ขออภัยนะคะที่มาช้า วันนี้ที่ทำงานมีเรื่องวุ่นหลายเรื่องค่ะ เลยต้องจัดการก่อน ขอบคุณที่ติดตามนะคะ“โดน....มดกัดครับแม่” เอยพูดก่อนที่จะรีบวิ่งขึ้นไปบนห้อง
“สงสัยเป็นมดคงจะตัวโตน่าดู” แม่เอยบ่นก่อนที่จะปิดประตูบ้าน ปล่อยให้เอยยืนหน้าแดง ใจเต้นโครมครามอยู่หน้าบ้านคนเดียว....
ตกลงอยู่ไหนอะครับ
ผิดพลาดครั้งใหญ่มาก ฮ่าๆ ขออภัยนะคะ ต่อไปตะตรวจให้ดีกว่า ขอบคุณที่ตรวจทานให้ค่า

# อย่าบอกใคร...ว่า...ฉันรักเธอ?#
ตอนที่ 22
คำสารภาพของพี่ขาว
วันนี้วันจันทร์ เช้าที่ไม่มีใครอยากตื่นขึ้นมาทำงาน วันนี้เอยตื่นมาตั้งแต่เช้า เมื่อวานหลังกลับมาจากคอนโดของกวิน ไทป์ก็โทรมาถามทันที บ่นเสียยาวเหยียดว่าเอยไม่ยอมส่งข้อความมาบอกว่าถึงบ้านแล้ว กว่าจะพูดให้ไทป์หายบ่นได้ก็ปาไปครึ่งชั่วโมง
วันนี้เอยมาทำงานก่อนใครเพื่อนเช่นเคย แต่เมื่อมาถึงกลับเจอสิ่งที่น่าตกใจ...พบช่อดอกไม้วางอยู่บนโต๊ะทำงานของตนเอง
“ของใครเนี่ยะ?”
เอยหยิบขึ้นมาดูเป็นดอกลิลลี่สีชมพูแซมด้วยสีขาว ช่อใหญ่ตัวเสียจนคิดว่าราคาต้องแพง ช่อดอกไม้นี้มาพร้อมการ์ดแนบมาด้วย เอยอ่านการ์ดนั้นทันที
“ให้เอย” แค่นั้นสำหรับข้อความในการ์ด เอยยังคงสงสัยว่าจากใคร คิดไปคิดมา...
“คุณกวินเหรอ?” เอยคิดก่อนที่จะพูดขึ้น พลางมองซ้ายขวา สุดท้ายเอยเลิกที่จะหาที่มาของมัน จึงวานน้าแม่บ้านเอาไปใส่แจกันประดับห้องแทน และเก็บการ์ดใบนั้นใส่กระเป๋าสะพายเอาไว้ รอหาเจ้าของที่ให้มา
...
..
.
“เอย...ได้ข่าวว่าได้ดอกไม้ช่อโตนี่” พี่แปงถามขึ้น ระหว่างนั่งทานมื้อเที่ยงพร้อมกันกับพี่แปงและพี่ขาว
“รู้ได้ไงครับพี่แปง?” เอยถามกลับ เพราะเช้าเสียขนาดนั้น ยังไม่มีใครมากันสักคน แล้วพี่แปงทราบได้อย่างไร
“ก็น้าแม่บ้านบอกพี่ ว่าเอยได้ดอกลิลลี่ช่อโตมา แล้วให้น้าเขาไปใส่แจกัน...ว่าแต่ใครให้มาเอ่ย?” พี่แปงกระเซ้าเย้าแหย่ พี่ขาวที่กำลังดื่มน้ำอยู่ๆก็สำลักขึ้นมา
“ผมเองก็ไม่ทราบครับ” เอยตอบ ก่อนที่จะยื่นกระดาษเช็ดปากให้พี่ขาว
“อย่างนั้นเหรอ..ไอ้ขาว แกว่าน่าจะเป็นใคร?” พี่แปงหันไปถามพี่ขาวที่กำลังเช็ดน้ำที่เลอะบนโต๊ะ
“จะไปรู้ได้ไง” พี่ขาวพูด ท่าทางเลิ่กลักจนพี่แปงหัวเราะขึ้นมา
“จะจริงเหรอ ที่แกไม่รู้” พี่แปงว่า
“รีบๆทานเถอะครับ เดี๋ยวไปทำงานสาย” เอยพูดขึ้นมา ทั้งสามจึงลงมือทานข้าวต่อจนเสร็จ...
ระหว่างที่ทำงาน เอยเห็นเอกภพ เดินไปเดินมาราวกับหนูติดจั่น พลางหันมองมาทางเอยบ่อยๆ หลายครั้งที่เอยอดสงสัยไม่ได้ ที่กวินบอกว่าจะเด้งเอกภพและท่านสุเดชออกนั้นจะทำได้อย่างไร ในเมื่อหลักฐานที่เอยให้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง ระหว่างที่กำลังคิดๆ จู่ๆเอกภพก็เดินตรงมา
“เอย...ผมมีเรื่องจะพูดด้วย มาทางนี้หน่อย” เอกภพว่า เอยพยักหน้ารับช้าๆ ก่อนที่จะเดินตามเอกภพไปยังห้องประชุมเล็ก ที่ไม่มีใครค่อยใช้
“มะ...มีอะไรเหรอครับ?” เอยถามอย่างหวาดระแวง
“เธอ...สนิทกับท่านประธานใช่ไหม?” เอกภพถามขึ้น เอยส่ายหน้าทันที
“ไม่ครับ ไม่สนิท” เอยตอบ
“ช่วยผมหน่อยได้ไหม...ตอนนี้ท่านสุเดชกำลังจะเล่นงานผม เขาจะเก็บผม เอย...ช่วยไปบอกท่านประธานทีได้ไหม ว่าช่วยผมหน่อย” น้ำเสียงของเอกภพทำท่าจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เอยรู้สึกหนักใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า
“หัวหน้า..ไปบอกเองดีกว่าครับ ผม..คงทำไม่ได้”
“แต่ว่า..ผมจะทำยังไง ผมกลัวอุ้มจะเป็นอันตรายด้วย ขอร้องล่ะเอย ช่วยผมที”
เอกภพแทบจะคุกเข่าอ้อนวอน เอยรู้สึกใจคอไม่ดีเลย หากอุ้มจะโดนหางเลขไปด้วย แต่อย่างไรก็ไม่กล้าเชื่อใจเอกภพ เพราะเคยโดนขู่มาก่อน พอตอนนี้กลับมาขอร้องอ้อนวอน เอยเลยไม่สนิทใจที่จะเชื่อเสียเท่าไหร่
“ผมขอโทษนะครับ...แต่ผมคงช่วยอะไรหัวหน้าไม่ได้จริงๆ” เอยว่าก่อนจะที่เดินออกมาจากห้องประชุมโดยไม่หันกลับไปมองเอกภพที่นั่งหน้าหมดอาลัย ราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้ายแล้วก็ไม่ผิด
เอยกลับมายังโต๊ะอย่างรู้สึกผิด เพราะไม่ไว้ใจเอกภพจริงๆ กลัวว่าเอกภพจะมีลูกไม้อะไรซ่อนอยู่ เอยชั่งใจว่าจะต้องทำอย่างไรดี จึงคิดว่าเลิกงานจะเข้าไปคุยกับกวิน
แม้ว่าจะยังรู้สึกอายที่ต้องพบกวินหลังจากเมื่อวาน แต่หากเป็นเรื่องสำคัญเอยก็คงต้องเข้าไปพบ เอยจึงสรุปกับตนเองว่าวันนี้ต้องเข้าไปพบกวินด้วยเรื่องของเอกภพ
...
..
.
เวลาเลิกงานก็มาถึง เอยเริ่มเก็บข้าวของเพื่อจะเตรียมตัวไปหากวิน พี่ขาวที่เดินมาสะกิดเอยเบาๆก่อนพูด
“เอย...เย็นนี้ว่างมั้ย?” พี่ขาวถาม
“เอ่อ...ไม่ค่อยสะดวกครับ พี่ขาวมีเรื่องสำคัญรึเปล่าครับ?” เอยถามขึ้น
“คือ..พี่มีเรื่องจะพูดกับเอย..ก็เรื่องสำคัญนะ” พี่ขาวบอก
“อืม...ก็ได้ครับ ถ้าไม่นาน” เอยตอบออกไป เมื่อตอนนี้ทั้งแผนกเงียบเชียบแล้ว พี่แปงก็มีนัดไปทานข้าวกับแฟนจึงออกไปแล้ว เท่านี้ก็เหลือเพียงพี่ขาวและเอยเท่านั้น
“พี่ขาวมีเรื่องอะไรครับ?” เอยถามทันทีที่ปลอดผู้คน
“เรื่อง...ดอกไม้เมื่อเช้า...” พี่ขาวพูดก่อนที่จะเกาหัวเก้อๆ
“พี่ขาวรู้เหรอครับว่าใครให้” เอยถามอย่างอยากรู้
“พี่เอง....พี่เป็นคนให้” พี่ขาวพูดจบเอยอ้าปากค้าง
“พี่ขาวเองเหรอครับ...ให้ผมเนื่องในวันอะไรครับ?” เอยถาม พลางสงสัย ที่คิดว่าเป็นกวินนั้นคงเข้าข้างตนเองมากไป
“คือ..พี่...ชอบเอย” ในที่สุดพี่ขาวก็พูดออกมา
“หา!! พี่ขาวว่ายังไงนะครับ?” เอยถามเพราะได้ยินไม่ถนัด
“พี่ชอบเอย” พี่ขาวพูดออกมา ก่อนที่จะจับมือของเอยไว้
“พี่ชอบเอย...มาตั้งนานแล้ว ตั้งแต่เอยเข้ามาทำงานแล้ว พี่....ไม่รู้จะบอกเอยยังไงดี แต่พี่ชอบเอยมานานแล้วจริงๆ” คำสารภาพของพี่ขาวทำเอยตกใจ ไม่ได้เหมือนตอนที่กวินบอกว่าชอบสักนิด คำว่าชอบของพี่ขาวทำเอยรู้สึกอึดอัดใจอย่างบอกไม่ถูก
“เอ่อ..คือ” เอยได้แต่อ้ำอึ้ง เพราะไม่รู้จะตอบรับอย่างไรดี
“ตอนเอยบอกพี่ว่าเอยยังไม่มีแฟน พี่ดีใจมากนะ แม้พี่จะไม่รู้ว่าเอยชอบผู้หญิงหรือ...แบบพี่ แต่พี่รู้สึกมีความหวัง....เอยจะให้โอกาสพี่ได้ลองพิสูจน์ตัวเองได้ไหม?” คำพูดของพี่ขาวฟังแล้วทำเอยคิดหนัก
“แต่..ผม ผมไม่ได้ชอบพี่แบบนั้นครับ” เอยตัดสินใจที่จะตอบออกไปอย่างตรงๆ เพียงแวบเดียวที่เห็นหน้าพี่ขาวเจื่อนลง แต่แค่เพียงแวบเดียวเท่านั้น พี่ขาวก็กลับมายิ้มออกมาอีกครั้ง
“พี่รู้ ว่ามันยาก แต่พี่ขอแค่โอกาส อย่าเพิ่งบอกปัดพี่ตอนนี้เลย ขอพี่ให้อยู่ข้างๆเอยได้ไหม พี่จะรอ รอจนกว่าเอยจะเปลี่ยนใจ”
“แบบนั้นมันไม่ดีนะครับ เพราะผมไม่เปลี่ยนใจแน่ๆครับ” เอยยืนยันอย่างหนักแน่น
“ถ้าอย่างนั้น....ขอพี่อยู่แบบนี้ต่อไปนะ ขอให้เอยเหมือนเดิมกับพี่ อย่าเกลียดพี่ ทำอย่างที่แล้วๆมาแบบนั้นได้ไหม?” พี่ขาวบอก สีหน้าของพี่ขาวดูจะทำเตรียมใจมาแล้วว่าอย่างไรเอยคงต้องปฏิเสธแน่ๆ
“ถ้าเป็นพี่เป็นน้อง..เราเป็นเหมือนเดิมแน่ๆครับ แต่ถ้าให้คิดมากกว่านั้น...ผมคงให้พี่ไม่ได้”
“พี่เข้าใจ...สัญญากับพี่นะ ถ้าเอยเปลี่ยนใจให้นึกถึงพี่เป็นคนแรก” พี่ขาวว่า เอยค่อยๆดึงมือตนเองออกจากมือของพี่ขาว
“คะ..ครับ” เอยตอบตกลง
“งั้น..พี่ไปนะเอย เจอกันพรุ่งนี้” พี่ขาวบอก ก่อนจะโบกมือลา เอยถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่หลังจากพี่ขาวเดินออกไป
“อะไรกันเนี่ยะ?” เอยถามตนเองอย่างงงๆ เพราะไม่คาดคิดจริงๆว่าพี่ขาวจะชอบตน และชอบมานานตั้งแต่เพิ่งเข้าทำงาน
“ลืมไปเลย ต้องไปหาคุณกวิน” เอยฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าลืมอะไร จึงรีบออกเดินไปยังห้องของท่านประธานอย่างกวิน เอยทำท่าจะกดลิฟต์ แต่ลิฟต์ดันเปิดออกเสียก่อน
“ท่าน....” เอยทำท่าจะเรียก แต่กวินไม่ได้เดินออกมาคนเดียว กวินมากับผู้หญิงคนนั้น ผู้หญิงผมยาวคนที่สวยมากๆ ที่เอยเจอเมื่อวันก่อน ที่คุณทรายเรียกว่าคุณมินตรา พอเห็นท่าทางที่ดูสนิมสนมของทั้งสองทำเอยเจ็บแปลบในอกทันที
“พีระนัม” กวินเอ่ยเรียก เอยนิ่งไปก่อนที่จะหันหลังกลับ
“เดี๋ยว....” กวินเอ่ยเรียกอีกครั้ง เอยจึงหยุดชะงักเท้า
“จะไปไหน?” กวินถาม เอยจึงหันกลับมาเผชิญหน้ากับกวินและผู้หญิงคนนั้น ที่กำลังแสดงสีหน้าแปลกใจที่เจอเอย
“อ้าว...นั่นมันคนที่มินเจอเมื่อวันก่อนตอนที่มาหาคุณนี่คะกวิน” เธอพูดขึ้น เอยก้มหน้าลงทันที
“ถามว่าจะไปไหน?” กวินถามเอยย้ำเป็นครั้งที่สอง ไม่ได้สนใจที่เธอคนนั้นพูด
“กะ...กำลังจะกลับบ้านครับ” เอยตอบ
“แน่ใจ?” กวินถามซ้ำ เอยพยักหน้า เอยเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นที่กำลังมองนาฬิกาข้อมือ
“จะสายแล้วนะคะกวิน รีบไปกันเถอะ” เธอแตะแขนของกวินเบาๆ การกระทำเหล่านั้นอยู่ในสายตาของเอยทั้งหมด
“อืม...พีระนัม เดี๋ยวเสร็จธุระ แล้วฉันจะโทรไป” กวินว่า ก่อนที่จะเดินออกไปพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น
คล้อยหลังของทั้งสอง เอยได้แต่จ้องมองแผ่นหลังที่เดินคู่กันออกไป แค่มองข้างหลังก็รู้สึกได้ถึงความเหมาะสมของทั้งสอง ราวกับเกิดมาเป็นคู่กันไม่ผิด เอยหันไปมองตัวเองในบานประตูกระจกที่อยู่ใกล้ๆ ดูเงาสะท้อนของตนเองก่อนที่จะรู้สึกว่า...ตัวเองช่างดูไร้ค่ากว่าครั้งไหนๆ
ไม่เหมาะสมกันสักนิด ไม่เหมาะที่จะไปยืนข้างกวิน อย่างที่ไทป์บอกไว้จริงๆ...กวินไกลเกินไป แม้กวินจะบอกว่าชอบ แต่ใช่ว่ากวินจะไม่มีคนอื่น เอยก็แค่ผู้ชายธรรมดา แตกต่างกับผู้หญิงคนนั้นอย่างสิ้นเชิง เอยถอนหายใจออกมา เรื่องของเอกภพคงต้องยกยอดไปพูดวันอื่น เพราะตอนนี้รู้สึกในใจขุ่นหมองเหลือเกิน..
กลับมาถึงบ้านก็ค่ำแล้ว เอยตรงไปยังห้องนอนเพื่ออาบน้ำ วันนี้แม่ไปงานทำบุญเพื่อนบ้าน เลยไม่ได้ทำกับข้าวไว้ให้เอย เอยจึงทานแค่นมกับขนมปังแผ่นที่มีอยู่ในตู้เย็น เมื่อทานเสร็จก็กลับเข้าห้อง นอนลงบนเตียงพลางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูก็พบว่ามีสายไม่ได้รับหนึ่งสาย
“ใครโทรมานะ” เอยกดดูหมายเลขที่โทรมาเข้ามาแต่ไมได้รับ ปรากฏเป็นเบอร์ของกวินที่เอยได้บันทึกเอาไว้ในครั้งนั้น
“คุณกวิน” เอยพึมพำพร้อมๆกับที่เสียงของโทรศัพท์ดังขึ้นมาพอดิบพอดี เอยลังเลว่าจะรับดีหรือไม่ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกดรับ
“ส..สวัสดีครับ” เอยกรอกเสียงลงไป
“ทำไมไม่รับสาย” กวินถาม
“พอดี...ผม อยู่ข้างล่าง” เอยตอบ
“ตอนนี้ฉันอยู่หน้าบ้านเธอแล้ว” กวินว่า เอยตกใจรีบเปิดผ้าม่านดู พบว่ารถของกวินจอดอยู่จริงๆ เอยรีบลงมายังด้านล่างทันที
“ผมกำลังลงไปครับ” เอยรีบกดวาง แล้วเปิดประตูบ้าน พบว่ากวินยืนอยู่แล้ว
“เอ่อ...” เอยตกใจไม่น้อยที่กวินมาถึงบ้าน
“จะไม่เชิญฉันเข้าบ้านเหรอ?” กวินถาม เอยจึงรีบถอยห่างจากประตูทันที
“ชะ..เชิญครับ” เอยเชิญกวินเข้าบ้าน
เมื่อเข้ามาในบ้าน กวินก็มองไปรอบๆราวกับกำลังสังเกตสิ่งต่างๆภายในบ้าน เอยรู้สึกอายไม่น้อยที่กวินมาถึงบ้านแบบไม่บอกกล่าวล่วงหน้า กวินนั่นลงบนโซฟา เอยจึงเข้าครัวเทน้ำเย็นๆใส่แก้วให้กวิน
“น้ำครับ?” เอยวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ ก่อนจะนั่งตรงโซฟาเดี่ยวข้างๆที่กวินนั่ง
“อยู่คนเดียวเหรอ?” กวินถาม ก่อนที่จะจิบน้ำแก้วนั้น
“ครับ แม่ผมไปช่วยเพื่อนบ้านทำงานบุญครับ”
“อย่างนั้นเหรอ” กวินเงียบไปก่อนที่จะหันมองหน้าเอย เอยตอนนี้ใส่ชุดอยู่บ้านธรรมดา กางเกงขาก๊วยกับเสื้อยืดคอกลม เมื่อเห็นสายตาของกวินจ้องมองมา อดไม่ได้ที่เอยจะรู้สึกว่าเสื้อผ้าของตนตอนนี้ช่างน่าตลกสิ้นดี
“เมื่อตอนเลิกงานมาหาฉันใช่ไหม?” กวินถามขึ้น
“คะ..ครับ พอดีมีเรื่องนิดหน่อย”
“เรื่องอะไร?”
“คือหัวหน้าเอกภพมาขอร้องผม...ให้ช่วยบอกท่าน...” เอยไม่ทันพูดจบ กวินกลับลุกขึ้นดึงเอยให้มานั่งใกล้ๆตน
“เรียกฉันว่าอะไร?” กวินพูดขึ้นคล้ายจะทบทวนความจำว่าต้องเรียกตนเองว่าอะไร
“เอ่อ...คุณ ครับ” เอยรีบแก้ไขเสียใหม่ กวินยกยิ้มมุมปาก
“ว่ามาต่อคุณเอกภพมีอะไร?”
“เขามาขอร้องผม...ว่าตอนนี้ท่านสุเดชจะจัดการเก็บเขา เขากลัวคุณอุมาวดีลำบากไปด้วย เขาเลยมาขอร้องผมให้ช่วยพูดกับท่าน”
“แล้วเธอตอบไปว่ายังไง?” กวินถาม
“ผม...ปฏิเสธไปครับ” เอยว่า
“แต่เธอก็ยังมาพูดกับฉัน นั่นแปลว่าเธอเองก็อยากจะช่วยคุณเอกภพใช่ไหม?”
“คือผมสงสารคุณอุมาวดีครับ ไม่อยากให้เธอโดนหางเลขไปด้วย” เอยตอบ
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันจะจัดการเอง...ว่าแต่ ไหนห้องของเธอ?” กวินบอกพร้อมกับถามคำถามที่เอยออกจะตกใจนิดหน่อย
“ทะ...ทำไมเหรอครับ?”
“ก็แค่อยากเห็น” กวินว่า
“อยู่ชั้นบนครับ”
“พาไปดูหน่อย” กวินว่าก่อนที่จะลุกขึ้น เอยยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก จึงได้แต่นำทางกวินไปยังห้องนอนของตนเอง
ห้องของเอยนั่นเรียบง่าย ไม่มีของอะไรตกแต่งเสียเท่าไหร่ สิ่งที่ชอบหรืองานอดิเรกก็ไม่มี ยิ่งของสะสมหรืออะไรก็ตามไม่เคยมีสักชิ้น กวินมาถึงก็มองไปรอบๆห้อง
“ห้องเธอโล่งดี” กวินว่า ก่อนที่จะนั่งลงบนเตียง เอยรีบดึงกระเป๋าสะพายที่วางไว้ออกมาเพราะกลัวกวินจะนั่งทับ ฉับพลันการ์ดที่พี่ขาวให้แนบกับดอกไม้หล่นจากกระเป๋าลงบนพื้นตรงหน้ากวินพอดี กวินหยิบมันขึ้นมาดูก่อนจะเปิดการ์ดอ่าน
“ใครให้มา” สีหน้าของกวินนิ่งลงยิ่งกว่าเดิม น้ำเสียงเองก็เปลี่ยนไปจากเมื่อครู่นี้
“เอ่อ....” เอยอ้ำอึ้งไม่รู้จะตอบอย่างไรดี
“ถามว่าใครให้มา?” น้ำเสียงนั้นเริ่มเข้มข้นจนเอยสะดุ้งเฮือก
“พี่ขาว..ครับ”
“ชินภัทรอย่างนั้นหรือ...นี่มาจากร้านดอกไม้ เขาให้ดอกไม้เธอหรือ?” กวินถาม เอยพยักหน้ารับ กวินมองการ์ดในมืออีกครั้งก่อนที่จะบีบมันเสียยับยู่ยี่ เอยได้แต่มองการ์ดใบนั้นที่แทบจะแหลกคามือของกวิน โดยที่ไม่กล้าค้านหรืออะไรแต่อย่างใด เพราะตอนนี้กวินดูน่ากลัวเหลือเกิน
“ดูท่า...คงต้องเชิญชินภัทรไปทำงานที่อื่นเสียแล้ว” กวินว่า เอยเบิกตากว้างอย่างตกใจ
“อะ..ไรนะครับ จะไล่พี่ขาวออก ทำไมครับ?” เอยถามด้วยน้ำเสียงตระหนก
“สาเหตุหรือ....เพราะมายุ่งกับเธอมากไป คงจะอย่างนั้น”
“ไม่ได้นะครับ ถึงพี่ขาวจะชอบผม แต่พี่ขาวก็ไม่ได้ทำอะไรผิด” เอยหลุดปากออกมาเสียได้ เมื่อทันนึกได้ก็สายไปเสียแล้ว
“เธอรู้ว่าชินภัทรชอบเธออย่างนั้นเหรอ เธอรู้ได้ยังไง?” กวินพูดไม่พอพลางดึงข้อมือของเอยให้มานั่งบนเตียง เรี่ยวแรงของกวินมหาศาลมากเสียกระดูกเอยแทบหัก
“คือ....”
“ตอบมา!!” เสียงของกวินราวกับกำลังขบฟัน เอยรู้สึกแย่มากจริงๆที่ทำให้กวินโกรธเสียได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นกวินแสดงท่าทางที่เต็มไปด้วยโทสะถึงขนาดนี้
“เขา..บอกผมเมื่อตอนเลิกงาน” ในที่สุดเอยก็ต้องยอมบอกไป
เมื่อเอยพูดจบ กวินก็ดึงเอยเข้ามาประกบปาก จูบที่รุนแรงบดขยี้เสียริมฝีปากเอยเจ็บไปหมด จูบที่คล้ายกำลังบ่งบอกว่าผู้กระทำกำลังรู้สึกอย่างไร เอยพยายามถอยหนี แต่ดูเหมือนกวินก็รุกล้ำไล่ต้อนเสียจนตอนนี้ร่างกายของเอยติดชิดฝาผนัง ลิ้นร้อนสอดเข้าไปในโพรงปากของเอย กวาดต้นรุกไล่จนเอยแทบจะหมดลมหายใจ
“อื้อ....” เอยพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะผลักแม้ว่าเรี่ยวแรงจะน้อยนิดสู้กวินไม่ได้เลยสักนิด ในที่สุดกวินก็หยุดการกระทำทั้งหมด ริมฝีปากของเอยบวมเจ่ออย่างเห็นได้ชัด กวินมองริมฝีปากนั้นก่อนที่จะใช้นิ้วโป้งลูบไล้เบาๆ
“มีแต่ฉันเท่านั้นที่ทำแบบนี้กับเธอได้ อย่าให้ชินภัทรเข้าใกล้เธอมากกว่าเพื่อนร่วมงาน เพราะไม่อย่างนั้นคนที่จะเดือดร้อนคือชินภัทร”
“คือผม...”
“ฉันไปล่ะ” กวินพูดแค่นั้นก่อนที่จะลุกขึ้นจากเตียงของเอย เอยจึงลุกขึ้นเดินไปส่งกวิน แม้ตอนนี้ใจจะเต้นโครมคราม ทั้งกลัวทั้งรู้สึกตื่นเต้นจนไม่ขาแทบจะไม่มีแรง มือนั้นแตะปากตนเองไปตลอดทางจนไปส่งกวินถึงที่รถ
“พรุ่งนี้ตอนเย็นทำตัวให้ว่าง” กวินพูดแค่นั้น ก่อนที่จะขึ้นรถไป
“ครับ” เอยตอบ จากนั้นกวินก็ขับรถออกไปทันที
“เป็นอะไรของเขากันนะ” เอยพึมพำพร้อมแตะปากที่บวมเจ่อของตนเอง เดินกลับเข้าไปทั้งๆที่ยังคงครุ่นคิดว่า ทำไมกวินที่รุนแรงกับตนเช่นนั้น เพียงเพราะแค่พี่ขาวบอกว่าชอบ
“หรือว่าจะหึงเหรอ” เอยพูดออกมาดังๆ รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาทันที พอดีกับที่แม่ของเอยกลับมาพอดี
“ใครหึงใครอะไรเหรอเอย?” แม่ถามอย่างสงสัย เอยได้แค่ส่ายหน้า
“เปล่าครับแม่” เอยปฏิเสธ
“แล้วนั่นปากไปโดนอะไรมาลูก บวมเชียว” แม่จ้องหน้าเอยก่อนถาม
“โดน....มดกัดครับแม่”
“สงสัยเป็นมดคงจะตัวโตน่าดู” แม่เอยบ่นก่อนที่จะปิดประตูบ้าน ปล่อยให้เอยยืนหน้าแดง ใจเต้นโครมครามอยู่หน้าบ้านคนเดียว....
++++++++++++++++++++++