ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกๆคอมเม้นท์นะคะ แล้วก็ข้อติเตียนต่างๆ ขอบคุณสำหรับความเข้าใจว่าทำไมแต่ละตอนถึงสั้น แล้วก็เรื่องตอนจบของแต่ละตอนตัดฉับไปดื้อๆ คือเราชอบแต่งแบบนี้จริงๆค่ะ แก้นิสัยตรงนี้ได้ยากมาก อาจจะดูรุนแรงหรืองงไป ก็ขออภัยด้วยนะคะ แต่จะพยายามค่ะ ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
ตอนที่ 20
วันงานเดินแบบ
“เร็วๆหน่อยทุกคน”
เสียงของดาวที่กำลังเร่งเหล่าทีมงานดังไปทั่ว ตอนนี้เอยกำลังอยู่หลังเวทีเดินแบบที่จัดขึ้นที่โรงแรมหรูแถวบางรัก หลังเวทีถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งสำหรับนางแบบ และอีกส่วนสำหรับนายแบบ ตอนนี้มีแต่ความวุ่นวาย ทุกคนต่างวิ่งเข้าวิ่งออกตามหน้าที่ของตนเอง ตอนนี้เอยแต่งตัวเสร็จแล้วและนั่งลงหน้าโต๊ะแต่งตัว
“นี่เอยเครื่องประดับ...ใส่ซะ” ดาววิ่งมาหาเอยพร้อมกล่องเครื่องประดับที่ต้องใส่เดิน พี่ช่างแต่งหน้าเป็นคนสวมให้เอย จากนั้นจึงกันมาถอดแว่นให้เอยและใส่คอนแทคเลนส์ สุดท้ายก็แต่งหน้าทานั่นนี่ลงบนหน้าของเอยจนลามมาถึงหน้าอก
“ใกล้จะเริ่มเดินแล้วนะ คนแรกเตรียมตัวไว้เลย” ดาวตะโกนสั่ง ตอนนี้จะเริ่มเดินโชว์แล้ว ด้านเอยเดินเป็นคนสุดท้ายจึงกำลังเตรียมตัวอยู่
รู้สึกไม่ค่อยชินเสียเท่าไหร่กับการใส่คอนแทคเลนส์แบบนี้ เอยมองหน้าตนเองในกระจก ดวงตาของเอยดูวาวน้ำอาจจะเพราะการใส่คอนแทคเลนส์ ใบหน้ายามไร้แว่นก็ดูแปลกไปอีกแบบ ราวกับไม่ใช่ตนเอง
“คุณน้องนี่หน้าตาน่ารักจังเลยนะคะ พอถอดแว่นนี่ยังกับคนละคน” พี่ช่างแต่งหน้าเอ่ยชมเอย ก่อนที่จะแต้มลิปกลอสลงบนริมฝีปากเอยบางๆ
ไทป์ที่ตอนนี้กำลังตอนรับแขกอยู่หน้างาน สีหน้าชื่นมื่นของไทป์บ่งบอกว่าภูมิใจกับงานในวันนี้มาก แขกเหรื่อมากันมากมาย รวมถึงดารานักแสดงหลายคนต่างก็มางานนี้เช่นกัน เรียกได้ว่าไม่ใช่งานเล็กๆอย่างที่ไทป์ตั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนแรกเลย
“สวัสดี” เสียงของใครคนหนึ่งเอ่ยขึ้น ไทป์หันมองก็พบว่ากวินกำลังยื่นบัตรเชิญด้วยสีหน้านิ่งๆ วันนี้กวินมาพร้อมกับทรรศ ผู้ติดตามคนเดิม กวินสวมสูทสีเทาเข้ม เซ็ทผมอย่างที่ทำเช่นทุกวัน แต่แค่เพียงเท่านั้นมากพอที่จะโดดเด่นจนคนในงานต่างพากันจ้องมอง
“ขอบคุณที่มา” ไทป์เอ่ยพอเป็นมารยาท กวินพยักหน้ารับ
“นี่ เชิญแขกท่านนี้ไปนั่งโซนหน้าด้วยนะ” ไทป์วานทีมงานคนหนึ่งให้พากวินไปยังที่นั่งวีไอพีที่อยู่ด้านหน้าสุด
กวินนั่งลงโดยที่ทรรศได้ปลีกตัวออกไปแล้ว ร่างสูงนั่งไขว่ห้าง มองบรรยากาศงานโดยรอบ ราศีของกวินที่เป็นที่จับตามองของคนในงาน มีสาวสวยรวมถึงดาราบางคนพยายามจะเข้ามานั่งข้างๆกวินเสียให้ได้ แต่ทีมงานได้กันท่าเอาไว้เสียก่อน
กลับไปยังหลังเวที ที่ตอนนี้เริ่มวุ่นวายหนักกว่าเก่า เพราะงานทำท่าจะเริ่มแล้ว ดาวที่ตรวจความพร้อมของชุดของนางและนายแบบแต่ละคนเรียบร้อยแล้ว จึงเดินมาทางเอย เพื่อตรวจของเอยและนางแบบที่เดินคู่กัน
“เอยไม่ต้องตื่นเต้นนะ ทำอย่างที่ซ้อมมา” ดาวพูดให้กำลังใจ ตอนนี้เสียงของพิธีกรพูดขึ้นมาแล้ว
“คนแรก ออกไปได้เลย” ดาวตะโกนขึ้น พร้อมๆกับเสียงปรบมือของแขกที่รออยู่หน้าเวที
หน้าเวทีตอนนี้เสียงเพลงดังขึ้น พร้อมๆกับนางแบบคนแรกขึ้นเดิน โดยมีเสียงปรบมือดังขึ้นทุกครั้งที่นางและนายแบบขึ้นเดิน การเดินตามคิวที่ดาวจัดไว้คือการเดินเดี่ยวของนางแบบและนายแบบ จากนั้นก็จะเดินคู่กันเป็นอันจบของแต่ละคู่ นางและนายแบบแต่ละคนก็ทำตามคิวที่ซักซ้อมไว้
เอยที่นั่งมองตนเองหน้ากระโต๊ะแต่งตัว อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า รู้สึกขาสั่นและเหงื่อเริ่มซึมตามใบหน้า ร้อนถึงช่างแต่งหน้าต้องรีบมาซับเหงื่อเป็นการใหญ่
“ขอโทษนะครับ พอดีผมตื่นเต้น”เอยเอ่ยขอโทษช่างแต่หน้า
“ใจเย็นๆนะคะคุณน้อง ทำอย่างที่ซ้อมมา ไม่ต้องสนเรื่องคนดู คุณน้องก็จะเดินได้” พี่ช่างแต่งหน้าพูดให้กำลังใจ เอยยิ้มเป็นการขอบคุณ
“เอย...มายืนตรงนี้เร็ว จะถึงตาเอยแล้ว” ดาวมาดึงเอยไปยืนเตรียมพร้อม โดยที่เวทีอีกฝั่งมีนางแบบที่เดินคู่กันยืนเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ดาวตรวจเช็คความเรียบร้อยเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะบีบมือของเอย
“เอย ต้องทำได้ เชื่อดาว”
“อืม” เอยพยักหน้ารับ ก่อนที่จะมีเสียงของพิธีกรประกาศว่าชุดฟินาเร่ นางแบบต้องเดินเป็นคนแรก เอยยืนรอจนเธอเดินวนกลับเข้ามา และจากนั้นถึงตาเอย
เอยก้าวขาขึ้นบันได พลางหายใจเข้าอย่างรวมรวบสมาธิ และเดินออกไปอย่างที่ซ้อมมา เสียงคนฮือฮาพร้อมปรบมือเกรียวกราว อีกทั้งสปอร์ตไลท์สาดส่องมาทางเอย เอยทำท่าจะตื่นตกใจ แต่หันไปเห็นไทป์ที่ยกนิ้วโป้งให้ท่ามกลางแสงสลัว เอยจึงเริ่มก้าวเท้าเดินออกไปอย่างที่ซักซ้อมมา
ชุดของเอยเป็นสูทสีดำเปิดอกยาวไปถึงหน้าท้องทำให้สร้อยที่สวยโดดเด่นขึ้น กางเกงรัดรูปที่พอเหมาะกับขาของเอย รองเท้าหนังมันปลาบหัวยาว ทรงผมที่เปิดหน้าผากขึ้นเพื่อให้ได้เห็นใบหน้าที่ชัดเจน เอยโพสท์ท่าหยุดตรงเวทีด้านหน้า ฉับพลันเห็นกวินนั่งอยู่ตรงกลางหน้าเวที ลมหายใจของเอยสะดุดทันที เพราะสายตาของกวินที่จ้องอย่างตั้งใจมองมาที่เอย
กี่อาทิตย์แล้วที่เอยไม่ได้เห็นกวิน พอมาเห็นแบบนี้ใจก็อดไม่ได้ที่จะเต้นระส่ำขึ้นมา เอยรีบหลบสายตาของกวินทันที ก่อนที่จะเดินหมุนกลับหลังไป และเดินขึ้นมาอีกครั้งคู่กับนางแบบ ทั้งสองเดินมายังข้างหน้าเวที ก่อนที่จะโพสท์ท่าคู่กันจากนั้นก็เดินลงจากเวที และเพียงครู่เดียวนายแบบคู่แรกจนถึงคู่ของเอยก็ทยอยกันเดินออกมาเป็นการปิดการเดินโชว์
แสงไฟเปิดสว่างเปิดทั่วทั้งห้องทันทีที่นางและนายแบบทั้งหมดยืนกันครบอยู่บนเวที เสียงปรบมือดังขึ้นอีกครั้ง ดาวและไทป์เดินขึ้นไปยังบนเวที โดยที่เอยและนางแบบถือช่อดอกไม้คนละช่อ เอยจะเป็นคนมอบให้ดาว ส่วนนางแบบจะเป็นคนมอบให้ไทป์
ไทป์กล่าวคำขอบคุณ และพูดถึงแรงบันดาลใจในการออกแบบเครื่องเพชรชุดต่างๆ รวมถึงเปิดตัวสินค้าใหม่เอาใจคนงบน้อย เรียกได้ว่าร้านเพชรไทวาเป็นร้านแรกที่มีสินค้าเช่นนี้
“ขอบใจมึงนะเอย” ไทป์ว่า หลังจากที่ลงมาจากเวที ตอนนี้ทั้งหมดอยู่หลังเวทีกำลังขอบคุณซึ่งกันและกันที่ทำให้งานออกมาได้เสร็จสมบูรณ์แบบ
“ไม่เป็นไรหรอกน่า” เอยว่า พร้อมทำท่าจะถอดเครื่องประดับแต่ไทป์ห้ามขึ้นเสียก่อน
“ไม่ต้องถอด ใส่ไว้...กูให้มึง”
“อะไรนะไทป์...ไม่เอาๆ” เอยปฏิเสธพัลวัน
“ดาวบอกมึงแล้วไม่ใช่รึไง ว่ากูมีของตอบแทนมึง รับไปซะ ไม่ต้องพูดมาก”
“แต่ว่า..” เอยทำท่าจะค้าน
“เพชรชุดนี้แรงบันดาลใจคือมึงเลยนะ” ไทป์ว่า เมื่อได้ยินอย่างนั้นเอยยิ้มแก้มปริทันที
“จริงๆเหรอ”
“ใช่ ต้องขอบใจมึงเลยนะ เพราะความขี้เหนียวของมึงไง กูเลยออกแบบเครื่องประดับชุดนี้มาได้” ไทป์พูด ก่อนจะหัวเราะเสียงดังอย่างสะใจ
“ไทป์อะ...มันน่าดีใจตรงไหน?” เอยหน้างอลง แต่ก็เพียงแค่ไม่นาน จากนั้นก็หัวเราะไปด้วยกันกับไทป์
“พอๆ มึงจะหัวเราะไปถึงไหน เปลี่ยนชุดได้แล้ว” ไทป์ว่าก่อนจะเดินออกไปจากหลังเวที
ตอนนี้นางและนายแบบแต่ละคนก็เริ่มกันเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดสำหรับเที่ยวกันแล้ว เพราะหลังจากเดินแฟชั่นโชว์จะมีการเลี้ยงขอบคุณที่บาร์ของโรงแรมนี้เช่นกัน
“เอย ไปถ่ายรูปก่อน งานใกล้จะเลิกแล้ว” ดาวมาเรียกเอยที่หลังเวที ในขณะที่เอยกำลังถอดเครื่องประดับที่ไทป์ให้ตอนใส่โชว์เก็บลงกล่องใส่กระเป๋าสะพายไว้ ตอนนี้เอยถอดคอนแทคเลนส์ออกและสวมแว่นตาเหมือนเดิมแล้ว แต่ยังไม่ทันเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับถูกดาวลากออกมาเสียก่อน
“เดี๋ยวดาว ให้เราเปลี่ยนชุดก่อน” เอยร้องขึ้น
“ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวไปบาร์ก็ชุดนี้แหละ” ดาวบอกก่อนจะยื่นกระเป๋าสะพายให้เอย
“บ้าน่าดาว มันไม่เหมาะ” เอยว่า
“ไม่เหมาะตรงไหน ออกจะดูดี...อ้าว กวิน” ดาวที่พูดๆอยู่ กลับส่งเสียงเรียกกวินที่กลังเดินมาทางนี้ เอยได้แต่มองซ้ายขวา จะหลบไปทางไหนดี แต่ไม่ทันเสียแล้ว กวินเดินมาถึงตรงนี้แล้ว
“ทำได้ดีนี่” กวินเอยขึ้นพลางมองเอยตั้งแต่หัวจรดเท้า จากนั้นจ้องมาตรงเสื้อที่เปิดโชว์อกยาวจนถึงหน้าท้องของเอยด้วยสายตาที่ไม่ชอบใจ เอยได้แต่เอาพยายามดึงเสื้อให้ปิดมิดชิดมากขึ้น
“เอยเก่งใช่ไหมกวิน...นี่ๆเดี๋ยวเราจะมีฉลองกันที่บาร์ ไปด้วยกันนะกวิน” ดาวเอ่ยชวน กวินเงียบไปอึดใจก่อนตอบ
“ได้สิ” กวินว่า
“ไปกันได้แล้ว ทุกคนเขาไปรอกันหมดแล้ว” ไทป์ที่เดินมาเพื่อจะบอกกับดาวและเอยให้รีบไปที่บาร์
“ไทป์ ชั้นชวนกวินไปด้วยนะ” ดาวว่า
“แต่กูไม่....” ไทป์พูดไม่ทันจบ ดาวกำลังเอามือปิดปากก่อนจะลากไทป์ออกไปจากตรงนี้
“ไปๆ อย่าช้า...เอยกับกวินตามมานะ” ดาวว่า ก่อนจะลากไทป์หายไป
เอยที่ยืนอยู่ได้แต่มองซ้ายมองขวา ก่อนที่จะตัดสินใจเดินออกจากตรงนี้ ฉับพลันกวินดึงข้อมือของเอยลากไปยังอีกเส้นทางทันที
“ดะ...เดี๋ยว!! จะพาไปไหน” เอยร้องขึ้นมา กวินไม่พูดไม่จา ยังคงลากเอยอยู่อย่างนั้นจนมาถึงลานจอดรถ
เสียงโทรศัพท์ของเอยแผดเสียงขึ้น กวินหันมาจ้องหน้าเอยเขม็ง แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือ เอยจึงต้องใช้มือที่ว่างล้วงโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายแทน
“มึงมาได้แล้ว” ไทป์เป็นคนโทรมา
“คือ....” เอยตะกุกตะกัก กวินจ้องหน้าเอยอยู่อย่างนั้น ความหมายราวกับว่าอย่างไรก็จะพาเอยไปด้วยให้ได้ วันนี้กวินช่างดูน่ากลัวยิ่งกว่าครั้งไหนๆ
“ไทป์...เรารู้สึกไม่สบายนิดหน่อย ขอ...ขอตัวกลับก่อนได้ไหม...” เอยโกหกไทป์อีกแล้ว เพราะรู้ดีว่าตนต้องไปกับกวินในตอนนี้ เพราะดูจากสีหน้าและแววตา...กวินไม่มีทีท่าที่จะยอมกลับโดยไม่มีตนไปด้วยแน่
“แล้วมึงจะกลับยังไง?” ไทป์ถามต่อ
“ตอนนี้อยู่บนแท็กซี่แล้ว” เอยว่า โกหกไทป์คำโต
“อืมๆ งั้นกลับเถอะ ถึงแล้วส่งข้อความมาบอกกูด้วย” ไทป์ว่า
“อืม” จากนั้นก็กดวางสายไป
เมื่อเห็นเป็นอย่างนั้นแล้ว กวินก็ปล่อยยังคงลากเอยขึ้นรถ และขับออกจากไปโรงแรมทันที ขับพาเอยไปยังเส้นทางที่เอยพอจะคุ้นตา...คอนโดของกวินนั่นเอง
เมื่อมาถึง เอยก็ยังคงถูกลากไปอย่างทุลักทุเล ขึ้นไปยังห้องของกวิน ภายในห้องก็ยังคงเหมือนเดิม ไม่ได้แตกต่างไปจากครั้งนั้นที่เอยมา
“ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าซะ แล้วทีหลังอย่าแต่งตัวแบบนี้อีก” กวินพูดด้วยเสียงต่ำๆ แต่ครั้งนี้เอยไม่ยอม แม้จะรู้สึกกลัวท่าทีของกวินอยู่ แต่หากเป็นแบบนี้ต่อไป เอยก็คงจะตัดใจจากกวินไม่ได้สักที
“ผม...ผมจะกลับบ้าน” เอยบอก ก่อนที่จะหันหลังเพื่อจะไปเปิดประตู แต่กวินไม่ยอม รั้งตัวเอยกลับมายังที่เดิมจนได้
“ปล่อยผม...บอกให้ปล่อย” เอยดิ้นอย่างสุดกำลัง
“หายไปไม่กี่วัน ดื้อกว่าเดิมอีกนะพีระนัม” กวินพูดเสียงแข็ง
“ผม...ไม่จำเป็นต้องคุยกับท่านอีก เราต่างคนต่างอยู่เถอะครับ” เอยยังดึงดัน แม้จะรู้สึกกลัวจนตัวสั่นแล้วก็ตาม แต่ก็ยังพยายามจะขอร้องดีๆให้กวินยอมปล่อยตนไป
“ทำไมถึงพูดแบบนั้น ฉันถามว่าทำไม!!” กวินเสียงดังมากขึ้น พูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะ จนเอยสะดุ้งตัวอย่างตกใจ
“ผม...คือ ผม” เอยรู้สึกว่าใจตนเองเต้นแรงขึ้นทุกขณะ กวินจับปลายคางของเอย ให้หันมามองหน้าตนก่อนที่ดวงตาคมนั้นจะสบตามองเอย เอยรู้สึกตัวเองแทบจะหมดเรี่ยวแรงที่โดนกวินจ้องมองตาในระยะที่ใกล้ขนาดนี้
“หลายวันมานี้....หลบหน้าฉันทำไม เกิดอะไรขึ้น?” กวินถาม ดูจะใจเย็นลงไปบ้างฟังได้จากน้ำเสียง
“ผม...ไม่มีอะไรทั้งนั้นครับ” เอยปฏิเสธก่อนที่จะพยายามไม่สบตา และเบี่ยงหน้าตนเองจากฝ่ามือใหญ่ของกวิน
“โกหก...มองตาฉันแล้วพูดมันออกมา”
กวินไม่ยอมปล่อยมือจากเอย มีแต่จะยิ่งรัดรึงให้เอยเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดมากขึ้นไปอีก จนช่องว่างระหว่างทั้งสองค่อยๆใกล้เข้าไปเรื่อยๆจนห่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น
“ยะ..อย่าแกล้งผมแบบนี้เลย” เอยอดทนไม่ไหวแล้ว น้ำตาค่อยๆรื้นขึ้นมาจากดวงตาอย่างห้ามไม่อยู่ ริมฝีปากกัดเม้มอย่างพยายามอดกลั้น กวินนิ่งเงียบไป เมื่อเห็นน้ำตาของเอยที่ทำท่าจะไหลออก
“อย่าแกล้งผมมากไปกว่านี้เลย...ขอร้องเถอะครับ” เอยพูดเสียงสั่นๆ กวินยังคงนิ่งเฉยอยู่อย่างนั้น
“อย่าทำให้ผม...ชอบท่านมากไปกว่านี้เลย...”
ในที่สุดเอยอดกลั้นต่อไปไม่อยู่ น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย ไม่ต่างจากความรู้สึกที่ทะลักออกมาราวกับน้ำที่เอ่อล่นแก้ว กวินนิ่งเงียบไป ไม่อาจจะรู้ได้ว่ากวินกำลังรู้สึกอย่างไรที่ได้ยินเอยสารภาพความในใจออกมา
“ถ้าไม่รู้สึกอะไร อย่าทำแบบนี้กับผม ปล่อยผมไป..ฮึก....”
สิ้นสุดคำนั้น กวินก็ประกบปากของเอยทันที เอยตาโตด้วยความตกใจ ริมฝีปากนั้นจูบค้างอยู่เนิ่นนาน ก่อนที่จะผละออกมา แล้วจูบซับน้ำตาที่ไหลออกมา เอยแทบจะหยุดหายใจตอนที่กวินจูบเล็มตรงหางตาของตนเอง จากนั้นก็ก้มมองจ้องใบหน้าของเอยก่อนจะพูดว่า...
“ถ้าไม่สนใจ...ก็คงไม่แกล้งหรอก”
++++++++++++++++++++++++++
ค้างกันใช่ไหมคะ? แหะๆ ติดตามตอนต่อไปค่า (คนอ่านอย่าด่าเค้าเลยนะ

)