Special Part.Love Course ! หมอยาหล่อร้ายกับเจ้าชายแห่งท้องทะเลย้อนกลับไปที่ห้างสรรพสินค้าในวันเสาร์ หลังแยกจากเปรมกับเท็นแล้วชลันธรก็ก้าวขาขึ้นบันไดเลื่อนไป ทันทีที่เท้าของเขาสัมผัสพื้นชั้นสาม ร้านหนังสือก็ปรากฏแก่สายตา
โชเดินไปที่เคาน์เตอร์ ขอให้พนักงานสาวค้นหาตำแหน่งหนังสือให้เพราะไม่อยากเสียเวลาหา
“เหลือเล่มสุดท้ายตรงแผงหนังสือเรียนฝั่งซ้ายชั้นบนสุดค่ะ” เธอบอกด้วยรอยยิ้ม เด็กประมงพูดขอบคุณเบาๆ ก่อนจะเดินไปตามพิกัดที่ได้รับ
แม้ต่อหน้าเพื่อนๆ จะยิ้มได้แต่สภาพจิตใจของชลันธรตอนนี้ไม่สู้ดีนัก เขาเพิ่งโดนแฟนคนล่าสุดบอกเลิกไปเมื่อวันพุธที่ผ่านมาด้วยเหตุผลว่าโชเป็นผู้ชายประสาอะไรไม่ยอมแตะต้องตอนเธอเมา
คิดแล้วโชก็ปวดหัว ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าตัวเองทำผิดตรงไหน แถมเมื่อวานยังประกาศคะแนนสอบอีกยิ่งแล้วใหญ่
วิชาเคมีที่โชทุ่มเทอ่านก่อนสอบถึงสามอาทิตย์ สามอาทิตย์ที่เขาเข้าหอสมุดบ่อยกว่าห้องนอนตัวเอง สามอาทิตย์นรกที่แทบจะกินนอนอยู่ในนั้น ทั้งที่พยายามขนาดนี้ทว่าผลที่ได้กลับโหดร้ายนัก โชได้คะแนนน้อยที่สุดในเซค มีเปอร์เซ็นต์ติดเอฟสูงจนอาจารย์ประจำวิชาไล่เขาไปกดดรอปแทบไม่ทัน แต่เขาไม่อยากดรอป
จนถึงตอนนี้ชลันธรก็ยังมีความหวังจะสู้ต่อ โดยเขามีโอกาสแก้ตัวคือสอบเก็บคะแนนรอบหน้าในอีกสองอาทิตย์ให้หลัง นี่เป็นเหตุผลที่เขามาซื้อหนังสือในวันนี้ เขาต้องการทุ่มสุดตัวให้กับมันอีกครั้ง
เพื่อนในกลุ่มพอเห็นความตั้งใจก็เชียร์ให้เขาสู้ต่อ แต่ไม่มีอะไรน่าเจ็บใจเท่าคำพูดของใครบางคนที่แวบเข้ามาเป็นระยะราวกับอยากจะตอกย้ำสมองอันน้อยนิดของเขาอีกแล้ว
‘ประมงจบไปทำไร จับปลาเร้อ’
นั่นเป็นประโยคแรกที่เจ้าของผมสีแดงยาวระต้นคอพูดถึงคณะของเขา
‘แค่จับปลาไปลงเรียนเหวี่ยงแหก็พอม้าง’
สายตาพราวระยับที่จับจ้องมาคล้ายกำลังหยอกล้อคู่นั้นทำให้โชหงุดหงิด
‘เด่อ กระจอกว่ะ’
เสียงทุ้มเปี่ยมเสน่ห์ที่พูดจากวนประสาทครั้งแล้วครั้งเล่า
แล้วเขาก็ดันโดนไล่ไปดรอปวิชาที่ ‘ไม่เห็นจะยาก’ ที่ว่านั่นไง เลยรู้สึกเจ็บใจมาก...แล้วก็เกลียดมันมากๆ ด้วย!
ย้อนกลับไปตอนเจอกับไฟครั้งแรก วันที่พวกเขามีเรื่องกัน โชกับเพื่อนอีกสองคนบังเอิญไปยืนซื้อน้ำบนโรงอาหาร ใกล้ๆ เป็นกลุ่มหมอยาที่นั่งเปิดปากแซวคนที่เดินผ่านไปมาอย่างคะนองปาก
“มึง สามคนนั้นอยู่คณะอะไรวะ” ใครบางคนถามขึ้น อีกคนตอบว่า “ช็อปสีนี้ประมงแน่นอน”
ตอนนั้นเองที่ไฟพูดขึ้น “ประมงจบไปทำไร จับปลาเร้อ” ก่อนทั้งกลุ่มจะฮาครืน โชหันขวับทว่ากลับถูกเพื่อนอีกคนแตะแขนไว้ พร้อมพูดว่า “ปล่อยมันเห่าไปเถอะ”
“แต่...”
“แลกไม่คุ้มเสียหรอก เฉยๆ ไว้” เพื่อนของโชกำชับ
“แค่จับปลาไปลงเรียนเหวี่ยงแหก็พอม้าง” เสียงทุ้มนั้นยังคงกวนประสาท โชกำหมัดแน่น
“เด่อ กระจอกว่ะ”
ผัวะ!
รู้ตัวอีกทีโชก็พรวดเข้าไปต่อยปากหมอยาตัวแสบเสียแล้ว
ไม่ได้มาเรียนเองอย่าดูถูกนะเว้ย!
เขาเลือกคณะนี้ด้วยความตั้งใจของตัวเอง แค่เพราะไม่ใช่สายวิทย์สุขภาพเลยดูกระจอกงั้นเหรอ ไอ้บ้าเอ๊ย จะคณะไหนก็ยากทั้งนั้นแหละ!
คะแนนถึงได้เป็นแบบนี้ไง...โชน้ำตาตกใน
ชลันธรเดินมาหยุดตรงแผงหนังสือเรียนด้านใน เล่มที่เขาต้องการวางอยู่ชั้นบนสุด เด็กหนุ่มขมวดคิ้ว เขย่งจนปวดน่องแต่ก็ยังหยิบไม่ถึง
บ้าฉิบ...
ปรากฏเงาหนึ่งทาบทับจากด้านหลัง ใครบางคนหยิบหนังสือเล่มนั้นลงมาให้แล้ว โชหันไปมอง กำลังจะกล่าวขอบคุณแต่พอเห็นหน้าอีกฝ่ายเด็กประมงก็แยกเขี้ยวออกมา
“มึง!”
เจ้าของเรือนผมสีแดงสดเลิกคิ้ว ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ “อ้าว โทษที ไม่ยักรู้ว่ามีคนยืนอยู่ด้วย” ใบหน้าหล่อเหลาจุดยิ้มร้ายตอนท้ายประโยค โชเม้มริมฝีปาก แบมือแล้วตะคอกใส่คนตัวสูง
“เอามา!”
ไฟเลิกคิ้ว “อะไร มึงจะเอาเล่มนี้เหรอ”
“กูไม่จำเป็นต้องบอกมึง เอามา!”
ไฟนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “เสียใจด้วยนะ กูก็จะเอาเล่มนี้เหมือนกัน”
โชเบิกตาโพล่ง เขาไม่ยอมจริงๆ ด้วย “อย่ามางี่เง่านะ กูเจอก่อน!”
“แต่กูหยิบถึง” ไฟยักคิ้ว โชอ้าปากค้างอย่างเถียงไม่ออก “ไอ้...”
ชลันธรมองคนตัวใหญ่ยืนลอยหน้าลอยตา สุดท้ายก็ยอมพูดว่า “ขอเหอะ...กูต้องใช้”
ไฟนึกไม่ถึงว่าคนตัวเล็กจะพูดแบบนี้ออกมา แต่ก็บอกว่าไร้เยื่อใยว่า “...กูก็ต้องใช้” ก่อนจะเดินยิ้มเผล่ออกไปจ่ายตังค์ โชรีบวิ่งตามไปโวยวาย “หยุดนะ!”
“เรื่องดิ” ไฟยืนชำระสินค้าพร้อมหนังสืออีกเล่มอย่างสบายอารมณ์ โชมองอีกฝ่ายผิวปากด้วยแววตาคุกรุ่น ลอบกำหมัดแน่น ทำไมไอ้บ้านี่ต้องมาเอาชนะกับเขาด้วย!
อีกสองอาทิตย์ก็จะสอบแล้ว นี่เขาต้องทนอ่านหนังสือของมหาลัยจริงๆ เหรอ...
ตอนที่กำลังกลุ้มใจ อยู่ดีๆ หนังสือเจ้าปัญหาก็ถูกยื่นมาให้ ดวงตาเหมือนแมวตวัดมองอย่างไม่ไว้ใจ โชถามเสียงแข็ง “อะไร”
“กูให้ยืม”
โชชักสีหน้า “กูจะซื้อต่อ!”
“กูไม่ขาย” ไฟยักคิ้ว โชจ้องอีกฝ่ายจนแทบจะกินเลือดกินเนื้อ ถามว่า “มึงต้องการอะไร”
ไฟไม่ตอบแต่บอกว่า “หนังสือเล่มนี้กูต้องใช้ แต่ยังไม่ใช่เร็วๆ นี้ จะให้มึงเอาไปยืมก่อน”
“ไม่เอา” โชปฏิเสธ “ยืมมึงมาก็ไม่ต่างอะไรจากยืมหนังสือห้องสมุดหรอก”
“ต่างดิ” ไฟคัดค้าน “เชิญมึงเขียนสรุปลงในเล่มได้ตามสบาย”
โชตาเป็นประกายโดยไม่รู้ตัว หลุดถามว่า “เขียนอะไรก็ได้เหรอ...”
ไฟไหวไหล่ “เออ อย่าเขียนด่ากูเป็นพอ”
“กูไม่ทำแบบนั้นกับหนังสือเรียนหรอก” โชแยกเขี้ยว ตัดสินใจยื่นมือไปหนังสือเคมีมา เขาไม่มีเวลาแล้ว จังหวะกำลังจะเก็บหนังสือนั่นเอง พลันโชก็โดนชนจากด้านหลัง
ตุบ!
เป้ใบใหญ่ร่วงหล่น ของด้านในกระจายออกมากองเต็มพื้น โชหน้าเสีย ด้านในนั้นเป็นกระดาษคำตอบข้อสอบกับสรุปวิชาเคมีที่เขาทุ่มเทเขียน เด็กประมงก้มเก็บด้วยอาการรีบร้อน
พรึบ!
“อะไรเนี่ย...”
แต่ยังช้ากว่าไฟหลายขุม กระดาษคำตอบข้อสอบวิชาเคมีของเขาหลุดไปอยู่ในมืออีกฝ่ายเป็นที่เรียบร้อย ไฟมองตัวเลขบนหัวกระดาษแล้วจุ๊ปาก โชพุ่งตัวไปคว้าคืนมาทว่าอีกฝ่ายกลับหลบได้ทันท่วงที
“โห...เก้าเต็มหกสิบ นี่มึงหลับตาทำเหรอ” หมอยาเยาะเย้ย มองโจทย์ที่ง่ายราวกับคำถามของเด็กอนุบาลสำหรับตัวเองแล้วอดพูดค่อนขอดไม่ได้ “อะไร เจนเคมง่ายๆ แค่นี้ยังทำไม่ได้ มัวแต่เที่ยวกับแฟนจนไม่ได้อ่านหนังสืออะเด้”
โชหมดแรงต่อล้อต่อเถียง เขาก้มหน้าก้มตาเก็บของใส่เป้เงียบๆ พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่น “อยากจะพูดอะไรก็ตามใจเถอะ”
ยังไงเขาก็ไม่มีทางชนะคนๆ นี้ได้อยู่แล้วไฟเหลือบมองเศษกระดาษกรีนรีดบนพื้น ต้นกระดาษจั่วหัวชื่อวิชาเอาไว้อย่างชัดเจน จากสีสันและรายละเอียดดูปราดเดียวก็รู้แล้วว่าเป็นสรุปที่ทำอย่างตั้งใจแค่ไหน
แต่ถึงแบบนั้นเขาก็พลั้งปากทำร้ายจิตใจอีกฝ่ายไปเสียแล้วแม้จะรู้สึกผิดอยู่ข้างใน แต่ก็พูดไปว่า “ได้น้อยขนาดนี้ไปดรอปเหอะ”
“หุบปาก!” โชเงยหน้า ดวงตาเหมือนแมวคู่นั้นสั่นวูบ ไฟชะงัก อีกฝ่ายจ้องตาเขาไม่กระพริบ
“อย่ามาดูถูกกันนะ” รู้สึกได้เลยว่าคนพูดพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น “เออ กูโง่แล้วไงล่ะ โง่แล้วต้องมาฟังคนเก่งอย่างมึงทับถมแบบนี้ด้วยเหรอ”
โชระบายออกมาในที่สุด “อย่างมึงจะไปเข้าใจอะไรวะ! กูจะติดเอฟมันก็เรื่องของกูเว้ย!”
อึดใจต่อมาเด็กประมงก็ได้สติ ความเงียบโรยตัวครู่หนึ่ง ไฟมองกระดาษคำตอบในมือ พูดโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
“ติวให้แมะ”
“อะไรนะ?” โชเงยหน้าอย่างไม่เชื่อหู พอมั่นใจว่าได้ยินถูกก็รีบพูดว่า “ไม่จำเป็น!”
“ติวกับกูรับประกันเกรดไม่ต่ำกว่าซีแน่นอน”
“อึก...” โชสะอึกเมื่อโดนจี้ถูกจุด ไฟเสริมยิ้มๆ “เภสัชกับเคมีเป็นของคู่กันอยู่แล้ว มั่นใจได้เลยว่าหัวของกูเป็นคลังความรู้ให้มึงได้สบายมาก”
หมอยาถามย้ำ “ว่าไง?”
“ฮึ่ม” โชขมวดคิ้ว ตัดสินใจพูดว่า “เออก็ได้”
ไฟจุ๊ปาก “นี่จะให้กูไปสอนมึงด้วยท่าทางแบบนั้นจริงๆ น่ะเหรอ”
“อะไรของมึงเนี่ย!” โชโวยวาย แค่นี้เขาก็เสียงเชิงให้อีกฝ่ายมามากพอแล้วนะ
“ของแลกเปลี่ยนอะ?”
“จะเอาเหี้ยอะไรอีก” ชลันธรถามด้วยใบหน้าหมดอาลัยตายอยาก ไฟยิ้มร้าย ตอบว่า “แฟนคนล่าสุดของมึงไง”
“...ควาย เลิกกันไปนานแล้ว” ดวงตาเหมือนแมวคู่นั้นเหี่ยวแห้งเหมือนปลาตาย ไฟได้ยินแล้วตาเป็นประกายขึ้นมาแวบหนึ่ง “จริงอะ?”
“เออ” โชกระแทกเสียง แม่งเอ๊ย จะย้ำทำไมวะ!
“อืม...งั้นเปลี่ยนเป็นหอมแก้มกูละกัน” ไฟยื่นแก้มให้ โชทำหน้าเหยเก “แหยะ มึงเป็นเกย์เหรอ”
“...ห่า สั่งมึงทำเหี้ยไรกูก็เป็นเกย์หมดอะ” ไฟพูดอย่างนึกหงุดหงิด
“ก็ดูมึงสั่งแต่ละอย่างดิ!” โชเถียง
หมอยาถามย้ำ “จะทำไม่ทำ?”
“ไม่!”
“เอฟไปซะ เอฟไปซะ...”
“อย่ามาแช่งกูนะโว้ย!”
“เร็ว” ไฟยื่นหน้าเข้ามาหา บอกด้วยท่าทีกึ่งระอา “ฟอดเดียวทำลีลาไปได้ แมนๆ หอมกันเขาไม่คิดอะไรอยู่แล้ว” ก่อนจะแสยะยิ้มออกมา “เอ๊ะ หรือว่ามึงคิด?”
“คิดเหี้ยอะไรล่ะ หอมแก้มใช่ไหม ได้!” โชถกแขนเสื้อ เขายืนหลับตาสูดลมหายใจ เว้นจังหวะจนไฟที่ค้างท่าไว้นานแล้วบ่นว่า
“ไอ้ห่า ได้ยังเนี่ย”
“เดี๋ยวสิวะ! ขอเวลากูทำใจ...”
ฟอด!
“!!!”
“ช้า” ไฟยักคิ้ว เขาชิงหอมแก้มคนตัวเล็กก่อนเป็นที่เรียบร้อย
โชขยับปากจะด่า ทว่าไฟกลับหยิบกระดาษคำตอบไปเก็บไว้แล้วพูดว่า “ตั้งแต่อาทิตย์หน้าเจอกันตอนเย็นที่ห้องสมุด” ไม่วายสะบัดกระดาษในมือไหวๆ “อย่าสายล่ะ~”
“ไอ้...”
โชขมวดคิ้วมองตามหลัง แก้มของเขาขึ้นสีจัดอย่างหาสาเหตุไม่ได้
****************************************************** *
สวัสดีค่าาาา า

ฮืออออ อ ปั่นเสร็จสักที
ตอนนี้ใช้เวลานานมากเลย ไม่รู้ทำไม 555555555 5
ตอนหน้าถ้าไม่ผิดพลาดอาจจะเป็นตอนพิเศษรับสงกรานต์นะคะ
เป็นตอนที่ 15.5 ค่ะ ไม่ต้องตกใจไปน้า 55555555 5
ขอบคุณทุกการติดตามและทุกกำลังใจนะคะ

เจอกันตอนหน้าค่าาา า