Passion 23 (ต่อ)
“ไทน์เป็นอะไรลูก หน้าตาดูไม่ดีเลย ไม่สบายหรือเปล่า”
มัทนาเอ่ยถามบุตรชายคนเล็กที่นั่งใจลอยเขี่ยข้าวในจานทำท่าเหมือนไม่อยากอาหารคล้ายมีอะไรในใจ
“มีเรื่องไม่สบายใจนิดหน่อยครับแม่” วาเลนไทน์บอกมารดาไปตรงๆ
“ทำหน้าเหมือนคนอกหัก”
โสมเตียรถ์เย้าลูกชายเล่น แต่พอเห็นวาเลนไทน์นิ่งไปก็เลิกคิ้วงุนงง
“จริงหรือลิง สาวที่ไหนเนี่ย”
โสมเตียรถ์อดสงสัยไม่ได้ ตอนมัธยมก็เห็นมีสาวซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ขับไปรับไปส่งอยู่แต่เจ้าตัวบอกเป็นแค่เพื่อนจนวาเลนไทน์เข้าไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯและพักอยู่กับพี่สาว เขาก็ไม่เห็นลูกพาใครมาแนะนำเสียที
“ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมกับเขาไม่ได้ตกลงเป็นอะไรกันเสียหน่อย ผมอิ่มแล้วนะครับ”
วาเลนไทน์ลุกจากโต๊ะยกจานข้าวที่พร่องไปเพียงนิดเดินเข้าครัว ผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนทั้งสองมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ
“ดื่มนมอุ่นๆสักหน่อยนะลูก ไทน์กินข้าวไปนิดเดียวเอง”
มัทนายื่นนมอุ่นให้บุตรชายพร้อมทิ้งตัวลงนั่งข้างๆเจ้าของใบหน้าใสที่นั่งเล่นมองดาวอยู่ที่เก้าอี้สนามในสวนเพียงลำพัง
“ลูกไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน แม่เป็นห่วงนะ” มัทยาลูบผมลูกชาย
“ผมขอโทษครับแม่ ผมแค่ไม่สบายใจนิดหน่อย”
“ลูกเป็นอย่างที่พ่อเขาแซวหรือ” มัทนาเอ่ยถาม ใบหน้าใสนิ่งเงียบก้มหน้ามองพื้น
“เวลาที่เราเพิ่งรู้สึกตัวว่ารู้สึกอะไรกับใครแล้วเขาคนนั้นก็เสียชีวิตจากเราไปโดยที่ไม่ได้พูดอะไรกันเลย มันหน่วงอย่างบอกไม่ถูกครับแม่”
เสียงนุ่มอย่างพยายามบังคับไม่ให้สั่นยามนึกภาพร่างดำไหม้ที่กำลังถูกเจ้าหน้าที่แงะออกจากซากรถในจอโทรทัศน์ มันช่างแตกต่างจากตอนที่เจ้าของดวงตาสีเข้มคนนั้นจ้องตากันราวจะสะกดให้คล้อยตามก่อนที่เขาจะมอบจูบหวานล้ำให้
วาเลนไทน์รู้สึกหน่วงตอนที่เห็นเขากับคนรักเก่ายืนกอดกันในวันที่พริมรตากลับมา ร่างโปร่งบอกตัวเองว่าตัวจริงเขากลับมาแล้ว อย่างไรเสียผู้หญิงก็คงเป็นที่ต้องการมากกว่า สัมผัสรักจากพริมรตาคงให้ความรู้สึกที่ดีกว่าร่างกายแข็งๆของผู้ชายด้วยกัน แต่พอรู้ว่าพริมรตากลับมาเพื่อทำร้ายเขาความห่วงใยก็โถมทวีมากขึ้นไม่รู้ตัว ผู้หญิงที่ทำให้ภีมพริษฐ์แทบบ้าจนลากวาเลนไทน์เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยกลับคิดร้ายต่อเขามาตลอด ความห่วงใยของวาเลนไทน์ก็มีมากกว่าความโกรธ วาเลนไทน์ไม่รู้อะไรมากไปกว่าที่ชารอฟบอก ภีมพริษฐ์ไม่ติดต่อทำเหมือนไม่เคยรู้จักกันและเปิดทางให้พริมรตาก้าวเข้าไปยืนเคียงข้าง
เขา...กันวาเลนไทน์ออกจากวงโคจรอันตรายในทุกทาง
อันตรายที่ฉุดเขาดำดิ่งลงสู่การวางแผนสังหารและคร่าชีวิตเขาในที่สุด
“เขาทำผิดต่อผมและยังไม่มาขอโทษด้วยซ้ำ”
เสียงนุ่มสั่นเครือกว่าเก่า วันนี้ทั้งวันวาเลนไทน์นั่งตามข่าวของเขาจากสื่อทางอินเทอร์เน็ตต่างประเทศ ข่าวหุ้นของบริษัทในเครือที่ร่วงฮวบฮาบเพราะการบริหารงานหยุดชะงักจากข่าวประธานบริษัทถูกลอบวางระเบิด อีกทั้งชารอฟที่ถูกเรียกไปสอบปากคำเพราะเจอหลักฐานโยงไปถึงการชักใยอยู่เบื้องหลังอย่างที่เจ้าตัวเคยบอกไว้ และพลอยรัมภาที่งดให้สัมภาษณ์ในทุกกรณี
ริมฝีปากสีเรื่อเม้มแน่นด้วยความเสียใจ สัมผัสที่เคยได้รับมันวูบโหวงจนใจหายเมื่อนึกได้ว่าไม่มีเขาคนนั้นอีกต่อไป เหมือนคนที่นอนฝันดีแล้วตื่นมาพบว่าทุกอย่างเป็นเพียงฝัน แต่ถ้ามันเป็นแค่ความฝันวาเลนไทน์ก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ไม่ใช่หรือ
“ไม่มีใครรู้อนาคตหรอกลูก เขาถึงบอกว่าให้ทำปัจจุบันให้ดีไงคะ”
มัทนาประโลมลูกชาย ผู้เป็นมารดาไม่ได้เอ่ยอะไรมากกว่านั้นนอกจากปล่อยให้วาเลนไทน์ได้อยู่เงียบๆ ดวงตาเหม่อลอยเงยขึ้นมองฟ้า ค่ำคืนนี้ไม่มีพระจันทร์ยิ้มแล้ว เหมือนรอยยิ้มของวาเลนไทน์ก็หายไปกับคนๆนั้นเหมือนกัน
สองเดือนต่อมา
“เชี่ยไทน์ กูคิดถึงมึงงงงงงงงง”
เสียงร้องโหวกเหวกดังลั่นตามมาด้วยเสียงวิ่งตุบตับพร้อมร่างที่กระโดดเข้าหา แน่นอนว่าวาเลนไทน์ไหวตัวหลบได้ทันยังผลให้ร่างนั้นพลาดเป้าร่วงลงสนามหญ้าหน้าคณะแทน เรียกเสียงหัวเราะครืนจากเพื่อนในกลุ่มและคนในบริเวณใกล้เคียง
“ไอ้เชี่ยไทน์ มึงหลบทำไมเนี่ย หน้ากูจูบหญ้าเลยเห็นไหม”
ร่างสูงลุกขึ้นปัดเศษหญ้าอย่างไม่สบอารมณ์ แอบเห็นว่าน้องน่ารักที่เคยเหล่ไว้หันมาเห็นอีกต่างหาก
“ตัวมึงอย่างควาย กระโดดมาทับกูตายพอดี อ้วนขึ้นนะมึงน่ะ เชี่ยกุน”
วาเลนไทน์สวนกลับคนบ่นกระปอดกระแปด รู้ว่ามันบ่นแก้อายสาวไปอย่างนั้นเอง
“ไม่อ้วนยังไงไหว พี่สาวที่ฝึกงานหิ้วขนมมาฝากทุกวันอ่ะมึง”
หนุ่มคิ้วเข้มหน้าตาเจ้าชู้ตอบพร้อมหันไปยักคิ้วให้สาวๆที่เดินผ่าน
“เที่ยวเพลินเลยอะดิ หนีไปฝึกงานก่อนตั้งแต่ปีสาม กูเห็นนะโว้ย อัพเฟสอัพไอจี ทะเลอย่างแจ่ม น่าเที่ยวว่ะ ที่ไหนวะ”
คำถามฉุกให้ความรู้สึกที่กำลังดีขึ้นจากการเจอเพื่อนๆดิ่งลงอีกครั้ง
“เกาะส่วนตัวคนรู้จักน่ะ พอดีเขาชวนไปเที่ยว”
วาเลนไทน์อ้อมแอ้มตอบ พยายามไม่นึกถึงภาพเหตุการณ์ที่นั่น ร่างโปร่งพยายามชวนคุยเบี่ยงประเด็นไปที่อื่น แม้ความเศร้าจะคลายไปบ้างจากระยะเวลาแต่ความคิดถึงยังคงไม่จืดจางลง
วันหนึ่ง
“พี่ไทน์กินขนมหน่อยนะคะ น้ำหวานไปหน้ามอมาเลยซื้อมาฝาก”
เสียงหวานมาพร้อมขนมจ่อปาก วาเลนไทน์อ้าปากงับเพราะมือกำลังสาละวนกับงาน
...ทำไมเย็นหลังแปลกๆวะ...
“ลาภปากโว้ย!”
เสียงตะโกนพร้อมชายหนุ่มที่หิ้วของพะรุงพะรังเข้ามาในห้องตรงมาวางตรงหน้าวาเลนไทน์
“เชี่ยเบสท์ป๋าเหรอวะ”
วาเลนไทน์เขยิบเข้าหามือหยิบของกินเข้าปาก เคี้ยวหยับๆก่อนจะอ้ารับขนมจากสาวน้อยหน้าใส
“เปล่า พ่อมึงเขาซื้อมาฝากให้มึงอ่ะ พ่อมึงหนุ่มขนาดนั้นเลยหรือวะ หล่อโคตร”
หือ...พ่อ?
วาเลนไทน์หันไปมองทั้งปากยังคาบขนมในมือสาวน้อย
“คุณภีม!” คุณภีมยังไม่ตาย ส่วนใครจะตาย อันนี้ไม่รู้