(ต่อ)
ช่วงบ่ายกว่าๆ พ่อ แม่และพี่ชายของธีร์ก็ขอตัวกลับก่อนเพราะเจ้านายพร้อมด้วยปฐพีมาเยี่ยมถึงโรงพยาบาล แม้ว่าจะอยากอยู่ใกล้ๆ กับสองหนุ่มฝาแฝดที่เป็นถึงผู้มีอำนาจของประเทศเท่าใด แต่ก็ไม่อยากจะก้าวล้ำเรื่องของพวกเขามานัก
ครอบครัวของธีร์รู้สึกภูมิใจและยินดีเป็นอย่างมาที่ลูกชายของพวกเขา ได้รู้จักและทำงานกับปฐพีและอัคนี
“สวัสดีครับเจ้านาย สวัสดีครับคุณดิน” ทักทายได้แค่คำพูดเท่านั้น เพราะยกมือทำความเคารพไม่ได้ ซึ่งสองฝาแฝดก็พยักหน้ารับน้อยๆ
“เป็นไงบ้างล่ะแก” อัคนีถาม
“ก็ตามที่เห็นนั่นแหละครับ”
“มีอารมณ์กวนประสาทฉันแล้ว แสดงว่าจิตใจดีขึ้น กับไอ้พัฒน์เคลียร์กันแล้วใช่ไหม” อัคนีถามยิ้มๆ
“ก็ประมาณนั้นครับ ตอนนี้มันเป็นลูกน้องผมอยู่”
“ก็ดีแล้ว ที่มึงหายเฮิร์ทได้ ฉันเพิ่งเคยเห็นแกร้องไห้จะเป็นจะตายเพราะผู้ชายไม่รักนี่แหละ”
“หยุดล้อได้ไหมล่ะครับ มันอายนะเนี่ย”
“จะอายอะไร เรื่องที่แกกับไอ้พัฒน์รักกันน่ะหรือ” ปฐพีที่เงียบอยู่นานถามขึ้นเสียงเรียบ ทำเอาธีร์หันไปมองอย่างแปลกใจที่คนจริงจังอย่างปฐพีจะแซวคนอื่นเป็นด้วย
“คุณดิน ผมกับมันไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย”
“หึ เดี๋ยวก็เป็น”
“คุณดินนี่ล่ะก็ ไม่กลัวว่าเรื่องของพวกเราจะทำให้บริษัทเสื่อมเสียหรือครับ” ธีร์ถามเสียงเครียด มองหน้าปฐพีกับอัคนีสลับกันไป
“มันไม่ได้ผิดกฎบริษัทนี่ พวกแกรักกันก็ไม่เห็นผิด ส่วนลูกค้ากับหุ้นส่วน ถ้าอยากจะถอนหุ้นหรือยกเลิกสัญญา ก็ต้องเสียค่าปรับหลายร้อยล้านเลยล่ะ ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกไอ้ธีร์” อัคนีพูดบอก ซึ่งมันก็ทำให้ร่างโปร่งสบายใจขึ้นหน่อยๆ
“ขอบคุณที่เข้าใจครับ”
“ก็ยอมรับแล้วล่ะสิว่ารักกัน” ปฐพีถาม
“ผมน่ะรักมัน แต่ว่ามันยังไม่เห็นจะบอกว่ารักผมตรงไหน แค่ขอโทษกับขอโอกาส” ธีร์บอกเสียงหงอย ที่กล้าพูดว่ารักพัฒน์เต็มปากเต็มคำอย่างไม่อายนั้น ก็เป็นเพราะอัคนีรู้อยู่แล้ว ปฐพีเองก็คงจะทราบไม่ต่างกันเพราะยังไงทั้งคู่ก็อยู่คอนโดห้องเดียวกันแต่นอนกันคนละห้องก็เท่านั้น
พี่น้องกันมีอะไรก็พูดบอกกันเสมอนั่นแหละ
“พัฒน์มันเป็นคนไม่ชอบพูด แกก็รู้” ปฐพีแก้ตัวแทนลูกน้องคนสนิท
“ครับ ผมทราบ แต่มันก็อยากจะได้ยินนี่ครับ สักครั้งก็ยังดี”
“ไอ้พัฒน์ชอบแสดงแกมากกว่าคำพูด ถ้าเป็นฉัน ฉันก็จะไม่พูด แต่สำคัญคือการกระทำต่างหาก คำพูดน่ะ มันจะพูดออกมายังไงก็ได้ แต่จำไว้เลยนะไอ้ธีร์ ไม่มีใครทนทำในสิ่งที่ตนไม่เคยทำเพื่อคนที่ไม่สำคัญไม่ได้หรอกนะ” สิ้นเสียงของอัคนี ธีร์ก็นิ่งไป ครุ่นคิดตามที่เจ้านายทั้งสองพูดบอกเขา
เห็นปฐพีกับอัคนีไม่ค่อยสนใจใครแล้วนั้นกับลูกน้องอย่างพวกเขานั้น มักจะได้รับความเป็นห่วงเสมอ สำหรับธีร์ ถ้าไม่มีอัคนี ก็ไม่มีธีรไนยในวันนี้เช่นกัน...
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะดูมันไปก่อนก็แล้วกัน เอ่อ...คุณเพลิงครับ”
“มีอะไร” ถามไปเมื่อเห็นสายตาไม่แน่ใจของลูกน้องของตน
“ผมอยากจะลาออก” ธีร์ตัดสินใจพูดออกไป
เขาไม่ได้อยากจะลาออกเพราะไม่อยากทำงาน แต่ที่อยากลาออกเพราะ...เขาทำงานได้ไม่ถึงปีแต่มีเหตุให้ต้องลาบ่อยเหลือเกิน บางทีเขาก็เกรงใจอัคนีมาก
“ทำไม” ถามเสียงเครียด
“ผมลาบ่อยเกินไป ผมแค่เกรงใจ”
“เก็บความเกรงใจของแกลงซะ เพราะฉันไม่อนุญาต!!!” คำสั่งของอัคนีคือคำสั่งประกาศิตที่ไม่สามารถขัดแย้งได้ ธีร์เองก็ได้แต่ก้มหน้ารับมันเท่านั้น
“ผมไม่คู่ควรเลยสักนิด”
“ใครให้แกตัดสิน ฉันนี่เป็นคนตัดสินว่าคู่ควรหรือไม่คู่ควร ห้ามมีความคิดนี้อีกเข้าใจไหม “ อัคนีสั่งเสียงกร้าว ซึ่งธีร์ก็พยักหน้าน้อยๆ อย่างรู้สึกผิด
“เข้าใจแล้วครับ ผมจะไม่คิดแบบนี้อีกแล้ว”
“ดี!”
“ไอ้พัฒน์ส่งข้อความมาบอกว่าหัวหน้าเลกซัสที่หนีไปได้ตอนเข้าจับกุมที่กระบี่ ตอนนี้ถูกจับได้แล้วเรียบร้อย” ปฐพีพูดขึ้นมาเมื่อได้อ่านข้อความจบหมดแล้ว
ธีร์ไม่ต้องเดาอะไรมาก รู้อยู่แล้วว่ามันเป็นฝีมือของพัฒน์แน่ๆ ร่างโปร่งยกยิ้มอย่างไม่รู้ตัวเมื่อได้ยินแบบนั้น ก็เท่ากับว่า พัฒน์ทำตามที่พูดได้จริงๆ
ที่บอกว่าจะไม่ปล่อยให้ใครมาทำร้ายธีร์อีก
การกระทำงั้นหรือ จะรอดูไปก่อนก็แล้วกัน หวังว่ามึงจะไม่ทำให้กูผิดหวังนะพัฒน์...
...
...
...
ผ่านไปสองเดือนกว่าๆ ตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลพัฒน์ก็พาธีร์กลับไปอยู่ที่คอนโดและห้องตัวเองเหมือนเดิม ข้าวของที่ธีร์เคยกองๆ มันไว้ก็ถูกย้ายกลับไปบนที่ของมันตามเดิม อินทัชก็เอาเสื้อผ้าสัมภาระทุกอย่างไปให้กับธีร์ที่ห้องของพัฒน์ ที่ตอนนี้กลายเป็นห้องของพวกเขา เพราะเมื่อแผลทุกอย่างของธีร์เริ่มหาย สามารถใช้แขนใช้มือได้สะดวก พัฒน์ก็บังคับให้ธีร์ทำเรื่องคืนห้องให้กับบริษัทไปซะ แล้วย้ายมาอยู่ด้วยกันถาวร แรกๆ ธีร์ก็ไม่ยอมเพราะกลัวว่าจะต้องทะเลาะกันอีก หรือวันใดวันหนึ่งที่คิดว่ามันไม่ใช่
หากพัฒน์ก็บอกอย่างหนักแน่นว่ามันไม่มีทางมีวันนั้นแน่ๆ ธีร์ที่เฝ้ามองการกระทำก็เชื่อใจและลองให้โอกาสอีกสักครั้ง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็สองเดือนกว่าๆ แล้ว พัฒน์ทำการรักษาธีร์จนไม่มีรอยแผลเป็นให้เห็นเลย ซึ่งมันทำให้พัฒน์พอใจมากที่แขนขาวๆ เรียวของธีร์ไม่มีแผลเป็นอีกต่อไป
ธีร์ทำงานอย่างปกติและดูเหมือนจะเต็มที่เกินไปจนพัฒน์ต้องคอยรับส่ง ถ้าไม่เช่นนั้นอีกคนจะไปทำงานเช้ามากและกลับดึกทุกวัน เพื่อชดเชยวันเวลาที่เขาลามาตลอด ส่วนธีร์กับพัฒน์ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมก็คือกัดกันบ้าง เถียงกันบ้าง แต่ก็จบด้วยการถูกพัฒน์ดุตลอด ธีร์เกรงกลัวพัฒน์มากขึ้น เพราะถ้าทำอะไรผิดหรือให้พัฒน์ไม่พอใจ อีกคนก็จะหาเรื่องทำโทษเขา จนธีร์ชักจะสงสัยว่าใครกันแน่ที่ต้องกลัวใคร
พัฒน์ต้องเป็นฝ่ายเกรงกลัวและเกรงใจธีร์สิ เพราะเขาไม่ได้ยกโทษให้สักหน่อย แต่ทำไมทุกอย่างมันกลับตาลปัตรล่ะ นั่นอาจจะเป็นเพราะว่า ความรักที่ธีร์มีต่ออีกคนมาจนเกินไป ทำให้ยอมทุกอย่าง แต่ก็ใช่ว่าพัฒน์จะไม่ฟัง ไม่ยอมเขาเลย ทุกอย่างมันสมดุลกันแล้ว
เป็นความสัมพันธ์ที่สมดุลกันที่สุด ถ้าไม่ได้พัฒน์คอยดุด่า ห้ามปราม ธีร์ก็คงจะออกนอกลู่นอกทางดื้อแพ่งไม่ฟังใครอีกตามเคย ส่วนพัฒน์เวลาใครเข้ามายุ่งกับธีร์ก็มักจะโมโหร้ายตลอดแต่ร่างโปร่งก็มีวิธีจัดการทำให้อีกคนสงบได้ง่ายๆ
ครั้งนี้ก็เช่นกัน
“มันเป็นใคร!!!” พัฒน์ตะโกนเสียงกร้าว
“ล่ะ ลูกค้าไง”
“แล้วทำไมมันต้องเข้าใกล้มึงขนาดนั้น”
“เขาแค่ไม่เข้าใจรายละเอียด กูก็เลยอธิบายให้ก็เท่านั้น มันไม่มีอะไรจริงๆ นะพัฒน์ มึงสงบสติอารมณ์ก่อน ใจเย็นๆ นะ” ธีร์ที่ถูกผลักลงไปบนเตียงก็ลุกขึ้นยืนมาจับแขนใหญ่เพื่อกล่อมให้อีกคนใจเย็น
“ใจเย็นห่าอะไรล่ะ มันเข้าใกล้เมียกูนะ” ตะคอกใส่หน้าธีร์อย่างโมโห ทำเอาร่างโปร่งถึงกับกลืนน้ำลายด้วยความยากลำบาก
“มันก็ได้แค่เข้าใกล้นี่หว่า กูไม่ได้คิดเหี้ยอะไรด้วยที่ไหน”
“แต่กูหวง!!!”
ได้ยินกี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็ไม่อาจจะทำให้หัวใจของธีร์ชินกับมันได้เลย ฟังทีไรใจเย็นแรงทุกที สายตาที่แสนจะดุดันฉายทอดมองกันอย่างจริงจังนั่นก็ทำเอาเขินหน้าแดงทุกที
ความมาดแมนกูจะหดหายไปก็เพราะคนๆ นี้นี่แหละ
พัฒน์ชอบพูดอะไรตรงๆ มากขึ้น แต่มันก็ไม่เป็นการดีต่อหัวใจของธีร์เลยสักนิด
“เฮ้อ...” ธีร์นั่งลงที่ปลายเตียงอย่างไม่รู้จะพูดกับคนที่โมโหอยู่ยังไง นั่งก้มหน้าคิดอยู่นาน พอเงยหน้ามองร่างสูงก็พบว่าเจ้าตัวถอดเสื้อออกไปเรียบร้อยโชว์แผ่นอกและกล้ามหน้าท้องที่ทำให้ธีร์ใจสั่นตลอดที่เห็น ความล่ำสันของอีกคนทำให้ธีร์อดใจไม่ไหวเอื้อมมือไปลูบซิกแพคของพัฒน์หลายครั้ง และครั้งนี้ก็เอื้อมไปลูบอย่างหลงใหลเช่นกัน
นึกอย่างอิจฉา เพราะร่างกายของธีร์ตอนนี้มันไม่มีกล้ามเนื้ออีกแล้ว ที่อุตส่าห์สร้างสมมันมาหายไปกับการเข้าโรงพยาบาลและนอนอยู่เฉยๆ บวกกับกินเอาๆ โชคดีที่มันยังคงมีความเป็นผู้ชายอยู่ ส่วนหน้าไม่ต้องพูดถึง เคยหล่อมากขนาดไหนก็ยังคงหล่อเหลาเหมือนเดิมจนมีเสน่ห์ไปทั้งหญิงและชาย
“ลูบแบบนี้คือจะง้อใช่ไหม” พัฒน์ถามเสียงแหบพร่า แค่เห็นท่าทางธีร์ที่มองหน้าท้องของพัฒน์อย่างหลงใหลก็แทบอยากจะจับเจ้าตัวแก้ผ้าแล้วกระแทกซะ
“กูทำอะไรผิด” เงยหน้าสบตาดุดันนั่นอย่างไม่เข้าใจ ส่วนร่างแกร่งก็แทรกเข่าวางตรงกลางหว่าขาของธีร์ซึ่งมันก็อีกนิดเดียวที่เข่าของพัฒน์จะสัมผัสส่วนนั้นของธีร์
ร่างโปร่งค่อยๆ นอนลงตามแรงกดที่ไหล่ เสื้อถูกถอดออกไปอย่างง่ายดายโดยที่ธีร์ไม่สามารถห้ามอะไรได้ ตั้งแต่แผลหายเจ็บ พัฒน์ก็ทำอย่างว่ากับเขาบ่อยมาก แทบจะทุกวัน แต่พออยู่ในช่วงงานยุ่งๆ ก็จะห่างหายไป แต่มาหนักตรงวันหยุดนี่แหละ ทำเอาธีร์ถึงกับระบมไปหลายวัน
“อื้อ...อ๊ะ” ธีร์ครางเสียงแผ่วเมื่อพัฒน์ซุกไซร้ซอกคอขาวของเขา ขบเม้ม ดูดแรงๆ จนเกิดรอยเพื่อแสดงความเป็นเจ้าของ ก่อนจะไล้ลงข้างล่างเรื่อยๆ มาหยุดอยู่ที่เม็ดทับทิมสีหวานที่ไม่รอช้า พัฒน์จัดการแลบลิ้นเลียมันอย่ากระหาย ทั้งเลียทั้งดูด สลับข้างไปมาเรียกเสียงครางดังจากธีร์ได้ง่ายๆ ร่างเล็กกว่าทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่แอ่นอกรับสัมผัสนั้นอย่างเต็มใจ
“ร้องดังๆ” พัฒน์ใช้แรงในการเลียและดูดเม็ดทับทิมเพิ่มมากขึ้นทำเอาธีร์ตาลายมองอะไรก็พร่าไปหมด เสียงของเริ่มดังขึ้น มือของร่างสูงเลื้อยลงไปด้านล่างถอดเข็มขัดด้วยมือข้างเดียวก่อนจะตามด้วยกางเกงสแลคของเจ้าตัวไปไว้ที่หน้าขา มือใหญ่เลื่อนซับในของธีร์ให้พ้นที่พ้นทางแล้วลูบธีร์น้อยเบาๆ จนมันพองโตขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ ปากก็ทำหน้าที่ที่หน้าอกอย่างดุดัน ธีร์เองก็รู้สึกเจ็บๆ ที่หัวนมของตนแล้วเช่นกันจึงพยายามดันศีรษะของพัฒน์ออก
“อะไร”
“มันเจ็บ อื้อ”
“ก็ทำให้เจ็บ”
“ไม่เอา อ๊า ที่อื่น อ๊ะ บ้าง” เอ่ยบอกกระท่อนกระแท่น
“ตรงไหนดีล่ะที่กูจะเลียได้” พัฒน์ถามอย่างเจ้าเล่ห์
พัฒน์ปล่อยมือจากส่วนนั้นของธีร์แล้วมาจัดการกางเกงของตัวเองบ้างในจังหวะที่พัฒน์กำลังเลื่อนกางเกงออกไปจากตัวธีร์ก็จับร่างแกร่งพลิกตัวนอนลง ธีร์เลื่อนซับในของพัฒน์ลงมาที่เข่า ก่อนที่ธีร์จะจับเข้าที่มังกรยักษ์ของพัฒน์ที่พองโตเตรียมพร้อมที่จะปลดปล่อย เรียกเสียงครางจากพัฒน์ได้เป็นอย่างดี
“อา...”
ร่างโปร่งปีนขึ้นไปบนตัวของพัฒน์ แล้วนั่งทับหน้าตักแกร่งของอีกคน โน้มกยเข้าหาร่างแกร่งที่มองด้วยสายตาอันร้อนแรง เพราะนานๆ ทีที่ร่างเล็กจะเป็นคนเริ่มแบบนี้
ลิ้นเล็กของธีร์ส่งไปเลียที่เม็ดทับทิมของพัฒน์บ้างทำเอาพัฒน์ร้องครางแผ่วเบาในลำคออย่างพอใจ
“อืม...”
ด้านล่างก็สีกันไปมาสร้างความวาบหวามและเสียวซ่านให้กับทั้งคู่เป็นอย่างดี พัฒน์ไม่ใช่เป็นคนอดทนสูงในเรื่องของกามอารมณ์ เมื่อเห็นว่าธีร์ยังคงเลียและดูดแต่ที่เดิมไม่ยอมทำอะไร เขาก็เป็นฝ่ายจับร่างเล็กกว่าพลิกมาอยู่ใต้ร่างเหมือนเดิม ก่อนจะจับให้เจ้าคนตัวขาวหันหลังท่าคุกเข่าโชว์ช่องทางสีหวานที่น่าเข้าไปสำรวจอย่างยิ่ง
“อ๊า อื๊อ อ๊ะ ฮ๊ะ อ๊า…” ครางออกมาเสียงหลงเมื่อปลายลิ้นร้อนเข้าสัมผัสที่ช่องทางนั้นความเปียกชื่นของมันทำให้ธีร์ส่ายสะโพกขาวตึงไปมาด้วยความเสียว
“อ่า...”
โดยที่ไม่ทันตั้งตัวความใหญ่โตก็เสียบเข้าไปทีเดียวจนสุดทำเอาธีร์ร้องดังลั่นลากเสียงยาวไปทั่วทั้งห้องนอน พัฒน์ไม่รอให้ธีร์หายใจได้สะดวกนักก็จัดการสวนกายเข้าออกอย่างหนักหน่วงและรุนแรง ธีร์เองก็ได้แต่ครางและจิกเล็บเข้ากับผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความเสียวซ่านที่ได้รับ
“พ่ะ พัฒน์ อ๊า พัฒน์ อูยยย โอ้ว อ๊า” ธีร์ได้แต่ร้องเสียงหลงเมื่อส่วนใหญ่โตของพัฒน์เอาแต่กระแทก โยกตัวรุนแรงจนหายใจแทบจะไม่ทันที่สำคัญมันก็ตอกย้ำๆ ตรงจุดกระสันของร่างบางจนแทบจะทนไม่ไหว ไอ้มือใหญ่ก็ไม่อยู่นิ่งเอื้อมมาจับแก่นกายของเขา ทำให้เสียงทั้งหน้าทั้งหลังเลยทีเดียว มือแกร่งก็จับเอวคอดของธีร์ไว้เพื่อยึดให้ตัวเองกระแทกได้แรงมากขึ้นทั้งบีบเค้นจนธีร์รู้สึกเจ็บ แต่กลับกันมันก็เป้นความเจ็บที่เขาชอบมากเหลือเกิน
เพี๊ยะ!
มือใหญ่ตบเข้าที่บั้นกลมตึงแรงๆ หลายที ส่วนกลางลำตัวของตนก็สวนเข้าออกไม่หยุด ร่างกายขาวบางระทวยอ่อนแรง ทำได้แค่ร้องครางรับเท่านั้น
“อ่า แน่นฉิบ อื้อ แรงๆ ตอดแรง อ่า รัดแรงๆ” ธีร์ไม่ได้บ้าจี้ทำตามที่อีกคนบอกแต่ร่างกายมันเป็นไปเองตามธรรมชาติ เขาไม่รู้ว่ารัดอีกคนรุนแรงไหม แต่ตัวเองก็รู้แน่นมากเช่นเดียวกัน
มือแกร่งบีบขยำ ทั้งตบ บ้างก็กระชากผมสวยให้ขึ้นมาแล้วซุกไซร้กดจูบที่หลังคอสวยนั้นอย่างเมาในอารมณ์เต็ม ธีร์แม้จะเจ็บแต่มันก็รู้สึกสนุกและมีความสุขดีกับความเจ็บที่ได้รับ
“ชอบไหม ฮืมมม ชอบไหม อ่า” พัฒน์ถามเสียงแหบพร่าข้างใบหูขาว แลบเลียตรงนั้นรอคำตอบจากร่างบางที่ทั้งบีบรัดส่วนนั้นของพัฒน์จนแทบจะปลดปล่อย
“ช่ะ ชอบ อ๊า พ่ะ พัฒน์ อ๊า แรงๆ จ่ะ อ้า จะไปแล้ว” ธีร์ร้องขออย่างไม่อาจจะทานทัดได้ ซึ่งพัฒน์ก็กระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะเพิ่มความเร็วและแรงที่ช่องทางด้านหลังของธีร์
“อืม พร้อมกันนะ”
พัฒน์โยกกายรุนแรงเข้าไปในช่องทางนั้นอีกสองสามทีก็รู้สึกถึงความเกร็งของร่างกายของธีร์ที่ปลอดปล่อยออกไปแล้ว ส่วนเขาก็กระแทกครั้งสุดท้ายแรงๆ ก่อนปล่อยเข้าไปในช่องทางรักของธีร์เต็มๆ
เสียงหอบหายใจของธีร์ดังขึ้นมาอย่างเหนื่อยหอบ ส่วนพัฒน์เองก็เหนื่อยกับการออกกำลังนี้เช่นกัน เขาค่อยๆ ถอนกายออกมาช้าๆ จับร่างโปร่งพลิกหงายก่อนจะคร่อมร่างอีกคนกดจูบลงไปอย่างร้อนแรงและดุดัน ธีร์ที่เหนื่อยกับกิจกรรมที่ผ่านมาก็ได้แต่ตอบรับสัมผัสอย่างไม่ยอมแพ้ พัฒน์ผละออกมาก่อนจะหอบแก้มฝาดเบาๆ แล้วไล้ไปยังข้างหู กระซิบเบาๆ ทำเอาธีร์ตาเบิกกว้างอย่างตกใจ
“อีกรอบนะ”
ให้ตายเถอะ แล้วเขาจะได้หยุดตอนไหนล่ะเนี่ย ถ้าพัฒน์ยังหื่นบวกมีเรื่องผู้ชายมาเกี่ยวข้องแบบนี้ พรุ่งนี้ได้เดินทางไปทำงานทั้งระบมแน่ๆ
แต่ธีร์ก็ทำอะไรไม่ได้ มีหน้าที่ครางแล้วตอบรับสัมผัสก็เท่านั้น
ไม่มีครั้งไหนเลยที่เขาจะสามารถเอาชนะพัฒน์ได้ เรื่องบนเตียงก็เหมือนกัน แต่ยังไงก็ช่างเถอะ...ถ้ามีความสุขกันทั้งคู่ ใครจะนำหรือใครจะตามก็ไม่สำคัญ
มันสำคัญที่ว่าพวกเขารักกันหรือเปล่าก็เท่านั้น
100%

ตอนที่ 39 ค่า ช่วงนี้อยู่ในช่วงที่คบกันและ หลายคนอาจจะคิดว่าง่าย แต่พี่พัฒน์กับพี่ธีร์ไม่เคยคบกันเลย มันถึงง่ายในการให้โอกาสและคืนดี
พูดคุยสอบถามได้ที่แฟนเพจเลยน้า...
https://www.facebook.com/sawachiyuki