บทที่ 14 ความจริง... จากใจ(ครึ่งแรก)
การผ่าตัดช่วยชีวิตวิทยาเป็นไปอย่างราบรื่น สาเหตุที่เลือดออกมากเป็นเพราะกระดูกโคนขาข้างขวาหักไปโดนเส้นเลือดใหญ่ ซึ่งทีมแพทย์ศัลยกรรมเส้นเลือดกับแพทย์ศัลยกรรมกระดูกได้ทำการเย็บเส้นเลือดและต่อกระดูกด้วยการดามเหล็กจากภายนอกเป็นที่เรียบร้อย ตอนนี้วิทยาได้ถูกเคลื่อนย้ายมาพักฟื้นที่ห้องไอซียู โดยยังคงใส่ท่อช่วยหายใจทางปากและมีอุปกรณ์ช่วยชีวิตระโยงระยางเต็มตัว แต่โดยรวมแล้วถือว่าอาการคงที่ ที่เหลือก็เพียงแค่รอเวลาให้เขาฟื้นขึ้นมาเท่านั้น
”หมอจิวจะตื่นไหมครับ” ภาวัฒน์ถาม รู้ดีว่าไม่ใช่ทุกคนที่ทำการนวดหัวใจสำเร็จและหัวใจกลับมาเต้นจะตื่นขึ้นอีกครั้ง บางคนก็ตื่นขึ้นมาแบบไม่สมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นเนื่องจากสมองได้รับออกซิเจนและเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอเป็นระยะเวลานาน แต่ที่แย่ที่สุดคือการเป็นเจ้าชายนิทรา
“ตื่นสิ ฉันเชื่อมั่นในฝีมือการ CPR ของนายนะ” ปาวัสม์ยิ้มด้วยใบหน้าที่อิดโรย เพราะนับตั้งแต่วิทยามาอยู่ในห้องไอซียูเขาก็นั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงไม่ห่างและตอนนี้เวลาก็ผ่านมาเกินยี่สิบสี่ชั่วโมงแล้วนับจากเกิดเรื่อง และเป็นยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ปาวัสม์ไม่ได้หลับสักตื่น ส่วนเรื่องกินหรือดื่มนั้นไม่ต้องถามถึงเลย
“ถ้าเชื่อกันขนาดนั้น ก็ไปพักสักหน่อยสิ” นุชนันท์ที่เพิ่งเดินเข้ามาแกล้งประชดเพราะสองคนเล่นตัวติดกันตลอดเวลาจนเธอนึกหมั่นไส้ “ตาดำเป็นหมีแพนด้าแล้ว ไม่ก็ไปหาอะไรกินบ้าง ถ้านายเกิดเป็นลมล้มพับขึ้นมาอีกคนมิแย่รึ”
“เธอไปกินกับพลุกันสองคนเถอะ” ปาวัสม์บอกเสียงลอยๆ “ฉันไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกิน” เสียงหวานปนดุดังจนแทบตวาด “เลือกเอาว่าจะไปกินเองดีๆ หรือจะให้ฉันฟาดด้วยไม้หน้าสามแล้วลากไปกรอกน้ำข้าวต้ม”
“หมอปืนกับพี่อุ้มนี่สนิทกันดีจังนะครับ “ภาวัฒน์มองเพื่อนรักสองคนทะเลาะกันเพราะความเป็นห่วงและอดยิ้มตามไม่ได้
“ก็คบกันมาตั้งยี่สิบปีแล้วนี่นะ” นุชนันท์หันไปมองร่างที่ยังนอนไม่ได้สติบนเตียง “จิวก็ด้วย... พวกนายเป็นเหมือนครอบครัวของฉันเลยนะ”
สาวร่างอวบเม้มปากจนเป็นเส้นบางกลั้นก้อนสะอื้นที่ขึ้นมาจุกอยู่ตรงคอหอย เมื่อหวนนึกถึงวันที่ทำให้พวกเขากลายมาเป็นเพื่อนสนิทกัน
ผู้หญิงอย่างเธอไม่เคยกลัวใคร ยิ่งเมื่อรวมกับร่างกายที่สูงใหญ่เกินเพื่อนในวัยเดียวกันมาตั้งแต่เด็กทำให้ทุกคนต่างพากันคิดไปเองว่าเธอเข้มแข็ง ไม่เคยมีใครปฏิบัติต่อเธอเหมือนเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ ซึ่งเธอก็ไม่เคยสนใจ เธอดูแลตัวเองได้
และเธอก็คิดเช่นนั้นมาตลอดจนกระทั่งวันที่เธอล้มกลิ้งลงในวิชาบาสเก็ตบอลสมัยม.ต้น ร่างสูงใหญ่พยายามยันตัวลุกขึ้นยืน ไม่มีใครสักคนที่จะเอ่ยปากถามว่าเธอเจ็บไหม ทุกคนก็แค่คิดเหมือนเดิมว่า ‘เธอไม่เป็นไร’
แต่เสียงกร๊อบ! เบาๆ ที่ข้อเท้าข้างขวาบอกให้รู้ว่ามันบาดเจ็บเกินกว่าจะรับน้ำหนักตัวไหว และในขณะที่กำลังจะล้มลงอีกครั้งนั้นเองที่มือคู่หนึ่งจากเด็กผู้ชายคนละคนเอื้อมมาช่วยประคองแขนไว้
เสียงกรีดร้องระงมด้วยความอิจฉาดังขึ้นรอบสนาม แม้แต่ตัวเธอเองยังไม่เคยคาดหวังความช่วยเหลือจากเพื่อนผู้ชาย แล้วใครกันล่ะจะไปคาดฝันว่าเพื่อนร่วมห้องที่เป็นคู่หูสุดหล่อขวัญใจคนทั้งโรงเรียนจะยื่นมือเข้ามาช่วยเธอ
‘เกือบไปแล้วไหมล่ะ’ เด็กผู้ชายหน้าตี๋บอก ตอนนั้นตัวของเขาสูงแค่ไหล่เธอเสียด้วยซ้ำ ‘เดี๋ยวเราพาไปห้องพยาบาลนะ’
‘ไม่เป็นไร เราไปเองได้’ เธอตอบ
‘อย่าปากแข็งน่า’ เด็กผู้ชายอีกคนที่หน้าคมเข้มกว่าบอกทั้งรอยยิ้ม ‘รีบไปกันเถอะ’
เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกปรนนิบัติอย่างเท่าเทียม(หรือบางทีอาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ)เช่นเดียวกับเด็กผู้หญิงคนอื่นๆ นับจากวินาทีนั้นเองที่ความสนิทสนมก่อเกิดขึ้น
และเป็นนาทีที่เธอตั้งใจจะไม่ให้ใครมาทำให้เพื่อนของเธอต้องเจ็บและมีน้ำตา
มันอาจจะเป็นเรื่องราวเล็กๆ ที่ดูไม่สลักสำคัญแม้ในสายตาของวิทยากับปาวัสม์ แต่สำหรับเธอมันมีค่ามากจนไม่มีสิ่งใดจะมามอบให้ได้ นอกจากความเป็น ‘เพื่อนแท้’
“ตื่นสักทีสิแกมัวแต่หลับอยู่ได้”
สิ้นเสียงนุชนันท์เสียงเครื่องช่วยหายใจที่ใส่ไว้ก็ดังเตือนเป็นจังหวะ ลักษณะไม่ใช่ของการไอหรือมีความผิดปกติใด แต่เกิดจากแรงต้านเหมือนคนไข้กำลังพยายามหายใจด้วยตนเอง
“ปืนนายมาดูจิวหน่อยเดี๋ยวฉันจะไปตามน้องพยาบาลที่เคาน์เตอร์”
ร่างสูงโผรีบไปข้างเตียงและคว้ามือของวิทยามากุมไว้แน่น “จิวตื่นแล้วเหรอ ตื่นแล้วก็ลืมตาขึ้นมาสิ เฮ้! จิว นายได้ยินฉันไหม”
แต่นัยน์ตาเล็กตี่ที่บวมช้ำยังคงปิดสนิท ปาวัสม์ซบหน้าลงกับฝ่ามือขาวซีดของคนเจ็บ หยดน้ำใสเอ่อขึ้นที่ริมหางตา ไม่อาจฝืนหัวใจบอบช้ำได้อีกต่อไปเมื่อนิ้วเรียวขยับตอบรับสัมผัสเบาๆ
OOOOOO
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้วอุ้ม”
หนุ่มหน้าตี๋ที่กึ่งนั่งกึ่งนอนพิงหมอนอยู่บนเตียงในห้องไอซียูพูดประโยคนี้เป็นรอบที่สี่ในห้วงเวลาไม่ถึงห้านาทีหลังถอดท่อช่วยหายใจออกเพราะสาวร่างอวบในชุดพยาบาลเม้มปากและทำท่าจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ ด้วยรู้สึกดีใจเป็นล้นพ้นที่ได้เห็นเพื่อนรักกลับมายิ้มและพูดคุยกับเธอได้อีกครั้ง
“แกห้ามหนีฉันไปไหนอีกนะ” ในที่สุดนุชนันท์ก็อดไม่ไหว เธอลุกขึ้นจากเก้าอี้และรวบตัววิทยามากอด
“ไม่ไปไหนแล้วจ้า” วิทยาหัวเราะเสียงของเขาแหบแห้งจากการใส่ท่อช่วยหายใจ และยกมือที่ยังมีสายน้ำเกลือห้อยระโยงระยางขึ้นแตะหลังหญิงสาวเบาๆ
“สัญญานะ” ปาวัสม์วางมือข้างหนึ่งลงบนบ่าวิทยาและบีบแรงๆ ครั้งหนึ่ง
นัยน์ตาเล็กตี๋ช้อนขึ้นสบนัยน์ตาคมพร้อมรอยยิ้มกว้าง “สัญญา”
“ฉันไปทำงานดีกว่า” นุชนันท์ยืดตัวขึ้นเต็มความสูงและใช้หลังมือปาดดวงตาที่แดงก่ำเร็วๆ ครั้งหนึ่ง “ฝากดูแลจิวด้วยนะปืน แล้วเย็นๆ ฉันจะมาเยี่ยมใหม่นะ” เธอพูดฝากฝังกับปาวัสม์และกอดลาวิทยาอีกครั้งก่อนจะกลับออกไป
หน้าห้องไอซียูนั้นเองที่พยาบาลสาวพบกับใครอีกคนหนึ่งที่น่าจะมารอดูอาการของวิทยาด้วยความเป็นห่วงเช่นกัน
“คุณรติพัทธคะ” นุชนันท์เรียกนายตำรวจหนุ่มนอกเครื่องแบบที่เอาแต่เดินวนไปวนมา รู้สึกตกใจเป็นล้นพ้นไม่แพ้คนที่โดนทัก
“คุณนุชนันท์” รติพัทธรู้อาการทั้งหมดของวิทยาจากรชญา แต่ด้วยความที่เกือบๆ จะเป็นคนนอกและนึกละอายในสิ่งที่ทำกับชายหนุ่มก่อนจะเกิดเหตุจึงทำให้ไม่กล้าเข้าไปเยี่ยมในห้อง “หมอจิวเป็นอย่างไรบ้างครับ”
“อาการคงที่แล้ว” นุชนันท์ตอบคำถามแค่ครึ่งเดียว
รติพัทธถอนหายใจอย่างโล่งอก “ค่อยยังชั่ว ผมขอเข้าไปเยี่ยมเขาหน่อยได้ไหมครับ”
นุชนันท์เม้มปากอย่างชั่งใจ “ฉันขอคุยอะไรด้วยสักครู่ได้ไหม”
“พูดมาเลยครับ” รติพัทธเปิดประเด็นทันทีโดยไม่รอช้า เขาอยากจะพบวิทยาใจจะขาดอยู่แล้ว
“คุณชอบ... ไม่สิ! คุณรักเพื่อนฉันจริงๆ เหรอ”
“หมอจิวบอกคุณเหรอ”
“ฉันเป็นเพื่อนกับเขามายี่สิบปี ถึงไม่มีใครบอกแค่มองตาฉันก็รู้ทุกอย่างแล้วล่ะ”
“คุณนี่สุดยอด มิน่าล่ะพี่นิวถึงได้หึงคุณนัก” รติพัทธว่า “ใช่! ผมรักหมอจิว”
นุชนันท์เหยียดริมฝีปาก “เพลย์บอยแถมเป็นไบอย่างคุณน่ะนะ ฉันไม่เชื่อหรอกแล้วฉันก็ปฏิญาณไว้เด็ดขาดแล้วด้วยว่าจะไม่ให้คนนามสกุลนี้มาแตะต้องเพื่อนรักของฉันได้”
“เรื่องของคุณสิ! ผมไม่สนหรอกว่าคุณหรือใครจะว่ายังไง เพราะตอนนี้ผมแคร์หมอจิวคนเดียวขอแค่เขาฟื้นขึ้นมาผมยอมทุกอย่างเลย”
นุชนันท์เลิกคิ้ว “แล้วถ้าเขาไม่ฟื้นล่ะ”
“คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง”
“ถ้าหากจิวไม่ตื่นและกลายเป็นเจ้าชายนิทรา คุณจะทำยังไงจะยังรักเขาเหมือนเดิมหรือเปล่า” พยาบาลสาวแกล้งถามลองใจ
“แล้วทำไมเขาถึงจะไม่ตื่นล่ะ” รติพัทธถามกลับ “เขาต้องตื่นสิ ก็พี่ปืนปั๊มหัวใจจนเขากลับมาเต้นได้เหมือนเดิมนี่”
“ตราบใดที่เขายังไม่ฟื้นก็บอกอะไรไม่ได้หรอก” นุชนันท์แสร้งทำเสียงสั่น “แล้วคำตอบล่ะ ว่ายังไงคะตกลงคุณจะยังรักจิวเหมือนเดิมหรือเปล่า แต่ฉันว่านะ คุณตัดใจจากจิวแล้วไปหาผู้หญิงสวยๆ รวยๆ คนอื่นดีกว่า อย่ารอเขาเลยค่ะ”
“ผู้หญิงสวยแค่ไหนก็แทนที่เขาไม่ได้” เสียงของรติพัทธเครือต่ำ
นุชนันท์เลิกคิ้วอีกครั้ง ไม่แน่ใจว่าฟังผิดไปหรือเปล่าแต่ความเจ็บปวดในแววตาที่เห็นสอดรับกันดีกับเรื่องราวที่ออกจากปาก
“ผมพอจะเดาได้ว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีขึ้นกับเขาตั้งแต่ตอนคุยโทรศัพท์กับผมแล้ว” รติพัทธบอก “ผมทั้งโทรหาพี่นิว โทรไปที่สน. โทรไปหากู้ชีพให้ช่วยติดต่อว่าเกิดอะไรขึ้น นั่นเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ผมแทบทำอะไรไม่ถูก ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และพอพี่นิวโทรหา บอกว่าหมอจิวกำลังจะ...” ผู้หมวดหนุ่มสบตาพยาบาลสาว สีหน้าเจ็บปวดราวกับโลกทั้งใบแตกลงตรงหน้า “ผมนึกว่าหัวใจสลายไปแล้ว... เพราะฉะนั้นคุณนุชนันท์ ต่อให้เขาจะไม่ตื่นหรือจะตื่นมาในสภาพไหนก็ไม่เป็นไรขอแค่ให้ผมได้ดูแลเขาเถอะ อย่างน้อยผมก็จะไม่ทำให้เขาเจ็บเหมือนที่หมอปืนทำ”
“ทำเป็นพูดดีไป” นุชนันท์กวาดตามองร่างกำยำที่แต่งกายไปคนละทางราวกับคว้าอะไรได้ก็รีบใส่ไปส่งๆ ขอบตาบวมคล้ำสภาพไม่ต่างจากปาวัสม์สักเท่าไร เธอเริ่มใจอ่อนเล็กๆ แต่ยังไม่ยอมหยุดแค่นี้ เรื่องจะให้ยกเพื่อนรักให้คนอย่างรติพัทธง่ายๆ น่ะไม่มีวันซะหรอก “งั้นเริ่มจากเลิกเจ้าชู้ก่อนดีไหม บอกไว้ตรงนี้เลยว่าฉันไม่กลัวหรอกนะถ้าต้องเป็นศัตรูกับคุณอีกคน ถ้าจิวลืมตาขึ้นมาแล้วคุณทำให้เขาเสียน้ำตา ฉันจะทำให้คุณแน่ใจได้เลยว่าจะไม่ได้ตายดีแน่”
“นี่คุณกำลังข่มขู่เจ้าพนักงานนะ”
“จะยัดมากี่ข้อหาก็เชิญเลยค่ะคุณตำรวจ” นุชนันท์ยิ้มเหยียด “ฉันไม่แคร์หรอก... สมมติว่าระหว่างฉันกับคุณกำลังจะตกหน้าผา ไม่แน่จิวอาจเลือกที่จะช่วยคุณก่อนแต่เชื่อเถอะว่าเขาไม่ลังเลเลยที่โดดตามฉันลงไป”
“คุณจะพูดอะไรกันแน่”
“ฉันพูดสิ่งที่ฉันอยากพูดไปหมดแล้ว ที่เหลือคุณคิดเองละกัน”
พูดจบนุชนันท์ก็เดินจากไปทิ้งให้นายตำรวจหนุ่มยืนคว้าง ทั้งที่ตอนนี้เขาจะเข้าไปเยี่ยมวิทยาก็ได้แล้วแท้ๆ แต่ทำไมนะคำพูดของพยาบาลสาวร่างอวบมันถึงได้ทิ่มแทงหัวใจเขานัก เขากัดฟันแน่นจนเป็นสัน ไม่ใช่เพราะโกรธเคืองแต่เขากำลังตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
แทนที่จะเข้าไปในห้องไอซียูรติพัทธกลับหลังหันเดินจากไปพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรออก
OOOOOO
“คุณหมอวิทยาอาการเป็นยังไงบ้างคะ”
ทันทีที่นุชนันท์คล้อยหลังออกจากห้องไป เสียงหวานของรชญาก็ดังขึ้นหน้าเคาน์เตอร์พยาบาล เจ้าหน้าที่ประจำห้องไอซียูตอบอาการคร่าวๆ และเพียงอึดใจต่อมาเสียงฝีเท้าจากรองเท้าส้นสูงของเธอก็มาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้อง
“ขออนุญาตนะคะ” รชญาแง้มประตูออกช้าๆ ด้วยเกรงว่าจะรบกวนผู้ที่นอนพักอยู่
“เข้ามาสินิว” ปาวัสม์เรียก “ตอนนี้จิวฟื้นแล้วแถมยังเอาท่อช่วยหายใจออกได้แล้วล่ะ”
ได้ยินดังนั้นรชญาก็รีบก้าวยาวๆ มายืนอยู่ข้างเตียงด้วยสีหน้าดีใจเป็นล้นพ้น “ดีใจจังเลยที่พี่จิวปลอดภัย ปาฏิหาริย์แท้ๆ เลยนะคะที่พี่จิวรอดมาได้ นิวขอโทษจริงๆ นะคะพี่ปืนที่ตอนนั้นนิว... ห้ามพี่... นิวแค่...” หยดน้ำใสเอ่อขึ้นที่หางตา เธอพูดได้เท่านั้นก็ใช้สองมือปิดปากกลั้นเสียงที่เริ่มสั่น
“ไม่เป็นไรหรอกนิว” ปาวัสม์โอบปลอบเธอไว้ด้วยแขนข้างหนึ่ง “พี่เข้าใจ... ด้วยเวลาขนาดนั้นโอกาสมันมีน้อย ไม่สิ! มันแทบไม่มีเหลือแล้วจริงๆ”
“แต่สุดท้ายพี่ปืนก็ทำสำเร็จ” รชญาพูดเสียงดังพร้อมทั้งลดมือลงและหันไปหาวิทยา “พี่จิวรู้ไหมคะว่าพี่เสียเลือดมากจนหัวใจหยุดเต้น พี่ปืน CPR พี่ไปเกือบชั่วโมงเลยนะ ตอนนั้นไม่มีใครคิดว่าพี่จิวจะไหวแล้ว มีแต่พี่ปืนนี่แหละที่เชื่อในตัวพี่แล้วก็ช่วยพี่จนได้” เธอหันไปยิ้มหวานให้แฟนหนุ่มและกุมกระชับมือที่คล้องอยู่รอบเอว “พี่ปืนของนิวเก่งที่สุดเลย”
“ขอบใจนะปืน”
“นิวก็พูดเกินไปพี่ไม่ได้เก่งขนาดนั้นหรอก” ปาวัสม์รีบบอก “พลุต่างหากที่เป็นทำ CPR นายตั้งแต่ที่เกิดเหตุจนมาส่งถึงโรงพยาบาล”
นัยน์ตาเล็กตี่เบิกโพลงเกือบเท่าไข่ห่าน “จริงเหรอพลุ ขอบใจมากนะที่ช่วยชีวิตฉัน”
ภาวัฒน์ค้อมศีรษะเบาๆ รับคำขอบคุณ
“แต่สุดท้ายพี่จิวก็กลับมาหัวใจเต้นที่มือพี่ปืนนี่คะ” รชญาแทรกขึ้น “ยังไงคนช่วยพี่จิวไว้ก็คือพี่ปืนอยู่ดีไม่ต้องถ่อมตัวไปหรอกค่ะ” เธอหันไปหาวิทยาอีกครั้ง “เพื่อเป็นการตอบแทนพี่จิวต้องรีบหายไวๆ นะคะ จะได้ไปเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวในงานแต่งงานของพี่ปืนกับนิว”
“แต่งงานเหรอ” วิทยาเหลือบตามองภาวัฒน์ที่หน้าเจื่อนไปทันที เขาเข้าใจว่าสองคนคุยกันเรียบร้อยแล้วซะอีก “เมื่อวานนายไปคุยกับท่านผอ.มานี่ ในที่สุดก็มีข่าวดีจนได้สินะ”
“คือเรื่องนั้นจริงๆ แล้ว...” ปาวัสม์พยายามจะอธิบายแต่รชญาก็ชิงพูดขึ้นเสียก่อน
“คงยังไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอกค่ะ เพราะพี่ปืนอยากให้อะไรมันเข้าที่เข้าทางมากกว่านี้ก่อน แต่นิวจะพยายามเร่งแหละเพราะถ้าขืนรอนานกว่านี้นิวกลัวจะใส่ชุดเจ้าสาวไม่สวย แถมยังมีลูกไม่ทันใช้อีก”
“ผมขอตัวก่อนนะครับ” ภาวัฒน์แทรกขึ้นเบาๆ “ต้องกลับไปทำงานต่อ นี่ก็โดดมานานแล้วเดี๋ยวจะโดนหัวหน้าดุเอา” พูดจบก็พยายามจะเดินเลี่ยงออกมาเงียบๆ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียมารยาท
“น้องพลุก็ต้องมาด้วยนะจ๊ะ” รชญารีบหันไปบอก “งานแต่งของพี่กับพี่ปืนน่ะ”
รชญายิ้มกว้างให้เด็กหนุ่มที่ยกมุมปากขึ้นยิ้มตอบเธอกลับไปเช่นกัน
วิทยาจ้องตาปาวัสม์ หากเพื่อนรักยังคงยืนนิ่ง ไม่มีแม้คำทัดทาน การแสดงอาการตอบรับหรือปฏิเสธใดๆ
OOOOOO
“ตกลงปืนจะแต่งงานกับยัยนิวเหรอ” นุชนันท์กรีดร้องในวันรุ่งขึ้นหลังจากที่วิทยาเล่าเหตุการณ์หลังจากที่เธอกลับออกไปแล้วให้ฟัง “แต่ปืนบอกฉันว่าปฏิเสธไปแล้วนะ นายฟังผิดไปหรือเปล่าจิว”
“ไม่ผิดหรอก” หนุ่มหน้าตี๋ยืนยัน “นิวเป็นคนเอ่ยปากออกมาเอง แล้วปืนก็ไม่ได้ทักท้วงอะไรด้วย”
“เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ไปได้ไงเนี่ย” นุชนันท์บ่นกระปอดกระแปด
...นี่ยัยรชญาคงตั้งใจรอจังหวะให้ฉันออกก่อนไปเพราะรู้ว่าถ้าฉันยังอยู่ ฉันต้องโวยวายแน่ๆ แต่นี่ปืนคงได้แต่เงียบสินะ... ให้ตายสิเพื่อนฉัน ทำไมไม่ทำอะไรให้มันเด็ดขาดไปสักทีนะ...
“ฉันว่าที่ปืนไม่ว่าอะไรคงเป็นเพราะตัวเองยังคิดไม่ตกแหละ” วิทยาไม่ได้เข้าข้างเพียงแต่พยายามวิเคราะห์ “เดิมทีปืนเป็นผู้ชายปกติ ไม่ได้ชอบผู้ชายมาตั้งแรกแบบฉัน ก็คงมีลังเลเป็นธรรมดา แถมนิวยังเป็นถึงลูกสาวผอ.โรงพยาบาล... ฉันว่าเธอก็น่าจะเดานิสัยคู่ปรับเธอได้นี่ว่าคงไม่ยอมให้เรื่องมันจบแบบนี้ ลองได้ออกตัวแรงขนาดนี้ยังไงเธอก็คงไม่ปล่อยปืนไปง่ายแน่ๆ “
“ก็คนมันมีทั้งเงิน ทั้งอิทธิพลอยากจะทำอะไรก็ทำได้ทุกอย่างแหละ โลกเรานี่มันช่างอยู่ยากจริงๆ”
วิทยาไหวไหล่
“ว่าแต่นายรู้เรื่องนั้นหรือยัง”
“เรื่องที่นายภาวัฒน์เป็นคนช่วยฉันไว้น่ะเหรอ” วิทยาถาม “นิวเล่าให้ฟังแล้ว”
“ไม่ใช่! ฉันหมายถึงเรื่องที่จริงๆ แล้วพลุคือเด็กผู้ชายคนที่ปืนช่วยชีวิตไว้เมื่อหกปีก่อนนั่นต่างหาก”
“อ้าว! ถ้าอย่างนั้นสองพ่อลูกที่เราเจอวันนั้นเป็นใครล่ะ”
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ที่ฉันรู้นี่เพราะนายภาวัฒน์เอ่ยปากออกมาเองแล้วก็ดูเหมือนปืนจะคิดแบบนั้นมาตั้งแต่แรกแล้วด้วย”
หนุ่มหน้าตี๋กอดอกครุ่นคิด แม้ปาวัสม์จะไม่เคยเล่ารายละเอียดมากนักแต่คนที่อยู่ด้วยกันมายี่สิบปีอย่างเขารู้ดีว่าเหตุการณ์ในวันนั้นเปลี่ยนแนวคิดและชีวิตแพทย์ของปาวัสม์ไป
อย่างสิ้นเชิง จากคนที่เป็นหมอเพียงเพราะมาสอบตามเพื่อน กลับกลายเป็นคนที่ทุ่มเทและมีความสุขกับการช่วยชีวิตคนทุกวันยิ่งกว่าคนที่ตั้งใจมาเรียนตั้งแต่แรกอย่างเขาเสียอีก
วิทยากรอกตาและหันไปสบตาสาวร่างอวบ “เธอว่าโลกเราอยู่ยากใช่ไหม แต่ฉันว่าอันที่จริง มันก็ไม่ได้ยากเท่าไหร่หรอกนะ”
เงินกับอิทธิพลอาจซื้อได้ทุกอย่างยกเว้นมิตรภาพกับหัวใจ และเขาจะแสดงให้เห็นเองว่าควรจะใช้ทั้งสองอย่างนั้นยังไง แต่ก่อนหน้านั้นเขาต้องขอแน่ใจอะไรบางอย่างซะก่อน
*******************************************************TBC***********************************
หมอจิวปลอดภัยแล้ว ทุกคนสบายใจได้แล้วนะคะ ไม่มีช็อคตายในOR ค่ะ ใน ICU ก็ไม่มี ให้คำมั่นกับพี่อุ้มเรียบร้อยว่าไม่ไปแล้วจริงๆ นะ
เห็นหลายคนอยากให้พี่อุ้มเอาคืนน้องนิว... พี่อุ้มเค้านางเอกนะคะเป็นผู้หญิงเรียบร้อยวันๆ ตามแต่โอป้าเรื่องตบตีนี่ทำไม่เป็นค่า555
ความร้ายของน้องนิวยังไม่จบสักทีเหรอ อีกสองตอนจะจบแล้วนะ เฮ้อ...
