บทที่6
ไม่นานนักผมกับมันก็เจอกันที่ห้องทำงานผมในโรงแรมของผม
“พี่ทอสสวัสดีครับ”แฟนมันชื่อเชน เป็นหมอที่หน้าตาท่าทางไม่ว่าจะมุมไหนก็ผู้ชาย ยิ่งเจอวันนี้ตัดสกินเฮดมากอีกยิ่งหนักเลย
“สวัสดีครับ”ผมรับไหว้
“ทีผัวไม่เคยเห็นไหว้”ไอ้คินมันก็แขวะเมียมัน
“ผมไม่ไหว้ให้เสียมือหรอก”เจ้าตัวว่างอลๆก่อนจะลงไปนั่งที่โซฟารับแขกตามด้วยไอ้คิดที่นั่งชิดจนน้องเชนแทบจะนั่งบนตักมันอยู่แล้ว ตัวก็ไม่ต่างกันสักเท่าไหร่ พูดได้เลยว่ายังไงก็ไม่เหมือนเกย์
“เข้าเรื่องเลยไอ้สัส”ไอ้คิดเริ่มเข้าประเด็นเมื่อมันนึกขึ้นได้
“ก็อย่างที่กูบอกกูเคยมีอะไรกับมัน”ผมว่าอย่างเริ่มหนักใจ
“ไอ้เหี้ย กูไม่ค้นมาเมื่อกี้ มึงรู้ไหมมันลูกนายพลเก่าเลยนะมึง แต่ขอเกษียรก่อน กูไปถามๆมาแม่งอย่างโหด”ไอ้คินเริ่มอธิบาย
“เรื่องนั้นช่างก่อน กูเพิ่งรู้มาว่ามันท้อง”ผมเริ่มเข้าประเด็น
“ท้อง!”ทั้งน้องเชนและไอ้คิดพูดขึ้นพร้อมกันอย่างตกใจ
“เออ”
“ผู้ชายนะไอ้สัส ท้องได้ไง”ไอ้คินว่า
“จริงหรอพี่ เชนนึกว่าข่าวลื้อ เมียพี่เองหรอ”น้องเชนว่าอย่างตื่นเต้นตามภาษาหมอเด็ก
“อืม แต่ยังไม่ชัวว์พรุ่งนี้กูจะขับรถไปเจอที่เชียงใหม่”ผมว่าเพราะตกลงกับแนนแล้วว่าจะไปพรุ่งนี้
“เดี๋ยวๆๆเดี๋ยวครับคุณเพื่อน มึงจะไปเจอ แล้วยังไงต่อ”ไอ้คินถามทันทีที่ผมพูดจบ
“ก็ถ้าเป็นลูกกู ซึ่งกูหมั่นใจว่าใช่กูก็จะไปพามาอยู่กับกู”ผมเริ่มอธิบายแผนคราวๆ
“แค่ลูกหรอพี่”น้องเชนถาม
“แม่ด้วย”ผมตอบ
“เดี๋ยวครับ นี่มันผ่านมา4ปีแล้วนะ มึงไปตอนนี้แล้วจะไปลากเขามามึงคิดว่าเขาจะมา แล้วอีกอย่าง พ่อแม่เขาก็ไม่ใช้คนไม่มีภูมิหลัง ถึงแม้ว่าจะย้ายที่อยู่และปิดเรื่องต่างๆ แต่ลูกน้องคนสนิทเก่าๆเขาตอนนี้ขึ้นเป็นนายพลกองทัพกันเกือบหมดแล้วนะมึง
พ่อตากูก็รู้จักเห็นว่ารุ่นเดียวกัน”ไอ้คินเริ่มอธิบาย พอรู้แบบนี้แผนผมคงไม่ง่ายอย่างที่คิด
“แล้วมึงจะให้กูทำไง มันท้องจนลูกกูโตป่านนี้ แต่กูไม่เคยรู้เลย มึงจะให้กูทำไงว่ะ 4ปี 4ปีเลยนะมึงที่กูไม่ได้อยู่ด้วย”
“พี่ทอสใจเย็นๆครับ ผมว่าเรามาวางแผนกันดีๆก่อนดีกว่า”น้องเชนเริ่มเสนอแนวทางการประชุม
“แล้วจะให้พี่ทำไง”
“พี่ก็ไปเจอเขานั้นแหละครับ แต่ก็อย่าเพิ่งทำอะไรรุนแรง ไม่ใช่ไปถึงแล้วไปลากเขามาเลย เราต้องสืบให้รู้จริงๆก่อนว่าลูกพี่จริงๆไหม และก็ต้องจัดการพวกเรื่องกฎหมายด้วย พี่ก็ไปเฝ้าแถวนั้นก่อน ส่วนเรื่อง4ปีที่ผ่านมาเดี๋ยวให้พี่คินจัดการ”น้องเชนว่า
“อ้าวซวยกูอีก”ไอ้คินที่ได้ยินเมียมันว่าร้องขึ้นมาทันที
“พี่ไม่ทำงั้น เชนจะให้พี่ดำทำ”น้องเชนว่างอลๆ ถ้าจำไม่ผิดคนชื่อดำเนี่ยน่าจะเป็นลูกน้องของพ่อเขาที่สนิทกับเชนจนไอ้คิดบ่นอยู่บ่อยๆ
“เออๆ กูทำเอง อย่าให้รู้นะไปนัดแนะกับมันอะ”ไอ้คินชี้หน้าเมียมันพร้อมรับปาก
“งั้นก็ตามนี้นะครับ พี่เชนก็พยายามพูดกับเขาดีๆก่อน แล้วกัน พี่ต้องเข้าใจด้วยเขาท้องและเลี้ยงลูกมาแทบจะเรียกได้ว่าตัวคนเดียว แล้วก็สี่ปีที่เขาต้องเลี้ยงลูกตัวคนเดียว พี่ต้องเข้าใจด้วยถ้าเขาจะพูดจาทำร้ายจิตใจประชดประชันบ้าง ไม่นานหรอกครับเดี๋ยวพอได้เรื่องอะไรแล้วเชนจะรีบโทรไปบอก”น้องเชนว่าเพราะแบบนี้ผมถึงขอให้ไอ้คินพาเมียมาด้วย น้องนเป็นคนฉลาดและเข้าใจคนอื่นเป็นอย่างดี
ใจจริงอยากจะขึ้นเครื่องไปหาซะเดี๋ยวนี้แต่แนนบอกว่าที่ๆเขาอยู่อยู่ไกลจากอำเภอเมืองถ้าขับรถไปนานหน่อยแต่จะสะดวกกว่าถ้าอยู่ที่นั้น
เช้าวันต่อมา ผมขับถึงไปบ้านแนนตั้งแต่ตี4กว่าๆ ผมไม่เข้าใจตัวเองว่าทำผมผมต้องรีบขนาดนั้น อายุก็ปาไปขนาดนี้แล้วแต่กับรู้สึกเหมือนตอนที่ตกหลุมรักใครสักคนตั้งแต่ประถม มันตื่นเต้นแต่หาเหตุผลไม่ได้ มันหน้าแปลกที่ผมก็นอนกับผู้หญิงมาหลายคนจนเรียกได้ว่านับยาก ถ้าเกิดมีใครสักคนเดินมาบอกผมว่าเขาท้อง ผมคิดว่าคงจะไม่มีทางรู้สึกตื่นเต้น แต่นี่ ทั้งๆที่ผมยังไม่แน่นใจด้วยซ้ำว่าเป็นลูกผมหรือเปล่า แต่ทำไมผมถึงตื่นเต้นขนาดนี้กัน
เริ่มออกเดินทางกันตั้งแต่ตี5 ผมขับรถด้วยความเร็วที่ค่อนข้างมากพอตัวและแทบจะไม่หยุดพักยกเว้นตอนพาแนนไปทานอาหารเช้าและกลางวัน
“พี่ทอสพักหน่อยไหมค่ะ นี่ก็ขับมาติดกันหลายชั่วโมงแล้ว เปลี่ยนให้แนนขับบ้างก็ได้นะค่ะ”แนนเสนอ
“ไม่เป็นไรครับ นอนเถอะ พี่ไม่อยากให้ถึงค่ำมาก”ผมบอกแล้วตั้งหน้าตั้งตาขับรถต่อ ไอ้คินโทรมาพร้อมเล่าเรื่องบ้างส่วนให้ผมฟังแล้ว แต่ก็ยังไม่มีอะไรที่ผมต้องการ
และเราก็มาถึง ใช้เวลานับ12ชั่วโมงในการเดินทางและผมก็มาถึง
เบื้องหน้าคือบ้าไม้สักหลังใหญ่ที่ยังมีเป็นอาคารแยกออกไปอีก2หลัง มีรถขัน7ที่นั่งสีขาวขันใหญ่จอดเทียวกับจักยานคันเล็กๆ
พอรถจอดสนิทแนนก็วิ่งเข้าไปในบ้านทันที ผมเองก็ได้แต่ลงมาขนกระเป๋าลงจากรถ ตอนนี้ผมกำลังรอที่อยู่จากไอ้คิน ผมคิดที่จะบุกไปตรงๆหรอกนะครับ แค่อยากจะรู้ว่าพวกเขามีความเป็นอยู่ยังไง
“พี่ทอสคะ”ก่อนที่ผมจะได้ยินเสียงเรียกคงอยากให้ผมเข้าไปทักทายพี่ชายของเขาก่อน ผมวางกระเป๋าไว้กับพื้นหญ้าก่อนจะเดินตรงไปยังประตูไม้บานใหญ่ที่ถูกเปิดอาไว้ พร้อมกับป้ายด้านบนที่เขียนว่า คลินิกหมอนนต์ ผมก้าวเข้าไปโดยไม่ได้คิดอะไร ในใจรอเพียงที่อยู่ของพวกเขาที่ไอ้คินกำลังหามาให้ แต่ผมก้าวเข้าในคลินิกยังไม่พ้นขอบประตู้ดีด้วยซ้ำผมก็เจอ
ไอ้เด็กนั้น
มันดูไม่ค่อยต่างจากเมื่อ4ปีมากเท่าไหร่ แค่ดูอวบขึ้นนิดหน่อยกับทรงผมซอยไล่ระดับต้นขอลงมา มันมองมาที่ผมทันที เหมือนจะจำผมได้ นั้นยิ่งทำให้ผมหมั่นใจขึ้นอีกว่าเด็กในรูปเป็นลูกผม
“คุณแม่ จีหิวฮะ”ก่อนที่เสียงเล็กๆฟังแทบไม่รู้เรื่องจะดังขึ้นพร้อมเด็กน้อยตัวขาวจะวิ่งเขามาเกาะขามัน นั้นทำให้ผมมองดูแทบจะไม่เชื่อสายตา ตอนนี้ต่อให้คนทั้งโลกบอกว่าเขาไม่ใช้ลูกของผมผมก็ไม่เชื่อ
“อ่ะ ครับ น้องจีสวัสดีพี่แนนก่อนซิครับ”มันร้องบอกลูก ก่อนที่เด็กน้อยจะยกมือเล็กๆนั้นขึ้นไหว้ผม
“สวัสดีฮับ”ความรู้สึกเหมือนเป็นคนที่โชคดีที่สุดในโลกถาโถมเข้ามา จนผมแทบจะหัวเราะออกมาดังๆ นี่ผมจะได้เป็นพ่อคนจริงๆหรอครับ ถึงผมจะแอบรู้สึกกลัวนิดๆ แต่ผมก็อยากจะสัมผัสเด็กน้อยตรงหน้านี่จริงๆ
“งั้น ดะเดี๋ยวผมกลับก่อนดีกว่า น้องจีคงหิวแล้ว”ไม่ทันที่ผมจะได้มองดูลูกของผมได้นานเท่าไหร่ มันก็ทำท่าจะหนีผมทันที
“ทานข้าวด้วยกันซิครับ”พี่ชายของแนน ร้องบอก
“ไม่เป็นไรครับ พอดีวันนี้ว่าจะทำของโปรดของน้องจี แกบ่นอยากกินหลายวันแล้วขอตัวก่อนนะครับ”แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่สนใจ
“งั้นเดี๋ยวผมไปส่งครับ”พี่ชายแนนแสดงความเป็นห่วงจนออกนอกหน้าจนผมเริ่มมีอารมณ์
“คุณหมอครับ ช่วยด้วยครับ ช่วยดูลูกผมให้ทีตัวร้อนมาหลายคืนแล้ว”แต่แล้วก็มีลูกแก่ๆคนหนึ่งวิ่งอุ้มเด็กผู้หญิงผมสั้นที่ดูแล้วคงจะอายุมากกว่าลูกของผมอยู่2-3ปี
“เอ่อ เอฟ คือ”พี่ชายของแนนยังทำท่าทางอยากไปส่ง
“ไม่เป็นไรหรอกครับเดี๋ยวผมนั่งสองแถวตาษากลับก็ได้ครับไม่ไกลอะไร คุณหมอรีบดูน้องหนูแดงเถอะครับ”จนอีกฝ่ายบอกเหตุผลถึงจะยอมปล่อยมือที่จับแขนไม่ห่างออก
“แต่ว่านี่มันเย็นแล้วนะครับ”ผมเริ่มไม่ชอบใจกับการดูแลที่มากกว่าคนไข้และหมอ
“เดี๋ยวผมไปส่งให้เองครับ”จนผมทนไม่ได้ถึงพูดออกไป ทุกคนหันมามองผมกับเกือบหมดโดยเฉพาะคนที่ได้ชื่อว่าเมีย
“ใช่ๆ เดี๋ยวให้พี่ทอสไปส่งก็ได้ค่ะ เดี๋ยวแนนจัดกระเป๋าให้เอง”ผมไม่ได้สนใจเสียงแนนเท่าไหร่แต่เดินตรงไปหาลูกของผมที่ตอนนี้ทำหน้าง่วงๆ
“ไม่เป็นไรครับผมไม่อยากรบกวน”ผมรีบปฏิเสธทันที
“คุณแม่น้องจีหิว”ลูกผมร้องบอกอีกครั้ง
“ไปเถอะค่ะ ไม่รบกวนอะไรหรอกน้องจีหิวจะแย่แล้ว”
“เอ่อ.
“ไปครับ น้องจี”ผมเดินเข้าไปหาเด็กน้อย ก่อนที่เข้าจะส่งมามาทางผม ผมกลับรู้สึกกลัวขึ้นมาซะอย่างนั้น แต่แล้ว ผมก็ยื่นมือไปจับมือเล็กนั้นอย่างตื่นเต้น เด็กคนนี้คือลูกของผม น้องจี โชคดีจริงๆที่แข็งแรง ใจผมเต้นโครมครามจนผมแทบทำอะไรไม่ถูกอยากจะโทรไปบอกไอ้คิน บอกเมียมันและบอกคนทั้งโลก ว่าผม มีลูกชายที่น่ารักขนาดนี้
แต่ในขนาดเดียวกันความรู้สึกผิดของผมกับเริ่มมีเข้ามา ไม่รู้ว่าตลอด4ปีที่ผ่านมา พวกเขาใช้ชีวิตกันยังไง สบายดีไหม และน้องจีโตขึ้นยังไง เวลา4ปีที่ผมเอาแต่เรื่อยเปื่อยไปวันๆ แต่กับอีกคนกับมีลูกที่น่ารักขนาดนี้ขึ้นมา ผมแทบไม่อยากรออะไรแล้ว อยากจะพาไปอยู่ด้วยซะเดี๋ยวนี้เลย
ผมขับรถพามันมาส่งบ้าน ตลอดทางมันแทบจะไม่พูดลูกผมหลับไปแล้ว แต่คนเป็นแม่กลับหน้าบึ้งตลอดเวลา เราคุยกันและมีปากเสียงกันแทบจะทันที ผมเดือดทันที ที่มันบอกว่าน้องจีไม่ใช่ลูกผม นั้นเป็นประโยคที่ผมไม่ต้องการได้ยินจากปากมันคนเดียวบนโลก
กว่าจะถึงบ้านก็ทะเลอะกันหลายรอบ บ้านมันเป็นบ้านปูนหลังพอประมาณ2ชั้น มีต้นไม้และดอกไม้เยอะมาก จนผมกลัวจะมีพวกสัตว์อันตรายซ่อนอยู่ เริ่มอดห่วงไม่ได้
พ่อแม่มันเดินออกมาเขาทำหน้าตกใจทันทีที่เห็นหน้าผม มองจากสายตา ผมคิดว่าพวกเขารู้ อาจจะเพราะว่าเขาก็คือพ่อแม่เหมือนกัน
ผมรีบขับรถกลับมาบ้านและโทรหาไอ้คินทันที
“กูเจอแล้ว กูเจอแล้ว”ผมรีบร้องบอกทันทีที่มันรับสาย
“เออๆๆ ไอ้เหี้ยตะโกนมาได้ เจอเหี้ยอะไร”มันตะโกนกับมาแบบโกรธๆ
“ลูกกู เมียกูด้วย”ผมรีบบอก
“ไอ้มั่ว มึงเพิ่งเจอ ลูกมึงเมียมึงเขาคิดว่ามึงเป็นพ่อเป็นผัวหรือเปล่า”ตอนนี้ผมอยากจะถีบมันจริงๆเกลียดมันก็เพราะแบบนี้จี้ถูกจุดทุกครั้ง
“เรื่องของกู เรื่องที่กูขอไปถึงไหนแล้ว”ผมรีบถาม
“เออ กูดูคราวๆแล้ว หลังจากนั้น2เดือนมันก็ย้ายบ้าน ขายทุกอย่างและก็ไปอยู่เชียงใหม่ ดูๆแล้วมันก็ท้องและก็รักษาตัวอยู่ที่คลินิกพี่แฟนมึง จากนั้นก็เลี้ยงลูก เข้าทำงานในโรงเรียนอนุบาลที่นั้น เมื่อปีก่อน ก็ไม่มีอะไรแล้ว”มันว่า นั้นแสดงว่าน้องจีคือลูกผมจริงๆ
“เออ ขอบใจ ฝากบอกน้องเชนด้วย”
“แล้วมึงจะเอาไงต่อ”
“กูก็จะรีบเอาเขามาอยู่ด้วย เวลา4ปีที่กูกับลูกเมียอยู่ห่างกัน มันมากเกินพอทั้งชีวิตแล้ว”ผมพูดบอกก่อนที่ไอ้คินจะวางสาย ในเวลานั้นผมคิดแต่จะเอาพวกเขามาอยู่ด้วย โดยที่ผมไม่รู้ตัวเลยว่าแนนยืนฟังทุกอย่างอยู่
วันต่อมาพี่ชายแนน ชื่อนนต์ อายุมากกว่าผม2ปี ก็พาผมกับแนนไปเที่ยว แต่ก็ไม่ลืมจะไปชวนลูกเมียผม แต่ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ว่าง
เรามาเที่ยว แต่ก็ลืมซื้อของหลายอย่างจึงแวะเข้าไปในตัวเมือง แนนขอตัวเข้าห้องน้ำ ส่วนผมก็เดินเล่นแถวนั้น แต่แล้วก็เจอลูกเมียของผมที่กำลังคุยกันอย่างสนุกกับผู้ชายแปลกหน้า
ขาผมก้าวไปเองอัตโนมัติ
“น้องจี มาหาพ่อครับ”น้องจียื่นแขนออกมาเป็นการบอกให้ผมอุ้มทันที ปากเล็กๆเลอะคาบนม ผมใช้มือใช้ให้โดยไม่คิดอะไร มันหน้าแปลกที่เหมือนร่างกายของผมขยับไปเอง แต่ผมก็รู้สึกดี
ผู้ชายคนนั้นดูจะตกใจไม่น้อยที่รู้ว่าคนที่กำลังม่ออยู่นั้นมีผัวเป็นตัวเป็นตน
ผมอุ้มน้องจีเดินส่วนแม่เขาก็รีบเข็นรถตามทันที ยังไม่วายชวนทะเลอะด้วยประโยคเดิมๆจนผมเผลอ ทำร้ายเขาไปเพราะความไม่พอใจ น้องจีเองก็ดูจะตกใจ แต่พอกลับสู่อ้อมกอดของแม่ก็ดูจะทำเอาบรรยากาศดีขึ้นมาทันที
““จีอยากได้กันดั้มฮะ พ่อฮะซื้อให้จีหน่อย”น้องจีพูดออกมาเสียงเล็กหน้ารัก คำว่าพ่อ มันทำเอาผม แทบจะลงไปกองกับพื้น เวลานั้น ผมกลับรู้สึกว่าต่อให้ต้องตายก็จะเลี้ยงดูเขาให้เติมโตขึ้นมาอย่างดีที่สุดให้ได้
แต่แล้วแนนที่วิ่งหาผมก็มา ผมเริ่มทบทวนความคิดและไม่อยากรีบร้อนจึงปล่อยลูกผมไป
ผมเพิ่งสังเกตว่าเหมือนแนนจะดูออก แต่ก็ไม่พูดอะไรออกมา
ตกเย็นเรากลับบ้าน ผมรู้สึกทนไม่ไหว จึงขอคุยกับเธอ
“แนนพี่คุยอะไรด้วยหน่อย”ผมเดินออกมาที่สวนข้างบ้าน
“พี่มีเรื่องสำคัญจะบอก”ผมบอกทันทีที่ดูเหมือนเราจะออกมาห่างจากตัวบ้านพอควร
“แนนไม่อยากฟัง”เธอรีบหันหลังและทำท่าจะเดินเข้าบ้าน
“น้องจีของลูกของพี่”ผมรีบบอก เธอหยุดเดินกะทันหัน แต่ก็ไม่หันกลับมามองอะไร แต่ผมพอจะรู้ได้จากไหล่ที่สั่นเทานั้น ก่อนที่เขาจะเดินเข้าบ้าน แต่ผมก็ยังได้ยินประโยคสุดท้ายออกมา
“ดูแลเขาให้ดีนะคะ”
หน้าแปลกที่ผมกลับรู้สึกโล่ง และมันน่ารังเกียจที่ผมไม่รู้สึกเห็นใจแนนสักนิด ผมรู้ว่าเธอรักผม ผมเองก็ตอบไม่ได้ว่า ถ้าไม่มีเรื่องลูกเมียของผมเข้ามาสุดท้าย เราสองคนอาจจะได้แต่งงานกัน
คืนนั้นผมยังคงนอนที่บ้านของพี่ชายของแนน ผมไม่เจอหน้าแนนอีกเลย จนสายๆของวันต่อมาที่แนนแต่งตัวให้กับหลานชายเพื่อเตรียมตัวไปโรงเรียน ใบหน้าหวานดูโทรมลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะดวงตาที่แดงที่ดูแล้วเกือบหน้าเกลียดนั้นเด่นชัดบนใบหน้าหวาน
ผมเริ่มรู้สึกขึ้นมานิดๆว่าผมเองที่เป็นคนผิดทั้งหมด เธอเป็นผู้หญิงที่ดี ผมรู้ เพราะฉะนั้น ผมคิดว่าคงไม่เสียหายอะไรถ้าวันข้างหน้าเรายังเป็นพี่น้องกันได้
หลังจากที่หลานชายออกไปเรียนโดยมีพ่อของเขาไปส่ง ผมก็มีโอกาสได้คุยกับแนนอีกครั้ง
“ไม่มีอะไรถามพี่บ้างหรอ”ผมถามเพราะบนโต๊ะอาหารเริ่มอึดอัด
“แนนได้ยินหมดแล้วค่ะ ที่พี่คุยกับพี่คิน พี่ไม่ต้องลำบากใจหรอกค่ะ”เธอพูดทั้งๆที่ม่เงยหน้ามองผมด้วยซ้ำ
“พี่ขอโทษ”มันคงเป็นคำที่ดีที่สุดในเวลานี้
“ฮือ พี่ไม่ต้องขอโทษหรอกค่ะ แนน แนนไหว แต่ขอเวลาแนนหน่อย”เธอเริ่มก้มหน้าร้องไห้ มือเรียวยกขึ้นปิดบังใบหน้าไม่ให้ผมเห็น
“เรายังเป็นเพื่อนกันได้ใช่ไหม”มันเป็นคำถามโง่ๆ แต่มันก็เหมาะที่สุดในเวลาแบบนี้
“ฮือๆ ค่ะ “แนนตอบรับแล้วร้องไห้หนักขึ้น ก่อนที่เขาจะวิ่งขึ้นไปบนห้อง ส่วนผมก็ได้แต่มองจานข้าว ที่ยังไม่พร่องเลยสักนิด
ผมขึ้นไปเก็บกระเป๋าและข้าวของ ก่อนที่จะออกไปพักที่โรงแรม
ผมใช้เวลาเป็นวันสำหรับเตรียมการหลายๆอย่างเพื่อเอาลูกไปอยู่ด้วย ผมโทรสั่งเลขาที่โรงแรมให้ส่งงานทุกอย่างมาที่นี่ ยกเลิกการประชุมทุกอย่าง และขอให้พี่ชายของผมเข้ามาดูแลแทนสักเดือน กว่าทุกอย่างจะเริ่มลงตัว มารู้ตัวอีกทีก็เป็นวันใหม่ ผมซึ่งไม่นอนเลยมาเป็นวัน ผมพักงีบเอาแรง เพราะตั้งใจจะไปรับลูกที่โรงเรียน และจะเริ่มทุกอย่างอย่างจริงจัง
TBC.
สวัสดี555
นิยายเรื่องนี้เป็นแนวใสอบอุ่นหัวใจ แต่ไฉนคอมเม้นต์ถึงดราม่าเยี่ยงนี้เหล่า
เห็นมีคนถามถึงความสมเหตุสมผลพอสมควร จะว่าไงดีล่ะ เหมือนพวกเราจะมองคนละมุม
1อีพี่ทอสนางเป็นผู้ชายแท้ๆ ที่ไม่ใช่เกย์ จะให้นอนกับผู้ชายด้วยกันคืนเดี่ยวแล้วรักหัวปักหัวปัมคงเป็นไปไม่ได้เนอะ
2นางเป็นแค่ผู้ชายทั่วไปที่หาได้ตามท้องถนน(ยกเว้นความรวยของมัน)ไม่ใช่พระเอกในนิทานดิสนีย์
3นางอายุ28แล้วอ่ะตอนนี้ แต่เมื่อก่อนนางแค่24ซึ่งก็เปรียบได้ว่าเป็นแค่เด็กมหาลัยจบใหม่ๆทั่วไปที่ยังอ่อนด้อยในเรื่องความคิด
ในมุมมองของเราเราคิดว่าผู้ชายไม่ใช่สิ่งมีชีวิตที่ดีไปหมด เป็นแค่คนธรรมดาที่มีข้อดีและข้อเสียปะปนทั่วๆไป ซึ่งเราก็สังเกตเอาจากคนรอบๆข้างนี่แหละ เราคิดว่าคำว่าเลวสำหรับเราคือ การที่รู้ว่ามีลูกแต่ไม่แยแส นั้นนะสำหรับเราถึงคิดว่าเลว
สุดท้ายนี้ จบพาทอีพี่ทอสเถอะ ก่อนที่นิยายเรื่องนี้จะเปลี่ยนเป็นนิยาย ดราม่า555 ให้โอกาสนางแก้ตัวบ้างเนอะทุกคน และต้องเข้าใจ ในนิยายเกย์คนที่มักจะไม่มีคู่และเจ็บปวดคือผู้หญิง ในทุกๆเรื่องของความรักมักจะต้องมีใครสักคนที่เจ็บ โลกเรามันโหดร้ายจริงๆนะ
ปล.น้องจี: อย่ามาว่าพ่อทอสของน้องจีนะ!(ทำหน้าตาขู่ใส่)
:katai5:จบเถอะ