ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ER-นาทีหัวใจ Special Moment: สงกรานต์ [13/04/59] p.22  (อ่าน 247719 ครั้ง)

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย
วันที่ 11 พ.ย. 2557 เพิ่มเติมการลงเรื่องสั้นและการแจ้งว่านิยายจบแล้ว
วันที่ 4 ธ.ค. 2557 เพิ่มบอร์ดเรื่องสั้นจึงปรับปรุงกฏข้อ 18 เกี่ยวกับเรื่องสั้น และ เพิ่มเติมส่วนขยายของกฏข้อ 17



เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-04-2016 23:12:29 โดย leGGyDan »

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #1 เมื่อ07-12-2014 10:26:51 »

Intro

มันคือ ‘รักแรกพบ’...
แววตามุ่งมั่นและหยาดเหงื่อที่ไหลอาบหน้าในวันที่ฝนตกหนักวันนั้น...
มันทำให้เด็กที่กำลังหลงทางในชีวิตอย่างผมนึกอยากเป็นหมอขึ้นมาจับใจ...
แม้ในตอนนั้นผมยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ‘การช่วยชีวิตผู้คน’ มันมีความหมายเช่นไร...
แต่เป็นเพราะ ‘เขา’ ที่ทำให้ผมรู้ซึ้งถึง ‘คุณค่า’ และ ‘ความหมาย’ ของคำว่า...
...‘การมีชีวิต’...

บทที่ 1 Notice

บทที่ 2 รู้จัก 

บทที่ 3 ลูกพี่ลูกน้อง

บทที่ 4 ความไว้ใจ(ครึ่งแรก)

บทที่ 4 ความไว้ใจ(ครึ่งหลัง)

บทที่ 5 ไม่มีทางเลือก(ครึ่งแรก)

บทที่ 5 ไม่มีทางเลือก(ครึ่งหลัง)

บทที่ 6 เล่าสู่กันฟัง(ครึ่งแรก)

บทที่ 6 เล่าสู่กันฟัง(ครึ่งหลัง)

บทที่ 7 ความทรงจำในสายฝน

บทที 8 เผลอ

บทที่ 9 พ่อ

บทที่ 10 นาที่(ครึ่งแรก)

บทที่ 10 นาที(ครึ่งหลัง)

บทที่ 11 ความจริงตรงหน้า กับ ความทรงจำสีจาง

บทที่ 12 'เสียง' จากหัวใจ

บทที่ 13 ปาฏิหาริย์...ไม่มีจริง

บทที่ 14 ความจริง...จากใจ(ครึ่งแรก)

บทที่ 14 ความจริง...จากใจ(ครึ่งหลัง)

บทที่ 15 ไม่ได้บอกรัก ขอแค่มาบอกลา

บทที่ 16 สัญญา(จบ)

❤Special Moment Part 0 : One night in winter❤

 ❤Special Moment:You are my Valentine❤

❤Special Moment : 10 Out of 10 points คะแนนรักเต็ม10คิดเท่าไหร่?❤

❤Special Moment : สงกรานต์❤
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 18-04-2016 07:26:55 โดย leGGyDan »

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #2 เมื่อ07-12-2014 10:35:02 »

 :katai2-1: มาลงชื่อรอติดตามคร่า

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #3 เมื่อ07-12-2014 10:39:15 »

บทที่ 1 Notice

ตอนเป็นเด็กมีคนถามว่า “โตขึ้นหนูอยากเป็นอะไร?”
คำตอบแรกของผมคืออุลตราแมน โตมาหน่อยก็เป็นมหาเศรษฐี... ทหาร... นักบิน... ทนายความ... คำตอบผันแปรไปเรื่อยๆ ตามวัยและความนึกคิด แต่มีอาชีพหนึ่งไม่เคยปรากฏขึ้นมาในหัวใจสักครั้งเลย นั่นคือ ‘หมอ’ 
ผมเกลียดโรงพยาบาล เกลียดกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ แถมยังกลัวเลือดเป็นที่สุด... มันจึงเป็นอาชีพในฝันอย่างสุดท้ายที่ผมจะขอนึกถึง
แต่แล้ว... มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวผมที่เคยมีความคิดแน่วแน่เช่นนั้น ในอีกหลายปีต่อมา

เส้นสีขาวนวลบนหน้าจอมอนิเตอร์วิ่งขึ้นลงกลายเป็นกราฟการเต้นของหัวใจในอัตราสม่ำเสมอ แสดงถึงสัญญาณชีวิตของร่างหนึ่งซึ่งนอนหายใจรวยรินผ่านท่อช่วยหายใจอยู่บนเตียงในห้องฉุกเฉิน ใบหน้าบวมฟกช้ำเต็มไปด้วยเลือดเกรอะกรังน่าสยดสยอง
แต่ตราบใดที่กราฟเส้นบางๆ นั้นยังคงวิ่งไปตามรูปทรงที่มันควรจะเป็น สำหรับบุคลากรในชุดขาวที่ยืนสังเกตอาการอยู่ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล

จนกระทั่งกราฟนั้นเกิดอาการสะดุด รอยลากขึ้นลงแปรสภาพเป็นเส้นตรงในชั่วพริบตาพร้อมกับเสียงเตือนลากยาว
ติ๊ด... ติ๊ด... ติ๊ดดดดดดดดดดดดดดดด

“คนไข้หัวใจหยุดเต้นค่ะคุณหมอ” พยาบาลตะโกนรายงานอาการคนไข้ที่ทรุดลงถึงขีดสุด

“ฉีดอะดรีนาลีนหนึ่งแอมป์หลังจากนั้นทุกสามนาที”

สิ้นเสียงสั่งการรักษาของคุณหมอหนุ่ม พยาบาลรีบรุดไปยังรถบรรจุอุปกรณ์ช่วยชีวิตเพื่อหายากระตุ้นหัวใจขวดที่ต้องการ
อึดใจต่อมา ห้องฉุกเฉินที่วุ่นวายอยู่แล้วก็เกิดความโกลหลขึ้นเมื่อบุคลากรในชุดขาวทั้งแพทย์ประจำบ้าน (Resident) ซึ่งเป็นแพทย์ที่เข้ามาเรียนต่อเฉพาะทาง ผู้ช่วยพยาบาล รวมไปถึงผู้ช่วยจำเป็นอย่างบรรดานักศึกษาแพทย์ปี6 (Extern) หน้ามึนๆ ดูงงๆ จับต้นชนปลายไม่ค่อยถูกต่างกุลีกุจอพากันคว้าโน่นนี่นั่นคนละไม้คนละมือ และกรูกันเข้าไปให้ความช่วยเหลือ
ทว่าคนที่พุ่งไปถึงเตียงคนไข้ก่อนใครๆ กลับกลายเป็นเจ้าของเสียงทุ้มที่ตะโกนสั่งการรักษา ทั้งที่จริงเขาคือคนที่อยู่ไกลมากที่สุด

เตียงคนไข้นั้นถูกออกแบบมาให้สูงระดับเอวเพื่อให้สะดวกต่อการตรวจ แต่มันกลับเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งยวดเมื่อต้องทำการช่วยชีวิตด้วยวิธีนวดหัวใจ นักเรียนแพทย์คนหนึ่งพุ่งไปหยิบบันไดอย่างรู้งาน แต่มันช้าเกินไปสำหรับคุณหมอหนุ่ม ในเวลาชี้เป็นชี้ตายเช่นนี้ทุกวินาทีมีค่าและจะปล่อยให้สูญเปล่าไปไม่ได้เด็ดขาด

เขาใช้มือข้างหนึ่งยันขอบเตียงและกระโดดขึ้นนั่งคุกเข่าด้านข้างคนไข้ ถ้าเป็นซีรีส์เกาหลีนี่คงเป็นฉากที่ดูเท่ชะมัดแต่ในชีวิตจริงมันสุดจะทุลักทุเล ทั้งที่ห้องฉุกเฉินเปิดแอร์จนเย็นเฉียบแต่เหงื่อกาฬเม็ดใหญ่ๆ ซึ่งเกิดจากการออกแรงกดหน้าอกบวกกับการใช้สมองประมวลผลอย่างหนัก ผุดพรายขึ้นเต็มหน้าผากและไรผมของคุณหมอหนุ่ม

“พี่ปืนจะเอายังไงต่อดีครับ” แพทย์ประจำบ้านคนหนึ่งร้องถามอย่างร้อนรน จนคนที่กำลังออกแรงปั๊มอยู่อดไม่ไหวต้องตะโกนออกมา

“ทำตามที่พวกคุณเรียนมาสิ”

มันไม่ใช่การดุหรือพูดไปส่งๆ แต่เขาต้องการเตือนแพทย์ทั้งหลายให้ตั้งสติเพื่อเผชิญเหตุการณ์ไม่คาดฝันตรงหน้า

เสียงความวุ่นวายและรีบเร่งยังคงดังต่อเนื่องออกมาจากหลังประตูห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลรัฐแห่งหนึ่งย่านใจกลางเมืองกรุง ในขณะเดียวกันที่เคาน์เตอร์ด้านนอกหน้าประตูตรงจุดซักประวัติและคัดกรองผู้ป่วย ความวุ่นวายก็ไม่ได้ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพยาบาลสาวจบใหม่หน้าตาน่ารักด้วยแล้ว
เธอเป็นคนเดียวที่ต้องรับมือกับคนไข้ ญาติ รวมไปถึงอะไรอื่นๆ ที่ไม่ใคร่อยากจะต้อนรับสักเท่าไหร่

“ผมพาคนไข้มาส่งครับ” ‘ภาวัฒน์’ เด็กหนุ่มคาดวัยไม่เกินยี่สิบปีในชุดหมีสีดำคาดแถบสีส้มสดเท้าแขนลงบนโต๊ะบอกเสียงใส
หัวคิ้วของพยาบาลสาวขมวดมาชนกัน ...นี่ไงล่ะ! หนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่เธอไม่อยากต้อนรับมากที่สุด... 

“ใช่คนที่เขากำลังวุ่นวายช่วยชีวิตอยู่นั่นไหมคะ”

“ถูกต้องนะคร้าบ” เด็กหนุ่มลากเสียงล้อเลียนพิธีกรของรายการวาไรตี้ชื่อดังหวังจะให้เธอยิ้ม แต่หน้าหวานๆ นั่นก็ยังหงิกเหมือนเดิมจนเขาต้องเปลี่ยนแผน “ไม่ทราบว่าเลิกงานแล้วพี่สาวคนสวยพอจะมีเวลาว่างไปทานข้าวกับผมไหมครับ”

เปลือกตากรีดอายไลเนอร์สีดำคมคริบของชโลธรหรือมิลค์ตวัดมองคนปากกล้า จะว่าไปเด็กหนุ่มตรงหน้าก็หน้าตาดีเข้าขั้นใช้ได้ แต่ด้วยหนวดเคราหรอมแหรมบวกกับผิวสีแทนเพราะกรำแดด แถมกลิ่นบุหรี่จางๆ ที่อวลอยู่รอบตัวทำให้ดูเหมือนพวกจิ๊กโก๋ขี้เมาตกงานมากกว่า

....นี่ถ้าไม่ติดว่าใส่เครื่องแบบหน่วยกู้ชีพอยู่ล่ะก็เธอคงไล่ตะเพิดเจ้าเด็กขี้หลีคนนี้กลับบ้านไปแล้วล่ะ!...

“อย่าเลยค่ะ กว่าพี่จะเลิกงานก็สายแล้ว” คำปฏิเสธนี้เป็นจริงครึ่งหนึ่งเพราะเธอขึ้นเวรบ่ายดึกที่จะไปจบลงอีกทีแปดโมงเช้าพรุ่งนี้

นัยน์ตาคู่สวยจับจ้องไปยังสมุดบันทึกการรับคนไข้เล่มหนาหนักซึ่งผ่านการใช้งานมาอย่างโชกโชนราวกับบัญชีหนังหมาทั้งที่อายุการใช้งานจริงไม่ถึงหนึ่งปีเสียด้วยซ้ำ นิ้วเรียวไล่ไปตามบรรทัดที่เต็มไปด้วยลายมือขยุกขยุยก่อนจะหยุดลงตรงช่องว่างสุดท้ายที่ตัวเลขบอกลำดับเฉพาะในเดือนนี้ปาเข้าไปแล้ว 1024 คน
ชโลธรจัดแจงลอกสติกเกอร์ชื่อผู้ป่วยปิดทับลงในช่องว่างนั้นและกรอกรายละเอียดต่างๆ ก่อนจะเลื่อนสมุดส่งให้เด็กหนุ่ม “ช่วยเซ็นชื่อด้วยค่ะ”

มือหยาบยกขึ้นเสยผมสีน้ำตาลยุ่งๆ ที่ปรกหน้าผากอยู่ออกจากนัยน์ตาสีดำขลับ พลางใช้ปากคาบปลอกปากกาแล้วเซ็นชื่อรวดเร็วโดยไม่อ่านรายละเอียดด้วยซ้ำ ก็จะอ่านไปทำไมให้เสียเวลาในเมื่อเขาเอาคนไข้มาส่งที่นี่ไม่ต่ำกว่าวันละสามรอบมาร่วมสามเดือนแล้ว “ถ้างั้น...”

“คุณพยาบาลช่วยตามญาติคนไข้ให้ผมหน่อยครับ”
ร่างสูงในชุดเสื้อกาวน์ยับย่นซึ่งโวยวายสั่งการรักษาเมื่อครู่เปิดประตูผางออกมาช่วยขัดบทสนทนาได้ชะงัด ใบหน้าหลังแว่นตากรอบเหลี่ยมที่ยุ่งกับงานอยู่แล้วแทบจะขมวดเป็นปมเมื่อเห็นว่าใครเป็นต้นเหตุ หนำซ้ำใครคนนั้นกำลังพยายามจีบพยาบาลสาวคนสวยขวัญใจห้องฉุกเฉินซะด้วย

ชโลธรเห็นช่องจึงรีบชิ่งหนีไปทำธุระให้คุณหมอหนุ่มทันที แต่ก็ไม่วายแอบสอดส่ายสายตาไปยังชายหนุ่มสองคนซึ่งเป็นไม้เบื่อไม้เมากันและคงจะเริ่มเปิดศึกในอีกไม่ช้า แน่นอนว่าเธอไม่ได้สนใจเจ้าหนุ่มกู้ชีพขี้หลีนั่นเลยสักนิดแต่เป็นคุณหมอหนุ่มคนนั้นต่างหาก

‘นายแพทย์ปาวัสม์’ หรือ ‘หมอปืน’ เป็นแพทย์ประจำห้องฉุกเฉิน เรื่องมันสมองอันปราดเปรื่องและฝีมือคงไม่ต้องพูดถึง แต่เรื่องหน้าตานี่สิ เข้าขั้นดีอย่างที่ชโลธรคาดไม่ถึงว่าคนในสายอาชีพใกล้กันจะดูดีได้ขนาดนี้ ถึงล่าสุดเขาจะเปลี่ยนมาไว้ผมรองทรงสั้นสีดำสนิทเพื่อช่วยขับให้ใบหน้าคมคายยิ่งดูน่ากริ่งเกรงจนน้องๆ และลูกศิษย์ลูกหาไม่กล้าเล่นหัวด้วย
นี่ถ้าไม่ติดว่ามีแฟนสาวคอยหวงเป็นมดแดงแฝงพวงมะม่วงอยู่แล้วล่ะก็ เธอคงจะตามจีบเขาไปแล้ว 

“นายอีกแล้วเหรอเจ้าตัวแสบ!” คุณหมอหนุ่มถามพลางใช้ปลายนิ้วชี้ดันกรอบแว่นที่เอียงไปข้างหนึ่งจากการออกแรงนวดหัวใจให้เข้าที่

“ผมชื่อภาวัฒน์ครับหมอปืน... โหย เจอหน้ากันมาตั้งนานแล้วทำไมจำไม่ได้สักทีล่ะครับ” คนผมสีน้ำตาลแกล้งทำเสียงตัดพ้อเล็กๆ

“นายภาวัฒน์” ปาวัสม์ทวนคำเพื่อจดจำชื่อนั้นไว้ในสมอง “ถามหน่อยเถอะนี่นายแอบไปแบล็คเมล์อะไรคนจัดเวรหรือเปล่า เวรมันถึงได้ตรงกับฉันทั้งเดือนแบบนี้เนี่ย”

เด็กหนุ่มยิ้มแก้มแทบปริดีใจที่ถูกเรียกชื่อจริงเป็นครั้งแรก “ทำได้ก็ดีน่ะสิครับ... เจอคุณหมอทีไรยุ่งตลอดเป็นไปได้ผมนะอยากจะแลกเวรหนี... แต่กลัวคนบางคนจะเหงาอ่ะดิที่ขึ้นเวรมาแล้วไม่เจอหน้าผม” ไม่พูดเปล่ายังทำหน้าเป็นแถมยื่นหน้ายื่นตาเข้าไปใกล้ แต่แล้วก็ต้องหดหัวกลับแทบไม่ทันพร้อมกับยกมือขึ้นคลำหน้าผากป้อยด้วยความเจ็บที่ถูกแฟ้มคนไข้ฟาดเข้าที่กลางแสกหน้า “คุณหมอมันเจ็บนะครับ! ...ผมหัวแตกไปทำไงอ่ะ”

ปาวัสม์ยิ้มเย็น พลางตบมือเบาๆ ลงบนอาวุธที่ตนใช้สั่งสอนคนหน้าเป็น “ไม่ต้องห่วงฉันเย็บแผลเก่ง แล้วจะแถมเย็บปากไปด้วยเลยถ้านายยังไม่เลิกพูดมากอีกล่ะก็”

ภาวัฒน์ทำท่ารูดซิปปาก แต่ก็ไม่วายส่งสายตาล้อเลียนคนที่ยืนคิ้วขมวดเป็นโบว์อยู่ตรงหน้า

“ยังจะมาทำทะเล้น...” ปาวัสม์เปิดแฟ้มในมือ สายตากวาดเร็วๆ ไปตามหน้ากระดาษที่ถูกพลิกผ่าน ในขณะที่ปากก็บ่นไปด้วย “ถามจริงเถอะทำไมนายถึงชอบเอาเคสหนักๆ มาส่งให้ฉันอยู่เรื่อย... คนไข้ไม่ใช่สิทธิ์ที่นี่สักหน่อย ฉันรู้หรอกว่าใช้สิทธิ์ฉุกเฉินได้แต่ถ้าขับรถอ้อมไปอีกนิดก็จะถึงโรงพยาบาลตามสิทธิ์แล้วแท้ๆ แถมไม่ต้องเสียเวลาส่งต่อคนไข้ให้ยุ่งยากอีก” ไม่พูดเปล่ายังยื่นบัตรประจำตัวของคนไข้มาให้ดูถึงใต้จมูก “วันหลังเช็คสิทธิ์ให้ดีแล้วค่อยนำส่งเข้าใจไหม”

“รับทราบครับ!” ภาวัฒน์ตบเท้าตะเบ๊ะขึงขังทั้งที่ยังหัวเราะคิกคัก ถึงตอนทำงานปาวัสม์จะหน้าบูดเป็นตูดลิงจนใครๆ ไม่กล้าแหยม แต่เขารู้ว่าจริงๆ แล้วคุณหมอหนุ่มเป็นคนใจดีจะตาย ก็ดูสิ... ยุ่งขนาดนี้แถมโกรธเป็นฟืนเป็นไฟก็ยังมีกะใจสอนงานให้อีก ถึงจะดุปนด่าก็เถอะ

“รู้แล้วก็หัดทำให้มันถูกต้องสิ”

“ก็ผมเห็นคนไข้อาการไม่ค่อยดี” จู่ๆ ภาวัฒน์ก็ทำเสียงเครียดพร้อมทั้งยกมือขึ้นจับคางที่เต็มไปด้วยไรหนวด “ถ้ามัวแต่ขับรถอ้อมไปก็เสียเวลา และมันคงจะดีกว่าถ้าได้หมอปืนที่ได้รับสมญา ‘เทพแห่งER’ มาช่วยรักษาให้”

ปาวัสม์ถอนหายใจออกมาเล็กน้อยกับคำเรียกขานแปลกๆ ที่คนแถวนี้แอบตั้งให้เขาอย่างไม่เต็มใจ ถึงจะรู้ว่าเป็นคำชมแต่เขาเองก็เป็นแค่หมอธรรมดาๆ คนหนึ่งที่รักษาคนไข้ได้บ้างไม่ได้บ้างตามแต่พยาธิสภาพของโรคและอาการเมื่อมาถึงมือหมอ ไม่ได้วิเศษวิโสราวกับหมอเทวดาสมฉายานั่นซะเมื่อไหร่ “หมอโรงพยาบาลอื่นก็เก่ง”

“เก่งแต่ไม่หล่อเหมือนคุณหมอนี่นา” ภาวัฒน์ขยิบตาให้ทีนึง

ปาวัสม์เงื้อแฟ้มในมือขึ้นอีกครั้ง “เอาอีกทีไหม...”

“คุณหมอปาวัสม์คะ ญาติคนไข้มาแล้วค่ะ” ชโลธรซึ่งกลับมาอีกครั้งพร้อมกับผู้สูงวัยสองคนที่เป็นพ่อกับแม่ของคนไข้ ช่วยคนหน้าเป็นไว้ได้แบบเฉียดเส้นยาแดง

ปาวัสม์ลดอาวุธลงพร้อมปรับสีหน้าให้ยิ้มการทูตได้ในพริบตาเมื่อหันไปหาญาติคนไข้ “เมื่อสักครู่คนไข้หัวใจหยุดเต้นไปราวห้านาทีแต่ตอนนี้เราได้ทำการช่วยให้หัวใจกลับมาเต้นได้อีกครั้งแล้วนะครับ ผมจะขอดูอาการที่ห้องฉุกเฉินอีกสักพัก ถ้าเห็นว่าคงที่แล้วผมจะย้ายโรงพยาบาลไปรักษาตามสิทธิ์นะครับ”

“ให้รักษาอยู่ที่นี่เลยไม่ได้เหรอครับ” พ่อคนไข้ถาม “ผมประสานกับทางโรงพยาบาลนั้นแล้วเดี๋ยวจะออกหนังสือส่งตัวมาให้”
ปาวัสม์เลิกคิ้วก่อนจะเหลือบตามองเด็กหนุ่มที่ยังยืนยักคิ้วหลิ่วตามาให้ พร้อมทำปากขมุบขมิบว่า ‘รับ-แอด-มิท-ไป-เถอะ-ครับ’ เขาแยกเขี้ยวใส่และหันกลับมาฉีกยิ้มกว้างพูดต่อ “ถ้าทางนั้นตกลงเราก็ไม่มีปัญหาครับ... งั้นผมขอตัวไปดูคนไข้ก่อน ถ้าญาติมีข้อสงสัยอะไรก็ถามคุณพยาบาลที่เคาน์เตอร์ได้ตลอดเลยนะครับ”

“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะที่ช่วยชีวิตลูกของพวกเรา” แม่คนไข้บอกพร้อมทั้งกระพุ่มมือทั้งสองข้างขึ้น ทำเอาปาวัสม์ย่อตัวลงรับไหว้แทบไม่ทัน

“ไม่เป็นไรครับคุณลุงคุณป้า มันเป็นหน้าที่ของพวกผมอยู่แล้ว” เครื่องหน้าที่ยับยุ่งมาหลายชั่วโมงคลายออกในเสี้ยววินาทีกลายเป็นรอยยิ้มกว้างไปจนถึงนัยน์ตา ไม่จำเป็นต้องมีคำป้อยอเลิศหรู เพียงแค่คำขอบคุณจากใจคำเดียวก็ทำให้หัวใจเหี่ยวๆ ของเขาพองโตจนแทบจะลอยไปติดเพดานได้อยู่แล้ว

และรอยยิ้มนั้นก็หวานเสียจนคนที่แอบมองอยู่อดที่จะอมยิ้มตามไปด้วยไม่ได้

“งั้นผมก็ไปบ้างดีกว่า” ร่างโปร่งในชุดหมีพูดลอยลมพลางเดินเฉียดมากระซิบข้างหูคนที่กำลังยิ้มกว้าง “แล้วอีกสักพักจะมาหาใหม่นะครับคุณหมอ ห่างกันแป๊บเดียวไม่ต้องรีบคิดถึงผมนะ”

“ต่อให้ห่างกันเป็นปีก็ไม่คิดถึงหรอก... จะไหนก็ไป ไป๊!”
พูดจบก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน ปาวัสม์จึงไม่ทันได้สังเกตเห็นความวูบไหวในนัยน์ตาสีดำขลับที่กำลังมองตามหลังมานั้นเลย

ศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสีน้ำตาลยุ่งๆ โคลงเบาๆ อย่างช่วยไม่ได้ครั้งหนึ่งก่อนจะเดินกลับออกไป

ทันทีที่ประตูปิดลง ใบหน้าเปื้อนยิ้มของคุณหมอหนุ่มที่คุยกับญาติคนไข้จนถึงเมื่อครู่หุบฉับ แม้แต่เซลล์สมองสีเทาอันปราดเปรื่องนับล้านยังประมวลผลไม่ได้ด้วยซ้ำว่าในนาทีเตียงแน่นวิกฤตเช่นนี้จะหาวอร์ดให้แอดมิทผู้ป่วยได้ที่ไหน ทันใดนั้นภาพหญิงสาวคนหนึ่งก็แวบเข้ามาในความคิด ถึงจะสุ่มเสี่ยงต่อการโดนด่ากลางดึกแต่เขาก็ไม่เหลือทางอื่นให้เลือกอีกแล้ว คิดได้ดังนั้นก็เอื้อมมือไปคว้าโทรศัพท์มากดต่อสายในทันที

กริ๊ง! กริ๊ง!

เสียงโทรศัพท์ภายในที่แผดดังขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายเป็นปกติของหอผู้ป่วยแผนกอายุรกรรม 6 ทำให้เครื่องหน้ายับยุ่งของพยาบาลสาวซึ่งกำลังง่วนอยู่กับแฟ้มผู้ป่วยพันกันหนักขึ้นไปอีก
‘นุชนันท์’ เป็นสาวร่างสูงใหญ่ออกท้วมไว้ผมตัดสั้นทำไฮไลท์สีประกายทองแดงดูโฉบเฉี่ยว เธอวางปากกาลงและเอื้อมมืออวบๆ ไปยกหูโทรศัพท์ขึ้นก่อนจะกรอกเสียงลงไป
“สวัสดีค่ะหอผู้ป่วยอายุรกรรมหก นุชนันท์พยาบาลรับสายค่ะ”

น้ำเสียงหวานปนดุอันเป็นเอกลักษณ์ของพยาบาลสาวคนนี้ถ้าเป็นหมอคนอื่นได้ยินคงปาดเหงื่อกันเป็นทิวแถวเพราะเธอขึ้นชื่อเรื่องความดุและเคร่งครัดในกฏระเบียบ

แต่สำหรับปาวัสม์แล้วเขาแทบจะกระโดดด้วยความดีใจ เพราะนุชนันท์เป็นหนึ่งในเพื่อนสนิทที่เขามีอยู่แค่สองคน กินนอนเที่ยวเล่น ผ่านวันเวลาที่มีทั้งเสียงหัวเราะและร้องไห้มาด้วยกันเกือบยี่สิบปีทำให้ทั้งรักและผูกพันประหนึ่งว่าเธอเป็นคนในครอบครัว
“อุ้ม นี่ฉันเอง”

“อ้าวปืน! มีอะไรโทรมาดึกๆ ดื่นๆ” เสียงหวานปนดุร่าเริงขึ้นมาทันทีเช่นกัน ก่อนจะเข้มขึ้นทันทีเมื่อคิดได้ว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้ปาวัสม์โทรสายในมายามวิกาลเช่นนี้ “อย่าบอกนะว่าจะขอแอดมิทคนไข้น่ะ”

“ใช่เลย”

“แล้วมันใช่เวลาไหมเนี่ย!” นุชนันท์แหวกลับเสียงดังเสียจนคนปลายสายต้องดึงโทรศัพท์ออกห่างด้วยเกรงว่ากระดูกค้อน ทั่ง โกลนในหูชั้นกลางจะลั่นเปรี๊ยจนแตกออกเป็นเสี่ยงๆ “นี่มันเที่ยงคืนกว่าแล้วนะคะคุณเพื่อน ที่นี่เป็นวอร์ดสามัญนะไม่ใช่ห้องไอซียูที่นึกจะแอดมิทคนไข้เวลาไหนก็ได้น่ะค่ะ”

“ก็คนไข้อาการไม่ค่อยดีนี่นา” ปาวัสม์เริ่มใช้ลูกอ้อน “เปิดเตียงเสริมให้หน่อยนะอุ้มนะ แล้วจะให้จิวพาไปเลี้ยงข้าวนะ... น้า...”

ปกติชื่อบุคคลที่สามนี้มักจะได้ผลเสมอเวลาเขาจะขอให้ใครทำอะไรสักอย่าง เพราะ ‘วิทยา’ หรือจิวเพื่อนรักของเขาอีกคนที่เป็นแพทย์ประจำห้องฉุกเฉินเหมือนกันนั้นเป็นหนุ่มหน้าใส ขาวตี๋เพราะมีเชื้อจีนแต่กำเนิด ถึงจะดูเงียบขรึมค่อนไปทางไม่ค่อยพูดแต่ก็เข้ากับคนง่าย จึงทำให้เป็นที่รักและหมายปองมากมายไม่ว่าจะเป็นสาวน้อย สาวใหญ่หรือแม้แต่สาวเทียม
แต่น่าเสียดาย มุกนี้ใช้ไม่ได้ผลกับคนที่รู้ไส้รู้พุงกันดีอย่างนุชนันท์

“เปลี่ยนจากข้าวเป็นเหล้าได้ไหม” เธอยื่นเงื่อนไขใหม่ “ไม่ต้องเอาชื่อจิวมาอ้างเลย ที่รับนี่เพราะเห็นแก่คนไข้หรอกนะ... ตกลงจะแอดมิทเคสอะไรจ๊ะ”

“มอเตอร์ไซค์ชนเสาไฟฟ้าแล้วเสียหลักตกคลองอีกทีน่ะ” ปาวัสม์พูดรัวเร็วกะอาศัยลูกมั่วก่อนที่นุชนันท์จะทันได้ตั้งสติ ด้วยรู้ดีอยู่เต็มอกว่าเป็นคนไข้ตรงสายงานของหอผู้ป่วยซะที่ไหนแถมยังไม่ใช่สิทธิ์ที่โรงพยาบาลนี้อีก “สิทธิ์สามสิบบาทต่างโรงพยาบาล ญาติประสานให้แล้ว ขอบคุณนะอุ้ม”

“อย่าเพิ่งวางนะปืน” เสียงหวานปนดุร้องห้ามแม้จะไม่ดังแต่ก็ทำเอาคนกำลังจะชิ่งวางสายหนาวไปถึงไขสันหลัง

“อะไรจ๊ะอุ้มคนสวย” ปาวัสม์พยายามทำใจดีสู้เสือ “เรื่องสิทธิ์ไม่มีปัญหานี่แล้ว... แล้ว... อ้อ! เรื่องอุบัติเหตุน่ะไม่ซีเรียสพอดีว่าคนไข้เป็นโรคหัวใจแล้วอาการดันกำเริบตอนขับรถน่ะ”

“ตกลงว่าแอดมิทด้วยโรคหัวใจแน่นะ” น้ำเสียงเฉียบชนิดที่ถ้าลองมั่วอีกรอบ คอคนพูดได้ขาดกระเด็นแน่

“ครับที่รัก” เขาหยอดตบท้ายไปอีกคำและกำลังจะวางสายได้อยู่แล้วเมื่อเสียงหวานที่ติดจะดุมากกว่าเรียกไว้อีกครั้ง

“ปืน! บอกอุ้มหน่อยสิว่าคุณเจ้าหน้าที่กู้ชีพที่เอาคนไข้มาส่งเนี่ยไม่ใช่ ‘นายภาวัฒน์’” นุชนันท์ถามเพราะได้ยินกิตติศัพท์จากรุ่นน้องที่ทำงานอยู่ห้องฉุกเฉินบ่อยๆ ในแง่ของคนดวงชงที่ ‘บังเอิญ’ ขึ้นเวรตรงกับปาวัสม์ทุกวัน และยุ่งบ้าเป็นหลังทุกเวร แถมยังตามก้อล้อก้อติกเพื่อนเธอจนน่าหมั่นไส้เสียด้วย

...ลำพังแค่ ‘ยัยลูกคุณหนู’ ก็ปวดหัวจะบ้าแล้ว นี่มี ‘เจ้าเด็กแสบ’ ที่ไหนโผล่มาอีก!...

คิ้วหนาย่นเข้าหากัน คิดไม่ถึงว่าภาวัฒน์จะมีชื่อเสียงกระฉ่อนไปถึงคนต่างตึกได้ “บังเอิญว่าใช่ครับที่รัก”

“ว่าแล้วเชียว เวรชนกันอีกแล้ว... ถ้าเด็กนั่นพาใครมาส่งอีกฝากบอกด้วยนะว่า ‘ไปตายซะ!’”

ปาวัสม์วางสายพร้อมกับถอนหายใจยืดยาวอย่างโล่งอกที่สามารถแก้ปัญหาไปได้อีกเปลาะ

“คุณหมอคะ” ชโลธรเปิดประตูห้องฉุกเฉินและชะโงกหน้าเข้ามา “ตกลงเคสนี้ได้เตียงแอดมิทไหมคะ”

“ได้แล้วครับ”

“แต่แปลกจังนะคะ” พยาบาลสาวตั้งข้อสังเกตพลางพลิกดูเอกสารในมือ “ญาติเขาเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมเหมือนรู้ล่วงหน้าเลยนะคะ”

“ผมว่าผมรู้เหตุผลนะ” ปาวัสม์กำลังจะช่วยไขข้อข้องใจแต่คุณป้าที่เป็นแม่ของคนเจ็บซึ่งยืนจดๆ จ้องๆ ฟังอยู่ชิงเล่าออกมาเสียก่อน

“น้องกู้ชีพผู้ชายคนที่พาลูกชายป้ามาส่งเป็นคนโทรบอกน่ะจ๊ะ ป้าหลับอยู่ไม่ได้รับโทรศัพท์ น้องเขาอุตส่าห์มานะโทรหาเป็นสิบรอบแน่ะ ทีแรกป้าก็ตกใจโวยวาย น้องเค้าก็ช่วยปลอบจนตั้งสติได้... เป็นคนดีจริงๆ เลยนะ” นัยน์ตาที่ล้อมกรอบด้วยริ้วรอยแห่งวัยเป็นประกายวิบวับด้วยความชื่นชม

ปาวัสม์อมยิ้มมุมปาก นึกชื่นชมกับความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ ของ ‘น้องกู้ชีพผู้ชาย’ คนนั้นทั้งที่ไม่ใช่หน้าที่สักนิด ถึงจะกวนประสาท พูดมาก น่ารำคาญแต่เขาก็ยอมรับล่ะว่าเด็กหนุ่มที่ชื่อภาวัฒน์อะไรนั่นนอกจากมีความตั้งใจและจิตใจในการดูแลช่วยเหลือคนเจ็บเป็นอย่างดีแล้ว ความเป็นห่วงเป็นใยที่มียังนับรวมไปถึงครอบครัวด้วย

อันที่จริงขึ้นเวรตรงกันทุกวันมันก็ไม่ได้เลวร้ายหรอกนะ เขาก็แค่รู้สึกหมั่นไส้กับ ‘ความบังเอิญ’ ที่มากเกินไปจนเกือบจะเป็น ‘โชคชะตา’ นี่ต่างหาก

“วุ่นวายอะไรกันแต่หัวค่ำวะปืน” เสียงทุ้มดังขึ้นด้านหลังพร้อมกับวงแขนของคนตัวเล็กกว่าคล้องลงรอบคอ

“มันก็เรื่องปกติไม่ใช่หรือไงครับคุณวิทยา” ปาวัสม์บอกเซ็งๆ พลางกวาดสายตาไปรอบห้องฉุกเฉินที่เตียงนอนล้นไปจนถึงหน้าประตูกับผู้ซึ่งยังนั่งรอคิวตรวจอยู่อีกนับสิบ “วันไหนที่ฉันอยู่เวรแล้วไม่ยุ่งเป็นอีเพิ้งเซิ้งยันเช้าสิถึงจะถือว่าไม่ปกติ”

“สวัสดีค่ะหมอจิว” ใบหน้าขาวใสของชโลธรเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นทันทีที่ได้เห็นต้นเสียงซึ่งเป็นชายหนุ่มหน้าขาวตี๋ในชุดเสื้อกาวน์ยาวสีขาว “วันนี้คุณหมอมาเข้าเวรดึกจังมีอะไรหรือเปล่าคะ”

ถามจบริมฝีปากบางก็เม้มกลั้นอาการที่อยากจะร้องกรี๊ดออกมาดังๆ เมื่อได้เห็นผมทรงใหม่ของคุณหมอหนุ่มเชื้อสายจีนที่เป็นรองทรงยาวสไลด์ระต้นคอสีน้ำตาลอ่อนประกายทอง นึกอยากรู้ขึ้นมาจับใจว่าผีบ้าตนไหนมันไปกระซิบให้ชายหนุ่มตัดผมทรงนี้เพราะว่ามันทรมานใจเธอสุดๆ คนอะไรปกติก็หน้าตาดีอยู่แล้ว ยังดันไปทำให้มันดูหล่อน่ารักขึ้นไปอีกแล้วแบบนี้เธอจะมีกะจิตกะใจทำงานไหมเนี่ย

...โอ๊ย! บุญของมิลค์จริงๆ ที่จะได้ผ่านค่ำคืนอันแสนวุ่นวายนี้กับคู่หูสุดหล่อแห่ง ER...

“พอดีรถเสียน่ะครับน้องมิลค์” วิทยาโบกมือทักทายอย่างเป็นกันเอง เสร็จแล้วหันมาเห็นคิ้วที่ผูกเป็นปมของร่างสูงจึงเสลากคอไปอีกทาง “ใครทำอะไรแก... อย่าบอกนะว่าเป็นเจ้าเด็กนั่นอีกแล้ว”

“ก็ใช่น่ะสิ!” ปาวัสม์ว่า “ปกติดวงฉันก็ยุ่งรากเลือดอยู่แล้วยิ่งมาเจอเจ้าเด็กแสบนั่นยิ่งยุ่งยกกำลังแปด เท้าเหยียบประตูก็ได้ใส่ท่อช่วยหายใจแล้วปั๊มหัวใจกันเลย แถมนายก็ดันมาสายอีกนี่ฉันปวดหัวจนแทบจะระเบิดอยู่แล้วเนี่ย!”

“โอ๋ๆ ขอโทษนะที่มาช้า แต่มันช่วยไม่ได้นี่นาก็รถฉันดันเสียติดแหงกอยู่กลางทาง” วิทยายิ้มหวานพลางใช้นิ้วโป้งนวดหัวคิ้วที่ผูกเป็นปมของร่างสูงให้คลายออก “เอาไว้วันศุกร์นี้ออกเวรฉันจะพาไปเลี้ยงไถ่โทษละกันนะ”
ใบหน้าเครียดเขม็ง ยิ้มออกทันที “พอดีเลย... ฉันเพิ่งจะติดเลี้ยงเหล้าอุ้มไว้ ยังไงนายก็จ่ายใช่ไหม”

“โหย ได้ทีเอาใหญ่เลยนะ” ปากบ่นแต่ในใจของวิทยานั้นแอบดีใจลึกๆ เพราะพวกเขาสามคนแทบไม่ได้ออกไปเที่ยวด้วยกันนานแล้วตั้งแต่ปาวัสม์คบกับ ‘รชญา’ แฟนสาวคนล่าสุดซึ่งเป็นหมอรุ่นน้องแผนกอายุรกรรมที่มีดีกรีเป็นถึงลูกสาวท่านผู้อำนวยโรงพยาบาลและขึ้นชื่อเรื่องหึงหวงอย่างที่สุด

“ทำไมวะ แค่เลี้ยงเหล้าผู้หญิงตัวเล็กๆ มันไม่ทำให้ขนหน้าแข้งคุณชายอย่างนายร่วงหรอกน่า”

ปาวัสม์แกล้งแซว ดูเผินๆ แล้ววิทยาจะเป็นคนติดดินกินข้าวข้างทาง แต่จริงๆ แล้วเขาเป็นถึงทายาทคนรองของบริษัทนำเข้าเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ชื่อดังของประเทศไทย J & J medical company ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหนในห้องฉุกเฉินหรือโรงพยาบาลแห่งนี้ก็จะได้เห็นตราสัญลักษณ์ชื่อบริษัทติดอยู่ตามเครื่องไม้เครื่องมือแพทย์ตั้งแต่ชิ้นเล็กๆ อย่างหูฟังที่คล้องอยู่รอบคอเขานี่ ไปจนถึงเตียงคนไข้ เสาน้ำเกลือหรือเครื่องช่วยหายใจ

หน้าตาดี ดีกรีเยี่ยมแถมครอบครัวเลิศขนาดนี้เขาล่ะแปลกใจจริงๆ ว่าทำไมป่านนี้แล้วเพื่อนรักของเขายังรอดพ้นมือสาวอยู่เป็นโสดมาได้จนถึงทุกวันนี้

“นายคงไม่ แต่อุ้มน่ะทำแน่” วิทยาพูดขำๆ “ตกลงวันศุกร์นี้เจอกันร้านเดิมละกันนะฉันจะโทรไปจองโต๊ะ นายโทรคอนเฟิร์มอุ้มด้วย”

“นายช่วยโทรให้หน่อยสิ ฉันจะได้มีข้ออ้างนายก็รู้นี่นาว่าน้องนิวกับอุ้มไม่ถูกกัน” ปาวัสม์โน้มคอหนุ่มหน้าตี๋เข้ามาพูดที่ข้างหูราวกับกลัวว่าจะมีผีพรายตนใดได้ยินแล้วแอบไปกระซิบบอกหญิงสาวสองคนที่กำลังนินทาอยู่

วิทยาขมวดคิ้ว ปกตินุชนันท์ก็ไม่เคยชอบใจแฟนปาวัสม์คนไหนอยู่แล้ว แต่มีรชญานี่แหละที่ดูจะตั้งท่าเกลียดเธอได้อย่างเท่าเทียมหรือบางทีอาจจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำนับตั้งแต่แรกพบ “ถามจริงเหอะ ในบรรดาผู้หญิงที่นายคบมาเนี่ย คนนี้คือ ‘คนที่ใช่’ แล้วใช่ไหม”

ถ้าปาวัสม์คิดว่าวิทยาแปลกที่ไม่ยอมมีแฟน วิทยาเองก็ประหลาดใจไม่แพ้กันว่าทำไมข้างกายเพื่อนรักของเขาถึงไม่เคยขาดผู้หญิงสักที เกือบยี่สิบปีที่รู้จักกันมาปาวัสม์เปลี่ยนแฟนบ่อยยิ่งกว่าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียอีก... เพราะเป็นคนเจ้าชู้เหรอ? ฟังดูเหมือนจะใช่แต่ไม่ได้มักง่ายขนาดนั้น จริงๆ แล้วเขาก็เป็นแค่ผู้ชายแสนดีขี้เหงาที่ตกหลุมรักใครง่ายเกินไป จึงตอบตกลงเป็นแฟนกับผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาสารภาพรัก และแน่นอนว่าความสัมพันธ์เหล่านั้นมันไม่เคยยั่งยืน สถิติเร็วสุดก็สามวันนานสุดคือสามเดือน แต่น่าแปลกที่ตอนนี้ปาวัสม์คบกับรชญามาเกือบจะครบปีในอีกสองเดือนนี้แล้ว

“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ะ แต่มันคงจะดีไม่ใช่เหรอถ้าจะมีใครอีกสักคนที่รักกัน”

วิทยาเม้มปากเป็นเส้นบางและตบบ่าเพื่อนรัก “ถ้านายต้องการแค่นั้น นายก็มีฉันกับอุ้มแล้วไง”

ริมฝีปากเหยียดออกเป็นรอยยิ้มเศร้า เสียงของคนขี้เหงาแหบเบาเมื่อเปล่งออกมาอีกครั้ง “เพื่อนกับแฟน มันไม่เหมือนกันสักหน่อย”

ถึงจะอยู่ท่ามกลางฝูงชนที่รายล้อมหรือหน้าที่การงานอันยุ่งเหยิง แต่ลึกลงไปในหัวใจกลับเคว้งคว้างราวกับแก้วเปล่า เขาเฝ้ารอคอยให้ใครสักคนมาเติมเต็ม และดูเหมือนจะโชคร้ายที่ยังหาใครคนนั้นไม่เจอสักที

ออฟไลน์ leGGyDan

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 347
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +248/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #4 เมื่อ07-12-2014 10:42:55 »

บทที่ 1[ต่อ]

“คุณหมอคะ มีเหตุฉุกเฉินค่ะ” เสียงใสๆ ของชโลธรตะโกนมาขัดจังหวะ ทั้งคู่หยุดการสนทนาและหันไปทางประตูห้องฉุกเฉินทันทีราวกับนัดกันมา

“เกิดอะไรขึ้น” ปาวัสม์ร้องถามออกไป

“มีอุบัติเหตุรถเก๋งชนกับรถกระบะ” ชโลธรรีบรายงานสถานการณ์ “มีคนเจ็บสิบคน คุณภาวัฒน์วอมาบอกว่าจะขอนำส่งที่โรงพยาบาลเราห้าคนค่ะ”

“รับทราบครับ”

“ปืน” วิทยาสะกิด “ฉันเพิ่งมาถึงยังไม่รู้เคสที่นอนอยู่นี่เลย เอาเป็นว่านายกับน้องๆ ช่วยกันเคลียร์เคสตั้งแต่หัวค่ำก่อนละกัน ฉันจะรับเคสใหม่เอง... เสร็จแล้วรีบมาช่วยด้วยนะเว้ย”

“ไม่มีปัญหา” ปาวัสม์รีบหันไปสั่งการแพทย์ประจำบ้าน ในขณะที่วิทยาวิ่งออกไปรอหน้าห้องฉุกเฉินโดยมีนักศึกษาแพทย์ช่วยเข็นรถอุปกรณ์ช่วยชีวิตตามไปติดๆ

อึดใจต่อมาเสียงหวอที่คุ้นเคยก็กรีดร้องขึ้นหน้าประตูแต่ความดังของเสียงนั้นแทบจะเทียบไม่ได้เลยกับเสียงของคุณหมอหนุ่มที่กำลังร้องสั่งการรักษาอย่างเอาเป็นเอาตายแข่งกับเวลาที่เหลืออยู่น้อยนิด

ดูท่าสถานการณ์ด้านนอกนั้นจะหนักหนาเกินกว่าหมอคนเดียวจะรับไหว แต่คนไข้ด้านในก็ไม่ใช่อะไรที่จะทิ้งกันไปได้ ปาวัสม์กัดฟันตรวจคนไข้จนถึงคนสุดท้ายและจัดการส่งกลับบ้านเรียบร้อยจึงรีบวิ่งออกไปเพื่อช่วยกันอีกแรง

“เป็นไงมั่งจิว”

“นายมาก็ดีแล้ว” วิทยาออกอาการโล่งอกสุดๆ “มีแต่เคสหนักๆ ทั้งนั้น มีเลือดออกในสมองกับกระดูกหน้าหักมาเคสนึง ฉันใส่ท่อช่วยใจส่งเข้าห้องผ่าตัดไปเรียบร้อยแล้ว อีกเคสเสียเลือดมากยังความดันต่ำๆ ตอนนี้โหลดน้ำเกลือกับเลือดอยู่ คิดว่าน้องน่าจะดูไหวเลยปล่อยให้จัดการกันไปก่อน ที่เหลือก็ไม่มีอะไรมากมีกระดูกหัก แผลถลอก... แต่ที่จะมาอีกนี่สิเห็นวอมาบอกว่ากำลังแย่”

“ไหนว่านำส่งเราห้าคนไง นี่ยังมาไม่ครบอีกเหรอ”

“เมื่อกี้มีอุบัติเหตุแถวแยกลาดพร้าวอีกน่ะ” วิทยาบอกเสียงเครียด “รถทัวร์ชนกับรถบรรทุก คนเจ็บเป็นสิบเห็นว่าจะนำส่งเราเคสนึงล่ะ”

“โอเค งั้นที่จะมานี่ฉันรับเอง”

“คงงั้น” หนุ่มหน้าตี๋ยิ้มมีเลศนัยน์พลางยกมือขึ้นตบไหล่ “เด็กอายุสิบสองหัวใจหยุดเต้นมาสิบนาทีแล้ว เห็นทีจะรอดยากยังไงคงต้องพึ่งนายแล้วล่ะ”

บรรดาแพทย์ประจำบ้านและนักศึกษาแพทย์รีบพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วย ไม่ใช่แค่เรื่องฝีมือ เพราะลำพังการนวดหัวใจอย่างมีประสิทธิภาพผู้ที่ผ่านการอบรมการช่วยชีวิตเบื้องต้น (Basic life support) ทุกคนสามารถทำได้ แต่สิ่งที่ทำให้ปาวัสม์แตกต่างเป็นอะไรที่แทบจะเรียกได้ว่า ‘ปาฏิหาริย์’ และทำให้เขาได้รับสมญา ‘God hand’ หรือ ‘เทพแห่งER’ มาแบบไม่เต็มใจนั้น คือนับตั้งแต่วันที่เขาได้ทำการนวดหัวใจเป็นครั้งแรกในชีวิตจนถึงตอนนี้ ทุกเคสที่ผ่านมือล้วนแล้วแต่รอดชีวิตทั้งสิ้น

ยังไม่ทันขาดคำ เสียงหวอก็กระหึ่มขึ้นอีกครั้ง

ปาวัสม์เตรียมวิ่งออกไปรับแต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้ากลับทำให้ตัวชาจนสองขาก้าวไม่ออก ทั้งที่มันควรจะเป็นภาพที่เขาเห็นจนชินตา แต่ทำไมครั้งนี้มันช่างบีบคั้นหัวใจเขาเสียเหลือเกิน

มันไม่ใช่แค่ร่างโชกเลือดและไม่ไหวติงของเด็กหญิงตัวน้อย แต่มันคือภาพของคนๆ หนึ่งที่กำลังอุทิศทั้งชีวิตเพื่อช่วยชีวิตคนอื่น
แววตามุ่งมั่น สองมือแข็งแรงที่ประสานกันไว้ตรงหน้าอกเล็กๆ นั่นราวกับเขากำลังถ่ายโอนชีวิตสู่ชีวิต ยื้อลมหายใจสุดท้ายของคนกำลังจะตาย และช่วงชิงดวงวิญญาณซึ่งกำลังจะหลุดลอยคืนมาจากเงื้อมือพญามัจจุราช

ถึงเหงื่อจะโทรมกายและสองแขนที่ออกแรงปั๊มมาเกือบยี่สิบนาทีนั้นจะล้าสุดทน แต่เด็กหนุ่มในชุดหมีสีดำคาดแถบสีส้มก็ยังไม่มีทีท่าจะยอมแพ้ ทั้งที่เป็นคนอื่นคงถอดใจพับกลับบ้านไปตั้งแต่สิบนาทีแรกแล้ว

และมันคือสิ่งที่เขาไม่เคยคิดฝันว่าจะได้เห็นจากเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ควรจะใช้เวลาในชีวิตช่วงนี้หมดไปกับการเที่ยวเล่นกับเพื่อนหรือคบผู้หญิงมากกว่าจะมาอุทิศตัวทำเพื่อสังคมแลกค่าแรงน้อยนิดไม่สมวิชาชีพแบบนี้
จนปาวัสม์อดหวนคิดไม่ได้ว่า ตอนที่ตนอายุเท่าเด็กหนุ่มนั้นกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหน

ฉับพลันภาพความทรงจำในคืนหนึ่งเมื่อหกปีก่อนทับซ้อนเข้ามาในความคิด

...พายุฝนโหมกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตา รถเก๋งพังยับอัดคาอยู่กับเสาไฟฟ้า และเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ร่างชุ่มโชกไปด้วยเลือด...

“หมอปืนครับ!”

เสียงเรียกของภาวัฒน์ที่นั่งคร่อมอยู่บนร่างเด็กหญิงปลุกเขาตื่นจากภวังค์

“คือ... เตรียมใส่ท่อช่วยใจ” ปาวัสม์สะดุ้งเฮือกบอกตะกุกตะกัก แทบทำอะไรไม่ถูก สมองไม่อาจสั่งการอะไรต่อได้เพราะตอนนี้ทุกเซลล์ในร่างกายกำลังจับจ้องไปที่เด็กหนุ่มคนนั้น

“ฉีดอะดรีนาลีนหนึ่งแอมป์หลังจากนั้นทุกสามนาที” วิทยารีบช่วยแก้สถานการณ์ “แล้วก็ขอมอนิเตอร์คลื่นไฟฟ้าหัวใจด้วยนะครับน้องมิลค์”

“พี่ปืนจะใช้ท่อช่วยหายใจเบอร์อะไรครับ” แพทย์ประจำบ้านร้องถาม

ปาวัสม์เริ่มได้สติจึงถามกลับไปเสียงเข้ม “คุณเป็นหมอหรือเปล่า” หมอใหม่พยักหน้ารับหงึกหงัก “งั้นคุณจะถามผมทำไม... คนไข้กำลังรออยู่ ประเมินอาการแล้วก็ลงมือเลยสิ”

“เป็นอะไร” วิทยากระซิบถาม เพราะนัยน์ตาคมยังดูเลื่อนลอยเหมือนจมอยู่กับอะไรสักอย่าง “อยู่ๆ ก็เหม่อไม่สบายหรือเปล่า”
ปาวัสม์สะบัดศีรษะแรงๆ ครั้งหนึ่งเพื่อไล่ความทรงจำนั้นออกไปจากสมอง “ไม่มีอะไร... นายรีบไปรับช่วงต่อเถอะ น้องเขาจะได้รีบไปรับคนเจ็บต่อ” บอกพลางพยักเพยิดไปยังเด็กหนุ่มในชุดหมีที่ไม่ยอมหยุด CPR และไม่เปลี่ยนให้ใครทั้งที่มีแพทย์อีกหลายคนรอรับอยู่แล้ว

“ได้” วิทยารับคำและรีบวิ่งไป เขาถึงตัวคนไข้แล้วแท้ๆ เมื่อภาวัฒน์ร้องขึ้น

“หมอปืนช่วยผมทีครับ”

ทุกคนในที่นั้นโดยเฉพาะวิทยาหันมามองเจ้าของนามเป็นตาเดียว

“ได้โปรด... ช่วยเด็กคนนี้ที” ภาวัฒน์เงยหน้าขึ้นและหันมามองคุณหมอหนุ่ม

เสี้ยวนาทีที่สายตาสองคู่ประสานกัน ภาพร่างโชกเลือดของเด็กคนนั้นกลับมาในหัวอีกครั้ง เสียงร้องเรียกหาความช่วยเหลือจนแหบแห้งแทบโดนเสียงฝนกลบจนมิด

‘ช่วยผมด้วยครับ’

ราวกับโดนมนตร์สะกด ขาทั้งสองของปาวัสม์พุ่งออกไปทันทีโดยไม่รั้งรอ

ภาวัฒน์เหลือบตามองผู้ที่ยืนอยู่ข้างเตียง รอยยิ้มพรายผุดขึ้นบนเรียวปาก เขาหันกลับมาตั้งสมาธิกับฝ่ามือทั้งสองที่ประสานกันอยู่บนหน้าอกเด็กหญิง ครู่หนึ่งจึงร้องบอกสัญญาณ “เตรียมเปลี่ยน”

ปาวัสม์พยักหน้าเตรียมพร้อม

“ชีพจรยังไม่กลับมาค่ะ” ชโลธรรายงานหลังจากติดมอนิเตอร์ต่างๆ เสร็จสิ้น
ร่างสูงไม่รอช้า กระโดดขึ้นนวดหัวใจต่อทันที

ภาวัฒน์ที่ถอยฉากลงมาอยู่ข้างเตียงกุมมือข้างหนึ่งของเด็กหญิงตัวน้อยไว้แน่น “อย่ายอมแพ้นะ! หนูต้องทำได้ สู้สิ เราจะสู้ไปด้วยกันนะ”

“ยีบแปด... ยีบเก้า... สามสิบ” ปาวัสม์ยืดตัวขึ้นสูดอากาศหายใจเข้าเต็มปอดเป็นครั้งแรกหลังทำการนวดหัวใจครบวงรอบ รู้สึกได้ถึงความยาวนานราวชั่วกัปชั่วกันต์ทั้งที่ใช้เวลาแค่สองนาที เขานับถอยหลังห้าวินาทีที่ใช้เช็คชีพจรพร้อมกับภาวนาจนสุดใจ

...สาม... สอง... หนึ่ง...

“มีชีพจรแล้วค่ะ”

เสียงใสๆ ของพยาบาลสาวที่ตะโกนบอกทำเอาทีมช่วยชีวิตกู่ร้องด้วยความดีใจไปตามๆ กัน

ตามปกติแล้วโอกาสรอดชีวิตหลังหัวใจหยุดเต้นมีแค่สิบนาที หลังจากนั้นความน่าจะเป็นจะลดลงในอัตราก้าวกระโดดจนเป็นศูนย์ แต่นี่เวลาล่วงไปกว่าสามสิบนาที... เขาทำได้! เป็นอีกครั้งที่เขาช่วยชีวิตคนไว้ได้สำเร็จ!!
ปาวัสม์กระโดดลงจากเตียงรู้สึกตัวเบาโหวง ไม่รู้ว่าเพราะโล่งใจหนักหนาหรือเพราะสองขาหมดแรงหลังจากผ่านนาทีชีวิตมาหมาดๆ กันแน่ เขาเซไปเล็กน้อยเมื่อร่างหนึ่งโถมเข้าใส่และโอบรัดรอบตัวเขาไว้แน่น ไออุ่นที่เข้ามาโดยไม่ทันตั้งตัวจากคนที่คาดไม่ถึงทำเอาร่างสูงยืนนิ่งขึงไปด้วยความตกใจ

“ขอบคุณครับคุณหมอ”

เสียงของภาวัฒน์ดังซ้ำไปซ้ำมาอยู่ข้างหูราวกับมันก้องมาจากความฝัน จนร่างสูงรู้สึกเคลิ้มตามหากยังไม่ทันจะได้กอดตอบหรือว่าอะไรวงแขนนั้นก็คลายออก ฝ่ามือหยาบกร้านคว้าเข้าที่หัวไหล่เขาและเหยียดออกไปจนสุดแขน

“ขอโทษครับ” เสียงทุ้มกระซิบขึ้นเบาๆ พร้อมทั้งเบือนหน้าหนี

ปาวัสม์รู้สึกเหมือนเห็นแวบๆ ว่าดวงหน้าสีแทนนั้นออกแดงเรื่อๆ เขาพยายามหยีตามองให้ชัดแต่เม็ดเหงื่อเจ้ากรรมที่ย้อยลงมาจากหน้าผากดันไหลเข้าตาจนเขาต้องใช้หลังมือเช็ดออก และเมื่อเงยหน้าขึ้นมาอีกทีคนในชุดหมีก็เดินก้มหน้างุดๆ หนีไปเสียแล้ว ส่วนตัวเขาเองก็ถูกวิทยากระชากลากถูไปช่วยงานอีกทางทันทีเช่นกัน
OOOOOO

ถึงจะทุลักทุเลแต่เหตุการณ์ในค่ำคืนนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดีโดยไม่มีใครเสียชีวิต แสงอาทิตย์แรกของเช้าวันใหม่สาดส่องดั่งแสงแห่งชีวิตในห้องฉุกเฉินที่กำลังเคลื่อนขับต่อไปอย่างมีความหวัง

“กลับบ้านดีๆ นะครับคุณป้า” ปาวัสม์ยืนส่งคนไข้ที่มาตรวจในเวรเป็นคนสุดท้าย พลันสายตาเหลือบไปเห็นเด็กหนุ่มในชุดหมีสีดำคาดแถบสีส้มนั่งหมดเรี่ยวหมดแรงกอดอกพิงพนักเก้าอี้หน้าห้องฉุกเฉินหลับอยู่อย่างไม่แคร์สายตาใคร
ร่างสูงเอียงคอมองอย่างขบขันก่อนจะตัดสินใจเดินข้ามถนนไปซื้อน้ำเต้าหู้จากรถเข็นหน้าโรงพยาบาลมาสองถุงโดยเน้นว่าถุงนึงขอเพิ่มน้ำตาลเท่าตัว

“เอาน้ำตาลสองช้อนแน่นะครับอาคุงหมอ ปกติคุงหมอไม่ทานหวานนี่นา” อาแปะขายน้ำเต้าหู้ถามย้ำให้แน่ใจ

“วันนี้พิเศษครับ ขอเครื่องเยอะๆ ด้วยนะครับ” ปาวัสม์รับถุงน้ำเต้าหู้มาพร้อมกับส่งเงินให้
ขายาวๆ รีบจ้ำกลับมายังห้องฉุกเฉินด้วยเกรงว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะตื่นแล้วหนีไปเสียก่อน ...เขาไม่ได้เสียดายเงินค่าน้ำเต้าหู้แต่ให้กินคนเดียวสองถุงไม่ไหวหรอกนะ

คนขี้เซายังคงสัปหงกอยู่ที่เดิม ปาวัสม์หัวเราะลงคอและนั่งลงข้างกัน เขายกถุงน้ำเต้าหู้ขึ้นแกว่งเบาๆ ให้มันไปสีกับแก้มที่มีไรหนวดขึ้นเขียวครึ้มนั่น “ตื่นได้แล้ว”

“เฮ้ย!!” ภาวัฒน์ร้องเสียงหลงเมื่อมีอะไรร้อนจี๋มาสัมผัสโดน เขาหันควับไปหาต้นตอที่นั่งหัวเราะท้องคัดท้องแข็งด้วยความสะใจ “เล่นพิเรนทร์อะไรเนี่ยหมอปืน ขืนลวกหน้าผมพัง หมดหล่อไปทำไงล่ะครับ” ปากบ่นอุบมือก็ถูแก้มคลายร้อนไปด้วย... คนอะไรฟะเห็นหน้าดุๆ แต่ขี้แกล้งชะมัด

“หึย! กล้าพูดนะว่าหน้าหล่อ” ปาวัสม์ลากเสียงล้อเลียนและหยิบน้ำเต้าหู้ส่งให้ถุงนึง “ขอบใจนะที่อุตส่าห์อยู่ช่วยกันยันเช้า เหนื่อยแย่เลยสิ”

ดวงตาสีดำขลับที่ง่วงปรือจนแทบปิดเบิกโตจนเท่าไข่ห่านเมื่อเอื้อมมือไปรับถุงน้ำเต้าหู้มาดูดแบบงงๆ “หวานจัง” 
ปาวัสม์ยกถุงของตัวเองขึ้นดูดบ้าง “ก็ต้องหวานสิ ฉันให้อาแปะเพิ่มน้ำตาลให้นายเป็นพิเศษเลยนะ เหนื่อยๆ แบบนี้ต้องกินของหวานๆ จะได้สดชื่น”

“ผมหมายถึงคุณหมอต่างหาก ที่ว่าหวานน่ะ”

“นายว่าไงนะ” คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงพร้อมกับหันควับไปหาเด็กหนุ่มที่กำลังใช้หลอดตักเม็ดสาคูเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย

“หมอปืนปั๊มคนไข้จนสมองเบลอไปแล้วหรือเปล่า ถึงได้มาใจดีกับผมแบบนี้”

“พูดเข้าไปนั่น แล้วฉันไปใจร้ายกับนายตอนไหนกัน”

“ถามได้! ก็ตอนที่เอาแฟ้มคนไข้ฟาดหัวผมผัวะๆ นั่นไงครับ” เด็กหนุ่มโอดครวญพร้อมทำท่าเลียนแบบได้เหมือนจนน่าหมั่นไส้

“แล้วใครใช้ให้นายมากวนประสาทฉันก่อนล่ะ” ไม่พูดเปล่าปาวัสม์ประเคนฝ่ามือฟาดไหล่เด็กหนุ่มดังเพี๊ยะทีนึงเป็นการเอาคืน
ภาวัฒน์เหลือบมองฝ่ามือที่ยังวางค้างอยู่บนไหล่ตน แทนที่จะโกรธเขากลับยิ้มกว้าง “อันที่จริงควรเป็นผมต่างหากที่ต้องขอบคุณ... โชคดีที่แพทย์ที่อยู่เวรวันนี้เป็นคุณ เด็กคนนั้นถึงรอดมาได้”

“นายก็พูดเวอร์ไป ไม่ว่าใครถ้าสามารถ CPR ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์โอกาสรอดก็มีเท่าๆ กันแหละ แล้วก็เป็นนายเองไม่ใช่เหรอที่ช่วยเธอมาตั้งแต่ต้น ฉันเพิ่งมารับช่วงได้แป๊บเดียวเอง ตัวแค่นี้แต่เก่งไม่เบาเลยนะเนี่ยเห็นทีฉันต้องมองนายใหม่ซะแล้ว” มือใหญ่ยกขึ้นหมายจะคว้าศีรษะที่ปกคลุมด้วยเรือนผมสีน้ำตาลยุ่งๆ มาขยี้เล่นด้วยความมันเขี้ยวแต่หัวกลมๆ ก็เบี่ยงหลบได้ทัน

“หมอปืนเล่นอะไรเนี่ย ผมอายุยี่สิบแล้ว ไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ” กระแสเสียงไม่ได้โกรธแต่ออกจะน้อยใจเสียมากกว่า

“เทียบกับฉันนายก็ ‘เด็ก’ อยู่ดีล่ะ ทำไมจะเล่นไม่ได้” ปาวัสม์ยู่ปากอย่างขัดใจแต่ก็ยอมวางมือลง

ภาวัฒน์เม้มปากสนิทเขาไม่ได้น้อยใจที่โดนแกล้ง แต่คำว่า ‘เด็ก’ นั่นต่างหากที่เป็นเหมือนหนามแหลมทิ่มแทงใจ มันไม่ใช่แค่เส้นบางๆ แต่มันคือรั้วลวดหนามซึ่งกั้นกลางขวางระหว่างเขากับปาวัสม์ไว้

และสักวัน ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดแต่เขาจะต้อง ‘ข้ามเส้น’ นั้นไปให้จงได้

เด็กหนุ่มกระพริบตาครั้งหนึ่งเพื่อแอบซ่อนความอ่อนไหวข้างในที่เกือบแสดงออกมาให้เห็นและกลับไปพูดเรื่องเดิมต่อ “ถึงยังไงผมก็ต้องขอบคุณคุณหมอจริงๆ นะครับที่ให้ชีวิตใหม่กับ ‘เด็กคนนั้น’ อีกครั้ง”   

ปาวัสม์สบนัยน์ตาสีดำขลับที่มองตรงมาแล้วก็ต้องรีบหันหนีด้วยความเขิน มันไม่ใช่แค่ประกายวิบวับของความชื่นชม เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันคืออะไร รู้แต่มันสามารถทำให้หัวใจเขาเต้นผิดไปหนึ่งจังหวะ

ตึก... ตัก...

“น... นายก็พูดเกินไป” กระแสเสียงชะงักเมื่อรู้สึกถึงไออุ่นและน้ำหนักของอะไรบางอย่างที่พิงลงมาบนไหล่ ปาวัสม์เหลียวมองและพบว่ากู้ชีพคนเก่งชัตดาวน์ตัวเองไปอีกครั้งเสียแล้ว “เด็กหนอเด็ก หลับง่ายจริงเชียว” ริมฝีปากยกขึ้นยิ้มโดยไม่รู้ตัว ใบหน้ายามหลับของคนตรงหน้าช่างแตกต่างกับยามตื่น ทั้งที่เป็นจอมกวนประสาท พูดมาก ขี้หลีแต่เมื่ออยู่นิ่งๆ และหลับปุ๋ยอยู่บนไหล่ของเขาแบบนี้ก็เป็นแค่เด็กหนุ่มธรรมดาๆ ที่ดูไร้พิษสง

ปอยผมสีน้ำตาลล่วงลงระใบหน้า ฝ่ามือใหญ่เอื้อมออกไปโดยอัตโนมัติหมายจะปัดออกให้

“กลับกันเถอะปืน” วิทยาที่เพิ่งเคลียร์งานของตนเสร็จและเดินออกมาสมทบมองหน้าปาวัสม์ก่อนจะตวัดมองคนในชุดหมีที่กำลังหลับซวนซบอยู่บนไหล่ “แล้วนั่นมันอะไรล่ะน่ะ” น้ำเสียงขุ่นมัวอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเห็นความเอ็นดูฉาบอยู่บนรอยยิ้มของร่างสูง
แต่ปาวัสม์ไม่ทันได้ใส่ใจและลดมือที่ปลายนิ้วเกือบจะสัมผัสเรือนผมสีน้ำตาลนั้นลง “คงเพลียหลับไปน่ะ”

“ก็ปลุกซะสิ” วิทยาบอกเรียบๆ นัยน์ตายังจ้องเขม็งอยู่ที่เด็กหนุ่ม “จะได้ให้รีบกลับไปนอนดีๆ ที่บ้าน”

“เห็นหลับสบายแบบนี้แล้วไม่อยากปลุกเลย ให้หลับอีกสักพักเถอะ”

“แล้วนายไม่เมื่อยหรือไง! อย่ามัวแต่ลีลาน่า รีบๆ ปลุกเร็วๆ เข้า”

“แต่...”

มือของวิทยาเอื้อมมาเกือบจะแตะโดนตัวเด็กหนุ่มอยู่แล้ว พลันนัยน์ตาสีดำเบิกโพลงขึ้น พร้อมกับที่ร่างโปร่งในชุดหมีโดดผลุงลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจ

“ขอโทษนะครับที่ผมเผลอหลับไป หมอปืนคงเมื่อยแย่เลยแล้วก็...” ภาวัฒน์โบกมือโชว์ถุงน้ำเต้าหู้ “ขอบคุณครับ อร่อยมากเลย” ยิ้มจนตาหยีแล้วหมุนตัวเดินกลับออกไปตามทาง

ปาวัสม์มองตามจนแผ่นหลังนั้นลับสายตา เขาเผลอยกมือขึ้นจับไหล่ตัวเองโดยไม่รู้ตัว แม้คนที่เคยสัมผัสจะจากไปแล้วแต่ทำไมกันนะ ความร้อนนั้นมันถึงยังไม่จางหายไปเลย 
************************************
 บทที่ 1 จบแล้ววววว
นี่เป็นครั้งแรกกับการลงนิยายในเล้า ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดขอความกรุณาด้วยนะคะ^^

ออฟไลน์ sirin_chadada

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4110
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +114/-8
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #5 เมื่อ07-12-2014 11:25:47 »

เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ๊ะ

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #6 เมื่อ07-12-2014 11:54:18 »

สนุก น่าสนใจและน่าติดตามค่ะ

หมอวิทย์นี่คิดอะไรกับหมอปืนหรือเปล่าเอ่ย? ดูหวงแบบแปลกๆนะ

เอาใจช่วยคนแต่งนะ  :กอด1:

ออฟไลน์ Ta_ii

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 317
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #7 เมื่อ07-12-2014 12:29:40 »

สนุกมากกกกก ชอบตอนบรรยายเหตุการณ์ที่ ER มากเลย อินตาม ลุ้นตามไปด้วยเลย
เป็นกำลังใจให้คนเขียนจ้าา :3123:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #8 เมื่อ07-12-2014 15:02:31 »

สนุกค่ะ ลุ้นๆกับเหตุการณ์ดี
หมอจิวคิดไรกับหมอปืนแน่ๆ


ออฟไลน์ qxchanim

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 27
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-1
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #9 เมื่อ07-12-2014 17:44:41 »

นานๆทีจะเจอคนเขียนฉาก CPR ได้ดีขนาดนี้ ชอบมากๆเลยค่ะ
เป็นกำลังใจให้คนเเต่งนะคะ  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ER-นาทีหัวใจ
« ตอบ #9 เมื่อ: 07-12-2014 17:44:41 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #10 เมื่อ07-12-2014 18:25:17 »

สนุกดีค่ะ

ออฟไลน์ minibusez

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 75
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #11 เมื่อ07-12-2014 18:53:42 »

หมอปืนเท่มาก
เป็นเหมือนคนสร้างปาฏิหารย์เลย   o13

ออฟไลน์ pim-lovemj

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 95
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #12 เมื่อ07-12-2014 19:05:27 »

 o13 ลุ้นตามตลอดเลย หมอจิวมีอาการหวงแปลกๆกับหมอปืนหรือเปล่าเนี่ย
ว่าแต่หมอปืนกะน้องกู้ภัยคนนั้นมีอตีดกันมาก่อนหรือเปล่าน้า

ออฟไลน์ naneku

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 303
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #13 เมื่อ07-12-2014 19:38:58 »

เห็นภาพเเบบชัดเจนเป็นฉากๆ ขนเขียนเรียนสายนี้หรือเปล่า ฮ่าาาาาาา ^0^

ออฟไลน์ โคมรัตติกาล

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 34
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #14 เมื่อ07-12-2014 20:27:33 »

ว้าวววววววววววว
น่าติดตามมากค่ะ
บรรยาซะเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงเลย
 o13 o13 o13

ออฟไลน์ Nemasis

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 158
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +43/-1
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #15 เมื่อ07-12-2014 21:06:06 »

สนุกมากกกกค่ะ ลุ้นมากตอนหมอปืนช่วยชีวิตคนไข้ มาต่อเร็วๆนะ เค้าชอบเรื่องราวของคุณหมอ

ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #16 เมื่อ07-12-2014 21:47:56 »

เป็นกำลังใจให้เรื่งใหม่ ชอบแนวนี้อยู่แล้ว

หมอปีนเคยช่วยหนุ่มกู้ภัยไว้รึป่าว แต่คุณหมอน่าจะจำไม่ได้
เพราะตอนนั้นหนุ่มกู้ภัยน่าจะเด็กๆอยู่

หมอจิวที่ยังโสด เพราะแอบชอบหมอปีนอยู่รึป่าว


รอติดตามตอนต่อไป

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #17 เมื่อ07-12-2014 22:30:44 »

สนุกมากก ติดตามๆ :L2:

ออฟไลน์ ROCKLOBSTER

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 774
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +141/-4
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #18 เมื่อ07-12-2014 23:07:04 »

ให้ตาย หัวใจแทบจะหยุดเต้นตาม ตอนเปลี่ยนมือทำCPR :เฮ้อ:
 o13 o13 :mc4: :mc4:

ออฟไลน์ Millet

  • `ヅ
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1667
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +663/-5
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #19 เมื่อ08-12-2014 19:31:20 »

อุ่ยๆๆๆ คุณหมอ กับหน่วยกู้ภัย
ฉากช่วยชีวิตตื่นเต้นมาก

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ER-นาทีหัวใจ
« ตอบ #19 เมื่อ: 08-12-2014 19:31:20 »





ออฟไลน์ จี้ซัง

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #20 เมื่อ08-12-2014 21:04:16 »

ชอบค่าาา เหมือนได้ดูซีรี่ย์เลย เลิศสุดๆ

ออฟไลน์ kail

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 130
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #21 เมื่อ08-12-2014 23:57:21 »

อยากย้ายรพ.ไปอยู่กับหมอปืนเลยแฮะ ถ้าคนเขียนไม่ได้ทำงานสายนี้ก็ต้องหารายละเอียดมาอย่างดีแน่ๆ รายละเอียดเป๊ะทีเดียว เป็นกำลังใจให้คนเขียนนะคะ

ออฟไลน์ aiLime13

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 462
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1146/-11
    • twitter
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #22 เมื่อ11-12-2014 11:58:46 »


คนเขียนเขียนเหตุการณ์ในห้องฉุกเฉินได้ดีมากเลยค่ะ
เราอ่านแล้วลุ้นตามไปด้วยเลย นี่อินมาก เหมือนไปยืนอยู่ข้างเตียงคนไข้ 5555


 o13


หมอปืนน่ารักเนอะ >_<
เหมือนจะดุ แต่ดูอบอุ่น ใจดี แถมยังขี้อาย
พ่อหนุ่มน้อยภาวัฒน์นั้นจะเป็นคนที่เข้ามาเติมเต็มช่องว่างในหัวใจของคุณหมอรึเปล้าน้อ?
ถือเป็นเรื่องราวดีๆ นะเนี้ย เวรตรงกันทุกวัน หมอปืนจะได้ไม่เหงา (แต่เซิ้งยันเช้าแทน 5555)

แต่หมอจิวนี่สิ หวงเพื่อนหรืออะไรกัน?

รอติดตามตอนหน้านะคะ !!



ออฟไลน์ maemix

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4403
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +299/-3
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #23 เมื่อ11-12-2014 14:25:51 »

รอตอนต่อไปอยู่นะ
 :mew2: :mew2:

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #24 เมื่อ11-12-2014 14:49:52 »

ยังไม่มาต่ออีกเหรอ

ออฟไลน์ praewp

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 203
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #25 เมื่อ11-12-2014 14:54:50 »

เมื่อไหร่จะมา คิดถึงงงเจ้าเด็กแสบ  :sad11:

ออฟไลน์ PURE LOVE

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #26 เมื่อ11-12-2014 22:30:53 »

ชอบมาก ๆ เลยค่ะ เรื่องสนุก น่าติดตามมากเลย
ชอบอาชีพของพระนายด้วย คุณหมอกับเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพิ่งเคยเจอ ชอบ ๆ
คนเขียนเขียนดีมากเลยค่ะ ทำให้เราอ่านแล้วอินตามสถานการณ์ ลุ้นไปด้วยเลย
ชอบนิสัยตัวละคร ทั้งหมอปืนและหนุ่มน้อยภาวัฒน์เลย โดยเฉพาะภาวัฒน์ กวน ๆ น่ารักดี
ทั้งคู่ เคยมีอดีตที่ฝังใจกันมาสินะ ภาวัฒน์ คือเด็กในความทรงจำของหมอปืน เมื่อหกปีก่อนแน่เลย
อยากรู้จัง ว่าหมอปืนจะจำขึ้นมาได้ตอนไหนน้า แต่ท่าทางหมอปืนจะเริ่มหวั่นไหวกับภาวัฒน์แล้วสินะเนี่ย  :o8:
รอติดตามตอนต่อไปจ้า  :mew1:
ปล. ถ้ามาต่อตอนใหม่ วันไหน ใส่แจ้งไว้ที่ชื่อเรื่องก็ดีนะคะ คนอ่านจะได้ทราบว่ามาอัพแล้วนะ ^^

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #27 เมื่อ13-12-2014 01:25:36 »

สนุกค่ะ ข้อมูลมาแน่นปึ้กเลยด้วย

ออฟไลน์ LiqueuR

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 72
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #28 เมื่อ13-12-2014 02:48:00 »

อ่านแล้วฟิน
คิดถึงหมอที่traumaเลยอ่ะะ กิ้สๆ

ขอบคุณนะค่ะ กำลังเข้าเวรดึกนี้แบ่บ ตาสว่างอะ
กรี้ดกร๊าดเบาๆ

มาต่อไวไวนะ รออยู่จ้าาาา


ออฟไลน์ ::UsslaJlwaJ::

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1011
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-4
Re: ER-นาทีหัวใจ
«ตอบ #29 เมื่อ13-12-2014 06:45:58 »

ว้าว สนุกมากเลยค้ะ จำได้ว่าเรื่องนี้ได้รางวัลประกวดของนาบู หัวข้อกินเด็ก !!!!!!! ดีใจที่ได้อ่านนะคะ จะติดตามต่อไป สนุกน่าติดตามจริงๆ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด