ตอนที่ ๓๔
"มะยมตื่นๆ พี่อิฐตื่นๆ กลับมาได้แล้วทั้งสองคน หมดก้านธูปหนึ่งดอกแล้ว ตื่นๆ"
"เอ่อ....." มะยมมีท่าทีเขินอายอย่างเห็นได้ชัด เพราะนึกถึงเหตุการณ์ของเจ้าน้อยและแสงเมืองตอนแก้คุณไสยด้วยพรหมจรรย์แล้ว ยิ่งทำให้แก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ ลามมาจนถึงกกหู และลำคอ ส่วนฝ่ายแสงเมืองไม่มีอาการอะไร นอกจากเอาแต่จ้องมะยมอย่างไม่ลดละ ด้วยสายตาความหวามเชื่อม บ่งบอกได้เลยว่าอิฐกำลังคิดอะไร? ทำให้มะยมเขินจนต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง ไม่กล้าสบตา เจ้าน้อยนะเจ้าน้อย ทำให้เขาเขินอีกแล้ว แล้วในสมาธินั่นก็มีทั้งภาพแล้วก็เสียงด้วย แล้วอย่างนี้เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี๊ยะ? จะกล้ามองพี่อิฐได้ยังไง?
"เอ๊ะ!! ทำไมมะยมถึงหน้าแดง? อากาศก็ไม่ร้อนสักหน่อยในถ้ำอะ" อิ๊ฟถามอยากแปลกใจ
"อะ...เอ่อ..."
"พอดีมีเหตุการณ์หนึ่งในสมาธิน่ะที่ทำให้มะยมเขิน??" แทนที่จะช่วยกันแก้ต่างไม่ให้อิ๊ฟสนใจ กลับทำให้อิ๊ฟยิ่งอยากรู้น่ะสิ
"พี่อิฐ!! อย่านะ!!"
"โหย...อะไรอะมะยม บอกกันนิดกันหน่อยก็ไม่ได้!!" อิ๊ฟทำท่าทีโอดครวญกับเพื่อน
"ไม่ได้มันคือความลับ!" มะยมทำสีหน้ากึ่งเล่นกึ่งจริงจัง จนอิ๊ฟค้อนใส่
"ก็ได้ ความลับก็ความลับ แต่...อ๊ะๆๆ เดี๋ยวนี้เค้าพัฒนานะ มีการสั่งพี่อิฐด้วย!!" มะยมเบิกตาโต หน้าแดงเพราะคำแซวของอิ๊ฟ ตัวเองไม่ได้สั่งพี่อิฐนะ ไม่ได้สั่ง แค่ขอร้องเฉยๆ
"อ้อ!! พี่ลืมบอกไปคือว่า พี่กะ...อุ๊บ!!" ยังไม่ทันได้บอกอะไร มะยมก็รีบถลาเข้ามาปิดปากอิฐเสียก่อน ทำให้อิฐอดยิ้มกับความขี้อายของมะยมไม่ได้ แค่จะบอกว่าตอนนี้เขาสองคนเปลี่ยนสถานะกันแล้วนะ ก็แค่นั้น!! ทำไมต้องเขินขนาดนั้นด้วย หึๆๆ
"คะ...คือไม่มีอะไรจ๊ะอิ๊ฟ คือ ๆ พี่อิฐจะบอกว่า.... นั่งสมาธินาน จนหิวน่ะ แหะๆ" มะยมแก้ตัวอย่างเป็นพัลวัน จนอิฐส่งสายตากรุ้มกริ่มแซวมาให้ มะยมก็เลยสะบัดหน้าหนีเข้าให้เลย
"อ้อ!! งั้นเราไปทานข้าวกันป่ะ อิ๊ฟก็หิวแล้วล่ะ?" มะยมรีบเดินออกไปก่อนที่ตนเองจะแสดงพิรุธอะไรมากกว่านี้ ใจเต้นแรงไปหมด
"พี่อิฐบอกอิ๊ฟเดี๋ยวนี้นะ เรื่องเมื่อกี้อะ? นะๆๆๆ" มะยมออกไปโน้นละ อิ๊ฟไม่ถามมะยมก็ได้ แต่แอบถามพี่อิฐแทน
"อะไรตัวจุ่น?" อิฐทำท่าทีไม่รู้ไม่ชี้ แกล้งอิ๊ฟ
"จิ๊!! อย่ามาทำไขสือนะ ตัวเองกับมะยมไปถึงไหนกันแล้ว?"
"นี่ๆตัวยุ่ง ใช้คำให้มันดีๆหน่อย ถึงไหนๆของเราน่ะ มันลึกซึ้งแล้วนะนั่น หึๆๆ"
"อ้าวเหรอ แหะๆ ก็อิ๊ฟไม่รู้นิ ไม่รู้ล่ะบอกน้องมาเลยนะ!!"
"ก็.....อื้ม!!...." อิฐแกล้งอึกอักไม่ยอมบอก
"โอ๊ย.... อย่ามาลีลาพี่อิฐ น้องอยากรู้ ไหว้ล่ะ!!" อิ๊ฟอดประชดแกมเล่นๆกับอิฐไม่ได้ คนอยากรู้ แต่กลับลีลาไม่บอกซะได้
"ก็ตามนั้นแหละ!!"
"ตามนั้น ตามไหน? อะไรอิ๊ฟไม่เข้าใจ ตัวเองรู้กันสองคน แล้วมาบอกว่าตามนั้นแล้วน้องจะรู้ไหมพี่อิฐ บอกมาๆ"
"วู้ว!!! ก็เป็นแฟนกันแล้ว พอใจยังตัวจุ่น เรานี่นะ..มันจุ่นเรื่องของคนอื่นเหมือนชื่อเลยจริงๆนะ"
"อย่ามาพี่อิฐ เค้าไม่ได้ชื่อนั้นสักหน่อย แล้วอีกอย่างนั่นเพื่อนอิ๊ฟนะ จะไม่ให้สนใจได้ยังไง......ดีใจจัง ได้มะยมเป็นพี่สะใภ้ ไม่ชอบเลยยัยป้าพวกนั้น?"
"หมายถึงใครน่ะเรา หื้ม?"
"ก็จะหมายถึงใครได้ล่ะ? ก็หมายถึงคู่ควงก็ตัวเองนั่นแหละ แต่ละคนยิ่งกว่าปอบผีฟ้าซะอีก!!"
"ปอบผีฟ้ายังไง? หึๆๆ"
"ก็แต่งหน้าทาปากอย่างกะคนไปกินเลือดใครมาอย่างงั้นแหละ!!" อิ๊ฟพูดจบก็เบะปากใส่ทันที
"ไปว่าเค้าอย่างนั้นได้ยังไงน่ะเรา ไม่น่ารักนะรู้ไหม? หึๆๆ"
"ก็มันจริงนี่หน่า นิสัยก็ไม่น่ารัก สู้มะยมก็ไม่ได้ พวกนางอะนะ ต่อหน้าพี่อิฐอีกอย่าง ลับหลังนี่อีกอย่างหนึ่งเลย อิฐเคอะ!!... อิฐขาาาา!!" อิ๊ฟทำเสียงเรียนแบบคู่ควงของอิฐ จนทำให้อิฐหัวเราะออกมาเสียไม่ได้ เขารู้ว่าน้องสาวของเขาไม่ชอบพวกเธอเอาเสียเลย แม้แต่คุณย่าก็คงไม่ชอบใจนักกับพวกหล่อน แม้จะมีรูปร่างหน้าตาสะสวย แต่ความเป็นกุลสตรีนี้หาไม่ได้เลย เอาแต่งทำตัวสวยไปวันๆ ทำให้อดนึกถึงอีกคนตามที่อิ๊ฟพูดไม่ได้เลย หน้าตาก็ออกไปทางผู้หญิงอยู่นะ แล้วก็นิสัยน่ารักเลยทีเดียวแหละ งานบ้านงานเรือนก็ได้ หึๆๆ คิดแล้วหมั่นเขี้ยว อิฐคิดในใจ
"แล้วพี่อิฐจะเอายังไงกับพวกเธอ จะให้มาระรานเพื่อนอิ๊ฟไม่ได้ อิ๊ฟไม่ยอมนะจะบอกให้!!"
"รู้แล้วหน่า ถ้าเสร็จจากนี่แล้ว ก็ว่าจะกลับไปเคลียร์กับพวกเธอจริงๆจังๆสักที ไว้ใจพี่ได้หน่า คนนี้พี่จริงจัง!!" ความจริงไม่ต้องเคลียร์ก็ได้นะ เพราะเขาไม่เคยคิดจริงจังกับพวกเธออยู่แล้ว ไม่เคยเอ่ยปากขอคบ หรือขอเป็นแฟนเลยด้วยซ้ำ เป็นแค่คู่ควง ไปกินข้าวดูหนัง อื่นๆบ้างธรรมดาตามประสาผู้ชาย
"ก็ดีค่ะ ไม่งั้นอิ๊ฟจะยุให้มะยม เลิกกะพี่อิฐ มะยมยิ่งไม่ชอบคนเจ้าชู่หลายใจอยู่ด้วย"
"ครับผมๆ แม่องครักษ์พิทักษ์มะยม ป่ะ..ไปทานข้าวกัน หายไปนานเดี๋ยวมะยมสงสัยเอา"
"อาตมาคิดว่าพวกโยมน่าจะกลับไปในที่ขอพวกโยมได้แล้วล่ะ เพราะหน้าที่ขออาตมาก็ได้สิ้นสุดลงแล้ว ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของพวกโยมเอง ที่จะทำมันต่อและฝันฝ่าอุปสรรคเหล่านั้นไปให้ได้"
"จำคำอาตมาไว้นะว่า แม้ว่าต่อจากนี้จะเจออุปสรรคใหญ่น้อยแค่ไหน ขอให้โยมมีสติ คิดและไตร่ตรองมันให้ดี แล้วก็อย่าลืมว่าก่อนที่พวกโยมจะทำสมาธิต้องทำสิ่งใดก่อนบ้าง มันคือสิ่งสกคัญที่อาตมาได้สอนพวกโยมไป ส่วนสีกา สีกาเป็นคนที่คนดูแลเขามาตั้งแต่ชาติที่แล้ว ชาตินี้ก็ขอให้เกื้อหนุนพวกเขาต่อนะ แล้วก็อย่าลืมว่า หมดก้านธูปหนึ่งดอก ต้องรีบปลุกพวกเขาทันที"
"หมายความว่ายังไงเหรอค่ะพระคุณเจ้า หนูเป็นคนที่เกื้อหนุนพวกเขาตั้งแต่ชาติที่แล้ว?" อิ๊ฟถามอย่างไม่เข้าใจ
"สีการู้สึกผูกพันก็กับเพื่อนคนนี้ของสีกามากไหม?"
"มากเจ้าค่ะพระคุณเจ้า"
"นั่นก็เป็นเพราะว่า ก่อนตายจิตสีกาหวนรำลึกถึงแต่เขา ดังนั้นเมื่อเกิดใหม่อีกชาติ จิตสีกาก็จะตามมาผูกพัน มาดูแลเขา เหมือนในชาติที่แล้วที่สีกาได้ทำไว้ แม่บัวแก้ว" พูดจบพระธุดงค์ก็เดินกลับเข้าไปในถ้ำเพื่อทำเข้าฌานทำสมาธิเหมือนเดิม
"เราไม่เข้าใจอะมะยม พระคุณเจ้าบอกว่าชาติก่อนอิ๊ฟเป็นคนดูแลมะยมอย่างงั้นเหรอ ดูแลยังไง? แล้วทำไมต้องดูแลล่ะ?"
"เอาอย่างนี้นะอิ๊ฟเราจะเล่าให้ฟังคร่าวๆ สิ่งที่พระคุณเจ้าท่านต้องการบอกคือ ชาติที่แล้วเราสามคนเป็นคนที่เคยผูกพันกันมาก่อน โดยเฉพาะเราทั้งสองคน อิ๊ฟคือพระพี่เลี้ยงคนสนิทที่ชื่อ พี่บัวแก้ว เป็นคนที่คอยดูแลเราตั้งแต่ยังเล็ก ส่วนเราก็อย่างที่อิ๊ฟได้รู้มาตั้งแต่แรก เจ้าน้อยผู้อาภัพไงล่ะ" มะยมยิ้มให้กับเพื่อนบางๆ อิ๊ฟไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยาก ออกจะเป็นที่เฉลียวฉลาดเสียด้วยซ้ำ จึงพยักหน้าเบาๆ บอกว่าเข้าใจแล้ว
"เพราะอย่างนี้นี่เองเราถึงถูกชะตากับมะยมตั้งแต่วันแรกที่เจอตอนรับน้อง อิอิ"
"ขอบใจนะอิ๊ฟที่คอยดูแลเราตั้งแต่ชาติที่แล้ว แล้วก็ขอบคุณที่คอยเป็นเพื่อนที่ดี เป็นกัลยาณมิตรที่ดีกับเราเสมอมา"
"ป่ะ!! เรากลับกันเถอะ เดี๋ยวต้องเก็บของ แล้วออกเดินทางอีก"
"เย้!! จะได้กลับบ้านแล้ว อิ๊ฟคิดถึงบ้านที่สุด คิดถึงคุณย่า คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ คิดถึงกับข้าวฝีมือคุณย่า คิดถึงเตียงนอนนุ่มๆ แต่อิ๊ฟขี้เกียจเดินกลับ มันไกลอะ"
"ขี้เกียจเดินงั้นก็อยู่นี่ต่อก็ได้นะตัวยุ่ง" อิฐพูดแกล้งน้องสาวเบาๆ
>>>>>>>>>>>>>>>>>>
"ยายจ๋าหนูกลับมาแล้วจ้ายาย" พอมาถึงบ้าน แต่ยังไม่ทันขึ้นเรือน มะยมก็ส่งเสียงร้องเรียกหายายซะลั่นบ้านเลย
"พระคุ้มครองหลานยาย" สองยายหลานกอดกันกลม ยายช้อยลูบหัวหลานชายด้วยความคิดถึง
"คิดถึงยายจัง ฟ๊อด!!"
"นั่งก่อนพ่ออิฐ เดี๋ยวยายไปเอาน้ำมาให้"
"ขอบคุณครับคุณยาย" น้ำลอยดอกมะลิเย็นๆ ทำให้สดชื่นอย่างบอกไม่ถูก อิฐชอบความเป็นไทยแบบบ้านของมะยม ถ้าใด้มาอยู่คงจะปลอดโปร่ง ไม่เหมือนในเมืองที่มีแต่คนพลุกผล่าน รถราเยอะแยะเต็มไปหมด
"เหนื่อยไหมล่ะ พ่อคุณ? กลับมาจากป่าก็ต้องมาส่งหลานยายอีก"
"ไม่เหนื่อยหรอกครับ ผมเต็มใจครับ"
"ถึงเต็มใจก็เถอะ แต่ถ้าเหนื่อยก็ให้นอนที่บ้านโน้นอีกคืนก็ได้นะ ยายไม่ว่าอะไร"
"ไม่เอาแล้วครับยาย หนูคิดถึงยาย เป็นห่วงยาย อยากทานกับข้าวฝีมือยาย" อิฐหัวเราะ หึๆๆ ออกมาทันทีที่มะยมปฏิเสธว่าไม่อยากนอนบ้านเขาอีก จนทำให้มะยมหันมาค้อนใส่อย่างไม่จริงจังนัก
"ช่างขี้อ้อนจริงๆหลานคนนี้ อยู่กับพี่เค้าช่างอ้อนแบบนี้ไหมหื้ม?" มะยมตกใจไม่คิดว่ายายจะถามแบบนี้ ร่างบางไม่ตอบว่ายังไง ได้แต่มองหน้ายายอย่างไม่เข้าใจความหมาย
"ไม่ต้องมองหน้ายายอย่างนั้นหรอกเรา ยายอยู่มานาน ทำไมจะมองไม่ออกว่าเป็นยังไง?"
"ละ...แล้วยายไม่ว่า...."
"ยายไม่ว่าอะไรหรอกลูก ขอให้หนูมีความสุข ยายก็ดีใจแล้ว ชีวิตนี้เป็นของหลาน หลานก็เป็นคนเลือกเอง ส่วนยายเหลือเวลาอีกเท่าไหร่ก็ไม่รู้ จะอยู่กับหนูตลอดไปก็ไม่ได้"
"ไม่เอานะยาย ยายพูดอย่างนั้นสิ ยายต้องอยู่กับหนูไปนานๆนะ หนูรักยาย"
"ขอบคุณครับคุณยาย ผมจะดูแลมะยมให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ครับ"
Talk : กลับมาหวานกันบ้างเนอะ หน่วงกันมาหลายตอนละ