[มินิเรื่องสั้น Just a 'Moment'] โมเมนต์ที่ 6. ใจง่าย?
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [มินิเรื่องสั้น Just a 'Moment'] โมเมนต์ที่ 6. ใจง่าย?  (อ่าน 4250 ครั้ง)

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ


ติดตามกฏเพิ่มเติมที่กระทู้นี้บ่อยๆ เมื่อมีการแก้ไขกฏจะแก้ไขที่กระทู้นี้นะครับ
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

ประกาศทั่วไปติดตามอัพเดทกันที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.0

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ... 
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง 
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)

เอาข้อสำคัญก่อนนะครับเด่วอื่นๆจะทำมาเพิ่มครับเอิ้กๆหุหุ
admin
thaiboyslove.com.......................................                                                           

วันที่ 3 ธ.ค. 2551วันที่ 16 ก.ย. 2554 ได้เพิ่มกฏ ข้อที่ 7
วันที่ 21 ต.ค.2556 ได้ปรับปรุงกฏทั้งหมดเพื่อให้แก้ไข และติดตามได้ง่าย

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

---

คำชี้แจง: (มินิ)เรื่องสั้น นี้เป็นโมเมนต์น่ารักๆ ฟินๆ จิ้นๆ ที่ได้แต่งไว้ใน Facebook นะครับ เลยอยากจะมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ นักอ่านในเล้าเป็ดได้อ่านกัน โดยแต่ละตอนความยาวไม่มากนัก เป็นตอนสั้นๆ บางเรื่องอาจจะมี ตอนหรือสองตอน มาจากเรื่องที่เคยเจอบ้าง มโนบ้าง อิอิ อ่านกันได้เลยครับ


 :กอด1:
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-11-2014 16:49:40 โดย ไอ้หัวแห้ว »

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
1.

ไลน์กระทง




เสียงพลุถูกจุดดังไปทั้งบริเวณงานลอยกระทงในรั้วมหาวิทยาลัยที่เรียนจบไปหลายปีแล้ว รู้สึกเบื่อๆ เลยกระโดดขึ้นรถเมล์แล้วก็เข้ามาเดินเล่น เสียงเพลงครึกครื้น คนเดินกันขวักไขว่ ร้านค้าขายของมากมาย ทั้งของคาว ของหวาน มองผู้คนรอบกาย ส่วนใหญ่มากันเป็นคู่ เป็นกลุ่ม เทศกาลแห่งความสุขที่ได้ยินเสียงพูดคุยหยอกล้อ

"กระทงไหมครับพี่ จะหมดแล้ว ช่วยซื้อหน่อยครับ" เสียงพร้อมคนพูดที่มาหยุดอยู่ตรงหน้าพร้อมกระทงในมือทำเอาหยุดชะงัก

"ห๊ะ"

"ช่วยซื้อหน่อยนะพี่ พวกผมจะเก็บของละอ่ะ เหลือใบนี้ใบเดียว" คนพูดบุ้ยใบ้ไปทางร้านที่เป็นเพียงโต๊ะเหล็กสีแดงกางไว้ทางขวามือ

"เอ่อ..." แล้วทำไมต้องมาดักเอาตรงหน้ากูเนี่ย "ไม่เป็นไร พี่ไม่ลอยหรอก"

"ได้ไง มาแล้วต้องลอยดิ" ยุ่งกะชีวิตกูจัง

"ไม่อะ ไปละนะ"

"เห้ย หรือพี่ไม่มีเพื่อนลอย ผมไปลอยกะพี่ได้นะ ผมยังไม่ลอยเหมือนกัน"

นี่สรุปจะให้ซื้อให้ได้สินะ เหลือบไปมองร้านที่ว่าทางขวานั่น มีป้ายตั้งไว้บอกชื่อร้านและสถาบัน เออ เห็นว่าเป็นรุ่นน้องคณะหรอก จะช่วยซื้อก็แล้วกัน

"เท่าไหร่" มือก็หยิบแบงค์ร้อยที่ติดในกระเป๋ากางเกงมาจะยื่นให้ แบมือจะรับมาไว้ในมือ "อะ...."

"ผมเลี้ยงพี่ดีกว่า เดี๋ยวไปลอยกับผม" อ่าว? คนพูดว่า พลางหันไปหาเพื่อนที่ยังวุ่นเก็บของกันอยู่ แต่ก็ดูเหมือนใกล้จะเสร็จเต็มที "พวกมึง เดี๋ยวกูมานะ"

ว่าแล้วก็จับแขนผมให้เดินตามมาด้วยความงง คือตกลงยังไง เอาจริงหรือนี่ ไม่ไกลจากร้านก็เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่เต็มไปด้วยแสงไฟจากกระทงหลายขนาด

"นั่งๆ อธิษฐานเลยพี่"
.
"เอ่อ" ชักจะเงิบ ยืนอยู่ข้างๆ คนที่นั่งยองๆ ลงไปแล้วตรงริมตลิ่ง "ไม่เป็นไร"

"ได้ไง" คนพูดหยิบไฟแช็กจากกระเป๋าเสื้อเชิ้ตขึ้นมาจุดเทียนจุดธูปที่ถูกปักอยู่ตรงกลาง "เรียบร้อย นั่งๆ"

ยังยืนละล้าละลัง ไม่รู้จะต้องทำไงแน่ ตอนแรกให้ซื้อ สักพักจะเลี้ยง แล้วชวนมาลอย แปลกคน เออ นั่งก็นั่ง

"จับนะครับ อธิษฐานเลย" แล้วคนพูดก็ยกกระทงขึ้นประมาณใบหน้า เอียงอีกด้านมาให้จับด้วย เห็นหลับตา ก็เลยทำบ้าง ไม่ได้ขออะไรมาก นอกจากขอโทษที่ได้ล่วงเกินพระแม่คงคาไป

"เรียบร้อยเนอะ" ลืมตามา ก็เห็นคนข้างๆ ยิ้มมองอยู่แล้ว แสงจากกระทงทำให้เห็นใบหน้าชัดขึ้น มือใหญ่นำกระทงใบนั้นวางลงบนพื้นน้ำ กวักๆ นิดหน่อยให้ลอยออกไป

"ขอบคุณนะพี่ที่ลอยเป็นเพื่อน"

เรากำลังเดินขึ้นจากตลิ่งที่ทำไว้ให้คนเดินเข้าไปลอย เผลอทำหน้าเหวอ ตกลงใครควรขอบคุณใครกันแน่

"พี่ดิ ต้องขอบคุณน้อง" ถึงจะไม่ได้ตั้งใจจะมาลอยก็เหอะ แค่จะมาเดินเล่นเท่านั้นเอง

"ไม่เป็นไรครับ" คนตรงหน้ายิ้มน้อยๆ กำลังจะก้าวเดินไปยังร้านที่เพื่อนยังยืนคุยเล่นกันอยู่ "งั้น..."

"พี่ไปนะ ขอบคุณอีกที" ยิ้มให้ แล้วก็ผละมา

"พี่!"

หันกลับไปมอง เด็กหนุ่มก็รีบเดินมาหาถึงตัว

"ว่า"

"พี่ชื่อไรอะ ผมชื่อฮอป"

"ฟู่"

"ขอไลน์พี่หน่อย"

"หือ"

"ขอไลน์ไง หรือพี่ไม่มี"

"อะ" ล้วงมือถือจากกระเป๋ากางเกงขาสั้น กด QR code จากโปรแกรมแชทก่อนจะส่งให้ "สแกน"

อีกฝ่ายรับไปจัดการ แป๊บนึงก็ยื่นกลับคืน

"ขอบคุณนะครับ" แล้วก็ยิ้มให้ ก่อนจะเดินกลับไป กำลังจะก้าวเดินต่อ ดึกแล้วเหมือนกัน ควรกลับเสียที


เสียงติ๊ง พร้อมการสั่นในกระเป๋ากางเกง ทำให้ต้องหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกครั้ง




'ปีหน้า เรามาลอยกระทงด้วยกันอีก ได้ไหมพี่ฟู่'


End of Moment --- '1.'

---




 :katai2-1:

แรงบันดาลใจจากมีแต่คนลอยกระทงใน ig

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 07-11-2014 16:16:06 โดย ไอ้หัวแห้ว »

ออฟไลน์ ♠DekDoy♠

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +421/-8
ตอบแทนพี่ฟู่เลยได้ป่าว 555

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
2.

ฤดูร้อน




ผมนั่งมองเขา เด็กหนุ่มในชุดลำลอง สวมเสื้อยืดสีฟ้ากับกางเกงขาสั้นสีน้ำตาลอ่อน โต๊ะติดกับหน้าต่างคือที่นั่งประจำที่เขาจับจองมาสักระยะ

เด็กหนุ่มมาพร้อมกับหนังสือและสมุดหลายเล่มเต็มอ้อมแขน หันซ้ายหันขวาพร้อมกับแว่นตากรอบดำ คะเนความสั้นแล้วคงไม่มากจนมองอะไรไม่เห็น ก่อนจะยึดโต๊ะริมหน้าต่างเป็นที่มั่น

ใบหน้าขาวใสนั้นจะเรียกว่าหล่อ หรือน่ารักก็ดูไม่เกินไปนัก ก้มลงต่ำอ่านหนังสือ พลางจดอะไรยุกยิกลงบนสมุดที่อยู่ติดกัน บ้างสลับเงยหน้ามองผ่านกระจกกรอบไม้ออกไปอย่างใช้ความคิด


ต้นคูนออกดอกเต็มต้น สว่างไสวด้วยสีเหลืองกระทบแสงแดดยามสาย ฤดูร้อนล่วงเลยมาได้หนึ่งเดือนแล้ว อากาศภายนอกทะลุสี่สิบองศาตัดกับความเย็นฉ่ำของเครื่องปรับอากาศภายใน


หนึ่งเดือนที่ผมเองเฝ้ามองเขาเช่นกัน

อาจจะเพราะความเคยชินหรืออะไรก็ตามแต่



ครั้งแรกที่พบกันอาจดูเหมือนนิยายตาหวานอะไรเทือกนั้นอยู่สักหน่อย ระหว่างทางเดินเชื่อมตึกหอสมุด เด็กหนุ่มหอบข้าวของมาเต็มแขน เดินก้มหน้าจนชนเข้ากับผมอย่างจัง หนังสือสมุดดินสอหล่นกระจาย จนผมต้องช่วยเก็บ

เราสบตากันครั้งแรก

กระแสไฟฟ้าแปลบปลาบแล่นตั้งแต่หัวถึงปลายมือ ผมชะงักไป ในขณะที่เด็กหนุ่มกลับไม่มีทีท่าเป็นอะไร เขารีบเก็บของจนหมด รับสมุดอีกสองสามเล่มจากมือผม กล่าวขอโทษแล้วเดินจากไป



วันต่อมา ผมเห็นเขาอีกครั้ง ในขณะเขากำลังมองหาที่นั่ง โต๊ะริมหน้าต่างบานนั้น


วันต่อๆ มา เด็กหนุ่มมักนั่งประจำในตำแหน่งนี้




เด็กหนุ่มถอดแว่น หลับตา

ผมมองเขาอย่างเพลินๆ ถือโอกาสพิจารณาเครื่องหน้าที่จัดวางได้อย่างลงตัว ในขณะที่เจ้าตัวปิดประสาทรับรู้จากการมองเห็น

จู่ๆ นัยน์ตาคู่นั้นก็ลืมขึ้น สบเข้ากันพอดี


ผมชะงัก ในขณะที่เด็กหนุ่มทำหน้าสงสัย

ผมยิ้ม

เขายิ้มตอบ


รอยระยิบในดวงตาคู่นั้นสดใสไม่แพ้แสงแดดภายนอก





ดูท่า ปิดเทอมฤดูร้อนคราวนี้ ผมคงมีข่าวดีซะละมั้ง


---


End of Moment --- '2.'

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
3.

โอกาส




'มันต้องใช้น้ำตาแค่ไหนต้องร้องไห้กี่ครั้ง
ให้เขาและเธอทิ้งขว้างความรักแล้วเลิกลา
ให้เธอเห็นว่ารักของผมให้เธอได้มากกว่า
ต้องใช้สักกี่น้ำตาให้เธอเห็นใจ'




ผมเบือนหน้ากลับมาจากเวทีเล็กๆ ตรงมุมของร้าน เสียงนักร้องไม่ได้ไพเราะอย่างนักร้องออกอัลบั้ม แต่ไม่ปฏิเสธเลยว่าเนื้อเสียงเต็มไปด้วยความอารมณ์ร่วมกับเพลง

เคาะนิ้วก๊อกๆ ไปกับจังหวะกลอง ในขณะที่ปากก็พึมพำเนื้อร้องตาม

"เห้ย เป็นไรวะ"

เสียงเพื่อนทักให้หลุดจากภวังค์ความคิด ผมเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ ก่อนจะเส-ยกแก้วขึ้นดื่ม น้ำสีอำพันไหลลงคอไปกับความขมของรสชาติ เบ้หน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมากนัก ผมไม่ได้แตะต้องมันมาสักพักแล้ว

"ไม่ได้เป็นอะไร"

"เออ" เพื่อนตอบรับ ก่อนจะหันไปตามเสียงเรียกชื่อตัวเอง ผมหันมองตาม เมื่อเห็นว่าเป็นใครเลยคิดว่าลุกขึ้นเสียดีกว่า

"กูไปห้องน้ำนะ"

ไม่ได้ฟังว่าอีกคนตอบรับรึเปล่า ลุกตัวปลิวออกมาจากโต๊ะ แล้วก็ไม่ทันได้เห็นสายตาของคนมาใหม่ที่มองตามมาด้วย

ตอนแรกกะว่าจะไปห้องน้ำ สุดท้ายผมก็เปลี่ยนใจหมุนตัวมาทางหน้าร้านแทน พื้นที่กว้างๆ ด้านข้างร้านเป็นที่จอดรถ ไม่ใช่พื้นที่ของร้านนี้ เรียกว่าเป็นที่จอดรถของลูกค้าที่มากินดื่มแถวนี้เสียมากกว่า

ผมหยิบมวนบุหรี่ขึ้นมาจากกระเป๋ากางเกง ควานหาไฟแช็กในกระเป๋าด้านหลังแต่กลับพบว่าหามันไม่เจอ ตัดใจสอดบุหรี่มวนนั้นกลับไปในซอง แต่ไฟแช็กสีเขียวก็ถูกยื่นมาตรงหน้าเสียก่อน

"อะ"

แค่ได้ยินเสียง ไม่ต้องหันไปมองผมก็รู้ว่าใคร ผมรับมาไว้ในมือ จุดที่ปลายมวนบุหรี่ที่คาบไว้ ไฟสีแดงวาบขึ้นในจังหวะแรก ผมพ่นควันออกมา หย่อนก้นนั่งลงบนม้านั่งหินอ่อนที่วางไว้ไม่ไกล

"สบายดีเหรอ"

ผมพยักหน้า "ก็ดี นายล่ะ"

"ก็เรื่อยๆ..." อีกคนตอบแบ่งรับแบ่งสู้ แล้วถามต่อ "ยังไม่เลิกบุหรี่อีกเหรอ"

อัดบุหรี่หนึ่งครั้ง รู้สึกสมองโล่งๆ เหลือบมองคนที่นั่งลงข้างกัน เห็นอีกฝ่ายหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบบ้าง

"นายก็ยังนี่ แค่มีไฟแช็กก็รู้แล้ว..."

เสียงเพลงจากในร้านยังดังออกมา 'รถของเล่น' จบไปแล้ว แต่เนื้อเพลงยังดังวนซ้ำไปมาอยู่ในหัว

"มีแฟนรึยัง"

ผมไหวไหล่

"ไม่มี ไม่รู้จะมีทำไม ไร้...."

"หรือรอเรา..."

อีกคนแทรกเสียงมาก่อนผมจะจบประโยค ผมส่งเสียงหึในลำคอ

"รอ? รอทำไม"


"เลิกกันแล้ว"

คำพูดพร้อมสัมผัสที่ข้อศอกเหมือนไฟแล่นแปลบปลาบจนรู้สึกได้ ดีใจ...คำนี้ผุดขึ้นมาก่อนจะจางหายไป ผมสะบัดความอ่อนไหวนั้นทิ้ง ดูดบุหรี่แรงๆ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะปล่อยก้นกรองสั้นๆ ลงพื้น บี้มันจนแบน ให้เหมือนความรู้สึกนั้นที่ตีตื้นขึ้นมาอีกครั้ง

"แล้วมาบอกเราทำไม"

น้ำเสียงที่เฉยชา แต่ผมรู้ ว่าเขาเองก็รู้ว่ามันเต็มไปด้วยความรู้สึกแบบไหน หกเดือน...ไม่นานเลยที่เขาทิ้งผมไป ไปกับใครอีกคนที่เข้ามาแทรกกลางระหว่างเรา


"กลับมาคบกันไหม"

ผมหันกลับไปมองอย่างคาดไม่ถึง ไม่คิดว่าเขาจะกล้าพูดประโยคนี้ออกมา ตอนนั้น ผมอ้อนวอน ขอร้องทั้งน้ำตาที่ไหลพรั่งพรู ทว่าแค่ไหน เขาก็ไม่สนใจ

"มีเรื่องแค่นี้เหรอ"


ผมลุกขึ้น เตรียมตัวเดินกลับเข้าไปในร้าน


"เดี๋ยว" เท้าที่กำลังก้าวชะงัก "เราขอโอกาส"


"ตอนนั้น...นายเคยให้โอกาสเราบ้างรึเปล่า"


อีกฝ่ายเงียบเสียงไป คงจำนนด้วยคำพูด


ผมก้าวเท้าเดินต่อ



"โอกาส" มันจะมาพร้อมกับคำว่า "ขอโทษ" เสมอ




ถือเสียว่ามันไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้นก็แล้วกัน




End of Monent --- '3.'


 :katai1:

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
4.1


รับน้องรวม




"นายๆ เต้นดิ"

"นาย ทำไมไม่เต้น"

ผมยังคงเมินเสียงที่เรียกยิกๆ อยู่ใกล้ๆ ท่ามกลางเพลงสันทนาการและเสียงกลองที่รุ่นพี่กำลังตีอยู่ บรรยากาศค่อนข้างครึกครื้น ในงานรับน้องใหม่ของมหาวิทยาลัย

"หนุกจะตาย เต้นๆ"

เออ มันยังไม่หยุด ไม่หยุดแค่เสียง ตอนนี้มีแรงสะกิดเพิ่มอีกอย่าง ผมไม่เข้าใจว่ามันจะมาสั่งให้ผมเต้นทำไม อยากเต้นก็ทำไปดิ ทำไมต้องมายุ่งกะกูจัง

"อะไรของมึง"

ตอนนี้รุ่นพี่ที่เต้นนำอยู่ด้านหน้าให้พวกเรานั่งลงแล้ว ส่วนไอ้คนที่สะกิดยิกๆ เมื่อกี้ก็ย้ายตัวเองมานั่งด้านซ้ายมือของผม เมื่อกี้มันนั่งตรงไหนผมก็ไม่ได้สนใจเหมือนกัน แต่น่าจะใกล้กันนี่แหละ

"นายๆ นายไม่หนุกเหรอ"

ผมทำหน้าเหม็นเบื่อ ทนการสะกิดยิกๆ ของมันไม่ไหว เลยต้องหันไปหา ผมไม่เข้าใจว่าทำไมมันไม่ไปคุยกะคนอื่นสักที ทั้งๆ ที่ท่าทางของผมก็ไม่ได้อยากจะพูดคุยอะไรกับมันนัก

"กูชื่ออาร์ต ไม่ได้ชื่อนาย"

"ชื่อฟิก ไม่ได้ชื่อมึงเหมือนกัน"

มันเถียงกลับทันที ผมเลยไม่อยากจะพูดด้วยอีก หันกลับไปมองรุ่นพี่ที่กำลังแนะนำตัวให้ฟังคร่าวๆ ฐานนี้เป็นหนึ่งในฐานที่ปีหนึ่งแต่ละกลุ่มต้องเข้าร่วม แต่ละฐานก็ไม่มีอะไรมากหรอก นอกจากร้องเพลง เต้น แนะนำตัว เล่นเกม ผมเคยผ่านมาหมดแล้ว ก็เลยไม่มีอารมณ์ร่วมเท่าคนอื่น

"อาร์ตๆ"

นั่น พอรู้ชื่อ มันก็รู้งาน เปลี่ยนได้อย่างต้องการทันที

"อะไร"

"ทำไมอาร์ตไม่เต้น"

"จะพูดมึงกูก็ได้ กูไม่ถือ"

"ไม่เป็นไร ฟิกไม่ใช้กับคนที่ไม่สนิท"

"ปัญญาอ่อน" ผมพึมพำ ก่อนจะตอบคำถาม ตัดรำคาญเสียดีกว่า เผื่อจะเลิกเร้าหรือกับผมสักที "ไม่อยากเต้น ไม่ชอบ โอเค?"

"ทำไมอะ"

ยัง ยังไม่เข้าใจอีก มันทำหน้ายุ่งๆ ถามต่อ มึงเป็นเจ้าหนูจำไมหรือไง ถามอยู่ได้ ไม่ใช่เด็กแล้ว จากรำคาญ คิดอีกที เออ มันก็แอบตลกดีเหมือนกัน

"ขำอะไร" อ่าว ผมหัวเราะเหรอวะ

"เปล่า"

"แล้ว..."

แล้ว...ก็เงียบไป จนผมที่กำลังมองรุ่นพี่กำลังสาธิตเกมให้เล่นอยู่ต้องหันไปมองคนที่พูดค้างไว้ ไอ้คนที่ตะแง้วๆ เมื่อครู่กลับหันไปสนใจเกมแทน

"เด็กจริงๆ"

ผมพูดเบาๆ ก่อนจะมองคนข้างๆ ที่ดูจะให้ความสนใจเกมเป็นพิเศษ จริงๆ ท่าทางมันก็เป็นเหมือนคนอื่นนั่นแหละ เด็กเพิ่งจบมัธยมมาหมาดๆ สดใส สนุกสนานตามวัย แต่มันจะไม่เหมือนคนอื่นตรงมายุ่งกับกูนี่แหละ



"อาร์ต"

"หือ"

เรียกอีกละ หลังจากฐานล่าสุด รุ่นพี่ก็แจกข้าวกล่องกับน้ำให้คนละขวด ผมได้มาก็ถือแยกมานั่งใต้ต้นไม้ โชคดีที่วันนี้แดดไม่แรงอย่างที่คิด แถมมหาลัยต้นไม้เยอะเลยได้ร่มเงาช่วยไว้ มันก็ตามมานั่งด้วย ขัดสมาธิแล้ววางข้าวไว้บนตัก

"อาร์ตเรียนคณะไหน"

"XXX" ผมตอบ ก่อนจะตักข้าวใส่ปาก ยกป้ายห้อยคอที่มีชื่อ คณะ รหัสประจำตัว ขึ้นมา "ป้ายก็บอก"

"ก็อยากถาม" มันว่า ผมเลยพยายามไม่สนใจ หยิบมือถือขึ้นมาเช็กแทน จนฟิกพูดอีก เออ มึงหยุดกินเงียบๆ เป็นปะวะ "อาร์ต กินใบกะเพราปะ"
.
ผมเหลือบมอง ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าจะทำอะไร "ไม่กินก็เขี่ยทิ้ง ไม่ก็กินไปดิ ยากอะไร"

"ไม่กินผัก"

เสียงบ่นอุบอิบเบาๆ เออ กูชักมองมึงเป็นเด็กจริงๆ ละนะ แล้วมาอยู่นี่ เพื่อนล่ะ มันไม่ได้มากลุ่มนี้คนเดียวหรอก แต่ละคณะต้องถูกแบ่งใกล้เคียงกัน คณะผมคนน้อยเลยมีกันแค่ 2 คน ถามว่าอีกคนไปไหน เพื่อนผู้หญิงของผมมันเหมือนจะเป็นลมเลยโดนรุ่นพี่ลากไปเต็นท์พยาบาลแล้ว

"เพื่อนมึงไปไหน"

"โน่นไง"

มันชี้ไปอีกทาง ผมมองตาม เห็นมีอยู่ 4 คน ชาย 2 ญ 2 นั่งกินข้าวกันใต้ต้นไม้ไม่ไกลเท่าไหร่ ส่วนใหญ่ก็นั่งกับเพื่อนในคณะตัวเองหมด แม้จุดประสงค์ของการรับน้องครั้งนี้คือการให้ปีหนึ่งรู้จักเพื่อนใหม่ต่างคณะก็ตาม

"แล้วไม่นั่งกับเพื่อนมึง"

"เดี๋ยวอาร์ตนั่งคนเดียว"

"กูนั่งได้"

"..." เงียบ แต่ก็ไม่ได้ลุกไปหาเพื่อน หรือจะโกรธ ผมที่กำลังก้มหน้าตักข้าวเข้าปากเงยหน้าขึ้นมองอีกรอบ เออ ทำไมต้องจ้องกูขนาดนั้น เดี๋ยวนะ ตัวก็ไม่ใช่เล็กๆ กูชักสงสัยอายุสมองมึงแล้วนะ

"เออ จะนั่งก็นั่งดิ"

"...." ยิ้ม

ผมส่ายหัวหน่ายๆ ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ เออ เอาไงก็ตามใจมึงเหอะ อารมณ์เปลี่ยนไวเกิน


กูปลงละ...


---

TBC

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
4.2

รับน้องรวม




ตอนนี้ผ่านไปครึ่งค่อนวันแล้ว แต่ไอ้คนข้างๆ ก็ยังไม่เลิกตามติดชีวิตผม เอาแต่ถามนั่นนี่ ผมก็ตอบบ้าง ไม่ได้ตอบบ้าง รำคาญ แต่ไม่ถึงกับขนาดอยากไล่มันไปไกลๆ

"อาร์ตมาจากโรงเรียนอะไร"

ท่ามกลางเสียงโหวกเหวกของรุ่นพี่และเด็กปีหนึ่งก็มีแต่เสียงมันนี่แหละที่อยู่ในโสตประสาทของผม ด้านหน้าก็เหมือนเดิม สาธิตเกมกันอยู่ เกมง่ายๆ ที่ใครๆ ก็เคยเล่น

"..."

ผมบอกชื่อโรงเรียนไป อะไรที่ตอบได้ผมก็ตอบ บางอย่างที่ผมเงียบมันก็ไม่ได้เซ้าซี้จะถามต่อ จริงๆ ในความวุ่นวาย มันก็รู้ว่าควรยุ่งอะไรไม่ควรยุ่งอะไร

"มึงละ" ผมถามกลับ

ถ้าไม่มีมันมาคุย ผมก็คงอยู่คนเดียว ไม่ได้เดือดร้อนเท่าไหร่ ผมมีเพื่อนอยู่แล้ว ไอ้พวกปี 2 ที่คณะนั่นไง การรับน้องต่างคณะไรนี่ปีหนึ่งเองก็ไม่ได้เพื่อนเพิ่มขึ้นเท่าไหร่ และก็มีเวลาอีกเยอะที่จะหา

"..."

มันจบมัธยมโรงเรียนสาธิตของที่นี่ ไม่แปลกที่ดูคุ้นเคย คุ้นชินกับสถานที่

"อืม"

ต่างคนต่างเงียบฟังกติกาเกมล่าสุดที่สต๊าฟขุดมาให้เล่น พวกเราถูกแบ่งเป็นกลุ่มย่อย กลุ่มละ 6-7 คน ก่อนหนังสือพิมพ์ 1 คู่จะถูกยื่นมาให้

สต๊าฟกลุ่มให้พวกเราส่งตัวแทนแค่ 5 คน แน่นอนว่าไฮเปอร์อย่างฟิกรีบยกมือเป็นคนแรก และ...ตามคาด ลากกูไปด้วย

เกมไม่ได้ยาก แต่ก็ไม่ได้ง่าย พวกเราในกลุ่ม กางหนังสือพิมพ์ 1 คู่ก่อนจะเหยียบกันละก้าว เลือกกันมาเฉพาะคนที่ทรงตัวดีมาแข่ง

กระดาษแผ่นโต ลดขนาดลงเรื่อยๆ สุดท้ายกลุ่มเราแพ้ไป ตอนที่เหลือ 3 คน มีผม ฟิก เพื่อนผู้ชายอีกคน กับกระดาษขนาดครึ่งของครึ่งหน้าหนังสือพิมพ์

"กลุ่มของน้องฟิกแพ้ไปแล้วนะคะ ไหนๆ น้องฟิกกล่าวอะไรหน่อยค่ะ"
สต๊าฟที่เป็นผู้นำกลุ่มประกาศขึ้นมา คนถูกเรียกหันไปยิ้มให้ ใบหน้าทะเล้นกับคำตอบเรียกเสียงหัวเราะจากสต๊าฟและคนอื่นๆ

"โห่ พี่ส้มคนสวย ฟิกจะต้องกล่าวอะไรอี๊กกกก ก็แพ้อะ เข้าใจปะว่าแพ้"




"อาร์ต"

"หือ"

"ทำไมเลือกเรียนคณะนี้อะ"

"อยากเรียนไง"

"ผมอาร์ตยาวเร็วอะ"

มันเปลี่ยนเรื่อง ผมเอามือจับผมตัวเอง จริงๆ ก็ยาวกว่าชาวบ้านนั่นแหละ มันกะทันหันเกินไปเลยไม่ได้ตัดให้ดูกลมกลืนกับเด็กปีหนึ่ง อีกอย่างไม่ได้คิดด้วยว่าจะมีใครมาตั้งคำถามแบบนี้ใส่

"ไม่ได้เรียน รด."

ผมเลี่ยงไป

"เหรอ นึกว่า..."

"ว่าอะไร"

"เปล่า"

"อืม"

เพื่อนผมโทรมาบอกว่าจะเดินกลับมาหา มันไปนั่งนิ่งๆ ที่เต็นท์พยาบาลแล้วเบื่อ ตอนแรกไม่ได้เป็นลมล้มพับอะไรร้ายแรง แต่ก็เข้าใจว่าสต๊าฟเองก็ต้องดูแลอย่างดีที่สุด มองนาฬิกา ตอนนี้ใกล้จะสี่โมงแล้ว

"มึง เค้าจะปล่อยกี่โมง"

"4 ครึ่ง"

ไม่แปลกนั่นแหละที่ฟิกจะไม่รู้ ถามอะไรก็รู้ดีไปหมด ด้วยนิสัยช่างพูดช่างคุยของมันนั่นแหละ คงจะไปถามสต๊าฟมา



"เป็นไงมึง"

"ไม่เป็นไง ตอนแรกเหมือนจะมึนๆ แต่ก็หายละ" เพื่อนผู้หญิงคณะผมกลับมาจากเต็นท์พยาบาลแล้ว ก่อนจะนั่งลงข้างๆ ที่มีคนกระเถิบให้นั่ง

"หวัดดี เราชื่อฟิก เป็นเพื่อนกับอาร์ตแล้ว"

ฟิกที่มองอยู่แล้ว ทักก่อน ประโยคหลังแปลกๆ ว่ะ

"เราชื่อตาล"

คนถามพยักหน้ากับคำตอบ ก่อนจะถามต่อ

"อยู่คณะเดียวกับอาร์ตเหรอ"

เพื่อนผมตอบรับ เหล่ตากลับมาหาผมไปด้วย ในสายตามีคำถาม อ่านได้ว่า หน้าเฉยๆ อย่างมึงมีคนเข้ามาคุยด้วยเหรอวะ ตาลกับผมเป็นเพื่อนกันตั้งแต่มอปลาย มันรู้ดีกว่ากับคนไม่สนิท ผมจะนิ่งๆ มากกว่า

"เห็นอาร์ตบอกไม่ค่อยโอเค หายละเหรอ"

"อ่า...หายแล้ว"

"ดีๆ"



"อาร์ต" ตาลกระซิบพลางสะกิดเรียกผม

"ว่า"
 
"อะไรยังไงวะ"

"ไม่มี" ผมตอบ "มาทัก เหมือนทักมึงอะ"

"เหรอออออ" ตาลลากเสียงหรี่ตา ผมชักจะไม่ชอบอาการแบบนี้ของมัน ไอ้สายตาจับผิด แถมด้วยดวงตาระยิบระยับแบบนี้คืออะไร มันต้องคิดอะไรแผลงๆ อยู่แน่ๆ

"ฟิก"

นั่น ไม่ทันขาดความคิด คนถูกเรียกหันกลับมาหาตาล

"หา?"

"ฟิกชอบอาร์ตเหรอ"

"เห้ย!"

ผมกับฟิกร้องออกมาพร้อมกัน แม้ไม่ดังมาก แต่คนที่นั่งใกล้ๆ เราสามคนก็หันมามอง ตาลหัวเราะขำ ก่อนจะว่าต่อ มันใช่เรื่องไหม

"ล้อเล่น คิกคิก"

ตอนนี้ใกล้จะ 4 โมงครึ่งเต็มที กลุ่มนี้ทำกิจกรรมได้ค่อนเร็ว สต๊าฟเลยปล่อยให้พวกเรานั่งเล่นนั่งคุยกันแทน ตอนนี้แดดร่มลมตก ได้รับแจกนมคนละกล่อง นี่ถ้ามีให้นอนด้วย โรงเรียนอนุบาลชัดๆ

"เดี๋ยวพี่จะปล่อยน้องๆ ละนะคะ"

เสียงพี่ส้มดังไปทั้งบริเวณ คาดว่าโปรเจกต์เสียงมาอย่างดีเยี่ยม ปีหนึ่งพยักหน้า เตรียมพร้อมจะลุกขึ้น พี่ส้มใช้เวลานี้นัดหมายต่อ

"พรุ่งนี้ปฐมนิเทศมหาลัย ให้น้องเจอกันที่..."

"เดี๋ยวๆ" จังหวะที่พี่ส้มพูดจบ จะพากันลุกขึ้น เสียงเบรกจากพี่บาส คู่หูพี่ส้มในการจัดกิจกรรมของกลุ่มก็ขัดขึ้น "เราลืมอะไรไปรึเปล่าครับ นั่งลงก่อน"

ทุกคนงง แน่นอนว่าไม่รู้ว่าลืมอะไร หรือจะว๊ากตอนนี้?

"ใช่ เรายังไม่รู้เลยว่าน้องๆ สนุกรึเปล่าวันนี้" คราวนี้เป็นพี่ส้มที่ถามต่อ เหมือนรับไม้ผลัด "อะ น้องโน้ต ตอบหน่อยค่ะ" คนชื่อโน้ตที่นั่งอยู่หน้าสุดโดนเรียก ยืนขึ้น ก่อนจะตอบ เออ อยู่ด้านหน้ามึงก็ซวยไป

"นอกจากเพื่อนในคณะ ได้เพื่อนคนไหนอีกบ้างคะ" นายโน้ตตอบต่อ คนถามไม่ลืมจุดประสงค์ของกิจกรรมวันนี้ พี่ส้มกับพี่บาสถามต่ออีก 4-5 คน

ถ้าถามผม ผมก็มีคำตอบให้แค่ไอ้ฟิก ที่นั่งตั้งใจฟังอยู่ข้างๆ นี่แหละ



เสียงกลองดังขึ้น จังหวะแบบนี้คุ้นๆ พร้อมเสียงร้องเพลงจากสต๊าฟ
.
แจวมาแจวจ้ำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว..."

"แจวเรือไปซื้อ...เครื่องเขียน...แจวซื้อมาซื้อเครื่องเขียน..." สต๊าฟร้องไป ปีหนึ่งก็ปรบมือ สันทนาการส่งท้าย เสียงไม่แหบกันมั่ง


"ใครเป็นพี่เนียน...ใครมานั่งเนียน..." เดี๋ยวนะ เนียน*** เออ ลืมไปเลย ไอ้ตาลเองก็กำลังจะลุกขึ้นกลับแล้ว มันคงไม่หนุกเท่าไหร่ วันนี้เล่นไปอยู่เต็นท์พยาบาลซะนาน ดนตรีหยุดลง

"ไม่รู้มีใครสังเกตรึเปล่า เพื่อนที่เราคุยเล่นวันนี้...อาจจะเป็นรุ่นพี่เราก็ได้นะคะ"
.
พี่ส้มพูดจบ เด็กปีหนึ่งก็หันซ้ายหันขวา มองกันไปมา คาดว่าระแวงแน่ๆ ฟิกหันขวับมาหาผมก่อนเลย คงสงสัยแน่ ตั้งแต่คำถามว่าทำไมผมถึงผมยาวแล้ว

แล้วมันก็ยิ้มออกมา ประมาณว่ากูรู้นะ หึหึ

เสียงกลองดังขึ้นอีกครั้ง "แจวมาแจวจ้ำจึก น้ำนิ่งไหลลึกนึกถึงคนแจว แจวเรือมาซื้อเครื่องเขียน...เอ้า แจวเรือไปซื้อเครื่องเขียน...รู้ตัวว่าเนียน หลอกน้องเนียนๆ... ลุกขึ้นมาแจว..."



ไอ้ตาลรีบลุกขึ้นก่อนใคร เออ แจวซะแรง สงสัยชดเชยที่วันนี้แทบไม่ได้เต้นเลย


แต่เดี๋ยวนะ



มีผมคนเดียวที่ยังคง(ต้อง)นั่งอยู่



'มัน' ที่นั่งข้างๆ ผมอีกด้าน กลับลุกขึ้นแจว!



ไอ้ฟิก! แสบนักนะมึง!




End of Moment --- '4.'


หมายเหตุ *พี่เนียน หมายถึง พี่ปี 2-4 ที่จะเนียนไปนั่งรับน้องกับเด็กปี 1 ด้วย
สปอยล์ : อาร์ตซิ่วมา / อีกสองคนพี่เนียน

ออฟไลน์ ที่ปรึกษาไอทีขั้นต้น

  • Administrator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6853
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1320/-22
ชวนฝัน อ่านง่ายดีครับ อยากอ่านยาวๆ
 :hao7: :hao7: :hao7:

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4

ออฟไลน์ quiicheh.

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1629
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +73/-9
พี่ฟิกตลกก5555
เพื่อนโดนก็มาเล่าให้ฟัง
อยู่ตปทไม่เจอโมเม้นนี้เลยค่ะ;(
แต่ตอนโอกาสนี่ชอบมากกกกกโดนใจ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
ชวนฝัน อ่านง่ายดีครับ อยากอ่านยาวๆ
 :hao7: :hao7: :hao7:

  พี่เรย์ อย่าให้มันเขียนเรื่องยาว เดี่ยวไม่จบ  เอาสั้นๆแบบนี้แหละ  :laugh:

ออฟไลน์ Wordslinger

  • แป้งจี่รีรีข้าวสาร
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1180/-5
ชอบเรื่องแรกมากๆ เลยค่ะ ได้บรรยากาศ เป็นตอนสั้นๆ แต่เหมือนอารมณ์โรแมนติกจะอัดแน่นอยู่ในเพียงไม่กี่บรรทัดนั้น ทำได้ดีมากเลยค่ะ  :mew1:

กดบวกเป็ดให้ทุกตอนเลย

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
5.1


7-11 




ชายหนุ่มไม่ชอบหน้าฝน สายน้ำที่ทำให้เนื้อตัวเปียกปอน เสื้อผ้าอับชื้น และพื้นถนนหนทางที่เฉอะแฉะไปด้วยน้ำขัง

ระยะนี้ฝนตกเกือบทุกวันตามพยากรณ์อากาศของกรมอุตุฯ โดยเฉพาะตอนเย็นหลังเลิกงานเมฆก้อนดำมักตั้งเค้าอย่างกับรู้เวลา ดังนั้นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้เลยจึงเป็นร่มที่เขาถืออยู่

"จะตกถึงเมื่อไหร่กัน"

เสียงป๊อกแป๊กจากสายฝนที่กระทบร่มทำให้ต้องบ่นออกมาน้อยๆ ระยะทางจากปากซอยออฟฟิศไปยังสถานีรถไฟฟ้าไม่ได้ใกล้นัก

ไม่ทันบ่นต่อ เมฆฝนที่ตั้งเค้าทะมึนก็บิดตัวลงมาเป็นสายน้ำ ความแรงเรียกได้ว่าร่มที่เขาถือไว้ก็รับน้ำหนักไว้ไม่อยู่ ไม่ไกลจากทางเท้าที่เดินอยู่เป็นร้านสะดวกซื้อสว่างใสวที่เดินผ่านทุกวันคงเป็นที่หลบฝนได้เป็นอย่างดี

ทันทีที่ก้าวเข้าไป ชายหนุ่มถีงกับตัวสั่นความเย็นจากเครื่องปรับอากาศรวมกับเนื้อตัวที่เปียกชื้นทำให้หน้าซีดปากสั่นได้ไม่ยาก เขาห่อตัวเข้าหากัน พิงร่มไว้ริมประตูเพราะกลัวจะทำพื้นร้านเปียก เครื่องดื่มร้อนๆ น่าจะช่วยให้อุ่น

"หนาวเหรอครับ"

เสียงถามดังมาจากด้านหลังในขณะที่กำลังกดน้ำร้อนใส่แก้ว เขาหันมองจึงจำได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มที่เจอบ่อยๆ เมื่อแวะซื้อของกินตอนเช้าเลยยิ้มพลางพยักหน้าให้

"พี่เปลี่ยนเสื้อป่ะ ผมมีสำรอง"

เด็กหนุ่มว่า ผลักประตูห้องพักพนักงานที่เพิ่งก้าวออกมา ปากกำลังปฏิเสธ มือก็คว้าแขนอีกฝ่ายไว้ก่อนเด็กหนุ่มจะผลุบหายไป
.
"ไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวก็กลับบ้านแล้ว"

"แต่พี่หนาว" อีกคนตอบทันควัน "เอางี้พี่ใส่เสื้อเจ็กเก็ตผมไปก่อน คลุมไปก็ได้เอ้า" แล้วก็ส่งรอยยิ้มจริงใจมาอีกที

"เฮ้ย บอส ไรวะ เกะกะขวางทาง" มีเสียงดังมาจากข้างใน ก่อนหญิงสาวจะแทรกออกมา "จะเข้าหรือออก เลือก"

"โทษพี่" เจ้าของชื่อหัวเราะแหะ เขาหันไปยิ้มให้หญิงสาวที่ส่งยิ้มให้ตอนเดินผ่าน

"เพราะพี่เลย ผมเลยโดนด่า"

"ไม่ใช่ละ"

เด็กหนุ่มจึงผลุบหายไปในห้องนั้น ไหนๆ ก็ห้ามไม่ทันเขาจึงยืนกอดอก จิบกาแฟร้อนในมือแทน

"อะพี่ เสื้อ เหม็นหน่อยนะ" น้ำเสียงกวนๆ ยักคิ้วจึ๊กๆ พร้อมยื่นเสื้อมาตรงหน้า

"เอาเสื้อเหม็นๆ ให้คนอื่นยืม เชื่อเค้าเลย"

"เอาไปเหอะพี่ เอ้อ ผมชื่อบอส พี่อะชื่อไร"

"ต้องบอก?" คนถูกถามถามกลับ เริ่มอยากกวนกลับมั่ง เห็นรอยยิ้มเด็กหนุ่มแล้วหมั่นไส้พิกล ปกติกับพี่น้องเขาก็ไม่ได้คุยกันเรียบร้อยอะไร อีกอย่างเด็กนี่ก็ดูกวนใช่ย่อย

"ผู้มีพระคุณนะพี่"

"ไนท์"




TBC

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
5.2

7-11



ฝนหยุดไปสักพักแล้ว มีเพียงความเปียกแฉะที่บ่งบอกว่าก่อนหน้านี้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ชายหนุ่มนั่งมองเพื่อนร่วมโต๊ะที่อาสาหยิบน้ำแข็งเปล่ามาให้ ตามป้ายกำกับไว้ชัดเจนจากร้านบะหมี่แฟรนชายส์เจ้าดังว่า น้ำบริการตนเอง

"น้ำแข็งพี่"

"ขอบใจ"

"พี่ชอบฝนปะ"

อยู่ๆ เด็กหนุ่มก็เอ่ยขึ้นขณะวางเหยือกใส่น้ำหลังจากเทลงในแก้วทั้งสองใบ คนถูกถามเลิกคิ้ว มือหยิบแก้วน้ำพร้อมหลอดของตัวเอง

"ถามอะไรแปลกๆ"

"แปลก ตรงไหนแปลก" คนถามถามกวนๆ "คำถามธรรมดาจะตายพี่"

"มันแปลกที่จู่ๆ ก็มาถาม" ชายหนุ่มตั้งข้อสงสัย แต่สุดท้ายก็ยอมตอบคำถามอยู่ดี "อืม...ไม่ชอบ"

"ทำไม?"

เด็กหนุ่มเงยหน้ามองท้องฟ้า ดวงตามีรอยระยิบระยับ ก่อนจะว่าต่อ

"ผมชอบฝนนะ ชุ่มฉ่ำดี ชอบเล่นน้ำฝนมาก"

"เด็กชะมัด" ชายหนุ่มส่ายหน้าขำๆ

"ตอนเด็กน่าพี่ ตอนนี้เล่นได้ซะที่ไหน"

"พี่ไม่ชอบฝน มันเปียกๆ ชื้นๆ เหงาๆ ไงไม่รู้" ชายหนุ่มตอบคำถาม มือคนน้ำในแก้ว พลางเงยหน้าสบตาคนเฝ้ารอคำตอบอย่างตั้งใจ มันอยู่นิ่งๆ แบบนี้ก็น่าเอ็นดูดี แต่คงได้ไม่นาน "อีกอย่าง พี่เกลียดเสียงฟ้าผ่า"

เด็กหนุ่มหัวเราะ แปลงคำว่า เกลียด เป็นคำว่า กลัว เรียบร้อย

พอดีกับบะหมี่เกี๊ยวแห้งสองชาม พร้อมน้ำซุปจากอาแปะวางลงบนโต๊ะแบบพับสีแดง จัดแบ่งกันคนละชาม ก่อนจะลงมือปรุงอย่างที่ตนเองชอบ




"ตกทุกวันเลยเนอะพี่"

วันนี้เป็นอีกวันที่ฝนตกตอนเย็นหลังเลิกงาน ร้านสะดวกซื้อคล้ายเป็นที่หลบฝนถาวรของชายหนุ่มไปแล้ว เด็กหนุ่มแวะมาทักทายในขณะที่คนหลบฝนกำลังกดน้ำร้อนใส่แก้วเช่นเดิม วันนี้ไม่ได้หนาวเหมือนวันนั้นเพราะเขาชิ่งจะวิ่งเข้ามาก่อนฝนจะตกหนัก

"อืม น่าเบื่อ"

"เดี๋ยวก็หยุดละมั้ง"

"ก็จะดีมาก เอ้อ อะคืน เสื้อ ซักไว้หลายวันละ"

"เห้ย ไม่ต้องซักก็ได้พี่"

"เห็นบอกว่าเหม็นไง" ชายหนุ่มใช้คำพูดเจ้าของเสื้อบอกกลับ ยกยิ้ม พลางโฆษณาชวนเชื่อ "รับรองสะอาดเอี่ยม หอมสดชื่นแน่นอน"

"อะๆ เชื่อละ"

มือเอื้อมไปรับคืนมา ก่อนจะยกขึ้นชิดจมูก สูดหายใจเข้าไปเต็มปอด หลับตาพริ้ม

"ฮื้อออออ หอมจริงๆ ด้วย"

คนทะเล้นลืมตาขึ้นมายักคิ้วกวนๆ อย่างที่ชอบทำประจำ แล้วผลักประตูห้องพักพนักงานเข้าไป




"พี่ นี่เราเดทกันอยู่ปะ"

"เฮ่ย เดทอะไร"

"นี่งะ" คนพูดมองหน้า

"หือ กินก๋วยเตี๋ยวอาแปะเนี่ยนะ" คนถูกถามมองชามก๋วยเตี๋ยวตรงหน้า มองบรรยากาศรอบๆ ตลาดโต้รุ่งใกล้ร้านสะดวกซื้อที่อีกคนทำงาน ก่อนจะวกกลับมามองหน้าเด็กหนุ่มอย่างเป็นคำถาม

"นี่จีบ?"

"ใช่ดิ๊ อย่าบอกว่าพี่ไม่รู้"

"ทำหน้า ทำเสียงงี้ กับคนที่ตัวเองจีบอะนะ"

"เหยยยย ว่าปายยย" เสียงเริ่มจะกวนกว่าเดิม ไอ้นี่มันน่าโดนเขกกะโหลกจริงๆ ชายหนุ่มคิดอย่างขำๆ "นี่เจ้นท์ละนาาาาาาา"

"เจ้นท์? เช่น?"

"ให้ยืมเสื้อไง ผมเคยเห็นในละครหัวค่ำๆ ที่พี่สาวดู" คนพูดหัวเราะ "นี่ผมเอาเสื้อที่พี่ซักให้ไปนอนกอดเลยนะ"

"เวอร์ว่ะ"

"ฮ่าๆ ล้อเล่น ใครจะทำ โรคจิต ต่อๆ นี่ไง เวลาเอาน้ำ สั่งบะหมี่ ผมก็ทำให้พี่หมดงี้ จำได้ด้วยนะว่าพี่ชอบกินไร โหย สุภาพบุรุษโคตรๆ"

"ไอ้บ๊อง" ชายหนุ่มหลุดขำ "เด็กน้อยเอ้ย"

"ผมว่า มันก็ไม่เด็กละนา" มันยักคิ้วหลิ่วตาประกอบ ข้ามไปอีกเรื่องได้หน้าตาเฉย "พี่อยากดูปะ"

"ทะลึ่งว่ะ"

"ตกลงจีบพี่เนอะ"

"เห้ย ไหงงั้น"

"เอางี้แหละ"

"เอ่อ"

"ช่วงนี้ฤดูฝนอยู่ ผมรู้ว่าพี่กลัวฟ้าผ่า" เด็กหนุ่มเปลี่ยนเรื่อง ตบอกตัวเอง ฉีกยิ้มกว้างขวาง ชายหนุ่มเพิ่งเห็นว่ามันมีลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้างเลยแฮะ พอมาสังเกตชัดๆ "ผมจะปกป้องพี่เอง"

ตรรกะค่อนข้างประหลาด จริงๆ เรียกว่าประหลาดมากด้วยซ้ำ

"แล้วถ้าผ่านฤดูฝน?"

"ผมก็จะปกป้องพี่จากแสงแดด" เด็กหนุ่มทำหน้ามุ่งมั่นอย่างเต็มที่ "พอฤดูหนาวใช่ปะ ผมก็จะปกป้องพี่จากหิมะ" เริ่มเลอะเทอะไปกันใหญ่ นาทีนี้คนที่ตั้งใจฟังตั้งแต่แรกได้แต่ส่ายหัวอย่างปลงตก เด็กนี่มันล้นเกินไปจริงๆ

"เอาฤดูฝนนี้ให้รอดก่อนเหอะ"

"จริงนะ" อีกคนหลุดจากการเพ้อมโนไปเรื่อยของมัน หันมามองคนที่นั่งตรงข้าม ยิ้มกว้างอย่างดีใจ

"จัดไปเพ่"


เออ มันก็ยังเกรียนไม่เลิก



จบเถอะ


End of 'Moment' --- '5.'

ออฟไลน์ ❣☾月亮☽❣

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6773
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +264/-6
 :L2:  น่ารักดีค่ะ

ออฟไลน์ yisren.

  • #คนที่ฉันไม่เคยลืม
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 830
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +47/-4
น่ารักๆ รักท่ามกลางสายฝน5555

ออฟไลน์ ไอ้หัวแห้ว

  • ยิ่งมืดเท่าไหร่ ยิ่งเห็นดวงดาวชัดเจน...
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4479
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +568/-5
6.


ใจง่าย?



"เลดี้เแอนด์เจ..."

เสียงประกาศเรียกขึ้นเครื่องจากสายการบินสีเหลืองเกทไม่ไกลกันนัก ทำให้ผมต้องเงยหน้าจากหนังสือที่อ่านอยู่ พลางมองนาฬิกา ก่อนจะถอนหายใจออกมา

"อีกครึ่งชั่วโมง นานชะมัด"

กว่าจะบอร์ดดิ้งไทม์ที่ผมต้องถูกเรียกขึ้นเครื่องบินก็อีกสักพักใหญ่ ว่าแล้วก็ก้มหน้าอ่านต่อ หางตาเห็นคนเดินมานั่งเยื้องกันฝั่งตรงข้าม แต่ไม่ได้สนใจมากนัก

เก้าอี้นั่งรอหน้าเกทเรียงต่อกันสี่ตัว ผมเลือกนั่งตัวตรงกลางติดกับโต๊ะวางของ

จนรู้สึกถึงสายตาที่มองมาถึงเงยหน้าขึ้นมอง ทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถามส่งไปให้ว่ามีนอะไรรึเปล่า คนนั้นส่ายหน้าแล้วก็ยิ้มให้ ผมจึงก้มอ่านต่อ บางทีเขาอาจไม่ได้มองก็ได้ นี่ก็มโน

อ่านมาจนหลายหน้า อยากพักสายตา ปรากฏว่าพอเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นคนฝั่งนั้นกำลังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ในมืออยู่ เจ้าตัวมีรอยยิ้มน้อยๆ พลางพิมพ์อะไรต๊อกแต๊ก เขาใส่เสื้อเชิ้ตสีเข้มกับกางเกงสแลค สีดำพร้อมเป้อีกหนึ่งใบ คงจะไปทำงานไม่ก็กลับบ้าน

'KKKKKK'

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นคั่นจังหวะ ผมสะดุ้ง เขาก็ตกใจ ก่อนจะกดรับมัน ผมยังคงมองเขาต่ออย่างลืมมารยาท เขาเงยหน้าแนบเครื่องมือสื่อสารลงกับหู เราสบตากันอีกครั้ง

"ครับ"

"ยังอะ" คนพูดพลิกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา "อีก 10 นาทีครับ"

"ไม่แน่ใจ อาจจะเลทอะ"

"แม่ให้พ่อออกมาสักหกโมงสิบนะ"

อ๋อ คุยกับแม่ สรรพนามที่เขาเอ่ยกับปลายสายทำให้รู้ว่าคนทางนี้คุยกับใครอยู่ เขายกยิ้มน้อยๆ อีกครั้ง ผมที่มองอยู่ไม่แน่ใจว่าเขายิ้มกับใคร เออ น่าจะยิ้มกับแม่ แล้วเขาก็วางไป

ผมมองนาฬิกาข้อมือบ้าง เวลาใกล้เข้ามา เลยคิดว่าควรเข้าห้องน้ำให้เสียเรียบร้อยก่อน ก็เลยคว้าข้าวของตัวเองเดินไป ทว่ากลับมาอีกครั้งก็เสียม้า ที่นั่งนั้นมีคุณป้ามานั่งเสียแล้ว

มองไปที่เคาน์เตอร์เรียกผู้โดยสารก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะเรียก กระเป๋าที่ถืออยู่ก็แอบหนัก เลยจำต้องเดินไปนั่งที่ว่างที่เหลืออยู่

ข้างเขา...คนนั้น

"บินไฟลท์ไหนครับ"

ผมหันไปมองคนถามอย่างงงๆ "สี่โมงห้าสิบห้าครับ แล้ว..." ผมถามกลับ ทั้งๆ ที่รู้ว่ายังไงก็ต้องไฟลท์เดียวกัน เพราะถ้าต่อจากนี้คือหกโมงกว่า ใครจะมารอป่านนี้

"เหมือนกันครับ" เขายิ้ม ก่อนจะพูดต่อ "คงเลทแหงๆ นี่เลยเวลาบอร์ดแล้ว" ผมพยักหน้าเห็นด้วย

"เดี๋ยวก็เรียกมั้ง"

"พี่ชื่อโน้ต น้องชื่ออะไรอะ"

"ห๊ะ" ผมตกใจหน่อยๆ ไม่คิดว่าเขาจะคุยต่อ เพราะนี่ก็หันหลังไปดูเคาน์เตอร์รอประกาศ "เอกซ์ครับ"

"ขอไอดีไลน์หน่อย" เห้ย นี่ท่าจะคุยยาว

"เอ่อ"

"คิวอาร์โค้ดก็ได้ เดี๋ยวพี่โน้ตสแกนเอง"

ผมพยักหน้า หยิบมือถือขึ้นมาเปิดโปรแกรมแชทชื่อดังให้พี่โน้ตสแกนเพื่อแอดเฟรนด์


เสียงเรียกจากพนักงานดังขึ้นพอดีที่ผมกดรับเป็นเพื่อน เราจึงต้องหยิบสัมภาระของตัวเองเพื่อไปเข้าแถวเช็กเอกสาร พี่โน้ตให้ผมยืนข้างหน้าแล้วเขาต่อท้าย แต่เราก็ไม่ได้คุยกันอีก

จนขึ้นบนเครื่อง เก็บของ นั่งอยู่กับที่รัดเข็มขัดเรียบร้อย หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาจะปิดเครื่อง ถึงเห็นว่ามีข้อความจากพี่โน้ตเข้ามา




'ขอบคุณนะเอกซ์ พี่โน้ตขอจีบเอกซ์นะครับ'




เห้ย ผมเปล่าใจง่ายนะ แค่เปิดโอกาสให้ตัวเองเฉยๆ ฮ่าๆ





End of "Moment' --- '6.'

ออฟไลน์ cher7343

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1673
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +133/-4
 :mew3:น่ารัก
ขอบคุณค่ะ

ออฟไลน์ Starry[Blue]

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 178
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +6/-0
น่ารักมากกกกกกกค่ะ เขินเลยอ่ะ ชอบตอนฤดูร้อนสุดๆเลยค่ะ

ออฟไลน์ IsDeer

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2519
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-8

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ KKKwanGGG

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1364
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-2
น่ารักทุกตอนครับ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด