ปฏิกิริยาเคมีบางปฏิกิริยาที่เกิดได้ช้าจนเกินไป
ก็ควรมี 'แคตตาลิส' เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
ตอนที่ 10
"ว่าไงคะคุณเพื่อน อัพเดตหน่อยสิคะ" แซนกระซิบถาม ตอนนี้พวกเรานั่งอยู่ในห้องอ่านหนังสือของคณะ ที่นี่ไวไฟแรงมาก แถมยังมีปลั๊กอีก นี่มันสวรรค์ชัดๆ
"อัพเดตอะไร?" ถามไปทั้งๆที่รู้อยู่แล้ว ใครมันจะไปบอกง่ายๆ
"แหม คุณเพื่อนเอกคะ อย่ามาแกล้งทำเป็นไม่รู้หน่อยเลย เรื่องอะไรเรารู้ๆกันอยู่ค่ะ" ไอแซนรู้ทัน
"เออ มึง ตกลงว่ายังไง?" ไอเติ้ลสมทบ สองคนนี้ระดับความอยากรู้อยากเห็นสูงจริงๆ
"ก็อย่างที่กูสงสัยนั่นแหละ" ว่าลีโอก็คือเด็กคนนั้น
"จริงหรอวะมึง เหยดดดด!" ไอเติ้ลทำตาโต "แล้วมึงจะเอายังไงต่อไปวะ?"
"เอาอะไร?" ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจกับคำถามของเติ้ล แล้วจะให้อะไรต่อล่ะวะ
"ก็มึงจะทำยังไงต่อไปไง"
"จะให้ทำอะไร ก็เป็นเพื่อนกันดิ"
"หน้ามึงดูอยากเป็นมากกว่านั้น"
"มึงมั่วแล้ว"
"ไม่ได้มั่ว ไม่เชื่อถามไอแซน" ไอเติ้ลพยักเพยิดไปทางคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ไอแซนพยักหน้าเห็นด้วย
"กูไม่ได้คิดอะไรแบบนั้น"
"งั้นหรอ?" ไอเติ้ลทำหน้าเบื่อหน่าย "กูรู้มึงคิด ไม่งั้นมึงไม่ลงทุนกลับบ้านกับเขาทุกวันหรอก เลิกโกหกตัวเองได้แล้วมึง การกระทำมึงมันสวนทางกับคำพูด"
"ระวังจะมีคนปาดหน้าเค้กนะเพื่อนเอก เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน"
"ถูกของไอแซนดี้มัน" ไอเติ้ลสมทบ
พอได้ยินคำว่าปาดหน้าเค้ก ก็นึกถึงเรื่องในรถวันนั้นขึ้นมาได้...
'เพราะกูก็กำลังจีบน้องเขาอยู่เหมือนกัน'คำพูดที่ออกมาจากปากไอพี่ชาย ไม่เข้าใจว่ามันต้องการอะไรจากสังคม
"เออ มึง พี่กูมันบอกว่าจะจีบไอสิงโตนั่นว่ะ" พอกลับถึงบ้านในวันนั้น ก็เก็บเอาไปนั่งคิดนอนคิดด้วยอารมณ์ที่ขุ่นมัว อะไรทำให้ไอภพมันทำแบบนั้น ปกติแล้วก็เห็นมันควงผู้หญิงตลอด ไม่มีวี่แววว่าจะชอบผู้ชายเลย
หรือว่าจะ..."มันแกล้งมึงไง" ไอเติ้ลพูดสิ่งที่ตัวเราเองก็คิดเหมือนกันออกมา
"แต่เสียงแม่งจริงจังมากนะ"ตรงจุดนี้นี่แหละที่ทำให้ไม่มั่นใจ
"มึงอยู่กับพี่มึงมาตั้งแต่เกิด ทำไมยังไม่รู้อีกวะว่าแบบไหนคือมันแกล้งมึง" ไอเติ้ลทำหน้าหงุดหงิด ทุกคนในโต๊ะตอนนี้เลิกสนใจหนังสือไปนานแล้ว เพราะประเด็นนี้สำคัญกว่า
