★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่16 ถึงคุณจักรวาล | P.6] 03/03/59
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ★⋆Star Chart ⋆★ [ตอนที่16 ถึงคุณจักรวาล | P.6] 03/03/59  (อ่าน 72563 ครั้ง)

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 03-03-2016 18:16:22 โดย Sirius »

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
«ตอบ #1 เมื่อ25-01-2015 00:49:17 »

แปลกหรือเปล่า?
 
ทั้งๆที่มันก็นานมาแล้ว
 
แต่ก็ยังจำเรื่องราวตอนเด็กๆได้เป็นอย่างดี

 

Intro

 


น่าเบื่อ


 
เป็นคำเดียวที่ผุดขึ้นมาในหัวตอนนี้  เพราะโดนบังคับให้ออกมาเที่ยวกับครอบครัว

 

น่าเบื่อมาก


 
ถ้าเป็นการเที่ยวส่วนตัวที่มีเฉพาะคนในครอบครัว คงจะไม่น่าเบื่อขนาดนี้ แต่ที่ถูกพามาดูเหมือนจะเป็นทริปดูดาวกับสมาคมคนชอบดูดาวล่ะมั้ง?
 

“ไม่ทำหน้าบูดแบบนั้นนะเอก มันสนุกนะ เราเอาแต่เล่นเกมอยู่บ้าน มาเปิดหูเปิดตาข้างนอกบ้างก็ดี” พ่อพูดด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้ม

 
หึ...เพราะตัวเองชอบดูดาวต่างหาก ถึงได้ลากคนอื่นมา

 
ถึงจะคิดแบบนั้น แต่ดูเหมือนพี่ชายกับแม่จะไม่ได้รู้สึกเหมือนถูกลากให้มาสักเท่าไหร่  ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้ม ดูสนุกสนานตื่นเต้น
 

ยืนรออยู่หน้าตึกสมาคมได้ไม่นาน  เสียงโทรโข่งของเจ้าหน้าที่ดังขึ้น ประกาศว่าให้ขึ้นรถบัสได้

 
เดินหน้าบูดตามหลังพ่อแม่แล้วก็พี่ชายไป  เดินเลยถัดจากเบาะของพ่อกับแม่ไปอีกเบาะหนึ่งเป็นที่ว่าง แต่สายตาดันเผลอมองไปที่เบาะถัดไปที่มีเด็กผู้ชายอีกคนนั่งมองออกไปนอกกระจกอยู่

 
ไม่รู้ว่าถูกดึงดูดให้ยืนมองอยู่แบบนั้นนานเท่าไหร่  ในหัวตอนนั้นมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา



 
ทำไมหมอนี่ถึงได้ขาวจังวะ



 
สุดท้ายก็ต้องหยุดความคิดลง เมื่ออีกคนละสายตาจากหน้าต่างหันมามอง  พี่ชายเองก็หันมาเรียก ว่าทำไมไม่นั่งลงสักที ก่อนจะชะเง้อไปมองคนด้านหลังบ้าง  จัดที่นั่งตัวเองจนเรียบร้อยเสร็จก็เอนหลังพิงเบาะหลับ
 
 





 
นั่งหลับยาวรวดเดียวจนมาถึงที่พัก เพราะขี้เกียจเล่นเกมกับวิทยากรที่ในรถ ยังรู้สึกหงุดหงิดไม่หายที่ถูกบังคับให้มาเที่ยวอะไรที่ดูมีสาระแบบนี้  ทั้งๆที่วันนี้exp x2แท้ๆ  ไม่รู้ป่านนี้พวกเพื่อนที่โรงเรียนคงเลเวลอัพกันไปหลายขุม ตามไม่ทันแน่ๆ

 
โดนพาให้มาดูวิธีใช้กล้องดูดาวโน่นนี่นั่น  ไม่ได้สนใจจะฟังเลยสักนิด จนวิทยากรปล่อยอิสระนั่นแหละ ถึงได้เดินหลบออกมา  สายตาเหลือบไปเห็นเด็กผู้ชายที่เจอกันบนรถนั่น  เพราะผิวที่ขาวมาก แต่ก็ไม่ถึงกับซีดบวกกับเวลากลางคืนที่มีสปอร์ตไลท์ส่องลงมาแบบนี้เลยทำให้เห็นเจ้าตัวได้ชัด

 
อีกฝ่ายหันมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ตอนที่มานั่งข้างๆ  จากตรงนี้เห็นได้ชัดว่าผิวขาวจริงๆ  ถ้าเอามือไปตบๆที่หน้าคงขึ้นสีแดงได้ไม่ยาก
 

“มันใช้ยังไง” เห็นแผ่นกระดาษสีน้ำเงินในมือของอีกฝ่ายเลยถามออกไปด้วยน้ำเสียงห้วนๆที่ใช้พูดกับคนในครอบครัวจนเป็นปกติ อย่างน้อยก็อยากจะหาเรื่องคุยด้วยสักหน่อย พวกที่มาก็มีแต่คนที่โตกว่า แหงล่ะ นี่มันเป็นกิจกรรมของผู้ใหญ่ จะมีที่ยังเป็นเด็กอยู่ก็แค่หมอนี่กับตัวเรา แล้วก็ไอพี่ชายที่อายุห่างกันแค่2ปีนั่น
 

“ถามเราหรอ?” น้ำเสียงนิ่งๆตอบกลับมา จะให้ถามใครล่ะ ในเมื่อนั่งคุยกันอยู่สองคน  อยากจะเถียงกลับไปแบบนี้แต่ตอนนี้คิดว่าไม่เอาดีกว่า

 
“อยู่กันแค่นี้จะให้ถามใครล่ะ” เอ้า... ปากเจ้ากรรมก็ดันหลุดไปก่อนความคิด อีกคนเบะปากร้องไห้แหงๆ ท่าทางดูจะลูกคุณหนู คงไม่เคยฟังคำพูดทำร้ายจิตใจมาก่อนแน่

 

ผิดคาดไปหน่อยที่อีกฝ่ายเงียบเป็นคำตอบ  คงจะกำลังแค้นเคืองคำพูดนั้นอยู่ในใจสินะ

 

แผ่นสีน้ำเงินนั่นถูกยื่นมาให้แทนคำตอบ  ถามว่าใช้ยังไง ไม่ได้จะเอาไอแผ่นนี่  ท่าทางหูจะมีปัญหานะ
 

“สอนด้วยสิ” เผลอใส่น้ำเสียงหงุดหงิดไปอีกแล้ว แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่

 
“มีวิธีใช้อยู่”  นิ้วเล็กๆนั่นชี้ลงบนแผ่นสีน้ำเงิน
 


'คำแนะนำในการใช้แผนที่ฟ้า'
 


ตัวอักษรขนาดใหญ่เด่นหราอยู่ให้เห็นได้ไม่ยาก

 
ขมวดคิ้วครุ่นคิด แล้วอ่านข้อความวิธีใช้บนแผ่นสีน้ำเงินนั่นในใจ

 
หยิบแผนที่นั่นมาลองทำตามดู จุดสีขาวตัดกับฉากหลังสีน้ำเงินกับเส้นเวกเตอร์สีขาวในโดมรูปโค้งบนแผ่นสีน้ำเงินนั่นถูกหมุนให้เลื่อนไปตามวันที่ที่ต้องการ  จนปรับวันที่และเวลาได้ตรงกับ ณ ตอนนี้  จุดและเส้นพวกนั้นหยุดลง ปรากฏเป็นหมู่ดาวบนแผ่นกระดาษสีน้ำเงิน

 
“ข้างหน้านาย คือ แอนโดรเมดา”  เสียงนุ่มๆถูกเอ่ยออกมาจากปากอีกฝ่าย มือเล็กๆชี้ไปที่จุดและเส้นเวกเตอร์กระจุกหนึ่งในแผนที่


“ถ้าดูดีๆจะเหมือนรูปผู้หญิง…”

 
“ไม่เห็นเหมือนเลยสักนิด” เผลอหลุดปากแทรกไปทันทีตามนิสัยพวกชอบเถียง เงยหน้ามองอีกคนที่สีหน้าก็ยังคงนิ่งเหมือนเดิม
 

“ต้องมีจินตนาการ” ถูกตอบกลับมาแบบนั้น ไปต่อไม่ถูกเลย ไอจินตนาการน่ะมีอยู่แล้ว แต่คงไม่ใช่กับอะไรแบบนี้ สุดท้ายก็เผลอบ่นออกไปเบาๆ “ดูยากชะมัด”
 

“ถัดลงมาหน่อยเป็นเพกาซัส ลองเทียบกับดาวบนท้องฟ้าดูสิ” มองจุดสีขาวกับเส้นเวกเตอร์ที่ต่อกัน ...ถ้ามองดีๆก็คล้ายๆม้าจริงๆ จากนั้นก็ลองมองเทียบกับของจริงบนท้องฟ้า เหมือนกับในแผนที่ดาวสีน้ำเงินนี่ไม่มีผิด
 

“อืม...อันนี้ค่อยดูเหมือนม้าหน่อย...แต่เป็นม้ากลับหัว...” พยักหน้าเห็นด้วยไปหนึ่งที ความรู้สึกสนุกค่อยๆก่อตัวขึ้น
 


ไม่รู้ว่าผ่านไปนานเท่าไหร่แล้ว  แต่คุยไปเรื่อยๆก็สนุกดีเหมือนกัน

 
หน้าหมอนี่นิ่งตลอดเวลาจริงๆ  แม้กระทั่งตอนที่พวกผู้ใหญ่เรียกให้ไปส่องกล้องโทรทัศน์นั่น แต่ดูก็รู้เลยว่ากำลังสนุกอยู่ จากสายตาที่ทอประกายความสนอกสนใจออกมา

 

คงจะชอบมากสินะ...


 
พอได้ลองส่องกล้องดูบ้าง คิ้วที่เคยขมวดกันอยู่ตลอดเวลาก็คลายออก

 
แม้จะเป็นแค่จุดขาวๆอมส้มจางๆ แต่กลับรู้สึกตื่นตาตื่นใจขึ้นมา

 


นี่คือดวงดาวที่อยู่นอกโลกสินะ


 
พอละจากกล้องโทรทัศน์ตัวใหญ่ออกมา มองซ้ายมองขวา หาอีกฝ่ายที่ตอนแรกก็ยังอยู่ด้วยกันดีอยู่แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับหายไปไหนไม่รู้  มองไปรอบๆลานหน้าที่พักก็เจอแต่เหล่าผู้ใหญ่ส่องกล้องดูดาวกัน ไม่มีวี่แววของคนที่เพิ่งจะได้คุยกันเลยสักนิด


 
ตัดสินใจนั่งลงที่พื้นหญ้าแถวนั้น รอ...


 
รอให้อีกฝ่ายกลับมา


 
ยังไม่ได้คืนแผนที่ดาวนี่เลย


 
เดี๋ยวก็คงกลับมาเอาแหละ...


 
ถึงจะเชื่อไปแบบนั้น


 
แต่สุดท้าย...


 
เจ้าของของมันก็ไม่กลับมา...


 
 







อีกเลย...



ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
«ตอบ #2 เมื่อ25-01-2015 01:13:08 »

สิ่งที่เหลือไว้...
 
คือ
 
แผนที่ดาวสีน้ำเงิน กับ คำว่า “จักรวาล”

 
 
ตอนที่ 1



“วันนี้กินข้าวที่ไหนวะ?”

 
“วิทยาสิคะเพื่อน จะให้ไปกินที่ไหนล่ะ ตอนบ่ายเรียนแลปเนี่ย”
 

เดินตามหลังเพื่อนสองคนเถียงกันไปมาตั้งแต่ลงมาจากตึกยันเดินมาถึงหน้าคณะ  ยืนถอนหายใจให้กับเรื่องเล็กๆที่ตัดสินใจกันไม่ได้สักที

 
“กับข้าวแม่งห่วยเกิน ไม่อยากแดก”  ไอเติ้ลเพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยประถมเพราะบ้านอยู่ข้างๆกันเถียง

 
“แดกๆไปเหอะค่ะคุณเพื่อน  อีกอย่าง...คุณเพื่อนเคยกินหรือไงคะถึงบอกว่าห่วย” ที่กำลังเถียงกับเติ้ลอยู่คือแซน เพิ่งรู้จักกันตอนรับน้อง เป็นสาวห้าว อารมณ์ดี งานอดิเรกคือส่องคนที่เดินผ่านไปผ่านมาในมหาลัย

 
“งั้นให้ไอเอกตัดสิน...ว่าไงมึง จะกินข้าวที่ไหน?” เติ้ลหันมาถามผมที่ยืนทำหน้าเซ็งอยู่ ใจจริงก็อยากกินคณะอื่นเหมือนกัน เพราะข้าวราดแกงที่คณะนี้รสชาติไม่ค่อยถูกปากเท่าไหร่...ไม่ถึงกับไม่อร่อยหรอก ก็พอกินได้ แต่ถ้าเลือกได้ก็ไม่ค่อยอยากกินสักเท่าไหร่

 
“กินที่วิทยานั่นแหละง่ายดี กินเสร็จก็เข้าแลป ไม่เสียเวลา” ไอเติ้ลทำหน้ายู่ ส่วนแซนยิ้มร่าอย่างผู้ชนะ
 
 



เดินกันจนมาถึงโรงอาหารคณะวิทยาศาสตร์ เป็นโรงอาหารที่อยู่ตรงข้ามตึกที่สูงที่สุดในมหาลัย เดินหาที่นั่งได้ไม่นาน เพราะโรงอาหารค่อนข้างโล่ง


ต่างจากคณะของพวกเราที่จำนวนคนมากินแทบจะล้นออกไปนอกโรงอาหาร ลำพังแค่จำนวนคนในคณะก็เยอะอยู่แล้ว ซ้ำยังมีคนจากคณะอื่นมากินอีก จะคนเยอะก็ไม่แปลก

 
“รู้อะไรเปล่าเพื่อน” พอซื้อข้าวมานั่งกินกันเสร็จ แซนก็เปิดประเด็นขึ้นมา มันเป็นอย่างงี้แหละ เรียกทุกคนที่รุ่นเดียวกันว่าเพื่อน ก็น่ารักดี

 
“อะไรวะ จะพูดก็พูดมา” ไอเติ้ลตอบด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ดูก็รู้ว่ากับข้าวตรงหน้าไม่ถูกปากมันเท่าไหร่  แต่ถ้าให้เดาเรื่องที่แซนกำลังจะพูด ก็คงหนีไม่พ้นเรื่องหนุ่มๆในรั้วมหาลัยนี่ล่ะ เชื่อสิ

 
“วันก่อนเจอเด็กวิทยาเนี่ยแหละเว้ย น่ารักมาก เขาบอกว่าเด็ด!” ไม่ค่อยต่างจากที่คาดคะเนไว้สักเท่าไหร่ ถ้าไม่ใช่เรื่องของกินก็คงเป็นเรื่องหนุ่มๆในมหาลัยนี่แหละ ไอเติ้ลเงยหน้าขึ้นมาเบะปากใส่แซนก่อนจะก้มกินข้าวต่อ เลยโดนมันจับกดหัวลงกับจานข้าว แต่ไอเติ้ลมันรู้ทันเลยขืนตัวไว้ได้

 
“ว่าแล้วทำไมมึงถึงให้มากินข้าวที่นี่  ...ทำไม? มึงจะจีบเขาหรอ?” เลิกคิ้วถามอีกฝ่าย เห็นมันอมยิ้มทำหน้าเขิน


“ก็อยากอยู่นะ แต่แบบว่า...เค้าเขินอะ...”  แถมยังทำท่าบิดๆใส่ไอเติ้ลที่นั่งอยู่ข้างๆ จนมันทำหน้าเหยเกใส่


“เขาไม่เอามึงหรอกแซนดี้” ไอเติ้ลผลักหัวแซนไปที



 
หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็มายืนมองดูไอเติ้ลกับแซนทะเลาะกันหน้าลิฟต์ต่อ พวกมันสองคนทะเลาะกันตั้งแต่ที่โรงอาหารจนมาถึงลิฟต์ของตึกคณะวิทยาศาสตร์ที่ใช้เรียนแลปกัน
 

ตึกนี้มีลิฟต์หลายตัว เพราะหลายๆคณะทางสายวิทยาศาสตร์ต้องมาเรียนที่นี่ แถมตึกก็มีหลายสิบชั้น พวกที่มีเรียนชั้นสูงๆเลยต้องใช้ลิฟต์  ซึ่งเรามีเรียนกันที่ชั้น7 จะให้เดินก็ได้อยู่ แต่พอแซนมันบอกว่า ‘ขี้เกียจเดิน อุ้มหน่อย’ เท่านั้นล่ะ ไอเติ้ลรีบเดินมาหน้าลิฟต์ทันที

 
“ไอแซนดี้มึงเดินสิวะ คนอื่นเขาเข้าไปกันหมดแล้วเนี่ย มัวแต่ด่ากู” ไอเติ้ลผลักหัวแซนจนเซไปข้างหน้า พวกเราเดินตามกลุ่มคนที่รอหน้าลิฟต์เข้าไป

 
“รอด้วยครับ!”  เสียงร้องห้ามดังขึ้น รู้สึกได้ว่ามีคนเข้ามาเพิ่มอีกคน ก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิด  แซนตาโตสะกิดผมกับไอเติ้ลเป็นการใหญ่ ผมที่ยืนหันหลังให้ประตูลิฟต์อยู่ เลยบอกมันเบาๆว่า ‘หันไปดูไม่ได้คนแน่น’  ส่วนไอเติ้ลก็ทำหน้าเหมือนโดนยาเบื่อหนูใส่แซน


“คนที่ฉันบอกไงเพื่อนนนนน” มันลากเสียงยานคาง เขย่าแขนเสื้อผมด้วยความตื่นเต้น

 
พอลิฟต์เปิดที่ชั้น4 มีคนทยอยออกไปบ้าง ถึงได้หมุนตัวกลับไปทางประตูลิฟต์ เลยได้เห็นคนข้างหน้าที่น่าจะเป็นคนที่ไอแซนมันสะกิดให้ดู...
 




คนอะไรขาวชิบหายเลยเว้ย...



 


นั่นเป็นความคิดแรกที่แล่นเข้าในสมอง...
 


 
แอบมองสำรวจอีกฝ่ายนิดหน่อย ในมือถือเสื้อกาวน์ที่ต้องใช้เข้าแลปกับหนังสือแลปเล่มสีเหลืองๆ คงเป็นพวกคณะวิทยาศาสตร์ล่ะมั้ง? เพราะคณะผมไม่ได้ใส่เสื้อกาวน์ตอนเข้าแลป

 
พอลิฟต์จอดที่ชั้น7ก็จริงอย่างที่คิด  มนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอนั่นเดินเลี้ยวไปทางซ้ายที่มีป้ายเขียนว่า ‘สำหรับนิสิตคณะวิทยาศาสตร์’ ส่วนพวกผมต้องเลี้ยวขวาที่มีป้ายเขียนว่า ‘สำหรับนิสิตคณะวิศวกรรมศาสตร์’   
ชั้น7 ซึ่งเป็นแลปเคมีนี่จะมีสองคณะที่เรียนด้วยกัน เพียงแต่แยกฝั่งกันเรียน


 
พอออกมาพ้นจากลิฟต์ได้ไอแซนก็รีบมากรี๊ดกับผมและไอเติ้ลใหญ่ 


 
“เพื่อนนนน คนนี้แหละที่บอกค่ะ น่ารักมากเลยเห็นมั้ย กรี๊ดดดดดด”

 
เมื่อกี้มัวแต่ตกใจเรื่องผิวขาวเหมือนกระดาษดับเบิ้ลเอจนไม่ทันได้มองหน้าสักเท่าไหร่ แต่เท่าที่สังเกตดูหุ่น...

 
“แซน มึงชอบคนผอมๆเป็นกุ้งแห้งแบบนี้หรอเนี่ย...” ว่าแล้วก็ขมวดคิ้วทำหน้าเครียดใส่แซนที่ยังไม่เลิกเพ้อถึงไอมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอเมื่อกี้

 
“เพื่อนดูดิ  เขาใส่เสื้อกาวน์อะแก อร๊ายยยย ฉันหนาวอะ อยากไปซบเสื้อกาวน์...” ไอเติ้ลมันเลิกสนใจแซนแล้วหันไปหยิบหนังสือแลปของตัวเองมาอ่านทวน เพราะก่อนจะเริ่มเรียนจะต้องมีการควิซทุกครั้ง

 
ผมได้แต่ส่ายหน้าแล้วหยิบหนังสือแลปขึ้นมาอ่านบ้าง  แอบเหลือบมองไปทางฝั่งวิทยาที่มีคนจับกลุ่มรอเข้าเรียนแลปอยู่เหมือนกัน  เห็นไอมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอได้ไม่ยาก ขาวเห็นเด่นชัด กำลังยืนหันหลังเหมือนอธิบายอะไรสักอย่างให้กับเพื่อนที่ยืนตั้งใจฟังอยู่สองสามคนได้

 
พอเสียงออดดังทุกคนก็ทยอยกันเข้าห้อง 


ต้องรีบหาที่นั่งเพราะถือว่าเป็นเวลาเริ่มทำควิซด้วย  พอหาที่นั่งได้เรียบร้อยก็เริ่มลงมือทำ ถ้าอ่านมาข้อสอบก็ไม่ยากเท่าไหร่ เพราะเป็นคำถามก่อนเริ่มเรียนนี่นะ...
 
 
 
 
พอหมดเวลา10นาที อาจารย์ก็มาเก็บข้อสอบไป  แล้วก็เริ่มเข้าสู่การเรียนที่แสนน่าเบื่อ อากาศก็ร้อนเพราะเป็นห้องเรียนที่ไม่เปิดแอร์  ไอเติ้ลที่นั่งอยู่โต๊ะตรงข้ามก็ดันเอาพัดลมในห้องแลปไปเปิดจ่อโต๊ะตัวเอง  ไอเพื่อนเวร
 




จะว่าไป...




 
รู้สึกหนังตาหนักๆยังไงไม่รู้แฮะ...

 
 
 
 


 
 
 

 
ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปได้ยังไง อาจจะเป็นเพราะอากาศร้อน แถมทั้งยังใส่เสื้อแขนยาวอีกก็เป็นได้ ตื่นมาอีกทีทุกคนก็พร้อมใจกันจะกลับบ้านหมดแล้ว 




เวรแล้วไง



แล้วไอคู่แลปก็ดันไม่มาเรียนอีก ให้ตายสิ…






“อ้าว นี่มึงยังไม่เสร็จอีกหรอวะ?” ไอเติ้ลเดินมาถามที่โต๊ะ  เลยส่ายหน้าให้มันแทนคำตอบไป


“ถ้าเสร็จแล้วจะนั่งอยู่แบบนี้หรอวะ?”


ไอเติ้ลถอนหายใจ “กูอยากเอาผลให้มึงลอกนะเว้ย แต่อาจารย์เขาสั่งว่าไม่ให้ลอกกัน มึงต้องทำเอง”


“เออ กูรู้แล้วน่า” ตอบไปอย่างหัวเสีย ยังไม่ทันที่ไอเติ้ลจะได้พูดอะไรต่อ อาจารย์ก็เดินเข้ามาหา

 
“อ้าว คุณเอกภพ ตื่นแล้วหรอ?  รีบๆทำเข้าล่ะ เดี๋ยวผมฝากกุญแจไว้กับพี่ทีเอให้เขารอคุณนะ แค่บันทึกผลอย่างเดียวก่อนก็ได้ ส่วนพวกสรุปการทดลองน่ะ ไปเขียนที่บ้านแล้วเอามาส่งพรุ่งนี้นะ” มาถึงอาจารย์ก็รัวใส่เป็นชุด  เลยทำได้แค่ยิ้มแหยๆตอบกลับไป


“อ้อ เกือบลืมถามเลย ...หลับสบายดีไหม?” อาจารย์ตบบ่าให้กำลังใจสองสามที จากนั้นก็เดินจากไปด้วยสีหน้าอมยิ้มเหมือนกำลังกลั้นขำอยู่
 

ไอเติ้ลหัวเราะกร๊าก ส่วนแซนก็เดินตามมาสมทบทีหลัง พอไอเติ้ลเล่าเรื่องเมื่อกี้ไป ก็พร้อมใจกันหัวเราะใส่ 
 




เออดี  ดีมาก





 
“สู้ๆนะเว้ยเพื่อนเอก แซนดี้คนนี้มีธุระจริงๆคงอยู่ช่วยไม่ได้ ขอโทษน้า...” แซนลากเสียงยานคางพร้อมยกมือไหว้ปรกๆใส่ผม

 
“ขอโทษนะเว้ยไอเอก แต่กูนัดน้องพลอยไว้ว่ะ” ไอเติ้ลรีบพูดขึ้นมาบ้าง
 

“เออๆ ไปเถอะเว้ย กูทำเองได้”  บอกปัดๆไล่ให้พวกมันไป
 





ไม่ได้น้อยใจอะไรนักหรอกนะ ก็ผิดเองล่ะที่หลับ...
 
 


 







นั่งขมวดคิ้วทำหน้าเครียดในห้องแลปคนเดียว จริงๆแลปนี้มันควรจะมีคนมาทำด้วยอีกคนสิ ไหนจะต้องจับเวลาแล้วยังต้องคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสารอีก

 
“วางตรงนี้แหละจ้ะ ขอบคุณมากเลยนะที่ช่วย” เสียงพี่ทีเอที่ดูแลห้องแลปนี้พูดขึ้นมา เหมือนจะมีใครสักคนยกของมาให้ล่ะมั้ง?


“ไม่เป็นไรครับ”


“จริงสิ นี่เรามีไปไหนต่อหรือเปล่า?” น้ำเสียงเบาลงเหมือนกับกำลังรู้สึกลำบากใจ แต่เพราะตอนนี้ไม่มีใครอยู่ เลยทำให้เสียงนั้นดังก้องไปทั่วห้อง


“ก็...” คู่สนทนาอีกคนนิ่งเงียบไปอย่างใช้ความคิด “ไม่มีนะครับ มีอะไรหรือเปล่า?”


“ดีเลย! พอดีพี่นัดทานข้าวกับแฟนไว้ แล้วอาจารย์ให้รอเด็กที่ยังทำแลปไม่เสร็จน่ะ วานปิดห้องแทนพี่หน่อยสิ”


“ได้ครับ เดี๋ยวผมเอากุญแจไปคืนป้าเดือนให้”


“จ้ะ ขอบใจมากนะ”
 

เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นค่อยๆดังห่างออกไปเรื่อยๆ พี่ทีเอคนนั้นคงออกจากห้องไปแล้วเรียบร้อย แทนที่ด้วยเสียงหนักๆของรองเท้าหนังดังเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
 



คงจะมาเดินตรวจดูล่ะมั้ง?


 

คิดได้แบบนั้นก็ก้มหน้าก้มตาวัดผลต่อไป แต่ดูจะลำบากไปสักหน่อย เพราะต้องทั้งวัดทั้งสังเกตทั้งจดบันทึก ทำในคนเดียว ทั้งๆที่มันควรจะทำเป็นคู่


“ให้ช่วยไหม?”



“เฮ้ย!”






 นี่มัน…



มนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอเมื่อตอนกลางวันนี่…






แทบจะหงายหลังตกเก้าอี้ เมื่อจู่ๆใบหน้าขาวๆก็โผล่มาจากด้านข้าง  ถึงอย่างนั้นก็รีบตีสีหน้าให้กลับมาเป็นปกติ แล้วตอบไปด้วยน้ำเสียงติดขัดนิดหน่อย


“ก...ก็ดี”


“นายคอยบอกอุณหภูมิแล้วกัน เดี๋ยวจะจดให้” ปากกาที่อยู่ในมือถูกดึงออกไปโดยไม่บอกกล่าว ผู้มาใหม่ลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ ก่อนจะหยิบสมุดแลปมาวางไว้ตรงหน้าตัวเอง



ไม่มีการพูดคุยอะไรกันเกิดขึ้น มีเพียงตัวเลขอุณหภูมิที่ถูกบอกออกมาเป็นระยะๆ

และเสียงปากกาจดบันทึกผลลงในสมุด…
















บีกเกอร์ถูกเทเอาน้ำแข็งและน้ำที่อยู่ข้างในออก ก่อนจะตามด้วยน้ำจากก๊อกน้ำชะล้างคราบที่เปื้อนอยู่ในแก้ว ผ้าขนหนูผืนหนาซับหยดน้ำที่เปียกอยู่ออกจนหมด อุปกรณ์ทุกอย่างถูกเก็บใส่ตู้แล้วล็อคไว้เป็นอย่างดี
 

หลังจากเก็บอุปกรณ์เสร็จก็ออกมายืนหน้าห้องรออีกคนที่กำลังใช้กุญแจล็อคประตูอยู่


“ไม่กลับล่ะ?” ถูกถามด้วยเสียงที่เรียบนิ่งพอๆกับใบหน้า หลังจากที่อีกฝ่ายล็อคประตูห้องเรียบร้อยแล้ว


รู้สึกไม่ค่อยชินกับคนที่นิ่งเงียบแบบนี้สักเท่าไหร่ ตลอดการทดลอง ก็มีเพียงแค่เสียงตัวเราที่คอยบอกอุณหภูมิในแต่ละช่วงเวลา และเสียงปากกาที่เสียดสีกับเนื้อกระดาษ





เป็นบรรยากาศที่ชวนให้รู้สึกอึดอัด แต่ก็น่าแปลกที่ไม่ได้รู้สึกอย่างนั้น



เพียงแค่รู้สึกเกร็งซะมากกว่า…






“ก็รอกลับพร้อมกันไง”


“รอทำไมน่ะ?” อีกฝ่ายเอียงคอถาม  เป็นพฤติกรรมที่ตลกดี ไม่ค่อยได้เห็นคนที่พอสงสัยแล้วจะเอียงคอถามสักเท่าไหร่


“จะเลี้ยงข้าว...”


“ตอบแทนที่ช่วยทำแลป...”


 


น่าอายจริงวุ้ย เพิ่งจะเคยเลี้ยงข้าวใครอื่นที่ไม่ใช่เพื่อนสนิทเนี่ย...
 



แต่ก็เอาเถอะ อุส่ามาช่วยนี่นะ





แล้วนี่ก็เย็นมากแล้วด้วย...

 
 


คู่สนทนาส่ายหน้า ยกมือขึ้นโบกเป็นเชิงปฏิเสธ “ไม่เป็นไร เรื่องแค่นี้ไม่ต้องถึงกับเลี้ยงข้าวก็ได้”
 
 



น่าอายอีกรอบ ที่ถูกปฏิเสธ...


 

 
“ให้เลี้ยงเถอะน่า อย่าเรื่องมาก!” เผลอตะคอกไปตามนิสัยคนเอาแต่ใจ หวังว่าอีกคนจะไม่ตกใจแล้วน้ำตาร่วงหรอกนะ


“ก็ได้…” ผิดคาดไปหน่อยที่อีกฝ่ายตอบตกลงอย่างง่ายดาย ซ้ำสีหน้าก็ยังคง...



นิ่งเหมือนเดิม







ร้านราเมนหมายเลข8แห่งหนึ่งในห้างชื่อดังติดรถไฟฟ้าใต้ดิน คนมากมายพลุกพล่านเดินเข้าออกร้านกันให้ขวักไขว่ แต่ก็ยังดีที่มีที่นั่งสำหรับสองที่ว่างอยู่


สั่งเมนูง่ายๆราคาเบาๆไป ก่อนจะแอบเหลือบมองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามว่าจะสั่งอะไร


"เอาชาชูเมนครับ" อ๋อ...ชามนี้ที่มีหมูอบซีอิ๊วนี่เองสินะ...


คิดในใจเล่นๆระหว่างรอราเมน อีกฝ่ายก็นั่งเล่นมือถือเงียบซะจนไม่รู้จะชวนคุยอะไรดี จะว่าไปตอนแซนมันกรี๊ดไอหมอนี่ก็ไม่ยักกะบอกว่าชื่ออะไรแฮะ


"เราชื่อเอกภพ นายชื่ออะไรล่ะ?" เปิดบทสนทนาแนะนำตัวด้วยภาษาที่สุภาพไป เพราะไม่รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นนิสัยใจคอเป็นยังไง หน้าตาดูลูกคุณหนูแบบนี้ก็กลัวจะรับไม่ได้กับภาษาสมัยพ่อขุนราม 


"หือ?" คนถูกถามเงยหน้าจากมือถือขึ้นมามองนิ่งๆ






โว๊ะ! ไอนี่หนิ ถามนี่หัดฟังกันบ้างดิวะ





"ชื่ออะไร? เราชื่อเอกภพ!" แอบกระแทกเสียงไปด้วยความลืมตัวอีกเช่นเคย นิสัยแบบนี้แก้ไม่ได้แล้วจริงๆล่ะมั้ง


"...." อีกฝ่ายนิ่งไปสักพักเหมือนจะนึกขึ้นได้ว่าถูกถามอยู่ รอเพียงชั่วอึดใจก็ได้คำตอบที่ทำให้รู้สึกคันๆที่เท้าขึ้นมาซะอย่างงั้น



"เอาชื่อจริงหรือชื่อเล่นล่ะ?"



ฮ่วย...



"อยากบอกชื่อไหนก็บอก"  ไปๆมาๆเริ่มรู้สึกหงุดหงิด จริงๆประโยคแนะนำตัวสุดเบสิคนี่มันควรจะจบตั้งแต่ประโยคแรกแล้ว เพียงแค่บอกชื่อตัวเองกลับมา แต่นี่อะไร อยากได้ชื่อจริงหรือชื่อเล่น เออ...แปลกดี



"ชื่อเล่นชื่อ...ลีโอ" ฝ่ายถูกถามตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ "แต่ถ้าชื่อจริงชื่อ..."




“ชื่อ?”














“จักรวาล…”


⋆☆



TBC


สวัสดีผู้อ่านทุกท่านค่ะ //กราบงามๆ

เป็นสมาชิกใหม่ค่ะ สดๆร้อนๆได้ไม่นาน (หลังจากที่เป็นแค่สมาชิกทั่วไปภายนอกมานาน ฮ่า)

คือช่วงนี้งานมันเยอะหนักหน่วงมากค่ะ เราเลยหนีความจริงด้วยการแต่งนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา

โดยส่วนตัวเราเป็นคนชอบเรื่องดวงดาว ปรากฏการณ์บนท้องฟ้า วิชาดาราศาสตร์มาตั้งแต่เด็กๆแล้ว

ก็เลยเกิดไอเดียในช่วงที่อู้งานขึ้นมาว่า อยากลองแต่งนิยายในแนวๆนี้ดู


ฝากนิยายเรื่องนี้และสมาชิกใหม่ตัวน้อยๆคนนี้ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจทุกท่านด้วยนะคะ


ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
«ตอบ #3 เมื่อ25-01-2015 05:03:31 »

น่าสนใจ  :katai2-1:

ออฟไลน์ lollita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
«ตอบ #4 เมื่อ25-01-2015 09:34:45 »

สนุกมาก!  ขอสมัครเป็นผู้ติดตามด้วยคนนะคะ   
เลโอเค้าฉลาดและก็นิ่งได้ใจจริงๆ  :o8:
# มนุษย์กระดาษดัมเบิลเอ  :laugh:  :laugh:  :laugh:
 :กอด1: เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [Intro+ตอนที่1] 25/01/15
«ตอบ #5 เมื่อ25-01-2015 22:26:40 »

‘ความน่าจะเป็น’ คือ การคาดการณ์เหตุการณ์ที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้



สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่สิ่งที่เรียกว่า ‘ความบังเอิญ’



แต่เป็น ‘ความน่าจะเป็น’ รูปแบบหนึ่ง



ที่มีชื่อเรียกว่า




‘พรหมลิขิต’

 
 
ตอนที่ 2


หลังจากที่เลี้ยงข้าวมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอไป ก็มานอนคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่บนเตียงนุ่มๆที่บ้าน
 

หน้าก็ขาว ตัวก็ขาว แถมยังนิ่งๆเงียบๆ
 
 
ทำให้นึกถึงใครบางคน...
 

คนที่จู่ๆก็หายไป ไม่บอกกล่าว
 

ไม่ใช่อะไรหรอก ก็แค่อยากจะคืนแผนที่ดาวสีน้ำเงินนั่นเท่านั้นเอง...
 

จริงๆนะเว้ย!...

 


ตบตีกับความคิดตัวเองเป็นบ้าเป็นหลังได้ไม่นาน ก็เลยลุกขึ้นมานั่งที่ปลายเตียง สะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆพิลึกเมื่อกี้นี้ออกไป ก่อนจะลุกเดินไปที่ตู้หนังสือ หยิบแผ่นพลาสติกสีน้ำเงินออกมานั่งดู
 

'แผนที่ดาว' ของใครบางคนที่ลืมไว้กับเราตอนเด็กๆ



รู้สึกหวิวแปลกๆเวลาที่มองไอแผ่นสีน้ำเงินนี่
 

ยังไม่ได้รู้จักชื่อ ยังคุยกันได้ไม่มากเลยแท้ๆ
 

จู่ๆก็หายไปแบบนี้

 
 
รู้สึกไม่ชอบเลยจริงๆ…









เดินง่วงเหงาหาวนอนจนมาถึงชานชาลารถไฟฟ้า หน้าตาบอกบุญไม่รับสักเท่าไหร่ เพราะเรื่องเมื่อคืนกวนใจจนนอนไม่หลับ ใจก็นึกโทษมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอเมื่อวานที่เป็นต้นเหตุให้ต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ทั้งที่จริงๆแล้ว เจ้าตัวก็ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย
 
 
“ร่าเริงหน่อยสิเอก ทำหน้าซังกะตายแบบนั้นคนรอบๆเขาจะกลัวเอานะ” จักรภพ พี่ชายที่อายุห่างกันอยู่2ปี หันมาพูด

“ง่วงว่ะ…” ว่าแล้วก็ปิดปากหาวไปหวอดใหญ่  จักรภพส่ายหน้ายิ้มๆ “เดี๋ยวถึงมหาลัยแล้วก็แวะกินกาแฟสักหน่อยแล้วกัน ยังไงก็ไปถึงก่อนเวลาเยอะอยู่แล้วล่ะ” 

“ก็ว่างั้นว่ะ แม่ง...นอนไม่หลับ” ทำหน้าหงุดหงิดเหวี่ยงใส่พี่ชายที่ดูจะอารมณ์ดีตลอดทั้งวัน แต่อีกฝ่ายดูท่าจะชินแล้วเลยไม่ได้ว่าอะไร ซ้ำยังถามยิ้มๆ

“เมื่อคืนทำอะไรถึงนอนดึกล่ะ? หรือว่า…?”

“ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น! แค่นอนไม่หลับเฉยๆเว้ย!” ขู่ฟ่อๆใส่พี่ชายไปที อีกฝ่ายหัวเราะร่าจนน่าหมั่นไส้ จังหวะเดียวกับที่รถไฟฟ้าจอดเทียบชานชาลาพอดี

ยามเช้าก่อนเวลาเจ็ดนาฬิกา ผู้คนบนรถไฟฟ้าไม่มากสักเท่าไหร่ แต่เพราะสถานีที่ขึ้นมาไม่ใช่สถานีต้นทางจึงไม่เหลือที่นั่งว่าง

เดินไปหามุมสงบๆยืนพิงสบายๆกันสองคน พี่ชายตัวดีที่ยืนอยู่ข้างๆเริ่มหยิบหูฟังในกระเป๋าออกมายืนแกะปมที่ขมวดกันเป็นก้อนออก ก่อนจะเริ่มเข้าสู่โลกส่วนตัวตลอดการเดินทาง

เห็นอย่างนั้น มือก็ล้วงหยิบหูฟังที่ม้วนไว้เป็นอย่างดีออกมาบ้าง แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่เป็นคู่กรณี(คิดเอาเองฝ่ายเดียว)ยืนจับเสาอยู่ไม่ไกลนัก

ใจก็นึกไปว่า บางทีอาจจะนอนน้อยจนเห็นภาพหลอน

ขยี้ตาทั้งสองข้างจนมั่นใจว่าคงไม่ได้เมาขี้ตาแน่นอน ก่อนจะมองไปยังจุดเดิม



ตัวจริงเสียงจริง...




พอลองสังเกตดีๆก็เห็นว่า อีกฝ่ายหลับตาใส่หูฟัง คงจะฟังเพลงสินะ...


ไม่รู้ว่าเกิดเหตุขัดข้องหรืออย่างไร รถไฟฟ้าที่กำลังเคลื่อนตัวอยู่ดีๆก็เกิดชะงักไปชั่วครู่ ทำให้เซถลาไปด้านหน้าเล็กน้อย แต่ยังดีที่ใช้เท้ายันไว้ได้ ขืนหน้าขมำขึ้นมา คงเรียกเสียงหัวเราะให้คนในรถได้เป็นอย่างดีแน่ๆ


เหลือบตาแอบมองคนที่อยู่ในระยะสายตานั่น...




ยังคงนิ่งอยู่ที่เดิม...


แอบชื่นชมเงียบๆในใจ ไม่น่าเชื่อว่าผอมๆแบบนั้นจะทรงตัวได้ยอดเยี่ยมขนาดนี้









'สถานีต่อไป...'

เสียงประกาศในรถไฟฟ้าดังขึ้นเมื่อใกล้ถึงสถานีถัดไป ซึ่งเป็นสถานีที่หมาย

ขยับตัวไปยืนรอหน้าประตูเพื่อเตรียมลงจากรถ สายตาก็ยังคงเหลือบไปมองอีกคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลมากนัก



ยังคงยืนอยู่ที่เดิม...


ท่าเดิมด้วย...


เดี๋ยวนะ...

ต้องลงสถานีนี้แล้วไม่ใช่เรอะ?



จนประตูเปิดก็ไม่มีทีท่าว่าอีกฝ่ายจะขยับตัวแต่อย่างใด

"เดินสิวะเอก" จักรภพสะกิดเรียก จนต้องจำใจเดินออกมา

หันหลังกลับไปมองก็ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายจะเดินออกมาสักที


หลับหรือเปล่าวะ?


ขาเจ้ากรรมดันไวกว่าความคิด ก้าวเท้าพุ่งกลับเข้าไปในรถไฟฟ้า เสียงจักรภพเรียกไล่หลังตามมา แต่ก็ถูกกลืนหายไปพร้อมกับประตูรถไฟฟ้าที่ปิดลง

เอื้อมมือไปคว้าแขนอีกคนให้หันมา อีกฝ่ายสะดุ้งก่อนจะลืมตามอง สภาพเหมือนคนเพิ่งตื่นนอน

"ถึงสถานีแล้วทำไมไม่ลง!" เผลอตะคอกเสียงดังจนตะครุบปากไว้แทบไม่ทัน คนในรถไฟฟ้าหันมามองตามเสียงกันให้ขวัก

"...?" อีกฝ่ายทำหน้าสงสัยเป็นคำตอบกลับมาแทน

ยังไม่ทันที่จะได้พูดอะไรต่อ มือก็คว้าแขนอีกฝ่ายออกมาจากนอกรถทันทีที่ประตูเปิดในสถานีถัดไป

เดินลงบันไดมาที่ชั้นล่างเพื่อย้อนกลับไปขึ้นอีกฝั่ง ฝ่ายที่ถูกดึงมาด้วยความงงๆยังคงเงียบไม่พูดอะไรจนกระทั่งเข้าไปในรถไฟฟ้าเรียบร้อย

"นี่หลับหรอ?" ถามกลับไปด้วยน้ำเสียงที่หงุดหงิด แต่ก็น้อยลงกว่าเมื่อครู่

อีกฝ่ายพยักหน้าเป็นคำตอบ

"จะหลับก็น่าจะรู้ตัวไว้สักหน่อย เลยสถานีแล้วเห็นไหม?"

"เอกภพ?"

"ห๊ะ?" เลิกคิ้วขึ้นด้วยความสงสัย ถามอีกฝ่ายไปแต่กลับได้รับคำถามกลับมา

"เอกภพ...สินะ?"

"ใช่แล้วทำไม? รู้ไหมว่ากำลังทำให้คนอื่นเขาไปเรียนสาย?" จริงๆก็ไม่ได้สายหรอก เช้าไปด้วยซ้ำ

"..." อีกฝ่ายนิ่งเงียบไป จนกระทั่งประตูรถไฟฟ้าเปิด เลยรีบเดินนำหน้าออกมาก่อน ไม่ได้รออีกคนที่รีบเดินตามหลังมาเลยสักนิด




หันหลังกลับไปมองอีกคนที่คว้าแขนไว้ ด้วยสีหน้าหงุดหงิด เตรียมจะอ้าปากเหวี่ยงใส่กลับไปแต่ก็ถูกขัดขึ้นซะก่อน

"ขอโทษ..."

"อืม..." พอเจอแบบนี้ก็ไม่รู้ว่าควรจะมีปฏิกิริยาตอบกลับไปแบบไหนดี เลยทำได้แค่พยักหน้าส่งกลับไป

"ทำให้สายสินะ?"

"เออดิ!"

"ให้ชดใช้ยังไงดี?"

"ชดใช้ด้วยการเลิกถามแล้วเดินต่อได้แล้ว ก่อนที่มันจะสายกว่านี้" พูดจบก็เดินนำออกมาอีกรอบ แอบสงสัยกับตัวเองว่าทำไมต้องหงุดหงิดกับเรื่องแบบนี้ด้วย


แล้วทำไมต้องกลับไปรับเมื่อตอนนั้นด้วยวะ?


ไม่เข้าใจ?






“ไปล่ะนะ” คนที่เงียบมาตลอดทางที่นั่งรถบัสของมหาลัยเข้ามาที่คณะเอ่ยขึ้นเมื่อลงจากรถเรียบร้อยแล้ว

“อือ” พยักหน้าอย่างไม่ใส่ใจให้ไปหนึ่งทีเป็นคำตอบ หมุนตัวเตรียมจะเดินไปที่คณะของตัวเอง แต่ก็ต้องชะงักลงเมื่อถูกดึงแขนเสื้อไว้

ขมวดคิ้วมองด้วยความหงุดหงิด กำลังจะตะคอกกลับไปว่า ยังมีอะไรอีกหรือไง? แต่ก็ต้องชะงัก...





“ขอบคุณนะ” 






น่าแปลกที่ก็แค่คำขอบคุณ



แต่ทำไมรู้สึกว่า...








คำขอบคุณนี่มันดีจังนะ...


⋆☆★

TBC


สวัสดีค่ะ เพิ่งแปะไปเมื่อคืนตอนดึกดื่น วันนี้ว่างพอดีเลยรีบเอามาลงก่อน

ตอนนี้ยังไม่ค่อยยาวสักเท่าไหร่ ขออภัยด้วยจริงๆนะคะ ยังเป็นจุดเริ่มต้นที่สองคนนี้มาเจอกันอยู่ก็เลยคิดว่าตัดจบตอนตรงนี้มันจะดูโอเคกว่า แฮะๆ (ตอนถัดไปคิดว่าสั้นกว่านี้อีกค่ะ /กราบ) แล้วก็

ขอบคุณสำหรับการติดตามมากเลยนะคะ ยังเป็นนักเขียนหน้าใหม่อยู่ อาจจะเขียนติดขัดไปบ้าง ติชมได้เสมอเลยนะคะ

แล้วก็อยากจะขอบคุณเพื่อนMมากค่ะ ที่เราเป็นคนส่งแต่ละตอนให้เขาอ่านแล้วช่วยคอมเม้นต์ก่อนจะนำมาลงที่นี่ ถ้าไม่มีเพื่อนคนนี้คงไม่มีความมั่นใจที่จะมาลงในนี้ค่ะ

เจอกันในตอนหน้าค่า (คิดว่าสปีดของเราน่าจะอยู่ประมาณอาทิตย์ละตอนนะคะ เพราะจะวันจันทร์แล้วอู้ไม่ได้แล้ว แง)

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่2] 25/01/15
«ตอบ #6 เมื่อ26-01-2015 05:03:09 »

พระเอก นายเอกจำกันไม่ได้ว่าเจอกันมาก่อนคงจะนานและรูปร่างหน้าตาเปลี่ยนแปลง พระเอกเราขี้หงุดหงิดน่าดู นายเอกเราดูซึนๆ น่ารักดี ชอบชื่อนายเอก จักรวาล

บวกเป็ด&กดโหวตเป็นกำลังใจให้กับนิยายเรื่องแรก รอติดตามนะคะ :L2:

ออฟไลน์ lollita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่2] 25/01/15
«ตอบ #7 เมื่อ27-01-2015 19:57:47 »

รออ่านค่ะ  o13  เอกภพอารมณ์ร้อนจัง แอบสนใจเค้าอยู่ยังไม่รู้ตัวอีก  :oni1:
 :pig4:

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่2] 25/01/15
«ตอบ #8 เมื่อ03-02-2015 22:46:55 »

'เนบิวลา'


คือ กลุ่มก๊าซ และ ฝุ่นผงต่างๆที่รวมตัวกันอยู่ในอวกาศ


ดูเผินๆก็แค่หมอกบางๆที่แต่งแต้มท้องฟ้ายามค่ำคืนให้สวยงาม


แต่ภายในกลับมีอะไรมากกว่าที่ตามองเห็น


อย่างเช่น เป็นต้นกำเนิดของดวงดาวมากมาย


เหมือนกับใครบางคนที่เก็บเรื่องราวของตนเองไว้ในใจ


เงียบๆคนเดียว



ตอนที่ 3


เดินบิดขี้เกียจออกมาจากห้องเลคเชอร์ หลังจากนั่งเรียนหลังขดหลังแข็งมาตลอดในช่วงเช้า

วันนี้มีเรียนแค่ครึ่งวัน เลยตกลงกับไอเติ้ลและแซนว่าจะไปกินอาหารญี่ปุ่นในห้างที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัย แล้วต่อด้วยไปนั่งกินเค้ก ที่จริงๆคงมีแค่แซนคนเดียวมากกว่าที่กิน
เพราะว่าผู้ชายอย่างผมกับไอเติ้ลไม่ค่อยถูกกับของหวานสักเท่าไหร่

"นี่เพื่อน รู้ไรป่ะ?" แซนเริ่มเปิดบทสนทนาทั้งๆที่ในปากยังคงเคี้ยวเค้กตุ้ยๆอยู่

"อะไร? มึงกำลังจะติดคอตาย?" ไอเติ้ลคู่กัดของแซนเริ่มเปิดศึก เลยโดนมือเล็กๆฟาดหัวไปหนึ่งที

"โห แช่งกันได้ อย่าเพิ่งขัดดิ"

"เออๆ จะพูดอะไรก็รีบพูดมา" ไอเติ้ลลูบหัวตัวเองที่โดนฟาดไปปอยๆ จะว่าไปก็น่าสงสาร ตั้งแต่สองคนนี้รู้จักกันมา ไม่มีวันไหนเลยที่ไอเติ้ลไม่โดนแซนตบหัว คาดว่าความรู้มันคงกระเด็นออกไปเยอะเหมือนกัน

"ในที่สุดฉันก็รู้ชื่อพ่อหนุ่มน้อยวิทยาคนนั้นแล้วค่าาา" แซนมันชูมือข้างที่กำช้อนไว้ขึ้นด้วยความดีใจ โดยไม่ได้สนใจเลยว่าคนในร้านเขาจะมองมันด้วยสายตาแบบไหน

"แล้ว...?" ขมวดคิ้วมองหน้าแซนไปทีจนมันหงอ แต่ก็แค่แกล้งหงอน่ะนะ มันเอื้อมมือมาตบบ่าผมที่นั่งข้างๆ

"คุณเพื่อนช่วยแสดงความอยากรู้อยากเห็นในแบบมนุษย์ปกติพึงทำหน่อยสิ!"

"มึงหาว่ากูไม่ปกติสินะ งั้นไม่อยากรู้แล้วล่ะ ไปละ" ทำท่าเตรียมจะลุกขึ้นจนแซนมันต้องคว้าแขนไว้ ส่วนไอเติ้ลก็นั่งหัวเราะเยาะดูภาพเหตุการณ์ที่แซนไม่ได้รับความสนใจจากผม

"โถ่...บอกแล้ว บอกแล้ว เขาชื่อลีโอล่ะ!"

"อืม" พยักหน้าตอบรับไปทั้งๆที่รู้อยู่ก่อนแล้ว ไอเติ้ลเองตอนนี้ก็นั่งแคะขี้ฟันทำเป็นไม่สนใจ แต่ดูก็รู้ว่าหูมันกางจนจะเป็นจานดาวเทียมเรียบร้อยแล้ว

"อยู่ปี1"

"อืม"

"คณะวิทยาศาสตร์"

"ช่วยบอกอะไรที่คนอื่นเขาไม่รู้ได้ไหม?" คราวนี้เลยจัดการดึงจานเค้กที่แซนยังกินไม่หมดออกมา ชอบทำเป็นลีลานัก น่ารำคาญจริงๆ

"บอกแล้วว้อยยย ฮึ่ย...ก็แค่อยากให้ลุ้น..." แซนก้มหน้าบิดไปมาทำท่าเหนียมอาย เลยโดนไอเติ้ลตบหัวคืนกลับไป ไม่แน่ว่าในเร็วๆนี้จะต้องมีใครสักคนในสองคนนี้แน่ๆที่สมองเสื่อม

"อยู่ภาคเคมี ตอนกีฬาเฟรชชี่ก็ลงแข่งว่ายน้ำด้วยนะ น่าเสียดายจริงๆที่ตอนนั้นฉันต้องไปดูแกอะ" แซนหันไปทำหน้าบูดใส่ไอเติ้ล

"อ้าว มาโทษกันได้ไงวะ" ตอนกีฬาเฟรชชี่ไอเติ้ลลงแข่งบาส ซึ่งไอแซนกับผมก็โดนบังคับให้ไปนั่งเชียร์มันแข่ง



"ก็ตอนนั้นที่พวกไอปรายมาชวนไปดูเขาแข่งว่ายน้ำกันไงความผิดแกคนเดียวเลยที่ทำให้ฉันอดไปดูซิกแพคขาวๆของคุณชายลีโอออออ" ไอแซนโวยวาย หน้าตามันตอนนี้ทำอย่างกับโลกกำลังจะแตก มนุษยชาติกำลังจะสูญสิ้น


"เดี๋ยวนี้มึงเห็นผู้ชายสำคัญกว่าเพื่อนแล้วสินะ"ไอเติ้ลตัดพ้อใส่แซน

"อย่ามาแหล กูรู้ว่าวันนั้นน้องพลอยของมึงไม่ว่าง มึงเลยมาบังคับพวกกู" ช่วยแซนเถียงไอเติ้ลกลับบ้างไม่ใช่อะไรหรอก แค่หมั่นไส้คนมีแฟน

"แม่งรุม..." ไอเติ้ลเบ้ปาก ก่อนจะยกแก้วน้ำที่เหลือแต่น้ำแข็งมาเคี้ยวน้ำแข็งเล่นกรุบกรับ ส่วนไอแซนก็นั่งกดโทรศัพท์ยุกยิก เหมือนกับกำลังหาข้อมูลอะไรสักอย่างอยู่

"เอ้อเพื่อน ฉันได้ไอจีของคุณชายลีโอมาด้วยนะเว้ยยยย" พูดจบก็ชูมือถือขึ้นมาให้ดู

“โอ้โห แซนดี้ เรื่องผู้ชายนี่มึงทำได้ทุกอย่างจริงๆ” ไอเติ้ลทำตาโตล้อไปที จนแซนทำตาเขียวใส่ แซนยื่นโทรศัพท์มาให้ผมดู เลื่อนๆดูก็มีภาพของกิน กับท้องฟ้าเป็นส่วนใหญ่ มีรูปหมาแมวบ้างประปราย ขาดก็เพียงแต่รูปเจ้าของอินสตราแกรม ที่ไม่มีให้เห็นเลยแม้แต่รูปเดียว ดูท่าทางจะเป็นคนขี้อายจริงๆ

เลื่อนกลับมาเหลือบมองชื่ออินสตราแกรมที่ตั้งไว้ก็ทำให้รู้สึกแปลกใจ




‘Leonids’





ชื่อเท่ดีเหมือนกันแฮะ…



“แหม...คุณเพื่อนเอกดูซะนานเลยนะคะ จะจำชื่อกลับไปฟอลล่ะซี่ ไม่ต้องห่วงนะ แซนดี้คนนี้กดฟอลเรียบร้อยแล้ว คุณเพื่อนเอกไปค้นในไอจิแซนดี้ก็ได้ค่...โอ้ย...เจ็บนะ…” แซนลูบหน้าผากตัวเองป้อยๆ หลังจากที่โดนผมดีดสั่งสอนไป ใครใช้ให้พูดอะไรแปลกๆกันล่ะ หึ...สม




แค่รู้สึกว่าชื่อนี้มันดูดี ก็แค่นั้น...




“สมน้ำหน้า คราวหน้ากูจะตีปากมึง” หัวเราะหึไปที แซนทำปากยู่ใส่ จะว่าไปก็ดูน่ารักดี น่าแปลกที่มันไม่มีแฟนสักที หน้าตาก็ไม่ได้ขี้ริ้วขี้เหร่แท้ๆ

“จะรอนะคะคุณเอกภพ~”

“เออ… เดี๋ยวนี้มึงเป็นเอามากนะแซน แม่ไม่ว่าหรอทำตัวแบบนี้” ไอเติ้ลวางแก้วที่ไม่เหลือน้ำแข็งแล้วลงพร้อมยักคิ้วใส่ ไอแซนยกมือขึ้นปิดแก้มทั้งสองข้าง ทำท่าเขินอายที่ทำให้รู้สึกว่า มันช่างน่าถีบเสียเหลือเกินมากกว่าจะน่ารัก

“ไม่ว่าหรอกค่ะ เดี๋ยวนี้น่ะ ผู้ชายเขาไม่ค่อยกล้าจีบผู้หญิงกัน บางทีแซนดี้ที่เป็นผู้หญิงแสนสวยเรียบร้อยน่ารักก็คงต้องฝืนค่านิยมของคนในสังคมออกมาจีบผู้ชายเองบ้างแล้วล่ะค่ะ”

“โห ท่าทางจะเอาจริงนะ แล้วยังไงได้เริ่มคุยหรือยังล่ะ?” ไอเติ้ลทำตาโตรีบเลื่อนเก้าอี้เข้ามาใกล้เพื่อรอฟังคำตอบ

“ยังเลยค่ะ ตอนแรกก็ว่าจะจีบเขานะคะ แต่ดูเหมือนคุณเพื่อนเอกจะสนใจคุณสิงโตอยู่ บางทีแซนคงต้องหลบทางให้ อา...ชะนีอย่างเราคงทำได้แค่ขึ้นคานสินะ…” ไอแซนพูดยิ้มๆ หน้าล้อๆของมันกับไอเติ้ลนี่ชวนให้คันเท้าเหลือเกิน

“อะไรทำให้พวกมึงสองคนคิดว่ากูสนใจเขา?”

“โถ… ก็ดูอย่างเมื่อกี้ จ้องไอจีเขาตั้งนาน ถ้าสิงได้ก็คงสิงไปแล้วสินะ แถมยังเลื่อนดูซะทุกซอกทุกมุมแบบนี้อีก แล้วอย่างตอนที่เจอกันตอนเรียนแลปนั่นอีก จ้องเขาตั้งนาน รู้ตัวบ้างป่ะ?”

“บ้าแล้ว กูผู้ชายทั้งแท่งนะ”


"ผู้ชายแล้วยังไงมึง ความรักไม่มีขอบเขต" ไอเติ้ลเถียงขึ้นมา

"อ่านปากกูนะเติ้ล" ชี้ปากตัวเองเลียนแบบท่าทางของเด็กคนหนึ่งในรายการข่าวช่วงเย็น

"กู-ไม่-ได้-ชอบ-ไอ-สิงโต-นั่น!"


ใครจะไปชอบหมอนั่น...


ก็แค่รู้สึกว่ามันคล้ายกับเด็กคนนั้น...


คนที่จู่ๆก็หายไป...ก็แค่นั้น










"เดี๋ยวกูแวะดูหนังสือที่ไอภพกับพ่อฝากซื้อหน่อย พวกมึงกลับไปก่อนก็ได้" บอกลาไอเพื่อนตัวดีสองคนที่หน้าร้านเค้ก เพราะพี่ชายตัวดีกับพ่อดันส่งข้อความมาทางโปรแกรมสนทนาที่เรียกว่า 'ไลน์'

"เออ โชคๆเว้ย" โบกมือลาเพื่อนสนิทสองคนก่อนจะเดินตรงไปที่ร้านหนังสือ


เป็นเวลาบ่ายกว่าๆที่ผู้คนยังไม่เลิกงาน ในร้านหนังสือนี้คนจึงบางตา

เดินเปิดมือถืออ่านชื่อหนังสือที่พ่อและพี่ชายส่งมาให้ มือก็คว้าเอาหนังสือความรู้ทางวิศวกรรมเล่มหนาๆหนึ่งเล่มของพี่ชายมาได้ ต่อไปก็ของพ่อเป็นอันครบ มองซ้ายมองขวาหาประเภทหนังสือที่พ่อฝากซื้อก่อนจะเดินตรงไปทางป้ายบอกหมวดหมู่



โลกมันคงกลมมากเกินไปแล้วล่ะมั้ง?



ถึงได้เจอไอคนที่เป็นประเด็นไปเมื่อตอนอยู่ในร้านเค้ก...





หมอนั่นกำลังยืนพลิกหน้าหนังสือเล่มหนึ่งอยู่ พอสังเกตดูก็พบว่าเป็นหนังสือที่พ่อฝากให้มาซื้อ

ยืนมองอีกคนพลิกหน้ากระดาษนั้นไปมาเงียบๆ เพิ่งสังเกตว่าแม้แต่หลังคอของหมอนี่ก็ขาว ขนตางอนใช้ได้เลย จมูกก็โด่ง แล้วยังริมฝีปา...



เดี๋ยวนะ...


นี่กำลังคิดอะไรอยู่...?


บ้าไปแล้ว...!





สติกลับมาอีกครั้งเมื่อฝ่ายที่ยืนดูหนังสืออยู่วางหนังสือในมือไว้ที่เดิมแล้วเดินจากไป เลยรีบเดินตรงไปหยิบมันขึ้นมา เป็นหนังสือแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคการใช้กล้องดูดาวและแนะนำกล้องดูดาวรุ่นใหม่ๆ

ตั้งแต่สมัยเด็กๆแล้วล่ะที่พ่อชอบดูดาวจนตอนนี้ก็ยังไม่เลิก และยังเป็นคนที่พาให้ไปเจอกับเด็กที่เป็นเจ้าของแผนที่ดาวนั่นอีก หลังจากนั้นก็ร้องขอตามไปด้วยตลอด แต่ก็ไม่เจอเด็กคนนั้นอีกเลยจนถอดใจ ระยะหลังตั้งแต่เตรียมสอบเข้ามหาลัยจนเข้ามาเรียนปี1ได้ก็เลิกตามหาไปแล้วล่ะ




เพราะมันคงไม่มีหวังอีกแล้วที่จะได้เจอกันอีก...





"อะ..." หันไปตามเสียงตกใจเบาๆที่ได้ยินเมื่อครู่

คนที่เพิ่งเดินจากไปไม่นานกลับกลับมาที่เดิมอีกครั้ง เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสีหน้าตกใจของอีกคน แม้มันจะเป็นแค่การเลิกคิ้วขึ้นมานิดหน่อยก็ตาม

"เอ่อ...นาย...จะซื้อ?" พอมาเจอกันตรงๆแบบนี้อีกครั้ง รู้สึกทำอะไรไม่ถูกเลยทีเดียว

อีกฝ่ายนิ่งเงียบไป สายตามองมาที่หนังสือที่อยู่ในมือจนต้องมองตามอีกฝ่ายถึงได้เข้าใจว่ามันเหลืออยู่เล่มเดียวนี่เอง

"ไม่ล่ะ นายเอาไปเถอะ" อีกคนส่ายหน้า

"แค่หยิบมาดูเพราะสงสัยเฉยๆ ไม่ได้อยากได้หรอก..." ยังไม่ทันได้พูดอะไรต่อ อีกคนก็หันหลังเดินจากไปเสียแล้ว น่าแปลกที่รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างอยู่ในแววตาคู่นั้น



ถึงจะมีบางอย่างที่คล้ายกันมากกับเด็กเจ้าของแผนที่ดาวนั่น



แต่ก็มีบางสิ่งที่ไม่เหมือน



'ดวงตา'



เด็กคนนั้นถึงจะดูเงียบๆ แต่แววตาก็ยังคงฉายแววสดใสออกมา



ต่างกับหมอนี่...




ที่แววตาคู่นั้น




มีกลุ่มหมอกบางๆบดบังไว้...



'กลุ่มหมอก ที่เรียกว่า'




'เนบิวลา'











?


ถ้าแค่ดูเฉยๆ...



ทำไมถึงย้อนกลับมาล่ะ?






บางทีในเนบิวลานั่น




อาจจะมีดาวบางดวงถือกำเนิดขึ้นก็ได้...





★*・゚


TBC


/สไลด์มากราบ/

ช้าไป2วัน ขออภัยด้วยจริงๆค่ะ

มีเหตุขัดข้องทางเทคนิคนิดหน่อยทำให้ไม่ได้มาลง Y_Y

ออฟไลน์ RedQueen

  • Memois Of A Calamity Queen
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่3] 03/02/15
«ตอบ #9 เมื่อ04-02-2015 05:32:39 »

ลีโอแลดูซึนๆนะ :katai5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่3] 03/02/15
« ตอบ #9 เมื่อ: 04-02-2015 05:32:39 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่3] 03/02/15
«ตอบ #10 เมื่อ05-02-2015 03:06:54 »

เขาเรียกว่าพรหมลิขิตของดวงดาวที่ทำให้มาพบกัน ฮิ๊ววว :กอด1:

ออฟไลน์ lollita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่3] 03/02/15
«ตอบ #11 เมื่อ05-02-2015 19:54:20 »

ดวงดาวที่ถือกำเนิดใหม่ เป็นดวงดาวที่มีชื่อว่า ฟามรัก รึเปล่า    :laugh: เลโออาจจะแอบหวั่นไหวกับเอกภพอยู่..   :o8:
 :pig4:

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่3] 03/02/15
«ตอบ #12 เมื่อ17-02-2015 18:51:59 »


“วัตถุทั้งหลายในเอกภพจะออกแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน โดยขนาดของแรงดึงดูดระหว่างวัตถุคู่หนึ่งๆ จะแปรผันตรงกับผลคูณระหว่างมวลวัตถุทั้งสองและจะแปรผกผันกับกำลังสองระยะทางระหว่างวัตถุทั้งสองนั้น”

กฎแรงดึงดูดระหว่างมวล





ตอนที่ 4


"กลับมาแล้วหรอ" แม่ทักขึ้นเมื่อเห็นว่าผมเปิดประตูเข้ามาในบ้าน เลยยกมือที่ถือถุงหนังสือขึ้นไหว้จนได้ยินเสียงกรอบแกรบของถุงหนังสือ


"หอบอะไรมาเยอะแยะน่ะเรา"


"หนังสือที่ป๊ากับเฮียฝากซื้อไง" เมื่อเห็นสายตาสงสัยของแม่ เลยชูถุงหนังสือขึ้นให้เห็นได้สะดวก


"อ๋อ..." แม่พยักหน้าเข้าใจ "เฮียภพนั่งดูทีวีอยู่ ส่วนป๊าอยู่บนห้องน่ะ"


"แล้วเราล่ะหิวหรือยัง?"


"ก็เริ่มหิวแล้วล่ะ"


"งั้นเดี๋ยวอีกสักพักนะ"


"อืม... ให้ตามป๊ากับเฮียด้วยไหม?"


"ตามมาด้วยเลย นี่ก็คงรอกินข้าวอยู่"


"งั้นเดี๋ยวบอกให้" พยักหน้าตอบรับเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินจากมา






"แม่ให้มาตามไปกินข้าว"


เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นก็เห็นพี่ชายตัวดีกำลังนอนดูทีวีสบายใจเฉิบจนอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปปิดทีวีแกล้ง


"เปิดเดี๋ยวนี้เลยเอก กำลังถึงตอนสำคัญด้วย" ฝ่ายที่ถูกแกล้งท้วง แต่สีหน้ากลับไม่ได้ดูหงุดหงิดอย่างที่คนแกล้งคาดหวังไว้


"เปิดเองดิ" กวนประสาทอีกฝ่ายพอเป็นพิธีก่อนจะเดินมานั่งโซฟาตัวข้างๆแล้วหยิบมือถือออกมา เปิดอินสตราแกรมของคนที่เพิ่งเจอกันในร้านหนังสือ ชั่งใจอยู่นานว่าจะกดFollowดีไหม


"หืม?"


"เห้ย!"

สะดุ้งสุดตัวจนมือถือแทบจะกระเด็นกระดอนลงไปกลิ้งกับพื้น ยังดีที่คว้าไว้ได้ทัน ก่อนจะหันไปมองพี่ชายตัวดีที่จู่ๆก็มายืนอยู่ด้านหลังโซฟาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียง


จักรภพหัวเราะลั่น "ตกใจขนาดนั้นเลยหรอ"


"ก็เออดิวะ" จู่ๆเล่นมาโผล่ข้างหลังแบบนี้ เป็นใครก็ต้องตกใจ


"ก็เห็นทำหน้าเครียดกับมือถือก็เลยมาดูไง"


"เสือก..."


"โห ดุจัง" จักรภพยิ้มขำ "จะบอกอะไรให้พี่รู้จักลีโอเจ้าของไอจีนี้นะ"


"รู้จักได้ยังไง? คนละคณะกันนี่?" ขมวดคิ้วด้วยความสงสัยปนหงุดหงิด ไปรู้จักกันตอนไหนวะ?


"เด็กไอปูนมัน ตอนซ้อมเฟรชชี่ก็ว่ายลู่เดียวกับเด็กคณะเรานี่แหละ" เกือบลืมไปแล้วว่าไอพี่ชายตัวดีนี่มันอยู่ชมรมว่ายน้ำของคณะ ก็ไม่แปลกที่จะรู้จัก แล้วคนที่ชื่อปูนนี่ก็เพื่อนมันที่อยู่คณะวิทยาฯ


"น้องมันน่ารักน่าแกล้งดี พวกไอปูนนี่ตัวแกล้งเลย"


"ไปแกล้งเขาทำไมวะ?"


"ไม่แกล้งได้ยังไง เป็นคนเงียบๆใครเล่นมุกตลกอะไรไปก็ไม่ขำ ตามมุกไม่ทันอีก แถมยังหลอกง่ายมากด้วย" จักรภพยิ้มร่า ก่อนจะเล่าต่อ


"มีครั้งนึง ไอปูนเคยใช้ให้ไปหาสาวที่ศูนย์กีฬาแล้วให้มันพูดว่า 'เธอคอปเปอร์เทลูเรียมจัง ขอเบอร์ได้ไหมครับ?'  มันก็เดินไปทำตามที่ไอปูนบอกแบบงงๆด้วยนะ แต่ที่น่าตลกกว่าคือ มันได้เบอร์สาวมาด้วย"


"แกล้งเขาไว้มากๆระวังเถอะจะโดนเอาคืน"


"ฮะฮะ ก็โดนอยู่นี่ไง" ถูกอีกฝ่ายมองด้วยสายตาขำขัน คงจะหมายถึงเรื่องที่ไปแกล้งปิดทีวีสินะ


"แล้วนี่รู้จักกันหรอ?"


"เรียนแลปแล้วเจอกัน ไอแซนมันแอบชอบอยู่"


"อย่างงี้นี่เอง เสน่ห์แรงเหมือนกันนะเนี่ย" จักรภพพยักหน้าเข้าใจ


"รู้จักกันงั้นก็ฟอลไปเลยสิ จะรออะไร" ว่าแล้วไอพี่ชายตัวดีก็กดติดตามในอินสตราแกรมให้เสร็จเรียบร้อย


"เห้ย! มึงนี่แม่ง...!" มองอีกฝ่ายตาเขียวปั๊ด จู่ๆก็กดให้ทั้งๆที่ยังไม่ได้เตรียมใจอะไรไว้ก่อนเลยแท้ๆ


"เอ้า จะเป็นอะไรไป ก็รู้จักกันนี่"


"แม่ง...กูกดเองก็ได้แท้ๆ..."


"โถ... คุณเอกภพครับ ทำตัวเป็นเด็กๆไปได้" โดนอีกฝ่ายเอามือยีหัวจนผมยุ่งไม่เป็นทรง เลยลุกขึ้นกะจะเดินหนี แต่ก็ถูกขัดขึ้นมาก่อน


"เอก แล้วทำไมเมื่อเช้า จู่ๆถึงวิ่งเข้ารถไฟฟ้าไปล่ะ?"


"หืม...? ไม่มีอะไรหรอก...ก็แค่..."




"เจอเพื่อนน่ะ..."












เช้าวันใหม่ที่การจราจรในกรุงเทพยังไม่หนาแน่น วันนี้ก็ติดรถพ่อมามหาลัยพร้อมกับพี่ชายตัวดีเหมือนเดิม เพราะที่ทำงานของพ่อที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัย แถมยังประหยัดค่ารถและไม่ต้องเบียดเสียดกับฝูงชนมากมายให้วุ่นวายและปวดหัว ปกติแล้วจะติดรถพ่อมาเกือบทุกวัน แต่วันที่เจอมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอนั่นดันเป็นวันที่พ่อไม่ได้เข้าบริษัทก็เลยต้องมาใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอส


นั่งฟังเพลงมองวิวข้างทางไปอย่างที่ชอบทำเป็นประจำ ส่วนพี่ชายตัวดีก็นั่งหลับอยู่ข้างๆ คงเพราะเมื่อคืนปั่นโปรเจคจนไม่ได้หลับได้นอน



ครืด...


โทรศัพท์สั่นเป็นการแจ้งเตือนว่ามีคนส่งข้อความมาทางไลน์กลุ่ม แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเลย


SanCuteGirl : เพื่อนนนนนนนจ๋าาาา กลุ่มแลปฟิสิกส์ออกแล้วนะ


SanCuteGirl sent you a photo.


กดเปิดรูปดูก็พบว่าเป็นรายชื่อกลุ่มแลปฟิสิกส์ที่ถูกถ่ายมาจากประกาศหน้าห้องแลป


ขมวดคิ้วจนแทบจะผูกกันเป็นปม



ทั้งๆที่ก็อยู่กันคนละคณะแท้ๆ


ทั้งๆที่ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกันเลย


แค่เพราะเรื่องบังเอิญในวันนั้นเลยเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้มาเจอกัน


บางที...


การที่กลับมาเจอกันอีกครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้


อาจจะเป็นเพราะแรงดึงดูดระหว่างมวล


ล่ะมั้ง...?








เซ็นชื่อเข้าห้องแลปพร้อมถือใบผลการทดลองเดินเข้ามาภายในห้องที่มีโต๊ะสำหรับสี่คนเรียงกันเป็นแถวอยู่ภายในห้อง


กวาดตามองไปรอบๆก็เห็นบางคนจับจองที่นั่งกันอยู่บ้างแล้ว แต่เพราะยังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง หลายๆคนในห้องจึงนั่งก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์มือถือ บ้างก็นั่งจับกลุ่มคุยกัน


เดินตรงไปยังโต๊ะที่ไม่ไกลจากกระดานหน้าห้อง คนที่นั่งอยู่โต๊ะนี้กำลังนั่งกดโทรศัพท์มือถือพร้อมกับคุยกับเพื่อนข้างๆที่ใส่แว่นท่าทางดูเป็นเด็กเรียนอยู่ จนเมื่อเสียงเรียกขัดจังหวะขึ้นการสนทนาจึงหยุดลง


"หวัดดี..." ทักทายสมาชิกในกลุ่มไปด้วยท่าทางที่ดูขัดเขิน มือไม้ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน ปกติไม่ค่อยได้คุยกับคนต่างคณะสักเท่าไหร่ พอได้คุยแล้วอาการประหม่าก็เริ่มผุดขึ้นมา


"อืม... เจอกันอีกแล้วนะ" คนที่เพิ่งได้เจอกันไปไม่นานเอ่ยเรียบๆ


"นั่นสินะ เจอกันอีกแล้ว" พึมพำตอบกลับอีกฝ่ายไปเบาๆ


"เอกภพใช่ป่ะ?" อีกคนที่อยู่ข้างๆพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูตื่นเต้น ท่าทางจะไม่เคยมีสมาชิกในกลุ่มเป็นคณะอื่นที่ไม่ใช่คณะตัวเองสินะ


"อืม... เรียกแค่เอกเฉยๆก็ได้ ฝากตัวด้วยแล้วกัน" วางกระเป๋าไว้ใต้โต๊ะก่อนจะนั่งลงโดยมีลีโอที่กำลังเขียนชื่อลงในใบผลการทดลองเงียบๆนั่งอยู่ตรงกลางระหว่างสมาชิกในกลุ่มคนใหม่กับเอกภพ


"เช่นกันเว้ย กูชื่อโปร อยู่ภาคเคมี ยินดีที่ได้รู้จัก" อีกฝ่ายที่อยู่ข้างลีโออีกฝั่งชะโงกหน้ามาแนะนำตัว เริ่มรู้สึกถึงบุคลิกของอีกคนที่ดูจะขัดกับหน้าตาไปสักหน่อย


"ได้อยู่กลุ่มเดียวกับเด็กวิศวะด้วย ยังไงก็ช่วยๆกันไปแล้วกัน ใช่ไหมแมว?" ว่าจบก็หันไปถามคนที่ยังคงก้มหน้าก้มตาเขียนชื่อ


"แมว...?" จู่ๆชื่อสัตว์ขนปุยเท้านุ่มนิ่มก็โผล่เข้ามาในบทสนทนา ชวนให้ขมวดคิ้ว


"ลีโอ" กระดาษที่ถูกเขียนชื่อของเจ้าตัวเรียบร้อยแล้วถูกยื่นมาตรงหน้า รับมาอย่างงงๆก่อนจะก้มดูก็เห็นช่องที่ต้องกรอกชื่อของตัวเองถูกเว้นว่างไว้


หยิบปากกามาเขียนชื่อและรหัสนิสิตเงียบๆ หูก็เงี่ยฟังสองคนข้างๆเถียงกัน


"ชื่อดีๆมีก็ไม่เรียก"


"เห็นพี่ปูนเรียกนี่วะ ทำไม? เรียกบ้างไม่ได้หรอ? ทำไมวะทีกับเพื่อนนะ แม่ง..."


"เออ เอาที่สบายใจ" อีกคนถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย ท่าทางจะเอือมระอาอีกคนเสียเต็มที


"ดีมากน้องแมวของพี่โปร มามะ เดี๋ยวให้ขนม"


"เขียนชื่อไป" ไอโปรทำหน้าบูดเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่เล่นด้วย ก่อนจะก้มหน้าก้มตาเขียนชื่อบ้าง แต่เขียนไปได้ไม่นานก็ชะโงกหน้ามาหาพร้อมกับคำถาม


"เอ้อ สองคนนี้รู้จักกันมาก่อนหรอ เห็นทักว่าเจอกันอีกแล้ว"


ยังไม่ทันได้ตอบอะไร ก็ถูกแย่งตอบไปซะก่อน


"ก็ทำนองนั้น"


"ดีๆๆ แบบนี้ก็สนิทกันๆ ช่วยๆกันทำ เขียนกราฟแทนกูด้วยนะ เรื่องกราฟกูกากมาก" ว่าจบมนุษย์แว่นก็หันกลับไปเขียนชื่อต่อจนเสร็จเรียบร้อย


ไม่นานอาจารย์ก็เข้ามา พร้อมกับบอกให้เหล่านิสิตมารวมกันตรงหน้ากระดาน


มองไปรอบๆที่นั่งที่ตอนนี้มีเหล่านิสิตมารวมกันอยู่หน้ากระดาน แอบสังเกตเห็นว่ามีเพื่อนในคณะเดียวกันมาเรียนอยู่ห้องนี้ด้วย เพราะเป็นชื่อที่อยู่ท้ายๆเลยทำให้ถูกร่นมาจับกลุ่มกับคณะวิทยาศาสตร์แทน


"เอาล่ะนะคะนิสิต คงจะทราบกันดีแล้วนะ ว่าวันนี้เราจะมาเรียนเรื่องการใช้เครื่องมือวัดทางไฟฟ้ากัน ยังไงก็ตั้งใจฟังให้ดีๆกันด้วยล่ะ เพราะท้ายคาบจะมีควิซนะ..." อาจารย์เริ่มอธิบายเนื้อหาที่จะเรียนพร้อมทั้งเขียนสูตรต่างๆบนกระดานไวท์บอร์ดสีขาว


แอบเหลือบไปมองคนที่นั่งข้างๆ เห็นกำลังนั่งตั้งใจฟังพร้อมจดตามที่อาจารย์สอนเป็นระยะๆ ท่าทางดูตั้งใจเรียนมาก


พอลองสังเกตดีๆแล้ว ไม่รู้ว่ามีใครบอกแล้วหรือยังว่าขนตางอนมากจริงๆ แถมยังนิ้วมือเรียวนั่นอีก พอลองมองมาที่มือของตัวเองก็รู้สึกว่า มือขาวๆนั่นดูเล็กกว่านิดหน่อย


เหลือบดูเนื้อหาที่จดในสมุด มีทั้งข้อควรระวังและคำแนะนำต่างๆที่อาจารย์สอนเต็มไปหมดจนแอบนึกชื่นชมอยู่ในใจ...



ปึก...




จู่ๆหนังสือแลปเล่มสีเหลืองก็ฟาดลงมาที่หัวเบาๆ


"สุดหล่อตั้งใจฟังหน่อยค่ะ ถ้าทำไม่ได้ขึ้นมาอาจารย์ไม่ช่วยนะคะ"


ลูบหัวตัวเองป้อยๆก่อนจะกล่าวขอโทษอาจารย์ไป แอบเหลือบมองคนข้างๆก็เห็นอีกฝ่ายอมยิ้มขำด้วย แม้จะเพียงเล็กน้อยก็เถอะ



เป็นภาพที่แปลกตาดีเหมือนกัน




หลังจากนั้นอาจารย์ก็ปล่อยให้ทุกคนทำการทดลองด้วยตัวเอง หลายๆคนทยอยลุกกลับไปประจำที่แล้วเริ่มทำการทดลอง


"แล้วมันต้องทำอะไรก่อนวะ" โปรเกาหัว


"ตั้งค่าความต่างศักย์ก่อน" ลีโอบอกเสียงเรียบ "จากนั้นต่อวงจรแบบอนุกรม แล้วหากระแสไฟฟ้าตามจุดที่เขาให้หา แล้วก็ต่อแบบขนานแล้วทำเหมือนเดิม"


"เออ งั้นเอาสายไฟมาเลยไหม เดี๋ยวไปหยิบให้"


"ก็ดี"


"งั้นรอแปป" พูดจบไอโปรก็ลุกเดินออกไป


"ช่วยดูมัลติมิเตอร์ให้หน่อยนะ เดี๋ยวเราปรับเอง" อีกฝ่ายหันมาหา ก่อนจะเลื่อนเครื่องมัลติมิเตอร์รูปทรงสี่เหลี่ยมสีดำๆมาไว้ตรงหน้า


"อืม" พยักหน้าตอบกลับไป สายตาจดจ้องอยู่ที่เข็มและสเกลของเครื่องมัลติมิเตอร์ คอยบอกค่าความต่างศักย์จนได้ค่าที่ต้องการ


"ดูคล่องดีนะ"


"เพราะอ่านจากในหนังสือมาก่อนน่ะ" อีกฝ่ายพูดโดยที่มือยังง่วนอยู่กับการดึงสายไฟออกเพื่อรอสายไฟใหม่ที่ไอโปรกำลังไปหยิบมาให้


ขมวดคิ้วอย่างที่ชอบทำบ่อยๆ แอบแปลกใจว่าหมอนี่อ่านหนังสือเล่มนั้นเข้าใจได้ยังไงในเมื่อข้างในหนังสือก็มีแต่สูตรสมการต่างๆมากกว่าเนื้อหาบรรยาย


"อ่านเข้าใจด้วยหรอ?"


"อ่านพวกวิธีทำมานิดหน่อย แล้วฟังจากอาจารย์ก็พอเข้าใจบ้าง" อีกคนตอบนิ่งๆ ยังไม่ทันได้คุยอะไรกันต่อ ไอโปรก็เดินกลับมาพร้อมสายไป3-4เส้น


ระหว่างการทดลองก็มีคุยบ้างเล่นบ้าง คนที่ทำให้บรรยากาศคึกคักดูจะเป็นไอโปร


แล้วก็คงจริงอย่างที่พี่ชายตัวดีบอก ว่าลีโอดูจะตามมุกอะไรไม่ค่อยทันจริงๆ จากที่สังเกตตอนถูกเพื่อนมันแหย่ก็ดูไม่ค่อยตอบสนองเท่าไหร่ แต่ทุกคนก็ดูรักใคร่มันดี ดูจากที่มีคนแวะมาถามผลแลปไปจนถึงมาคุยเล่นเฉยๆ







การทดลองเสร็จอย่างรวดเร็ว ก่อนกำหนดเวลาสองชั่วโมง ตอนนี้ก็เลยนั่งเล่นมือถือรอเวลาควิซท้ายคาบอยู่ข้างๆ


ครืด...


โทรศัพท์มือถือสั่นครืด พอเปิดขึ้นมาก็พบว่าเป็นข้อความของพ่อที่ส่งมาในไลน์ครอบครัว


Dad : วันนี้จะกลับกับป๊ากันใช่ไหม?

Aek-Uni : อือ

Pob-Uni : กลับๆ ป๊ามีไรหรือเปล่า?

Dad : คิดว่าคงไปรับช้าหน่อยมีธุระ

Aek-Uni : ได้ ไม่มีปัญหา

Pob-Uni : รับทราบ ถึงเมื่อไหร่ป๊าไลน์มาแล้วกัน

Dad  Send you a sticker.




พอตอบไลน์ได้ไม่นาน อาจารย์ก็เรียกให้เก็บของแล้วไปนั่งรวมกันหลังห้อง


มีพี่ทีเอหลายคนเดินเข้ามาพร้อมกับตะกร้าที่ข้างในใส่ตัวต้านทานที่เอาไว้ใช้สอบเก็บคะแนน


"เอาล่ะค่ะนิสิต เดี๋ยวเราจะเริ่มทำควิซกันแล้วนะคะ เราจะแบ่งสอบเป็นรอบรอบละสิบคน ใครสอบเสร็จแล้วสามารถกลับบ้านได้เลย การสอบเรียงตามเลขที่นะคะ เชิญเลขที่1-10ออกมาเลยค่ะ"


นั่งมองเพื่อนๆที่มีเลขที่ลำดับต้นๆเดินออกไปจนครบสิบคน เพิ่งสังเกตว่าหนึ่งในนั้นมีลีโออยู่ในกลุ่มนั้นด้วย


สีหน้าดูนิ่งเรียบผิดกับเพื่อนผู้หญิงข้างๆที่ดูท่าทางจะกังวล ดูจากสีหน้าและคิ้วที่ขมวดกันเป็นปม


หมอนั่นตบบ่าเพื่อนผู้หญิงคนนั้นแล้วพูดอะไรบางอย่างที่ทำให้สีหน้าดูผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ก่อนอาจารย์จะเริ่มอธิบายวิธีสอบให้ทุกคนเข้าใจ


"อย่าลืมเขียนรหัสตัวต้านทานที่ได้รับด้วยนะคะ ไม่งั้นจะไม่ได้คะแนนนะ" อาจารย์เตือน เสียงกริ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณเริ่มต้นการสอบ


มีเวลาสิบนาทีในการวัดกระแสไฟฟ้าแล้วหาค่าความต้านทาน


ใบหน้าขาวๆนั่นดูนิ่งสงบ ไม่มีอาการตื่นเต้นหรือลนลานเลยแม้แต่นิดเดียว การจับสายไฟต่อกับตัวต้านทานและมัลติมิเตอร์เองก็ดูคล่องแคล่ว แววตาที่ปกติมักจะดูไม่ค่อยออกว่ากำลังคิดอะไรกลับฉายแววตั้งใจออกมา




ดูแล้วก็คล้ายๆกับเด็กคนนั้น...





กริ๊ง...


เสียงกริ่งดังขึ้นเป็นสัญญาณบอกว่าหมดเวลาของการสอบแล้ว


ทุกคนทยอยเดินกลับมาหยิบกระเป๋าของตัวเองเตรียมกลับบ้าน


"อ้าว น้องแมวไม่กลับหรอ?" ไอโปรเดินมาหาอีกคนที่มานั่งที่โต๊ะเหมือนไม่ได้เตรียมตัวจะกลับบ้าน


"รอกลับพร้อมกัน" ลีโอตอบเรียบๆแล้วหยิบมือถือขึ้นมากดเล่น


ลุกจากโต๊ะเดินไปต่อแถวเตรียมตัวสอบในรอบที่สองเป็นรอบเลขที่ของตัวเองพอดี แล้วดูเหมือนว่าไอโปรเองก็สอบรอบนี้ด้วยเหมือนกัน กับโปรตอนนี้เริ่มจะสนิทกันมากขึ้นแล้ว น่าแปลกที่ในระยะเวลายังไม่ถึงสามชั่วโมงก็คุยกันถูกคออย่างกับคนที่รู้จักกันมาหลายปี


นั่งประจำโต๊ะสอบเรียบร้อย อาจารย์ให้สัญญาณเริ่มสอบได้


การสอบดูจะผ่านไปได้ด้วยดีเพราะทำเหมือนกับตอนที่ทำกันเป็นกลุ่ม ต่อสายไฟไปยังขั้วบวกขั้วลบ ต่อกับตัวจ่ายความต่างศักย์ ตั้งค่าเรียบร้อยแล้วจึงมาต่อกับตัวต้านทาน อ่านค่าแล้วกดเครื่องคิดเลขก็เป็นอันเสร็จ










"น้องแมวกูลืมไปเลยว่านัดส้มโอไว้คงไปกินไอติมด้วยไม่ได้แล้ว ขอโทษนะเว้ย..." ไอโปรยกมือไหว้ปรกๆอีกคนที่นั่งรออยู่หลังจากทำควิซเสร็จ


"..." อีกฝ่ายมองนิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา


"โกรธหรือเปล่าวะ ขอโทษจริงๆนะเว้ย" ไอโปรหน้าเสีย มันพยายามง้อเพื่อนตัวเอง "เดี๋ยวคราวหน้ากูเลี้ยงเลย อย่าโกรธน้า..."


ลีโอพยักหน้า ไอโปรถอนหายใจอย่างโล่งอก พร้อมบอกแบบรีบๆ "ขอบคุณมากนะเว้ย ไว้เจอกันพรุ่งนี้ กูไปล่ะ"


พอเห็นว่าเพื่อนตัวเองรีบวิ่งออกไปแล้ว อีกฝ่ายก็ถอนหายใจเบาๆก่อนจะลุกขึ้นสะพายกระเป๋าแล้วหันมาหา


"ไปล่ะ..."


"ไปด้วย" พอได้ยินอย่างนั้น อีกฝ่ายก็หยุดรอ เลยรีบหยิบกระเป๋าแล้วเดินตามไป


เดินตามอีกฝ่ายมาเรื่อยๆระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไรสักประโยค มีเพียงเสียงฝีเท้าและเสียงกรอบแกรบตอนที่เหยียบใบไม้แห้งตามทางเดินเท่านั้น แต่ก็น่าแปลกที่ไม่ได้รู้สึกว่าความเงียบแบบนี้จะทำให้อึดอัด เหมือนครั้งที่อยู่ในแลปนั่นก็ด้วย


คนข้างหน้าหยุดเดิน พอมองผ่านอีกฝ่ายไปก็พบว่าตอนนี้มาหยุดยืนอยู่ที่ป้ายรถประจำทางของมหาลัย


"กลับบีทีเอสทุกวันหรอ?" ถามออกไปในระหว่างที่รอรถ เพราะแลปที่เลิกไวกว่าเวลาจริงถึงสองชั่วโมง ตอนนี้เลยมีแค่ตัวเราและอีกฝ่ายเท่านั้นที่ยืนอยู่


"อือ" อีกฝ่ายพยักหน้าตอบ


"ขอดูตารางเรียนหน่อย"


" ? " อีกคนหันมาจ้องมองด้วยความสงสัย


"ตารางเรียน" บอกย้ำอีกครั้งไป


"อยู่ในมือถือ"


"หยิบมาดูสิ" พูดเชิงสั่งไป อีกคนทำท่างงแต่ก็หยิบออกมากดหารูปตารางเรียนที่เซฟไว้แล้วยื่นให้


"ตอนเช้าเราเรียน9โมง มีวันจันทร์ที่เรียน8โมง ตอนเย็นเราเลิกพร้อมกัน4วัน ยกเว้นวันอังคารที่เราเลิก4โมงแต่นายเลิกเที่ยง" ดูตารางสอนของอีกคน แล้วบอกตารางเรียนของตัวเองกลับไปบ้าง


"แล้ว?"


"ปกติกลับคนเดียวประจำสินะ?"


"อื้อ"


"กลับบ้านพร้อมกันไหมล่ะ?"


"หะ?'







ยืนรอรถไฟฟ้าอยู่ที่ชานชาลา เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าบอกพ่อเอาไว้ว่าจะกลับด้วย โชคดีที่ยังไม่ถึงเวลาที่พ่อจะมารับ


หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก พูดด้วยเสียงที่เบากว่าปกติเพราะกลัวคนที่ยืนอยู่ข้างๆจะได้ยิน



"ป๊า จากนี้ไปเอกกลับบ้านเองนะ..."






☆彡


TBC



/กราบเบญจางคประดิษฐ์

หายไปสองอาทิตย์ได้ ขอโทษจริงๆค่ะ จู่ๆที่มหาลัยก็สั่งงานรัวๆจนไม่สามารถขยับตัวไปไหนได้ (แถมเน็ตก็มาใช้ไม่ได้อีก /ร้องไห้หนักมาก)

ช่วงนี้คงจะหายๆไปนะคะ จะสอบมิดเทอมแล้ว /ร้องไห้

ใครที่กำลังจะสอบก็สู้ๆนะคะ เราจะผ่านมันไปด้วยกัน... โฮลลลลล T_T

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
«ตอบ #13 เมื่อ17-02-2015 21:14:18 »

เรื่อยๆเรียบๆแต่สนุกดีค่ะ

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
«ตอบ #14 เมื่อ18-02-2015 23:53:11 »

เรื่องนี้น่าสนุกอะ รอ :hao7:

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
«ตอบ #15 เมื่อ19-02-2015 02:15:30 »

ม่ะอาว   มาต่อไวๆ เราคิดถึงเด็กซึน  :z3:



ออฟไลน์ wavalove

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 242
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
«ตอบ #16 เมื่อ19-02-2015 02:22:24 »

 :L1:

ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
«ตอบ #17 เมื่อ19-02-2015 08:56:35 »

เด็กน้อยที่เอกเจอตอนเด็กๆต้องเป็นคนเดียวกับลีโอแน่ๆ  ฟันธง!!!!!

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่4] 17/02/15
«ตอบ #18 เมื่อ19-02-2015 15:48:37 »

สวัสดีตอนเย็นค่ะ

พอดีแอบมีเวลานิดหน่อย เลยย่องมาแปะตอนเสริม 3 ตอนสั้นๆค่ะ (สั้นมากจริงๆ 555)

3ตอนนี้ ตอนที่1ของเอกจะเป็นเหตุการณ์หลังจากตอนที่4ค่ะ

ส่วนของลีโอจะเป็นเหตุการณ์ก่อนเจอเอกภพในตอนที่4

ส่วนตอนสุดท้ายเป็นบทเสริมเล็กๆค่ะ

พอดีเห็นว่าคงไม่มีโอกาสได้เอาไปใส่ในเนื้อเรื่องหลัก เลยแยกออกมาไว้ต่างหากค่ะ

แต่คิดว่าคงทำให้ได้เห็นทั้งคู่ในอีกรูปแบบหนึ่งไม่มากก็น้อยนะคะ

ขอบคุณที่ติดตามค่ะ รักคนอ่านทุกท่านมากๆ :กอด1:






ตอนเสริม 1 เอกกับที่บ้าน


"ทำไมจู่ๆเอกจะกลับบ้านเองล่ะ ปกติป๊าเห็นเอกชอบกลับกับป๊านี่?" คำถามที่จู่ๆก็ถูกตั้งขึ้นกลางโต๊ะกินข้าว ก็จริงอยู่ที่ปกติชอบกลับกับพ่อ นอกจากจะไม่เปลืองค่ารถแล้วยังสบายอีกด้วย

แกล้งทำเป็นหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มเพื่อคิดหาคำตอบดีๆมาตอบคำถามที่แม้แต่ตัวเองก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมถึงทำแบบนั้นลงไป

"ก็...บางทีก็อยากไปไหนมาไหนคนเดียวบ้าง อีกอย่าง เอกไม่อยากให้ป๊ารอ"

"จริงเร้อ?" จักรภพพี่ชายตัวดีพูดขึ้นลอยๆ แล้วทำเป็นตักข้าวเคี้ยวตุ้ยๆ

"เดี๋ยวนี้มีแฟนหรือไงพ่อหนุ่ม" แม่แซว

"ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละน่า บางทีก็อยากแวะที่อื่นก่อนกลับบ้านบ้าง!" เผลอเสียงดังกลางโต๊ะอาหารไป ทุกคนหัวเราะลั่นทั้งยังอมยิ้มขำใส่ ขืนยังนั่งอยู่ต่อแบบนี้คงโดนซักไซร้ต่อแน่ๆ

"อ้าว เอกอิ่มแล้วหรอ เอาข้าวอีกไหมกับข้าวยังเหลืออีกเยอะเลยนะ" แม่ร้องทักเมื่อเห็นว่าผมลุกออกไปพร้อมกับจานข้าวที่กินหมดแล้ว

"ไม่ล่ะ เอกจะนอนแล้ว" พูดจบก็รีบเดินดุ่มๆออกมา

"สงสัยจะมีความรักแน่ๆเลยนะ ป๊าว่าไหม?" แม่กระซิบกับพ่อที่นั่งอยู่ข้างๆ

"ป๊าก็ว่างั้น" พ่อหันไปเห็นด้วยกับแม่ ก่อนจะหันมาหาจักรภพที่นั่งกลั้นขำอยู่ "ว่าไงภพ เราน่ะรู้อะไรมา"

จักรภพหัวเราะ จริงๆก็ระแคะระคายนิดหน่อยอย่างตอนที่จู่ๆน้องชายตัวดีก็วิ่งกลับเข้าไปในรถไฟฟ้าขบวนนั้น แต่ไม่เห็นตัวคู่กรณีอีกคนเลยยังบอกอะไรไม่ได้


"เปล่าครับ ยังไม่รู้อะไรเลย ก็แค่ลองแหย่เอกดูเผื่อมันจะหลุดอะไรออกมา"






ตอนเสริม 2 เอกภพ

หน้าจอเว็บไซต์ชื่อดังแบล็คกราวน์สีน้ำเงินเข้มถูกสไลด์ไปมาเพื่ออ่านเนื้อหาภายในเว็บนั้น เพราะมาถึงมหาลัยแต่เช้าเลยยังมีเวลานั่งอ่านอะไรเรื่อยเปื่อยรอเวลาห้องแลปเปิด

เลื่อนอ่านอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนเจอหัวข้อหนึ่ง



'เครื่องฉายดาวของท้องฟ้าจำลองกลับมาใช้งานได้แล้ว'



อยากไป...


นึกถึงสมัยเด็กๆที่พ่อกับแม่มักจะพาไปที่ท้องฟ้าจำลองแทบจะทุกอาทิตย์ ไปจนแม่เริ่มบ่นว่าหน้าแม่จะกลายเป็นอุกกาบาตแล้ว แต่พ่อก็ยังคงพาไปตลอด

แม้ว่าจะไปจนจำทุกซอกทุกมุมของที่นี่ได้แล้วก็ตาม ก็ยังคงรู้สึกว่าอยากไปอีก


ตอนนี้ไม่ได้มาที่นี่เกือบจะห้าปีได้แล้ว ซ้ำพอนึกอยากจะมาอีกครั้งก็ดันปิดปรับปรุงห้องฉายดาวเพื่อซ่อมแซมเครื่องฉายดาว ซึ่งเป็นดาวเด่นของท้องฟ้าจำลองเสียอีก

ถอนหายใจอย่างนึกเสียดาย เพราะวันนี้นัดกับโปรไว้ว่าจะไปกินไอติมกันที่ห้างใกล้ๆมหาลัยแล้ว คงต้องไว้วันอื่นที่มีเรียนแค่ถึงเที่ยงวันแล้วจะลองแวะเข้าไปนั่งดูดาวสักหน่อย

"น้องแมววววว!" เสียงตะโกนดังลั่นใต้ตึกคณะ หันไปทางต้นเสียงก็เห็นผู้ชายตัวโตๆกำลังวิ่งเข้ามาหา ขยับตัวเตรียมจะลุกหนี แต่ดูเหมือนจะไม่ทันเสียแล้ว

"น้องแมวหนีพี่ปูนทำไมครับ? พี่ปูนเสียใจนะ" คนตัวโตทำหน้างอใส่ ถึงจะทำหน้าแบบนั้นแต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกผิดสักเท่าไหร่หรอกนะ

'พี่เปียกปูน' เป็นลุงรหัสที่ควบตำแหน่งประธานชมรมว่ายน้ำของคณะวิทยาศาสตร์ ซึ่งจริงๆแล้วชมรมนี้ไม่มีประธาน พี่แกเลยสถาปนาตัวเองเป็นประธานเองซะเลย

"ไปไกลๆครับ พี่ดูเป็นภัยคุกคาม" ตอบตามความคิดที่อยู่ข้างใน โดยไม่ได้มีการกลั่นกรองออกมาก่อนพูด

"โถ เด็กน้อย นี่รุ่นพี่นะครับ นี่ลุงรหัสนะครับ" พี่ปูนชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง ไอเรื่องเป็นรุ่นพี่หรือลุงรหัสนี่ก็รู้อยู่แล้วล่ะ แต่เรื่องเป็นภัยคุกคามชอบตั้งชื่อแปลกๆ ชอบยีหัวจนยุ่งไปหมด ชอบกอดรัดซะจนกระดูกแทบหักนั่นอีก ทำให้บางทีก็นึกอยากจะเปลี่ยนลุงรหัสเหลือเกิน

"ครับๆ ทราบแล้วครับ"

"เราเรียนเก้าโมงใช่ไหม?"

"อื้อ" พยักหน้าตอบไป ตอนนี้เพิ่งจะเจ็ดโมงสี่สิบห้า กว่าแลปจะเปิดก็ตอนแปดโมง

"งั้นพี่ไม่กวนแล้ว พี่เรียนแปดโมง ไปเรียนก่อนล่ะ ตั้งใจเรียนด้วยนะเว้ย" พูดจบก็โดนอีกฝ่ายยีผมจนฟูแล้วเดินจากไป

"ครับๆ" ตอบไปอย่างไม่ใส่ใจ มือก็ง่วนกับการลูบผมที่ชี้โด่เด่ให้กลับสู่สภาพเดิม

สายตาเหลือบไปเห็นมันฝรั่งทอดถุงสีเหลืองห่อใหญ่วางไว้ที่เก้าอี้ข้างๆตัว มือเอื้อมไปหยิบกระดาษโน้ตที่ถูกแปะติดอยู่กับถุงมันฝรั่งทอดนั่น



'เทคเว้ยยยยย'



ข้อความสั้นๆที่ถูกเขียนไว้ ทำเอาหลุดขำออกมาเบาๆ ตั้งแต่เทอมหนึ่งที่จับสายรหัส พี่แกก็มักจะแอบๆเอาขนมมาให้ตลอด ทั้งพี่ปูนลุงรหัสแล้วก็พี่รหัสที่ชื่อฟ้าใส ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องทำแบบนี้ แต่ก็ดูน่ารักดี

บางทีก็มีโจทย์แคลมาให้คิดเล่นเสียเฉยๆ ข้อความมักจะเขียนแปะไว้หนัาล๊อคเกอร์ใต้ตึกคณะประมาณว่า 'ถ้าแก้โจทย์ไม่ได้ก็ไม่ได้คำใบ้สถานที่ซ่อนขุมทรัพย์(ถุงขนม)' แต่โจทย์ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเด็กปีหนึ่งสักเท่าไหร่หรอก


"ไอแมวมาเช้าจังวะ" โปร เพื่อนที่รู้จักกันตั้งแต่วันรับน้องเดินเข้ามาหา พอก้มมองนาฬิกาถึงได้รู้ว่าตอนนี้แปดโมงตรงแล้ว

"มากินข้าวที่โรงอาหาร" ก่อนหน้าที่จะมานั่งใต้ตึกคณะก็เพิ่งไปหาอะไรใส่ท้องที่โรงอาหารข้างๆตึกเรียนมาเรียบร้อย เวลาทำแลปจะได้ไม่หิวจนแสบท้องเพราะโรคกระเพาะ

"อ๋อ" โปรพยักหน้า "งั้นขึ้นไปตากแอร์ข้างบนกันเถอะว่ะ" ลุกขึ้นเดินตามโปรไปยังลิฟต์ วันนี้เป็นวันแรกของเทอมสองสำหรับแลปฟิสิกส์ เพื่อนที่เคยอยู่กลุ่มเดียวกันอีกคนหนึ่งดันลาออกไปเสียได้ ตอนนี้เลยไม่รู้ว่าทางคณะจะจัดใครให้มาอยู่กลุ่มด้วย


อยากรู้ว่าสมาชิกใหม่จะเป็นใคร?




ยืนมองประกาศรายชื่อกลุ่มที่ปิดประกาศหน้าห้องแลปตาปริบๆ โปรยืนอ่านรายชื่อก่อนจะถามขึ้นมา


"เอกภพนี่ใครวะมึง?"




☆★




ตอนเสริม 3 ตั้งชื่อ

เสียงคุยจอแจนั่งจับกลุ่มกินข้าวกันในโรงอาหารข้างคณะเหมือนอย่างทุกวัน


"ทุกคน ที่บ้านเราหมาออกลูกมาสี่ตัวช่วยคิดชื่อหน่อยสิ" ปรายฟ้าพูดขึ้นพร้อมกับส่งรูปลูกหมาในโทรศัพท์มือถือให้ทุกคนดู


"ให้แมวตั้งให้สิวะปราย จะได้ได้ชื่อนอกโลก" โปรหัวเราะแล้วพยักเพยิดมาหา


"หือ?" เงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมามองทุกคนที่ส่งสายตาขำขันมาให้


"ตั้งชื่อลูกหมาให้เราหน่อยสิลีโอ เนี่ย" ปรายฟ้าพูดจบก็ส่งโทรศัพท์มือถือมาให้ รับมาดูรูปลูกหมาสีน้ำตาลสี่ตัวนอนหลับตาพริ้มดูน่ารัก


มีสี่ตัวพอดี



"ไอโอ ยูโรปา แกนีมีด คัสลิสโต"



โปรกับเพื่อนในกลุ่มที่เหลือขำลั่นโรงอาหาร ปรายฟ้าทำหน้างงจนโปรต้องอธิบาย


"ดาวพฤหัสไหมล่ะมึง" ปรายฟ้าอ้าปากร้องอ๋อก่อนจะร่วมวงหัวเราะด้วย


"ไม่ดีหรอ?" ถามไปด้วยความสงสัย ชื่อดาวบริวารของดาวพฤหัสไม่ดียังไงถึงได้หัวเราะกัน


"ไม่ใช่ไม่ดีนะแมว แต่มึงกำลังหมิ่นกาลิเลโออยู่..."


"ก็จริงนะ..."


.。o○★○o 。.

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-02-2015 17:08:11 โดย Sirius »

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13216
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
คลั่งใคล้จริงๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ minminmin

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 255
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
เอกภพคนซึนกะน้องแมวคนน่ารักกก

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
น้องแมวมึนดีจัง555

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
ชอบนายเอกสไตล์นี้ น่ารักซึนแต่ไม่มึน  :กอด1:

ออฟไลน์ appattap

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 293
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
น่ารักดีค่ะ อ่านละได้รู้เรื่องเด็กสายวิทย์ด้วย
 :o8:

ออฟไลน์ lollita

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 142
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
เค้าจะกลับบ้านด้วยกันแล้ว เค้าจะมีเวลาได้อยู่ด้วยก้นเยอะๆ  :mew1:  เอกเห็นเฉยๆ แหมรุกเลยเหรอจ๊ะ  :hao6:  จิตวิญญาณของเลโอลอยอยู่ในกาแล็คซี่ใหนจ๊ะ เพื่อนบอก วอหนึ่งเรียกวอสอง เลโอกลับโลกมนุษย์ด่วน  :call:  :m20:

ออฟไลน์ Sirius

  • คุณหมาบนท้องฟ้า
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 47
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-0
'ดาวหาง'

วัตถุในอวกาศที่เปรียบเสมือนกล่องเก็บความลับของเรื่องราวต่างๆในระบบสุริยะไว้

ส่วนประกอบทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นฝุ่น แก๊ส น้ำแข็งและเศษหินล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งที่มนุษย์อยากรู้อยากเห็นและนำมาเป็นข้อมูลในการศึกษาระบบสุริยะต่อไป

มนุษย์ที่สุดแสนจะขี้สงสัยเลยพยายามอยากจะเปิดกล่องเก็บความลับนั้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น


ว่าข้างในมันคืออะไร...


'โครงการดีพอิมแพค'

เป็นหนึ่งในความอยากรู้อยากเห็นของมนุษย์

นาซ่าได้ส่งยานดีพอิมแพคเข้าชนนิวเคลียสของดาวหางเทมเปิล-วัน เพื่อศึกษาองค์ประกอบของดาวหาง และรวบรวมข้อมูล

เพื่อไขข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของระบบสุริยะต่อไป...




ตอนที่ 5




ณ โรงอาหารคณะวิศวกรรมศาสตร์สถานที่ที่เมื่อถึงเวลาเที่ยงวันแล้วจะคราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมายที่มากินข้าวกันที่นี่

วันนี้ก็เหมือนกับทุกวัน นั่งโต๊ะประจำที่เดิม แต่ที่ไม่ค่อยเหมือนเดิมก็ดูจะเป็นการเดินทางในตอนเช้าและตอนเย็น

เป็นเวลากว่าหนึ่งอาทิตย์ได้แล้วที่กลับบ้านพร้อมกับมนุษย์กระดาษดับเบิ้ลเอที่ชื่อว่าลีโอ แต่ถึงจะได้กลับพร้อมกันก็ไม่ได้หมายความว่าจะได้คุยกันหรือสนิทกันมากขึ้นกว่าเดิมเสียหน่อย แถมยิ่งได้กลับพร้อมกัน ความสงสัยมันก็ยิ่งเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าตัว


"พวกมึงจำเรื่องเด็กคนนั้นที่กูเคยเล่าให้ฟังได้ไหม?" เปิดประเด็นสนทนาแรกของมื้อเที่ยงด้วยเรื่องที่ยังติดค้างในใจมาหลายปี แซนกับเติ้ลละสายตาจากจานข้าวเปลี่ยนมามองด้วยความสงสัย ก่อนจะพยักหน้ากันทั้งคู่


"จำได้ดิ ทำไมวะ? หรือมึงเจอเขาแล้ว?" เติ้ลถามขึ้น เพราะปกติเรื่องของเด็กคนนี้ไม่ค่อยเป็นหัวข้อในบทสนทนาสักเท่าไหร่ อีกทั้งตัวเราเองก็ไม่ค่อยได้เล่าอะไรด้วย


"ก็ไม่เชิง กูแค่คิดว่าลีโอคือเด็กคนนั้น"


"หะ!?" แซนร้องขึ้น ตอนแรกก็นั่งรอฟังเงียบๆ แต่พอได้ยินชื่อบุคคลที่สามขึ้นมา มันถึงกับต้องวางช้อนส้อมมาตั้งใจฟังดีๆ


"ทำไมถึงคิดว่าเป็นลีโอล่ะวะ?" เติ้ลขมวดคิ้ว


"กูลองกลับบ้านกับเขามาอาทิตย์นึงแล้ว..."


"เดี๋ยวนะ? กลับบ้าน!!! กรี๊ดดด เพื่อนเอกรุกแล้ว!!" ยังไม่ทันได้อธิบายต่อก็ถูกไอแซนขัดขึ้นเสียก่อน ไอเติ้ลเลยตบหัวมันไปทีเพื่อให้เงียบแล้วกลับมาสนใจเรื่องที่กำลังจะพูดต่อ


"แล้วไงต่อวะ?"


"กูว่าใช่ เขาชอบเล่นมือถือบนรถไฟฟ้า กูก็เลยแอบดูว่าเขาทำอะไรนักหนาเอาแต่กดมือถือ" นั่งนึกไปถึงช่วงเช้ากับช่วงเย็นของหลายวันที่ผ่านมา ถ้าหมอนั่นไม่หลับก็นั่งเล่นมือถือ เป็นภาพที่เจอแทบทุกวัน ถึงจะรู้ว่าการแอบดูมันเสียมารยาทก็เถอะ แต่เพราะมนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่อยากรู้อยากเห็นเสมอ มันก็เลยอดไม่ได้ที่จะแอบดู


"แล้วเขาดูอะไรวะ"


"หึ..." แค่นหัวเราะอย่างนึกขำ "เว็บดาราศาสตร์ที่พ่อกูชอบเข้า"


"ใครๆก็เข้าได้หรือเปล่าวะมึง เขาอาจจะบังเอิญไปเจอเรื่องน่าสนใจเลยกดดูหรือเปล่า?"


"ตอนแรกกูก็คิดแบบมึงนะ แต่เขาเข้าทุกวันเลยว่ะ มันจะมีสักกี่คนที่เข้าทุกวันวะ"


"ชิบ... งั้นก็ใช่แล้วมั้ง ลางสังหรณ์มึงไม่เคยพลาดนี่ ขนาดมึงเดาข้อสอบ5ข้อยังถูก3ข้อเลย..." ก็จริงอย่างที่ไอเติ้ลพูด นึกแล้วก็ขำตัวเอง สมัยอยู่มอปลายก็โดนเรียกว่าพวกดวงดีอยู่บ่อยๆ แต่ก็ใช่ว่าจะเดาถูกทุกครั้งไปนี่นะ...


"งั้นมึงก็ลองถามเขาไปตรงๆเลยดิ" ไอเติ้ลยุ แซนที่นั่งฟังอยู่เงียบๆก็พยักหน้าเห็นด้วย


"กูกลัวหน้าแตก" ความทรงจำในวัยเด็กที่เผลอไปตบหัวทักทายใครสักคนที่นึกว่าเป็นไอเติ้ลแต่พอเขาหันมากลับเป็นรุ่นพี่ลอยขึ้นมาในหัว ทุกวันนี้ยังรู้สึกผิดไม่หาย


"กลัวอะไรนักหนา แค่ถามเองมึง"


"ใช่" แซนพยักหน้าเห็นด้วย "มันคาใจเพื่อนเอกอยู่ไม่ใช่หรือไง ถามไปเลยสิจะได้ไม่มีอะไรค้างคา"


"เป็นครั้งแรกที่กูเห็นด้วยกับแซนว่ะ" ไอเติ้ลพยักหน้าเห็นด้วย


"แต่ว่านะเพื่อนเอก แซนดี้คนนี้แนะนำว่าให้เพื่อนเอกเอาแผนที่ดาวอะไรนั่นไปด้วยก็ดีนะ มีแค่คำพูดบางทีคนเขาก็นึกไม่ออกเท่าเห็นภาพหรอกนะ"


"ขอบใจนะพวกมึง"


"แล้วถ้าเกิดคุณชายลีโอคือเด็กน้อยน่ารักของเพื่อนเอกเมื่อตอนนั้นขึ้นมา เพื่อนเอกอย่าลืมขอเขาเป็นแฟนเลยนะ"




"กูขอถอนคำขอบคุณก่อนหน้านี้"











ถึงจะบอกให้ไปถามตรงๆเลยก็เถอะ แต่ไอความกล้านี่มันไม่ค่อยจะมีเลยเนี่ยสิ



ยืนรอรถไฟฟ้าอยู่ที่ชานชาลา แอบลอบมองดูอีกฝ่ายที่ยังคงกดมือถือเล่นเหมือนเช่นทุกวัน


"สังคมก้มหน้า..." จู่ๆก็ดันเผลอพูดสิ่งที่คิดออกมาลอยๆ



ว่าไปนั่น จริงๆก็ทำเหมือนกันนั่นแหละ



เพราะไม่รู้ว่าจะคุยอะไรสุดท้ายก็ก้มหน้าเล่นมือถือไม่ก็อ่านหนังสือ แต่อย่างสุดท้ายมักจะเป็นตอนช่วงใกล้สอบมากกว่า



แต่จะว่าไป พูดแบบนี้อย่างกับว่าเราเองกำลังเรียกร้องความสนใจอยู่เลยแฮะ...




คนข้างๆดูเหมือนจะนิ่งไปสักพักหนึ่งก่อนจะเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง พอดีกับที่รถไฟฟ้าจอดเทียบชานชาลาพอดี

รถไฟฟ้าก็ยังคงแน่นเป็นปลากระป๋องเหมือนเช่นทุกวัน ซ้ำร้ายกว่านั้นคือมีคนที่จะเปลี่ยนขบวนรถวิ่งเข้ามาเพิ่มอีก ตอนนี้ทุกพื้นที่ในตัวรถจึงอัดแน่นไปด้วยเหล่าผู้คน



ใกล้เกินไปหน่อยแล้วมั้ง



ยืนนิ่งตัวแข็งทื่อมือจับราวรถไฟฟ้าแน่น ภาวนาให้รถไฟฟ้าที่เริ่มออกตัวตอนนี้เร็วเท่ารถไฟชินคันเซ็น หรือถ้าไม่เร็วก็ขอให้คนลงจากรถไปเยอะๆ

อีกคนที่ยืนเบียดอยู่ใกล้ๆกันยืนนิ่ง สีหน้าไม่ได้ทุกร้อนอะไร คงมีแต่เราที่รู้สึกว่ามันไม่โอเคสินะ

ก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอเหตุการณ์ที่ต้องเบียดกันแบบนี้ แต่ทำไมตอนนี้รู้สึกไม่ดีเลย



หัวใจที่เต้นแรงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนแบบนี้




ไม่ดีเลยจริงๆ











ในที่สุดรถไฟฟ้าก็มีพื้นที่เพิ่มขึ้น และเหลือพอที่จะนั่ง สะกิดอีกฝ่ายไปที่ที่นั่งว่างสองที่นั้นก่อนจะเดินนำไปนั่งลง

ถอนหายใจอย่างโล่งอก ระยะอันตรายก่อนหน้านี้นี่มันน่ากลัวจริงๆ

หยิบมือถือออกมาเช็คโน่นเช็คนี่ในโลกโซเชี่ยลนิดหน่อย เฟสบุ๊คช่วงนี้ก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรน่าสนใจสักเท่าไหร่ เลยกดปิดไปแล้วเปิดอินสตราแกรมที่ไม่ได้เข้ามาอาทิตย์กว่าแทน



Leonids started following you.
10d



หืม?


หะ?


หะ?



หันไปมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆ ที่ตอนนี้นั่งหลับในท่ากอดอกไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าอีกฝ่ายจะfollowกลับมา คงเป็นเพราะรู้จักกันล่ะมั้ง?



แต่ที่กดfollowมามันก็ตั้งแต่สิบวันที่แล้ว...



ตั้งแต่วันที่กดfollowไปเลยนี่หว่า...



!

จู่ๆก็รู้สึกถึงน้ำหนักที่กดทับลงมาตรงช่วงไหล่และต้นแขน ดูเหมือนรถไฟฟ้าขบวนนี้จะแกว่งไปมาเสียเหลือเกินคนข้างๆถึงได้เอนตัวลงมาพิงแขนเสียได้

อยากจะให้นั่งหลับดีๆอยู่หรอก แต่มือที่กำลังยกขึ้นกะว่าจะดันอีกคนออกก็เป็นอันต้องกลับไปวางอยู่ที่ตักเหมือนเดิม



มีใครเคยบอกไหม?



ว่าหน้าตอนหลับของหมอนี่



เหมือนแมวเลย










หลังจากผ่านวันระยะอันตรายมาได้ในวันนั้น ทุกอย่างก็ดูจะเป็นปกติดี แต่ที่ไม่ปกติเท่าไหร่คือในหัวตอนนี้มีหลายความคิดตีกันวุ่นวายไปหมด

นั่งปวดหัวคิดเรื่องเด็กผู้ชายคนนั้นกับลีโอมาได้สองสามวันแล้ว ถึงจะรับปากแซนกับเติ้ลไปเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะลองถามดู แถมแผนที่ดาวนั่นก็พกติดกระเป๋ามามหาลัยด้วยทุกวัน แต่พอเห็นหน้าอีกฝ่ายแล้วคำพูดทุกอย่างก็ดูจะถูกดูดกลืนหายไปในลำคอหมด



ว้ยยย... ทำอย่างกับสาวน้อยวัยแรกแย้มกำลังจะสารภาพรักกับเพื่อนร่วมห้อง!



แค่จะคืนของ! ท่องไว้ไอเอก!



แค่คืนของ!!




นั่งรออีกฝ่ายเลิกเรียนอยู่ใต้ตึกคณะวิทยาศาสตร์  วันนี้โดดเรียนฟิสองอย่างจงใจเพราะปวดหัวกับเรื่องนี้ รู้สึกไม่มีสมาธิกับการเรียนเลย


ก็แค่ข้ออ้าง...


จริงๆแล้วเพราะขี้เกียจเข้าต่างหาก


ก็แค่พาล เลยโยนความผิดให้คนในความคิดตอนนี้เสียให้หมด


นิสัยไม่ดีเลยจริงๆ




นั่งรอเวลาร่วมหนึ่งชั่วโมง โทรศัพท์มือถือก็สั่นครืด เป็นใครไม่ได้นอกจากคนที่เป็นต้นเหตุให้มานั่งหัวเสียอยู่ตอนนี้


Leonids : เลิกเรียนแล้ว ให้รอที่เดิมหรือเปล่า?

Aek-Uni : ไม่ต้องๆ อยู่ใต้คณะตรงตารางธาตุ

Leonids : เดี๋ยวลงไปหา


เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันเช้าเย็นไปแล้ว ในไลน์ก็คุยกันไม่กี่ประโยค แถมยังเป็นประโยครูปแบบเดิมๆ เช่น 'เลิกเรียนแล้ว' 'อยู่ไหน?' 'รอที่เดิมใช่ไหม?'

ก็เคยมีความคิดว่าอยากจะลองส่งข้อความคุยเล่นไปเหมือนกัน แต่พอมานั่งนึกอีกทีก็กดลบข้อความที่พิมพ์ไว้ออกหมดไม่คุยดีกว่า


ไม่เคยรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเองขนาดนี้เลยจริงๆ



"รอนานไหม?" เสียงเรียกของคู่กรณีทำให้ตื่นจากภวังค์ความฟุ้งซ่าน หันไปก็เจออีกฝ่ายยืนอยู่ข้างๆ


ลุกขึ้นสะพายกระเป๋าเตรียมจะเดินไปขึ้นรถประจำทางของมหาลัยอย่างที่ทำเป็นประจำตลอดหนึ่งอาทิตย์นี้


"คือว่า..." เสียงเรียกของอีกคนทำให้ต้องหันไปมองเลิกคิ้วด้วยความสงสัย "วันนี้เราลงเอกมัยนะ..."


"มีธุระหรอ?"


"เปล่าหรอก" ลีโอส่ายหน้า "แค่อยากแวะดูดาว"


"ท้องฟ้าจำลอง?" อีกฝ่ายพยักหน้า ได้ยินแบบนี้ความรู้สึกที่ว่า 'ใช่แน่ๆ' ก็ยิ่งผุดขึ้นมา


"งั้นไปด้วย"


"รบกวนหรือเปล่า? เราไปดูคนเดียวได้นะ" คิ้วอีกคนขมวดกันนิดหน่อย ไอสีหน้าแบบนี้มันหมายความว่ายังไง?


"ถ้าไปด้วยคงอึดอัดสินะ?" ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกชาที่ปลายนิ้วทั้งสิบนิ้วขึ้นมาแปลกๆ ทั้งๆที่ก็ไม่ได้ขาดวิตามินบีเสียหน่อย


ลีโอส่ายหน้าเป็นการใหญ่ "ไม่ได้อึดอัดสักหน่อย แค่กลัวว่าถ้าเอกไปด้วยจะรู้สึกเบื่อน่ะ" แต่ก่อนก็เคยคิดแบบนั้นอยู่หรอก แต่ตอนนี้ไม่ไดิคิดแบบนั้นแล้วสักหน่อย...


"ไม่เบื่อหรอกน่า ไปได้แล้ว ดาวมันฉายรอบบ่ายสองไม่ใช่หรอ?"


"รู้ได้ไงน่ะ?"


"เคยไปดูมาแล้ว"









ใช้เวลาไม่นานก็มายืนอยู่หน้าห้องขายตั๋ว มองสำรวจไปรอบๆตลอดทางที่เดินเข้ามาบรรยากาศโดยรอบดูเหมือนจะเปลี่ยนไปจากสมัยเด็กนิดหน่อย

หลังจากที่ได้เจอเด็กคนนั้น ตัวเราเองก็เอาแต่ขอให้พ่อพาไปทริปดูดาวที่จัดขึ้นตามปรากฏการณ์บนท้องฟ้าที่สำคัญต่างๆ แต่ก็ต้องผิดหวังทุกครั้งที่ไป เพราะเด็กคนนั้นไม่เคยมาอีกเลย จนขึ้นม.5ถึงได้ถอดใจกับเรื่องนี้แล้วหันมาตั้งใจเตรียมตัวสอบเข้ามหาลัยแทน เรียกได้ว่าช่วงนั้นไม่ได้ไปไหนเลยนอกจากโรงเรียนกับกวดวิชา


ตั๋วถูกอีกฝ่ายยื่นมาให้ รับมาก่อนจะล้วงกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบกระเป๋าเงินออกมา แต่ก็ถูกห้ามไว้พร้อมกับคำพูดที่ว่า "เราเลี้ยงเอง"

พยักหน้าเข้าใจแล้วเก็บกระเป๋าเงินเข้ากระเป๋ากางเกงไปตามเดิม ยกมือข้างที่สวมนาฬิกาขึ้นดูเวลาก็พบว่ายังเหลือเวลาอีกครึ่งชั่วโมง



จะถามเรื่องนั้นดีไหมนะ?




"ลีโอ..." เรียกอีกฝ่ายที่ตอนนี้มานั่งเก้าอี้หน้าห้องจัดแสดงภาพฉายดาว


ตอนนี้ไม่ค่อยมีคนสักเท่าไหร่ คงเป็นเพราะวันนี้เป็นวันธรรมดาที่ทุกคนง่วนกับการทำงาน ส่วนเด็กๆก็ต้องเรียนหนังสือ


"หืม?" อีกฝ่ายหันมาตามเสียงเรียก สูดหายใจลึกๆเรียกความกล้าให้กับตัวเอง


เปิดกระเป๋าแล้วหยิบเอาแผนที่ดาวสีน้ำเงินที่สภาพดูจะเก่าลงเล็กน้อยเพราะอายุของมันดูจะราวๆ4-5ปีได้แล้ว


อีกฝ่ายก้มมองสิ่งที่อยู่ในมือ นัยน์ตาที่ปกติมักจะมองไม่ออกว่ากำลังรู้สึกนึกคิดอะไรอยู่ตอนนี้กลับกำลังสั่นระริก




"ของนายหรือเปล่า?"






ความรู้สึกตอนนี้


อย่างกับตัวเองกำลังเป็นยานดีพอิมแพค


ที่กำลังเข้าพุ่งชนดาวหางเทมเปิล-วัน


เลยแฮะ...





☆・゚



TBC




กราบสวัสดีทุกท่านค่ะ ทำไมยิ่งใกล้สอบยิ่งอยากอัพก็ไม่รู้5555

แอบตกใจที่คอมเม้นต์เยอะขึ้น ขอบคุณมากเลยนะคะ /กอด

เราเองเขียนแล้วก็ชอบลีโอมากกว่าเอกภพอีกค่ะ /โดนเอกภพกระโดดถีบ/  :z6:

ตอนนี้ที่เอาเรื่องโครงการดีพอิมแพคมาเขียนนิดนึง เพราะเรารู้สึกว่าการที่เอกภพพุ่งเข้าไปถามเพราะความสงสัยนี่มันอย่างกับตอนที่ยานดีพอิมแพคพุ่งชนดาวหางเทมเปิล-วันมากเลยค่ะ แบบว่าภาพมันลอยมาขึ้นมาด้วย

แล้วลีโอก็จะมีฝุ่นผงกระจายรอบตัวเพราะถูกชน /ไม่ใช่/

หลังจากนี้เนื้อเรื่องก็ดูจะมีแก่นสารมากขึ้นแล้วล่ะค่ะ 555 /ดีใจมากรู้สึกเหมือนก่อนหน้านี้อยู่นอกกาแล็กซี่ทางช้างเผือกมานาน

ยังไงก็ ขอบคุณทุกท่านจริงๆนะคะ รักคนอ่านมากๆๆๆๆๆเลยค่ะ  :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 22-02-2015 00:38:32 โดย Sirius »

ออฟไลน์ สายลมที่หวังดี

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 508
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-1
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
«ตอบ #26 เมื่อ22-02-2015 01:22:22 »

รีบมาต่อด่วนน้ารอคำตอบของลีโอว่าใช่หรือเปล่า :ling1:

คนเขียนชอบเรื่องดวงดาวใช่มั้ยคะถึงเขียนเรื่องดาว  :L2:

ออฟไลน์ JustWait

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +80/-4
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
«ตอบ #27 เมื่อ22-02-2015 01:53:11 »

คนเขียนคะ เราค้างงงง

มาต่อเร็วๆนะคะ รักค่ะ จุ๊บๆ :L2:

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1483
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
«ตอบ #28 เมื่อ22-02-2015 03:37:49 »

เรื่อง Indie มากๆ น่ารักด้วย
ขอเป็นกำลังใจให้คนแต่งครับ เรื่องไม่แนว Mainstream อาจมีคนมาเม้นท์น้อยหน่อย แต่มีคนรออ่านอย่างใจจดใจจ่อแน่นอนครับ เรื่องคุณภาพอย่างนี้
แต่ก่อน ชอบเรื่องแบบนี้เหมือนกัน แต่ไม่เน้นดูดาว ไปแนวอ่านพวก stephen hawking เทือกนั้น ฟุ้งซ่านดีครับ

ออฟไลน์ ●GreenTEA●

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-2
Re: ★⋆Star Chart⋆★ [ตอนที่5] 22/02/58
«ตอบ #29 เมื่อ22-02-2015 09:06:17 »

 :z13:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด