Passion 21
“อย่าทำหน้าบูดอย่างนั้นสิกวางน้อย หน้าของนายเหมาะกับรอยยิ้มสดใสมากกว่านะ จริงสิช่วงนี้มีพระจันทร์ยิ้ม นายน่าจะยิ้มแข่งกับพระจันทร์นะ”
“คุณมันพวกฉวยโอกาส ปล่อยให้คุณภีมอยู่ใกล้คนที่คิดร้ายแล้วคอยชุบมือเปิบ”
“ถ้าภีมจะตายง่ายตายดายขนาดนั้นก็ปล่อยให้ตายไปเถอะ เคลฟเวอร์ไฮด์ไม่ต้องการคนอ่อนแอ ธุรกิจที่อยู่ในมือนั่นขนมหวานล่อผึ้งนักล่ะ แล้วที่โกรธฉันนี่ คือไม่โกรธภีมแล้วหรือไง”
“โกรธ...แต่ก็ไม่เต็มร้อยหรอกครับ มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดนี่นา ถ้าจะโกรธคงเป็นเพราะคุณภีมไม่ฟังผมเลย แต่ก็อย่างว่าใครจะอยากฟังคำอธิบายที่คล้ายการแก้ตัว เพียงแต่เวลาผมโกรธคงไม่โหดขนาดนั้น”
“ลูกกวางใจเย็นดีนะ”
“คุณภีม...รู้แล้วใช่ไหมครับ แล้วทำไม...”
“ถ้าไม่เอาตัวเข้าล่อเดินตามเกมมันแล้วจะรู้ได้ยังไงว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลัง แบล็คจากัวร์กับโฮเนสต์ฮอร์สประกบติดนายเหนือหัวแจ นายไม่ต้องห่วง”
“แบล็คจากัวร์ โฮเนสต์ฮอร์ส?” วาเลนไทน์ขมวดคิ้วฉับ ที่เห็นอยู่กับคุณภีมตลอดก็มีแค่พี่เกลี้ยงกับพี่อันวาด หรือว่า...
“แล้วคุณพอจะเดาได้ไหมว่า “นาย” ที่ว่านั่นเป็นใคร”
“ถ้าไม่มีภีม ทุกคนต้องพุ่งเป้ามาที่ฉันคนแรก หลานนอกคอกที่ถูกเตะออกจากบ้านแบบไม่ดูดำดูดีเพราะตายกทุกอย่างให้ภีม มันต้องเป็นใครสักคนที่คิดจะกำจัดทั้งภีมและฉัน แม้แต่พิ้งค์ก็ไม่เว้น เพิ่งเจอโทรศัพท์ขู่วางระเบิดสายการบินที่กำลังจะเปิดตัว”
“ยิ่งสูงก็ยิ่งหนาว พวกคุณจะต้องการความยิ่งใหญ่ไปทำไมในเมื่อไม่มีใครรู้เลยว่า จะมีพรุ่งนี้ได้อีกกี่วัน”
“คำตอบง่ายๆ มนุษย์นับถือเงินยังไงล่ะ”
“คุณภีมลองชิมนี่ดูสิคะ พราวเข้าครัวทำเองเลยน้า”
รอยยิ้มหวานหยดประดับบนใบหน้าสวยขณะจิ้มเม็ดสาคูยื่นไปตรงหน้าใบหน้าหล่อเหลา ภีมพริษฐ์อ้าปากรับพร้อมรอยยิ้มขอบคุณ
“อุ๊ย เลอะนิดนึงตรงมุมปาก เดี๋ยวพราวเช็ดให้นะคะ”
เสียงหวานเอาใจพร้อมหยิบทิชชู่ซับคราบเปื้อนมุมปากให้
“คุณพราวทำขนมอร่อยนะครับ”
“อาหารพราวก็ทำได้นะคะ ทั้งไทยทั้งเทศ คุณภีมชอบแบบไหนคะ เดี๋ยวพราวทำมาให้ทาน”
รติมาฉอเลาะขณะจ้องตากับคนกำลังเคี้ยวสาคู
“คนป่วยก็อยากชิมสาคูไส้หมูฝีมือน้องพราวจังค่ะ”
เสียงเหน็บเล็กๆดังขึ้นขณะมองฉากป้อนขนมของคนรักและน้องสาวต่างมารดาตรงโซฟา รติมาหันมาปรายตานิดหนึ่งก่อนจะยกจานขนมมายังเตียงคนป่วย
“ลองชิมสิคะ ผู้หญิงเราสวยอย่างเดียวไม่ได้หรอกค่ะ ต้องรู้จักเข้าครัวทำอาหารให้สามีทานบ้าง”
รติมาหันไปทางภีมพริษฐ์ขณะเอ่ยคำว่า “สามี” อย่างจงใจให้พี่สาวได้ยิน พริมรตาตาลุกวาวพยายามสะกดอารมณ์ตักสาคูเข้าปาก
“แหม รสชาติดีเหมือนซื้อมาจากร้านเสน่ห์จวักของคุณธุเลยนะคะ ถ้าไม่บอกว่าทำเอง พี่คิดว่าซื้อมาจากร้านคุณธุแล้วเปลี่ยนแพ็คเกจใหม่เสียอีก”
พริมรตาใส่โอเวอร์แอคติ้งให้ดูเหมือนประหลาดใจเสียเต็มประดา รมิตาขบริมฝีปากที่ถูกฉีกหน้า
“พอดีว่าพราวไปให้เจ้าของร้านสอนทำแล้วลองทำมาให้คุณภีมชิมน่ะค่ะ” รติมาหันไปยิ้มให้ชายหนุ่ม
“ร้านเสน่ห์จวักอาหารอร่อยมาก วันหลังเราไปทานกันนะคะคุณภีม”
รติมาเอ่ยชวนโต้งๆ ทว่าพริมรตาเองก็ไม่คิดยอมแพ้
“เดี๋ยวพี่ออกจากโรงพยาบาล พี่ก็จะชวนภีมไปอยู่แล้วล่ะ คนเป็นแฟนกันเขาก็ต้องอยากใช้เวลาร่วมกันโดยไม่มีคนอื่นว่าไหม พราวไม่ลองชวนชาร์ลล่ะ ดูเหมือนพวกเธอจะชอบๆกันอยู่ไม่ใช่หรือ”
“โอ เข้าใจผิดไปเยอะมาก พี่พริมอย่าเหวี่ยงสิคะ พราวไม่ได้คิดอะไรกับแฟนเก่าพี่เลยนะ พี่ชาร์ลเขาคิดถึงพี่พริมเลยถามข่าวคราวจากพราวเท่านั้นเองค่ะ ไม่ใช่อย่างที่เข้าใจนะคะคุณภีม ตอนนี้พราวฟรีค่ะ ไม่ได้คบกับใครเลย”
รติมาหันไปแจงหน้าตาเหรอหราตกอกตกใจ พริมรตากำมือแน่นใต้ผ้าห่มคลุมกายด้วยความระอุกรุ่นๆ
“ภีมคะ ถ้าพริมออกจากโรงพยาบาลแล้ว ขอพริมไปพักกับคุณได้ไหมคะ พริมไม่อยากอยู่คนเดียว”
พริมรตาหันไปออดอ้อน
“ชารอฟจะแวะมาพักด้วยน่ะ พริมยังไม่เคยเจอพี่ชายผมคนนี้สินะ หมอนั่นโปรดปรานการล่องเรือสำราญ นี่เรือจะเข้ามาจอดเทียบท่าในไทยผมว่าจะให้คนไปรับพอดี”
ภีมพริษฐ์แสร้งปดพร้อมทำทีเปิดรูปญาติผู้พี่ให้ดู พริมรตาหน้าเผือดสีลงทันทีเมื่อเห็นผู้ชายที่หล่อนเคยแอบเคี้ยวตอนอยู่อเมริกาลับหลังภีมพริษฐ์แลกกับการได้ล่องเรือสำราญสุดหรู ความสนุกสุดเหวี่ยงกับชารอฟในตอนนั้นทำให้หล่อนแทบจะล้มแผนการเรื่องภีมพริษฐ์ เพราะชารอฟเป็นอะไรที่สุด เข้าใจความต้องการของผู้หญิงและตอบสนองได้อย่างเยี่ยมยอด
“งั้นไม่เป็นไรหรอกค่ะ พริมกลับไปพักที่ห้องดีกว่า เดี๋ยวรอหมอมาตรวจอีกที วันนี้ก็น่าจะได้กลับบ้านแล้ว”
“ผมว่าคุณกับชารอฟน่าจะได้เจอกัน”
“พริมอยากพักสภาพจิตใจเงียบๆค่ะภีม”
“งั้นขอพราวไปเที่ยวห้องคุณภีมได้ไหมคะ พราวอยากรู้จักคุณชารอฟด้วยเผื่อมีโอกาสไปล่องเรือสำราญราคาพิเศษอย่างพี่พริมไงคะ”
“ล่องเรือสำราญ?” ภีมพริษฐ์เลิกคิ้วฉงน
“พริมเคยไปนานแล้วค่ะ ระยะเวลาสั้นๆไม่กี่วัน พอดีเพื่อนชวนไป”
พริมรตากลบเกลื่อนที่เคยโกหกเขาว่าหล่อนจะกลับไทยมาดูแม่ที่ป่วย แท้จริงคือแอบหนีไปล่องเรือสำราญกับหนุ่มหล่อเจ้าเสน่ห์ในช่วงที่ภีมพริษฐ์มัวแต่ยุ่งกับงาน
“งั้นถ้าพี่พริมออกจากโรงพยาบาลแล้ว เราไปเจอญาติคุณภีมกันนะคะ พราวอยากพาคุณแม่ไปล่องเรือค่ะ”
รมิตาเคยเจอชารอฟเพียงในรูป ผู้ชายหล่อเหลาที่หล่อนอยากจะขึ้นเตียงด้วยสักครั้งต่อจากภีมพริษฐ์ก่อนที่เขา...หึ จะถูกป้ายความผิดข้อหาฆ่าญาติตัวเองเพื่อหวังสมบัติ รมิตาไม่เคยเจอนาย หล่อนรับแค่เงินและรับคำสั่งจากเขาผ่านชาร์ล ใบหน้าละม้ายปรายมองภีมพริษฐ์ที่เดินไปนั่งโซฟาก่อนจะโน้มลงกระซิบให้ได้ยินแค่สองคน
“ผู้ชายของแกแต่ละคนท่าจะแซบน่าดู เสียใจด้วยที่จากนี้พวกเขาจะเป็นของฉัน”
ร่างสูงเหลือบมองหญิงสาวหน้าละม้ายกันทั้งสอง ไอ้เวรตะไลที่คิดจะฆ่าเขาเลือกใช้คนประเภทไหนกัน เขายังไม่ทันพูดว่าชารอฟทำธุรกิจเรือสำราญก็โพล่งออกมาจนหมด
“คุณชารอฟตัวจริงหล่อกว่าในรูปอีกนะคะ”
รติมาเอ่ยชมตรงๆ เรือนร่างสูงใหญ่ มัดกล้ามสวยงาม ดวงตาสีฟ้าอมเทาดูมีเสน่ห์ หล่อนตกตะลึงในความหล่อเหลาของภีมพริษฐ์มาแล้วรอบหนึ่ง กับชารอฟก็ไม่แตกต่าง รู้สึกเสียดายไม่น้อยที่คนหนึ่งต้องตายกับอีกคนต้องคดีข้อหาฆ่าคน แต่เอาเถอะ หล่อนใช้เงินซื้อบุรุษหล่อเหลามาปรนเปรอได้ไม่ยาก
“คุณเองก็สวยจนผมไม่อยากละสายตาไปที่ไหน”
ชารอฟพูดพลางยกมือบางขึ้นจูบพร้อมส่งสายตาที่สยบผู้หญิงมานักต่อนักด้วยความระทวย รติมาใจเต้นเร่า ริมฝีปากเผยอเล็กๆ ให้ตายเถอะ หล่อนอยากจะกรี๊ดๆให้คอแตก ผู้ชายคนนี้ทำไมเซ็กซี่ได้ขนาดนี้
ภีมพริษฐ์นั่งกินอาหารไปเงียบๆขณะมองดูญาติผู้พี่คุยอย่างออกรสออกชาติกับรติมา ชายหนุ่มไม่ได้พาหล่อนไปที่ห้อง ภีมพริษฐ์เพียงแต่นัดมาเจอกันที่ร้านอาหาร ชารอฟแอบส่งสายตาให้ญาติผู้น้องเชิงว่าเขาเอาอยู่ รติมาเจ้าเล่ห์และดูฉลาดน้อยกว่าพริมรตา บางทีการที่ลงเดิมพันแบบไม่ดูตาม้าตาเรืออาจแค่เพราะความริษยาในสิ่งที่พริมรตาไขว่คว้าได้ แต่ก็ใช่ว่าจะน่าวางใจ
“ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้นะคะ”
“ด้วยความยินดีครับ”
ชารอฟจูบมือบางอ้อยอิ่ง สายตาเสน่หาบอกว่าเขาปรารถนาจะเจอหล่อนอีกภายหลัง รติมาเหนียมอายเล็กๆ
“แล้วพบกันอีกนะครับ”
ชารอฟบอกก่อนจะเดินไปขึ้นรถ ไม่วายทิ้งสายตายั่วยวนไว้ให้ รติมาเดินไปกดลิฟท์ด้วยความรู้สึกราวกับหล่อนเป็นเจ้าหญิง ใบหน้าสวยกระมิดกระเมี้ยนจนถึงห้องและเปิดประตูเข้าไปพบกับอุ้งมือที่ตรงเข้าบีบคางอย่างแรงจนเจ็บหนึบและเสียงตวาดสียงห้วนเข้ม
“ฉันบอกให้เธอไปอ่อยภีมพริษฐ์ แล้วนี่ไปหลงเสน่ห์ไอ้ชารอฟมาหรือไง ห๊ะ!”
ดวงตาลุกวาวจดจ้องในระยะประชิด รติมามองเห็นเปลวความโกรธขึ้งระริกอยู่ข้างใน
“ฉันเปล่า ก็แค่เล่นไปตามเกม แล้วก็เอามือสกปรกของแกออกไป”
รติมากระชากมือหนาออกจากใบหน้า ก่อนจะหันไปเห็นพริมรตาที่โซฟา กลีบปากอิ่มเหยียดยิ้มอย่างดูแคลนก่อนจะเผยอเชิดแสดงความเหนือกว่า
“นายตั้งรางวัลมาแล้ว เห็นเพชรนี่ไหม ถ้านายได้ครอบครองเหมือง คนที่ทำสำเร็จก็จะได้รางวัลอย่างงามด้วย”
“เธอสองคนใครฆ่าภีมพริษฐ์ได้ ก็รับรางวัลไป อย่าตุกติกพริมรตา ถ้าฉลาดพอก็น่าจะรู้ว่าของมีตำหนิแบบเธอมันตกกระป๋องแล้ว รวยระดับภีมพริษฐ์ไม่จำเป็นต้องชายตาแลเธอก็มีคนพร้อมพลีกายให้ ใช้โอกาสที่ยังเข้าใกล้ได้ตอนนี้จัดการซะ ก่อนที่ไอ้หมาผู้ซื่อสัตย์สองตัวนั่นจะไม่ยอมให้ใครเข้าใกล้นายมัน”
น้ำเสียงเข้มเฉียบขาด ข่าวการขุดพบเพชรดิบเม็ดเขื่องประมูลได้ราคามูลค่ามหาศาลทำให้ผู้อยู่เบื้องหลังไม่อาจนิ่งนอนใจ ความกระเหี้ยนกระหือรืออยากครอบครองมันมากมายจนแทบกระอักจนแทบอยากควักปืนออกมายิงกราดทุกคนที่ขวางทางเพื่อขึ้นนั่งเก้าอี้กุมอำนาจเอง แล้วยังบ่อน้ำมัน โรงแรมและบ่อนคาสิโน บริษัทเรือสำราญของชารอฟที่เขาจะฮุบหลังจากเฉดหัวมันเข้าคุกข้อหาฆ่าคน
“อย่าคิดจะปากโป้งไปได้ ถ้าพวกเธอเปิดปากแฉ ไม่ทางนี้หรือทางนั้นก็ฆ่าพวกเธออยู่ดีโดยที่สาวถึงตัวนายไม่ได้ หาโอกาสลงมือเสีย แล้วมารับรางวัล”
ผลัวะ!
ชารอฟหน้าสะบัดมองเห็นดาววิ้งๆเมื่อจู่ๆกำปั้นหนักๆก็ซัดมาที่มุมปากแบบไม่บอกไม่กล่าว ถึงจะรู้ล่วงหน้าว่าต้องเจอแต่ก็ไม่คิดว่าญาติผู้น้องจะอารมณ์ร้อนขนาดลงมือซัดหน้าหล่อๆของเขา
“นายกล้าลวนลามคนของฉัน”
ข้อกล่าวหาตามมาพร้อมใบหน้าบึ้งตึง และกำปั้นที่ตามมาอีกรอบ ชารอฟรีบพลิกตัวหลบทันควัน พร้อมยักคิ้วเย้ยที่กำปั้นวืดไม่โดนตัว
“ของนาย? เฮ้ย!”
ร่างหนาหลบวูบแบบเฉียดฉิวจากท่อนขาแกร่งที่ตวัดใส่ลำตัว
“ไอ้หมาบ้า ใจเย็นๆก่อนสิโว้ย ลูกกวางไม่ใช่ของแกเสียหน่อย อุก!”
ชารอฟตัวงอเมื่อหน้าท้องโดนเข่าเข้าเต็มๆจากพลังหึงดุดเดือดจนเลือดขึ้นหน้า
“หยุดๆ เกลี้ยง อันวาด จับตัวนายแกไว้ก่อนสิโว้ย”
ชารอฟร้องหาตัวช่วยเมื่อญาติผู้น้องตามรุกคืบไม่ลดละ
“พอดีเรารับคำสั่งแค่นายเดียวน่ะครับ คุณภีมไม่สั่ง เราก็จะไม่ยุ่ง”
อันวาดตอบหน้าตายยืนมองสงครามกลียุคย่อยๆในห้องที่กำลังกระจุยกระจายจากการอาละวาดของภีมพริษฐ์
“พวกแกไม่ต้องมาซื่อสัตย์อะไรตอนนี้ได้ไหม ฉันจะตายก่อนถูกพวกนั้นฆ่าแล้วเนี่ย ฟังมั่งสิโว้ย ไอ้หมาบ้า”
ชารอฟรับหมอนที่ขว้างมาใส่ได้ทันท่วงทีก่อนจะใช้หมอนนั้นรับหมัดอรหันต์ ร่างสูงถอยหนีจนเสียจังหวะหงายหลังลงโซฟาเปิดโอกาสให้สิงโตคลั่งได้ขึ้นคร่อมอกส่งเสียงคำราม
“นายเอาวาเลนไทน์ไปซ่อนไว้ที่ไหน!”
“ใจเย็นน้องรัก เด็กคนนั้นอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว ว้าก! ไอ้น้องเวร เห็นเมียดีกว่าพี่เรอะ”
ชารอฟรับหมัดฮุกด้วยมือข้างเดียวก่อนผลักร่างหนาออกพร้อมโดดข้ามโซฟากระย่องกระแย่ง ภีมพริษฐ์กระโดดข้ามโซฟาตามทั้งหมัดทั้งเท้า ศิลปะการต่อสู้แบบไร้อาวุธประเคนมาไม่ยั้งแบบไม่ฟังอีร้าค้าอีรม ทั้งที่พวกเขาไม่เคยมีปัญหาเรื่องการใช้ผู้หญิงร่วมกันแท้ๆ แต่ดูรายนี้จะเป็นข้อยกเว้น สองบอดี้การ์ดยืนซดน้ำอัดลมทำท่าเหมือนซดชามองนายตีกันหน้าตาเฉย
“อา คุณภีมไม่ได้ปลดปล่อยมาหลายวันแล้ว ออกกำลังบ้างก็ดี เห็นด้วยไหมบีหนึ่ง” เกลี้ยงแกล้งถามคู่หู
“จริงด้วยบีสอง” อันวาดก็ดันเล่นด้วยหน้าตายเสียอย่างนั้น
“มันใช่เวลาไหม ไอ้พวกนี้ โว้ย นี่ก็หึงจนเลือดขึ้นหน้าไม่ฟังอะไรเลย แฮ่กๆ”
คลาสโนว่าหนุ่มหมดสภาพกลายเป็นหมาหอบแดดพลิกตัวหลบหลีกบาทาน้องรักพัลวัน ส่วนไหนที่แตะร่างกายของวาเลนไทน์รู้สึกจะถูกเล็งโจมตีมากที่สุด อ๊าก แตะนิดแตะหน่อยทำหวง ทีโฉบผู้หญิงของมันมานอนด้วยไม่ยักกะว่าอะไร
“บอกมา วาเลนไทน์อยู่ที่ไหน!”
ภีมพริษฐ์กระทืบเท้าลงตรงหว่างขาพอดีชนิดเฉียดกล่องดวงใจชารอฟแบบเส้นยาแดงผ่าแปด
“ส่งกลับบ้านญาติแล้วให้คนตามไปดูอยู่ห่างๆแล้ว”
คลาสโนว่าหนุ่มบอกเสียงรัวเร็ว สิ้นคำตอบ ร่างหนาก็หยุดการโจมตีทันที ชารอฟหอบหายใจด้วยความเสียวกับฝ่าเท้าที่ยังอยู่
ใกล้ๆจุดยุทธศาสตร์ บันทึกลงในเมมเมอรี่ด่วนจี๋ คนนี้ห้ามแตะเด็ดขาด
“บ้านญาติที่ไหน?” ภีมพริษฐ์ถามต่อ
“น่าน เด็กคนนั้นอยากไปเยี่ยมตายายที่น่าน ฉันเสิร์ชดูแล้วที่นั่นสวยน่าไปเที่ยวมาก มีผาชู้ด้วยนะนายน่าจะได้ไป”
“วาเลนไทน์ไม่ใช่ชู้!”
ภีมพริษฐ์สวนทันควันพร้อมฝ่าเท้าที่ยกขึ้นกระทืบลงไปใหม่ ชารอฟรีบพลิกตัวหนีอุตลุดพร้อมผุดลุกขึ้นปฏิบัติการจู่โจมยิงคำถามทันที
“แล้วเด็กนั่นเป็นอะไรสำหรับนาย”
ชารอฟหรี่ตาลงอย่างจ้องจับผิดคนปากแข็ง ภีมพริษฐ์นิ่งไปกับคำถามซึ่งเข้าทางชารอฟที่จะหลอกล่อให้คนปากแข็งยอมพูดสถานะความสัมพันธ์ระหว่างภีมพริษฐ์กับวาเลนไทน์
“ไอ้ที่เป็นสิงโตคลั่งหึงหน้ามืดไม่ฟังใครนี่ มันต้องมีสาเหตุนะ มิสเตอร์ภีมพริษฐ์ อูย”
ชารอฟซี๊ดปากด้วยความแสบ รู้สึกเจ็บแปลบตรงมุมปาก
“หอมแก้มแค่นี้ซัดซะปากเจ่อนะไอ้น้องเวร”
ภีมพริษฐ์ตวัดสายตามองจนชารอฟต้องโบกไม้โบกมือให้
“ไม่ ไม่ ไม่ ฉันไม่ได้ทำอะไรนอกเหนือจากนั้นแล้ว เข็ดแล้วคร้าบ ไม่แตะอีกแล้ว ฉันยังไม่อยากตายเพราะเจ้าป่าขย้ำ แต่ถ้าเป็นบนอกสาวอึ๋มๆก็ว่าไปอย่าง”
ชารอฟทำหน้าทะเล้นนึกถึงแม่สาวอเมริกันทรงสะบึ้ม
“ให้วาเลนไทน์อยู่ห่างๆนั่นดีแล้ว เด็กนั่นจะได้ไม่ต้องมาติดร่างแหด้วย เอาไว้จัดการทางนี้เสร็จแล้วนายค่อยไปง้อก็ได้ วาเลนไทน์ไม่หนีไปไหนอีกหรอก”
“แล้วถ้าระหว่างนี้มีคนมายุ่งกับวาเลนไทน์”
“โว้ย เด็กนั่นเป็นผู้ชาย ถ้าจะมีมันมีไปนานแล้ว อูย เดี๋ยวยุให้เมียบวชตลอดชีวิตเสียนี่ เอาให้คลั่งตายไปเลย”
ประโยคหลังชารอฟพึมพำกับตัวเอง
“นายว่าอะไร” เสียงเข้มคาดคั้น
“เปล๊า ฉันแค่บอกว่าปากช้ำแบบนี้สงสัยต้องไปหาปากสาวๆมานาบเสียหน่อย ปากผู้หญิงที่ชื่อพราวเป็นไง จิ้งจอกเจ้าเล่ห์อย่างพริมรตายกให้นายจัดการเองแล้วกัน ฉันไม่ชอบผู้หญิงฉลาดเท่าไหร่ ควบคุมยาก”
ชารอฟยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อย ก่อนจะบ่นอุบ
“หูย เจ็บชะมัด พวกนายนี่ก็ยืนดูคนจะถูกฆ่าหน้าตาเฉย อกแบนๆแบบนั้นมีอะไรน่าหลงตรงไหน”
“เมื่อก่อนคุณภีมก็พูดเหมือนกันกับคุณนี่แหละครับ ปัจจุบันก็อย่างที่เห็น”
เกลี้ยงตอบพร้อมเหลือบมองเจ้านายที่สะอึกเถียงไม่ออก
“พูดอย่างนี้นายเคยลองแล้วล่ะสิ ได้แอ้มแล้วได้ใช่ไหม เลขาฯภีมน่ะ หึหึ”
ชารอฟยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนทิ้งระเบิดใส่คนที่ดูดายไม่ช่วยเหลือเขา
“แต่เอ๊ะ ฉันเห็นว่าคุณเฟียตนี่อะไรๆกับไรวินท์เลขาฯของฉันอยู่ไม่ใช่หรือ สองคนนั่นชอบหายไปด้วยกันบ่อยๆ”
“ว่าไงนะครับ” เกลี้ยงร้อนรนขึ้นมาทันที
“ไม่รู้นะ ฉันแค่พูดตามที่เห็น นายก็ลองแย็บถามคุณเฟียตดูสิ นอนกับคนสวยด้วยกันอารมณ์เล่นเลสนัวเนียเหมือนงูรัดน่ะ สนุกว่าควบม้าไหม”
“คุณเฟียต ฮึ่ม! เผลอไม่ได้เชียว” เกลี้ยงเข่นเขี้ยว
“หึหึ สร้างความร้าวฉานคืองานของเรา โอะ โอ ทิ้งบอมส์เสร็จแล้วไปดีกว่า”
“ฮัลโลกวางน้อย อูย”
ชารอฟใช้โทรศัพท์เบอร์ที่ให้ลูกน้องเปิดให้ใหม่ในไทยโทรหาคนที่นัดไว้
“ชารอฟเป็นอะไรไปครับ” วาเลนไทน์ถามเสียงร้อนรน
“สิงโตของนายน่ะสิ ขย้ำฉันเข้าให้ที่บังอาจแตะลูกกวาง นี่แค่หอมแก้มนะเนี่ย”
ชารอฟฟ้อง วาเลนไทน์อดอมยิ้มไม่ได้ด้วยนึกสภาพดูไม่จืดออก
“หมอนั่นปากแข็งดีนัก งอนให้นานๆเลยนะ นี่ฉันบอกแล้วจะเสี้ยมให้นายบวชหนีตลอดชีวิต เจ้านั่นได้กลายสภาพจากมาดเจ้าป่าดิ้นพล่านเป็นหมาโดนน้ำร้อนแน่ อูย”
“คุณถูกเขาทำร้ายมากไหม”
“สิวๆน่า ปกติฉันกับภีมสู้กันเจ็บกว่านี้ เพราะถ้าสมมุติว่าอีกฝ่ายคือศัตรูนั่นคือมันพร้อมจะฆ่าเรา แล้วนี่คิดถึงภีมมากหรือเปล่า”
“พูดอะไรของคุณ” วาเลนไทน์แก้มร้อนขึ้นมาทันที
“อย่าโกหกน่า ฉันบอกแล้วไง ฉันจับโกหกคนเก่ง นายรอโทรศัพท์ฉันเพราะอยากรู้ข่าวภีมไม่ใช่หรือไง”
“ผมสงสัยว่าใครเป็นคนบงการเบื้องหลัง เขาทำให้ผมเกือบตายทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วยเลย”
“แต่นายก็ได้เจอหัวใจตัวเองไม่ใช่หรือ” ชารอฟกระเซ้า
“อย่าล้อผมสิครับ” วาเลนไทน์เขินเล็กๆ
“ผมอยากโกรธให้มากกว่านี้นะ แต่ทำไมผมกลับรู้สึกสงสารคุณภีมก็ไม่รู้ มีพร้อมทุกอย่างแต่เทียบไม่ได้เลยกับความสุขที่สูญเสียไป แล้วยังมีคนจ้องจะทำร้ายอีก”
“นายเป็นคนจิตใจดีนะ ภีมโชคดีที่ได้เจอนาย”
“คุณภีมไม่ได้คิดอะไรกับผมเสียหน่อย”
“อย่างหนึ่งที่นายควรจะรู้ ภีมสั่งคนตามหานายแทบพลิกแผ่นดินตอนนายหนีไป แถมรูปที่ฉันถ่ายกับนายที่ส่งไปให้ยังผลให้ฉันหน้าเยินอย่างที่ใครเห็นก็ต้องร้องอู้ว่าไปฟัดกับอะไรมา” ชารอฟกึ่งเล่นกึ่งจริงในที
“แล้วผมควรจะทำยังไง” วาเลนไทน์หาคำตอบไม่ได้กับความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้น
“แนะนำว่าจีบเลย”
“หา!”
“หมอนั่นโง่เรื่องความรู้สึก ทำงานเก่งอย่างเดียว เพราะงั้นว่าที่สถาปนิกอย่างนายต้องครีเอทวิธีเจ๋งๆในการเอาหมอนั่นให้อยู่หมัด
“เอ่อ เอาแบบนั้นเลยหรือครับ คุณกำลังแนะนำให้ผมจีบผู้ชาย แถมเป็นผู้ชายที่ชื่อภีมพริษฐ์” วาเลนไทน์ทักท้วงเล็กๆ
“นั่นแหละถูกเผง มีผัวโง่ขี้ขลาดแต่รวยนายต้องคุมบังเหียนเข้าใจไหม ขึ้นหลังสิงโตแล้วนายไม่มีสิทธิ์ลงนอกจากหาวิธีควบคุมมัน สิงโตเชื่องได้น่า ที่บ้านภีมเลี้ยงอยู่ ระหว่างนี้ก็แกล้งงอนเงียบๆรอไปก่อน ให้ภีมจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย พอหมอนั่นไปง้อ นายก็เรียกค่าสินสอดเหมืองเพชรไปเลย” ชารอฟกระหยิ่มยิ้มย่อง
“คุณภีมจะยอมหรือครับ หมายถึง อาจจะแค่ขอโทษแล้วก็จบแค่นั้นก็ได้”
วาเลนไทน์ตะกุกตะกักไม่แน่ใจท่าทีอีกฝ่ายนัก นอกจากฟังที่ชารอฟเล่า
“ก็ถ้าหมอนั่นไม่กล้า นายก็ลุยจีบเองเลย เพชรนะเพชร ท่องไว้”
ชารอฟยุส่งเมื่อดูท่าแล้วคงจะแห้วคู่ถ้ายังมัวแต่รอดูเชิงกัน
“ผมไม่ได้ เอ่อ หวังอะไรแบบนั้นเสียหน่อย”
“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ถ้าเจ้าของเหมืองเพชรรักนาย เพชรมันจะไปไหนเสียล่ะ แต่ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ขอค่าที่ปรึกษาเป็นเพชรน้ำงามสักเม็ดแล้วกันนะ” คลาสโนว่าหนุ่มหางโผล่ว่าที่ช่วยมาทั้งหมดหวังอะไร
ผลัวะ โอ๊ย!
“คุณชารอฟเป็นอะไรไปครับ”
วาเลนไทน์ตกใจเสียงร้องเหมือนถูกทำร้าย ก่อนจะเงี่ยหูฟังเมื่อได้ยินเสียงเข้มคุ้นหู
“คุยกับใคร”
ภีมพริษฐ์มองด้วยความหมั่นไส้คนที่ยินคุยหน้าบานริมระเบียงมาสักครู่หนึ่งแล้วจนทนไม่ไหว
“ลูกกวางน่ะสิ ฉันกำลังอยากไปเยี่ยมตายายลูกกวางที่น่านพอดี เฮ้ น้องรักอย่ามองฉันแบบนี้ ถ้านายไม่กล้าก็ปล่อยให้คนอื่นได้ทำคะแนนบ้าง ว้าว คืนนี้พระจันทร์ยิ้มสวยจังเลยน้า ลูกกวางกำลังยิ้มให้แนอยู่แน่ๆ”
ชารอฟยักคิ้วยั่ว ภีมพริษฐ์เหลือบมองพระจันทร์เคียงดาวแวบหนึ่งก่อนใบหน้าหล่อเหลาสะบัดพรืดหนีเข้าห้องไปทันทีพร้อมเสียงก่นด่างึมงำ
“มีผัวเป็นตัวเป็นตนแล้วยังจะคุยกับคนอื่น ห่างผัวไปอยู่กับมันไม่กี่วันก็หลงเสน่ห์คลาสโนว่าแล้วหรือไง”ชารอฟมองตามร่างที่งุ่นง่านเข้าห้องไปก่อนจะหันมาคุยต่อ
“เดินดุ่มๆหนีไปแล้ว งั้นเดี๋ยวคืนนี้จะแอบส่งรูปตอนหลับไปให้ หรือจะเอาภาพเคลื่อนไหวตอนอาบน้ำดี”
“บ้า ไม่เอามาให้เครื่องผมพังหรอก แค่นี้ก่อนนะครับ ยายเรียกแล้ว ฝันดีแล้วก็ขอบคุณนะครับชารอฟ”
วาเลนไทน์หยุดการสนใจลง ใบหน้าขาวเงยมองพระจันทร์เคียงดาวเบื้องหน้า ภาพใครบางคนยืนกอดพร้อมเงยหน้ามองดาวที่เกาะด้วยกันยังชัดในความรู้สึก
“ผมรักคุณจริงๆใช่ไหม”
วาเลนไทน์ถามตัวเองอีกครั้ง หลังจากยอมรับว่าเป็นห่วงนักหนาที่รู้ว่าภีมพริษฐ์ถูกลอบทำร้ายหมายเอาชีวิต รู้ดีว่าอยู่ด้วยก็ช่วยอะไรไม่ได้นอกจากจะกลายเป็นจุดอ่อนให้ฝ่ายนั้นรู้ทันแล้วอาจจับไปเป็นข้อต่อรอง จึงต้องทำเหมือนไม่รู้จักกัน ไม่ติดต่อกันอยู่อย่างนี้
“ถ้าคุณกำลังมองท้องฟ้า ผมยิ้มให้คุณอยู่นะครับ ขอให้ผ่านอุปสรรคครั้งนี้ให้ได้ แล้วก็มาง้อเร็วๆนะ ผมรออยู่”