"ก็กูไม่เคยได้ยินมันทำเสียงนิ่งๆจริงจังแบบนี้นี่วะ" ปกติไอภพมันยิ้มตลอด ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะ ถ้าหน้ามันไม่หล่อนี่จะคิดว่ามันบ้าแล้ว แถมยังทำตัวแบบทีเล่นทีจริง ไม่เคยเห็นมันจริงจังกับอะไร แม้กระทั่งสอบด้วย
"กูโดนพี่มึงแกล้งตอนป.2ครั้งเดียว กูจำฝังใจจนตาย พี่มึงมันขี้แกล้ง มึงโดนบ่อยสุดยังไม่รู้อีก" ไอเติ้ลเป็นอีกคนหนึ่งที่รู้จักกับจักรภพมานานเพราะบ้านอยู่ติดกัน
"กูไม่แน่ใจนี่วะ มันอาจจะจริงจังก็ได้" ไอเติ้ลถอนหายใจกับประโยคที่ได้ยิน เอ้า ก็คนมันไม่แน่ใจนี่วะ
"เอางี้นะมึง มึงลองไม่กลับบ้านกับลีโอสักพักดูดิ ถ้ามันจะจีบจริง มันต้องไม่ใช่แค่ต่อหน้ามึง ลับหลังมันก็ต้องมีด้วย" วิธีที่ไอเติ้ลแนะนำมาก็ดีนะ ถ้าจะจีบจริงมันก็ต้องมีแวะมาหาบ้าง แล้วเวลาที่ไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไลน์ถามไอโปรเอา เพราะตอนนี้ไอโปรก็เป็นอีกคนหนึ่งที่เราสนิทมากพอๆกับไอสองคนที่นั่งร่วมโต๊ะอยู่ด้วย
"ก็ดีนะมึง" พยักหน้าเห็นด้วยกับความคิดของไอเติ้ล แซนที่นั่งฟังอยู่เงียบๆกระพริบตาปริบๆมอง
"เพื่อนเอกกังวลขนาดนี้แปลว่าชอบเขาแล้วล่ะสิ"
"..."
"ถึงขั้นนี้มันหวังแต่งด้วยแล้ว" ไอ้เติ้ลยกยิ้มมุมปาก
"..."
ไอสัส... พวกมึงหลอกถามกูสินะ..."เงียบไปเลย!" ขู่ฟ่อไอเพื่อนสองคนไปที แต่ไม่ได้เสียงดังอะไร ถ้าขืนเสียงดังคงมีรุ่นพี่เดินมาตบบ้องหัวเรียงตัวแน่ๆ
"แหนะๆ มึงโวยวายแบบนี้แปลว่าจริง กูรู้จักมึงดีมึงชอบโวยวายกลบเกลื่อน" ไอเติ้ลล้อโดยมีแซนยกยิ้มเป็นแบล็คกราวน์ประกอบฉาก
"ไม่ใช่... ไอเชี่ยเติ้ล... แม่ง..." พวกมึงมันร้าย
"งั้นถามจริงๆนะมึง" รอยยิ้มมุมปากของไอเติ้ลหุบลง
"ถามอะไรวะ"
"ตอนที่พี่มึงพูดว่าจะจีบลีโอมึงรู้สึกยังไง?" เจอไอเติ้ลยิงคำถามนี้ใส่ ทำเอาเงียบไปอยู่พักใหญ่
"ก็..."
ตอนนั้นรู้สึกยังไงวะ?"กู...ไม่ชอบ"
ไม่ชอบให้มันมาลูบหัว ไม่ชอบให้อยู่ด้วยกัน มันดูน่ารำคาญ ขวางหูขวางตา"รู้สึกว่าไอภพมันไม่เหมาะกับลีโอ"
ไม่เหมาะอย่างยิ่ง ไอพวกไม่จริงใจแล้วยังไม่จริงจังอีก เราเองยังเหมาะกว่า"ดูเป็นคนที่ไม่ทันใครเลย ไอภพมันปลาไหล ถ้าอยู่กับมันมีแต่จะเสียใจ"
ไอนี่ชอบคบซ้อน สับรางเก่งพอตัว ขืนรู้ขึ้นมาคงจะเสียใจแย่"แล้วกูก็ห่วงเขา..."
ไม่อยากเห็นสีหน้าเหมือนตอนอยู่ที่ท้องฟ้าจำลองนั่นอีกแล้ว..."แค่ห่วง?"
"ไม่รู้... กูไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้ มันคืออะไรกูก็ยังไม่รู้ เชี่ย..." ยกมือขึ้นกุมหัว นี่เป็นครั้งแรกที่เพิ่งเคยกังวลกับเรื่องของคนอื่นมากกว่าตัวเองมากขนาดนี้ ความรู้สึกชอบใครก็ไม่เคยมีมาก่อน แฟนสักคนในชีวิตก็ไม่เคยมี เรียกได้ว่า ไก่อ่อนมากๆ...
"จริงสิ... เรียกว่า หวง ล่ะมั้ง...?" เวลาเห็นมันสนิทกับไอโปรยังแอบอิจฉาเลย...
"...เรียบร้อยค่ะ ขอบคุณสำหรับการสัมภาษณ์" ไอแซนที่นั่งเงียบอยู่นานชูโทรศัพท์มือถือขึ้น หน้าจอแสดงผลเป็นโปรแกรมอัดเสียงที่ถูกเซฟแล้วเรียบร้อย
"ยินดีด้วยไอเอก ในที่สุดมึงก็ยอมรับความจริงได้สักที" ทำไมทีแบบนี้พวกมึงสามัคคีกันจังวะ
"กูเกลียดพวกมึงรองจากพี่กู!"
ไม่รู้ว่าตอนนี้ทำหน้ายังไง รู้สึกแค่ว่าร้อนไปหมดทั้งหน้า ก้มหน้าลงมองชีทกับหนังสือที่กองอยู่บนโต๊ะ อ่านไม่รู้เรื่องหรอก ไม่เข้าหัวเลย แค่อยากจะหลบสายตาจากไอตัวล้อสองตัวข้างหน้าเท่านั้น
"แหนะๆ หน้าแม่งแดงแล้วว่ะ น่ารักจังน้องเอก"
"ล้อกูอยู่ได้ ไอเชี่ย..." ยกมือขึ้นปิดหน้าปิดตา ได้ยินแต่เสียงล้อของไอเพื่อนสองคนดังเซ็งแซ่เข้ามา แต่จับใจความอะไรไม่ได้เลยเพราะตอนนี้หูมันอื้อไปหมดแล้ว
ตอนนี้ก็ผ่านมาได้เกือบอาทิตย์หนึ่งแล้ว จากที่สืบมาจากไอโปรและเพื่อนคนอื่นที่อยู่ภาคเดียวกันกับลีโอ เป็นไปอย่างที่คาดไว้จริงๆ
ไอภพไม่เคยเดินเฉียดมาคณะข้างๆอย่างคณะวิทยาศาสตร์เลยแม้แต่ครั้งเดียว และมีเพื่อนผู้หญิงหลายคน เห็นไอพี่ชายตัวแสบนี่เดินวนเวียนอยู่แถวคณะบัญชีเสียมากกว่าคณะตัวเองอีก คงจะไปง้อสาวที่เพิ่งบอกเลิกมันไปแล้วแน่ๆ
รู้สึกโล่งใจชะมัด...แล้ววันนี้ก็จะครบหนึ่งอาทิตย์แล้วที่ไม่ได้กลับบ้านพร้อมกันกับลีโอ ได้เจอกันก็แค่ตอนเรียนแลปฟิสิกส์เท่านั้น แถมไอโปรก็โม้อยู่คนเดียวในแลปจนไม่ได้คุยกับอีกคน แอบหัวเสียนิดหน่อยแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เลยเลือกที่จะเงียบดีกว่า
จริงๆก็ว่าจะลองสังเกตไอภพแค่ไม่กี่วัน แต่เพราะวันอื่นๆหลังจากนั้นดันมีนัดทำงานกลุ่มด้วย กลายเป็นว่าเวลาที่จะได้กลับพร้อมกันก็เลยเลื่อนไปอีก และได้ข่าวมาจากไอโปรเมื่อสองวันก่อนว่าวันนี้ลีโอมีนัดเริ่มซ้อมว่ายน้ำไว้เตรียมแข่งกีฬาภายในมหาลัย
“กูมาชวนมึงไปฟิตเนสด้วยพรุ่งนี้” เอ่ยปากชวนไอเติ้ลในช่วงเวลาพักทำรายงานกลุ่มในห้องสมุด ที่ตอนนี้ทุกคนต่างลงไปหาอะไรกินกันหมด เหลือเพียงแค่สองคนที่นั่งเฝ้ากระเป๋าข้าวของต่างๆไว้ให้ ไอเติ้ลเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือที่เปิดโปรแกรมแชทชื่อว่าไลน์ขึ้นมามอง ท่าทางจะกำลังคุยกระหนุงกระหนิงกับแฟนมันอยู่ล่ะมั้ง
“ทำไมจู่ๆถึงอยากออกกำลังกายวะมึง”
“พรุ่งนี้ลีโอซ้อม” บอกเหตุผลอ้อมๆกับมันไป คนได้ยินยกยิ้มอย่างเข้าใจความหมาย
“แหนะ...มึงนี่มันจริงๆว่ะ จะไปดูเขาก็บอก ไม่ใช่บอกว่าจะไปฟิตเนส แหม่…” ตบหัวไอเติ้ลแก้เขินไปหนึ่งที ที่หาข้ออ้างไปฟิตเนสนั่นก็เพราะว่าจริงๆแล้วฟิตเนสมันอยู่ที่ชั้น2ของศูนย์กีฬา ส่วนสระว่ายน้ำจะอยู่ชั้นลอยใต้ฟิตเนส ซึ่งมีอัฒจันทร์อยู่ตรงหน้าทางเข้าฟิตเนสไว้สำหรับดูเหล่านักกีฬาซ้อมว่ายน้ำ
“โอ้ย...ไอนี่แม่ง...ได้ทีตบหัวกูใหญ่เลย”
“ตบจนกว่ามึงจะเลิกล้อกู”
“ไม่ล้อแล้วก็ได้วะ แต่พรุ่งนี้กูไม่ว่างว่ะ” ได้ยินคำตอบแบบนี้ถึงกับอยากจะถีบไอคนตรงหน้าให้ตกจากเก้าอี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
“มึงนัดกับพลอยหรอ?”
“ดีนี่ที่รู้” ถอนหายใจหนักๆไปหนึ่งที พรุ่งนี้ไปคนเดียวก็ได้ เรื่องของตัวเองก็ต้องจัดการด้วยตัวเองนี่นะ
“เออ ไม่เป็นไรเว้ย เดี๋ยวพรุ่งนี้กูไปเองนั่นแหละ”
“ขอโทษด้วยนะเว้ยมึง ที่ไม่ว่างไปด้วย ถ้าได้เรื่องยังไงก็บอกด้วยแล้วกัน กูรอเผือกอยู่เสมอ”
“...”
หน้าฟิตเนสของศูนย์กีฬา ที่แต่ก่อนไม่เคยมีความคิดว่าจะมาใช้บริการให้คุ้มกับค่าเทอมที่เสียไปเลยสักนิด ยืนมองจดๆจ้องๆประตูบานใสที่มองทะลุเห็นภายในห้องใหญ่ที่มีเครื่องเล่นออกกำลังกายมากมายหลากหลายชนิด ยังเหลืออีกหลายชั่วโมงกว่าจะถึงเวลาซ้อมของลีโอเลยกะว่าจะออกกำลังกายฆ่าเวลาเสียหน่อย ตามแผนที่วางไว้
มาเล่นฟิตเนส > โทรหาไอภพ อ้างว่าจะกลับบ้านด้วย > ลงไปหามันที่สระว่ายน้ำ > เจอลีโอแผนนี้น่าจะเวิร์คที่สุดแล้ว
ให้ตายสิ เกิดมาไม่เคยต้องมานั่งวางแผนอะไรแบบนี้หลังจากยืนจดจ้องอยู่นานเลยตัดสินใจเปิดประตูเข้าไป ตั้งแต่เข้ามาเรียนที่นี่ก็ยังไม่เคยมาใช้บริการศูนย์กีฬาเลยสักครั้ง วันนี้เลยถือโอกาสมาเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในนี้บ้าง เดินเข้าไปยื่นบัตรนิสิตให้แล้วเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าที่อยู่ไม่ไกลจากด้านหน้านัก กลับออกมาพร้อมชุดวอร์มเตรียมออกกำลังกาย
เริ่มจากเครื่องวิ่งออกกำลังกายนี่ก่อนแล้วกัน…ก้มมองนาฬิกาข้อมือ คงเริ่มมากันแล้วสินะ กดปุ่มเลือกเป็นโหมดวอร์มร่างกายสักพักก่อนจะลงจากเครื่องวิ่งออกกำลังกาย ยกผ้าขนหนูที่แขวนไว้ด้านข้างมาพาดคอ เช็ดหน้าเช็ดตาไม่ให้เหงื่อโชกจนเกินไปแล้วเดินออกมาด้านนอกฟิตเนส นั่งลงตรงอัฒจันทร์ด้านบนสระว่ายน้ำ
มองลงไปยังสระว่ายน้ำข้างล่าง จากตรงอัฒจันทร์นี้สามารถมองเห็นได้ทั่วทั้งสระ เห็นไอหน้าหล่อคนหนึ่งใส่กางเกงว่ายน้ำสีดำยาวถึงต้นขากำลังยืนยืดตัวอยู่ ไม่นานนักคนที่กำลังมองหาอยู่ก็เดินมายืนยืดตัวข้างๆ เหมือนจะมีการพูดคุยกันนิดหน่อยก่อนที่จะเริ่มลงน้ำเตรียมตัวซ้อม พร้อมกับเห็นไอพี่ชายตัวดีคู่กรณีคนล่าสุดลากกระดานไวท์บอร์ดสีขาวมาใกล้ขอบสระ
นักกีฬาแต่ละคนเริ่มทยอยกันออกตัวว่ายกลับไปกลับมาในสระเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แอบสังเกตมองจักรภพที่ยืนจับเวลาอยู่ริมขอบสระเป็นระยะ หยิบมือถือขึ้นมากดโทรออก
‘ว่าไงเอก’ จักรภพใช้มือข้างที่ไม่ได้ถือนาฬิกาจับเวลากดรับโทรศัพท์มือถือ
“วันนี้ป๊าบอกว่ามึงเอารถมา” พูดตรงประเด็นในทันทีที่อีกฝ่ายขานรับโทรศัพท์ สืบจากป๊ามาเรียบร้อยแล้วว่าวันนี้ไอพี่ชายมันจะกลับเย็นเพราะต้องช่วยซ้อมว่ายน้ำให้เหล่าน้องๆในคณะ เลยขอยืมรถของพ่ออีกคันหนึ่งมาใช้
‘จะกลับด้วยว่างั้น?’
“ใช่ พอดีมาฟิตเนสกับเพื่อน” จริงๆแล้วมาคนเดียว
‘ลงมาเจอกันที่สระข้างล่างแล้วกัน หรือจะมานั่งรอเลยก็ได้ ทุ่มนึงก็เลิกซ้อมแล้วล่ะ’
“อือ…เดี๋ยวลงไป” กรอกเสียงไปตามสายก่อนจะกดวาง
นั่งเหม่อมองไปยังสระว่ายน้ำสีฟ้าใสด้านล่าง สังเกตเห็นใครอีกคนได้ไม่ยากนักด้วยเพราะผิวที่ขาวกว่าใครทั้งหมดในนี้ คนข้างล่างเองก็ยังคงว่ายอยู่ในนั้นไม่หยุด ไม่เหนื่อยบ้างเลยหรือไงกันนะ
นั่งอยู่ตรงนั้นสักพักจนคนในสระเริ่มทยอยกันขึ้นจากน้ำถึงได้รู้ว่าถึงเวลาเลิกซ้อมแล้ว ลุกขึ้นแล้วรีบกลับเข้าไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบกระเป๋าออกมาจากล็อคเกอร์แล้วเดินลงบันไดไปยังชั้นล่าง
ลงมาก็เจอกับจักรภพที่ยืนรออยู่คนเดียว ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างนึกเสียดายที่ไม่ได้เจออีกฝ่ายตรงๆ
“อ้าว มาแล้วหรอ?” จักรภพหันมาทักทาย ยังไม่ทันที่จะได้คุยอะไรกับไอคุณพี่ชาย คนที่เมื่อกี้มองหาอยู่ก็เดินเข้ามา
ใบหน้าขาวรับกับผมที่เปียกน้ำจนลู่ลงมา ทำให้รู้สึกว่า…
ไม่กล้าที่จะมองตรงๆ
ผิดไหม ถ้าจะคิดว่า น่ารัก…
เวลาปกติก็ไม่เคยจะคิดอะไรทำนองนี้กับหมอนี่ แต่ทำไมตอนนี้กลับมองว่า น่ารัก
สงสัยเพราะฟิตเนสแน่ๆ
ใช่…
เพราะฟิตเนส... เพราะเหนื่อย... “หวัดดี” อีกฝ่ายทักทายด้วยน้ำเสียงนิ่งๆเหมือนเดิม เหมือนที่ชอบทำประจำ แอบเหลือบตามอง แต่ไม่ได้ตอบกลับอะไร
หัวใจก็เต้นซะ...
ออกมาเต้นข้างนอกเลยไหม?“งั้นเรากลับกันดีกว่า” อยากจะวิ่งเข้าไปกระโดดถีบไอพี่ชายจอมปาดหน้าเค้ก ไม่รู้ว่าที่บ้านเปิดร้านเบเกอรี่หรืออย่างไรถึงได้ชอบปาดหน้านัก
ทำอะไรไม่ได้เลยได้แต่ส่งสายตาหงุดหงิดกลับไปให้จักรภพที่คว้าข้อมือของอีกคนเดินตรงไปที่รถฮอนด้าสีดำ
“ผมว่าผมนั่งข้างหลังจะดีกว่า…”
“ข้างหลังเอกมันจะนอนน่ะ เห็นว่าเล่นฟิตเนสมาหนื่อย”
เดินมาจนทันทั้งสองคนที่กำลังเถียงกันเรื่องที่นั่ง เลยพูดตัดรำคาญแล้วเปิดประตูเข้าไปนั่งด้านหลังเองเสร็จสรรพ ไม่นานนักทั้งสองคนก็เปิดประตูเข้ามานั่งในรถ ก่อนที่รถจะเคลื่อนตัวออกจากศูนย์กีฬาไป
ถึงจะบอกว่าหลับก็เถอะ แต่ไม่ได้หลับจริงๆหรอก แอบลืมตามองสองคนข้างหน้าอยู่เป็นระยะ ก็ไม่ได้มีอะไร แค่บอกทางไปบ้าน
“หลังนี่แหละครับ” จักรภพหยุดรถลงที่หน้าบ้านหลังเล็กๆหลังหนึ่ง
“ขอบคุณนะครับ” อีกฝ่ายหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ
“ไม่เป็นไรหรอก บ้านก็ไม่ได้อยู่ไกลกันมาก วันหลังจะกลับด้วยกันอีกก็ได้นะ” นี่ยังจะมีอีกครั้งหรอวะไอภพ?
“ไม่เป็นไรครับ รบกวนพี่เปล่าๆ” ดีมากที่รู้จักปฏิเสธ อย่าไปกับไอภพมัน ไอคนไม่น่าไว้วางใจ ไอบ้านเปิดร้านเบเกอรี่
“เอาน่า ยังไงพี่ก็เลิกพร้อมน้องแมวอยู่แล้ว”
“ยังไงก็ขอบคุณนะครับ แต่ว่า…” เบิกตากว้างจนแทบจะถลนออกมาเมื่อจู่ๆจักรภพก็เอื้อมมือไปจับไหล่แล้วเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายเรื่อยๆ สมองเริ่มลนลาน ทั้งตัวรู้สึกชาไปหมด
คิดว่ามันแค่จะแกล้งเราเล่นๆ
นี่มันเอาจริงหรือยังไง?เหมือนปฏิกิริยาที่ถูกรบกวนสมดุล สมองพยายามคิดหาทางทุกอย่างเพื่อให้เหตุการณ์ตรงหน้านี่หยุดลง
ไวกว่าความคิด ร่างกายทำงานอัตโนมัติด้วยการเอื้อมมือไปดันไหล่ไอพี่ชายตัวดีให้ออกห่างจากอีกฝ่าย
“ป...ไปก่อนนะครับ...” คนที่ถูกคุกคามเปิดประตูรถลงไปด้วยสีหน้าตื่นๆ แต่ถึงอย่างนั้นก่อนที่อีกฝ่ายจะลงจากรถไปก็ยังส่งสายตาขอบคุณมาให้
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่า
แต่รู้สึกแบบนั้นจริงๆ“นี่วิธีจีบของมึงหรอวะ?” เปิดฉากถามไอพี่ชายที่นั่งนิ่งส่งยิ้มหวานมาให้ผ่านทางกระจกมองหลังรถ
“แล้วทำไมหรอ?” น้ำเสียงกวนๆถูกส่งกลับมาเป็นคำตอบ
“ต่อหน้ากูเนี่ยนะ มึงก็เห็นว่ากูไม่ได้หลับ”
“อ้าว...ไม่ได้หลับหรอ? นึกว่าเอกหลับซะอีก” อีกฝ่ายพูดทั้งๆที่รอยยิ้มยังคงปรากฏอยู่บนใบหน้า
“อย่ามากวนตีน ไอเชี่ยภพ…”
“พูดกันดีๆสิเอก”
“กูยังต้องพูดดีกับมึงอีกหรอวะ? เมื่อกี้มึงเกือบจูบเขาแล้วนะเว้ย จูบน่ะ! จูบ!”
“ทำไม? มึงชอบเขาหรือไงถึงเดือดร้อนจัง?”
“เออ กูชอบเขา! พอใจยั...”
ชิบหายแล้วไง...・ 。 ★彡
☆彡。∴。。 ☆彡 ・
・゚*。★彡・ 。*・゚ ★彡
・ 。・*・゚。 ・
・ 。・*・゚。
TBC
สวัสดียามดึกค่ะ
ตอนนี้คำโปรยก่อนเริ่มตอนดูจะไม่เกี่ยวกับฟิสิกส์หรือดาราศาสตร์สักเท่าไหร่ แต่เอาเถอะ ยังไงลีโอก็เรียนเคมีแล้วด้วย (แฮะๆ)
ชี้แจงเล็กน้อยค่ะ เผื่อแอบงง
คือจักรภพเป็นพวกชอบแกล้งน้องชายตัวเอง ทางเติ้ลก็เลยมีความคิดว่า ถ้าไม่มีเอกอยู่ในเหตุการณ์ ทุกอย่างคงจะปกติแน่ๆ(ในกรณีที่จักรภพไม่ได้คิดจะจีบลีโอจริงๆ และเพียงแค่ต้องการแกล้งเอกเท่านั้น) ก็เลยเสนอว่าให้ลองไม่ไปเจอลีโอดู แล้วก็แอบให้คนอื่นไปสังเกตการณ์แทนตัวเอง จะได้รู้ว่าจริงๆแล้วจักรภพกำลังแกล้งตัวเองอยู่หรือเปล่า?
ตอนนี้เอกก็ยอมรับตัวเองแล้วนะคะ ดีใจแทนลีโอด้วย เร็วๆนี้จะมีคนมาจีบหนูแล้วนะ

พ่อนักวางแผนฝึกหัดกับพี่ชายเจ้าของร้านเบเกอรี่(ปาดหน้าเค้ก) (...)

ปล. ภาพข้างบนก่อนคำว่า TBC นั่นคือฝนดาวตกนะคะ แฮ่ เขิน... (ไปเจอมาจากในเว็บญี่ปุ่นเว็บนึง น่ารักดีก็เลยเอามาใส่ค่ะ)
ปลล. ติชมได้ตามสบายเลยนะคะ น้อมรับทุกความคิดเห็นค่า
รักคนอ่านทุกท่านมากๆๆๆๆๆ
