[เรื่องสั้น] Winter Love: ด้วยรักและโอวัลติน [Special 2: 9 มีค]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [เรื่องสั้น] Winter Love: ด้วยรักและโอวัลติน [Special 2: 9 มีค]  (อ่าน 12049 ครั้ง)

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
อ้าว​ กลิ่นโกโก้กับช็อคโกแล็ตไม่เหมือนกัน​เหรอครับ​ 55555 แก้ๆๆ

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
อ้าว​ กลิ่นโกโก้กับช็อคโกแล็ตไม่เหมือนกัน​เหรอครับ​ 55555 แก้ๆๆ

เปล่าค่ะคุณต้น, ไม่ต้องแก้ก็ได้. พอดีตอนที่พิมพ์ตอบไป ดันลืมว่าที่คุณต้นอธิบายไว้นั้นมันเป็นโกโก้ หรือโอวัลติน ก็เลยใส่เครื่องหมายคำถามไว้, ไม่ใช่สงสัยที่คุณต้นเขียนนะคะ.

รออ่านตอนต่อไปนะคะ จุ๊บๆ

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
อ่านแล้วอยากกินโอวัลตินเลยย

ป.ล. ชอบประโยคนี้มากคับ

“มึงเคยเป็นรึเปล่าวะ เวลาที่มึงอยากบอกความรู้สึกอะไรบางอย่างให้ใครสักคนฟัง แล้วแม่งแบบ... มึงไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะรู้สึกยังไง จะคิดแบบเดียวกับมึงรึเปล่า มึงก็เลยกลัว แม้ว่าลึกๆ มึงจะคิดว่ามึงก็น่าจะมีหวังอะ แต่มึงก็กลัวว่ามึงจะแค่คิดอะไรไปเองฝ่ายเดียว มึงก็เลยไม่กล้าพูดออกไปน่ะ”


ออฟไลน์ Redz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
อย่าเศร้านะขอล่ะ  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
(6)

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไปไวราวโกหก เวลาเกือบเดือนที่ผมวุ่นวายมาตลอด ในที่สุดก็มาถึงโค้งสุดท้ายจนได้ งานประจำโรงเรียนเพื่อเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ของพวกเราเริ่มต้นขึ้นแล้วในวันนี้ ผมในฐานะประธานนักเรียนก็ต้องคอยดูแลความเรียบร้อยต่างๆ ของทุกบูธ รวมทั้งต้องคอยรับเรื่อง ประสานงาน แก้ปัญหา ตอบคำถาม และจิปาถะอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ไม่มีเวลาไปเดินเล่นอย่างคนอื่นๆ เขาสักเท่าไหร่ กว่าที่งานของผมจะเริ่มซาลงจนพอมีเวลาแวะเล่นนั่นเล่นนี่ได้บ้างก็ปาไปตอนบ่ายแก่ๆ แล้ว

“เป็นไงวะมึง หาตัวไม่ค่อยเจอเลยนะวันนี้ งานยุ่งเหรอ” ไอ้ปิงเดินเข้ามาหาผมที่กำลังคุยอยู่กับเด็กรุ่นน้องที่บูธสอยดาวของพวกมัน

“เออ ยุ่งชิบหายยยย เหนื่อยจะตายแล้วเนี่ย ว่าแต่มึงเหอะ มาทำไรแถวนี้วะ ไม่เฝ้าบูธชมรมมึงเหรอ”

“บูธชมรมกูอยู่ตรงนี้เอง เห็นมึงเข้าพอดีเลยเดินมาหาเนี่ย เอ้า” มันยื่นกล่องโอวัลตินเย็นให้ผม “กินซะ จะได้มีแรง แบบเย็นๆ ก็อร่อยนะ”

ผมมองหน้ามันแล้วยิ้ม “เออ ขอบใจ”

ตั้งแต่วันนั้นที่บ้านของผม เราต่างก็ไม่ได้คุยเรื่องระหว่างเรากันอีก ถึงมันจะไม่ได้พูด ‘คำๆ นั้น’ ออกมาให้ชัดเจน และถึงผมจะไม่ได้พูดมันออกไป แต่ผมก็มั่นใจแล้วล่ะว่าไอ้ปิงมันคิดยังไงกับผม และมันเองก็คงรู้แล้วด้วยเหมือนกันว่าผมไม่ได้รู้สึกแตกต่างไปจากมันเลย ตอนนี้เรารู้ความในใจของกันและกัน ปล่อยให้มันตกผลึกอยู่ข้างใน โดยไม่จำเป็นต้องทำให้เรื่องระหว่างเรามันยุ่งยากไปกว่าที่เป็นอยู่

ผมได้แต่บอกตัวเองว่า การที่เราเป็นเพื่อนกันแบบนี้... คงจะดีที่สุดแล้วล่ะ สำหรับเวลาที่เหลืออยู่ไม่นานก่อนจะแยกย้ายกันไป มันคงต้องการแบบนั้น แล้วผมเป็นใคร ถึงจะไปเรียกร้องอะไรจากมันได้วะ

“แหมๆๆ มาสวีทอะไรกันอยู่ตรงนี้วะ มึงสองคนเนี่ยยย มีเวลาหน่อยไม่ได้เลยนะ” ไอ้นิคที่ในมือถือกล้องคู่ใจของมันเดินตรงเข้ามาหาเรา ที่คอของมันห้อยป้ายเขียนว่า “photographer” เอาไว้ด้วย เพราะวันนี้มันทำหน้าที่เป็นตากล้อง เพื่อถ่ายรูปลงหนังสือพิมพ์และนิตยสารของโรงเรียนนั่นเอง

“ไง ได้รูปดีๆ เยอะมั้ยวะ” ผมถาม

“ก็เยอะอยู่ แบ็ตกล้องกูจะหมดอยู่แล้วเนี่ย อีกเดี๋ยวคงต้องชาร์จก่อนวงดนตรีจะขึ้นเล่นว่ะ”

“เฮ้ย แล้วจะทันเหรอวะ ไอ้เหี้ย” ผมดูตารางเวลาที่ถืออยู่ในมือ “อีกแค่ประมาณ 20 นาทีก็จะเริ่มแล้วนะเว้ย นั่นไง มันเริ่มมาเซ็ทอุปกรณ์กันแล้ว” ผมชี้ไปทางเวทีที่อยู่ห่างออกไปนิดหน่อย

“ป๊าดโซะ! แบบนี้กูต้องแจ้นไปเอากล้องสำรองกูมาใช้แล้วดิ!” เมื่อพูดจบ ไอ้นิคก็พุ่งตัวออกไปทันที

“นี่ ว่าแต่วันนี้ท่านประธานได้แวะบูธผมรึยังครับ” ไอ้ปิงถาม

“ยังอะ กูวุ่นทั้งวันเลย”

“งั้นมาเลย มาเสียตังค์ เอ๊ย มาอุดหนุนและร่วมเล่นเกมกับพวกกูซะดีๆ”

มันลากผมเดินไปยังบูธของมันที่อยู่ใกล้กับเวทีที่กำลังจะมีคอนเสิร์ตจากวงดนตรีของนักเรียน โดยวงที่จะมาเล่นนั้นเป็นวงที่ดังที่สุดในโรงเรียนของเราและผ่านการคัดเลือกโดยพวกผมมาแล้ว ซึ่งนักร้องนำของวงนี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นไอ้โต๊ะ เพื่อนของผมนั่นเอง

บูธของชมรมบาสเก็ตบอลไม่ได้มีอะไรเกี่ยวกับบาสเก็ตบอลเลยสักนิด พวกไอ้ปิงสรุปกันว่าจะทำเกมยอดฮิตที่เจอได้บ่อยๆ ตามงานวัด นั่นคือเกมปาลูกดอกนั่นเอง โดยพวกมันปรับเปลี่ยนกฎกติกาและของรางวัลนิดหน่อย ซึ่งพวกมันตั้งชื่อเกมนี้ว่า ‘ปาลูกดอกลงทัณฑ์’ อุปกรณ์และกติกาก็ง่ายๆ ลองนึกถึงกระดานหมากฮอสดูนะครับ แต่กระดานของพวกมันใหญ่กว่านั้นมากๆ ปกติกระดานหมากฮอสจะมีช่องอยู่ที่ 8x8 แต่อันนี้สูงคูณยาวน่าจะสักราวๆ 40x100 ช่องได้มั้ง ผมเดาเอานะ พวกไอ้ปิงเอากระดานไม้อัดขนาดประมาณ 1 เมตร คูณ 2 เมตรกว่าๆ มาตีตาราง ในแต่ละช่องจะมีหมายเลขเขียนไว้ตั้งแต่ 1-20 คละๆ กันไป บางช่องก็ไม่มีเลขอะไรเลย มันบอกผมว่า ถ้าหากปาลูกดอกไปปักอยู่ที่หมายเลข 1-10 ก็จะได้ของรางวัลกลับบ้านไป โดยรางวัลยิ่งใหญ่เท่าไหร่ ก็จะมีจำนวนหมายเลขนั้นบนกระดานยิ่งน้อยลงเท่านั้น เช่นรางวัลใหญ่สุด ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่เกือบเท่าคนจริงที่มีอยู่ตัวเดียวนั้น คือหมายเลข 1 ซึ่งมีอยู่ในตารางแค่เพียงห้าช่องเท่านั้น ส่วนของรางวัลอื่นๆ ก็มีอีกมาก เช่นตุ๊กตัวตัวเล็กลดหลั่นกันลงมา กระเป๋าเป้ใบเล็ก กระเป๋าดินสอรูปคาแร็คเตอร์จากไลน์ ไปจนถึงของเล็กๆ น้อยเช่นดินสอ หรือสมุดโน้ต ไปจนถึงลูกอม

โดยรวมแล้ว ผมต้องยอมรับเลยนะว่าชมรมของมันดูลงทุนกับของรางวัลมากกว่าบูธอื่นๆ มากทีเดียว

“แล้วหมายเลข 11-20 คืออะไรวะ” ผมถาม

“ถ้าปาลูกดอกไปโดนหมายเลข 11-20 น่ะเหรอ ก็มีหลายแบบนะ ถ้าเป็น 11-15 ก็จะเป็นรางวัลปลอบใจ ไม่ได้ของ แต่ได้ความสะใจทางอารมณ์ ประมาณนี้น่ะ”

“อะไรของมึงวะ”

“ก็เกมลงทัณฑ์ไง แต่เป็นลงทัณฑ์พวกกูนะ”

“ยังไงวะ อธิบายดีๆ สิเว้ย”

“ก็เช่น หมายเลข 11 คือให้เลือกสามชิกชมรมบาสคนนึงมาเต้นไก่ย่างให้ดู แล้วพวกกูอาจจะแถมลูกอมให้หน่อย อะไรเงี้ย”

“ฮ่าๆๆๆๆ ไอ้เหี้ยยยย!! ใครจะอยากดูพวกมึงเต้นไก่ย่างวะ! ไอ้บ้า!” ผมขำจนตัวงอ

“อ้าววว มึงไม่รู้อะไร เด็กๆ ชมรมกูอะ ฮ็อทนะเว้ยยย เนี่ย อย่างไอ้เชี่ยป๋องแม่งโดนเต้นไก่ย่างไปห้ารอบแล้วตั้งแต่เช้าอะ ฮ่าๆๆ”

“แล้วมึงล่ะ โดนไปรึยัง โดนอะไรไปแล้วบ้าง”

“กูโดนเต้นไก่ย่างไปสองรอบ แล้วก็ถูกหอมแก้มไปรอบนึง” ไอ้ปิงหัวเราะ “แต่คนหอมแก้มกูเป็นตุ๊ดเด็กนะ แม่งเสือกปาได้เบอร์ที่เขียนไว้ว่า ‘หอมแก้มประธานชมรมบาส’ อะ แต่ก่อนนี้ก็มีน้องผู้หญิงกับน้องผู้ชายอย่างละคนที่ปาได้เลขนี้นะ แต่พวกมันสละสิทธิ์ว่ะ”

“ใครแม่งคิดเกมนี้วะ จัญไรจริงๆ” ผมยังคงหัวเราะอยู่ “แล้วเลข 16-20 ล่ะ คืออะไร”

“อันนั้นก็เกมลงทัณฑ์อีกเหมือนกัน แต่ลงทัณฑ์คนปานะ พูดง่ายๆ คือคนที่ปาได้เลขพวกนั้นต้องถูกลงโทษ แต่ไม่มีเหี้ยไรเยอะหรอก ก็แค่แบบ ถูกปะแป้ง ถูกล้อมวงแล้วบูมใส่ อะไรเงี้ย ขำๆ”

“เหรอๆ เออดีว่ะ น่าเล่นบ้าง เท่าไหร่วะ”

“ลูกดอกสามอัน 30 ถ้าห้าอันก็ 40 มึงลองเล่นดูบ้างดิ”

“โคะ! หยังมาแปงขน๊าดดด”

“แพงห่าอะไรแค่ แค่ 30-40 บาท เอง มึงดูของรางวัลของพวกกูซะก่อนนน”

“กูล้อเล่นนนน เออๆ มาเล่นๆ”

“ดีๆ มาเล่นกัน กูออกให้ตานึงก็ได้ เอาห้าดอกเลยมั้ย”

“ไม่ต้องๆ กูออกเอง แค่นี้ แต่เอามา 30 บาทพอก่อน ไอ้เหี้ย เดี๋ยวกูโดนอะไรพิลึกๆ”

“ฮ่าๆๆ มึงอย่าป๊อดดิ เอางี้ เอามาห้าดอกเลย กูช่วยออก 10 บาท มึงปาไปสามอัน อีกสองอันกูปาเอง ถ้าได้รางวัลอะไร กูยกให้มึงเลย ดีปะ”

“โอเค งั้นก็ตามใจมึง” ผมควักเงินให้มัน 30 บาท

“ไอ้บอม! เอามาให้พี่ห้าดอก นี่เงิน” ไอ้ปิงหันไปสั่งน้องชมรมของมันคนหนึ่งที่ประจำอยู่ในบูธ

“จัดไปเลยเลยลวกเพี่ย!”

“เอ้านี่” ไอ้ปิงยื่นลูกดอกให้ผมสามอัน “รางวัลใหญ่ยังไม่ออกนะมึง เล็งเลข 1 เลย”

“เล็งเหี้ยอะไรล่ะ ตรงเลข 1 แม่งล้อมไปด้วยเลข 11-20 ทั้งนั้น กูเล็งไปตรงอื่นดีกว่า”

“มึงแม่งป๊อดว่ะ ไม่มันส์เลยอะ”

ผมถองศอกใส่มัน จากนั้นก็เหยียดแขนออกและเหวี่ยงลูกดอกให้พุ่งออกไป เอาจริงๆ ผมก็ไม่ได้เล็งเลขอะไรเป็นพิเศษหรอก แค่ปาๆ ออกไป กะให้มันไปโดนแถวๆ ที่มีเลข 1-10 เยอะๆ หน่อยเท่านั้นเอง สรุปว่าดอกแรกของผมไปตกที่หมายเลข 8 ผมได้สุดโน้ตทำมือเล่มเล็กมาเล่มนึง ส่วนดอกที่สอง ไปตกที่หมายเลข 5 ทำให้ได้พวงกุญแจตุ๊กตาโคนี่มาอีกอัน

“ไอ้เหี้ยนี่แม่งมือขึ้นว่ะ ได้รางวัลมาสองอันละ” ไอ้ปิงพูด

“ของมันแน่นอนว่ะ ระดับนี้แล้ว ฮ่าๆๆ” ผมพูดก่อนจะปาลูกดอกสุดท้ายออกไป แต่คงเพราะผมโม้และได้ใจมากเกินไปหน่อย ลูกดอกเลยเสือกไปปักลงที่ช่องหมายเลข 13 ซึ่งไม่ใช่ช่องที่ได้รางวัลอะไรเลย

“ไอ้เหี้ยยย เฉียดเลข 9 ไปนิดเดียวเองอะ!” ผมโวย

“เอาแล่วๆๆๆๆ” น้องๆ ที่อยู่ในบูธเริ่มส่งเสียงขึ้น “มึงงง!! พี่โอบปาได้เลข 13 โว้ยยยย!! ฮิ้วววววว!!”

น้องคนที่ถือกลองอยู่เริ่มตีและส่งเสียงเชียร์ เรียกความสนใจจากคนอื่นรอบข้างได้ดีนัก

“งานนี้ไม่มีมีสละสิทธิ์นะคร้าบบบบบ พี่โอบบบบบ!!” ไอ้น้องบอมทำหน้าทะเล้น

“อะไรวะ เลข 13 นี่ทำอะไร กูต้องโดนอะไรเนี่ย” ผมเริ่มใจไม่ดี

“ไม่ใช่มึงหรอกที่โดน หมายเลข 11-15 อะ พวกกูสิโดน แต่ถ้าเลข 13 เนี่ย... กูโดน” ไอ้ปิงพูด มันยิ้มแหยๆ ชอบกล

ผมกำลังจะอ้าปากถามว่ามันต้องโดนทำอะไร แต่แล้วผมก็ได้คำตอบจากเสียงเชียร์ของสมาชิกชมรมเกือบทุกคนที่อยู่ตรงนั้น พวกมันมาล้อมกรอบผมกับไอ้ปิงเอาไว้แล้วเริ่มปรบมือเป็นจังหวะพร้อมส่งเสียงเชียร์

“หอมแก้ม! หอมแก้ม! หอมแก้ม! หอมแก้ม! หอมแก้ม! หอมแก้ม!”

ผมยืนมองหน้าของไอ้ปิงด้วยความหวาดหวั่น ทั้งเขิน ทั้งอาย ทั้งเครียด และไหนจะรู้สึกกดดันจากไอ้พวกที่ส่งเสียงเชียร์อยู่รอบๆ นี่อีก สีหน้าของไอ้ปิงก็แลดูจะเขินและอายไม่แพ้ผม แต่แววตาของมันกลับบอกผมว่ามันไม่คิดจะปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไปอย่างไรชอบกล

“ไอ้ปิง มึงอย่าบอกนะว่า...”

“ดูท่าทางงานนี้จะสละสิทธิ์ไม่ได้ด้วยนะ” ไอ้ปิงพูดพลางอมยิ้ม “พวกแม่งไม่ยอมแน่ๆ”

“แล้วทำไมกูต้องยอมวะ! กูไม่แคร์โว้ย!”

ไอ้ปิงชะโงกหน้าเข้ามาที่หูของผม ทำเอาคนอื่นๆ โห่ร้องเสียงดังด้วยความลุ้นระทึก แถมยังมีเสียงกรี๊ดเชียร์จากสาวๆ ที่กำลังมุงรอดูอยู่อีก “กูยังเคยจุ๊บมึงเลย จำไม่ได้เหรอ...”

คำพูดนั้นของมันทำเอาผมหน้าแดงยิ่งกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า ไอ้ปิงเลื่อนตัวออกพร้อมกับเสียงโห่แสดงความผิดหวังจากคนรอบข้าง เมื่อกี้พวกมันคงคิดไอ้ปิงกำลังจะหอมแก้มผมล่ะมั้ง

“เดี๋ยวๆๆ งานนี้พี่โอบต้องเป็นคนหอมนะเว้ย ไม่ใช่พี่ปิงหอมพี่โอบ!” เสียงของคนในชมรมบาสคนหนึ่งตะโกนขึ้น

“เร็วๆ ดิพี่โอบ! หอมวันนี้นะคร้าบบบ ไม่ใช่ปีหน้า!”

ไอ้พวกเวร!

“พวกมึงหยุด!!” ผมยกมือขึ้นส่งสัญญาณให้พวกมันเงียบ และเมื่อทุกคนหยุดโหวกเหวกแล้ว ผมก็หันกลับมาเผชิญหน้ากับไอ้ปิงอีกครั้ง

ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะกลั้นใจและชะโงกหน้าเข้าไปหอมแก้มมันอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ริมฝีปากของผมสัมผัสถูกแก้มอันเนียนนุ่มของมัน เสียงกลอง เสียงกรี๊ด และเสียงเชียร์ก็กู่ก้องขึ้นอีกครั้งจนโรงเรียนแทบแตก

ผมล่ะอยากจะวิ่งหนีไปจากที่นี่ซะให้รู้แล้วรู้รอด!

“พอๆๆ พวกมึง พอแล้ว กลับไปประจำที่ ไปรับลูกค้าเหมือนเดิมได้แล้ว โชว์จบแล้วเว้ย!” ไอ้ปิงออกคำสั่งพร้อมรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า “ไอ้โอบกับกูยังเหลือลูกดอกอีกสองอันนะ คราวนี้ตากูปาบ้าง”

“ปาเลยพี่ คราวนี้พี่ปาให้ได้เลข 13 บ้างนะ! จะได้ผลัดกันรุกผลัดกันรัก เอ๊ย รับบบบ” ไอ้บอมหัวเราะ

“มึงปาไปปักหัวแม่งได้มั้ยวะ กูยอมจ่ายค่ายาเอง”

“มาๆ กูจะปาแล้วนะ ให้กำลังใจกูด้วย” ไอ้ปิงตั้งท่า จากนั้นก็ปาลูกดอกแรกในมือออกไป

ตอนแรกผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเล็งไปที่ตรงไหน แต่ผมเห็นลูกศรถูกที่ขว้างออกไป พุ่งตรงไปยังกระดาน และจากนั้นก็ปักลงบนช่องๆ หนึ่งที่มีหมายเลขสองหลักห้อมล้อมอยู่มากมาย ช่องที่มีหมายเลขตัวเดียว และเลขนี้มีจำนวนอยู่เพียงแค่หยิบมือบนกระดาน ถ้าจำไม่ผิดไอ้ปิงบอกผมว่ามีอยู่แค่ห้าช่องเท่านั้น

ช่องๆ นั้นคือช่องหมายเลข 1

“เฮ้ยยยย!!! รางวัลที่หนึ่งออกแล้วโว้ยยยยยย!!!” ไอ้บอมร้องตะโกนออกมา ตามมาด้วยเสียงกลอง เสียงโห่ร้อง และเสียงปรบมือแสดงความยินดีจากคนในบูธ

ผมอ้าปากค้าง ไม่คิดว่ามันจะปาได้รางวัลที่ 1 และดูเหมือนไอ้ปิงเองก็จะแปลกใจไม่แพ้ผมเช่นกัน มันเดินไปยังตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ตามที่เพื่อนๆ น้องๆ ชมรมของมันบอก จากนั้นก็กวักมือเรียกผมให้ไปถ่ายรูปกับมันด้วย ซึ่งตอนแรกผมก็ปฏิเสธ

“กูบอกแล้วไงว่ากูปาให้มึง รางวัลเป็นของมึง มานี่!” มันลากมือผมยืนกับมันด้วย จากนั้นน้องในชมรมของมันและไอ้นิคที่โผล่มาตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ก็มาถ่ายรูปผมกับไอ้ปิงคู่กับตุ๊กตาหมีสีน้ำตาลตัวใหญ่ไปคนละ 2-3 รูป

“อีกดอกนึงนี่ไม่ต้องปาแล้วมั้งพี่ พอเห๊อะ” ไอ้บอมแซว “ชมรมตัวเองนะพี่ จะเจ๊งแล้วนะ”

“หุบปากเลยมึง” ไอ้ปิงชูนิ้วกลางให้รุ่นน้องของมัน ก่อนจะปาลูกดอกสุดท้ายออกไป

จึ้ก!

“โอเค ได้... หมายเลข 20 นะพี่” ไอ้บอมพูด น้ำเสียงของมันเองก็ดูจะเฉยๆ แล้วเหมือนกัน เพราะของแรงๆ ออกไปสองอันติดกันแล้วแบบนี้ ก็คงไม่เหลืออะไรให้ตื่นเต้นอีกแล้วล่ะมั้ง “หมายเลข ยี่... สิบ...” และทันใดนั้นเอง จู่ๆ ดวงตาของไอ้บอมก็เป็นประกายขึ้นอีกครั้ง “หมายเลข 20 เว้ยยยยย!! พวกมึงงงง!! ประธานชมรมเราปาได้หมายเลขยี่สิบบบบ!!!”

ผมหันไปมองไอ้ปิงแล้วก็เห็นว่ามันกำลังยกมือขึ้นปิดหน้าของตัวเองอยู่ “อ... อะไรวะมึง กูต้องทำอะไรอีก”

“ไม่ใช่มึง... แต่เป็นกูอีกแล้ว” ไอ้ปิงมองหน้าผมแล้วยิ้มแหยๆ แต่คราวนี้หน้าของมันแดงแป๊ดอย่างเห็นได้ชัด

“อ้าว อะไรอีกวะหนนี้”

“ก็กูเป็นคนปาไง ถ้าได้รางวัลอะไรมา กูก็จะให้มึง แต่ถ้าโดนลงทัณฑ์ กูจะทำให้เอง... รึหนนี้มึงจะรับไปทำแทนกูก็ได้นะ ไอ้โอบ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่ามึงจะว่ายังไง” มันเปลี่ยนรอยยิ้มเจื่อนๆ เมื่อครู่เป็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์

“ไม่เอา ไม่ทำ มึงทำเลย ต้องทำอะไรอีกวะหมายเลขนี้ พวกมึงนี่คิดเกมได้เหี้ยจริงๆ”

“หมายเลข 20 คนปาได้เลขนี้ต้อง...” ไอ้ปิงเว้นช่วง

“ตะโกนบอกชื่อคนที่ตัวเองรักคร้าบบบบ!” ไอ้บอมพูดต่อให้จบประโยค

เสียงเชียร์ดังขึ้นอีกครั้ง แต่หนนี้ส่วนมากจะมาจากคนในชมรมของพวกมันมากกว่า แต่ผมเห็นว่านอกจากคนในชมรมของมันที่ดูจะเชียร์มากเป็นพิเศษแล้วก็ยังมีไอ้เหี้ยนิคอีกคนที่กำลังเป่าปากสะใจโดยท่าทางจะลืมหน้าที่ตากล้องของตัวเองไปเสียสนิท

“มึงไม่ไปถ่ายรูปบรรยากาศงานรึไง ไอ้นิค! ไอ้หอกหัก!!” ผมหันไปด่ามัน

“ไม่!!” มันตอบเสียงหนักแน่นก่อนจะยกกล้องขึ้นมาถ่ายรูปผม “ตรงนี้สนุกกว่าเย้อเลยยยย”

“ไอ้เพื่อนชั่ว!”

ไอ้ปิงฉวยโอกาสตอนผมกำลังทะเลาะกับไอ้นิค หันไปพูดบางอย่างกับไอ้บอม ก่อนที่ไอ้บอมจะพยักหน้าและวิ่งหายไปทางเวทีคอนเสิร์ต

“ไอ้โอบ” ไอ้ปิงเรียกผม “อยากทำแทนกูมะ”

“ท... ทำอะไร”

“ตะโกนชื่อคนที่มึงชอบอะ”

“ไม่เอาเว้ย!” ผมเขินจนหน้าร้อนไปหมด

“กูอุตส่าห์ปาตุ๊กตาให้มึงนะ”

“มึงจะเอาตุ๊กตากลับบ้านไปก็ได้นะ กูไม่เอาก็ได้ อะหยังปะล้ำปะเหลือ!*”

“เขินเหรอ” มันยิ้มและหยิกแก้มผมเบาๆ “มึงน่ารักก็ตรงเนี้ยะ”

“เฮ้ย! เล่นเชี่ยไร อายเค้า ไอ้เหี้ย!” ผมสะบัดหน้าหลบ

“ทำไมอะมึง แค่ตะโกนชื่อคนที่ตัวเองชอบเอง”

ผมไม่กล้าสบตามัน รู้สึกเขินจนหูร้อนไปหมด “กูไม่ทำ!”

“มึงชอบใครอยู่ล่ะ ไหนบอกกูได้ป่าว”

“ไอ้เชี่ยปิง! ไอ้...!!”

“โอเคแล้วพี่ ตอนนี้ได้เลย!” ไอ้บอมที่เพิ่งวิ่งกลับมาพูดกับไอ้ปิง ขัดจังหวะด่าของผมได้พอดี แต่ก็ถือว่าช่วยชีวิตผมเอาไว้ด้วยเหมือนกัน

“โอเค... งั้นมึงรอกูตรงนี้นะ ไอ้โอบ ฝากตุ๊กตาหมีของเราไว้ด้วย” มันอุ้มตุ๊กตาหมีมาวางตรงหน้าผม จากนั้นก็เดินผ่านฝูงคนไปทางเวที

“มันจะไปไหนของมันวะ” ผมถามไอ้บอม แต่มันไม่ตอบ

อีกไม่กี่นาทีถัดมา ผมก็เห็นไอ้ปิงเดินขึ้นไปบนเวทีที่พวกไอ้โต๊ะกับเพื่อนในวงกำลังเซ็ทเครื่องดนตรีกันอยู่ มันคุยอะไรกันครู่หนึ่ง ก่อนที่ไอ้โต๊ะจะยื่นไมค์ให้ไอ้ปิง

“ฮัลโหล เทสๆ” เสียงของไอ้ปิงดังออกจากลำโพง ทำให้พวกเราแทบทุกคนที่อยู่ในละแวกนั้นหันไปมองมันบนเวทีอย่างพร้อมเพรียงกันทันที “โอเค ใช้ได้ อะแฮ่ม...” มันกระแอมเคลียร์ลำคอ “สวัสดีทุกคนครับ ผมชื่อปิงนะ เรียนอยู่ ม. 6/3 เป็นประธานชมรมบาสเก็ตบอล ออกบูธปาลูกดอกอยู่ข้างหลังนั่นน่ะ ใครว่างๆ ก็อย่าลืมไปเล่นกันเนาะ ของรางวัลซะป๊ะ ซะเป๊ด**” ไอ้ปิงยิ้มกว้าง “แต่ที่มาพูดตรงนี้ไม่ใช่จะมาขายของหรอกครับ ขอยืมไมค์เขามาได้แค่แป๊บเดียว พอดีเมื่อกี้โดนลงทัณฑ์ ปาลูกดอกโดนเลขไหนไม่โดน ดันไปโดนเอาเลขเด็ด และเค้าสั่งว่าใครปาได้เลขนี้ ให้ตะโกนบอกชื่อคนที่ตัวเองฮัก” มันเคลียร์ลำคออีกครั้ง “แต่ไอ้ครั้นจะให้ตะโกนบอกชื่อคนฮักต่อหน้าเค้ามันก็ยังไงๆ อยู่เนาะ ไหนๆ ก็จะเรียนจบแล้ว ยังไม่เคยบอกเจ้าตัวมาก่อนซะด้วย งั้นก็ขอพูดดีๆ ชัดๆ เลยดีกว่า แต่ถ้าไม่พูดเสียงดังๆ เดี๋ยวเค้าก็จะหาว่าผิดกฎ ก็เลยหน้าด้านหน้าทนขอมาพูดใส่ไมค์ซะเลย”

เฮ้ย... เฮ้ยยย.. เฮ้ยยยยย!!

“ทุกคนมองไปตรงนู้นครับ นู่นๆ มองไปที่ไอ้โอบ ประธานนักเรียนของเรา คงไม่มีใครไม่รู้จักมันใช่มั้ย ไอ้คนที่กำลังกอดคอตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ๆ อยู่นั่นน่ะ” ไอ้ปิงพูดพลางชี้มาทางผม

คราวนี้ทุกสายตาเลยหันมาจับจ้องผมเป็นตาเดียวกัน ผมรีบปล่อยตุ๊กตาที่กำลังกอดอยู่ออกทันที

“นี่... ไอ้โอบ” ชื่อของผมที่ออกจากลำโพงดังก้องไปทั่ว ทุกคนที่อยู่บริเวณหน้าเวทีจนถึงแถวบูธที่ผมยืนอยู่ต่างก็เงียบกริบ

ผมตั้งท่าจะเดินหนีไปที่อื่น แต่กลับถูกใครบางคนคว้าต้นแขนเอาไว้เสียก่อน... ไอ้เชี่ยนิค!

“ฮาฮักคิงหนา!”

เมื่อสิ้นเสียงของไอ้ปิง เสียงกรี๊ดและเสียงเชียร์ก็ดังกระหึ่มขึ้นยิ่งกว่าเดิมจนโรงเรียนแทบแตกจริงๆ ผมไม่สามารถบรรยายได้เลยว่าบรรยากาศตอนนั้นมันเป็นอย่างไรบ้าง ทุกอย่างแลดูบ้ามาก ทุกคนปรบมือ กรี๊ด กู่ร้อง ส่งเสียงเชียร์กันดังกระหน่ำจนหูของผมแทบดับ

“นั่นไง!! กูว่าแล้วววววววว!!!” เสียงของไอ้นิคดังขึ้นตามมาด้วยคำพูดจากคนอื่นๆ รอบข้างมากมาย

“สักทีเว้ยพี่กู!!”

“กรี๊ดดดดดดด!! จริงเหรอแก!”

“เห็นมั้ยกูบอกมึงแล้ว ไอ้เชี่ยก้องงง!!”

และอื่นๆ อีกมายที่ผมเริ่มฟังไม่ได้ศัพท์

ภาพของผู้คนที่อยู่รอบข้าง ทุกคนที่เข้ามากอดคอผม ตีหลังผม ตบหัวผม แลดูพร่ามัวราวกับเป็นความฝัน แต่ผมรู้ว่ามันคือความจริง เพราะความรู้สึกร้อนหน้าร้อนมือจนทำอะไรไม่ถูกนี้เป็นของจริง ความรู้สึกเจ็บที่ถูกเพื่อนๆ รุมทึ้งก็เป็นของจริง และสัมผัสจากมือของไอ้ปิงที่จู่ๆ ก็โผล่มาลากผมออกไปจากกลางฝูงชนนั่นก็เป็นเรื่องจริงเช่นกัน

“เมอร์รี่คริสต์มาสนะมึง” มันหันมาพูดกับผมในขณะที่กำลังเดินจูงมือผมหลบออกจากบรรดากองเชียร์เหล่านี้

........................................................................................

*อะหยังปะล้ำปะเหลือ แปลว่า อะไรกันนักกันหนา
**ซะป๊ะ ซะเป๊ด แปลว่า เยอะแยะมากมาย

........................................................................................
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 19-12-2014 09:29:44 โดย ExecutioneR »

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
น่าย๊ากกกกกกกกก

ออฟไลน์ นอนกินแรง

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1348
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +76/-4
กรี๊ดดดด มันค้างยิ่งกว่าฉากเอ็นซีซะอีก

บอกรักแล้วไงกัน น้องโอบอย่าลืมโอเคน้า

อ่านไปแล้วเขิน เป็นประธานชมรมบาสที่บอกรักก่อนด้วย :hao7:

ออฟไลน์ Thep503

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 210
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น่ารักขนาด......

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
น่ารักมาก อ่านไปยิ้มไป
วัยนี้ก็รัก ๆ กันไปเถอะไม่ต้องคิดมาก

ออฟไลน์ fongbeer37

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 139
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0
น่ารักกกกกอ่าาาาา ><

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ใครคิดเกมปาลูกดอกเนี่ย เข้าใจคิดดีเนอะ

ออฟไลน์ netkung

  • เป็ดกูรู
  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 40
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
น่ารักมากกกอะ ฟินๆๆๆ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
กรี๊สสสสสสสสส ฟินนนนน  :jul1:
นี่เค้ากล้าประกาศขนาดนี้เลยเหรอ
ไอ้เราก็ดันนึกว่า ปิงอาจจะออกแนวหวั่นไหวอยู่แต่ยังไม่ได้ชอบ
แต่นี้ประกาศว่าชอบเลย มันแบบบบบ  :m3:

ออฟไลน์ WASAWATTE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ๊ากกกกก..เขาบอกรักกันแล้ว บอกรักแบบออกสื่อด้วย!!
โอบเขินตายเลย..
 :hao7:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
น่ารักมากๆ เลย
ยิ่งอู้กำเมืองกันด้วย ยิ่งน่ารักเข้าไปอีก
*พูดไม่เป็นอ่ะ แต่รู้ว่าชอบ ภาษาน่ารักดี

ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
เพิ่งได้มาอ่าน
บรรยากาศมัธยมปลาย ที่แสนเลือนลาง
สองคนนี้มันน่ารักจริงๆ
เหมือนจะพยายามหลีกเลี่ยงความรู้สึกต่อกัน
แต่ทำไมน้องปิงไม่แคร์สื่อเลยล่ะคะ 555

ออฟไลน์ GBlk

  • ขอให้สรรพสัตว์จงมีความสุข
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1431
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +82/-43

ออฟไลน์ QueenPedGabGab

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 311
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +31/-1
ชอบบบบบบบบ

ออฟไลน์ KaorPaor

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 669
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +140/-4
เดี๋ยวกลับมาอ่านนะจ๊ะ

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
(7)

ตอนแรกผมก็คิดว่าตัวเองมีเรื่องจะต้องอธิบายให้ยัยน้องสาวตัวดีฟัง ไม่รู้ว่าต้องพูดยังไงเหมือนกัน ถึงจะแก้ตัวให้รอดพ้นจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่ายได้ ผมนึกไม่ออกว่าจะทำยังไง ไม่ให้มันเข้าใจผิดเรื่องที่ไอ้ปิงเสือกบอกรักผมออกไมค์ไปขนาดนั้น ผมไม่อยากให้น้องรู้ เพราะกลัวเรื่องจะไปถึงหูพ่อกับแม่ และไหนจะเรื่องแฟนเก่าของไอ้ปิงที่เป็นเพื่อนยัยอายอีกล่ะ ผมใช้เวลาเกือบทั้งเย็นหาวิธีที่จะพูดกับอาย แต่กลับกลายเป็นว่ามันเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาผมเองพร้อมรอยยิ้มกว้าง และพูดสิ่งที่ผมคิดไม่ถึงเลยสักนิดเดียว

“ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น อายรู้อยู่แล้วย่ะ!”

“ร... รู้อยู่แล้วอะไร”

อายกลอกตา “ก็รู้เรื่องพี่กับพี่ปิงน่ะสิ ใครตาไม่บอดก็ดูออกเหอะ แต่ไม่ต้องห่วง พ่อกับแม่คงยังไม่รู้หรอก และอายจะไม่บอกพวกเค้าด้วย”

“เฮ้ย ดูออกว่าอะไร” ผมยังคงอึ้งอยู่

“โอ๊ยยยย! เค้าก็ลือกันมาตั้งนานแล้วน่ะ แถมอายเห็นเวลาพี่มองพี่ปิงบ่อยๆ อายก็รู้แล้ว และอีกอย่างนะ ตอนนี้รูปกับคลิปที่พี่หอมแก้มพี่ปิงก็แชร์กันเต็มเฟซแล้วเนี่ย พรุ่งนี้ก็คงรู้กันทั้งโรงเรียนจริงๆ แล้วนั่นแหละ”

“เฮ้ย เต็มเฟซเลยเหรอ! แล้วที่สำคัญ ทำไมพี่เป็นคนเดียวที่ไม่รู้เรื่องวะว่ามัน...!”

“ไม่รู้หรือแกล้งทำเป็นไม่อยากรู้กันแน่” อายกลอกตาอีกหน

“แล้วเรื่องแฟนไอ้ปิงล่ะ ว่ายังไง แกไม่โกรธพี่เหรอวะ อาย” ผมเปลี่ยนเรื่อง

“แฟนเก่าพี่ปิงต่างหาก” อายแก้คำพูดของผม “อย่าไปสนใจมันเลย อีนั่นมันกะหรี่เอง สนใจเรื่องของตัวเองเหอะ แฟนมานั่นแล้วน่ะ อายไปแล้วนะ แล้วเจอกันที่บ้าน” อายเริ่มวิ่งเหยาะๆ ออกไปได้ 2-3 ก้าว ก่อนจะหันกลับมาหาผมอีกครั้ง “อ้อ ลืมไป! ถ้าไม่อยากให้พ่อกับแม่รู้ อายขอตุ๊กตานะ!” เมื่อพูดจบ มันก็วิ่งกลับไปหากลุ่มเพื่อนทันที

“ไงบ้าง อายว่ายังไงเรอะ” ไอ้ปิงเดินกลับมานั่งข้างๆ ผมพร้อมน้ำเย็นขวดนึง

“มันมาขอกุญแจรถแล้วก็ขอตุ๊กตาอะ”

“ตุ๊กตาหมีอะเหรอ ก็ให้มันไปดิ ไม่เป็นไรหรอก กูก็รู้อยู่แล้วว่ามึงมันสายโหด ไม่ใช่สายแบ๊วที่จะมาเล่นตุ๊กตาอะไร” มันหัวเราะ

เราสองคนเงียบกันลงไปครู่หนึ่ง พระอาทิตย์กำลังจะลาลับขอบฟ้า ลมเย็นๆ ที่พัดพาเอาความหนาวเข้ามาปะทะร่างกาย ทำให้ผมต้องกอดอกและกระชับเสื้อแจ็คเก็ตที่ใส่อยู่เข้าหาตัวมากขึ้น

“หนาวเหรอ” ไอ้ปิงถามพร้อมเขยิบเข้ามาเบียดผมมากขึ้น

“เมื่อกี้อายบอกว่ารูปตอนกูหอมแก้มมึงมีคนแชร์ลงเฟซด้วย”

“ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่” ไอ้ปิงหัวเราะ

“แล้วตอนมึงขึ้นไปบนเวทีอะ กูว่ากูเห็นมีคนอัดคลิปไว้ด้วยนะ”

“เออ กูก็เห็น” มันพูดด้วยน้ำเสียงอารมณ์ดี

“มึงไม่กลัวคนเอาไปแชร์รึไง”

“ถ้ากลัวจะทำแต่แรกเหรอวะ ก็ให้คนเค้ารู้กันไปดิ ไหนๆ ก็จะเรียนจบแล้ว กูไม่สนใจแล้วว่ะ การบอกรักของกู จะต้องเป็นตำนานของโรงเรียนไปอีกนาน มึงคอยดู” มันหัวเราะอีกครั้ง

“มึงนี่มันหน้าด้านจริ๊งงงง”

“วันนี้กูมีความสุขโคตรๆ เลยว่ะ มึงล่ะ มีความสุขมั้ย”

“ก็ดีนะ แต่เหนื่อยว่ะ”

“เหนื่อยเหรอ งั้นปิ๊กบ้านกั๋นก่อ”

“บ้านใคร”

“บ้านมึงดิ เดี๋ยวกูไปส่ง เมื่อกี้อายมันเพิ่งจะมาเอากุญแจรถมึงไปไม่ใช่รึไง”

“แล้วเราจะเอาตุ๊กตากลับกันยังไงวะ” ผมหันไปมองยังไอ้หมีตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ

“ซ้อนสามซ้อนสี่ยังทำได้ นี่แค่สองคนบวกหมีอีกตัว ทำไมจะไม่ได้วะ” ไอ้ปิงยืนขึ้นพร้อมยื่นมือให้ผมจับ “ไปเหอะ หาไรกินกันก่อนแล้วค่อยกลับเนาะ”

ผมมองมือของมันอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะจับมันเอาไว้แล้วยืนขึ้น

หลังจากกินข้าวเสร็จและกลับถึงบ้าน ผมก็เอาตุ๊กตาหมีไปวางไว้ที่ห้องของอาย แล้วจึงกลับลงมาหาไอ้ปิงที่กำลังยืนรอผมอยู่ที่รถของมัน

ยิ่งเห็นหน้าของมัน หัวใจของผมก็ยิ่งบีบรัดมากเท่านั้น คำถามที่ค้างคาอยู่ในใจ เปรียบได้กับมือล่องหนที่คอยกำและบีบหัวใจของผมแน่น แน่นจนบางทีก็ทำให้ผมรู้สึกเหมือนจะหายใจไม่ออกตาย

“เป็นไรวะ ทำหน้าหงอยๆ” มันถามผม

“หือ กูเหรอหน้าหงอย... คงเหนื่อยๆ มั้ง”

ผมไม่ได้โกหก เพราะผมรู้สึกเหนื่อยจริงๆ ไหนจะงานทั้งวัน และยังจะเหตุการณ์ตื่นเต้นติดๆ กันหลายหนเมื่อตอนบ่ายนั่นอีก ผมเลยรู้สึกเหนื่อยทั้งกายและใจทีเดียว แต่นอกเหนือไปกว่านั้นคือความรู้สึกเหงาๆ โหวงๆ ที่จู่ๆ ก็เกิดขึ้นมากกว่า เพราะผมเพิ่งจะรู้สึกตัวว่า ไม่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับชีวิตของผมทั้งหมดจะเป็นความจริงหรือความฝัน ท้ายที่สุดแล้วมันก็ต้องมีตอนจบด้วยกันทั้งนั้น

“ไอ้ปิง...”

“หือ”

“ตกลงเราสองคนเป็นอะไรกันวะ”

รอยยิ้มของมันจางลงไปเล็กน้อย เราต่างก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมาก่อน จนกระทั่งมันยื่นหมวกกันน็อคให้ผม และทำท่าบอกให้ผมขึ้นซ้อนท้าย “ไปนั่งรถเล่นกันหน่อยเถอะ”

“ไปไหน”

“ที่เงียบๆ”

“ที่ไหน”

มันคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ขึ้นดอยกัน”

อีกประมาณ 40 นาทีถัดมา ไอ้ปิงก็พาผมเข้าสู่เขตอุทยานแห่งชาติ บริเวณโดยรอบมืดหมดแล้ว มันจอดรถแล้วจูงมือพาผมเดินไปนั่งลงบนขอนไม้ใหญ่บนทุ่งหญ้า มันจับมือของผมไว้ตลอดไม่ยอมปล่อย เราต่างก็นั่งเบียดร่างกายเข้าหากันสู้ลมหนาวและอุณหภูมิที่น่าจะต่ำกว่า 10 องศา ความเงียบที่ปกคลุมเราทั้งสอง มีเพียงเสียงร้องของแมลงนานาพันธุ์ดังเบาๆ ช่วยผ่อนคลายและทำให้ให้จิตใจของผมสงบลงได้บ้าง แต่ผมว่าสิ่งที่ช่วยมากที่สุดก็คือไออุ่นที่ผมได้รับจากมันต่างหาก

“บ่าโอบ...” ไอ้ปิงเป็นฝ่ายทำลายความเงียบลงก่อน “ฮาฮักคิงหนา คิงฮู้ก่อ”

“กูรู้แล้วไง”

“ถ้าบ่อมีคิง ฮาก็บ่อฮู้ว่าจะอยู่จะได...”

“ไอ้ปิง...” สิ่งที่มันพูดบาดเข้าไปในใจของผม เพราะอีกไม่นาน เราก็จะไม่มีกันและกันแบบนี้อีกแล้ว

“กูยังไม่รู้เลยนะว่ามึงล่ะ คิดยังไงกับกู” มันพูดขัดขึ้น

“ใครบอกว่ามึงไม่รู้... ที่จริงมึงก็รู้ดีไม่ใช่เหรอวะ”

“แต่กูอยากได้ยินให้แน่ใจสักครั้ง”

ผมสูดลมหายใจเข้า “กูก็รักมึงเหมือนกัน... ไอ้ปิง รักมาก... มากจนกูเจ็บ”

“กูขอโทษ กูไม่ได้อยากทำให้มึงต้องเจ็บเลย” มันพูดเสียงค่อย

“ไม่ใช่ความผิดมึงหรอก ผิดที่ใจกูเองต่างหาก แต่ที่จริงมันก็เป็นความเจ็บที่กูมีความสุขที่สุดในชีวิตแล้วนะเว้ย”

“แล้วมึงว่า... คนสองคนที่รักกัน จำเป็นต้องเป็นแฟนกันมั้ยวะ”

ผมคิดอยู่ครู่หนึ่ง “คงไม่มั้ง... แต่การได้เป็นแฟนกัน มันก็คงทำให้อะไรๆ สมบูรณ์มากขึ้นว่ะ”

“ก็คงจริงของมึง...”

“นี่ ไอ้ปิง” ผมหันไปหามึง “ทำไมมึงถึงเพิ่งมาบอกกูเอาป่านนี้วะ”

มันก้มหน้าลง “กูก็กลัว... กลัวเหมือนที่มึงกลัวนั่นแหละ กลัวจะคิดไปเองและกลัวจะเสียมึงไป”

“ถ้าเรารู้ใจตัวเองและกล้ากันเร็วกว่านี้ก็คงดีเนอะ นี่แม่งเหลืออีกไม่กี่เดือนเราก็จะไม่ได้เจอกันทุกวันแบบนี้แล้ว” ผมปล่อยมือของมันออกและกอดเข่าทั้งสองข้างของตัวเองเอาไว้ “กู... กูใจหายว่ะ ไอ้ปิง กูรักมึง กูอยากเป็นแฟนกับมึง ยิ่งตอนนี้กูรู้แล้วว่ามึงก็รักกู กูก็ยิ่งอยากอยู่กับมึงเข้าไปใหญ่ แม่ง... ทำไมมันเจ็บปวดขนาดนี้วะ” ผมพยายามต่อสู้กับน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา แต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายเสียงของผมก็สั่นเครือแบบควบคุมไม่ได้ “การรู้ว่าจะต้องแยกจากคนอันเป็นที่รักนี่มันเจ็บปวดยิ่งกว่าการแอบรักเค้าข้างเดียวอีกเหรอวะเนี่ย”

“กูรู้ ไอ้โอบ...” มันกอดผม เสียงของมันเองก็แตกพร่าเช่นกัน “กูก็คิดเหมือนมึงนั่นแหละ...”

“แค่คิดว่ากูจะไม่ได้เห็นหน้า ไม่ได้เห็นรอยยิ้มของมึงทุกๆ วัน จะไม่มีมึงมาคอยลูบหัวกู ไม่ได้คุยเรื่องไร้สาระกับมึงยันเช้า ไม่มีมึงมานั่งตัก ไม่ได้นอนกอดมึงแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว กูก็เจ็บหน้าอกแล้วว่ะ เจ็บมาก...” ผมยกมือขึ้นกำเสื้อที่หน้าอกแน่น “กูรักมึงจริงๆ ไอ้ปิง แต่เราคงเป็นแฟนกันไม่ได้ใช่มั้ย มันสายไปแล้วใช่มั้ยวะ”

ไอ้ปิงไม่ตอบ เราจึงต่างเงียบกันลงไปครู่หนึ่ง

“นี่... ไอ้โอบ ถ้าให้มึงเลือกระหว่างเราเป็นเพื่อนกันแบบนี้จนเรียนจบ เก็บไว้แค่ความรู้สึกดีๆ รู้ว่าเรารักกัน กับเป็นแฟนกันแค่ช่วงสั้นๆ ก่อนจะแยกย้ายกันไปแล้วไปเสี่ยงดูอีกทีว่าอนาคตเราจะเป็นยังไง... มึงว่าแบบไหนดีกว่ากันวะ”  มันวางหน้าผากลงบนไหล่ของผม

“มึงพูดเหมือนถ้าเราห่างกัน สุดท้ายเราก็ต้องเลิกกันอย่างนั้นแหละ”

“ก็เป็นไปได้ไม่ใช่เหรอวะ คนเจอกันแทบทุกวันมันยังเลิกกันได้เลย นับประสาอะไรกับคนที่อยู่กันคนละจังหวัด” มันถอนหายใจ “แต่ถ้าเราเป็นเพื่อนกัน เราก็จะรักกันได้ตลอดไป มีกันและกันอยู่ในใจได้ตลอดไป... ใช่รึเปล่าวะ”

“กู... กูไม่รู้”

“มึงคิดว่าไง ไอ้โอบ ตกลงมึงอยากจะเลือกแบบไหน”

“กูไม่อยากเลือก...”

“โอบ...”

ผมก้มหน้าและหลับตาลงครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นเหม่อมองไปยังความมืดเบื้องหน้า “ถ้าเลือกได้...” ผมกำหมัดแน่น “กูอยากรักมึง และอยากให้มึงรักกู” ผมตอบออกไปแบบโง่ๆ “กูอยากให้เรารักกันไปนานๆ กูนึกออกแค่นี้ว่ะ...”

“ตอนนี้เราก็รักกันไง”

ผมพยักหน้า ไอ้ปิงนั่งกอดผมอยู่อย่างนั้นอยู่ครู่ใหญ่ๆ โดยที่เราไม่ได้พูดอะไรออกมาอีกเลย จนเมื่อถึงเวลา เราสองคนก็ตัดสินใจกลับบ้าน คืนนั้นไอ้ปิงนอนค้างกับผมที่บ้านอีกคืน เรานอนคุยกันตั้งแต่เรื่องที่ผมแอบมองมันตั้งแต่ ม. ต้น ไปจนถึงตอนที่มันคิดว่ามันชอบผมตอน ม. 5 เราแบ่งปันความรู้สึกที่มีต่อกันอย่างเปิดเผยจนเกือบถึงเช้าถึงได้หลับลงไป

วันต่อมาซึ่งเป็นวันเสาร์ ผมตื่นขึ้นมาพบกับเตียงที่ว่างเปล่า ผมเดินลงไปชั้นล่างและมองหาไอ้ปิงแต่ก็ไม่เจอมัน รถของมันก็ไม่อยู่ แม่บอกผมว่ามันเพิ่งกลับบ้านไปเมื่อชั่วโมงที่แล้วนี่เอง ผมเดินกลับขึ้นไปบนห้อง มองดูเตียงนอนที่เคยมีมันแล้วจู่ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา ผมนั่งลงบนเตียง นึกถึงคำพูดของมัน และความอบอุ่นของมันเมื่อคืน แล้วก็ร้องไห้เบาๆ อยู่คนเดียวอย่างนั้นครู่หนึ่ง จนเวลาผ่านไปอีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ จนเมื่อรู้สึกว่าตัวเองร้องไห้จนพอใจแล้ว ผมก็ลุกขึ้นเพื่อไปอาบน้ำ และในตอนนั้นเองที่ผมสังเกตเห็นกระดาษโน้ตแผ่นเล็กๆ แผ่นหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง

ผมหยิบขึ้นมาดูและก็เห็นเป็นลายมือของไอ้ปิงเขียนเอาไว้สั้นๆ ว่า

“รักมานาน และจะรักตลอดไป”

ผมยิ้มให้กับตัวเองและพับเก็บกระดาษแผ่นนั้นลงในกระเป๋าสตางค์ จากนั้นก็ไปอาบน้ำ กินข้าว และตอนบ่ายๆ ก็ออกไปเจอไอ้ปิงและเพื่อนๆ

เมื่อเราเจอหน้ากัน เราก็ส่งยิ้มให้แก่กัน ผมรู้สึกว่าผมเจ็บในหน้าอกเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันผมก็มีความสุข เพราะอย่างน้อยๆ ตอนนี้ผมก็รู้คำตอบแล้วว่ามันรักผมมากเพียงใด

ผมตัดสินใจแล้วว่าจะตักตวงเวลาที่เหลืออยู่ไว้ให้มากที่สุด หากว่าผมเคยรักโดยที่ไม่ได้ครอบครองมาได้ตั้งนาน มันจะยากอะไรกับการเก็บความรักที่มีและเกิดขึ้นครั้งนี้ไว้กับตัว โดยไม่จำเป็นต้องได้มันมาเป็นแฟนหรือได้เจอหน้ามันทุกวันไปตลอดชีวิต

สิ่งสำคัญที่สุดของความรักของผมคือการได้รักโดยไม่ต้องครอบครองเป็นเจ้าของ และผมก็ยินดีที่จะเก็บความรักของไอ้ปิงที่มันมีให้ผม และผมมีให้แก่มันไว้ในใจไปตลอด ไม่ว่าจะอีกนานแค่ไหนก็ตาม

.
.
.
.
.


(จบ)


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ขอบคุณทุกๆ คนที่ตามอ่านนะครับ จริงๆ ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ จะสนุกกว่าถ้าอ่านรวดเดียวจนจบนะ แต่ยังไง... อย่าเพิ่งลุกไปไหนนะครับ รอดูตอน end credit ด้วย

:)

ออฟไลน์ Lactobacillus_casei

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 8
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
จะมี after story ต่อจากนี้ไหมครับ อย่ากอ่านมุ้งมิ้งๆต่อ อยากให้เค้าตกลงปลงใจเป็นแฟนกันเลย ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่เดียวกัน มีช็อตหวานๆ น่ารักๆ ด้วยกัน งื้ดๆ สนุกมากครับ อินตาม เหมือนจะแฮปปี้แล้วแต่ก็ไม่เชิง  เค้ารักกันแต่ระดับความสัมพันธ์เหมือนจะยังไม่ขยับ ความรู้สึกตรงกันแต่ถูกแทรกกั้นด้วยเวลาที่เริ่มนับถอยหลังลง อ๊ากกกกก ต่ออีกๆ ส่งสองคนไปเรียนด้วยกันเถอะนะครับ #รักมานานและจะรักตลอดไป ชอบประโยคนี้ ที่สุด เลย
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-12-2014 10:51:25 โดย Lactobacillus_casei »

ออฟไลน์ Redz

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
 :serius2: ขอตอนพิเศษโหน่ยยยยยยยยย

ออฟไลน์ มาโซซายตี้

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 776
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +100/-2
น้องอาย น้องเป็นสาววายสินะ
แอบสงสัยว่าปิงบอกว่าเริ่มชอบโอบตั้งแต่ม.5 แสดงว่ามีแฟนอยู่แล้วถึงมาชอบโอบใช่มั้ย แล้วน้องอายพูดว่าแฟนปิงเป็นกะหรี่ คืออะไร

ออฟไลน์ analogue

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 665
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +26/-3
จบแล้ววว

เรื่องนี้น่ารักก

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
(พิเศษ)

“ไอ้โอบ! ไอ้โอบบบบบ!!” เสียงของไอ้ปิงที่ร้องเรียกผมอยู่หน้าบ้านปลุกให้ผมตื่นขึ้นอย่างมึนๆ

นี่มันมาตะโกนเรียกหาผมที่บ้านทำไมแต่เช้าวะเนี่ย

“ไอ้โอบโว้ยยยยย! ตื่นได้แล้ววววว!! ตื่นนนนน!!”

“ตื่นแล้วว้อยยยยยย!! รอแป๊บนึง!!” ผมตะโกนตอบกลับไป ดีนะที่วันนี้ผมอยู่บ้านคนเดียวเพราะคนอื่นๆ ไปเยี่ยมญาติของพ่อที่ชลบุรีกันหมด แต่ผมไม่ได้ไป ไม่อย่างนั้นมันคงโดนแม่ผมด่าแน่ๆ โทษฐานที่มาแหกปากโวยวายอยู่หน้าบ้านตั้งแต่ยังไม่แปดโมงเช้าแบบนี้

ผมเดินลงไปปลดปล็อคและเปิดประตูบ้านให้มัน ไอ้ปิงรีบพุ่งตัวเข้ามาในบ้านผมทันที

“ทำไมช้านักวะ!”

“มาปลุกกูแต่เช้าแล้วยังเสือกมาโวยกูอีก มีเหี้ยอะไร ทำไมไม่ไลน์หรือโทรมาวะ มาแหกปากอยู่ได้” ผมอ้าปากหาว

“กูขอพ่อได้แล้วนะเว้ย!” มันพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น แววตากลมโตของมันเป็นประกายราวหมู่ดาวในคืนเดือนมืด

“ขอพ่อ ขออะไร”

“ก็ขอไปเรียนที่เดียวกับมึงไง!”

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ก่อน ผลสอบเข้ามหาวิทยาลัยของผมเพิ่งประกาศ และผมก็สอบติดในที่ที่ผมต้องการ ซึ่งเป็นคนละมหาวิทยาลัยกับที่พ่อของไอ้ปิงอยากให้มันเรียนมาตลอด แต่ด้วยความที่มันไม่เคยอยากเรียนในสิ่งที่พ่อต้องการ และมันเองก็อยากไปเรียนที่เดียวกับผมเหมือนกัน มันจึงพยายามต่อสู้กับพ่อมาตลอดเป็นเวลาหลายเดือน ที่จริงมันก็ทะเลาะกับพ่อเรื่องนี้มาแทบจะตลอด ม. 6 นั่นแหละ มันมีปัญหาเรื่องนี้มานานจนถอดใจไปแล้วด้วยซ้ำ แต่ในที่สุด มันก็ตัดสินใจกลับไปพยายามคุยกับพ่ออีกหน และในวันนี้มันก็เป็นฝ่ายชนะจนได้!

“เฮ้ย จริงอะ! มึงได้ไปเรียนที่เดียวกับกูจริงๆ เหรอวะ!” ผมตื่นขึ้นเต็มตาเลยทีเดียว

“เออดิ! กูดีใจชิบหายยยยย!! เลยอยากรีบมาบอกมึงคนแรกเลยเนี่ย!” มันหัวเราะพลางดึงตัวของผมเข้าไปกอดแน่น

 ผมกอดมันตอบ “แล้วพ่อเค้าไม่โกรธอะไรมึงใช่ปะ มึงไม่โดนด่าอีกใช่มั้ยเนี่ย”

“เค้าก็ตึงๆ นิดหน่อย แต่หนนี้แม่กูยอมไฟท์กับกูด้วยเว้ย ปู่กับย่าก็ช่วยด้วย พวกเค้าคงเห็นกูเครียดอะ ทุกคนเลยรุมพ่อจนเค้ายอม แม่งงงง! กูโคตรดีใจเลยว่ะ!!”

“กูก็ดีใจเหมือนกัน” ผมโยกตัวมันเบาๆ รอยยิ้มกว้างฉายอยู่บนใบหน้าของผม รู้สึกว่าหัวใจของตัวเองพองโต

มันดันตัวของผมออกแล้วมองหน้า “คราวนี้มึงก็หนีกูไปไหนไม่รอดแล้วนะ ไอ้โอบ”

“กูจะหนีมึงไปไหนวะ พูดหมาๆ นะมึงเนี่ย ไอ้ปิงเอ๊ยยยย กูดีใจจริงๆ นะเว้ย ไอ้ปิง ดีใจมากๆ”

“เห็นมึงยิ้มแบบนี้ กูก็รู้แล้ว” มันยิ้มกว้าง

เราสองคนยืนจับมือมองหน้ากันอย่างนั้นครู่หนึ่ง จากนั้นมันก็ชะโงกหน้าเข้ามาจุ๊บปากผมเบาๆ พร้อมกับลูบหัวผมไปด้วย “เฮ้ออ... ให้รอมาตั้งนาน เท่านี้กูก็ขอมึงได้แล้วสินะ”

“หือ ขออะไรวะ” ผมสงสัย

“ไอ้โอบ มึงเป็นคนรักของกูมาก็นานแล้ว แต่หลังจากนี้... มึงมาเป็นแฟนกูนะ” มันยักคิ้วพร้อมรอยยิ้มมุมปากในแบบของมัน

.
.
.

คิดว่าผมจะตอบตกลงรึเปล่าล่ะ


........................................................................................

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8
กด F5 รัวๆ  :katai4:
รอตอนพิเศษ 2

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
อ๊ากกกกก หวานได้อีก หวานๆๆเลย ไม่กลัวน้ำตาลขึ้น อิอิ มาอย่างด่วนเลยครับตอนพิเศษใหม่่่่่

ออฟไลน์ WASAWATTE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
อ๊ากกกกก.. จบไปแล้ว แล้วก็มีตอนพิเศษมาด้วย!!
อ่านไปเขินไป อ่านจบแล้วก็ยังอยากอ่านต่ออีก
มันค้างคามากเลยคุณต้น อยากฟินกับคู่นี้ต่อไปเรื่อยๆ
อ่านแล้วมีความสุขไปกับตัวละครของคุณต้น
ยังจะรอติดตามตอนพิเศษเรื่อยๆ นะคุณต้น เป็นกำลังใจให้..
 :impress2:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด