแล้วเรอะ”


ใครบางคนที่นอนอ่านการ์ตูนอยู่บนโซฟาทักเขา เจ้าของเสียงเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวยแววตาเอื่อยเฉื่อย เธอมีรูปร่างสมส่วนและผิวกายขาวเนียนละเอียด บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวนอันลึกลับ


ทว่าสิ่งเหล่านั้นไม่มีผลกับลูกชายของเธอ...เอื้ออังกูร


“จูเลียร์?” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเลิกคิ้ว ย่อตัวนั่งใส่รองเท้าพลางบ่น “ทำไมวันนี้อยู่บ้านได้วะ”


“มีงานเลี้ยงตอนเย็นอะ โคตรขี้เกียจเลย” จูเลียร์บ่น เธอนอนเอกเขนกเกาพุง เท้าแขนมองลูกชายด้วยท่าทางเหมือนยายแก่ “ไปด้วยกันแมะ”


“งานอะไร” เอื้ออังกูรถาม


“วันเกิดเจ้านายเพื่อนที่ทำงาน” ดวงตาเอื่อยเฉื่อยเกิดประกาย เธอยกนิ้วโป้งพร้อมยกยิ้ม “แต่ผู้ชายงานดี ไปส่องกัน”


“อายุปูนนี้แล้ว นี่เจ๊มีผัวละนะ” เอื้ออังกูรมองแม่กึ่งเอือมกึ่งสงสารตัวเอง “พ่อที่อยู่อังกฤษคิดยังไงถึงเลือกเจ๊เป็นเมียวะ”


“ยังไม่ทันได้คิดหรอก ฉันอาศัยช่วงชุลมุนจับทำผัวเอง” จูเลียร์อ่านการ์ตูนต่ออย่างไม่สะทกสะท้าน โบกมือไล่ “ถ้าแกไม่ไปฉันก็หมดธุระด้วยแล้ว ชิ่วๆ”


“เออดิ มีเรียนไง” เอื้ออังกูรใส่รองเท้าเสร็จพอดี อดถามไม่ได้ว่า “วันๆ เห็นแต่เจ๊ไปงานเลี้ยงที่โน่นที่นี่ เอาเงินจากไหนมาทำบ้านใหญ่ๆ แบบนี้วะ“


“ฉันทำงานนะโว้ย!” จูเลียร์ยกการ์ตูนชี้หน้าลูกชาย เอื้ออังกรูหรี่ตา “เจ๊ทำงานอะไร?”


หญิงสาวกระพริบตา ยกหนังสือการ์ตูนในมือปิดปากทำหน้าเอียงอาย “...ความลับของผู้ใหญ่จ้ะ”


“ไม่ต้องมาช้อนตาใส่เลย! ขนลุก!” เอื้ออังกูรหันหลังให้ ตอนนั้นเองที่หญิงสาวทำหน้านึกได้ เธอยิ้มกริ่ม เรียกลูกชายเสียงหวาน


“น้องเอื้อ...”


“อะไร” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลหันกลับมา จูเลียร์สบตาอีกฝ่าย “ได้ข่าวว่าไปแกล้งคุณครูกวดวิชาไว้เหรอ”


“อึก...”


เอื้ออังกูรสะอึก มองรอยยิ้มคนเป็นแม่ที่ฉีกกว้างขึ้นเรื่อยๆ อย่างนึกสยอง


“เจ้าหน้าที่บอกว่าคุณครูกดปุ่มทั้งหมด 12 ครั้ง แกคงไม่ลืมสัญญาของเราหรอกใช่ไหม” มุมปากของจูเลียร์แทบฉีกไปถึงใบหู เอื้ออังกูรสูดลมหายใจ


เขากระแอมไออย่างรักษามาด “รู้น่า รอกลับมาก่อนไม่ได้ไง้”


“จ้า” หญิงสาวหัวเราะในลำคอก่อนจะกลับไปอ่านการ์ตูนต่ออย่างอารมณ์ดี “คุณแม่จะรอลูกชายสุดที่รักกลับมาน้า~”


“ยัยแก่ปิศาจ...” เอื้ออังกูรพึมพำ ก่อนจะวิ่งหลบหมอนอิงใบใหญ่ที่พุ่งมาแทบไม่ทัน



         
เวลาบ่ายสามโมง เอื้ออังกูรนั่งเท้าคางฟังบทเรียนด้วยดวงตาเจียนปิดปรือ เขาอ้าปากหาวหวอดอย่างไม่เกรงใจติวเตอร์ตัวเล็กที่กำลังอธิบายกฎของตรรกศาสตร์อยู่หน้าห้อง


ฝ่ายหลังถอนหายใจ หยุดสอนแล้วพูดว่า “ถ้าง่วงนักก็ไปล้างหน้าล้างตาสิ”


“กลับบ้านเลยไม่ได้เหรอ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลถามแกมหยอก เมธาหน้าตึง “ไม่ได้!”


“นั่นสินะ...ถ้าฉันกลับก่อนนายก็จะได้ค่าชั่วโมงไม่ครบนี่” นักเรียนตัวแสบเผยยิ้มกริ่ม เมธาลอบกลืนน้ำลาย พอเป็นแบบนี้ทีไรอีกฝ่ายมักจะหาเรื่องมาแกล้งเขาทุกที
   

“ฉันแค่อยากให้มันเป็นไปตามแผนการสอนเท่านั้นแหละ” เมธาบอก ถ้าหมอนี่เลิกเรียนกลางคัน ส่วนที่ยังไม่ได้อธิบายก็จะต้องทบยอดไปสอนรอบหน้า ซึ่งครูคณิตไม่ต้องการให้มันคาราคาซังแบบนั้น


“แต่ฉันเบื่อนี่นา” เอื้ออังกูรส่งเสียงงอแง ใบหน้าหล่อร้ายจุดยิ้ม “หาอะไรให้ทำหน่อยดิ’จารย์”


“จะทำอะไรล่ะ” เมธาถอนหายใจ หันไปหยิบสมุดบันทึกเล่มเล็กออกมาจากกระเป๋า ในนั้นจดวิธีรับมือนักเรียนเอาไว้ เขาได้มาจากอาจารย์ของเทอมที่แล้ว ครูคณิตเปิดหากิจกรรมคลายเบื่ออย่างคิดหนัก


หมับ!


ตอนนั้นเองที่ร่างใหญ่ล็อคตัวเขาจากด้านหลัง เมธาสะดุ้ง ร้องลั่นเมื่อถูกอีกฝ่ายขโมยหอมแก้ม


ไอ้นักเรียนตัวแสบแผลงฤทธิ์อีกแล้ว!


“ปล่อย!” เมธาดิ้น ก่อนข้อมือของเขาจะถูกรวบไว้ด้วยมือใหญ่ข้างเดียว เอื้ออังกูรจับต้องกายขาวอย่างจาบจ้วง ยื่นหน้าเข้าไปกัดหูนิ่มๆ อย่างหมันเขี้ยวจนขึ้นรอยช้ำ กระซิบเสียงพร่า


“ปุ่มกดอยู่ไหน”


ครูคณิตพยายามยกแขนกั้น ตอบตะกุกตะกัก “มะ ไม่บอก!”


“หาเองก็ได้” เอื้ออังกูรยิ้มอย่างนึกสนุก เขาปลดเชิ้ตตัวเล็กออกช้าๆ จากด้านหลัง เมธาร้องลั่น ดิ้นพราดหนักกว่าเดิม


“อย่า...อุ๊บ!” ส่งเสียงในลำคอเมื่อถูกคนตัวใหญ่ล็อคคางให้หันไปประกบปาก


“อะ...อึก” ขาของติวเตอร์สั่นระริก ในที่สุดก็ทรุดนั่งอย่างหมดแรง


เอื้ออังกูรย่อตามลงมา ดวงตาเกิดประกายเอ็นดูแวบหนึ่งก่อนจะผละริมฝีปากออกไป ฟันขาวขบปลายจมูกรั้นเบาๆ คล้ายหยอกล้อ มือใหญ่เลื่อนปลดเข็มขัดคนตัวเล็กจนฝ่ายหลังร้องเสียงหลง


“อย่า!”
   

“ปุ่มกดอยู่ไหน” เอื้ออังกูรถามซ้ำ ริมฝีปากร้อนเคลียอยู่ข้างหูครูคณิตอย่างผู้ถือไพ่เหนือกว่า แพขนตาเล็กกระพริบ เมธาตอบเสียงสั่น “กระ...ฮึก กระเป๋า...”


“หึ” เอื้ออังกูรผละออกช้าๆ สบตาอีกฝ่ายแล้วแสยะยิ้ม “ก็แค่นั้น”


เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยืดตัวเต็มความสูง เขาเดินไปเปิดกระเป๋าของครูคณิต ทว่าพอค้นดูกลับไม่พบของที่ต้องการ


“ฮะๆ...”


ตอนนั้นเองที่เอื้ออังกูรได้ยินเสียงหัวเราะ เขารีบหันกลับมา เมธากำลังนั่งหอบอยู่บนพื้น ในมือนั่นถือปุ่มกดพร้อมง้างนิ้วเอาไว้ในท่าเตรียม


“กระเป๋า...กางเกง”


เอื้ออังกูรเบิกตาโพลง แทบตะโกนว่า “เมมันจะมาก...!”


กึก!


“...ไปแล้ว”


กึกๆ!


“นะ...” 


กึก! กึกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...


“...”    



   
เวลาหนึ่งทุ่มกว่า เอื้ออังกูรออกมารอรถกลับบ้านด้วยใบหน้าแค้นเคือง หลังเมธารัวกดปุ่มเสร็จเจ้าหน้าที่ก็พรวดเข้ามา พร้อมแจ้งยอดว่าครูคณิตกดปุ่มไปสิ้น 48 ครั้ง


รวมกับของเก่าก็ 60 ทีพอดี เอื้ออังกูรอยากจะบ้าตาย


“หนอย...ทำกันได้นะเม” คนตัวสูงขบเคี้ยวเขี้ยวฟัน เห็นหงิมๆ แบบนั้นไม่คิดว่าจะกล้าเล่นกลับ คอยดูเถอะ เขาต้องเอาคืนติวเตอร์ตัวแสบให้ได้!


รถบนถนนผ่านหน้าร่างสูงไปคันแล้วคันเล่า เด็กหนุ่มยกข้อมือดูนาฬิกา จะสองทุ่มแล้ว...แต่รถเมล์สายผ่านหน้าบ้านของเขาก็ยังไม่มาสักที


ตอนที่คิดจะโทรเรียกคนขับรถนั่นเอง ใครบางคนก็ส่งเสียงเรียก


“ไอ้เอื้อ!”


เจ้าของชื่อกระพริบตา ไตร่ตรองมองคนตรงหน้าจนนึกออก “ไอ้กานต์?”


“ใช่จริงๆ ด้วย! แหม ไม่ได้เจอกันตั้งนาน” เจ้าของเสียงเป็นเด็กหนุ่มหน้าตี๋ตัวสูงโกรกผมสีทอง แต่งกายด้วยเสื้อผ้าราคาแพง พูดคุยกับเอื้ออังกูรอย่างสนิทสนม “มึงมาทำอะไรแถวนี้เนี่ย”


เอื้ออังกูรตอบว่า “เรียนพิเศษ”


“จริงเหรอเนี่ย...” ดวงตาเรียวเล็กอย่างลูกคนจีนเบิกโพล่ง กานต์ยกมือบีบไหล่เพื่อนแน่น “อย่าบอกนะว่ามึงกลับตัวกลับใจแล้วอะ! โหยทำไมหันหลังให้วงการซะแล้ววะไอดอลกู...”


“ก็ไม่ขนาดนั้น” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลยกมือขาวออกจากไหล่ ถามเพื่อนสมัยม.ปลายเสียงเรียบ “ว่าแต่เสือกานต์ผู้เลื่องชื่ออย่างมึงเถอะ มาทำอะไรแถวนี้ล่ะ ซื้อผักให้คุณแม่รึไง”


“บ้าแล้ว” กานต์เสียงสูงอย่างอารมณ์ดี ดวงตาเรียวเล็กเกิดประกายเจ้าเล่ห์


“วันนี้กูมาเล็งกวางน้อย”


เอื้ออังกูรหรี่ตา ‘กวางน้อย’ ที่ว่าก็คือคำเรียกแทนคนที่ไอ้กานต์กำลังสนใจอยู่นั่นเอง หมอนี่มักจะสืบหาข้อมูลของเหยื่อก่อนรุกจีบเสมอ และด้วยชั้นเชิงบวกลูกล่อลูกชนแพรวพราว กอปรกับเจ้าตัวเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลดังจึงทำให้กวางน้อยมักติดกับเสือร้ายได้ไม่ยาก


เอื้ออังกูรก็เคยเป็นแบบนั้น เขาถามอย่างรู้ทันความคิด “คราวนี้ใครล่ะ”


“คนนี้ๆ” ใบหน้าอีกฝ่ายรื่นเริงคล้ายกำลังรอคำถามนี้อยู่ มือขาวหยิบสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดออกมา ขยับนิ้วอยู่สองสามทีก็หันหน้าจอมาทางเพื่อน ร้องว่า “แต๊นนน น่ารักเนอะ!”


เอื้ออังกูรรับมาดู ทันทีที่เห็นรูปกวางน้อยคนล่าสุดชัดๆ เขาก็เบิกตากว้าง


“นี่มัน...”


“ฮี่” กานต์ยิ้มกริ่ม ขยับตัวมากอดไหล่เพื่อนอย่างคาดคั้น “อย่าเฉไฉเชียว กูสืบมาแล้ว เขาเป็นติวเตอร์สอนคณิตศาสตร์คอร์สตัวต่อตัวของมึง...นายเมธา สันติสุข อยู่คณะศึกษาศาสตร์ ม.ดังย่านนี้”


บนหน้าจอแสดงภาพแอบถ่ายเมธาตอนอยู่มหาวิทยาลัยในหลายอิริยาบถ เอื้ออังกูรส่งสมาร์ทโฟนคืนเพื่อนด้วยแววตาเย็นเยียบ เสียงแข็งโดยไม่รู้ตัว


“แล้วยังไง”


“กูอยากได้อะ แต่มารอฟังมึงรีวิวก่อน”


“รีวิวเหี้ยอะไรล่ะ!” เอื้ออังกูรเผลอขึ้นเสียง กานต์กระพริบตา “อ้าว คนนี้ยังไม่โดนมึงเหรอ?” พูดพลางเลื่อนภาพแอบถ่ายในมือตัวเองประกอบ “น่ารักขนาดนี้นึกว่าเสร็จมึงไปแล้ว...”


“กูก็เลือกไหมล่ะ” เอื้ออังกูรขัด กานต์ขมวดคิ้ว “ฮื้อ! นี่เกรดเอเลยนะ สเป็คมึงเลยไม่ใช่เหรอ เอ๊ะ หรือกูจำผิดวะ?”


“กับผู้ชาย...หนเดียวก็พอแล้ว” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดเสียงคล้ายกระซิบ คนฟังชะงัก มองเพื่อนอย่างไม่อยากจะเชื่อ “เฮ้ย อย่าบอกนะว่ามึงยังลืม ‘ตอนนั้น’ ไม่ได้อะ?”


“หนวกหูน่า...” ว่าที่โบรกเกอร์ลากเสียงอย่างหงุดหงิด “ผิดด้วยเรอะไง”


“เปล่าๆ กูเข้าใจเว้ย” กานต์พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นใจ ไม่วายพึมพำว่า “งั้นแสดงว่าคนนี้กูต้องเปิดเองสินะ”


ชั่วขณะหนึ่งที่เอื้ออังกูรเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาในใจ หลุดปากว่า “มึงจะเอาคนนี้เหรอ”


“อือ ทำไมอะ หรือมึงหวง?” กานต์ถามแกมหยอก เอื้ออังกูรหน้ากระตุก “พ่อมึง จะแดกก็แดกไป ไม่ต้องมาแบ่งปัน”


“เปิดใจหน่อยดี้!” หนุ่มหน้าตี๋ยิ้มให้จอมือถือ ไม่ทันเห็นดวงตาปิศาจร้ายที่หม่นลงวูบหนึ่ง


“แล้วนี่มึงกลับยังไงวะ” กานต์เก็บสมาร์ทโฟนใส่กระเป๋าพร้อมเปลี่ยนเรื่อง เอื้ออังกูรมองรถบนถนน “กูจะโทรเรียกรถที่บ้านแล้ว รถเมล์แม่งไม่มาสักที”


“เฮ้ยมากับกูดิ เดี๋ยวไปส่ง” กานต์อาสา เอื้ออังกูรหรี่ตา “ฮึ ไม่เอาอ่ะ”


“เอาดี้! กูจะได้ไปสวัสดีแม่มึงด้วย แม่มึงสวย”


“ไอ้สัด แม่กูไปงานเลี้ยงตั้งแต่เย็น กลับดึกนู่น” เอื้ออังกูรสั่นหัว


“เออๆ ไปสวัสดีคนรับใช้มึงก็ยังดีไอ้ห่า กูจะได้ฟังมึงรีวิวเกี่ยวกับน้องเมด้วย” กานต์ยิ้มตาเยิ้ม เอื้ออังกูรหน้ากระตุก “รีวิวเหี้ยอะไรอีก ก็บอกว่าไม่เคยใช้...”


“แน่ใจ? เฮ้ยมันต้องมีบ้างแหละ จะไม่เคยแตะกันเชียวเหรอวะ ชั่วๆ อย่างมึงเป็นไปไม่ด๊าย!” หนุ่มหน้าตี๋เสียงสูงอย่างรู้นิสัยเพื่อน เอื้ออังกูรเก็บมือถือ พูดตัดรำคาญว่า “เออๆ ไปก็ไป”


เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลมองเพื่อนเดินฮัมเพลงออกไป ในอกของเขารู้สึกอะไรบางอย่าง


ไม่สบอารมณ์เลยแฮะ...


แต่สุดท้ายเอื้ออังกูรก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา




บ่ายโมงวันจันทร์ หลังเลิกเรียนวิชาศิลปะสามทหารเสือก็เดินออกมาจากตึก สมาร์ทโฟนในกระเป๋ากางเกงเปมทัตสั่นครืด เด็กหนุ่มสไลด์หน้าจอรับสาย


“อ้าว มึงถึงแล้วเหรอ? เออๆ พวกกูกำลังออก...” คุยอีกสองสามคำพ่อครัวก็กดตัดสาย หันมาบอกเพื่อนว่า “ไอ้เอื้อแม่งอยู่ห้างละ”


“โอ้ย ไวแท้วะ” สามสีเลิกคิ้ว เปรมเก็บมือถือใส่กระเป๋า พูดว่า “วันนี้มันมีเรียนแค่ช่วงเช้าไง”


“มึงว่าไอ้เอื้อจะยอมช่วยพวกเราปะวะ” ไดนาไมต์ดูกังวลจนสามสีหลุดหัวเราะออกมา “ช่วยดิวะ! เพื่อนกันทั้งนั้น”


เด็กหนุ่มผมสีชมพูหันไปมองพ่อครัว พอเห็นฝ่ายหลังพยักหน้ายืนยันก็โล่งใจ ก่อนสามทหารเสือจะออกมายืนรอรถเมล์หน้ามหาวิทยาลัยในที่สุด


ใช้เวลาไม่นานพวกเปรมก็มาถึงห้างสรรพสินค้าโดยสวัสดิภาพ เอื้ออังกูรยืนรออยู่แล้วตรงทางเข้า อีกฝ่ายสวมชุดนิสิตชายแบบปลดเนคไทออก


“ไอ้เอื้อ!” เปรมตะโกนเรียก


“...หน่องเปรม!” เอื้ออังกูรเดินมากอดพ่อครัว ยกแขนตีมือกับสามสีและไดนาไมต์อย่างอารมณ์ดี “ไอ้เหี้ยกูหิวมาก ไปกินบุพเฟ่ต์ปิ้งย่างกัน!”


“อะไปๆ” สามทหารเสือว่าง่ายอยู่แล้ว เด็กหนุ่มสี่คนขึ้นบันไดเลื่อนมาชั้นสอง ก่อนเอื้ออังกูรจะหยุดเท้าลงหน้าร้านแฟรนไชส์ปิ้งย่างสไตล์ญี่ปุ่นโลโก้แมวสามสี หันมาเขย่าชายเสื้อพ่อครัวด้วยท่าทางบ้องแบ๊ว


“เจาๆ”


“เออๆ มึงก็เดินเข้าไปสิ!” เปมทัตพูดกึ่งดุกึ่งเอือมพลางดันหลังคนตัวใหญ่ พนักงานสาวร้องต้อนรับเสียงสดใส เธอพาพวกเขาเข้าไปที่นั่งด้านในสุด


เปรมสอดตัวเข้าไปนั่งประจันหน้ากับสามสี ข้างๆ เป็นเอื้ออังกูรที่นั่งตรงข้ามกับไดนาไมต์ ก่อนพนักงานสาวจะทิ้งเมนูแผ่นใหญ่พร้อมใบสั่งอาหารกับปากกาไว้ให้พวกเขา


หลังเลือกโปรโมชั่นกับยื่นใบสั่งอาหารให้พนักงานชายอีกคนในร้านเรียบร้อย เอื้ออังกูรก็ยกสมาร์ทโฟนขึ้นมา สไลด์หน้าจอพลางพูดว่า “เซลฟี่กันมึง อวดแม่ๆ แม่ไม่เชื่อว่ากูมีเพื่อน”


พวกเปรมมองคนพูดด้วยแววตาเหมือนปลาตาย แต่ก็ยอมขยับตัวเข้ามาไม่ให้หลุดเฟรม เอื้ออังกูรพูดเสียงรื่น “กูจะลองระบบสั่งการด้วยเสียง เขาว่าแจ่มแมวอยู่”


ว่าที่โบรกเกอร์ยื่นแขนออกไปให้เลนส์กล้องจับภาพมุมสูง ก่อนสามทหารเสือจะสลับอารมณ์มายิ้มแป้นให้กล้องเมื่อเอื้ออังกูรให้สัญญาณ


“เอาล่ะนะ...แคปเจ่อะ!”


“...”


พวกเปรมยิ้มค้าง เอื้ออังกูรย้ำอีกครั้งว่า “แคปเจ่อะ!”


“...”


ไร้ซึ่งการตอบสนองจากเลนส์กล้อง ว่าที่โบรกเกอร์เสียงแข็ง “แคปเจ่อะ! อีเหี้ย แคปเจ่อะ!“


“เอื้อ...” สามสีเรียกเพื่อนคล้ายขอให้หยุดการกระทำอันน่าอาย เอื้ออังกูรขมวดคิ้ว ยังไม่ยอมแพ้ “อ๋อ มันมีอีกอันนึงมึง ชีสสสสสส”


“อีเหี้ยพอเฮอะะะ” ไดนาไมต์ร้องอย่างทนดูไม่ได้ เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลพูดว่า “มึง มันสั่งได้จริงๆ นะ! แต่แม่งต้องเงียบกว่านี้เว้ย!”


“...” สิ้นคำ ทั้งร้านก็พร้อมใจกันเงียบก่อนจะหันมามองสี่หนุ่มเป็นตาเดียวอย่างกดดัน เอื้ออังกูรเหยียดยิ้ม “เฮ้ยเขาเงียบให้เราแล้วเว้ย ถ่ายได้แน่ๆ คราวนี้”


“ไอ้ห่า ถ้าไม่ได้นี่หมาเลยนะมึง” พ่อครัวกลอกตาเลิกลัก เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลส่งเสียง “ฮื้อ ระดับนี้แล้ว มาๆ” ก่อนเด็กหนุ่มสี่คนจะจัดระเบียบร่างกายกันใหม่ แล้วเอื้ออังกูรก็ร้องว่า


“แคปเจ่อะ!”


“...” ไดนาไมต์ลอบมองหน้าเพื่อนอีกสองคน ใช้สายตาแทนคำพูดว่า มึง...กูอาย


“ชีสสสสสส”


“...” คราวนี้เป็นสามสี เขามองเพื่อนคล้ายสื่อว่า ใครก็ได้...หยุดไอ้เหี้ยนี่ที


“แคปเจ่อะ! ชีสสสส แคปเจ่อะ!”


“...” เปรมเหลือกตา อยากบอกว่า มึงเอ๊ย หมาแน่ๆ...


“...ค้วย!”


แชะ!


“เหี้ย!” สามทหารหน้าเหวอ เอื้ออังกูรรีบยืดอกพูดว่า “เห็นแมะ บอกแล้วว่าต้องเงียบๆ กัน”


“มึงเอาไปถ่ายในป่าช้าคนเดียวป๊ายยย” เปมทัตโวยวาย พวกเขาอายกันฉิบหายมันยังมีหน้ามานั่งสบายใจอยู่อีก เอื้ออังกูรมองรูปแล้วตาโต “โอ้โฮ ตายหมู่”


“ไหนดูดิ๊” ไดนาไมต์กวักมือ เจ้าของกล้องหันจอให้ดู คนผมสีชมพูหัวเราะลั่น “โอ๊ย หน้าไอ้สามโคตรง่วงอะ!”


สามสีชะโงกหัวมองบ้าง วิจารณ์หน้าเหนื่อยๆ “ไอ้เหี้ยเปรมนี่เบลอหยั่งกะชิวาว่าสะบัดหัวตอนหิวข้าว” ไดนาไมต์เองก็สภาพไม่ได้ดีไปกว่ากัน พ่อครัวขมวดคิ้ว


“ทำไมไอ้เอื้อมันรอดอยู่คนเดียววะ”


“กูเทรนมาดี” เอื้ออังกูรยักไหล่ กดอัพรูปลงไอจีพร้อมถามว่า “ให้แท็กไหม?”


“ไม่ต้อง!”


สามเสียงประสาน เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลเลิกคิ้ว “ทำไมอะ ไอจีกูสาวเยอะนะ”


“มึงอย่าทำร้ายพวกกูเลย แค่นี้ก็จะหาเมียกันไม่ได้อยู่แล้ว” เปรมบ่นพลางทำคอตก ไดนาไมต์พูดขึ้นแบบไม่คิดว่า


“หาผัวง่ายกว่ามั้งเนี่ย”


“เฮ้ย!” ที่เหลือร้องลั่น เด็กหนุ่มผมสีชมพูยกมือปิดหูกลั้วหัวเราะ “ไอ้ห่ากูล้อเล่น!” เขาลดมือลง ทำหน้าจริงจังพูดว่า “แต่ถ้าจะคบกับผู้ชายขึ้นมาจริงๆ กูต้องได้เป็นผัวเว้ย!”


“มึงเนี่ยนะ?” สามสีย่นคิ้วอย่างไม่ค่อยเห็นด้วย เอื้ออังกูรถามบ้างอย่างนึกสนุก “แล้วมึงอะสาม ถ้าได้คบกับผู้ชายจะเป็นผัวหรือเป็นเมีย” 


“กูคง...”


ถึงตรงนี้ก็มีพนักงานชายสองคนยกอาหารมาเสิร์ฟคั่นจังหวะ บทสนทนาหยุดลงพร้อมความสนใจที่พุ่งไปยังคอนโดสีดำบรรจุของสดอันตั้งสูงเลยหัวคนถือไป สร้างความตกตะลึงแก่ผู้พบเห็น เด็กหนุ่มสี่คนยิ้มกริ่ม กระเพาะเริ่มส่งเสียงครวญครางหลังได้ยินเสียงถ่านลั่นดังเปรี๊ยะ


ไม่นานเตาปิ้งของโต๊ะพวกเปรมก็พร้อมใช้งาน เกิดเสียงฉีกตะเกียบจากผู้ร่วมโต๊ะ จนสถานการณ์กลับมาคงตัวเอื้ออังกูรก็พูดว่า


“ต่อๆ ไอ้สาม”


“มาๆ”


“ถ้าได้คบกับผู้ชาย มึงจะเป็นผัวหรือเป็นเมีย” ความสนใจของทุกคนกลับไปอยู่ที่เด็กหนุ่มตัวสูงอีกครั้ง 


“ก็ต้องตัดสินกันอะ” สามสีคีบเนื้อปลาดอลลี่เข้าปาก พูดเสียงอู้อี้ “อาจจะจับฉลากอะไรงี้ ใครดีใครได้”


“คือดวงล้วนๆ สะรีระไม่ต้องว่างั้นเถอะ” เปรมสรุปหน้ามึน ไดนาไมต์มองคนข้างๆ หวาดๆ ก่อนจะหันไปทางพ่อครัว “แล้วมึงอะเปรม”


“อะไร?”


“ถ้าได้คบกับผู้ชายมึงจะเป็นผัวหรือเป็นเมีย” ไดนาไมต์ใช้ขวดซอสใกล้มือต่างไมโครโฟนสัมภาษณ์ เปมทัตหรี่ตา ชะงักมือที่กำลังกลับเบคอนพลางบ่น “มึงนี่มารคอหอยกูแท้วะ”


“หน่องเปรมตอบผู้ชมทางบ้านหน่อยเร็ว กล้องอยู่ทางโน้น” เอื้ออังกูรชี้ส่งๆ เปรมคีบเบคอนเข้าปากเคี้ยวตุ้ยๆ พึมพำว่า “ถ้าต้องคบกับผู้ชายเหรอ...”


พลันดวงตายาวรีคู่งามที่คลอไปด้วยหน่วยน้ำของใครบางคนก็แวบขึ้นมา


“หึๆ...” พ่อครัวเหยียดยิ้มกริ่ม หัวเราะเสียงทุ้มก่อนจะเงยหน้าตอบอย่างมั่นใจว่า


“กูต้องเป็นผัวชัวร์อยู่แล้ว!”


“เนี่ยยยยย” อีกสามคนส่งเสียง พร้อมใจกันรัวมือตบให้เปมทัตด้วยท่าเหมือนแมวน้ำในสวนสัตว์ เปรมพยักหน้าหงึกหงัก สามสีเป่าปากแซว “พรี่เปรมคลแมนนนน”


“ฮื้ม ไอ้สาม...”


“ชายเหนือชาย!”


“ให้พี่เดินสะดวกเถอะ” พ่อครัวไหวไหล่พลางยกแก้วขึ้นดื่ม ตอนนั้นเองที่เอื้ออังกูรแทรกขึ้น


“มึง แต่ไอ้เท็นตัวใหญ่มากเลยนะ”


พรวด!


น้ำในปากพ่อครัวแทบพุ่ง เปรมสำลักจนสามสีต้องกุลีกุจอยื่นทิชชู่ให้ ก่อนไดนาไมต์จะหันไปอีกทางคล้ายกำลังมองกล้องและพูดว่า “กลับไปที่ห้องส่งครับ” เป็นอันจบรายการ


เอื้ออังกูรวางไก่เทอริยากิลงกระทะคล้ายสลับฉาก ไดนาไมต์บ่นว่า “ช่วงนี้ท้องไส้กูไม่ค่อยดีเลยว่ะ”


“เป็นไรวะ” เปมทัตที่สติกลับมาได้แล้วถาม เด็กหนุ่มผมสีชมพูขมวดคิ้ว “ไม่รู้ ท้องมันร้อนๆ”


“กินปูนมาเปล่า” เอื้ออังกูรแซวยิ้มๆ ไดนาไมต์หรี่ตา “กินปูนร้อนท้อง...พ่อมึง มันจี๊ดเป็นพักๆ อะ เหมือนธาตุไฟจะแตก”


“กินตำลึงดิ ท้องจะได้เย็นๆ” สามสีเสนอ ไดนาไมต์ขมวดคิ้ว “เกี่ยวไรวะ?”


“ก็ตำลึงมันเย็น”


“แล้วถ้าตำลึงต้มอะ” เอื้ออังกูรแทรก สามสีคิ้วกระตุก “ไม่ใช่แบบนั้น กูหมายถึงว่าตำลึงมันเป็นอาหารเย็น...”


“โหอย่างนี้ก็กินตอนเช้าไม่ได้อะเด่ะ” เปมทัตเล่นด้วย เด็กหนุ่มตัวสูงหรี่ตา หันไปมองไดนาไมต์แล้วพูดว่า “ธาตุไฟแตกตายไปเหอะมึงอะ ปัญหาเยอะนัก”


“เอ้า!” ไดนาไมต์หน้าเหวอ หันไปด่าพ่อครัวกับโบรกเกอร์ที่กำลังตีมือกันอย่างครื้นเครงว่า “นี่ก็บันเทิงกันจังเลยอีเหี้ย” เป็นจังหวะที่เอื้ออังกูรเอาหมูดำลงเตาปิ้ง


“เออ แล้วพวกมึงมีอะไรถึงเรียกกูมาวันนี้วะ”


สามทหารเสือแทบสำลักอาหารเมื่อว่าที่โบรกเกอร์เปิดประเด็นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย สามสีวางหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์ลงตะแกรงปิ้งช้าๆ เป็นคนตอบว่า “พวกกูมีเรื่องให้มึงช่วย”


เอื้ออังกูรเลิกคิ้วมองอีกฝ่าย เลยไปยังอีกสองคนที่เปลี่ยนมามองเขาด้วยแววตาจริงจัง ว่าที่โบรกเกอร์ยื่นตะเกียบเข้าไปกลับเบคอนบนตะแกรงโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า


“ว่ามา”
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2015 23:17:57 โดย iJune4S »

ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
(ต่อ)



บรรยากาศในร้านเต็มไปด้วยความคึกคัก พนักงานชายหญิงเดินยกคอนโดของสดตามออเดอร์ลูกค้าสวนกันให้วุ่น ที่โต๊ะด้านในสุดซึ่งถูกจับจองโดยเด็กหนุ่มทั้งสี่ ของสดปรุงซอสบนตะแกรงปิ้งยามต้องความร้อนเกิดเสียงฉู่ฉี่คล้ายการสลับฉาก


เอื้ออังกูรคีบเนื้อไก่เทอริยากิเข้าปากหลังฟังเรื่องทั้งหมดจบ


“พวกมึงประมาทกันเกินไป”


เสียงทุ้มนั้นคล้ายดุอยู่กลายๆ ไดนาไมต์ผงกหัว “เออ กูยอมรับ”


“แล้วลองกู้ไฟล์ในเครื่องกลับมายัง” อันนี้ถามสามสี ฝ่ายหลังถอนหายใจ ตอบว่า “กู้แล้ว ได้มาแค่ไฟล์ภาพนิ่ง จริงๆ คลิปก็กู้ได้แต่ตรงช่วงสำคัญเสือกเสีย เหี้ยมาก”


“มึงก็น่าจะฝากคลิปเอาไว้บนเว็บไรงี้” เอื้ออังกูรเคี้ยวปลาดอลลี่หยับๆ เปมทัตตักเบคอนพันไส้กรอกใส่ปาก บอกว่า “มันฉุกละหุกด้วยแหละ วันนั้นพอไอ้สามตัดต่อเสร็จเราก็ต้องรีบออกมาช่วยงานที่บ้านเท็นเลย”


“เอาจริงๆ กูก็อยากจะส่งเข้าเมล์พ่อเท็นไปเลยนะ แต่ไม่รู้แอดเดรสไง” สามสีจุ่มหอยแมลงภู่นิวซีแลนด์กับน้ำจิ้มซีฟู้ด เสริมว่า


“แถมออกัสที่เป็นความหวังของพวกเราก็ดันมาป่วยพอดีอัก”


เปมทัตพยักน้า “ส่วนเท็นยังก็ยุ่งๆ จนแทบไม่ได้คุยกัน”


ไดนาไมต์นึกถึงช็อตที่โดนหักแฟลตไดรฟ์แล้วพูดว่า “กูไปคุยกับไอ้บอมบ์น้องกู มันก็ด่ากูโง่ว่าทำไมไม่ให้พกแฟลตไดรฟ์กันทุกคน”


“คือตอนนั้นมีของไอ้ไฟอันเดียวก็ปาฏิหาริย์แล้วไง” สามสีเกาหัว พูดอีกว่า “แถมพวกเราก็ยุ่งๆ กันตลอดก่อนถึงวันงาน แต่กูก็อาจจะผิดเองที่ไม่ได้เตรียมตัวให้ดี”


“ไอ้ห่า งานที่คณะก็เยอะฉิบหาย” เปรมบ่น เอื้ออังกูรสั่นหัวกลั้วขำ


“กูล่ะเสียดายสกิลพวกมึงจริงๆ มาตกม้าตายเฉย” แล้วหันไปถามสามสีว่า “ว่าแต่มึงเถอะ ไม่ยักรู้ว่ายิงปืนแม่นกับเขาด้วย”
สามสีกระพริบตา ตอบว่า “อ๋อ พอดีญาติห่างๆ ที่สนิทกันเคยสอนให้น่ะ” ถึงตรงนี้ไดนาไมต์ก็หันไปถามเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลว่า


“ตกลงมึงจะช่วยพวกกูใช่ไหม”


เอื้ออังกูรคีบหมูดำใส่ปาก ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “เอ...ยังไงดีนะ มันก็น่าสนุกดีอยู่หรอก แต่ว่า...”


“อะไรวะ นี่เพื่อนนะเว้ย” สามสีพยายามเกลี้ยกล่อม เอื้ออังกูรกลับเนื้อไก่ในตะแกรง เมื่อคิดอะไรดีๆ ได้ใบหน้าหล่อร้ายก็เหยียดยิ้มกริ่ม “เอางี้ ขอเหตุผลเด็ดๆ ที่ทำให้กูต้องยอมช่วยพวกมึงละกัน ถ้าถูกใจจะช่วยให้ฟรีๆ เลย”


“หา?”


ไดนาไมต์กับสามสีหน้าเหวอ พอจะรู้แหละว่าเอื้ออังกูรเป็นคนรับมือยาก แต่ไม่นึกว่าจะมีวันที่ต้องมารับมือด้วยตัวเองแบบนี้ คู่หูสบตากันอย่างคิดหนัก พวกเขาเดาทางเงื่อนไขออกอีกฝ่ายไม่ออก


“เพราะมึงฉลาด” สามสีลองพูดออกมา ไดนาไมต์ได้ยินจึงรีบเสริมว่า “มึงมีเสน่ห์ ไหวพริบก็ดี ถ้ามึงเข้าร่วมครั้งนี้ไม่แน่ว่าชาร์ลอตต์อาจจะติดใจมึงขึ้นมาก็ได้...”


พูดไปก็ฝืนใจ ในขณะที่เอื้ออังกูรกลับนั่งฟังเงียบๆ แบบไม่ยินดียินร้าย ส่งเสียงว่า “แค่นั้นเหรอ?”


คู่หูมองหน้ากัน นอกจากปั้นคำให้สวยหรูชมมันอย่างกระดากใจแล้วพวกเขาก็ไม่มีอะไรจะตอบอีก ตอนนั้นเองที่เกิดเสียงกรอบแกรบ เปมทัตแกะเปลือกกุ้งพลางพูดว่า


"เพราะมึงชั่ว"


“เฮ้ย!” สามสีกับไดนาไมต์ร้องออกมา พ่อครัวแยกเนื้อกับเปลือกออกจากกันโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า พูดต่อไป


“ความคิดนางแบบสาวผู้กร้านโลกซับซ้อนเกินกว่าที่พวกกูจะตามทัน” เปรมวางเนื้อกุ้งลงบนตะแกรงจนเกิดเสียงฉู่ฉี่ “เราต้องการคนที่ชั่วกว่าผู้หญิงคนนั้น คนที่ฉลาด แถมสามารถทำเรื่องเลวๆ ได้อย่างสนุกและไม่รู้สึกผิด”


พ่อครัวสบตาเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล พูดชัดถ้อยชัดคำว่า


“ซึ่งมึงตอบโจทย์”


“...”


ไดนาไมต์ได้ยินแล้วพูดไม่ออก นั่นมันด่ากันชัดๆ! เขามองคนตรงหน้าที่ซ่อนดวงตาไว้ใต้เรือนผมสีน้ำตาลคล้ายเก็บอารมณ์
ก่อนเอื้ออังกูรจะเงยหน้า เผยให้เห็นดวงตามาดร้ายที่เป็นประกายพร้อมหยาดน้ำใสคลอหน่วยบางๆ อย่างปลื้มปริ่ม


“เป็นเหตุผลที่กินใจมากหน่องเปรม! กูตกลงรับงานนี้!”


“หา?”


ไดนาไมต์ร้องออกมา ข้างๆ เป็นสามสีในสีหน้าไม่ต่างกัน ดวงตาคู่หูสะท้อนภาพเอื้ออังกูรโผเข้ากอดเปมทัตอย่างถูกใจในเหตุผล ฝ่ายหลังกัดหางกุ้งก่อนจะยกนิ้วให้พวกเขาพร้อมยิ้มกริ่ม


“นี่...คิดมานานแล้วล่ะ” ไดนาไมต์พึมพำด้วยสีหน้าว่างเปล่า หลุดพูดว่า


“ไอ้เอื้อเนี่ย หรือว่าจะเป็นมาโ...อุ๊บ!” ตอนนั้นเองที่สามสีปราดเข้าปิดปากเพื่อนไว้ ก่อนจะยกยิ้มแหยให้เอื้ออังกูรที่หันมามองอย่างสงสัย




คฤหาสน์เกียรติยวานนท์ยามพลบค่ำตั้งตระหง่านโดยมีผืนฟ้าสีเข้มทาเป็นฉากหลัง บริเวณน้ำพุสามชั้นที่ตั้งอยู่บนพื้นหญ้าเขียวขจีนั่นเอง ทศทิศในชุดนิสิตก้าวลงจากรถหลังหมดวิชาเรียนของวันอันหนักหน่วง เด็กหนุ่มเดินเข้าประตูมา สวนกับใครอีกคนที่กำลังจะออกไปข้างนอกพอดี


“ออกัส”


เท็นเรียกชื่อเลขาคนเก่ง ฝ่ายหลังหันมา มองนาฬิกาแล้วพูดว่า “วันนี้กลับช้าจังนะ”


“เพิ่งชดแลปเสร็จ” ทศทิศตอบ มองชายหนุ่มลูกครึ่งหอบเอกสารเต็มไม้เต็มมือ ถามเสียงทุ้ม “ไปไหน”


“ฉันต้องเคลียร์บัญชีของนายท่านให้เสร็จก่อนถึงอาทิตย์หน้าน่ะ เพราะเดี๋ยวต้องเตรียมงานอีก” ออกัสพูดแล้วก็นึกขึ้นได้ บอกว่า “จริงสิ นายท่านเรียกนายไปพบนะ คงเป็นเรื่องงานแต่งงานนั่นแหละ”


แวบหนึ่งที่ดวงตายาวรีหม่นแสง แต่ทศทิศก็ตอบว่า “เข้าใจแล้ว”


“เท็น...” ออกัสเรียกนายน้อยเสียงแผ่ว


“เราไม่เป็นไร” เด็กโข่งบอก เขากวาดสายตาไปรอบๆ อดถามไม่ได้ว่า “ผู้หญิงคนนั้นล่ะ?”


“ช่วงนี้ชาร์ลอตต์เคลียร์งานเดินแบบเตรียมเข้าพิธี คงไม่ได้กลับมาที่นี่อีกสักระยะ” เลขาคนเก่งตอบ ทศทิศพยักหน้า ก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปอย่างว่าง่าย


ออกัสมองตาม ดวงตาสีเขียวคู่งามทอประกายกังวล




เท็นเปิดประตูไม้บานใหญ่เข้าไป ด้านในเป็นห้องทำงานสไตล์คลาสสิคอันคุ้นตา ชายวัยกลางคนบนเก้าอี้ทำงานเงยหน้า ดวงตายาวรีคู่งามหลังแว่นไร้กรอบไม่ส่อเค้าอารมณ์ใด


“นั่งสิ”


เจ้าของห้องเปิดปาก ทศทิศปิดประตูแล้วเดินไปนั่งบนเก้าอี้บุนวมสีดำตัวใหญ่ “มีอะไรครับ”


มือขาวซีดขึ้นรอยเส้นเลือดตามวัยยื่นกองแฟ้มมาให้ ทศทิศหยิบหนึ่งในนั้นขึ้นมาเปิดด้วยใบหน้าเรียบเฉย ด้านในเป็นรูปแบบสูทสั่งตัดสำหรับงานแต่งงาน หมอแปดพูดเสียงทุ้ม


“เลือกแล้วไปบอกออกัส”


“ถ้าผมไม่เลือกล่ะ” เท็นถามออกมา คนเป็นพ่อจ้องตาลูกชายนิ่ง


“ต้องเลือก”


เสียงนั้นราวกับคำประกาศิต เท็นมองแบบการ์ดเชิญตรงท้ายแฟ้ม ดวงตายาวรีสั่นวูบ


“ทำไม...”


“ฉันบอกแกไปหมดแล้ว” เจ้าบ้านแทรกขึ้นเสียงทุ้ม ทศทิศมองหน้าอีกฝ่าย อะไรบางอย่างผลักดันให้เขากล้าพูดออกไป “แต่ผมไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนั้น...”


“ชาร์ลอตต์ทำให้ฉันมีความสุข” หมอแปดตัดบท เท็นขมวดคิ้ว แย้งว่า “แต่สายตาพ่อไม่เห็นบอกแบบนั้นเลย”


เจ้าบ้านจ้องลูกชายอย่างเอาเรื่อง เสียงแข็งโดยไม่รู้ตัว “ไม่ต้องพูดมาก แกแค่ทำตามที่ฉันสั่งก็พอ”


“เธอไม่ใช่แม่ของผม” เท็นหลุดปากเถียง ในอกของเด็กหนุ่มปวดหนึบ ตอนนั้นเองที่เจ้าบ้านหลบสายตา พูดขึ้นมาว่า “เธอเป็นคนใจดี”


“แต่...”


“หยิบแฟ้มแล้วออกไปซะ ฉันจะทำงาน”


“พ่อ...” เท็นเรียกเสียงแผ่ว เจ้าบ้านหมุนตัวไปหลบอยู่หลังเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่เป็นการตัดบทสนทนา สั่งเสียงเฉียบ


“ออกไปซะ”


ทศทิศก้มหน้า เขายกกองแฟ้มขึ้นมา ก่อนจะเดินออกไปเงียบๆ แล้วปิดประตูลง


“...”


หลังเก้าอี้ทำงานตัวใหญ่ หมอแปดหลับตา เขาถอนหายใจออกมาด้วยใบหน้าเหนื่อยอ่อน



 
ในเย็นวันพฤหัสบดี หลังเรียนแลปอาหารภาคปฏิบัติเสร็จสามทหารเสือก็ออกมารอรถหน้ามหาวิทยาลัย พวกเขามีนัดรวมตัววางแผนกันที่คอนโดของหมอยา


ในส่วนของเท็น เด็กโข่งโทรมาบอกเปมทัตตั้งแต่วันอังคารแล้วว่าวันนี้มีประชุมกับที่บ้านพ่อครัวเลยไม่ต้องไป เจอกันอีกทีเย็นวันศุกร์เลย


“ใครไปบ้างวะวันนี้” ไดนาไมต์ถามขึ้นระหว่างรอรถ สามสียกนิ้วนับ “ก็มีพวกเรา...ไอ้เอื้อ ไอ้ไฟ แล้วก็ไอ้โช”


“แล้วเมอะ?” พ่อครัวถาม เด็กหนุ่มผมสีชมพูตอบว่า “วันนี้เมมีเรียนชด แต่คุยกันแล้ว ไว้เราค่อยไปบรีฟกันอีกทีก็ได้” คนฟังพยักหน้าหงึกหงัก ตอนนั้นเองที่รถเมล์มาจอดเทียบท่า ก่อนเหล่าเด็กหนุ่มจะก้าวขึ้นไป


รถเมล์แล่นข้ามเพียงสองสี่แยก สามทหารเสือก็มาถึงใต้คอนโดของไฟในที่สุด ที่ล็อบบี้สุดหรู ใครบางคนนั่งรอพวกเขาอยู่ก่อนแล้ว


“ไอ้เอื้อ!”


“วู่ย หน่องเปรม!” เอื้ออังกูรในชุดนิสิตนั่งบนโซฟาตัวใหญ่โบกมือให้เพื่อนๆ บนโต๊ะกระจกมีของหวานและเครื่องดื่มวางไว้คล้ายรับรองแขก ไดนาไมต์นั่งลงข้างๆ ตาโต “เฮ้ย ไปซื้อมาจากไหนวะ”


“ประชาสัมพันธ์เอามาให้อะ” เอื้ออังกูรตอบ ขยับตัวให้สามสีนั่งด้วย ถามว่า “พวกมึงแดกได้นะ เอาเลย”


“โหย น่ากินว่ะ เอาๆ” ไดนาไมต์ตักเค้กใส่ปาก ก่อนจะร้องออกมาอย่างมีความสุข “ฮู้ยยย สุดยอด ไอ้เปรมกินเปล่า อร่อยนะโว้ย”
เปรมมองสามสีที่ยื่นทิชชู่ให้เด็กหนุ่มผมสีชมพู สั่นหัวตอบว่า “ไม่เป็นระ...โอ๊ะ!” ตอนนั้นเองที่พ่อครัวถูกใครอีกคนที่โผเข้ากอดจากข้างหลังจนเกือบล้ม


น้ำหนักประมาณนี้มัน...


“ไอ้โช!”


“ฮี่” ไอ้ตัวแสบยิ้มกว้าง วาดขาเกี่ยวเปมทัตเหมือนลูกลิง สามสีมองเด็กประมงซึ่งเดินมาจากด้านในแทนที่จะเป็นประตูทางเข้าแล้วถามว่า “นี่พวกมึงมาด้วยกันเหรอ?”


“เออ กูแวะไปทำธุระให้แม่แล้วเจอไอ้โชพอดีเลยรับมา” เอื้ออังกูรตอบพลางโยนกุญแจรถเล่น โชพยักหน้าหงึกหงัก “กูกินขนมกับอาอยู่ ตอนจะกลับเจอไอ้เอื้อพอดีเลยมาด้วยกัน”


“อ๋อ...” สามทหารเสือเข้าใจแล้ว เป็นจังหวะที่มือถือของไดนาไมต์ส่งเสียง


“ครับ” เด็กหนุ่มผมสีชมพูกดรับสาย เขากวาดตาไปรอบๆ คุยกับอีกฝ่ายสองสามประโยคก่อนจะกดวาง


“ใครวะ” สามสีเลิกคิ้ว ไดนาไมต์เก็บสมาร์ทโฟนใส่กระเป๋า ตอบว่า “ไอ้ไฟอะ มันบอกกำลังจอดรถอยู่”


ไม่กี่นาทีต่อมาไฟก็ปรากฏตัวขึ้นตรงทางเข้า ร่างสูงอยู่ในชุดนิสิตเช่นกัน เขาพับเนคไทไปด้านหลังคล้ายตัดรำคาญ โบกมือให้กลุ่มเพื่อนที่ยืนรวมกันอยู่ด้วยรอยยิ้มเจื่อน


“โทษทีว่ะ อาจารย์กูโคตรเรื่องมากเลย”


“เข้าใจเว้ย พวกกูกว่าจะออกมาได้ก็ลำบากเหมือนกัน” สามสีบอก แลปปฏิบัติวันนี้อาจารย์สาวเหมือนไปกินรังแตนจากไหนมาไม่ทราบ หล่อนจู้จี้กับพวกเขาเรียงตัวจนเหนื่อยไปตามๆ กัน


“เออกูหิวด้วยเนี่ย รีบคุยเหอะจะได้รีบไปหาอะไรกิน” เอื้ออังกูรลุกขึ้นบิดขี้เกียจแล้วเดินออกไป ไดนาไมต์สัพยอกยิ้มๆ “แหม เดินนำเป็นเจ้าของห้องเลยนะมึง”


เอื้ออังกูรเลิกคิ้ว เขาหันไปมองหน้ากับไฟ ฝ่ายหลังหัวเราะเบาๆ พูดว่า “ยิ่งกว่าเจ้าของห้องอีกมันอะ”


“หมายความว่าไงวะ?” สามสีขมวดคิ้ว เป็นจังหวะที่เปรมนึกออกพอดี “อย่าบอกนะว่า...”


“อา...คอนโดนี้เป็นหนึ่งในเครือของธุรกิจบ้านไอ้เอื้อมันน่ะ” อัคคีเฉลยเสียงสบายๆ สามสีเข้าใจตอนนั้นเอง “งั้นเค้กกับน้ำเมื่อกี้ก็เป็นของสัมมนาคุณให้เจ้าของคอนโดสินะ ถึงว่า...คราวก่อนมานั่งรอก็ไม่เห็นมีบริการให้”


“บ้านมึงทำโรงแรมเหรอวะ” ไดนาไมต์ถามเพื่อนตาโต ฝ่ายหลังเลิกคิ้ว “อา ก็ประมาณนั้นแหละ ขึ้นกันสักทีเถอะอีเหี้ย กูหิวข้าว”


“เออๆ ไปๆ” เปมทัตตัดบท เขาเดินคู่กับเอื้ออังกูร ตามด้วยไดนาไมต์ที่เดินพูดถึงรสชาติเค้กเมื่อครู่ไปพร้อมสามสี โชมองตามหลังเพื่อนๆ เขาก้าวเท้าบ้าง ก่อนอาการปวดแปลบจะเล่นงานจนขาอ่อนยวบ


หมับ!


แขนแกร่งโอบเอวเด็กประมงไว้ได้ทันท่วงที แก้มไอ้ตัวแสบขึ้นสีเรื่อ สะบัดตัวออกเหมือนโดนของร้อน “ยะ! โอ๊ะ!” แต่สุดท้ายก็ถูกอีกฝ่ายรวบเข้าไปไว้ในอ้อมกอดอีกจนได้


ไฟเลิกคิ้ว “ระวังหน่อยสิ”


“ปล่อย!” โชเอ็ดเสียงกระซิบ มองหลังเพื่อนสี่คนที่เดินนำออกไปหวาดๆ หมอยาเอียงคอ “ไม่เห็นเป็นไรเลย ยังเจ็บอยู่ไม่ใช่เหรอ”


“กูเดินเองได้!” ชลันธรพยายามแกะมือหนาออกจากตัว ไฟจุ๊ปาก “อย่าดื้อดิ เดี๋ยวอุ้มนะ”


โชหน้าซีด พูดเสียงสั่นคล้ายจะร้องไห้ “มะ ไม่เอา...”


“ไม่เอาอุ้มก็ให้กูพยุงไปดีๆ เดี๋ยวหกล้มไปอายเขา” ไฟบ่น เด็กประมงได้ยินแล้วต่อยไหล่คนตัวใหญ่ดังตุบ “ก็มันเพราะใครล่ะวะ!”


“เอ๊า ก็เห็นยอมอะเลยจัดเต็ม” ไฟสัพยอก โชหน้าแดงเถือก พยายามสลัดตัวให้หลุดออกมาเดินต่อเอง


“นี่มึงใช้ชีวิตผ่านวันนั้นมายังไงเนี่ย” ไฟเห็นอีกฝ่ายเดินกะเผลกๆ แล้วก็อดเอ็นดูแกมสงสารไม่ได้ อาการบาดเจ็บจากเรื่องคืนนั้นของโชยังไม่หายดีเท่าไรนัก แม้จะให้ยาไปทาแล้วแต่ดูท่าคงต้องใช้เวลาสำหรับฟื้นตัว


ครั้งแรกก็แบบนี้


“ก็เกาะๆ เพื่อนเอา...” โชตอบเสียงอ่อน แม้จะยังมีอาการปวดแปลบขึ้นมาเป็นพักๆ แต่ก็ไม่ได้แย่เท่าวันแรกๆ แล้ว ไฟมองตามหลังพวกพ่อครัว ถามว่า “แล้วพวกเปรมไม่รู้เหรอว่ามึงเจ็บ?”


“จะบอกได้ยังไง” ชลันธรสูดลมหายใจลึก ย้ำว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นวันนั้นห้ามให้ใครรู้เด็ดขาดนะ”


“ทำไมอะ” ไฟไม่เข้าใจ พูดอีกว่า “บอกไปก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยนี่ แมนๆ เปิดใจคุยกัน” ดวงตาแมวตวัดใส่คนพูดจนแทบหลุดออกจากเบ้า “แมนๆ พ่อมึง! อย่าบอก!”


“แค่นี้ต้องเขินด้วย” อัคคีหยอกคนในอ้อมแขน ชลันธรโกรธจนหน้าแดง เผลอตะโกนเสียงดังว่า “โว้ย พูดไม่รู้เรื่องรึไงวะไอ้นี่!!”


“ฮะ?” สี่คนที่เดินนำไปแล้วหันมา เปรมร้องว่า “อ้าว พวกมึงยังไม่เดินมาอีกเหรอ?”


“...”


ความเงียบโรยตัวชั่วอึดใจ ก่อนชลันธรจะร้องว่า “เออๆ ไปแล้วๆ” อาการปวดแปลบของเขาบรรเทาลงแล้ว โชกลับมาเดินด้วยท่วงท่าปกติเหมือนตอนขามา แม้จะยังมีเอียงๆ ไปบ้างก็ตาม


ไฟมองภาพนั้น ก็ยังไม่เข้าใจความคิดของเด็กประมงอยู่ดี


“หึๆ...”


แต่เอาเถอะ แบบนี้ก็ตื่นเต้นดีเหมือนกัน   




ในห้องพักขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์สุดหรูสไตล์โมเดิร์น เด็กหนุ่มหกคนนั่งล้อมวงกันอยู่ในส่วนของห้องนั่งเล่น โชกับเปรมจับจองที่นั่งบนโซฟา ในขณะที่เอื้ออังกูร ไฟ ไดนาไมต์และสามสีนั่งพื้น


เด็กหนุ่มตัวสูงกางกระดาษแบบแปลนคฤหาสน์ของเท็นที่นั่งวาดมาเมื่อคืนออก พูดว่า “สรุปสถานการณ์ตอนนี้ สิ่งที่เรามีคือคลิปที่เสียตรงช่วงสำคัญ กับไฟล์ภาพนิ่งที่กู้มาได้เท่านั้น”


เอื้ออังกูรสะบัดมือไล่ “โยนไอ้คลิปนั่นทิ้งไป เอารูปมาดู”


สามสียื่นแท็บเล็ตในมือให้เพื่อน บอกว่า “ตอนนั้นมันรีบๆ กูถ่ายผ่านตาข่ายมาอีกทีเลยโคตรไม่ชัด แต่คลับคล้ายคลับคลาว่าน่าจะเป็นผู้หญิงสองคน”


“ผู้หญิงสองคนนี้น่าจะเป็นแม่ลูกกัน” เอื้ออังกูรนึกหน้าชาร์ลอตต์จากเว็บไซต์ที่เคยเห็น เขาซูมหน้าจอแล้วพูดว่า “ชาร์ลอตต์มีสีตาเป็นเอกลักษณ์ แต่รูปนี้ก็เบลอเกินกว่าจะฟันธงได้ว่าเธอเป็นคนไหน”


“ใช้คนแม่รึเปล่า?” สามสีถาม ไดนาไมต์เลิกคิ้ว “แบบนั้นก็แสดงว่าชาร์ลอตต์มีลูกลับๆ งั้นเหรอ?”


“แต่พวกเธออาจจะเป็นพี่น้องกันก็ได้นะ?” โชส่งเสียง เรียกให้ทุกคนหันไปมองภาพอย่างตั้งใจอีกครั้ง เด็กประมงพูดว่า “ดูสิ อีกคนยังสาวๆ อยู่เลย”


“ก็เป็นไปได้” พ่อครัวพยักหน้า เอื้ออังกูรถามสามทหารเสือ “พวกมึงไปเอารูปนี้มาจากไหน”


“มันสอดอยู่ในกระเป๋าเดินทางของชาร์ลอตต์” สามสีตอบ ไฟเงยหน้าจากโน้ตบุ๊กเครื่องเล็กของตัวเองบนตัก พูดว่า “หลายคืนมานี้กูลองเข้าเว็บหาข่าวเกี่ยวกับชาร์ลอตต์ดู จนไปเจอกระทู้หนึ่งพูดถึงคลิปลับของนางแบบสาวตาสองสีที่จู่ๆ ก็ดังเปรี้ยงปร้าง”


“ถ้าข่าวนั้นล่ะก็กูเคยได้ยิน” เอื้ออังกูรพยักหน้า ด้วยธุรกิจของที่บ้านทำให้เขาต้องตามเรื่องแฟชั่นพอสมควร “เขาว่าเคยมีคนลงคลิปลับที่ว่าเอาไว้ แต่ URL อันนั้นเป็นความลับ ต้องหาให้เจอ...”


“เจอแล้ว”


“แต่มันต้องขอพาสเวิร์ด...”


“รออยู่”


หมอยากับว่าที่โบรกเกอร์สบตากัน ฝ่ายหลังเหยียดยิ้มออกมา “ไม่เลว เป็นงานแบบนี้ค่อยคุยกันง่ายหน่อย” เขาหันไปถามสามทหารเสือว่า “พวกมึงจะเข้าบ้านเท็นอีกเมื่อไหร่”


“กูเข้าพรุ่งนี้” เปรมบอก ไดนาไมต์แทรกว่า “เอาจริงๆ กูยังคาใจเรื่องตู้ในห้องของชาร์ลอตต์อยู่นะ”


“ตู้อะไร?” เอื้ออังกูรเลิกคิ้ว สามสีทำหน้านึกได้ “อ๋อ ไอ้ลิ้นชักที่มึงจะไขตอนนั้นน่ะเหรอ”


ไดนาไมต์พยักหน้า “อืม ตอนนั้นดันมีคนขึ้นมาก่อน มันเป็นลิ้นชักอันเดียวที่ล็อคอยู่”


“งั้นพรุ่งนี้ก็เข้าไปดูสิ” โชเอียงคอ เด็กหนุ่มผมสีชมพูเกาหัวแกรก “พรุ่งนี้กูต้องไปรับไอ้บอมบ์อะดิ ช่วงนี้เป็นเหี้ยอะไรไม่รู้ทำตัวมีปัญหา”


“แม่กูก็รับออเดอร์ใหญ่เยอะเหลือเกินช่วงนี้ พรุ่งนี้อาจจะไปไม่ได้” สามสีชี้แจงอีกคน


ไฟพับจอโน้ตบุ๊กลง บอกว่า “เหลือเวลาอีกเกือบสามอาทิตย์ก่อนจะถึงวันแต่งงาน กูว่าให้แต่ละคนไปรวบรวมหลักฐานมาดีกว่า ดูว่ามีอะไรบ้างแล้วเราค่อยวางแผนกันว่าจะเปิดโปงผู้หญิงคนนั้นยังไง”


“อืม ก็ดีนะ” สามสีเห็นด้วย หันไปมองเพื่อนอีกสองคนแล้วพูดว่า “งั้นก่อนจะถึงวันงานพวกกูสามคนจะหาโอกาสเข้าไปเอาหลักฐานที่บ้านไอ้เท็นอีกรอบ”


ไฟพยักหน้ารับ กำชับว่า “อย่าประมาทล่ะ”


“เฮ้อ แต่พูดไปเหมือนเสียเปล่าเลยนะคราวที่แล้วน่ะ” ไดนาไมต์บ่น เปมทัตจุ๊ปาก “ไม่หรอก...” เขาหันไปสบตากับเด็กหนุ่มตัวสูง ฝ่ายหลังพยักหน้า “ฮื่อ อย่างน้อยเราก็ได้รู้ว่าทางนั้นไม่ธรรมดาล่ะนะ”


“งั้นกูช่วยไอ้ไฟจัดการคลิปลับที่ว่าเอง” เอื้ออังกูรอาสา หันไปยักคิ้วให้เด็กหนุ่มผมแดง “เดี๋ยวเอาพาสเวิร์ดมาให้”
เปรมเลิกคิ้ว “มึงจะเอามายังไง?”


“เออน่า กูมีวิธีของกูแหละ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแสยะยิ้ม เสริมว่า “ยังไงมึงสามคนพยายามไปตะล่อมถามรายละเอียดของงานไว้ด้วยก็ดีนะ เผื่อใช้คิดแผนรับมือได้”


“โอเค” สามทหารเสือพยักหน้ารับ เอื้ออังกูรตบมือเปาะแปะ “เอาล่ะ ถ้าเรียบร้อยแล้วก็แยกย้าย...”


“เดี๋ยว!”


โชส่งเสียงเมื่อทุกคนแบ่งงานกันเสร็จสรรพ ถามว่า “แล้วกูล่ะ?”


เอื้ออังกูรกระพริบตา หันไปถามพวกที่เหลือว่า “งานนี้เราลุยแค่หกคนปะ?”


“เปล่า มีเมอีกคน” ไดนาไมต์บอก เอื้ออังกูรใจเต้นผิดจังหวะไปแวบหนึ่ง เขามองหน้าโชอย่างวิเคราะห์ พอสมองประมวลผลเสร็จก็ยิ้มออกมา


“กูมีอะไรให้มึงทำ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”


“เออๆ จะให้กูทำอะไรก็บอกละกัน แค่ถามดู” เด็กประมงหาวหวอด เขายืดตัวบิดขี้เกียจระหว่างที่ทุกคนเริ่มแยกย้ายกันเก็บข้าวของ


เปรมเอนหลังกับพนักโซฟา มองเพื่อนแล้วพูดว่า “กูรู้นะว่ามึงก็อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น แต่แปลกใจ...นึกยังไงมาร่วมกับพวกกูวะ”


“แก้แค้นดิ!” โชตอบแบบไม่ต้องคิด ดวงตาเหมือนแมวคู่นั้นวาวโรจน์


“แก้แค้น? แก้แค้นอะไร มึงโดนทำไรวะ” พ่อครัวขมวดคิ้วอย่างสงสัย โชชะงักอย่างเพิ่งนึกได้


เออว่ะ พวกนี้ไม่รู้นี่ว่าเขาโดนยาปลุกจนต้อง...


“เอ่อ...เอ้อ! ก็แก้แค้นให้กับพวกมึงไง แหม กูฟังแล้วมันสะเทือนใจน่ะ พวกมึงเพื่อนกู กูจะยอมได้ยังไง” ชลันธรพูดพลางเหงื่อแตก เขาหลบสายตาพ่อครัวที่จ้องมาอย่างคาดคั้น


ตายห่า...พล่ามขนาดนี้แม่งรู้แน่ว่าเราแหล


หมับ!


“เฮือก!” โชสะดุ้งเมื่อโดนคว้าไหล่ ตอนนั้นเองที่พ่อครัวร้องว่า


“อย่างนี้นี่เอง! ขอบใจมากนะโช มึงนี่เป็นคนดีจริงๆ!”


“หะ...”


เด็กประมงหน้ากระตุก มองเปมทัตพยักหน้าหงึกหงักอย่างครึ้มอกครึ้มใจ นี่มันไม่สงสัยอะไรเลยเรอะ!!


ก่อนพ่อครัวจะพูดขึ้นอย่างนึกขึ้นได้ “เออ งั้นกูไปเก็บของละ แล้วเจอกันเว้ย!”


“อะ อื้ม เจอกัน...” โชโบกมือหยอยๆ มองสามทหารเสือจับกลุ่มคุยเรื่องตลกโปกฮาด้วยแววตาเหมือนปลาตาย


บางที...ที่ไฟบอกว่า ‘ไม่เห็นเป็นไร’ อาจจะถูกแล้วก็ได้


“เออเนี่ยแล้วกูก็...แว้กอีเหี้ยลื่น!” ไดนาไมต์เล่าๆ อยู่ก็หงายหลังตึง สามสีกับเปรมนิ่งไปชั่วอึดใจ ก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่น “กร๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก”


ชลันธรหลับตาอย่างข่มอารมณ์ เส้นเลือดข้างขมับปูดโปน


ไอ้พวกติ๊งต๊องเอ๊ย!
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-06-2015 23:19:25 โดย iJune4S »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ iJune4S

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-2
    • junejune's page.
(ต่อ)



เบนซ์สี่ประตูคันหรูจอดลงหน้าคฤหาสน์เกียรติวานนท์ในคืนวันศุกร์ ประตูข้างคนขับถูกเปิดออก ผู้มาเยือนคฤหาสน์คือเด็กหนุ่มเส้นผมประบ่าสีดำกับดวงตาสีนิลเข้าคู่ มือทั้งสองข้างเต็มไปด้วยถุงใส่วัตถุดิบ


“คุณเปรมซื้อมาแค่นี้ใช่ไหมครับ?”


เจ้าของคำถามเป็นชายหนุ่มร่างเล็กสวมสูท เขามีเส้นผมสีน้ำตาลตัดสั้นและดวงตาสีเขียว มือขาวกดล็อครถเมื่อพ่อครัวหันไปพยักหน้าให้ 


“ขอโทษที่ต้องให้ช่วยนะออกัส” เปรมพูดระหว่างขนของเข้าครัวเล็ก วันนี้ออกัสเป็นคนไปรับพ่อครัวมาที่คฤหาสน์คนเดียวต่างจากทุกที ฝ่ายหลังบอกว่าเท็นกลับมาก่อนแล้ว กำลังช่วยงานเอกสารของหมอแปดอยู่ในห้อง


“ยินดีครับ คืนนี้ทำอะไรกินเอ่ย?”


ชายหนุ่มลูกครึ่งชวนคุย เปมทัตมองของในมือประกอบ ตอบยิ้มๆ “แกงส้มชะอมไข่ทอดกับแกงจืดหมูสับครับ”


“โห...” ออกัสตาเป็นประกาย เขาเปิดประตูห้องครัวให้เปมทัตก้าวเข้าไปก่อน เดินตามเข้ามาแล้วพูดว่า “แค่ได้ยินชื่อก็หิวแล้ว”
“อยู่กินด้วยกันก่อนสิ” เปรมชวน ออกัสวางถุงวัตถุดิบลงบนเคาน์เตอร์พลางหัวเราะ “ผมยังมีงานเอกสารของคุณท่านที่ต้องจัดการอยู่น่ะครับ”


“ค่อยไปทำก็ได้นี่” พ่อครัวจับแขนขาวซีดที่แทบจะเหลือแต่กระดูกของอีกฝ่ายแล้วขมวดคิ้ว “ทำแต่งานอยู่ได้ นายผอมเกินไปแล้วนะ กินข้าวไม่ตรงเวลาแบบนี้เดี๋ยวก็เป็นโรคกระเพาะหรอก!”


ออกัสอยากจะคัดค้าน แต่พอเห็นดวงตาสีนิลที่จ้องมาอย่างเป็นห่วงเขาก็ได้แต่ยืนก้มหน้า “แต่ว่า...”


“กินก่อนแล้วค่อยไปเถอะ คราวที่แล้วก็ไข้ขึ้นไปทีไม่ใช่เหรอ” เปรมเริ่มหยิบข้าวของออกจากถุง ก่อนจะทยอยเด็ดกับรูดก้านชะอมใส่ชามสแตนเลสใบใหญ่


ออกัสมองตาม ถามว่า “เอ่อ...มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ?”


“ตอกไข่ใส่ชามให้ทีนะ ฉันจะทอดไข่ชะอมก่อน” พ่อครัวบอก เขามองออกัสถอดเสื้อสูทพาดไว้กับโต๊ะ พูดว่า “โห ออกัสถอดสูทแล้วตัวเล็กมากเลย”


“ฮะๆ ดูไม่น่าเชื่อถือสินะครับ” ชายหนุ่มพับแขนเสื้อเชิ้ตกลั้วหัวเราะ เปรมสั่นหัว “ฮื้อ เหมือนเด็กมหาลัยจะตาย น่ารักดี”
ออกัสตอกไข่ใส่ชามสามฟองก่อนจะตีให้ขึ้นฟอง เปมทัตยื่นชะอมที่เตรียมเสร็จแล้วให้ พูดว่า “รบกวนเอาไปคลุกกับไข่แล้วทอดให้ทีนะคร้าบ”


“ได้ครับ” ออกัสรับคำอย่างแข็งขัน เปรมจุ๊ปาก เริ่มเตรียมทำน้ำแกงส้มแล้วพูดว่า “หือ ดูคล่องตัวเหมือนกันนะ”


“เมื่อก่อนเคยทำกับข้าวกินเองอยู่บ่อยๆ ครับ” หนุ่มลูกครึ่งยิ้ม พ่อครัวถามขณะตั้งหม้อ “ทำอะไรบ้าง”


“ก็หลายๆ อย่าง แต่ที่บ่อยสุดก็คงจะเป็นแกงส้มชะอมไข่นี่แหละครับ” ออกัสตอบ เปมทัตเลิกคิ้ว “เอ๊ะ ทำไมล่ะ?”


“นายท่านชอบกินน่ะครับ ตอนไปดูงานต่างประเทศแล้วหาซื้อไม่ได้ก็ต้องคอยทำให้กินอยู่บ่อยๆ” ดวงตาสีเขียวฉายแววเอ็นดู เปรมผิวปากหวือ “แบบนี้นี่เอง งั้นรอบนี้แกงส้มชะอมไข่ให้ออกัสเป็นแม่งานก็แล้วกัน!”


“ไม่ดีมั้งครับ” ออกัสหัวเราะ เปมทัตสั่นหัว พูดว่า “ดีสิ! เสร็จแล้วก็แบ่งไปให้พ่อเท็นกินด้วย รายนั้นก็ทำแต่งานอีกคนเหมือนกัน เฮ้อ ฉันล่ะเป็นห่วงสุขภาพคนบ้านนี้จริงๆ”


ดวงตาสีเขียวคู่งามอ่อนแสงสะท้อนภาพพ่อครัว “คุณเปรมเนี่ย...ใจดีจังนะครับ”


“ฉันก็แค่ขัดใจเวลาเห็นคนไม่ยอมกินข้าวแค่นั้นแหละ” เปมทัตสั่นหัวหน่ายๆ มองนาฬิกาแล้วพูดว่า “ฉันปรุงน้ำแกงส้มไว้ให้แล้ว ฝากออกัสดูให้เดือดแล้วช่วยทำที่เหลือต่อทีนะ”


“ตกลงครับ” ออกัสพยักหน้ารับ เปรมยิ้มกว้างอย่างโล่งใจ “โอเค ฉันจะได้ไปทำแกงจืด” ในหัวปรากฏใบหน้าของใครบางคน เปรมพึมพำว่า “หมอนั่นต้องหิวมากแน่ๆ”


หนุ่มลูกครึ่งรู้ว่าหมายถึงใคร พูดว่า “ฮะๆ เท็นกินเก่งขึ้นเยอะเลยตั้งแต่คุณเปรมมา”


“อยู่คณะสายสุขภาพแท้ๆ แต่ยุ่งจนไม่มีเวลาดูแลตัวเองเลยนะ” เปรมบ่นอย่างนึกสงสาร เขาหันไปล้างมือก่อนจะเริ่มปั้นหมูสับระหว่างรอน้ำในหม้อต้มเดือด


“นายท่านเองก็เอาแต่ประชุม ผมอยากให้เขาพาเท็นไปเที่ยวพักผ่อนบ้าง” ดวงตาสีเขียวหม่นแสงลงแวบหนึ่ง เปมทัตนึกถึงหน้าเจ้าบ้านก่อนจะสั่นหน้าบรื๋อ สดเสียงพูดว่า


“ทั้งที่หน้าเหมือนกันแท้ๆ แต่คนพ่อนี่น่ากลัวสุดๆ ไปเลย”   


ออกัสกระพริบตาปริบๆ สุดท้ายก็ระเบิดหัวเราะออกมา พูดว่า “ฮ่าๆ นั่นสินะครับ เขาชอบทำหน้าตาน่ากลัวอยู่เรื่อย”


“ใช่ไหม ยิ่งตอนที่เข้ามาอุ้มนายออกไปนี่โคตรน่ากลัวอะ” เปมทัตเสียงสั่น ออกัสเทชะอมคลุกไข่ลงกระทะ พูดว่า “แต่เห็นแบบนั้น พวกเขาก็เหมือนกันกว่าที่คิดนะครับ”


“อาใช่ ฉันก็ว่าหน้าพวกเขาเหมือนกันมากๆ...” พ่อครัวพยักหน้าระหว่างปรุงน้ำซุปในหม้อ ทว่าออกัสค้านว่า “ผมหมายถึงนิสัยน่ะครับ”


“เห...” เปรมลากเสียงอย่างสนใจ ถามว่า “ยังไงเหรอ?”


“พูดไปก็อาจจะเสียกับนายท่านอยู่สักหน่อย” หนุ่มลูกครึ่งลดเสียงแทบกระซิบ แล้วบอกว่า “แต่ว่าจริงๆ แล้วนายท่านน่ะ...”


ปัง!


“เฮือก!” เปรมสะดุ้งเฮือกเมื่อประตูครัวถูกเปิดออกอย่างแรง ก่อนจะเบิกตากว้างยามเห็นผู้มาใหม่


“นายท่าน...”


ออกัสเรียกเสียงแผ่ว เจ้าบ้านแห่งคฤหาสน์ย่นคิ้วเล็กน้อย พูดว่า “ออกัส?” ดวงตายาวรีหลังแว่นไร้กรอบหันมาจ้องพ่อครัวผมสีดำคล้ายคาดคั้น


“ทำอะไร”


เสียงทุ้มนั้นทรงพลังเสียจนพ่อครัวต้องลอบกลืนน้ำลาย กำลังจะอ้าปากตอบทว่าร่างสูงกลับแทรกขึ้น


“ฉันได้กลิ่นชะอม”


“...”


“ใครทำอะไร”


ใบหน้าเย็นชาทว่าดวงตากลับเป็นประกายแบบนั้นทำให้เปรมนึกถึงใครบางคน เผลอตอบไปตามความเคยชินว่า “พวกเรากำลังทำแกงส้มชะอมไข่กัน”


ตอนนั้นเองที่ร่างใหญ่ก้าวเข้ามา เปมทัตผงะเมื่ออีกฝ่ายชะโงกหัวมองหม้อต้มของเขา แล้วตวัดตาถามเสียงทุ้ม


“ไหนแกงส้ม? ไม่เห็นมี”


“...หม้อนี้ครับนายท่าน” ออกัสที่มองอยู่นานแล้วตอบเสียงเนิบ เสริมว่า “อันนั้นแกงจืดครับ”


หมอแปดนิ่งไป เขาหันไปหาเลขาส่วนตัว พูดว่า “แบบนี้นี่เอง” ดวงตายาวรีหลังแว่นไร้กรอบเกิดประกาย เปรมมองร่างสูงใหญ่ที่ยืนทื่ออยู่อย่างนั้นด้วยแววตาเหมือนปลาตาย ออกัสพูดว่า


“ถ้าเสร็จแล้วผมจะยกไปให้ทานนะครับ”


พ่อครัวจ้องเจ้าบ้านตาไม่กระพริบ ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อร่างสูงพูดว่า


“เอากุ้งเยอะๆ”


“ทราบแล้วครับ” เลขาคนเก่งยิ้มรับ เปรมมองตามหลังจนคนตัวใหญ่เดินหายออกไปจากห้อง ก่อนจะหันขวับไปหาหนุ่มลูกครึ่ง ฝ่ายหลังกระพริบตา พูดอย่างนึกขึ้นได้ว่า “อ๋อ ต่อนะครับ ที่ผมบอกว่านายท่านกับเท็นเหมือนกันน่ะคือ...”


“อา ไม่ต้องหรอก”


ตอนนั้นเองที่เปมทัตยกมือห้าม พ่อครัวหันไปใส่เต้าหู้ไข่ ผักกาดขาว ขึ้นฉ่ายและแครอทลงในหม้อต้มซุป พูดเสียงเบาคล้ายกระซิบ


“ฉันว่าฉันเข้าใจแล้วล่ะ...”



   
ใช้เวลาไม่นานแกงส้มชะอมไข่กับแกงจืดหมูสับก็ถูกเทใส่ชามสีขาวพร้อมเสิร์ฟ ออกัสเรียงอาหารลงบนโต๊ะกินข้าว ในขณะที่เปมทัตกำลังหันหลังคดข้าวอยู่หลังเคาน์เตอร์


หมับ!


สัมผัสอันคุ้นเคยจู่โจมจากด้านหลังพ่อครัว ตามด้วยเสียงทุ้มที่กระซิบข้างหู


“กุ๊ก...”


เปรมยิ้มออกมา คดข้าวพลางพูดว่า “หิวแล้วล่ะสิ”


“คิดถึงจัง...”


เด็กโข่งบอก ก่อนริมฝีปากเหยียดตรงจะประทับลงบนแก้มของนายเปรมดังจุ๊บ ฝ่ายหลังเบิกตากว้าง หันหลังไปตีแขนคนตัวใหญ่ดังเพียะ “ทำอะไรเนี่ย! ออกัสอยู่นะ!”


“ทำไมล่ะ” ดวงตายาวรีจับจ้องแก้มขาวที่บัดนี้ขึ้นสีเรื่อ ก่อนจะชะโงกหน้าเข้าไปหอมอีกข้างดังฟอด


“ก็เราคิดถึงกุ๊กนี่...”


“นายนี่มัน...” พ่อครัวจะเปิดปากด่า ทว่าดวงตายาวรีคู่นั้นกลับฉายแววออดอ้อนเสียจนเขาต้องเป็นฝ่ายก้มหน้าเสียเอง


ร้อนตั้งแต่โหนกแก้มไปยันหูเลยโว้ย! ไอ้เจ้าบ้านี่!


“แล้วกุ๊กล่ะ...”


นิ้วยาวขาวซีดสัมผัสหูนิ่มที่ขึ้นสีเรื่อ มือหนาเชยคางเล็กขึ้นสบตา หัวใจพ่อครัวเต้นไม่เป็นระส่ำ หรี่ตามองริมฝีปากเอาแต่ใจที่ขยับเป็นคำว่า


“คิดถึงเราไหม?”


เสียงทุ้มนั้นคล้ายเว้าวอนอยู่ในที ดวงตาพ่อครัวสะท้อนใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังโน้มเข้ามา เปรมหายใจติดขัด ก่อนจะหลับตาปี๋


โคร้ม!


“เฮือก!” เปมทัตสะดุ้ง ยกมือผลักร่างสูงออกโดยอัตโนมัติ เขาหันไปมองออกัสที่ยืนกระโดดเหยงๆ อยู่ตรงโต๊ะกินข้าว ร้องถามว่า “ออกัสเป็นอะไรรึเปล่า!”


“ผมสะดุดขาโต๊ะน่ะครับคุณเปรม” ชายหนุ่มร้องครางเบาๆ เขาทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ตามด้วยเปมทัตที่วิ่งออกไป พ่อครัวย่อเข่าดูอาการเลขาคนเก่ง บอกว่า “ถอดถุงเท้าสิ”


“เอ๊ะ?” ออกัสกระพริบตา พ่อครัวเงยหน้า “จะได้ดูไงว่าช้ำตรงไหนไหม”


“อ๋อ งั้นขะ...ขออนุญาตเสียมารยาทนะครับ” ดวงตาสีเขียวสะท้อนภาพเปมทัตที่จับข้อเท้าของเขาอย่างระมัดระวัง พ่อครัวถอดถุงเท้าออกช้าๆ


พลันชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงรังสีอมหิตอันแรงกล้า ออกัสเงยหน้า สบกับดวงตายาวรีที่จ้องเขาเขม็งจนคนถูกมองต้องหลุดยิ้มออกมา เขาเห็นแล้วแหละว่าเมื่อกี้เท็นกำลังจะทำอะไร แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็อยากจะแกล้งหมอนั่นอยู่ดี


ใช่แล้ว ออกัสไม่ได้เตะขาโต๊ะจริงๆ หรอก...


เลขาคนเก่งลอบยักคิ้วให้เด็กโข่งอย่างท้าทาย แม้จะรู้สึกผิดกับคุณเปรมที่ต้องโดนหลอกไปบ้าง แต่ทั้งหมดนี้เขาทำเพื่อพ่อครัวเลยจริงๆ นะ


“เอ...ไม่มีบาดแผล แต่อาจจะขึ้นรอยช้ำทีหลังก็ได้ ยังไงออกัสทายากันไว้ก็ดีนะ เจ็บตรงไหน...เฮ้ย! เท็น! จะทำอะไรน่ะ!” เปมทัตร้องลั่นเมื่อเด็กโข่งเดินมาหยุดอยู่ด้านหลัง


“ออกัส...”


เสียงทุ้มนั้นเย็นเยียบ ทศทิศเงื้อกระทะในมือขึ้นด้วยใบหน้าหล่อเหลาที่ถูกเงามืดทาทับไปเกือบค่อน


“อย่าอยู่เลย!”


ออกัสเบิกตากว้าง ลุกพรวดจากเก้าอี้วิ่งหนีแทบไม่ทัน ร้องลั่น


“คุณเปรมช่วยด้วย!”


“อย่าหนีนะ!” เท็นถือกระทะวิ่งตาม ก่อนในห้องครัวจะเกิดเสียงอึกทึกครึกโครมอย่างวุ่นวาย


เปรมมองเลขาคนเก่งที่วิ่งหลบกระทะจากเด็กโข่งได้อย่างพลิ้วไหวโดยปราศจากอาการเจ็บปวดด้วยแววตาเหมือนปลาตาย ในมือเขายังกำถุงเท้าของอีกฝ่ายไว้อยู่เลย


“นี่คนบ้านนี้เห็นฉันเป็นอะไรกันแน่...”



****************************************************** *

สวัสดีค่าาาา า
 :katai4:
/เปิดตัวด้วยเอฟเฟกต์พลุ 20 ดอก
โดนตบ 5555555555 5 กรี๊ดดดด ด หายไปตั้งสามอาทิตย์แน่ะ

คิดถึงคนอ่านจังเลยยย ย ย้อนไปอ่านตอนที่ 21 ได้นะคะ เผื่อบางคนลืมแล้ว

ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามนิยายบ้า ๆ บอ ๆ เรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นและกำลังใจอันยิ่งใหญ่ค่ะ 555555 5
ตอนหน้าจะพยายามมาลงให้เร็ว ๆ นะคะ ถ้าไม่ขัดข้อง 555555 5

ป.ล. ไปเล่นแท็ก #เสื้อกาวน์รุกเสื้อกุ๊กรับ ในทวิตเตอร์กันได้น้าา า

 :katai2-1:

เจอกันตอนที่ยี่สิบสามค่าาาาา า

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ มูมู่

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 20
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด มาแล้ว
ยาวมากกกกกกกกกกกกกก สะใจสุดๆ

ขอให้เด็กๆทำภารกิจสำเร็จด้วยเถิดดด
ถ้าหมอแปดนิสัยเหมือนเท็น นุ้งเปรมน่าจะจับอะไรซักอย่างได้มั้ยอ่ะ
#มโนเป็นเรื่องเป็นราวไปอีก 555

ออฟไลน์ PaTtO

  • อาซามิซามะ.. ทาคาบะ4ever
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1638
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +55/-3
หมอแปดกับเท็นเหมือนกันเรื่องอาหารสินะ มองอาหารตาวาวเชียว
และไม่รู้อะไรเกี่ยวกับอาหารเลย :laugh:
เอื้อจะแกล้งอะไรครูคณิตอีกคะ
ไม่สงสารกันบ้างหรอ เมตัวนิดเดียว

ออฟไลน์ แค่ความทรงจำ

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 65
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
หมู่แก๊งค์เพื่อนนี่ฮากันจริงๆ   :m20: :m20: :m20:

เอาใจช่วยทุกๆคน

ลุ้นๆ ต่อไป

ออฟไลน์ Nunun_B2UTY

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2

ออฟไลน์ QXanth139

  • ♡동해 #Always13
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2315
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
เอื้ออังกูรนี้ชั่วแบบปัญญาอ่อนดีนะ ฮาฉากถ่ายรูปที่ร้านอ่ะ :laugh:
 คุยกับแม่เหมือนคุยกับเพื่ออีก
ไฟโชยังเป็นความลับอยู่
ออกัสไม่น่าเลย :ling1:

ออฟไลน์ natt lUcky

  • อะโย่ อะเย่
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 312
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1
มาต่อแล้วๆ แต่อยากให้ยาวกว่านี้ได้ไหมน้า อิอิ
ทีนี้จะทำสำเร็จกันรึเปล่า
อยากรู้ๆ

ออฟไลน์ ☾❤Nyanpire❤☽

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1836
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-2
ตอนนี้ยาวมากกกกกกกกกกกกสะใจ
รู้สึกเรื่องหมอแปดกับชาร์ลอตต์มันแปลกๆ
มันต้องมีอะไรซักอย่างถึงต้องแต่งงาน
หรือคิดไปเองหว่า


คิดถึงเท็น ออกมานิดเดียวเอง
แผนการครั้งนี้ขอให้สำเร็จเถอะ
แก้แค้นให้โช ด้วย

ออฟไลน์ วัวพันปี

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +540/-3
 :hao6:แกงส้ม หิววววววว

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด