อเวจีเสน่หา ตอนพิเศษ ตอนกวางน้อยกับสตรอว์เบอร์รีจุ่มนมข้นหวาน (P.20)(25/03/59)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: อเวจีเสน่หา ตอนพิเศษ ตอนกวางน้อยกับสตรอว์เบอร์รีจุ่มนมข้นหวาน (P.20)(25/03/59)  (อ่าน 249135 ครั้ง)

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
 ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

*******************************************************************************


อเวจีเสน่หา(Passion of fire)


อันหลุมพรางอเวจีแห่งความรัก
เมื่อเผลอไผลล่วงล้ำเข้าไปแล้ว
ยากนัก...ถอนตัว
เพราะมันคือ
“อเวจีเสน่หา”



บทนำ


 
“ไวน์ขาวไว้ดื่มคู่กับปลา ไวน์แดงสำหรับเนื้อ ถ้าอย่างนั้นฉันชักอยากจะรู้เสียแล้วสิ ว่าเนื้อชายชู้อย่างนายมันจะน่าลิ้มลองสักแค่ไหน” 

ดวงตาสีเข้มเย็นเยียบแข็งกร้าวดุดันดุจพญาราชสีห์โชนแสงโรจน์จ้องเขม็งร่างสั่นสะท้านอย่างลูกกวางน้อยในอาณัติ ไวน์แดงชั้นดีในแก้วถูกราดช้าๆลงบนเรือนร่างเปลือยเปล่า ดวงตาคู่สวยดุจนัยน์ตากวางเบิกโพลง เย็นเยียบไปทั่วร่างอย่างซ่อนอาการตื่นตระหนกไว้ไม่อยู่เมื่อรับรู้ถึงภัยคุกคามที่กำลังจะเกิดขึ้น...

“ฮึก ที่คุณมากล่าวหาผมแบบนี้ ไม่ใช่ว่าตัวคุณเองหรอกหรือที่ไร้น้ำยาน่ะ!”

“ปากดี! ฉันไร้น้ำยาหรือเปล่า แล้วนายจะได้รู้ หึหึ...”


ร่างบางบอบช้ำไปทั้งตัว หลังผ่านสมรภูมิดิบรองรับอารมณ์แค้นของเขาจนสาแก่ใจ ชายหนุ่มค่อยๆหย่อนปลายเท้าแตะพื้น เพียงแต่ขยับเท่านั้นความเจ็บร้าวก็แล่นปลาบทั่วแนวกระดูกสันหลังจนทรุดฮวบ ร่างกายร้าวทั้งสารพางค์ราวกับถูกไม้แข็งทุบละเอียดทั้งตัว ความรู้สึกหน่วงที่ข้อเท้าทำให้ก้มดูก่อนจะอึ้ง

...โซ่…

“นี่ถึงกับล่ามกันไว้เชียวหรือ”

 เขาพึมพำกับตัวเอง ภาพใบหน้าคมดุดันของอสูรในร่างเทพบุตรรูปงามผุดขึ้นในความคิด ชายหนุ่มหลับตาลงทอดถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน เสียงคลื่นลมทะเลซัดสาดอยู่เบื้องหน้า ท้องฟ้าสดใสชวนให้ออกไปโลดแล่น แต่เขาในสภาพนี้ไม่ต่างอะไรกับนกน้อยในกรง มองเห็นท้องฟ้าตรงหน้าแต่ไม่สามารถจะโบยบินขึ้นไปสู่อ้อมกอดสีฟ้านั้น

...เมื่อไหร่การลงทัณฑ์นี้จะสิ้นสุดลง หรือมันต้องแลกด้วยอิสรภาพของเขา...ทั้งชีวิต...


..."ถ้าผมรู้ก่อนหน้านี้ว่าเธอเป็นผู้หญิงของคุณ

บางที...เรื่องทั้งหมดมันคงจะไม่เกิดขึ้น"...



เสพเสน่หาสารพางค์ ลึกถลำแล้วไซร้ ยากนักถอนตัว


สารบัญ


อเวจีเสน่หามีภาค 2 แล้วนะคะ ชื่อว่า 'อเวจีสวาท ทาสรักมาเฟียซาตาน' เป็นเรื่องของชารอฟและภัทรที่แยกไปเป็นเรื่องของตัวเองค่ะ  :mc4: จิ้มโล้ด อเวจีสวาท ทาสรักมาเฟียซาตาน  :mew1:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-04-2016 10:37:39 โดย Moony_Darling »

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
Passion.1 ดอกไม้เจ้าสาว


“ฝากทีนะไทน์ ด่วนเลย พิธีใกล้เริ่มแล้ว”

เสียงหวานใสของหญิงสาวร่างเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มนาม “ไอริสา” ผู้มีศักดิ์เป็นพี่สาวแท้ๆเอ่ยเร่งในที บ่งบอกถึงความเร่งรีบปลายทาง

“ไม่ต้องห่วง ทันอยู่แล้ว”

ไทน์ หรือชื่อเต็มๆ “วาเลนไทน์” ชายหนุ่มหน้าใสเจ้าของส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบกว่าๆยิ้มสว่างให้ก่อนจะรีบพาตัวเองคร่อมมอเตอร์ไซค์คู่ใจ สวมหมวกกันน็อคพร้อมสตาร์ทเครื่องออกตัวในทันทีเพื่อพาช่อดอกไม้เจ้าสาวไปส่งให้ทันงาน

“Lily of the valley Flora”

ร้านดอกไม้ตกแต่งน่ารักสไตล์วินเทจที่นำชื่อของดอกไม้โปรดของหญิงสาวเจ้าของร้านมาตั้งเป็นชื่อร้าน และเป็นชื่อเดียวกับช่อดอกไม้เจ้าสาวที่ผู้เป็นน้องชายกำลังนำไปส่งให้ทันงานแต่งงานซึ่งเจ้าสาวเองก็ชื่นชอบดอกไม้ชนิดนี้อยู่เหมือนกัน เจ้าตัวบอกประทับใจตั้งแต่เห็นช่อดอกไม้เจ้าสาวในพระราชพิธีเษกสมรสของเจ้าหญิงเคท ดัชเชสแห่งแคมบริดส์ ตั้งแต่นั้นมาก็หมายมั่นปั้นมือมาตลอดว่าถ้าถึงงานแต่งของตัวเอง Lily of the valley จะเป็นดอกไม้เจ้าสาวสำหรับหล่อน และด้วยความที่เป็นดอกไม้หายากราคาแพงมีเฉพาะฤดูกาลเมื่อเกิดความผิดพลาดกับช่อดอกไม้เจ้าสาวที่งานกำลังจะเริ่มอีกไม่กี่ชั่วโมง ความชุลมุนจึงเริ่มขึ้นตั้งแต่เช้าเพื่อโทรติดต่อหาร้านดอกไม้ที่สามารถจัดช่อดอกไม้ชนิดนี้ให้แก่เจ้าสาวได้ และจนมาลักกี้ที่ร้าน “Lily of the valley Flora”พอดี

ร่างสูงโปร่งขี่รถมอเตอร์ไซค์ลัดเลาะตรอกซอกซอยมาเรื่อยจนมาถึงที่หมาย โรงแรมหรูมีระดับตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้าสมฐานะผู้จัดงาน ชายหนุ่มจอดรถพลางหันไปหยิบช่อดอกไม้ที่บรรจุในกล่องกันกระแทกอย่างดี ร่างโปร่งเพรียวมาพร้อมในชุดสูทดูดีเพราะชายหนุ่มขออนุญาตเจ้าของงานเข้าไปถ่ายรูปในงานเพื่อนำมาโปรโมทร้านดอกไม้ให้พี่สาว ใบหน้าใสมองดูช่อดอกไม้น่ารักขณะเดินเข้าไป

“โอ๊ะ!”

ร่างเพรียวเซถลาเมื่อสะดุดกับบางอย่างที่พื้น ชายหนุ่มใจหายวาบคิดว่าล้มเป็นแน่แท้ หากแต่มีท่อนแขนแข็งแรงของใครสักคนยื่นเข้ามาช้อนตัวเขาไว้ทันพอดี

“ฟู่! เกือบไปแล้ว”

วาเลนไทน์ระบายลมหายใจโล่งอกที่ช่อดอกไม้เจ้าสาวในอ้อมแขนยังปลอดภัย ใบหน้าใสเงยมองเจ้าของท่อนแขนแกร่งที่ประคองตัวเขาไว้ถึงกับนิ่งไปชั่วครู่ ดวงตาคมแฝงอำนาจที่มองสบลงมานั้นราวกับมีมนต์สะกด คิ้วเข้มยาว จมูกโด่งเป็นแนวสัน กลีบปากได้รูป เครื่องหน้าทุกส่วนผสมผสานกันอย่างลงตัวขับให้ชายหนุ่มผู้นี้หล่อเหลาราวเทพบุตร วาเลนไทน์รู้สึกตัวเองใจสั่นแปลกๆยามสบตากันราวกับจะถูกดูดกลืนเข้าไปในห้วงสีนิลคมคู่นั้น

“นายไม่เป็นอะไรนะ”

 เสียงถามทุ้มกังวานแฝงพลังน่าเกรงขามเรียกสติวาเลนไทน์คืนมา ร่างเพรียวรีบขืนตัวเองออกเมื่อได้สติ

“มะ ไม่เป็นไรครับ โชคดีช่อดอกไม้ไม่ร่วง ไม่อย่างนั้นแย่แน่ๆ ขอบคุณนะครับ”

 วาเลนไทน์บอกพลางเกาท้ายทอยแก้เก้อ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกสั่นแปลกๆต่อหน้าผู้ชายคนนี้ ร่างบางกล่าวขอบคุณพร้อมเอี้ยวตัวนำดอกไม้เดินเข้าไปด้านใน เจ้าสาวเองแทบถลาเข้ามารับช่อดอกไม้หายากนั้นไว้ด้วยสีหน้าปลื้มปลาบเต็มที่

“ขอบคุณนะคะ โทรติดต่อตั้งหลายร้านกว่าจะได้”

“ดอกไม้นำเข้าครับ หายากหน่อย เพิ่งมาส่งที่ร้านพอดี ขอถ่ายรูปเจ้าสาวกับช่อดอกไม้หน่อยนะครับ”

วาเลนไทน์บอกยิ้มๆขณะยกกล้องขึ้นจับภาพเจ้าสาว

“ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวผมไปรอที่โบสถ์เลยนะครับ จะขอจับภาพเจ้าสาวตอนถือช่อดอกไม้เดินเข้าพิธีที่โบสถ์ แล้วก็ตอนโยนช่อดอกไม้ กับผู้โชคดีที่จะได้รับช่อดอกไม้คนต่อไป”

 วาเลนไทน์บอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“ค่ะ ตามสบายเลยค่ะ”

เจ้าสาวถือช่อดอกไม้ตอบรับด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มจึงแยกตัวออกมาเตรียมตัวเนื่องจากคุยตกลงกับเจ้าสาวเรื่องขออนุญาตถ่ายรูปไปลงเวบเพจของร้านแล้ว

“น้องคนเมื่อกี้หน้าตาน่ารักจังเลยนะคะพี่ชาย หน้างี้ใส๊ใส”

 พ้นจากร่างโปร่งเดินลับออกไปแล้ว เจ้าสาวจึงหันมาพูดกับพี่ชายที่เดินมายืนข้างๆพอดี ภีมพริษฐ์นึกภาพเจ้าของใบหน้ากระจ่างใสกับช่อดอกไม้สีขาวน่ารักในอ้อมแขนเขาเมื่อครู่

“หึ แค่เด็กซุ่มซ่ามคนหนึ่งเท่านั้นแหละนะ”

“เตรียมขึ้นรถได้แล้วจ้าเจ้าสาว ใกล้เวลาแล้ว”

 เสียงหวานเพราะพริ้งรื่นหูดังขึ้นพร้อมการปรากฏตัวของหญิงสาวสวยอีกคน ชายหนุ่มแกล้งยีผมคนเป็นน้องให้หน้ายู่เล่น ก่อนทั้งคู่จะพากันเดินไปหาเจ้าของเสียงเรียกเพื่อไปขึ้นรถ

“พี่พริมรับช่อดอกไม้ของพิ้งค์ให้ได้นะคะ พิ้งค์จะได้มีพี่สะใภ้เต็มตัวเสียที”

 ประโยคแรกพูดกับหญิงสาวคนรักของพี่ชาย แต่ประโยคหลังแอบเหล่ไปทางภีมพริษฐ์

“ช่อนี้พิ้งค์สั่งพิเศษสำหรับส่งต่อให้ว่าที่พี่สะใภ้เลยนะคะ”

 เจ้าสาวอมยิ้มน่ารักขณะรถขยับเคลื่อนที่พาเจ้าหล่อนไปยังโบสถ์ที่ทำพิธี

ทันทีที่รถคันหรูมันปลาบเลี้ยวเข้ามาจอด ทุกสายตาต่างจับจ้องไปที่เจ้าสาวแสนสวยที่ก้าวลงจากรถ กิริยาเยื้องย่างงดงามสวยสง่าอย่างหญิงที่ได้รับการอบรมมาอย่างดี รอยยิ้มอิ่มสุขฉาบบนใบหน้าสวยหวานขณะคล้องแขนผู้เป็นบิดาเดินเข้าโบสถ์ วาเลนไทน์รีบเก็บภาพตั้งแต่เจ้าสาวก้าวลงจากรถจนเดินเข้าไปทำพิธีด้านใน

ชายหนุ่มยืนฟังคู่บ่าวสาวปฏิญาณรักต่อกันด้วยความรู้สึกอิ่มสุขกับทั้งคู่ไปด้วย บรรยากาศในงานรื่นตาด้วยรอยยิ้ม พิธีในโบสถ์จบลงแล้ว เจ้าสาวแสนสวยควงแขนคู่ชีวิตเดินออกมาด้านหน้า เวลาสำคัญสำหรับสาวโสดทั้งหลายที่มายืนลุ้นกันหน้าสลอน

“ไม่ไปลุ้นกับเขาหรือครับพริม”

เสียงทุ้มเอ่ยถามยิ้มๆกับสาวสวยปราดเปรียวข้างกาย พริมรตาส่ายหน้าหวือยิ้มๆแต่ไม่พ้นสายตาชักชวนของน้องสาวคนรัก หญิงสาวพยายามส่ายหน้าปฏิเสธ แต่ใบหน้าสวยหวานยู่น้อยๆแบบน้องเล็กที่ถูกตามใจจนชินก็ทำให้พริมรตาต้องพาตัวเองไปอยู่บริเวณใกล้ๆหญิงสาวคนอื่นๆ

เจ้าสาวหันหลังโยนช่อดอกไม้กลับออกมาด้านนอก เสียงกรี๊ดกร๊าดยื้อแย่งกันของบรรดาสาวๆ ต่างยืดแขนช่วงชิงจนปลายนิ้วปัดป่ายช่อดอกไม้กระเด็นกระดอนไปมาและ
.
.
.

ช่อดอกไม้ลอยหวือตกลงใส่หน้าคนกำลังถ่ายรูปเต็มๆ เสียงเกรียวกราวเงียบกริบ วาเลนไทน์รับช่อดอกไม้ไว้อย่างงงๆ ทุกสายตาต่างเพ็งมองไปที่ร่างโปร่งของคนที่รับช่อดอกไม้เอาไว้ได้อย่างบังเอิญ

“ว้า ช่อดอกไม้เจ้าสาว ผู้ชายดันรับได้ เสียดายชะมัด”

เสียงหวานหลายเสียงต่างโอดครวญ เมื่อเห็นปลายทางดอกไม้ช่อสวยตกอยู่ในมือใคร

“เอ่อ โยนใหม่ไหมฮะ”

 วาเลนไทน์ขยับไปหาเจ้าสาว รู้สึกขวยเก้อเล็กๆกับช่อดอกไม้ในมือ เท่าที่รู้ไม่มีงานไหนที่คนรับช่อดอกไม้จะเป็นผู้ชาย ชายหนุ่มรู้สึกทำตัวไม่ถูกขึ้นมาเสียดื้อๆ

“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ เก็บไว้นะคะ ดอกไม้คงเลือกคุณแล้วค่ะ”

เจ้าสาวบอกยิ้มๆอย่างรู้สึกถูกชะตากับชายหนุ่ม แม้ตอนแรกหล่อนจะตั้งความหวังให้พริมรตาคนรักของพี่ชายได้ไปแต่ความรู้สึกบางอย่างบอกหล่อนว่าช่อดอกไม้ได้เลือกแล้ว เซนส์บางอย่างบอกหล่อนว่าในอนาคตหล่อนและเขาจะต้องได้เจอกันอีก

“เอ่อ ครับ ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อน”

วาเลนไทน์รับคำแก้เก้อพร้อมขยับพาตัวเองออกมาจากตรงนั้นรีบตรงกลับร้าน ไม่อยากอยู่สู้สายตาหลายต่อหลายคู่เท่าไรนัก ก็นะ เขาไม่ใช่หญิงสาวที่มาคอยลุ้นกับช่อดอกไม้นี่นา แค่ยืนถ่ายรูปบริเวณใกล้เคียงเพราะอยากจับภาพชัดๆเท่านั้นเอง


 :mew1: :mew1:


สวัสดีนักอ่านทุกคนที่เข้ามาค่ะ ก่อนอื่นเลยขอแนะนำตัวก่อนนะคะ Moony_Darling ค่ะ
เพิ่งสมัครเข้ามาในเล้าเป็ดวันแรก ยังงงๆนิดหน่อย ขอบคุณทุกคนที่เข้ามานะคะ
มือสมัครเล่นค่ะ ฝากติดตามนิยายด้วยนะคะ
 :กอด1:

ออฟไลน์ Rafael

  • เพราะคนเราเกิดมาเพื่อแตกต่าง
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4378
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +685/-7
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)
«ตอบ #2 เมื่อ07-01-2015 20:14:52 »

เข้ามาติดตามด้วยคนค่ะ
เนื้อเรื่องท่าทางจะดราม่ากันยกใหญ่เลยทีเดียว 555555


ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)
«ตอบ #3 เมื่อ07-01-2015 20:28:42 »

แค่ชื่อเรื่องก็กระชากอารมณ์ละ ไหนจะอินโทร  :z1:

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire) #Passion.2#
«ตอบ #4 เมื่อ07-01-2015 20:44:34 »

Passion.2


“อ้าวไทน์ หอบช่อดอกไม้กลับมาทำไมล่ะ ช่อดอกไม้เป็นอะไรเหรอ”

 ไอริสาถามอย่างแปลกใจที่เห็นน้องชายตัวเองถือช่อดอกไม้เจ้าสาวที่เพิ่งนำไปส่งติดมือกลับมาด้วย

“ช่อดอกไม้ไม่เป็นอะไรหรอก แต่ดันลอยหวือมาตกใส่มือผมนี่แหละ”

 หนุ่มหน้าใสบอกพี่สาวแกนๆ นึกแล้วยังอายไม่หาย

“เฮ้ย จริงหรือ เพิ่งเคยได้ยินนะนี่ ช่อดอกไม้เจ้าสาวตกใส่มือผู้ชาย อุ้ยตาย! ตายแล้ว น้องชายฉันจะได้เจอเนื้อคู่แล้วหรือนี่ คิก คิก”

คนเป็นพี่สาวเย้าเสียงใสหัวเราะคิกคัก

หล่อนเองก็เพิ่งเคยเจอผู้ชายได้ช่อดอกไม้เจ้าสาวเป็นครั้งแรกแถมเป็นน้องชายของตัวเอง มันแปลกยิ่งกว่าให้ดอกไม้กับเจ้าของร้านขายดอกไม้อย่างที่หล่อนเคยเจอตอนมีคนมาจีบเสียอีก

วาเลนไทน์ทำหน้าเหม็นเบื่อพี่สาวที่เห็นเป็นเรื่องสนุกเสียอย่างนั้น

“ผมแค่ไปยืนถ่ายรูปใกล้ๆ แล้วพวกเพื่อนเจ้าสาวเขาแย่งดอกไม้กันมือเลยปัดดอกไม้กระเด็นไปกระเด็นมาจนมาหล่นตุ้บที่ผมที่แหละ อายชะมัด ผู้ชายได้ช่อดอกไม้เจ้าสาว เฮ่อ!”

 วาเลนไทน์บ่นอุบพลางวางช่อดอกไม้ไว้ตรงหน้าพี่สาวที่เคาท์เตอร์ เขารู้สึกอายจริงๆตอนนั้น ก็ทุกสายตาเล่นเพ่งมาที่เขาเป็นตาเดียว แถมเจ้าสาวยังบ้าจี้ไม่ยอมโยนใหม่อีกรอบกลับยกให้เขามาเสียอย่างนั้น หนุ่มหน้าใสรีบขอตัวออกมาจากงานทันทีเหมือนกัน

“เอาน่า คราวนี้ฉันว่าแกได้เจอเนื้อคู่ชัวร์”

ไอริสายืนยันมั่นเหมาะ

“เปลี่ยนจากป้าขายดอกไม้ไปเป็นหมอดูแล้วหรือไง กะปุ๊กลุ๊ก”

“นี่! หยุดเรียกชื่อนั้นเลยนะไอ้เด็กบ้า!”

ไอริสาปรี๊ดแตกตรงรี่เข้าหาน้องชายหวังแจกขนมตุ๊บตั๊บเต็มที่

“ก็มันจริงนี่นา ตัวก็เตี้ย ขาก็สั้น ว่าแต่เขาตัวเองก็ได้ข่าวว่ายังโสด”

 แต่น้องตัวแสบมีหรือจะยอมโดนขนมตุ๊บตั๊บจากมือเล็กๆแต่เจ็บใช่เล่น หยอกเอินพี่สาวเสร็จก็วิ่งลิ่วขึ้นชั้นบนทันที

“ฉันสวยเลือกได้เหอะ เชอะ”

 ไอริสาบ่นกระปิดกระปอดส่งท้ายแม้จะลับเงาร่างสูงบางไปแล้ว


ไอริสาเป็นสาวช่างฝัน พระเอกของหล่อนจึงวาดไว้เสียหล่อเลิศเลอเกินจริงไปเสียหน่อยแต่กระนั้นหญิงสาวเองก็ไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรกับการไร้คู่ ว่างจากงานหล่อนมักจะเขียนนิยายเป็นงานอดิเรกอยู่แล้ว

ยิ่งช่วงกระแสวายมาแรง สาวร่างเล็กไม่วายใช้น้องชายตัวเองนี่แหละเป็นนายเอกของเรื่องอยู่บ่อยๆกับพระเอกหล่อโหดโคตรเซ็กซี่เร่าร้อนกระตุ้นต่อมจินตนาการทะลักทลายเลือดวายกระฉูด แต่เพราะตอนนั้นวาเลนไทน์เป็นไอ้หนุ่มผมยาวไว้เครา ถักเดทร็อค จึงเป็นเหตุให้พี่สาวก่อการร้ายโกนหนวดหั่นผมน้องจนกลายเป็นหนุ่มหน้าหล่อใสกิ๊งสมใจ เพราะวาเลนไทน์ในตอนแรกดูขัดหูขัดตาการจินตนาชวนฝันของหล่อน

“หึ เจ้าไทน์เอ๋ย แกกล้าหือกับฉันใช่ไหม ได้ เดี๋ยวฉันจะเขียนให้แกโดนจับกดสามสิบแปดกระบวนท่าเลย คอยดู หึหึ กับพระเอกเซ็กซี่เร่าร้อนสุดร้อนแรง เจ้าไทน์เอ๋ย แกตายแน่ๆ ฮ่าๆๆ”

 ใบหน้าหวานแอบยิ้มโรคจิตอย่างมาดร้ายเมื่อนึกภาพน้องตัวเองกำลังถูกกระทำโดยหนุ่มหล่อร้อนแรงเจ้าเสน่ห์

“หึ หึ โรคจิตได้อีกฉัน”

ว่าพลางละเลงปลายนิ้วลงบนแป้นพิมพ์อย่างเมามัน

“จะว่าไปถ้าเจ้าไทน์มันมีแฟนเป็นผู้ชายก็น่าจะดีไม่น้อยแฮะ อ๊าย อยากมีน้องเขย ไม่อยากมีแล้วน้องสะใภ้”

ไอริสาว่าพลางกอบมือเข้าหากันทำหน้าเคลิ้ม

“ทำท่าเคลิ้มอีกแล้วนะริสา คราวนี้คิดอะไรอีกล่ะ”

วาดดาวเพื่อนสนิทที่มาช่วยงานในร้านอดเย้าไม่ได้ยามเห็นอาการเพื่อนรัก

“ก็ริสาอยากให้เจ้าไทน์มันมีแฟนเป็นหนุ่มหล่อละดาว”

“หา! ไทน์นี่นะจะมีแฟนเป็นผู้ชาย ให้ช้างกลายร่างเป็นมดยังจะดูเป็นไปได้กว่าไหม? ริสาคิดได้ยังไงนี่ ยัยบ๊องเอ๋ย”

วาดดาวเสียงสูงไม่เชื่อเต็มที่ หล่อนเป็นเพื่อนสนิทที่รู้จักสองพี่น้องมานานนมเห็นกันมาแต่อ้อนแต่ออก ไม่มีวี่แววว่าคนที่ไอริสาพูดถึงจะเบี่ยงเบนแม้แต่น้อย

“ก็นั่นแหละ เจ้าไทน์ดันแมนโคตรนี่ละ เซ็งเลย ฟู่!”

 ไอริสานึกภาพน้องชายตัวเอง เด็กสถาปัตย์ไว้หนวดเคราผมยาวรุงรังถักเดทร็อคอย่างกับโจรในสายตาหล่อน ใช้ให้ไปส่งดอกไม้ทีลูกค้าตกอกตกใจ

หล่อนจึงใช้โอกาสอ้างเรื่องนี้แอบโกนหนวดหั่นผมวาเลนไทน์ออกตอนเมาปลิ้นกลายเป็นหนุ่มหน้าใสกิ๊งเปลี่ยนเป็นคนละคน

“อ่านนิยายมากไปแล้วตัวเล็ก”

วาดดาวส่ายหน้ายิ้มๆพลางก้มลงสนใจงานตรงหน้า

“ก็แค่คิดว่าถ้าได้ก็ดี”

ไอริสาไม่วายงุบงิบเถียง

“เรื่องความรักนะ มันอยู่ที่ใจ ถึงเวลาก็มาเอง”

 วาดดาวบอกเสียงเรียบก่อนที่ทั้งสองจะต่างหันไปสนใจงานของตัวเองไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้อีก



ร่างโปร่งบางกว่าผู้ชายทั่วไปล้มตัวนอนลงที่เตียงพลางหยิบกล้องมากดเช็คดูภาพเพื่อเลือกลงเวบเพจร้าน  ชายหนุ่มกดไล่ดูไปเรื่อยๆจนสายตาสะดุดเข้าที่ภาพๆหนึ่ง คนที่ติดมาในภาพคือคนที่ช่วยเขาไว้จากความซุ่มซ่ามในวันนี้ วาเลนไทน์พินิจพิจารณาใบหน้าหล่อภูมิฐานนิ่งขรึมแต่ดูมีอำนาจในที ตาคมกริบดุจพญาเหยี่ยวดูฉลาดทันคนสมกับเป็นนักธุรกิจ

“หึ ถ้ายัยกะปุ๊กลุ๊กได้เห็นมีหวังเลิกคลั่งพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ เลิกกรี๊ดหนุ่มเกาหลีชัวร์”

ชายหนุ่มพึมพำขณะลุกขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงานแล้วเริ่มงานของตัวเอง



“ไปกินเหล้ากับเพื่อนนะกะปุ๊กลุ๊ก”

 เสียงนุ่มใสตะโกนบอกพี่สาวขณะก้าวกระโดดพรวดลงจากบันไดคว้าหมวกกันน็อคเดินลิ่วออกไปที่ประตูด้านหลังตรงไปยังที่จอดรถ



ร้านเหล้าร้านประจำที่แสนคุ้นเคยคือสถานที่นัดหมายของเหล่าหนุ่มอินดี้ทั้งหลายแหล่ที่เพิ่งหลุดพ้นจากมหาวิบากการสอบมาหมาดๆ กลุ่มเพื่อนๆของวาเลนไทน์ต่างนัดกันมาสังสรรค์ก่อนจะแยกย้ายกันไปช่วงปิดเทอมแล้วมาเจอกันใหม่อีกทีตอนเปิดเทอม

“เฮ้ย! ไทน์ ทางนี้เว้ย”

 เสียงตะโกนเรียกพร้อมโบกมือหยอยๆเรียกใบหน้าเรียวหันไปตามเสียง

“ไงวะ สอบเสร็จก็ตัดขนโกนหนวดเลยหรือมึง จำเกือบไม่ได้ เมื่อกี้ก่อนจะเรียกกูยังเพ่งหน้ามึงตั้งนานว่าใช่มึงหรือเปล่า”

 ก๊วยเจ๋งบอกขำๆพลางส่งแก้วเหล้าให้เจ้าของใบหน้าเกลี้ยงเกลาที่ไม่คุ้นตานักของวาเลนไทน์ จำได้ว่าตอนก่อนจะสอบเสร็จ

วาเลนไทน์ยังเซอร์หนวดเคราเต็มหน้าถักเดทร็อคเป็นหนุ่มอินดี้ติสท์แตกอยู่เลย

“ก็ยัยกะปุ๊กลุ๊กนะสิ บังคับตัดบังคับโกน อ้างว่าตอนเอาดอกไม้ไปส่งลูกค้าจะคิดว่าโจรไปปล้น”

“สงสัยเจ๊ริสาแกอยากให้น้องหล่อใสสไตล์เกาหลี ตอนนี้เจ๊แกกรี๊ดใครอยู่วะ อืม แต่แบบนี้ก็ดูหล่อแบบใสๆดีนะเว้ย แบบว่าไสหัวไปนะ ก๊ากกกก แต่ยังไงก็หล่อน้อยกว่ากูอยู่ดีวะ ฮ่าๆๆ”

 กุนซือหนุ่มตี๋หน้าอินเทรนด์ว่าพลางจับคางเพื่อนหันซ้ายขวาเหมือนเห็นด้วยแต่ไม่วายยกหางตัวเอง จึงถูกวาเลนไทน์โบกหน้าทิ่มเหล้าในแก้วกระฉอก

“ถือหางตัวเองหนักไหมมึง ไอ้กุนเชียงเขียงหมู”

วาเลนไทน์ด่าพลางยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ

“ก็หนักบ้าง หางหน้ามันใหญ่นี่นะ ฮ่าๆ”

 กุนซือตอบอวยตัวเองพลางยักคิ้ววอนเท้ากระตุก

“เรื่องทะลึ่งไม่มีใครเกินมึง ไอ้ห่า”

ก๊วยเจ๋งทำท่าจะโบกซ้ำ แต่กุนซือไหวตัวหลบทันก่อนจะหันไปทำหน้าชวนประทับฝ่าเท้าใส่ก๊วยเจ๋งต่อ


 วาเลนไทน์คุยสัพเพเหระกับเหล่าผองเพื่อนไปเรื่อยอย่างสนุกสนานตามประสาวัยรุ่นวัยเรียนรอคนที่ยังมาไม่ถึง พอเหล้าเข้าปากได้ที่ก็เริ่มออกไปวาดลวดลายกันหรือไม่บางคนก็เริ่มส่องสาวๆสวยๆไว้หิ้วติดมือกลับไปด้วยสำหรับคืนนี้

“เฮ้ย ไทน์ คนนั้นแม่งแจ่มสะเด็ด สามนาฬิกา”

 หนุ่มคิ้วเข้มกัปตันสะกิดพลางบุ้ยปากไปทิศทางที่เขามองเห็นคนถูกใจ

“ไหนวะ เออ น่ารักดี แต่รู้สึกจะมากับแฟนนะเว้ย”

“เหอๆ ผัวเผลอแล้วเจอกันคร้าบคนสวย”

 กัปตันไม่วายแอบส่งจูบทะเล้นไปให้สาวเจ้ายามเจ้าหล่อนบังเอิญหันมาพอดี หญิงสาวชะงักไปนิดก่อนจะก้มหน้าซ่อนรอยยิ้มแต่ไม่วายแอบเหลือบตามามองเพราะคนแซวหล่อนนั้นเรียกได้ว่าหล่อเหลาเกินห้ามใจสไตล์หนุ่มเจ้าสำราญน่าควงแขนไม่น้อย

“พอเลยมึง เดี๋ยวก็ได้แดกตีนแทนเหล้าหรอก ดูหน้าผัวน้องเขาบ้าง เขาอยากให้มึงเป็นชู้กับเมียเขาไหม”

 เต็งหนึ่งหนุ่มตัดผมสกีนเฮดตบหัวกัปตันผลัวะหน้าแทบทิ่มอย่างหมั่นไส้

“แล้วมึงละ ไทน์ ไม่หิ้วกลับไปสักคนเหรอวะ แจ่มๆทั้งนั้นเลยนะเว้ย โรงแรมแถวนี้ใกล้ๆปลดปล่อยเว้ยปลดปล่อย”

กัปตันลูบหัวตัวเองตรงที่ถูกตบก่อนหันมาถามคนที่เอาแต่นั่งดื่มเงียบๆ

“ไม่ละ ไม่อยากทำร้ายเพศแม่”

วาเลนไทน์ยกยิ้มกระดกแก้วเหล้าเข้าปาก

“โธ่ ไอ้ห่า คนดีเหลือเกินนะมึง ไม่อยากทำร้ายเพศแม่หรือกลัวแม่ทูนหัวรู้เข้าแล้วจะโดนแบะหัวล่ะวะ”

 เบสท์โห่พลางผลักหัวพ่อพระเอกอย่างรับไม่ได้

จริงๆวาเลนไทน์ก็ไม่ได้ขาดแคลนเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ บางครั้งเขาเองก็มีปลดปล่อยบ้างเพียงแต่ไม่บ่อยนักแถมป้องกันตลอด แต่ถ้าตอนไหนที่เขามีแฟนชายหนุ่มก็จะไม่นอกลู่นอกทางเลย

“มันเลิกแล้วโว้ย ไอ้หนุ่มวิศวะเพิ่งจะคาบไปแดกแบบไม่บอกเจ้าของล่วงหน้า ตอนสอบเสร็จเดินออกมาหน้าตึกคณะ ลัมโบร์กีนี่ขับปาดหน้าแถมตุ๊กตาสุดน่ารักแฟนไอ้ห่าไทน์ที่ยัดเยียดตำแหน่งแฟนเก่าให้แบบไม่ตั้งตัว มึงเอ๋ย สอบเสร็จว่าปางตาย ออกมาจากห้องสอบปางตายยิ่งกว่า”

ภัทรคนมาหลังสุดทันได้ยินบทสนทนาพอดีหย่อนก้นลงนั่งข้างๆพร้อมรายงานสถานการณ์และไม่วายหันมายิ้มล้อเพราะรู้ว่าเพื่อนไม่ได้เฮิร์ทเท่าไหร่นัก

“โห อะไรวะ คราวที่แล้วก็แพ้ทางเด็กหมอหน้าอย่างจืด คราวนี้วิศวะ มึงนี่แพ้แต่คนฉลาดๆนะไทน์”

 เบสท์ว่าขำๆ แต่คนฟังมีฉุน

“มึงด่ากูโง่หรือวะ ห่าเบสท์นี่”

“เปล๊า กูแค่พูดตามเนื้อผ้าเหอะ”

เบสท์บอกขำๆมองคนหัวอกกลัดหนอง

 “แล้วที่ตัดขนนี่เพราะเมียทิ้งหรือวะ”

 ภัทรอดถามเหมือนคนอื่นๆไม่ได้

“ไม่ใช่โว้ย ฝีมือยัยริสาแหละ ฮึ๋ย แอบมาตัดตอนกูกำลังแฮงค์เมาหลับไป ตื่นมา ลาโลกแล้วผมกู”

วาเลนไทน์ฮึดฮัดอย่างไม่สบอารมณ์

“เอาน่า ถือเสียว่าตัดผมล้างซวยไป มอเตอร์ไซค์ฮ่างจะแพ้ทางเบนซ์หนุ่มหมอหรือหนุ่มวิศวะหล่อกระชากใจขับลัมโบร์ก็ไม่แปลกหรอกมึง แค่รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวย สาวสวยเลยอยากนั่งเบนซ์นั่งลัมโบร์ไม่อยากซ้อนมอเตอร์ไซค์ตากแดดสู้แสงยูวีเมืองไทยแค่นั้นเอ๊ง ฮ่าๆๆ อย่าคิดมาก เขายังไม่ได้เปิดซิงมึงเสียหน่อย เอ้า แดกๆๆ”

เต็งหนึ่งตบบ่าเพื่อนรักพลางยกแก้วเหล้ากรอกปาก

พวกเพื่อนๆต่างรู้ดีว่าวาเลนไทน์ไม่ได้รู้สึกเฮิร์ทเท่าไรนัก เพราะตอนคบกันสาวเจ้าก็มาจีบชายหนุ่มเอง จึงไม่แปลกใจนักหากหล่อนจะจากไปง่ายๆ


กลุ่มของวาเลนไทน์มีคบกันอยู่ 7 หนุ่มด้วยกันคือ วาเลนไทน์ ภัทร เบสท์ เต็งหนึ่ง ก๊วยเจ๋ง กุนซือ และกัปตันหนุ่มหล่อที่มีเอกลักษณ์เป็นคิ้วเข้มๆกับลักยิ้มเล็กๆที่แก้มดูเจ้าชู้กว่าใครเพื่อนประสาคนรูปหล่อพ่อรวย คนอื่นๆก็บ้าบอ เซอร์ ติสท์แตกไปตามประสาแต่ก็รักกันดีเพราะคบกันมารู้ไส้รู้พุงตั้งแต่มัธยม


“วะ วะ วะ ว้าววว นางฟ้ามาโปรด”

 กัปตันผิวปากแซวขึ้นพลางเพ่งสายตาไปที่ด้านหน้าร้าน ทุกคนจึงหันไปยังจุดเดียวกัน

“หยาดฟ้ามาดิน โฟร์โมสนี่โคตรสะบึ้ม แหวกหน้าผ่าหลัง ของจริงของปลอมวะ คืนนี้ได้แจ่มๆอย่างนี้กูรักกูหลงยอมตายถวายน้ำหมดตัวเลยละมึง”

เต็งหนึ่งทำหน้าเคลิ้มตาม

“นางฟ้าคงอยากมาซบอกจายกหรอกมึง ดูโน่นแฟนแม่งอย่างเทพ หล่อฉิบหายวายวอด แม่งเอ้ย เกิดมาเพื่อฆ่ากูจริงๆ”

 ก๊วยเจ๋งพูดพลางเบนทิศทางไปที่หนุ่มหล่อคมคายร่างสูงใหญ่ แค่มองระยะไกลยังสัมผัสได้ถึงเสน่ห์ร้อนแรงคุโชนของกายหนุ่มแน่นหนั่นที่ซ่อนอยู่ในเครื่องแต่งกายดูดีของเขา ยามก้าวขยับตัวล้วนเรียกสายตาสาวๆน้อยใหญ่แถมพวกเก้งกวางเสียยิ่งกว่าสาวสวยที่เขาควงมาเสียอีก

“โหย ไอ้ห่าก๊วย มึงช่างกล้าเอาหนังหน้าบ้านๆอย่างมึงไปเปรียบกับเขา พวกเรารวมกันเจ็ดคนยังสู้ยาก มึงดูเสียก่อน ทั้งสาวน้อยสาวใหญ่เก้งกวางจ้องกันตาเป็นมันแบบไม่แคร์แฟนเขาเลยนะนั่น”
เบสท์อดด่าให้ไม่ได้

 เสียงเพื่อนๆเห่าหอนแว่วเข้าหูตอนที่วาเลนไทน์ลุกออกไปเข้าห้องน้ำพอดีจึงไม่ทันได้มอง


ราตรีนี้อีกนานไกล เหล่าผองเพื่อนสังสรรค์กันอย่างสนุกสนานพอๆกับอีกหลายคนที่กำลังหฤหรรษ์บรรเลงบทรักแสนเร่าร้อนในค่ำคืนจันทร์แจ่มกระจ่าง
.
.
.
.

 “อ๊ะ อ๊ะ...อ๊า! ภีม! ภีมคะ อ๊า!...”

เสียงหวานกรีดตะเบ็งเปล่งสุดเสียง ปลายเล็บเคลือบสีสดจิกลงบนแผ่นหลังเปลือยแกร่งตามดีกรีความเสียวซ่านที่หล่อนได้รับ เสียงครางสุขสมดังเป็นระยะตามจังหวะกระแทกกระทั้นเข้าออกของร่างแข็งแกร่ง เสียงบดจูบแลกลิ้นร้อนแรงจนเตียงรักเร่าร้อนแทบจะลุกพรึบเป็นไฟ ร่างบางยวนเย้าไหวตามแรงบดจูบฟอนเฟ้นที่ไม่ว่าจะสัมผัสลงที่ใดริมฝีปากและมือหนาร้อนของเขาก็เป็นดังเหล็กร้อนที่นาบลงบนตัวหล่อน

อุณหภูมิสองร่างพุ่งสูงด้วยไฟอารมณ์ตัดกับแอร์เย็นฉ่ำ ผิวหนังชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อพราว พายุอารมณ์โหมกระหน่ำซัดไม่หยุดหย่อนอย่างจะให้นางกวางสาวสิโรราบคามือ แต่มีหรือหล่อนจะยอมให้เขาหฤหรรษ์บนเรือนร่างของหล่อนอยู่ฝ่ายเดียว ยิ่งแกนกายร้อนขนาดใหญ่ขยับเข้าออกดุดันหนักหน่วงในตัวหล่อนกระแทกจุดกระสันเสียวภายในสร้างความหฤหรรษ์ปริ่มเปรมจนพริมรตาหลังแทบไม่ติดเตียงนอน สาวสวยเซ็กซี่ไหวตัวตอบสนองรับแรงกระแทกกระทั้นดุเดือดเผ็ดมันไม่แพ้กัน เขากระแทกตัวเสนอมาหล่อนไหวรับสนองตอบดุเดือดเผ็ดมันชนิดที่ว่าถึงพริกถึงขิงร้อนแรงไม่แพ้กัน

“อ๊ะ อ๊ะ ฮ้า!”

 เสียงสาวสวยครวญครางเสียงกระเส่า

“เยี่ยม เยี่ยมมากพริม! ฮ่า!”

 เสียงชายหนุ่มชมเปาะอย่างถูกใจในรสสวาทยามพายุโหมทอนกำลังลง มือหนาเสยผมชุ่มเหงื่อปกหน้าขึ้น เหงื่อเม็ดพราวเกาะตามไรแนวขมับ

“ตาพริมบ้างละนะคะ”

สาวสวยพลิกตัวขึ้นอยู่ด้านบนคุมบังเหียนเอง ริมฝีปากอิ่มเคลือบกลอสสีสดเผยอยั่วอย่างนางเสือผู้หมายมาดพ่อกวางหนุ่ม อกอิ่มขาวคู่ตึงสวยเด่นหราจนชายหนุ่มอดที่จะยื่นมือออกไปบีบเค้นความนุ่มหยุ่นอย่างมันมือไม่ได้ เขารู้ หล่อนชอบนักล่ะยามที่มือหนาใหญ่ขยำอกอวบอย่างมันมือเพราะมันยิ่งเพิ่มความเสียวกระสันให้แก่หล่อน

ร่างขาวเนียนโน้มลงจูบรุกเร้าเสนอความหวาน ชายหนุ่มปล่อยให้หล่อนบรรเลงเอง ริมฝีปากเรียวสวยจูบเลียจากแผงอกล่ำแกร่งอย่างคนออกกำลังตลอด จูบไล่ลงดูดดุนยอดอกแข็งขึ้นไตเรียกครางพึงใจจากคำคอหนาผ่านซิกแพ็คขึ้นลูกน่าหมั่นเขี้ยว หล่อนล่ะชอบนักผู้ชายกล้ามสวยอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอกับซิกแพ็คสวยๆมันดูเซ็กซี่น่าฝังเขี้ยวอย่าบอกใคร
 
ริมฝีปากสวยละเลงประทับรอยคิสมาร์กทั้งลูบไล้ลำแขนล่ำจนหนำใจเจ้าหล่อน ผ่านมาถึงส่วนแข็งแกร่งที่แข็งขืนขึ้นสู้ หญิงสาวตาวาวอย่างเจอของถูกใจ ริมฝีปากสวยจูบลงที่โคนแท่ง ค่อยๆถอดถุงมีชัยออกทิ้งก่อนจะใช้ปลายลิ้นปรนเปรอเลียคราบน้ำรักอย่างของหวาน เสียงทุ้มครางกระเส่าอย่างถูกใจพร้อมไหวเด้งรับโพลงปากนุ่มอุ่นที่ครอบครองเจ้าโลกเขา

หล่อนดูดดุนอย่างกับของอร่อยเหมือนไอศกรีมแท่งโตที่ไม่รู้จักเบื่อจนหนำใจก่อนจะถอนปากออก หยิบถุงป้องกันฉีกออกและสวมลงด้วยปากตัวเองขณะสบตากับชายหนุ่มไปด้วยกิริยายั่วยวน ภีมพริษฐ์มองการกระทำแสนเซ็กซี่นั้นอย่างร้อนเร่า ร่างขาวผ่องแสนยั่วขยับอย่างยั่วยวนสายตา หล่อนค่อยๆทิ้งตัวลงครอบครองแท่งร้อนแรงโดยสายตานางเสือสาวจ้องมองกวางหนุ่มในอาณัติไม่วางตาจนครอบครองได้มิดลำ หล่อนนั่งนิ่งขมิบข้างในยั่วให้กวางหนุ่มกลัดมันเสียวเล่นๆด้วยแววตาซุกซนท้าทาย
ได้ผล เมื่อพ่อกวางกลัดมันของหล่อนตาลุกโชนด้วยไฟสวาทบ่งบอกถึงความต้องการพุ่งสูง ไม่หรอก หล่อนไม่ให้เขาสุขสมเร็วปานนั้น แส้เส้นที่หล่อนเตรียมไว้เซอร์ไพร์เป็นของเล่นกับเขาถูกโชว์หรา ดวงตาคู่สวยหรี่ลงยกยิ้มมุมปากก่อนจะพาดลงยังหน้าท้องแกร่ง

“เพี๊ยะ!”

“ฮ่า!..”

เสียงครางทุ้มพร้อมร่างข้างใต้ขยับเกร็งหน้าท้องแกร่ง ส่วนแข็งแกร่งของเขาในตัวหล่อนกระตุกยึกจี้จุดกระสันของหล่อนพอดี ริมฝีปากสวยเผยออย่างถูกใจกับปฏิกิริยายามพ่อกวางถูกทรมาน

“เพี๊ยะ! เพี๊ยะ! เพี๊ยะ!”

หล่อนยังพาดต่อที่ซิกแพ็คแกร่งอย่างสนุก ยิ่งเขากระตุกเกร็ง ส่วนๆนั้นก็ยิ่งกระแทกเข้าลึกในตัวหล่อน หญิงสาวกลายเป็นนางเสือร้อนสวาทที่พร้อมจะปรนเปรอทั้งเขาและตัวเอง ฟาดจนหนำใจ ใบหน้าสวยก้มลงจูบยังร่อยรอยที่ฝากไว้ รูปหน้าเรียวเงยสบตาคมขณะลิ้นร้อนสัมผัสลงยังรอยแส้ ยิ่งยั่วให้ชายหนุ่มร้อนจนขยับสะโพกสวนขึ้น สาวสวยลากเรียวลิ้นเป็นทางยาวตามร่องซิกแพ็คก่อนจะขยับตัวตรงครอบครองส่วนร้อนเพราะตัวเองก็ร้อนมากแล้วเหมือนกัน สะโพกอวบเซ็กซี่เริ่มไหวโยกเข้าจังหวะกับร่างข้างใต้

“พั่บ พั่บ พั่บ อ๊ะ อ๊า อ๊า อ๊า!”

เสียงเข้าจังหวะกระแทกกระทั้นของทั้งคนอยู่บนและล่างดังขึ้นรัวเร็ว ก่อนพ่อกวางในคราแรกจะกระชับสะโพกอวบจัดการคุมจังหวะเองกระแทกเน้นๆแรงๆจนนางเสือสาวกรีดร้องครวญครางสุดเสียงก่อนจะทิ้งตัวลงหมดเรี่ยวแรงบนอกแกร่งอย่างลูกแมวเชื่องๆ

สองหนุ่มสาวเต็มอิ่มกับกิจกรรมรักที่ผ่านมาหลายชั่วโมง ริมฝีปากได้รูปของชายหนุ่มจูบแผ่วเบาที่หน้าผากมนชื้นเหงื่อ ก่อนจะพากันหลับใหลเมื่อล่วงเลยค่อนคืนมานานแล้ว



 :o8:

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)
«ตอบ #5 เมื่อ07-01-2015 22:00:25 »

 :mew1:

ออฟไลน์ March. Marcia

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 205
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-5
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)
«ตอบ #6 เมื่อ07-01-2015 22:35:45 »

น้องไทน์ของแมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม่
ในที่สุดก็มาเล้าแล้วววว แงงงงงงงงงงงงงงงงงงง้ ><
รอค่าาาา รออ่านนนนนนนน้าาาาา #ดี๊ด๊าเป็นที่สุด 5555

ออฟไลน์ angel_Z4

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 784
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)
«ตอบ #7 เมื่อ07-01-2015 22:47:28 »

 :a5: :a5: :a5:

อุตะ!นางแร๊งส์!!

 :impress2:น้องไทน์~~น่ารักๆ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)
«ตอบ #8 เมื่อ07-01-2015 23:08:50 »

ดราม่าสุดๆ เจอตอนเมื่อกี้ไปก็หน้ามืดไปชั่วอ่านตอนที่ 2 จบ

รอ nc คู่หลักค่ะ   เราหื่นมาก

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)
«ตอบ #9 เมื่อ07-01-2015 23:30:09 »

ว้ายเอ็นซีชายหญิง  ผิดสำแดงค่า ขอชายชายมาแก้พิษด่วนๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)
« ตอบ #9 เมื่อ: 07-01-2015 23:30:09 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire) #Passion.3# 08/01/58
«ตอบ #10 เมื่อ08-01-2015 19:15:21 »

Passion.3


“พี่พริมยังไม่กลับหรือคะ”

เสียงหวานใสของสาวพนักงานรุ่นน้องเอ่ยถามสาวสวยตาคมหุ่นระหงที่กำลังขีดๆเขียนๆง่วนอยู่กับงานตรงหน้า

“อีกแป๊บจ้ะ เดี๋ยวเคลียร์ตรงนี้เสร็จแล้วก็จะกลับแล้วล่ะ”

พริมรตาบอกยิ้มๆขณะง่วนกับงานดีไซด์เสื้อผ้าสำหรับซีซั่นหน้าอย่างขะมักเขม้น

“ว่าแต่ เอ...วันนี้ยังไม่เห็นราชรถสุดหล่อแวะมาเลยน้า”

เสียงใสพูดเย้าถึงคนรักหนุ่มหล่อของหล่อนพลางทำท่าชะเง้อชะแง้มองออกไปที่ประตูทางเข้าร้านมองหาเจ้าของร่างสูงที่มักพาใบหน้าหล่อเหลาชวนเคลิ้มฝันแวะมาเป็นประจำ พริมรตายกยิ้มเบาๆ

“สงสัยประชุมติดพันยาวละมัง วันนี้น่าจะได้กลับเอง”

 พริมรตานึกถึงนักธุรกิจหนุ่มอนาคตไกลเจ้าของหัวใจหล่อนที่บางครั้งงานก็ยุ่งรัดตัว แต่หญิงสาวก็เข้าใจเขาดี
แฟชั่นดีไซด์เนอร์สาวสวยเจ้าของห้องเสื้อชื่อดังภายใต้แบรนด์ตัวเองเริ่มเก็บของลงโต๊ะเมื่องานออกแบบเสื้อฟ้าสำหรับซีซั่นหน้าเสร็จเรียบร้อย

Tru Tru...

เสียงสมาร์ทโฟนแบรนด์ดังดังขึ้นดึงความสนใจหล่อนด้วยเบอร์ที่ตั้งไว้เฉพาะคนพิเศษ

“ว่าไงคะสุดหล่อ”

พริมรตากรอกเสียงหวานทรงเสน่ห์กลับไป

“เดี๋ยวผมต้องพาลูกค้าไปเลี้ยงดินเนอร์ต่อ ไม่แน่ใจว่าจะกลับกี่โมง พริมทานข้าวก่อนได้ไหมไม่อยากให้รอ”

“ได้ค่ะ ภีมไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวพริมกลับเองได้ค่ะ”

หล่อนตอบกลับเสียงหวานให้เขาเบาใจ หลังจากคุยกันอีกไม่นานคนรักหนุ่มจึงวางสายไป พริมรตาอมยิ้มมองหน้าจอมือถือภาพคู่ของหล่อนกับเขา

“ภีมพริษฐ์”

ชื่อนี้ทำให้หลายคนต่างนึกถึงหนุ่มหล่อสุดร้อนแรง เซ็กซี่ เร่าร้อนที่หล่อนพิสูจน์ด้วยตัวเองมาแล้วกับบทรักร้อนเร่าในค่ำคืนสุดแสนวิเศษชวนถวิลหา สะโพกสอบสุดเซ็กซี่เคลื่อนโหมเข้าหาอย่างร้อนระอุดุจพายุเพลิงราคะที่ซัดเข้าหาไม่หยุดหย่อนจนหล่อนอดจะกัดริมฝีปากล่างไม่ได้เมื่อนึกถึงความอิ่มเอมในค่ำคืนที่ผ่านมา ผู้ชายที่ผู้หญิงหลายคนฝันหาปรารถนาถึง แค่ได้ร่วมเตียงเป็นคู่นอนเพียงคืนเดียวของเขาพวกหล่อนก็ถือว่าบรรลุจุดประสงค์แล้ว

และผู้ชายคนนั้นก็เลือกหล่อน

ภีมพริษฐ์เลือกพริมรตา

หล่อนเป็นคนรักที่เขาควงออกหน้าออกตาท่ามกลางสายตาละห้อยเสียดายของผู้หญิงหลายๆคนที่มองตามหลังแกมอิจฉากับความสมกันของคู่หนุ่มหล่อสาวสวย

พริมรตายกยิ้มกริ่มพลางเคลียร์ของเตรียมกลับ มือบางหยิบตลับแป้งพัพและลิปสติกมาแต่งเติมสีสันให้ตัวเอง เป็นอันว่าวันนี้หล่อนฟรี มีเวลาได้โบยบินก่อนกลับไปนิทราที่คอนโด หญิงสาวคิดกิจกรรมดีๆให้ตัวเอง หล่อนไม่ใช่ผู้หญิงประเภทติดกับแฟนเป็นตังเม หล่อนยังรักอิสระ ชอบทำอะไรตามใจตัวเอง

 มือเรียวหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นกริ๊งกร๊างหาเพื่อนสาวทันที

“ว่าไงจ๊ะ วันนี้คุณแฟนสุดที่รักติดงานละสิถึงโทรมาได้”

 น้ำเสียงหวานใสปลายสายกรอกเสียงรับสายอย่างรู้ทัน

“รู้ดีจริงนะ” พริมรตาเอ่ยยิ้มๆ

“แหงอยู่แล้ว ถ้าแฟนไม่ติดงาน คุณพริมรตาหรือจะโทรหาเพื่อน” ปลายสายยังไม่เลิกแหย่

“ทำเป็นน้อยใจไปได้น่า เที่ยวกันออกบ่อย ว่าแต่วันนี้ที่ไหนดี”

หญิงสาวชวนน้ำเสียงติดตื่นเต้นนิดๆเพราะเพิ่งเห็นเพื่อนสาวอัพอินสตาแกรมร้านน่าไป

“อืม แกกลับไปอาบน้ำก่อนก็แล้วกัน แล้วเดี๋ยวฉันแวะไปรับที่คอนโดหาอะไรกินรองท้องก่อน แล้วจะพาไปที่แจ่มๆ รับรองถ้าคุณภีมอยู่ไม่มีทางปล่อยแกไปแน่ๆ”

“แสดงว่าหนุ่มๆเยอะละสิ พูดแบบนี้” สาวสวยกระเซ้าเพื่อนอย่างรู้ใจ

“ก็นะ นิดนึง หนุ่มนักศึกษาหล่อๆเพียบเลย มองไม่หวาดไม่ไหว”

“เดี๋ยวนี้เปลี่ยนไปกินเด็กแล้วหรือไง”

“ก็เด็กน่ากินนี่แก ขาวๆใส อ๊าย เด็กสมัยนี้ทำไมหล่อกันนักนะ เห็นแล้วเสียดาย ไม่น่าเกิดเร็วเลยฉัน”

“หึ เป็นงั้นไป ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวเจอกันนะ”

 หญิงสาววางสายพลางหย่อนสมาร์ทโฟนลงกระเป๋า ลุกขึ้นก้าวฉับๆออกจากร้านไป


เรือนร่างระหงขาวผุดผ่องภายใต้สายน้ำจากฝักบัวดูเซ็กซี่เย้ายวนสายตา หล่อนปล่อยให้สายน้ำไหลลงผ่านผิวเนื้อนวลเนียนขณะมองดูเรือนร่างตัวเองในกระจกด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก มือบางเอื้อมปิดก๊อกน้ำ ฉวยผ้าขนหนูเช็ดตัวพอหมาดก่อนจะพันกายเปิดประตูเดินเข้าส่วนห้องนอนตรงไปยังตู้เสื้อผ้าหยิบชุดที่หล่อนออกแบบเอง ชุดที่มีเพียงชุดเดียวไม่ได้แขวนโชว์ในร้าน

“โอ้ แม่เจ้า ชุดเริ่ดขนาดนี้ ขอไฟเขียวคุณภีมหรือยังคะ คุณเพื่อน”

“ภีมยังไม่เห็น เพิ่งออกแบบเสร็จ กะว่าจะใส่ไปเช็คเรตติ้งเสียหน่อย”

หล่อนตอบสบายๆ แค่ฟังจากน้ำเสียงของเพื่อนก็พอจะบอกในฝีมือการดีไซน์ของหล่อนได้ระดับหนึ่ง

“เช็คเรตติ้งคนหรือเรตติ้งชุดกันแน่คะ”

“ฉันมีภีมสำหรับทุกคำตอบที่ผู้หญิงต้องการอยู่แล้วน่า ไปเถอะ”

 หล่อนตัดบทซ่อนสายตาอ่านไม่ออกไว้มิดชิดพลางก้าวนำออกไปอย่างนางพญา


ชุดเดรสสั้นเกาะอกรัดรูปสีดำพอดีตัวขับผิวขาวหยวกให้ยิ่งขาวผ่องชวนมองและน่าหลงใหล ยิ่งไม้แขวนเสื้อหุ่นดีเป๊ะทุกสัดส่วนอยู่แล้วยิ่งเรียกสายตาเหลียวหลังได้ไม่ยาก ยามเรียวขาเนียนขาวย่างกรายผ่าน ความเป็นแฟชั่นดีไซด์เนอร์ของหล่อนทำให้ทุกท่วงท่าทุกสัดส่วนดูสง่าอย่างนางพญา สวยงาม ตราตรึงใจคนมองจนเคลิ้มตาม

“ชุดเริ่ด ไม้แขวนเสื้อก็เริ่ด รวมกันแล้วเพอร์เฟคสุด หนุ่มๆงี้มองเหลียวหลังเลยนะคะคุณเพื่อนพริม”

กระแสเสียงใสเอ่ยแซวยามร่างระหงพาตัวเองมาถึงโต๊ะท่ามกลางสายตาสนใจหลายคู่ทั้งแต่ทางเข้าร้าน

“สนใจแวะได้ที่ร้านนะคะ ชุดนี้เพิ่งออกแบบเสร็จ ยังไม่ได้ลงคอลเล็คชั่นไหน”

พริมรตาพูดยิ้มๆพลางยกแก้วขึ้นจิบเบาๆ

 “โห หนุ่มๆพวกนั้นยังมองพริมไม่หยุดเลยนะ ทั้งหนุ่มทั้งทอมด้วย เสน่ห์แรงจริงจริ๊งเพื่อนฉัน”

เสียงเพื่อนสาวยังรายงานสถานการณ์ไม่หยุด พริมรตาเหลือบหางตามองนิดหนึ่งพลางยกยิ้ม

“แต่ก็ได้แต่มองเท่านั้นแหละ เพราะมีหนุ่มหล่อสุดเซ็กซี่ตีตราจองไว้แล้ว เมื่อไหร่จะมีข่าวดีล่ะคะคุณเพื่อน” 

อีกเสียงหนึ่งถามขึ้น

“ไม่รู้สิ แบบนี้ก็ชิลๆดีอยู่แล้ว”

 สาวสวยตอบแบบไม่อนาทรร้อนใจเท่าไรนักขณะมือยกแก้วเครื่องดื่มขึ้นจิบเบาๆ

“ดูหล่อนไม่รีบเลยนะคะ มีแฟนหล่อรวยขนาดนั้น แต่เอ...เพื่อนเรามีดีอะไรนะ ถึงได้มัดใจคุณภีมเสียอยู่หมัด”

“แหม แกก็ถามมาได้ เห็นๆกันอยู่ว่า นางสวย นางเริ่ด เฉิดขนาดนี้ผู้ชายจะไปไหนรอดล่ะคะ”

“แกกับคุณภีมนี่เหมาะสมกันจริงๆนะพริม ว่าแต่ แกยังไม่อยากมีครอบครัวจริงๆหรือ คุณภีมได้คุยเรื่องแต่งงานบ้างหรือเปล่า”

“ก็คุยๆบ้าง ไม่รู้สิแก ฉันรู้สึกดีนะที่คบกับเขา ฉันรู้สึกตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีท่ามกลางผู้หญิงหลายๆคนที่พยายามเข้าหาเขา”

พริมรตาพูดพลางสายตาเหลือบไปเห็นใครบางคนคุ้นตา คิ้วเรียวสวยขมวดเข้าหากันเล็กน้อยก่อนปรับให้เป็นปกติเหมือนเดิมไม่ให้ผิดสังเกต

“เอ่อ คุณผู้ชายโต๊ะนั้นฝากมาให้คุณผู้หญิงท่านนี้ครับ”

 เสียงทุ้มของบริกรหนุ่มเอ่ยขณะยื่นถาดวางเครื่องดื่มในแก้วทรงสูงมาตรงหน้าพริมรตา สาวสวยเหลียวมองไปยังโต๊ะเป้าหมาย สายตาหวานคมสบกับบุรุษร่างสูงเครื่องหน้าหล่อเหลาที่กำลังมองตรงมาที่หล่อนเช่นกัน

“ว้าว เข้ามานั่งก้นยังไม่ทันร้อนก็มีหนุ่มหล่อมาขอเชื่อมสัมพันธ์ด้วยแล้ว อิจฉาคนสวยชะมัด”

เสียงหนึ่งในบรรดาเพื่อนสาวโสดเฉพาะกิจดังขึ้น

“แต่อย่างไรเสีย คุณภีมก็หล่อกว่าอยู่ดี”

ข้างที่ถือฝ่ายภีมพริษฐ์ก็ออกตัวเชียร์ทันทีเหมือนกัน

“นี่ก็เข้าข้างคุณภีมตลอด” อีกเสียงเอ่ยขึ้นมาบ้าง

“หรือแกจะเถียงว่าไม่จริง คนนี้ดูดีก็จริง แต่คุณภีมหล่อกว่าเห็นๆ จริงไหมคะคุณเพื่อน”

เพื่อนสาวยื่นใบหน้ามากระเซ้า พริมรตาไม่ตอบคำถามแต่หันไปบอกกับบริกรแทน

“ช่วยบอกเขาด้วยนะคะ ฉันไม่รับของคนแปลกหน้า”

บริกรหนุ่มพยักหน้าเข้าใจพลางเลี่ยงออกไป

“ว๊าย แรงค่ะ นางปฏิเสธแบบไร้เยื่อใย”

สาวๆต่างหัวเราะคิกคักกับปฏิกิริยาของหล่อน พริมรตาอมยิ้ม หญิงสาวแค่อยากมาเที่ยวปลดปล่อยอารมณ์บ้างเท่านั้น ซึ่งภีมพริษฐ์เองก็ไม่ได้ห้าม ปกติชายหนุ่มจะมาด้วยตลอด น้อยครั้งเต็มทีที่จะปล่อยให้หล่อนฉายเดี่ยวและต้องมากับเพื่อนเท่านั้น

“งั้นถ้าไม่อยากเป็นคนแปลกหน้า ผมขอทำความรู้จักกับคุณได้ไหมครับ”

ร่างสูงบอกขณะทิ้งตัวลงนั่งใกล้ๆพลางยื่นแก้วเครื่องดื่มให้

“พอร์ชครับ”

 ชายหนุ่มบอกทั้งสายตาคมจ้องหล่อนไม่วางตา พริมรตากลอกตานิดหนึ่ง

“ฉันมีแฟนแล้วนะคะ คงไม่สะดวกใจทำความรู้จักกับใครเท่าไหร่”

“รู้อยู่แล้วล่ะครับ สวยขนาดนี้ไม่มีสิแปลก รู้จักเป็นเพื่อนกันไว้ก็ไม่เสียหายนี่ครับ”

“อย่างนั้นหรือคะ แค่เพื่อนสินะคะ”

 หล่อนเอ่ยทวนอย่างรู้ทันจุดประสงค์ของอีกคน ไม่มีเสียหรอกคนที่จะเข้าหาหล่อนเพียงเพราะหวังจะเป็นเพียงเพื่อน

“ครับ แค่เพื่อน”

ชายหนุ่มยืนยัน แต่สายตาสื่อความหมายว่าน่าจะมีคำต่อท้าย

“แต่แววตาของคุณนี่ ดูเหมือนจะไม่ใช่อย่างนั้นเลยนะคะ”

สาวสวยบอกอย่างรู้ทัน

“หรือครับ แล้วแววตาของผมดูเป็นแบบไหนละครับ”

 ชายหนุ่มเอ่ยถามทั้งที่สายตาไม่ละไปจากใบหน้าสวยแม้แต่น้อย

“คุณมองเหมือนฉันเป็นเนื้อที่คุณพร้อมจะเขมือบทุกเมื่อ บอกไว้ก่อนนะคะ แฟนฉันดุ ระวังคุณจะโดนตะปบเอาได้”

หญิงสาวบอกยิ้มๆไม่จริงจังนักกับคนที่ผ่านมาเจอกันแค่คืนเดียว

“ว่ากันว่าอะไรที่ได้มายากๆมันก็ยิ่งท้าทาย อะไรที่เจ้าของยิ่งหวงมันก็ยิ่งอยากได้มาไว้ครอบครองท่าจะจริงนะครับ แล้วทำไมวันนี้เขาถึงปล่อยคุณมาคนเดียวได้นะ รู้ไหมครับ ตั้งแต่คุณก้าวเท้าเข้ามาในร้าน ทุกคนก็เหมือนถูกมนต์สะกดของคุณกันทั้งนั้น”

ชายหนุ่มมองด้วยแววตาเสน่หาเต็มเปี่ยม หญิงสาวยกยิ้มพลางจิบไวน์มองตอบด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

...อย่างนายมันก็แค่ลูกเสือฝึกหัดเท่านั้นแหละ ต้องภีมเท่านั้น ถึงจะเรียกว่าราชสีห์...

หล่อนคิดในใจเงียบๆ ขณะกรอกไวน์ชั้นดีลงคอ

คืนนี้เป็นของหล่อน

ราชสีห์ไม่อยู่ กวางสาวร่าเริง

หึ

.

.

.

“อะไรนะ! ตาหนึ่งถูกรถชนอย่างนั้นหรือ? ได้ๆ เดี๋ยวจะรีบไปเดี๋ยวนี้”

 น้ำเสียงตื่นตระหนกจากคนข้างๆทำให้พริมรตาที่กำลังคาดเข็มขัดนิรภัยหันไปมอง

“ตาหนึ่งถูกรถชนหรือ อาการเป็นไงบ้าง”

“สาหัสน่าดู ตอนนี้อยู่ห้องไอซียูละพริม”

 น้ำเสียงหวานเครือด้วยความกังวล พริมรตาปลอบประโลมเพื่อนรักให้มีสติ ก่อนทั้งคู่จะเปลี่ยนปลายทางไปที่โรงพยาบาลแทน



“ดึกมากแล้ว เดี๋ยวฉันไปส่งแกกลับไปพักผ่อนก่อนนะ”

“ไม่ต้องหรอก แกอยู่เฝ้าน้องไปเถอะ เดี๋ยวฉันกลับแท็กซี่เองได้”

“แต่มันอันตรายนะพริม ฉันเป็นห่วง แท็กซี่เดี๋ยวนี้ใช่ว่าจะไว้ใจได้”

“ไม่เป็นไรหรอกน่า เดี๋ยวฉันจะโทรหาภีม ฉันไปก่อนนะ”

“โอเค ถึงแล้วโทรบอกด้วยล่ะ”

“อืม แกทำใจดีๆนะ น้องแกคงไม่เป็นไรมากหรอก”

พริมรตาบีบมือเพื่อนรักให้คลายกังวลก่อนเดินออกมา มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์หาคนรัก

   ...เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้...
   

“หึ ทำงานจนไม่ได้สนใจอะไรตามเคย โทรศัพท์แบตฯหมดยังไม่รู้ตัวอีก”

หญิงสาวส่ายหน้ายิ้มๆให้เบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อไม่ได้ของคนรัก

   “เอาเถอะกลับเองก็ได้”

ร่างสูงระหงแบบฉบับนางแบบเดินกระฉับกระเฉงออกมาด้านหน้าโรงพยาบาลเพื่อมองหารถแท็กซี่ ตอนนี้ล่วงค่อนคืนมานานแล้ว ถนนค่อนข้างโล่งพอดู ยืนรอไม่นานรถแท็กซี่เปิดไฟว่างกำลังวิ่งมาพอดี หญิงสาวไม่รอช้าที่จะโบก

“ไปที่...นะคะ”

พริมรตาบอกปลายทางแก่คนขับขณะรถเคลื่อนตัวออกไป สายตาไม่ลืมสังเกตบัตรประจำตัวคนขับและแอบถ่ายรูปเผื่อไว้ และเพื่อความรอบคอบหล่อนจึงส่งภาพนั้นเข้าไลน์คนรักและเพื่อนรักอีกที ระหว่างทางหญิงสาวมองทางโดยตลอด ข่าวคราวทุกวันนี้ทำให้หล่อนค่อนข้างระวังตัว

“นี่ไม่ใช่ทางที่ฉันบอกนี่คะ!”

พริมรตาท้วงขึ้นเมื่อคนขับเริ่มออกนอกเส้นทางที่ไม่คุ้น สัญชาติญาณการระวังภัยตื่นตัวในทันที

“อ๋อ ผมจะพาไปทางลัดน่ะครับ”

คนขับหันมายิ้มตอบ พริมรตาจับสัญญาณอันตรายในแววตานั้น ที่ผ่านมาเสือสิงห์กระทิงแรดล้วนเข้ามาหาหล่อนมากมาย ภัยรอบด้านที่ผู้หญิงมักประสบทำให้หล่อนไม่ประมาท

“เท่าที่ฉันรู้ ทางลัดมันไม่ใช่ทางนี้นี่คะ หยุดรถเดี๋ยวนี้!!”

พริมรตาตะคอกเสียงดังเมื่อเริ่มไม่ชอบมาพากล ไม่ใช่ว่าคนขับแท็กซี่ทุกคนจะไม่ดี แต่บางทีมันก็มีวายร้ายแฝงตัวเข้ามาในอาชีพนี้เหมือนกัน

“เอาน่า ผมไม่พาคุณหลงหรอกน่า รับรองสวยๆแบบนี้ส่งถึงที่”

วายร้ายเริ่มเผยหางทำท่ากะลิ้มกะเหลี่ยชำเลืองมองร่องอกอิ่มขณะขับรถออกนอกเส้นทางเรื่อยๆ

“แกนั่นแหล่ะที่จะถึงที่ตายถ้าไม่หยุดรถ! หยุดเดี๋ยวนี้!”

วัตถุสีดำเมี่ยมจ่อเข้าที่ขมับคนขับคิดไม่ซื่อทันที หล่อนแสยะยิ้มอย่างเป็นต่อเมื่อเห็นดวงตาเบิกโพลงอย่างตกใจ

“เฮ้ย!”

“ฉันเป็นตำรวจปลอมตัวมาทำคดี หยุดความคิดเลวๆที่แกคิดจะทำแล้วพาฉันออกไปจากตรงนี้!”

 หล่อนแอบอ้างเป็นผู้พิทักษ์สันติราชตะคอกเสียงดังอย่างอุกอาจ

“ครับๆ พากลับแล้วครับ”

 คนขับกลัวหัวหดละล่ำละลักทำท่าจะเลี้ยวรถพากลับ แต่

เอี๊ยด! พลั่ก!

ทุกอย่างกลับตาลปัตรเมื่อคนร้ายใช้จังหวะที่หล่อนเหลือบมองทางเบรกรถเสียงดังจนหญิงสาวเสียจังหวะเข้าแย่งปืนจากหล่อน เกิดความชุลมุนขึ้นภายในรถ ปืนหลุดจากมือพริมรตา สรีระที่บอบบางกว่าเพลี่ยงพล้ำเมื่อถูกชกเข้าที่หน้าท้อง ร่างบางจุกจนตัวงอ ใบหน้าหื่นกรามแสยะยิ้มเลวขณะไล่สายตาสำรวจเรือนร่างหล่อน พริมรตารู้สึกขนลุกสะอิดสะเอียด ชุดสวยเซ็กซี่ของหล่อนกำลังเป็นดาบสองคมกรีดทำลายชีวิตหล่อน

“ภีมคะ ช่วยพริมด้วย”

 ใบหน้าหล่อเหลาของคนรักปรากฏขึ้นในความคิด ความกลัวแล่นริ้วขึ้นในใจ หญิงสาวนึกภาวนาให้ใครสักคนผ่านมาแถวนี้แม้ความหวังจะริบหรี่เต็มที

“แม่ง เอามันตรงนี้แหละวะ ขาวฉิบหาย ขาวจั๊วน่าเจี๊ยะ”

วายร้ายพูดขณะใช้มือหยาบลูบเรียวขางาม

“เฮ้ย! พลั่ก! ผลั๊วะ! ตุบ!”

หล่อนรู้ว่าชีวิตจริงไม่ใช่ละคร แต่ก็รู้สึกโล่งใจเมื่อมีมือๆหนึ่งกระชากศีรษะคนร้ายออกไปจากตัวหล่อน เสียงการต่อสู้ดังขึ้น หล่อนไม่รู้ฝ่ายใดเพลี่ยงพล้ำฝ่ายใดได้เปรียบ มือบางรีบควานหาปืน

“เปรี้ยง!”

พริมรตาตัดสินใจยิงขู่ขึ้นฟ้าหนึ่งนัด ได้ผล เมื่อคนร้ายหยุดการต่อสู้ลงรีบหนีอย่างรวดเร็ว หญิงสาวมองแผ่นหลังร่างสูงโปร่งของผู้ชายที่กระชากมัจจุราชออกไปจากชีวิตหล่อน ชายหนุ่มใช้หลังมือเช็ดคราบเลือดติดริมฝีปากหันกลับมาหาหล่อน

“คุณปลอดภัยนะ”

ใบหน้าขาวสะอาดหล่อเหลาเอ่ยถามเสียงนุ่ม

“กำลังแย่เลยคะ ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริงๆ”

 พริมรตาถอนใจโล่งอกรู้สึกเหมือนได้ชีวิตใหม่อีกครั้ง

“รีบไปเถอะครับ เดี๋ยวผมไปส่ง คุณไว้ใจผมไหม”

 เสียงนุ่มเอ่ยถามพลางมองใบหน้าหล่อน พริมรตานิ่งไป ก่อนที่คนๆนั้นจะหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาหยิบบัตรบางอย่างส่งให้หล่อนดู

“ถ่ายรูปเก็บไว้เพื่อความอุ่นใจก็ได้ครับ”

เขาบอกอีกที พริมรตาพยักหน้าพลางเดินเข้าไปหยิบกระเป๋าในรถและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปเขาเก็บไว้

ร่างสูงเก็บบัตรลงกระเป๋าสตางค์ไว้ตามเดิมก่อนจะเดินนำพาหล่อนไปที่รถมอเตอร์ไซค์จอดไว้ใกล้ๆ ที่จริงเขาเอะใจตั้งแต่เห็นรถแท็กซี่เลี้ยวเข้าซอยร้างนี่โดยที่มีผู้โดยสารเป็นผู้หญิงยามวิกาลแล้วจึงขี่รถตามมาดู

“ใส่เสื้อคลุมผมไว้ก่อนดีกว่านะครับ ลมมันแรงเดี๋ยวจะไม่สบาย”

“ขอบคุณค่ะ”

หญิงสาวเอ่ยขณะยื่นมือไปรับเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์มาสวมทับไว้ ร่างสูงโปร่งสตาร์ทเครื่องออกเดินทางโดยมีหล่อนนั่งไพล่ซ้อนไปด้วย

พริมรตามองแผ่นหลังคนตรงหน้าโดยไร้ซึ่งการพูดคุยอะไร มีหลายคำที่อยากบอกแต่มันก็ตื้อจนไม่รู้จะพูดอะไรนอกจากบอกทางแก่สารถี ถนนตอนดึกโล่ง เขาขี่รถค่อนข้างเร็วเพื่อพาหล่อนไปยังจุดหมาย

สายฝนเทกระหน่ำลงมาเมื่อขี่มาสักพัก พริมรตาไหล่ห่อกระชับเอวคนขับแน่นขึ้น ชายหนุ่มชะลอความเร็วลงแวะร้านเซเว่นข้างทาง

“ไหวไหมครับ ยังกลัวอยู่ไหม”

เสียงนุ่มถามพลางยื่นเครื่องดื่มร้อนในแก้วกระดาษให้หล่อนดื่มคลายหนาวระหว่างรอฝนซาหน้าร้านเซเว่น

“ไม่เป็นไรค่ะ ถ้าไม่ได้คุณฉันต้องแย่แน่ๆ เผลอๆพรุ่งนี้อาจได้เป็นข่าวหน้าหนึ่งมีกระดาษหนังสือพิมพ์ปิดหน้าหรือเปล่าก็ไม่รู้”

หล่อนพยายามพูดติดตลกทั้งที่ตอนนั้นรู้สึกกลัวไม่น้อย แต่เมื่อผ่านมันมาได้ ความกลัวก็ลดลงไป

“ดีแล้วละครับที่คุณปลอดภัย เดินทางกลางคืนอันตราย น่าจะมีเพื่อนไปไหนมาไหนด้วยนะครับ”

“ฉันสะเพร่าเอง คิดว่าจะดูแลตัวเองได้ดีกว่านี้”

หล่อนบอกเสียงอ่อยเหมือนเด็กสำนักผิด

“คุณเองก็เปียกหมดแล้ว”

หญิงสาวยื่นผ้าเช็ดหน้าให้เมื่อหันมาเห็นใบหน้าใสมีหยดน้ำร่วงจากเส้นผมลู่ลงสู่ใบหน้า ชายหนุ่มรับไปซับๆก่อนจะยื่นคืนแก่หล่อนพร้อมรอยยิ้มบาง พริมรตาเห็นใบหน้าเขาชัดๆก็คราวนี้ ใบหน้าขาวใสหล่อเหลาชวนมองไม่น้อย วูบหนึ่งที่สบตากันหญิงสาวรู้สึกอุ่นซ่านขึ้นในหัวใจแปลกๆ พริมรตายิ้มบางตอบ แพขนตาหนาหลุบลงต่ำซ่อนอาการประหม่า เป็นครั้งแรกที่หล่อนรู้สึกแบบนี้จากดวงตาคู่อบอุ่นที่ไม่มีแววปรารถนาในตัวหล่อนเหมือนหลายๆคนที่ผ่านเข้ามา

ทั้งคู่ต่างยืนมองสายฝนโปรยปรายข้างๆกัน

“ฝนซาแล้ว ไปกันเถอะครับ อดทนอีกหน่อยก็ถึงแล้ว”

 เขาบอกพลางเดินนำไปรอที่รถ เมื่อหล่อนเดินตามไปมือหนากว่าก็สวมหมวกกันน็อคให้แก่หล่อน

“คุณสวมไว้ดีกว่านะครับ เดี๋ยวจะไม่สบาย”

 เขายิ้มให้น้อยๆ ดวงตาคู่สวยแสดงออกซึ่งความปรารถนาดี ขณะที่อีกฝ่ายกำลังติดตัวล็อกให้ความรู้สึกบางอย่างกระตุกวาบยามที่หล่อนสบตาเขาในระยะประชิด แววตาที่แสนอ่อนโยนพาใจหล่อนแกว่งเบาๆ

“แล้วคุณล่ะคะ”

“นี่ครับ”

เขาชูหมวกไหมพรมสีดำพลางสวมให้ตัวเอง ร่างสูงคร่อมบนรถพลางสตาร์ทเครื่อง หญิงสาวก้าวขึ้นนั่งซ้อนออกตัวไปด้วยกัน ระหว่างทางพริมรตามองแผ่นหลังตรงแน่วตรงหน้านิ่ง แม้ไม่หนาเท่าภีมพริษฐ์แต่ก็ให้ความรู้สึกแน่วแน่มั่นคงดุจขุนเขาที่ต้านพายุกระหน่ำได้โดยไม่พังทลาย มือบางกระชับเอวอีกฝ่ายแน่นขึ้นรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ความรู้สึกมันบอกว่าคนๆนี้จะพาหล่อนไปยังปลายทางโดยปลอดภัย ใบหน้ารูปไข่เอียงพิงแผ่นหลังเขานิดๆอย่างลืมตัว

หล่อนรักภีมพริษฐ์ หล่อนรู้

แต่ความรู้สึกอุ่นๆนี้หล่อนก็อธิบายกับตัวเองไม่ได้เหมือนกัน

.

.

.

.

“ดึกขนาดนี้แล้วหรือ”

เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นเมื่อปิดเอกสารหน้าสุดท้ายลงหลังจากจรดปลายปากกาลงลายเซนเสร็จ มือหนาเสียบปากกายี่ห้อแพงเข้าที่ ขยับตัวคลายอาการเมื่อยขบเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่ข้างฝาผนัง ปกติถ้าเคลียร์งานเสร็จดึกมากๆเขาก็มักจะค้างคืนที่ห้องทำงานเลย

“มือถือแบตฯหมด ถึงว่าเงียบๆ พริมจะกลับถึงบ้านหรือยังนะ”

 เขาพึมพำขณะชาร์จโทรศัพท์ รอสัญญาณเครื่องเปิดไม่นานก็มีข้อความไลน์จากคนรักส่งเข้ามา ชายหนุ่มเปิดดู อมยิ้มเล็กๆเมื่อเห็นคนรักส่งรูปคนขับแท็กซี่ที่เจ้าตัวคงจะโดยสารกลับคอนโดให้เขาดู ไม่ใช่เรื่องใหม่เพราะภีมพริษฐ์บอกให้คนรักทำแบบนี้ทุกครั้งเวลาที่จำเป็นจะต้องใช้บริการรถแท็กซี่แทนการขับรถเอง มือหนากดโทรออกหาคนรักเมื่อดูข้อความที่ส่งมาแล้ว

Tru…Tru…Tru

รอสายอยู่สักพัก ปลายสายก็กดรับ ชายหนุ่มรีบกรอกเสียงลงไปทันที

“กลับถึงห้องนานหรือยังครับ”

“สักพักแล้วค่ะ พริมเพิ่งอาบน้ำเสร็จ”

ปลายสายตอบกลับมาเสียงหวาน แค่ได้ยินเสียงหัวใจของเขาก็ชุ่มฉ่ำเหมือนได้น้ำฝนชโลม

“งั้นรีบเข้านอนนะครับ คิดถึงนะ พรุ่งนี้เดี๋ยวผมแวะไปรับนะครับ”

“เอ่อ...ค่ะ”

 เสียงหวานชะงักคำบางคำที่อยากจะบอกคนรักไว้ เปลี่ยนเป็นรับคำแทนเสียอย่างนั้น

“ฝันดีครับ”

เจ้าของเสียงทุ้มวางสายไปแล้ว ภีมพริษฐ์คงเห็นว่าดึกแล้วจึงไม่อยากกวนเวลาพักผ่อนของหล่อน ตัวเขาเองคาดว่าน่าจะเพิ่งเคลียร์งานเสร็จ

“เดี๋ยวค่อยบอกทีหลังก็ได้มั้ง”

หล่อนพึมพำขณะยีผมไปด้วย ดวงตาคู่หวานคมเหลือบมองเสื้อแจ็กเก็ตยีนส์ที่วางพาดไว้บนโซฟาพลางนึกถึงใบหน้าเจ้าของเสื้อ

ร่างระหงเดินออกไปยังระเบียงด้านนอกมองดูทัศนียภาพยามค่ำคืนของเมืองใหญ่ผ่านสายฝนโปรยปรายบางๆ นึกถึงใบหน้าขึ้นสีท่าทางเก้อเขินของเขาตอนที่หล่อนจะถอดเสื้อส่งคืนให้ พริมรตารู้ว่าชุดของหล่อนค่อนข้างวาบหวิวเน้นเรือนร่างและร่องอกเต่งตูมขนาดไหน และผู้ชายส่วนมากก็มักจะกระโจนเข้าหาหล่อนเพราะเรือนร่างยวนเย้านี่ทั้งนั้น เว้นเสียก็แต่เขาคนนี้เป็นคนแรกที่ไม่มีท่าทางแบบนั้นมิหนำซ้ำยังแสดงท่าทีเก้อเขินหล่อนเสียอย่างนั้น หญิงสาวอดจะอมยิ้มเล็กๆไม่ได้เมื่อนึกถึงท่าทางเก้ๆกังๆของคนที่ยัดเสื้อคลุมให้หล่อนได้คลุมต่อมาถึงห้อง

“หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะคะ”

 หล่อนบอกกับคนในรูปที่อยู่ในมือถือหล่อน ที่หญิงสาวถ่ายรูปเขาไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจ หล่อนก็แค่อยากรู้ว่าคนที่ช่วยหล่อนเอาไว้คือใครต่างหาก

"ขอบคุณที่ช่วยไว้ช่วยนะคะ"

"ฝันดีค่ะ"

“พริม”


มือบางกดส่งข้อความไปยังปลายทางก่อนจะหลับตาลงด้วยรอยยิ้ม
.

.

.

.

สายฝนข้างนอกยังโปรยปรายบางๆ ร่างสูงที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยจากห้องน้ำหรูหราสไตล์ทันสมัยด้านหลังห้องทำงานที่เขาสั่งสถาปนิกออกแบบพิเศษไว้เผื่อสำหรับเขานั่งทำงานจนดึกดื่นจะได้อาบน้ำชำระร่างกายแล้วนอนที่ออฟฟิศเลยไม่ต้องขับรถกลับบ้านทั้งล้าๆ ด้านในตัวห้องน้ำออกแบบให้มีทั้งห้องอาบน้ำห้องแต่งตัวและตู้เสื้อผ้าแบบบิวท์อินพร้อม

กำลังเตรียมตัวจะเข้านอน พอศีรษะถึงหมอนเจ้าของใบหน้าชวนหลงใหลของบรรดาสาวๆก็ไม่ลืมที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดส่งข้อความส่งคนรักเข้านอนแบบที่ทำเป็นประจำ

“ฝันดีนะครับ...เจ้าหญิงของผม”

ชายหนุ่มยิ้มบางๆขณะส่งข้อความไป ภีมพริษฐ์ยกให้พริมรตาคนรักเป็นเจ้าหญิงสำหรับเขาเพราะน้องสาวที่น่ารักอย่างพลอยรัมภาจองตำแหน่งนางฟ้าของพี่ชายไปแล้วตั้งแต่เด็กๆ

ร่างสูงนอนรออยู่ครู่หนึ่งก็ยังไม่มีข้อความส่งกลับมา

“สงสัยจะหลับปุ๋ยแล้ว”

เขายิ้มเอ็นดูให้คนในหน้าจอโทรศัพท์ที่ถ่ายรูปคู่กับเขา

“อืม กลับจากดูงานคราวนี้ ขอพริมแต่งงานเลยดีกว่า จะได้มีหมอนข้างหอมๆนุ่มๆมากอดอยู่ข้างๆทุกคืนเสียที ยัยตัวยุ่งพิ้งค์จะได้เลิกเงี๊ยวๆใส่พี่ชายด้วย”

เขายิ้มอบอุ่นให้ตัวเองในความมืด ดวงตาคู่คมระยับไปด้วยความสุข


 o18

ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาติดตามนะคะ ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่นี่นะคะ

https://www.facebook.com/pages/Love-Novel_Y-by-Moony_Darling/666665450055292

 :mew1:

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion3# 08/01/58
«ตอบ #11 เมื่อ08-01-2015 19:35:44 »

ที่มาของความโหด   จะสงสารใครดี

ออฟไลน์ maru

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3553
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +162/-7
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion3# 08/01/58
«ตอบ #12 เมื่อ08-01-2015 19:48:09 »

แล้วจะยังไงต่อนะเนี่ย

ออฟไลน์ Shonteen

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 501
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-2
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion3# 08/01/58
«ตอบ #13 เมื่อ08-01-2015 20:03:32 »

เดาว่านางต้องนอกใจ ตาภีมเลยมาลงกับนายเอกแทน

ออฟไลน์ fay 13

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-44
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion3# 08/01/58
«ตอบ #14 เมื่อ08-01-2015 20:18:25 »

 :mew1:

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion4# 08/01/58
«ตอบ #15 เมื่อ08-01-2015 20:32:26 »

Passion.4

แสงสว่างยามเช้าแหวกม่านฟ้าสีดำกำมะหรี่เปลี่ยนเป็นสีท้องฟ้าสดใสรับรุ่งอรุณ กลุ่มปุยเมฆสีขาวเหมือนขนมสายไหมกระจายตัวบางๆ ฝูงนกฝูงกาต่างพากันออกหากินเมื่ออรุณรุ่งมาเคาะประตูม่านฟ้า ดวงตาเรียวคมคู่สวยค่อยปรือลืมขึ้นช้าๆเพื่อปรับแสงเมื่อแสงสว่างส่องเข้ามาทางหน้าต่างผ่านผ้าม่านผืนบางปลิวไสวเบาๆ

วาเลนไทน์ตื่นเช้าเป็นนิสัยอยู่แล้ว เว้นเสียแต่วันไหนเขาดื่มกับเพื่อนหนักๆดึกดื่นจนลุกไม่ไหวนั่นแหละถึงจะลากยาวไปจากเวลาปกติ และเหมือนเป็นความเคยชินที่พอหายจากอาการเบลอแล้วมือเรียวก็มักจะเอื้อมไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็คดูความเคลื่อนไหวทันที หัวคิ้วเรียวเข้มยาวแต่พอดีขมวดเข้าหากันเมื่อมีข้อความส่งเข้ามาจากเบอร์ที่ไม่คุ้น

“ขอบคุณที่ช่วยไว้นะคะ
ฝันดีค่ะ”
“พริม”


“อ๋อ อืม ผู้หญิงคนเมื่อคืนนั่นเอง”

วาเลนไทน์ร้องอ๋ออย่างนึกขึ้นได้เมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนที่เขาช่วยผู้หญิงคนหนึ่งไว้ได้อย่างหวุดหวิดหลังจากขี่รถกลับจากไปส่งเพื่อนที่บ้าน ที่จริงเขาจำใบหน้าของหญิงสาวได้ไม่ชัดเจนเท่าไหร่นักเพราะตอนเข้าไปช่วยในซอยเปลี่ยวนั่นก็มองหน้าได้ไม่ชัดเพราะผมเผ้าของหล่อนก็ยุ่งเหยิงพอดูคงจะเพราะต่อสู้ขัดขืนกับคนร้ายนั่นแหละแถมยังค่อนข้างมืดอีก จนพาซ้อนมอเตอร์ไซค์ออกมาจากซอยแล้วโดนฝนเทกระหน่ำนั่นอีก หล่อนคงจะเผลอลูบน้ำฝนออกจากใบหน้า เครื่องสำอางถึงได้เลอะหน้าไปหมดซึ่งเจ้าตัวเองก็คงจะไม่รู้ตัวเพราะชายหนุ่มเองก็ไม่ได้แสดงท่าทีขบขันคนที่เพิ่งรอดพ้นอุ้มมือมารมาได้
จนวาเลนไทน์ขี่พาไปส่งยังคอนโดหรูหรา หล่อนทำท่าจะยื่นเสื้อยีนส์คืนให้เขา แต่ชายหนุ่มปฏิเสธเพราะทันทีที่ลดเสื้อลงเนินอกอิ่มช่วงไหล่ขาวผ่องแถมเดรสสั้นเปียกน้ำแนบติดผิวเนื้อเผยอวดสายตาเขาจนวาเลนไทน์ต้องหันหน้าหนี ไม่ใช่เพศผู้ทุกคนจะทนได้แบบเขาที่ค่อนข้างให้เกียรติเพศแม่เพราะตัวเองก็มีพี่สาว ชายหนุ่มจึงให้หล่อนยืมเสื้อสวมทับขึ้นห้องไป สาวเจ้าเอ่ยขอบคุณพร้อมถามชื่อและเบอร์ติดต่อเพราะหล่อนอยากจะตอบแทนเขา ถึงวาเลนไทน์จะบอกว่าไม่เป็นไรแต่หล่อนก็ยืนยันจะตอบแทนเขาให้ได้วาเลนไทน์จึงให้เบอร์ติดต่อไป

“ยังรู้สึกแย่อยู่ไหม แล้วตากฝนเมื่อคืนไม่สบายหรือเปล่า”

วาเลนไทน์ส่งข้อความกลับไป มือบางวางโทรศัพท์บนที่นอนพลางฉวยผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป ไม่ช้าไม่นานก็เดินนุ่มผ้าเช็ดพันแค่ท่อนล่างออกมาแต่งเนื้อแต่งตัว ปิดเทอมแล้วยังไม่มีโปรแกรมไปเที่ยวที่ไหน วันนี้กะไว้ว่าจะอยู่ช่วยงานร้านพี่สาว ชายหนุ่มจึงแต่งตัวสบายๆชุดเอี๊ยมกับเสื้อยืดแขนสั้นพับแขนดูเท่ห์ไปอีกแบบ

“วันนี้กะปุ๊กลุ๊กบอกให้ช่วยทำป้ายหน้าร้านให้ใหม่นี่นา เย็นๆค่อยแวะไปร้านยีนส์ละกัน”

ร่างโปร่งบางพึมพำขณะวิ่งลิ่วๆลงบันไดอ้อมไปด้านหลังร้านเพื่อหาเมื่อเช้าลงกระเพาะ

ร้านยีนส์ที่ว่าชื่อร้าน “เฟรนด์ยีนส์” เป็นร้านขายกางเกงยีนส์มือสองที่วาเลนไทน์หุ้นกันกับเพื่อนในกลุ่มรับมาเปิดร้านขายแถวตลาดนัดสวนรถไฟ ทำกันชิลๆไม่ได้หวังกำไรอะไรมากมาย บางทีก็เพ้นท์เสื้อไปแขวนขายแจมด้วยก็มี

มือบางกลับป้ายประตูหน้าด้านจาก Close เป็น Open พลันสายตาเหลือบไปเห็นร่างบางๆในชุดเดรสสีชมพูคุณหนูจ๋ายืนเก้ๆกังๆอยู่หน้าร้านจึงเปิดประตูออกไปดู

ชะงัก...

ยอมรับว่าชะงักไปเหมือนกันเมื่อได้เห็นใบหน้าเจ้าของร่างนั้นชัดๆ ร่างเล็กบอบบางผิวกายขาวหยวกอมชมพูเส้นผมสีน้ำตาลอ่อนม้วนยาวเป็นลอนล้อมเรียวหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโตปากนิดจมูกหน่อย แต่งหน้าบางๆสดใสดูเป็นธรรมชาติ

... “น่ารัก”...

วาเลนไทน์ยืนมองร่างบางนั้นนิ่งๆเหมือนเจอนางในฝัน เขาชอบผู้หญิงตัวเล็กๆผิวขาวผมยาวม้วนเป็นเกลียวคลื่น ผู้หญิงคนนี้นับว่าตรงสเป็คของเขาพอดี

“ร้านเปิดแล้วใช่ไหมคะ”

หล่อนเอ่ยถามทั้งรอยยิ้มเสียงหวานใสดั่งระฆังแก้วทำให้วาเลนไทน์อดคิดไม่ได้ว่า...น่ารักจริงๆผู้หญิงคนนี้

“อ้อครับ ร้านเปิดแล้ว เข้ามาดูก่อนได้เลยครับ”

“จำฉันได้ไหมคะ?”

เสียงหวานใสเอ่ยถามอีกเมื่อก้าวเข้ามาในร้าน

“หือ? เราเคยเจอกันมาก่อนหรือครับ?” วาเลนไทน์ทำท่านึก

“ก็เจ้าสาวที่โยนช่อดอกไม้ให้คุณไงคะ”

หล่อนเฉลยด้วยรอยยิ้มบาง พลอยรัมภาจำผู้ชายคนนี้ได้แม่นยำเพราะเขาคือคนที่ได้ดอกไม้เจ้าสาวจากหล่อน

“อ๋อ คุณนั่นเอง จำได้ละครับ”

วาเลนไทน์ร้องอ๋อ รู้สึกเสียดายนิดหน่อยที่ผู้หญิงที่ตรงสเป็คดันมีเจ้าของเสียแล้ว วันแต่งงานหล่อนแต่งหน้าหนากว่านี้แถมใส่รองเท้าส้นสูง แต่มาเจอวันนี้หล่อนแต่งหน้าบางๆกับรองเท้าไม่มีส้น ชายหนุ่มจึงไม่ทันนึกออก

“พอดีว่าฉันอยากจะมาเรียนจัดดอกไม้ที่ร้านนี้น่ะค่ะ เข้าไปดูในเวบของร้านแล้วน่าสนใจ”

“ครับ พี่สาวผมรับสอนจัดดอกไม้ นั่งรอก่อนนะครับเดี๋ยวผมไปตามให้”

วาเลนไทน์ผายมือเชิญลูกค้าไปนั่งรอยังโซฟาสีขาวสไตล์วินเทจก่อนร่างสูงโปร่งจะเดินหายไปที่ด้านหลังร้าน

“คุณพิ้งค์หวัดดีค่ะ แวะมาแต่เช้าเลย ทานข้าวมาหรือยังคะ”

 ไอริสาเดินออกมาพร้อมทักทายเสียงใส หล่อนรู้จักพลอยรัมภาก่อนหน้านี้แล้วเพราะหญิงสาวโทรมาคุยรายละเอียดก่อนจะมา

“เรียบร้อยแล้วค่ะ” พลอยรัมภายิ้มรับ

“คนเมื่อกี้เป็นน้องชายคุณริสาหรือเปล่าคะ พิ้งค์จำได้ว่าช่อดอกไม้เจ้าสาวของพิ้งค์น้องเขาเป็นคนรับได้”

“อ๋อ ใช่ค่ะ เจ้าไทน์ ตอนแรกก็แปลกใจว่าทำไมเจ้าตัวพาช่อดอกไม้กลับมา นึกอยู่ว่าคุณพิ้งค์ไม่พอใจงานร้านเราหรือเปล่า ที่ไหนได้เจ้าน้องชายตัวดีดันรับลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์มาเสียได้”

“ตอนแรกพิ้งค์ก็ตกใจเหมือนกันเพราะเห็นสาวๆเพื่อนพิ้งค์เขากรี๊ดกร๊าดแย่งกัน มือคงชนกันนะค่ะ ช่อดอกไม้เลยลอยไปตกแหมะที่ช่างภาพแทน”

“สงสัยเนื้อคู่เจ้าตัวดีใกล้จะมาแล้วละคะ"

 ไอริสาบอกยิ้มๆพลางเหลือบสายตาไปทางร่างสูงโปร่งที่ทำท่าชะงักไปนิดแล้วก็กลับไปสนใจงานตัวเองต่อ

“ดอกลิลลี่เป็นดอกไม้โปรดของพิ้งค์ค่ะ โดยเฉพาะลิลลี่ ออฟ เดอะ วัลเลย์ เป็นดอกไม้ที่พิ้งค์ชอบที่สุด พี่ชายสั่งมาให้ในวันเกิดทุกปีแล้วงานร้านนี้ก็จัดสวยด้วยค่ะ พิ้งค์เลยอยากมาให้คุณริสาช่วยสอน”

“ยินดีเลยค่ะ”

“ว่าแต่เอ...น้องชายคุณริสายังไม่มีแฟนอีกหรือคะ หน้าตาออกจะหล่อน่ารักรูปหน้าสวย อืม...ยังไงดี พิ้งค์อธิบายไม่ถูก”

พลอยรัมภาพูดยิ้มๆขณะสายตาเหลือบมองไปทางเจ้าของร่างสูงโปร่ง

“ไทน์ได้เสี้ยวคุณย่ามานะค่ะ คุณย่าท่านเป็นลูกครึ่งทั้งสีผมสีตาเลยค่อนไปทางสีน้ำตาลเข้ม ส่วนรูปหน้านี่ได้คุณแม่ แต่หุ่นผอมๆบางๆขี้ก้างนี่ดื่มเหล้าเมาปลิ้นกับเพื่อนเยอะไปหน่อย คิกคิก”

 ไอริสาเล่าขำๆพร้อมเผาน้องชายไปในตัว หญิงสาวรู้สึกสบายๆยามคุยกับพลอยรัมภา

“โห ป้า นินทาระยะเผาขนเลยนะ ผมไม่ได้ขี้เหล้าเสียหน่อยก็แค่ไม่มีกล้ามไม่ใช่ก้างไม่ต้องมาเม้าท์ผมเลย”

“หนอยแน่ นี่แกกล้าเรียกสาวโสดแสนสวยอย่างฉันว่าป้าหรือยะ!”

ไอริสาปรี๊ดแตกกับสรรพนามแทนตัวที่เจ้าน้องชายหน้าทะเล้นตั้งให้ ลิลลี่ปากแตรใกล้มือลอยละลิ่วพุ่งไปยังเป้าหมายทันที

“เฮ้ย! ของซื้อของขายเอามาโยนเล่นได้ไงนี่ป้า พอๆรีบสอนคุณพิ้งค์จัดดอกไม้ได้แล้ว...ป้าอ้วน”

ดีที่คนน้องชายมือเร็วรับไว้ได้ทันก่อนจะโดนประทุษร้ายมิวายแขวะพี่กลับ

“กรี๊ดดดดดดดดดดดด ไอ้ไทน์”

“คิก คิก คิกๆๆ”

 ไอริสาหัวเราะคิกคักอย่างนึกสนุกด้วยเมื่อเห็นความป่วนของคู่สองศรีพี่น้อง ตัวหญิงสาวเองเป็นลูกสาวคนเล็กน้องน้อยไข่ในหินประคบประหงมของพี่ชายจึงไม่ค่อยได้เล่นหัวกับพี่น้องแบบนี้

“น้องไทน์น่ารักจังค่ะ เห็นแล้วอยากได้เป็นน้องเขย น่าเสียดายที่พิ้งค์มีแต่พี่ชาย”

“บางทีไอ้เจ้าเด็กบ้านี่มันกวนประสาทริสามากๆ ริสาก็ด่าให้มันไปมีสามีเลยค่ะ เผื่อจะมีใครกำราบมันอยู่ ทะเล้นๆแบบมันต้องโดนจัดสักดอก ฮึ๋ย!”

 ไอริสาลืมตัวพูดออกมาโต้งๆ ทั้งป้าทั้งอ้วนมันจี้ใจดำสาวโสด

“เอ๋?”

 พลอยรัมภาเอียงหน้าทำท่างงแบบน่ารัก

“เอ่อ...โทษทีค่ะ ริสาบ้าวายมากไปหน่อย แหะๆ”

 ไอริสาหัวเราะกลบเกลื่อนเมื่อรู้ตัวว่าหลุดปากไป

“คุณริสาก็ชอบวายหรือคะ!”

สาวหน้าหวานใสถามอย่างตื่นเต้น ดวงตาโตวาววับขึ้นทันที

“รายนั้นชอบไม่พอ บ้าเข้าเส้นเลยล่ะครับ นั่งแต่งนิยายแล้วก็ยิ้มตาเยิ้มเป็นบ้าเป็นหลังคนเดียวเหมือนคนเมายาเดินผ่านทีโคตรหลอน ชอบให้ผู้ชายรักกัน ตัวเองจะขึ้นคานอยู่แล้วยังไม่เจียม คุณพิ้งค์อย่าเอาเป็นเยี่ยงอย่างนะครับ”

 วาเลนไทน์ถือโอกาสแทรกขึ้นมาทันที ไอริสาหันขวับ

“ไอ้เด็กเวร! ไปทำงานกุลีทาสของแกโน่นเลยไป ไม่ต้องมาป่วนแถวนี้เลยนะ”

กระบองเพชรจิ๋วในมือร่อนๆจะเหินเวหาไปที่หัวน้องชาย หนุ่มหน้าใสทำหน้าทะเล้นทิ้งท้ายก่อนจะรีบหลบต้นกระบองเพชรในมือพี่สาว

“ว่าแต่คุณริสาเป็นสาววายหรือคะ”

 พลอยรัมภาถามอีกครั้งหลังได้ยินสองพี่น้องคุยกัน

“เอ่อ...ค่ะ”

เจ้าของร้านดอกไม้สาวตอบไม่เต็มเสียงนัก ก่อนจะสะดุ้งโหยง

“กรี๊ดดดดดด พิ้งค์ก็ชอบค่ะ คุณริสาแต่งนิยายด้วยหรือคะ ขอพิ้งค์อ่านได้ไหม”

พลอยรัมภาเขย่าแขนอีกฝ่ายเร่าๆแสดงสีหน้าตื่นเต้นเต็มที่

“จริงหรือคะ คุณพิ้งค์ก็ด้วยหรือ ดีจังมีพวกๆ”

สาวหน้าใสฉีกกว้างทันที

“ไบรอันกับพี่ชายชอบส่ายหน้าทุกทีเวลาที่พิ้งค์อ่าน ไม่มีเพื่อนเม้าท์เลยอ่า ดีจังที่ได้รู้จักคุณริสา”

พลอยรัมภาบ่นอุบถึงสามีและพี่ชายตัวเอง

“งั้นว่างๆเดี๋ยวริสาเอาให้อ่านนะคะ การ์ตูนวายริสาก็มีนะเออ”

“อ๊าย พิ้งค์ก็มีค่ะ คุณริสามีเล่มนั้นไหมคะ เรื่อง...ฯลฯ”

 แล้วสาวกวายด้วยกันก็เม้าท์กันน้ำลายแตกฟอง วาเลนไทน์ส่ายหน้ายิ้มๆ มีสาวสวยน่ารักแบบพลอยรัมภามาอยู่ด้วยก็ทำให้บรรยากาศในร้านสดใสขึ้นเป็นกอง ชายหนุ่มอดที่จะแอบมองเพลินไม่ได้ในบางครั้ง

ไอริสาสอนพลอยรัมภาจัดดอกไม้ไปด้วยคุยกันไปด้วยอย่างสนุกสนานเพราะนิสัยเข้ากับคนง่ายทั้งคู่แถมชอบอะไรที่เหมือนๆกันอีกต่างหาก

“เสียดายพี่ชายริสามีแฟนแล้ว แต่ถึงยังไม่มี พี่ภีมก็แมนทั้งแท่งอยู่ดี”

“เจ้าไทน์ก็แมนค่ะ ก่อนหน้านี้อย่างโสโครก นี่ก็เพิ่งจะจับตัดผมโกนหนวดไป ไว้หนวดเคราถักเดทร็อคผมเผ้ารุงรัง ไม่รู้อาจารย์ให้มันเข้าเรียนได้ยังไงอย่างกับคนบ้า”

 ไอริสาวิจารณ์อย่างไม่ชอบใจนัก

“ติสท์ป้า เขาเรียกว่าติสท์” คนถูกพาดพิงร้องบอก

“เดี๋ยวนี้เขาชอบแบบใสๆกันย่ะ ติสท์แตกแบบแกนี่ไงสาวถึงได้ทิ้ง ฉันบอกแล้ว อย่างแกนะคบผู้หญิงไม่รุ่งเปลี่ยนมาคบผู้ชายดีกว่า”

“พอเลยป้า แค่ป้าเอาผมไปปู้ยี่ปู้ยำในนิยายนี่ยังไม่ได้คิดบัญชีเลยนะ ยังจะมายัดเยียดไอ้ดุ้นให้กันอีก บรื๋อ ขนลุก ผมชอบผู้หญิงป้า สวยๆน่ารักๆแบบ เอ่อ...แบบญาญ่าต่างหาก”

 วาเลนไทน์เว้นจังหวะหยุดคำพูดตัวเองพลางเหลือบมองพลอยรัมภานิดหนึ่งก่อนจะหยิบชื่อนักแสดงหญิงชื่อดังขึ้นมาอ้างแทน

“ชิ”

ไอริสาทำหน้ายุ่งใส่น้องชาย ใบหน้าใสหันมาทางสาวสวยที่ยืนนิ่งทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่

“คุณพิ้งค์เป็นอะไรไปคะ”

“เปล่าค่ะ พิ้งค์แค่คิดว่าอยากให้พี่ชายกับน้องไทน์ได้เจอกันจัง พี่ภีมพี่ชายพิ้งค์หล่อมากๆเลยค่ะ รายนั้นได้เสี้ยวเลือดผสมมาหลายเชื้อชาติ ทั้งยุโรปเอย ตะวันออกกลางเอยแถมเชื้อไทยเข้าไปอีก รวมแล้วหล่อโฮกไม่บันยะบันยังแถมเซ็กซี่ร้อนแรงสุดๆ สาวๆเขาว่ากันนะคะ แต่สำหรับพิ้งค์พี่ชายเป็นผู้ชายอบอุ่นค่ะ”

“ชักอยากจะเห็นตัวเป็นๆ”

 ไอริสาทำท่านึกภาพตาม

“มีพวกแมวมองมาทาบทามชวนไปถ่ายแบบเล่นละครบ่อยๆ แต่พี่ชายไม่ชอบ ขี้เกียจเป็นข่าว แค่นี้สาวๆก็แย่งกันจะแย่ ดีนะที่พี่พริมเอาอยู่ ว่าที่พี่สะใภ้พิ้งค์ก็สวยเสน่ห์แรงไม่แพ้กันเชียวค่ะ”

“ครอบครัวคุณพิ้งค์น่ารักจังค่ะ”

“พี่ชายดูแลพิ้งค์ดีมากๆค่ะ ยกเครดิตให้เลย”

“อืม นอกจากจัดช่อดอกไม้แล้วคุณพิ้งสนใจจัดสวนในขวดแก้วไหมคะ งานถนัดเจ้าไทน์ค่ะ ถ้าสนใจจะได้ให้เจ้าไทน์ช่วนสอน รายนั้นใจเย็นพอตัว”

“น่าสนใจค่ะ ดีเลยพิ้งค์จะได้จัดไปเซอร์ไพรส์วันเกิดไบรอันด้วย คิดอยู่ว่าจะให้อะไรดี”

“งั้นเอาไว้เดี๋ยวหัดกับริสาคล่องแล้วค่อยเรียนต่อกับไทน์นะคะ”

“ขอบคุณคุณริสาค่ะ”




บ่ายคล้อย

ดวงตาคมสวยปรือลืมขึ้นช้าๆในห้องนอนเปิดแอร์เย็นฉ่ำพาให้หลับสบาย เมื่อคืนนอนเสียดึกวันนี้จึงตื่นเสียบ่าย แพขนตางอนยาวกระพริบปริบๆปรับแสงก่อนจะลุกขึ้นมานั่งบิดขี้เกียจเสียหน่อยหนึ่งพลางเดินเข้าห้องน้ำไป

นานพอดูร่างสวยระหงจึงก้าวออกมาจากห้องกระจกสำหรับอาบน้ำ หญิงสาวในชุดผ้าเช็ดตัวพันกายศีรษะเปียกชุ่มมีผ้าขนหนูอีกผืนคลุมไว้ยืนมองตัวเองหน้ากระจก หลังกลับเข้าห้องมาเมื่อคืนพริมรตาเพิ่งจะได้เห็นสภาพตัวเองเต็มตา ตกใจไม่น้อยกับสภาพผมเผ้ากระเซอะกระเซิงเปียกปอน ใบหน้าที่เคยสวยสะกดตาเลอะไปด้วยคราบเครื่องสำอาง หล่อนใช้แต่ของแบรนด์เนมราคาแพง แต่โดนฝนเสียขนาดนั้นจะเลอะเทอะไปบ้างก็ไม่แปลก น้อยคนที่จะได้เห็นหล่อนในสภาพหมดมาดมีแค่คนในครอบครัวเท่านั้น แม้แต่คนรักอย่างภีมพริษฐ์ก็ไม่เคยเห็นแต่ใครบางคนกลับได้เห็นมันเต็มๆแต่เขาก็ยังทำหน้าปกติ คงจะเพราะเห็นหล่อนกำลังตกใจ แต่ก็นั่นแหละสาวสวยอย่างหล่อนไม่เคยที่จะให้ใครได้เห็นตัวเองในสภาพลูกแมวเปียกปอนแบบนั้น ยิ่งก้าวเข้ามาในฐานะคนรักของภีมพริษฐ์ พริมรตายิ่งต้องสวยเด่นเป๊ะทุกองศาเพราะทุกสายตาในสังคมที่หล่อนอยู่ต่างจับจ้องมองมาที่แฟนสาวคนสวยของนักธุรกิจหนุ่มหล่อสุดแสนร่ำรวยคนนี้ เมื่อคืนนับเป็นครั้งแรกที่หมดสภาพต่อหน้าคนอื่น

ประตูห้องน้ำเปิดผลัวะออกมาทั้งผ้าเช็ดตัวยังพันกาย ผมยาวสลวยไดร์แห้งแล้วเรียบร้อย หล่อนยังนึกไม่ออกว่าอยากไปไหน งานของหล่อนไม่จำเป็นต้องเข้างานเก้าโมงเลิกห้าโมงเย็นเหมือนมนุษย์เงินเดือนทั่วๆไป ใบหน้าสวยหันไปทางสมาร์ทโฟนคู่ใจ มีข้อความส่งมาทางไลน์จากภีมพริษฐ์คนรักให้อมยิ้มหวาน มือบางส่งข้อความหวานเจี๊ยบตอบกลับไปกระตุกหัวใจคนหื่นเก็บเล่นๆที่เมื่อคืนบ้างานจนกล้าทิ้งแมวสาวแสนสวยอย่างหล่อนให้นอนคนเดียว ฝ่ายนั้นตอบกลับมาให้ยิ้มอารมณ์ดีแหย่กันเล่นไปมาประสาคู่รักจนอีกฝ่ายขอตัวทำงานต่อพร้อมนัดดินเนอร์ตอนเย็นที่เขาจะมารับ

 อีกข้อความจากเบอร์ที่หญิงสาวเมมเอาไว้ พริมรตาเปิดอ่านข้อความและอดที่จะยิ้มอีกครั้งไม่ได้ มีไลน์ของเขาเพิ่มเข้ามาในเครื่อง หญิงสาวกดรับเพิ่มเพื่อนพร้อมกดดูหน้าตาคนที่ช่วยหล่อนไว้ชัดๆ

“หล่อแบบใสๆ น่ารักดี”

 หล่อนมองดูคนในภาพก่อนจะกดตัวการ์ตูนสติกเกอร์ทักทายไป มือบางวางโทรศัพท์รอข้อความตอบกลับพลางหันมาหาตู้เสื้อผ้า

พริมรตาก็ยังเป็นพริมรตาแม้จะผ่านเหตุการณ์ร้ายๆมาแต่หล่อนก็ไม่คิดจะแต่งตัวเป็นแม่ชีเพียงแต่เพิ่มการระมัดระวังตัวขึ้น หล่อนยิงปืนแม่นและมีศิลปะการต่อสู้พอตัวเพียงต่อเมื่อคืนเสียจังหวะไปนิดเดียวคนร้ายก็เข้าคุกคามหล่อนทันที

มือบางเลือกชุดเซ็กซี่เบาๆด้วยเสื้อเอวลอยสีม่วงอ่อนด้านหลังไขว้กันโชว์แผ่นหลังเนียนขาวเปลือยแมทกับกางเกงกระโปรงสีเดียวกัน เห็นแบบนี้พ่อราชสีห์ตัวร้ายอย่างภีมพริษฐ์มิวายแทบกระโจนเข้าขย้ำหล่อน

ติ๊ง...

เสียงข้อความไลน์ดังขึ้น สาวสวยผินหน้าจากบานกระจกหันไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู

“ดีครับ” มิตรใหม่ตอบไลน์กลับมาพร้อมตัวการ์ตูนสติกเกอร์น่ารักๆ

“อยากเลี้ยงขอบคุณสักมื้อ สะดวกไหมคะ” หล่อนแจ้งความจำนงทันที

“ไม่เป็นไรหรอกครับ” อีกฝ่ายปฏิเสธเสียอย่างนั้น

“อย่าปฏิเสธเลยค่ะ ฉันอยากตอบแทนจริงๆ ถ้าไม่ได้คุณฉันอาจตายไปแล้วก็ได้” หล่อนคะยั้นคะยออีกที ไม่อยากรู้สึกค้างคาใจ

“งั้นก็ได้ครับ คุณจะได้สบายใจ” ดูเหมือนเขาจะรู้ความคิดของหล่อนจึงตอบรับ

“สะดวกเมื่อไหร่ดีคะ”

“ผมปิดเทอมแล้ว ช่วงนี้ก็ว่างตลอด”

“ยังเรียนอยู่หรือคะ”

“ครับ แล้วคุณล่ะครับ”

“ทำงานแล้วค่ะ”

“งั้นผมต้องเรียกคุณว่าพี่ไหม?”

“ไม่ต้องหรอก มันดูแก่ๆยังไงไม่รู้”

“เอ่อ...ครับ”

“เย็นนี้ว่างไหมคะ”

“ผมจะไปช่วยเพื่อนขายของที่ตลาดนัดสวนรถไฟครับ พอดีหุ้นกันเปิดร้านขายยีนส์มือสอง”

“แถวนั้นมีร้านน่านั่งไหมคะ”

“มีครับ คุณชอบร้านสไตล์ไหนเลือกได้เลย”

“ฉันเป็นคนเลี้ยงให้คุณเลือกดีกว่าค่ะ”

“งั้นเจอกันซักสี่โมงเย็นก็แล้วกันนะครับ จะได้ไม่ดึก”

“ค่ะ”

เสียงข้อความไลน์ของอีกฝ่ายเงียบไปแล้วบ่งบอกสิ้นสุดการสนทนา สาวสวยดูเวลาในเครื่องพลางคิดอย่างชั่งใจ

“ยังพอมีเวลามาร์กหน้าแต่งสวยแฮะ จัดสักหน่อยดีกว่าเจอภีมด้วยไทน์ด้วยทีเดียวเลย อืม นัดสองคนนั้นมารู้จักกันดีไหมนะ เผื่อภีมอยากตอบแทนอะไรน้องเขาบ้าง”

ร่างระหงพูดพลางจัดแจงอุปกรณ์ทำสวยของตัวเองอย่างอารมณ์ดี


ร่างสูงโปร่งหย่อนโทรศัพท์ลงกระเป๋ากางเกงหลังแชทไลน์กันเสร็จ ชายหนุ่มแบกบันไดมาที่ด้านหน้าบ้านซึ่งดัดแปลงชั้นล่างให้เป็นร้านดอกไม้ตามความฝันของไอริสาเพื่อดูว่าจะตกแต่งสวนทางเข้าร้านยังไง ร้านดอกไม้ของสองพี่น้องเป็นร้านตกแต่งสไตล์วินเทจ มีกุหลาบอังกฤษดอกสีชมพูปลูกเลื้อยขึ้นเป็นซุ้มทางเข้าร้าน ชายหนุ่มมองเข้าไปในร้านเห็นสองสาวหัวร่อต่อกระซิกช่วยกันจัดดอกไม้ก็อดยิ้มบางๆออกมาไม่ได้ก่อนจะหันมาที่งานของตัวเอง

ร่างสูงโปร่งลากบันไดไปตรงกึ่งกลางซุ้มเพื่อจะแขวนป้ายชื่อร้านที่เขาเพิ่งทำเสร็จ หลังจากปีนขึ้นไปจัดการแขวนป้ายรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่ามีคนเดินอยู่ใกล้ๆจึงร้องเรียก

“กะปุ๊กลุ๊กหยิบกรรไกรให้หน่อย”

เสียงเรียกทำให้ใครคนหนึ่งที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ชะงักเท้า

“หยิบให้หน่อย กรรไกรวางไว้แถวๆนั้นแหละ”

วาเลนไทน์ยื่นมือไปรับหยอยๆโดยที่ไม่ได้หันไปมอง ก่อนจะมีมือมือหนึ่งยื่นกรรไกรส่งให้ตามที่ขอ

“แต้งส์คร้าบคนสวย ใช้ง่ายนะนี่”

หนุ่มหน้าใสเอ่ยชมเสียงใส แต่คนเป็นม้าใช้เริ่มขมวดคิ้วพลางนึกหาความสวยของตัวเอง

“เรียบร้อย สวยมั้ย กะปุ๊ก เฮ้ย!”

กำลังจะหันมาถามความเห็นของพี่สาว แต่พอหันมาเจอใครอีกคนทำให้ชายหนุ่มตกใจ เท้าที่เหยียบบันไดไว้หมิ่นเหม่จึงหล่นลงพรวด

อุก!

อุบัติเหตุที่ไม่มีใครคิดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้นเมื่อร่างโปร่งหล่นตุบลงทับร่างสูงใหญ่ที่กลายเป็นเบาะรองแบบไม่ตั้งใจ ริมฝีปากอมส้มทั้งคู่ประกบจูบกันแบบไม่คาดคิด ต่างฝ่ายต่างตะลึงก่อนเจ้าของร่างโปร่งจะทะลึ่งลุกพรวดอย่างรวดเร็วเมื่อได้สติ

ใบหน้าใสเลิ่กลั่กมองอีกคนที่กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนล้มไม่เป็นท่าเพราะเขา ดวงตาคมแฝงความนิ่งภายใต้คิ้วเข้มยาว สันจมูกสูงโด่งผมดำขลับถูกเซ็ตอย่างดีเสยไปด้านหลังดูหล่อเหลือร้ายแบบมาดนักธุรกิจเจ้าเสน่ห์ ชุดสูทเรียบกริบที่สวมใส่มาตอนนี้มีกลีบกุหลาบกระจายเต็มตัวเขา

ร่างสูงยันตัวลุกขึ้นยืนปัดกลีบกุหลาบออกจากตัว วาเลนไทน์เผลอมองริมฝีปากรูปกระจับสวยที่มีกลีบกุหลาบติดอยู่ตรงริมฝีปาก เขาไม่เพียงไม่ปัดออกแต่กลับใช้ปลายลิ้นตวัดเข้าปากกินเสียอย่างนั้นด้วยสีหน้านิ่งเฉยปกติแต่กลับดูเหมือนย้ำยวนทำให้อีกคนเผลอใจเต้นแรง หนุ่มร่างโปร่งบางหน้าร้อนผ่าวขึ้นทันทีเมื่อนึกถึงเมื่อกี้ที่ตัวเองบังเอิญจูบกับเขาแบบไม่ตั้งใจ ริมฝีปากบางที่เผลอจุมพิตกับริมฝีปากเซ็กซี่เข้าไปเต็มๆ

“ปากผู้ชายมันนุ่มแถมเซ็กซี่ได้ด้วยหรือนี่”

วาเลนไทน์คิดในใจขณะสบตากับเขาเหมือนไปไม่เป็น

“เจอทีไร นายก็ซุ่มซ่ามตลอดเลยนะ”

เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยขึ้นเรียบๆขณะเดินเข้าร้านไป ทิ้งไว้เพียงอีกคนที่หน้าร้อนผ่าว ไม่รู้ว่าร้อนเพราะถูกเขาตำหนิหรือร้อนเพราะริมฝีปากเซ็กซี่ยามปลายลิ้นตวัดกลีบกุหลาบเข้าปากของเขา!

 :heaven

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่นี่ค่ะ
https://www.facebook.com/pages/Love-Novel_Y-by-Moony_Darling/666665450055292

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion5# 08/01/58
«ตอบ #16 เมื่อ08-01-2015 20:51:38 »

Passion.5


“ให้ตายเถอะ ถ้าไม่ติดว่าเป็นผู้ชายจะดีกว่านี้มาก”

 ร่างสูงใหญ่เกินมาตรฐานชายไทยไปมากโขพึมพำขณะเคี้ยวกลีบกุหลาบกลืนลงคอไปหวังให้รสชาติเฝื่อนลิ้นดับความรู้สึกกระอักกระอ่วนจากการจูบกับผู้ชายเป็นครั้งแรกในชีวิตซึ่งถึงแม้จะเป็นอุบัติเหตุแต่เขาก็ไม่ปรารถนามันอยู่ดี เพราะมันทำให้ชายหนุ่มหวนนึกถึงเรื่องแย่ๆที่เคยเกิดขึ้นสมัยเรียนอยู่ที่เมืองนอก บ่อยครั้งมักจะมีชายหนุ่มมาก้อร่อก้อติกกับเขาซึ่งภีมพริษฐ์ก็ปฏิเสธไปทุกครั้งเพราะริมฝีปากแสนเซ็กซี่เย้ายวนหวงแหนไว้สำหรับหญิงสาวเท่านั้นแต่ยังมิวายต้องมาแนบชิดกับบุรุษเพศด้วยกันเข้าเสียจนได้ แถมยังเป็นเจ้าเด็กกะโปโลซุ่มซ่ามที่มักจะเจอกันแบบแปลกๆ

“ขนลุกชะมัด”

 หลังมือหนายกขึ้นเช็ดริมฝีปากอีกรอบอย่างขนลุก

ภีมพริษฐ์ค่อนข้างมีอดีตฝังใจกับผู้ชายมาก่อน ด้วยรูปร่างหน้าตาลูกเสี้ยวหลายเชื้อชาติกอปรกับตัวชายหนุ่มเองชอบออกกำลังกายทำให้หุ่นสูงใหญ่ดูกระชับด้วยมัดกล้ามสวยแถมด้วยผิวสีน้ำผึ้งยิ่งทำให้เขาทั้งหล่อทั้งเซ็กซี่เหลือร้ายเปี่ยมไปด้วยเซ็กส์แอพพีลน่าค้นหา สมัยเรียนอยู่ที่เมืองนอกจึงมีนักศึกษาศิลปกรรมมาติดต่อขอให้เขาไปเป็นแบบหุ่นปั้นให้ซึ่งชายหนุ่มก็ยินยอมเพราะนึกสนุกอยากเห็นตัวเองในแบบหุ่นปั้น

ทันทีที่เขาเปลื้องผ้าอวดเรือนร่างช่วงบนด้วยกล้ามแขนหนาเป็นมัดสวย กล้ามหน้าท้องขึ้นลอนน่าลูบไล้ ยิ่งผิวเนื้อเรียบเนียนสีน้ำผึ้งสะท้อนแสงไฟยั่วยวนชวนหลงใหลขนาดสาวๆหลายคนทนไม่ไหวกระชากเขามาจูบด้วยก็เคยมาแล้ว ไม่ใช่แค่สาวๆเท่านั้นที่ปรารถนาจะแลกปลายลิ้นร้อนสวาทกับเขาแต่ยังรวมบรรดาเก้งกวางทั้งหลายที่ปรารถนาในตัวเขาเช่นกัน
ด้วยเหตุนี้จึงแทบจะเกิดเหตุฆาตกรรมกันขึ้นเมื่อคนขอให้เขาเป็นแบบหุ่นปั้นให้ดันคิดจะเคลมเขาเสียด้วย หมอนั่นแอบใส่ยาปลุกในไวน์ให้เขาดื่มเพื่อหวังมีเซ็กส์กับเขาเพราะหลงใหลรูปร่างจนเกิดอารมณ์ขึ้นมา ภีมพริษฐ์ยังจำความรู้สึกตอนถูกหมอนั่นพยายามปลุกปั่นอารมณ์ยัดเยียดจูบให้เพื่อหวังปลุกอารมณ์เขา โชคยังดีที่เขารอดพ้นจากการมีเซ็กส์กับผู้ชายมาเสียได้และซ้อมหมอนั่นแทบปางตาย

เข็ดขยาดมานับแต่นั้น

และ...

“เกลียดเกย์” เข้าไส้ตั้งแต่นั้นมา

แต่ก็แค่เกลียด ไม่ถึงกับนึกรังเกียจอะไรกับคนที่เป็นเพราะมันคือรสนิยมส่วนตัวเห็นกันให้เกลื่อนที่ประเทศเสรีเหล่านั้นเพียงแค่อย่ามายุ่มย่ามกับเขาเป็นพอ ไม่งั้นมีได้ออกแม่ไม้มวยไทยจระเข้ฟาดหางโชว์ไอ้หรั่งกันบ้างล่ะ

ชายหนุ่มนึกถึงริมฝีปากบางนิ่มของเจ้าคนที่แอบฉกจูบเขาไปแบบไม่ตั้งใจพลางส่ายหน้าหวือขณะมือหนาผลักประตูร้านเข้าไป

“อ้าว พี่ชายมาได้ไงคะ”

เสียงหวานใสของน้องน้อยทักขึ้นอย่างแปลกใจ

“ไบรอันยังประชุมไม่เสร็จท่าจะยาวเลยวานให้พี่มารับเราแทน”

 เขาบอกน้องสาว ไบรอันเป็นทั้งเพื่อนสนิทแถมพ่วงตำแหน่งน้องเขยที่ชายหนุ่มไฟเขียวให้จีบพลอยรัมภาได้เพราะเพื่อนคนนี้ดูแลน้องสาวของเขาได้ดี

“พี่ชายมาก็ดีเลยค่ะ นี่ๆพิ้งค์มีอะไรจะอวด ดูฝีมือพิ้งค์เสียก่อน สวยไหม”

 น้องน้อยในสายตาเขาพาชายหนุ่มไปนั่งที่โซฟารับแขกแทนเจ้าของร้านพลางอวดช่อดอกไม้ที่จัดเข้าช่อแล้วฝีมือตัวเอง ชายหนุ่มจับช่อดอกไม้ขึ้นมาพลิกๆดูก่อนเอ่ย

“ใช้ได้นี่ตัวเล็ก งั้นเดี๋ยวพี่ชายขอเอาไปให้ว่าที่พี่สะใภ้ของตัวเล็กนะครับ”

 กับผู้เป็นน้องภีมพริษฐ์มักจะพูดจาไพเราะรื่นหูกับพลอยรัมภาเสมอ สำหรับชายหนุ่มไม่ว่าจะผ่านไปนานแค่ไหนพลอยรัมภาก็ยังคงเป็นน้องน้อยในสายตาของเขาอยู่วันยังค่ำ

“เอาไปขอแต่งงานเลยก็ได้ค่ะ พิ้งค์ยกให้เลย คิก คิก”

พลอยรัมภาหัวเราะคิกคักอย่างคนอารมณ์ดี มองโลกแง่ดีเสมอ ภีมพริษฐ์ลูบศีรษะน้องสาวพลางพูด

“คงต้องรอหลังพี่กลับจากดูงานที่อเมริกาก่อนนะ”

“จริงหรือคะ! พี่ชายจะขอพี่พริมแต่งงานแล้วจริงหรือ?”

พลอยรัมภาเขย่าแขนพี่ชายอย่างดีใจ ชายหนุ่มเพียงพยักหน้ายิ้มๆแทนคำตอบ

“เย้! ดีใจที่สุดเลย พี่ชายของพิ้งค์จะเป็นฝั่งเป็นฝากับเขาเสียที พี่ชายนะ ห่วงแต่พิ้งค์ห่วงแต่งานจนแทบไม่ค่อยคิดถึงเรื่องตัวเองเลยน้า ระวังไว้เถอะ พี่พริมจะแอบมีกิ๊กเข้าสักวัน”

 เสียงใสขู่พี่ชายฟ่อ ภีมพริษฐ์ได้แต่ส่ายหัว

“ชู่ว์ รู้กันแค่เรา อย่าเพิ่งบอกพริมนะ พี่อยากเซอร์ไพรส์น่ะ”

“โอเคค่ะ แต่พิ้งค์ขอบอกไบรอันอีกคนนะคะ”

พลอยรัมภาขอสิทธิ์ผู้สมรู้ร่วมเซอร์ไพรส์ให้สามีอีกคนซึ่งคนเป็นพี่ชายก็ไม่ขัดข้อง

“แล้วนี่เจ้าของร้านไปไหนเสียล่ะ ทำไมมีแต่เราเฝ้าร้านอยู่คนเดียว”

หนุ่มหล่อเหลียวมองหาเจ้าของร้านที่ตั้งแต่เขาเข้ามาก็ยังไม่เห็นเงาเจ้าตัวจะออกมาต้อนรับ

“คุณริสาเข้าไปทำของว่างมาให้พิ้งค์ลองชิมนะค่ะ”

“มาแล้วค่า”

เสียงหวานใสอีกเสียงดังขึ้นหลังจากถูกกล่าวขวัญถึงได้ไม่นาน ร่างเล็กเดินรี่เข้ามาพร้อมถาดบรรจุถ้วยชาเซรามิคลายวินเทจและจานใส่ของทานเล่นเข้าชุดกันในมือก่อนจะหยุดชะงักเมื่อเห็นหน้าผู้มาใหม่

...หล่ออย่างกับเทพบุตร หล่อใจละลาย หล่อเกินบรยาย กรี๊ด...

ร่างเล็กตรึงนิ่งอยู่กับที่ขณะเสียงภายในใจร่ำร้องไม่หยุด

“เอ่อ คุณริสาคะ”

พลอยรัมภาท้วงขึ้นเล็กๆเมื่อเห็นหญิงสาวยังไม่ขยับ

“อ๊ะ เอ่อ ขอโทษทีค่ะ เสียมารยาทไปนิด”

 หล่อนหัวเราะเก้อๆพลางวางจานของว่างลงพร้อมเลื่อนชากุหลาบให้แขกไม่วายเหลือบมองร่างสูงใหญ่ของบุรุษหนุ่มหล่อ

“ตะลึงเลยล่ะซี พิ้งค์บอกแล้วว่าพี่ชายพิ้งค์หล่อ เดี๋ยวแนะนำให้รู้จักนะคะ นี่พี่ภีมค่ะ พี่ชายพิ้งค์ ส่วนนี่คุณริสา เจ้าของร้านดอกไม้ที่จัดช่อดอกไม้เจ้าสาวให้แบบกะทันหันในงานแต่งงานของพิ้งค์ไงคะ”

 พลอยรัมภาแนะนำคร่าวๆพร้อมทวนความจำให้พี่ชาย

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

ชายหนุ่มทักด้วยรอยยิ้มบางเป็นมิตร เห็นแบบนั้นทำเอาไอริสาแทบเคลิ้มตามแต่เก็บอาการเพราะข้างในต่อมวายกำลังทำงานอย่างหนัก

“ยินดีเช่นกันค่ะ”

 ไอริสาเก็บอาการทักกลับเสียงหวาน

“แล้วนี่คุณริสาทำอะไรมาให้พิ้งค์ชิมหรือคะ หน้าตาน่าทานจัง มีกลีบกุหลาบด้วย”

พลอยรัมภามองเลยจานมาการองไปยังจานยำที่มีกลีบกุหลาบคลุกเคล้าปนอยู่

“อ๋อ ยำกลีบกุหลาบค่ะ ริสาขโมยสูตรมาจากเจ้าไทน์อีกที ลองชิมดูนะคะ”

เสียงหวานเอ่ยชวน ภีมพริษฐ์ชะงักกึก นึกถึงกลีบกุหลาบที่ปลิวร่วงใส่ตัวเขาเมื่อครู่

“ส่วนนี่ชากุหลาบค่ะ ใช้ดอกกุหลาบปลูกเองปลอดภัยไร้สารปนเปื้อนแน่นอนค่ะ”

“อื้ม ยำอร่อยจัง”

 พลอยรัมภาชมเปาะเมื่อตักยำกลีบกุหลาบคำแรกเข้าปากเคี้ยว

“แล้วนี่น้องไทน์ไปไหนเสียล่ะคะ”

 พลอยรัมภาเหลียวหาร่างโปร่ง นึกอยากให้มาทานของว่างด้วยกัน

“เห็นขี่มอเตอร์ไซค์ออกไปข้างนอกเมื่อกี้ สงสัยไปหาเพื่อนนั่นแหละค่ะ ตามประสาวัยรุ่นเขาล่ะ”

“พี่ภีมเจอน้องไทน์ไหมคะ เมื่อกี้เห็นออกไปเล็มกิ่งต้นไม้ แขวนป้ายหน้าร้าน”

 พลอยรัมภาหันมาถามพี่ชาย

“เห็นแวบเดียวน่ะ”

 ชายหนุ่มตอบแบบขอไปที

“แล้วนี่พี่ชายมีนัดที่ไหนอีกไหมคะ”

“นัดพริมไว้ตอนค่ำๆน่ะ จะพาไปทานดินเนอร์ด้วยกัน พิ้งค์ไปด้วยกันนะ เดี๋ยวไบรอันประชุมเสร็จจะตามไปทีหลัง”

“ค่ะ พี่ชาย”



สี่โมงเย็นตามเวลานัดหมาย

ร่างโปร่งจอดมอเตอร์ไซด์คันเก่งไว้ที่ลานจอดรถพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาหญิงสาว

   “ฮัลโหล ถึงหรือยังครับ”

   “ถึงแล้วคะ เจอกันที่ร้านXXXนะคะ”

   “โอเคครับ”

 ชายหนุ่มตัดสายพลางเดินไปยังสถานที่นัดหมาย

เรือนร่างเพรียวระหงด้วยส่วนสูงนางแบบบนร้องเท้าส้นสูงทำให้หล่อนดูสง่า ยิ่งเครื่องหน้าหมดจดงดงามเรือนผมยาวสลวยทำให้หลายคนที่เดินผ่านเหลียวมองเป็นระยะ พริมรตามองเห็นร่างสูงโปร่งของชายหนุ่มเดินมาแต่ไกล หล่อนจำเขาได้แม่นยำเพราะเคยสบตากันระยะประชิดมาแล้ว ดูเหมือนสายตาของเขาจะสะดุดที่หล่อนแวบนึ่งก่อนจะเลยผ่านไป หญิงสาวหัวเราะคิกที่เขาจำหล่อนไม่ได้

“ทางนี้ค่ะไทน์”

หล่อนส่งเสียงหวานทักไป อีกคนหันขวับมาอย่างไม่เชื่อสายตาก่อนจะทำหน้าตกตะลึง

“คิก คิก จำไม่ได้หรือคะ”

“เอ่อ นิดหน่อยครับ”

วาเลนไทน์เกาท้ายทอยเก้อๆมองใบหน้างดงามราวเจ้าหญิงแสนสวยของหล่อน ช่างแตกต่างราวคนละคนในวันนั้น รอยยิ้มสดใสเพิ่มเสน่หาให้ใบหน้าสวยยิ่งชวนมองไม่วางตา เขาเองก็ไม่ต่างจากผู้ชายทั่วไปที่เห็นผู้หญิงสวยก็ย่อมมองเป็นธรรมดาเพียงแต่สเป็คเขาชอบผู้หญิงน่ารักเสียมากกว่า

“วันนั้นหน้าพริมเลอะมากอย่างกับซอมบี้ ไม่บอกกันเลยนะ ดีขึ้นลิฟท์ไปไม่เจอใคร ไม่งั้นมีวิ่งป่าราบแน่ๆ”

หล่อนยิ้มหวานพูดติดตลกตามสไตล์สาวเจ้าเสน่ห์ วาเลนไทน์มองใบหน้าหวานคมยิ่งหล่อนยิ้มก็ยิ่งเพิ่มแรงดึงดูดให้เขาอยากยิ้มหัวเราะไปกับหล่อน สองหนุ่มสาวเดินเข้าร้านอาหารไปด้วยกันด้านใน



“นั่นคุณพริมนี่ครับ”

เสียงทุ้มของคนข้างกายเอ่ยกับชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ขณะชายสายตามองตามจุดที่ชายหนุ่มกำลังมองนิ่งอยู่

“คุณช่วยจับตาดูเธอให้ผมหน่อย”

 เขาบอกเสียงเรียบนิ่ง สายตายังมองสองหนุ่มสาวหัวร่อต่อกระซิกในร้านอาหารไม่วางตาด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก

“ครับ”

คนรับคำสั่งรับคำ งานที่ได้รับมอบหมายเริ่มขึ้นทันที

ร่างสูงใหญ่มองคนทั้งคู่ผ่านกระจกใสฝั่งตรงข้ามชั้นสูงกว่าอีกชั่วครู่จึงเบนสายตาหันหลังเดินออกมาจากตรงนั้น
ใครสักคนเปรียบเปรยเอาไว้

“ความรักก็เหมือนผีเสื้อ ยิ่งเราไขว่คว้าก็ยิ่งหนีหาย แต่ถ้าเราหยุดนิ่งอยู่เฉยๆเสีย ผีเสื้อก็จะบินมาหาเราเอง”

คำกล่าวนี้มันจะใช้กับผีเสื้อแสนสวยอย่างพริมรตาได้จริงหรือ

แต่ตอนนี้เขาชักเริ่มจะไม่แน่ใจ

ว่าพริมรตาเป็นผีเสื้อ หรือ แมลงเม่า

ที่กำลังจะหลงระเริงเข้าไปในเปลวไฟ!

พริมรตาเป็นผู้หญิงที่มีหัวสมัยใหม่พอตัว สำหรับหล่อน ในเมื่อผู้ชายยังเที่ยวหลงระเริงมีใครต่อใครได้ แล้วทำไมผู้หญิงจะเป็นแบบนั้นบ้างไม่ได้ เพียงแต่หล่อนเป็นผู้หญิงฉลาดพอตัว รู้จักเลือกคบให้ตัวเองดูมีค่า



ท้องฟ้าดูโปร่งใสยามชายหนุ่มมองผ่านกระจกรถยนต์ที่กำลังแล่นออกมา ภาพสายตาของหญิงสาวที่มองชายหนุ่มในร้านอาหารเมื่อกี้ผ่านเข้ามาในหัว หล่อนจะรู้ตัวไหมว่ากำลังจะจุดไฟเผาตัวเอง

และดึงใครอีกคนร่วมกระโจนลงในไฟประลัยกัลป์กองเดียวกัน!




“ว้าว ที่ไทน์เล่ามาน่าสนุกจัง วันหลังชวนพริมไปแว้นด้วยได้หรือเปล่าคะ”

 พริมรตาจ้อเสียงร่าขณะเดินย่อยอาหารด้วยกันในตลาดนัดสวนรถไฟ อยู่กับชายหนุ่มหล่อนรู้สึกสบายใจเป็นตัวของตัวเอง ไม่จำเป็นต้องทำตัวเป็นหงส์เชิดผงาดในวงสังคม หญิงสาวนึกถึงเสื้อยืดลายเก๋ๆแมทกับกางเกงยีนส์ที่จะทอนวัยของหล่อนลงยามใส่ไปเที่ยวกับเขา วาเลนไทน์ยิ้มบางพลางส่งลูกมะพร้าวเจาะเปลือกให้หล่อนได้ดื่มน้ำหวานๆชื่นใจ

“เอาสิครับ วันไหนสะดวกไลน์มาได้เลย ช่วงนี้ปิดเทอมผมว่างอยู่แล้ว”

 วาเลนไทน์ตอบรับ ความช่างพูดสร้างเสน่ห์ให้หล่อนอย่างที่ชายหนุ่มอดจะเผลอไผลไปด้วยไม่ได้ พริมรตาคุยเก่งและเป็นคนมีเหตุผลเพราะหล่อนเองก็วัยทำงานแล้ว ทั้งคู่คุยกันไปเรื่อยๆจนถึงเวลาที่หญิงสาวต้องกลับชายหนุ่มจึงเดินไปส่งยังที่จอดรถก่อนจะแยกย้ายไปที่ของตัวเอง

“พี่พริมมาแล้ว”

น้ำเสียงสดใสดังขึ้นเมื่อสาวสวยปรากฏกายขึ้น ภีมพริษฐ์ลุกขึ้นขยับเก้าอี้ให้หล่อน หญิงสาวส่งยิ้มให้ผู้ร่วมโต๊ะ

“นึกยังไงวันนี้นัดรวมญาติคะ”

 หญิงสาวหันไปถามชายคนรัก บรรยากาศตอนนี้กับก่อนที่หล่อนจะมาช่างต่างกันลิบลับ

“มะรืนนี้ผมจะไปดูงานที่อเมริกา”

 ชายหนุ่มเอ่ยขณะสบตากับน้องสาวอย่างรู้กันว่าหลังจากนั้นจะมีเซอร์ไพรส์ให้คนข้างกาย
“ไปนานไหมคะ”

แต่หญิงสาวกลับคิดถึงช่วงเวลาที่จะได้หนีเที่ยวกับใครอีกคน

“ซักสองอาทิตย์ พริมอยากได้อะไรไหม”

“ไม่ล่ะ ภีมไม่อยู่ พริมหนีเที่ยวดีกว่า คิกคิก”

 หญิงสาวพูดทีเล่นทีจริง ชายหนุ่มส่ายหน้ายิ้มๆ

“แมวไม่อยู่หนูร่าเริงเชียวนะ”



หลังจากส่งคนรักหนุ่มขึ้นเครื่องไปแล้วหญิงสาวก็แพลนสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงที่เขาไม่อยู่กับใครอีกคน

“ว้าวววว ยะฮู้!”

เสียงหวานเปล่งอย่างดีใจยามได้ยลท้องฟ้าสดใสยามเย็น วันนี้วาเลนไทน์พาหล่อนมาขี่มอเตอร์ไซด์เล่นแถบชานเมือง หล่อนชอบท้องฟ้า สายลม และทุ่งหญ้าที่เขาพามา ตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเขาพาหล่อนขี่มอเตอร์ไซด์ตระเวนกินตระเวนเที่ยวไปยังที่ต่างๆสนุกสนาน

“รู้สึกเหมือนบินได้อย่างที่ไทน์บอกจริงๆด้วย”

 หล่อนบอกขณะก้าวลงจากรถพลางถอดหมวกกันน็อค ผมสลวยสยายยุ่งนิดหน่อยแต่หล่อนไม่ยี่หระ ร่างระหงเดินตรงไปที่ทุ่งหญ้าเบื้องหน้าพลางกางแขนรับลมเย็นๆ ชายหนุ่มยกกล้องขึ้นจับทุกอิริยาบถ

“ชอบจัง”

หล่อนหันมาส่งยิ้มเล่นกับกล้อง

“ไม่เคยมีใครพามาหรือครับ”

วาเลนไทน์เอ่ยถาม พริมรตาเงียบไปนิด หล่อนรู้เขาหมายถึงอะไร

“ตอนนี้พริมกำลังสบายใจ อย่าพูดถึงเรื่องอื่นเลยค่ะ”

หล่อนบ่ายเบี่ยงไม่ตอบคำถาม หัวใจหล่อนเริ่มลังเล ระหว่างคนที่คบมานานดูแลหล่อนดีในแบบของเขาและเซ็กส์ที่เยี่ยมยอดกับใครที่หล่อนรู้จักเพียงไม่นานแต่ความสบายๆแบบฉบับของเขาทำให้หล่อนสบายใจและเป็นตัวเองแถมเขายังสุภาพบุรุษไม่มีหาเศษหาเลยกับเนื้อตัวหล่อน และ....

 ริมฝีปากสวยเม้มเข้าหากันครุ่นคิด ตั้งแต่ไปดูงานคนรักโทรติดต่อมาหาหล่อนตลอด วางสายจากคนหนึ่งหล่อนก็ต่อสายหาอีกคน และ...

วาเลนไทน์ก้าวมาเดินข้างๆ ใบหน้าเรียวเหลียวมองใบหน้ารูปไข่ ที่จริงเขาเองก็ตะขิดตะขวงใจกับสถานภาพของหญิงสาวไม่น้อย สวยสะคราญปานนางฟ้ามาโปรดอย่างหล่อนนั่นหรือจะโสด

เขาไม่คิดอย่างนั้นเลยสักนิด...

เพราะอย่างนั้นจึงไม่คิดแตะต้องหล่อนเกินจำเป็น และพยายามห้ามหัวใจไม่ให้หวั่นไหวกับเสน่ห์เย้ายวนที่หล่อนมี รอยยิ้มแสนหวานที่ล่อลวงหัวใจเขาได้ง่ายๆถ้าไม่ตั้งสติให้ดี

“โอ๊ะ!”

 เสียงอุทานดังขึ้นข้างกาย วาเลนไทน์หันขวับก่อนร่างสองร่างจะล้มลงพร้อมกัน

ดวงตาคู่สวยหวานดูลึกล้ำราวประตูมิติที่เชิญชวนให้เขาอยากจะเปิดเข้าไปค้นหา ริมฝีปากอิ่มแดงเคลือบลิปสติกดูเย้ายวนราวแอปเปิ้ลต้องห้ามในสวนเอเดนที่ปลุกสัญชาตญาณให้เขาอยากลิ้มรส

มนต์เสน่หาแห่งดวงตาคู่งามดึงดูดให้เขาค่อยเคลื่อนใบหน้าเข้าหาหล่อนช้าๆ

ช้าๆ...

Tru...Tru...

เสียงโทรศัพท์ของใครสักคนดังขึ้นขัดจังหวะวาบหวาม สองร่างผละออกจากกันในทันที ต่างคนต่างตั้งสติตัวเองก่อนจะมองหาต้นกำเนิดเสียง

“ฮัลโหล เออ ว่าไง กูมาขี่รถเล่นแถบชานเมือง มีอะไรวะ รออยู่ร้านหรือ เออ เดี๋ยวกูไป”

ชายหนุ่มคุยกับเพื่อนเสร็จจึงหันมาทางหญิงสาว

“เพื่อนจะแวะมาน่ะครับ กลับกันนะครับ พระอาทิตย์จะตกแล้ว”

“ค่ะ”

พริมรตาตอบรับสั้นๆ ไม่พูดอะไรขณะเดินไปนั่งซ้อน หากไม่มีเสียงโทรศัพท์ขัดจังหวะเสียก่อนระหว่างเขากับหล่อนจะเป็นอย่างไรหนอ หล่อนนึกถึงดวงตาอ่อนโยนที่ค่อยเคลื่อนหาหล่อนโดยที่พริมรตาไม่ปฏิเสธ หัวใจหล่อนเผลอเต้นผิดจังหวะยามรอคอยจุมพิตจากเขา หล่อนไม่อยากจะโกหกตัวเองว่าหัวใจหล่อนที่เคยให้ภีมพริษฐ์จะพร่องลงเพราะมันเริ่มจะมีใครอีกคนค่อยๆแทรกซึมเข้ามา

พระอาทิตย์กำลังจะลาจากฟากฟ้า มอเตอร์ไซด์คันเก่งพาหล่อนมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองใหญ่ หญิงสาวกระชับมือเรียวค่อยกอดเอวซบใบหน้ากับแผ่นหลังอบอุ่นของเขา

หากภีมพริษฐ์คือดวงตะวัน วาเลนไทน์ก็คือท้องฟ้าสำหรับหล่อน

ซึ่งมันสำคัญทั้งคู่


 :L2:


Page จ้า https://www.facebook.com/pages/Love-Novel_Y-by-Moony_Darling/666665450055292

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion6# 08/01/58
«ตอบ #17 เมื่อ08-01-2015 21:08:05 »

Passion.6



ครืน...ครืน...ซ่า ซ่า...

“ว้า เปียกจนได้ นึกว่าจะกลับทันเสียอีก”

 เสียงหวานดังขึ้นขณะถอดปลวกกันน็อคออกจากศีรษะ มือบางรวบปอยผมมาทางเดียวกันแล้วบีบน้ำออกเบาๆหันไปมองอีกฝ่ายที่เปียกโชกไม่ต่าง

“ไทน์ขึ้นไปหลบฝนก่อนไหม”

“ไม่เป็นไรครับ รออีกเดี๋ยวฝนคงซา พริมรีบขึ้นไปอาบน้ำเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา”

“เป็นห่วงพริม ระวังตัวเองจะป่วยเสียเองนะ ไทน์ขึ้นไปอาบน้ำบนห้องพริมก่อนดีกว่า ฝากรถไว้ที่นี่แล้วเดี๋ยวนั่งแท็กซี่กลับเถอะนะคะ ขี่รถฝ่าฝนกลับแบบนี้ พริมเป็นห่วง”

“แต่ว่า...”

“ไม่ต้องแต่หรอกค่ะ เชื่อผู้ใหญ่จะได้ไม่ป่วยนะคะ...เด็กน้อย คิกคิก”

หล่อนอดที่จะเย้าอย่างเอ็นดูไม่ได้ เมื่อหนุ่มอ่อนวัยกว่าบางครั้งก็มีมุมที่ทำให้กระชุ่มกระชวยไม่น้อย

“เจอมุกนี้ไปไม่ถูกเลยแฮะ”

วาเลนไทน์เกาหัวยิ้มเก้อๆ

“จริงๆจะบอกว่า เชื่อผู้ใหญ่หมาไม่กัดนั่นแหละค่ะ แต่สถานการณ์นี้ เชื่อผู้ใหญ่จะได้ไม่ป่วยดีกว่า ไปเถอะค่ะ ดื้อนักเชียว เด็กน้อยนี่ เดี๋ยวตีเลย”

หล่อนพูดอย่างหมั่นเขี้ยวพลางดึงมือชายหนุ่มตรงไปที่ลิฟต์ สองหนุ่มสาวคุยกันไปเรื่อยขณะตัวเลขบอกชั้นที่จะไปเลื่อนไปเรื่อยๆจนถึงที่หมาย


“ไทน์นั่งรอพริมตรงโซฟาแปบนึงนะคะ เดี๋ยวพริมหาผ้าขนหนูให้”

พริมรตากุลีกุจอเดินรี่เข้าไปในห้องนอนโดยไม่ลืมหยิบรูปคู่ของหล่อนกับภีมพริษฐ์ไปเก็บด้วยเช่นกัน

“ขอโทษจริงๆนะคะภีม ไทน์ พริมขอเวลาอีกนิด นิดเดียวเท่านั้น”

วาเลนไทน์นั่งรอหญิงสาวอยู่ตรงโซฟาเพราะตัวเปียกชุ่มอยู่ ชายหนุ่มกวาดสายตามองโดยรอบอย่างนึกชื่นชมสไตล์การตกแต่งห้องไม่น้อย

ผนังห้องเน้นโทนสีสว่างนุ่มสบายๆให้ความรู้สึกเหมือนได้พักผ่อนจากความวุ่นวายของโลกภายนอก เฟอร์นิเจอร์ทันสมัยเข้ากับสไตล์สาวมั่นของผู้เป็นเจ้าของเหมือนกับว่าคนออกแบบรู้ซึ้งถึงตัวตนจริงๆจึงได้ออกแบบให้เข้ากับนิสัยความพึงพอใจของเจ้าหล่อน ซึ่งวาเลนไทน์คิดไม่ผิดเพราะคนออกแบบตกแต่งคอนโดนี้ให้พริมรตาคือภีมภริษฐ์นั่นเอง โดยชายหนุ่มออกแบบจากไลฟ์สไตล์ของสาวคนรักจริงๆ

“นี่ผ้าขนหนูค่ะ แล้วก็ชุดเปลี่ยนด้วย”

เสียงหวานดังขึ้นเรียกความสนใจของชายหนุ่ม วาเลนไทน์มองชุดในมือหญิงสาวอย่างนึกสงสัยไม่น้อย

“ชุดของใครหรือครับ”

สายตาชายหนุ่มแน่วแน่อยากรู้ในคำตอบกับสิ่งที่เขานึกสงสัยมาตลอดเรื่องหล่อนมีคนรักแล้วหรือยัง แต่ไม่ได้ถามเสียที

“อย่างที่คุณคิดค่ะ”

 พริมรตายอมรับโดยดุษฎี

“เอาเป็นว่าไปอาบน้ำก่อนนะคะ ตัวเปียกนานๆเดี๋ยวป่วยนะ หรืออยากป่วยให้พริมไปดูแลเอ่ย”

หล่อนกระเซ้ายิ้มๆกลบเกลื่อน ซ่อนแววตาหวั่นไหวทั้งที่ข้างในหัวใจบีบรัดอย่างสับสน ชายหนุ่มยิ้มบางกับมุกกลบเกลื่อนฝืดๆพลางลุกเดินไปห้องอาบน้ำด้านนอก

คงต้องให้เวลาหล่อน

หญิงสาวมองตามแผ่นหลังไม่กว้างเท่าของคนรักหล่อน แต่แฝงด้วยความอบอุ่นอ่อนโยนเดินเข้าห้องน้ำไป

ภีมพริษฐ์ที่แข็งแกร่งให้ความรู้สึกมั่นคงปลอดภัย กับ วาเลนไทน์ที่อ่อนโยนอยู่ด้วยแล้วสบายใจเหมือนหล่อนเป็นนกน้อยที่อิสระสดใสกับท้องฟ้ากว้าง

หญิงสาวกัดริมฝีปากล่างอย่างคิดไม่ตกกับใจที่เริ่มถลำเอนไปหาอีกคน แต่ก็ยังไม่อยากปล่อยมือจากอีกคนด้วยเยื่อใยรัดรึงหัวใจ หากแต่เกลียวรักของคนอยู่ก่อนไม่แน่นพอหัวใจหล่อนจึงไขว้เขวเมื่อถูกความอ่อนโยนไม่ฉาบฉวยค่อยๆแทรกซึมเข้าคลายเกลียวรักเดิมของหล่อน

หญิงสาวกำลังรู้สึกสับสน

ความปั่นป่วนในใจทำให้คิดไม่ตก

มันไม่ง่ายเลยจริงๆ

ที่จะให้ใครสักคนเป็นเพียงเพื่อน

บางครั้งความรักอาจไม่ต้องอาศัยเพียงกลไกเวลา

เพราะคนที่ใช่ หัวใจจะบอกกับเราเอง

เพียงแต่คนไหนเท่านั้นแหละ



เสียงซ่าของสายน้ำฝักบัวหยุดลง มือเรียวเอื้อมหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดตัวก่อนจะหยิบเสื้อคอโปโลแบรนด์ดังมาสวม เสื้อตัวใหญ่ไซส์ฝรั่งเมื่อสวมลงบนตัวของวาเลนไทน์ดูหลวมโพรกขึ้นมาทันที บ่งบอกว่าเจ้าของคงจะตัวสูงใหญ่ไม่น้อย กลิ่นหอมของเสื้อผ้าอวลกลิ่นกายหนุ่มของผู้เป็นเจ้าของเนืองๆย้ำถึงการมีเจ้าของแล้วของพริมรตา ใบหน้าใสจ้องมองภาพตัวเองในกระจก ภาพของเขาในชุดของคนอื่นปรากฏอยู่ในนั้นเหมือนกับว่าเขากำลังเป็นเงาซ้อนใครอีกคนอยู่

ใครอีกคนที่เคยมาที่นี่และเป็นเจ้าของเสื้อผ้าชุดนี้

ชายหนุ่มรู้สึกตัวเองเป็นเงา

ใครคนหนึ่งเคยใส่เสื้อผ้าชุดนี้และยืนส่องกระจกนี้ก่อนหน้า



 “ว้าว หล่อเชียว เหมือนเด็กฮิปฮอป มานั่งก่อนค่ะ เดี๋ยวพริมเช็ดผมให้นะ”

 ชายหนุ่มเดินมานั่งใกล้ๆ หญิงสาวรีบขยับตัวไปเช็ดผมให้

“แฟนคุณคงตัวใหญ่น่าดูนะครับ ผมใส่แล้วชุดหลวมโพรกเชียว”

“ไทน์ คือ...”

“ถ้าผมมีแฟนแบบคุณ ผมคงรักคุณน่าดู เขาเองก็คงไม่ต่าง”

น้ำเสียงไม่ได้แฝงความโกรธขึ้งอันใดหากแต่แฝงความปรารถนาดีช่วยย้ำเตือนสถานะของทั้งคู่ไม่ให้ถลำลงสู่ก้นเหวอเวจีเสียมากกว่า

ร่างบอบบางชะงักมือที่เช็ดผมพลางทิ้งตัวลงนั่งข้างกัน ร่างกายสั่นไหวน้อยๆ

“พริมสับสน พริมไม่รู้ว่าควรทำยังไง ระหว่างคนที่รักกับคนที่ใช่ มันไม่ง่ายเลยนะคะ พริมอยู่กับไทน์แล้วพริมสบายใจ ความอ่อนโยนของคุณมันทำให้พริมหวั่นไหว แต่กับเขา...พริมก็ผูกพัน”

แววตาคู่สวยคมดูหวาดหวั่นอ่อนไหวอย่างสับสนเหมือนคนจะร้องไห้ หัวใจชายหนุ่มอ่อนยวบลงอย่างเข้าใจ

“แล้วไทน์ล่ะคะ คิดยังไงกับพริม รู้สึกอะไรกับพริมบ้างไหม”

ดวงตางามมองเขาด้วยแววสั่นระริกวูบไหว หล่อนเจ็บปวดทรมาน นับวันบาดแผลยิ่งลุกลามจากการไม่อาจห้ามใจ มือที่จับปลาทั้งสองข้างมันไม่ถนัดถนี่ เมื่อปลาเริ่มดิ้น ครีบแข็งก็เริ่มทิ่มมือหล่อน หากปล่อยมือเสียข้างหนึ่ง มือก็จะสามารถจับปลาได้มั่นโดยไม่หลุดไป ความรักก็เช่นกัน แต่ปัญหาคือหล่อนเลือกไม่ได้

สวนดอกไม้แห่งความรักเป็นเส้นทางที่เดินแล้วย้อนกลับไม่ได้ เมื่อหล่อนเจอดอกไม้งามสมบูรณ์แบบอย่างภีมพริษฐ์หล่อนจึงไม่รอช้าที่จะฉวยมาเป็นของตัว หล่อนยิ้มอย่างเริงใจชูคออย่างภาคภูมิเมื่อได้ครอบครองดอกไม้ที่หลายคนเมียงมองด้วยความปรารถนาแต่ไม่อาจได้ครอบครองนอกจากมองตาละห้อยแกมอิจฉาอย่างนึกเสียดาย หากแต่เมื่อหล่อนได้เจอดอกไม้ที่ตัวเองชื่นชอบ แม้ดอกไม้นั้นจะไม่ได้สวยสมบูรณ์แบบเท่าดอกไม้ในมือ แต่มันก็คือดอกไม้ที่หล่อนโปรดปรานปรารถนา

หัวใจเริ่มลังเล

จะทิ้งที่มีอยู่ก็ผูกพันเสียดายกว่าจะได้มาแสนลำบาก แต่ก็ยังอยากไขว่คว้าดอกไม้ที่รักมาครอบครอง

เออหนอ...หัวใจ


“เอ่อ...ผม...”

 วาเลนไทน์อ้ำอึ้งเอื้อนเอ่ยกับคำถามกดดันที่มีสายตาคาดหวังหวั่นไหวของหล่อนจับจ้อง เสื้อผ้าที่สวมใส่ราวกับผู้เป็นเจ้าของหล่อนยืนค้ำตระหง่านคอยฟังคำเอ่ยของเขาเช่นกัน


พรึ่บ!

“ไฟดับ!”

 สิ้นเสียงร่างอรชรก็โผเข้าหาอีกคนทันที

“พริมใจเย็นๆครับ กดหน้าจอโทรศัพท์ให้แสงสว่างแล้วหาเทียนมาจุดนะ”

ชายหนุ่มประโลมหญิงสาวพลางแนะทางออกเสียงนุ่ม อันที่จริงเขาเองก็ไม่ชอบความมืดกับเสียงฟ้าร้องสักเท่าไหร่ แต่พอมาเจอกับเพศบอบบางกว่าอย่างพริมรตาตัวเขาเองจึงต้องเข้มแข็งให้มากกว่า

หญิงสาวเองเมื่อได้ยินเสียงทุ้มนุ่มกระซิบบอกอย่างอ่อนโยนจึงมีสติได้ หล่อนผละออกจากชายหนุ่มพลางควานหาโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะหน้าโซฟา มือบางกดปุ่มให้แสงสว่างสะท้อนวาบขึ้น ภาพหน้าจอคู่ของหญิงสาวกับคนรักปรากฏขึ้นแวบหนึ่ง พริมรตาจะรีบลุกขึ้นยืนรวดเร็ว มือนุ่มส่งให้เขาจับพลางเดินนำไปเอาเทียนที่ห้องครัว วาเลนไทน์มองเห็นรูปคู่เมื่อกี้แต่ไม่ชัด ชายหนุ่มมองแผ่นหลังบางของคนด้านหน้าที่เดินนำเขาไปเงียบๆ

สัมผัสอุ่นที่ฝ่ามือเขาอุ่นซ่านแผ่ไปถึงข้างในใจจนใจหล่อนแกว่ง เมื่อได้เทียนมาแล้วทั้งสองก็ช่วยกันจุดเทียนจนทั่วทั้งห้องสว่างไสว


“โรแมนติกจัง”

 หญิงสาวพูดขณะมองร่างสูงโปร่งกำลังจุดเทียนหลากสีรอบๆห้อง แสงเทียนให้อารมณ์โรแมนติกกว่าแสงนีออน

“ที่นี่ไม่มีไฟสำรองหรือครับ คอนโดหรูขนาดนี้”

“มีค่ะ แต่คงมีอะไรผิดพลาดสักอย่าง เพราะปกติแล้วที่นี่ไม่เคยมีไฟดับ”

“ไม่รู้เมื่อไหร่ไฟจะมา ไทน์อยู่เป็นเพื่อนพริมได้ไหม พริมไม่ชอบความมืดตอนฟ้าร้องเลย”

 หล่อนบอกร่างสูงที่ทิ้งตัวนั่งข้างๆกัน

...ขออีกนิดเถอะนะเวลา...

วาเลนไทน์ชั่งใจนิดหนึ่ง คิดว่าไฟในกรุงเทพไม่น่าจะดับนาน

“งั้นนั่งคุยไปเรื่อยๆก็แล้วกันนะครับ พริมง่วงไหม”

“ไม่หรอก จริงสิ ไทน์หิวมั้ย พริมมีขนมเค้ก เดี๋ยวไปเอามาให้ทานรองท้องก่อนนะคะ”

 ร่างบางพูดพลางเดินไปเปิดตู้เย็นหยิบเค้กปอนด์มีสตรอเบอรี่ลูกโตวางบนหน้าเค้กมาวางตรงหน้า วาเลนไทน์เห็นแล้วอดนึกถึงพี่สาวร่างเล็กของตัวเองไม่ได้

“หึ ปกติผู้หญิงจะชอบของหวานแต่ก็กลัวอ้วนนะครับ”

“พริมทานไม่เยอะค่ะ ส่วนใหญ่จะเลือกทานลูกสตรอเบอรี่ ที่เหลือก็ภี... เอ่อ ที่เหลือมีคนจัดการค่ะ แล้วก็ออกกำลังกายเบิร์นไปด้วย เลยไม่ต้องกังวลมาก”

 หล่อนเลี่ยงชื่อต้องห้าม ยามนี้อยากมีแค่หล่อนและเขา

“จริงสิ ผมต้องโทรบอกเพื่อนๆก่อนว่าวันนี้กลับช้า พวกมันจะได้ไม่ต้องรอ”

ชายหนุ่มพูดพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก รอสายไม่นานเสียงโวยวายคล้ายวงเหล้าก็ดังขึ้น

“ห่าไทน์ เมื่อไหร่มึงจะมาถึงวะ”

เสียงสรรเสริญดังมาจากปลายสายทันที

“กูติดฝน แถวนี้ฝนตกโคตรแรง ขี่รถกลับไม่ไหวว่ะ”

 ชายหน่มพูดขณะมีช้อนเค้กยื่นมาที่ปาก เขาลังเลนิดหนึ่งก่อนอ้าปากรับพลางค้อมศีรษะขอบคุณ

“แล้วมึงอยู่ไหน ให้กูขับรถไปรับไหม”

“ไม่ต้องหรอก กูแวะรอฝนซาแถวห้องคนรู้จัก พวกมึงกินไปก่อนเลย”

“....”

ชายหนุ่มคุยกับเพื่อนอีกครู่จึงวางสายหันหน้ามาหาหญิงสาวที่กำลังจะยื่นเค้กไปป้อนพอดี ชิ้นเค้กในช้อนเฉียดแก้มขาวจนเลอะ

“อุ้ย เลอะแก้มแล้ว”

 หญิงสาวกุลีกุจอหันไปหยิบทิชชู่พร้อมขยับเข้ามาชิดกันมากขึ้นเพื่อเช็ดรอยเลอะที่แก้ม มือเบาเช็ดอย่างเบามือพลางเงยหน้าขึ้นสบตาชายหนุ่มที่หลุบเปลือกตาต่ำลงมามอง

ตาต่อตาสบประสาน

ท่ามกลางแสงนวลวูบไหวของแสงเทียน ราวถูกร่ายด้วยมนต์สะกดแห่งความเผลอไผล ใบหน้าสวยค่อยเคลื่อนเข้าใกล้ใบหน้าหล่อใสที่นิ่งราวถูกตรึง

.

.

.

หนึ่งเดือนหลังจากนั้น

“พี่ชายเตรียมทุกอย่างเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ”

เสียงหวานเจื้อยแจ้วของคนเป็นน้องนุชสุดท้องเอ่ยถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ร่างเล็กขยับเข้าคล้องแขนสวมกอดเอวหนาของพี่ชายพลางเงยหน้าขึ้นมองอย่างออดอ้อนรอคอยคำตอบ

“ครับผม ลุ้นตัวโก่งเสียยิ่งกว่าเจ้าสาวตัวจริงอีกนะเรายัยตัวยุ่ง”

ภีมพริษฐ์บีบจมูกเล็กน้องสาวอย่างมันเขี้ยว งานถนัดของพลอยรัมภานักล่ะ เรื่องขยันออดอ้อนให้พี่ชายเอ็นดู เพราะอย่างนั้นชายหนุ่มจึงหวงแหนหล่อนนักหนา ขนาดไบรอันที่ว่าเป็นเพื่อนซี้ย่ำปึ๊กกันมานานยังไม่มีข้อยกเว้นสำหรับเรื่องนี้กว่าจะผ่านด่านเขาไปได้เรียกว่าหืดขึ้นคอเหนื่อยเสียยิ่งกว่าวิ่งขึ้นกำแพงเมืองจีน

“ว้าว ตื่นเต้นๆ พิ้งค์อิจฉาพี่พริมจังน้า ที่มีผู้ชายหล่อเฟอร์เฟคแถมรวยมาหลงรักแล้วยังทุ่มเทให้ขนาดนี้ พี่ชายลงทุนสร้างเรือนหออีกหลังบนเกาะส่วนตัวเป็นของขวัญแต่งงานให้เชียวนา”

เสียงหวานล้อเลียนพี่ชาย

 “แล้วนี่สร้างเรือนหอสำหรับไปฮันนีมูนเสร็จแล้วหรือคะ หลอกพี่พริมว่าจะไปดูงานแต่แอบกลับมาก่อน ที่แท้ก็ไปดูผลงานนี่เอง”

“ช้าไม่ได้หรอก เดี๋ยวมีลูกไม่ทันไบรอันมัน”

ภีมพริษฐ์แหย่กลับน้องสาว พลอยรัมภาทำปากยู่ใส่พี่ชายเรียกเสียงหัวเราะน้อยๆ

“แล้วนี่คิดไว้หรือยังคะว่าจะขอพี่พริมแต่งงานแบบไหน”

“คิดไว้แล้วล่ะ”

ชายหนุ่มตอบอย่างหมายมั่นกับแผนการเซอร์ไพรส์ว่าที่เจ้าสาวของเขา ที่ผ่านมาเหมือนจะไม่สนใจพูดถึงเรื่องการแต่งงานแต่จริงๆแล้วชายหนุ่มทั้งเสาะหาเพชรน้ำงาม ไข่มุกธรรมชาติ และผ้าไหมเนื้อดีที่สุดสำหรับตัดชุดเจ้าสาว เขานึกถึงความหรูหราของชุดแต่งงานที่ปักด้วยเพชรและมุกแท้บนผ้าไหมไทยเนื้อดีที่คนรักของเขาจะเป็นออกแบบเองโดยเขาเป็นคนเสาะหาวัตถุดิบชั้นดีมาให้ตามที่เคยแอบเห็นชุดแต่งงานที่พริมรตาเคยออกแบบเก็บไว้ เขาจะขอหล่อนแต่งงานด้วยเพชรและมุกน้ำงามบนชุดเจ้าสาว รวมถึงเนรมิตเรือนหอหลังงามบนเกาะส่วนตัวที่เขาและหล่อนจะไปฮันนีมูนกันที่นั่น ภีมพริษฐ์คิดและเตรียมการมาโดยตลอดนับแต่เขาเลือกหล่อน


 “พี่พริมไม่สบายหรือเปล่าคะ”

 พลอยรำภาเอ่ยถามหญิงสาวที่ใบหน้าดูซีดคล้ำเหมือนคนพักผ่อนไม่พอในบ่ายคล้อยวันหนึ่งขณะนั่งทานอาหารด้วยกัน วันนี้หล่อนและพี่ชายแอบนัดแนะกันเซอร์ไพรส์หญิงสาว เฮลิคอปเตอร์เตรียมการจอดรอไว้บนยอดตึกเรียบร้อย พี่ชายของหล่อนจะพาว่าที่เจ้าสาวบินชมรอบเกาะส่วนตัวมูลค่ามหาศาลและเขาจะขอหล่อนแต่งงานที่นั่น เป็นสิ่งที่สองศรีพี่น้องคิดกันไว้

“สงสัยจะความดันต่ำน่ะค่ะ ช่วงนี้พักผ่อนน้อย ลูกค้าออร์เดอร์ชุดเข้ามาเซ็ตใหญ่”

พริมรตาตอบเสียงเนิบ ความอิดโรยทำให้ไม่อยากอาหารมากนัก ดวงตาหวานล้ำเสมองออกไปด้านนอก แผ่นหลังบางของร่างสูงโปร่งที่เดินผ่านหน้าไปทำให้หล่อนชะงัก

...วาเลนไทน์...

นับจากคืนนั้นทั้งคู่ก็ไม่ได้เจอกันอีกประกอบกับออร์เดอร์ลูกค้าเข้ามาให้หล่อนช่วยออกแบบชุดให้หญิงสาวจึงยุ่งพอตัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคิดถึงร่างสูงโปร่งนั่นเสมอ บางคืนหล่อนนอนไม่ค่อยหลับนัก

ภีมพริษฐ์กลับมาได้อาทิตย์หนึ่งแล้วและมีเวลาให้หล่อนตลอด

“งั้นต้องพักผ่อนเยอะๆนะคะ สงสัยพิ้งค์ต้องบอกให้พี่ภีมดูแลให้ดีกว่านี้เสียแล้ว”

 พลอยรัมภาบอกอย่างปรารถนาดี พริมรตารู้สึกผิดลึกๆอย่างบอกไม่ถูก หลายครั้งที่มองแผ่นหลังกว้างมั่นคงของคนรัก หล่อนรู้สึกวูบโหวงในใจราวกับจะสูญเสียไป มันใจหายอย่างบอกไม่ถูกแต่ถึงอย่างนั้นก็ยังรู้สึกโหยหาอีกคน

“พี่พริม พี่พริมคะ”

เสียงหวานใสดึงภวังค์หญิงสาววกกลับมา เมื่อหันมาอีกครั้งสายตาก็ประสานกับร่างสูงตรงหน้าที่นั่งตรงกันข้ามแต่หล่อนกลับเหม่อจนไม่รู้สึกตัว

“เป็นอะไรไปครับ เหม่อเชียว หน้าพริมซีดๆนะ ไปหาหมอไหม”

ภีมพริษฐ์ถามอย่างห่วงใยกับอาการของคนรัก เขาสังเกตมาตลอด ตั้งแต่เขากลับมาพริมรตาก็ดูเหม่อใจลอยไม่ค่อยอยู่กับเนื้อกับตัวเสียเท่าไหร่

“พริมเวียนหัวอยากนอนพักจังค่ะ”

หญิงสาวบอกเสียงแผ่ว

“งั้นกลับไปนอนพักกันนะ โหมงานจนไม่สบายหรือเปล่าครับ หืม?”

ชายหนุ่มยื่นมือมาอังศีรษะคนรักอย่างห่วงใย ร่างสูงลุกขึ้นประคองคนรักเดินออกมาด้านนอกห้าง

“พริมรออยู่ตรงนี้กับพิ้งค์นะ เดี๋ยวภีมขับวนมารับนะครับ”

เขาบอกด้วยน้ำเสียงห่วงใยไม่อยากให้คนรักเดินเหินมากนัก กลัวจะเป็นลมเป็นแล้งไปเพราะพริมรตาตอนนี้หน้าซีดเหมือนแผ่นกระดาษ

ชายหนุ่มขยับก้าวขาออกไป สาวสวยมองตามแผ่นหลังกว้างด้วยความรู้สึกวูบโหวงแปลกๆ จู่ๆก็รู้สึกเหมือนกลัวจะสูญเสียเขาไปอย่างบอกไม่ถูก สายตา ความผูกพันห่วงใยของเขาที่หล่อนรู้สึกได้มันท่วมท้นในใจอย่างบอกไม่ถูกในเวลานี้ มือบางยื่นออกไปไขว่คว้า สองขาขยับก้าวจะตามไป หล่อนรู้สึกไม่อยากสูญเสียเขาไป ดวงตาคู่สวยพร่ามัว สองมือยื่นไปข้างหน้าหวังคว้าถึงตัวเขา ลำคอแห้งผากเอ่ยเสียงเรียกเบาหวิว

“ภีม ภีมคะ...”

ตุบ!

“พี่พริม!”

“พริม!”

.

.

.

“พริมเป็นยังไงบ้างครับหมอ”

 น้ำเสียงร้อนรนเจือความห่วงใยเอ่ยขึ้นทันทีที่แพทย์เจ้าของไข้ออกมาจากห้องฉุกเฉิน

“ยินดีด้วยนะครับ คุณผู้ชายกำลังจะได้เป็นพ่อคนแล้ว คุณผู้หญิงตั้งครรภ์ได้เกือบเดือนแล้วครับ สนใจจะฝากครรภ์ที่นี่เลยไหม”

นายแพทย์หนุ่มเอ่ยถามด้วยใบหน้าร่วมยินดีด้วย หากแต่คำบอกเหมือนเอาไม้แข็งมาฟาดลงบนศีรษะของชายหนุ่มอย่างแรงชนิดตั้งตัวไม่ทัน ร่างสูงยืนอึ้งตัวชาดิกเมื่อได้ยิน

...พริมรตาท้อง...

คนรักของเขาตั้งครรภ์ได้เกือบเดือนแล้ว

ทั้งที่ก่อนหน้าเขาไม่ได้ยุ่งกับหล่อนเลยเป็นเดือนๆเห็นจะได้

เพิ่งจะมีอะไรกันไม่กี่วันที่ผ่านมานี่เอง

แต่ความจริงที่ฟาดหน้าก็ทำให้เขาอึ้งจนพูดไม่ออก

มีเพียงคำถามเดียวในหัว

...พริมรตาท้องกับใคร!..


  o22


ติดตามข่าวได้ที่นี่จ้า  :mew1:  https://www.facebook.com/pages/Love-Novel_Y-by-Moony_Darling/666665450055292

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion7# 08/01/58
«ตอบ #18 เมื่อ08-01-2015 21:23:48 »

Passion.7


“อะไรนะคะ พี่พริมท้องหรือคะ?”

แว่วเสียงหวานใสของพลอยรัมภาผ่านเข้าหู ร่างสูงแกร่งดุจหินผายืนนิ่งไม่ไหวติงราวกับเวลาหยุดเดินอย่างกะทันหันเหมือนกดปุ่มหยุดเอาไว้ สมองมึนงงเหมือนถูกของแข็งทุบผลัวะ ไม่ทันตั้งตัว ทุกอย่างขาวโพลนราวกับภาพในจอโทรทัศน์ที่จู่ๆก็ดับพรึ่บโดยไม่คาดคิด เขายืนนิ่งไม่ได้ยินยลเสียงรอบข้าง

“พี่ชาย พี่ชายคะ!”

 แรงเขย่าที่แขนเรียกสติกลับมาอีกครั้ง ชายหนุ่มหันมองใบหน้ายิ้มร่าของคนเป็นน้องอย่างมึนๆ

“เงียบเชียว ดีใจจนพูดไม่ออกเลยหรือคะ เมื่อวันก่อนใครน้าบอกว่าจะรีบแต่งกลัวมีลูกไม่ทันพิ้งค์ ที่ไหนได้ตัวเองชิงมีก่อนเขาเสียอีก”

คนน้องไม่รู้อิโหน่อิเหน่กระเซ้าพี่ชายเสียงใส ภีมพริษฐ์ได้แต่นิ่งฟังคนน้องเจื้อยแจ้ว

“เราไปหาพี่พริมกันเถอะ ถึงว่าหน้าซีดแล้วซีดอีก ที่แท้กำลังจะมีน้องนี่เอง”

พลอยรำภาลากแขนพี่ชายเข้าไปยังห้องเยี่ยมโดยมีสามีสุดที่รักเดินตามเข้าไป ไบรอันมองเสี้ยวหน้าเรียบนิ่งไร้คำพูดของเพื่อนรักอย่างรู้สึกถึงความผิดปกติ

สองพี่น้องเดินไปหยุดยืนมองใกล้เตียงคนป่วย มือหนาทำท่าจะยื่นเข้าไปกอบกุมมือบางชะงักไว้แล้วลดลงข้างตัวตามเดิม สายตาคมมองหน้าใบหน้าสวยหยาดที่แม้ซีดเซียวแต่ก็ยังดูสวยล้ำด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก สายตาทอดลงมองยังหน้าท้องที่ยังคงแบนราบแต่เขารู้แล้วว่ามีชีวิตอีกชีวิตหนึ่งกำลังก่อกำเนิดขึ้นในนี้

...เด็กที่ไม่ใช่ลูกของเขา!...

มือหนากำเข้าหากันแน่นจนเส้นเลือดขึ้นปูดโปน ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความคับแค้นชิงชังคุโชนขึ้นในใจ

เขารู้...ว่าหล่อนไม่ได้บริสุทธิ์ ก่อนจะมาพบกันพริมรตาเคยผ่านใครมาก่อน แต่มันก็คืออดีต ในเมื่อผู้ชายอย่างเขาเองก็ผ่านผู้หญิงมาโชกโชนชายหนุ่มจึงไม่เห็นประโยชน์ที่ถามหาพรหมจรรย์จากผู้หญิง เยื่อบางๆของความบริสุทธิ์นั่นไม่ได้การันตีอะไรมากไปกว่าหัวใจสัตย์ซื่อ

เขารับอดีตของหล่อนได้

และไม่เคยถามให้ระคาย

เขาคิดว่าหล่อนจะหยุดเมื่อมีเขา

แต่เขาคิดผิด

ผิดมหันต์!


สายตาคมกร้าววาวโรจน์จ้องมองร่างที่ยังหลับพริ้มไม่รู้สึกตัวบนเตียง เขารู้ว่าหล่อนเสน่ห์แรง ดอกไม้แสนสวยย่อมมีภู่ผึ้งปรารถนา เขาเองก็เคยเป็นหนึ่งในหมู่แมลงที่คอยเกี้ยวพาราสีหวังครอบครองตัวหล่อน เป็นเพราะชายหนุ่มมีภาษีดีกว่าใครหล่อนจึงเลือกเขาเหมือนที่เขาเลือกหล่อนท่ามกลางหญิงสาวมากมายที่ทอดกายให้ ชายหนุ่มไม่สนว่าก่อนหน้าหล่อนจะเคยเป็นของใครมาบ้าง แต่เขาคิดว่าหล่อนจะหยุดเมื่อทั้งคู่ตกลงปลงใจกันตรงคำว่า “คนรัก” ใช้คำว่าแฟนบ่งบอกถึงสถานะของกันและกัน

แต่มันไม่ใช่!

ไม่ใช่เลย!

“พี่พริมผอมลงเยอะเลย ต้องบำรุงเยอะๆนะคะเนี่ย”

 เสียงของพลอยรัมภาแว่วเข้าหูมาอีกครั้ง มือขาวเนียนจับแขนบางอย่างห่วงใย พร้อมยื่นไปแตะบางเบาที่หน้าท้อง

“อีกไม่กี่เดือนก็คงจะโย้ออกมาแล้ว พี่ชายคิดว่าตัวเล็กจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายคะ”

 หญิงสาวหันมาถามพี่ชายที่ยังคงนิ่งขึงไม่ได้แสดงสีหน้าดีใจอย่างผิดสังเกต

...จะหญิงหรือชายก็ไม่อยากรู้...

“พี่ชาย...คะ?”

 พลอยรัมภารู้สึกถึงความผิดปกติของพี่ชาย คิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันอย่างฉงน ใบหน้าหล่อเหลาของภีมพริษฐ์นิ่งจนน่าหวาดหวั่น

“พี่จะไปจัดการเรื่องค่ารักษา หมอบอกฟื้นแล้วก็กลับได้เลย”

ร่างสูงพูดเสียงนิ่งพร้อมหันหลังกลับ มือหนาผลักประตูออกไปโดยไม่แม้แต่จะเหลียวหลัง

“พี่ชายเป็นอะไรไปคะ ทำไมดูไม่ดีใจเลย”

 พลอยรัมภากังขากับท่าทีของพี่ชาย

“เอาไว้เดี๋ยวพิ้งค์ก็รู้เองนั่นแหละ ตอนนี้ปล่อยภีมมันไปก่อน จะเพิ่งซักไซ้อะไรเลยนะ”

 ไบรอันปรามภรรยาที่กำลังจะหุนหันตามพี่ชายไปเสียงเรียบเช่นกัน ชายหนุ่มมองประตูที่เพื่อนรักเดินออกไป เขารู้ทุกอย่าง รู้แม้กระทั่งตัวการ แต่ตอนนี้เขาอยากให้ภีมพริษฐ์เย็นลงกว่านี้เสียก่อน

พลอยรัมภายืนนิ่งอย่างงุนงงกับท่าทางมาคุ ดวงตาคู่หวานเงยมองสามีสลับกับร่างบางบนเตียงโดยเลือกที่จะไม่ปริปากถาม หล่อนรู้ เมื่อถึงเวลาหล่อนก็จะได้กระจ่างเอง



รถคันหรูกระชากตัวออกรวดเร็วปานพายุ ปลายเท้าเหยียบคันเร่งแบบไม่มองไมล์ที่ชี้บอกระดับความเร็ว

หัวใจกำลังคลุ้มคลั่งเดือดดาลด้วยเพลิงแค้นสุมคับทรวงดั่งทะเลเกรี้ยวกราดด้วยพายุกรรโชก เขาแทบจะฆ่าคนได้ในตอนนี้ ตอนอยู่ในโรงพยาบาลเขาแทบจะกระชากร่างบางนั่นขึ้นมาเขย่าถามให้รู้แล้วกันไป อยากจะบีบให้แหลกลาญคามือสังเวยความทรยศอันแสนอดสูของผู้หญิงแพศยากับชายทรามหากแต่เขายังห่วงน้องสาวจะตกใจจึงได้ระงับความแค้นคั่งสุมไว้แล้วเดินจากมา

“โธ่เว้ย!!”




“อือ อืม...”

เสียงขยับตัวของร่างบนเตียงเรียกความสนใจของร่างสูงใหญ่แบบหนุ่มลูกครึ่งให้ลดแท็ปเล็ตในมือลง ร่างหนาปิดหน้าจอเก็บเครื่องลงกระเป๋าพลางลุกมารินน้ำส่งให้ หัวคิ้วเรียวมุ่นเข้าหากันอย่างฉงนเมื่อหันมาเจอใบหน้าสามีของน้องสาวคนรัก

“ดื่มน้ำเสียก่อน”

ไบรอันเอ่ยเสียงเรียบ หญิงสาวยันกายขึ้นนั่งพร้อมรับน้ำในมือใหญ่ไปจิบ เขาและหล่อนไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังมานานแล้ว

“ยินดีด้วยนะว่าที่คุณแม่”

 น้ำเสียงเรียบนิ่งฟังไม่เหมือนยินดีอย่างถ้อยประโยคที่เอ่ย

“คุณว่าอะไรนะ!”

พริมรตาคิดว่าหล่อนหูเฝื่อน

“หมอบอกว่าคุณท้องน่ะ”

น้ำเสียงราบเรียบเหมือนพูดเรื่องฟ้าเรื่องฝนทั่วไปแต่คนฟังถึงกับหน้าซีดเผือด มือเย็นเฉียบเหมือนเลือดหยุดเดิน

“ฉันท้อง...”

เสียงครางแผ่วคล้ายละเมอขณะก้มมองดูหน้าท้องของตัวเอง ความรู้สึกบางอย่างประดังเข้ามา หล่อนเงยหน้าขึ้นเหลียวมองหาร่างสูงใหญ่ของคนรัก

“ภีมไม่ได้อยู่ที่นี่หรอก ออกไปได้พักใหญ่ๆแล้วล่ะ”

 ไบรอันบอก

“ภีม...”

หล่อนถึงกับพูดไม่ออก ความผิดค้ำคอเกินกว่าจะเอื้อนเอ่ยคำพูดใด

“ภีมมันคงไปหาที่ลงที่ไหนสักที่นั่นแหละ ขืนอยู่ต่อคงได้ฆ่าคนท้อง”

 ไบรอันยังคงรายงานสถานการณ์ต่อไม่สะทกสะท้าน หญิงสาวนิ่งงันฟังคำบอกราบเรียบแต่กรีดลึกฉีกลงไปถึงกลางใจ หล่อนตระหนักถึงความรักของเขาเอาวันที่สาย เพิ่งรู้ว่ารักมากและไม่อยากสูญเสีย แม้หัวใจจะหวั่นไหวกับใครไปบ้างแต่ลึกๆก็ยังรักเขาไม่คลาย น้ำตาหยดหนึ่งร่วงเผาะลงเงียบๆ

หล่อนรู้สึกตัววันที่สายไป ภีมพริษฐ์คงไม่มีทางให้อภัยหล่อน

“ผมเคยคิดว่า คุณทิ้งผมไปแล้วจะหยุดที่ภีมได้เสียอีก ไม่คิดเลยว่าแม้แต่ภีมพริษฐ์ก็ยังหยุดความทุรนทุรายกระหายไขว่คว้าของคุณไม่ได้”

 ไบรอันมองใบหน้าสวยหยาดที่ครั้งหนึ่งเขาเคยหลงใหลนักหนาจะเป็นจะตายเสียให้ได้แทบคลั่งเมื่อครั้งหล่อนทิ้งเขาไป

“ไม่ใช่!”

หล่อนปฏิเสธดื้อดึงเสียงแข็ง คนอย่างไบรอันจะไปรู้อะไร ป่วยการที่จะพูดให้คนในอดีตฟัง

“ยังไงคือไม่ใช่ การที่คุณท้องกับคนอื่นทั้งที่คุณคบอยู่กับภีมมันก็บอกอะไรได้ทุกอย่างแล้วนะพริมรตา ผมเคยนึกเสียดายที่เสียคุณไป แต่ตอนนี้ไม่เลยสักนิด”

ไบรอันเอ่ยอย่างรู้สึกจริงๆ

“เพราะคุณทิ้งผมไปผมถึงได้เจอกับพิ้งค์ เป็นของขวัญล้ำค่าที่สุดในการเลิกกันของเรา ถึงแม้ว่าคุณจะยัดเยียดให้แบบไม่ตั้งใจก็เถอะ แต่คุณก็ยื่นเพชรน้ำงามให้ผม”

ชายหนุ่มนึกถึงใบหน้าหวานสดใสเหมือนดอกไม้ยามเช้าของพลอยรัมภา ผู้หญิงที่คว้าหัวใจและมอบความรักครั้งใหม่ปลดแอกความเศร้าให้แก่เขา
 
“อยากบอกว่า...ขอบคุณที่ทิ้งกัน”

ชายหนุ่มพรั่งพรูความในใจยาวยืด สิ่งที่เก็บงำมาตลอด เรื่องเดียวที่เขาปิดบังเพื่อนรักและภรรยาคือการที่เขาเคยคบกับหล่อนมาก่อนหน้า คนที่มาเจอกันอีกครั้งแต่ทำเหมือนคนไม่รู้จัก ไบรอันยอมแพ้โดยไม่มีเงื่อนไขเมื่อเห็นว่าคนรักใหม่ของหล่อนเป็นใคร ยอมรับว่าพริมรตาเก่งที่หาคนใหม่ได้ดีกว่าเขา

 “ทางที่ดีอย่าไปให้ภีมเห็นหน้าจะดีกว่า คุณไม่รู้หรอกว่าเวลาเทพบุตรกลายร่างเป็นซาตานมันเป็นยังไง”

 เขาเตือน ไม่ได้หวังดีอะไรกับอดีตคนเคยรักหรอก เขาแค่ไม่อยากให้เพื่อนพลั้งมือฆ่าคนก็เท่านั้น

“ผู้ชายอย่างพวกคุณมันก็มีแต่ความเห็นแก่ตัววันยันค่ำ”

หล่อนเอ่ยอย่างร้าวรานนัยน์ตาคลอหน่วยน้ำ มือบางกำผ้าห่มแน่น

“ผู้ชายอย่างพวกคุณมีใครต่อใครผ่านมากี่คนไม่เคยผิด แต่พอผู้หญิงเป็นแบบนั้นบ้าง ลังเลกับคนอื่นที่ดีด้วยบ้าง พวกคุณก็ตราหน้าว่าฉันเลว หลายใจ แพศยา หรืออะไรอีกล่ะที่จะสรรหามายัดเยียดให้พฤติกรรมแบบเดียวกับที่พวกผู้ชายแบบคุณทำกันน่ะ”

“มันก็ไม่ผิดถ้าคุณจะคิดแบบนั้นนะพริมรตา ไม่ผิดสักนิดถ้าคุณจะคิดว่าผู้ชายทำได้ผู้หญิงก็ทำได้แล้วหว่านเสน่ห์ไปทั่วน่ะ”

ไบรอันพูดอย่างที่รู้สึกจริงๆ

“แต่นั่นมันก็ควรจะเป็นแค่ตอนก่อนคุณจะตกลงปลงใจกับใครและควรหยุดมันเมื่อคุณตัดสินใจคบใครแล้ว ไม่ใช่มีแฟนแล้วยังร่านไปทั่ว! ถ้าจะทำอย่างนั้นทำไมไม่บอกเลิกกับภีมเสียก่อน!”

 ไบรอันอดฉุนเฉียวไม่ได้ บริภาษผู้หญิงด้วยถ้อยคำหยาบคายไม่ใช่วิสัยเขาสักนิดแต่มันอดไม่ไหว ผู้หญิงที่กล้าหักหลังผู้ชายเฟอร์เฟคแบบภีมพริษฐ์แถมชู้รักของหล่อนไม่มีอะไรเทียบกับเพื่อนเขาได้เลย

“ตราบใดที่คุณไม่รู้จักหยุด คุณก็จะต้องไขว่คว้าต่อไปไม่เลิก เชื่อเถอะ รักแท้ไม่ได้เกิดจากการพลีกายหรอก เพราะพิ้งค์เองไม่ได้ทำอย่างคุณผมก็ยังรัก รักมากเสียด้วย”

เขาบอกกลายๆ พลอยรัมภาไม่ฉูดฉาดสักนิด แต่ความสดใสน่ารักมองโลกแง่ดีของหล่อนก็ทำให้เขาลุ่มหลงหวงแหนนักหนา

“รู้เอาไว้ด้วยนะ คนอย่างภีมหรือผม หาผู้หญิงสวยๆ สวยกว่าคุณง่ายเสียยิ่งกว่าอะไร อย่าทะนงในตัวเองนักเลย”

ไบรอันบอกให้หล่อนหยุดชะล่าใจ ผู้หญิงมากมายพร้อมทอดกายให้เขาและภีมพริษฐ์

“ออกไป!”

หมอนใบเขื่องขว้างใส่หน้าอดีตคนเคยคบ ไบรอันรับหมอนพร้อมเหวี่ยงไปที่โซฟา

“คุณพลาดเองนะที่เอาเขาไปสวมให้เทพบุตรกลายร่างเป็นซาตานน่ะ เพราะคนอย่างภีมพริษฐ์ไม่ได้โง่เป็นควาย แต่เขาที่คุณกับชู้ช่วยกันสวมให้น่ะ มันเขาของซาตานชัดๆ”

“ฉันบอกให้ออกไป!”

ร่างใหญ่ล่าถอยไปโดยดีเมื่อสิ่งที่อยากพูดบรรลุผล ที่จริงเขาตั้งใจนั่งรอหล่อนฟื้นเพื่อจะพูดเรื่องนี้กับหล่อนโดยตรง ชายหนุ่มปล่อยหล่อนไว้ตามลำพังเพราะรู้ดีว่าผู้หญิงแบบพริมรตาไม่มีทางคิดสั้นกับเรื่องแค่นี้

ลับร่างใหญ่แล้วทุกอย่างก็ตกอยู่กับความเงียบงัน มือบางลูบบางเบาที่หน้าท้อง หล่อนเดินมาไกลเกินกว่าจะล่าถอยกลับไป

“ภีมคะ พริมขอโทษ”

 น้ำตาหยดใสร่วงหล่นลงจากใจที่สำนึกผิดจริงๆ

.

.

.

รถแล่นมาไกลเท่าไหร่ไม่อาจรู้ ปลายเท้าเบรกเอี๊ยดดังสนั่นในที่โล่งลับคน

“สารเลว! โว้ย!!”

มือหนาทุบลงบนพวงมาลัยอย่างคับแค้นในอกกรุ่น ถ้อยคำบริภาษพรูออกจากริมฝีปาก ในหัวฉายภาพเรือนร่างอวบอิ่มยั่วยวนกำลังเริงสวาทโลกีย์กับชู้รักอย่างเผ็ดร้อน เสียงหัวร่อต่อกระซิก เสียงครวญครางอย่างเร่าร้อนในเพลิงอารมณ์ยามลับตาไอ้โง่เง่าอย่างเขา ชายหนุ่มรู้สึกคลื่นเหียนอย่างนึกรังเกียจ ไม่ต่างจากคนบ้าใบ้ถูกหลอกให้ปิดตากลายเป็นตัวตลกให้เขาหัวร่อ ความรู้สึกของการถูกหักหลังตีแสกเข้ากลางหน้าชาดิกเหมือนปลาถูกท่อนไม้หวด แค้นจนแทบคลั่ง นึกหาว่าไอ้คนไหนที่มันกล้าสวมเขาให้คนอย่างเขา

“มันไม่จบแค่นี้แน่ มันจะไม่จบที่ความชื่นมื่นของคนทรยศอย่างเด็ดขาด!”

เขากัดฟันกรอดอย่างคั่งแค้น ดวงตาคมวาวโรจน์ดั่งราชสีห์เกรี้ยวกราดที่พร้อมจะฉีกกระชากร่างเหยื่อให้แหลกคากรงเล็บแกร่ง รถคันหรูถูกกระชากออกตัวแรงอีกครั้งจนแทบจะเฉี่ยวชนมอเตอร์ไซค์คันเล็กที่กำลังแล่นอยู่ข้างหน้า

เอี๊ยด!!

ชายหนุ่มเหยียบเบรกเสียงดังสนั่น สายตาคมเหลือบมองกระจกหลัง มอเตอร์ไซค์คุณปู่คันเก่าจอดหลบอยู่ข้างทาง ไม่รอช้าเขารีบถอยรถกลับมาดู

วาเลนไทน์แทบจะตะโกนด่าไปถึงบุพการีของเจ้าของสปอร์ตคันหรูมันปลาบที่สั่งสอนกันยังไงลูกถึงไม่รู้จักจำ อาศัยมีเงินหนาเข้าหน่อยก็คิดจะรังแกผู้อื่นอย่างนั้นน่ะหรือ คิดว่าถนนเมืองไทยกรรมสิทธิ์ของตนหรือไรถึงได้ขับรถเร็วปานพายุแบบนี้

ร่างโปร่งหยุดมอเตอร์ไซค์จอดข้างทางยืนหน้าหงิกมองรถคันหรูที่เบรกเสียงดังสนั่นถอยรถกลับมา ชายหนุ่มยืนรอเจ้าของรถลงมากะว่าจะด่าให้เปิดเปิงสมองไหลไปเลยได้ยิ่งดีแต่พอเห็นใบหน้าคมคุ้นตาความรู้สึกอยากด่าก็ลดฮวบ

“เป็นอะไรมากหรือเปล่า”

 เสียงถามห้วนเรียบนิ่งเย็นเยียบด้วยความคุกรุ่นพลุ่งพล่านที่มีในใจไม่ได้มีความอาทรแม่แต่น้อยแถมใบหน้าหล่อคมยังดูถมึงทึงอย่างกับพร้อมจะฆ่าคน วาเลนไทน์หุบปากปิดสนิทกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงคอพร้อมม้วนเก็บคำด่าเก็บไปทันที ใบหน้าเรียวเงยมองใบหน้าคนสูงกว่าน้อยๆพอสบสายตาคมขึ้งที่มองมาหนุ่มร่างบางแทบไม่กล้าหายใจ

“ตกลงบาดเจ็บตรงไหน”

 เสียงโหดเย็นถามซ้ำอีกครั้ง ใบหน้าเรียวส่ายรัวทันที กลัวจนหัวหดแต่ไม่วายค่อนขอดในใจ

“ถามด้วยสีหน้าน้ำเสียงแบบนี้สู้ฆ่าแล้วโบกปูนโยนลงทะเลไปเลยดีกว่า แม่ง ไปโกรธใครมาวะ ถามอย่างกับจะกินหัว นี่ผู้เสียหายนะคร้าบผู้เสียหาย”

 วาเลนไทน์ได้แต่คิดในใจไม่กล้าพูด ไม่กล้าด่า ไม่กล้าโวยวายกลัวตายก่อนได้ภรรยา หน้าก็ไม่กล้ามองด้วยกลัวว่าจะโดนแผดเผาด้วยรังสิอำมหิตมาคุเพราะดูจากใบหน้าคนตรงหน้าแล้ว เขาหุบปากไว้จะเป็นการรักษาชีวิตได้ดีที่สุด

“ตกลงส่ายหัวนี่คือไม่เป็นอะไรใช่ไหม ฉันไม่ได้เฉี่ยวนายนะ”

 ภีมพริษฐ์มองสำรวจร่างโปร่ง เจ้าตัวบางก้มหน้างุดเหมือนหนูตัวจ้อยกลัวราชสีห์เขมือบหัว

“เปล่าครับ ผมแค่ตกใจ”

 วาเลนไทน์บอกเสียงอ่อยลืมไปว่าตัวเองเป็นเจ้าทุกข์ที่เกือบโดนเขาขับรถเฉี่ยว

“ก็ดี จะเอาค่าเสียหายเท่าไหร่ ปลอบขวัญที่ทำให้นายตกใจ” อีกคนถามต่อ

“ผมไม่เป็นอะไร ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหายหรอกครับ”

วาเลนไทน์คิดว่าตัวเองพูดภาษาไทยชัดนะ แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่สนใจ มือหนาหยิบเช็คขึ้นมาเขียนยิกๆก่อนจะยัดใส่มือบาง

“ฉันไม่ชอบติดหนี้ใคร”

เสียงเรียบบอกพร้อมสายตากดดันจนอีกคนไม่กล้าหือ ร่างบางมองร่างสูงใหญ่เดินไปขึ้นรถก่อนจะกระชากตัวออกไปรวดเร็วปานพายุเหมือนเดิม

“ไปโกรธใครมาวะ นี่ขนาดเราไม่ใช่ต้นเหตุยังเสียวสันหลังวาบ แล้วตัวต้นเหตุจริงๆจะโดนขนาดไหนวะเนี่ย บรื๋อ ไม่กล้าคิดต่อ”

ร่างโปร่งทำท่าขนลุกขนพองพลางก้มมองจำนวนตัวเลขในเช็ค

“โห จ่ายขนาดนี้พี่แกกะประชดจะให้เอาไปซื้อคันใหม่เลยหรือไงเนี่ย นี่ละน้าคนรวยเอะอะก็เอาเงินฟาดหัว”

ใบหน้าเรียวส่ายหวืออย่างระอากับคนบางประเภทที่จบปัญหาด้วยเงินพร้อมยัดเช็คลงกระเป๋า ร่างโปร่งขึ้นคร่อมเจ้าคันเก่งออกตัวไปเหมือนกัน ในใจก็อดคิดถึงใบหน้าหล่อเหลาชวนมองยามโกรธขึ้งอย่างพายุลงเมื่อกี้ไม่ได้ ปกติยามสีหน้าเรียบนิ่งก็ดูแฝงไปด้วยอำนาจอยู่แล้ว แต่ใบหน้ายามโกรธนี่วาเลนไทน์เพิ่งเจอคนนี้นี่แหละที่โกรธแล้วดุดันมุทะลุที่สุด คนไม่เคยกลัวใครอดผวาไม่ได้ อย่าได้ริเป็นศัตรูด้วยเชียว

“ใครทำให้เฮียแกโกรธสงสัยจะไม่ตายดี ปากเก่งได้แค่ลับหลังเขาละว้าไอ้ไทน์เอ๋ย เฮ่อ!”

คนไม่รู้อนาคตตัวเองพึงพำไปเรื่อยเปื่อยอย่างไม่ได้รู้เลยว่าพายุกำลังจะถล่มลงที่ใคร


 :hao3:


ติดตามข่าวคราวที่นี่จ๊ะ https://www.facebook.com/pages/Love-Novel_Y-by-Moony_Darling/666665450055292

ออฟไลน์ Moony_Darling

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 98
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +65/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #19 เมื่อ08-01-2015 21:36:36 »

Passion.8


“พี่ชาย...”
 
เสียงหวานใสครวญสั่นเครือ ธารน้ำตาไหลพรากอาบสองแก้มขาวผ่องเมื่อเข้ามาเจอกับซากอารยธรรมแห่งความเกรี้ยวกราดในห้องนอนพี่ชาย เพชรน้ำงามเม็ดต่างไซส์ มุกเนื้อดีจากรอบเกาะส่วนตัวที่แพลนไว้ว่าจะพาเจ้าสาวคนสวยไปฮันนีมูนรวมถึงผ้าไหมเนื้อดีสั่งทออย่างประณีตที่สุดจากแม่อุ๊ยผู้เฒ่าผู้แก่บนดอยทางเหนือผู้มากประสบการณ์วงการทอผ้าไหม ซึ่งทั้งหมดรวมกันก็เพื่อเนรมิตชุดเจ้าสาวที่เลอค่ามอบแก่เจ้าสาวผู้โชคดีของมหาเศรษฐีหนุ่มหล่อร้อนแรง แต่ทั้งหมดที่พูดมาบัดนี้เกลื่อนกระจัดกระจายดูไร้ค่าไร้ราคาในห้องคอนโดหรูวิวดีติดทะเลสาบที่ไม่เหลือสภาพการดีไซน์เงียบหรูสไตล์เจ้าของสักนิด

เงียบงันไร้เสียงตอบรับจากคนที่ยังนั่งหันหลังทอดสายตามองเวิ้งน้ำ

พลอยรัมภาหยิบเพชรเม็ดหนึ่งขึ้นด้วยหัวใจวูบโหวง น้ำงามทอประกายล้อแสงไฟราคาไม่น้อยดูไร้ราคาราวก้อนหินหล่นเรี่ยราดบนพื้นพรม ร่างสูงใหญ่ผึ่งผายของพี่ชายนั่งนิ่งไม่ไหวติงราวรูปหินสลัก ดวงตาคมทอดมองเหม่อออกไปภายนอกไร้จุดหมาย หล่อนรู้แจ้งในสาเหตุจากปากสามีตอนนั่งรถมาด้วยกัน การทรยศหักหลังบั่นทอนจิตใจพี่ชายหล่อนได้ร้าวลึก

...ตอกทับลงยังบาดแผลเดิมในใจที่เคยถูกตอกลิ่มฝังอยู่อย่างไม่เห็นหนทางถอนออก...

และพริมรตาก็ซ้ำลงไปยังที่เดิมราวกับจะตอกย้ำร่องรอยบาดแผลเก่าที่ยังไม่ได้บ่งออก แผลที่เขาแกล้งลืมว่าเคยมีให้จุกแทบกระอัก

พลอยรัมภาสู้อุตส่าห์ดีใจนักหนาที่พี่ชายมีท่าทีเย็นชาน้อยลง ยอมเปิดรับใครเข้ามาให้ตัวเองได้มีความสุขเสียบ้างเพราะต้องเข้มแข็งเพื่อครอบครัวมาโดยตลอด หากแต่การเปิดรับกลับเป็นการเปิดบาดแผลซ้ำให้ตัวเองอีกหน...

หัวใจพลอยรัมภาร้าวรานเหลือคณา หยาดน้ำตาหล่นร่วงเผาะยามมองแผ่นหลังพี่ชาย

แผ่นหลังใหญ่มั่นคงดุจภูผาแลดูโดดเดี่ยว อ้างว้าง เหน็บหนาว อย่างที่ความอบอุ่นใดๆก็ไม่อาจเข้าถึง
พี่ชายไม่มีแม้น้ำตาสักหยดให้เห็น

ร่างสูงใหญ่อย่างคนเป็นผู้นำกักเก็บทุกหยาดหยดเอาไว้ภายในหัวใจกลัดหนองไม่แสดงออกให้ใครได้เห็นถึงความอ่อนแอ
แต่แค่นั้นหัวใจคนเป็นน้องน้อยก็ร้าวรานเหลือประมาณ เขื่อนทำนบน้ำตาเท่าไหร่ก็ชำระหัวใจเจ็บไม่หมดมีแต่จะราดลงซ้ำให้เจ็บเจียนตายจนหายใจแทบไม่ออก

ร่างบางย่อตัวลงเก็บเม็ดเพชร ไข่มุกและผ้าไหมใส่กล่องอย่างถนอม ดีหน่อยที่ความกราดเกรี้ยวไม่ได้ทำให้พี่ชายทึ้งผ้าไหมที่แม่อุ๊ยตั้งใจทอให้เสียขาดกระจุย นับว่ายังมีสติคิดถึงหัวใจคนอื่น พลอยรัมภาพอจำได้ว่าอัญมณีมีทั้งหมดเท่าไหร่ ร่างบางเบี่ยงไปก้มๆเงยๆมองหามาเก็บไว้ ถือเสียว่าฆ่าเวลาให้อารมณ์เดือดพล่านของพี่ชายเพลาลงบ้าง โชคดีแสงแวววาวนั้นตัดกันกับสีพื้นไม้หล่อนจึงรวบรวมมาเก็บไว้ไม่ยากนักพร้อมแยกไปเก็บไว้ในตู้เซฟกับผ้าไหมเนื้อดี ก่อนจะมาทิ้งร่างนั่งลงข้างๆพี่ชาย

“เด็กในท้องพริมไม่ใช่ลูกของพี่”

เสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้น พลอยรัมภาหันมองเสี้ยวหน้าคมไร้คำเอ่ยใด รู้ดีว่าพี่ชายกำลังสะกดอารมณ์พลุ่งพล่านในใจให้สงบ ใบหน้าสวยใสเอียงซบไหล่แกร่งปลอบใจให้พี่ชายรู้สึกตัวว่าอย่างน้อยก็ยังมีน้องสาวอย่างหล่อนที่ห่วงใย

“ช่างเถอะค่ะ แค่ผู้หญิงคนเดียวที่ไม่เห็นค่าเพชรน้ำงามในมือ ไม่คู่ควรกับพี่ชายหรอก”

หล่อนบอกอย่างใจคิด แม้พี่ชายของหล่อนอาจจะเย็นชาบ้างแต่หากพริมรตาอดทนรอได้อีกเพียงนิดหล่อนก็จะได้เจอชายหนุ่มที่ทั้งรูปงามและแสนดีคอยดูแลหล่อนไปทั้งชีวิต หากแต่พริมรตาเองก็ไม่ต่างจากคนอื่นๆแม้จะคบนานกว่าใคร พลอยรัมภาถือว่าหล่อนไม่ผ่านการทดสอบ

 “พี่ชายอยากอยู่คนเดียวเงียบๆ พิ้งค์ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”

ภีมพริษฐ์บอก ท่อนแขนเรียวคล้องกอดพี่ชายทั้งตัวแม้ไม่รอบ

“ฮึก...พี่ชายยังมีพิ้งค์นะคะ พิ้งค์ยังอยู่ตรงนี้เสมอ”

 หยาดน้ำใสไหลรินอีกหนแทนพี่ชายที่ไม่มีน้ำตาสักหยดแต่พลอยรัมภารู้ดีว่าภีมพริษฐ์เจ็บปวดกับการถูกหักหลังเพียงไหน

...กับการหักหลังที่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง

กระอักจนแทบล้มตึงทั้งยืน...


ภาพเสียงโหวกเหวกอย่างคนทะเลาะกันของบิดามารดาที่เชิงบันไดยามดึกดื่น ภาพพี่ชายที่ฝากน้องน้อยให้พี่เลี้ยงดูแลก่อนที่ตัวเองจะหุนหันวิ่งออกไปหน้าบ้านกวักมือเรียกรถแท็กซี่มุ่งออกไปข้างนอกย้อนวนเข้ามาในหัวอีกครั้ง ตอนนั้นพลอยรัมภายังเยาว์เกินกว่าจะรู้อะไร หล่อนทำเพียงนั่งกินขนมและนอนหลับอย่างไม่รู้อิโหน่อิเหน่เมื่อพี่ชายและมารดากลับมาบ้านพร้อมกัน

...โดยไร้ร่างบิดา...

“คุณแม่ขา พี่ชาย แล้วคุณพ่อล่ะคะ ออกไปพร้อมกันกับคุณแม่ไม่ใช่หรือคะ ทำไมคุณพ่อไม่กลับมาด้วยกัน”

เสียงใสเอ่ยถามอย่างฉงน มีเพียงความเงียบเป็นคำตอบจากปากมารดาที่ย่อตัวลงกอดร่างเล็กป้อมเอาไว้แนบอก ไหล่บางไหวระริก พี่ชายของหล่อนเดินเข้ามาสวมกอดทั้งมารดาและน้องสาวไว้ในอ้อมกอดเล็กสะอื้นไม่ต่าง พลอยรัมภารู้สึกงุนงงยิ่งนัก ร่างเล็กขืนตัวออกก่อนจะใช้มือป้อมเช็ดน้ำตาให้มารดา

“คุณแม่ร้องไห้ทำไมคะ แล้วคุณพ่อล่ะ คุณพ่อไปไหนเสีย ทำไมไม่กลับมากับคุณแม่”

 สิ้นเสียงถามเสียงสะอื้นของมารดาดังหนักกว่าเก่า

“พี่จะดูคุณแม่และพิ้งค์เอง”

 พี่ชายยืดตัวขึ้นปาดน้ำตาให้ตัวเองเอ่ยแทนคำตอบ ดวงตาคมที่เคยสดใสซุกซนอย่างพระอาทิตย์ยามเช้าแรงกล้า...อินทรีย์น้อยที่ต้องโผบินทั้งที่ปีกยังไม่กล้าแข็งสักนิด



หล่อนมารู้ความเอาตอนโตว่าเหตุการณ์วันนั้นคือวันที่บิดาทอดทิ้งครอบครัวไปกับภรรยาใหม่ พี่ชายพยายามนั่งรถแท็กซี่ตามไปยับยั้งไว้ด้วยหวังจะใช้คำว่า “ลูก” เป็นโซ่ทองคล้องหัวใจของพ่อและแม่ไว้ด้วยกันไม่ให้ห่างไปไหน

...แต่ก็ไร้ผล...

เมื่อหัวใจคนมันจะแปรเปลี่ยน ภีมพริษฐ์ทำได้เพียงพาร่างอ่อนแรงของมารดากลับมาบ้านที่โหว่แหว่งไร้หัวหน้าครอบครัวเมื่อการหย่าขาดสิ้นสุดลง

...นั่นคือรสชาติของการถูกหักหลัง...

..."ครั้งแรก"...



หัวใจของพี่ชายหล่อนจึงเย็นชานับแต่นั้นมา

ไม่เคยเปิดใจรักใคร

แม้เปิดให้พริมรตาเข้ามาทำความรู้จักก็ไม่เต็มหน่วยด้วยฝันร้ายยังคอยติดตาม จวบจนเวลาผันผ่านพี่ชายเริ่มคลายหัวใจกระด้างลงได้บ้างเพื่อเริ่มชีวิตใหม่กับใครสักคน

ชายหนุ่มคิดว่าพริมรตาน่าจะเป็นใครคนนั้น

แต่พริมรตาเองก็มาหักหลังกันอีกคน

หากพริมรตาอดทนอีกสักนิด

หล่อนจะได้พบกับผู้ชายแสนดีอบอุ่นอ่อนโยนที่พร้อมจะดูแลหล่อนไปทั้งชีวิต

แต่เมื่อความอดทนของผู้หญิงคนนั้นมีไม่พอ พลอยรัมภาก็ถือเสียว่าหล่อนไม่ผ่านกับบททดสอบนี้

...หึ เหมือนกันหมด หลงรูป หวังทรัพย์...


มือบางกุมมือพี่ชายแทนคำปลอบประโลม หัวใจหล่อนเจ็บราวถูกกรีดเลือดไหลพลั่กๆไม่ต่างจากตายทั้งเป็น ร่างบางถอนตัวออกมาปล่อยให้พี่ชายได้อยู่คนเดียวเงียบๆตามที่บอก

พลอยรัมภาเปิดประตูห้องนอนออกมาเจอกับสามีพอดี ร่างบางโผเข้าหาอกแกร่งสะอื้นฮักตัวโยน ไบรอันลูบแผ่นหลังบอบบางปลอบโยนขณะพาภรรยาสาวไปนั่งที่โซฟาห้องรับแขก สายตาจ้องมองยังประตูห้องนอนรอจนภรรยาคลายสะอื้นเขาจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนรักด้านใน

“นี่คือสิ่งที่ฉันพอจะช่วยได้ แกจะจัดการยังไงก็แล้วแต่ อย่าถึงตายก็พอ คิดถึงพิ้งค์ไว้มากๆ”

 ไบรอันบอกสั้นๆขณะวางซองสีน้ำตาลบรรจุรูปไว้ข้างในก่อนจะถอยออกมา เขาให้เลขาฯจัดหาคนช่วยสืบนับตั้งแต่เจอพริมรตาอยู่กับชายหนุ่มหน้าใสที่ห้างวันนั้นแล้ว อย่างน้อยเพื่อนเขาก็ควรที่จะได้รู้หน้าค่าตาหญิงชั่วชายเลวคู่นั้น


มือหนาโคลงแก้วเหล้าในมือเลื่อนลอยก่อนจะกระดกรวดเดียวหมดแก้วขณะสายตาทอดมองยังเวิ้งฟ้าด้านนอก ขอบริ้วเทาอมส้มยามเย็นเหมือนภาพศิลปะงดงาม ภีมพริษฐ์ชอบนั่งมองท้องฟ้ายามรู้สึกว้าวุ่น

นิ่งอยู่ครู่ใหญ่จึงหันมายังซองสีน้ำตาลที่เพื่อนรักวางไว้ให้ คิ้วเข้มขมวดอย่างสงสัยในสิ่งที่ไบรอันสื่อบอก มือหนาหยิบซองมาเปิดดูด้านในก่อนจะชะงักไปกับภาพใบหน้าชายหนุ่มในรูป

...เจ้าเด็กกะโปโลจอมซุ่มซ่าม...

ตาคมวาวโรจน์ ใจที่เริ่มสงบพลันเดือดพล่านขึ้นอีกครา มือหนาถือรูปในมือแน่นด้วยอารมณ์คุกรุ่นอย่างจะแผดเผาให้เป็นผุยผง ภาพชายหนุ่มหญิงสาวนั่งกินอาหารส่งยิ้มให้กัน สายตาคมเหลือบมองวันเวลาที่ระบุในรูป

หึ วันเดียวกับที่เขานัดเจอหล่อนก่อนบอกว่าจะไปดูงานที่อเมริกาทั้งที่จริงแล้วเขาแอบเตรียมเซอร์ไพรส์ขอหล่อนแต่งงานต่างหาก เวลาในรูปคือก่อนที่หล่อนจะไปเจอเขาไม่กี่ชั่วโมง

จะไม่เจ็บใจเท่านี้เลยถ้าคนใหม่ของหล่อนจะมีอะไรที่มันเทียบชั้นกับเขาได้ แต่นี่หล่อนกลับคว้าเอาเจ้าเด็กที่เจอกันกี่ทีก็มีแต่ความซุ่มซ่าม

...หนอยแน่ พริมรตา เธอช่างกล้าเอาเจ้าเด็กนี่มาเทียบชั้นคนอย่างเขา...

มือหนากำรูปในมือยับยู่ยี่ดั่งจะส่งแรงแค้นไปถึงคนให้รูปที่เขาอยากจะบีบให้แหลกคามือ

หึ มั่นใจเสียดิบดีสินะว่าสับรางได้เก่งพอตัว

อยากรู้นัก ลีลาไอ้หน้าจืดๆอย่างนั้นมันดุเดือดเด็ดมันเท่าเขาได้เชียวหรือ

รูปแล้วรูปเล่าผ่านสายตาแค้นเคือง ภาพคนสองคนที่กำลังสวมเขาให้ไอ้งั่งอย่างเขาหัวร่อต่อกระซิกกันลับหลังคนโง่งมที่กำลังวุ่นกับการสร้างบ้านหลังใหม่ในพื้นที่เกาะส่วนตัวสำหรับปลีกวิเวกพาหล่อนไปฮันนีมูนกันสองคน ท้องฟ้าสดใส หาดทรายขาว ท้องทะเลสีครามสุดลูกหูลูกตา

แล้วนี่หรือ? คือสิ่งที่เขาได้รับ

ภาพไหนก็ไม่บาดตาบาดใจเท่าภาพสองร่างกำลังจะโน้มลงจุมพิตกันท่ามกลางทุ่งหญ้า มือหนาจับรูปแน่นจนสั่น

...หึ เข้าใจหาโลเคชั่นลับหูลับตาสวีทกันได้ดีเหลือเกิน...

ภีมพริษฐ์เองก็ผ่านผู้หญิงมาโชกโชนชายหนุ่มจึงไม่คิดถามหาพรหมจรรย์จากหญิงสาวที่คบ เขาแฟร์กับหญิงสาวมากพอที่จะไม่ติดใจอะไรเมื่อรู้ว่าหล่อนไม่บริสุทธิ์

แต่นั่นก็ไม่ใช่ว่าจะยอมให้หล่อนสวมเขาให้เขาที่ตกลงเป็นแฟนคบกันฉันท์คนรักทั้งที่โดยพฤตินัยเขาได้กลายเป็นสามีของหล่อนไปนานแล้ว นานจนแน่ใจที่จะขอหล่อนแต่งงานกัน

แก้วเหล้าในมือถูกบีบแตกเป็นเสี่ยงคามือด้วยแรงโทสะเดือดพล่านก่อนจะถูกเขวี้ยงอย่างแรงแตกกระจายเต็มพื้น รูปภาพทั้งหมดว่อนกระจายคนละทาง ข้าวของในห้องถูกทำลายกระจุยกระจายอีกครั้งจนสาแก่ใจพร้อมกับภาพเขาที่พยายามร้องเรียกให้บิดาหันกลับมาผุดขึ้นมาในความทรงจำอีกครั้ง

“พ่อ! พ่อครับ! กลับมาหาภีมก่อน! กลับมาหาพวกเรา อย่าไป! พ่ออย่าไป! พ่อครับ ฮือ...อย่าไป...”

หัวใจปริ่มจะขาดในวันนั้นขณะวิ่งตามผู้เป็นบิดาไปจนรถแล่นลับสายตา

ร่างเล็กของเด็กชายทรุดลงร่ำไห้ใจจะขาดน้ำตานองหน้ามองดูรถของพ่อกับผู้หญิงคนนั้นแล่นลับสายตาไป

“โว้ย!!”

“โครม!!”

...การถูกหักหลัง ซ้ำลงตรงรอยเดิม...


...ก่อนเคยเป็นที่หนึ่งที่เดียวในใจของเธอ แต่วันนี้ฉันเองต้องเป็นที่เท่าไหร่ บอกได้ไหมต้องทำอย่างไรที่จะย้อนไป กลับไปที่เดิมที่เธอต้องการเหมือนวันเก่า อีกซักครั้ง ขอเธอได้ไหม

ที่เดิมในหัวใจ...



“พริมรตา! ทำไม! ทำไม!!”

กำปั้นแกร่งชกเข้าที่ผนังห้องน้ำซ้ำไปมาอย่างไม่รู้สึกเจ็บ เพราะเจ็บที่ใจมันมีมากกว่า สายน้ำฝักบัวรดศีรษะผมเปียกลู่ อารมณ์กรุ่นแค้นพรั่งพรูระบายออกมาไม่ขาด สายน้ำแตกกระเซ็นซ่านด้วยปะทะแรงกำปั้นชกผ่านน้ำไม่ต่างกับใจที่แตกละเอียด ภาพใบหน้าของเจ้าเด็กกะโปโลที่เขาเคยปรามาสกำลังเชยชมเรือนร่างอวบอิ่มทับที่เขาพลางส่งยิ้มเยาะเย้ยคนโง่งมอย่างเหนือกว่าผุดขึ้นในหัว

...หึ ไอ้โง่...

“โว้ย!!!!”

“โครม!!”

“เพล้ง!!”


เนิ่นนานที่อารมณ์คุกรุ่นถูกระเบิดออกจนสาแก่ใจ ร่างสูงแกร่งเดินออกจากห้องน้ำทั้งผมเปียกลู่หยดน้ำร่วงกราว ปลายเท้าเหยียบเข้ากับรูปใบหนึ่งบนพื้น สายตาคมหลุบมองก่อนจะหยิบขึ้นมาดู

ภาพคนสองคนเดินเข้าไปในคอนโดพริมรตาด้วยกันคืนฝนพรำเมื่อเดือนก่อน

“คิดหรือ? ว่าคนอย่างฉันจะปล่อยให้เธอทั้งคู่ลอยนวลไปเสพสุข รู้จักคนอย่างฉันน้อยไป คนทรยศต้องถูกลงโทษอย่างสาสม แต่ในเมื่อพริมรตาท้อง ฉันก็จะเมตตาผ่อนผันให้ แต่ชู้รักของเธอจะต้องโดนเป็นสองเท่าตัว!”

...แคว่ก!...

สิ้นคำประกาศิตรูปใบนั้นก็ถูกฉีกแคว่กแยกเป็นสองส่วน คนในรูปสองคนแยกออกจากกันทันที!

...การแก้แค้นจากผู้ชายที่ชื่อ ภีมพริษฐ์ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว...

แล้วจะได้รู้ว่า “เขา” ที่หญิงชั่วชายเลวช่วยกันบรรจงสวมให้ มันไม่ใช่เขาสำหรับไอ้โง่งั่ง แต่มันคือเขาของซาตาน ซาตานที่พร้อมจะพิพากษาลงทัณฑ์คนเลวระยำอย่างสาสมให้สมกับไฟแค้นที่มันสุมเพลิงแผดเผาในใจเขา!

...เตรียมตัวให้ดี...

...ประตูอเวจีเปิดรับแกแล้ว...


 :fire:


ติดตามความเคลื่อนไหวจ้า
https://www.facebook.com/pages/Love-Novel_Y-by-Moony_Darling/666665450055292
 :pig2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
« ตอบ #19 เมื่อ: 08-01-2015 21:36:36 »





ออฟไลน์ Sbatandty

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 85
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +17/-1
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #20 เมื่อ08-01-2015 22:03:06 »

รอตอนต่อไปคะ

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #21 เมื่อ08-01-2015 22:22:20 »

จะสงสารดีมั้ยเนี่ย วาเลนไทน์

ออฟไลน์ mukmaoY

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3956
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-7
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #22 เมื่อ08-01-2015 22:30:23 »

ไม่น่าพลาดเลย
ทำไมปล่อยให้อารมณ์พาไป เบื่อจริง
โตแล้ว ควรควบคุมตัวเองได้ละ ไม่ป้องกันอีก !
อิฉันเครียดแทนค่ะ
แก้แค้นไปเลย เราชอบเอสๆ5555

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #23 เมื่อ08-01-2015 23:09:13 »

ไม่รู้สิ ถ้าหากว่าไทน์ทั้วๆที่รู้ว่าผู้หญิงเขามีเจ้าของแล้วยังไปนอนกับเขาแถมไม่ป้องกันก็คงต้องบอกว่ารนหาที่เอง

พริมรตาก็ไม่น่าที่โง่ขนาดไม่ป้องกันตัวเอง ทั้งๆที่ตอนนอนกับแฟนที่กำลังจะแต่งงานก็ป้องกันไม่ใช้หรือ?

น่าจะมีอะไรมากกว่านั้นนะ

รอตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ bulldog17

  • ❤GOT7
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3689
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +265/-12
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #24 เมื่อ08-01-2015 23:29:53 »

พายุไต้ฝุ่นเกย์จะถล่มแล้ววว

เตรียมตัวระวัง

me/ตั้งกล้อง

ออฟไลน์ liza sarin

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2538
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +91/-14
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #25 เมื่อ08-01-2015 23:33:18 »

 :katai1: :katai1: :katai1:

ออฟไลน์ noozzz

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 309
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-2
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #26 เมื่อ08-01-2015 23:47:04 »

อ้าว งั้นพริมก็ต้องท้องไม่มีพ่อนะสิ เพราะไทนกำลังจะโดน....จับทำเมีย

ออฟไลน์ blur

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 145
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #27 เมื่อ09-01-2015 01:47:38 »

กลัวจบไม่แฮปปี้จังเลย แต่ติดตามครับ ชอบหน่วงๆ แต่นั่นแหละครับ อย่าจบเศร้าน้าาาาา 5555555 

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #28 เมื่อ09-01-2015 08:00:36 »

เพราะผู้หญิง(สวย)คนหนึ่งอยากจะจับปลาสองมือ กับผู้ชายที่ยั้งใจไว้ไม่ได้สินะ
ภีมเจ้าคิดเจ้าแค้นน่าดู
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ vk_iupk

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 990
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +93/-2
Re: อเวจีเสน่หา (Passion of fire)# Passion8# 08/01/58
«ตอบ #29 เมื่อ09-01-2015 09:08:25 »

อ่านรวดเดียวสนุกมากเลยค่ะ

ไทด์นายตายแน่ๆๆ งานนี้
เอาใจลุ้น เอาตัวรอดปลอดภัยนะไทด์(ท่าจะรอดยาก)  :hao5:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด