เสพติดอันตราย...รักผู้ชายพันธุ์โหด
ตอนที่ 15 ครึ่งแรก
ความสงัด ความมืดยามค่ำคืน มีเพียงแค่ไฟจากด้านนอกเล็ดลอดเข้ามาเพียงน้อยนิด แต่มันก็สามารถทำให้เห็นใครอีกคนตอนนอนได้เช่นกัน พัฒน์มองร่างบางที่นอนหลับตาคิ้วขมวดราวกับกำลังหงุดหงิด กระสับกระส่ายนอนพลิกตัวไปมาจนพัฒน์อดสงสัยไม่ได้ แต่ก็ได้เฝ้าแต่นอนมองเท่านั้น
“นอนไม่หลับ” ธีร์พึมพำ แต่ใครที่มองอยู่ก็ได้ยินชัดเจน
“มันนอนหลับหรือวะ” เมื่อรู้ว่าธีร์กำลังมองมา พัฒน์ก็หลับตาลงทันที เพื่อไม่ให้ร่างโปร่งรู้ว่าเขายังนอนไม่หลับ ก็อยากรู้เหมือน
กันว่ารีสอร์ทที่ล้อมรอบด้วยป่าแบบนี้ มันจะมีท่าทางแบบไหน
อยากเห็นคนปากดี อวดเก่งกลัวสักครั้งเหมือนกัน...
“ปกติถ้ามาเที่ยวหรือไปต่างจังหวัดก็จะมีคนมาด้วยเสมอ ไม่ไอ้อินจะเป็นพี่สาวไอ้อิน แต่นี่มากับไอ้พัฒน์ ไอ้โหดนี่ไม่ได้ช่วยให้กู
รู้สึกดีขึ้นเลยสักนิด เอาแต่นอนหลับอยู่คนเดียว สบายจริงๆ เลยนะ” พัฒน์แอบยิ้มกับความขี้บ่นของธีร์
“ยิ่งรอบๆ เป็นป่าด้วยแล้วน่ากลัวชะมัด”
ธีร์พูดพลางขนลุกกับบรรยากาศภายนอกที่มองผ่านหน้าต่างที่ปิดม่านไม่สนิท เขาชอบป่าก็จริงแต่เป็นป่าตอนกลางวัน ไม่ใช่ป่า
ตอนกลางคืน
มันไม่สามารถมองเห็นได้เลยว่า ข้างหน้ามันมีอะไรรออยู่
“นอนไม่หลับแน่ๆ อ่ะ” ธีร์มองไปยังพัฒน์ด้วยความลังเล จะปลุกก็ไม่กล้า จะเดินไปนอนด้วยก็น่าเกลียดไปป่ะ เพราะก่อนนอน
เตียงที่ห่างกันนิดเดียว พัฒน์ก็จัดการลากเตียงออกห่างจากธีร์ไป ซึ่งมันก็ห่างพอสมควร จะขยับตามก็เสียฟอร์ม เพราะดันโพล่ง
ปากไปแล้วว่าไม่เคยกลัวอะไร
มองไปรอบๆ ท่ามกลางแบบนี้ก็ยิ่งทำให้ธีร์กลัวจนไม่กล้าขยับ
“แม่งเอ้ย”
ธีร์ก็ได้แต่หลับตาคลุมโปงกอดตัวเองแน่นด้วยความกลัว ยอมรับว่าชอบคิดไปเองว่าอาจจะมีอะไรโผล่มา แต่ทำไงได้ล่ะ ก็คนมัน
กลัวคิดเสมอนั่นแหละว่าอาจจะมีอะไรโผล่มา
จนกระทั่งนอนหลับไปด้วยความไม่รู้ตัว พัฒน์ที่มองอยู่ก็เห็นว่าร่างใต้ผ้าห่มนิ่งไป ก็คิดว่าคงหลับไปแล้วแน่ๆ จึงลุกขึ้นจากที่นอน
ของตนแล้วเดินไปหาร่างโปร่งทันที มือกว้างจับผ้าห่มเลื่อนจากศีรษะของอีกคนให้เลื่อนมาระหว่างอก
“หายใจไม่ออกแล้วตาย กูไม่เก็บศพนะ” เขาบอกยิ้มๆ
จะบ้าตาย ชีวิตนี้ไม่เคยเป็นห่วงใคร แต่กลับเป็นห่วงไอ้คนที่เอาผ้าห่มขึ้นคลุมโปงจนต้องเดือดร้อนตัวเองลุกจากที่นอนเพื่อมา
เอาออกให้
“หน้าตาตอนหลับก็ดูดีนะ แต่ไอ้ตอนที่ตื่นเนี่ยสิ มันน่าฆ่าทิ้งจริงๆ”
เขาได้แต่ส่ายหน้าน้อยๆ แล้วเดินกลับมาที่เตียงของตนก่อนจะทิ้งตัวลงนอนทันทีด้วยความล้าทั้งร่างกายและสายตาที่ยังไม่ได้
พักเลยทั้งวัน...
...
…
Rrrrrr
เสียงสั่นของโทรศัพท์ที่โต๊ะหัวเตียงทำให้พัฒน์ตื่นขึ้นมาในดเช้าวันใหม่อย่างช่วยไม่ได้ และอารมณ์ตอนตื่นนอนของพัฒน์ก็ไม่
คงที่อีกด้วย
“อืม” รับสายโทรศัพท์ด้วยการครางเบาๆ ตาของพัฒน์ก็พยายามเปิดกว้างเพื่อมองนาฬิกา ก็พบว่าแปดโมงเช้ากว่าๆ แล้ว
(อรุณสวัสดิ์คุณพัฒน์)
“ว่าไง”
(เรื่องของยงยุทธ์ที่ให้จัดการน่ะครับ พอดีผมคลาดกับพวกมันไปแล้ว เลยทำให้ตอนนี้ติดตามไปไหนไม่ได้เลย โรงแรมที่พวกมัน
พักอยู่เมื่อคืนก็ไม่เจอ ทางโรงแรมบอกว่าออกมาตั้งแต่เช้า ผมคิดว่ามันคงไปที่นั่นแล้วล่ะครับ)
“ถ้างั้นแกก็ตามมาดู”
(เอ่อ คือว่า...)
“มีอะไร ว่าแต่ว่าฉันสงสัยแกว่ะเจ็ม คนอย่างแกไม่เคยพลาดหรือคลาดจากเหยื่อ เกิดอะไรขึ้น” ถามออกไปเสียงเครียด เพราะลูก
น้องคนเก่งของเขาแม้ว่าจะไม่ได้เก่งไปเสียทุกเรื่อง แต่เรื่องแกรอยหรือตามคนไม่เคยพลาด แสดงว่าลูกน้องของเขาคนนี้ต้อง
เจออะไรแน่ๆ ที่ทำให้คลาดกับพวกยงยุทธ์
(เอ่อ...บังเอิญเจอคุณพุฒิที่ลอบบี้โรงแรม แหะๆ โดนจับได้แล้วล่ะครับ) ปลายสายสารภาพออกมาเบาๆ อย่างสำนึกผิด
“แกนี่มัน ทำอีท่าไหนวะเนี่ย บอกมันเลยว่าฉันให้แกมาช่วยงาน นี่มันจับตัวแกไว้หรือเปล่า” พัฒน์ถาม
(โทษทีไอ้พัฒน์ พอดีฉันทำลูกน้องแกลุกไม่ขึ้นไปแล้ว เห็นทีว่าจะส่งไปช่วยไม่ได้) เสียงปลายสายเปลี่ยนไป กลายเป็นเสียงทุ้ม
อย่างคุ้นเคยแทน
“ไอ้พุฒิ แกนี่มันทำลายงานของฉันจริงๆ” พัฒน์ต่อว่าพี่ชายอย่างหัวเสีย
(ช่วยไม่ได้ อยากจะโกหกฉันเอง) ตอบกลับนิ่งๆ
“งานนี้จริงจังมากนะไอ้พุฒิ ไม่มีใครที่ฉันสามารถไว้ใจได้เท่าเจ็มแล้ว” พัฒน์ต่อรอง
(เรื่องของแก เจ็มเป็นคนของฉัน เป็นคนของรัตนมณีโชติ ฉันมีสิทธิอนุญาตหรือไม่อนุญาต)
“รู้สึกว่าฉันก็น้องแกนะพุฒิ” พัฒน์พูดบอก
(ไม่รู้ดิ โตๆ กันแล้ว คงจะช่วยเหลือตัวเองได้บ้างแล้วถึงได้ออกไปจากบ้าน จากบริษัท)
“ไอ้ประโยคนั้นฉันควรพูดมากกว่ามั้งไอ้พุฒิ เพราะที่แกมารับสืบทอดกิจการได้ใครมันเป็นคนดูแลให้ในตอนที่แกกำลังเสเพ
ลน่ะห๊ะ!” พัฒน์เริ่มมีน้ำโหที่พี่ชายของตนจับตัวลูกน้องของตนไว้ ไม่ยอมให้มาทำงานจนเสร็จ
(ไม่เกี่ยวกันดิวะ เรื่องที่แกให้เจ็มทำมันอันตรายมากนะเว้ย ถ้าหากเจ็มเป็นอะไรขึ้นมา พวกมันจับได้ แล้วยิ่งเจ็มไม่เอาลูกน้องมา
ด้วยอีก แกจะส่งให้คนของฉันไปตายหรือวะ!) ปลายสายก็ใส่อารมณ์กลับมาด้วยอารมณ์เช่นกัน
“มันเป็นลูกน้องของฉัน!!” พัฒน์ขึ้นเสียงดัง จนคนที่นอนหลับอย่างสบายถึงกับตื่นด้วยความตกใจ เพราะเสียงของพัฒน์มันฟังดู
โมโหมาก จนไม่กล้าที่จะโวยวายหรือนอนต่อ
(แต่เป็นเมียฉัน!!!...คุณพุฒิ พูดอะไรน่ะ...นายน่ะเงียบไปเจ็ม แค่นี้ก็แล้วกัน ถ้ามีอะไรก็โทรขอร้องพี่ชายให้ส่งคนไปช่วยก็ได้นะ
น้อง หึหึ) พี่ชายของพัฒน์วางายไปทันทีที่พูดจบ ทิ้งให้พัฒน์กำโทรศัพท์แน่นอย่างโมโห
แล้วทีนี้จะทำยังไงล่ะ มันอยู่ที่ไหนแล้วยังไม่รู้เลย ปืนก็ไม่ได้พกมา...
“ฮึ่ย!!!”
“เอ่อ...มีอะไรหรือเปล่าวะ” ธีร์ถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ
“ยุ่ง!” พัฒน์ตวาดสั้นๆ จนธีร์สะดุ้งด้วยความตกใจ ก่อนที่ร่างสูงจะลุกขึ้นจากที่นอนเดินไปหยิบผ้าขนหนูเข้าห้องน้ำไป
ส่วนธีร์ก็ได้แต่ทำหน้าสงสัย ก่อนจะส่ายหน้าไปมามองนาฬิกาก็พบว่าเพิ่งจะแปดโมงกว่าๆ ยังไม่ถึงเวลานัดคุยงาน นอนต่ออีก
หน่อยก็ได้
“ไม่สนก็ได้วะ ถามดีๆ ตวาดกูเฉย”
เกิดเป็นกู อะไรๆ ก็ผิด สงสัยจะผิดตั้งแต่เกิดแล้วล่ะมั้ง
แต่ยังไม่ทันหลับตา เสียงจากนรกที่เรียกชื่อของเขาอย่างดังก็ดังลอดออกมาจากห้องน้ำ ซึ่งอารมณ์ของพัฒน์ตอนนี้ทำให้ธีร์ไม่
กล้าขัดขืน
“ไอ้ธีร์!!!”
“มีอะไร!”
“เอาที่โกนหนวดให้หน่อย”
“แล้วทำไมไม่เอาเข้าไปตั้งแต่แรกวะ” ธีร์บ่นแต่ก็ลุกจากที่นอนไปที่ตู้แล้วหาที่โกนหนวดกับโฟมไปให้กับพัฒน์ทันที ซึ่งเมื่อเคาะ
ประตูห้องน้ำ เสียงของพัฒน์ก็ดังขึ้นมา
“เข้ามาเลย”
“ห๊ะ!!”
“เข้ามาสิวะ”
“เออๆ” ร่างโปร่งจำใจเปิดประตูเข้าไปในห้องน้ำหรูทันที เห็นร่างสูงเผยแผ่นอกและหน้าท้องที่มีกล้ามเนื้อที่น่าอิจฉาโดยมี
ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่คอยบังในส่วนล่างเอาไว้อยู่
“เอาไป ขอตัว” เดินไปวางไว้ที่เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าโดยไม่สบตาหรือมองร่างสูงเลยสักนิด ก่อนจะทำท่าเดินออกไป แต่ยัง
ไม่ทันที่จะเดินหนี ข้อมือของตนก็ถูกคว้าเอาไว้ก่อนแล้ว
“จับไว้ทำไมเนี่ย จะไปนอนต่อ” เขาพยายามที่จะแกะแขนออกจากมือใหญ่ของพัฒน์ แต่ดูเหมือนว่าพัมน์จะไม่อยากปล่อย
“นอนบ้าอะไรล่ะ มีงานต้องทำ 10 โมง”
“ก็อีกตั้งนาน ถ้ามึงมัวแต่หาเรื่องกูอยู่แบบนี้นะ มันจะช้านะเว้ย” ธีร์อ้าง
“ไม่ต้องอ้าง”
“เอ้า!! แล้วมึงจะจับกูไว้ทำไมล่ะครับไอ้พัฒน์”
“ลองทวนความจำดีไหม” ถามด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ขัดกับภาพใบหน้าที่แสดงความฉุนเฉียวก่อนเข้าห้องน้ำได้อย่างชัดเจน
“ความจำอะไร” ถามไปด้วยความสงสัย
กูกับมันมีความจำอะไรที่ต้องมาทบทวนกันในห้องน้ำวะ!
“ก็ครั้งแรกของมึงกับกู...ก็ห้องน้ำนี่แหละ”
ธีร์คิดตามที่พัฒน์พูดอย่างตั้งใจ ก่อนจะเบิกตากว้างมองหน้าคนพูดอย่างโมโหที่อีกคนพูดอะไรไม่เข้าท่าออกมา เอามือที่ว่าง
ฟาดไปที่แผ่นอกเต็มๆ
เพี๊ยะ!!
“หึหึ”
“บ้าหรือไงวะ กูตีมึงไปแรงขนาดนั้นยังจะมาหัวเราะอีก” ร่างโปร่งพยายามที่จะดึงแขนของตัวเองออกมา อดหน้าแดงไม่ได้ ที่จริง
เขาก็จำได้ได้ลางๆ
แต่ใครมันอยากจะไปคิดถึงเรื่องแบบนั้นตลอดเวลากันล่ะ
“ก็ดีแล้วนี่ กระตุ้นอารมณ์ดี” พัฒน์ว่า ทำเอาร่างเล็กกว่าขนลุกชันอัตโนมัติ ใบหน้าแดงซ่าน หัวใจเต้นแรงด้วยความตื่นเต้น เผลอ
มองหน้าเข้มๆ ของพัฒน์ด้วยสายตาลอยๆ ดวงตาพร่างพราว อารมณ์ของร่างกายเริ่มร้อนรุ่ม
บ้านา...แค่คำพูดกับสายตานี่นะ...
ทำเอากูมีอารมณ์ได้ขนาดนี้เลยหรือวะเนี่ย
“มึงเป็น S หรือวะ แต่ชอบความรุนแรงนี่ M?” ธีร์ถาม
“หึหึ ที่แน่ๆ กูชอบใช้ความรุนแรง และมึงก็รับมันได้ดีเสียด้วย ที่กูเลือกให้มึงเป็นคู่นอนเนี่ย เพราะเหตุนี้แหละ” พัฒน์ยอมรับออก
ไป ซึ่งทำให้ธีร์เบ้ปากด้วยความหมั่นไส้
“กูไม่ได้ชอบ”
“มึงน่ะชอบให้กูรุนแรงใส่” พัฒน์เถียงกลับ
“ไม่จริง มึงมันมั่ว” ธีร์ตวาดใส่หน้าหล่อเข้ม
“ถ้างั้นลองทวนกันดูอีกที ว่ามึงมันชอบแบบไหนกันแน่ แน่นอนว่ามึงจะคิดว่า ทำกับผู้หญิงมึงไม่มีทางรู้สึกแบบนี้แน่ๆ เพราะมึง
ทำรุนแรงด้วยไม่ได้” พัฒน์บอกพร้อมกับดันตัวของธีร์ให้พิงที่อ่างล้างหน้า ก่อนจะพยายามปลดชุดนอนของธีร์ออก ซึ่งร่างโปร่ง
ก็ได้แต่ยืนนิ่งๆ เพราะกำลังประมวลสิ่งที่พัฒน์พูดอยู่ แต่พอเข้าใจว่าอีกคนพูดอะไร เสื้อก็หลุดไปจากร่างเสียแล้ว
“ไอ้พัฒน์ มึงทำบ้าอะไรเนี่ย”
“ก็กำลังจะทำให้มึงรู้ไง ว่ามึงน่ะชอบให้กูทำรุนแรงใส่” พัฒน์ตอบนิ่งๆ แต่สายตาเต็มเปี่ยมไปด้วยความพร่างพราวอย่างเจ้าเล่ห์
หมาป่ากำลังขย้ำหมาป่าด้วยกัน
“ม่ะ ไม่” ปฏิเสธเสียงสั่น
“ปากปฏิเสธนะ แต่ร่างกายนี่สิ ทรยศเจ้านายตัวเองซะงั้น” พัฒน์ว่ายิ้มๆ ก่อนจะล้วงมือเข้าไปในกางเกงนอนสัมผัสแก่นกายที่ตื่น
ตัวอยู่ในกางเกงในราวกับผ่านการเล้าโลมมานาน แต่เปล่าเลย พัฒน์ก็แค่พูดและมองเท่านั้น ร่างกายของธีร์ก็ร้อนรุ่มขึ้นมา
ยอมรับเลยว่าสายตาของพัฒน์มันมีเสน่ห์น่าดึงดูดแปลกๆ มันสามารถทำให้คนมองร่างกายสะท้านได้ง่ายโดยไม่ต้องทำอะไรมาก
ชักจะมีอิทธิพลกับกูเกินไปแล้วนะ
“ยังไม่ทันอะไรเลย มันก็ตั้งแล้วนี่ มึงนี่อ่อนว่ะ” เยาะเย้ยธีร์ไปเพราะอยากจะเห็นอารมณ์ฉุนเฉียวของธีร์ เนื่องจากใบหน้าตอน
โกรธหรือโมโห ไม่พอใจของธีร์มันกระตุ้นอารมณ์ของเขาได้ดีเช่นกัน
“มึงมัน...” เขาชะงักเพราะไม่รู้ว่าจะด่าอีกคนอย่างไร
“ว่าไง มาถึงขนาดนี้แล้วนี่ จะยอมดีๆ หรือว่าจะให้กูหยุดล่ะ” พัฒน์ถามเจ้าเล่ห์ ส่วนธีร์ก็มองหน้าอีกคนแบบค้อนๆ ทำเอาพัฒน์
แอบยิ้มในใจ
“ชิ!” สบถพลางหันหน้าหนี สองมือยกขึ้นกอดอกด้วยความหยิ่งในศักดิ์ศรี ทั้งๆ ที่ยังคงอยู่ในการเกาะกุมของพัฒน์ แขนยาวแกร่ง
ของพัฒน์เท้าที่อ่างล้างหน้า กักตัวร่างโปร่งไว้ในอาณัติของตน
“เอาไง ไม่ให้กูทำ มึงก็ไม่มีสิทธิ์ทำเอง”
“มีสิทธิ์อะไรมาสั่งกูวะ” หันมาเผชิญหน้าที่ยื่นมาใกล้เพียงคืบด้วยความโมโหที่โดนเอาเปรียบเรื่องสิทธิอีกแล้ว
“อย่าลืมสิ ว่ากูมีสิทธิ์อะไร” พัฒน์แสดงสีหน้าที่บอกถึงความเหนือกว่า
พรึ่บ!!
“อึก”
ธีร์กระชากผมของพัฒน์เข้ามาตนแล้วเป็นฝ่ายประกบริมฝีปากลงไปที่ริมฝีปากของพัฒน์ก่อน สร้างความตกใจให้ร่างสูงเป็นอย่าง
มาก ร่างสูงยืนนิ่งๆ ไม่ยอมจูบตอบอย่างที่ใจอยาก เพราะอยากจะรู้ว่าธีร์จะทำยังไงให้เขาตอบสนอง
เริ่มก่อนแบบนี้ก็ดี เร้าใจไปอีกแบบล่ะนะ
ตอนแรกเขาไม่ได้อยากจะทำอะไรธีร์หรอก กำลังหงุดหงิดอยู่ แต่เมื่อเห็นสีหน้าบึ้งตึงและสภาพผมที่เพิ่งจะตื่นจากนอน ขอบอก
เลยว่าอารมณ์คุกรุ่นตอนแรกมันหายไป มีเพียงอารมณ์อยากจะแกล้งคนเข้ามาแทนที่
ธีร์สอดลิ้นเข้าไปในโพรงปากร้อนของพัฒน์ สลับกับดูดและขบเม้มที่ริมฝีปากเพื่อเรียกร้องให้พัฒน์ตอบสนอง ซึ่งร่างสูงก็ทนไม่
ไหว ใช้ลิ้นเข้าต่อสู้ทันที ลิ้นร้อนทั้งสองเกี่ยวเกาะดูดดึงสลับกันคุมเกมอย่างเร่าร้อน มือที่ใช้กระชากผมดกดำของพัฒน์เข้ามา
เปลี่ยนจากจับผมเป็นลูบศีรษะของพัฒน์เพื่อระบายอารมณ์ของตน ก่อนจะแลกลิ้นรัวเร็วอย่างคนชำนาญด้วยกันทั้งคู่ สร้างความ
ร้อนรุ่มให้ร่างกายทั้งสองคนอย่างยิ่ง พัฒน์เอามือออกจากการเท้าที่อ่างล้างหน้ามาดึงร่างบางเข้าแนบชิดมาอีก ข้างหนึ่งโอบเอว
อีกข้างก็ลูบไล้ไปตามสัดส่วนของร่างกายธีร์
“อืม” พัฒน์ครางอย่างเสียดายที่ธีร์เป็นคนผละจูบร้อนแรงออกไป ร่างเล็กกว่าหน้าแดงซ่านพร้อมกับหอบหายใจอย่างหนักหลัง
จากผ่านการจูบมาราธอน
พรึ่บ!
มือขาวกระตุกผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พัฒน์นุ่งอยู่ออกไป ก่อนพบว่าร่างสูงถอดชั้นในไปแล้ว แล้วส่วนสงวนของร่างสูงก็ผงาดเตรียม
ออกรบ ธีร์เงยหน้ามองสบร่างสูง ก่อนจะไล้นิ้วเรียวไปตามใบหน้าคมเข้มอย่างยั่วยวนจนพัฒน์แปลกใจ แต่ก็ชอบใจในมุมนี้ของ
ธีร์เช่นกัน
เขารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นคนที่ยั่วคนขึ้น เพราะร่างกายของมัน แม้จะเป็นผู้ชายเหมือนกับเขาทุกอย่าง ไม่มีความอ้อนแอ้นเหมือนผู้
หญิงก็จริง แต่กลับยั่วยวนเพศเดียวกันและเพศตรงข้ามได้ตลอดเวลา
“วันนี้มึงทำกูตกใจไปสองรอบแล้วนะไอ้ธีร์ จะรับผิดชอบยังไง” ยักคิ้วถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า แววตาเจ้าเล่ห์จนธีร์อดใจเต้นไม่
ได้
มันดูดิบๆ กระตุ้นอารมณ์ในกายให้พลุ่งพล่านเป็นอย่างดี
คงต้องยอมรับแล้วสินะว่าโรคจิตจริง เพราะไม่ใครบ้าเกิดอารมณ์กับใบหน้าที่ดุเราตลอดเวลาหรือไม่ก็ชอบโมโหใส่ตลอดเวลา
แบบนี้อย่างเขาแน่ๆ ส่วนเรื่องชอบความรุนแรงน่ะ
ต้องขอทดสอบก่อนสิ...
50%

มาลงแล้วนะคะครึ่งแรกของตอนที่ 15 กำลังใจของยูกิเริ่มน้อยลง (อีกแล้ว) ฮ่าๆ ขอกำลังใจด้วยนะคะ ขอบคุณค่า แค่นี้คงไม่โดนแบนใช่ไหมคะ
https://www.facebook.com/sawachiyuki