[เรื่องสั้น] เรื่องสั้นของพัฒน์กับโอ๊ต (อัพ ตอนพิเศษ จบ 16 ตุลา 58)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] เรื่องสั้นของพัฒน์กับโอ๊ต (อัพ ตอนพิเศษ จบ 16 ตุลา 58)  (อ่าน 20217 ครั้ง)

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฎเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิ์ส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง
เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรูปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ
หมิ่นประมาท
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสต์กระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเว็บบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่าง
ของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิต
ที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่า
เรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพสต์ หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเว็ปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล์ บอกเมล์ แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมล์ของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผู้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสต์นิยายหนึ่งตอน
 ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insert quote  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ
เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ Webmaster , administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเว็ป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเว็บอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เว็ป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม้อดเดอเรเตอร์จะพิจารณา
เป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเว็บ แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่
หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรื่องบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสต์นิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสต์ให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเว็บบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เว็บไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเว็บไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสต์ชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเว็บไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสต์อ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเว็บไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเว็บไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสต์และเว็บไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาตเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสต์ค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเว็บไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสต์ได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพสต์
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก
เมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ)
จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฎทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เว็บไซต์แห่งนี้เป็นเว็บไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฎหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเว็บไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเว็บไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเว็บไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ขอฝากเรื่องสั้นที่เขียนค่ะ
เรื่องสั้นของพัฒน์กับโอ๊ต    จบแล้ว
ป๊าครับผมจะไม่ดื้อ  จบแล้ว
นกขมิ้น  จบแล้ว
รับจ้าง  จบแล้ว
วิชารัก101  ยังไม่จบ
แพ้  จบแล้ว
เป็นเช่นรัก ยังไม่จบ
❤|ตรรกะ|เวลา|ปูปา|ความรัก|❤ ยังไม่จบ
April fools me จบแล้ว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-10-2017 15:27:32 โดย treenature »

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
สวัสดีครับ ผมชื่อพัฒน์ มีแฟนชื่อโอ๊ต ตอนนี้ทำงานแล้วฮะ แฟนกะผมก็อายุเท่าๆกัน  ผมเป็นคนพูดเก่งฮะ ชอบเอนเตอร์เทนคนอื่น  ยิ้มง่าย เฮฮา เพื่อนเยอะ และก็เป็นคนชอบเล่าเรื่องฮะ ยิ่งเรื่องฮาเรื่องโจ๊กในวงแอลกอฮอล์นี่ ผมถือเป็นแชมป์ทีเดียว แต่มีเรื่องนึงที่มันเล่าที่อื่นไม่ได้  คือเรื่องแฟนผมนี่ล่ะ ไม่ใช่ว่าผมไม่ได้เปิดตัวนะ ผมเปิดเผยกับเรื่องชีวิตรักตลอดแหละ เพื่อนกลุ่มไหนๆก็รู้ว่า โอ๊ตเป็นแฟนผม แต่ผมไม่ชอบเล่าเรื่องแฟนให้ใครฟังน่ะ พอนึกภาพคนบุคลิกอย่างผมออกไหมฮะ เฮฮา ทะลึ่งตึงตัง แต่ก็ไม่ใช่พูดทุกเรื่องแบบไม่มีหูรูด โดยเฉพาะเรื่องแฟน ผมคบกะมันมา เกือบ 7 ปีแล้วมีเรื่องมากมายเกี่ยวกับมันที่บันทึกอยู่เมมโมรี่หัวใจของผม (คนอ่านจะเบือนหน้าไปเบ้ปาก ก่อนได้ฮะ ผมให้ 2 วิ)
.
.

โอเคฮะ กลับมาๆ  ผมเป็นคนที่จดจำรายละเอียดของมันได้ทุกเรื่อง ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นอย่างนี้นะฮะ มันมักเป็นไปเอง สังเกตเห็นอะไรเล็กๆน้อยๆเกี่ยวกับมันได้ตลอด บางทีก็หงุดหงิดตัวเองนะฮะ แบบนี้ก็คล้ายๆกับตกเป็นรองมันตลอด มันมีอิทธิพลกับผมเกินไป แต่ผมก็ถอนสายตาไปจากมันไม่ได้จริงๆ  ...


โอ๊ตเป็นคนตัวเล็ก บาง เพราะเลือกกินมากจนผมปวดหัว  เป็นส่วนผสมระหว่างคนเชื้อจีนกับคนทางใต้ที่โคตรลงตัว ตาโต ขนตายาว ผิวเนียน ปากอิ่ม... เฮ้อแค่คิด ใจผมนี่ก็ วิ้ง วิ้ง วิ้ง ละฮะ  ผมเจอมันตอนปีหนึ่งเทอมหนึ่ง มันเป็นสเป็กผมเลยล่ะ...ตุ๊ดเด็ก... ใช่ฮะ อ่านไม่ผิด... ผมชอบแนวนี้อ่ะ...ผมรู้ตัวเองว่าชอบแนวนี้ตั้งกะ ม.ต้น และแฟนคนแรกก็เป็น ตุ๊ดที่สวยที่สุดในโรงเรียน... 
แรกที่เห็นมัน ผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองชัดมาก ... ตุบ...ตุบ..ตุบ... น่ารัก...มากกกกก.... มันใส่ชุดนักศึกษาใหม่เอี่ยม เรียบกริบ นั่งอยู่กับเพื่อผู้ชายประมาณสี่ห้าคน เด่นมากที่สุดในกลุ่ม...


หลังจากนั้นทุกวันที่โอกาส ผมก็จะแอบมอง แอบหาข้อมูล เกี่ยวกับมันเสมอ “มันเป็นป่าววะ” ผมถามตัวเองตลอด อยากให้มันเป็นตุ๊ดน่ะครับ จะได้เข้าไปจีบ เพราะขืนทะเล่อทะล่าเข้าไปจีบทั้งที่มันไม่ได้เดินสายนี้  ผมคงหน้าแตก
ผมตามมองมันอยู่สองสามอาทิตย์ ด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยวลงเรื่อยๆ ไม่มีสัญญาณใดๆส่งมาว่า มันจะเป็นแบบที่ผมหวัง  ทั้งท่าเดิน (ตุ๊ดเด็กในสต๊อคของผมส่วนใหญ่จะชอบเดินเหมือนกะลังอยู่บนแคทวอล์ก) มือไม้ ท่าค้อนลมแบบหมุนคอครึ่งเกลียว... ไม่มีให้เห็นเลยซักอย่าง แถมมันยังพูดมึงมาพาโวย กับเพื่อนแบบไม่ขาดปาก คุยเรื่องบอลพรีเมียร์ลีก เรื่องรถ (โต๊ะกลุ่มผมอยู่ใกล้กลุ่มมันน่ะฮะ)


ผมตัดใจในเวลาต่อมา เอาวะ ปล่อยมันไปในทางทีถูกที่ควร ทางสายสีม่วงคงไม่ใช่แนวมัน จากที่คิดว่าจะจีบ ก็เลยเหลือแค่ อยากเป็นเพื่อน เริ่มตีซี้ ตีเนียนเข้าไปนั่งโต๊ะกลุ่มมันบ่อยๆ อย่างที่บอกคนเฮฮาอย่างผม เข้ากะคนง่ายฮะ ไม่นาน ผมกะมันก็เรียกกัน กู มึง แบบสนิทปาก

“ไอ้เชี่ยโอ๊ต”  ผมเรียกมันตั้งแต่เห็นมันเดินมาแต่ไกล

“ห่า เรียกดังไปป่าววะ เชี่ยพัฒน์ คนมองกูเลย”  มันกระแทกตัวนั่งลง พร้อมทำหน้าง้ำ แก้มพอง ปากยู่


มันขี้อายครับ มากอยู่ มันไม่ชอบได้รับความสนใจ ไม่ชอบให้ใครมอง  แต่หน้าตามันเด่นขนาดนี้ห้ามไม่ให้ใครมองคงไม่ได้

“หึ หึ”  ผมหัวเราะในลำคอ แล้วทำหน้ากวนๆใส่มัน  คือชอบแกล้งมันน่ะครับ เป็นกันไหม  ชอบใครก็อยากให้มันทำแก้มพองๆใส่

 “ไม มึงสาวแตกเหรอไง แค่คนมองก็ป๊อด”


อั่ก!!!!!

มันตบเข้ากลางหลังผมอย่างแรง  แล้วกระโดดขึ้นไปยืนบนเก้าอี้ ตะโกน หน้าดำหน้าแดง  (ทีงี้ไม่กลัวคนมอง)

“กูไม่ได้สาวแตกโว้ย มึงห้ามพูดงี้อีกเด็ดขาด กูโดนล้อมาทั้งชีวิตละ ห้ามมึงล้อกูเรื่องนี้”


อ่อ... อีกเรื่องที่ผมได้รู้ คือ มันเกลียดการถูกมองว่าเป็นเกย์....  ผมถอนหายใจเอาความเศร้าระบายไปในอากาศ  หลังจากง้อมัน  ด้วยการกระตุกมือมันให้นั่งลงแล้วขอโทษมันไป... ใจผมก็ต้องการชาร์ตแบตอย่างด่วน..


แอบชอบ มันแย่นะฮะ...






ชิวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนเกือบจบเทอมหนึ่ง  ผมกะโอ๊ตกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ไปไหนไปกัน กินข้าวกลางวัน ข้าวเย็นด้วยกันแทบทุกวัน ก็ไม่ได้อยู่กันสองคนหรอกนะฮะ ก็มีเพื่อนแกงค์มันกะแกงค์ผมที่ยกขโยงไปกันที 7-8 คน ข้าวกลางวันก็กินที่มอ เนี่ยแหละฮะ ส่วนข้าวเย็น เป็นผมเองทีตีเนียนไปกินข้าวบ้านมันทุกวัน ก็ผมมันเด็กหอนี่ฮะ หากินเองมันลำบาก กินข้าวบ้านมันทั้งอร่อยและประหยัด แถมยังได้ยืดเวลาการมองหน้ามันไปได้อีกหลายชั่วโมง
ตอนนี้ผมรู้จักมันเพิ่มขึ้นมากแล้ว มันไม่ได้เป็นตุ๊ดหรอกครับ ไม่กระเดียดไปสักนิด(ซึ่งผมเสียดาย) แต่ก็มันไม่ได้เป็นคนห้าวๆเลยครับ  ติดจะอ่อนไหวเสียด้วยซ้ำ มันเป็นคนปากแข็ง โกรธ น้อยใจอะไร ไม่ค่อยพูด มันพูดไม่เก่งเท่าผม แต่ถ้าอยู่กะป๊ากะแม่มัน มันจะชอบนัวเนีย นั่งพิง นั่งอิง ตลอดๆ  ป๊ามันก็ชอบให้มันอ้อนนะครับ เรื่องกอด เรื่องหอมกันสำหรับครอบครัวมันเป็นปกติ   ผมชอบสายตามันตอนที่มันอ้อนป๊ากะแม่มัน สายตาแบบลูกแมวเหมียว โหยยยย เคลิ้มมากครับ ขอบอก



ผมเก็บเอาสายตาอย่างนั้นไปใช้ตอน....ตลอด

“อา....แมวเหมียว.....” สายตาอ้อนๆ ถ้ามันมองมาที่ผมก็คงดี


“แมวเหมียว.....แมวเหมียว แมวเหมียว อึก.....”  หลังรอให้จังหวะลมหายใจสงบ สติเริ่มกลับมา ผมก็มักจะเข้าโหมดเศร้าเสมอ
เฮ้อ... กูอยากกอดตัวเป็นๆของมึงจริงๆว่ะโอ๊ต     

...

ชีวิตผมก็ยังเป็นไปตามปกติฮะ ไม่ได้อยู่ในโหมดเศร้า เหงา เพราะแอบชอบ ตลอดเวลา  ก็รู้ว่าไม่มีหวัง แต่ก็ยังชอบมองมันเท่านั้นแหละฮะ ไม่ได้รุกจีบอะไร ไม่ได้เฝ้ารอแบบดอกทานตะวัน เผื่อวันที่พระอาทิตย์จะหันมามองอะไรอย่างนั้นหรอกฮะ  กับเด็กเก่าๆผมตั้งแต่มัธยมผมก็ยังมีหยอดๆอยู่บ้าง พอเริ่มเข้าปิดเทอม รู้สึกว่าชีวิตขาดเรื่องแบบนั้นมานาน ก็เริ่มมองหาเด็กในสเป็กแบบเดิมๆ  ตัวเล็กๆ บางๆ ในคณะผมหายากฮะ ผมเลยโฉบไปเหล่เด็กที่คณะอื่น ปิดเทอมก็จริงแต่พวกเรียนซัมเมอร์ พวกอินเตอร์ ก็ยังเรียนกันอยู่ ไปนั่งที่โรงอาหารบ้าง ร้านกาแฟบ้าง ลากเอาไอ้โอ๊ตไปด้วย คือไปคนเดียวก็ดูจงใจไป   

เจอละฮะ

เป้าหมาย

ตัวเล็ก ฉบับมินิ ขาวโอโม่ ก็น่ารักดี

ส่งสายตาฮะ

อย่าผลีผลาม


บิงโก!! น้องเขาเริ่มรู้ล่ะฮะ ว่าผมสนใจ.... 


น้องชื่อป๊อบอายฮะ เป็นสายแบ๊วเต็มขั้น  ผมได้ไลน์ ได้เบอร์ ก็รุกจีบได้เต็มที่  ช่วงนั้นเลยเริ่มห่างๆไอ้โอ๊ตไปบ้าง  ก้มหน้า ก้มตา คุยไลน์ มุ้งมิ้ง กะน้องตลอด


“มึงเป็นเกย์เหรอวะ พัฒน์”


“ หืม”  เสียงไอ้โอ๊ตถามเบาๆ ระหว่างที่เรานั่งเล่นกันอยู่ที่โต๊ะกลุ่ม ทำให้ผมต้องละสายตาจากไลน์ ขึ้นมามองมัน


“ก็..นะ”  ผมยักไหล่ ทำท่าไม่แคร์สื่อ


“กูไม่คิดจะปิดบังอะไร กูรู้ตัวมานานละ และก็ทำตามที่ใจอยากจะทำ” ผมตอบมันไป เห็นมันเม้มปากแน่น ก็เริ่มเอะใจ มันแปลกๆ


“แล้วมึง..ชอบน้องป๊อบอง ป๊อบอาย อะไรนั่น เหรอวะ”  มันพยายามถามแบบไม่ใส่ใจ ปากที่เม้มในตอนแรกฝืนยิ้มแบบเห็นเป็นเรื่องขำๆ สุดกำลัง



ฝืนยิ้มแค่ไหน ก็ไม่รอดสายตากูหรอก โอ๊ต...
...

ผมมันมีเซ้นต์ของนักวิทยาศาสตร์ฮะ สงสัยอะไรก็ต้องพิสูจน์ บวกกะเลือดนักแสดงคุณภาพ (แม่ผมเป็นดาราเก่านะคุณ ผมถึงหน้าตาดีมากนะ อันนี้ไม่ได้หลงตัวเอง)...
อาการแปลกของไอ้โอ๊ต มันทำให้ผมคิดว่า.... มันอาจหึงผม....
ต้องพิสูจน์  ตั้งแต่วันนั้นผมเลย แกล้งจีบน้องป๊อบอายให้ไอ้โอ๊ตได้เห็นบ่อยขึ้น ชัดเจนขึ้น จากไลน์ เปลี่ยนเป็นโทร จากกินข้าวเย็นกะมันทุกวัน เริ่มไปกินข้าวกะน้องป๊อบอาย.. แกล้งเอาเรื่องน้องมาปรึกษามัน... สิ่งที่ผมเห็นคือ ไอ้โอ๊ตเจ็บปวด... ไชโย!!!!!   


ผมคงเป็นซาดิสซึ่มนะ ผมว่า...


สเต็ปต่อไปคือ กูจะเข้าเกียร์ เหยียบคันเร่ง ละนะ.... เริ่มจาก เคลียร์กะป๊อบอาย.. จะบอกว่าผมเลวก็ได้ที่ผมใช้น้องเป็นเครื่องมือ... น้องคงเสียหน้า เลยฝากรอยฝ่ามือไว้ที่หน้าผม.. แล้วนางก็สะบัดตูดจากไป...
ขั้นต่อไปคือ สายตา... ใช่ฮะ... ผมมอง มอง มอง แล้วก็มองมัน ด้วยสายตาสื่อความหมาย... เช้าไปรับ เย็นไปส่ง ว่างๆนั่งที่โต๊ะกลุ่มก็นั่งมองหน้ามัน


ไอ้โอ๊ต เลยทำตัวไม่ถูกเลยครับ ฮ่า ฮ่า


วันแรกๆ มันงง มันทำตาโตใส่ผม เมื่อเผลอสบสายตาสื่อรักของผม...  จากนั้น มันก็เริ่มทำอะไรเงอะๆงะๆ เพราะรู้ว่าผมมองมันตลอด มือสั่น ของหล่น

ผมเทคแคร์มันมากขึ้น หาน้ำ หาขนมไว้ให้ จัดปกเสื้อให้ ผูกเชือกรองเท้าก็ทำให้

ผมมีความสุขนะ แม้จะยังไม่ถึงขั้นเป็นแฟนกัน แต่แค่เห็นมันเขิน ผมก็ฟิน แล้วฮะ
...

บางที ผมก็กระตุ้นมันนิดๆหน่อยๆ ด้วยการแกล้งเอาจมูกไปเฉียดแก้มมันบ้าง มันนิ่งไปเลยสงสัยจะช็อค ตากลมๆเหลือบมองผมแล้วก็หลบ เหลือบมองแล้วหลบ อยู่หลายครั้ง ตัวสั่นนิดๆ  โถๆๆๆลูกแมวเหมียวของผม  
คืนวันศุกร์ รุ่นพี่ของโอ๊ตนัดเลี้ยงที่ร้านเหล้าไม่ไกลจากมอ  ผมก็อาศัยอัธยาศัยดี ก็ตีเนียนไปกับเขาด้วย ผมคอแข็งฮะ แต่มารยาชายก็หลายเล่มเกวียนอยู่นะขอบอก


แกล้งเมา...ตอนนี้โอ๊ตประคองผมกลับมาที่บ้านของมัน อย่างทุลักทุเลมาก เพราะมันตัวเล็กกว่าผมเยอะ จังหวะที่มันทิ้งตัวผมลงบนเตียง ผมก็เหนี่ยวตัวมันลงตามมาด้วย


“...”  ไอ้โอ๊ต ไม่ได้พูดอะไร  มันมองผมด้วยสายตาหวั่นไหว ขณะที่มันนอนอยู่บนตัวผม มีแขนของผมกักตัวมันไว้

“...พร้อมยังโอ๊ต...”  ผมถาม

“ เมาแล้ว ไอ้ห่า พร้อมเรื่องไรวะ” โอ๊ตถามเสียงห้วน แต่ปลายเสียงสั่น

“พร้อมให้พัฒน์จูบยัง...”

“ อ..ไอ้...เชี่ย...”   คำด่ามันกลืนหายเข้าไปในปากผม เมื่อผมรุกไล่ดูดดึงริมฝีปากของมัน ไล้เลียรอบแนวฟัน ไล่เรื่อยไปกรพุ้งแก้ม ตวัดลิ้นพัวพันกับมัน น้ำลายมันหอมผมชอบมาก ผมยังมีสติครบ และวินาทีนั้นผมจำได้แม่น ว่า มันรู้สึกดีฉิบหาย....  ผมชอบจูบของมันมาก ชอบที่มันพลิกลิ้นหนีผม ชอบเสียงหอบหายใจถี่ๆ และเสียงอู้อี้ในลำคอของมัน....
ผมจำไม่ได้แล้วว่าคืนนั้นผมหลับไปได้ยังไง แต่ไม่ได้มีอะไรเกินกว่านั้นหรอก มันเหมือนว่า เราจะเลือกจำเหตุการณ์ที่ดีที่สุดให้ชัดที่สุด ความสามารถในการจำเรื่องอื่นๆก็เลยเบลอๆไป


อีกสองสามวันต่อมา ผมเดินจากห้องเลคเชอร์ไปหามันที่โต๊ะกลุ่ม เพื่อจะไปกินข้าวกลางวันพร้อมกัน   มันเห็นผมแล้ว แต่แกล้งทำเป็นสนใจหนังสือการ์ตูนตรงหน้า   ตามองหนังสือการ์ตูน แต่แนวสายตากรอกไปมาแบบคนไม่มีสมาธิจะอ่าน

“ พร้อมยังโอ๊ต...” ผมแกล้งถามมัน

มันสะดุ้งโหยง  “ พ...พร้อม... อะไร...”  มันกลั้นหายใจด้วย

“กินข้าวไง ป่ะ” 

แมวเหมียวของผมถอนหายใจดังเฮือก

“ป่ะๆ กูหิวมากละ” มันลุกลี้ลุกลนมาก

ผมชอบโมเม้นต์นี้มาก ตอนที่มันอ่อนไหว ตอนที่ไม่ได้ฝืนทำตัวห้าวๆเหมือนที่อยู่กะเพื่อนคนอื่น ตอนที่หน้ามันแดง ปากอิ่มๆนั่นเม้มแล้วคลาย แบบคนที่ควบคุมหัวใจไม่ได้   ขอย้ำอีกครั้ง

ผมว่า ผมเป็นซาดิสซึ่มจริงๆน่ะแหละ

มันก้าวนำผมอยู่สองสามก้าว ผมเลยคว้าแขนมันไว้

“โอ๊ต... กูตั้งใจ... คืนนั้นน่ะ...เพราะกูชอบมึง....”

กล้ามเนื้อแขนของมันเกร็งแน่นอยู่ในอุ้งมือผม ตาของมันพราวน้ำ เหมือนจะมีน้ำตาซึมที่หางตา ปากนี่เม้มแน่นยิ่งกว่าแน่น  มันไม่พูดอะไรสักคำ แต่ผมอ่านสายตามันออก  ไม่รู้ทำไม แต่ผมว่าผมเข้าใจถูกนะ

“กูพูดจริงๆ โอ๊ต ไม่ได้อำ ชอบแบบอยากได้เป็นแฟน”

“.....” มันยังคงเงียบ ผมเห็นความลังเลเต็มไปหมดในตาคู่นั้น

“กูต้องรอนานแค่ไหน...”

“อะไร...”

“รอให้มึงแน่ใจในตัวกูไง กูต้องรอนานไหม”  ผมไม่อยากรุกมันมากไปกว่านี้ กลัวเหมียวน้อยจะเตลิดเปิดเปิงไปก่อน

มันยังคงเงียบ แล้วหลบตาผม พร้อมกับพยายามบิดแขนออกจากมือผม  ผมเลยไปจับมือมันไว้แทน กลัวมันวิ่งหนีน่ะครับ  แล้วเริ่มถามคำถาม

“หนึ่งอาทิตย์?”

มันขมวดคิ้ว  คำตอบคือ “ไม่” สินะ

“สามอาทิตย์?” 

ปากมันเริ่มบึ้ง   ยังอีกเหรอเหมียวน้อย ผมไม่เคยจีบใครเกิน สามอาทิตย์เลยนะ พับผ่า

“หนึ่งเทอม?” กลั้นใจพูดเลยนะเนี่ย แต่ก็พร้อมจะรอนะเอ้า

“ไอ้ห่า...”   แหนะ แหนะ เริ่มหยาบคาย แสดงว่า ไม่ถูกใจอย่างแรง

“ตอนนี้โว้ย ไอ้ห่าพัฒน์ กูพร้อมแล้ว กูพร้อมแล้ว”  เหมียวน้อยพูดเร็วปรื๋อ แทบจะกลายเป็นเพลงแร๊พ คงอายมาก พูดเสร็จสะบัด
หน้าพรืด มีแอบเหลือบมองด้วย หูนี่แดงแจ๋เชียว
...
...
ผม.... ผม..... อึ้ง ครับ.... ผม...ดีใจ....

ผมยกหลังมือของโอ๊ต น้องเหมียวน้อย ขึ้นมาจุ๊บไม่หยุด

จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ จุ๊บ

ฟิน ในเลเวลสูงสุดครับ พูดเลย



 “พัฒน์กับโอ๊ตเป็นแฟนกันแล้วนะครับ”
...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-09-2015 01:18:18 โดย treenature »

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
อร๊ายยยยยยยยยยยยยยยยย  >///<
มันน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ่านแล้วเขินมากอ่ะ ประหนึ่งอยุ่ในเหตุการณ์ซะเอง 555

ออฟไลน์ sunipum

  • ชีวิตต้องต่อสู้ ให้โลกรู้เราแน่แค่ไหน
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
น่ารักอ่ะ  โอ๊ตเนี่ยกว่าจะเผยความในใจ ต้องมีไรมากระตุ้นใช่ป่ะ   :mew1:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
โอ๊ตทำไมน่ารักอย่างนี้ล่ะ

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
น่ารักๆๆๆๆ   พระเอกมันต้องอย่างงี้!!  รู้จังหวะ 
โอ๊ตก็น่ารักมากกกกกกก   :haun4:

ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น่ารักมาก ๆ ครับ

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
มาต่อเถอะนะ

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
  (ตอนเกือบพิเศษ)  เรื่องสั้นของพัฒน์กับโอ๊ต

ผมชื่อโอ๊ต เป็นแฟนกับพัฒน์มาได้เจ็ดปีแล้ว รักกันตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ทำงานมาได้พักใหญ่ๆ พัฒน์ทำงานบริษัทเอกชนส่วนผมสอนหนังสือ  ตอนนี้เราย้ายมาอยู่ด้วยกันในคอนโดใกล้ๆที่ทำงานของพัฒน์ เราอยู่ด้วยกันเกือบตลอด เช้าแยกย้ายไปทำงาน เย็นหรือค่ำกลับมาเจอกัน


“ไปก่อนนะ” พัฒน์เร่งรีบออกไปจากห้อง


ผมพยักหน้า แต่เขาไม่เห็นเสียแล้ว


ทุกอย่างมันกลายเป็นความเคยชิน
ไม่รู้ว่าความหวานมันหายไปจากชีวิตเราตอนไหน
บางอย่างก็จำไม่ได้แล้วว่า ทำไปทำไม เพียงแค่รู้ว่าต้องทำเท่านั้น ผมเทกาแฟที่ชงไว้ให้พัฒน์ทิ้งลงในอ่าง ยืมมองคราบกาแฟไหลลงท่อไป

ช่วงนี้พัฒน์คงงานยุ่งมาก เขาเลยลืมจะกินกาแฟที่ผมชงให้ และคงลืมหอมแก้มแทนการบอกลา

ผมเก็บล้างส่วนที่เหลือแล้วเตรียมตัวออกไปทำงาน

ระหว่างทำงาน ผมมีสมาธิกับมัน ตอนสอน คิดอย่างอื่นไม่ได้ คนมาเรียนเขาไม่ได้มีหน้าที่มารับรู้ความทุกข์หรือความเศร้าของผู้สอน

ตกเย็น ผมเดินเอื่อยๆ กลับไปที่คอนโด จริงๆมันก็ไม่ได้อยู่ใกล้กับที่ทำงานผมมากนัก แต่ก็ยังพอเดินไหว ผมไม่อยากกลับเข้าห้องเร็วนัก ห้องที่ต้องกลับไปอยู่คนเดียวอีกหลายชั่วโมง

ผมเกลียดการรอคอย ไม่รู้ว่าพัฒน์จะกลับเมื่อไหร่ นานแล้วเหมือนกันที่พัฒน์ไม่โทรบอกว่า วันไหนจะกลับช้า เพราะว่าเขาเริ่มกลับบ้านช้าแทบทุกวัน

ผมเลือกจะทำกับข้าวง่ายๆ ไม่มากนัก เพราะไม่รู้ว่า พัฒน์จะกินมาแล้วหรือเปล่า แต่จะไม่ทำไว้ก็ไม่ได้ เผื่อว่าเขายังไม่ได้กินล่ะ
ตอกไข่ใส่ชาม ตีมันช้าๆ พยายามยืดเวลา เผื่อว่าพัฒน์จะกลับมากินพร้อมกัน

เมื่อก่อนผมทำกับข้าวไม่เป็นเลยสักอย่าง พัฒน์เป็นคนสอน

ภาพเก่าๆวิ่งผ่านเข้ามา “ตีแบบนี้ดิ คนไปคนมาแบบนั้นเมื่อไหร่จะเข้ากัน ดีครับ รอน้ำมันร้อนก่อน”  เขาจับมือผมให้จับตะหลิว โอบกอดผมจากด้านหลัง และผมได้จูบหวานๆเป็นรางวัลที่เจียวไข่ได้เหลืองน่ากิน
วันนี้ไข่เจียวของผมคงไม่ต้องใส่น้ำปลา มันเค็มพอแล้ว เพราะน้ำตาผมหยดลงไป

ห้าทุ่มกว่า พัฒน์เพิ่งจะกลับบ้าน

เขายิ้มให้ผม มันเหมือนจะดี แต่มันเป็นแค่ยิ้มทักทาย


“ยังไม่นอน?” เขาคงไม่รู้จะพูดอะไรให้ดีกว่านี้


“อือ” ผมก็เช่นกัน


เขาวางกระเป๋าลง โยนมือถือไว้บนโซฟาที่ผมนั่งแล้วเดินไปเปิดตู้เย็น หยิบขวดน้ำขึ้นกรอกปาก ไม่รู้ว่าเขาจะเห็นข้าวไข่เจียวในทับเปอร์แวร์นั่นไหม คงจะเห็น แต่ก็คงจะอิ่มมาแล้ว

ผมก้มหน้าลงอ่านเปเปอร์ที่อ่านค้างอยู่ แต่มันไม่เข้าหัวเลย มือถือเขาดังขึ้น

++แปลกแต่จริง สิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับฉัน++

 
ผมเพิ่งรู้ว่าเขาเปลี่ยนริงโทนใหม่แล้ว หน้าจอเป็นรูปเซลฟี่ของพัฒน์กับผู้ชายคนหนึ่งที่หน้าตาสะอาดสะอ้าน ทั้งคู่ยิ้มให้กล้อง พวกเขาไม่ได้แนบชิดกันแต่ดูสนิทกัน ผมมองเห็นความสดใสในรอยยิ้มของทั้งคู่


เอี๊ยม


ชื่อที่ขึ้นที่หน้าจอ


ชื่อน่ารักดีนะ

มือผมสั่นขณะเอื้อมมือไปหยิบมือถือพัฒน์ขึ้นมา และจ้องมองรอยยิ้มนั้นใกล้ๆ มือใหญ่ของพัฒน์เอื้อมมือมาขอมันไป


“ฮัลโหล ว่าไง” 
พัฒน์ยิ้มให้กับคนในโทรศัพท์ เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่เห็นนานแล้ว มันต่างจากยิ้มที่ผมได้ตอนเขาเปิดประตูเข้าห้องมา


ผมควรไปอาบน้ำ แล้วให้น้ำล้างน้ำตาออกไป

ออกจากห้องน้ำ ผมส่องกระจก คนในกระจกเหมือนจะมองผมด้วยความเห็นใจ


“พอแล้วไหมไอ้โอ๊ต มันถึงเวลาจะพอแล้วไหม”

ผมถามตัวเองในใจ  มือจับติ่งหู สมัยเรียนผมเจาะหูข้างซ้าย ตอนมาทำงานถอดออกเพราะไม่ค่อยเหมาะ ตอนนี้จะตันหรือยังนะ มือหยิบต่างหูที่เคยใส่ รูด้านหน้ายังไม่ตันแต่มันแทงไปด้านหลังไม่ได้ ผมควานต่างหูไปมาพยายามให้มันทะลุ


“พัฒน์ ใส่ต่างหูให้หน่อย”

ผมหันไปขอความช่วยเหลือจากพัฒน์ที่ตอนนี้อาบน้ำแล้วแล้วนั่งเล่นมือถืออยู่บนที่นอน

เขากวักมือเรียก ผมกำลังเดินไปหา มือข้างหนึ่งถือต่างหูคาไว้ที่หู


“เพิ่งจะมาบอกให้ทำอะไรตอนคนกำลังจะนอน” เขาส่ายหน้า


ผมชะงักเท้า


“อืม ไม่เป็นไร งั้น”  ผมก้มหน้าลงซ่อนความรู้สึกไว้


“โอ๊ต ไม่เอาน่า” ดูเหมือนพัฒน์จะรู้ว่าผมน้อยใจ  “เรื่องแค่นี้เอง”


((เรื่องแค่นี้เอง เรื่องแค่นี้เอง เรื่องแค่นี้เอง)) หูผมอื้ออึงไปหมด ความรู้สึกของผมมันเป็นเรื่องแค่นี้เองสินะ


“อื้อ ไม่เป็นไร เปลี่ยนใจแล้ว ข้างหลังมันคงตันอ่ะ คงต้องเจาะลงไปใหม่ ไม่เอาแล้ว กลัวจะเจ็บ ไว้ค่อยไปเจาะร้านใหม่”

ผมยิ้มจางๆเท่าที่จะฝืนไว้ แต่มองหน้าเขาไม่ไหว เดินหันหลังเพื่อจะไปเก็บต่างหู


เขาดึงข้อศอกผมไว้ จูงไปที่เตียง คิ้วขมวด


“ไม่ต้องแล้วพัฒน์ เดี๋ยวยังไงพรุ่งนี้เช้าก็ต้องถอดก่อนไปทำงาน นอนเถอะ” ผมขืนตัวไว้


“แน่นะ” เขาพยายามจ้องตาผม


“อื้อ” ผมจ้องตอบ


“ตามใจนะ” พัฒน์เดินกลับไปที่เตียง ตบที่ว่างข้างๆ “มานอนได้แล้ว”


คืนนั้นเรายังคงนอนข้างกันเหมือนเดิม เขาเอาขามาก่ายผมไว้ แล้วกักผมไว้ด้วยอ้อมแขนอีกชั้นหนึ่ง พัฒน์หลับไปแล้วแต่ผมยังลืมตามองเพดาน ความเจ็บปวดที่ซ่อนไว้มันหลั่งไหลออกมาไม่ขาดสาย นึกถึงตอนที่เขาจีบผม ดูแลผม วันที่ทำให้ผมตกใจตัวเองที่ชอบผู้ชายด้วยกัน วันที่เขาขอผมเป็นแฟน


มันไม่มีอีกแล้วใช่ไหม

รักของเรามันจางไปมากแล้ว จนมันคล้ายกันเป็นแค่รูมเมท ไม่ใช่แฟน เราไม่ได้มีอะไรกันมาหลายเดือน พัฒน์ทำงานหนัก กลับดึก อาบน้ำและเข้านอนเลย

ผมไม่กล้าชวนเขา  ผมเคยชวนให้เมคเลิฟกันหนหนึ่งเมื่อเดือนก่อน เขาเฉยๆไม่สานต่อ แค่ครั้งนั้นก็พอแล้ว แค่นั้นก็โคตรเจ็บแล้ว เพราะกว่าผมจะรวบรวมความกล้า เอ่ยปากชวนแบบนั้นมันยากนะ

เจ็ดปีของเรามันคงนานเกินไป พัฒน์อาจจะเหนื่อยที่จะอยู่ช่วยนับเลขกันไปอีกปีและอีกปี


“ยังรักอยู่ไหม” ผมอยากถามพัฒน์ แต่ก็ทำได้แค่คิด



เช้านี้ผมตื่นสาย เหลียวไปรอบห้องไม่เจอพัฒน์แล้ว แปดโมงแล้ว เขาคงไปทำงาน ส่วนผมไม่มีสอน วันนี้เข้าสายได้นิดหน่อย
ลากเท้าเดินผ่านกระจกเพื่อเข้าห้องน้ำ

เอะ ผมเห็นอะไรแวบแวบ เดินกลับมามาจ้องตัวเองในกระจก ยกมือจับหูข้างซ้ายอย่างเบลอๆ ต่างหูที่หูซ้ายมาได้ยังไง เมื่อคืนไม่ได้ใส่

ผมอมยิ้ม ด่าตัวเอง “ใจง่ายจังวะไอ้โอ๊ต” แค่พัฒน์ใส่ต่างหูให้ตอนผมหลับ ทำไมต้องดีใจขนาดนี้ก็ไม่รู้ มันเหมือนจะลบล้างความน้อยใจทั้งหมดที่มี

ผมตัดสินใจไม่ถอดต่างหูออก มันเป็นต่างหูเงินกลมๆเล็กๆ เล็กมากๆ คงไม่สะดุดตาเท่าไหร่

นักศึกษาบางคนตื่นเต้นกันต่างหูของผม


“วันนี้ดูแปลกตาไปมาก พี่ก็มองอยู่ตั้งนานว่าทำไมนะ” พี่จักร อาจารย์ที่ภาควิชาเดียวกัน ยืนพิงกรอบประตูห้องทำงานของผมอยู่


ผมได้แต่อมยิ้ม

ตกเย็นผมติดรถพี่จักรไปห้าง ตั้งใจจะทำกับข้าวดีๆสักมื้อ แล้วโทรชวนพัฒน์กลับมากิน

มันมีกำลังใจจะเติมความหวานให้ชีวิต ขึ้มมาบ้าง อยากพยายามสร้างบรรยากาศแบบเดิมๆให้กลับมา ให้รู้สึกถึงการเป็นคู่รัก
พี่จักรเสนอตัวช่วยผมเลือกซื้อของสด สงสัยจะเห็นความเงอะงะของผม

ผมเลือกซื้อของเสียเพลิน รู้ตัวอีกทีก็มีของเต็มจนเกือบล้นรถเข็น ทั้งของใช้ในบ้าน ของสด และของไร้สาระอีกมาก
ผมเงยหน้ามองพี่จักรที่เข็นรถตามหลังอย่างอายๆ พี่จักรยืนเท้าแขนสองข้างไปกับรถเข็นแล้วยิ้มล้อ


“ไม่ได้เข้าห้างมากี่ปีแล้วครับ น้องโอ๊ต” พี่จักรแซวขำๆ


แต่ผมสะอึก...สามเดือนแล้วล่ะมั้งที่ไม่ได้มาเดินห้าง มาเลือกของใช้ เพราะพัฒน์ไม่ว่างเลย และผมไม่ชอบเดินห้างคนเดียว มันประหม่ากับสายตาของใครต่อใคร ไม่รู้สิ ผมมันเป็นคนติดแฟนล่ะมั้ง พอเขาไม่ว่างถึงได้เหงาได้น้อยใจจะเป็นจะตายแบบนั้น

พี่จักรบริการช่วยขนของมาส่งถึงบนห้อง ทั้งที่ผมก็ห้ามแล้ว


“ตัวกะเปี๊ยกเดียว จะยกหมดเหรอ ลงมาขนสองรอบก็ยังไม่รู้จะหมดไหม” พี่จักรพูดเรียบๆ


ผมลืมตัว ทำปากยู่ใส่พี่จักร


พี่จักรยิ้ม แล้วจ้องผมอยู่อย่างนั้น


ผมว่า....ชักจะไม่ค่อยดีแล้วสิ....


หันไปกดลิฟท์แล้วจ้องตัวเลขที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆดีกว่า


“ขอบคุณมากพี่ วางตรงนี้ก่อนได้ครับ”

ผมชี้มือไปบนโต๊ะทานข้าว พลางหยิบโทรศัพท์ออกมาต่อสายหาพัฒน์ เดี๋ยวผมจะถามเขาว่า งานยุ่งมากไหม กลับมากินข้าวเย็นด้วยกันได้หรือเปล่า อืม ต้องใส่เสียงอ้อนๆหน่อยนึงด้วยเนอะ

ผมคิดอะไรเพ้อเจ้อ ขณะกดปุ่มโทรออก

เสียงริงโทนเพลงโดราเอมอนดังมาจากโซฟา


ผมยืนถือโทรศัพท์ค้างอยู่ท่านั้น และมองแสงสว่างจากหน้าจอ ที่ยังคงกรีดร้องเป็นเพลงโดเรมอน


“พัฒน์ลืมมือถือเหรอ” พี่จักรที่เพิ่งออกจากห้องน้ำ เดินเข้ามาถาม


น้ำตาผมไหล


“เฮ้ย โอ๊ต เป็นอะไร”

พี่จักรจับมือของผมที่ถือโทรศัพท์ค้างอยู่ลง กดตัดสาย แล้วโยนไปที่โซฟา จากนั้นหันมาจับบ่าเขย่าเบาๆ เพื่อให้ได้สติ

น้ำตาผมไหลไม่หยุด มันมากขึ้นและมากขึ้น จนกลายเป็นสะอื้น ผมกลั้นไว้ไม่ไหว ไม่ไหวจริงๆ
ริงโทนของผมยังคงเป็นโดเรมอน แต่ริงโทนของ เอี๊ยม ผู้ชายคนนั้นเป็นเพลงกระทันหัน


แปลกแต่จริง สิ่งนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นกับฉัน มันเป็นรักที่กระทันหันไป แต่มองยังไงเธอก็ใช่ คนเดียวที่ฉันรอ....บอกตรงๆ ตั้งแต่วันที่ได้พบเธอ ตั้งแต่วันที่ยังไม่รู้ว่าเธอชื่ออะไร....เป็นครั้งแรกที่รักใครไปโดยไม่ต้องคิด....


เนื้อเพลงนั้นดังอยู่ในหัวผมอย่างกระท่อนกระแท่น คำบางคำในเพลงรักใสๆเพลงนี้กำลังทำร้ายผม...

รักใครไปโดยไม่ต้องคิด...ไม่สนว่าจะถูกหรือผิด....ห้ามใจไว้ไม่ได้....


พัฒน์รู้สึกอย่างนั้นใช่ไหม กับเอี๊ยมคนนั้นหรือเปล่า เจ้าของริงโทนเพลงนี้

ผมเดินไปหยิบมือถือของพัฒน์ขึ้นมา ภาพล็อคหน้าจอ ยังคงเป็นรูปของเรา


ฮึ ผมไม่รู้จะหัวเราะดีไหม


พัฒน์ถ่ายรูปของเอี๊ยมไว้หลายรูป ส่วนใหญ่เป็นรูปตอนเผลอ ตอนนั่งเหม่อที่โต๊ะทำงาน

ผมแน่ใจแล้วล่ะ สิ่งที่ผมสงสัย มันใช่จริงๆสินะ


ผมนั่งร้องไห้ ราวกับทุกอย่างในชีวิตมันพังลง ไม่สนใจแล้วว่า พี่จักรจะคิดยังไง ผมไม่เหลือสติอีกแล้ว
ผมร้อง ร้อง และร้อง จนไม่เหลือแรงจะสะอื้น จมูกตันไปหมด หายใจไม่ออก
พี่จักรเอื้อมมือเปล่าๆมาบีบจมูกของผม จมูกที่มีน้ำมูกใสๆไหลย้อย


“สั่งออกมา โอ๊ต สั่งเบาๆ” พี่จักรช่วยบีบและป้ายขี้มูกของผมออก


เขานั่งเงียบๆดูผมร้องไห้มาร่วมชั่วโมง และตอนนี้ยังทำแบบนี้อีก มือของเขาเปื้อนน้ำมูกของผม


ผมนั่งกอดเข่า เงยหน้ามองเขา ผมรู้ตัวดี สายตาของผมตอนนี้ มันเหมือนลูกหมาที่ไม่มีที่พึ่ง


“ช่วยเด้วย ผมเจ็บ” สายตาของผมคงพูดออกไปอย่างนั้น พี่เขาถึงโน้มตัวลงมากอดผมไว้ทั้งตัว และผมก็ร้องไห้อีกรอบ
.
.
.
ตอนนี้ผมอยู่ในรถของพี่จักรอีกแล้ว
หลังจากตั้งสติได้บ้าง ผมก็เก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นบางอย่างออกมาจากห้องนั้น
ผมยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไป รู้แค่คืนนี้ผมอยู่มองหน้าเขาไม่ได้ จะกลับไปบ้านพ่อแม่ ก็ไม่ได้ กว่าพ่อแม่ของผมจะยอมให้เราคบกันก็ยากลำบากมาก และพัฒน์รับปากป๊าของผมแล้วว่าจะไม่ทำให้ผมเสียใจ ขืนผมกลับไปสภาพนี้ ป๊าคงเล่นพัฒน์จนอ่วม ผมไม่อยากให้ป๊าโกรธพัฒน์ ผมโง่ใช่ไหม งมงายกับคำว่ารัก มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่อยากให้ป๊ารู้สึกไม่ดีกับพัฒน์

ก่อนออกมา ผมส่งไลน์ ทิ้งไว้ให้พัฒน์ เป็นรูปผมที่ยิ้มทั้งน้ำตา และข้อความจากเนื้อเพลง เพลงหนึ่งเพียงสั้นๆ


...เมื่อใครคนนั้นเข้ามา สัญญาก็หมดความหมาย....


 :pig4:

---ยังไม่จบตอน— แต่ก็เขียนต่อไม่ไหว---จะรอจนจบแล้วค่อยลงก็ไม่ไหวเหมือนกัน— ขอเอาความเศร้ามาแบ่งให้อ่านก่อน--วันนี้มันเศร้ามาก
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-10-2015 01:28:46 โดย treenature »

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
เศร้าจัง น้ำตาไหลสงสารโอ๊ต
พัฒน์เป็นคนเริ่มทุกๆอย่าง
ไม่ว่าเริ่มรักหรือเริ่มหมดรัก
คิดเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลย
นอกจากคิดแบบเดียวกับโอ๊ต
ดีแล้วที่โอ๊ตตัดสินใจออกมา
เพราะยิ่งอยู่ก็จะยิ่งเจ็บมาก
ถึงพัฒน์ไม่เอ่ยปากออกมา
แต่การกระทำช่างชัดเจน

มาต่อเร็วๆนะ อยากอ่านมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
(ตอนเกือบพิเศษ_ต่อ) เรื่องสั้นของพัฒน์กับโอ๊ต

ต่อ
.
.
.
พี่จักรถามผมว่าจะไปที่ไหน ผมเงียบ ผมไม่รู้จริงๆ ว่าจะไปไหนดี


“ไปค้างที่บ้านพี่ก่อน” พี่จักรชวน พลางละมือหนึ่งจากพวงมาลัยมากุมมือผม


ผมไม่ได้ดึงมือออกจากการเกาะกุม แต่สบตาพี่จักร


“อย่าเลยครับ ถึงแม้เราจะเป็นผู้ชายเหมือนกัน แต่พี่ก็รู้ว่ามันคงไม่เหมาะ ถ้าผมจะต้องต่อว่าพัฒน์เรื่องมือที่สาม ก็ขอให้คำพูดผมมันมีน้ำหนักอย่างที่สุด ต้องไม่มีตรงไหนที่พัฒน์จะย้อนว่า ผมก็ทำเหมือนเค้า”

พี่จักรถอนหายใจ แล้วละมือออกไป “พี่มีโอกาสไหม”

ผมรู้มาตลอดว่า เพื่อนร่วมงานของผมคนนี้คิดอย่างไร ที่ผ่านมา ผมระมัดระวังการวางตัวต่อพี่จักรมาก มีระยะห่างชัดเจน และจนถึงตอนนี้ ผมก็ไม่คิดจะดึงเขาเข้ามาเพื่อประชดใคร

“อย่าเข้ามาตอนผมอ่อนแอเลยครับ เพราะคนที่จะเจ็บอาจเป็นพี่”

พี่จักรนิ่งไปนาน  ผมเบือนหน้าออกไปมองแสงไฟข้างทาง มันเจ็บจนเหนื่อย “ไปไหนดีนะ”  ผมถามตัวเอง แล้วปล่อยให้ความคิดล่องลอย

“ไปสนามบินครับ” จู่ๆผมก็พูดขึ้น

“หือ” พี่จักรคงตกใจเพราะเขาแตะเบรกนิดหนึ่ง “ตั้งใจจะไปไกลเลยเหรอ” พี่จักรท้วง

“มีที่หนึ่ง ผมไม่ได้ไปมานานมากแล้วน่ะครับ” ผมตอบ

“เป็นที่ ที่มีความทรงจำดีๆสินะ”

“ไม่ใช่ครับ ผมไม่ได้ อยากให้พัฒน์ตามไปง้อ ผมยังไม่อยากเห็นพัฒน์ มันเจ็บเกินไป”  แค่พูดเท่านี้ น้ำตาผมก็ไหลออกมาอีก

ตอนนี้ผมลงจากรถพี่จักรแล้ว ชะโงกหน้าเข้าไปขอบคุณเขาอีกครั้ง

“ถ้าถามว่า จะไปไหน จะตอบไหม”

ผมส่ายหน้า “ไม่รู้จะวุ่นวายน้อยกว่านะครับ”

ผมรู้ว่า พัฒน์ต้องมาถามหาผมจากพี่จักรแน่ๆ และผมไม่ต้องการเจอเขาจริงๆ การจะรักษาความลับให้ได้ คือต้องไม่ทิ้งความลับนั้นไว้กับคนอื่น

“อย่างน้อย โทรหาพี่ถ้าไปถึงที่นั่นแล้ว” พี่จักรพยายามอีกนิด

“อย่าเลยครับ ผมใช้ลาพักผ่อนแค่สิบวัน ยังไงก็ต้องกลับมาทำงาน ไม่ต้องเป็นห่วง ฝากพี่จักรบอกหัวหน้าภาคฯให้หน่อยนะครับ ผมขอมาเขียนใบลาย้อนหลัง และฝากวิชาของผมด้วย เหลืออีกอาทิตย์เดียวก็ปิดคอร์สแล้ว” 
ผมพูดยาวเพื่อปิดทุกประเด็นที่พี่จักรอาจจะใช้รั้งผมไว้ได้

“โอ๊ตรู้ตัวไหม ว่าวันนี้พี่เพิ่งได้เห็นว่า โอ๊ตเป็นลูกหมาอ่อนไหวที่ใจแข็งมาก”
ผมได้แต่ยิ้มตอบไป

ตอนนี้เป็นเวลาสามวันแล้วที่ผมมาอยู่ที่เกาะนี้ มันเป็นเกาะที่เงียบ ไอ้เม่นเพื่อนสมัยมัธยมของผมมีธุรกิจครอบครัวเกี่ยวกับโรงแรมอยู่ที่นี่ เป็นที่ที่ผมเคยมาครั้งหนึ่งตอนจบ ม.สาม ก่อนที่ผมจะเจอพัฒน์นานมาก และพัฒน์ไม่เคยรู้จักกับ ไอ้เม่นเพราะมันไปต่อเมืองนอกหลังจากจบ ม.ต้นแล้ว

สิ่งที่ผมทำในสองวันแรกคือ นอนอยู่บนเตียงแล้วปล่อยให้น้ำตารินรดไปกับปลอกหมอนจนชุ่ม จนวันที่สามนี่ ไอ้เม่นคงทนไม่ไหว มันมาลากผมออกมาจากห้อง บังคับให้กินข้าว แล้วตามมันมานั่งที่ชายหาด และผมก็นั่งมองทะเลอยู่อย่างนั้น
มันทรมานนะ มันเจ็บที่คิดถึงเรื่องของเรา ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ยังรักกัน หรือในตอนที่รู้สึกว่า พัฒน์ไม่รักแล้ว แบบไหนก็เจ็บหมด แต่ก็เลิกคิดถึงเรื่องพวกนั้นไม่ได้
ผมเหมือนโตมากับพัฒน์ ถูกเขาประคบประหงมตั้งแต่ปีหนึ่ง จนมาถึงตอนนี้ ผมฝากหัวใจไว้กับเขาทั้งหมด ยึดเขาเป็นที่พึ่งในทุกอย่าง


ฟ้าข้างบนคงอยากให้ผมเข้มแข็งเสียบ้าง


ฟ้าใจร้ายจังครับ


หากถามว่าผมอยากเคลียร์ไหม ไม่เลยสักนิด ผมว่า แค่ที่ผมเห็นในโทรศัพท์ก็มากพอแล้ว รูปพวกนั้นมันไม่ได้ถูกถ่ายด้วยความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานแน่นอน ผมไม่ต้องการรู้ให้เจ็บมากไปกว่านี้ว่า พัฒน์นอนกับเขาหรือยัง เพราะสำหรับผม เท่าที่พัฒน์ทำตอนนี้ ผมเรียกว่า “นอกใจ”

ผมยังรักพัฒน์อยู่ ถึงแม้ตอนนี้ความรักนี้จะทำให้เจ็บปวดเจียนตาย

ถ้ารอให้หมดรักแล้วเดินจากมา คงจะไม่มีวันนั้น คงต้องวนเวียนอยู่ในความเจ็บปวดอยู่อย่างนี้

ไม่ไหวจริงๆพัฒน์ โอ๊ตคงทนเพื่อพัฒน์ขนาดนั้นไม่ได้ การที่ได้รู้ว่า ผมไม่ใช่คนเดียวที่เขารัก มันแย่ แย่มากจริงๆ

นี่ผมตัดสินใจได้แล้วใช่ไหม

กระป๋องเบียร์เย็นๆ แนบลงมาที่แก้มของผม

“สักหน่อย” ไอ้เม่น หย่อนก้นลงข้างๆผม ที่นั่งกอดเข่าอยู่

ผมกับไอ้เม่นนั่ง กินเบียร์กันเงียบๆ มีคุยกันเรื่องเก่าๆบ้าง ไอ้เม่นไม่ถามว่าผมหนีอะไรมา มันคงพอดูออก
ผมไม่เจอไอ้เม่นหลายปี ตอนนี้มันตัวโตกว่าผมเยอะเลย กล้ามแข็งมาก ผิวสีแทน ดีที่ผมเห็นมันบ่อยๆในไอจี ไม่อย่างนั้นผมคงจำมันไม่ได้ ตอนมันไปรับที่สนามบิน


“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน พอจะมาเซอร์ไพร้สกู ก็มาในสภาพดีๆหน่อยดิวะ” ไอ้เม่นพยายามไม่ให้ผมเศร้า



“กู ออกจะหน้าตาดีขนาดนี้ นี่แหละสภาพดีแล้ว” ผมเองก็พยายามจะไม่เศร้า


ไอ้เม่น มองหน้าผมแล้วถอนหายใจเฮือก “ดีตายห่าล่ะมึงน่ะ หงอยเป็นลูกหมากำพร้าขนาดนี้”


ผมเลยงับเข้าที่แขนมันเบาๆ แล้วแกล้งทำเสียง “โฮ่ง โฮ่ง”


แล้วน้ำตาผมก็หยดแหมะใส่ต้นแขนของมัน


ไอ้เม่นถอนหายใจอีกเฮือก แล้วโอบไหล่ผมไว้


“เออ กูยอมแล้ว มึงร้องออกมาเหอะ ร้องออกมาให้หมด ไม่ต้องเก็บ”


ผมชักเกลียดตัวเองตอนร้องไห้แล้ว เกลียดมาก มันหยุดร้องไม่ได้เลย


หกกระป๋อง
ผมพยายามจะกินมันให้มากกว่านี้ แต่พัฒน์ไม่เคยยอมให้ผมแตะเหล้าเบียร์บ่อยนัก ตอนนี้ผมเลย เมาฉิบหายเลย ง่วง อยากงอแง และพรั่งพรูทั้งหมดให้ไอ้เม่นฟัง

ผมรู้ตัวนะ แต่มันไม่ยั้งคิดอะไรเลย มือควานหาโทรศัพท์ที่ผมพกมันตลอดแต่เปิดไว้แต่ flight mode  ขึ้นมาเปิดสัญญาณ แล้วถ่ายรูปตัวเองที่ตาบวมช้ำ น้ำตาไหลพราก อัพลงไอจี โดยไม่มีแคบชั่น

ผมทำไปทำไม

ผมอยากให้พัฒน์เห็นว่า ผมเจ็บ ผมเจ็บมาก ผมอยากให้เขารู้สึกผิด บ้าง สักนิด ก็ยังดี

ไม่กี่นาทีหลังจากนั้น

พัฒน์ก็โทรเข้ามา

ผมตัดสายทิ้ง

เขาโทรเข้ามาอีก

ผมกดตัดสายอีก

ผมยิ้มหยันกับหน้าจอโทรศัพท์ ผมสะใจที่ได้เห็นเขากระวนกระวายบ้าง ไหนๆ ผมก็กำลังจะปล่อยเขาไปมีความสุขกับใครอีกคนแล้วนี่

ขอให้ผมได้รู้สึกเป็นผู้ชนะบ้าง ก่อนจะยอมเป็นคนแพ้แล้วเดินจากไป
จากกันตลอดไป...

เสียงไลน์จากพัฒน์ดังไม่หยุด หลังจากที่ผมตัดสายเขาทิ้งเป็นสิบๆครั้ง
ผมไม่อ่าน ไม่อยากรู้เหตุผลอะไรจากเขาอีก จะมาแก้ตัวอะไร

หรือจริงๆแล้ว...ผมกลัวว่าตัวเองจะใจอ่อน...ต่างหาก

พี่จักรโทรเข้ามา

ผมตัดสินใจรับโทรศัพท์


“ครับ” เสียงผมแย่มาก


“ไม่ดีขึ้นเลยเหรอ” พี่จักรทักมาตามสาย  พัฒน์ยังพยายามโทรเป็นสายซ้อนเข้ามาตลอด


“ดีขึ้นนิดหน่อยแล้วครับ” ผมโกหกพี่เขา และโกหกตัวเองไปด้วย


“พี่ขอชกหน้าเค้าสักหมัดได้ไหม” พี่จักรพูดอะไรแปลกๆ แสดงว่าพัฒน์คงไปก่อกวนพี่เขา


“ฮะฮะ ผมฝากด้วยอีกสักหมัดละกันครับ”  ผมสนับสนุน แต่ในใจคิดต่อไปว่า ((แต่เบาๆหน่อยนะครับพี่))


“ถ้าดีขึ้นเมื่อไหร่ก็กลับมานะ หนีตลอดไปไม่ได้หรอก” พี่จักรสอน


“ครับ ยังไม่อยากตกงานเหมือนกัน” ผมพยายามพูดติดตลก


“พี่รออยู่นะครับ”  พี่จักรพูดสั้น แต่กินความหมายกว้างเหลือเกิน


“แล้วจะซื้อของไปฝากนะครับ” ผมแกล้งไม่เข้าใจ แล้วกล่าวลา


ผมยังพยายามกินเบียร์เข้าไปอีกสามกระป๋อง คราวนี้เมาเต็มที่

เมาขนาดนี้แล้ว ทำไมความเจ็บมันไม่ลดลงไปเลยนะ

มีคนอุ้มผมขึ้น ผมซุกหน้าลงกับอกของเขา


((พัฒน์ใช่ไหม ใช่ไหมนะ พัฒน์กลับมารักโอ๊ตแล้ว ดีจัง เรื่องที่เกิดขึ้น พัฒน์แค่แกล้งโอ๊ตเล่นใช่ไหม แบบที่ชอบแกล้งให้โอ๊ตกระวนกระวาย ให้โอ๊ตงอน เล่นๆเท่านั้นใช่ไหม))


((เตียงนุ่มจัง)) 


((พัฒน์ครับ ไม่เอา ไม่ไปไหนนะ)) ผมเหนี่ยวคอเขาไว้ เมื่อเขาจะผละออก เขาถอนหายใจ ผมได้ยิน แต่ลืมตาไม่ขึ้นเลย แต่กอดคอเขาเอาไว้แน่น ส่ายหน้าไปมา


“อย่าไป โอ๊ตเหงา โอ๊ตเจ็บ เจ็บมากเลย ฮืออออออ”   


มีรอยจูบแผ่วเบาที่หน้าผากของผม  นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมจำได้


--To be continued --

 :pig4:

ที่มันเป็นตอน เกือบพิเศษ ก็เพราะว่า มันยังไม่จบนะคะ และจริงๆ มันก็ไม่ได้ดีกว่า ธรรมดา จนสามารถเรียกได้ว่า พิเศษ น่ะค่ะ

ตอนนี้โอ๊ตพูดคำว่า เจ็บไปกี่ครั้งแล้วนะ
และหนีพี่จักรมาเจอเพื่อนเก่าในขณะที่เรื่องพัฒน์ก็ยังไม่เคลียร์ ตอนแรกเราก็ไม่ได้ตั้งใจให้ โอ๊ต มีแรงดึงดูดขนาดนี้เลย
อยากเขียนให้เห็นถึง คำว่า “ความสัมพันธ์” เท่านั้นเอง มันซับซ้อนเนอะ และบางทีเราก็ควบคุมอะไรไม่ได้เลย เหมือนกับโอ๊ตในตอนนี้
ขอบคุณนะกั๊บ
@ t o n s w i n d

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ใช่เลยรูปแอบถ่ายแบบนั้น
ไม่ได้ถ่ายจากความรู้สึกของเพื่อนร่วมงานแน่ๆ

อยากอ่านอีกอ่ะ มาต่อให้อีกนะคนเขียน

ออฟไลน์ treenature

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0

ตอนพิเศษ

ต่อ

[พัฒน์]

ผมคือพัฒน์ ผู้ชายเลวๆคนหนึ่ง ผมชอบเพื่อนร่วมงาน ทั้งๆที่มีแฟนอยู่แล้ว ผมรู้ตั้งแต่แรกว่า ไอ้สิ่งที่ผมรู้สึกน่ะมันผิด มันไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น ผมควรจัดการกับมัน แต่ทุกครั้งที่เข้าใกล้ เอี๊ยม ผมก็มีความรู้สึกดีๆ ดีมากๆ จนคิดว่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยตัดใจก็แล้วกัน  ผมรู้สึกผิดกับโอ๊ตนะ แต่มันคงไม่มากพอให้ผมหยุด ผมยังรักโอ๊ตอยู่ ผมแน่ใจมาก แต่ความรู้สึกอื่นมันจืดและเฉยชาไปหมด

ทำไมผมจะไม่รู้ว่า โอ๊ตน้อยใจที่ผมไม่ค่อยมีเวลาให้ ผมรู้ แต่ผมกลับเลือกจะมองข้ามไปเพื่อไม่ให้ตัวเองรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ ผมยังสังเกตเห็นเขาอยู่ ในทุกๆอย่างที่เขาทำ ทุกสีหน้าที่เขารู้สึก แต่มันเหมือนไม่มีใจจะเดินเข้าไปโอบกอดแบบที่เคยเป็นมา

พัฒน์ขอโทษนะโอ๊ต ขอโทษจริงๆ พัฒน์จะรีบตัดใจจากเขา พัฒน์จะไม่ทำให้โอ๊ตรู้สึกแย่ไปกว่านี้

คืนวันก่อนที่โอ๊ตจะหายไป ผมไม่อยากกลับเข้าห้อง ผมรู้ว่า โอ๊ตรอ และผมกำลังหนีความรู้สึกผิด ที่ทำให้โอ๊ตเจ็บแบบนั้น เขารอผมอยู่จริงๆ ไข่เจียวในตู้เย็นนั่น ทำเอาผมจุก เขาคงจะทำไว้ให้ผม แต่ผมกลับไปกินข้าวกับคนอื่น หัวเราะกับคนอื่น

โทรศัพท์ผมดังขึ้น ผมจำริงโทนนี้ได้ว่าตั้งไว้สำหรับเบอร์ของใคร ผมรีบวิ่งเข้าไปรับ หวังว่า โอ๊ตคงยังไม่รู้นะ คงยังไม่สงสัย


“ฮัลโหล ว่าไง” ผมกรอกเสียงลงไป ใจผมเต้นกับเจ้าของเสียงอีกฝั่ง ช่วงเวลาที่คุยโทรศัพท์กับเอี๊ยม ผมลืมความตั้งใจแรกไปเลย


ความตั้งใจที่จะตัดใจเสียที


ผมเป็นคนเฮฮา เข้ากับคนง่าย มีมุกตลก ขำๆ ตลอด แต่ไม่ชอบเล่าเรื่องของตัวเอง เพื่อนที่ทำงานส่วนใหญ่ถ้าไม่ใช่ที่อยู่กันมานาน จะไม่รู้ว่า โอ๊ตเป็นแฟนผม

และเอี๊ยมก็เพิ่งเข้ามาทำงานได้สักครึ่งปีมานี่เอง

เมื่อผมวางสายและอาบน้ำ ขึ้นมานั่งเล่นมือถือบนเตียง กำลังนั่งจัดการกับริงโทนของสายต่างๆ และคิดว่า จะเปลี่ยนริงโทนของเอี๊ยมให้เหมือนสายเรียกเข้าจากคนอื่นๆสักที แล้วก็จะเปลี่ยนริงโทนของโอ๊ต เป็นเพลงที่พิเศษกว่านี้หน่อย โอ๊ตเป็นคนเดียวที่ควรมีริงโทนพิเศษในมือถือของผม เพลงอะไรดีนะ...


“พัฒน์ ใส่ต่างหูให้หน่อย” โอ๊ตตาบวมไปหมด ผมตกใจ นี่เขาเข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำมาใช่ไหม หรือว่าโอ๊ตจะรู้แล้ว


ผมโกรธตัวเอง โกรธมาก ที่ทำให้โอ๊ตร้องไห้


((ไอ้เชี่ยพัฒน์เอ๊ย มึงมันเลว)) เสียงด่าดังในใจผม


“เพิ่งจะมาบอกให้ทำอะไรตอนคนกำลังจะนอน” ผมคงหงุดหงิดมากไป ผมไม่ได้ตั้งใจจะพูดอย่างนั้นเลย แต่ก็พูดออกไปแล้ว


“อืม ไม่เป็นไร งั้น”  โอ๊ตพูด เขาน้อยใจแน่ๆ แต่พยายามซ่อนเอาไว้ แต่เขาไม่เคยซ่อนมันสำเร็จ ผมยังเห็นทุกความเป็นไปจากท่าทางเขาอยู่ตลอด


“โอ๊ต ไม่เอาน่า เรื่องแค่นี้เอง” ผมพยามปลอบ แต่ดูเหมือนคำปลอบของผมกลับทำให้โอ๊ตรู้สึกแย่ลง


โอ๊ตยืนยันที่จะไม่ใส่ต่างหูนั่นแล้ว ต่างหูที่ผมซื้อให้
ผมไม่ได้เซ้าซี้อะไร คิดว่าพรุ่งนี้จะใส่ให้เขา คิดว่าพรุ่งนี้อีกแล้ว ผมผลัดวันไปเรื่อยๆ วันนี้ผมเหนื่อยมากขอนอนก่อน


เช้าวันต่อมา เมื่อผมตื่น ผมเห็นว่าแพขนตาของโอ๊ตยังชื้นอยู่ จมูกแดง และคราบน้ำตาเปียกๆยังอยู่บนหมอน


ใจผมกระตุก


นี่โอ๊ตคงร้องไห้หนักมาก จนเกือบเช้า ถึงยังเหลือรอยให้เห็นอยู่


ผมโกรธตัวเองมากขึ้น ((ไม่เอาแล้วนะไอ้พัฒน์ หยุดเป็นคนหลายใจเสียที มึงกล้าทำร้ายโอ๊ตได้ขนาดนี้เลยหรือวะ มึงทำให้เขาเสียใจขนาดนี้ได้ยังไง))


ผมด่าตัวเอง แล้วเดินไปหยิบต่างหูข้างนั้น กลับมาใส่ให้โอ๊ต อย่างเบามือที่สุด ขณะกำลังแทงก้านต่างหูผ่านเข้าไป โอ๊ตขยับตัวยุกยิก แต่ยังไม่รู้สึกตัว ผมยกมือพร้อมต่างหูออก จูบเบาๆที่หูข้างซ้าย แล้วกระซิบว่า


“อย่าดิ้นนะคนดี จะใส่ต่างหูให้นะ”
 

โอ๊ตยิ้มทั้งๆที่หลับอยู่

ความรู้สึกผิดเกาะกุมผมมากขึ้น โอ๊ตเป็นคนอ่อนไหวมาก ผมลืมข้อนี้ไปได้ยังไง แค่นิดหน่อยโอ๊ตก็คงเจ็บมากแล้ว นี่ผมกำลังจะทำร้ายคนที่ผมรักคนนี้อย่างนั้นหรือ
ไม่แล้ว


((จะไม่ทำอีกแล้วนะครับ))


ผมจูบเบาๆที่ต่างหูนั้นอีกครั้ง รูด้านหลังหูของโอ๊ตไม่ได้ตันหรอก แต่ต้องค่อยๆใส่อย่างใจเย็นเพราะมันจะหายากอยู่สักหน่อย ที่ผมรู้เพราะผมเป็นคนใส่ต่างหูให้เขาตลอด


“เย็นนี้รอพัฒน์นะครับ พัฒน์จะกลับมากินข้าวด้วย”


ผมบอกโอ๊ตทั้งๆที่เขายังหลับอยู่ ผมวางใจว่าโอ๊ตจะไม่ไปไหน เขาไม่กลับบ้านค่ำ ดังนั้นถึงไม่บอกเขาไว้ ยังไงผมก็ต้องกลับมาเจอเขาอยู่แล้ว....


ผมคิดผิด ผมเข้าข้างตัวเองมากเกินไป ที่คิดว่า โอ๊ตจะไม่มีวันไปจากผม


วันนั้นทั้งวันผมทำงานด้วยความกังวลใจ เพราะผมลืมโทรศัพท์ไว้ที่บ้าน ผมกลัวว่า โอ๊ตจะเห็นก่อน มันมีอะไรบางอย่างในนั้นที่ผมยังไม่ได้ลบทิ้ง ผมพยายามจบงานของวันนี้ให้เร็วที่สุด หวังว่าจะได้กลับบ้านได้ก่อนที่โอ๊ตจะกลับ


แต่เบื้องบนคงแกล้งผม


“พัฒน์ เดี๋ยว เจ้านายให้ออกไซต์งานนะ หน้างานมีปัญหา” เอี๊ยมเดินเข้ามาบอก


เอี๊ยมผู้ชายตัวเล็ก ผิวขาวจัด และเป็นคนนิสัยคล้ายๆผม ร่าเริง เฮฮา แต่ทำงานเก่ง โดยรวมๆแล้ว ไม่ว่าใครอยู่ใกล้ก็คงผลัดตกลงไปในหลุมเสน่ห์ของเอี๊ยมได้ไม่ยาก


“.............” ผมยังอึ้งกับคำสั่งของนายอยู่ มันผิดแผนที่ผมตั้งใจไว้ ผมอยากกลับบ้านเร็วๆ


กว่าจะแก้ปัญหาที่หน้าไซต์งานเสร็จก็สามทุ่มกว่าแล้ว


“วันนี้กินข้าวไหนดี” เอี๊ยมเดินเข้ามาถาม สีหน้าร่าเริง “เบื่อหมูกระทะแล้วนะ พัฒน์ไม่ต้องพาไปกินแล้ว” เอี๊ยมยังหันมาแซวขำๆ


“วันนี้ คงไม่ได้ไปกินด้วยนะ” ผมตอบ


“อ้าว ไมอ่ะ” เอี๊ยมดูแปลกใจและผิดหวัง


ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะพูดว่า “จะกลับไปง้อแฟน”


เอี๊ยมหน้าซีดเผือด


“ขอโทษนะ....พัฒน์จะไม่ทำให้เขานอนร้องไห้เพราะความหลายใจของพัฒน์อีก...”


ผมพูดได้แค่นั้น ไม่รู้จะพูดอะไรต่อ เรื่องระหว่างผมกับเอี๊ยม มันก็ยังไม่ได้ชัดเจน จนผมสามารถพูดได้ว่า เราเป็นแฟนกัน แต่เราต่างรู้สึกดีต่อกัน และทั้งหมดมันผิดที่ผม ที่ปล่อยให้เอี๊ยมรู้สึกกับผมแบบนี้ ผมไม่เคยบอกเขาว่าผมมีแฟนอยู่แล้ว


“ทำไมเพิ่งมาบอก” โอ๊ตพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน


ผมเงียบเพราะไม่รู้จะตอบอย่างไร


“แต่บอกตอนนี้ก็ยังดี...” เอี๊ยมยิ้ม มันเป็นยิ้มแห่งความเจ็บปวด “ยังทัน ยังทัน” 


เอี๊ยมหันหลังแล้วเดินจากไป


ผมจะไม่ตามเขาไป ผมสั่งตัวเองอย่างนั้น เป็นแบบนี้น่ะดีแล้ว

ผมกลับเข้าคอนโดอย่างเนือยๆ ผมรู้สึกว่าตัวเองแย่มากๆ ที่ทำให้คนที่ดีๆเสียใจถึงสองคน  แต่อย่างน้อย มันอาจจะยังเป็นแบบที่ เอี๊ยมพูด...ยังทัน....ยังทันอยู่ใช่ไหม


ไม่....มันไม่ทันแล้วต่างหาก


มีของสดเต็มตู้เย็น ของใช้พวกแชมพู สบู่ และอื่นๆอีกมากมาย โทรศัพท์ผมวางอยู่บนโต๊ะในครัว แต่โอ๊ตไม่อยู่ในห้อง
ผมเข้าใจในเวลานี้เองว่า อาการ ใจหายวาบ เป็นยังไง
ผมพยายามปลอบตัวเองว่า โอ๊ตคงแค่ลงไปข้างล่าง
ผมปลดล็อคโทรศัพท์ ทำไมมือสั่นวะ

หน้าจอ ขึ้นเตือนว่า มีไลน์จากโอ๊ต ผมเข้าไปดู

อกซ้ายของผมเหมือนจะหยุดเต้น

ภาพของโอ๊ตที่ยิ้มทั้งน้ำตา และข้อความที่ทิ้งไว้

โอ๊ตรู้แล้ว โอ๊ตรู้แล้ว แย่แล้ว 

ผมต่อโทรศัพท์อย่างบ้าคลั่ง ทั้งๆที่ไม่มีสัญญาณตอบรับตั้งแต่ครั้งแรกที่โทร แต่ผมก็พยายามโทรอยู่อย่างนั้น
คืนนั้นทั้งคืน ผมเที่ยวตามหาโอ๊ตในที่ต่างๆที่นึกออก

มันทุรนทุรายไปหมด ตอนนี้ผมรู้ซึ้งแล้ว ว่าโอ๊ตสำคัญกับผมมากแค่ไหน

ผมกลัว กลัวมาก ว่าจะไม่ได้เจอโอ๊ตอีกแล้ว นาทีนี้ผมยอมแลกทุกอย่างเพื่อให้ได้โอ๊ตกลับมา อะไรก็ได้ ได้โปรด
ผมไปตามโอ๊ตทั้งที่ทำงาน ซึ่งทั้งอาคารเรียนปิดไฟมืดหมดแล้ว ผมไม่มีเบอร์เพื่อนร่วมงานคนอื่นของโอ๊ตเลย ผมตัดสินใจไปหาที่บ้านทั้งที่รู้ตัวอยู่แล้วว่า จะโดนโกรธมากแค่ไหน ทั้งป๊าและแม่ไม่มีใครรู้เรื่อง เมื่อแม่ถามผมว่าทะเลาะกันเรื่องอะไร ผมจึงยอมเล่าทุกอย่าง ยอมเล่าความเห็นแก่ตัวของผม 
ป๊านิ่ง แต่แผ่ความรู้สึกโกรธออกมาจนรู้สึกได้ แต่เพราะท่านเป็นผู้ใหญ่ที่อาบน้ำร้อนมาก่อน จึงไม่ได้หุนหันอะไร


“กูให้โอกาสมึงแก้ตัวอีกครั้งเดียว ไปตามลูกกูกลับมาให้ได้ ถ้าลูกกูต้องเสียใจเพราะมึงอีก เอามันกลับมาคืน”


ป๊าพูดแค่นั้น แล้วต่อสายหาเพื่อนสนิทที่ทำงานสายการข่าวให้ช่วยตามหาโอ๊ตให้


“ผมขอรอโอ๊ตที่นี่ได้ไหมครับแม่” ผมหันไปพูดกับแม่


แม่ส่ายหน้า


“โอ๊ตจะไม่กลับมาที่นี่หรอก พัฒน์ไม่รู้หรือ เขาจะไม่กลับมาร้องไห้ที่บ้าน ให้ป๊าโกรธพัฒน์หรอก” แม่พูดเสียงเศร้า


ราวกับมีเข็มทิ่มอยู่ที่หัวใจผม


ผมมันแย่ มันแย่ ที่ปล่อยให้คนที่รักผมมากขนาดนี้ ต้องมาเสียใจเพราะผม

ผมกลับมาที่ห้อง ห้องที่ไม่มีโอ๊ตอยู่ มันเหงามาก
โอ๊ตก็คงรู้สึกแบบนี้สินะ ตอนที่ต้องอยู่ในห้องคนเดียว กินข้าวคนเดียว
ผมนั่งเงียบๆ ย้อนเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นมา เหมือนผมกำลังนั่งมอง พัฒน์อีกคนหนึ่ง ตอนนี้ผมเห็นแล้วว่า สิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไปมันแย่ มันเห็นแก่ความสุขของตนเองมากแค่ไหน มันทำร้ายโอ๊ตยังไง


((พัฒน์จะไม่ทำอย่างนี้อีก ขอโทษนะโอ๊ต กลับมาเถอะ))


ผมนอนไม่หลับ นั่งรอให้เช้า เพื่อจะไปถามหาโอ๊ตที่ทำงาน


ผมนั่งรอที่หน้าห้องพักอาจารย์อยู่สองชั่วโมง มันไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่นั่งรอเท่านั้น
แล้วคนที่ผมรอ ก็มาเสียที

อาจารย์จักร คือเพื่อนร่วมงานคนเดียวที่ผมตั้งใจมาหา ผมเขม่นเขาอยู่นานแล้ว ผมรู้ว่าเขาแอบชอบโอ๊ตของผม มันเหมือนมีเซนส์ ของคนที่คิดแบบเดียวกัน คนที่ชอบโอ๊ต และผมคิดว่าเขาอาจยื่นมือเข้ามาในจังหวะแบบนี้


“มาแล้วเหรอ” นี่คือคำทักจากอาจารย์จักรที่ทำให้ผมมีความหวังขึ้นมา


“คุณพาโอ๊ตไปไว้ไหน” ผมรู้ตัวว่าผมพาล แต่การที่เขาเหมือนจะรู้เรื่องโอ๊ตแต่ผมไม่รู้มันทำให้ผมหงุดหงิด


เขาเลิกคิ้วสูง  “มันจะดีมาก ถ้าโอ๊ตยอมมากับผม นั่นหมายถึงผมมีสิทธิ์”


“คุณไม่มีสิทธิ์” ผมสวนกลับแทบจะทันที ผมหึง โอ๊ตเป็นของผมเท่านั้น


“ก็รู้จักรักษาสิทธิ์ของตัวเองด้วยสิครับ สิ่งที่คุณทำมันทำให้โอ๊ตแย่มาก และตอนนี้คุณแน่ใจหรือว่า คุณยังมีสิทธิ์อยู่”


ผมอึ้ง ผมเถียงไม่ออก


“ขอร้อง ช่วยบอกผมเถอะ โอ๊ตอยู่ที่ไหน”  ผมยอมทิ้งศักด์ศรี ผมบอกแล้ว ว่าผมยอมแลกแล้วทุกอย่างเพื่อให้ได้โอ๊ตคืนมา


“คุณจะทำแบบเดิมหรือเปล่า คุณจะทำให้โอ๊ตเสียใจแบบนี้อีกไหม”  อาจารย์จักรพูดเหมือนรู้เรื่องดีทุกอย่าง ทำไมล่ะ


“คุณจะรู้อะไร ปล่อยให้ผมสองคนได้เคลียร์กันเองไม่ดีกว่าหรือ ” ผมถาม


“ผมว่า คุณอาจไม่เคยเห็นภาพของโอ๊ตที่ร้องไห้ราวกับจะขาดใจเพราะการกระทำของคุณอยู่เป็นชั่วโมงๆหรอกมั้ง แต่ผมเห็นมาแล้ว”


ใช่ ผมไม่เคยเห็น แต่พอนึกภาพออก และรู้สึกเกลียดตัวเองมากขึ้น


“ผมจะไม่ทำอย่างนั้นอีก ตอนนี้ผมรู้แล้วว่า โอ๊ตคือคนเดียวที่ผมขาดไม่ได้” ผมถือว่านี่เป็นการปฏิญาณต่อตัวเองไปด้วย


อาจารย์หนุ่มถอนหายใจยาว “เขาให้ผมส่งแค่สนามบิน ไม่ยอมบอกว่าจะไปไหน คุณคงพอรู้ว่า บางทีเขาก็ใจแข็งมาก”


คำตอบจากอาจารย์จักรแทบไม่ช่วยอะไรเลย รู้เพิ่มแค่ว่า โอ๊ตไม่ได้อยู่ในกรุงเทพแน่นอน และต้องรออีกเก้าวันกว่าโอ๊ตจะกลับมา


“เดี๋ยว” อาจารย์จักรเรียกก่อนผมจะหันหลังกลับ   “ตอนนี้ ผมลงสนามแล้วนะ”


“คุณไม่มีทางชนะหรอก” ผมบอก 


“ผมอาจจะชนะคุณก็ได้ อาจดูแลโอ๊ตได้ดีกว่าคุณก็ได้”


ผมหันไปหาเขา “ผมหมายถึงคุณไม่มีทางชนะใจโอ๊ตหรอก หัวใจโอ๊ตเป็นของผม และผมจะทำทุกทางให้มันอยู่กับผมตลอดไป”




สามวันมาแล้ว โอ๊ตยังไม่กลับและไม่ยอมเปิดมือถือ ผมยังต้องไปทำงาน บรรยากาศการทำงานระหว่างผมกับเอี๊ยมแย่มาก จนเพื่อนร่วมงานคนอื่นยังรู้สึกได้ ซึ่งผมก็น้อมรับมัน ตอนนี้เหมือนผมกำลังรับโทษจากการกระทำของตัวเองอยู่ เอี๊ยมดูเฮิร์ทมาก ซึ่งผมเสียใจที่เขาเป็นเช่นนั้น แต่ผมจะไม่ก้าวเข้าไปใกล้เพื่อทำให้เกิดความรู้สึกที่เกินเลยอีก

ผมเฝ้าวนเวียนตามหาโอ๊ตจากทุกทาง ทุกเย็นผมจะไปนั่งที่หน้าห้องทำงานของโอ๊ต และปะทะคารมเล็กๆน้อยๆกับอาจารย์จักร ซึ่งตอนหลังก็รับปากว่าถ้าติดต่อโอ๊ตได้จะรีบบอกผม เขาบอกว่า ถึงแม้เขาจะชอบโอ๊ตแต่เขาก็แฟร์พอ ตราบใดที่โอ๊ตยังไม่เลิกกับผม เขาจะอยู่ในที่ของเขา

ผมเข้าไปดูในหน้าทามไลน์เฟซบุ๊ค ทวิตเต้อร์ และไอจี ของโอ๊ต ไล่ดูว่ามีเพื่อนคนไหนที่พอจะรู้บ้างว่า โอ๊ตอยู่ตรงไหน หวังอยู่ตลอดว่า เพื่อนของโอ๊ตคนใดคนหนึ่งจะอัพรูปโอ๊ตในที่ใดที่หนึ่งให้ผมเห็น


ในคืนวันนั้น โอ๊ตอัพไอจี ผมทั้งดีใจและเสียใจ ที่ดีใจเพราะอย่างน้อยผมก็เห็นหน้าเขาแล้ว และที่เสียใจก็เพราะ เขาร้องไห้ ผมเหมือนถูกความรู้สึกผิดบีบอยู่ทุกด้าน มันอึดอัด มันทุกข์  ผมรีบโทรหาเขา


ยี่สิบสามสาย ที่เขาตัดทิ้งทั้งหมด

ผมจึงเปลี่ยนไปส่งไลน์  เขาไม่อ่าน ผมจึงโทรเข้าไปอีก


((ใจแข็งเกินไปแล้วนะโอ๊ต ขอร้องล่ะ รับสายพัฒน์เถอะนะ))  ผมภาวนาอยู่คนเดียว


ตลอดทั้งคืน ผมเฝ้าดูรูปในไอจีรูปนั้น  โอ๊ตปิดโลเคชั่นไว้ ผมจึงไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ผมเซฟรูปนี้แล้วฉายขึ้นจอทีวีขนาดใหญ่ ข้างหลังเป็นชายหาด ต้องเป็นทะเลที่ไหนสักที่ เหมือนจะมองเห็นป้ายชื่อรีสอร์ทอยู่ไกลลิบๆ มันไม่ชัดเลย เบลอมาก แต่อย่างน้อยผมก็พยายามจำสี และโลโก้ที่เบลอๆนั่นไว้

ผมขยี้ตาตัวเอง เพราะแทบไม่ได้นอนเลยตลอดสามวันมานี้ ผมต้องตั้งสติให้ดี จะทุ่มทุกทางเพื่อให้ได้โอ๊ตกลับคืนมา อย่างแรกคือต้องรู้ว่าโอ๊ตอยู่ที่ไหน ผมไล่ดูรูปทุกคนที่โอ๊ตฟอลโล่อยู่ ใช้เวลาอยู่ราวชั่วโมงกว่า


บิงโก!!!! เจอแล้ว ในไอจีของคนที่ชื่อเม่น มีรูปหนึ่งที่เห็นโลโก้รีสอร์ท อยู่ที่.... โอเค.... ขั้นต่อไปคือ โทรจองตั๋วเครื่องบิน และก็โทรลางาน

เที่ยวบินที่เร็วที่สุดคือเช้ามืดพรุ่งนี้ ผมจะไปถึงที่นั่นประมาณสิบโมง หวังว่ามันจะยังไม่สายเกินไป




[โอ๊ต]



ผมปวดหัวมาก เมาค้างสุดๆ แถมลืมตาตื่นขึ้นมา พบว่าผมนอนอยู่บนอกของไอ้เม่น แบบเดียวกับที่ผมชอบนอนให้พัฒน์กล่อมให้หลับ


“ตื่นสักที ไอ้ห่า กูหนัก ลงไปได้แล้ว” ไอ้เม่นโวยวาย


ผมลุกขึ้นนั่งเอามือกุมหัว “กูเมามากป่าววะ”


“จะเหลือเหรอ กอดกูเป็นลิงค่างบ่างชะนีเลยมึง ไม่ยอมให้กูลุกไปไหน ถ้าไม่ติดว่ามึงเป็นเพื่อนกูนะ กูปล้ำมึงไปแล้วเนี่ย”


“เฮ้ย”  ไอ้เม่น ต้องอำผมเล่นแน่ๆ


“ กูพูดจริง มึงโคตรน่ารักเลยว่ะ ไอ้โอ๊ต มาเป็นแฟนกูป่าว ให้กูปลอบขวัญมา” ไอ้เม่นยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผม


“ไม่ ไม่ ไม่ ไอ้เม่น เมื่อคืนกูขอโทษนะเว้ย แต่มึงอย่าจีบกูเลย ยังไงกูก็ยังรักพัฒน์อยู่” ผมเครียดมากที่เผลอทำอะไรให้ไอ้เม่นไขว้เขวไป


“ฮะ ฮะ ฮะ “ ไอ้เม่นกุมท้อง หัวเราะไม่หยุด  “ไอ้โอ๊ตเอ๊ย มึงยังโดนหลอกง่ายอยู่เหมือนเดิมนะ”


ผมนั่งหน้าเหวอเลย “ไอ้เม่น ไอ้เพื่อนบ้า เรื่องแบบนี้เอามาล้อเล่นได้เหรอวะ” ผมไม่ได้โกรธจริงจัง แค่เสียหน้าที่โดนมันหลอกได้ง่ายๆ   “กูไปอาบน้ำดีกว่า”


จังหวะที่ผมหันหลังเพื่อลงจากเตียง


“ความจริงกูกำลังหลอกตัวเองอยู่ต่างหาก ว่ากูไม่ได้ชอบมึง”


เสียงไอ้เม่นเบามาก จนผมไม่แน่ใจว่าได้ยินถูกไหม


ไอ้เม่นโบกมือพัลวัล “ไปอาบน้ำเลยมึง ไม่มีอะไรหรอก”


ผมคงหูแว่วไปเอง
.
.
.
ผมก้าวขาไม่ออกเลย ตอนนี้ผมยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าห้องอาหารเช้าของรีสอร์ท พัฒน์จริงๆด้วย ไม่ใช่ความฝันแบบเมื่อคืน พัฒน์นั่งจ้องหน้าผมอยู่อย่างนั้น ผมไม่รู้จะทำยังไงดี ความรู้สึกมันตีกันวุ่นวายไปหมด


ดีใจมาก ที่เขามาง้อ จะว่าผมใจง่าย ไม่เข็ด ไม่จำ ยังไงก็ได้ แต่ผมดีใจมากจริงๆ ที่เขายังเห็นผมสำคัญ ขนาดบากบั่นตามหาจนเจออย่างนี้  อีกใจหนึ่งก็เจ็บมากเหมือนกัน เพราะเห็นหน้าเขาก็นึกถึงแต่เหตุการณ์ที่ทำให้ผมต้องหนีมาอยู่ที่นี่
พอพัฒน์ลุกจากเก้าอี้ ผมก็ออกวิ่งทันที ผมไม่พร้อมจริงๆ ยังไม่พร้อมจะคุยกับเขา ไม่พร้อมจะบอกเลิกเขา ขอเวลาผมอีกนิดไม่ได้หรือ อย่าเพิ่งตามมา ผมรู้ว่ายังไงคงต้องเลิก ก็เขามีคนใหม่แล้ว และผมคงต้องเป็นคนบอกลา เพื่อให้เรื่องมันจบสวยที่สุด ให้กลายเป็นผมเองที่เดินออกมา ไม่ใช่ถูกเขาทิ้ง
ผมวิ่งจนหอบ และหายใจไม่ทัน เมื่อคืนก็เพิ่งกินเบียร์ไปตั้งเยอะ ร่างกายไม่พร้อมเลย ผมไม่ไหวแล้ว มัน.....


หมับ!


พัฒน์กอดผมไว้จากด้านหลัง ผมพยายามดิ้น ตอนนี้ผมหอบหนักมาก จนต้องหายใจพะงาบๆทางปาก


“ช้าๆ โอ๊ต สูดหายใจเข้าลึกๆ อย่าเพิ่งคิดอะไร หายใจให้ปกติก่อน”


พัฒน์ก้มลงกระซิบข้างหูผม มือทั้งสองข้างยังกอดผมอยู่ โดยมือข้างหนึ่งลูบขึ้นลงที่หน้าอกซ้ายเบาๆอย่างปลอบประโลม


ผมพยายามจะปรับจังหวะหายใจให้เป็นปกติ พอค่อยยังชั่ว ผมก็ดิ้น จะสลัดอ้อมกอดของเขาให้หลุด แต่กลับทำให้พัฒน์กอดผมแน่นขึ้น


“ไม่ปล่อยหรอกนะ จะไม่ยอมปล่อยให้ไปไหนหรอก ไม่เด็ดขาด” พัฒน์เสียงสั่น


เพียงเท่านั้น น้ำหยดโตๆ ก็ไหลจากดวงตาของผม มันหยดเผาะๆลงมาไม่หยุด ความตั้งใจบางอย่างที่มีมันพังทะลายลงไม่เป็นท่า

ผมไม่รู้จะอธิบายความรู้สึกตอนนี้ถูกไหม ใจเต้นแรงเพราะคำพูดของเขา แต่ก็เหมือนมีความเจ็บวิ่งวนจากอกข้างซ้ายไปทั่วทั้งแขนขา แถมความโกรธและเจ็บใจที่เขาไปชอบคนอื่นแล้วทิ้งผมไว้ให้เสียใจก็ตีโต้ขึ้นมา มันยุ่งเหยิงไปหมด จนร่างกายของผมหาทางระบายมันออกผ่านหยดน้ำตา ผมยอมให้มันไหลออกมา ให้มันล้างทุกความรู้สึกออกมา แม้ว่าหลายวันที่ผ่าน ผมจะร้องไห้มาหลายต่อหลายรอบ แต่การร้องไห้ครั้งนี้ ผมรู้ว่ามันกำลังจะนำไปสู่ตอนจบ


“รู้ว่ายังโกรธอยู่ ขอโทษนะ ขอโทษ จะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว อย่าเพิ่งไปได้ไหม ยังไม่ต้องหายโกรธตอนนี้ก็ได้ พัฒน์รักนะ รักมาก ผิดไปแล้ว จะไม่ทำอีกแล้ว”


พัฒน์พูดจาวนไปวนมา ทุกถ้อยคำคือความพยายามที่จะฉุดรั้งผมไว้


ผมอาจจะเป็นคนโง่มากๆ หลายคนอาจโมโหที่ผมไม่รู้จักจำ แต่ว่านะ มันจะมีบางคนในชีวิตของเรา ที่ถึงจะเสียใจเพราะเขามากเท่าไหร่ ก็ตัดใจจากเขาไม่ได้ ถึงจะโกรธมากเท่าไหร่ ก็ทำร้ายเขากลับไม่ลง แม้ว่าจะยังเจ็บยังแค้นอยู่ แต่ก็ยังอยากให้มีเขาอยู่ในชีวิต


พัฒน์กอดผมไว้แน่นและซบหน้าลงกับบ่าของผม หน้าเราใกล้กันมาก ผมจึงพูดเบาๆ


“ถ้ามีครั้งต่อไป....”


พัฒน์ผงกหัวขึ้น มองหน้าผมด้วยสายตาขอบคุณ


“จะไม่มีครั้งต่อไปครับ พัฒน์จะไม่ทำแบบนี้อีก รักของพัฒน์มีให้โอ๊ตเท่านั้น พัฒน์จะไม่ปล่อยให้รักเราจางอีกแล้ว จะหมั่นเติมความหวาน ทำให้เหมือนเราตกหลุมรักกันใหม่ทุกวัน รักนะครับ” 


พัฒน์จูบผม มันเป็นจูบที่อ่อนหวาน มันเป็นจูบที่ช่วยเยียวยารอยแผลในใจ




ผมกับพัฒน์ยังใช้เวลาด้วยกันบนเกาะนี้ จนครบการลางานสิบวันของผม เราใช้ค่ำคืนรื้อฟื้นความสัมพันธ์ ใช้กลางวันเติมคำว่ารักให้มากขึ้น นอนฟังเสียงคลื่น ว่ายน้ำ ยิ้ม และหัวเราะ


“อิจฉาโว้ยยยย พวกมึงรีบๆไปจากเกาะนี้ได้แล้ว แม่ง กูเห็นแล้วอยากมีเมียโว้ยยย”


ไอ้เม่นเดินเข้ามาโหวกเหวก กับพวกผมสองคนที่นอนซบกันอยู่บนเปลยวน


พัฒน์รีบตะครุบผมไว้ในอ้อมกอด แล้วหันไปทำหน้าเป็นเด็กหวงของใส่ไอ้เม่น


“เอ๊อ กูไม่แย่งของมึงหรอกครับ คุณพัฒน์ แค่กูเมา แล้วพลาดบอกกลางวงเหล้าว่า กูแอบชอบไอ้โอ๊ต แค่นี้ มึงไม่ต้องระแวงยังกะกูจะเป็นกิ๊กกับเมียมึงหรอก” เม่นทำท่าหมั่นไส้พัฒน์มาก


ผมก็ไม่รู้ว่า ทำไมสองคนนี้สนิทกันเร็วนัก ขนาดใช้มึง-กู กันได้เพียงแค่นั่งกินเหล้าด้วยกันแค่ครั้งเดียว


ผมยิ้มแล้วจูบพัฒน์ โชว์ไอ้เม่นซะเลย พัฒน์ก็จูบตอบผม จูบของพัฒน์ยังคงแฝงมนต์วิเศษที่ทำให้ผมเบลอไปหมด พัฒน์เป็นฝ่ายถอนจูบ ผมปรือตามองเขา ผมยังอยากได้มนต์วิเศษนี้อีก จนลืมไปเลยว่า....


“คร๊าบ กูถอยแล้วคร๊าบ มึงไม่ต้องมาแกล้งกูแบบนี้เลย คอยดูนะ กูจะติดป้ายประกาศ ไม่ให้พวกมึงสองคนขึ้นมาที่เกาะนี้อีก ไอ้พวกใจร้าย ไอ้คนรักกันไม่แบ่งปันให้คนอื่น”


ไอ้เม่นทำท่างอนใส่พวกผม

ผมเริ่มแน่ใจว่า มันชอบผมจริงๆ แต่ก็ขอบคุณมันที่ไม่ก้าวข้ามเส้นของความควรไม่ควรเข้ามา เพื่อทำให้ความรักของเรายุ่งเหยิง


เช่นเดียวกัน ผมก็อยากขอบคุณ เอี๊ยม ที่เลือกที่จะถอยออกไปในวันที่ยังไม่สายจนเกินตัดใจ


สำหรับพัฒน์แล้ว ครั้งนี้เขาผิด ผมยังจำได้ทุกอย่างแต่ไม่ได้ผูกใจไว้กับเรื่องนี้อีก ความสุขในวันนี้ทำให้ผมลืมไปหมดแล้วว่า ผมเจ็บยังไงบ้าง  ยังเห็นภาพทุกอย่างชัดในความทรงจำแต่ไม่เสียน้ำตาไปกับมันอีกแล้ว


ความรักมันมีอานุภาพจริงๆ


เรื่องครั้งนี้จะทำให้ผมและพัฒน์รต่างเอาใจใส่ในรักมากขึ้น รักแล้วอย่าเห็นว่าเป็นของตาย ถ้าไม่หมั่นเติม มันก็หายไปได้เหมือนกัน
.
.
.
คืนวันสุดท้ายของเราที่เกาะนี้ เมื่อผมเดินออกจากห้องน้ำ พัฒน์ที่นั่งพิงหมอนเล่นมือถืออยู่บนเตียงก็กวักมือเร่งผม


“มานี่มา”


ผมมุดเข้าไประหว่างสองแขนนี่แข็งแรงของเขา ทิ้งน้ำหนักลงบนตัวเขา พัฒน์ถือมือถืออยู่สองเครื่อง เครื่องหนึ่งของผม อีกเครื่องของเขา 


“โทรหาพัฒน์หน่อย” เขายื่นมือถือของผมมาให้


ผมกดโทรออก


ริงโทนดังขึ้น


------อาจจริง ที่ได้เคยให้คำสัญญาอะไรออกไป แต่ว่าฉันก็ทำไม่เคยได้  อาจจริง ที่ได้เคยยืนยันให้เธอแต่ความสุขใจ
แต่สุดท้ายก็ทำเธอร้องไห้  แต่วันนี้ ฉันมั่นใจทุกอย่าง และพร้อมในทุกสิ่ง จะไม่มีวันผิดพลั้งไป อยากให้เธอ จงลืมไปทุกอย่าง
มาเริ่มกันใหม่ ในวินาทีนี้-----



ผมยิ้ม เสียงริงโทนดังอยู่แค่ สามสิบวินาทีก็จริง แต่เนื้อร้องของมันยังดังก้องอยู่ในหูของผมต่อไปจนเกือบจบท่อนฮุก


พัฒน์ขอโทษผม และให้คำสัญญากับผมด้วยริงโทนเพลงนี้


-----ให้บทเพลงนี้ เป็นสัญญาฉบับสุดท้าย  ให้ทุกท่วงทำนองได้เป็นพยานของหัวใจ ให้บทเพลงนี้ เป็นสัญญาที่ไม่เลือนหายไป จะมอบความรักและความห่วงใย และมอบชีวิตให้เธอเก็บไว้ ผู้เดียว-------


--ชีวิตเรามันสั้นนะครับ ถ้ามีโอกาสได้รักใครแล้วไม่ทำร้ายคนอื่น ก็รีบรักเถอะครับ อย่ามัวแต่เจ็บแค้นกันอยู่เลย—

--จบตอนพิเศษ--
@tonswind

ออฟไลน์ May@love

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 827
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +46/-2
เริ่มรักมักหวาน
เมื่อวันผ่านจึงขม

คนถึงว่ารักแท้แพ้ใกล้ชิด

ขอบคุณสำหรับนิยายค่ะ
อ่านแล้วจี๊ดอยากถีบนังพัฒน์

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ความไม่รู้จักพอ ทำลายหลายสิ่งหลายอย่าง

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
ยังดีที่โอ๊ตยังให้อภัย  :pig4:

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43
ถ้าเป็นเรา คงไม่มีทางให้อภัย

ออฟไลน์ BlueCherries

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4060
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-17
อื้มหืมมมม


ยังดีที่ตัวประกอบถอยด้วยดี



ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น้อยคนนะที่จะกลับมารักกันแบบนี้ ชีวิตจริงมันเจ็บปวดกว่านั้นเยอะ

ออฟไลน์ gayraygirl

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3013
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +206/-3
อ่านแล้วนึกถึงอาถรรพ์เลข 7 เลยค่า
พัฒน์ยังถือว่าโชคดีที่โอ๊ตยอมอภัยให้

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Bb nale

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 559
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +9/-0
ดีล้วที่เป็นอย่างนี้ ดีแล้วที่พัฒน์ยอมรับว่านอกใจดีแล้วที่รู้ว่าตัวเองผิด ดีแล้วที่โอ๊ตให้อภัย ดีแล้วที่เอี๊ยมเผลอเมื่อรู้จึงตัดใจ ดีแล้วที่จักรและเม่นแฟร์พอไม่ฉวยโอกาส   ถือเป็นประสบการณ์ของหลายๆคน  :)

ออฟไลน์ monetacaffeine

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 681
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-5
จี๊ดเนอะ .. เข้าใจนะ แต่ละคนมีแนวทางการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไปแหละ
แต่สำหรับเรา เรื่องนอกใจเป็นอะไรที่ซีเรียสสุดๆ คือถ้ามันเกิดขึ้นครั้งนึง เราคงรู้สึกระแวงไปตลอดแน่ๆ
เวลามีใครโทรหาดึกๆดื่นๆ เวลาต้องออกไปประชุมต่างจังหวัด เวลานั่นนี่นู่นก็ต้องคอยเช็ค คอยกังวล คิดมากอยู่คนเดียวแน่นอน
คือมันไม่มีทางวางใจได้อีกเลยอ่ะค่ะถ้ามันโดนแบบนั้นไปทีนึงแล้ว
เพราะงั้นอันนี้เป็นเรื่องเดียวเลยที่เราจะไม่ยอมให้อภัยเด็ดขาด แต่ถ้าเป็นเรื่องอื่นๆเรายอมได้หมดค่ะ 555555555

แต่เข้าใจนะโอ๊ตนะ เข้าใจจริงๆ แค่มาได้ขนาดนี้ก็ถือว่าเก่งมากแล้ว ใจแข็งมากแล้วอ่ะ
ยังมีอีกหลายๆคนที่ยอมปิดหูปิดตาไม่รู้ไม่เห็นเพื่อให้ได้อยู่ที่เดิมด้วยซ้ำ เท่านี้ก็เก่งแล้วค่ะ
หวังว่าพัฒน์จะไม่ทำให้น้องต้องร้องไห้อีกครั้งนะคะ ครั้งนี้เราขอให้ทุกคนไม่ยอมคืนน้องให้จริงๆด้วย -3-

ออฟไลน์ kokoro

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2
ยังดีที่ยังมีโอกาสเนอะ
บทเรียนราคาแพงแบบนี้คงทำให้พัฒน์รู้คุณค่าที่แท้จริงของคนรัก
ถึงแม้จะแอบอินโกรธไปพร้อมกับโอ๊ต แต่พอได้อ่านตอนจบเราก็รู้สึกยินดีกับพัฒน์ด้วยจริงๆ


ออฟไลน์ ΩPRESTOΩ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 352
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-1
การนอกใจไม่ใช่เรื่องที่เราจะให้อภัยและยอมรับได้
แต่ก็เข้าใจและนับถือความคิดและมุมมองของโอ๊ตที่มีต่อความรักนะ

ขอบคุณสำหรับงานเขียนดีๆ

ปล. เป็นเรานะ พัฒน์ศพไม่สวย  :pigha2:

ออฟไลน์ Snowermyhae

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4014
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +97/-7
พัฒน์ยังเจ็บไม่เท่ากับที่โอ้ตโดนเลย  :katai1:

ออฟไลน์ ketekitty

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 778
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-0
โอกาส ไม่ได้มีสำหรับทุกคน.......

ออฟไลน์ sakiko

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3189
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +137/-25
เรื่องนี้ คือครบรส มาก ขอบคุณคนแต่งค่า

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
อ่านกี่ครั้ง น้ำตาก็ไหล :hao5:
อินไปกับโอ๊ต :mew6: :mew2:
จบด้วยดี
แม้อีกใจ อยากให้โอ๊ตตกลงกับเม่น หรือ จักร
ให้เอาคืน พัฒน์คนหลายใจ บ้าง :z6: :z6: :z6:
      :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ aorpp

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1274
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +250/-3
ปวดใจไปกับโอ๊ตมากกกกก
อยากให้โอ๊ตเอาคืนพัฒน์หนักๆ อยากให้พัฒน์เจ็บมากๆนานๆหน่อย
เพราะโอ๊ตเจ็บมานานกับการกระทำของพัฒน์
แต่ชีวิตมันสั้น เลือกทางที่มีความสุขและให้อภัยคนที่เรารัก มันเรียลมาก

ออฟไลน์ Pakeleiei

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 850
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-1
สงสารโอ๊ต ใจอ่อนง่ายจัง
น่าจะงอนพัฒต์ต่อนานๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด