DOLLFIE
ตุ๊กตาต้องสาป
12
'ถ้าไม่ให้กินก็จะไม่กิน'
'ได้ด้วยหรอ?'
'คริสไม่อยากเห็นพี่เจ็บ การกินครั้งเดียวก็อยู่ได้เป็นอาทิตย์ถ้าไม่ใช้พลังหรือให้พร'
'เอ้า! นี่กำลังนึกเลยว่าจะขออะไรดี อยากรู้ว่าจะเจ๋งจริงไหม'
รอยยิ้มชั่วร้ายผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา 'ให้ได้ แต่พรที่ให้ไปก็อยู่ที่พี่จะต้องตอบแทนคริสด้วยเช่นกัน'
'ตอบแทน?'
'ก็... จะกินมากกินน้อยก็คงขึ้นอยู่กับพรที่เจ้านายขอมาว่ามันอยู่ในระดับยากมากแค่ไหน"
'นายนี่มัน... เป็นตุ๊กตาที่ตะกละจริงๆ!'
"..."
เฮ้อ...!
ฮื้อ...!
ฮ้า!
ป้าบบบบบบบบบ!!!!
"ไอ้สัดไก่!"
ผมนี่แทบจะเอี้ยวตัวจระเข้ฟาดหางไอ้ห่าไก่เลยครับ คนกำลังนั่งกลุ้มอยู่ที่ซุ้มอยู่คนเดียวเพลินๆมันมาจากไหนก็ไม่รู้เดินดุ่มๆแล้วตบมาที่หัวผมซะได้ ไอ้นี่สงสัยอยากโดน อยากได้อยากโดนเดี๋ยวเต๋าจัดให้!
ผมนี่ลุกขึ้นยืนเตรียมจะโบกคืนเลยครับ!
"เอ้า! ก็กูเห็นมึงนั่งเหม่อคิดว่าวิญญาณจะออกร่างกูเลยดึงวิญญาณมึงกลับมา" มันรีบถอยหลังหนีผมที่จะเอาคืนแล้วยังมีหน้ามาพูดติดตลก มันยิ้มแบบกวนตรีนมาก
"วิญญาณออกบ้านมึงสิ" หน้าตึงใส่มันไปทีแล้วกลับไปนั่งชันศอกมองเข้าไปในซุ้มที่เงียบเหงา เที่ยงๆแบบนี้พวกไปกินข้าวกันหมด มีแต่ผมนี่แหละที่นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย อีกทั้งตอนนี้ยังไม่มีอารมณ์ที่จะทะเลาะกับใครแม้แต่ไอ้ไก่ก็ยังสังเกตเห็น
"เป็นไรมึง" มันตบไหล่ผมแล้วข้ามเก้าอี้มานั่งข้างๆ "วันก่อนกูโทรไปก็ไม่ยอมรับสายแถมไม่เข้าเรียนอีก ถามจริงเทอมนี้มึงเป็นอะไรวะ?"
"กูเป็นคนไงไอ้ฟาย"
"เอ้าไอ้ห่าถามดีๆ" ผมหันไปหาไอ้ไก่ที่เบะปากใส่ผมแบบเอือมๆ ส่ายหน้าเนิบๆแล้วก้มลงรื้อสมุดวาดเขียนของมันขึ้นมาวาดรูปเล่นแก้เบื่อตามปกติ
"กูไม่สบายไงถามแปลก นานๆไข้จะแดกทีมันก็เป็นแบบนี้แหละ" มันพยักหน้าเนิบๆไปที
"แล้วหายยังล่ะมึง คนอื่นเขาเป็นห่วงจะโทรหาก็เสือกปิดเครื่อง แถมกูก็ติดทำงานกลุ่มเลยไม่ได้เข้าไปดูมึงเลย"
"อือ หายแล้ว" ผมตอบมันตาก็ลอยไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย สักพักไอ้ไก่มันก็ค่อยๆเหล่มามองด้วยสายตาที่ดูแปลกๆ สักพักมันก็จุดยิ้มที่มุมปากกวนๆตามสไตล์มัน
เอิ่ม...
"ยิ้มเหี้ยอะไรละครับ?" ถามมันแบบสงสัย สายตามันนี่ไม่น่าไว้วางใจเลยว่ะ
"ยิ้มไก่ครับไม่ได้ยิ้มเหี้ย ว่าแต่หายไวจังเลยเนอะไข้น่ะได้ใครช่วยดูแลวะ?" แล้วมันก็ยิ้มแบบกวนๆจับผิดยังไงไม่รู้
"อะไรของมึง กูไม่สบายแล้วจำเป็นต้องมีใครดูแลด้วยหรอวะ" ผมนี่ค่อนข้างงงกับคำถาม และท่าทางของมันจริงๆ ไอ้ห่าไก่มันเริ่มหลิ่วตาลง มุมปากมันค่อยๆยกขึ้นอย่างช้าๆ แล้วมองผมประมาณว่าแน่หรา...
ถ้าเกิดผมรังแกไอ้สัตว์! ไก่ นี่จะบาปปะครับ? แต่ถ้าเอาสะใจผมว่าไม่นะ ดูท่ามันอยากจะกินตีนมากบางทีผมอาจจะได้บุญมากกว่าที่ช่วยสงเคราะห์เป็นบาทางามๆไปป้าบ!
"กวนตีนหรอ?" ผมถามมันหน้าซื่อๆยิ้มกวนมันกลับไป
ไอ้ไก่มันร้อง "ป๊าว!" เสียงสูง "กูก็แค่เห็นว่าช่วงนี้มึงดูแปลกๆ แล้วก็ชอบหายเงียบไปไม่ค่อยมานั่งก๊งกับพวกกูเท่าไร"
"แค่อาทิตย์สองอาทิตย์นิดๆเนี่ยนะ?"
เลิกคิ้วถามมันแบบ... อะไรของมึง? กูหยุดไปนิดเดียวเองน๊า! แต่อันที่จริงมากกว่านั้น
มันพยักหน้าเหมือนจะงอแงทำปากยื่นๆจนน่าดึง แล้วช้อนดวงตามองผม... ทำเอาซะกูขนลุกเลยไอ้สัดไก่! "ก็กูคิดถึงมึงไง ไม่รู้เป็นไรคิดถื้งงงงงง คิดถึงๆๆ" แล้วมันก็ทำหน้าแบบคิกขุอาโนเนะยกกำปั้นขึ้นแนบหน้าอกแล้วทำหน้าอ้อนๆซบมาที่ไหล่
"..."
กูจะถือว่ามึงทำแล้วไม่อุบาทว์ยอมปล่อยมึงไปสักครั้งก็แล้วกันนะไอ้เพื่อน...
"เอาหน้ามึงไปไกลๆเลย" พยายามดันหัวมันที่ยังกวนไม่เลิก ไอ้นี่มันจงใจยั่วโมโหผมอีกแน่ๆ สงสัยมันคงจะโรคจิตไปแล้ว เฮ้ย ออกไป!
"อะไรวะแค่นี้ต้องผลักไสไล่ส่งด้วยทีเมื่อก่อนละไม่เคยหวงตัว ฮั่นแน่แอบมีกิ๊กใช่มะ?"
ผมเอามืออังหน้าผากมัน "ก็ไม่ร้อนนี่หว่า"
ไอ้ไก่มันเลิกคิ้วงงๆ "ทำไรวะ?"
"วัดไข้ไง กูจำมาจากไอ้เป็ด ตัวมึงก็ไม่ได้ร้อนแล้วทำไมเลอะเลือนงี้วะ? ถามจริงมึงติดเชื้อมาจากพวกอีแคทปะ?"
มันยักไหล่ "แหมะ กูก็แค่ล้อเล่นเห็นมึงเหม่อๆ แล้วตกลงเป็นส้นตีนไรครับ?" มันเริ่มกลับเข้าสู่สภาวะปกติเป็นไอ้ไก่เจ้าคำถามอีกครั้ง
ผมแค่เบะปากแล้วหันใบหน้าหนีสายตาที่กลับมาจับผิดอีกแล้ว "แล้วมึงจะให้กูเป็นอะไรล่ะเพิ่งกินอิ่มก็ง่วงเป็นปกติ" แถไปเรื่อยเพราะไม่อยากให้ไอ้เพื่อนมันเป็นกังวลเพราะผม จะให้บอกไปได้ไงวะว่าเครียดเรื่องตุ๊กตา
พักหลังๆคริสไม่ค่อยจะโผล่ออกมาเป็นคนเท่าไรส่วนใหญ่มักจะเอาแต่นอนอยู่ในร่างตุ๊กตาอยู่ท่าเดียว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เอ่ยปากว่าหิวอีกแล้วซึ่งผมแอบดีใจเหมือนถูกหวยก็ตาม แต่ก็เป็นห่วงว่าเขาจะอยู่ได้หรือถ้าไม่กิน หรือว่าคริสจะไม่สบายกันวะ?
หืม?
ผมมองมือใหญ่ๆของไอ้ไก่ที่โบกอยู่ตรงหน้าเลยหันไปมองมันที่ทำหน้าเหมือนข้องใจในตัวผม
"เป็นไรวะหลุดเข้าไปอยู่ในมิติที่สี่อีกแล้วหรือไง?"
"เปล่า..." ผมตอบมันสั้นๆแต่ดูเหมือนว่ามันไม่เชื่อเท่าไร
"มีเรื่องกลุ้มใจอะไรปรึกษากูได้นะเว้ย ยังไงกูก็เป็นเพื่อนมึง" มันทำหน้าเหมือนเป็นห่วงผมมาก
ส่วนผมนี่ได้แต่มองมันตาปริบๆ ฮรึก! ซึ้งว่ะครับ "ขอบใจวะเพื่อนแต่มึงช่วยกูไม่ได้หรอก" แล้วผมก็ฟุบหน้าลงไปกับโต๊ะหินอ่อน เพราะไม่อยากจะเผชิญหน้ากับไอ้ไก่ที่อยากจะรู้ว่าผมเป็นอะไรกันแน่ ซึ่งอันที่จริงแล้วผมก็ไม่รู้ตัวเองเหมือนกันว่าเป็นอะไร เวลาที่อยู่ที่ห้องกับคริสแม้ว่าเราเริ่มจะคุยกันบ้างแต่ส่วนใหญ่มักจะเป็นผมที่เปิดประเด็นพูดก่อนมากกว่า ผมอุตส่าห์ทำตัวเป็นเจ้านายที่ดีแล้วนะแต่ทำไมมันถึงได้ทำตัวห่างเหินผมนัก หรือว่ามันจะแกล้งทำเป็นไม่สนใจเพื่อยั่วโมโหผมกันแน่ เหอะ! ไอ้ตุ๊กตาบ้า!
"แล้วมึงเป็นอะไรกันแน่วะ? นี่ถ้าเป็นไอ้แบคกูคงนึกว่าแฟนมันไม่ให้เอาแล้วนะเนี่ย"
ผมตะแคงหน้าไปทางมันพร้อมๆกับย่นคิ้วด้วยความงง "ยังไงวะ?"
มันหลิ่วตาลงแล้วโน้มหน้ากระซิบใกล้ๆหูของผม "เอ้า! มึงไม่เคยสังเกตหรอ? เวลาที่แฟนมันไม่ให้ มันไม่หงุดหงิดก็หงอยเหมือนมึงนั่นล่ะ... เฮ้ย!" แล้วมันก็ดีดตัวลุกดึ๋งมองผมเหมือนเป็นตัวประหลาด นี่ผมเริ่มสงสัยในสติของไอ้เพื่อนผมคนนี้แล้วล่ะครับ
"อย่าบอกนะว่าที่ไอ้หวานเล่าจะเป็นเรื่องจริง"
อะไรของมันวะ?
ผมลุกขึ้นนั่งแล้วมองมันงงๆ ทำไมต้องเอ่ยถึงไอ้หวานด้วยกูไม่เข้าใจ อธิบายด่วน! "อะไรของมึงเนี๊ยะ!"
มันอ้ำอึ้ง "เอ่อ... ตอนแรกกูก็ว่าจะแซวมึงเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามึงจะมีแล้วจริงๆ"
คิ้วผมที่มันกำลังย่นเข้าหากันนี่แทบจะเป็นรางรถไฟเหาะอยู่แล้วล่ะครับ พร้อมด้วยต่อมสงสัยที่ถูกกระตุ้นด้วยไอ้บ้าที่อยู่ตรงหน้า มันทำตัวแปลกจริงๆ
"มีอะไรวะ?"
มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ได้รีบๆพูดมาสิฟระ! เดี๋ยวพ่อยันโครม... อันนี้พยายามคาดคั้นมันทางสายตาตอนที่มองไอ้ไก่กำลังทำตัวน่าสงสัย
"ก็... วันก่อน" มันเงียบไปเหมือนพยายามคิดว่าจะพูดดีไหม เเต่สุดท้ายมันก็พูดออกมา "กูเจอน้องหวานบนรถกูเลยเข้าไปจีบน้องมัน"
ผมพยักหน้า "แล้วไง" จีบไอ้หวานมันแปลกตรงไหนวะ หรือว่าไอ้หวานมันเล่นตัว?
ไอ้ไก่มันยิ้มแหยๆ "แต่เหมือนมันจะรู้ทันก็เลยดักคอกู ปรากฏว่าแห้วแดก"
"เออสมควร" ผมส่ายหน้าแบบเอือมๆแล้วหันสายตามองไปทางอื่น
ไอ้น้องหวานมันค่อนข้างที่จะเล่นตัวเหมือนกันครับ แน่นอนว่าหน้าตาอย่างมันนี่เลือกได้ แต่บางทีมันก็เล่นตัวจนเกินไปจนน่าดีด แต่มันก็เป็นอดีตไปแล้วเมื่อไอ้อกไข่ดาวมันไม่ผ่านคิวซีเต๋า และถึงไอ้ไก่มันจะเล่าให้ผมฟังยังไงก็คงไม่เหมือนเมื่อก่อนที่จะต้องหูผึ่งของขึ้น ถึงกับถกแขนเสื้อแล้วประกาศแข็งกร้าวแบบนักเลงว่า ไอ้หวานน่ะกูเล็งเอาไว้แล้วเว้ย! ทุกวันนี้เจอหน้ามันทำได้แค่ยิ้มทักหรือไม่ก็ไปหลอกกินน้ำฟรีไรงี้ ส่วนเรื่องอื่นนี่ไม่ได้สนใจนานแล้วครับ
หลังจากที่ไอ้ไก่มันเอาแต่นั่งมองผม และเงียบไปครู่เพื่อให้เวลาผมได้บ่นถึงไอ้หวานให้พวกคุณฟัง ไอ้ไก่มันก็เริ่มพูดอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ทำเอาซะผมหูผึ่งขึ้นมาในทันที
"แต่... มันกลับเปลี่ยนเรื่องคุย แล้วเม้าว่ามึงแอบซุกเด็กไว้ในห้องว่ะ"
"ฮะ!"
ผมนี่หันขวับกลับไปมองมันแทบคอเคล็ด เผลอร้องซะดังลั่นจนไอ้ไก่มันมองผมแบบอึ้งๆสักพัก... "ฮ่นแน่! มีจริงๆสิมึงปฏิกิริยามันฟ้อง อยู่กินด้วยกันแล้วสินะ ชื่อไรวะ? เด็กคณะเราปะหรือเด็กที่อื่น โหยๆๆๆ นี่กูไม่ได้ไปหาหน่อยเดียวริอาจนอกใจกูหรา"
เหล่มองไอ้คนที่มันกำลังกอดคอผมแล้วยิ้มกวนๆเหมือนคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้ เลยกระทุ้งศอก "ไม่ใช่เว้ย! ไม่มี!"
"อุก!" มันร้องแล้วรีบผละออกก่อนจะหันมามองผมเหมือนจะล้อเลียน"หรา..."
ผมว่าเมื่อกี้ผมคงกระทุ้งศอกเบาไปนะ...
"เออ ไม่มี! มีที่ไหนวะห้องกูมีแต่มินนี่ ลูลู่ เซย์ แล้วก็คริส มึงอยากรู้ไหมละว่ากูคบกับใครอยู่?" แล้วผมก็ยักคิ้วกวนๆใส่มัน ไอ้ไก่มันเบะปากแล้วเอาสมุดวาดเขียนตีมาที่หัวผมเบาๆ
"อุ๊ก! ไอ้หะ...."
"คบกับคริสไงทำไมกูจะไม่รู้เห็นมึงเห่อจะตายห่า"
"..." ผมมองมันตาปริบๆตั้งท่าจะด่าแต่พอได้ยินมันพูดนี่ถึงกับด่าไม่ออก พร้อมๆกับเลือดที่เห่อขึ้นมาบนใบหน้า ร้อนวูบวาบชอบกล
เอิ่ม... ทำไมผมต้องหน้าแดง และรู้สึกเขินตอนที่ไอ้ไก่มันบอกว่าผมกับคริสคบกันด้วยวะ! ไม่เอาๆไม่คิด ไม่พูด ห้ามพูดห้ามคิดนะว่าผมกับคริสเราคบกันอยู่ ผมเป็นแค่เจ้านายมันเท่านั้น! แถมเรายังเป็นผู้ชายทั้งคู่! แล้วเสียงหนึ่งก็แว่วมา (ผู้ชายคบกันแปลกตรงหนายยยยย!) แปลกตรงที่มันเป็นผมนั่นล่ะโว้ย!
"หน้าแดงทำไมวะ? อย่าบอกนะว่ามึนเขินที่กูพูดเมื่อก่อนหน้า..."
"อะ อะไรมึง จะบ้าปะ? กูจะเขินทำไมแล้วอีกอย่างคริสเป็นแค่ตุ๊กตา" แล้วผมก็แสร้งทำเป็นไม่ได้สนใจมันเท่าไร
"หรา กูก็นึกว่ามึงจะอยู่กินกับตุ๊กตามึงไปตลอดชีวิตซะอีก ก็อย่างว่าละวะผู้หญิงที่ไหนเขาจะมาชอบผู้ชายมุ้งมิ้งเล่นตุ๊กตาอย่างมึงวะถ้าเกิดเขารู้ความจริง"
"ไอ้ห่าไก่นี่มึงหลอกด่ากูป่าวเนี่ย?" มันเริ่มจะเกรียนผมขึ้นมาอีกละไอ้เพื่อนรักหักเหลี่ยมไก่เนี่ย
"ป๊าว! กูก็แค่คิดเป็นห่วง ใครๆเขาก็กลัวว่ามึงจะไม่มีแฟนกันทั้งนั้น นั่นก็ไม่เอานี่ก็ไม่เอา สาวมาจีบบอกแก่เกินไป ไปจีบเขาเสือกบอกหน้าอกเล็ก ผู้ชายมาจีบเสือกไปต่อยเขา"
"เป็นมึงไม่ต่อยหรอสัดไก่ ลองให้มันมาจับก้นมึงแล้วบอก พี่ชอบเรานะ แบบนี้เอาไหมล่ะ!" ค่อนข้างที่จะเริ่มของขึ้นเมื่อไอ้เพื่อนมันกำลังแฉวีรกรรมของผมเมื่อนานมาแล้ว ไม่จรีงงงงงงไม่จริง! เต๋าออกจะเป็นคนดี เป็นผู้ชายแมนๆที่กำลังรอความรักที่ใสบริสุทธิ์ ถึงแม้ว่าตอนนี้ความบริสุทธิ์มันจะไม่เหลือแล้วก็ตามเถอะ... ฮือ... เพราะไอ้ตุ๊กตาบ้านั่นแท้ๆ!
"ฮ่าๆ ๆไม่เอาอ่ะ" มันส่ายหน้ารัวๆแถมด้วยการกอดตัวเองแบบขนลุก เมื่อนึกถึงตอนที่ไปรับน้องตอนช่วงปีหนึ่ง ปีนั้นเป็นปีซวยมากเมื่อรุ่นพี่ที่เป็นตุ๊ดพวกพี่เขาค่อนข้างที่จะแรดแรงกันไปนิดนึง พอมันหมายตาพวกผมก็เลยโดนให้เต๋ายำบาทาเข้าให้จนเกิดเรื่องราวใหญ่โต แต่ดีที่ว่าเจ้าทุกข์ (ซึ่งมันควรจะเป็นผม) ยอมความก็เลยปล่อยๆมันไป แต่ทุกวันนี้ก็ไม่กล้าเฉียดไปที่ตึกกิจกรรมอีกแล้วล่ะ...
"เออ แล้วไอ้หวานมันไปเอาเรื่องนั้นมาจากไหนวะ?" ยังคงข้องใจอยู่
ไอ้ไก่มันส่ายหน้า "ไม่รู้ว่ะ สงสัยมันเข้าใจผิดมั้ง ไม่ก็มึงนั่นแหละที่เสือกไปเดินควงกับใครเข้าแล้วมันเห็นก็เลยมโนเองไรงี้"
ตอนนี้สมองผมกำลังประมวนผลอย่างฉับพลัน...
เดินควงกับใครหรอ? ทั้งอาทิตย์นี่ก็ไม่ได้ควงใครเลยนา แถมด้วยการจีบเขาให้ติดก่อนเถอะค่อยมีเด็กมาควงแขนน่ะ แล้ว... ไอ้หวานมันเห็นใครวะ? นอกจากคริสที่พักหลังๆผมกับมันมักจะออกมากินข้าวต้มหน้าปากซอยกันบ่อยๆ เพราะมันบอกว่าไม่อยากใช้พลังมากเดี๋ยวเกิดหิวขึ้นมาจะหน้ามืดจับเต๋าปล้ำอีก... เอ่อ... แล้วทำไมผมต้องเล่าให้ฟังด้วยวะ! อุตส่าห์จะกั๊กไว้
อ่ะแฮ่ม... อันที่จริงเพราะผมห่วงว่ามันจะไม่สบายเพราะไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วนั่นล่ะครับ แถมผมก็ไม่ยอมให้กินด้วย ขอพรครั้งนึงต้องให้กินไอ้นั่นเพื่อทดแทนพลังที่สูญเสียนี่มันเป็นข้ออ้างของคนหื่นปะครับ? แค่ครั้งสองครั้งนี่ก็เกินแรงไอ้เต๋าแล้วนะ!
ชะอุ้ย!
ตกใจไอ้หน้ากวนๆของไอ้ไก่ที่จ้องผมเขม็งตอนที่กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย ไอ้เพื่อนมันรีบพูดเลย "ดูมีพิรุธนะ มึงน่ะกูว่า..." มันก็แกล้งมองมาที่ตัวผม "กูได้กลิ่นตุ่ยๆ"
"ตุ่ยพ่อง!"
ป้าบ!
แล้วผมก็ตบไปที่หน้าผากมันแรงๆด้วยความหมั่นเขี้ยว ไอ้ไก่รีบเอามือถูๆด้วยความเจ็บแล้วด่าผมแบบงอนๆ ทำแก้มพองให้ดูน่ารักมุ้งมิ้ง แต่จากน่ารักนี่ควรเปลี่ยนเป็นน่าลักไปกระทืบซ้ำมากกว่านะ
"ตบหัวกูไมอ่ะ"
"เอาคืนไงไอ้ห่า! กวนตีนกูจังเลยนะมึงเนี่ยชอบเล่นบทเป็นโสรยาหรือไง"
"เปล่าเว้ย! กูเป็นโสรยาก็ยังดีกว่ามึงที่ชอบเล่นหนังแขกนั่นล่ะ ไหนๆก็ไหนๆแล้วกูถามจริงทำไมพักนี้มึงชอบหลบหน้าพี่โอวะ?"
ผมมองมันตาปริบๆก่อนจะตอบหน้าตาย "กูหลบไงวะ?" จำได้แค่ว่าไม่ค่อยได้เจอพี่แกเลยนี่หว่า แล้วกูไปหลบหน้าพี่เขาตอนไหน?
" นี่มึงตอบจริงหรือกวนตีนวะเนี่ย?" มันถามผมเหมือนจะยั๊วะโมโหแล้วเหมือนกัน ผมเลยยิ้มแหยๆ
"ฮ่าๆ กูล้อเล่น แหมทีกูเอาคืนล่ะทำเป็นขรึม" เบะปากใส่มันไปที
"เอาจริงๆดิเฮ้ย พี่เขาโกรธมึงมากเลยนะวันนั้นน่ะที่มึงกลับบ้านไปกับน้องมึง แถมมึงไม่โทรไปขอโทษหรือขอบคุณที่เขาหวังดีกับมึงด้วย ไอ้เต๋าเอ้ย! มึงโดนพี่โอเตะแน่ถ้าเกิดพี่เขาเจอมึง"
"จริงหรอวะ?" ค่อนข้างที่จะกังวลเพราะไม่อยากมีปัญหากับพี่ๆในซุ้ม พวกผมค่อนข้างที่จะเคารพรุ่นพี่กันมากเพราะพวกพี่เขามักจะเลี้ยงเหล้าพวกเราบ่อยๆ นี่ถ้าเกิดมีเรื่องบาดหมางกันเองคงไม่มีใครออกค่าเหล้าให้อีกต่อไปแน่ๆ แล้วมันอาจจะเดือดร้อนมาถึงกระเป๋าตังของพวกผมก็เป็นได้...
แต่... มันใช่เวลามาคิดถึงเรื่องนี้ไหมเนี่ย!
ไอ้ไก่มันพยักหน้า "เออ แต่ดีที่ว่าช่วงนี้พี่เขาไม่ค่อยเข้าซุ้มอยู่แล้วด้วยมึงเลยรอดไป แต่เดี๋ยววันเกิดไอ้แบคมึงต้องซื้อเหล้าไปเซ่นพี่เขาแทนคำขอโทษด้วยนะมึง เออ! แล้วเรื่องงานซุ้มอีกอย่าลืมนะ"
โหยนี่ถ้ามันไม่พูดไม่บอกไม่ย้ำไม่เตือนไอ้ที่มันพูดสั่งออกมานี่ผมคงไม่ได้ทำเกือบทั้งหมด มัวแต่ยุ่งเรื่องของคริสนี่ผมลืมไปเสียฉิบ!
"เออขอบใจที่เตือน"
ไอ้ไก่มันตบไหล่ผมปักๆ "เออๆไม่เป็นไร แต่ขอเปลี่ยนคำขอบคุณเป็นให้กูไปค้างห้องมึงแทนก็แล้วกัน"
"เรื่อง?"
"พอดีน้องกูมันโทรมาบอกว่ายืมห้องทำรายงานกลุ่มคืนนึงว่ะ"
"ก็เลยเดือดร้อนกูเนี่ยนะ" ผมชี้ตัวเอง ไอ้ไก่พยักหน้าหงึกหงักแล้วยิ้มกวนๆเอาแขนโอบไหล่ผมแล้วทำหน้าทำตาแบบเจ้าเล่ห์มาก...
"กูจะไปพิสูจน์ด้วยว่ามึงไม่ได้ซุกสาวหรือเด็กน้อยเอาไว้ในห้องของมึงจริงๆ หึหึ"
นี่ทำได้แค่มองหน้ามันตาปริบๆเลยครับ...
โถ... ไอ้ไก่ อยากจะไฟว์วินนิ่งกับกูก็บอกมาเถอะ! ไม่ต้องเอาเรื่องน้องมึงมาอ้าง
ว่าแต่... มันใช่เวลามานึกถึงเรื่องนั้นไหมเนี่ย! ถ้าไอ้ไก่ไปค้างห้องผมแล้วคริสไม่หงุดหงิดแย่หรอวะที่จะต้องอยู่ในร่างตุ๊กตาไปยันเช้า... ไม่สิพรุ่งนี้วันหยุด...
ผมนี่นึกถึงหน้าตอนที่เขาเห็นไอ้ไก่โผล่ไปที่ห้องผมไม่ออกเลยล่ะครับว่ามันจะเป็นยังไง แต่ที่รู้ๆ... เขาค่อนข้างที่จะหงุดหงิดเพราะไม่ได้กินผมมาหลายวันแล้วนั่นล่ะประเด็น...
เอ... หรือผมจะจับไอ้ไก่แก้ผ้าแล้วสังเวยมันให้คริสกินแทนผมดีวะ? อืมๆๆ น่าจะดีนะ อยากกวนตีนผมดีนัก...
รู้สึกเหมือนตัวเองชั่วร้ายขึ้นมายังไงชอบกล หึหึ
........
เพิ่งจะได้ว่างปั่น เเต่ก็ดึกมากเเล้วยอมรับเลยว่าง่วงมาก
เเต่งกลางคืนนี่สมองเบลอตบมุกไม่ออกเลยจริงๆ