ขอบคุณทุกท่านที่เม้นด้วยนะครับ
อยากจะรับทุกคนอะคับคุณ kenkung แต่ไอ่ที่คิดว่าใช่ดันไม่ใช่ ไอ่ที่คิดว่าไม่ใช่ดันใช่นี่สิ
ได้เลยเตรียมรับนะครับคุณ anston เอ้า อึ๊บ........เขวี้ยงไปแล้วนะครับ
แฟร์ดีนะครับน้อง winwell ไม่แฟร์ตรงไหน พี่ได้น้องก็ได้นะครับ ได้ประสบการณ์งัย 555+
น้อง thomaskung น้อง sarin น้อง ErosAmor อย่าให้อายุเยอะมั้งละกันนะคร้าบ คุณ remainder.t แล้วจารู้ว่าเด็ก ๆ นะ กระชุมกระชวยหัวใจน่าดู
ขอบคุณน้อง mist คนสวนเช่นเดิม ต้องค่อย ๆ เป็นค่อย ๆ ไปสิครับ ผลีผลามไม่ได้ เดี๋ยวไก่ตื่นหมดเล้า 555++
ได้เลยครับคุณ @PeaZa@ เอารูปไปปริ้น แล้วปะไว้บนหัวเตียงนะครับ นะโม 3 จบ จุดธูป เทียน เฮ้ย ม่ายช่าย นอนฝันต่อปายยยยยยยย
เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา มาต่อกานดีก่า
Part XIV
“อ้าว แซก ทำไมนั่งหน้าเป็นตูดอยู่แบบนี้หละ” อ้าวนี่ผมจะเป็นแขกผู้แสนดีหรือเป็นแขกผู้แสนดุร้ายละเนี่ย
“นั่นปากเหรอนะ”
“ก็ปากสิ ไม่ใช่กะโถน”
“เดี้ยะโดน” มันชักเริ่มไม่พอใจละ ไม่ได้การละ
“แซกเรียนที่กรุงเทพเหรอ”
“ก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอ” ขันติ
“แล้วเรียนไรอยู่ละ”
“ไม่ได้ถามแม่เหรองัย ศิริราช” ขันติ ท่องไว้ ๆ
“เอ ตอนนี้ปิดเทอมอยู่เหรอ”
“อ้าว ก็รู้แล้วทั้งนั้นจะถามทำไมหละ” ขันติ โว้ย ขันติ ใจเย็น ๆ
“แล้วแซกจะจบเมื่อไหร่หละ”
“นี่จะแช่งกันรึงัย ทำไมปากดีงี้หละพี่” ขันแตก แล้วโว้ยกรู
“ไอ่เด็กเปร.............” ยังด่าไม่เสร็จ “ปี้ซิน ปี้ซิม หวัดดีคับ ปี้แป ปี้แจง ตวย” มันรีบเข้าไปกอดพี่ ๆ มันเลยอะคับ เฮ้อ เด็กจริง ๆ อะนะ งี้ถ้ามันจบมาจะมีใครมารักษากะมันมั้ยเนี่ย
“เป็นจะได วันนี้มาแอ่วหาได้ แล้วหลาน ๆ ไปไหนเหีย”
“หลาน ๆ ไปอยู่บ้าน แม่อุ้ย ป้ออุ้ย อะกะ วันนี้ก็เลยมาแอ่วหาได้” ปี้ซิน พูด
“ปะไปหาอิแม่ กัน”
“แล้วนี่ไผ่นิ เปื้อนแซกก่” ปี้ซิมถาม
“บ่ฮู้จัก ไผ่ก็บ่ฮู้” ดูมันตอบดิคับท่านผู้อ่าน ก่อนที่อะไรมันจะไปมากกว่านี้ คุณแม่ก็ออกมา ขอใช้ว่าคุณแม่เลยละกันคร้าบ จะได้นิดหนมกะครอบครัวนี้หน่อย 555+
“หวัดดีคับแม่ หวัดดีเจ้าแม่” อย่างพร้อมเพรียงกัน
“แม่ละนี่เป็นไผ จะไดมาอยู่บ้านเฮา” ปี้ซิมถามกับแม่นุ่นหลังจากไม่ได้ความจากไอ่เด็กเปรต
“จื่อ มุย แม่ฮู้จักกันตอนตี้บิ๊กจากแอ่วหา แซก ตี้ กรุงเทพ”
“สวัสดีครับพี่ ๆ” มารยาทไทยสุด ๆ เลยผม
“อืม สวัสดีครับ สวัสดีคะ”
“ปะไปกิ๋นข้าวกันได้เลาะ แม่ยะเสร็จแล้ว”
จากนั้นก็นั่งคุยกันไป กินข้าวกันไป ถามเรื่องต่าง ๆ เหมือนกับผมโดนสัมภาษณ์งานยังงัยอย่างงั้น ตั้งแต่เรื่องครอบครัว ชีวประวัติ ต่าง ๆ ผมเจอรุมซักถามจากพี่น้องทั้ง 3 คนเยอะหน่อย แฟน ๆ ของพวกเค้าไม่รู้ที่จีบกันมาโดนอย่างผมมั้งปะเนี่ย อย่างกะสัมภาษณ์เพื่อเข้าอยู่ในบ้านเลยเนี่ย แต่ทุกคนเป็นกันเองมากอะคับ คุยกันอย่างสนุกสนานดี ทำให้ผมลืมเรื่องต่าง ๆ ไปได้ซะสนิทเลย พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทีไรก็ใจแป้วทุกที ไม่ได้ ๆ เราจะต้องไม่คิดไร ตอนนี้ต่างเวลา ต่างสถานที่กันแล้ว ขอให้สนุกไว้ก่อนดีกว่าจะได้มีแรงไปแก้ไขเรื่องต่าง ๆ ได้ว่าแล้วก็จ้วงกินแกงฮังเล กับแกงแคหนัง ก่อนหละ
พอพี่ ๆ กลับไปแล้วผมก็มานั่งดูโทรทัศน์กับไอ่เจ้าเด็กเปรตแซก แต่ตอนนี้มันดีขึ้นมากไม่กวนตืนเหมือนก่อน สงสัยรับฟังชีวประวัติผมไปเยอะ แล้วผมก็เข้าได้กับพี่ ๆ ทุกคนของเค้า แต่ผมไม่เคยคิดอยากเข้าไปแทนที่พี่ซิงก์ของเค้าหรอกนะครับ ผมเป็นแค่ส่วนเติมเต็มที่อย่างน้อยก็ให้ใครบางคนที่ผมรู้จักและดีต่อผมเหมือนลูกแท้ ๆ แค่นี้ก็พอ
“พี่มุย จะค้างกี่วันคับ” ไอ่แซกมันถามทำลายบรรยากาศ
“ก็พรุ่งนี้ก็กลับ ไม่ต้องไล่หรอก”
“เปล่านะครับ ผมขอโทษด้วยหลาย ๆ เรื่องที่ทำไม่ดีกับพี่ไว้นะครับ” อ้าวไรเนี่ย อยู่ ๆ ไรกัน เอ้ย เอ เมื่อกี้มันขอโทษ ช่วงคาบหัวเลี้ยวหัวต่อนี่ บทจะเป็นผู้ใหญ่ก็ปุบปับ บทจะเด็กก็เล่นเอาปวดหัว ว่าแต่ถ้าเราจะตัดสินใครครั้งแรกเวลาที่เจอว่าเค้าดีหรือไม่ มันคงเป็นไปไม่ได้ เพราะต้องใช้ระยะเวลาเป็นตัวกำหนดถึงจะรู้ถึงนิสัยใจคอกัน มันเป็นแบบนี้จริง ๆ
“หืม ไม่เป็นไรหรอก ดีแล้วหละที่แซกเป็นคนรักครอบครัว ดูแลซึ่งกันและกัน” แต่ผมละตอนนี้ครอบครัวผมมันไม่ได้เป็นครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกะเค้าเลย เศร้าใจจริง ๆ แต่เมื่อยังมีแสงสว่างของวันพรุ่งนี้ผมก็จะสู้กะมัน มันต้องมีสิ่งที่ดี ๆ เกิดขึ้นบ้างแหละน่า เมื่อมีมืดก็ต้องมีสว่างสิ คิดไรไปเรื่อยเปื่อย ก็พอดีกับที่แม่นุ่นจัดที่หลับที่นอนให้เสร็จ ก็ขอตัวแม่ ขอตัวแซกไปนอนก่อนละกัน เพราะเมื่อคืนก็นอนไม่เต็มอิ่ม แถมมีเรื่องอะไรให้ปวดหัวอีกต่างหาก หัวถึงหมอนปุ๊บ ก็โบกมือลาดาวดวงก่อนเลย.........................................
ตื่นมาอีกที 9 โมงแล้ว โหนี่หลับสนิทมาก ๆ เลยอะ ไม่เคยหลับสนิทแบบนี้มาก่อน เข้านอนปุ๊บหลับปั้บ ไม่ฝัน ไม่ไรเลยสนิทจริง ๆ สงสัยจะเพลียจากหลาย ๆ เรื่องไม่ได้การหละว่าแล้วก็รีบล้างหน้าล้างตาลงไปข้างล่างเป็นแขกตื่นสายไม่ได้ พอลงไปก็เจอกับแม่นุ่น อ้าวไอ่แซกละเนี่ย หรือว่ามันยังไม่ตื่นวะ เด็ก ๆ ก็งี้แหละชอบนอนตื่นสาย เอแล้วเราหละ 5555+ เข้าตัวปะวะเนี่ย
“ตื่นแล้วเหรอลูก หิวยัง แม่ทำข้าวต้มในครัวหนะ”
“ยังหรอกครับ ว่าแต่แม่แต่งตัวอย่างกะไปสวนมาแนะ”
“แม่ไปมาตั้งแต่เช้าแล้วจะ นี่ว่าจะมาปลุกตาแซก แล้วก็ลูกนั่นแหละ จะพาไปเที่ยวในสวน”
“จริงเหรอครับ ไปครับ อยากไป”
“งั้นลูกไปปลุกเจ้าแซกให้หน่อยนะ อยู่ห้องข้าง ๆ เรานั่นแหละ จะได้ไปพร้อมกัน แล้วพากันกินข้าวต้มก่อนนะ ในสวนไม่มีไรกินนะเดี๋ยวจะหิว จะเที่ยวไม่สนุก”
“เอ่อ อ่า ก็ได้ครับ”
“ก๊อก ๆ” เงียบ
“ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ” เงียบฉี่
“ก๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ”ฉี่เงียบ
“ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” ฉี่ เงียบ เงียบ ทำไมไอ่พวกนี้มีปัญหากะการเปิดประตูเวลามีคนเคาะกันจัง ไม่ว่าใครต่อใคร
กำลังจะเคาะอีกที ก็มีเสียงดังจากในห้อง
“อันหยังหนักหนา คนกำลังหลับสบาย” พร้อมกับประตูที่เปิด
“อ้าวพี่มุย มาเคาะห้องผมไมเนี่ย เช้า ๆ แบบนี้ผมไม่มีอารมณ์นะ” อ้าวไอ่เด็กเวร
“แม่ให้มาตาม จะเข้าสวน เร็ว ๆ ด้วย นอนตื่นสายไปได้ แขกยังตื่นก่อนเลย”
“อ้าว ก็พี่แขก นี่เจ้าของบ้าน มันผิดกัน”
“ไม่รู้หละ เร็ว ๆ ด้วย ไม่งั้นจะให้แม่นุ่นมาจัดการ”
“เออ รู้แล้ว ยิ่งอยู่ยิ่งเหมือนพี่ซิงก์เข้าไปใหญ่แฮะ” ว่าแล้วมันก็เดินบ่นเข้าไปข้างในห้อง (เพิ่งรู้ตอนหลังว่ามันสนิทกับพี่ซิงก์ที่สุดในบ้าน)
“อ้าวแล้วจะยืนอยู่ทำไมละ เข้ามาก่อนดิพี่”
“เอ่อ อ่า” พูดไม่ออก ก็เลยเดินไปนั่งในห้องมัน
“อืม เป็นระเบียบดีชิบหาย” พูดประชดมันนะครับ ถ้าใครเข้ามาหลงในนี้มีหวังหาทางออกจากประตูไม่เจอแน่ ๆ มันหันขวับมาทันที
“อย่าพูด เงียบไปเลย” ไอ่เด็กนี่น่ากลัวแหะ แต่เรื่องไรจะกลัวเด็ก 555+
“เอ้ย ๆ จะบ้าเหรอ มาแก้ไรตรงนี้ ไปในห้องน้ำนู้นไปเลย”
“อ้าวก็ทำแบบนี้อยู่บ่อย ๆ ไม่เห็นมีใครว่าไร”
“ก็นั่นไม่มีคนเห็น แต่นี่มีคนเห็นแล้ว”
“อะ รึพี่จะทำไรผม” อ้าวไอ่นี่ไม่รู้จักไฟซะแล้ว
“นั่นแน่ จ้องใหญ่เลย อิจฉาอะสิ” อิจฉาไร ใครไหน ใคร อิจฉา
“บ้าไรไอ่นี่ เร็ว ๆ หิวแล้ว”
“เนี่ย สิบคนโอบนะเนี่ย” ไอ่เด็กทะลิ่ง ว่าแล้วมันก็เดินมาพลางบีบไข่ ให้ดู
อะ อะ ไม่ต้องตกใจ มีกางเกงในอยู่นะ อิ อิ แต่ก็อะนะผัดไทยห่อไข่ดี ๆ นี่เอง
“เฮ้ย มึงเร็ว ๆ เลย เล่นเป็นเด็ก ๆ ไปได้” ชักเริ่มมีน้ำโหแล้วคับผม
“หูย โหดจัง ล้อเล่นแค่นี้ก้ไม่ได้” แล้วมันก็ทำหน้างอนเดินเข้าห้องน้ำไป
อูยยยยยย คนแก่หัวใจจะวาย เด็กสมัยนี้นี่เฮ้อ ทำเป็นเล่น ๆ ไปได้ เดี๋ยวก็ได้ไฟลุกพรึบพรับมั้งแล้วจะมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า ว่าแล้วก็ออกไปจากห้องมันดีกว่าขืนอยู่นาน ๆ จะไม่ปลอดภัยต่อร่างกายและจิตใจผมก็เป็นได้ (ไม่ใช่ไม่ปลอดภัยต่อน้องแซกนะครับ ei ei)
ลงมาก็เห็นแม่นุ่นอยู่ในครัว กำลังตักข้าวต้มให้อยู่ ก็เลยมานั่งกินข้าวต้มรอไอ่แซกดีกว่า ก็เลยแอบถามจากแม่นุ่น ว่าไอ่แซกเป็นคนยังงัย นิสัยเป็นงัย ถึงได้รู้ว่ามันสนิทกับพี่ซิงก์มาก พี่ซิงก์ชอบพามันไปเที่ยว เพราะว่ามันอายุไล่ ๆ กับพี่ซิงก์ ก็เลยดูแลกันและกัน แม่กับพ่อก็ต้องทำสวน ไอ่แซกมันก็เลยได้พี่ซิงก์คอยเลี้ยง คอยเล่นกับมันตั้งแต่เด็ก ๆ ส่วนพี่ซิน กับพี่ซิมนั้น อายุค่อนข้างห่างจากมันพอสมควร แล้วที่มันอยากไปเรียนที่กรุงเทพ เพราะไม่อยากอยู่ในบ้านที่ไม่มีพี่ซิงก์ มันทำให้มันคิดถึงพี่ซิงก์อะ มันอยากหนีไปไกล ๆ คิดไปก็น่าสงสารมันเหมือนกัน ถึงมันจะกวนตีน ถึงมันจะทะลึ่งไปหน่อย แต่ก็นิสัยเด็ก ๆ อะนะ เอาละผมต้องเป็นพี่ที่ดีของมันเอง